Professional Documents
Culture Documents
ปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี 1
***************************************************************************************
ปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี (Electrochemistry) เป็ นเรื่องราวที่ว่าด้ วยการใช้ พลังงานทำให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี และว่าด้ วยการเปลี่ยนแปลง
ทางเคมีแล้ วทำให้ เกิดพลังงานไฟฟ้า กระบวนการที่เกิดขึ ้นดังกล่าวเป็ นสิ่งที่เกิดขึ ้นตรงข้ ามกัน แต่อาศัยพื ้นฐานในหลักการอันเดียวกัน ปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้ องกับไฟฟ้า
เคมี เรียกว่า ปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี
ปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี (Electrochemical reaction) เป็ นปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวกับการถ่ายโอนอิเล็กตรอน โดยเปลี่ยนแปลงพลังงานเคมีเป็ น
พลังงานไฟฟ้า แล้ วทำให้ เกิดกระแสไฟฟ้า เช่น การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ ้นในเซลล์ถ่ายไฟฉาย แบตเตอรรี่รถยนต์ นอกจากนั ้นยังสามารถเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้ เป็ น
พลังงานเคมี คือ ผ่านกระแสไฟฟ้าลงไปในสารต่าง ๆ แล้ ว ทำให้ เกิดปฏิกิริยาเคมี เช่น การชุบโลหะด้ วยไฟฟ้า การแยกน้ำด้ วยไฟฟ้า ปฏิกิริยาเคมีที่มีการถ่ายโอน
อิเล็กตรอน เรียกว่า ปฏิกิริยารี ดอกซ์ (Redox reaction)
16.1.1 ความหมายและการหาเลขออกซิเดชัน
H O H
ON = +1 ON = +1
ON = -2
ผลรวมของเลขออกซิเดชันทุกอะตอมของธาตุในสารประกอบ =0
ผลรวมของเลขออกซิเดชันทุกอะตอมของธาตุในไอออน = ประจุของไอออน
TiO2+ X + (-2) = +2
X = +4
MnO42- X + 4(-2) = -2
X = +6
2-
CrO 4 X + 4(-2) = -2
X = +6
ZnO22- X + 2(-2) = -2
X = +2
แบบทดสอบที่ 16.1
1. จงหาเลขออกซิเดชันของเหล็กในสารประกอบต่อไปนี ้
1.1K2FeO4
1.2K4Fe(CN)6
1.3FeF63-
1.4Fe(CO)42-
1.5Fe(H2O)62+
1.6Fe(CO)5
1.7FeO43-
1.8Ba2FeO4
2. จงหาเลขออกซิเดชันของธาตุในสารประกอบดังนี ้
2.1 P ใน PCl3 , P4O6 , HPO3 , POCl3 , H3PO3 , POCl3 , H4P2O7 , Mg3(PO4)2
2.2 Cl ใน Cl2 , HCl , HClO , HClO2 , HClO3 , Cl2O7 , Ca(ClO4)2 , NaClO3
2.3 Mn ใน MnO , MnO2 , Mn(OH)2 , KMnO4 , Mn2O7
3. จงหาเลขออกซิเดชันของธาตุในไอออนดังนี ้
3.1 Cr ใน CrO2- , Cr(OH)4- , CrO42- , Cr2O72-
3.2 B ใน BO2- , BO33- , B4O72-
3.3 N ใน N3- , N3- , NH4+
3.4 Br ใน Br- , BrO- , BrO3- , BrO4-
เฉลยแบบทดสอบที่ 16.1
1
ข้ อ
1.1 +6 1.2 +2 1.3 +3 1.4 -2
1.5 +2 1.6 0 1.7 +5 1.8 +4
ข้ อ 2
ข้ อ 2.1 +3 +3 +5 +5 +3 +5 +5 +5
ข้ อ 2.2 0 -1 +1 +3 +5 +7 +7 +5
ข้ อ 2.3+2 +4 +2 +7 +7
ข้ อ 3
ข้ อ 3.1 +3 +3 +6 +6
ข้ อ 3.2 +3 +3 +3
ข้ อ 3.3 -3 -1/3 -3
ข้ อ 3.4 -1 +1 +5 +7
16.1.2 ปฏิกิริยาระหว่างโลหะกับสารละลายบางชนิด
การทดลองปฏิกิริยาระหว่างโลหะกับไอออนของโลหะบางชนิด
การทดลองที่ Zn ลงในสารละลาย CuSO4 (สีฟ้า)
1 จุ่มแผ่น สักครูหนึง่ จะเกิดสารสีน้ำตาลแดงมาเกาะรอบแผ่น Zn และจะพบว่า
สารละลายสีฟ้าจางลง ส่วนแผ่น Zn สึกร่ อนไป
จากการทดลองที่ 1 ( )
สรุปได้ ว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีขึ ้น โดยมีการถ่ายโอนอิเล็กตรอน มีการให้ และรับอิเล็กตรอน ระหว่างโลหะ Zn กับ
2+
ไอออนของโลหะ คือ Cu ในปฏิกิริยา
การทดลองเพิ่มเติม ถ้ าจุ่มแผ่น Cu ลงในสารละลาย ZnSO4 จะไม่พบการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ ้น แสดงว่าไม่เกิดปฏิกิริยา นัน่ คือ ไม่มีการถ่าย
โอนอิเล็กตรอนเกิดขึ ้น
การทดลองที่ 2 จุ่มแผ่น Cu ลงในสารละลาย AgNO3 ซึง่ ไม่มีสี สักครู่หนึง่ จะพบว่ามีสารเข้ ามาเกาะแผ่น Cu และสารละลายมีสีฟ้าเกิดขึ ้น ส่วนแผ่น
Cu สึกกร่ อน
อธิบาย AgNO3 ไม่มีสี เมื่อทำการทดลองดังกล่าวจะเกิดสารสีฟ้า คือ Cu2+ ขึ ้นในสารละลาย และ ชัน้ Cu สึกกร่อนแสดง
ในสารละลาย
+ 2+ +
ว่า ให้ อิเล็กตรอนแก่ Ag กลายเป็ น Cu ส่วน Ag รับอิเล็กตรอนแล้ วเกิด Ag ดังสมการของปฏิกิริยาดังนี ้
( )
เมื่อทำการทดลองเพิ่มเติม แล้ วนำมาเขียนเป็ นตารางโดยจัดเรี ยงลำดับความสามารถในการรับ ชิง อิเล็กตรอนของไอออนของโลหะต่าง ๆ และการให้
อิเล็กตรอนของโลหะต่าง ๆ ได้ ดงั นี ้
ข . .
