You are on page 1of 105

ข อ

สภาวิศวกร | Council of engineers

กร
วิชา : Computer Programming


วศิ
เนือหาวิชา : 1 : ความรู ้พืนฐานทางด ้านคอมพิวเตอร์

สภ
ข ้อที 1 :
หน่วยเก็บความจําทีติดต่อกับ CPU ได ้เร็วทีสุดคืออะไร
1 : CD-ROM
2 : HARD DISK
3 : SDRAM
4 : REGISTER

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 2 :
ลําดับขันตอนการทํางานของคอมพิวเตอร์มอ
ี ย่างไร
1 : เริม คํานวณ ประกาศชนิดตัวแปร รับข ้อมูล แสดงคําตอบ จบ
2 : เริม ประกาศชนิดตัวแปร รับข ้อมูล คํานวณ แสดงคําตอบ จบ
3 : เริม รับข ้อมูล ประกาศชนิดตัวแปร คํานวณ แสดงคําตอบ จบ
4 : เริม รับข ้อมูล ประกาศชนิดตัวแปร แสดงคําตอบ คํานวณ จบ

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 3 :
ข ้อใดต่อไปนีคือคุณบัต ิ Portable ของการเขียนโปรแกรม
1 : ั สุด
สามารถเขียนโปรแกรมได ้สนที
2 : สามารถเขียนโปรแกรมให ้ประมวลผลได ้เร็วทีสุด
3 : สามารถเขียนโปรแกรมเพือทํางานข ้ามเครือข่ายได ้
4 : สามารถย ้ายโปรแกรมไปทํางานยังเครืองคอมพิวเตอร์ตา่ งระบบได ้
5 : ถูกทุกข ้อ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 4 :
อะไรคือคุณสมบัตข
ิ องหน่วยความจําประเภท ROM (Read Only Memory)
1 : สามารถอ่าน และเขียนได ้
2 : สามารถอ่านได ้อย่างเดียว
3 : สามารถเขียนได ้อย่างเดียว
ธิ

4 : ไม่สามารถอ่านและเขียนได ้
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วน
สง

ข ้อที 5 :
อะไรคือคุณสมบัตข
ิ อง หน่วยความจําประเภท RAM (Random Access Memory)
ขอ

1 : สามารถอ่าน และเขียนได ้


2 : สามารถอ่านได ้อย่างเดียว
3 : สามารถเขียนได ้อย่างเดียว

กร
4 : ไม่สามารถอ่านและเขียนได ้
5 : ไม่มข
ี ้อถูก


คําตอบทีถูกต ้อง : 1
า วศิ
สภ
ข ้อที 6 :
ข ้อมูล1 MB มีขนาดตรงกับข ้อใด
1 : 1024 Byte
2 : 1000000 Byte
3 : 1048576 Byte
4 : 1024000 Byte

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 7 :
ข ้อมูล 1 GB มีขนาดตรงกับข ้อใด
่ 4^2 KB หมายถึง 4 ยกกําลัง 2 KiloByte
หมายเหตุ เครืองหมาย ^ หมายถึงการยกกําลัง เชน
1 : 10^3 KB
2 : 1024 KB
3 : 2^10 KB
4 : 2^20 KB

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 8 :

ทําไมคอมพิวเตอร์จงึ ใชเลขฐานสองในการเก็
บข ้อมูล
1 : คอมพิวเตอร์มรี ะดับ Voltage แค่ 2 ระดับ
2 : คอมพิวเตอร์ประกอบด ้วยวงจรอิเล็กทรอนิกสซ ์ งมี
ึ ลก ั ษณะการทํางาน 2 โหมด เหมือนสวิทซ ์ เปิ ด - ปิ ด
3 : ้
การใชเลขเพี ยงแค่ 2 เลขในการเก็บข ้อมูลทําให ้คนสามารถติดต่อกับคอมพิวเตอร์ได ้ง่ายขึน
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูกต ้อง

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 9 :
่ น่วยความจําคอมพิวเตอร์
ข ้อใดไม่ใชห
1 : Random-access memory
2 : Read-only memory
3 : Harddisk
4 : Basic input/output system (BIOS)
ธิ
สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

วน

ข ้อที 10 :
ิ ธิภาพในการทํางานสูงสุด
คอมพิวเตอร์ประเภทใดมีประสท
สง

1 : คอมพิวเตอร์พกพา
2 : เซริ ฟ
์ เวอร์คอมพิวเตอร์
ขอ

3 : ซูเปอร์คอมพิวเตอร์


4 : ไมโครคอมพิวเตอร์

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3


ข ้อที 11 :
า วศิ
ข ้อใดคือสว่ นประกอบหลักของคอมพิวเตอร์
หน่วยรับข ้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจําหลัก หน่วยเก็บข ้อมูลสํารอง และหน่วยแสดงผล
สภ
1 :
2 : หน่วยรับข ้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจําหลัก หน่วยความจําสํารอง และหน่วยแสดงผล
3 : หน่วยรับข ้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจําหลัก และหน่วยแสดงผล
4 : หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจําหลัก หน่วยเก็บข ้อมูลสํารอง และหน่วยแสดงผล

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 12 :
จงพิจารณาว่าข ้อความใดกล่าวถูกต ้องสําหรับการทํางานของคําสงต่
ั อไปนี
double d = 9.9;
int i = 2;
i = (int)d;
1 : ชนิดของข ้อมูลตัวแปร d มีการเปลียนแปลง
2 : ค่าทีจัดเก็บในตัวแปร d มีการเปลียนแปลง
3 : ค่าทีจัดเก็บในตัวแปร i มีการเปลียนแปลง
4 : ค่าทีจัดเก็บในตัวแปร i และ d มีการเปลียนแปลง

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 13 :

คําสงใดที ทําการเปลียนแปลงค่าทีจัดเก็บในตัวแปร x
1 : x +=3;
2 : y=x+3;
3 : x *=1;
4 : x /=1;

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 14 :
ข ้อใดคือหน ้าทีของ Compiler
1 : ชว่ ยติดต่อกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
2 : ชว่ ยแก ้ไขรหัสคําสงโปรแกรมให
ั ้ถูกต ้อง
3 : ชว่ ยจัดสรรทรัพยากรภายในระบบคอมพิวเตอร์ให ้กับโปรแกรมต่าง ๆ
4 : ชว่ ยแปลคําสงภาษาโปรแกรมต่
ั าง ๆ ให ้คอมพิวเตอร์เข ้าใจและทํางานได ้
ธิ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สท

ข ้อที 15 :
วน

ข ้อใดต่อไปนีคือความหมายของโปรแกรม

1 : ชุดคําสงเพื
อทําให ้คอมพิวเตอร์ปฏิบตั งิ าน
สง

ั ลักษณ์ทส
2 : สญ ื
ี อความหมายให ื
้เครืองคอมพิวเตอร์และคนสามารถสอสารกั
นได ้โดยผ่านกรรมวิธท
ี กํ
ี าหนดขึน
3 : ชุดของเลขฐานสองอาทิ 01101011 ทีคอมพิวเตอร์เข ้าใจ
ขอ

4 : ถูกทุกข ้อ


คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ว กร
ข ้อที 16 :

เครืองคอมพิวเตอร์ในยุคที 2 ใชเทคโนโลยี
ใด
1 า
: วศิ
ทรานซสิ เตอร์ (Transistors)
สภ
2 : หลอดแก ้วสุญญากาศ (Vacuum tubes)
3 : ไมโครโพรเซสเซอร์ (Microprocessors)
4 : วงจรรวม (Integrated circuits)

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 17 :

การประมวลคําสงในลั
กษณะการทํางานแบบสายท่อ (pipelining) สอดคล ้องกับข ้อใด
1 : การประมวลผลแบบแถวลําดับ (Array processing)
2 : การประมวลผลแบบขนาน (Parallel processing)
3 : สถาปั ตยกรรม Von Neumann
4 : ระบบหลายตัวประมวลผล (Multiprocessing)

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 18 :
ข ้อใดเป็ นความแตกต่างระหว่าง Compiler และ Interpreter ทีถูกต ้อง
1 : Compiler ทําหน ้าทีแปลภาษาคอมพิวเตอร์ทล ี ะบรรทัด แต่ Interpreter จะแปลภาษาทังโปรแกรม
2 : Compiler แปลได ้เฉพาะภาษาเครือง แต่ Interpreter จะแปลได ้ทุกภาษา
3 : Compiler จะทําการแปลภาษาคอมพิวเตอร์ทงโปรแกรม
ั แต่ Interpreter จะแปลภาษาคอมพิวเตอร์บรรทัดต่อ
บรรทัด
4 : ในการ Debug โปรแกรม ควรใช ้ Compiler ในการแปลมากกว่า Interpreter เพราะจะหาข ้อผิดพลาดได ้ง่ายกว่า

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 19 :

หลังจากทีทําการเขียนโปรแกรมจนเสร็จเรียบร ้อยแล ้ว จะต ้องคัดลอกไฟล์ใดหากต ้องการนํ าโปรแกรมไปให ้ผู ้อืนใชงาน
1 : Executable File
2 : Source File
3 : Object File
4 : Library File

คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ธิ

ข ้อที 20 :
สท

่ ว่ นประกอบของคอมพิวเตอร์
ข ้อใดทีไม่ใชส

1 : คียบ
์ อร์ด
วน

2 : เมาท์
3 : จอภาพ
4 : กล่องเก็บซอล์ฟแวร์
สง

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
ข อ
ข ้อที 21 :

กร
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ใดทีมีลก
ั ษณะคล ้ายโปรแกรมภาษาเครือง


1 : COBAL
2 : C
3 : C++
4 :
า วศิ
ASSEMBLY
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 22 :
ข ้อใดถูกต ้องสําหรับการหาผลลัพธ์ในการประผวลผลข ้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์
1 : หน่วยอินพุท
2 : หน่วยเอาท์พทุ
3 : หน่วยความจําข ้อมูล
4 : หน่วยประมวลผลกลาง

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 23 :
การแปลภาษาเครืองทีละลําดับหมายถึง
1 : Translator
2 : Result
3 : Interpreter
4 : Complier

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 24 :
โฟลว์ชาร์ทตามรูปข ้างล่างนีหมายถึง
ธิ
สท

1 : ขบวนการประมวลผล

2 : อินพุท เอาท์พท

3 : ื
จุดเชอมต่ อภายในหน ้าเดียวกัน
วน

4 : การตัดสนิ ใจ
สง

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
ข อ
ข ้อที 25 :
ข ้อใดไม่ใชห่ น่วยเก็บข ้อมูลทีสามารถแก ้ไขได ้

กร
1 : RAM
2 : ROM


3 : Harddisk
4 : CompactFlash
า วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ

ข ้อที 26 :
ข ้อใดไม่ใชส่ ว่ นประกอบภายใน CPU ของไมโครคอมพิวเตอร์
1 : Cache memory
2 : ALU (Arithmetic Logic Unit)
3 : Harddisk
4 : Program Counter Register (PC)

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 27 :
ระบบปฏิบต ิ าร (Operating Systems) ตัวใดไม่ได ้ถูกพัฒนาสําหรับเครืองพีซ ี
ั ก
1 : Unix
2 : Linux
3 : Windows XP
4 : Symbian

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 28 :
จาก pseudocode:
a=0;
for i=1 to 10
a=a+3;
end
show_the_value_of(a);
ผลลัพธ์ทได ี ้คืออะไร
1 : 0
2 : 1
3 : 27
4 : 30

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ

ข ้อที 29 :
สท

จาก pseudocode: a=receive_input_from_user();


if a>5 and a<10 then


if a=8 then
วน

a=a+9;
else
สง

a=a+10;
end
ขอ

else


if a=0 then
a=a-10;

กร
end
end


ถ ้า run pseudocode ดังกล่าว 3 ครัง โดยกําหนดให ้ input จาก user คือ 10, 3, 7 ตามลําดับ ผลลัพธ์ของค่า a ทีได ้ใน
แต่ละรอบคือ:
1
2
า:
: วศิ
0 0 70
18 -7 0
สภ
3 : 9 10 -3
4 : 10 3 17

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 30 :

ข ้อใดบรรยายคุณลักษณะของ Random Access Memory (RAM) ทีใชในเครื
องคอมพิวเตอร์ได ้เหมาะสมทีสุด
1 : ้
ขนาดทีใชงานในเครื องคอมพิวเตอร์ทวไปแบบตั
ั งโต๊ะคือ 40 Gbyte
2 : ราคาถูกทีสุดเมือเทียบกับราคาของหน่วยความจําชนิดอืน
3 : ้
ความเร็วในการทํางานชามากเมื อเทียบกับการทํางานของหน่วยความจําชนิดอืน
4 : ข ้อมูลทีเก็บจะสูญหายเมือปิ ดเครือง

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 31 :
ไวรัสคอมพิวเตอร์คอ
ื อะไร

1 : เชอโรคชนิ ้
ดหนึงทีติดต่อระหว่างผู ้ใชงานทํ ้
าให ้เกิดการเจ็บป่ วย ในขณะทีเข ้าใชงานตามร ้านอินเตอร์เนตคาเฟ่

2 : เชอโรคชนิ ดหนึงทีติดต่อจากเครืองคอมพิวเตอร์มายังผู ้ใชงาน ้ แต่มค
ี วามรุนแรงไม่มาก
3 : โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทถู ้
ี กพัฒนาขึนมาเพือใชการตรวจสอบการทํ างานระบบป้ องกัน
4 : โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทประสงค์ี ึ
ร ้ายต่อข ้อมูลและการทํางานของเครืองคอมพิวเตอร์ ซงสามารถแพร่ กระจายจาก
เครืองสูเ่ ครือง โดยการใชงานร่
้ วมกันของไฟล์ หรือโปรแกรมต่าง ๆ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 32 :
ข ้อใดผิด
1 : ฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์คอ ิ จับตัองได ้ เชน
ื สงที ่ หน่วยประมวลผล
2 : ฮาร์ดดิกสเ์ ป็ นฮาร์ดแวร์ชนิดหนึง
3 : ฮาร์ดแวร์ทขาดไม่
ี ได ้คือตัวแปลโปรแกรม
4 : หน่วยความจําเป้ นฮาร์ดแวร์ทส ี ําคัญ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ

ข ้อที 33 :
ข ้อใดไม่ใชช่ อ
ื operating systems
สท

1 : Windows 2000
2 : Windows Office
วน

3 : Windows XP
4 : Linux
สง

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ขอ
ข อ
ข ้อที 34 :
ข ้อใดไม่ใชช่ อภาษาคอมพิ
ึ วเตอร์

กร
1 : Intel
2 : JAVA


3 : Basic
4 : C
า วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ

ข ้อที 35 :
จงบอกว่าอุปกรณ์ใดต่อไปนี เป็ นอุปกรณ์ประเภท standard output
1 : printer
2 : monitor
3 : diskette
4 : Key board

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 36 :
จงบอกว่าอุปกรณ์ใดต่อไปนี เป็ นอุปกรณ์ประเภท standard input
1 : printer
2 : monitor
3 : diskette
4 : Keyboard

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 37 :
ข ้อใดไม่เกียวข ้องกับการเขียนโฟลว์ชาร์ต
1 : การระบุสว่ น start/end ของโปรแกรม
2 : การระบุเงือนไขการทํางานต่างๆของโปรแกรม
3 : การระบุภาษาทีจะใชเขี ้ ยนโปรแกรม
4 : ้
การระบุตวั แปรทีจะใชในการคํ านวณ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 38 :
ข ้อใดไม่ใชต่ วั อย่างของอุปกรณ์ input
1 : Keyboard
2 : Mouse
3 : Monitor
ธิ

4 : Scanner
สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน

ข ้อที 39 :
สง

ค่าเลขฐาน 16 ต่อไปนี คือ 123 จะมีคา่ เท่ากับเลขฐานสองเท่าใด


1 : 0010 0010 0011
ขอ

2 : 0001 0001 0010


3 : 0010 0010 0010
4 : 0001 0010 0011

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4


ข ้อที 40 :
า วศิ ้ นหน่วยความจําหลัก(main memory)ของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์ใดไม่สามารถนํ ามาใชเป็
สภ
1 : RAM
2 : ROM
3 : PROM
4 : Flash Memory

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 41 :
คอมพิวเตอร์ 32 บิต คือ คอมพิวเตอร์ทมี

1 : หน่วยความจําขนาด 32 บิต
2 : บัสข ้อมูล(data bus) ขนาด 32 บิต
3 : บัสแอดเดรส(address bus) ขนาด 32 บิต
4 : รีจส
ิ เตอร์(register) ขนาด 32 บิต

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 42 :

การนํ าคอมพิวเตอร์ไปใชในการประมวลผลในข ้อใดไม่น่าเป็ นไปได ้
1 : คํานวณหาค่าสูงสุดของการรับนํ าหนักของสะพาน
2 : ั สด
หาระยะทางทีสนที ุ จากเมืองหนึงไปยังอีกเมืองหนึง
3 : พยากรณ์อากาศ
4 : พยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหว

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 43 :
พอร์ตอนุกรมแตกต่างจากพอร์ตขนานอย่างไร
1 : พอร์ตอนุกรมสามารถรับสง่ ข ้อมูลได ้ แต่พอร์ตขนานสง่ ข ้อมูลได ้อย่างเดียว
2 : พอร์ตอนุกรม สง่ ข ้อมูลเรียงกันไปทีละบิตบนสายหนึงเสน้ พอร์ตขนาน สง่ ข ้อมูลในแต่ละบิตออกไปพร ้อมๆ กันบน
สายหลายๆ เสน้
3 : พอร์ตอนุกรม สง่ ข ้อมูลโดยผ่านระบบปฏิบต ั ก
ิ าร พอร์ตขนาน สามารถเขียนโปรแกรมติดต่อได ้โดยตรง
4 : พอร์ตอนุกรม สง่ ข ้อมูลได ้คราวละหนึงไบต์ พอร์ตขนานสง่ ข ้อมูลได ้คราวละหลายๆ ไบต์
5:
ธิ

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สท

ข ้อที 44 :
วน

MO (Magneto-Optical) disk เป็ นหน่วยความจําทีมีพนฐานบนเทคโนโลยี


ื ใด
1 : เทคโนโลยีสารกึงตัวนํ า
สง

2 : เทคโนโลยีแสง
3 : เทคโนโลยีแม่เหล็ก
ขอ

4 : ข ้อ ข. และค. รวมกันเป็ นคําตอบทีถูกต ้อง


คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ว กร
ข ้อที 45 :
Unicode คืออะไร
1 า: วศิ ั ใชในซ
มาตรฐานชุดคําสงที ้ พี ย
ี ู

สภ
2 : มาตรฐานรหัสแทนข ้อมูลทีใชในการเก็ บและคํานวณของคอมพิวเตอร์
3 : มาตรฐานอุตสาหกรรมสําหรับการออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์
4 : ้
มาตรฐานรหัสใชในการแสดงตั วอักษรหรือข ้อความ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 46 :
ข ้อใด ไม่ใช ่ องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
1 : ฮาร์ดแวร์ ชนสิ ว่ นต่างๆ ทีประกอบกันเป็ นตัวเครือง
2 : ซอฟต์แวร์ โปรแกรมต่างๆ ทีจะให ้คอมพิวเตอร์ทํางาน
3 : ข ้อมูล ตัวเลขต่างๆ ทีเก็บอยูภ
่ ายในเครือง
4 : ้
สมชายทีต ้องใชคอมพิ ั ว์ในฟาร์ม
วเตอร์เก็บข ้อมูลสต

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 47 :
ข ้อใดจัดเป็ นหน่วยความจําหลักในระบบคอมพิวเตอร์
1 : RAM
2 : CD-ROM
3 : Floppy Disk
4 : Hard Disk

