Professional Documents
Culture Documents
(Electrochemistry)
ไฟฟ้าเคมี
(Electrochemistry) ่
ไฟฟ้าเคมี เป็ นการศึกษาเกียวกั บปฏิก ิรยิ าเคมีที่
ท าให เ้ กิด กระแสไฟฟ้ า (เช่น เซลล ก์ ลั วานิ ก ) และ
กระแสไฟฟ้ าทาใหเ้ กิดปฏิก ิรยิ าเคมี (เช่น เซลล ์อิเิ ล็าก
หากใช้ ก ารถ่ ายเท e- เป็ นเกณฑ ์แล้วปฏิก ิรย
โทรไลต
เคมี แบ่ง์ เป็
) น 2 ประเภท
่ การถ่ายเท e- เรียกว่า ปฏิก ิรยิ ารีดอกซ ์
1.ปฏิก ิรยิ าทีมี
(Redox Reaction)
่ มก
2.ปฏิก ิรยิ าทีไม่ ี ารถ่ายเท e- เรียกว่า ปฏิก ิรยิ านอนรี
ดอกซ ์ (Nonredox- Reaction)
2
ปฏิก ิรย
ิ ารีดอกซ ์ (ปฏิก ิรย
ิ าออกซิเดช ัน-รีด ักช ัน)
Redox reaction (Oxidation-Reduction reaction.)
6
กฎเกณฑ ์การพิจารณา Ox no.
1. อะตอมของธาตุตา่ งๆ ในสภาวะอิสระ มี Ox no. = 0 ไม่วา่ ธาตุน้ัน
จะอยูใ่ น
รู
ป อะตอมเดี่ ่
ยวหรื
2. ไอออนทีมีอะตอมเดี ่
อหลายอะตอม
ยวจะมี ประจุAg,
Ex. Zn,
Ox no.= Hg, Cl2, H้น2, P4, S8
ของไอออนนั
Ex. Na+, Cl-, Al3+ , S2-
3. ในสารประกอบ โลหะหมู่ IA Ox no. = +1 เสมอ
โลหะหมู่ IIA Ox no. = +2 เสมอ
โลหะหมู่ IIIA Ox no. = +3 เสมอ
O : Ox no. = -2 ยกเว ้น ใน peroxide Ex. H2O2, Na2O2
H : Ox no. = +1 ยกเว ้น ในโลหะไฮไดร ์ Ex. LiH, CaH2
4. ผลรวมทางพีชคณิ ตของ Ox no. ของอะตอมทังหมดในสู ้ ตร
เคมีใดๆ จะมีคา่ = ประจุสาหร ับกลุม ่ ของอะตอมทีเขี ่ ยนแสดงใน
สูตรนั้น
่
Note: ไอออนทีควรจ า SO42- , CN- , CO32- , NO3- ่ Ox no.
ไอออนทีมี 7
หลักในการพิจารณาเลขออกซิเดช ันของธาตุ
ในสารประกอบ ี่ กจะมีเลข
มักจะระบุเลขออกซิเดชันของธาตุทมั
ออกซิเดชันทีแน่่ นอนก่อน เช่น โลหะหมู่ IA, IIA, IIIA, O และ H
จากนั้นจึงค่อยคิดเลขออกซิเดชันของธาตุอนๆ ื่ ต่อไป โดย
คานวณจาก ผลรวมทางพีชคณิ ตของเลขออกซิเดชันจะมีค่า
ตั
เท่วาอย่ ของสารนั้น ตามกฏข
กับาประจุ
งการหาเลขออกซิ เดช ้อสุ
ันของธาตุ
ดท ้าย
Na3PO4 3Na + P + 4O = 0
Mn2O7 2Mn + 7O = 0
3(1) + P + 4(-2) = 0
2Mn + 7(-2) = 0
3+P–8 = 0
2Mn = 14
P = +5 #
Mn = +7 #
8
ี่ ดเส้นใต้
จงหาเลขออกซิเดช ันของธาตุทขี
2) MnO2 0 O=-2 +4
3) KMnO4 0 K = +1, O = -2 +7
4) ClO4 -1 0 O=-2 +7
5) Cr2O7 -2 -2 O=-2 +6