จากข้ อ ก สามารถนำมาสรุ ปในทำนองเดียวกัน โดยจัดเรียงลำดับความสามารถในการให้ อิเล็กตรอนของโลหะจากมากไปน้ อยดังนี ้
.
ค ถ้ าจุ่มโลหะ A ลงในสารละลายที่มี C2+ จะพบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ ้นเพราะ C2+ ไม่สามารถไปรับอิเล็กตรอนของ A ได้
2+
เนื่องจาก A รับอิเล็กตรอนดีกว่า C2+
แบบทดสอบที่ 16.2
1.โลหะ M
จุ่มในสารละลายคอปเปอร์ (II)
ซัลเฟต เกิดสารสีน้ำตาลแดงเกาะที่โลหะ M สารละลายจะมีสีฟ้าจางลง และถ้ าจุ่มโลหะ M ลงใน
สารละลายซิงค์ซลั เฟต จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง
จากข้ อมูลที่กำหนดให้ ข้างต้ นจงตอบคำถามต่อไปนี ้
.
ก จงเรี ยงลำดับความสามารถในการรับอิเล็กตรอนของสารจากมากไปน้ อย
ข. จงเรียงลำดับความสามารถในการให้ อิเล็กตรอนของสารจากมากไปน้ อย
ค. สมการของปฏิกิริยา Cu2+ (aq) + Zn (s) Cu (s) + Zn2+ (aq) เกิดขึ ้นหรื อไม่ อธิบาย
เฉลยแบบทดสอบที่ 16.2
ข้ อ 1 แนวคิด
.
ก จากการวิเคราะห์การทดลอง จะได้ ว่า Cu2+ รับอิเล็กตรอนได้ ดีกว่า M ไอออน และ M ไอออน รับอิเล็กตรอนได้ ดีกว่า Zn2+ สรุปการจัด
2+ 2+
เรียงำดับความสามารถรับอิเล็กตรอนของสารจากมากไปน้ อย คือ Cu > M ไอออน > Zn
. . Zn > M > Cu
ข ในทางตรงข้ ามกับข้ อ ก จะได้ ความสามารถในการให้ อิเล็กตรอนของสารจากมากไปน้ อย คือ
ถ่ายโอน e-
เขียนแยกสมการได้ ดงั นี ้
0
Zn (s) Zn2+ (aq) + 2e-
0
Cu (aq) + 2e Cu (s )
2+ -
เช่น
2Mg (s) + O2 (g) 2MgO (s)
2H2 (g) + O2 (g) 2H2O (l)
2. ปฏิกิริยาการสลายตัว
3. ปฏิกิริยาการแทนที่ เช่น
+1 -2 +1 +1 -1 +1 -2
NaOH (aq) + HCl NaCl (aq) + H2O (l )
จากสมการของปฏิกิริยาข้ างต้ น ไม่มีธาตุใดเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันเลย แสดงว่า ไม่มีธาตุให้ หรือรับอิเล็กตรอนเลย ปฏิกิริยานอนรี ดอกซ์มีดงั นี ้
1. ปฏิกิริยาการรวมตัวแล้ วเกิดกรดหรื อเบสหรื อสารอื่น ๆ
+ H2O กรด
ออกไซด์ของอโลหะ
3. ปฏิกิริยาการสลายตัว เชน
CaCO3 (s) CaO (s) + CO2 (g)
4. ปฏิกิริยาการแทนที่ เช่น
CaCO3 (s) + SiO2 (s) CaSiO3 (l) + CO2 (g)
5. Partner-exchange reaction
Na2CO3 (s) + 2HCl(aq) 2NaCl (aq) + CO2 (g) + H2O (l)
K2SO3 (s) + 2HCl (aq) 2KCl (aq) + SO2 (g) + H2O (l)
NaCl (s) + H2SO4 (conc) NaHSO4 (s) + HCl (aq)
Mg3(BO3)2 + 6HCl (aq) 3MgCl2 (aq) + 2H3BO3 (aq)
BCl3 (l) + 3H2O (l) H3BO3 (aq) + 3HCl (aq)
รู ปที่ 16.3 ใน ค.ศ. 1775 ลาวัวซิเร์ ได้ รับการแต่งตังจากรั
้ ฐบาลฝรั่งเศสเป็ นผู้ อำนวยการของโรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ ณ ที่แห่งนี ้ เขาได้ ทำการทดลองปฏิกิริยา
การเผผาไหม้ และการหายใจ
e-
Cu2+ (aq) + Zn (s) Cu (s) + Zn2+ (aq)
จากสมการ จะพบว่า Zn 1 โมลให้ อิเล็กตรอนแก่ Cu2+ 1 โมล พอดีกนั ไม่มีอิเล็กตรอนเหลือหรื อขาด ดังนัน้ ในสมการจึงไม่มีอิเล็กตรอนแสดง
อยู่
2. ปฏิกิริยาที่มีธาตุอิสระร่ วมอยู่ด้วย ไม่วา่ จะเป็ นสารตั ้งต้ นหรื อสารผลิตภัณฑ์ จะเป็ นปฏิกิริยารี ดอกซ์ เช่น
0 +1 +1 0
2Na (s) + 2H2O (l) 2NaOH (aq) + H2 (g )
0 +1 +2 0
Zn (s) + 2HCl (aq) ZnCl2 (aq) + H2 (g )
+7 +2 +6 +2 0
2KMnO4 (s) K2MnO4 (s) + MnO2 (s) + O2 (g)
3.
สมการเคมีที่ไม่มีอิเล็กตรอนแสดงอยู่ในปฏิกิริยาที่ไม่มีสารใดเป็ นธาตุอิสระ จะพิจารณาว่า เป็ นปฏิกิริยารี ดอกซ์หรื อไม่ ต้ องตรวจสอบเลข
ออกซิเดชันของธาตุทรานซิชนั ก่อนว่าเปลี่ยนแปลงหรื อไม่ ถ้ าเปลี่ยนเป็ นปฏิกิริยารีดอกซ์ และถ้ าไม่เปลี่ยนเลขออกซิเดชัน ก็ตรวจเลขออกซิเดชันของธาตุที่คอ่ นไปทาง
ขวาของตารางธาตุว่า เปลี่ยนหรื อไม่ ถ้ าเปลี่ยนก็เป็ นปฏิกิริยารี ดอกซ์ และถ้ าไม่เปลี่ยนเลขออกซิเดชันก็สรุปว่าไม่เป็ นปฏิกิริยารีดอกซ์ สำหรับถ้ ามีธาตุหมู่ IA และ
2A ในรูปสารประกอบไม่ต้องตรวจเลขออกซิเดชัน เพราะไม่เปลี่ยน แต่จะคงที่เสมอ เช่น
ปฏิกิริยารีดอกซ์
+7 +2 +2 +3
2KMnO4 (aq) +10FeSO4 (aq) +8H2SO4(aq) K2SO4(aq)+2MnSO4(aq)+5Fe2(SO4)3(aq)+8H2O(l)
ปฏิกิริยานอนรีดอกซ์
+4 -1 +1 +6 -2 +4 -2 -1 +6 -2 -1 +1 -1
2CCl4 + K2CrO4 2COCl2 + CrO2Cl2 + 2KCl
ให้ e-
ปฏิกิริยา ออกซิเดชัน
ตัวออกซิไดส์
ตัวรี ดิวซ์
Cl2 เป็ นตัวออกซิไดส์ และตัวรีดิวซ์ จะได้ วา่ Cl2 ออกซิไดส์ และรีดิวซ์ Cl2 ด้ วยกันเอง เรียกปฏิกิริยาแบบนี ้ว่า Autoredox
reaction หรือ Selfredox reaction หรือ Disproportion reaction
3.