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 48 :
ิ ธิภาพของการทํางานของไดร์ฟมีประสท
หากต ้องการให ้ประสท ิ ธิภาพทีสูง คํากล่าวในข ้อใดถูกต ้องทีสุด
1 : จะต ้องมีความเร็วเฉลียในการเข ้าถึงข ้อมูลทีสูง และ ความเร็วในการถ่ายโอนข ้อมูลทีตํา
2 : จะต ้องมีความเร็วเฉลียในการเข ้าถึงข ้อมูลทีสูง และ ความเร็วในการถ่ายโอนข ้อมูลทีสูง
3 : จะต ้องมีความเร็วเฉลียในการเข ้าถึงข ้อมูลทีตํา และ ความเร็วในการถ่ายโอนข ้อมูลทีสูง
4 : จะต ้องมีความเร็วเฉลียในการเข ้าถึงข ้อมูลทีตําและ ความเร็วในการถ่ายโอนข ้อมูลทีตํา

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ

ข ้อที 49 :
พืนทีทีเล็กทีสุดในการอ่าน หรือ เขียนข ้อมูลลงไปในแผ่นดิสก์ หรือ ฮาร์ดดิสก์เรียกว่าอะไร
สท

1 : ไบต์ (Byte)

2 : บิต (Bit)
วน

3 : เซกเตอร์(Sector)
4 : แทร็ก (Track)
สง

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
ข อ
ข ้อที 50 :
เวลาในการเคลือนทีของหัวอ่านไปยังตําแหน่งทีต ้องการอ่านเขียนข ้อมูล เรียกว่า

กร
1 : Header Move Time
2 : Maximum Move Time


3 : Minimum Access Time
4 : Maximum Access Time
า วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ

ข ้อที 51 :
ความสามารถของระบบปฏิบต
ั ก ้
ิ ารทีสามารถใชงานโปรแกรมหลายๆ ตัวพร ้อมกันได ้เรียกว่า
1 : Multitasking
2 : Object Linking
3 : Object Embedding
4 : Multi User

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 52 :
ข ้อใดกล่าวถึงคําว่า Hierarchical File System ได ้ถูกต ้องทีสุด
1 : การเก็บรวบรวมข ้อมูลว่าโปรแกรมใดใชอุ้ ปกรณ์ตวั ใดอยู่
2 : ้
โครงสร ้างการทําเมนูเพือใชงานในโปรแกรมต่ างๆ
3 : ระบบทีใชส้ ําหรับการใชข้ ้อมูลร่วมกันในโปรแกรมต่างๆ
4 : ั
โครงสร ้างการจัดเก็บไฟล์ข ้อมูลทีมีโครงสร ้างแบบระดับชน

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 53 :
แป้ นพิมพ์กลุม ้ ้างคําสงลั
่ ใดใชสร ั ดในการสงงานคอมพิ
ั วเตอร์
1 : คียอ ์ ก ั ขระ
2 : คียต ์ วั เลข
3 : คียฟ ั
์ ั งก์ชน
4 : คียเ์ คลือนย ้ายตัวอักษร

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 54 :
หน่วยวัดความละเอียดในการพิมพ์ของเครืองพิมพ์มห
ี น่วยเป็ น
1 : Dot Pitch
2 : PPM
3 : DPI
ธิ

4 : bps
สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน

ข ้อที 55 :
สง


พอร์ท(Port)ชนิดใดของคอมพิวเตอร์สามารถรองรับการเชอมต่
อแบบPnP(Plug and Play)
1 : COM1
ขอ

2 : COM2


3 : USB
4 : ISA

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3


ข ้อที 56 :
า วศิ
่ น่วยวัดการทํางานของคอมพิวเตอร์
หน่วยใดไม่ใชห
สภ
1 : MIPS
2 : MFLOPS
3 : VUP
4 : IPS

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 57 :
หน่วยของข ้อมูลในคอมพิวเตอร์ทเล็
ี กทีสุดคืออะไร?
1 : Bit
2 : Byte
3 : Field
4 : Record

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 58 :
มาตรฐานรหัสใดทีนิยมใชกั้ นมากในปั จจุบน

1 : EBCDIC
2 : ASCII
3 : BCD
4 : UCB

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 59 :
อุปกรณ์ใดต่อไปนีมีการจัดเก็บและเข ้าถึงข ้อมูลแบบลําดับ
1 : Floppy Disk
2 : Hard Disk
3 : CDROM
4 : Tape

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท

ข ้อที 60 :

ระบบเครือข่ายใดมีขนาดใหญ่ทสุ
ี ด
วน

1 : MAN
2 : LAN
3 : WAN
สง

4 : ไม่มข
ี ้อถูก
ขอ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3


กร
ข ้อที 61 :


ความหมายของคําว่าขันตอนวิธ ี (Algorithm) คือข ้อใด
1 : การทําความเข ้าใจกับปั ญหาทีเกิดขึน

วศิ
2 : การหาวิธแ
ี ก ้ปั ญหา
3 า
: การอธิบายลําดับขันตอนการทํางานเป็ นข ้อๆตังแต่ขนตอนแรกถึ
ั งขันตอนสุดท ้าย
สภ
4 : การทดสอบวิธแ ี ก ้ปั ญหา

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 62 :
เมือเปรียบเทียบกับร่างกายมนุษย์ สว่ นใดของคอมพิวเตอร์ททํ
ี าหน ้าทีเปรียบเทียบได ้กับการทํางานของสมอง
1 : CPU + RAM
2 : CPU + Harddisk
3 : RAM + Harddisk
4 : OS + RAM

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 63 :

อุปกรณ์ชนใดที
สามารถทําหน ้าทีเป็ นได ้ทัง Input และ Output
1 : Keyboard, Scanner
2 : Printer, Floppy Disk
3 : Harddisk, Touch Screen
4 : Touch Pad, Monitor

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 64 :
ข ้อใดไม่ใช ่ OS (ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารของคอมพิวเตอร์)
1 : Opera
2 : Linux
3 : DOS
4 : Unix

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 65 :
คอมพิวเตอร์ตงโต๊
ั ะจัดเป็ นคอมพิวเตอร์ประเภทใด
ธิ

1 : Mini Computer
สท

2 : Super Computer
3 : Micro Computer

4 : Analog Computer
วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ขอ
ข อ
ข ้อที 66 :
Hard Disk จัดเป็ นหน่วยความจําประเภทใด

กร
1 : หน่วยความจําหลัก
2 : หน่วยความจําสํารอง


3 : หน่วยความจําถาวร
4 : ั
หน่วยความจําชวคราว
า วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ

ข ้อที 67 :
ข ้อใดคือรูปแบบข ้อข ้อมูลทีสามารถนํ าเข ้าสูร่ ะบบสารสนเทศ
1 : ภาพนิง
2 : ภาพเคลือนไหว
3 : เสยี ง
4 : ถูกทุกข ้อ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 68 :
ข ้อใดกล่าวผิดเกียวกับ Pseudo code และ flow chart
1 : Pseudo code และ flow chart ถูกสร ้างขึนเพือจัดรูปแบบความคิดในการเขียนโปรแกรมให ้เป็ นระบบ
2 : ั
Pseudo code จําเป็ นจะต ้องถูกแปลงเป็ น flow chart ก่อนเป็ นคําสงของโปรแกรมคอมพิ
วเตอร์
3 : การเขียน Flow chart จะเน ้นการใชส้ ญ
ั ลักษณ์เพือให ้อ่านเข ้าใจได ้
4 : ผิดทุกข ้อ

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 69 :
ข ้อใดไม่ใชห่ น ้าทีของ OS (Operating System)
1 : แบ่งปั นทรัพยากรและเนือหาในหน่วยความจําให ้แต่ละโปรแกรม
2 : โหลดโปรแกรมขึนมาทํางาน
3 : อ่านและเขียนข ้อมูลจากไฟล์
4 : ้
ใชประสานงานการติ ้
ดต่อกับผู ้ใชงาน

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 70 :
้ งแรกทีประเทศใด
เครือข่ายอินเตอร์เน็ ตใชครั
1 : อังกฤษ
2 : ไทย
3 : ญีปุ่ น
ธิ

4 : สหรัฐอเมริกา
สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วน

ข ้อที 71 :
สง

คอมพิวเตอร์มบ ึ ษาอย่างไร
ี ทบาทกับการศก
้ จกรรมการเรียนการสอน เชน
1 : นํ ามาประยุกต์ใชในกิ ่ ทําสอต่
ื างๆ
ขอ

2 : จัดทําประวัตน
ิ ักเรียน ประวัตคิ รูอาจารย์


้ นแหล่งเรียนรู ้ เชน
3 : ใชเป็ ่ การค ้นคว ้าจากอินเทอร์เน็ ต
4 : ถูกทุกข ้อ

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4


ข ้อที 72 :

หน่วยใดมีลก วศิ
ั ษณะการทํางานคล ้ายกับสมองของมนุษย์
สภ
1 : หน่วยประมวลผล
2 : หน่วยรับข ้อมูล
3 : หน่วยความจํา
4 : หน่วยแสดงผล

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 73 :
คอมพิวเตอร์ยค ้
ุ ใด ใชวงจรไอซ ี (Integrated Circuit) เป็ นหลัก
1 : คอมพิวเตอร์ยค
ุ แรก
2 : คอมพิวเตอร์ยคุ ที 2
3 : คอมพิวเตอร์ยค ุ ที 3
4 : คอมพิวเตอร์ยค ุ ในยุคปั จจุบน

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 74 :
ข ้อใดเป็ นอุปกรณ์รับข ้อมูลเบืองต ้น
1 : จอภาพ
2 : คียบ
์ อร์ด
3 : เครืองพิมพ์
4 : กล่องใสด ่ ส
ิ ก์

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 75 :
อุปกรณ์ทช ี ว่ ยในการสํารองไฟฟ้ าเวลาไฟดับหรือไฟตก เรียกว่าอะไร
1 : Power Supply
2 : Monitor
3 : UPS
4 : Case

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
สท

ข ้อที 76 :

หน่วยความจําในข ้อใด มีความจุมากทีสุด


วน

1 : SDRAM
2 : Hard Disk
3 : CD-ROM Disk
สง

4 : Floppy Disk
ขอ

คําตอบทีถูกต ้อง : 2


กร
ข ้อที 77 :


อุปกรณ์ในข ้อใด ถือว่าเป็ นอุปกรณ์ตอ
่ พ่วง
1 : เมาส ์

วศิ
2 : คียบ
์ อร์ด
3 า: เครืองพิมพ์
สภ
4 : สายไฟ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 78 :

ชุดคําสงหรื อโปรแกรมทีใชส้ งงานให
ั ้คอมพิวเตอร์ทํางาน เรียกว่าอะไร
1 : ซอฟต์แวร์
2 : ฮาร์ดแวร์
3 : พีเพิลแวร์
4 : ระเบียบวิธปี ฏิบต
ั ิ

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 79 :
ผลลัพธ์ของนิพจน์ 1 + 4 / 2 คือข ้อใด
1 : 2.5
2 : 3
3 : 2
4 : 3.5

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 80 :
จงหาคําตอบของ 2 + 3 * 4 - 1
1 : 11
2 : 13
3 : 15
4 : 19

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 81 :

ในการเขียนโปรแกรมเพือใชในการหาระยะขจั ดของวัตถุทตกลงสู
ี พ ่ นจากสู
ื ตร s = 0.5 * g * t^2 ควรมีการสร ้างค่าคงทีกี
ธิ

ตัวในโปรแกรม
สท

1 : 1
2 : 2

3 : 3
วน

4 : 4

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ขอ

ข ้อที 82 :


ึ ษาเรียนได ้ไม่เกิน 8 ปี ในการเขียนโปรแกรมเพือทําการหาค่าเฉลียของจํานวน
ถ ้าในมหาวิทยาลัยกําหนดให ้นักศก
นักศก ึ ษาในแต่ละชนปี
ั (โดยเขียนให ้สนที
ั สุดและใชตั้ วแปรและค่าคงทีน ้อยทีสุด) จะต ้องใชตั้ วแปรและค่าคงทีประเภทใด

กร
บ ้าง ประเภทละกีตัวจึงจะเหมาะสมทีสุด


1 : Integer 2 ตัว, Real 1 ตัว, ค่าคงที 1 ตัว
2 : Integer 1 ตัว, Real 2 ตัว, ค่าคงที 1 ตัว
3 : Integer 2 ตัว, Real 2 ตัว, ค่าคงที 2 ตัว
4 า:
วศิ
Integer 1 ตัว, Real 1 ตัว, ค่าคงที 2 ตัว
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 83 :

Assignment Statement ใชในการทํ าอะไร
1 : กําหนดค่าให ้กับตัวแปร
2 : เปรียบเทียบค่าของ expression
3 : สร ้าง Array
4 : วนลูป

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 84 :
Tool ตัวใดทีชว่ ยในการลดขนาดของแฟ้ มข ้อมูล
1 : WinRAR
2 : Oracle
3 : Apache
4 : WinAmp

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 85 :

ถ ้าเครืองคอมพิวเตอร์ของท่านทํางานชาลงอย่ ื
างมากเมือเปรียบเทียบกับการทํางานของเครืองเมือเพิงซอมาใหม่ ท่านคิด
ว่าควรใช ้ Tool ใดในการแก ้ไขปั ญหานี
1 : Norton SystemWork
2 : McAfee Internet Security
3 : MS Office Tools
4 : Adobe Acrobat

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 86 :
ข ้อใดคือมาตรฐานของระบบเครือข่ายท ้องถินทีนิยมใชกั้ นมากทีสุดในปั จจุบน

1 : IEEE 802.3
ธิ

2 : IEEE 802.4
สท

3 : IEEE 802.5

4 : IEEE 802.6
วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง

ข ้อที 87 :
ขอ

คอมพิวเตอร์ไม่เหมาะกับงานประเภทใด


1 : งานทีต ้องการความถูกต ้องสูง

กร
2 : งานทีมีปริมาณมาก
3 : งานทีต ้องการความรวดเร็วมาก
4 : ิ ใจไม่แน่นอน
งานทีมีเงือนไขการตัดสน


คําตอบทีถูกต ้อง : 4
า วศิ
สภ
ข ้อที 88 :
หน่วยวัดความจุใด มีคา่ เท่ากับ 1024 Byte
1 : Megabyte
2 : Kilobyte
3 : Gigabyte
4 : Terabyte

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 89 :
สมาชก ิ ทีเล็กทีสุด หรือค่าทีน ้อยทีสุด ซงแทนได
ึ ้เพียงค่าศูนย์ หรือค่าหนึงเท่านัน เรียกว่า
1 : Bit
2 : Byte
3 : Word
4 : Character

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 90 :

ภาษาสงงานใดที
คล ้ายภาษาเครืองมากทีสุด
1 : Fortran Language
2 : NGV Language
3 : Cobol Language
4 : Assembly Language

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 91 :
ข ้อใดเป็ นขันตอนการเขียนโปรแกรมทีถูกต ้องทีสุด
1 : การทดสอบโปรแกรม, การเขียนโปรแกรม, การเขียนผังงาน, การวิเคราะห์งาน
2 : การเขียนโปรแกรม, การทดสอบโปรแกรม, การวิเคราะห์งาน, การเขียนผังงาน
3 : การวิเคราะห์งาน, การเขียนผังงาน, การเขียนโปรแกรม, การทดสอบโปรแกรม
4 : การวิเคราะห์งาน, การเขียนโปรแกรม, การเขียนผังงาน, การทดสอบโปรแกรม
ธิ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สท

วน

ข ้อที 92 :
คอมพิวเตอร์สามารถรับรู ้คําพูดของมนุษย์ โดยไม่คํานึงว่าใครเป็ นผู ้พูดเราเรียกว่า
สง

1 : Voice Computer
2 : Voice Technology
3 : Special Computer
ขอ

4 : Voice Recognition


คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ว กร
ข ้อที 93 :
ข ้อใดเป็ นภาษาคอมพิวเตอร์
1 า
: วศิ
BASIC , POWERPOINT
สภ
2 : BASIC , COBOL
3 : COBOL , EXCEL
4 : COBOL , POWERPOINT

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 94 :
การบริการโอนย ้ายข ้อมูลได ้แก่บริการใด
1 : FTP
2 : IBM
3 : PPP
4 : GPD

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

เนือหาวิชา : 2 : ชนิดของข ้อมูล

ข ้อที 95 :
ถ ้าต ้องการเก็บข ้อมูลค่าตัวเลข 7.82 ต ้องใชตั้ วแปรประเภทใด
1 : integer
2 : char
3 : float
4 : bit

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 96 :
ผลลัพธ์ของการกระทํา int * float จะให ้ผลลัพธ์ เป็ นชนิดข ้อมูลแบบใด
1 : char
2 : int
3 : float
4 : double
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
ธิ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สท

ข ้อที 97 :
วน

ถ ้าข ้อมูลมีคา่ 3.54 ถ ้าเก็บค่าในตัวแปร int จะให ้ค่าผลลัพธ์เป็ นอย่างไร


1 : 3.54
สง

2 : 3.5
3:3
ขอ

4:0


คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ว กร
ข ้อที 98 :
ข ้อใดต่อไปนีถูกต ้อง
1 า: วศิ
4 bits = 1 byte
สภ
2 : 8 bits = 1 byte
3 : 1000 bytes = 1 kilobyte (KB)
4 : 1000 KB = 1 megabyte (MB)

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 99 :
16.07 ควรกําหนดเป็ นข ้อมูลชนิดใด
1 : อักขระ
2 : ข ้อความ
3 : จํานวนเต็ม
4 : จํานวนทศนิยม

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 100 :
้ ลชนิดตัวอักษร 1 ตัว มีความกว ้างกีบิต
ชอมู
1 : 7 บิต
2 : 8 บิต
3 : 9 บิต
4 : 16 บิต

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 101 :
ผลจากการทํางานของโปรแกรม ค่า x, y, z มีคา่ เท่ากับเท่าไหร่
int x = 8;
double y = 3;
int z = 2;
x++;
y = y / z;
z = (int)y;
x - 1;
1 : x=9 y=1 z=2
2 : x=9 y=1.5 z=1
ธิ

3 : x=8 y=1 z=2


4 : x=8 y=1.5 z=1
สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วน
สง

ข ้อที 102 :
ึ คา่ ตังแต่ 1 ถึง 32767 เก็บไว ้ทีตัวแปร n เราควรกําหนดอย่างไร?
ถ ้าเราต ้องการเก็บค่าของเลขจํานวนเต็มบวกซงมี
ขอ

1 : int n;


2 : signed int n;
3 : unsigned int n;

กร
4 : unsigned char n;


คําตอบทีถูกต ้อง : 3


ข ้อที 103 :
วศิ
สภ
้ อทีในหน่วยความจํามากทีสุด?
การประกาศตัวแปรต่อไปนี ข ้อใดใชเนื
1 : char str[13] = “California”;
2 : char grade, school[ ] = “SUT KORAT”;
3 : int x, y, z[5];
4 : float average, gpa, mean;

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 104 :
กําหนดให ้ char ch = ’A’; ผลของการใชคํ้ าสงั printf ในข ้อใดกล่าวถูก? (รหัส ASCII ของ A = 65)
1 : printf(”%c %c”, ch, 65); ผลทีแสดงออกทีจอภาพคือ A 65
2 : printf(”%d %c”, ch, 65); ผลทีแสดงออกทีจอภาพคือ A 65
3 : printf(”%c %d”, 65, 65); ผลทีแสดงออกทีจอภาพคือ A A
4 : printf(”%d %d”, 65, ch); ผลทีแสดงออกทีจอภาพคือ 65 65

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 105 :
ในการประกาศตัวแปร char str[ ] = ”I love \”ABC\”.”;
str จะถูกกําหนดขนาดในหน่วยความจําเท่าไร?
1 : 12 bytes
2 : 13 bytes
3 : 14 bytes
4 : 15 bytes

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 106 :
ื วแปรใดต่อไปนีไม่สามารถนํ าไปใชในการประกาศตั
ชอตั ้ วแปรในภาษาโปรแกรมทัว ๆ ไปได ้
1 : report_99
2 : food
3 : general
4 : 7sumurai
ธิ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สท

วน

ข ้อที 107 :
ถ ้าต ้องการให ้ตัวแปร x เก็บค่า -123456
จะต ้องประกาศให ้ตัวแปร x เป็ นชนิดอะไร
สง

