You are on page 1of 107

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระราชบัญญัติ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีพุกทาธศักราช ๒๔๗๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คณะผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (ตามประกาศประธานสภาผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้แทนราษฎร
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลงวันที่ ๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๗)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกอนุ า วัตน์จาตุรนต์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาทิตย์ทิพอาภา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เจ้าพระยายมราช กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตราไว้ ณ วันที่ ๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๘
เป็นปีทกี่า๒ ในรัชชกาลปั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัจกจุงานคณะกรรมการกฤษฎี
บัน กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


โดยที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติ ว่าเป็นการสมควรที่จะประกาศใช้ ประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

จึ่งมีกาพระบรมราชโองการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ให้ตราพระราชบัญกญัา ติขึ้นไว้ โดยคํสําานัแนะนํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าและยินยอม กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของสภาผู้แทนราษฎร ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้ให้เรียกว่า “พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พุทธศักราช
สํานั๒๔๗๗”
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานัมาตรา ๒๑ ให้ใช้พระราชบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัตินี้ตั้งแต่สํวานัันกประกาศในราชกิ จจานุเบกษาเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓ ให้ใ ช้ ป ระมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณาความอาญาตามที่ ต ราไว้ ต่อ ท้ า ย
พระราชบัญญัสํตาินนัี้ กตังานคณะกรรมการกฤษฎี
้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พุทกาธศักราช ๒๔๗๘ สํานัเป็ นต้นไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้ศาลและเจ้าพนักงานทั้งหลายผู้ดําเนินคดีอาญาตลอดราชอาณาจักร ปฏิบัติการ
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานั้ กเว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นแต่ศาลซึ่งมีวิธีพิจารณาพิ
กา เศษไว้ต่างหาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คดีทั้งหลายซึ่งค้างอยู่ในศาลก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายนี้ ให้บังคับตามกฎหมาย
ซึ่งใช้อยู่ก่อนวันสําใช้นักปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระมวลกฎหมายนี้จนกว่กาาคดีนั้น ๆ จะถึสํางนัทีก่สงานคณะกรรมการกฤษฎี
ุด กา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๔ ภายใต้
สําบนัังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บแห่งบทบัญญัติมาตรา
กา ๓ ตั้งแต่วันสําใช้นักปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระมวลกฎหมาย กา
วิธีพิจ ารณาความอาญานี้สืบไป ให้ยกเลิกมาตรา ๑๔, ๑๖ และมาตรา ๘๗ ถึง ๙๖ ในกฎหมาย
ลักษณะอาญาสํพระราชบั ญญัติวิธีพิจารณาความมี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา โทษสําสํหรั
านับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใช้ไปพลางก่อน ร.ศ. ๑๑๕
กา และบรรดา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา



ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๒/-/หน้า ๕๙๘/๑๐ มิถุนายน ๒๔๗๘
-๒- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

กฎหมาย กฎและข้อบังคับอื่น ๆ ในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในประมวลกฎหมายนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้ง


สํานักกังานคณะกรรมการกฤษฎี
บประมวลกฎหมายนี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๒ ให้ประธานศาลฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กากา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ประธานศาลฎี กามีอํานาจออกข้อบังคับ และนายกรั ฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงมหาดไทย สํานัและรั ฐมนตรีว่าการกระทรวงยุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ติธรรมมีสํอาํานันาจออกกฎกระทรวง
กงานคณะกรรมการกฤษฎีเพืก่อาวางระเบียบ
การงานตามหน้าที่ให้การดําเนินคดีอาญาเป็นไปโดยเรียบร้อย ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอํานาจ
สํานักหน้ าที่ของตน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อบังคับหรือกฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายกรั ฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๘ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๓- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สารบาญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภาค ๑ ข้อความเบื้องต้น
ลักษณะ ๑ หลักสํทัา่วนัไปกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑-๑๕
ลักษณะ ๒ อํานาจพนักงานสอบสวนและศาล
หมวด ๑ หลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กทั่วไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หมวด ๒ อํานาจสืบสวนและสอบสวน ๑๗-๒๑
หมวด
สํานั๓กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อํานาจศาล กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก๒๒-๒๗

ลักษณะ ๓ การฟ้องคดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
หมวด ๑ การฟ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องคดีอาญา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒๘-๓๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หมวด ๒ การฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ๔๐-๕๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๔ หมายเรียกและหมายอาญา
หมวด ๑ หมายเรียก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๒-๕๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒ หมายอาญา
สํส่าวนันที ่ ๑ หลักทั่วไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก๕๗-๖๕

ส่วนที่ ๒ หมายจับ ๖๖-๖๘
ส่วนทีก่ ๓า หมายค้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๖๙-๗๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ส่วนที่ ๔ หมายขัง หมาย
สํจําานัคุกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หมายปล่อย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก๗๑-๗๖

ลักษณะ ๕ จับ ขัง จําคุก ค้น ปล่อยชั่วคราว
หมวด ๑ จักบา ขัง จําคุก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๗๗-๙๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หมวด ๒ ค้น ๙๑-๑๐๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓ ปล่อยชั่วคราว ๑๐๖-๑๑๙ ทวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภาค ๒ สอบสวน
ลักษณะ ๑ หลักสํทัา่วนัไปกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑๒๐-๑๒๙
กา
ลักษณะ ๒ การสอบสวน
หมวด ๑ การสอบสวนสามั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําญนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานัก๑๓๐-๑๔๗
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒ การชันสูตรพลิกศพ ๑๔๘-๑๕๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภาค ๓ วิธีพิจารณาในศาลชั้นต้น
สํานักลังานคณะกรรมการกฤษฎี
กษณะ ๑ ฟ้องคดีอาญาและไต่
กา สวนมูสํลาฟ้นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ง กา สํานัก๑๕๗-๑๗๑
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๒ การพิสํจานัารณา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๗๒-๑๘๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๓ คําพิพากษาและคําสั่ง ๑๘๒-๑๙๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๔- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ภาค ๔ อุทธรณ์และฎีกา
สํานักลังานคณะกรรมการกฤษฎี
กษณะ ๑ อุทธรณ์ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑ หลักทั่วไป ๑๙๓-๒๐๒
หมวด ๒ การพิจารณา คําพิพากษา
สํ านั ก งานคณะกรรมการกฤษฎี ก า สํ านั กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และคําสั่งชั้นอุทธรณ์ ๒๐๓-๒๑๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๒ ฎีกา
หมวด
สํานั๑กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลักทั่วไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๒๑๖-๒๒๔
กา
หมวด ๒ การพิจารณา คําพิพากษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีและคํ กา าสั่งชั้นฎีกาสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒๒๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

ภาค ๕ พยานหลั กฐาน


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑ หลักทั่วไป ๒๒๖-๒๓๑
หมวด ๒ พยานบุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ก า สํ านั กงานคณะกรรมการกฤษฎี ก า ๒๓๒-๒๓๗
สํ านั ก ตรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หมวด ๓ พยานเอกสาร ๒๓๘-๒๔๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔ พยานวัตถุ ๒๔๑-๒๔๒
หมวด ๕ ผู้เชี่ยวชาญ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๔๓-๒๔๔/๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ภาค ๖ การบั งคับตามคําพิพากษาและค่


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าธรรมเนียมสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑ การบังคับตามคําพิพากษา ๒๔๕-๒๕๑
หมวด ๒ ค่กาาธรรมเนียม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก๒๕๒-๒๕๘
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ภาค ๗ อภั
สํานัยกโทษ เปลี่ยนโทษหนักเป็กนาเบา และลดโทษ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ๒๕๙-๒๖๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


-๕- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ภาค ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อความเบื้องต้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ลักษณะ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกหลั
า กทั่วไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑ ในประมวลกฎหมายนี้ ถ้าคําใดมีคําอธิบายไว้แล้ว ให้ถือตามความหมาย
ดังได้อธิบายไว้ เว้สํนาแต่
นักขงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อความในตัวบทจะขัดกกัาบคําอธิบายนัสํ้นานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒ ในประมวลกฎหมายนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) “ศาล” หมายความถึ ง ศาลยุ ติ ธ รรมหรื อ ผู้ พิ พ ากษา ซึ่ ง มี อํ า นาจทํ า การอั น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เกี่ยวกับคดีอาญา
(๒) “ผู้ต้องหา” หมายความถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งบุคคลผู้ถูกหาว่าได้กระทําความผิสํดานัแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยังมิได้ถูกฟ้อง
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต่อศาล
สํ(๓)
านัก“จํ าเลย” หมายความถึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กางบุ ค คลซึ่ งถู กสําฟ้นัอกงยั งศาลแล้วโดยข้อหาว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาา ได้ ก ระทํ า
ความผิด
(๔) “ผูกา้เสียหาย” หมายความถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งบุคคลผู้ได้รับความเสี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยหายเนื่อสํงจากการกระทํ าผิด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอํานาจจัดการแทนได้ ดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๔, ๕ และ ๖
สํ(๕)
านัก“พนั กงานอัยการ” หมายความถึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งเจ้สําาพนั
นักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานผู้มีหน้าที่ฟ้องผู้ตก้อางหาต่อศาล
ทั้งนี้ จะเป็นข้าราชการในกรมอัยการหรือเจ้าพนักงานอื่นผู้มีอํานาจเช่นนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๖) “พนั กา กงานสอบสวน” หมายความถึงเจ้าพนักกางานซึ่งกฎหมายให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มีอํานาจและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หน้าที่ทําการสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) “คํ า ร้ อ งทุ ก ข์ ” หมายความถึ ง การที่ ผู้ เ สี ย หายได้ ก ล่ า วหาต่ อ เจ้ า หน้ า ที่ ต าม
สํานักบทบั ญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ ว่าสํมีานัผกู้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระทําความผิดขึ้น จะรูก้ตา ัวผู้กระทําความผิ ดหรือไม่ก็ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ซึ่ง กระทํ า ให้ เกิด ความเสีย หายแก่ผู้ เ สีย หาย และการกล่ า วหาเช่นนั้ นได้ กล่ า วโดยมี เ จตนาจะให้
ผู้กระทําความผิดสํได้านัรกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
โทษ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๘) “คํากล่าวโทษ” หมายความถึงการที่บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อ
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหน้าที่ ว่ามีบุคคลรู้ตกัวาหรือไม่ก็ดี ได้สํการะทํ าความผิดอย่างหนึ่งขึ้นกา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๙) “หมายอาญา” หมายความถึงหนังสือบงการที่ออกตามบทบัญญัติแห่งประมวล
กฎหมายนี้สั่งให้เจ้สําานัหน้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
าที่ทําการจับ ขัง จําคุกกาหรือปล่อยผู้ตสํ้อานังหา จําเลย หรือนักโทษ หรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อให้ทําการ
ค้น รวมทั้งสําเนาหมายจับหรือหมายค้นอันได้รับรองว่าถูกต้อง และคําบอกกล่าวทางโทรเลขว่าได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒ (๙) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๖- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ออกหมายจั บ หรื อ หมายค้ น แล้ ว ตลอดจนสํา เนาหมายจั บ หรื อ หมายค้ น ที่ ไ ด้ ส่ ง ทางโทรสาร
สํานักสืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ อ อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ หรือกสืา ่อเทคโนโลยีสสํารสนเทศประเภทอื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่น ทั้งนีก้ าตามที่บัญญัติไสํว้าในันมาตรา ๗๗
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑๐) “การสืบสวน” หมายความถึงการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานซึ่งพนักงาน
ฝ่ า ยปกครองหรื อาตํนัากรวจได้
สํ ป ฏิ บั ติ ไ ปตามอํกาานาจและหน้สําาทีนั่กเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่ อ รั ก ษาความสงบเรีกยา บร้ อ ยของ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ประชาชน และเพื่อที่จะทราบรายละเอียดแห่งความผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๑) “การสอบสวน” หมายความถึงการรวบรวมพยานหลักฐานและการดําเนินการ
ทั้งหลายอื่นตามบทบั สํานักญ ญัติแห่งประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ ซึ่งพนัสํกางานสอบสวนได้ ทําไปเกี่ยกวกัา บความผิด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่กล่าวหา เพื่อที่จะทราบข้อเท็จจริงหรือพิสูจน์ความผิดและเพื่อจะเอาตัวผู้กระทําผิดมาฟ้องลงโทษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑๒) ก“การไต่
า สวนมูสํลาฟ้นัอกง” หมายความถึงกระบวนไต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สวนของศาลเพื ่อวินิจฉัยถึง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มูลคดีซึ่งจําเลยต้องหา
สํ(๑๓) “ที่รโหฐาน” หมายความถึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งที่ต่าง ๆสํานัซึก่งมิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใช่ที่สาธารณสถานดักงบัา ญญัติไว้ใน
กฎหมายลักษณะอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑๔) ก“โจทก์
า ” หมายความถึ งพนักงานอัยการ หรืกอาผู้เสียหายซึ่งฟ้สํอานังคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อาญาต่อศาล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือทั้งคู่ในเมื่อพนักงานอัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๕) “คู่ความ” หมายความถึงโจทก์ฝ่ายหนึ ่งและจําเลยอีกฝ่ายหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๖) “พนักงานฝ่ายปกครองหรื อตํารวจ” หมายความถึงเจ้าพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานซึ่งกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ม ีอํา นาจและหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ให้รวมทั้งพัศ ดี เจ้าพนักงานกรม
สรรพสามิต กรมศุสํลานักากร กรมเจ้าท่า พนักงานตรวจคนเข้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเมืสําอนังกและเจ้ าพนักงานอื่น ๆ กในเมื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อทําการ
อันเกี่ยวกับการจับกุมปราบปรามผู้กระทําผิดกฎหมาย ซึ่งตนมีหน้าที่ต้องจับกุมหรือปราบปราม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑๗)๔กา“พนักงานฝ่าสํยปกครองหรื อตํารวจชั้นผู้ใกหญ่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ” หมายความถึ สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
เจ้าพนักงาน กา
ดังต่อไปนี้
(ก) ปลัดกระทรวงมหาดไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ข) รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก(ค) า ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฆ) ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ง) อธิบดีกรมการปกครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก(จ) า รองอธิบดีกสํรมการปกครอง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉ) ผู้อํานวยการกองการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
(ช) หัวหน้าฝ่ายและหัวกหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า างานในกองการสอบสวนและนิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ติการกรมการปกครอง
กา
(ซ) ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก(ฌ) า ผู้ว่าราชการจั สํานังกหวั ด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ญ) รองผู้ว่าราชการจังหวัด
(ฎ) ปลัดจังหวัด กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฏ) นายอําเภอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก(ฐ) า ปลัดอําเภอผู สํา้เนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หัวหน้าประจํากิ่งอําเภอ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒ (๑๗) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๓๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๗- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(ฑ) อธิบดีกรมตํารวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก(ฒ) า รองอธิบดีกสํารมตํ ารวจ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ณ) ผู้ช่วยอธิบดีกรมตํารวจ
(ด) ผู้บัญชาการตํารวจกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ต) รองผู้บัญชาการตํารวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ถ) ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจ
(ท) ผู้บังคับการตํารวจกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ธ) รองผู้บังคับการตํารวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก(น) า หัวหน้าตํารวจภู ธรจังหวัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(บ) รองหัวหน้าตํารวจภูธรจังหวัด
(ป) ผู้กํากับการตํารวจกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ผ) ผู้กํากับการตํารวจภูธรจังหวัดเขต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก(ฝ) า รองผู้กํากับสํการตํ ารวจ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(พ) รองผู้กํากับการตํารวจภูธรจังหวัดเขต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฟ) สารวัตรใหญ่ตํารวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ภ) สารวัตรตําสํรวจานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ม) ผู้บังคับกองตํารวจ
(ย) หัวหน้าสถานีตํากรวจซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ง มีย ศตั้งสํแต่
านักชงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั้นนายร้อยตํารวจตรีหกรืาอเทียบเท่า
นายร้อยตํารวจตรีขึ้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก(ร) า หัวหน้ากิ่งสถานี ตํารวจซึ่งมียศตั้งแต่ชั้นกานายร้อยตํารวจตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือเทียบเท่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นายร้อยตํารวจตรีขึ้นไป
ทั้งนี้ หมายความรวมถึกงาผู้รักษาการแทนเจ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
พนักงานดังกล่าวแล้ว แต่
กา ผู้รักษาการ
แทนเจ้าพนักงานใน (ม) (ย) และ (ร) ต้องมียศตั้งแต่ชั้นนายร้อยตํารวจตรีหรือเทียบเท่านายร้อย
สํานักตํงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารวจตรีขึ้นไปด้วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๘) “สิ่งของ” หมายความถึงสังหาริมทรัพย์ใด ซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คดีอาญาได้ ให้รวมทั้งจดหมาย โทรเลขและเอกสารอย่างอื่น ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑๙) ก“ถ้
า อ ยคํ า สํ า นวน” หมายความถึ ง หนั ง สืกาอ ใดที่ ศ าลจดเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลั ก ฐานแห่ ง กา
รายละเอียดทั้งหลายในการดําเนินคดีอาญาในศาลนั้น
สํ(๒๐) “บันทึก” หมายความถึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งหนังสือใดทีสํา่พนันักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานฝ่ายปกครองหรือกตํา ารวจจดไว้
เป็นหลักฐานในการสอบสวนความผิดอาญา รวมทั้งบันทึกคําร้องทุกข์และคํากล่าวโทษด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒๑) ก“ควบคุ
า ม” หมายความถึ งการคุมหรือกักขักงผูา ้ถูกจับโดยพนัสํากนังานฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ายปกครอง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือตํารวจในระหว่างสืบสวนและสอบสวน
สํ(๒๒) “ขัง” หมายความถึงการกั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กขังจําเลยหรื
สํานัอกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ต้องหาโดยศาล กา