+5 -2 -1 0
KClO3 (s) 2KCl(s) + 3O 2 (g)
ปฏิกิริยารี ดกั ชัน
Cl+5 + 6e- Cl-
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน
O2- Oo + 2e-
KClO3 เป็ นทังตั้ วออกซิไดส์ และตัวรีดิวซ์ เพราะ Cl มีเลขออกซิเดชันลดลง (รับอิเล็กตรอน ) และ O มีเลขออกซิเดชัน
เพิ่มขึ ้น (ให้ อิเล็กตรอน ) ปฏิกิริยานี ้สารชนิดเดียวกันถูกทังออกซิ
้ ไดส์และถูกรีดิวซ์ เรียก Autoredox reaction
ปฏิกิริยารีดอกซ์อธิบายโดยใช้ เลขออกซิเดชัน
(
ปฏิกิริยารี ดอกซ์ คือ ปฏิกิริยาที่มีการเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชัน โดยมีสว่ นหนึง่ เลขออกซิเดชันเพิ่มขึ ้น ให้ อิเล็กตรอน ) และอีกส่วนหนึง่ เลขออกซิเดชัน
(
ลดลง รับอิเล็กตรอน )
ปฏิกิริยารี ดอกซ์แบ่งออกเป็ น 2 ส่วนคือ
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน คือ ปฏิกิริยาที่มีเลขออกซิเดชันเพิ่มขึ ้น และเรียกสารที่มีเลขออกซิเดชันเพิ่มขึ ้นว่า เป็ นตัวรี ดิวส์
ปฏิกิริยารี ดกั ชัน คือ ปฏิกิริยาที่มีเลขออกซิเดชันลดลง และเรี ยกสารที่มีเลขออกซิเดชันลดลงว่าเป็ นตัวออกซิไดส์
+1 0 0 +2
+
2Ag (aq) + Cu(s) 2Ag(s) + Cu 2+ (aq)
เลขออกซิเดชันลดลง :ปฏิกิริยารี ดกั ชัน
เลขออกซิเดชันเพิ่มขึ้น : ปฏิกิริยาออกซิเดชัน
จากตัวอย่างของปฏิกิริยารีดอกซ์ พบว่า ตัวออกซิไดส์ รับอิเล็กตรอนแล้ วเลขออกซิเดชันลดลง และ ตัวรีดิวซ์ ให้ อิเล็กตรอนแล้ ว เลขออกซิเดชันเพิ่มขึ ้น
กำหนดเลขออกซิเดชันสูงสุด และต่ำสุดเป็ น +8 และ -4 ตามลำดับ แผนภาพง่าย ๆ ต่อไปนี ้แสดงการเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันในปฏิกิริยาออกซิเดชันและ
รี ดกั ชัน
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน
(
จำนวนอิเล็กตรอน ลดลง ให้ อิเล็กตรอน )
-3 -2 -1 0 +1 +2 +3 เลขออกซิเดชัน
( ON )
(
จำนวนอิเล็กตรอน เพิ่มขึ ้น รับอิเล็กตรอน )
เลขออกซิเดชัน ลดลง
ปฏิกิริยารี ดกั ชัน
รู ปที่ 16.5 ปฏิกิริยาออกซิเดชัน หรือรี ดกั ชันของธาตุที่มีการเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันและเปลี่ยนแปลงจำนวนอิเล็กตรอนตามที่กำหนดให้ แก่ธาตุ
(aq) +6 เป็ น +3
สีเหลือง สีเขียว
MnO2 MnO2 (s) NO2 (g) +5 เป็ น +4
KClO3 ClO3- (aq) Cl- (aq) +5 เป็ น -1
KClO ClO- (aq) Cl- (aq) +1 เป็ น -1
KIO3 IO3- (aq) ฝ I2 (s) +5 เป็ น 0
H2O2 ในสารละลายกรด H2O2 (aq) H2O (l) -1 เป็ น -2
-1 -2
2Fe2+(aq) + H2O2(aq) + 2H+(aq) 2Fe3+(aq) + 2H2O(l)
ปฏิกิริยารี ดกั ชัน
ตัวออกซิไดซ์
-1 0
2MnO4-(aq) + 5H2O (aq) + 6H+(aq) 2Mn2+(aq) + 8H2O(l) + 5O2(g)
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน
ตัวรี ดิซ์
3. ตัวออกซิไดส์ จะมีเลขออกซิเดชันลดลง ดังนัน้ ถ้ าสารใดมีธาตุที่มีเลขออกซิเดชันสูง แนวโน้ มของสารนั ้นจะเป็ นตัวออกซิไดส์ดีและแรง เช่น
+7 +6
KMnO4 , K2Cr2O7
4. ตัวรีดิวซ์ จะมีเลขออกซิเดชันเพิ่มขึ ้น ดังนัน้ ถ้ าสารใดมีธาตุที่มีเลขออกซิเดชันต่ำ แนวโน้ มของสารนันจะเป็
้ นตัวรีดิวซ์ดีและแรง เช่น โลหะหมู่ IA
- - -
ทุกตัว Na K ไอออนลบของธาตุหมู่ 7A ได้ แก่ I , Br , Cl
-1 0
MnO2(s) + 4HCl(conc) MnCl2(aq) + 2H2O(l) + Cl2(g)
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน
ตัวรี ดิซ์
0 +1
2Na(s) + 2H2O (l) 2NaOH (aq) + H2(g)
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน
ตัวรี ดิซ์
ค. Ca + 2F CaF2
2+ -
ง. Ca + F2 CaF2
ฉ. NH3 + H NH4
+ +
วิธีทำ
. . .