1 : unsigned long
2 : int
ขอ

3 : unsigned int


4 : long

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4


ข ้อที 108 :
า วศิ
ต ้องประกาศตัวแปรเป็ นชนิดอะไร
จึงจะเก็บค่า 12345 ได ้อย่างประหยัดหน่วยความจําทีสุด
สภ
1 : double
2 : int
3 : long
4 : float

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 109 :
ข ้อใดคือความหมายของตัวแปรท ้องถิน (Local Variable) และตัวแปรภายนอก (Global Variable)
1 : Local Variable คือตัวแปรทีกําหนดภายในฟั งก์ชนั หรือลูปของโปรแกรม Global Variable คือตัวแปรทีกําหนด
ภายนอกโปรแกรมหลัก
2 : Local Variable คือตัวแปรทีมองเห็นเฉพาะในฟั งก์ชนั หรือในลูปโปรแกรม Global Variable คือตัวแปรทีสามารถ
มองเห็นได ้ทุกแห่งในโปรแกรม
3 : Local Variable คือตัวแปรทีเปลียนแปลงค่าได ้ Global Variable คือตัวแปรทีไม่สามารถเปลียนแปลงค่าได ้
4 : ถูกเฉพาะข ้อ 1 และ 2

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 110 :
คอมพิวเตอร์จัดเก็บข ้อมูลทุกชนิดในรูปแบบใด
1 : เลขฐานสอง
2 : ิ หก
เลขฐานสบ
3 : เลขฐานสบิ
4 : เลขฐานสบ ิ แปด

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 111 :
เราควรระบุชนิดของตัวแปรให ้สอดคล ้องกับชว่ งการเก็บข ้อมูลทีเป็ นไปได ้ เหตุผลข ้อใดสําคัญทีสุด
1 : เพือความรวดเร็วในการคํานวณ
2 : เพือให ้สามารถเก็บข ้อมูลทุกตัวได ้ถูกต ้อง
3 : เพือรักษาความปลอดภัยของข ้อมูล
4 : เพือให ้หน่วยประมวลผลทํางานง่ายขึน
ธิ

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สท

ข ้อที 112 :
วน

้ อทีกีบิตในการเก็บค่า Magnitude ของเวิรด


ในการเก็บค่าเลขจํานวนเต็มด ้วยวิธ ี Sign-Magnitude จะต ้องใชเนื ์ ทีมี n บิต
1 : n-1 บิต
สง

2 : n-2 บิต
3 : n บิต
ขอ

4 : n+1 บิต


คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ว กร
ข ้อที 113 :
้ ถงึ ตัวแปรประเภทใด
int ใชระบุ
1 า: วศิ
ตัวอักขระ
สภ
2 : ชุดข ้อความ
3 : ตัวเลขจํานวนเต็ม
4 : เลขฐาน 16

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 114 :
้ ชนิดตัวแปรประเภทใด
float ใชระบุ
1 : เลขฐาน 16
2 : ชุดข ้อความ
3 : ตัวเลขจํานวนเต็ม
4 : ตัวเลขจํานวนจริง

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 115 :
จงแปลงเลข 4286 เป็ นเลขฐานสอง
1 : 01100010001110
2 : 01100101001110
3 : 01000110110110
4 : 01000010111110

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 116 :
ในการเขียนโปรแกรมภาษา C,C++ คําตอบข ้อใดเป็ นข ้อมูลของเลขฐาน 16
1 : 120X
2 : 0X14
3 : 013
4 : 31H

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ

ข ้อที 117 :
ข ้อมูลในลักษณะใดทีถูกต ้องทีสุดต่อไปนีเป็ นข ้อมูลทีเรียกว่า อะเรย์
สท

1 : เป็ นข ้อมูลเลขจํานวนจริง

2 : เป็ นข ้อมูลเลขจํานวนเต็ม
วน

3 : เป็ นข ้อมูลชนิดข ้อความ


4 : เป็ นข ้อมูลชนิดเดียวกันหลายข ้อมูลทีใชช้ อตั
ื วแปรตัวเดียวกัน
5 : เป็ นข ้อมูลทีไม่สามารถนํ ามาคํานวณได ้
สง

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
ข อ
ข ้อที 118 :

กร
การประกาศค่าตัวแปรในการเขียนโปรแกรมภาษา c,c++ ทีเก็บข ้อมูลของเลขฐาน 8 และฐาน 16 จะประกาศเป็ นตัวแปร
ชนิด


1 : float
2 : double
3
4
า:
: วศิ
int
long double
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 119 :
้ นทีหน่วยความจําน ้อยทีสุด
ตัวแปรชนิดใดทีใชพื
1 : char
2 : int
3 : float
4 : double

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 120 :
้ นทีในหน่วยความจําขนาด 4 bytes
ตัวแปรชนิดใดทีใชพื
1 : char
2 : ussigned char
3 : int
4 : float

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 121 :
ื วแปร
ข ้อใดถือว่าถูกต ้องในการตังชอตั
1 : @@AA
2 : #aa
3 : !aa
4 : aa_

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 122 :
ข ้อใดเป็ นคําตอบทีถูกต ้องสําหรับการกําหนดค่าตัวแปร
1 : char[2] name ="abcde";
ธิ

2 : char{2} name = "abcde";


สท

3 : char[6] name ="abcde";


4 : char{6} name = "abcde";


วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง

ข ้อที 123 :
ขอ

รหัสบังคับการพิมพ์ใดในโปรแกรมภาษา C ทีใชส้ ําหรับการพิมพ์เลขจํานวนเต็มทีไม่มเี ครืองหมาย


1 : %c

กร
2 : %e
3 : %f
4 : %u


คําตอบทีถูกต ้อง : 4
า วศิ
สภ
ข ้อที 124 :

คําสงในภาษา C,C++ ทีใชส้ ําหรับบังคับการพิมพ์ให ้ทําการเลือนแท็บในแนวตัง
1 : \n
2 : \t
3 : \v
4 : \r

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 125 :
x เป็ นข ้อมูลชนิด Real
y เป็ นข ้อมูลชนิด Integer

ั ้อใดทีไม่สามารถใชงานได
คําสงข ้ ้ เนืองจากเกิดข ้อผิดพลาดในการ compile หรือ run โปรแกรม
1 : x +y
2 : x mod y
3 : x *y
4 : x /y

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 126 :
ตัวแปร X ในข ้อใดสามารถกําหนดชนิดตัวแปรประเภท int
1 : x = 3000000000
2 : X = 35.01
3 : x = 300 + 20*3
4 : x = 3.1416 * 2

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 127 :
ตัวแปรชนิดใดเหมาะสมทีสุด สําหรับเก็บค่าเฉลีย
1 : integer
2 : character
ธิ

3 : string
สท

4 : float

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วน
สง

ข ้อที 128 :
ต ้องการประกาศตัวแปรเพือเก็บข ้อมูลชนิดตัวอักขระตัวเดียวควรประกาศตัวแปรเป็ นชนิดข ้อมูลใดต่อไปนี
ขอ

1 : char


2 : string
3 : real

กร
4 : integer


คําตอบทีถูกต ้อง : 1


ข ้อที 129 :
วศิ
สภ
ถ ้าให ้
a=5
b=3
c=true
d=(a>b) xor c
d มีเท่ากับข ้อใด
1 : a>b
2 : a<>b
3 : not c
4 : ถูกทังคําตอบที 1 และ 2

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 130 :
จาก program Q3 เป็ นการแปลงอุณหภูม ิ จาก °C (ตังแต่ 0°C ถึง 100°C) เป็ น °F เมือต ้องการทําให ้โปรแกรมนีสมบูรณ์
บรรทัดที 6 ควรเติมอะไร

program Q3
1 Program Q3;
2 uses wincrt;
3 var i:integer;
4 c, f: real;
5
6 Procedure CalF(....................., b: real);
7 begin
8 a:= (b*9/5)+32;
9 end;
10Begin
11 writeln('C to F');
12 for i:= 0 to 100 do
13 begin
14 c:= .............;
15 ........................;
16 writeln(C:5:1, F:8:1);
17 end;
18end.
ธิ

1 : a: integer
2 : a: real
สท

3 : var a: integer

4 : var a:real
วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง

ข ้อที 131 :
ขอ

หากกําหนดตัวแปรดังนี x,y เป็ นชนิดจํานวนเต็ม z เป็ นชนิดจํานวนจริง c เป็ นชนิดอักขระ ข ้อใดเป็ นนิพจน์(expression)ที


ไม่ถก
ู ต ้อง

กร
1 : x+y/z
2 : -z
3 : x*x*y


4 : z+c

วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

สภ
ข ้อที 132 :
ถ ้าท่านต ้องเขียนโปรแกรมเพือหาผลคูณของเมตริกซ ์ ตัวแปรทีใชเก็
้ บข ้อมูลเมตริกซท
์ เหมาะสมมากที
ี สุดควรเป็ นประเภท
ใด
1 : จํานวนเต็ม
2 : ประเภทโครงสร ้าง(record หรือ structure)
3 : อาเรย์ 2 มิต ิ
4 : พอยน์เตอร์(pointer)

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 133 :
หากกําหนดตัวแปรสามตัวดังนีคือ char a,b,c; หาก b มีคา่ เท่ากับ 100 และ c มีคา่ เท่ากับ 100 แล ้ว a=b*c; จะให ้ผลอ
ย่างไร
1 : a จะเก็บค่า 10000
2 : a จะเก็บค่า -10000
3 : ึ นค่าทีสูงทีสุดเท่าทีตัวแปรชนิด char เก็บค่าได ้
a จะเก็บค่า 255 ซงเป็
4 : ึ
เกิดความผิดพลาดในการจัดเก็บค่าลงใน a ซงอาจส ง่ ผลต่อการทํางานของโปรแกรมโดยรวมได ้

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 134 :
ข ้อมูลของนํ าหนักคนจัดเป็ นข ้อมูลประเภทใด
1 : Real
2 : Integer
3 : Alphabet
4 : Boolean

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 135 :
ข ้อมูลประเภท Date ควรจัดอยูใ่ นข ้อมูลประเภทใด
1 : Real
2 : Integer
ธิ

3 : Boolean
สท

4 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วน
สง

ข ้อที 136 :
ั ทีรับข ้อมูลทีละตัวอักขระ
ข ้อใดคือฟั งก์ชน
ขอ

1 : printf();


2 : chart();
3 : clrscr();

กร
4 : getchar();


คําตอบทีถูกต ้อง : 4


ข ้อที 137 :
วศิ
สภ
ข ้อใดคือรหัสควบคุมรูปแบบสําหรับการแสดงผลตัวเลขจํานวนเต็ม
1 : %c
2 : %f
3 : %d
4 : %s

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 138 :
ข ้อมูลชนิดตัวเลข Float ตรงกับข ้อใด
1 : 0123
2 : 0x174
3 : 55.5555
4 : -2345

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 139 :
ั บข ้อมูล
ข ้อใดต่อไปนีคือคําสงรั
1 : scanf()
2 : printf()
3 : getinfo()
4 : putchar()

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 140 :
ื วแปรในโปรแกรมภาษาซ ี
ข ้อใดคือหลักการตังชอตั
1 : ต ้องขึนต ้นด ้วยตัวเลข
2 : ภายในชอต ื ้องใชส้ ญ ั ลักษณ์ #
3 : ความหมายของชอไม่ ื ควรเกิน 64 ตัว
4 : ภายในชอไม่ื มเี ว ้นวรรค

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท

ข ้อที 141 :
วน

ข ้อมูลทีมี 0x นํ าหน ้า เป็ นตัวเลขแบบใด


1 : ข ้อมูลชนิดเลขฐานแปด
สง

2 : ข ้อมูลชนิดทศนิยม
3 : ข ้อมูลชนิดจํานวนเต็ม
4 : ข ้อมูลชนิดเลขฐานสบ ิ หก
ขอ
อข
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ว กร
ข ้อที 142 :

การตังชอในข ้อใดถูกต ้องในโปรแกรมภาษาซ ี

วศิ
1 : com-puter
2 า: 8number
สภ
3 : right#
4 : class_room

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 143 :

การตังชอในข ้อใดถูกต ้องในโปรแกรมภาษาซ ี
1 : 007bond
2 : james_bond
3 : jason born
4 : jamesbond%

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 144 :

ข ้อใดต่อไปนีคือคําสงแสดงผลที
ละอักขระ
1 : printf()
2 : scanf()
3 : getchar()
4 : putchar()

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 145 :
ั ใดเป็ นการแสดงผลออกทางหน ้าจอ
ฟั งก์ชน
1 : printf()
2 : scanf()
3 : gets()
4 : fopen()

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 146 :
ั ใดเป็ นการรับข ้อมูลเป็ นข ้อความ
ธิ

ฟั งก์ชน
สท

1 : printf()
2 : fgetpos()

3 : switch()
วน

4 : gets()

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง
ขอ
ข อ
เนือหาวิชา : 3 : กระบวนการทางคณิตศาสตร์และตรรกศาสตร์

กร
ข ้อที 147 :


จงเขียนสมการทางคอมพิวตอร์จากสมการทางคณิตศาสตร์ทกํ
ี าหนดมาให ้

า วศิ
สภ
1 : y=a*b/c*d + b/ a+c + a*b*c /d ;
2 : y=a*b/c*d + b/(a+c) + a*b*c /d ;
3 : y=a*b/c/d + b/(a+c) + a*b*c /d ;
4 : y=a*b/c/d + b/a+c + a*b*c /d ;

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 148 :
กําหนดให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นชนิดจํานวนเต็ม
ถ ้า a = 100 ; b = 200 ; c = 50 ; d = 2 ;
a/c/d*b + b /(a+c) + a/d*c*b/1000 ; มีคา่ เท่าไร
1 : 701
2 : 700
3 : 501
4 : 702

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 149 :
ให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นชนิดจํานวนเต็ม
จงหาค่าของ x,a, และ b หลังจากสว่ นของโปรแกรมข ้างล่างนีทํางานเสร็จ
x = 0; a = -2; b = 5;
x = x + a; a = a + b; b = b - 6;
x = b + a; a = a + 1; b = b + 1;
x = b + a; a = a + 1; b = b + 1;
x = b + a; a = a + 1; b = b + 1;

1 : x=0, a = -2, b = 5
2 : x = 4, a = 6, b = 2
3 : x = 6, a =6, b = 2
4 : x = 6, a = 5, b = 1

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 150 :
ให ้ a และ b เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม
ธิ

ถ ้า a = 5, b = 2 ผลลัพธ์ของ a / b มีคา่ เท่าใด


สท

1 : 2
2 : 2.5

3 : 1
วน

4 : 0.5

คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง
ขอ

ข ้อที 151 :


ให ้ a และ b เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม และ % คือ modulus operator
ถ ้า a = 5, b = 2 ผลลัพธ์ของ a % b มีคา่ เท่าใด

กร
1 : 2


2 : 2.5
3 : 1
4 : 0.5
า วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ

ข ้อที 152 :
ข ้อใดให ้ผลลัพธ์เท่ากับ (a+b/c-d)*e
1 : ((a+b)/c-d)*e
2 : (a+b)/c-d*e
3 : a+b/c*e-d*e
4 : (a*e+b*e/c-d*e)

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 153 :
-(-15+(2*4-2))+((6+3)*5+7)/4 มีคา่ เท่าใด
1 : 23
2 : 22
3 : 21
4 : 20

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 154 :
ข ้อใดต่อไปนีผิด
1 : (a AND b) เป็ นจริง ก็ตอ ่ เมือทัง a และ b มีคา่ เป็ นจริง
2 : (NOT a) เป็ นเท็จ ก็ตอ่ เมือ a มีคา่ เป็ นจริง
3 : (a OR b) เป็ นเท็จ ก็ตอ่ เมือทัง a และ b มีคา่ เป็ นเท็จ
4 : NOT (a AND b) เป็ นจริง ก็ตอ ่ เมือ a หรือ b มีคา่ เป็ นเท็จ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 155 :
กําหนดให ้ X=1, Y=10, Z=100 นิพจน์ใดต่อไปนีได ้ค่าตรรกะเป็ นจริง
1 : NOT (Z/Y == Y)
2 : NOT(Y*X == Y)
3 : Z <= (Y*Y –1)
ธิ

4 : X*Z => Z/X


สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วน
สง

ข ้อที 156 :
กําหนดให ้ A=1, B=2, C=3, D=4 เงือนไขใดต่อไปนี ได ้ค่าตรรกะเป็ นเท็จ
ขอ

1 : (A*B+C > C-B) && (A*D/B <= B)


2 : (A+B*C < B-C) || ((C+D)*A == A+B*C)
3 : (B/A <= D/C) || ((A+C) == (D*A)) && (C/B < A/D)

กร
4 : (A < B) && (C < D) && (A > B) || (D==2*B)


คําตอบทีถูกต ้อง : 3


ข ้อที 157 :
วศิ
สภ
ให ้ตัวแปร wet, cold, และ windy เป็ นตัวแปรทีเก็บค่าจริงเท็จได ้
ถ ้า wet=true , cold=false, windy=false
(cold AND (NOT wet)) OR NOT(windy OR cold) มีคา่ ความจริงคืออะไร
1 : จริง
2 : เท็จ
3 : ไม่สามารถสรุปได ้
4 : ประโยคทีเขียนหาค่าทางตรรกะไม่ได ้

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 158 :
ภาษาคอมพิวเตอร์ทใช ้
ี ในข ้อนีมีคณ
ุ สมบัตด
ิ งั นี

1. % แทน modulus operator


2. & แทน bitwise AND operator
3. ค่าตรรกะจริง มีคา่ เท่ากับ 1
4. ค่าตรรกะเท็จ มีคา่ เท่ากับ 0
5. สามารถนํ าค่าตรรกะไปประมวลผลกับจํานวนได ้

จากการคํานวณต่อไปนี ข ้อใดคํานวณหาคําตอบได ้ถูกต ้อง


1 : (3<2) + 5 มีคา่ เท่ากับ 6
2 : (8 % 3) - 1 มีคา่ เท่ากับ 0
3 : (3 = 3) + (6 <> 9) * 3 มีคา่ เท่ากับ 6
4 : (23 – 2) & 1 มีคา่ เท่ากับ 1

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 159 :
ให ้ y เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม และ % คือ modulus operator
ข ้อใดเป็ นค่าของ y เมือ y = 1 – 5 / 3 + 9 % 4;
1 : 0
2 : 1
3 : -1
4 : 2

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
สท

ข ้อที 160 :
หลังจากสว่ นของโปรแกรมข ้างล่างนีทํางานเสร็จ answer มีคา่ เท่าใด (% คือ modulus operator)
วน

int a = 1, b = 2, c = 3:
double f = 1.75, g = 1.0, h = 5
สง

double answer;
answer = a + g – b * f – c % b – h * 2;
ขอ

1 : -11.6


2 : -12.5
3 : -13.1

กร
4 : 12.0


คําตอบทีถูกต ้อง : 2


ข ้อที 161 :
วศิ
สภ
กําหนดให ้
1. fmod(x,y) คืนค่าเศษหลังจุดทศนิยมของผลหาร x/y
2. floor(x) คืนค่าจํานวนเต็มทีได ้จากการปั ดเศษหลังจุดทศนิยมของค่าในตัวแปร x ทิงไป

หลังจากทํางานสองบรรทัดข ้างล่างนีแล ้ว x มีคา่ เป็ นเท่าไร (ให ้ x เป็ นตัวแปรจํานวนจริง)


x = 19.75;
x = fmod(x, floor(x));

1 : 1.00
2 : 19.75
3 : 0.75
4 : 1.75

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 162 :
ให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นชนิดจํานวนเต็ม
หลังจากสว่ นของโปรแกรมข ้างล่างนีทํางานเสร็จ x1 และ x2 มีคา่ เท่าใด?
x2 = 1;
x4 = 5;
x2 = (x4 + x2 % 2 - 3);
x4 = x2;
x3 = x4;
x1 = x3;