มาตรากา ๓ บุ ค คลดัสํงาระบุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ใ นมาตรา ๔, ๕ และกา๖ มี อํ า นาจจัสํดานัการต่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี อ ไปนี้ แ ทน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้เสียหายตามเงื่อสํนไขที ่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ร้องทุกข์
(๒) เป็กนาโจทก์ฟ้องคดีสํอาาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือเข้าร่วมเป็นโจทก์กกา ับพนักงานอัยสํการ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๘- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๓) เป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
(๔) ถอนฟ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องคดีอาญาหรื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับกคดี
า อาญา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ยอมความในคดีความผิดต่อส่วนตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔ ในคดีอาญาซึ่งผู้เสียหายเป็นหญิงมีสามี หญิงนั้นมีสิทธิฟ้องคดีได้เอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยมิต้องได้รับอนุญาตของสามีก่อน
สํภายใต้ บังคับแห่งมาตรา ๕ก(๒)
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สามีมีสิทธิสํฟานั้อกงคดี อาญาแทนภริยาได้กต่า อเมื่อได้รับ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุญาตโดยชัดแจ้งจากภริยา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕ บุคคลเหล่านี้จัดการแทนผู้เสียหายได้
สํ(๑)
านักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้แทนโดยชอบธรรมหรืกอาผู้อนุบาล เฉพาะแต่ ในความผิดซึ่งได้กระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าต่อผู้เยาว์
หรือผู้ไร้ความสามารถซึ่งอยู่ในความดูแล
(๒) ผูก้บาุพการี ผู้สืบสัสํนาดาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สามีหรือภริยาเฉพาะแต่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ในความผิดสํอาญา ซึ่งผู้เสียหาย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถูกทําร้ายถึงตายหรือบาดเจ็บจนไม่สามารถจะจัดการเองได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ผู้ จั ด การหรือ ผู้ แ ทนอื่ น ๆ ของนิติบสํุาคนัคล
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เฉพาะความผิ ด ซึ่ ง กระทํา ลงแก่
นิ ติบุค คลนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖ ในคดีอาญาซึ่งผูก้เาสียหายเป็นผูสํ้เายาว์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือเป็น
ผู้วิกลจริตหรือคนไร้ความสามารถไม่มีผู้อนุบาล หรือซึ่งผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบาลไม่สามารถ
สํานักจะทํ าการตามหน้าที่โดยเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หนึ่งเหตุใดสํารวมทั ้งมีผลประโยชน์ขัดกักนากับผู้เยาว์หรือสํคนไร้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ความสามารถ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นั้น ๆ ญาติของผู้นั้น หรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องอาจร้องต่อศาลขอให้ตั้งเขาเป็นผู้แทนเฉพาะคดีได้
สํเมืานั่อกได้ ไต่สวนแล้วให้ศาลตัก้งาผู้ร้องหรือบุคสํคลอื
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่น ซึ่งยินยอมตามที่เห็กนาสมควรเป็น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้แทนเฉพาะคดี เมื่อไม่มีบุคคลใดเป็นผู้แทนให้ศาลตั้งพนักงานฝ่ายปกครองเป็นผู้แทน
ห้ามมิกให้า เรียกค่าธรรมเนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัยกมในเรื ่องขอตั้งเป็นผู้แทนเฉพาะคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗ ในการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาคดีที่นิติบุคคลเป็นผู้ต้องหา
สํานักหรื อจําเลย ให้ออกหมายเรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยกผู้จัดการหรื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้แทนอื่น ๆ ของนิติบุกคาคลนั้น ให้ไปยัสํงาพนั กงานสอบสวน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือศาล แล้วแต่กรณี
สํถ้าานัผูก้จงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัดการหรือผู้แทนของนิกาติบุคคลนั้นไม่สํปานัฏิกบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัติตามหมายเรียก จะออกหมายจั
กา บ
ผู้นั้นมาก็ได้ แต่ห้ามมิใ ห้ใ ช้บ ทบัญ ญัติว่าด้วยปล่อ ยชั่ว คราว ขังหรือ จํา คุก แก่ผู้จัดการหรือผู้แ ทน
สํานักนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ติบุคคล ในคดีที่นิติบกุคาคลนั้นเป็นผูสํ้ตา้อนังหาหรื อจําเลย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗/๑๕ ผู้ถูก จับ หรืกอาผู้ต้อ งหาซึ่ง ถูสํกานัควบคุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ม หรือ ขัง มีสิท ธิแ จ้กาง หรือ ขอให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เจ้า พนักงานแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาไว้วางใจทราบถึงการถูกจับกุมและสถานที่
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ถูกควบคุมในโอกาสแรกและให้
กา ผู้ถูกสํจัานับกหรื อผู้ต้องหามีสิทธิดังต่กอาไปนี้ด้วย
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๗/๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๙- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๑) พบและปรึกษาผู้ซึ่งจะเป็นทนายความเป็นการเฉพาะตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) ให้กทา นายความหรืสํอาผูนั้ซกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคํ
กา าตนได้
สํานัในชั ้นสอบสวน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๓) ได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อกับญาติได้ตามสมควร
สํ(๔)
านักได้ รับการรักษาพยาบาลโดยเร็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วเมื่อเกิดสํการเจ็ บป่วย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจซึ่งรับมอบตัวผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหามีหน้าที่แจ้งให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหานั้นทราบในโอกาสแรกถึงสิทธิตามวรรคหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘ นับแต่เวลาที่ยื่นฟ้องแล้ว จําเลยมีสิทธิดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๑) ได้กราับการพิจารณาคดี สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
้วยความรวดเร็ว ต่อเนืก่อาง และเป็นธรรม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) แต่งทนายความแก้ต่างในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณาในศาลชั้นต้นตลอดจน
ชั้นศาลอุทธรณ์และศาลฎี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ปรึกษาทนายความหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความเป็นการเฉพาะตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๔) ตรวจดู กา สิ่งที่ยื่นเป็สํนาพยานหลั กฐาน และคัดสํากเนาหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อถ่ายรูปสํสิา่งนันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ๆ กา
(๕) ตรวจดูสํานวนการไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาของศาล และคัดสําเนาหรือขอรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สําเนาที่รับรองว่าถูกต้องโดยเสียค่าธรรมเนียม เว้นแต่ศาลจะมี คําสั่งให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมนั้น
(๖) ตรวจหรื อ คั ด สํสําาเนาคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
า ให้ ก ารของตนในชั้ น สอบสวนหรืสํอาเอกสารประกอบ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําให้การของตน
สํถ้าานัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
เลยมีทนายความ ทนายความนั กา ้นย่อมมีสํสาิทนัธิกเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช่นเดียวกับจําเลยดังกล่กาาวมาแล้วด้วย
เมื่อพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลแล้ว ให้ผู้เสียหายมีสิทธิตามวรรคหนึ่ง (๖)
สํานักเช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
นเดียวกับจําเลยด้วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙ บั น ทึ ก ต้ อ งระบุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ส ถานที่ วั นสําเดืนักองานคณะกรรมการกฤษฎี
นปี ที่ ทํา นาม และตํกาาแหน่ ง ของ
เจ้ า พนั ก งานผู้ ทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เมื่อ เจ้กาา พนั ก งานทําสํบัานันกทึงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก โดยรับ คํา สั่ง จากศาลหรื
กา อ โดยคําสํสัานั่ งกหรื อ คํา ขอของ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เจ้ า พนัก งานอื่ น ให้เจ้าพนักงานนั้นกล่าวไว้ด้วยว่าได้รับคําสั่งหรือคําขอเช่นนั้น และแสดงด้วยว่าได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทําไปอย่างใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ให้เจ้ากพนัา กงานผู้ทําบัสํนาทึนักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลงลายมือชื่อของตนในบักานทึกนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐ ถ้อยคําสํานวนต้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาองระบุชื่อศาล
สํานัสถานที ่ และวันเดือนปีที่จกดา ถ้าศาลจด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้อยคําสํานวนตามคําสั่งหรือประเด็นของศาลอื่น ให้กล่าวเช่นนั้น และแสดงด้วยว่าได้ทําไปอย่างใด
ผู้พิพากษาที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่จดถ้อยคํสําาสํนัากนวนต้ องลงลายมือชื่อของตนในถ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อยคําสํสําานันวนนั ้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๑๑ บันทึกหรือถ้อยคํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าสํานวนนั้นให้
สําเนัจ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
พนักงานหรือศาลอ่านให้
กาผู้ให้ถ้อยคํา
ฟัง ถ้ามีข้อความแก้ไข ทักท้วง หรือเพิ่มเติม ให้แก้ให้ถูกต้องหรือมิฉะนั้นก็ให้บันทึกไว้ และให้ผู้ให้
สํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อยคําลงลายมือชื่อรับรองว่
กา าถูกต้องแล้สําวนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๘ แก้ไ ขเพิ่ม เติม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ถ้าบุคคลที่ต้องลงลายมือชื่อในบันทึกหรือถ้อยคําสํานวนไม่สามารถหรือไม่ยอมลง
สํานักให้ บันทึกหรือรายงานเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กานั้นไว้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒ เอกสารซึ่ งศาลหรื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ เจ้ า พนั กสํางานเป็ นผู้ทําคําร้องทุกข์ กคําากล่ าวโทษ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คําให้การจําเลยหรือคําร้องซึ่งยื่นต่อเจ้าพนักงานหรือศาล จักต้องเขียนด้วยน้ําหมึกหรือพิมพ์ดีดหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิมพ์ ถ้ามีผิดที่ใดห้ามมิให้ลบออก ให้เพียงแต่ขีดฆ่าคําผิดนั้นแล้วเขียนใหม่ ผู้พิพากษา เจ้าพนักงาน
หรือบุคคลผู้แก้ไขเช่
สํานันกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นต้องลงนามย่อรับรองไว้ กา ที่ข้างกระดาษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้อ ยคํา ตกเติม ในเอกสารดัง บรรยายในมาตรานี้ต้อ งลงนามย่อ ของผู้พิพ ากษา
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าพนักงานหรือบุคคลผู กา้ซึ่งตกเติมนั้นสํกํานัากกังานคณะกรรมการกฤษฎี
บไว้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒ ทวิ ๗ ในการร้กาอ งทุ ก ข์ การสอบสวน


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี การไต่ ส วนมู ล ฟ้กอาง และการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พิจารณา ถ้าบทบัญญัติใดกําหนดให้มีนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์เข้าร่วมด้วยแล้วนักจิตวิทยา
สํานักหรื อนักสังคมสงเคราะห์กดาังกล่าวจะต้องมี
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัคกุณงานคณะกรรมการกฤษฎี
สมบัติตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ตามวรรคหนึ่งได้รับค่าตอบแทนตามระเบียบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่กระทรวงยุติธรรมกําหนดโดยได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลั ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๘ การสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณา ให้ใช้ภาษาไทย แต่ถ้ามี
ความจําเป็นต้องแปลภาษาไทยท้ องถิ่นหรือกภาษาถิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่นหรือภาษาต่ างประเทศเป็นภาษาไทยหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อต้อง
แปลภาษาไทยเป็นภาษาไทยท้องถิ่นหรือภาษาถิ่นหรือภาษาต่างประเทศให้ใช้ล่ามแปล
ในกรณีกาที่ผู้เสียหาย ผูสํ้ตานั้อกงหา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จําเลย หรือพยานไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สามารถพูดหรื สําอนักเข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าใจภาษาไทย กา
หรือสามารถพูดหรือเข้าใจเฉพาะภาษาไทยท้องถิ่นหรือภาษาถิ่น และไม่มีล่าม ให้พนักงานสอบสวน
พนักงานอัยการหรืสําอนัศาลจั ดหาล่ามให้โดยมิชักกช้าา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา จําเลย หรือพยานไม่สามารถพูดหรือได้ยิน หรือสื่อ
สํานักความหมายได้ และไม่มกีลา่ามภาษามือ ให้สําพนันักงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กงานสอบสวน พนักงานอั กา ยการ หรือศาล สํานักจังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดหาล่ามภาษา กา
มือให้หรือจัดให้ถาม ตอบ หรือสื่อความหมายโดยวิธีอื่นที่เห็นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อมีล่ามแปลคําให้การ คําพยานหรืออื่น ๆ ล่ามต้องแปลให้ถูกต้อง ล่ามต้องสาบาน
สํานักหรื อปฏิญาณตนว่าจะทํกาหน้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าที่โดยสุจริสํตาใจ จะไม่เพิ่มเติมหรือตัดทอนสิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งที่แปล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ล่ามลงลายมือชื่อในคําแปลนั้น
สํให้
านัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั ก งานสอบสวน พนักกางานอั ย การ สํหรืานัอกศาลสั ่ ง จ่ า ยค่ า ป่ ว ยการกา ค่ า พาหนะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เดินทาง และค่าเช่าที่พักแก่ล่ามที่จัดหาให้ตามมาตรานี้ ตามระเบียบที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติ
สํานักกระทรวงมหาดไทย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กระทรวงยุ
กา ติธรรม สํสําานันักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานอัยการสูงสุด หรือกสําานักงานศาลยุสํตาิธนัรรม แล้วแต่กรณี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กําหนดโดยได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา



มาตรา ๑๒ ทวิ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํ า นั
ความอาญา (ฉบับ ที่ ๒๐)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๔๒ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๒๘) กพ.ศ.
า ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๓ ทวิ๙ (ยกเลิก)


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔ ในระหว่างทําการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา ถ้ามีเหตุควร
เชื่อว่าผู้ต้องหาหรืสําอนัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
เลยเป็นผู้วิกลจริตและไม่
กา สามารถต่สํอาสูนั้คกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดีได้ ให้พนักงานสอบสวนหรื
กา อศาล
แล้ว แต่ก รณี สั่ง ให้พนัก งานแพทย์ต รวจผู้นั้น เสร็จ แล้ว ให้เรีย กพนัก งานแพทย์ผู้นั้น มาให้ถ้อ ยคํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือให้การว่าตรวจได้ผลประการใด
สํในกรณี ที่พนักงานสอบสวนหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อศาลเห็นว่สําาผูนั้ตกงานคณะกรรมการกฤษฎี
้องหาหรือจําเลยเป็นผูก้วาิกลจริตและ
ไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ให้งดการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาไว้จนกว่าผู้นั้นหายวิกลจริตหรือ
สํานักสามารถจะต่ อสู้คดีได้ กและให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า มีอํานาจส่สํานังกตังานคณะกรรมการกฤษฎี
วผู้นั้นไปยังโรงพยาบาลโรคจิ
กา ตหรือมอบให้ แก่ผู้อนุบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ข้าหลวงประจําจังหวัดหรือผู้อื่นที่เต็มใจรับไปดูแลรักษาก็ได้ตามแต่จะเห็นสมควร
สํกรณี ที่ศาลงดการไต่สวนมูลกฟ้า องหรือพิจารณาดั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งบัญญัติไว้ในวรรคก่อกนา ศาลจะสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จําหน่ายคดีเสียชั่วคราวก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕ วิธีพิจ ารณาข้อ ใดซึ่ง ประมวลกฎหมายนี้มิไ ด้บัญ ญัติไ ว้โ ดยเฉพาะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นําบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ งมาใช้บังคับเท่าที่พอจะใช้บังคับได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๒
อํานาจพนักกงานสอบสวนและศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกหลั
า กทั่วไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๖ อํานาจศาล อํานาจผู้พิพากษา อํานาจพนักงานอัยการและอํานาจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ ในการที่จะปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ต้องเป็นไป
สํานักตามกฎหมายและข้
งานคณะกรรมการกฤษฎีอบักงาคับทั้งหลายอัสํานนัว่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้วยการจัดตั้งศาลยุตกิธารรม และระบุสําอนัํากนาจและหน้ าที่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ของผู้พิพากษา หรือซึ่งว่าด้วยอํานาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการหรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือ
ตํารวจนั้น ๆ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อํานาจสืบสวนและสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๗ พนักงานฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากยปกครองหรื อตํารวจมีอกําานาจทําการสืบสํสวนคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี อาญาได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๓ ทวิ ยกเลิก โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๒๘) กพ.ศ.
า ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๘๑๐ ในจังสํหวั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
อื่นนอกจากจังหวัดพระนครและจั
กา งหวั
สําดนัธนบุ รี พนักงาน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ฝ่ายปกครองหรือตํารวจชั้นผู้ใหญ่ ปลัดอําเภอ และข้าราชการตํารวจซึ่งมียศตั้งแต่ชั้นนายร้อยตํารวจตรี
หรือเทียบเท่านายร้สําอนัยตํ ารวจตรีขึ้นไป มีอํานาจสอบสวนความผิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
อาญาซึ่งได้เกิด หรืออ้ากงา หรือเชื่อว่า
ได้เกิดภายในเขตอํานาจของตน หรือผู้ต้องหามีที่อยู่ หรือถูกจับภายในเขตอํานาจของตนได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สําหรับในจังหวัดพระนครและจังหวัดธนบุรี ให้ข้าราชการตํารวจซึ่งมียศตั้งแต่ชั้น
นายร้อยตํารวจตรีสําหนัรืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
เทียบเท่านายร้อยตํารวจตรี กา ขึ้นไป มีสํอาํานันาจสอบสวนความผิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ดอาญาซึ
กา ่งได้เกิด
หรืออ้าง หรือเชื่อว่าได้เกิดภายในเขตอํานาจของตน หรือผู้ต้องหามีที่อยู่ หรือถูกจับภายในเขตอํานาจ
สํานักของตนได้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติในมาตรา ๑๙ มาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๑ ความผิด
อาญาได้เกิดในเขตอํสํานัากนาจพนั กงานสอบสวนคนใด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา โดยปกติสํใาห้นัเกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นหน้าที่พนักงานสอบสวนผู กา ้นั้นเป็น
ผู้รับผิดชอบในการสอบสวนความผิดนั้น ๆ เพื่อดําเนินคดี เว้นแต่เมื่อมีเหตุจําเป็นหรือเพื่อความ
สํานักสะดวก จึงให้พนักงานสอบสวนแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งท้สํอานังทีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ที่ผู้ต้องหามีที่อยู่ หรือกถูากจับเป็นผู้รับสํผิานัดกชอบดํ าเนินการ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในเขตท้องที่ใดมีพนักงานสอบสวนหลายคน การดําเนินการสอบสวนให้อยู่ในความ
รับผิดชอบของพนักงานสอบสวนผู้เป็นสํหัาวนัหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าในท้องที่นั้น หรือผู้รักษาการแทน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๙ ในกรณีดังต่อไปนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เป็นการไม่แน่ว่าการกระทําผิดอาญาได้กระทําในท้องที่ใดในระหว่างหลายท้องที่
(๒) เมืก่อาความผิดส่วนหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่งกกระทํ าในท้องที่หนึ่ง แต่กอา ีกส่วนหนึ่งในอีสํากนัท้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี งที่หนึ่ง กา
(๓) เมื่อความผิดนั้นเป็นความผิดต่อเนื่องและกระทําต่อเนื่องกันในท้องที่ต่าง ๆ
เกินกว่าท้องที่หนึสํ่งานัขึก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) เมื่อเป็นความผิดซึ่งมีหลายกรรม กระทําลงในท้องที่ต่าง ๆ กัน
(๕) เมืก่อาความผิดเกิดขึสํา้นนัขณะผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ต้องหากําลังเดินทาง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) เมื่อความผิดเกิดขึ้นขณะผู้เสียหายกําลังเดินทาง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พนักงานสอบสวนในท้องที่หนึ่งท้องที่ใดที่เกี่ยวข้องมีอํานาจสอบสวนได้
ในกรณีกาข้างต้นพนักงานสอบสวนต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อไปนี้ เป็นผู้รับกผิาดชอบในการสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) ถ้าจับผู้ต้องหาได้แล้ว คือพนักงานสอบสวนซึ่งท้องที่ที่จับได้อยู่ในเขตอํานาจ
สํ(ข) านักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าจับผู้ต้องหายังไม่ได้ กคืาอพนักงานสอบสวนซึ ่งท้องที่ที่พบการกระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าผิดก่อน
อยู่ในเขตอํานาจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑
มาตรา ๒๐ ถ้าความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยได้กระทําลงนอกราชอาณาจักร
ไทย ให้อัยการสูงสํสุาดนัหรื อผู้รักษาการแทนเป็นกพนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า กงานสอบสวนผู ้รับผิดชอบหรือจะมอบหมายหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าที่
นั้น ให้พนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนคนใดเป็นผู้รับผิดชอบทําการสอบสวนแทนก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐
มาตรา ๑๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๕) กพ.ศ.
สํ านั งานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๔๙๖ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑
มาตรา ๒๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๙) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ในกรณีที่อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทนมอบหมายให้พนักงานสอบสวนคนใดเป็น
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้รับผิดชอบทําการสอบสวน กา อัยการสูงสํสุานัดกหรื อผู้รักษาการแทนจะมอบหมายให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พสํนัากนังานอั ยการคนใด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทําการสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนก็ได้
สํให้
านัพกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานอัยการที่ได้รับมอบหมายให้
กา เป็นสํพนั
านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานสอบสวนผู้รับผิดชอบหรื กา อให้ทํา
การสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนมีอํานาจและหน้ าที่ในการสอบสวนเช่นเดียวกั บพนักงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สอบสวน บรรดาอํานาจและหน้าที่ประการอื่นที่กฎหมายบัญญัติไว้ให้เป็นอํานาจและหน้าที่ของ
พนักงานอัยการ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่พนักงานอัยการทําการสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวน ให้พนักงาน
สํานักสอบสวนปฏิ บั ติ ต ามคํกาาสั่ ง และคํ า แนะนํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ของพนั ก งานอั ย การในเรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ อ งที่ เ กี่ ยสํวกั
านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
การรวบรวม กา
พยานหลักฐาน
สํในกรณี จําเป็น พนักงานสอบสวนต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อไปนี้มสํีอานัํากนาจสอบสวนในระหว่
งานคณะกรรมการกฤษฎีางรอคํ กา าสั่งจาก
อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) พนักากงานสอบสวนซึ สํานั่งกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ต้องหาถูกจับในเขตอํากนาจ า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) พนักงานสอบสวนซึ่งรัฐบาลประเทศอื่นหรือบุคคลที่ได้รับความเสียหายได้ร้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฟ้องให้ทําโทษผู้ต้องหา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อพนักงานอัยการหรื อพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในการสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เห็นว่าการสอบสวนเสร็จแล้ว ให้ทําความเห็นตามมาตรา ๑๔๐ มาตรา ๑๔๑ หรือมาตรา ๑๔๒
ส่งพร้อมสํานวนไปยัสํานังกอังานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทน
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๑ ในกรณีสํทานัี่ไม่กแงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี น่ว่าพนักงานสอบสวนคนใดในจั
กา งหวัสําดนัเดีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยวกันควรเป็น กา
พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ให้ข้าหลวงประจําจังหวัดนั้นมีอํานาจชี้ขาด แต่ในจังหวัดพระนคร
และธนบุรี ให้ผู้บสํังาคันักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
บัญชาของพนักงานสอบสวนซึ
กา ่งมีตําสํแหน่ งตั้งแต่รองอธิบดีกรมตํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาารวจขึ้นไป
เป็นผู้ชี้ขาด
ในกรณีกาที่ไม่แน่ว่าพนัสํกางานสอบสวนคนใดในระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาางหลายจังหวัสํดานัควรเป็ นพนักงาน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สอบสวนผู้รับผิดชอบ ให้อธิบดีกรมอัยการหรือผู้ทําการแทนเป็นผู้ชี้ขาด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การรอคําชี้ขาดนั้น ไม่เป็นเหตุให้งดการสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑/๑๑๒ สําหรับการสอบสวนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าพนักงาน
ตํารวจ ในกรณีที่ไสํม่านัแกน่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ว่าพนักงานสอบสวนคนใดในจั
กา งหวัดเดีสํายนัวกักงานคณะกรรมการกฤษฎี
นหรือในกองบัญชาการเดี
กา ยวกันควร
เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ให้ผู้บัญชาการซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของพนักงานสอบสวนนั้น
สํานักเป็ นผู้ชี้ขาด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การรอคําสั่งชี้ขาด ไม่เป็นเหตุให้งดการสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อํานาจศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒
มาตรา ๒๑/๑ เพิ่มโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑๕/๒๕๕๗ เรื่อง
สํานักแก้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธีพิจารณาความอาญา
ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พุทธศักราช ๒๕๕๗
ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๒ เมื่อความผิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกิดขึ้น อ้างหรือเชื่อว่ากได้า เกิดขึ้นในเขตอํ
สํานัากนาจของศาลใด
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ชําระที่ศาลนั้น แต่ถ้า
สํ(๑)
านักเมื ่อจําเลยมีที่อยู่ หรือถูกกาจับในท้องที่หสํนึานั่งกหรืงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี อเมื่อเจ้าพนักงานทํากการสอบสวน