การระบุเลขออกซิเดช ันของธาตุในสารประกอบหรือ
ไอออน
ั ้ 1 อะตอม
จะต้องระบุเลขออกซิเดช ันต่อธาตุนน 9
การพิจารณาว่าเป็ นปฏิก ิรย
ิ ารีดอกซ ์หรือไม่
ปฏิก ิรย
ิ ารีดอกซ ์ เป็ นปฏิก ิรย ่
ิ าทีสารในปฏิ รย
ิ ามีการ
่
เปลียนแปลงเลขออกซิ เดช ัน
เลขออกซิเดชัน 0 +1
+2
Redox Cu (s) +0 2 Ag+(aq) Cu2+(aq) + 2 Ag (s)
เลขออกซิเดชัน +1 -1 +1 -2 +1
+1 -1
Non-redox +1-2+ NaOH (aq) NaCl (aq) + H O
HCl (aq) 2
(l)
การดุลสมการรี
ดอกซ ์ ้ สารตังต้น ผลิตภัณฑ ์
้ านวนอะตอม ซ ้าย = ขวา
• ดุลทังจ
่ ้ (ใน oxidation) = อิเล็กตรอนทีร่ ับ
• ดุลจานวนอิเล็กตรอนทีให
(ใน Reduction)
• ดุลจานวนประจุไฟฟ้ า ซ ้าย = ขวา
การดุลสมการรีดอกซ ์มี 2 วิธ ี
1. การดุลสมการรีดอกซ ์โดยวิธก ่ Ox no.
ี ารเปลียน
2. การดุลสมการรีดอกซ ์โดยวิธ ี
่ ก ิรยิ า
ครึงปฏิ
11
การดุลสมการรีดอกซ ์โดยวิธก
ี าร
เปลี ่ ้ Ox no.
ยน
• ดุลทังจานวนอะตอม
• ดุลจานวนประจุไฟฟ้ า : ทาให ้ e- ทีถ่ ่ ายเทใน Oxidation = ใน
Reduction
1. ตรวจสอบ Ox no. ของธาตุทุกตัวในปฏิก ิรยิ า
2. ดุลธาตุทมี ี่ Ox no. เปลียนไป
่
3. พิจารณาว่า ตัวรีดวิ ซ ์ให ้ e- ?, ตัวออกซิไดส ์ร ับ e- ?
4. ทาจานวน e- ทีให ่ ้และร ับ ให ้เท่ากัน โดยคูณด ้วย
สัมประสิทธิ ์
5. ตรวจสอบประจุไฟฟ้ าทังสองฝั้ ่ ง ถ ้าไม่เท่ากัน ให ้
- เติมสัมประสิทธิหน้์ า H+ กรณี สารละลายกรด
- เติมสัมประสิทธิหน้ ์ า OH- กรณี สารละลายเบส
6. ดุลจานวน O และ H ให ้เท่ากัน โดยการเติม
สัมประสิทธิหน้์ า H2O 12
้
EX. Cr2O72-+ H2S Cr3+ + S ( in acid solution) ่ Ox No
โดยวิธเี ปลียน
้
ขันตอน วิธท
ี า
1. ตรวจสอบ Ox no. ของธาตุในสารทุกตัว +6 -2 +1-2 +3 0
Cr2O72- + H2S Cr3+ + S
ี่ Ox no. ทีเปลี
2. ดุลธาตุทมี ่ ยนไปก่
่ อน +6 -2 +1-2 +3 0
Cr2O72- + H2S 2 Cr3+ + S
3. พิจารณาว่าตัวรีดวิ ซ ์ให ้ e- กีตั ่ ว และตัวออก
ซิไดส ์ร ับ e- กี่ ร ับ e-
ให้ e -
=(2 อะตอม)x3=6
ตัว (ข้อสังเกตุCr 1 อะตอม Ox.No. ลดลง =2
3 หน่ วย ถ้า Cr 2 อะตอม Ox.No. ลดลง 6 3=6
หน่ วย = ร ับ e- 6 ตัว)
4. ทาจานวน e- ทีให ่ ้และร ับให ้เท่ากัน โดยการ +6 -2 +3
คูณด ้วยสัมประสิทธิ ์ 0
Cr2O72- + 3 H2S 2 Cr3+ + 3 S