1 : x1 = 5, x2 = 5
2 : x1 = 3, x2 = 1
3 : x1 = 1, x2 = 5
4 : x1 = 3, x2 = 3

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 163 :
ให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นชนิดจํานวนเต็ม
หลังจากสว่ นของโปรแกรมข ้างล่างนีทํางานเสร็จ ตัวแปร ans มีคา่ เท่าใด
x2 = 1;
x4 = 5;
x2 = (x4 + x2 % 2 - 3);
ธิ

x4 = x2;
x3 = x4;
สท

x1 = x3;

ans = x4 + x3 + x3 + x2 + x1;
วน

1 : 18
2 : 17
3 : 16
สง

4 : 15
ขอ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4


กร
ข ้อที 164 :


กําหนดให ้
int x, y = 7, z = 5;
x = ((++y) + (z--)) % 10;
า วศิ
เมือสว่ นของโปรแกรมข ้างบนนีทํางานแล ้ว ค่าของ x คืออะไร?
สภ
1 : 0
2 : 1
3 : 2
4 : 3

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 165 :
if(raining)
if(window_open)
puts("Close the window");

สว่ นของโปรแกรมด ้านล่างข ้อใดต่อไปนีมีความหมายเหมือนกับสว่ นของโปรแกรมด ้านบน


1 : if(raining && window_open) puts("Close the window");
2 : if(raining || window_open) puts("Close the window");
3 : if(not (raining && window_open)) puts("Close the window);
4 : if(not (not raining || window_open) puts("Close the window);

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 166 :
ั หาค่ารากทีสองของ Y จงหาค่าของนิพจน์ตอ
กําหนดให ้ sqrt(Y) คือฟั งก์ชน ่ ไปนี เมือให ้ค่าตัวแปร M = -3 N = 5 X =
-3.57 Y = 4.78
1. sqrt(Y) < N
2. (X > 0) OR (Y > 0)
3. (NOT((M > N) AND (X < Y))) OR ((M <= N) AND (X > X))
1 : 1. เท็จ 2. จริง 3. จริง
2 : 1. จริง 2. จริง 3. จริง
3 : 1. เท็จ 2. เท็จ 3. จริง
4 : 1. จริง 2. จริง 3. เท็จ

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 167 :
กําหนดค่าของตัวแปรจํานวนเต็มต่อไปนี
ธิ

count = 16, num = 4;


สท

และค่าของตัวแปรจํานวนจริงต่อไปนี
value = 31.0, many = 2.0;
วน

เมือกระทําตามคําสงต่ั อไปนี
สง

value = (value - count)*(count - num)/many + num/many;


ตัวแปร value มีคา่ เท่าไร
ขอ

1 : 91


2 : 92
3 : 101

กร
4 : 102


คําตอบทีถูกต ้อง : 2


ข ้อที 168 :
วศิ
สภ
กําหนดตัวแปร Value = 50; เมือกระทําการ bit-wise XOR (exclusive or) ด ้วยตัวแปร Value เอง จะมีผลอย่างไรกับ
ค่าตัวแปร Value
1 : ตัวแปร Value จะมีคา่ เท่ากับ 0
2 : ตัวแปร Value จะมีคา่ เท่ากับ 1
3 : ตัวแปร Value จะมีคา่ เท่ากับ 50
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูกต ้อง

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 169 :
ข ้อใดคือความแตกต่างระหว่าง Bitwise Operator และ Logical Operator
1 : Bitwise Operator จะกระทําตรรกกับบิตข ้อมูลของตัวแปร แต่ Logical Opeator จะกระทําตรรกกับค่าข ้อมูลของ
ตัวแปร
2 : Bitwise Operator จะกระทําตรรกกับตัวแปรชนิดจํานวนเต็ม แต่ Logical Operator จะกระทําตรรกกับตัวแปรชนิด
ใด ๆ ก็ได ้
3 : Bitwise Operator จะกระทําตรรกกับตัวแปรชนิดใด ๆ ก็ได ้ แต่ Logical Operator จะกระทําตรรกกับตัวแปรชนิด
จํานวนเต็ม
4 : Bitwise ื ยกของ Compiler แต่ละภาษาเท่านัน
Operator และ Logical Operator เป็ นเพียงชอเรี

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 170 :
กําหนดให ้ % แทน modulus operator

ถ ้า 22 % x มีคา่ เท่ากับ 4;

x มีคา่ เท่าไร
1 : 2
2 : 4
3 : 6
4 : 8

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ

ข ้อที 171 :
ข ้อใดมีคา่ จริงเสมอ
สท

1 : P and P

2 : P or P
วน

3 : not(P) and P
4 : not(P) or P
สง

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
ข อ
ข ้อที 172 :
ั f มีลก
กําหนดให ้ฟั งก์ชน ั ษณะดังนี

กร
เงือนไขที 1 f(n) = f(n-1)+f(n-2) เมือ n เป็ นจํานวนเต็ม, n ≥ 2
เงือนไขที 2 f(1) = 1 และ f(0) = 1


จงหาว่า f(7) มีคา่ เท่าไร
1 : 0
2
3
า:
:
11
21 วศิ
สภ
4 : 31
5 : นับไม่ถ ้วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 173 :
ั g มีคณ
กําหนดให ้ฟั งก์ชน ุ สมบัตด
ิ งั นี
g(0) = 1
g(n) = 2g(n-1) เมือ n > 0
จงหาค่า g(n)
1 : g(n) = 2n
2 : g(n) = n*n
3 : g(n) = 2 ยกกําลัง n
4 : g(n) = 2 ยกกําลัง (n+1)

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 174 :
โอเปอเรเตอร์ ++ หมายถึงการกระทําในลักษณะใด
1 : เพิมค่าตัวแปรทีละหนึง
2 : การหารค่าตัวแปร
3 : การยกกําลังของตัวแปร
4 : การหารแบบปั ดสว่ น
5 : การบวกแบบทวีคณ ู

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 175 :
3+4*6/2+1 มีคา่ เท่ากับ
1 : 9
2 : 11
3 : 14
4 : 16

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท

ข ้อที 176 :
วน

ข ้อใดเป็ นจริงเมือ q=10,r=5,s=10


1 : q<=(s/r)
สง

2 : (s*r) <=q
3 : (q-r) == (s-q+r)
4 : (q) < (r-s)
ขอ
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ว กร
ข ้อที 177 :
จงหานิพจน์ทสมมู
ี ลกับ NOT( A OR B OR C)

วศิ
1 : NOT ( (NOT A) AND (NOT B) AND (NOT C) )
2 า: NOT ( A AND B AND C )
สภ
3 : ( NOT A ) AND (NOT B) AND (NOT C)
4 : A AND B AND C

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 178 :
ฟุตบอลไทยจะชนะเมือมีเงือนใขต่อไปนืครบถ ้วน
1. นักฟุตบอลสมบูรณ์
2. ฝนต ้องไม่ตก
3. แข่งในเมึองไทย
3. แต่ถ ้าศูนย์หน ้าป่ วยอาจแพ ้ได ้

ให ้ A แทน นักฟุตบอลสมบูรณ์ B แทน ฝนไม่ตก C แทน แข่งในเมึองไทย D แทน ศูนย์หน ้าป่ วย


จงเขียนประโยคข ้างบนเป็ นนิพจน์ บูลลีน
1 : A AND B AND C AND D
2 : A AND B OR C AND D
3 : A AND B AND C OR D
4 : A AND B AND C AND (NOT D)

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 179 :
(1 + 2 * 3 - 4) มีคา่ เท่าใด
1 : -3
2 : 1
3 : 3
4 : 5

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 180 :
ให ้ a และ b เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม และ % แทน modulus operator
อยากทราบว่า a และ b มีคา่ เท่าใด ทีทําให ้
a % b มีคา่ เท่ากับ 1
b % a มีคา่ เท่ากับ 2
ธิ

1 : a = 5 และ b = 4
2 : a = 4 และ b = 5
สท

3 : a = 3 และ b = 2

4 : a = 2 และ b = 3
วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ขอ
ข อ
ข ้อที 181 :
3 + 5 * 5 -1 มีคา่ เท่าใด

กร
1 : 23
2 : 27


3 : 49
4 : 625
า วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ

ข ้อที 182 :
ถ ้าให ้ตัวแปร wet, cold, windy มีคา่ ความจริงดังนี
wet=true, cold=false, windy=false
เครืองหมาย && คือ and , เครืองหมาย || คือ or, เครืองหมาย ! คือ not

จงหาค่าความจริงของ (cold && !wet) || !(windy || cold)


1 : จริง
2 : เท็จ
3 : นิพจน์ทเขี
ี ยนเป็ นนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ทผิ
ี ด
4 : ไม่สามารถหาได ้

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 183 :
ข ้อใดถูกต ้อง
1 : (x > 0) จะเป็ นจริง เมือ x เป็ น 0
2 : (x >= 0) จะเป็ นจริง เมือ x ไม่เท่ากับ 0
3 : (x <= 0) จะเป็ นเท็จ เมือ x เป็ นจํานวนบวก
4 : (x < 0) จะเป็ นเท็จ เมือ x เป็ นจํานวนลบ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 184 :

ให ้ %แทน modulus operator และมีลําดับการทํางานจากซายไปขวา
(203 % 10 % 9 % 7 % 5) มีคา่ เท่าใด
1 : 0
2 : 1
3 : 2
4 : 3

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ

ข ้อที 185 :
สท

ให ้ % แทน modulus operator


(201 % (11 % (8 % (7 % 4)))) มีคา่ เท่าใด


วน

1 : 0
2 : 1
สง

3 : 2
4 : 3
ขอ

คําตอบทีถูกต ้อง : 1


กร
ข ้อที 186 :


ึ คา่ ดังนี
กําหนดให ้ a,b,c เป็ นตัวแปรชนิดจํานวนเต็ม ซงมี
a=10,b=20,c=30
จงหาค่าของนิพจน์ a + b * c / a + 10
1 า: 70 วศิ
สภ
2 : 80
3 : 100
4 : 120

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 187 :
ให ้ && แทน AND, || แทน OR
operator ใดทํางานก่อนเป็ นอันดับแรก ในการหาค่าของนิพจน์ตรรกศาสตร์ข ้างล่างนี

(x > y + 80) && (z > 100) || (x > 500)


1 : + ใน (y + 80)
2 : > ใน (x > y + 80)
3 : &&
4 : ||

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 188 :
x = 1 + 2 + 3 + 4 + 5;
x = x + x;
x = x + x;
x = x + x;

เมือสว่ นของโปรแกรมข ้างบนนีทํางานเสร็จ x มีคา่ เท่าใด


1 : 120
2 : 100
3 : 80
4 : 60

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 189 :
กําหนดให ้
1. ~ คือการกระทํา one-complement (หรือเรียกอีกอย่างว่า bit-wise not)
2. & คือการกระทํา bit-wise and
ธิ

3. ! คือการกระทํา logical not


สท

4. ผลของการกระทํา logical operation มีคา่ ได ้เพียงสองค่าเท่านันคือ 1 (จริง) และ 0 (เท็จ)


ึ คา่ เท่ากับ 5
กระบวนการ ~!(b & 1) จะได ้ค่าใด หาก b เป็ นตัวแปรจํานวนเต็มซงมี
วน

1 : 5
2 : 1
สง

3 : 0
4 : 4
ขอ
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ว กร
ข ้อที 190 :
สมมติวา่ มีการต่อเครืองคอมพิวเตอร์เข ้ากับระบบภายนอก ซงเมืึ อมีการอ่านข ้อมูลเข ้ามาทางพอร์ตขนาด 8 บิต แล ้ว 4 บิต
บน จะเป็ น ค่าข ้อมูลจากแหล่งทีหนึง และ 4 บิตล่าง เป็ นค่าข ้อมูลจากแหล่งทีสอง หากเราต ้องการตรวจสอบว่า ค่าข ้อมูล
า วศิ
จากแหล่งทีหนึง เป็ นค่าใดนัน เราจะต ้องใชนิ้ พจน์ใดเพือหาค่าดังกล่าว สมมติวา่ ข ้อมูลได ้ถูกนํ ามาพักไว ้ในตัวแปร x ก่อน
ทีจะสง่ เข ้านิพจน์ เพือทําการหาคําตอบ
สภ
1 : x>>4
2 : x/16
3 : x-64
4 : x%64
5 : ไม่สามารถหาได ้ ต ้องออกแบบให ้มีการรับค่าแยกพอร์ตกันเท่านัน

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 191 :
ให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นตัวแปรจํานวนจริง
โดยที X1 = 1, X2 = 2, X3 = 3, X4 = 4
อยากทราบว่า X1 / X2 * X3 / X4 มีคา่ เท่าใด
1 : 0.417
2 : 0.375
3 : 0.667
4 : 0.867

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 192 :

กําหนดให ้ / คือ operator หารแบบจํานวนเต็ม ซงจะปั ดเศษทิงเสมอ

นิพจน์ใดข ้างล่างนีทีไม่ได ้ค่าเป็ น 23


1 : 3+4*5
2 : 200 / 5 / 2 + 10 / 3
3 : 1 + 77 / 7 * 2
4 : 23 / 3 * 3

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 193 :
ธิ
สท

วน
สง

1 : r = -b - (b^2 - 4ac) ^ 0.5 / 2a


2 : r = -b - (b^2 - 4*a*c) ^ 0.5 / 2.0 * a
ขอ

3 : r = -b - (b^2 - 4*a*c) ^ 0.5 / (2.0*a)


4 : r = (-b - (b*b - 4*a*c) ^ 0.5 ) / a / 2.0

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4


ข ้อที 194 :
า วศิ
กําหนดให ้ m เป็ นตัวแปรชนิดจํานวนเต็ม
ข ้อใดเป็ นการตรวจสอบค่าของตัวแปร m ทีต่างจากข ้ออืน
สภ
1 : NOT((m < 1) AND (m > 12))
2 : (m < 13) AND (m > 0)
3 : NOT(NOT(1 <= m) OR NOT(m <= 12))
4 : (1 <= m) AND (m => 12)

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 195 :
ให ้ n เป็ นตัวแปรแบบจํานวนเต็ม และ % แทน modulus operator
่ ถ ้า n = 12345 สงิ
จะทําอย่างไรจึงจะได ้ตัวเลขสองตัว ณ ตําแหน่งหลักพันและหลักร ้อยของจํานวนเต็มในตัวแปร n (เชน
ทีต ้องการคือ 23)
1 : (n / 1000) % 100
2 : (n % 1000) / 100
3 : (n % 10000) / 100
4 : (n % 10000) / 1000

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 196 :
ี ส
ให ้ C คือตัวแปรจํานวนจริงทีแทนอุณหภูมเิ ป็ นองศาเชลเชย
่ วั แปร F
ข ้อใดข ้างล่างนีไม่แทนการแปลงอุณหภมิใน C ให ้เป็ นองศาฟาเรนไฮต์เพือเก็บใสต
หมายเหตุ : 0 องศาเซลเซย ี สเทียบได ้กับ 32 องศาฟาเรนไฮต์ และ 100 องศาเซลเซย ี สเทียบได ้กับ 212 องศา
ฟาเรนไฮต์
1 : F = C * 180/100 + 32
2 : F = 32 + 1.8 * C
3 : F = 1.8C + 32
4 : F = 9 * C / 5 + 32

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 197 :
ให ้ % แทน modulus operator
((201 % (11 % 8)) % (9 % 5)) มีคา่ เท่าใด
1 : 0
ธิ

2 : 1
3 : 2
สท

4 : 3

วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง

ข ้อที 198 :
ขอ

ให ้ m คือตัวแปรจํานวนเต็ม


ข ้อใดทีไม่ใชน่ พ
ิ จน์ทแทนการทดสอบ
ี 1 <= m <= 12

กร
1 : ! ((m < 1) && (m > 12))
2 : ! ( (m < 1) || (m >= 13) )
3 : ! ( ! (1 <= m) || ! (m <= 12) )


4 : (1 <= m) && (m >= 12)

วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

สภ
ข ้อที 199 :
ให ้ n คือตัวแปรจํานวนเต็ม
ข ้อใดให ้ค่าจริง ก็ตอ
่ เมือ n เก็บค่าทีเป็ นจํานวนคี
1 : (n == 1) || (n == 3) || (n == 5) || (n == 7) || (n == 9)
2 : (n / 10 == 1)
3 : (n / 2 == 1)
4 : (n % 2 == 1)

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 200 :
ให ้ n เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม
ข ้อใดให ้ค่าจริงเมือ n มีคา่ ตังแต่ 13 ถึง 22
1 : (13 < n) && (n < 22)
2 : ! ((n > 22) || (n < 13))
3 : (12 < n) || (n < 23)
4 : (n - (22 - 13 + 1) > 0)

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 201 :
ให ้ n เป็ นตัวแปรจํานวนเต็มทีเก็บรหัสไปรษณียท ี ขนาด 5 หลักทีใชกั้ นอยูใ่ นปั จจุบน
์ มี ่ 10600 แถวคลองสาน 10300
ั (เชน
แถวปทุมวัน กรุงเทพฯ)

ถ ้าเป็ นรหัสไปรษณียข
์ องจังหวัดประจวบคีรข
ี น ่ 77000 คืออําเภอเมือง 77130 คืออําเภอทับสะแก
ั ธ์ จะขึนต ้นด ้วย 77 เชน

ข ้อใดให ้ค่าจริงเมือ n เก็บรหัสไปรษณียข


์ องจังหวัดประจวบคีรข
ี น
ั ธ์
1 : (n % 77 == 0)
2 : (n % 100 == 77)
3 : (n / 1000 == 77)
4 : (n / 77 == 0)

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ

ข ้อที 202 :
สท

ั ทีคืนจํานวนจริงทีสุม
ให ้ random() เป็ นฟั งก์ชน ่ จากค่าในชว่ ง [0, 1) คือตังแต่ 0 ไปจนถึงเกือบ ๆ 1 (ไม่รวม 1)

่ ่
ข ้อใดเป็ นการสุมค่าจํานวนเต็มในชวง [a, b] คือตังแต่ a จนถึง b (a และ b เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม โดยที a < b)
วน

ั คืนจํานวนเต็มทีได ้จากการปั ดเศษหลังจุดทศนิยมของ x ออกหมด)


(กําหนดให ้ floor(x) เป็ นฟั งก์ชน
1 : floor(random() * (b - a + 1))
สง

2 : floor(a + random() * b)
3 : a + floor((b - a) * random())
4 : a + floor((b - a + 1) * random())
ขอ
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ว กร
ข ้อที 203 :
ให ้ a เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม
ิ กับหลักหน่วยของ a
สมมติวา่ a เก็บจํานวนตังแต่ 0 ถึง 99 ข ้อใดข ้างล่างนีทําให ้ b มีคา่ เป็ นจํานวนทีเขียนสลับหลักสบ
(เชน า วศิ
่ a เก็บ 21 จะได ้ b เก็บค่า 12 เป็ นต ้น)
สภ
1 : b = a / 10 + (a % 10)
2 : b = (a % 10) * 100 + (a % 10)
3 : b = 10 * (a % 1) + (a % 10)
4 : b = 10 * (a % 10) + (a / 10)

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 204 :
ให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม
a = 2, b = 4, c = 8, d = 16;

อยากทราบว่า a + (c + d) / a * b + d / a มีคา่ เท่าใด


1 : 58
2 : 60
3 : 13
4 : 122

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 205 :
ให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม
a = 2, b = 4, c = 8, d = 16

อยากทราบว่า b * a + d / b / a + b * c มีคา่ เท่าใด


1 : 24
2 : 35
3 : 42
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 206 :
ให ้ a เป็ นตัวแปรจํานวนจริง, && แทนการ AND, || แทนการ OR

ข ้อใดให ้ผลเป็ นเท็จตลอด ไม่ขนกั


ึ บค่าของ a
ธิ

1 : (12 < a) && (a < 23)


2 : (12 < a) || (a < 23)
สท

3 : (a < 12) && (a > 23)


4 : (a < 12) || (a > 23)


วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ขอ
ข อ
ข ้อที 207 :
ให ้ a เป็ นตัวแปรจํานวนจริง, && แทนการ AND, || แทนการ OR

กร
ข ้อใดให ้ผลเป็ นจริงตลอด ไม่ขนกั
ึ บค่าทีเก็บใน a


1 : (12 < a) && (a < 23)
2 : (12 < a) || (a < 23)
3
4
า:
: วศิ
(a < 12)
(a < 12)
&& (a > 23)
|| (a < 23)
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 208 :