ในท้องที่หนึ่งนอกเขตของศาลดังกล่าวแล้ว จะชําระที่ศาลซึ่งท้องที่นั้น ๆ อยู่ในเขตอํานาจก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อความผิดเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทยให้ชําระคดีนั้นที่ศาลอาญา ถ้าการ
สอบสวนได้กระทํสําาลงในท้ องที่หนึ่งซึ่งอยู่ในเขตของศาลใด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้สํชานัําระที ่ศาลนั้นได้ด้วย กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๒๓ เมื่อศาลแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักสงานคณะกรรมการกฤษฎี
องศาลขึ้นไปต่างมีอํานาจชํ
กา าระคดี ถ้าสํได้านัยกื่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฟ้องคดีนั้นต่อ กา
ศาลหนึ่งซึ่งตามฟ้องความผิดมิได้เกิดในเขต โจทก์หรือจําเลยจะร้องขอให้โอนคดีไปชําระที่ศาลอื่นซึ่ง
ความผิดได้เกิดในเขตก็ ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลซึ่งความผิดเกิดในเขต แต่ต่อมาความปรากฏแก่โจทก์ว่าการ
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จารณาคดีจะสะดวกยิกา่งขึ้นถ้าให้อีกสํศาลหนึ ่งซึ่งมีอํานาจชําระคดี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้ พิจารณาคดี
สํานันกั้ นงานคณะกรรมการกฤษฎี
โจทก์จะยื่น กา
คําร้องต่อศาลซึ่งคดีนั้นอยู่ในระหว่างพิจารณาขอโอนคดีไปยังอีกศาลหนึ่งก็ได้ แม้ว่าจําเลยจะคัดค้าน
ก็ตาม เมื่อศาลเห็สํนาสมควรจะโอนคดี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไปหรือยกคําร้องเสียก็ได้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๔ เมื่อความผิดหลายเรื่องเกี่ยวพันกันโดยเหตุหนึ่งเหตุใด เป็นต้นว่า
สํ(๑)
านักปรากฏว่ า ความผิด หลายฐานได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก ระทํ
สํานัากลงโดยผู ้ก ระทํ า ผิ ด คนเดีกาย วกัน หรื อ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้กระทําผิดหลายคนเกี่ยวพันกันในการกระทําความผิดฐานหนึ่งหรือหลายฐาน จะเป็นตัวการ ผู้สมรู้
สํานักหรื อรับของโจรก็ตาม กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ปรากฏว่าความผิดหลายฐานได้กระทําลงโดยมีเจตนาอย่างเดียวกัน หรือโดย
ผู้กระทําผิดทั้งหลายได้ คบคิดกันมาแต่ก่อนแล้กวา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ปรากฏว่าความผิดฐานหนึ่งเกิดขึ้นโดยมีเจตนาช่วยผู้กระทําผิดอื่นให้พ้นจากรับโทษ
สํานักในความผิ ดอย่างอื่นซึ่งเขาได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กระทําไว้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดังนี้จะฟ้องคดีทุกเรื่อง หรือฟ้องผู้กระทําความผิดทั้งหมดต่อศาลซึ่งมีอํานาจชําระ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในฐานความผิดซึ่งมีอัตราโทษสูงกว่าไว้ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าความผิ
กา ดอันเกี่ยวพัสํานนักักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
มีอัตราโทษอย่างสูงเสมอกั
กา น ศาลซึ่งสํมีาอนัํากนาจชํ าระ ก็คือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ศาลซึ่งรับฟ้องเรื่องหนึ่งเรื่องใดในความผิดเกี่ยวพันกันนั้นไว้ก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๕ ศาลซึ่งรับฟ้องคดีเกี่ยวพันกันไว้จะพิจารณาพิพากษารวมกันไปก็ได้
ถ้าศาลซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งรับฟ้องคดีเสํกีา่ยนัวพั นกันไว้ เห็นว่าเป็นการสมควรที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ความผิ
สํานัดกฐานหนึ ่ง ควรได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชําระในศาลซึ่งตามปกติมีอํานาจจะชําระถ้าหากว่าคดีนั้นไม่เกี่ยวกับคดีเกี่ยวพันกัน เมื่อศาลเดิมได้
ตกลงกับอีกศาลหนึ
สํานั่งแล้ ว จะสั่งให้ไปฟ้องยังศาลอื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่นนั้นก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๖๑๓ หากว่สําานัตามลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กษณะของความผิกดา ฐานะของจําสํเลย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี จํานวนจําเลย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความรู้สึกของประชาชนส่ วนมากแห่งท้องถิ่นนั้น หรือเหตุผลอย่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างอื่น อาจมีการขัดขวางต่อการไต่สวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓
มาตรา ๒๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๓๑) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มู ล ฟ้ อ งหรื อ พิ จ ารณา หรื อ น่ า กลั ว ว่ า จะเกิ ด ความไม่ ส งบหรื อ เหตุ ร้ า ยอย่ า งอื่ น ขึ้ น หรื อ อาจเกิ ด
สํานักผลกระทบต่ อประโยชน์กทา ี่สําคัญอื่นของรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัฐกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อโจทก์หรือจําเลยร้กอางขอหรือศาลที สํา่คนัดีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นอยู่ระหว่าง กา
พิจารณาทําความเห็นเสนอต่อประธานศาลฎีกาขอให้โอนคดีไปศาลอื่น ถ้าประธานศาลฎีกาเห็นควร
อนุญาต ก็ให้สั่งโอนคดี ไปยังศาลดังที่ประธานศาลฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา การะบุไว้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งของประธานศาลฎีกาให้เป็นที่สุด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๗ ผู้พิพากษาในศาลใดซึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งชําระคดี
สํานัอกาญา จะถูกตั้งรังเกียจตามบทบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติ
แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งบัญญัติไว้ในเรื่องนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๓
การฟ้องคดีอาญาและคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แพ่งที่เกี่ยวเนื
สํานั่อกงกั บคดีอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การฟ้องคดีอาญา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๘ บุคคลเหล่านี้มกีอาํานาจฟ้องคดีอสําาญาต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี อศาล
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑) พนักงานอัยการ
(๒) ผู้เกสีายหาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๙ เมื่อผู้เสียหายได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยื่นฟ้องแล้วสํตายลง ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สามีหรือ
ภริยาจะดําเนินคดีต่างผู้ตายต่อไปก็ได้
ถ้า ผู้เ สีกาย หายที่ต ายนัสํา้นนัเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี น ผู้เ ยาว์ ผู้วิก ลจริต กหรืา อ ผู้ไ ร้ค วามสามารถ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ซึ่ง ผู้แ ทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยชอบธรรม ผู้อนุบาลหรือผู้แทนเฉพาะคดีได้ยื่นฟ้องแทนไว้แล้ว ผู้ฟ้องแทนนั้นจะว่าคดีต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๐ คดีอาญาใดซึ่งพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว ผู้เสียหายจะยื่น
คําร้องขอเข้าร่วมเป็
สํานันกโจทก์ ในระยะใดระหว่ากงพิา จารณาก่อนศาลชั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้นต้นพิพากษาคดีนั้นก็ไกด้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๓๑ คดีอสําญาที ่ม ิใ ช่ค วามผิด ต่อ ส่กวานตัว ซึ ่ง ผู ้เ สียสํหายยื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่น ฟ้อ งแล้ว
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พนักงานอัยการจะยื่นคําร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในระยะใดก่อนคดีเสร็จเด็ดขาดก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๒ เมื่อพนักงานอัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกัน ถ้าพนักงานอัยการ
สํานักเห็ น ว่ า ผู้ เ สี ย หายจะกระทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา า ให้ ค ดี ข องอั
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
การเสี ย หาย โดยกระทํ
กา า หรื อ ละเว้สํนากระทํ า การใด ๆ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในกระบวนพิ จ ารณา พนักงานอัยการมีอํานาจร้องต่อศาลให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สั่งผู้เสียหายกระทําหรือละเว้นกระทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การนั้น ๆ ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๓๓ คดีอาญาเรื่องเดียวกันซึ่งทั้งพนักงานอัยการและผู้เสียหายต่างได้ยื่น
สํานักฟ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องในศาลชั้นต้นศาลเดีกยา วกันหรือต่างศาลกั น ศาลนั้น ๆ มีอํานาจสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งให้รวมพิจารณาเป็ นคดีเดียวกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เมื่อศาลเห็นชอบโดยพลการหรือโดยโจทก์ยื่นคําร้องในระยะใดก่อนมีคําพิพากษา
สํแต่
านัทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ว่าจะมีคําสั่งเช่นนั้นไม่ไกด้า นอกจากจะได้
สํารนัับกความยิ นยอมของศาลอืก่นานั้นก่อน
งานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๓๔ คําสั่งไม่ฟ้องคดี หาตัดสิทธิผู้เสียหายฟ้องคดีโดยตนเองไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๕ คํา ร้อ งขอถอนฟ้อ งคดีอ าญาจะยื่น เวลาใดก่อ นมีคํา พิพ ากษาของ
สํานักศาลชั ้นต้นก็ได้ ศาลจะมีกาคําสั่งอนุญาตหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
มิอนุญาตให้ถอนก็ได้ กแล้า วแต่ศาลจะเห็
สํานันกสมควรประการ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใด ถ้าคําร้องนั้นได้ยื่นในภายหลังเมื่อจําเลยให้การแก้คดีแล้ว ให้ถามจําเลยว่าจะคัดค้านหรือไม่ แล้ว
ให้ศาลจดคําแถลงของจํ าเลยไว้ ในกรณีที่จําเลยคั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดค้านการถอนฟ้ อง ให้ศาลยกคําร้องขอถอนฟ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องนั้น
เสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีคดีความผิ
กา ดต่อส่วนตัสํวานันั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะถอนฟ้องหรือยอมความในเวลาใดก่
กา สําอนันคดี ถึงที่สุดก็ได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แต่ถ้าจําเลยคัดค้าน ให้ศาลยกคําร้องขอถอนฟ้องนั้นเสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๖ คดีอาญาซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งได้ถอนฟ้องไปจากศาลแล้ว จะนํามาฟ้อสํงอีานักกหาได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่ เว้นแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะเข้าอยู่ในข้อยกเว้นต่อไปนี้
สํ(๑)
านักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าพนักงานอัยการได้กยาื่นฟ้องคดีอาญาซึ สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ใ ช่ความผิดต่อส่วนตั กา ว ไว้แ ล้ว ได้
ถอนฟ้องคดีนั้นไป การถอนนี้ไม่ตัดสิทธิผู้เสียหายที่จะยื่นฟ้องคดีนั้นใหม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) ถ้ากพนั
า กงานอัยการถอนคดี ซึ่งเป็นความผิดต่อกส่าวนตัวไป โดยมิสําไนัด้กรับงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ความยินยอม กา
เป็นหนังสือจากผู้เสียหาย การถอนนั้นไม่ตัดสิทธิผู้เสียหายที่จะยื่นฟ้องคดีนั้นใหม่
สํ(๓) ถ้ า ผู้ เ สีย หายได้ ยื่ น ฟ้อกงคดี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อ าญาไว้สํแาล้นัวกได้ ถ อนฟ้ อ งคดี นั้ น เสียกาการถอนนี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ตัดสิ ท ธิ พนักงานอัยการที่จะยื่นฟ้องคดีนั้นใหม่ เว้นแต่คดีซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๗๑๔ คดีอาญาเลิกกันได้ ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ในคดีมีโทษปรับสถานเดียว เมื่อผู้กระทําผิดยินยอมเสียค่าปรับในอัตราอย่างสูง
สํานักสํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหรับความผิดนั้นแก่พกนัากงานเจ้าหน้าสํทีานั่กก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
นศาลพิจารณา กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ในคดีความผิดที่เป็นลหุโทษหรือความผิดที่มีอัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ
หรือคดีอื่นที่มีโทษปรั
สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานเดียวอย่างสูงไม่เกกิานหนึ่งหมื่นบาท
สํานัหรื อความผิดต่อกฎหมายเกี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ยวกับภาษี
อากรซึ่งมีโทษปรับอย่างสูงไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท เมื่อผู้ต้องหาชําระค่าปรับตามที่พนักงานสอบสวน
สํานักได้ เปรียบเทียบแล้ว กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ในคดีความผิดที่เป็นลหุโทษหรือความผิดที่มีอัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ
หรือคดีที่มีโทษปรัสําบนัสถานเดี ยวอย่างสูงไม่เกินกาหนึ่งหมื่นบาทสําซึนั่งกเกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ดในกรุงเทพมหานครเมื
กา ่อผู้ต้องหา
ชํา ระค่า ปรับ ตามที่น ายตํา รวจประจํา ท้อ งที่ตั้ง แต่ตํา แหน่ง สารวัต รขึ้น ไป หรือ นายตํา รวจชั้น
สํานักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญาบัตรผู้ทําการในตํกาาแหน่งนั้น ๆ ได้
สําเนัปรี ยบเทียบแล้ว
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔
มาตรา ๓๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๒๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๔) ในคดี ซึ่ งเปรี ย บเที ย บได้ต ามกฎหมายอื่น เมื่อ ผู้ต้อ งหาได้ชํา ระค่า ปรั บ ตาม
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเปรี ยบเทียบของพนักกา งานเจ้ าหน้ าสํทีานั่แกล้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๘ ความผิ ด ตามอนุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ม าตรา (๒)
สํานัก(๓) และ (๔) แห่ ง มาตราก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ น ถ้ า
เจ้าพนักงานดังกล่าวในมาตรานั้นเห็นว่าผู้ต้องหาไม่ควรได้รับโทษถึงจําคุก ให้มีอํานาจเปรียบเทียบดังนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ให้กําหนดค่าปรับซึ่งผู้ต้องหาจะพึงชําระ ถ้าผู้ต้องหาและผู้ เสี ยหายยิ นยอม
ตามนั้น เมื่อผู้ต้อสํงหาได้ ชําระเงินค่าปรับตามจํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา านวนที่เจ้าสํหน้ านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่กําหนดให้ภายในเวลาอั กา นสมควร
แต่ไม่เกินสิบห้าวันแล้ว คดีนั้นเป็นอันเสร็จเด็ดขาด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้กาาผู้ ต้ อ งหาไม่ ยสํิ นายอมตามที ่เปรี ยบเที ยบ กหรืา อเมื่อยิน ยอมแล้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ว ไม่ ชําระเงิ น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ค่าปรับภายในเวลากําหนดในวรรคก่อน ให้ดําเนินคดีต่อไป
สํ(๒) ในคดี มี ค่ า ทดแทน ถ้กาาผู้ เ สี ย หายและผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้ ตงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ อ งหายิ น ยอมให้ เ ปรีกยาบเที ย บ ให้
เจ้าหน้าที่กะจํานวนตามที่เห็นควรหรือตามที่คู่ความตกลงกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๙ สิทธินําคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) โดยความตายของผู้กระทําผิด
(๒) ในคดีความผิดต่สํอาส่นัวกนตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ว เมื่อได้ถอนคําร้องทุกข์ ถอนฟ้อสํงหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อยอมความกัน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยถูกต้องตามกฎหมาย
สํ(๓)
านักเมื ่อคดีเลิกกันตามมาตรากา ๓๗
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) เมื่อมีคําพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้อง
(๕) เมืก่อามีกฎหมายออกใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักภงานคณะกรรมการกฤษฎี
ายหลังการกระทําผิดยกเลิ
กา กความผิดสํเช่านันกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้น กา
(๖) เมื่อคดีขาดอายุความ
สํ(๗)
านักเมื ่อมีกฎหมายยกเว้นโทษ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๔๐ การฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาจะฟ้องต่อศาลซึ่งพิจารณา
คดีอาญาหรือต่อศาลที ่มีอํานาจชําระคดีแพ่งก็กาได้ การพิจารณาคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี แพ่งต้องเป็นไปตามบทบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติแห่ง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๑ ถ้าการพิจารณาคดีแพ่งจักทําให้การพิจารณาคดีอาญาเนิ่นช้ าหรื อ
ติดขัดศาลมีอํานาจสั
สํานั่งกให้ แยกคดีแพ่งออกจากคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อาญา และพิสํจานัารณาต่ างหากโดยศาลที่มกีอาํานาจชําระ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา ๔๒ ในการพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําจนัการณาคดี แพ่ง ถ้าพยานหลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก ฐานที่นําสืสําบนัแล้ วในคดีอาญา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยังไม่เพียงพอ ศาลจะเรี ยกพยานหลักฐานมาสืบเพิ่มเติมอีกก็สํไาด้นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณี เ ช่ น นั้ น ศาลจะพิ พ ากษาคดี อ าญาไปที เ ดี ย ว ส่ ว นคดี แ พ่ ง จะพิ พ ากษาใน
สํานักภายหลั งก็ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๓ คดีลักทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
วิ่งราว ชิงทรัพย์ ปล้กนาทรัพย์ โจรสลัสําดนักกรรโชก ฉ้อโกง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยักยอกหรือรับของโจร ถ้าผู้เสียหายมีสิทธิที่จะเรียกร้องทรัพย์สินหรือราคาที่เขาสูญเสียไปเนื่องจาก
การกระทําผิดคืนสํเมืานั่อกพนั กงานอัยการยื่นฟ้องคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาอาญา ก็ให้เรีสํยากทรั พย์สินหรือราคาแทนผูก้เสีายหายด้วย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๔๔ การเรียกทรัพย์สินหรือราคาคืนตามมาตราก่อน พนักงานอัยการจะขอ
รวมไปกับคดีอาญาหรื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
จะยื่นคําร้องในระยะใดระหว่
กา างที่คดีอสําญากํ าลังพิจารณาอยู่ในศาลชั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นต้นก็ได้
คําพิพากษาในส่วนเรียกทรัพย์สินหรือราคาให้รวมเป็นส่วนหนึ่งแห่งคําพิพากษาใน
สํานักคดี อาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๔/๑๑๕ ในคดีที่พนักากงานอัยการเป็สํานนัโจทก์