ข้ อ ก ค จ ฉ เป็ นปฏิกิริยานอนรี ดอกซ์ ไม่มีธาตุใดเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชัน
.
ข้ อ ข เป็ นปฏิกิริยารีดอกซ์ เพราะธาตุ Cl2 เปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชัน ดังนี ้
0 -1 +1
Cl2 + 2OH Cl + ClO- + H2O
- -
0 +2 -1
0
Ca + F2 CaF2
ตัวอย่าง จงพิจารณาปฏิกิริยาต่อไปนี ้
6Fe2+ (aq) + Cr2O72- (aq) + 14H+ (aq) 6Fe3+ (aq) + 2Cr3+ (aq) + 7H2O (l)
จงตอบคำถาม
.
ก สารใดถูกออกซิไดส์
ข. สารใดถูกรี ดิวซ์
ค. สารใดเป็ นตัวออกซิไดส์
ง. สารใดเป็ นตัวรี ดิวซ์
วิธีทำ
+2 +6 +3 +3
6Fe2+(aq) + Cr 2O72- (aq) + 14H +(aq) 6Fe 3+(aq) + 2Cr3+(aq) + 7H2O(l)
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน
วิธีทำ
ก .
0 -1- +1
I2(aq) + 2OH-(aq) I (aq) + IO- (aq) + H2O (l)
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน ON เปลี่ยน= (+1)-0 = 1
ปฏิกิริยารี ดกั ชัน ON เปลี่ยน= (+1)-0 = 1
-1 +5 0 -1
6I-(aq) + BrO3-(aq) + 6H+(aq) 3I2(aq) + Br-(aq) + 3H2O(l)
ปฏิกิริยาออกซิเดชัน ON เปลี่ยน= (+5)-(-1) = 6
ปฏิกิริยารี ดกั ชัน ON เปลี่ยน= 0 -(-1) = 1
16.1.4 ประโยชน์ของปฏิกิริยารีดอกซ์
ในชีวิตประจำวันของเรานันใช้
้ ประโยชน์ของปฏิกิริยารี ดอกซ์มากดังเช่น การลบรอยเปื อ้ นของสนิมเหล็ก และใช้ ในการทำพิมพ์เขียว
การลบรอยเปื อ้ นของสนิมเหล็ก
สนิมเหล็ก เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างเหล็กกับออกซิเจนและน้ำดังนี ้
2Fe (s) 2Fe2+ (aq) + 4e-
O2 (g) + 2H2O (l) + 4e- 4OH- (aq)
; 2Fe (s) + O2 (g) + 2H2O (l) 2Fe2+ (aq)+ 4OH- (aq)
ปฏิกิริยารวม
ส่วนออกซาเลตไอออน (C2H42-) จะละลายรอยเปื อ้ นที่เป็ นสนิมเหล็กเป็ นไอออนเชิงซ้ อน ดดยทำปฏิกิริยากับ Fe3+ ในสนิมเหล็ก ดังนี ้
Fe2O3 . nH2O
แสง
[(H2C6H5O7)4Fe]- (aq)
Fe2+
(NH4)3Fe(CN)6
Fe3[Fe(CN)6]2
พิมพ์เขียว
ไอร์ ออน (II) เฮกซะไซยาโนเฟอเรต(III)
แบบทดสอบที่ 16.3
1.แผนภาพแสดงปฏิกิริยาต่อไปนี ้ เป็ นปฏิกิริยาออกซิเดชัน หรือปฏิกิริยารีดกั ชัน หรือปฏิกิริยารีดอกซ์
1.1 SO32- H2SO4
1.2 Zn Zn(OH)42-
1.3 MoO3 MoO2I
1.4 H2 2NaH
1.5 O3 H2O
1.6 CaF2 + K2SO4 + 4C CaS + 2KF + 4CO
1.7 CS2 + 3Cl2 CCl4 + S2Cl2
1.8 Ba(OH)2 BaO2
1.9 CuI CuSO4
้ ข้อ 1.1 - 1.9 เขียนเฉพาะส่วนที่จะเน้ นถึงเท่านัน้
หมายเหตุ สมการตังแต่
6.จงเขียนสมการของปฏิกิริยาต่อไปนี ้ แล้ วบอกด้ วยว่าเป็ นปฏิกิริยารีดอกซ์หรือไม่ ถ้ าเป็ นปฏิกิริยารี ดอกซ์ให้ ระบุตวั ออกซิไดส์ และตัวรี ดิวซ์ แต่ถ้าไม่เป็ นปฏิกิริยารี
ดอกซ์ ให้ อธิบายว่าเพราะเหตุใด
6.1 ใส่สารละลาย NiSO4 ในภาชนะทำด้ วยเหล็ก พบว่าภาชนะผุกร่ อน และเกิดสารสีเทาตกตะกอนอยู่ก้นภาชนะ
6.2 เทกรดเกลือลงไปบนหินปูน เกิดฟองก๊ าซคาร์ บอนไดออกไซด์ และแคลเซียมคลอไรด์ และน้ำ
เฉลยแบบทดสอบที่ 16.3
ข้ อ 1 แนวคิด
ข้ อ ธาตุที่เลขออกซิเดชันเปลี่ยน ชนิดของปฏิกิริยา
1.1 S มี ON เปลี่ยนจาก +4 +6 ON เพิ่ม ออกซิเดชัน
ข้ อ 2 แนวคิด
ข้ อ ตัวออกซิไดซ์ ตัวรีดิวซ์
2.1 Fe3O4 H2
2.2 MnO2 HCl
2.3 K2Cr2O7 S
2.4 Ca3(PO4)2 C
2.5 - -
2.6 KClO3(Cl) KClO3(O)
2.7 - -
2.8 NH4NO2 NH4NO2
2.9 - -
2.10 Br2 Br2
ข้ อ 3.
ข้ อ 3.1 3.2 3.6 3.7 3.8 เป็ นสมการรีดอกซ์
ข้ อ 3.3 3.4 3.5 เป็ นปฏิกิริยานอนรี ดอกซ์
ข้ อ 4.
4.1 MnO4- เป็ นตัวออกซิไดส์ SO32- เป็ นตัวรี ดิวซ์
4.2 NO2 เป็ นตัวออกซิไดส์ H2 เป็ นตัวรีดิวซ์
4.3 H2O2 เป็ นตัวออกซิไดส์ [Fe(CN)6]4- เป็ นตัวรีดิวซ์
4.4 - ปฏิกิริยานอนรีดอกซ์
4.5 F2 เป็ นตัวออกซิไดส์ KI เป็ นตัวรี ดิวซ์
4.6 - ปฏิกิริยานอนรีดอกซ์
4.7 O2 เป็ นตัวออกซิไดส์ HCl เป็ นตัวรีดิวซ์
4.8 Pb ใน PbO2 เป็ นตัวออกซิไดส์ O ใน PbO2 เป็ นตัวรีดิวซ์
5.