เสนตรงเส ้
นหนึงผ่านจุด (x1, y1) และ (x2, y2) บนระนาบสองมิต ิ
ข ้อใดเป็ นนิพจน์ทคํ ้
ี านวณหา slope ของเสนตรงเส ้
นนี
1 : y1 - y2 / x1 - x2
2 : y2 - y1 / x2 - x1
3 : (y1 - y2) / x1 - x2
4 : (y1 - y2) / (x1 - x2)

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 209 :
ให ้ (x1, y1) และ (x2, y2) เป็ นจุดสองจุดบนระนาบสองมิต ิ
ั ทีคืนค่ารากทีสองของ d
และ sqrt(d) คือฟั งก์ชน

ข ้อใดคือนิพจน์ทคํ ั ดระหว่างจุดสองจุดนี
ี านวณหาระยะห่างทีสนสุ
1 : sqrt((x1-x2)*(x1-x2)+(y1-y2)*(y1-y2))
2 : sqrt((x1-x2)*(x2-x1)+(y1-y2)*(y2-y1))
3 : sqrt((x2-x1)*(x1-x2)+(y2-y1)*(y1-y2))
4 : sqrt((y1-y2)*(y2-y1)+(x1-x2)*(x2-x1))

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 210 :
ให ้ n คือตัวแปรจํานวนเต็ม
ข ้อใดให ้ค่าจริง ก็ตอ
่ เมือ n เก็บค่าทีเป็ นจํานวนคู่
1 : (n == 0) || (n == 2) || (n == 4) || (n == 6) || (n == 8)
2 : (n / 10 == 0)
3 : (n % 2 == 0)
4 : (n / 2 == 0)

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
สท

ข ้อที 211 :

ให ้ n คือตัวแปรจํานวนเต็ม
วน

ข ้อใดให ้ค่าจริง ก็ตอ


่ เมือ n เก็บค่าทีเป็ นจํานวนคู่
1 : (n%10 == 0) || (n%10 == 2) || (n%10 == 4) || (n%10 == 6) || (n%10 == 8)
สง

2 : (n/10 == 0) || (n/10 == 2) || (n/10 == 4) || (n/10 == 6) || (n/10 == 8)


3 : (n%10 == 0) && (n%10 == 2) && (n%10 == 4) && (n%10 == 6) && (n%10 == 8)
4 : (n/10 == 0) && (n/10 == 2) && (n/10 == 4) && (n/10 == 6) && (n/10 == 8)
ขอ
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

วกร
ข ้อที 212 :
ให ้ n คือตัวแปรจํานวนเต็ม
ข ้อใดให ้ค่าจริง ก็ตอ
่ เมือ n เก็บค่าทีเป็ นจํานวนคู่
1 า: วศิ
(2*n/2 == n)
สภ
2 : (n/2*2 == n)
3 : (n/10*10 == n)
4 : (10*n/10 == n)

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 213 :
ให ้ n คือตัวแปรจํานวนเต็ม
ข ้อใดให ้ค่าจริง ก็ตอ
่ เมือ n เก็บค่าทีเป็ นจํานวนคี
1 : (n/2*2 == n+1)
2 : ((n+1)/2*2 == n)
3 : ((n-1)/2*2 == n)
4 : (n/2*2 == n - 1)

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 214 :
วันสงกรานต์ตรงกับวันอะไร สามารถคํานวณได ้ดังนี
1. เปลียน ปี พ.ศ. เป็ น ค.ศ.
2. นํ าสองหลักทางขวาของปี ค.ศ คูณด ้วย 1.2 แล ้วบวกด ้วย 11
3. นํ าผลในข ้อ 2 ปั ดเศษหลังจุดทศนิยมทิง (ใชฟั้ งก์ชน
ั floor) แล ้วหารด ้วย 7
4. เศษของการหาร 7 ถ ้าเป็ น 0 คืออาทิตย์ 1 คือจันทร์, ..., 6 คือเสาร์
การคํานวณนีใชได ้ ้ตังแต่ปี 2543 ไปประมาณร ้อยปี
ถ ้า y เก็บปี พ.ศ. ข ้อใดคํานวณผลในข ้อ 4
1 : floor(11 + (((year - 543) / 100) * 1.2)) % 7
2 : floor((((year - 543) % 100) * 1.2) + 11) % 7
3 : floor((((year - 543) / 100) * 1.2) + 11) / 7
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 215 :
ั ทีคืนจํานวนจริงทีสุม
ให ้ random() เป็ นฟั งก์ชน ่ จากค่าในชว่ ง [0, 1) คือตังแต่ 0 ไปจนถึงเกือบ ๆ 1 (ไม่รวม 1)
่ ค่าจํานวนเต็มตังแต่ 0 จนถึง 50 (กําหนดให ้ floor(x) เป็ นฟั งก์ชน
ข ้อใดเป็ นการสุม ั คืนจํานวนเต็มทีได ้จากการปั ดเศษหลัง
จุดทศนิยมของ x ออกหมด)
ธิ

1 : floor( 50*random() )
2 : floor( 50*random() ) % 50
สท

3 : floor( 51*random() ) % 100


4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ขอ
ข อ
ข ้อที 216 :
ั ทีคืนจํานวนจริงทีสุม
ให ้ random() เป็ นฟั งก์ชน ่ จากค่าในชว่ ง [0, 1) คือตังแต่ 0 ไปจนถึงเกือบ ๆ 1 (ไม่รวม 1)

กร
่ ค่าจํานวนเต็มในชว่ ง [-10, 10] คือตังแต่ -10 จนถึง 10
ข ้อใดเป็ นการสุม
ั คืนจํานวนเต็มทีได ้จากการปั ดเศษหลังจุดทศนิยมของ x ออกหมด)
(กําหนดให ้ floor(x) เป็ นฟั งก์ชน


1 : floor(21 * random()) % 100 - 10
2 : floor(21 * random()) % 20 - 10
3
4
า:
: ไม่มขวศิ
floor(20 * random()) % 20 - 10
ี ้อใดถูก
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 217 :
กําหนดให ้ a = 5, b = 3 , c = 2 , d = 0.5 ถ ้า s = a*b+c; s =
1 : 15
2 : 16
3 : 17
4 : 18

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 218 :
กําหนดให ้ a = 5, b = 3 , c = 2 , d = 0.5 ถ ้า t = b+c*b; t =
1 : 8
2 : 9
3 : 10
4 : 12

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 219 :
กําหนดให ้ a = 5, b = 3 , c = 2 , d = 0.5 ถ ้า v = a*a+b*b+c*c; v =
1 : 36
2 : 28
3 : 38
4 : 48

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 220 :
กําหนดให ้ a = 5, b = 3 , c = 2 , d = 0.5 ถ ้า x = a%5; x =
1 : 0
ธิ

2 : 2
สท

3 : 4

4 : 6
วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง

ข ้อที 221 :
ขอ

กําหนดให ้ a = 5, b = 3 , c = 2 , d = 0.5 ถ ้า y = a/c; y =


1 : 1.5

กร
2 : 2
3 : 2.5
4 : 3


คําตอบทีถูกต ้อง : 3
า วศิ
สภ
ข ้อที 222 :
กําหนดให ้ a = 5, b = 3 , c = 2 , d = 0.5 ถ ้า z = a/d; z =
1 : 0
2 : 10
3 : 11
4 : 12

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 223 :
้ องหมาย && จะให ้ผลลัพธ์เป็ นอย่างไร เมือ i = 2 และ j = 5 ในการดําเนินการ (i>3) && (j>4)
การดําเนินการโดยใชเครื
1 : เป็ นจริง
2 : เป็ นเท็จ
3 : เป็ นบวกเสมอ
4 : เท่ากับหนึง

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 224 :
ั อไปนีมีคา่ เท่าใด
value1 , value2 ทีแสดงโดยชุดคําสงต่

n = 20;
value1 = n++;
value2 = ++n;
printf(“%d , %d ”,value1,value2);
1 : 20 , 21
2 : 21 , 20
3 : 21 , 21
4 : 20 , 22

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

เนือหาวิชา : 4 : การทํางานแบบลําดับ
ธิ

ข ้อที 225 :
สท

ถ ้าให ้ x = 5; y = 7; z = 12;

และ k = (x + y) * z + y;
จงหาค่าของ k
วน

1 : 74
2 : 128
สง

3 : 151
4 : 96
ขอ

5 : 47


คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ว กร
ข ้อที 226 :
สมการ z เท่ากับ x กําลังสอง บวก y กําลังสอง เขียนเป็ นนิพจน์ในภาษาคอมพิวเตอร์ได ้อย่างไร
า วศิ
สภ

1 : z = x2 + y2;
2 : z = x * x + y * y;
3 : z = x * 2 + y * 2;
4 : z = x ** 2 + y ** 2;
5 : z = xx + yy;

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 227 :
ถ ้ากําหนดให ้ Relative Precedence ของ Operators เป็ นไปตามลําดับดังนี 1) ++ -- 2) * / % 3) + - จากลําดับ
Operator Precedence ด ้านบน จงjหาค่าตัวแปรดังต่อไปนี x = 4 + 5 * 3;
1 : x= 27
2 : x = 19
3 : x= 17
4 : ไม่สามารถระบุคา่ ได ้
5 : ถูกทุกข ้อ

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 228 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีชด ั อ
ุ คําสงคื
i=0
i=i+1
j=1
j=i+j
เมือคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบ ผลลัพธ์จากการทํางานคือข ้อใด
1 : i มีคา่ 0
2 : j มีคา่ 0
3 : j มีคา่ 1
4 : j มีคา่ 2
5 : j มีคา่ 3

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ

ข ้อที 229 :
สท

กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี

เริมต ้น
วน

รับค่า x และ y
นํ าค่า x + y ใสล่ งใน a
สง

่ งใน b
นํ าค่า x – y ใสล
แสดงค่าผลคูณของ a กับ b
ขอ

จบ


้ ค
ถ ้าเครืองคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนี โดยผู ้ใชใส ่ า่ 8 และ 2 ผลลัพธ์ทได
ี ้คือข ้อใด

กร
1 : 8
2 : 16


3 : 28
4 : 60
5 า: 66
วศิ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 230 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี

เริมต ้น
รับค่า x, y และ z
นํ าค่าทีมากทีสุดของ x, y, z ไปใสไ่ ว ้ใน a
นํ าค่าทีน ้อยทีสุดของ x, y, z ไปใสไ่ ว ้ใน c
นํ าค่าเฉลียของ x, y, z ไปใสไ่ ว ้ใน b
จบ

ถ ้าเครืองคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบแล ้วข ้อใดเป็ นจริง


1 : a <b<c
2 : a >b>c
3 : a <= b <= c
4 : a >= b >= c
5 : a >= b <= c

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 231 :
ั อไปนี int a = 50; PRINTtoSCREEN(a+200);
ข ้อใดได ้ผลลัพธ์บนหน ้าจอเหมือนกับคําสงต่
1 : int a = 350; PRINTtoSCREEN(a); a = a - 100;
2 : PRINTtoSCREEN(a); int a = 50; a = a * 5;
3 : PRINTtoSCREEN(a); a = a - 100; int a = 350;
4 : a = a * 5; int a = 50; PRINTtoSCREEN(a);
5 : int a = 50; a = a * 5; PRINTtoSCREEN(a);

คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 232 :
ถ ้า x, y และ z มีคา่ เป็ น 18, 12 และ 4 ตามลําดับ ข ้อใดต่อไปนีเป็ นค่าถูกต ้อง เมือมีการทํางานเป็ นดังโปรแกรม x = x –
y; y = y – x; z = x * y / z;
1 : x = 9;
ธิ

2 : y = 12;
สท

3 : z = 18;
4 : x = 2/3 ของ z;

5 : y = 1/3 ของ z;
วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง
ขอ
ข อ
ข ้อที 233 :
เมือ x, y และ z มีคา่ เป็ น 100, 13 และ 91 ตามลําดับ และมีการทํางานดังโปรแกรม

กร
1: z = z / y;
2: y = y + z;


3: x = x * z / y;
ข ้อใดถูกต ้อง
1
2
:

: วศิ
x มีคา่ เท่ากับ 25
z มีคา่ เท่ากับ 8
สภ
3 : y มีคา่ เท่ากับ 21
4 : ั
ถ ้าต ้องการให ้ x มีคา่ เท่ากับ 12 จะต ้องเปลียนคําสงในบรรทั ดที 3 เป็ น (x+z)/y
5 : ถ ้าต ้องการให ้ x มีคา่ เท่ากับ 25 จะต ้องเพิมคําสงั z = z-2;ก่อนหน ้าบรรทัดที 3

คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 234 :
ค่า X จากโปรแกรมนีคืออะไร
X=3
Y=X+1
X=Y+2
END
1 : 6
2 : 5
3 : 7
4 : 4
5 : 3

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 235 :
ค่า X จากโปรแกรมนีคืออะไร
X=X+2
X=0
X=X+1
END
1 : 0
2 : 1
3 : 2
4 : 3
5 : 4

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 236 :
ธิ

ค่า X จากโปรแกรมนีคืออะไร
Y = 11
สท

X=Y

Y=Y+3
วน

END
1 : 0
สง

2 : 3
3 : 11
4 : 14
ขอ
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ว กร
ข ้อที 237 :
ิ ดการทํางาน
จากโปรแกรมภาษา C จงหาค่าของตัวแปร Newcount และ Count เมือโปรแกรมสนสุ
--------------------------------------------------
า วศิ
int Newcount=0, Count=1;
สภ
Newcount = Count++;
Count = 3+Newcount++;
1 : 2,4
2 : 2,5
3 : 3,4
4 : 3,5

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 238 :
จากโปรแกรม ภาษา C ต่อไปนี จงหาค่าของตัวแปร Newcount และ Count เมือโปรแกรมหยุดทํางาน
------------------------------------------
int Newcount=0, Count=1;
Newcount = Count++;
Count = 3+Newcount++;
Newcount = ++Count;
1 : 4,5
2 : 4,6
3 : 5,5
4 : 5,6

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 239 :
x = 10
y=5
x=y
y=x

หลังจากโปรแกรมทํางานครบทังสบรรทั
ด ข ้อใดผิด
1 : ตัวแปร x จะมีคา่ เท่ากับ 5
2 : x - y จะมีคา่ เท่ากับ 5
3 : y จะมีคา่ เท่าเดิม
4 : ไม่มขี ้อใดผิด

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
สท

ข ้อที 240 :

ถ ้า b = 10 และ c = 5 ผลการทํางานหลังจากบรรทัดที 2 แล ้ว a จะมีคา่ เท่าใด


บรรทัดที 1 b = b + c ;
วน

บรรทัดที 2 a = b - 5 ;
1:5
สง

2 : 20
3 : 25
ขอ

4 : 15


5 : 10

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 5


ข ้อที 241 :
า วศิ
ถ ้า b = 5 และ c = 8 ผลการทํางานหลังจากบรรทัดที 3 แล ้ว a จะมีคา่ เท่าใด
บรรทัดที 1 b = b * 2;
สภ
บรรทัดที 2 c = c + b ;
บรรทัดที 3 a = b * c;
1 : 40
2 : 65
3 : 80
4 : 180

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 242 :
ถ ้า b = 10 และ c = 5 ผลการทํางานหลังจากบรรทัดที 4 แล ้ว c จะมีคา่ เท่าใด
บรรทัดที 1 b = b + c;
บรรทัดที 2 a = b - 5;
บรรทัดที 3 b = a -c;
บรรทัดที 4 c = b + a;
1 : -10
2 : 5
3 : 10
4 : 15

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 243 :

ลําดับคําสงในข ้อใดต่อไปนีให ้ผลลัพธ์เป็ นการสลับค่าของตัวแปร x กับ ตัวแปร y
1 : x=y; y=x;
2 : x=x+y; y=x-y; x=y-x;
3 : x=x-y; y=y+x; x=x+y;
4 : x=x+y; y=x-y; x=x-y;

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 244 :
ธิ
สท

วน
สง

1 : 12
2 : 13
ขอ

3 : 15


4 : 18
5 : 20

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4


ข ้อที 245 :
า วศิ
สภ

1 : dx2 = x1 - x2 * x1 - x2; dy2 = y1 - y2 * y1 - y2; d = squareRoot( dx2 + dy2 );


2 : dx = x1 - x2; dy = y2 - y1; d = squareRoot( dx*dx, dy*dy );
3 : dx = x2 - x1; dy = y2 - y1; dx2 = dx*dx; dy2 = dy*dy; d = dx2+dy2; d = squareRoot( d );
4 : dx = x1 - x2; dy = y1 - y2; dxy = dx*2 + dy*2; d = squareRoot(dxy);

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 246 :

1 : บรรทัด 04 กับ 05
2 : บรรทัด 05 กับ 06
3 : บรรทัด 06 กับ 07
4 : บรรทัด 07 กับ 08

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
สท

ข ้อที 247 :
โครงสร ้างแบบใดมีลก ํ
ั ษณะการทํางานการวนรอบเพือทํางานซาจะเริ ั
มต ้นจากการทํางานตามคําสงของ do ก่อน หนึงรอบ

แล ้วจึงเริมตรวจสอบ เงือนไขทีคําสงั while


วน

1 : for
2 : if-else
สง

3 : while
4 : do-while
ขอ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4


กร
ข ้อที 248 :



คําสงใดเป็ นการขึนบรรทัดใหม่
1 : \m

วศิ
2 : \n
3 า
: \o
สภ
4 : \p

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 249 :
จากโปรแกรม main() { int a,b,c,d; printf(“Enter three number ”); scanf(“%d%d%d”,&a,&b,&c); d =c; if(a>d)
d = a; if(b > d) d = b; printf(“value of D = %.2f”,); } เป็ นโปรแกรมใด
1 : เป็ นโปรแกรมหาค่าผลรวม
2 : เป็ นโปรแกรมหาค่าเฉลีย
3 : เป็ นโปรแกรมหาค่ามากทีสุด
4 : เป็ นโปรแกรมหาค่าน ้อยทีสุด

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 250 :
ั ลักษณ์ดงั รูปหมายถึงสญ
สญ ั ลักษณ์ในผังงานข ้อใด

1 : กิจกรรมประมวลผล
2 : จุดเริมต ้น หรือจุดสุดท ้ายของกิจกรรม
3 : การตัดสน ิ ใจหรือเปรียบเทียบ
4 : แฟ้ มข ้อมูล

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 251 :
ั ลักษณ์ดงั รูปหมายถึงสญ
สญ ั ลักษณ์ในผังงานข ้อใด

1 : การแสดงผลข ้อมูลทางจอภาพ
2 : การรับข ้อมูล และแสดงข ้อมูล
3 : ้
เสนแสดงทิ ศทางของกิจกรรม
4 : การตัดสน ิ ใจหรือเปรียบเทียบ
ธิ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สท

ข ้อที 252 :
วน

ข ้อใดคือสญั ลักษณ์ของผังงานการตัดสน
ิ ใจหรือเปรียบเทียบ

1 : รูปสเหลี ยมคางหมู
สง


2 : รูปสเหลี ยมขนมเปี ยกปูน
3 : รูปสเหลีี ยมจตุรัส
ขอ

4 : รูปวงกลม


คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ว กร
เนือหาวิชา : 5 : การทํางานแบบเลือก


ข ้อที 253 : วศิ
สภ
จงหาผลลัพธ์จากขันตอนดังต่อไปนี
ขันที 1 เริมการทํางาน
ให ้ตัวแปร x , y เป็ น integer
ขันที 2 ให ้ตัวแปร x =20 ; y =25 ;
ขันที 3 ให ้ตัวแปร x = x + 10 ; y =25 ;
ขันที 4 ให ้ตัวแปร x น ้อยกว่า y ให ้ ตัวแปร = x + 20
มิฉะนันแล ้ว ให ้ตัวแปร x = x- 5 ;
ขันที 5 พิมพ์คา่ ตัวแปร x และตัวแปร y
ขันที 6 จบการทํางาน
1 : x= 30 ; y = 25:
2 : x= 40 ; y = 25:
3 : x= 50 ; y = 25:
4 : x= 25 ; y = 25:

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 254 :
จงหาผลลัพธ์จากขันตอนดังต่อไปนี
ขันที 1 เริมการทํางาน
ให ้ตัวแปร x , y เป็ น integer
ขันที 2 ให ้ตัวแปร x = 10 ; y =40 ;
ขันที 3 ให ้ตัวแปร x = x + 2 ; y = y - 5 ;
ขันที 4 ให ้ตัวแปร x = x + 2 ; y = y - 5 ;
ขันที 5 ให ้ตัวแปร x = x + 2 ; y = y - 5 ;
ขันที 6 พิมพ์คา่ x,y จบ
1 : ( x = 16 ; y = 25 ;)
2 : ( x = 14 ; y = 30 ;)
3 : ( x = 12 ; y = 35 ;)
4 : ( x = 10 ; y = 40 ;)

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 255 :
ธิ
สท

วน
สง
ขอ

ถ ้า A = 20 เงือนไขดังต่อไปนีให ้ผลลัพธ์อะไร


ว กร
า วศิ
สภ

1 : B=0
2 : B=10
3 : B=20
4 : B=30
5 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 256 :
ถ ้า A = 5 เงือนไขดังต่อไปนีให ้ผลลัพธ์อะไร

1 : B=0
2 : B=10
3 : B=20
4 : B=30
5 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ

ข ้อที 257 :
สท

วน
สง
ขอ

ถ ้า A = 8 เงือนไขดังต่อไปนีให ้ผลลัพธ์อะไร


ว กร
า วศิ
สภ

1 : B=0
2 : B=10
3 : B=20
4 : B=30
5 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 258 :
จาก Flow chart ทีกําหนด ถ ้าหลังจาก RUN โปรแกรม แล ้วค่า y =15+0.2x ถามว่าค่า x มีโอกาส เป็ นเท่าไร
ธิ
สท

1 : x อาจจะเป็ น 84 หรือ 83 หรือ 79 หรือ 75


2 : x อาจจะเป็ น 87 หรือ 82 หรือ 77 หรือ 76

3 : x อาจจะเป็ น 85 หรือ 80 หรือ 77 หรือ 76


วน

4 : x อาจจะเป็ น 84 หรือ 83 หรือ 78 หรือ 75

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ขอ

ข ้อที 259 :


จาก Flow chart ทีกําหนด จงหาค่า y
เมือ ครังที 1 ให ้ x= 79 , ครังที 2 ให ้ x= 15 ;

ว กร
า วศิ
สภ

1 : 30.8 , 32.5
2 : 17.9, 32.5
3 : 17.9, 30.8
4 : 30.8, 17.9

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 260 :
ธิ
สท

วน
สง
ขอ

ผังงานต่อไปนีเป็ นผังงานของข ้อใด


ว กร
า วศิ
สภ

1 : if....then....else
2 : if .. then
3 : for loop
4 : ไม่มข ี ้อใดถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 261 :
ผังงานต่อไปนีเป็ นผังงานของข ้อใด
ธิ
สท

วน
สง

1 : if....then....else
ขอ

2 : while do ......