5. ตรวจสอบจานวนประจุไฟฟ้ าของสารทัง้ 2 -2 + 3(0) ≠ 2(+3) + 3(0)
ฝั่ง Cr2O72- + 3H2S + 8H+ 2 Cr3+ + 3S
ถ ้าไม่เท่ากัน ให ้ดุลจานวนประจุโดยการ -2 + 3(0) + 8 = 2(+3) +
- เติม H+ (ในสารละลายกรด) 3(0)
6. ให ้ตรวจสอบจานวนอะตอมของ O และ H Cr2O72- + 3H2S + 8H+ 2 Cr3+ + 3S
13
และ O = 7, H = 14 O= 0 , H = 0
ตัวอย่างการดุลสมการรี
ดอกซ ์
14
15
EX. KMnO4+ KNO2 + H2SO4 MnSO4 + H2O + KNO3 + K2SO4
16
17
การดุลสมการรีดอกซ ์โดยวิธค ่
ี รึงปฏิ
ก ิ รย
ิ า
1. ตรวจสอบเลขออกซิเดช ันของธาตุในสารทุกตัวในปฏิก ิรยิ า
พิจารณาว่า
สารใดเป็ นตัวรีดวิ ซ ์ (Ox. No เพิม) ่ และ สารใดเป็ นตัวออกซิไดส ์
(Ox. No ลด)
่ ก ิรยิ าออกซิเดชันและครึงปฏิ
2. แยกครึงปฏิ ่ ก ิรยิ ารีดกั ชัน โดยให ้ระบุถงึ
้ ้นและผลิตภัณฑ ์
สารตังต
่ ก ิรยิ า ตามขันตอนนี
3. ดุลแต่ละครึงปฏิ ้ ้
- ดุลธาตุทมีี่ การเปลียนแปลงเลขออกซิ
่ เดชัน
- เติมอิเล็กตรอนเข ้าไปในด ้านทีมี ่ เลขออกซิเดชันสูงกว่า ให ้มี
จานวนเท่ากับ
เลขออกซิเดชันทีเปลี ่ ยนแปลง
่
- ดุลจานวนประจุไฟฟ้ าโดยการเติม H+ ในกรณี ทปฏิ ี่ ก ิริยาเกิด
ในสารละลายกรด
และเติม OH- ในกรณี ทปฏิ ี่ ก ิรยิ าเกิดในสารละลายเบส 18
้
19
่
การดุลสมการรีดอกซ ์แบบครึงปฏิ
ก ิ รย
ิ า
20
21
22
23
ลล ์ไฟฟ้าเคมี แบ่งออกเป็ น 2 ประเภทคือ
1.เซลล ์กัลวานิ ก 2. เซลล ์อิเล็กโทรไลต ์
(galvanic cell) หรือเซลล ์ (electrolytic cell);
โวลตาอิก (voltaic cell) ; กระแสไฟฟ้ าทาให ้
ี่ าให ้เกิด
ปฏิก ิรยิ าเคมีทท เกิดปฏิก ิรยิ าเคมี
กระแสไฟฟ้ า
Oxidation Reduction
Anode Cathode
้
ขัวบวก ้
ขัวลบ
1.เซลล ์กัลวานิ ก ( Galvanic cell)
่
คลิกทีภาพ
้
ขัวไฟฟ ้ า (Electrode) 2 ขัว้ ทาหน้าที่ เป็ น ทางเดินของ e-
้ เกิ
ขัวที ่ ดปฏิก ิรยิ าออกซิเดชัน (Anode) = ขัว้ – , ขัวที
้ ่
เกิดปฏิก ิรยิ ารีดกั ชัน (Cathode) = ขัว้ +
สารละลาย Electrolyte ทาหน้าที่ แหล่งไอออน + และ
่
สะพานเกลือ (Salt bridge) คือ ตัวเชือม
วงจรภายในของแต่ละครึงเซลล ่ ์ให ้ครบวงจร ทาให ้
่
ไอออนในแต่ละครึงเซลล ์สามารถไหลผ่านสะพาน
้ ้ และมีหน้าทีร่ ักษาสมดุลของไอออนของ
ไอออนนี ได
สารละลายอิเล็กโทรไลต ์ในแต่ละครึงเซลล ่ ่ าให ้