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าผู้เสียหายมีสิทธิกทาี่จะเรียกเอา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุได้รับอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือได้รับความเสื่อมเสียต่อเสรีภาพ
สํานักในร่ างกายชื่อเสียงหรือกได้า รับความเสียสํหายในทางทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี พย์สินอันเนืก่อางมาจากการกระทํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าความผิดของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จําเลย ผู้เสียหายจะยื่นคําร้องต่อศาลที่พิจารณาคดีอาญาขอให้บังคับจําเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตนก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การยื่นคําร้องตามวรรคหนึ ่ง ผู้เสียหายต้องยื่นคําร้องก่อนเริ่มสํสืาบนัพยาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่มีการสืบพยานให้ยื่นคําร้องก่อนศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดี และให้ถือว่าคําร้องดังกล่าวเป็นคําฟ้องตาม
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความแพ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งและผูสํา้เนัสีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
หายอยู่ในฐานะโจทก์ใกนคดี า ส่วนแพ่ง
นั้น ทั้งนี้ คําร้องดังกล่าวต้องแสดงรายละเอียดตามสมควรเกี่ยวกับความเสียหายและจํานวนค่า
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นไหมทดแทนที่เรียกร้กอา ง หากศาลเห็ สํานนัว่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
าคําร้องนั้นยังขาดสาระสํ กา าคัญบางเรืสํ่อางนักศาลอาจมี คําสั่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้ผู้ร้องแก้ไขคําร้องให้ชัดเจนก็ได้
สํคําานัร้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งตามวรรคหนึ่ งจะมีกคาํา ขอประการอื สํา่ นนักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ มิ ใ ช่ คําขอบั งคั บให้จํ ากเลยชดใช้
า ค่ า
สินไหมทดแทนอันเนื่องมาจากการกระทําความผิดของจําเลยในคดีอาญามิได้ และต้องไม่ขัดหรือแย้ง
สํานักกังานคณะกรรมการกฤษฎี
บคําฟ้องในคดีอาญาทีก่พา นักงานอัยการเป็ นโจทก์ และในกรณีทกี่พานักงานอัยการได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําเนินการตาม กา
ความในมาตรา ๔๓ แล้ว ผู้เสียหายจะยื่นคําร้องตามวรรคหนึ่งเพื่อเรียกทรัพย์สินหรือราคาทรัพย์สินอีกไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖
มาตรากา๔๔/๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เมืสํ่อานัได้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
รับคําร้องตามมาตรา ก๔๔/๑ า ให้ศาลแจ้
สํานังกให้ จําเลยทราบ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หากจําเลยให้การประการใดหรือไม่ประสงค์จะให้การให้ศาลบันทึกไว้ ถ้าหากจําเลยประสงค์จะทํา
คําให้การเป็นหนังสํสืานัอกให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลกําหนดระยะเวลายื กา ่นคําให้การตามที
สํานัก่เงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห็นสมควร และเมื่อพนักกา งานอัยการ
สืบพยานเสร็จ ศาลจะอนุญาตให้ผู้เสียหายนําพยานเข้าสืบถึงค่าสินไหมทดแทนได้เท่าที่จําเป็น หรือ
สํานักศาลจะพิ จารณาพิพากษาคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อาญาไปก่สํอานแล้ วพิจารณาพิพากษาคดีกสา ่วนแพ่งในภายหลั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก็ได้ กา
ถ้าความปรากฏต่อศาลว่าผู้ยื่นคําร้องตามมาตรา ๔๔/๑ เป็นคนยากจนไม่สามารถ
จัดหาทนายความได้ สํานัเอง ให้ศาลมีอํานาจตั้งทนายความให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แก่สํผาู้นนัั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยทนายความที่ได้รับกแต่
า งตั้งมีสิทธิ
ได้รับเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕
มาตรา ๔๔/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณา
สํ า นั
ความอาญา (ฉบับ ที่ ๒๔)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๔๘ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖
มาตรา ๔๔/๒ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับ ที่ ๒๔)กพ.ศ.
า ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๕ คดีเรื่องใดถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
แม้ว่าได้ฟ้องในทางอาญาแล้
กา ว ก็ไม่ตัดสํสิานัทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้เสียหายที่จะ กา
ฟ้องในทางแพ่งอีก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๖ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจําต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําพิพากษาคดีส่วนอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๗
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๗ คําพิพากษาคดีส่วนแพ่งต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอัน
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าด้วยความรับผิดของบุ กาคคลในทางแพ่ สํานัง กโดยไม่ ต้องคํานึงถึงว่าจํกาาเลยต้องคําพิพสําากษาว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี าได้กระทํา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความผิดหรือไม่
สํราคาทรั พย์สินที่สั่งให้จําเลยใช้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แ ก่ผู้เ สีย หาย
สํานักให้ ศาลกําหนดตามราคาอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นแท้จ ริง
ส่วนจํานวนเงินค่าสินไหมทดแทนอย่างอื่นที่ผู้เสียหายจะได้รับนั้น ให้ศาลกําหนดให้ตามความเสียหาย
สํานักแต่ ต้องไม่เกินคําขอ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๘ เมื่อศาลพิพากษาให้คืนทรัพสํย์านัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ยังไม่ปรากฏตัวเจ้กาาของ เมื่อใด
ปรากฏตัวเจ้าของแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ซึ่งรัสํกานัษาของคื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นของนั้นให้แก่เจ้าของไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ปรากฏตัวเจ้าของ ให้ศาลพิพากษาสั่งให้เจ้าหน้าที่ซึ่งรักษาของคืนของนั้น
ให้แก่เจ้าของไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อ มีก ารโต้ แ ย้ ง กัน ให้บุค คลที่ อ้ า งว่า เป็ น เจ้า ของอั น แท้จ ริง ในทรัพ ย์ สิ น นั้น
สํานักฟ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องเรี ยกร้องยังศาลทีก่มาีอํานาจชําระสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๙ แม้จะไม่มีฟ้องคดี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ส่วนแพ่งก็ตสําม
านักเมืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อพิพากษาคดีส่วนอาญา
กา ศาลจะสั่ง
ให้คืนทรัพย์สินของกลางแก่เจ้าของก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๐๑๘ ในกรณีที่ศาลสั่งให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์สิน หรือค่าสินไหมทดแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แก่ผู้เสียหายตามมาตรา ๔๓ มาตรา ๔๔ หรือมาตรา ๔๔/๑ ให้ถือว่าผู้เสียหายนั้นเป็นเจ้าหนี้ตาม
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าพิพากษา กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙
สํมาตรา ๕๑ ถ้ า ไม่ มี ผู้ ใ ดฟ้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ งทางอาญา
สํานัสิกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิ ข องผู้ เ สี ย หายที่ จ ะฟ้กาอ งทางแพ่ ง
เนื่องจากความผิดนั้นย่อมระงับไปตามกําหนดเวลาดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาเรื่องอายุ
สํานักความฟ้ องคดีอาญา แม้ถกึงาว่าผู้เยาว์หรือสํผูานั้วิกกลจริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ตในมาตรา ๑๙๓/๒๐
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา แห่งประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์จะเป็นผู้ฟ้องหรือได้ฟ้องต่างหากจากคดีอาญาก็ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๗
มาตรา ๔๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘
มาตรา ๕๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๔)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๔๘ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙
มาตรา ๕๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ถ้าคดีอาญาใดได้ฟ้องต่อศาลและได้ตัวผู้กระทําความผิดมายังศาลด้วยแล้ว แต่คดียัง
สํานักไม่ เด็ดขาด อายุความซึ่งกผูา้เสียหายมีสิทสํธิาจนัะฟ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี องคดีแพ่งย่อมสะดุดหยุกาดลงตามมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั๙๕ แห่งประมวล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กฎหมายอาญา
สํถ้าานัโจทก์ ได้ฟ้องคดีอาญาและศาลพิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พากษาลงโทษจํ าเลยจนคดีเด็ดขาดแล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วก่อนที่ได้
ฟ้องคดีแพ่ง สิทธิของผู้เสียหายที่จะฟ้องคดีแพ่งย่อมมีตามกําหนดอายุความในมาตรา ๑๙๓/๓๒ แห่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํถ้าานัโจทก์ ฟ้องคดี อาญาและศาลพิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ ากษายกฟ้ องปล่อยจําเลยจนคดีกเาด็ ดขาดแล้ ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก่อนที่ได้ยื่นฟ้องคดีแพ่ง สิทธิของผู้เสียหายจะฟ้องคดีแพ่งย่อมมีอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักและพาณิ ชย์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกลัากษณะ ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเรียกและหมายอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเรียก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๒ การที่จ ะให้บุค คลใดมาที่พ นัก งานสอบสวนหรื อมาที่ พนั ก งานฝ่า ย
สํานักปกครองหรื อตํารวจชั้นกผูา้ใหญ่หรือมาศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักเนื ่องในการสอบสวน การไต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สวนมูลฟ้สํอานังการพิ จารณาคดี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือการอย่างอื่นตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ จักต้องมีหมายเรียกของพนักงานสอบสวน
หรือพนักงานฝ่ายปกครองหรื อตํารวจชั้นผู้ใหญ่กาหรือของศาล สํแล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัวกแต่ กรณี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แต่ในกรณีที่พนักงานสอบสวนหรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจชั้นผู้ใหญ่ไป
สํานักทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
า การสอบสวนด้ว ยตนเอง
กา ย่อ มมีสํอาํ านันาจที ่จ ะเรีย กผู ้ต ้อ งหาหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ พยานมาได้
สํานัโกดยไม่ ต ้อ งออก
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หมายเรียก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๕๓ หมายเรีสํยากต้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งทําเป็นหนังสือและมีกขา้อความ ดังต่อไปนี
สํานัก้ งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) สถานที่ที่ออกหมาย
สํ(๒)
านักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นเดือนปีที่ออกหมาย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ชื่อและตําบลที่อยู่ของบุคคลที่ออกหมายเรียกให้มา
(๔) เหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาที่ต้องเรียกผู้นสําั้นนัมา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) สถานที่ วันเดือนปีและเวลาที่จะให้ผู้นั้นไปถึง
สํ(๖)
านักลายมื อชื่อและประทับกตราของศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี า หรื
สํานัอกลายมื อชื่อและตําแหน่งกเจ้า าพนักงาน
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ออกหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๔ ในการกําหนดวันและเวลาที่จสํะให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตามหมายเรียกนั้น ให้พึงระลึกถึง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระยะทางใกล้ไกล เพื่อให้ผู้ถูกเรียกมีโอกาสมาถึงตามวันเวลากําหนดในหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๕๕ การส่งหมายเรียกแก่ผู้ต้องหา จะส่งให้แก่บุคคลผู้อื่นซึ่งมิใช่สามีภริยา


สํานักญาติ หรือผู้ปกครองของผูกา้รับหมายรับแทนนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๕/๑๒๐ ในคดีพนักกางานอัยการเป็สํนานัโจทก์


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าศาลมีคําสั่งให้ออกหมายเรี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยก
พยานโจทก์โดยมิได้กําหนดวิธีการส่งไว้ ให้พนักงานอัยการมีหน้าที่ดําเนินการให้หัวหน้าพนักงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สอบสวนแห่งท้องที่เป็นผู้จัดส่งหมายเรียกแก่พยานและติดตามพยานโจทก์มาศาลตามกําหนดนัดแล้ว
แจ้งผลการส่งหมายเรี
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
กไปยังศาลและพนักงานอั กา ยการโดยเร็สํวานัหากปรากฏว่ าพยานโจทก์กมา ีเหตุขัดข้อง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่อาจมาศาลได้หรือเกรงว่าจะเป็นการยากที่จะนําพยานนั้นมาสืบตามที่ศาลนัดไว้ ก็ให้พนักงาน
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการขอให้ศาลสืบพยานนั
กา ้นไว้ล่วงหน้สําาตามมาตรา ๑๗๓/๒ วรรคสอง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าพนักงานผู้ส่งหมายเรียกมีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายตามระเบียบที่กระทรวงยุติธรรม
กําหนดโดยได้รับความเห็ นชอบจากระทรวงการคลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๖ เมื่อบุคสํคลที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่รับหมายเรียกอยู่ต่างท้กาองที่กับท้องทีสํ่ซานัึ่งกออกหมาย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เป็น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หมายศาลก็ให้ส่งไปศาล เป็นหมายพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจให้ส่งยังพนักงานฝ่ายปกครอง
หรือตํารวจที่มีอําสํนาจออกหมายเรี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยกซึ่งผู้ถูกเรียกอยู่ในท้องทีสํา่ นัเมืก่องานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครองหรื อ
ตํารวจได้รับหมายเช่นนั้นแล้ว ก็ให้สลักสํหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งหมายแล้วจัดการส่งแก่ผู้รับต่อไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลักทั่วไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๒๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๗ ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติในมาตรา ๗๘ มาตรา ๗๙ มาตรา ๘๐
สํานักมาตรา ๙๒ และมาตรากา๙๔ แห่งประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้ จะจับ ขัง จํกาาคุก หรือค้นในที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่รกโหฐานหาตั วคน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือสิ่งของต้องมีคําสั่งหรือหมายของศาลสําหรับการนั้น
สํบุาคนัคลซึ ่งต้องขังหรือจําคุกตามหมายศาล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จะปล่
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ยไปได้ก็เมื่อมีหมายปล่กอา ยของศาล
๒๒
มาตรากา๕๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ศาลมีสําอนัํากนาจออกคํ าสั่งหรือหมายอาญาได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ภายในเขตอํ านาจตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในข้อบังคับของประธานศาลฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๐
มาตรา ๕๕/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณา
สํานักความอาญา (ฉบับ ที่ ๒๒)กพ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๑
มาตรา ๕๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๒
มาตรา ๕๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๙๒๓ ศาลจะออกคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าสั่งหรือหมายจับ หมายค้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา น หรือหมายขั ง ตามที่ศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เห็นสมควรหรือโดยมีผู้ร้องขอก็ได้
สํในกรณี ที่ ผู้ ร้ อ งขอเป็ น พนักกางานฝ่ า ยปกครองหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี อ ตํ า รวจ ต้ อ งเป็ น พนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก งานฝ่ า ย
ปกครองตั้งแต่ระดับสามหรือตํารวจซึ่งมียศตั้งแต่ชั้นร้อยตํารวจตรีหรือเทียบเท่าขึ้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีจําเป็นเร่งด่วนซึ่งมีเหตุอันควรโดยผู้ร้องขอไม่อาจไปพบศาลได้ ผู้ร้องขออาจ
ร้องขอต่อศาลทางโทรศั พท์ โทรสาร สื่ออิเล็กกาทรอนิกส์ หรืสํอาสืนั่อกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เทคโนโลยีสารสนเทศประเภทอื กา ่นที่
เหมาะสมเพื่อขอให้ศาลออกหมายจับหรือหมายค้นก็ได้ ในกรณีเช่นว่านี้เมื่อศาลสอบถามจนปรากฏว่า
สํานักมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
เหตุที่จะออกหมายจับกหรื า อหมายค้นได้ สําตนัามมาตรา ๕๙/๑ และมีคกําา สั่งให้ออกหมายนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
แล้ว ให้จัดส่ง กา
สําเนาหมายเช่นว่านี้ไปยังผู้ร้องขอโดยทางโทรสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
ประเภทอื่น ทั้งนีสํ้ าตามหลั กเกณฑ์และวิธีการทีกา่กําหนดในข้อบัสํางนัคักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ของประธานศาลฎีกา กา
เมื่อได้มีการออกหมายตามวรรคสามแล้ว ให้ศาลดําเนินการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการ
สํานักขอหมายมาพบศาลเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี่อกสาบานตั า วโดยไม่
สํานัชกักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช้า โดยจดบันทึกถ้อยคํกาาของบุคคลดังสํกล่านัากวและลงลายมื อ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชื่อของศาลผู้ออกหมายไว้ หรือจะใช้เครื่องบันทึกเสียงก็ได้โดยจัดให้มีการถอดเสียงเป็นหนังสือ
และลงลายมือชื่อสํของศาลผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ออกหมาย บันทึกที่มีการลงลายมื สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อชื่อรับรองดังกล่าวแล้ว ให้เก็บไว้ใน
สารบบของศาล หากความปรากฏต่อศาลในภายหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งว่าได้มีการออกหมายไปโดยฝ่สําานัฝืกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต่อบทบัญญัติ กา
แห่งกฎหมาย ศาลอาจมีคําสั่งให้เพิกถอนหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงหมายเช่นว่านั้นได้ ทั้งนี้ ศาลจะมี
คําสั่งให้ผู้ร้องขอจัสํดานัการแก้ ไขเพื่อเยียวยาความเสี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยหายที่เกิดสํขึา้นนักแก่ บุคคลที่เกี่ยวข้องตามที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา่เห็นสมควร
ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๔
มาตรา ๕๙/๑ ก่อนออกหมาย จะต้องปรากฏพยานหลักฐานตามสมควรที่ทําให้
ศาลเชื่อได้ว่ามีเหตุสําทนัี่จกะออกหมายตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎีก๖๖ า มาตรา ๖๙สําหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๗๑ กา
คําสั่งศาลให้ออกหมายหรือยกคําร้อง จะต้องระบุเหตุผลของคําสั่งนั้นด้วย
หลักเกณฑ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ในการยื่นสํคํานัากร้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องขอ การพิจารณา รวมทักา ้งการออกคํสําานัสัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้เป็นไปตาม กา
หลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในข้อบังคับของประธานศาลฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๕
มาตรากา๖๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หมายจั
สํานับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หมายค้น หมายขัง หมายจํ
กา าคุก หรือหมายปล่ อย ต้องทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เป็นหนังสือและมีข้อความดังต่อไปนี้
สํ(๑)
านักสถานที ่ที่ออกหมาย กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) วันเดือนปีที่ออกหมาย
(๓) เหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาที่ต้องออกหมายสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) (ก) ในกรณีออกหมายจับ ต้องระบุชื่อหรือรูปพรรณของบุคคลที่จะถูกจับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๓
มาตรา ๕๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๔
มาตรา ๕๙/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณา
สํ านั
ความอาญา (ฉบับ ที่ ๒๒)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๕
มาตรา ๖๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(ข) ในกรณีออกหมายขัง หมายจําคุก หรือหมายปล่อย ต้องระบุชื่อบุคคลที่จะ


สํานักถูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กขัง จําคุก หรือปล่อยกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ค) ในกรณีออกหมายค้น ให้ระบุสถานที่ที่จะค้น และชื่อหรือรูปพรรณบุคคล
หรือลักษณะสิ่งของที่ตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก ้องการค้น กําหนดวันเวลาที
กา ่จะทําการค้
สํานันกและชื ่อกับตําแหน่งของเจ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าพนักงาน
ผู้จะทําการค้นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) (ก) ในกรณีออกหมายจับ หมายขัง หรือหมายค้นให้ระบุความผิด หรือวิธีการ
เพื่อความปลอดภัสํยานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ข) ในกรณีออกหมายจําคุก ให้ระบุความผิดและกําหนดโทษตามคําพิพากษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(ค)กาในกรณีออกหมายขั งหรือหมายจําคุก ให้รกะบุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สถานที่ที่จะให้
สํานัขกังงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือจําคุก กา
(ง) ในกรณีออกหมายปล่อย ให้ระบุเหตุที่ให้ปล่อย
สํ(๖)
านักลายมื อชื่อและประทับตราของศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๖๑ ๒๖ ภายใต้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานับกั งงานคณะกรรมการกฤษฎี
คับ แห่งมาตรา ๙๗ พนั
กา ก งานฝ่ า ยปกครองหรื อ ตํา รวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มีอํานาจหน้าที่จัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา ซึ่งได้มอบหรือส่งมาให้จัดการภายในอํานาจของเขา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายอาญาใดซึ่งศาลได้ออก จะมอบหรือสํส่างนัไปยั กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ
ซึ่งอยู่ภายในเขตอํานาจของศาลดังระบุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในหมาย หรือแก่หัวหน้าพนักงานฝ่ายปกครองหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อตํารวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประจําจังหวัด อําเภอ กิ่งอําเภอ หรือตําบล ซึ่งจะให้จัดการให้เป็นไปตามหมายนั้นก็ได้
สํในกรณี หลังเจ้าพนักงานผู้กได้า รับหมายต้อสํงรัานับกผิงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดชอบในการจัดการตามหมายนั
กา ้น
จะจัดการเองหรือสั่งให้เจ้าพนักงานรองลงไปจัดการให้ก็ได้ หรือจะมอบหรือส่งสําเนาหมายอันรับรอง
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าถูกต้องให้แก่พนักงานฝ่ กาายปกครองหรืสําอนัตํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
รวจคนอื่นซึ่งมีหน้าที่จกัดาการตามหมายซึ
สํานั่งกตนได้ รับนั้นก็ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าหมายนั้นได้มอบหรือส่งให้แก่เจ้าพนักงานตั้งแต่สองนายขึ้นไป เจ้าพนักงานจะจัดการตามหมายนั้น
แยกกันหรือร่วมกัสํนาก็นัไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๒ ภายใต้บสําังนัคักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี แห่งบทบัญญัติทั้งหลายในประมวลกฎหมายนี
กา ้ซึ่งว่าด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การจับและค้น เจ้าพนักงานผู้จัดการตามหมายนั้นต้องแจ้งข้อความในหมายให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทราบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และถ้ามีคําขอร้อง ให้ส่งหมายนั้นให้เขาตรวจดู
การแจ้กางข้อความในหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การส่งหมายให้ตรวจดู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และวันเดือนปี
สํานัทกี่จงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัดการเช่นนั้น กา
ให้บันทึกไว้ในหมายนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๗
มาตรา ๖๓ เมื่อเจ้าพนักงานได้จัดการตามหมายอาญาแล้ว ให้บันทึกรายละเอียด
สํานักในการจั ดการนั้น ถ้าจัดกการตามหมายไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานัไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้บันทึกพฤติการณ์ไกว้า แล้วให้ส่งบันสํทึานักกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นไปยังศาลซึ่ง กา
ออกหมายโดยเร็ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๒๖
มาตรา ๖๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๗
มาตรา ๖๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๖๔๒๘ ถ้าบุคคลที่มีชื่อในหมายอาญาถูกจับ หรือบุคคลหรือสิ่งของที่มีหมาย