3 : if.. then
4 : ไม่มข ี ้อใดถูก

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2


ข ้อที 262 :
า วศิ
ผังงานต่อไปนีเป็ นผังงานของข ้อใด
สภ

1 : if....then....else
2 : while do ......
3 : do.... while
4 : ไม่มข ี ้อใดถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 263 :
ั อไปนีเมือทํางานจนจบ X มีคา่ เท่าไร เมือ a = 100
จากคําสงต่
if (a >= 1000)
X = 1;
else if (a < 10)
X=2;
ธิ

else if (a > 100)


X = 3;
สท

else

X = 4;
วน

1 : 0
2 : 1
3 : 2
สง

4 : 3
5 : 4
ขอ
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

กร

ข ้อที 264 :
แสดงค่าในตัวแปร x ทีเกิดจากผลการทํางานของโปรแกรมนี
int x=50;
if (x > 50)

x=x+10; วศิ
สภ
else if (x < 30)
x=x+20;
else x=x+30;
x=x+10;
1 : 90
2 : 80
3 : 70
4 : 60

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 265 :
จาก algorithm ต่อไปนี เมือสนสุ ิ ดการทํางาน x,y,z จะมีคา่ เป็ นเท่าใด เครืองหมาย ! คือ not operator
-----------------------------------------------------------------------------
1: int x=6, y = 1, z = 2;
2: if (!x) {
3: x = y + 1;
4: z = x - y;
5: } else
6: y = x - z;
1 : x=6, y=1, z=2
2 : x=6, y=4, z=2
3 : x=2, y=1, z=1
4 : x=2, y=4, z=1

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 266 :
จากโปรแกรมทีให ้ ถ ้ากําหนดค่าให ้อาเรย์ x ดังนี 0, 4, 10, 1,3
โดยเริมตังแต่ index 0 ถึง 4 เมือโปรแกรมทํางานจบแล ้ว ans มีคา่ เท่ากับเท่าใด
กรณีภาษา C ans = x[0];
for (i=1; i<=4; i++)
{
if (ans ans = x[i];
} หรือ ในภาษา pascal ans := x[0];
for i:=1 to 4 do
begin
ธิ

if (ans ans := x[i];


สท

end

1 : 0
2 : 4
วน

3 : 10
4 : 1
สง

5 : 3
ขอ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3


กร
ข ้อที 267 :


โปรแกรมต่อไปนีถ ้าต ้องการให ้ ans = 0 ต ้องป้ อนค่า num เป็ นเท่าไร
if( ((num*4-15) < num) || ((num*4-15)>num))
ans = 1;
else า
ans = 0; วศิ
สภ
หมายเหตุ || คือ OR operator ใน pascal
1 : 1
2 : 2
3 : 3
4 : 4
5 : 5

คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 268 :
่ เดียวกันกับ a += (n1 >= n2) ? n1 : n2;
ข ้อใดมีความหมายเชน
1 : if (n1 < n2) a += n2; else a += n1;
2 : if (n1 >= n2) a = n1; else a = n2;
3 : if (n2 < n1) a = a + n2; else a = a + n1;
4 : if (n2 > n1) a = n2; else a = n1;
5 : มีคําตอบทีถูกมากกว่า 1 ข ้อ

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 269 :
จากการใช ้ if (a <= b) c = a; else c = b; ข ้อใดกล่าวถูก?
1 : c จะมีคา่ เท่ากับ a ก็ตอ
่ เมือค่าของ a มากกว่าค่าของ b
2 : c จะมีคา่ เท่ากับ b ก็ตอ่ เมือค่าของ a เท่ากับค่าของ b
3 : ค่าของ c จะไม่มากกว่าค่าของ b เสมอ
4 : ค่าของ c จะมากกว่าค่าของ a ก็ตอ ่ เมือค่าของ a มากกว่า b
5 : มีคําตอบทีถูกมากกว่า 1 ข ้อ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 270 :
ในการใช ้ if statement เพือเชค ็ ดูวา่ ค่าของ n เป็ นเลขคี ซงอยู
ึ ใ่ นชว่ งตังแต่ 10 – 30
หรือไม่นัน เราต ้องใชคํ้ าสงอย่
ั างไร? หมายเหตุ == คือเปรียบเทียบเท่ากับ
!= ไม่เท่ากับ
|| OR
&& AND
ธิ

/ div
สท

% mod

วน

1 : if (((n % 2) == 1) || ((n >= 10) && (n <= 30)))


2 : if (((n / 2) == 1) && ((n >= 10) && (n <= 30)))
3 : if (((n % 2) != 0) && ((n >= 10) && (n <= 30)))
สง

4 : if (((n % 2) == 0) || ((n >= 10) && (n <= 30)))


5 : มีคําตอบทีถูกมากกว่า 1 ข ้อ
ขอ
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

วกร
ข ้อที 271 :
กําหนดตัวแปร n เป็ น integer
็ ว่าตัวแปร n เก็บเลขทีลงท ้ายด ้วย 3
ถ ้าต ้องการเชค
(เชน า วศิ
่ 3, 13, 23, 33, ...) เราต ้องใชคํ้ าสงั if อย่างไร?
หมายเหตุ % คือ mod , / คือ div , == เปรียบเทียบเท่ากับ
สภ
1 : if((n % 3) == 0)
2 : if((n / 3) == 0)
3 : if((n % 10) == 3)
4 : if((n / 10) == 3)
5 : มีคําตอบทีถูกมากกว่า 1 ข ้อ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 272 :
ื MAXNUM มีคา่ 20 ตัวแปร integer number มีคา่ 30; if (number > MAXNUM) number =
กําหนด constant ชอ
MAXNUM; PRINT_TO_SCREEN(number); จากโปรแกรมด ้านบน number ทีได ้จะมีคา่ อย่างไร
1 : number = 0
2 : number = 20
3 : number = 30
4 : number = 40
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูกต ้อง

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 273 :
ั อไปนี โดยกําหนดการป้ อนค่า
แสดงผลการทํางานของคําสงต่
1. N= 5
2. N= 2

IF (N < 5) THEN
IF (N == 4) THEN PRINT "Hello."
ELSE IF (N == 3) THEN PRINT "Goodbye."

PRINT "Siam"
1 : 1. Siam 2. Goodbye
2 : 1. Hello 2. Goodbye
3 : 1. Siam 2. Siam
4 : 1. Hello 2. Goodbye

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
สท

ข ้อที 274 :

วน
สง
ขอ

ให ้เครืองหมาย && คือ and operator


ว กร
า วศิ
สภ
1 : 0
2 : 1
3 : 2
4 : 3
5 : ผิดทุกข ้อ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 275 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี

เริมต ้น
รับค่า x และ y
่ งไปใน y
ถ ้า x > y และ y > 0 ให ้นํ า 0 ใสล
จบ

้ ค
ถ ้าคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบ โดยผู ้ใชใส ่ า่ 5 และ 3 แล ้วทําให ้ข ้อใดเป็ นจริง
1 : x มีคา่ 3
2 : y มีคา่ 3
3 : y มีคา่ 5
4 : y มีคา่ 0
5 : y มีคา่ -1

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 276 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี

เริมต ้น
รับค่า x และ y และ z
ถ ้า x > y แล ้ว z = 0
มิฉะนัน z = 1
จบ

ถ ้าคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบ แล ้วทําให ้ข ้อใดเป็ นจริง


ธิ

1 : z มีคา่ 0 หรือ 1 เท่านัน


2 : z มีคา่ 0 เมือ x = y
สท

3 : z มีคา่ 0

4 : z มีคา่ 1
5 : z มีคา่ 10
วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง
ขอ
อข
ข ้อที 277 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี

กร
เริมต ้น


รับค่า x และ y และ z
ถ ้า (x + y) > z แล ้ว z = x + y

วศิ
มิฉะนัน ถ ้า z = 0 แล ้ว z = y – x
จบ า
สภ
้ ค
ถ ้าคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบ โดยผู ้ใชใส ่ า่ 1 และ 2 และ 4 แล ้วทําให ้ข ้อใดเป็ นจริง
1 : z มีคา่ 1
2 : z มีคา่ 2
3 : z มีคา่ 3
4 : z มีคา่ 4
5 : z มีคา่ 5

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 278 :
ข ้อใดสมมูลกับประโยค if (x <= 80 and x > 49)
1 : if (x = 80 and x > 49)
2 : if (49 < x <= 80)
3 : if (x < 80 or x > 50)
4 : if (not (x > 80 or x < 50))
5 : if (not (x > 80 and x < 50))

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 279 :
ผลลัพธ์ของนิพจน์ในข ้อใดทีแตกต่างจากผลลัพธ์ของนิพจน์ (5+4) / 3 < 3
1 : not (50 >= 14)
2 : 3 + 8 >= 15 or 5 <= 3
3 : 3 - 4 <= 10 and 3 > 3
4 : 14 / 7 < 1 or not (9 < 4)
5 : not (100 > 80 and 10 < 50)

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 280 :
if (วันนีฝนตก หรือ เป็ นวันหยุด) then ฉั นจะไปออกกําลังกาย
else ฉั นจะไปซอของื
สมมุตวิ า่ "วันนีเป็ นวันทํางาน แต่วา่ ฝนตก"
ข ้อใดคือผลลัพธ์ทถู ี กต ้อง
ธิ

1 : ฉั นจะไปออกกําลังกาย
สท

2 : ื
ฉั นจะไปซอของ
3 : ื
ฉั นจะไปออกกําลังกาย และ ฉั นจะไปซอของ

4 : ื
ฉั นจะไปออกกําลังกาย แต่ ฉั นจะไม่ไปซอของ
วน

5 : ื
ฉั นจะไม่ไปออกกําลังกาย และ ฉั นจะไปซอของ
สง

คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ขอ
ข อ
ข ้อที 281 :
A B เป็ น เงือนไข X เป็ น ตัวแปร

กร
X=0
IF A THEN


BEGIN
IF B THEN X = 1 ELSE X = 2
END า
ELSE X = 3 วศิ
สภ
STOP
ถ ้า A จริง B เท็จ เมือโปรแกรมหยุด X มีคา่ เท่าไร
1 : 0
2 : 1
3 : 2
4 : 3
5 : ไม่ทราบค่า

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 282 :
A B เป็ น เงือนไข X เป็ น ตัวแปร

X=0
IF A THEN
BEGIN
IF B THEN X = 1 ELSE X = 2
END
ELSE X = 3
STOP
ถ ้า A เท็จ B จริง เมือโปรแกรมหยุด X มีคา่ เท่าไร
1 : 0
2 : 1
3 : 2
4 : 3
5 : ไม่ทราบค่า

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 283 :
num = -1
if (num < 0) then (num = num + 1)

num มีคา่ เท่าไร หลังการทํางานของโปรแกรมนี


1 : -1
2 : 0
3 : 1
ธิ

4 : 2
สท

5 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วน
สง

ข ้อที 284 :
ขอ

answer = 10


if (a > 10) then answer = answer * 2
if (a < 5) then answer = answer - 1

กร
else if (a > 7) then answer = answer + 1


เมือมีการกําหนดค่าให ้ตัวแปร a ข ้อความใดเป็ นจริง
1 : ถ ้า a = 3 จะได ้ค่า answer = 9
า วศิ
และถ ้า a = 8 จะได ้ค่า answer = 11
2 : ถ ้า a = 3 จะได ้ค่า answer = 11
สภ
และเมือ a = 7 จะได ้ค่า answer = 10
3 : เมือ a = 7 จะได ้ค่า answer = 20
เมือ a = 8 จะได ้ค่า answer = 10
4 : เมือ a = 1 จะได ้ค่า answer = 9
เมือ a = 7 จะได ้ค่า answer = 20
5 : answer = 10 ไม่วา่ a จะมีคา่ เป็ นเท่าไรก็ตาม

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 285 :
ข ้อ 3 ดูโจทย์จากรูปภาพประกอบคําถาม

1 : -9
2 : 9
3 : 21
4 : -21

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 286 :
ข ้อ 1 จงบอกว่าอุปกรณ์ใดต่อไปนี เป็ นอุปกรณ์ประเภท standard output
1 : printer
ธิ

2 : monitor
สท

3 : diskette
4 : Key board

วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สง

ข ้อที 287 :
ขอ

ข ้อ 3 ดูโจทย์จากรูปภาพประกอบคําถาม


กร

า วศิ
สภ

1 : -9
2 : 9
3 : 21
4 : -21

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 288 :
ข ้อ 4 ดูโจทย์จากรูปภาพประกอบคําถาม

1 : -9
2 : 9
3 : 21
4 : -21

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
สท

ข ้อที 289 :


ต ้องการเขียนโปรแกรมเพือคํานวณหาค่าเสอรวมเมื ื
อราคาเสอเป็ นดังนี
วน

น ้อยกว่า 10 ตัวราคาตัวละ 250 บาท


น ้อยกว่า 20 ตัวราคาตัวละ 230 บาท
น ้อยกว่า 30 ตัวราคาตัวละ 200 บาท
สง

น ้อยกว่า 50 ตัวราคาตัวละ 150 บาท


ควรเลือกใชคํ้ าสงใดต่
ั อไปนี
ขอ

1 : if....then


2 : if....then.....else
3 : if...then...else if... (หรือ nested if)

กร
4 : for
5 : while


คําตอบทีถูกต ้อง : 3
า วศิ
สภ
ข ้อที 290 :
ให ้ V เป็ นตัวแปรชนิดจํานวนจริงมีคา่ 2.5
if V > 2.0 then
begin
M := 3.0 * V;
end
else
begin
M := 0.0;
end;
V :=M;
หลังจากคําสงข ั ้างต ้นถูกกระทําแล ้ว ค่า V เป็ นเท่าไร หมายเหตุ begin...end ก็คอ
ื {..} และ := ก็คอ
ื = ในภาษา C
1 : 0.0
2 : 2.5
3 : 7.5
4 : 10

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 291 :
ิ J ได ้อย่างไร
จาก flowchart ข ้างล่างนี การทํางานจะมาถึงกล่อง

1 : A, B, C, และ H ต ้องเป็ นจริง


2 : A และ H เป็ นจริง B เป็ นเท็จ
3 : A และ B เป็ นเท็จ สว่ น H เป็ นจริง
4 : A, H และ C เป็ นเท็จ
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
ธิ
สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

วน

เนือหาวิชา : 6 : การทํางานแบบวงวน
สง

ข ้อที 292 :
ขอ

จงเขียนผลตอบสนองของโปรแกรมดังต่อไปนี


#include
int main(void){

กร
function(5);
}


void function(int i){
printf("%d ", i);

วศิ
if(i==0) return;
else function(i-1);

}
สภ
1 : 0 1 2 3 45
2 : 5 4 3 2 1
3 : 1 2 3 4 5
4 : 5 4 3 2 10

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 293 :
จาก Flow chart ทีกําหนด จงหาค่า val , n และวนรอบกีครัง หลังจากจบโปรแกรม ให ้ค่า y=0 ,x = 1 , k=2 ,b=9

1 : val =32 ,n=9 ;วน 4รอบ


2 : val=28 ,n=11 ;วน 5รอบ
3 : val =28 ,n=9 ;วน 4รอบ
4 : val=22 ,n=9 ;วน 4รอบ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 294 :
ธิ
สท

วน
สง
ขอ

ถ ้า A = 4 และ B = 2เมือออกจากวงรอบ(loop) ผลลัพธ์จะเป็ นอะไร


ว กร
า วศิ
สภ

1 : B=8
2 : B= 16
3 : B=32
4 : B=64
5 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 295 :
ถ ้า A = 1 และ B = 2เมือออกจากวงรอบ(loop) ผลลัพธ์จะเป็ นอะไร

1 : B=0
2 : B=2
3 : B=4
4 : B=6
5 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
สท

ข ้อที 296 :
วน
สง
ขอ

ถ ้า A = 5 และ B = 1เมือออกจากวงรอบ(loop) ผลลัพธ์จะเป็ นอะไร


ว กร
า วศิ
สภ

1 : B=7
2 : B=9
3 : B=11
4 : B=13
5 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 297 :
ถ ้า A = 1 และ B = 2เมือออกจากวงรอบ(loop) ผลลัพธ์จะเป็ นอะไร

1 : B=0
2 : B=2
3 : B=4
4 : B=8
5 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
สท

ข ้อที 298 :
วน

ความแตกต่างระหว่างการทํางานของคําสงั While และ Do-While คืออะไร


1 : คําสงั While ทําคําสงก่
ั อนแล ้วจึงตรวจสอบเงือนไข สว่ นคําสงั Do-While ตรวจสอบเงือนไขก่อนถ ้าเป็ นจริงจึงทํา
สง

ั ต ้องการ
คําสงที
ขอ

2 : คําสงั While ทําคําสงก่
ั อนแล ้วจึงตรวจสอบเงือนไข สว่ นคําสงั Do-While ตรวจสอบเงือนไขก่อนถ ้าเป็ นเท็จจึงทํา


ั ต ้องการ
คําสงที
3 : คําสงั While ตรวจสอบเงือนไขก่อนถ ้าเป็ นจริงจึงทําคําสงที
ั ต ้องการ สว่ นคําสงั Do-While ทําคําสงก่
ั อนแล ้วจึง