์ เพือท
ประจุในแต่
สมบัตข ิ องสารที่ ใช้
่ ท์สมดุ
ละครึงเซลล าเป็ลนสะพานไอออน
กัน
่
1. เป็ นสารประกอบไอออนิ กทีสามารถแตกตั ้
วละลายนาได ้ดี มี
ปริมาณไอออนมาก
2. ไอออนต ้องไม่ทาทาปฏิก ิรยิ าเคมีใดๆ กับสารละลายของแต่ละ
่
ครึงเซลล ์
3. ไอออนบวกและไอออนลบทีแตกตั ่ วออกมาต ้องมีความสามารถ
่
ในการเคลือนที ่
ใกล ้เคียงกัน
่ ้ทาสะพานไอออน ได ้แก่ KNO3 , KCl, NH4 Cl
4. สารทีใช
่
แผนภาพเซลล ์ไฟฟ้าเคมี
่ ดขึนเป็
หากปฏิก ิรยิ ารีดอกซ ์ทีเกิ ้ น A(s) + B+(aq)
แผนภาพเซลล ์ไฟฟ้ าเคมี A(s) | A+(aq)
่
ครึงเซลล ์ออกซิเดช ัน ่
ครึงเซลล ร์ ด
ี ก
ั ช ัน
Zn เป็ นตัวรีดวิ ซ ์
Cu2+ เป็ นตัว
ออกซิไดซ ์
28
่
ศ ักย ์ไฟฟ้าครึงเซลล ์มาตรฐาน (Standard Half Cell
Potential)
่
ศักย ์มาตรฐานของครึงเซลล ์ไฮโดรเจน
อิเล็กโทรดมาตรฐานเท่ากับ 0.00 V และใช ้
่
สัญลักษณ์ E แทนค่าศักย ์ไฟฟ้ าทีสภาวะ
มาตราฐาน 30
่
ศ ักย ์ไฟฟ้าครึงเซลล ์มาตรฐาน
่ ้องการทราบค่าศักย ์ไฟฟ้ าของอิเล็กโทรดอืน
เมือต ่ ภายใต้สภาวะ
เช่น Cu/Cu2+ หรือ Zn/Zn2+ ก็นาอิเล็กโทรด มาตรฐาน
เหล่านั้นมาจับคูก ่ บั อิเล็กโทรดไฮโดรเจนและวัด อุณหภูมิ : 25 C หรือ
่
แรงเคลือนไฟฟ้ ่
าของเซลล ์ ซึงแรงเคลือนไฟฟ้ าที่ 298 K
่ ้องการ Gas: ความดัน 1 atm
วัดได ้จะเป็ นศักย ์ไฟฟ้ าของอิเล็กโทรดทีต
้ เพราะศั
้ Solution: ความเข ้มข ้น
ทราบ ทังนี กย ์ไฟฟ้ าของไฮโดรเจน
1 โมลาร ์
อิเล็กโทรดมาตรฐานเท่ากับ 0.00 V
32
ECu = 0.34V – 0.00V = 0.34V
่ อเซลล ์กัลวานิ ก ระหว่างครึง่
เมือต่
เซลล ์ SHE และ Zn ดังรูป จาก
โวลต ์มิเตอร ์ได ้ค่าศักย ์ไฟฟ้ า
มาตรฐานของเซลล ์เท่ากับ 0.76
V พบว่า Zn มีความสามารถให้
อิเล็กตรอนได ้ดีกว่า แก๊ส
ไฮโดรเจน ้ งนี ้
โดยมีปฏิก ิรยิ าเกิดขึนดั
่
ปฏิก ิรยิ าออกซิเดชันทีแอโนด (Zn) Zn(s) Zn2+ (aq) + 2 e-
่
ปฏิก ิรยิ ารีดกั ชันทีแคโนด (SHE) 2 H+ (aq)+ 2 e-H2 (g)
โดยที่ E°Cell = E°คาโทด - E°อาโนด
ดังนั้น Ecell = ESHE - EZn
0.76 = 0.00V–EZn
่
โดยทัวไปเมื ่
อกล่าวถึง E° หากไม่มก
ี ารระบุวา่ เป็ น
E°reduction หรือ E°oxidation ให ้ถือว่าเป็ น
35
ประโยชน์ของค่า E°reduction
1. ใช ้เปรียบเทียบความสามารถในการเป็ นตัวรีดวิ ซ ์และตัว