สํานักให้ ค้นได้ค้นพบแล้ว ถ้ากสามารถจะทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าสํได้านักก็ให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่งบุคคลหรือสิ่งของนักา้นโดยด่วนไปยัสํงาศาลซึ ่งออกหมาย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือเจ้าพนักงานตามที่กําหนดไว้ในหมาย แล้วแต่กรณี เว้นแต่จะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๕ ถ้าบุคคลที่ถูกจับตามหมายหลบหนีหรือมีผู้ช่วยให้หนีไปได้เจ้าพนักงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้จับมีอํานาจติดตามจับกุมผู้นั้นโดยไม่ต้องมีหมายอีก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมายจับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๙
มาตรา ๖๖ เหตุที่จะออกหมายจับได้มีดังต่อไปนี้
(๑) เมืก่อา มีหลักฐานตามสมควรว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าบุคคลใดน่าจะได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กระทําความผิ
สํานัดกอาญาซึ ่งมีอัตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โทษจําคุกอย่างสูงเกินสามปี หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใดน่ าจะได้กระทําความผิดอาญาและมีเหตุ
อันควรเชื่อว่าจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลนั้นไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือไม่มาตามหมายเรียกหรือตามนัดโดยไม่มี
ข้อแก้ตัวอันควร ให้
สํานัสกันงานคณะกรรมการกฤษฎี
นิษฐานว่าบุคคลนั้นจะหลบหนี
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๗ จะออกหมายจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บบุคคลที่ยังไม่รู้จักชื่อกก็า ได้แต่ต้องบอกรู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัปกพรรณของผู ้นั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้ละเอียดเท่าที่จะทําได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๘๓๐ หมายจับคงใช้ได้อยู่จนกว่าจะจับได้ เว้นแต่ความผิดอาญาตามหมาย
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นขาดอายุความหรือศาลซึ
กา ่งออกหมายนั
สํานั้นกได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ถอนหมายคืน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมายค้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๙ เหตุที่จะออกหมายค้นได้มีดังต่อไปนี้
(๑) เพืก่อา พบและยึดสิสํ่งาของซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไต่สวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มูลฟ้องหรือพิจารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๘
มาตรา ๖๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๙
มาตรา ๖๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๐
มาตรา ๖๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๒) เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือมีเหตุ


สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นควรสงสัยว่าได้ใช้หรือกาตั้งใจจะใช้ในการกระทํ าความผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) เพื่อพบและช่วยบุคคลซึ่งได้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
สํ(๔)
านักเพื ่อพบบุคคลซึ่งมีหมายให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จับ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) เพื่อพบและยึดสิ่งของตามคําพิพากษาหรือตามคําสั่งศาล ในกรณีที่จะพบหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะยึดโดยวิธีอื่นไม่ได้แล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๐ หมายค้นซึ่งออกเพื่อพบและจับบุคคลนั้นห้ามมิให้ออก เว้นแต่จะมี
สํานักหมายจั บบุคคลนั้นด้วย กและเจ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าพนักงานซึ
สํานั่งกจะจั ดการตามหมายค้นกนัา้นต้องมีทั้งหมายค้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
และหมายจับ กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายขัง หมายจําคุก หมายปล่อย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๓๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๗๑ เมื่อได้ตัวผู้ต้องหาหรือจําสํเลยมาแล้
กา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ว ในระยะใดระหว่างสอบสวน
ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา ศาลจะออกหมายขั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งผู้ต้องหาหรือจําเลยไว้ตามมาตรา สํ๘๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือมาตรา ๘๘
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก็ได้ และให้นําบทบัญญัติในมาตรา ๖๖ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํหมายขั งคงใช้ได้อยู่จนกว่าศาลจะได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เพิกถอน โดยออกหมายปล่ อยหรือออกหมายจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าคุกแทน
ถ้า ความปรากฏแก่ศ าลว่า ผู้ต้อ งหาหรือจํา เลยนั้น มีอ ายุไ ม่ถึง สิบ แปดปีห รือ เป็น
สํานักหญิ งมีครรภ์หรือเพิ่งคลอดบุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตรมาไม่สํถาึงนัสามเดื อน หรือเจ็บป่วยซึกา่งถ้าต้องขังจะถึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํางนัอักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตรายแก่ชีวิต กา
ศาลจะไม่ออกหมายขังหรือ จะออกหมายปล่อยผู้ต้องหาหรือจํา เลยซึ่งถูกขังอยู่นั้นก็ไ ด้ แต่ทั้ง นี้
ไม่ห้า มศาลที่จะมีสํคานัํากสังานคณะกรรมการกฤษฎี
่งให้ผู้นั้นอยู่ในความดูแกาลของเจ้าพนักสํงานหรื อบุคคลที่ยินยอมรับกผูา ้นั้นไว้ หรือ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันการหลบหนีหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ถ้าศาลมีคําสั่ง
สํานักเช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
นว่านี้ในระหว่างสอบสวน กา ให้ใช้ได้ไสํม่าเนักิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หกเดือนนับแต่วันมีคํากสัา่ง แต่ถ้ามีคําสัสํ่งาในระหว่ างไต่สวน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มู ล ฟ้ อ งหรื อ ระหว่ า งพิ จ ารณา ให้ ใ ช้ ไ ด้ จ นกว่ า จะเสร็ จ การพิ จ ารณา หากภายหลั ง ที่ ศ าลมี คํ า สั่ ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ต้องหาหรื อจําเลยนั้นไม่ปฏิ บัติตามวิธีการที่กําหนดหรือพฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป ให้ศาลมี
สํานักอํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านาจเปลี่ยนแปลงคําสัก่งาหรือพิจารณาออกหมายขั งได้ตามที่เห็นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๒ หมายปล่อยผูก้ตา้องหาหรือจําสํเลยซึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งต้องขังอยู่ตามหมายศาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้ออก
ในกรณีต่อไปนี้
(๑) เมืก่อาศาลสั่งปล่อยชัสํา่วนัคราว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่ อ พนั ก งานอั ย การหรื อ พนั ก งานสอบสวนขอให้ ศ าลปล่ อ ย โดยเห็ น ว่ า
ไม่ จํา เป็ น ต้ อ งขั งสํไว้านัรกะหว่ างสอบสวน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) เมื่อพนักงานอัยการร้องต่อศาลว่าได้ยุติการสอบสวนแล้ว โดยคําสั่งไม่ฟ้อง
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ต้องหา กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๑
มาตรา ๗๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๔) เมื่อพนักงานอัยการไม่ฟ้องผู้ต้องหาในเวลาที่ศาลกําหนด
(๕) เมืก่อาศาลไต่สวนมูสํลาฟ้นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งแล้วเห็นว่าคดีไม่มีมูลกและสั า ่งให้ยกฟ้สํอางนัเว้ นแต่เมื่อโจทก์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ร้องขอและศาลเห็นสมควรให้ขังจําเลยไว้ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา
สํ(๖)านักเมื ่อโจทก์ถอนฟ้องหรือกมีาการยอมความในคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ความผิดต่อส่วนตัวกหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อเมื่อศาล
พิจารณาแล้วพิพากษาหรือมีคําสั่งให้ยกฟ้อง เว้นแต่ศาลเห็นสมควรให้ขังจําเลยไว้ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) เมื่อศาลพิพากษาให้ลงโทษจําเลยอย่างอื่นซึ่งไม่ใช่โทษประหารชีวิต จําคุกหรือ
ให้อยู่ภายในเขตทีสํ่อานัันกมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนด ถ้าโทษอย่างอืก่นานั้นเป็นโทษปรัสําบนัเมื ่อจําเลยได้เสียค่าปรับแล้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว หรือศาล
ให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีกําหนดวันเพื่อให้จําเลยหาเงินค่าปรับมาชําระต่อศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๓ คดี ใดอยู่ ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ถ้ าจําเลยต้องควบคุ มหรื อขั งมาแล้ ว
เท่ากับหรือเกินกว่
สําานักํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
หนดจําคุกหรือกําหนดจํ
กา าคุกแทนตามคํ
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
พิพากษา ให้ศาลออกหมายปล่
กา อย
จําเลย เว้นแต่จะเห็นสมควรเป็นอย่างอื่นในกรณีที่โจทก์อุทธรณ์ฎีกาในทํานองขอให้เพิ่มโทษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๔ ภายใต้ บั ง คั บ แห่ ง มาตรา ๗๓ และ ๑๘๕ วรรค ๒ เมื่ อ ผู้ ใ ดต้ อ ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คํา พิ พ ากษาให้จําคุกหรือประหารชีวิตหรือจะต้องจําคุกแทนค่ าปรับ ให้ศาลออกหมายจําคุกผู้นั้นไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๕ เมื่ อ ผู้ ต้ อ งคํ า พิ พ ากษาให้ จํ า คุ ก ถู ก จํ า ครบกํ า หนดแล้ ว หรื อ ได้ รั บ
พระราชทานอภัยสํโทษให้ ปล่อย หรือมีคําวินกิจาฉัยให้ปล่อยตัสํวาไปโดยมี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เงื่อนไข หรือมีกฎหมายยกเว้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา น
โทษหรือโทษจําคุกนั้นหมดไปโดยเหตุอื่น ให้ศาลออกหมายปล่อยผู้นั้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๖ หมายขัง หมายจําคุก หรือหมายปล่อย ต้องจัดการตามนั้นโดยพลัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จับ สํขัางนักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าคุก ค้น ปล่อยชั่วคราวกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จับ ขัง จําคุก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๒
มาตรากา๗๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หมายจั
สําบนัให้ ใช้ได้ทั่วราชอาณาจักรกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจัดการตามหมายจับนั้นจะจัดการตามเอกสารหรือหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใด
ดังต่อไปนี้ก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) สําเนาหมายอันรับรองว่าถูกต้องแล้ว
(๒) โทรเลขแจ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งว่าได้สํอาอกหมายแล้ ว
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๒
มาตรา ๗๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๓) สําเนาหมายที่ส่งทางโทรสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ


สํานักประเภทอื ่น ทั้งนี้ ตามหลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กเกณฑ์และวิสําธนัีกการที ่กําหนดในข้อบังคับของประธานศาลฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักกางานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจัดการตาม (๒) และ (๓) ให้ส่งหมายหรือสําเนาอันรับรองแล้วไปยังเจ้าพนักงาน
ผู้จัดการตามหมายโดยพลั
สํ น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๗๘๓๓ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจจะจับผู้ใดโดยไม่มีหมายจับหรือ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งของศาลนั้นสํไม่านัได้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เว้นแต่ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เมื่อบุคคลนั้นได้กระทําความผิดซึ่งหน้าดังได้บัญญัติไว้ในมาตรา ๘๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) เมืก่าอ พบบุ ค คลโดยมี
สํานักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฤติก ารณ์ อัน ควรสงสักยาว่าผู้ นั้นน่ า จะก่
สํานัอกเหตุ ร้ ายให้เกิ ด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ภยันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นโดยมีเครื่องมือ อาวุธ หรือวัตถุอย่างอื่นอันสามารถอาจใช้
ในการกระทําความผิ สํานัดกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) เมื่อมีเหตุที่จะออกหมายจับบุคคลนั้นตามมาตรา ๖๖ (๒) แต่มีความจําเป็น
สํานักเร่งานคณะกรรมการกฤษฎี
งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจั
กา บสําบุนัคกคลนั ้นได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) เป็นการจับผู้ต้องหาหรือจําเลยที่หนีหรือจะหลบหนีในระหว่างถูกปล่อยชั่วคราว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามมาตรา ๑๑๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๙ ราษฎรจะจับผู้อื่นไม่ได้เว้นแต่จะเข้าอยู่ในเกณฑ์แห่งมาตรา ๘๒ หรือ
เมื่อผู้นั้นกระทําความผิ ดซึ่งหน้า และความผิดกนัา้นได้ระบุไว้ในบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัญกชีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ท้ายประมวลกฎหมายนีกา้ด้วย

มาตรากา๘๐ ที่เ รีย กว่


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัา กความผิ ด ซึ่ง หน้า นั้น ได้กแา ก่ค วามผิด ซึสํ่งาเห็
งานคณะกรรมการกฤษฎี นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
กํา ลัง กระทํา กา
หรือพบในอาการใดซึ่งแทบจะไม่มีความสงสัยเลยว่าเขาได้กระทําผิดมาแล้วสด ๆ
สํอย่
านัากงไรก็ ดี ความผิ ด อาญาดั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง ระบุ ไ ว้ ใ นบัสําญนัชีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ท้ า ยประมวลกฎหมายนี กา ้ ให้ ถื อ ว่ า
ความผิดนั้นเป็นความผิดซึ่งหน้าในกรณีดังนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๑) เมืก่อาบุคคลหนึ่งถูกสํไล่านัจกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดังผู้กระทําโดยมีเสียงร้กอา งเอะอะ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อพบบุคคลหนึ่งแทบจะทันทีทันใดหลังจากการกระทําผิดในถิ่นแถวใกล้เคียง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กับที่เกิดเหตุนั้นและมีสิ่งของที่ได้มาจากการกระทําผิด หรือมีเครื่องมือ อาวุธหรือวัตถุอย่างอื่นอัน
สํานักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
นนิษฐานได้ว่าได้ใช้ในการกระทํ
กา าผิด สํหรืานัอกมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ร่องรอยพิรุธเห็นประจักกาษ์ที่เสื้อผ้าหรือสํเนื
านั้อกตังานคณะกรรมการกฤษฎี
วของผู้นั้น กา
๓๔
สํมาตรา ๘๑ ไม่ว่าจะมีหมายจั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บหรือไม่ก็ตสําม
านักห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ามมิให้จับในที่รโหฐานกาเว้นแต่จะได้
ทําตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้อันว่าด้วยการค้นในที่รโหฐาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๓๓
มาตรา ๗๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๔
มาตรา ๘๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๘๑/๑๓๕ ไม่ว่าจะมีหมายจับหรือไม่ก็ตาม ห้ามมิให้จับในพระบรมมหาราชวัง


สํานักพระราชวั ง วังของพระรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาชทายาทหรือสําของพระบรมวงศ์ ตั้งแต่สมเด็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จเจ้าฟ้าขึ้นสํไปานักพระราชนิ เวศน์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พระตําหนัก หรือในที่ซึ่งพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้า
ขึ้นไป หรือผู้สําเร็สํจาราชการแทนพระองค์
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ประทั
กาบหรือพํานัก สํเว้านันกแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย อนุญาตให้จับ และได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แจ้งเลขาธิการพระราชวัง หรือสมุหราชองครักษ์รับทราบแล้ว
สํ(๒) เจ้า พนัก งานผู้ถ วายหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอ ให้ ค วามปลอดภั ย แด่พ ระมหากษัต ริกยา์ พระราชินี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พระรัช ทายาท พระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ เป็นผู้จับ
สํานักตามกฎหมายว่ าด้วยราชองครั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กษ์ หรือสํตามกฎหมาย กฎ หรือระเบีกยาบเกี่ยวกับการให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัคกวามปลอดภั ย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๘๒ เจ้าพนักงานผูก้จาัดการตามหมายจั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี บ จะขอความช่วยเหลืกาอจากบุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใกล้เคียงเพื่อจัดการตามหมายนั้นก็ได้ แต่จะบังคับให้ผู้ใดช่วยโดยอาจเกิดอันตรายแก่เขานั้นไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๓๓๖ ในการจับนั้น เจ้าพนักงานหรือราษฎรซึ่งทําการจับต้องแจ้งแก่ผู้ที่จะ
ถูกจับนั้นว่าเขาต้สํอางถู
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กจับ แล้วสั่งให้ผู้ถูกจับไปยังที่ทําการของพนั สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับ
พร้อ มด้ว ยผู้จับ เว้น แต่ส ามารถนํา ไปที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ทํา การของพนัก งานสอบสวนผู้รับ ผิดสํชอบได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใ นขณะนั้น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นําไปที่ทําการของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบดังกล่าว แต่ถ้าจําเป็นก็ให้จับตัวไป
สํในกรณี ที่เจ้าพนักงานเป็นผูก้จาับ ต้องแจ้งข้อสํกล่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัากวหาให้ ผู้ถูกจับทราบ หากมี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หมายจับ
ให้แสดงต่อผู้ถูกจับ พร้อมทั้งแจ้งด้วยว่า ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ใ ห้การหรือให้การก็ได้และถ้อยคํา
สํานักของผู ้ถูกจับนั้นอาจใช้เป็กานพยานหลักฐานในการพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี จารณาคดีได้และผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ถูกจับมีสิทธิสํทาี่จนัะพบและปรึ กษา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทนายความ หรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ ถ้าผู้ถูกจับประสงค์จะแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบ
ถึงการจับกุมที่สามารถดํ าเนินการได้โดยสะดวกและไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เป็นการขั
สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขวางการจับหรือการควบคุ กา มผู้ถูกจับ
หรือทําให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด ก็ให้เจ้าพนักงานอนุญาตให้ผู้ถูกจับดําเนินการ
สํานักได้ ตามสมควรแก่กรณี ในการนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ให้เจ้าพนั
สํากนังานผู ้จับนั้นบันทึกการจับกาดังกล่าวไว้ด้วยสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้าบุคคลซึ่งจะถูกจับขัดขวางหรือจะขัดขวางการจับ หรือหลบหนีหรือพยายามจะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลบหนี ผู้ทําการจับมีอํานาจใช้วิธีหรือการป้องกันทั้งหลายเท่าที่เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งเรื่องใน
สํานักการจั บนั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๗
สํมาตรา ๘๔ เจ้าพนักงานหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อราษฎรผู้ทสํําาการจั บต้องเอาตัวผู้ถูกจับไปยั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งที่ทําการ
ของพนักงานสอบสวนตามมาตรา ๘๓ โดยทันที และเมื่อถึงที่นั้นแล้ว ให้ส่งตัวผู้ถูกจับแก่พนักงาน
สํานักฝ่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ายปกครองหรือตํารวจของที
กา ่ทําการของพนั กงานสอบสวนดังกล่ากวาเพื่อดําเนินการดั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานังกต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อไปนี้ กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๕
มาตรา ๘๑/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณา
สํานักความอาญา (ฉบับ ที่ ๒๒)กพ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๖
มาตรา ๘๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๗
มาตรา ๘๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๑) ในกรณี ที่เจ้ าพนั กงานเป็นผู้จั บให้ เจ้าพนักงานผู้จับนั้นแจ้งข้อกล่าวหา และ