กร
ตรวจสอบเงือนไข
4 : คําสงั While ตรวจสอบเงือนไขก่อนถ ้าเป็ นเท็จจึงทําคําสงที
ั ต ้องการ สว่ นคําสงั Do-While ทําคําสงก่
ั อนแล ้วจึง


ตรวจสอบเงือนไข
ั างานเป็ นวงวนเหมือนกันไม่แตกต่างกัน
5 : ทังสองคําสงทํ

วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

สภ

ข ้อที 299 :
ั อไปนี ค่า n[3][3] มีคา่ เท่ากับเท่าใด
จากคําสงต่
for (i=0; i<3; i++) {
for (j=0; j<3; j++) {
n[j][i] = i;
}
}
1 : 0
2 : 1
3 : 2
4 : 3

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 300 :
ให ้หาค่า y สุดท ้ายทีได ้จาก algorithm ต่อไปนี
---------------------------------------------------
x=5
y=1
while (x > 0) {
x=x-1
y=y*x
print(y)
}
1 : 0
2 : 4
3 : 10
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 301 :
จาก algorithm ด ้านล่าง จงเลือกคําตอบทีถูกทีสุด
-----------------------------------------------------------------------------
i=1 และ j=0
ธิ

for (i = 1; i <= 4; i = i+1) {


สท

if ((i - 1) / 2 == 0){

print(i)
j = i+1;
วน

}
}
สง

1 : โปรแกรมนีพิมพ์คา่ i ทังหมด 5 ครัง


2 : ค่า i ค่าสุดท ้ายคือ 4
ขอ

3 : ค่า j สุดท ้าย คือ 2


4 : ค่า j สุดท ้าย คือ 6

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3


ข ้อที 302 :
า วศิ
จาก algorithm ด ้านล่าง่ โปรแกรมจะทํางานวน loop ทังหมดกีรอบ
--------------------------------------------------------------------------
สภ
กําหนด x=0, y = 1, z = 5
while(x < 6) {
y=z+x
if (y < 11) {
x=y+x
}
}
1 : 1
2 : 2
3 : 3
4 : 5

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 303 :
ข ้อใดต่อไปนีได ้ค่าตัวแปร sum เท่ากับโปรแกรมต่อไปนี
sum = 0;
for(i=1; i<=100; i++)
{
sum = sum +i;
}
1 : sum = 0;
j = 0;
for(i=0; i<100; i++)
{
j = i+1;
sum = sum +j;
}
2 : sum = 0;
j = 0;
for(i=1;i<100;i++)
{
j = i+1;
sum = sum +j;
}
3 : sum = 0;
for(i=1;i<100;i++)
{
sum = sum +i;
ธิ

}
สท

4 : sum = 0;

for(i=0;i<=99;i++)
{
วน

sum = sum +i;


}
สง

5 : sum = 0;
for(i=0;i<100;i++)
{
ขอ

sum = sum +i;


}

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 1


ข ้อที 304 :

int a=10; วศิ
โปรแกรมทีให ้มีการทํางานวนรอบทังหมดกีรอบ และแต่ละรอบ a มีคา่ เท่ากับเท่าไร
สภ
while (a >= 1)
{
a = a - 2;
}
1 : 10 รอบ แต่ละรอบ a มีคา่ เท่ากับ 1,2,3,4,5,6,7,8,9 และ 10
2 : 10 รอบ แต่ละรอบ a มีคา่ เท่ากับ 10,9,8,7,6,5,4,3,2 และ 1
3 : 5 รอบ แต่ละรอบ a มีคา่ เท่ากับ 9,7,5,3 และ 1
4 : 5 รอบ แต่ละรอบ a มีคา่ เท่ากับ 10,8,6,4 และ 2
5 : 5 รอบ แต่ละรอบ a มีคา่ เท่ากับ 2,4,6,8 และ 10

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 305 :
กําหนดให ้
int i;
for (i = 1;i < 10; i++){
if ( i > 7 ) continue;
if ( i == 5 ) break;
printf(”KORAT”);
}
สตริง KORAT จะถูกพิมพ์ทงหมดกี
ั ครัง?
1 : 10
2 : 6
3 : 4
4 : 5
5 : 7

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 306 :
ข ้อใดมีความหมายตรงกับคําว่า Inifinite Loop มากทีสุด
1 : ผิดเงือนไขโปรแกรมจะไม่ทํางานภายในลูป
2 : ํ
ทํางานวนซาตามที กําหนดค่าตัวแปรในโปรแกรม
3 : ํ
ทํางานวนซาตามที กําหนดในโปรแกรมโดยมีจด ิ ด
ุ สนสุ
4 : ทํางานวนซาตามที ํ กําหนดในโปรแกรมโดยไม่มจ ี ด ิ ด
ุ สนสุ
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูกต ้อง
ธิ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สท

วน

ข ้อที 307 :
i = 0;
สง

for (j = -2; j < 3; j++) {


i = j + i++;
} ค่า i จะมีคา่ เท่าไร
ขอ

1 : 2


2 : 4
3 : 6

กร
4 : -6
5 : -4


คําตอบทีถูกต ้อง : 3
า วศิ
สภ
ข ้อที 308 :
j = k = 0;
do {
j += k;
k += 2;
} while (k < 20);
อยากทราบว่าค่า j มีคา่ เท่าไร
1 : 50
2 : 60
3 : 70
4 : 80
5 : 90

คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 309 :
Recursive Function มีความหมายว่าอย่างไร
1 : ั ทีทํางานแบบไม่รู ้จบ
คือฟั งก์ชน
2 : คือฟั งก์ชนั ทีมีการเรียกจากภายในฟั งก์ชน
ั เอง
3 : ั
คือฟั งก์ชนทีมีเงือนไขจึงจะออกจากโปรแกรมได ้
4 : คือฟั งก์ชน ั สําหรับทํางานในโปรแกรมระบบเท่านัน

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 310 :
Nested Loops มีความหมายอย่างไร
1 : คือ Loop ทีโปรแกรมวนไม่รู ้จบ
2 : คือ Loop ั
ทีมีคําสงประเภทเดี ้
ยวกันซอนอยู ่
3 : คือ Loop ั ้
ทีมีคําสงวนซอนกันมากกว่า 1 Loop
4 : คือ Loop เฉพาะทีมีเงือนไขสําหรับออกจากโปรแกรม

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 311 :
ธิ

กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี
สท

เริมต ้น

x=1
ทําซาํ
วน

x=x+1
จนกระทัง x > 5
สง

จบ
ขอ
ข อ
ถ ้าคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบ แล ้วทําให ้ข ้อใดเป็ นจริง

กร
1 : x มีคา่ 1
2 : x มีคา่ 5
3 : x มีคา่ 6


4 : x มีคา่ 7
5 : x มีคา่ 8
า วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ

ข ้อที 312 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี

เริมต ้นโปรแกรม
รับค่า x และ y
ทําซาํ
ถ ้า x > y แล ้ว
{ แสดงค่า x ; x = x – 1 ; }
จนกระทัง x = y
จบโปรแกรม

้ ค
ถ ้าคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบ โดยผู ้ใชใส ่ า่ 5 และ 1 แล ้วจะมีการแสดงค่าอะไร
1 : 5
2 : 5 1
3 : 5 432
4 : 5 4321
5 : 5 43210

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 313 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี

BEGIN
sum = 0 ;
FOR count = 1 to n
{ sum = sum + 1 ; write(sum) ; }
END

ถ ้าคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบ แล ้วจะมีการแสดงค่าอะไร
1 : 0 1 2 3 4 ไปจนถึง n
2 : 1 2 3 4 ไปจนถึง n
3 : 0 1 3 4 7 ไปจนถึง n + (n + 1)
4 : 1 3 4 7 ไปจนถึง n + (n + 1)
5 : 1 3 5 7 ไปจนถึง n
ธิ

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สท

ข ้อที 314 :
วน

ั แบบเรียกซาํ สงส
ในการประมวลผลการทํางานของฟั งก์ชน ิ ําคัญทีจําเป็ นต ้องทราบคือข ้อใด
1 : จุดเริมต ้นของการทํางาน
สง

ิ ดการทํางาน
2 : จุดสนสุ
3 : ค่าเริมต ้นของการทํางาน
ขอ

ไม่เรียกซาํ
4 : นิพจน์ทวไปที


คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ว กร
ข ้อที 315 :
ในการหาค่าของ n ตัวแรกทีทําให ้ผลบวกของอนุกรม 1 + 2 +3 +..+ n > 15 เป็ นจริง ถ ้าตรวจสอบเงือนไข ผลบวก >

วศิ
15 ในการออกจากวงวนหลังจากทีทําการบวกสะสมค่าของพจน์ โปรแกรมนีจะวนอยูใ่ นวงวนกีเทียว

สภ
1 : 5 เทียว
2 : 6 เทียว
3 : 7 เทียว
4 : 8 เทียว

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 316 :
จาก psuedocode:
a=0;
while a<20
show a on a screen;
a=a+1
a=0; end ผลลัพธ์คา่ a หลังจาก run เสร็จแล ้วคือ
1 : 0
2 : 20
3 : 19
4 : ไมมีคําตอบทีถูกเนืองจากโปรแกรมไม่สมบูรณ์
5 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกเนืองจากโปรแกรมทํางานไม่หยุด

คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 317 :
พิจารณาโปรแกรมต่อไปนี
S=0
X=0
WHILE X < N
BEGIN
S=S+2
X=X+1
END
STOP

ถ ้า N = 10 เมือโปรแกรมวิงจนจบ S มีคา่ เท่าไร


1 : 10
2 : 12
3 : 20
ธิ

4 : 22
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
สง

ข ้อที 318 :
ต ้องการ บวก 1 ถึง N คําตอบเป็ น S โปรแกรมต่อไปนี บรรทัดไหนผิด
ขอ

1S=0


2X=1
3 WHILE X < N

กร
BEGIN
4S=S+X


5X=X+1
END

วศิ
STOP
1
า: 1
สภ
2 : 2
3 : 3
4 : 4
5 : 5

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 319 :
ให ้ N เป็ น เลขคู่ มากกว่า 0
ขณะทีโปรแกรมทํางานอยู่ X กับ Y มีคา่ ตรงกันพร ้อนกันได ้หรือไม่ ค่าใด

X=0
Y=N
WHILE X < N
BEGIN
X=X+1
Y=Y-1
END
STOP
1 : ไม่มวี น
ั ตรงกัน
2 : 0
3 : N
4 : N/2
5 : N/2 + 1

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 320 :
x=0
for count = 1 to 3
x = x + count

x มีคา่ เป็ นเท่าไร หลังการทํางานของโปรแกรมนี


1 : 3
2 : 4
3 : 5
4 : 6
ธิ

5 : 7
สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

วน

ข ้อที 321 :
สง

value = -1
while (value < 3)
ขอ

if (value < 0) then (value = value + 1)


value มีคา่ เท่าไร หลังการทํางานของโปรแกรมนี

กร
1 : -1
2 : 0


3 : 2
4 : 4
5 า:
วศิ
ไม่มค
ี ําตอบ เนืองจากโปรแกรมไม่หยุดทํางาน
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 322 :
จงหาค่าเงือนไขทีเพือให ้ algorithm ได ้ผลลัพธ์ตอ
่ ไปนี
12345678
-------------------------------------
count = 1
while ( ___________ ) {
Show count
Show " "
count = count + 1
}
1 : count <=9
2 : count !=9
3 : count+1<=8
4 : count+1 < 10

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 323 :

ถ ้าต ้องการวนรับอายุของผู ้ใชจนกว่ ่ า่ ทีมากกว่าศูนย์ น่าจะตรวจสอบเงือนไขก่อนหรือหลังจากรับค่าอายุเก็บไว ้ใน
าจะใสค
ตัวแปร
1 : ก่อน
2 : หลัง
3 : กลาง
4 : ก่อนหรือกลาง

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 324 :

คําสงเที ยมต่อไปนีสอดคล ้องกับผลลัพธ์ในข ้อใด Set A = 1 Set R = 0.2 FOR I = 1 to N do A = A*(1+R)
1 : A = (1+R)^N
2 : A = A*(1+R)
3 : A = (1+R)*N
4 : A = (1+R)(1+R)
ธิ

5 : A = A*(1+R)*N
สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

วน

ข ้อที 325 :
สง


ชุดคําสงเที ั
ยม DO X = X + 1; WHILE (X < 10); เทียบเท่ากับคําสงในข ้อใด
1 : FOR N=1 TO 10 X=X+1; END FOR
ขอ

2 : WHILE (X<10) DO X=X+1; END WHILE


3 : LOOP X=X+1; IF (X>=10) EXIT; END LOOP
4 : REPEAT X=X+1; UNTIL (X<10);

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3


วศิ
ข ้อที 326 :

สภ

1:

2:

3:

4:

5:

คําตอบทีถูกต ้อง : 5
ธิ

ข ้อที 327 :
สท

วน
สง
ขอ
ข อ
ว กร
า วศิ
สภ
1 : หาผลรวม
2 : หาค่าเฉลีย
3 : หาค่าเบียงเบนมาตรฐาน
4 : หาค่ามัธยฐาน

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 328 :
กําหนดให ้ == คือ operator ในการตรวจสอบความเท่ากันของข ้อมูล

1 : หาค่ามากสุด
2 : นับจํานวนตัวทีมาก
3 : หาว่ามีคา่ ใน data ทีมีคา่ เท่ากับ x หรือไม่
4 : นับจํานวนตัวใน data ทีมีคา่ เท่ากับ x
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 329 :
ธิ

1 : 8
สท

2 : 9

3 : 10
4 : 11
วน

5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
สง

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ขอ
ข อ
ข ้อที 330 :
ข ้อใดผิดสําหรับสว่ นโปรแกรมทีต ้องการวนรับตัวอักษรไปเรือย ๆ จนกว่าจะกด q โดยทีมีการประกาศตัวแปรให ้ใชดั้ งนี

กร
char check=’w’;
1 : while(check!=”q”) { printf(“Enter one char : ”); check=getch( ); }


2 : while(check!=113) { printf(“Enter one char : ”); check=getch( ); }
3 : do { printf(“Enter one char : ”); check=getch( ); } while(check!=‘q’);

วศิ
4 : for(i=0;check!=‘q’;i++) { check=getche(); }

คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ

ข ้อที 331 :
จากสว่ นของโปรแกรมดังต่อไปนี ผลลัพธ์ i และ j จะเป็ นจะมีคา่ เท่าใดเมือสนสุ
ิ ดการทําวนรอบ j =0; for (i =0; i < 10 ;
i = i+2) j = j+5;
1 : i = 10 j = 50
2 : i = 10 j = 25
3 : i = 12 j = 50
4 : i = 12 j = 25
5 : ไม่มข
ี ้อถูกต ้อง

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 332 :
จากสว่ นของโปรแกรมดังต่อไปนี ผลลัพธ์ i และ j จะเป็ นจะมีคา่ เท่าใดเมือสนสุ
ิ ดการทําวนรอบ j =2; for (i =0; i < 10 ;
i = i+2) j = j*2;
1 : i = 10 j =32
2 : i = 10 j = 64
3 : i = 12 j = 32
4 : i = 12 j =64
5 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 333 :
จากสว่ นของโปรแกรมดังต่อไปนี ผลลัพธ์ i และ j จะเป็ นจะมีคา่ เท่าใดเมือสนสุ
ิ ดการทําวนรอบ j =0; for (i =1; i < 10 ;
i = i*2) j = j+2;
1 : i = 10 j = 10
2 : i = 10 j = 8
3 : i = 16 j = 10
4 : i = 16 j = 8
5 :

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท

ข ้อที 334 :

จากสว่ นของโปรแกรมดังต่อไปนี ผลลัพธ์ i และ j จะเป็ นจะมีคา่ เท่าใดเมือสนสุ


ิ ดการทําวนรอบ j =1; for (i =1; i < 10 ;
i = i*2) j = j*2;
วน

1 : i = 8j=8
2 : i = 16 j = 8
สง

3 : i = 16 j = 32
4 : i = 8 j = 16
ขอ

5 : i = 16 j = 16


คําตอบทีถูกต ้อง : 5

วกร
ข ้อที 335 :

า วศิ
สภ

1:

2:

3:

4:
ธิ

5:
สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วน
สง

ข ้อที 336 :
จากสว่ นของโปรแกรมดังต่อไปนี ผลลัพธ์ i และ j จะเป็ นจะมีคา่ เท่าใดเมือสนสุ
ิ ดการทําวนรอบ j =0; for (i =1; i < 10 ;
i = i*3) j = j+2;
ขอ
ข อ
1 : i = 12 j = 8
2 : i = 27 j = 8

กร
3 : i = 12 j =6
4 : i =27 j =6
5 : i =27 j=10


คําตอบทีถูกต ้อง : 4
า วศิ
สภ
ข ้อที 337 :
จากสว่ นของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดการทํางานในวงวน (loop) กีครัง j = 10; do { j = j-1; } while (j >0);
1 : 7
2 : 8
3 : 9
4 : 10
5 : 11

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 338 :
จากสว่ นของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดการทํางานในวงวน (loop) กีครัง j =10; do { j = j-2; } while (j >0);
1 : 3
2 : 5
3 : 7
4 : 9
5 : 10

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 339 :
จากสว่ นของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดการทํางานในวงวน (loop) กีครัง j = 10; do { j = j/2; } while (j >0);
1 : 4
2 : 5
3 : 6
4 : 7
5 : 8

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 340 :
จากสว่ นของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดการทํางานในวงวน (loop) กีครัง j = 10; while (j >=0) { j = j -1; }
1 : 8
2 : 9
ธิ

3 : 10
สท

4 : 11
5 : 12

วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง

ข ้อที 341 :
ขอ

จากสว่ นของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดการทํางานในวงวน (loop) กีครัง j = 10; while (j >=0) { j = j -2; }


1 : 4

กร
2 : 5
3 : 6
4 : 7


5 : 8

วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

สภ
ข ้อที 342 :
จากสว่ นของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดการทํางานในวงวน (loop) กีครัง j = 10; while (j >=0) { j = j - 3 ; }
1 : 3
2 : 4
3 : 5
4 : 6
5 : 7

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 343 :
จากสว่ นของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดแสดงข ้อความ "Test" กีครัง for (i =0 ; i < 10 ; i++) { printf ("Test\n"); }
1 : 9
2 : 10
3 : 11
4 : 12
5 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 344 :
จากสว่ นของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะแสดงข ้อความ "Test" กีครัง for (i =0 ;i<= 10 ; i++) { printf ("Test\n"); }
1 : 9
2 : 10
3 : 11
4 : 12
5 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 345 :
จากสว่ นของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะแสดงข ้อความ "Test" กีครัง for (i = 1 ;i< 10 ; i++) { printf ("Test\n"); }
1 : 8
ธิ

2 : 9
สท

3 : 10

4 : 11
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
วน

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สง
ขอ
ข อ
ข ้อที 346 :
จากสว่ นของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะแสดงข ้อความ "Test" กีครัง for (i =1 ;i<= 10 ; i++) { printf ("Test\n"); }

กร
1 : 8
2 : 9


3 : 10
4 : 11
5 า:
วศิ
ไม่มข
ี ้อถูก
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 347 :
จากสว่ นของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะแสดงข ้อความ "Test" กีครัง for (i =0 ;i< 10 ; i=i+2) { printf ("Test\n"); }
1 : 4
2 : 5
3 : 6
4 : 7
5 : 8

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 348 :
จากสว่ นของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะแสดงข ้อความ "Test" กีครัง for (i =1 ;i< 10 ; i=i*2) { printf ("Test\n"); }
1 : 2
2 : 3
3 : 4
4 : 5
5 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 349 :
ธิ
สท

1 : a=4b=8

2 : a=4b=7
วน

3 : a =5 b= 8
4 : a =5 b= 7
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
สง

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ขอ
ข อ
ข ้อที 350 :

ว กร
า วศิ
สภ

1 : a = 5 b =6
2 : a = 5 b =7
3 : a=4b=6
4 : a = 4 b =7
5 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 351 :