ข้ อ
5.1
0 0 +4 -1
S(s) + 2F 2(g) SF 4(g)
ON เปลี่ยนจาก 0 เป็ น -1
ON เปลี่ยนจาก 0 เป็ น 4
5.2
+2 -1 +1 0
2CuSO4 (aq) + 4KI(aq) 2CuI(s) + 2K 2SO4(aq) + I2(s)
ON เปลี่ยนจาก -1 เป็ น 0
ON เปลี่ยนจาก +2 เป็ น +1
5.3
-3 0 +3 -1 -1
NH3(g) + 3Cl2(g) NCl 3(g) + 3HCl(g)
ON เปลี่ยนจาก 0 เป็ น -1
ON เปลี่ยนจาก -3 เป็ น +3
5.4
0 +4 -1 +6
I2(aq) + SO2(aq) + 2H2O(l) 2HI(aq) + H2SO4(aq)
ON เปลี่ยนจาก +4 เป็ น +6
ON เปลี่ยนจาก 0 เป็ น -1
5.5
-2 0 -2 +4 -2
2PbS(s) + 3O 2(g) 2PbO(s) + 2SO 2(g)
ON เปลี่ยนจาก 0 เป็ น -2
ON เปลี่ยนจาก -2 เป็ น +4
ข้ อ 6 แนวคิด
6.1 Ni2+ (aq) + Fe (s) Ni (s) + Fe2+ (aq) เป็ นปฏิกิริยารีดอกซ์
Ni2+ เป็ นตัวออกซิไดซ์ Fe เป็ นตัวรีดิวซ์
6.2 CaCO3 (s) + 2HCl (aq) CaCl2 (aq) + H2O (l) + CO2 (g)
เป็ นปฏิกิริยานอนรีดอกซ์ เพราะ ไม่มีธาตุใดเลยที่เลขออกซิเดชันเปลี่ยนแปลง
การดุลสมการรี ดอกซ์โดยใช้ วิธีเลขออกซิเดชันที่เปลี่ยนแปลง (The Oxidation Number Change Method) เป็ นการดุลสมการของ
ปฏิกิริยารีดอกซ์ โดยทำเลขออกซิเดชันที่ลดลงเท่ากับเลขออกซิเดชันที่เพิ่มขึ ้น แล้ ว ทำจำนวนอะตอมของธาตุต่าง ๆ ทางซ้ ายและทางขวาให้ เท่ากัน แต่ถ้าเป็ นสมการไอ
ออนิกต้ องทำค่าประจุรวมทางซ้ าย และทางขวาให้ เท่ากันด้ วย
หลักทัว่ ไปของการดุลสมการรี ดอกซ์โดยวิธีเลขออกซิเดชันที่เปลี่ยนแปลง ดังนี ้
1. เขียนสมการของปฏิกิริยาที่ยงั ไม่ดลุ แสดงเลขออกซิเดชันของธาตุที่เปลี่ยนแปลงไป และ แสดงเลขออกซิเดชันที่เพิ่มขึ ้น และลดลงไว้ ข้างล่าง โดยคิดต่อ
้ นที่เป็ นตัวออกซิไดส์หรื อตัวรีดิวซ์นั ้น 1 โมเลกุล
สารตังต้
2. ทำเลขออกซิเดชันที่เพิ่มขึ ้นและลดลงให้ เท่ากัน ด้ วยกาคูณไขว้ สลับค่าเลขออกซิเดชันที่เพิ่มขึ ้นและลดลงนัน้
3. ทำจำนวนอะตอมของธาตุมี่เปลี่ยนเลขออกซิเดชัน ทังซ้้ ายและทางขวาให้ เท่ากัน
4. ดุลจำนวนอะตอมของธาตุอื่น ๆ ที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันให้ เท่ากัน ถ้ ามี H2O ( H และ O ไม่เปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชัน) รวมอยู่
ด้ วยให้ ดลุ เป็ นอันดับสุดท้ าย และในการดุล H2O ให้ ทำจำนวนอะตอม H ซ้ ายและขวาให้ เท่ากัน
5. สำหรับสมการไอออนิก เมื่อดุลถึงขันที้ ่ 3 ให้ ดปุ ระจุทงทางซ้
ั้ ้ ่ 4 ต่อ ไป
ายและขวาให้ เท่ากันแล้ วจึงดุลขันที
6. สมการที่ดลุ แล้ ว ต้ องทำเลขสัมประสิทธิ์ข้างหน้ าของสารทุกชนิดเป็ นตัวเลขอย่างต่ำ
ตัวอย่าง จงดุลสมการปฏิกิริยาต่อไปนี ้
MnO2 (s)+KBr(aq)+H2SO4 (aq) MnSO4 (aq)+K2SO4(aq)+H2O(l) + Br2 (l)
วิธีทำ
ขันที
้ ่ 1 เขียนสมการที่ยงั ไม่ดลุ และเขียนเลขออกซิเดชันของธาตุที่เปลี่ยนแปลงดังนี ้
+4 -1 +2 0
MnO2(s) + KBr(aq) + H 2SO4(aq) MnSO4(aq)+ K2SO4(aq) + H2O(l) + Br2(l)
ON ลดลง = 2
ON เพิ่มขึ้น = 1
2 ลด
1 เพิ่ม
ขันที
้ ่ 2 ทำ ON ที่เพิ่มขึ ้นและลดให้ เท่ากันด้ วยการใช้ คา่ ON คูณไข้ ว
1MnO2(s) + 2KBr(aq) + H2SO4(aq) MnSO4(aq)+ K2SO4(aq) + H2O(l) + Br2(l)
2 1
ขันที
้ ่ 3 ON ทังทางขวาและซ้
ดุลอะตอมของธาตุที่เปลี่ยน
้ ายให้ เท่ากัน
ขันที
้ ่ 4 K ใน KBr เท่ากับ K ใน K2SO4 จึงไม่ต้องเติมตัวเลขใด ๆ หน้ า K2SO4
ดุลอะตอมของธาตุอื่น ๆ ด้ วยการตรวจพินิจ คือ ตรวจ
2-
ส่วนกลุม่ SO 2 กลุม่ จึงต้ องเติมเลข 2 หน้ า H2SO4 ทางด้ านซ้ ายและขวาเท่ากัน ดุล H ใน H2O นับจำนวนอะตอมของ H
4 ทางด้ านขวามี
ทางด้ านซ้ ายในกรด H2SO4 เท่ากับ 4 จึงเติม 2 หน้ า H2O ตรวจจำนวนอะตอมของ O ใน MnO2 และ O ใน H2O พบว่าเท่ากัน ดังนี ้