สํานักรายละเอี ยดเกี่ยวกับเหตุกแา ห่งการจับให้สํผาู้ถนัูกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี จับทราบ ถ้ามีหมายจับกให้ า แจ้งให้ผู้ถูกจัสํบานัทราบและอ่ านให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ฟังและมอบสําเนาบันทึกการจับแก่ผู้ถูกจับนั้น
สํ(๒)
านักในกรณี ที่ราษฎรเป็นผูก้จาับ ให้พนักงานฝ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากยปกครองหรื อตํารวจซึกา่งรับมอบตัว
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บันทึกชื่อ อาชีพ ที่อยู่ของผู้จับ อีกทั้งข้อความและพฤติการณ์แห่งการจับนั้นไว้ และให้ผู้จับลงลายมือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชื่อกํากับไว้เป็นสําคัญเพื่อดําเนินการแจ้งข้อกล่าวหาและรายละเอียดแห่งการจับให้ผู้ถูกจับทราบและ
แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบด้
สํานักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยว่าผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่
กา ให้การหรือให้ สํานักการก็ ได้ และถ้อยคําของผูก้ถาูกจับอาจใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เมื่อได้กดาําเนินการตามวรรคหนึ ่งแล้วให้พนักงานฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาายปกครองหรื สําอนัตํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
รวจ ซึ่งมีผู้นํา กา
ผู้ถูกจับมาส่งแจ้งให้ผู้ถูกจับทราบถึงสิทธิตามที่กําหนดไว้ในมาตรา ๗/๑ รวมทั้งจัดให้ผู้ถูกจับสามารถ
ติดต่อกับญาติหรืสํอาผูนั้ซกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ึ่งผู้ถูกจับไว้วางใจเพื่อแจ้ กา งให้ทราบถึงสํการจั บกุมและสถานที่ที่ถูกกควบคุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มได้ใน
โอกาสแรกเมื่อผู้ถูกจับมาถึงที่ทําการของพนักงานสอบสวนตามวรรคหนึ่ง หรือถ้ากรณีผู้ถูกจับร้อง
สํานักขอให้ พ นั ก งานฝ่ า ยปกครองหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ ตํ า รวจเป็ น ผู้ แ จ้ ง ก็ ใ ห้ จั ด การตามคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า ร้ อ งขอนั สํา้ นนัโดยเร็ ว และให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจบันทึกไว้ ในการนี้มิให้เรียกค่าใช้จ่ายใด ๆ จากผู้ถูกจับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่จําเป็น เจ้าพนักงานหรือราษฎรซึ ่งทําการจับจะจัดการพยาบาลผู้ถูกจับ
เสียก่อนนําตัวไปส่งตามมาตรานี้ก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้อยคําใด ๆ ที่ผู้ถูกจับให้ไว้ต่อเจ้าพนักงานผู้จับ หรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือ
ตํารวจในชั้นจับกุสํมาหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
รับมอบตัวผู้ถูกจับ ถ้ากถ้าอยคํานั้นเป็นสํคําานัรักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สารภาพของผู้ถูกจับว่ากตนได้ า กระทํา
ความผิดห้ามมิให้รับฟังเป็นพยานหลักฐาน แต่ถ้าเป็นถ้อยคําอื่น จะรับฟังเป็นพยานหลักฐานในการ
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
สูจน์ความผิดของผู้ถูกกจัา บได้ต่อเมื่อได้สํามนัีกการแจ้ งสิทธิตามวรรคหนึกา่ง หรือตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี ๘๓ วรรคสอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แก่ผู้ถูกจับแล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๔/๑๓๘ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจซึ่งมีผู้นําผู้ถูกจับมาส่งนั้น จะ
สํานักปล่ อ ยผู้ ถู ก จั บ ชั่ ว คราวหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ ควบคุ ม ผูสํ้ ถานัู กกจังานคณะกรรมการกฤษฎี
บ ไว้ ก็ ไ ด้ แต่ ถ้ า เป็ น การจั
กา บ โดยมี ห สํมายของศาลให้ รี บ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดําเนินการตามมาตรา ๖๔ และในกรณีที่ต้องส่งผู้ถู กจั บไปยังศาล แต่ไม่อาจส่งไปได้ในขณะนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เนื่องจากเป็นเวลาที่ศาลปิดหรือใกล้จะปิดทําการ ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจที่รับตัวผู้ถูกจับ
สํานักไว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
มีอํานาจปล่อยผู้ถูกจับกชัา ่วคราวหรือควบคุสํานักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ถูกจับไว้ได้จนกว่าจะถึ กา งเวลาศาลเปิสํดาทํนัากการ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๕ เจ้าพนักงานผูก้จาับหรือรับตัวผูสํ้ถาูกนัจักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ไว้ มีอํานาจค้นตัวผู้ต้อกางหา และยึด
สิ่งของต่าง ๆ ที่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้
การค้นกานั้นจักต้องทําโดยสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ภาพ ถ้าค้นผู้หญิงต้องให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาหญิงอื่นเป็นผูสํ้คา้นนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิ่งของใดที่ยึดไว้เจ้าพนักงานมีอํานาจยึดไว้จนกว่าคดีถึงที่สุด เมื่อเสร็จคดีแล้วก็ให้
คืนแก่ผู้ต้องหาหรืสํอาแก่
นักผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้อื่น ซึ่งมีสิทธิเรียกร้องขอคื
กา นสิ่งของนัสํ้นานัเว้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ศาลจะสั่งเป็นอย่างอื กา่น

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๘
มาตรา ๘๔/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับ ที่ ๒๒)กพ.ศ.
า ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๘๕/๑๓๙ ในระหว่างสอบสวน สิ่งของที่เจ้าพนักงานได้ยึดไว้ซึ่งมิใช่ทรัพย์สิน


สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าผูก้าใดทําหรือมีไว้สํเป็านันกความผิ ด ถ้ายังไม่ได้นําสืกาบหรือแสดงเป็สํนานัพยานหลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กฐานใน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การพิจารณาคดี เจ้าของหรือผู้ซึ่งมีสิทธิเรียกร้องขอคืนสิ่งของที่เจ้าพนักงานยึดไว้ อาจยื่นคําร้องต่อ
พนั ก งานสอบสวนหรื อ พนั ก งานอั ย การ แล้กาว แต่ ก รณี เพืสํ่ อานัขอรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บ สิ่ ง ของนั้ น ไปดู แ ลรักาก ษาหรื อ ใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประโยชน์โดยไม่มีประกัน หรือมีประกัน หรือมีประกันและหลักประกันก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การสั่ ง คื น สิ่ ง ของตามวรรคหนึ่ ง จะต้ อ งไม่ ก ระทบถึ ง การใช้ สิ่ ง ของนั้ น เป็ น
พยานหลักฐานเพืสํ่อานัพิกสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ูจน์ข้อเท็จจริงในภายหลั กา ง ทั้งนี้ ให้สํพานันักกงานสอบสวนหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี อพนักกงานอั า ยการมี
คําสั่งโดยมิชักช้า โดยอาจเรียกประกันจากผู้ยื่นคําร้องหรือกําหนดเงื่อนไขอย่างหนึ่งอย่างใดให้บุคคล
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นปฏิบัติ และหากไม่ปกฏิาบัติตามเงื่อนไขหรื อบุคคลดังกล่าวไม่ยอมคื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นสิ่งของนั้นเมื สํา่อนัมีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
คําสั่งให้คืน ให้ กา
พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ แล้วแต่กรณี มีอํานาจยึดสิ่งของนั้นกลับคืนและบังคับตาม
สัญญาประกั นเช่สํนานัว่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้ นได้ วิ ธีการยื่นคํ าร้อกงา เงื่อนไขและการอนุ ญาตให้เป็นไปตามที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ กํ า หนดใน
กฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณีกาที่พนักงานสอบสวนหรื อพนักงานอัยการมีกคา ําสั่งไม่อนุญาตสํานัผูก้ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ื่นคําร้องมีสิทธิ กา
ยื่นคําร้องอุทธรณ์คําสั่งต่อศาลชั้นต้นที่มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาดังกล่าวได้ภายในสามสิบ
วันนับแต่วันที่ได้รสํับานัแจ้
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งการไม่อนุญาตและให้ศาลพิจารณาให้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่
ได้รับ อุท ธรณ์ ในกรณีที่ศ าลมีคํา สั่งอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญ าต ศาลอาจเรียกประกันหรือกําหนดเงื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อนไขอย่า งหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อย่างใดได้ตามที่เห็นสมควร คําสั่งของศาลให้เป็นที่สุด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๖ ห้ามมิให้ใช้วิธีควบคุมผู้ถูกจับเกินกว่าที่จําเป็นเพื่อป้องกันมิให้เขาหนี
สํานักเท่ านั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๗๔๐ ห้ามมิให้ควบคุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มผู้ถูกจับไว้เสํกิานนักว่ าจําเป็นตามพฤติการณ์กแา ห่งคดี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในกรณีความผิดลหุโทษ จะควบคุมผู้ถูกจับไว้ได้เท่าเวลาที่จะถามคําให้การ และที่จะ
สํานักรูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ตัวว่าเป็นใครและที่อยูก่ขาองเขาอยู่ที่ไหนเท่
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ผู้ถูกจับไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราว และมีเหตุจําเป็นเพื่อทําการสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือการฟ้องคดี ให้นําตัวผู้ถูกจับไปศาลภายในสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาที่ผู้ถูกจับถูกนําตัวไปถึง
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ทําการของพนักงานสอบสวนตามมาตรา
กา สํานัก๘๓ เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยกหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อมีเหตุจําเป็สํนานัอย่ างอื่นอันมิอาจ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ก้าวล่วงเสียได้ โดยให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการยื่นคําร้องต่อศาลขอหมายขังผู้ต้องหานั้น
ไว้ ให้ศาลสอบถามผู สํานั้กตงานคณะกรรมการกฤษฎี
้องหาว่าจะมีข้อคัดค้านประการใดหรื
กา สํอาไม่
นักและศาลอาจเรี ยกพนักกงานสอบสวน
งานคณะกรรมการกฤษฎี า
หรือพนักงานอัยการมาชี้แจงเหตุจําเป็น หรืออาจเรียกพยานหลักฐานมาเพื่อประกอบการพิจารณาก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณีกาความผิดอาญาที สํานัก่ได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
กระทําลงมีอัตราโทษจํกาาคุกอย่างสูงไม่สําเนักิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หกเดือน หรือ กา
ปรับไม่เกินห้าร้อยบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ศาลมีอํานาจสั่งขังได้ครั้งเดียว มีกําหนดไม่เกินเจ็ดวัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๓๙
มาตรา ๘๕/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณา
สํ านั
ความอาญา (ฉบับ ที่ ๒๗)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๕๐ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๐
มาตรา ๘๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ในกรณีความผิดอาญาที่มีอัตราโทษจําคุกอย่างสูงเกินกว่าหกเดือนแต่ไม่ถึงสิบปี
สํานักหรื อปรับเกินกว่าห้าร้อยบาท
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือทั้งจํสําาทันั้งกปรั บ ศาลมีอํานาจสั่งขังกหลายครั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ้งติด ๆสํากันันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ แต่ครั้งหนึ่ง กา
ต้องไม่เกินสิบสองวัน และรวมกันทั้งหมดต้องไม่เกินสี่สิบแปดวัน
สํในกรณี ความผิดอาญาที่มีอัตกราโทษจํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าคุกอย่สําานังสูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งตั้งแต่สิบปีขึ้นไป จะมีกโาทษปรับด้วย
หรือไม่ก็ตาม ศาลมีอํานาจสั่งขังหลายครั้งติด ๆ กันได้ แต่ครั้งหนึ่งต้องไม่เกินสิบสองวัน และรวมกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งหมดต้องไม่เกินแปดสิบสี่วัน
สํในกรณี ตามวรรคหกเมื่อศาลสั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งขังครบสี่สสํิบานัแปดวั นแล้ว หากพนักงานอั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยการหรือ
พนักงานสอบสวนยื่นคําร้ องต่ อศาลเพื่ อขอขั งต่อ ไปอีก โดยอ้า งเหตุจํา เป็ น ศาลจะสั่ ง ขั ง ต่อ ไปได้
สํานักก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อเมื่อพนักงานอัยการหรืกา อพนักงานสอบสวนได้ แสดงถึงเหตุจําเป็กนา และนําพยานหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฐานมาให้ศาล กา
ไต่สวนจนเป็นที่พอใจแก่ศาล
สํในการไต่ สวนตามวรรคสามและวรรคเจ็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ด สํผูา้ตนั้อกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งหามีสิทธิแต่งทนายความเพื กา ่อแถลง
ข้อคัดค้านและซักถามพยาน ถ้าผู้ต้องหาไม่มีทนายความเนื่องจากยังไม่ได้มีการปฏิบัติตามมาตรา
สํานัก๑๓๔/๑ และผู้ต้องหาร้กอางขอ ให้ศาลตัสํ้งาทนายความให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี โดยทนายความนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นมีสิทธิไสํด้านัรับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เงินรางวัลและ กา
ค่าใช้จ่ายตามที่กําหนดไว้ในมาตรา ๑๓๔/๑ วรรคสาม โดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าพนักงานสอบสวนต้องไปทําการสอบสวนในท้ องที่อื่นนอกเขตของศาลซึ่งได้สั่งขัง
ผู้ต้องหาไว้ พนักงานสอบสวนจะยื่นคํสําานัร้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งขอให้โอนการขังไปยักงาศาลในท้องทีสํ่ทานัี่จกะต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องไปทําการ กา
สอบสวนนั้นก็ได้ เมื่อศาลที่สั่งขังไว้เห็นเป็นการสมควรก็ให้สั่งโอนไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๔๑
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๗/๑ เมื่อพนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนร้องขอและผู้ต้องหา
สํานักมิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้คัดค้าน หากศาลเห็กนา สมควร ศาลอาจอนุ ญาตให้นําผู้ต้องหาหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอพยานหลักฐานไปยั งสถานที่ทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การของทางราชการ หรือสถานที่แห่งอื่นที่ศาลเห็นสมควรซึ่งสามารถสอบถามผู้ต้องหาหรือทําการ
ไต่สวน โดยจัดให้สํมานัีกการถ่ ายทอดภาพและเสียกางในลักษณะการประชุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี มทางจอภาพได้ การดํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเนินการ
ดังกล่าวให้เป็นไปตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกาโดยความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกา
สํานักและประกาศในราชกิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี จจานุ
กา เบกษาแล้วสํให้านัใกช้งานคณะกรรมการกฤษฎี
บังคับได้ ทั้งนี้ ให้ระบุกวาิธีการสอบถามและไต่ สวน รวมทั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สักขีพยานในการนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การไต่ ส วนตามวรรคหนึ่ ง ให้ถือ เสมื อ นว่า เป็ น การไต่ส วนในห้อ งพิ จ ารณาของ
สํานักศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๒
สํมาตรา ๘๘ คดีที่ราษฎรเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นโจทก์ เมื่อสํศาลประทั บฟ้องและได้ตัวจํกาาเลยมาศาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แล้ว หรือ คดีที่พ นัก งานอัย การเป็น โจทก์ เมื่อ ได้ยื่น ฟ้อ งต่อ ศาลแล้ว ศาลจะสั่ง ขัง จํา เลยไว้ห รือ
สํานักปล่ อยชั่วคราวก็ได้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๔๑
มาตรา ๘๗/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณา
สํ านั
ความอาญา (ฉบับ ที่ ๒๘)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๒
มาตรา ๘๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๘๙๔๓ หมายขังหรือหมายจําคุกต้องจัดการให้เป็นไปตามนั้นในเขตของศาล


สํานักซึงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งออกหมาย เว้นแต่บัญกญัา ติไว้เป็นอย่าสํงอืานั่นกในประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี้หกรืาอกฎหมายอื่นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๙/๑๔๔ ในกรณีที่มกาีเหตุจําเป็นระหว่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากงสอบสวนหรื อพิจารณากเมืา ่อพนักงาน
งานคณะกรรมการกฤษฎี
สอบสวน พนักงานอัยการ ผู้บัญชาการเรือนจํา หรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายขังร้องขอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะมีคําสั่งให้ขังผู้ต้องหาหรือจําเลยไว้ในสถานที่อื่นตามที่บุคคลดังกล่าว
ร้องขอ หรือตามทีสํา่ศนัาลเห็ นสมควรนอกจากเรืกอา นจําก็ได้ โดยให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ยู่ในความควบคุมของผูก้รา ้องขอ หรือ
เจ้าพนักงานตามที่ศาลกําหนด ในการนี้ ศาลจะกําหนดระยะเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในการพิกา จารณาเพื่อมีสํคาํานัสัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามวรรคหนึ่ง ศาลจะดํ กาาเนินการไต่สสํวนหรื อให้ผู้เสียหาย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องตามหมายขังคัดค้านก่อนมีคําสั่งก็ได้
สํสถานที ่อื่นตามวรรคหนึ่งต้กอางมิใช่สถานีตสํําารวจ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือสถานที่ควบคุมกผูา้ต้องหาของ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พนักงานสอบสวน โดยมีลั กษณะตามที่กําหนดในกฎกระทรวงซึ่งต้องกําหนดวิธีการควบคุม และ
สํานักมาตรการเพื ่อป้องกันการหลบหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือความเสี ยหายที่อาจเกิดขึ้นด้วกยา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อศาลมีคําสั่งตามวรรคหนึ่งแล้ว หากภายหลังผู้ต้องหาหรือจําเลยไม่ปฏิบัติตาม
วิธีการหรือมาตรการตามวรรคสามหรือพฤติการณ์ได้เปลี่ยสํนแปลงไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ศาลมีอํานาจเปลี่ยนแปลง
คําสั่งหรือให้ดําเนินการตามหมายขังได้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๕
สํมาตรา ๘๙/๒ ในกรณีทกี่มาีเหตุจําเป็น เมื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา่อนัพนั กงานอัยการ ผู้บัญชาการเรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อนจํา
หรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายจําคุกร้องขอ หรือเมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะมีคําสั่งให้
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าคุกผู้ซึ่ งต้องจําคุกตามคํ
กา า พิ พ ากษาถึสํางนัทีก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
สุดที่ได้รับโทษจําคุกมาแล้กา ว ไม่ น้ อ ยกว่
สําานัหนึ ่งในสามของ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กําหนดโทษตามที่ระบุไว้ในหมายศาลที่ออกตามคําพิพากษานั้น หรือไม่น้อยกว่าสิบปี ในกรณีต้องโทษ
จําคุกเกินสามสิบสํปีาขนัึ้นกไป หรือจําคุกตลอดชีวิตกาโดยวิธีการอย่สําางหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ก็ไกด้า
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑) ให้จําคุกไว้ในสถานที่อื่นตามที่บุคคลดังกล่าวร้องขอหรือตามที่ศาลเห็นสมควร
สํานักนอกจากเรื อนจําหรือสถานที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ที่กําหนดไว้สํานัใกนหมายจํ าคุก ทั้งนี้ ลักกษณะของสถานที
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํา่ดนัังกกล่ าวให้เป็นไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตามที่กําหนดในกฎกระทรวงซึ่งต้องกําหนดวิธีการควบคุมและมาตรการเพื่อป้องกันการหลบหนีหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) ให้กาจําคุกไว้ใ นเรืสํอานจํ าหรือสถานที่ที่กําหนดไว้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ใ นหมายจําสํคุานักกหรื อสถานที่อื่น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตาม (๑) เฉพาะวันที่กําหนดตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง
สํ(๓)
านักให้ จําคุกโดยวิธีการอื่นกทีา่สามารถจํากัสํดาการเดิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี นทางและอาณาเขตของผู
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นั้นได้
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในการพิกา จารณาของศาลตามวรรคหนึ ่ง ให้ศาลคํากนึา งถึงฐานความผิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ความประพฤติ กา
สวัสดิภาพของผู้ซึ่งต้องจําคุก ตลอดจนสวัสดิภาพและความปลอดภัยของผู้เสียหายและสังคมด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๓
มาตรา ๘๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๕) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๔
มาตรา ๘๙/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณา
สํ า นั
ความอาญา (ฉบับ ที่ ๒๕)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๕๐ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๕
มาตรา ๘๙/๒ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับ ที่ ๒๕)กพ.ศ.
า ๒๕๕๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ทั้ง นี้ ให้ ศ าลดํา เนิ น การไต่ ส วนหรื อ สอบถามผู้ เ สี ย หาย เจ้า พนั ก งานที่ เ กี่ย วข้ อ งตามหมายจํ า คุ ก
สํานักพนั กงานฝ่ายปกครอง หรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาอตํารวจในท้อสํางที
นัก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั้น หรือผู้ซึ่งศาลเห็นว่ากมีาส่วนเกี่ยวข้องสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งของศาลตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลกําหนดให้เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตาม
หมายนั้น เป็นผู้มีหานัน้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ ที่และรับผิดชอบในการดํ กา าเนินการตามคํ
สํานัากสังานคณะกรรมการกฤษฎี
่ง และให้นําความในมาตรา
กา ๘๙/๑
วรรคสี่ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๖
สํมาตรา ๙๐ เมื่อมีการอ้ากงว่า าบุคคลใดต้สํอางถู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
คุมขังในคดีอาญาหรือกในกรณี
า อื่นใด
โดยมิชอบด้วยกฎหมาย บุคคลเหล่านี้มีสิทธิยื่นคําร้องต่อศาลท้องที่ที่มีอํานาจพิจารณาคดีอาญาขอให้
สํานักปล่ อย คือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ผู้ถูกคุมขังเอง
สํ(๒)
านักพนั กงานอัยการ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) พนักงานสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๔) ผู้บกาัญชาการเรือนจํ
สําานัหรื อพัศดี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) สามี ภริยา หรือญาติของผู้นั้น หรือบุคคลอื่นใดเพื่อประโยชน์ของผู้ถูกคุมขัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อได้รับคําร้องดังนั้น ให้ศาลดําเนินการไต่ สวนฝ่ายเดียวโดยด่วน ถ้าศาลเห็นว่า
คําร้องนั้นมีมูล ศาลมีอํานาจสั่งผู้คุมขัสํงาให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นําตัวผู้ถูกคุมขังมาศาลโดยพลัน และถ้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าผู้คุมขังแสดงให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นที่พอใจแก่ศาลไม่ได้ว่าการคุมขังเป็นการชอบด้วยกฎหมาย ให้ศาลสั่งปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังไปทันที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ค้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๑๔๗ ให้นําบทบัญญัติในมาตรา ๘๑/๑ มาบังคับในเรื่องค้นโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๒๔๘ ห้ามมิให้ค้นในที่รโหฐานโดยไม่มีหมายค้นหรือคําสั่งของศาล เว้นแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจเป็นผู้ค้น และในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) เมืก่อา มีเสียงร้องให้สํชานั่วกยมาจากข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี างในที่รโหฐานกา หรือมีเสียงหรืสําอนัพฤติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี การณ์อื่นใด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อันแสดงได้ว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นในที่รโหฐานนั้น
สํ(๒)
านักเมื ่อปรากฏความผิดซึ่งหน้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ากําลังกระทํสําาลงในที ่รโหฐาน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๓) เมื่อ บุค คลที่ไ ด้ก ระทํา ความผิด ซึ่ง หน้า ขณะที่ถูก ไล่จับ หนีเ ข้า ไปหรือ มีเ หตุ
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นแน่นแฟ้นควรสงสัยว่กาาได้เข้าไปซุกซ่สํอานตั วอยู่ในที่รโหฐานนั้น กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๖
มาตรา ๙๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๗
มาตรา ๙๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๘
มาตรา ๙๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๔) เมื่อมีพยานหลักฐานตามสมควรว่าสิ่งของที่มีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยการ
สํานักกระทํ าความผิดหรือได้ใกช้าหรือมีไว้เพื่อจะใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นการกระทําความผิดกหรื า ออาจเป็นพยานหลั กฐานพิสูจน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การกระทําความผิดได้ซ่อนหรืออยู่ในนั้น ประกอบทั้งต้องมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้ากว่า
จะเอาหมายค้นมาได้ สํานัสกิ่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของนั้นจะถูกโยกย้ายหรื กา อทําลายเสียสํก่าอนันกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) เมื่อที่รโหฐานนั้นผู้จะต้องถูกจับเป็นเจ้าบ้าน และการจับนั้นมีหมายจับหรือจับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามมาตรา ๗๘
สํการใช้ อํานาจตาม (๔) ให้พนักากงานฝ่ายปกครองหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี อตํารวจผู้ค้นส่งมอบสํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาเนาบันทึก
การตรวจค้นและบัญชีทรัพย์ที่ได้จากการตรวจค้น รวมทั้งจัดทําบันทึกแสดงเหตุผลที่ทําให้สามารถ
สํานักเข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าค้นได้เป็นหนังสือให้กไาว้แก่ผู้ครอบครองสถานที ่ที่ถูกตรวจค้น แต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ถ้าไม่มีผู้ครอบครองอยู ่ ณ ที่นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้ส่งมอบหนังสือดังกล่าวแก่บุคคลเช่นว่านั้นในทันทีที่กระทําได้ และรีบรายงานเหตุผลและผลการ
ตรวจค้นเป็นหนังสํสืาอนัต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นกไป
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๙๓ ห้า มมิสํใาห้นัทกํางานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การค้น บุค คลใดในทีก่สา าธารณสถานสํานัเว้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
น แต่พ นัก งาน กา
ฝ่า ยปกครองหรือ ตํา รวจเป็นผู้ค้นในเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลนั้นมีสิ่งของในความครอบครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพื่อจะใช้ในการกระทํ าความผิด หรือซึ่งได้มาโดยการกระทําสํความผิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดหรือซึ่งมีไว้เป็นความผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๔ ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจที่ทําการค้นในที่รโหฐาน สั่งเจ้าของ
หรือคนอยู่ในนั้นสํหรืานัอกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้รักษาสถานที่ซึ่งจะค้นกาให้ยอมให้เข้าสํไปโดยมิ หวงห้าม อีกทั้งให้กคาวามสะดวก
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามสมควรทุกประการในอันที่จะจัดการตามหมาย ทั้งนี้ ให้พนักงานผู้นั้นแสดงหมายหรือถ้าค้นได้
สํานักโดยไม่ ต้องมีหมายก็ให้แกสดงนามและตํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สําแหน่ ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลดังกล่าวในวรรคต้นมิยอมให้เข้าไป เจ้าพนักงานมีอํานาจใช้กําลังเพื่อเข้าไป
ในกรณีจําเป็นจะเปิสํานัดกหรื อทําลายประตูบ้าน กประตู
งานคณะกรรมการกฤษฎี า เรือน หน้สําาต่นักางงานคณะกรรมการกฤษฎี
รั้วหรือสิ่งกีดขวางอย่กาางอื่นทํานอง
เดียวกันนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๕ ในกรณีค้นหาสิ่งของที่หาย ถ้าพอทําได้ จะให้เจ้าของหรือผู้ครอบครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิ่งของนั้นหรือผู้แทนของเขาไปกับเจ้าพนักงานในการค้นนั้นด้วยก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๖ ๔๙ การค้น ในที่ร โหฐานต้อ งกระทํา ระหว่า งพระอาทิต ย์ขึ้น และตก
มีข้อยกเว้นดังนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เมื่อลงมือค้นแต่ในเวลากลางวัน ถ้ายังไม่เสร็จจะค้นต่อไปในเวลากลางคืนก็ได้
(๒) ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ฉุกเฉินอย่ สําานังยิ ่ง หรือซึ่งมีกฎหมายอืก่นาบัญญัติให้ค้นสํได้านัเกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นพิเศษ จะทํา กา
การค้นในเวลากลางคืนก็ได้
สํ(๓)
านักการค้ นเพื่อจับผู้ดุร้ายหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาอผู้ร้ายสําคัญสํจะทํ าในเวลากลางคืนก็ได้กแต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ต้องได้รับ
อนุญาตพิเศษจากศาลตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในข้อบังคับของประธานศาลฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๙
มาตรา ๙๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๙๗๕๐ ในกรณีที่ค้นโดยมีหมาย เจ้าพนักงานผู้มีชื่อในหมายค้นหรือผู้รักษาการ


สํานักแทนซึ ่งต้องเป็นพนักงานฝ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ายปกครองตัสํา้งนัแต่ ระดับสามหรือตํารวจซึก่งามียศตั้งแต่ชั้นสํร้าอนัยตํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ารวจตรีขึ้นไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เท่านั้นมีอํานาจเป็นหัวหน้าไปจัดการให้เป็นไปตามหมายนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๘ การค้นในที่รโหฐานนั้นจะค้นได้แต่เฉพาะเพื่อหาตัวคนหรือสิ่งของที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต้องการค้นเท่านั้น แต่มีข้อยกเว้นดังนี้
สํ(๑)
านักในกรณี ที่ค้นหาสิ่งของโดยไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จํากัดสิ่ง สํเจ้านัากพนั กงานผู้ค้นมีอํานาจยึกดาสิ่งของใด ๆ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ซึ่งน่าจะใช้เป็นพยานหลักฐานเพื่อเป็นประโยชน์หรือยันผู้ต้องหาหรือจําเลย
(๒) เจ้กาา พนัก งานซึ่งสํทํานัากการค้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี น มีอํา นาจจับ บุคกคลหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อ สิ่ง ของอื
สํานั่ นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในที่ค้น นั้น ได้ กา
เมื่อมีหมายอีกต่างหาก หรือในกรณีความผิดซึ่งหน้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๙ ในการค้นนั้น เจ้าพนักงานต้องพยายามมิให้มีการเสียหายและกระจัด
สํานักกระจายเท่ าที่จะทําได้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๐ ถ้า มีเ หตุอัน ควรสงสัย ว่สําาบุนัคกงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลซึ่ง อยู่ใ นที่ซึ่ง ค้น หรืกาอ จะถูก ค้น
จะขั ด ขวางถึ ง กับ ทําให้การค้นไร้ผล สํเจ้านัากพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานผู้ค้นมีอํานาจเอาตัวผู้นั้นควบคุ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มไว้หรือให้อยู่ใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความดูแลของเจ้าพนักงานในขณะที่ทําการค้นเท่าที่จําเป็น เพื่อมิให้ขัดขวางถึงกับทําให้การค้นนั้นไร้ผล
สํถ้าานัมีกเงานคณะกรรมการกฤษฎี
หตุอัน ควรสงสัยว่าบุกคาคลนั้น ได้เอาสิสํา่งนัของที ่ต้องการพบซุกซ่อกนในร่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า า งกาย
เจ้าพนักงานผู้ค้นมีอํานาจค้นตัวผู้นั้นได้ดังบัญญัติไว้ตามมาตรา ๘๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๑ สิ่งของซึ่งยึดได้ในการค้น ให้ห่อหรือบรรจุหีบห่อตีตราไว้หรือให้ทํา
เครื่องหมายไว้เป็นสําสํนัากคังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๐๒ การค้นสําในที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่รโหฐานนั้น ก่อนลงมือกค้านให้เจ้าพนักสํงานผู
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ค้นแสดงความ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บริสุทธิ์เสียก่อน และเท่าที่สามารถจะทําได้ให้ค้นต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลในครอบครัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของผู้นั้น หรือถ้าหาบุคคลเช่นกล่าวนั้นไม่ได้ ก็ให้ค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อยสองคนซึ่งเจ้าพนักงาน
สํานักได้ ขอร้องมาเป็นพยาน กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การค้นที่อยู่หรือสํานักงานของผู้ต้องหาหรือจําเลยซึ่งถูกควบคุมหรือขังอยู่ให้ทําต่อ
หน้าผู้นั้น ถ้าผู้นั้นสํไม่
านักสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ามารถหรือไม่ติดใจมากํกาากับจะตั้งผู้แสํทน
านักหรื อให้พยานมากํากับก็กไาด้ ถ้าผู้แทน
งานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือพยานไม่มี ให้ค้นต่อหน้าบุคคลในครอบครัวหรือต่อหน้าพยานดังกล่าวในวรรคก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สิ่งของใดที
กา ่ยึดได้ต้องให้
สํานัผกู้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ครอบครองสถานที่ บุคกาคลในครอบครัสําวนัผูก้ตงานคณะกรรมการกฤษฎี
้องหา จําเลย กา
ผู้แทนหรือพยานดูเพื่อให้รับรองว่าถูกต้อง ถ้าบุคคลเช่นกล่าวนั้นรับรองหรือไม่ยอมรับรองก็ให้บันทึกไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๓ ให้เจ้าพนักงานผู้ค้นบันทึกรายละเอียดแห่งการค้น และสิ่งของที่ค้นได้
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นต้องมีบัญชีรายละเอีกยาดไว้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๐
มาตรา ๙๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

บันทึกการค้นและบัญชีสิ่งของนั้นให้อ่านให้ผู้ครอบครองสถานที่ บุคคลในครอบครัว
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ต้องหา จําเลย ผู้แทนหรื
กา อพยานฟัง แล้
สําวนัแต่ กรณี แล้วให้ผู้นั้นลงลายมื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อชื่อรับรองไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๔ เจ้าพนักงานที


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ค้นโดยมีหมาย
สํานัต้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
องรีบส่งบันทึกและบัญกชีา ดังกล่าวใน
มาตราก่อนพร้อมด้วยสิ่งของที่ยึดมา ถ้าพอจะส่งได้ ไปยังผู้ออกหมายหรือเจ้าพนักงานอื่นตามที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กําหนดไว้ในหมาย
สํในกรณี ที่ค้ นโดยไม่ มี หมายโดยเจ้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าพนัก งานอื ่นซึ่งไม่ใ ช่ พนัก งานสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้ ส่ ง
บันทึก บัญชีและสิ่งของไปยังพนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ใดซึ่งต้องการสิ่งเหล่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๕ จดหมาย ไปรษณียบัตร โทรเลข สิ่งพิมพ์หรือเอกสารอื่นซึ่งส่งทาง
ไปรษณี ย์ แ ละโทรเลข จากหรื อ ถึ ง ผู้ ต้ อ งหาหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ จํ า เลย และยั ง มิไ ด้ ส่ ง ถ้ า เจ้ า หน้ า ทีก่ ตา้ อ งการเพื่ อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประโยชน์แห่งการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง พิจารณาหรือการกระทําอย่างอื่นตามประมวลกฎหมายนี้
สํานักให้ ขอคําสั่งจากศาลถึงเจ้กาาหน้าที่ไปรษณีสํยานั์โทรเลขให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี ส่งเอกสารนั้นมากา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าอธิบดีกรมตํารวจหรือข้าหลวงประจําจังหวัดเห็นว่าเอกสารนั้นต้องการใช้เพื่อการ
ดังกล่าวแล้ว ระหว่างที่ขอคําสั่งต่อศาลมีอํานาจขอให้เจ้าหน้าที่ฝสํ่าานัยไปรษณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ย์โทรเลขเก็บเอกสารนั้นไว้ก่อน
บทบั ญ ญั ติ แ ห่ ง มาตรานี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ ไ ม่ ใ ช้ ถึ ง เอกสารโต้ ต อบระหว่ า งผู้ ต้ อสํงหาหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อ จํ า เลยกั บ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทนายความของผู้นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ปล่อยชั่วคราว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๖๕๑ คําร้องขอให้ปล่อยผู้ต้องหาหรือจําเลยชั่วคราวโดยไม่ต้องมีประกัน
สํานักหรื อมีประกัน หรือมีประกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นและหลักประกั น ไม่ว่าผู้นั้นต้องควบคุกมาหรือขังตามหมายศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ย่อมยื่นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยผู้ต้องหา จําเลย หรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง ดังนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เมื่อผู้ต้องหาถูกควบคุมอยู่และยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาล ให้ยื่นต่อพนักงานสอบสวน
สํานักหรื อพนักงานอัยการ แล้กวาแต่กรณี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อผู้ต้องหาต้องขังตามหมายศาลและยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาล ให้ยื่นต่อศาลนั้น
สํ(๓)
านักเมื ่อผู้ต้องหาถูกฟ้องแล้วกาให้ยื่นต่อศาลชัสํา้นนัต้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ที่ชําระคดีนั้น กา
๕๒
(๔) เมื่อศาลอ่านคําพิพากษาศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์แล้ว แม้ยังไม่มีการยื่น
สํานักอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธรณ์หรือฎีกา หรือมีกกา ารยื่นอุทธรณ์สําหนัรืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
ฎีกาแล้วแต่ยังไม่ได้ส่งกสํา านวนไปยังศาลอุ สํานักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธรณ์หรือศาล กา
ฎีกา ให้ยื่นต่อศาลชั้นต้นที่ชําระคดีนั้น
สํานักในกรณี ที่ ศ าลชั้ น ต้ น เห็กนา สมควรให้ ปสํล่านัอกยชั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่ ว คราว ให้ ศ าลชั้ น ต้กนาสั่ ง อนุ ญ าต
งานคณะกรรมการกฤษฎี
มิฉะนั้นให้รีบส่งคําร้องพร้อมสํานวนไปให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาเพื่อสั่ง แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๑
มาตรา ๑๐๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๑๐)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๒๒ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๒
มาตรา ๑๐๖ (๔) แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บ ที่ ๑๓) พ.ศ.
ธี พิ จ ารณาความอาญา (ฉบั สํานั๒๕๒๕
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๕) เมื่อศาลส่งสํานวนไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาแล้ว จะยื่นต่อศาลชั้นต้นที่


สํานักชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระคดีนั้น หรือจะยื่นต่กอา ศาลอุทธรณ์หสํารืนัอกศาลฎี กา แล้วแต่กรณีก็ไกด้า
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ยื่นต่อศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรีบส่งคําร้องไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาล
ฎีกาเพื่อสั่ง แล้วแต่กรณีงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํ านั ก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๐๗๕๓ เมื่อได้รับคําร้องให้ปล่อยชั่วคราว ให้เจ้าพนักงานหรือศาลรีบสั่ง