ออกซิไดซ ์
่ ้ e- ได ้ดี E° ต่า , สารทีร่ ับ e- ได ้ดี E° สูง
สารทีให
36
ประโยชน์ของค่า E°reduction
่
2. ใช้คานวณค่าศ ักย ์ไฟฟ้าของเซลล ์และครึงเซลล ์
อาศัยหลัก E°Cell = E°คาโนด - E°อาโนด
้
= E°ขัวบวก ้
- E°ขัวลบ
= E°สูง - E°ต่า
ประโยชน์ของค่า E°Cell
E°Cell > 0 ปฏิก ิรยิ าเกิดได ้
E°Cell < 0 ปฏิก ิรยิ าเกิดไม่ได ้ (เกิดในทิศตรงข ้าม)
E°Cell = 0 ปฏิก ิรยิ าเกิดไม่ได ้แน่ นอน
37
่
ตวั อย่างการคานวณศ ักย ์ไฟฟ้าของครึงเซลล ์
EX. ่ าครึงเซลล
เมือน ่ ่
์ของ Ag | Ag+ ต่อกับครึงเซลล ์ของ Pt | H2 | H+
พบว่าเข็มของโวลต ์มิเตอร ์เบนหาขัว้ Ag และอ่านค่าได ้ 0.80 Volt ให ้หาค่า
E° ของ Ag+ + e- Ag
วิธท
ี า ่ มโวลต ์เบนเข ้าหาขัว้ Ag
จากการทีเข็
แสดงว่า Ag | Ag+ ร ับ e-
Pt | H2 | H+ ให ้ e-
จาก E°Cell = E°คาโทด - E°อาโนด
0.80 = Eo Ag - Eo H2
0.80 = Eo Ag –0
ดังนั้น Eo Ag = 0.80 Volt
นั่นหมายความว่า Ag+ + e- Ag E° = 0.80 Volt 38
่
ศ ักย ์ไฟฟ้าครึงเซลล ์มาตรฐาน (Standard Half Cell
ตัPotential)
วอย่าง 2Ag+(aq) + Mg(s) 2Ag(s) + Mg2+(aq)
Eocell = EoCathode – Eo anode
้ ดขึน้
= +0.80V – (-2.37 V) = +3.17 V ปฏิก ิรยิ านี เกิ
ได ้เอง
ตวั อย่าง Fe2+(aq) + Ni(s) Fe(s) + Ni2+(aq)
Eocell = EoCathode – Eo anode
= -0.45 V – (-0.26 V) = -0.19 V
้ ดขึนเองไม่
ปฏิก ิรยิ านี เกิ ้ ได ้ ดังนั้นปฏิก ิรยิ าทีเกิ
่ ดขึนได
้ ้เองคือ
39
่
จงตอบคาถามเกียวกับสมการรี ดอกซ ์
ข้างล่างนี ้
1. กาหนดให ้ Ag+ + e- Ag E =
0.80 V
Fe3+ + e- Fe2+ E = 0.77 V
Ni2+ + 2e- Ni E = -0.26 V
Fe2+ + 2e- Fe E = -0.45 V
Zn2+ + 2e- Zn E = -0.76 V
3+ + 3e- Cr
Cr
1.1สารใดเป็ นตัว+ออกซิไดซ ์ได ้ดี
ท สุ
ี ่ ด E = -0.74 V
- Na
Na
(จากค่า E ของครึงเซลล+่ e ์ Ag+ /Ag มีคEา่ มากที ่ ดVแสดงว่า Ag+ สามารถร ับ
= -2.71
สุ
ี่ ด)
e- ได ้ดีทสุ
่
1.2 จงหาค่า Eocell ของสองครึงเซลล ์ Ni2+/Ni และ Na+/Na
(+2.47)
้
1.3. ปฏิก ิรยิ า 2Ag+ (aq) + Zn(s)2Ag(s)+ Zn2+ (aq) จะเกิดขึนเองได ้
หรือไม่ 40
2.เปอร ์แมงกาเนตไอออนถูกรีดวิ ซ ์ด ้วยโบรไมด ์(1M) ได ้หรือไม่ ถ ้าก
MnO4- + 8H + e - Mn2+ + 4H2O E° = +1.51 V