ตัวอย่าง
Cr2O3 + Na2CO3 + KNO3 Na2CrO4 + CO2 + KNO2
วิธีทำ
ขันที
้ ่ 1 เขียนสมการที่ยงั ไม่ดลุ และเขียนเลขออกซิเดชันของธาตุที่เปลี่ยนแปลงดังนี ้
+3 +5 +6 +3
Cr2O3 + Na2CO3 + KNO3 Na 2CrO4 + CO2 + KNO2
ON เพิม่ ขึ้น = 2 x 3 = 6
ON ลดลง = 2
2 ลด
1 เพิ่ม
ขันที
้ ่ 2 ทำ ON ที่เพิ่มและลดให้ เท่ากันด้ วยการใช้ คา่ ON คูณไขว้ กนั
2Cr2O3 + Na2CO3 + 6KNO3 Na 2CrO4 + CO2 + KNO2
6 2
ขันที
้ ่ 3 ON ทังทางซ้
ดุลอะตอมของธาตุที่เปลี่ยนแปลง
้ ายและขวาให้ เท่ากัน
Cr ใน Cr2O3 = 4 จึงเติม 4 หน้ า Na2CrO4 เพื่อทำให้ Cr ให้ เท่ากัน และ N ใน KNO3 = 6 เติมเลข 6 หน้ า
KNO2 เพื่อทำ N ให้ เท่ากัน
2Cr2O3 + Na2CO3 + 6KNO3 4Na2CrO4 + CO2 + 6KNO2
้ ่ 4 ดุลอะตอมของธาตุอื่น ๆ ด้ วยการตรวจพินิจ คือ
ขันที
ตรวจ - K ใน KNO3 เท่ากับ KNO2 จึงไม่ต้องเติมตัวเลขใด ๆ หน้ า KNO2
- Na ใน Na2CrO4 = 8 จึงเติมเลข 4 หน้ า Na2CO3 เพื่อทำให้ Na ทัง้ 2 ข้ างเท่ากัน
- C ใน Na2CO3 = 4 จึงเติมเลข 4 หน้ า CO2 เพื่อทำให้ C ทัง้ 2 ข้ างเท่ากัน
2Cr2O3 + 4Na2CO3 + 6KNO3 4Na2CrO4 + 4CO2 + 6KNO2
ตรวจนับ O ในCr2O3 Na2CO3 และ KNO3 ทางด้ านซ้ ายรวมกัน = 6 + 12 + 18 = 36
O ใน Na2CrO4 CO2 และ KNO2 ทางด้ านขวารวมกัน = 16 + 8 + 12 = 36
ตรวจนับ จำนวนอะตอมของธาตุแต่ละชนิดทางซ้ ายและขวาพบว่า เท่ากัน แสดงว่า สมการดุลแล้ ว
ตัวอย่าง จงดุลสมการของปฏิกิริยานี ้
Cu + HNO3 Cu(NO3)2 + H2O + NO2
วิธีทำ
ขันที
้ ่ 1 เขียนสมการที่ยงั ไม่ดลุ และเขียนเลขออกซิเดชัน ของธาตุที่เปลี่ยนแปลง ดังนี ้
0 +5 +2 +4
Cu + HNO3 Cu(NO 3)2 + H2O + NO2
ON ลดลง = 1
ON เพิ่มขึ้น = 2
ขันที
้ ่ 2 ทำ ON ที่เพิ่มและลดให้ เท่ากัน ด้ วยการใช้ ค่า ON คูณไขว้ กนั
2 1
ขันที
้ ่ 3 ON ทังทางซ้
ดุลอะตอมของธาตุที่เปลี่ยน้ ายและขวาให้ เท่ากัน
- Cu = 1 เท่ากับ Cu ใน Cu(NO3)2 จึงไม่ต้องเติมเลขใด ๆ หน้ า Cu(NO3)2
- เนื่องจาก N ใน HNO3 = 2 จึงต้ องเติมเลข 2 หน้ า NO2 เพื่อทำให้ N ทัง้ 2 ข้ างเท่ากัน
Cu + 2 HNO3 Cu(NO3)2 + H2O + 2NO2
ขันที
้ ่ 4 ดุลอะตอมของธาตุอื่น ๆ ด้ วยการตรวจพินิจ ดังนี ้
N ใน HNO3 ทำให้ เกิด N ใน NO2 ขึ ้นเท่ากันแล้ ว แต่ผลิตภัณฑ์ยงั เกิด NO3- ใน
เนื่องจาก
HNO3 อีกพวกหนึง่ จำนวน 2 หมู่เท่ากันด้ วยคือ
2 HNO3 + Cu + 2 HNO3 Cu(NO3)2 + H2O + 2NO2
ดุล H ใน H2O นับจำนวนอะตอมของ H ทางด้ านซ้ าย = 4 จึงเติมเลข 2 หน้ า H2O จึงจะ
พบว่า H ทังสองข้
้ างเท่ากัน แล้ วเติมกรด HNO3 ทางด้ านซ้ าย = 4
ตัวอย่าง จงดุลสมการของปฏิกิริยาต่อไปนี ้
KMnO4 + H2O2 + H2SO4 K2SO4 + MnSO4 + H2O + O2
วิธีทำ
ขันที
้ ่ 1 เขียนสมการที่ยงั ไม่ดลุ และเขียนเลขออกซิเดชันของธาตุที่เปลี่ยนแปลงดังนี ้
+7 -1 +2 0
KMnO4 + H2O2 + H2SO4 K2SO4 + MnSO4 + H2O + O2
ON เพิ่มขึ้น = (1) x 2 = 2
ON ลดลง = 5
หมายเหตุ การจับคู่ O ทางซ้ ายและขวาต้ องจับถูกคูด่ ้ วย ถ้ าจับผิดคู่จะดุลไม่ได้
ขันที
้ ่ 2 ทำ ON ที่เพิ่มขึ ้นและลดลงให้ เท่ากัน ด้ วยการใช้ ON คูณไขว้ กนั
2KMnO4 + 5H2O2 + H2SO4 K2SO4 + MnSO4 + H2O + O2
5 2
ขันที
้ ่ 3 ดุลอะตอมของธาตุที่เปลี่ยนแปลง ON ทังทางซ้
้ ายและขวาให้ เท่ากัน
Mn KMnO4 = 2 จึงต้ องเติม 2 หน้ า MnSO4 เพื่อทำให้ Mn ทัง้ 2 ข้ างเท่ากัน เนื่องจาก O ใน H2O2
ใน ไม่
เท่ากับ O ใน O2 จึงต้ องดุลให้ เท่า คือ O ใน H2O2 = 10 ดังนัน้ O ใน O2 ต้ องเท่ากันด้ วยจึงต้ องเติมเลข 5 หน้ า O2 คือ