ในการเขียนโปรแกรมเพือใชในการคู ้
ณ matrix ขนาด m x n จํานวน 2 matrix จะต ้องใชการวนลู ั
ปกีชนในการแก ้ปั ญหานี
1 : 4 ั
ชน
2 : 2 ชน ั
3 : 1 ชน ั
4 : 3 ชน ั

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 352 :

ในการเขียนโปรแกรมเพือใชในการหาค่ าน ้อยทีสุดของเลขจํานวนเต็ม ถ ้ามีเลขจํานวนเต็มอยู่ 10 ตัว จะต ้องมีการวนลูปลึก
กีชนั และเกิดการเปรียบเทียบขึนกีครัง
1 : 1 ั
ชน และเกิดการเปรียบเทียบ 10 ครัง
2 : 1 ชน ั และเกิดการเปรียบเทียบ 9 ครัง
3 : 2 ชน ั และเกิดการเปรียบเทียบ 36 ครัง
4 : 2 ชน ั และเกิดการเปรียบเทียบ 45 ครัง

คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ

ข ้อที 353 :
ถ ้า สว่ น for(x = 2; x <20; x+=3) อยูใ่ นโปรแกรมทีแสดงค่า x ทุกค่าจนจบโปรแกรม ค่าของ x ในข ้อใดไม่ถก
ู ต ้อง
สท

1 : 8

2 : 14
วน

3 : 17
4 : 18
สง

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
ข อ
ข ้อที 354 :
ั ลักษณ์ดงั รูป หมายถึงสญ
สญ ั ลักษณ์ในผังงานข ้อใด

กร

1 : การรับหรือแสดงผลโดยไม่ระบุอป ุ กรณ์
2
3
า:
: วศิ
การแสดงผลทางจอภาพ
การแสดงผลข ้อมูลเป็ นเอกสาร เชน ่ แสดงผลทางเครืองพิมพ์
สภ
4 : จุดเริมต ้น หรือจุดสุดท ้ายของกิจกรรม

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 355 :
โปรแกรมทีแสดง x = 2; while(x<=100) x++; ให ้ผลลัพธ์อย่างไร
1 : โปรแกรมแสดง 1-100
2 : โปรแกรมแสดงเลขคูต
่ งแต่
ั 2-100
3 : โปรแกรมแสดงเลขตังแต่ 2-100
4 : โปรแกรมแสดงเลขคีตังแต่ 2-100

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

เนือหาวิชา : 7 : Arrays 1-2 มิต ิ

ข ้อที 356 :
กําหนด a[] = {7,3,2,5,6}; ความหมายของ a[3] จะมีคา่ เท่าใด
1 : 7
2 : 3
3 : 2
4 : 5
5 : 6

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 357 :
ข ้อใดถูกต ้องทีสุด
1 : ิ ของอะเรย์ ตัวแรกสุด
a[0] เป็ นสมาชก
2 : a[]= {2,5,3,9} ตัวแปรอะเรย์ ทีมีคา่ 5 คือ a[2]
3 : a[]= {2,5,3,9}สมาชก ิ ตัวสุดท ้ายของอะเรย์คอื a[4]
4 : ไม่มข
ี ้อถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ธิ
สท

ข ้อที 358 :

ข ้อความ “Hello-World” ต ้องใชตั้ วแปรอะเรย์ชนิด char จํานวนกีตําแหน่ง


วน

1 : 9
2 : 10
3 : 11
สง

4 : 12
ขอ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3


กร
ข ้อที 359 :


จาก Flow chart ทีกําหนดหลังจบโปรแกรมจงหาค่า matrix และหาค่าวนรอบจุด A , B ,C,E จุดละกีรอบ เมือตําแหน่ง
Array เริมที a[1][1] ,b[1][1] ให ้ค่า n= 1,m=2 ,x=1,y=3

า วศิ
สภ

1 : C[2][3]={ 12 , -10 ,35 ,5 ,9,14} วนรอบจุด A = 2 รอบ ,จุด B =2 รอบ,จุด C=2 รอบ ,จุด E =6 รอบ
2 : C[2][3]={ 12 , -13 ,35 ,5 ,9,13} วนรอบจุด A = 2 รอบ ,จุด B =2 รอบ,จุด C=3 รอบ ,จุด E = 7 รอบ
3 : C[2][3]={ 12 , -7 ,35 ,5 ,9,14} วนรอบจุด A = 2 รอบ ,จุด B =2 รอบ,จุด C=2 รอบ ,จุด E =7 รอบ
4 : C[2][3]={ 12 , -13 ,35 ,5 ,9,14} วนรอบจุด A = 2 รอบ ,จุด B =2 รอบ,จุด C=2 รอบ ,จุด E =6 รอบ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 360 :
ธิ
สท

วน
สง
ขอ

รหัสเทียม(pseudocode) ต่อไปนีตรงกับการทํางานในข ้อใด


วกร
า วศิ
สภ

1 : การเรียงตัวเลขจากน ้อยไปหามาก
2 : การเรียงตัวเลขจากมากไปหาน ้อย
3 : ้ เรย์ A และ C ชว่ ย
การหาผลรวมตัวเลขในอาร์เรย์ B โดยใชอาร์
4 : ้ เรย์ A และ B ชว่ ย
การหาผลรวมตัวเลขในอาร์เรย์ C โดยใชอาร์

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 361 :
จากรหัสเทียม(pseudocode)ทีกําหนดให ้ หากมีการเปลียนบรรทัดที 7 เป็ น for j = 1 to length[A] จะเกิดผลตรงกับข ้อ
ใด
ธิ
สท

วน
สง
ขอ

1 : ้ เรย์ A และ B ชว่ ย
การหาผลรวมตัวเลขในอาร์เรย์ C โดยใชอาร์


2 : ้ เรย์ A และ C ชว่ ย
การหาผลรวมตัวเลขในอาร์เรย์ B โดยใชอาร์
3 : การเรียงตัวเลขจากมากไปหาน ้อย

กร
4 : การเรียงตัวเลขจากน ้อยไปหามาก


คําตอบทีถูกต ้อง : 4


ข ้อที 362 :
วศิ
สภ
ั X ต่อไปนี
กําหนดรหัสเทียม(pseudocode)ของฟั งก์ชน

1 : 1
2 : 3
3 : 5
4 : 7

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 363 :
ธิ
สท

วน
สง
ขอ

ั X ต่อไปนี
กําหนดรหัสเทียม(pseudocode) ของฟั งก์ชน


กรว
า วศิ
สภ

1 : 2
2 : 4
3 : 6
4 : 8

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 364 :
ั X ต่อไปนี
กําหนดรหัสเทียม(pseudocode) ของฟั งก์ชน
ธิ
สท

วน
สง

1:1
ขอ

2:2


3:3
4:4

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 1


ข ้อที 365 :
า วศิ ึ การเรียกใชงานฟั
กําหนดรหัสเทียม(pseudocode) ของโปรแกรม Y ซงมี ้ ั X ดังต่อไปนี
งก์ชน
สภ

1 : 12
2 : 8
3 : 7
4 : 4

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 366 :
ธิ
สท

วน
สง
ขอ

ึ การเรียกใชงานฟั
กําหนดรหัสเทียม(pseudocode) โปรแกรม Y ซงมี ้ ั X ดังต่อไปนี
งก์ชน


กรว
า วศิ
สภ

1 : 1
2 : 10
3 : 9
4 : 21

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 367 :

คําสงใดมั ้
กนิยมใชในการนํ าข ้อมูลเข ้าไปเก็บและแสดงผลข ้อมูลในตัวแปรชุด
1 : loop
2 : while
3 : do-while
4 : for
5 : do-until

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท

ข ้อที 368 :
วน

ั อไปนีเมือทําจนจบคําสงั ข ้อความทีเก็บในC[ ] คืออะไร


จากคําสงต่
str[ ] = “Hello World”;
i = 0;
สง

for (k=10; k>=0; k--){


C[k] = str[i];
ขอ

i = i + 1;


}

กร
1 : Hello World
2 : World
3 : dlroW olleH


4 : dlroW

วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

สภ
ข ้อที 369 :
้จาก algorithm ด ้านล่างนี จงหา ค่าของตัวแปร what ทีพิมพ์ออกมา
----------------------------------------------------------------------
score = {1, 4, 8, 5, 6, 2}
what = score[0]
FOR (index=0; index < 6; index=index+1) {
if ( score[index] > what ) {
what = score[index];
}
}
print(what)
1 : 1
2 : 8
3 : 6
4 : 2

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 370 :
ค่าทีเก็บในตัวแปรชุด a[ ][ ] หลังจากการทํางานของโปรแกรมคือข ้อใด
int a[3][4];
int i,j;
for(i=0; i<3; i++)
for(j=0; j<4; j++)
a[i][j] = i*j;
1 :000 0
0 000
0 123
2 :000 0
0 123
0 236
3 :000 0
0 123
0 146
4 :000 0
0 123
0 246
ธิ
สท

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

วน

ข ้อที 371 :
กําหนดให ้ int data[6][5][4];
สง

ถ ้าต ้องการให ้ตัวแปรตัวที 20 เก็บค่า 100 เราต ้องใชคํ้ าสงอย่


ั างไร?
1 : data[0][4][3] = 100;
ขอ

2 : data[1][4][3] = 100;


3 : data[1][3][3] = 100;
4 : data[0][3][3] = 100;

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 1


ข ้อที 372 :
า วศิ
ถ ้า y = { 1, 9, 2, 6, 7 };
สภ
y[3] จะมีคา่ เท่าไร
1 : 1
2 : 9
3 : 2
4 : 6

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 373 :
ถ ้า y[3][3] = {{7, 4, 5}, {6, 1, 8}, {2, 3, 4}};
y[2][1] มีคา่ เท่าไร
1 : 1
2 : 3
3 : 4
4 : 6

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 374 :
int function_x(int x[] int len) { int temp = x[0]; for(int i=1; i
1 : เรียงค่าน ้อยไปหาค่ามาก
2 : เรียงค่ามากไปหาค่าน ้อย
3 : ค ้นหาค่าทีน ้อยทีสุด
4 : ค ้นหาค่าทีมากทีสุด

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 375 :
จากโปรแกรมด ้านล่าง ค่าของ x[7] และ d[7] จะมีคา่ เท่าใด int x[8] = 0; int d[8] = 0; int k; for(k=1;k<8;k++) {
x[k] = (2*k-1); d[k] = d[k-1] + x[k]; }
1 : 9, 25
2 : 11, 36
3 : 13, 49
4 : 15, 64
ธิ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สท

วน

ข ้อที 376 :
กําหนดให ้ตัวแปร x และ y เป็ นแถวลําดับ (array) ทีมี 1 มิตแ ิ ละมีคา่ ดังนี
สง

x[n] = y[n]
โดยที n เป็ นเลขจํานวนเต็ม ถ ้า n มีคา่ 3 และ y[3] มีคา่ 4 แล ้ว x[3] จะมีคา่ เท่าใด
ขอ

1 : 1


2 : 2
3 : 3

กร
4 : 4


คําตอบทีถูกต ้อง : 4


ข ้อที 377 :
วศิ
สภ
ถ ้ามีการประกาศตัวแปรอาร์เรย์ของ float โดย float y[10][10]; อาร์เรย์ y มีขนาดเป็ นกี byte (กําหนดให ้ float มีขนาด
เท่ากับ 4 byte)
1 : 200
2 : 242
3 : 400
4 : 484

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 378 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี

เริมต ้นโปรแกรม
รับค่า i
ทําซาํ โดยให ้ count = 1 ถึง i
x[i] = i + 1
จบทําซาํ
จบโปรแกรม

้ ค
ถ ้าคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบ โดยผู ้ใชใส ่ า่ 7 แล ้วข ้อใดเป็ นจริง
1 : x[2] มีคา่ 3
2 : x[3] มีคา่ 3
3 : x[7] มีคา่ 6
4 : x[7] มีคา่ 7

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 379 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี

เริมต ้นโปรแกรม
i=8;
x[1] = 1 ; x[2] = 1 ;

ทําซาโดยให ้ count = 3 ถึง i
x[i] = x[i – 1] + x[i - 2]
จบทําซาํ
จบโปรแกรม
ธิ
สท

ถ ้าคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบ แล ้วทําให ้ข ้อใดเป็ นจริง


1 : x[2] มีคา่ 3
วน

2 : x[3] มีคา่ 3
3 : x[4] มีคา่ 3
4 : x[5] มีคา่ 3
สง

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
ข อ
ข ้อที 380 :

กร
จาก char fruit [5] [20] = {“apple”, “banana”, “cherry”, “orange”, “strawberry”}; ข ้อใดคือค่าของ fruit [3] [0]
1 : ‘a’


2 : ‘c’
3 : ‘b’
4 า: ‘o’
วศิ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 381 :
ถ ้า int num[5] = {8,12,20,5,40}; ข ้อใดเป็ นคําตอบของ y เมือ int y = num[1]*num[3]–num[4];
1 : num[0]
2 : num[1]
3 : num[2]
4 : num[3]

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 382 :
จาก pseudocode:
a: array of 2*10;
b: array of 5*2;
for a_x=1 to 2
b(a_x,a_x)=a_x;
for a_y=1 to 10;
a(a_x,a_y)=a_x*a_y;
end
end
c=a(5,2)+b(2,2);
ผลลัพธ์ของ c คือ
1 : 1
2 : 2
3 : 12
4 : 7

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 383 :
ให ้ A[1..N] เป็ น อะเรย์ หนึงมิต ิ ขนาด N
โปรแกรมต่อไปนีทําอะไร

M = A[1]
ธิ

FOR K =2 TO N
IF M < A[K] THEN M = A[K]
สท

END

1 : หาค่า MAX A[1..N]


วน

2 : หาค่า MIN A[1..N]


3 : หาว่า มีคา่ ใดน ้อยกว่า M หรือไม่
สง

4 : หาว่า มีคา่ ใดมากกว่า M หรือไม่

คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ขอ
ข อ
กร
ข ้อที 384 :
ให ้ A[1..N] เป็ น อะเรย์ หนึงมิต ิ ขนาด N
A[1]=1 A[2]=2 ... A[N]=N


เมือโปรแกรมจบ A[5] มีคา่ เท่าไร

FOR K = 2 TO N
า วศิ
A[K] = A[K-1] + A[K]
สภ
END
1 : 5
2 : 9
3 : 11
4 : 15

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 385 :
ให ้ B[1..N, 1..N] เป็ น อะเรย์ 2 มิต ิ ขนาด N x N
เมือโปรแกรมทํางานเสร็จ บรรทัด B[J,K] = B[J,K] + 1 ทํางานไปกีรอบ

FOR J = 1 TO N
FOR K = 1 TO J
B[J,K] = B[J,K] + 1
END
1 : N
2 : 2N
3 : NxN
4 : N(N+1)/2
5 : ผิดทุกข ้อ

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 386 :
ธิ
สท

วน
สง
ขอ

จากโปรแกรม ตัวแปร a รับค่าได ้มากทีสุดกีค่า


กรว
า วศิ
สภ

1 : 30
2 : 60
3 : 90
4 : 120

คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 387 :
กําหนดให ้
a = {3,5,7,2};
b = {1,9,9,1};
จงหาค่าของ b[a[3]] + a[b[3]]
1 : 10
2 : 12
3 : 14
4 : 16

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 388 :
ธิ

ต่อไปนีข ้อใดต ้องใชตั้ วแปรเป็ นอาเรย์ 2 มิต ิ


สท

1 : เพือเก็บคะแนนของนักเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ 100 คน

2 : เพือเก็บคะแนนนักเรียน 5 วิชา
3 : เพือเก็บปริมาณนํ าฝนแต่ละเดือนในชว่ ง 10 ปี
วน

4 : เพือเก็บจํานวนนักเรียนของโรงเรียน 100 โรง


สง

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
ข อ
ข ้อที 389 :
ดูโจทย์จากรูปภาพประกอบคําถาม

กรว
า วศิ
สภ

1 : 10
2 : 20
3 : 30
4 : 60

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 390 :
ธิ
สท

วน
สง
ขอ

ดูโจทย์จากรูปภาพประกอบคําถาม


วกร
า วศิ
สภ

1 : read(a[i,j])

2 : read(a[j,i])

3 : write(a[Sun,5])

4 : write(a[Thurs,5])

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 391 :
n=6
ธิ
สท

วน
สง

1 : [7,6,5,4,3,2,1]
ขอ

2 : [1,1,1,1,1,1,1]


3 : [7,7,7,7,7,7,7]
4 : [1,2,3,4,5,6,7]

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4


ข ้อที 392 :
า วศิ ์ มี
ถ ้าต ้องการทําการประกาศตัวแปร A เพือเก็บข ้อมูลเมตริกซท ี ขนาด 4 X 4 ควรประกาศตัวแปรอย่างไร
สภ
1 : A : Array [1..4] of Integer ;
2 : A : Array [1..4, 1..4 ] of Integer ;
3 : A : Array [1..4, 1..4, 1..4, 1..4] of Integer ;
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 393 :
ื A มีขนาด 8 ชอ
ถ ้า Array 1 มิต ิ ชอ ่ งข ้อมูล แล ้วต ้องการเก็บค่า 20 ไว ้ในตําแหน่ง(Index)ที 5 จะต ้องเขียนคําสงอย่
ั างไร
1 : A[8] := 20;
2 : A[5] := 20 ;
3 : Readln( A[5] )
4 : For i := 1 to 8 Do Readln( A[i] ) ;

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 394 :
Var A : Array [0..10] of integer; B : Array [1..10] of real; C : Array [1..2,-1..3,1..3,0..3] of integer; ถ ้าต ้องการ

เขียนคําสงในการกํ ั
าหนดให ้ Array B มีคา่ เป็ น 0 ทังหมด จะต ้องเขียนคําสงอย่
างไร
1 : B[1..10] := 0;
2 : B := 0;
3 : For i := 1 to 10 do B[i] := 0;
4 : ถูกทุกข ้อ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 395 :
Var A : Array [0..10] of integer; B : Array [1..10] of real; C : Array [1..2,-1..3,1..3,0..3] of integer; ตัวแปร C
เป็ นตัวแปร Array แบบกีมิต ิ (Dimension) และสมาชก ิ (Element) ทังหมดกีจํานวน
1 : 4 มิต ิ , 54 จํานวน
2 : 4 มิต ิ , 96 จํานวน
3 : 4 มิต ิ , 120 จํานวน
4 : 2x2 มิต ิ , 96 จํานวน
ธิ

คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สท

ข ้อที 396 :
วน

จากโจทย์ตอ ่ ไปนี For i := 1 to 5 Do For j := 1 to 3 Do Readln (X[i,j]) ; มีการรับข ้อมูลเข ้าไปไว ้ในตัวแปร X กี
จํานวน ?
สง

1:3
2:5
ขอ

3:8


4 : 15

กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4


ข ้อที 397 :
วศิ ื X ลําดับที 5 จะต ้องเขียนคําสงอย่
ถ ้าต ้องการนํ าค่า 16 นํ าไปเก็บไว ้ในตัวแปร Array ชอ
า ั างไร
สภ
1 : X : Array[ 5 , 16] of Integer ;
2 : X[ 5 ] := 16 ;
3 : X[ 16 ] := 5 ;
4 : 16 = X[ 5 ] ;

คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 398 :
จากโจทย์ตอ ่ ไปนี B := A[ i,j,k ] ; จงบอกมิต(ิ Dimension )ของตัวแปร A
1 : 1
2 : 2
3 : 3
4 : 4

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 399 :
จากการประกาศ Array ต่อไปนี A : Array[’A’..’F’,’5’..’7’] of Real ; Array A มีเนือทีในการเก็บข ้อมูลเลขจํานวนจริง
สูงสุดเท่าใด
1 : 1จํานวน
2 : 9จํานวน
3 : 18จํานวน
4 : 20จํานวน

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

สภาวิศวกร 487/1 ซอย รามคําแหง 39 (เทพลีลา 1) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 สายด่วน 1303
โทรสาร 02-935-6695
@ สงวนลิขสิทธิ 2555 สภาวิศวกร : ติดต่อสภาวิศวกร | Contact

You might also like