และมีสมการรีดอกซ ์คือ
ปฏิก ิรยิ ารีดก ่
ั ช ันทีแคโทด
2MnO4- + 16H + 10e - 2Mn2+ + 8H2O
E° = +1.51 V
่
ปฏิก ิรยิ าออกซิเดช ันทีแอโนด
10Br- 5Br2 + 10e- E°
= -1.09 V
____________________________________________________________
____
่
ปฏิก ิรยิ าออกซิเดชันทีแอโนด 3Ni + 6OH- 3Ni(OH)2 + 6e - E =
+0.72 V
____________________________________________________________________
ปฏิก ิรยิ ารีดอกซ ์ 2CrO42-+ 8H2O + 3Ni - 2Cr(OH)3 + 3Ni(OH)2 +4OH- E cell=43
+0.60 V
เซลล ์ก ัลวานิ ก
เซลล ์กัลวานิ กแบ่งออกได้เป็ น 2 ชนิ ด ใน
แง่ การใช้งาน
45
2. เซลล ์กัลวานิ กแบบทุตย
ิ ภู ม ิ
Ex. เซลล ์สะสมไฟฟ้ าแบบตะกัว่ หรือ แบตตารี (Lead storage
battery)
Anode (-) = Pb
Cathode (+) = PbO2
Electrolyte = H2SO4 เจือจาง
Redox การจ่ายไฟ
Pb (s) + PbO2 (s) + 2HSO4- + 2H+ 2PbSO4 (s) + 2H2O
1. Ecell = 2.0 V ดังนั้น 1 Battary ใช ้ 6 เซลล ์ต่อกัน = 12 V
้ นกลับได ้
2. สามารถอัดไฟได ้ใหม่เพราะปฏิก ิรยิ านี ผั
การอ ัดไฟ 2PbSO4 (s) + 2H2O Pb (s) + PbO2 (s) + 2HSO4 - + 2H+46
อิเล็กโตรไลซิส (Electrolysis)
้
ปฏิก ิรยิ านี จะไม่ ้
เกิดขึนเอง (E°Cell < 0) แต่ถ ้าป้ อน
ศักย ์ไฟฟ้ าเข ้าไป > 2.18 V
้
พบว่า ปฏิก ิรยิ านี จะเกิ
ดได ้
Q = It
= 2 A x 3600 s = 7,200 C
่ วลบ
ปฏิก ิรยิ าทีขั ้ (แคโทด) Ag+ (aq) + e- Ag(s) แสดง
่ วแคโทดมี
ว่าทีขั ้ ร ับอิเล็กตรอน 1 โมล
่
ปริมาณไฟฟ้ า 1 F คือปริมาณไฟฟ้ าทีจะต ้องผ่านเข ้าไปในเซลล ์อิ
่ ้อิเล็กตรอน 1 โมลทาปฏิก ิรยิ าออกซิเดชัน-
เล็กโทรไลต ์ เพือให
รีดกั ชัน
วิธท
ี า หาปริมาณไฟฟ้ าเป็ นคูลอมป์ ทีท ่ าให ้เกิด Cu 15.885 กร ัม
่ วแคโทดมี
ปฏิก ิรยิ าทีขั ้ การร ับอิเล็กตรอน 2 โมล แสดงว่ามีการใช ้ปริมาณไฟฟ้ า
2F
Cu2+ + 2e- Cu(s)
54
Example 2(ต่อ)
่
เมือแยก Cu(s) 63.546 กร ัม (1 โมล) จะต ้องใช ้ปริมาณไฟฟ้ า 192,974 C
หาเวลาจากสูตร Q=I t
55
ประโยชน์ของเซลล ์อิเล็กโทรไลต ์
หลักการของเซลล ์อิเล็กโทรไลต ์ สามารถนาไป
ประยุ
ก ต ์ใช ้งานได ้ดั
ง นี ้
1.การชุบโลหะด ้วยไฟฟ้ า
2.การทาโลหะให ้บริสท ุ ธิ ์
1. การชุ
่ บโลหะด้วยไฟฟ้า (Electroplating)