ขันที
้ ่ 4 ดุลอะตอมของธาตุที่เหลือด้ วยการตรวจพินิจดังนี ้
- K ใน KMnO4 = 2 ซึง่ เท่ากับ K ใน K2SO4 จึงไม่ต้องเติมเลขใด ๆ หน้ า K2SO4
- SO4- ใน K2SO4 และ MnSO4 รวมกัน = 2 จึงเติมเลข 2 หน้ า H2SO4 จะพบว่า SO42- ทัง้ 2 ข้ างเท่ากัน
- ดุล H ใน H2O นับจำนวน H ใน H2O2 และ H2SO4 รวมกัน = (5 x 2) + (2 x 3) = 16 จึงเติมตัวเลข 8
ลงหน้ า H 2O
2KMnO4 + 5H2O2 + 3H2SO4 K2SO4 + 2 MnSO4 + 8 H2O + 5O2
ตรวจนับ O ทางด้ านซ้ ายทังหมด
้ = (2 x 4) + (5x 2) + (3 x 4) = 30 ซึง่ เท่ากับ O ทางด้ านขวา ( = 4 +
(4x2) + (8x1) + (5x2) = 30
ตรวจนับ จำนวนอะตอมของธาตุแต่ละชนิดทางซ้ ายและขวาพบว่า เท่ากัน แสดงว่าสมการดุล
16.2.2 การดุลสมการรีดอกซ์โดยใช้ครึ่งปฏิกิริยา
การดุลสมการรี ดอกซ์โดยใช้ วิธีการครึ่งปฏิกิริยา (Half reaction Method) หรื อ วิธีการไอออน - อิเล็กตรอน (Ion-electron
Method) เป็ นวิธีที่ดลุ สมการด้ วยการทำจำนวนอิเล็กตรอนที่ให้ และรับให้ เท่ากัน สมการที่จะดุลด้ วยวิธีนี ้ต้ องเป็ นสมการไอออนิก ถ้ าไม่เป็ นสมการไอออนิกต้ อง
เปลี่ยนเป็ นสมการไอออนิกก่อน แล้ วจึงดุลได้
หลักการดุลสมการโดยใช้ วิธีการครึ่งปฎิกิริยา
1.ใช้ การเปลี่ยนเลขออกซิเดชันของธาตุ แบ่งส่วนที่ถกู ออกซิไดส์ และถูกรี ดิวซ์ เขียนโครงครึ่งปฏิกิริยาไอออนิกสุทธิ 2 โครง โดยโครงหนึง่ เป็ นส่วนที่ถูก
ออกซิไดส์ และอีกส่วนหนึง่ ถูกรี ดิวซ์
2. ดุลแต่ละครึ่งปฏิกิริยาที่แยกได้
2.1. ดุลอะตอมของธาตุที่ถกู ออกซิไดซ์ และที่ถูกรีดิวซ์ ทังสารตั
้ ้ นและผลิตภัณฑ์ ยกเว้ น O
งต้ และ H ยังไม่ดลุ
2.2 ดุลธาตุออกซิเจนด้ วยการเติมน้ำ (H2O) เติม H2O ลงข้ าวที่มีออกซิเจนน้ อยกว่า
2.3 ในปฏิกิริยาที่เป็ นกรดเติม H+ ลงในข้ างที่มีไฮโดรเจนน้ อยกว่าของสมการ เพื่อดุลอะตอมของ H
2.4. เติมจำนวนอิเล็กตรอนลงในข้ างที่มีประจุมาก จำนวนอิเล็กตรอนที่เติมลงไปเท่ากับผลต่างระหว่างประจุรวมทัง้ 2 ข้ าง
2.5 สำหรับปฏิกิริยาที่เป็ นเบสเมื่อดุลถึงขึ ้นนี ้ถ้ าในสมการมี H+ เกิดขึ ้นไม่วา่ อยู่ทางข้ างซ้ ายหรือขวาให้ ทำลาย H+ ทังหมดด้
้ วยการบวก
+ + + -
OH เข้ าไปในสมการทั ้งข้ างซ้ ายและขวาด้ วยจำนวนเท่ากับจำนวน H นัน้ เพื่อสะเทินกรด (H ) ทังหมดด้ ้ วย OH จะได้ สมการของครึง้ ปฏิกิริยาแบบ
รี ดกั ชันหรือแบบออกซิเดชันที่ดลุ แล้ ว
3. ทำจำนวนอิเล็กตรอนในสมการของปฏิกิริยาออกซิเดชัน และรีดกั ชันให้ เท่ากันแล้ ว นำสมการทังหมดมาบวก
้ อิเล็กตรอนหักล้ างหมดไป จะได้ สมการ
ของปฏิกิริยารี ดอกซ์ที่ดลุ แล้ วตามต้ องการ
ตรวจนับ จำนวนอะตอมของธาตุแต่ละธาตุเท่ากัน และประจุรวมข้ างซ้ าเท่ากับประจุรวมข้ างขวาแสดงสมการสุทธิดลุ
ตัวอย่าง จงดุลสมการของปฏิกิริยานี ้
I2 (s) + S2O32- (aq) I- (aq) + S4O62- (aq)
วิธีทำ
ขันที
้ ่ 1 ใช้ การเปลี่ยนเลขออกซิเดชันของธาตุแบ่งสว่นที่ถกู ออกซิไดส์และถูกรี ดิวซ์
I2 (s) I- (aq)
S2O32- (aq) S4O62- (aq)
ขันที
้ ่ 2 ดุลแต่ละครึ่งปฏิกิริยาที่แยกได้
ดุลอะตอมของธาตุที่เปลี่ยนเลขออกซิเดชัน
I I = 2 จึงเติมเลข 2 หน้ า I- จึงจะทำให้ I ทัง้ 2 ข้ างเท่ากัน
ใน 2
ตัวอย่าง จงดุลสมการของปฏิกิริยาต่อไปนี ้
Fe2+ (aq) + MnO4- (aq) + H+ Fe3+ (aq) + Mn2+ (aq) + H2O (l)
วิธีทำ
ขันที
้ ่ 1 ใช้ การเปลี่ยนเลขออกซิเดชันของธาตุแบ่งส่วนที่ถกุ ออกซิไดส์ และถูกรีดิวซ์
ตัวอย่าง จงดุลสมการของปฏิกิริยาต่อไปนี ้
U4+ + H2O + MnO4- Mn2+ + UO22- + H+
วิธีทำ
ขันที
้ ่ 1 ใช้ การเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชัน แบ่งเป็ นส่วนที่ถกู ออกซิไดส์และสว่นที่ถกู รี ดิวซ์
U4+ UO22-
MnO4- Mn2+
ขันที
้ ่ 2 ดุลแต่ละครึ่งปฏิกิริยาที่แยกได้
- ดุลอะตอมของธาตุที่เปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชัน
U4+ UO22- ไม่ต้องเติมเลขใด ๆ เพราะ U ทัง้ 2 ข้ างเท่ากัน
MnO4- Mn2+ ไม่ต้องเติมเลขใด ๆ เพราะ Mn ทัง้ 2 ข้ างเท่ากัน
- ในสารละลายกรด ดุล O เติม H2O เนื่องจาก O ใน UO22- = 2 จึงเติม 2H2O ข้ างซ้ ายจึงทำให้ O ทังสองข้
้ างเท่ากัน
- ดุล H เติม H+ เนื่องจาก H ใน H2O (ข้ างซ้ าย) = 4 จึงเติม 4H+ ข้ างขวาจึงจะทำให้ H ทังสองข้
้ างเท่ากัน
- ดุล H เติม H+ เนื่องจาก H ใน H 2O = 8 จึงเติม 8H+ ทางข้ างซ้ ายเพื่อทำให้ H ทัง้ 2 ข้ างเท่ากัน
8H+ + MnO4- Mn2+ + 4H2O
H2O ซ้ ายมีจำนวนเท่ากับ 10 และ H2O ทางขวามีจำนวนเท่ากับ 8 หักล้ างเหลือ H2O ทางซ้ ายอีก 2 และ H+ ขวามีจำนวน
+ +
เท่ากับ 20 ส่วน H ซ้ ายมีจำนวนเท่ากับ 16 หักล้ างกันเหลือ 4 ดังนันจึ
้ งเหลือ 4H ทางขวาดังนี ้
ขันที
้ ่ 2 ดุลแต่ละครึ่งปฏิกิริยาที่แยกได้
ดุลอะตอมของธาตุที่เปลี่ยนเลขออกซิเดชัน
MnO4- (aq) Mn2+ (aq) ไม่ต้องดุลใดเพราะ Mn ทังสองข้ ้ างเท่ากัน
- ในสารละลายกรด ดุล O เติม H 2O เนื่องจาก O ใน MnO4- = 4 จึงต้ องเติม 4 H2O ข้ างขวา จึงจะทำให้ O ทัง้ 2 ข้ าง
เท่ากัน
MnO4- (aq) Mn2+ (aq) + 4 H2O
- ดุล H เติม H+ เนื่องจาก H ใน H2O (ข้ างขวา) = 8 จึงเติม 8H+ ข้ างซ้ าย จึงจะทำให้ H ทัง้ 2 ข้ างเท่ากัน
8H+ + MnO4- (aq) Mn2+ (aq) + 4 H2O
- ดุลประจุ เติมอิเล็กตรอนข้ างที่มีประจุมาก ประจุข้างซ้ าย = (+8) + (-1) = +7 และประจุข้างขวา = +2 จึงต้ องเติมอิเล็กตรอนข้ างซ้ าย
= (+7) - (-2) = 5 ดังนี ้
5e- + 8H+ + MnO4- (aq) Mn2+ (aq) + 4 H2O ……………….. (1)
- ดุล O ใน C2O42- 2CO2 O ใน C2O42- = 4 เท่ากับ O ใน CO2 จึงไม่ต้องเติม H2O และ H+ ประจุใน
ข้ างซ้ าย = -2 ส่วนประจุข้างขวา = 0 เติมอิเล็กตรอนข้ างขวา = 0 - (-2) = 2 ดังนี ้
ขันที
้ ่ 3 ทำจำนวนอิเล็กตรอนที่ให้ และรับเท่ากัน
(1) x 2 ; 10e- + 16H+ + 2MnO4- (aq) 2Mn2+ (aq) + 8 H2O ……….. (3)
(2) x 5 ; 5C2O42- (aq) 10CO2 (g) + 10e- ……….. (4)
(3) + (4) ; 16H+(aq) + 2MnO4- (aq) + 5C2O42- (aq) 2Mn2+ (aq) + 8H2O (l) + 10 CO2 (g
การคำนวณเกี่ยวกับสมการของปฏิกิริยารี ดอกซ์
เฉลยแบบทดสอบที่ 16.4
1.
1.1 8 Al + 3NaOH + 3NaHSO4 4 Al2O3 + 3H2O + 3Na2S
1.2 K2Cr2O7 + 14HCl 2CrCl3 + 3Cl2 + 7H2O + 2 KCl
1.3 (NH4)2Cr2O7 Cr2O3 + N2 + 4H2O
1.4 2Pb(NO3)2 2 PbO + 4 NO2 + O2
2.
2.1 30H2O + Fe(CN6)4- Fe2+ + 6CO2 + 6NO3- + 60H+ + 61e-
MnO4- + 8H+ + 5e- Mn2+ + 4H2O
5Fe(CN6)4- + 188 H+ + 61 MnO4- 5Fe2+ + 30CO2 + 30 NO3- + 61Mn2+ + 94 H2O
2.2 4H2O + Cu3P 3Cu2+ + H3PO4 + 5H+ + 11e-
6e- + 16H+ + Cr2O72- 2Cr3+ + 7H2O
6Cu3P + 124H+ + 11Cr2O72- 18Cu2+ + 6 H3PO4 + 22 Cr3+ + 53H2O
2.3 3e- + 4H+ + Cro42- CrO2- + 2H2O
H2O + HSnO22- HSnO3- + 2H+ + 2e-
8H+ + 2Cro42- + 3H2O + 3HSnO22- 2CrO2- + 4H2O + 6H+ + 3HSnO3-
2H+ + 2Cro42- + 3HSnO22- 2CrO2- + H2O + 3HSnO3-
2.4 MnO4- + 2H2O + 3e- MnO2 + 4 OH-
NO2- + 2 OH- NO3- + H2O + 2e-
2MnO4- + 4H2O + 3NO2- + 6 OH- 2MnO2 + 3NO3- + 8OH- + 3H2O
2MnO4- + H2O + 3NO2- 2MnO2 + 3 NO3- + 2OH-
3.แนวคิด
3.1 Zn Zn2+ + 2e-
2NO3- + 12H+ + 10e- N2+ 6H2O
5Zn + 2NO3- + 12H+ 5Zn2+ + N2 + 6H2O