หลักการทัวไปสาหร ับการชุบโลหะด ้วยไฟฟ้ า
่ บเป็ นแคโทด
1.ใช ้โลหะทีจะชุ
2.จะชุบด ้วยโลหะใดใช ้โลหะนั้นเป็ นแอโนด
่ นแอโนด
3.สารละลายอิเล็กโทรไลต ์ ต ้องมีไอออนของโลหะทีเป็
์
4.ใช ้ไฟฟ้ ากระแสตรง และควบคุมศักดิไฟฟ้ าของเซลล ์ให ้
เหมาะสม 56
1. การชุบโลหะด้วยไฟฟ้า (Electroplating)
Ex. การเคลือบเงินบนช้อนสังกะสี
่
Anode (+) = โลหะทีจะใช ้เคลือบ (Ag)
่ กเคลือบ (ช ้อน
Cathode (-) = โลหะทีถู
สังกะสี)
Electrolyte ไอออนของโลหะทีจะใช่ ้เคลือบ
ขั ้
วบวก
(Ag+) Anode Oxidation
Ag (s) Ag+(aq) + e-
้
ขัวลบ CathodeReduction
Ag+ (aq)+ e- Ag (s)
่ วยใน
สามารถใช ้กฏฟาราเดย ์เพือช่
การควบคุม
ปริมาณของสารเคลือบได ้
57
2. การทาโลหะให้บริสุทธิ ์
การทาโลหะให ้บริสท ุ ธิด์ ้วยกระบวนการอิเล็กโทรลิ
ซิส ใช ้หลักการเดียวกับกับการชุบด ้วยไฟฟ้ า โดยใช ้
่ สท
โลหะทีบริ ์ นแคโทด โลหะทีไม่
ุ ธิเป็ ่ บริสท ์ นแอโนด
ุ ธิเป็
และใช ้สารละลายทีมี ่ ไอออนของโลหะดังกล่าวเป็ นอิเล็ ก
โทรไลต ์ เช่นการทาทองแดงให ้บริสท ุ ธิ ์
่
โดยทัวๆไปจะได ่
้ทองแดงจากการถลุงแร่ ซึงจะมี
ความบริสท ุ ธิ ์ ไม่ เกิน 99% ทีเหลื
่ อจะเป็ นพวกสิงเจื
่ อปน
ต่าง ๆ เช่น Fe Ag Au Pt และ Zn ถ ้าใช ้
กระบวนการอิเล็กโทรลิซสิ เข ้าช่วย จะได ้ทองแดงทีมี ่ ความ
ุ ธิถึ์ ง 99.95% ในอุตสาหกรรมจะสร ้างเซลล ์ดังนี ้
บริสท
58
การทาโลหะทองแดงให้
บริสุ ท ธิ ์ ่ ้องการทาให ้
Anode (+) = Cu ทีต
โลหะ Cu + Trace of Fe, Zn
ุ ธิ ์
บริสท
ุ ธิ ์
Cathode (-) = Cu บริสท
Electrolyte
้
ขัวบวก
= CuSO4
Anode Oxidation
Cu Cu2+ + 2e- EoOx= -(+0.34) V
Fe Fe2+ + 2e- EoOx= -(-0.44) V
Zn Zn2+ + 2e- EoOx= -(-0.76) V
้
ขัวลบ Cathode Reduction
Cu2+ + 2e- Cu EoRed= (+0.34) V
Fe2+ + 2e- Fe EoRed= (-0.44) V
Zn2+ + 2e- Zn Eo Red= (-0.76) V
59
การแยกธาตุออกจากสารประกอบ
Ex. การเตรียมโลหะโซเดียม จากเกลือ
้
ขัวลบ Cathode Reduction Na+(l) + e- Na (l) Na (s)
้
ขัวบวก Anode Oxidation 2Cl-(l) Cl2(g) + 2e-
รวม 2Na+(l) + 2Cl-(l) Cl2(g) +2Na (l) 2Na (s)
Down cell
Anode : แกรไฟต ์
Cathode : Fe
ทรงกระบอก
Electrolyte : NaCl (l)
60
การบ้าน.
1. จงดุลสมการรีดอกซ ์ต่อไปนี ้
1.1 ) Cu (s) + Ag+ (aq) Cu2++ (aq) + Ag (s)
1.2) Cd (s) + H+ + NO3- Cd2+ (aq) + NO (g) + H2O
1.3) Cr2O72- + H+ + H2C2O4 Cr3+ + H2O + CO2
1.4) Cr2O72- + H2S Cr3+ + S ( in acid solution)
่ าหนดให้ จงตอบคาถามต่อไปนี ้
2. จากสารทีก
Li Li+ Cd Cd2+ Cu Cu2+ Ag Ag+
่ ทสุ
2.1) สารใดเป็ นตัวรีดวิ ซ ์ทีดี ี่ ด
่ ทสุ
2.2) สารใดเป็ นตัวออกซิไดส ์ทีดี ี่ ด
่ ดปฏิก ิรยิ าเมือน
2.3) . โลหะใดบ ้างทีเกิ ่ ามาจุม
่ ใน
่ Cd2+
สารละลายทีมี
61
การบ้าน(ต่อ)
้ ้เอง
4. ปฏิก ิรยิ า 2Ag + Zn2+ 2Ag+ + Zn เกิดขึนได
หรือไม่
่ ้างจากครึงเซลล
5. จงเขียนปฏิก ิรยิ ารีดอกซ ์ทีสร ่ ์ที่
กาหนดให ้
62
แบบทดสอบ
่
1. กาหนดศักย ์ไฟฟ้ าของครึงเซล Cu|Cu2+=0.34 V. และ
Zn|Zn2+=-0.76 V. เซลล ์กัลวานิ ก ทีเกิ ่ ดจากครึงเซลล
่ ้
์ทังสองนี ้
ข ้อสรุปข ้อใดผิด
้
1) E0cell = E0 ทองแดง - E0 สังกะสี 2) ขัวแอโนดคื ้ งกะสี
อขัวสั
3) ตัวออกซิไดซ ์คือ Cu2+ 4) ตัวรีดวิ ซ ์คือ Zn
ข ้อใดกล่
2.5) ้ า วผิ
ด เกี
้ ่
ยวกั บเซลล ์อิเล็กโทรไลต ์
ขัวแอโนดคือขัวทองแดง
1) คือ กระบวนการเกิดปฏิก ิรยิ าทางเคมี โดยอาศัยพลังงาน
ไฟฟ้ าจากภายนอก
2) ขัว้ + ของเซลล ์เป็ นขัวที้ ต่
่ อกับขัว้ + ของแบตเตอรี่ และเป็ น
้
ขัวแคโทด
้
3) ขัวแคโทดเป็ นขัวที้ เกิ
่ ดปฏิก ิรยิ ารีดก
ั ชัน
้
4) ต ้องการชุบแหวนเงินให ้เป็ นแหวนทอง ขัวแคโทดจะเป็ น
แหวนเงิน 63
3. จากข ้อมูล Zn(s) / Zn2+ (aq.) // Ag+ (aq) / Ag(s)
้ ถูกต้อง
ข ้อใดต่อไปนี ไม่
1) Zn คือ ตัวรีดวิ ซ ์
2) Ag+ คือ ตัวออกซิไดซ ์
3) Ag มีเลขออกซิเดชันลดลง
4) ทิศทางการไหลของอิเล็กตรอนไหลจาก Zn(s) ไปยัง Ag(s)
5) ไม่มขี ้อใดกล่าวผิด