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อย่างรวดเร็วและผูสํานั้ตก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
งหาหรือจําเลยทุกคนพึกางได้รับอนุญาตให้
สํานักปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ล่อยชั่วคราว โดยอาศักยา หลักเกณฑ์
ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๐๘ มาตรา ๑๐๘/๑ มาตรา ๑๐๙ มาตรา ๑๑๐ มาตรา ๑๑๑ มาตรา ๑๑๒
สํานักมาตรา ๑๑๓ และมาตรากา๑๑๓/๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งให้ปล่อยชั่วคราวตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้เกี่ยวข้องดําเนินการตามคําสั่งดังกล่าว
โดยทันที สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๐๘๕๔ ในการวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิจฉัยคําร้องขอให้ปล่อกยชั
า ่วคราว ต้องพิ
สํานัจการณาข้ อเหล่านี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประกอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ความหนักเบาแห่งข้อหา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) พยานหลักฐานทีสํ่ปารากฏแล้ วมีเพียงใด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) พฤติการณ์ต่าง ๆ แห่งคดีเป็นอย่างไร
สํ(๔)
านักเชืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อถือผู้ร้องขอประกันหรื กาอหลักประกันสํได้ านัเกพีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยงใด กา
(๕) ผู้ต้องหาหรือจําเลยน่าจะหลบหนีหรือไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๖) ภักยาอันตรายหรือความเสี ยหายที่จะเกิดจากการปล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อยชั่วคราวมี
สํานัเพีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยงใดหรือไม่ กา
(๗) ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือจําเลยต้องขังตามหมายศาล ถ้ามีคําคัดค้านของพนักงาน
สอบสวน พนักงานอั สํานัยกการ โจทก์ หรือผู้เสียหาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา แล้วแต่กรณีสํศาลพึ งรับประกอบการวินิจกฉัายได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพื่อประโยชน์ในการดําเนินการตามวรรคหนึ่ง เจ้าพนักงานซึ่งมีอํานาจสั่งให้ปล่อย
สํานักชังานคณะกรรมการกฤษฎี
่วคราวหรือศาลอาจรับกฟัางข้อเท็จจริง สํรายงานหรื อความเห็นของเจ้กาาพนักงานซึ่งกฎหมายกํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าหนดให้มี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อํานาจหน้าที่ที่เกี่ยวกับการนั้นเพื่อประกอบการพิจารณาสั่งคําร้องด้วยก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เจ้าพนักงานซึ่งมีอํานาจสั่งให้ปล่อยชั่วคราวหรือ
สํานักศาลจะกํ าหนดเงื่อนไขเกีกา่ยวกับที่อยู่หรืสํอาเงืนัก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี นไขอื่นใดให้ผู้ถูกปล่อยชั กา่วคราวปฏิบัตสํิ าหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ในกรณีที่ผู้นั้น กา
ยินยอมจะสั่งให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อื่นใดที่สามารถใช้ตรวจสอบหรือจํากัดการ
เดิ นทางของผู้ ถู กสํปล่
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ยชั่ วคราวก็ไ ด้ ทั้งนี้ กเพื า ่ อ ป้ อ งกั น การหลบหนี หรือภัยอั นตราย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรื อ ความ
เสียหายที่อาจเกิดขึ้น แต่ถ้าผู้ถูกปล่อยชั่วคราวมีอายุไม่ถึงสิบแปดปีบริบูรณ์ แม้ผู้นั้นยินยอม จะสั่งให้
สํานักใช้ อุปกรณ์ดังกล่าวได้ตก่อา เมื่อผู้นั้นมีพสํฤติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารณ์ที่อาจเป็นภัยต่อบุกาคคลอื่นอย่างร้สําานัยแรง หรือมีเหตุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สมควรประการอื่น๕๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๓
มาตรา ๑๐๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๔
มาตรา ๑๐๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๔๗
๕๕
มาตรา ๑๐๘ วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี กาบที่ ๓๐) พ.ศ. สํ๒๕๕๘
ธีพิจารณาความอาญา (ฉบั านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๐๘/๑๕๖ การสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ให้ปล่อยชั่วคราว จะกระทํ
กา าได้ต่อเมืสํา่อนัมีกเงานคณะกรรมการกฤษฎี
หตุอันควรเชื่อ กา
เหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้
สํ(๑)
านักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ต้องหาหรือจําเลยจะหลบหนี
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ผู้ต้องหาหรือจําเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ผู้ต้องหาหรือจําเลยจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น
สํ(๔)
านักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ร้องขอประกันหรือหลักกาประกันไม่น่าเชื
สํา่อนัถืกองานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) การปล่อยชั่วคราวจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวน
สํานักของเจ้ าพนักงานหรือการดํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเนินคดีในศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งไม่ให้ปล่อยชั่วคราวต้องแสดงเหตุผล และต้องแจ้งเหตุดังกล่าวให้ผู้ต้องหาหรือ
จําเลยและผู้ยื่นคําสํร้านัอกงขอให้ ปล่อยชั่วคราวทราบเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นหนังสือโดยเร็ ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๑๐๘/๒๕๗ ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ที่พยานสําคัญในคดีอกาจได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า รับภัยอันสํตรายอั นเนื่องมาแต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจําเลย พยานนั้นอาจคัดค้านการปล่อยชั่วคราวนั้นได้ โดยยื่นคําร้องต่อ
พนักงานสอบสวนสําพนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานอัยการ หรือศาล แล้วแต่กรณี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ามีคําคัดค้านการปล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อยชั่ วคราวตามวรรคหนึ่ง ให้ พนักงานสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พนักงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อัยการหรือศาล แล้วแต่กรณี พิจารณาคําคัดค้านดังกล่าวทันที โดยให้มีอํานาจเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งสองฝ่ายมาสอบถามเพื ่อประกอบการพิจารณาและมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คําสั่งสํตามที ่เห็นสมควร
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๕๘
มาตรากา๑๐๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี
สํานักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่ผู้ต้องหาหรือจําเลยต้อกงหาหรื
า อถูกฟ้อสํงในความผิ ดมีอัตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โทษจําคุกอย่างสูงเกินสิบปี ถ้ามีคําร้องขอให้ปล่อยชั่วคราว ในระหว่างสอบสวนหรือระหว่างการ
พิจารณาของศาลชั
สํานั้นกต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
น ศาลจะต้องถามพนักกางานสอบสวนสํพนั านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานอัยการ หรือโจทก์กวา่าจะคัดค้าน
ประการใดหรือไม่ ถ้าไม่อาจถามได้โดยมีเหตุอันควรศาลจะงดการถามเสียก็ได้แต่ต้องบันทึกเหตุนั้นไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๐๕๙ ในคดีมีอัตราโทษจําคุกอย่างสูงเกินห้าปีขึ้นไป ผู้ที่ถูกปล่อยชั่วคราว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต้องมีประกันและจะมีหลักประกันด้วยหรือไม่ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีในคดีอกาย่างอื่นจะปล่อสํยชั านัก่วงานคณะกรรมการกฤษฎี
คราวโดยไม่มีประกันเลย กา หรือมีประกันสําหรื นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
มีประกันและ กา
หลักประกันด้วยก็ได้
สํการเรี ยกประกันหรือหลักประกั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นตามวรรคหนึ
สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือวรรคสองจะเรียกจนเกิ กา นควรแก่
กรณี มิ ไ ด้ และต้ อ งคํ า นึ ง ถึ ง เงื่ อ นไขและมาตรการป้ อ งกั น ต่ า ง ๆ ที่ ไ ด้ ใ ช้ กั บ ผู้ ถู ก ปล่ อ ยชั่ ว คราว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๖
มาตรา ๑๐๘/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
อาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ.ก๒๕๔๗
สํ านั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๗
มาตรา ๑๐๘/๒ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธี พิจ ารณา
สํานักความอาญา (ฉบับ ที่ ๒๘)กพ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๘
มาตรา ๑๐๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๑๐)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๒๒ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๙
มาตรา ๑๑๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ประกอบด้วย ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง หรือ


สํานักข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อบังคับของประธานศาลฎี
กา กา แล้วแต่สํการณี
นัก๖๐
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๑ เมื่อ จะปล่อ ยชั่ ว คราวโดยไม่ มี ป ระกัน เลย ก่อ นที่จ ะปล่อ ยไป
สํานักให้ ผู้ต้องหาหรื อจําเลยสาบานหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อปฏิสําญนักาณตนว่ าจะมาตามนัดกหรืา อหมายเรียกสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี

สํมาตรา ๑๑๒ เมื่อจะปล่อกยชัา ่วคราวโดยมีสําปนัระกั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี น หรือมีประกันและหลั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กประกัน
ก่อนปล่อยไปให้ผู้ประกันหรือผู้เป็นหลักประกันลงลายมือชื่อในสัญญาประกันนั้น
ในสัญกญาประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นนอกจากข้ อความอย่างอื่นอันพึงกมีา ต้องมีข้อความดั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานังกนีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ด้วย กา
(๑) ผู้ถูกปล่อยชั่วคราวหรือผู้ประกัน แล้วแต่กรณี จะปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียก
ของเจ้าพนักงานหรื
สํานัอกศาล ซึ่งให้ปล่อยชั่วคราวกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อผิดสัญญาจะใช้เงินจํานวนที่ระบุไว้
ในสั ญกญาประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นจะกํ
สําานัหนดภาระหน้ าที่หรือเงืก่อานไขให้ผู้ ถูกปล่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกยชั ่วคราว หรื อ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ประกันต้องปฏิบัติเกินความจําเป็นแก่กรณีมิได้๖๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๒
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑๑๓ เมื่อสํพนั
านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานสอบสวนหรือพนักกงานอัา ยการสั่งสํปล่านัอกยชั ่วคราวไม่ว่า
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จะมีประกันหรือมีประกันและหลักประกันหรือไม่ การปล่อยชั่วคราวนั้นให้ใช้ได้ระหว่างการสอบสวน
หรือจนกว่าผู้ต้องหาถู กศาลสั่งขังระหว่างสอบสวนหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อจนถึสํงาศาลประทั บฟ้อง แต่มิให้เกกิานสามเดือน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
นับแต่วันแรกที่มีการปล่อยชั่วคราว ไม่ว่าเป็นการปล่อยชั่วคราวโดยพนักงานสอบสวนหรือพนักงาน
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการ ในกรณีที่มีเหตุจกําาเป็นทําให้ไม่อสําจทํ าการสอบสวนได้เสร็จภายในกํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหนดสามเดื อนจะยืดเวลา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การปล่อยชั่วคราวให้เกินสามเดือนก็ได้ แต่มิให้เกินหกเดือน
สํเมืานั่ อกการปล่ อยชั่วคราวสิ้นสุกาดลงตามวรรคหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่ งงานคณะกรรมการกฤษฎี
แล้ว ถ้ายังมีความจํากเป็า นที่จะต้อง
ควบคุมผู้ต้องหาไว้ต่อไปให้ส่งผู้ต้องหามาศาล และให้นําบทบัญญัติมาตรา ๘๗ วรรคสี่ ถึงวรรคเก้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๖๓ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๓/๑ ในกรณีที่มีการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนโดยมีการ
สํานักวางเงิ นสดหรือหลักทรัพกย์า อื่นเป็นประกัสํนานัไม่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ว่าต่อพนักงานสอบสวนหรื กา อพนักงานอัสํายนัการ และยังไม่ได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รั บ คื น หากผู้ ต้ อ งหาหรื อ จํ า เลยประสงค์ จ ะขอปล่ อ ยชั่ ว คราวต่ อ ไป ผู้ ต้ อ งหาหรื อ จํ า เลยหรื อ ผู้ มี
ประโยชน์เกี่ยวข้อสํงอาจยื ่นคําร้องต่อพนักงานอั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กายการหรือศาลสํานัแล้ วแต่กรณี โดยขอให้ถือกเอาทรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า พย์สิน
ดังกล่าวเป็นหลักประกันต่อไปก็ได้ เมื่อพนักงานอัยการหรือศาลเห็นสมควรแล้วอาจมีคําสั่งอนุญาตให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๐
มาตรา ๑๑๐ วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญาก(ฉบั
สํ านั บที่ ๓๐) พ.ศ. ๒๕๕๘กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๑
มาตรา ๑๑๒ วรรคสาม เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๒
มาตรา ๑๑๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๑๗)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๓๒ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๓
มาตรา ๑๑๓/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๒๒) กพ.ศ.
า ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ปล่อยชั่วคราว โดยถือว่าเงินสดหรือหลักทรัพย์ดังกล่าวนั้นเป็นหลักประกันในชั้นพนักงานอัยการหรือ
สํานักศาล แล้วแต่กรณีก็ได้ กให้า พนักงานอัยสํการหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี อศาลนั้นแจ้งพนักงานสอบสวนหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําอนัพนั กงานอัยการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แล้วแต่กรณี ให้ส่งหลักประกันเช่นว่านั้นต่อพนักงานอัยการหรือศาลภายในระยะเวลาที่พนักงาน
อัยการหรือศาลเห็สํนานัสมควร
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีปล่อยชั่วคราว โดยมีบุคคลเป็นประกันหรือหลักประกันต่อพนักงานสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือพนักงานอัยการ หากบุคคลเช่นว่านั้นร้องขอ พนักงานอัยการหรือศาลอาจถือเอาบุคคลนั้นเป็น
ประกันหรือหลักประกั นในการปล่อยชั่วคราวต่กาอไปก็ได้ กรณีสํเาช่นันกว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านี้ พนักงานอัยการหรืกอา ศาลจะแจ้ง
ให้ พ นั ก งานสอบสวนหรื อ พนั ก งานอั ย การ แล้ ว แต่ ก รณี ส่ ง เอกสารเกี่ ย วกั บ การประกั น ภายใน
สํานักระยะเวลาที ่เห็นสมควรกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๔ เมื่ อ จะปล่กาอ ยชั่ ว คราวโดยให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี มี ป ระกั น และหลั กกประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า น ด้ ว ย
ก่ อ นปล่ อ ยตั ว ไป ให้ ผู้ ร้ อ งขอประกั น จั ด หาหลั ก ประกั น มาดั ง ต้ อ งการ
หลักประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นมี ๓ ชนิดสําคืนัอกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) มีเงินสดมาวาง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) มีหลักทรัพย์อื่นมาวาง
(๓) มีบุคคลมาเป็นหลัสํากนัประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
น โดยแสดงหลักทรัพย์
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๔
สํมาตรา ๑๑๕ โดยความปรากฏต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ มา
สํานัหรื อ เนื่อ งจากกลฉ้อ ฉลหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ ผิด หลง
ปรากฏว่า สัญ ญาประกัน ต่ํา ไปหรือหลัก ประกัน ไม่เพีย งพอ หรือ เงื่อ นไขที่กํา หนดไว้ไม่เหมาะสม
สํานักให้ เจ้าพนักงานหรือศาลมี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อํานาจสั่งเปลี สํา่ยนันสั ญญาประกันให้จํานวนเงิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นสูงขึ้น หรืสํอานัเรีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
กหลักประกัน กา
เพิ่ม หรือให้ดีกว่าเดิม หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่กําหนดไว้ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
สํภายหลั ง ที่ มี คํา สั่ ง ปล่ อ ยชัก่ วาคราวแล้ ว หากพฤติ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ก ารณ์ แ ห่ ง คดี เ ปลีก่ ยา นแปลงไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ เ จ้ า พนั ก งานหรื อ ศาลมี อํา นาจสั่ ง ลดหลั ก ประกั น ได้ ต ามที่ เ ห็ น สมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณีกา ที่ ศ าลปล่ อสํยชั านัก่ วงานคณะกรรมการกฤษฎี
คราวและคดี ขึ้ น ไปสูก่ าศ าลสู ง ศาลสู สํานัง มีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
อํ า นาจแก้ ไ ข กา
เปลี่ยนแปลงจํานวนเงินตามสัญญาประกันหรือเงื่อนไขที่ศาลล่างกําหนดไว้ได้ตามที่เห็นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๑๖ การขอถอนสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญาประกันหรือขอถอนหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กประกั
สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย่อมทําได้เมื่อ กา
ผู้ทําสัญญามอบตัวผู้ต้องหาหรือจําเลยคืนต่อเจ้าพนักงานหรือศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๕
มาตรา ๑๑๗ เมื่ อ ผู้ ต้ อ งหาหรื อ จํ า เลยหนี ห รื อ จะหลบหนี ให้ พ นั ก งานฝ่ า ย
สํานักปกครองหรื อตํารวจที่พกบการกระทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าดังสํกล่
านักาวมี อํานาจจับผู้ต้องหาหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาอจําเลยนั้นได้สําแต่
นักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นกรณีที่บุคคล กา
ซึ่งทําสัญญาประกันหรือเป็นหลักประกันเป็นผู้พบเห็นการกระทําดังกล่าว อาจขอให้พนักงานฝ่าย
ปกครองหรือ ตําสํรวจที ่ใ กล้ที่สุด จับ ผู้ต้อ งหาหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ จํา เลยได้สําถ้นัากไม่ ส ามารถขอความช่กวายเหลือ จาก
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เจ้า พนัก งานได้ ทั น ท่ ว งที ก็ ใ ห้ มี อํา นาจจั บผู้ ต้ อ งหาหรื อจํ า เลยได้ เ อง แล้ วส่ ง ไปยั ง พนั ก งานฝ่ า ย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๔
มาตรา ๑๑๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๕
มาตรา ๑๑๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ปกครองหรือตํารวจที่ใกล้ที่สุด และให้เจ้าพนักงานนั้นรีบจัดส่งผู้ต้องหาหรือจําเลยไปยังเจ้าพนักงาน
สํานักหรื อศาล โดยคิดค่าพาหนะจากบุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา คคลซึสํ่งาทํนัากสังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญาประกันหรือเป็นหลั กา กประกันนั้นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่มีคําสั่งให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อื่นใดตามมาตรา ๑๐๘
วรรคสาม กับผู้ต้อางหาหรื
สํ อจําเลยใด ถ้าปรากฏว่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าอุปกรณ์สํดาังนักล่ าวถูกทําลายหรือทําให้กาใช้การไม่ได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ว่าโดยวิธีใด ให้สันนิษฐานว่าผู้ต้องหาหรือจําเลยนั้นหนีหรือจะหลบหนี๖๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๘ เมื่อคดีถึงที่สกุดาหรือความรับสํผิาดนัตามสั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญาประกันหมดไปตามมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๑๑๖ หรือโดยเหตุอื่น ให้คืนหลักประกันแก่ผู้ที่ควรรับไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๗
มาตรา ๑๑๙ ในกรณีผิดสัญญาประกันต่อศาล ศาลมีอํานาจสั่งบังคับตามสัญญา
ประกันหรือตามทีสํ่ศานัาลเห็ นสมควรโดยมิต้องฟ้อกาง ทั้งนี้ ศาลอาจสั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
งดการบังคับตามสัญญาประกั กา นหรือ
ลดจํานวนเงินที่ต้องใช้ตามสัญญาประกันก็ได้ โดยคํานึงถึงความพยายามของผู้ประกันในการติดตาม
สํานักตังานคณะกรรมการกฤษฎี
วผู้ต้องหาหรือจําเลยทีกา่หลบหนี รวมทั สํานั้งกความเสี ยหายที่เกิดขึ้นว่กาามีมากน้อยเพีสํยานังใดประกอบด้
งานคณะกรรมการกฤษฎี วย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และเมื่อศาลสั่งประการใดแล้วฝ่ายผู้ถูกบังคับตามสัญญาประกันหรือพนักงานอัยการมีอํานาจอุทธรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้ คําวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เงินสดหรื
กา อหลักทรัพสํย์าอนัื่นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่นํามาวางต่อศาลเพื่อกเป็า นหลักประกัสํนานัตามมาตรา ๑๑๔
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไม่อยู่ในข่ายที่จะถูกยึดหรืออายัดเพื่อชําระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้อื่นจนกว่าความรับผิดตามสัญญาประกันจะ
ระงับสิ้นไป เว้นแต่
สํานัศกาลเห็ นว่าหนี้ของเจ้าหนีกา้นั้นมิได้เกิดจากการฉ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี อฉลและมีคําสั่งให้กปา ล่อยทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดังกล่าว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณีกาที่จําเป็นต้องมีสํากนัารบั งคับคดีเพราะผิดสัญกญาประกั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า นตามวรรคหนึ ่ง ให้ศาลมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อํานาจออกหมายบังคับคดีหรือคําสั่งอื่นใดเพื่อบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของบุคคลซึ่งต้องรับผิดตาม
สัญญาประกันได้สํเาสมืนักองานคณะกรรมการกฤษฎี
นว่าเป็นลูกหนี้ตามคํกาาพิพากษา โดยให้ สํานักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
จ้าพนักงานศาลที่ได้รกับาแต่งตั้งและ
พนักงานอัยการเป็นผู้มีอํานาจหน้าที่ในการบังคับตามสัญญาประกัน และให้เจ้าพนักงานบังคับคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรมบังคับคดี มีอํานาจหน้าที่ยึดหรืออายั ดทรัพย์สินของผู้ประกันและขายทอดตลาดตามที ่ได้รับแจ้ง
จากศาล หรือพนัสํกางานอั ยการ และถ้าจะต้องขายทรั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์สินทีสํ่วาางเป็ นหลักประกันไว้ต่อศาล
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เมื่อศาลส่ง
ทรัพย์สินหรือหนังสือสําคัญสําหรับทรัพย์สินนั้นไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดี กรมบังคับคดี ให้ถือว่าได้มี
สํานักการยึ ดทรัพย์สินดังกล่ากวแล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ว ทั้งนี้ มิสํใาห้นัหกน่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วยงานของรัฐเรียกค่ากฤชาธรรมเนี
า ยมหรื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ค่าใช้จ่ายจาก กา
ผู้ดําเนินการบังคับคดี
สํการบั งคับคดีตามมาตรานี้กให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความแพ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง
โดยอนุโลม เว้นแต่ประธานศาลฎีกาโดยความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจะออกข้อบังคับ
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดไว้เป็นอย่างอื่น ข้กาอบังคับนั้นเมื่อสํประกาศในราชกิ จจานุเบกษาแล้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วให้ใช้บังคัสํบานัได้กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๖๖
มาตรา ๑๑๗ วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความอาญา (ฉบับที่ ๓๐) พ.ศ. ๒๕๕๘
๖๗
มาตรา ๑๑๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๓๐) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๑๙ ทวิ๖๘ ในกรณีที่ศาลสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ร้องขอมีสิทธิยื่น


สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าร้องอุทธรณ์คําสั่งนั้นได้ กา ดังต่อไปนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) คําสั่งของศาลชั้นต้น ให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์
สํ(๒)
านักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าสั่งของศาลอุทธรณ์ ให้ กาอุทธรณ์ไปยังสํศาลฎี กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้ศาลชั้นต้นที่รับคําร้องอุทธรณ์คําสั่งรีบส่งคําร้องดังกล่าวพร้อมด้วยสํานวนความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือสําเนาสํานวนความเท่าที่จําเป็นไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณา และมี
คําสั่งโดยเร็ว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวยืนตามศาลชั้นต้นให้เป็นที่สุด
สํานักแต่ ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิที่จะยืก่นา คําร้องให้ปล่สํอายชั
งานคณะกรรมการกฤษฎี นัก่วงานคณะกรรมการกฤษฎี
คราวใหม่ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาภาค ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลักทั่วไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๐ ห้ามมิให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีใดต่อศาล โดยมิได้มีการสอบสวน
สํานักในความผิ ดนั้นก่อน กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๑ พนักงานสอบสวนมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อํานาจสอบสวนคดี อาญาทั้งปวง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ถ้าเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว ห้ามมิให้ทําการสอบสวนเว้นแต่จะมีคําร้องทุกข์
สํานักตามระเบี ยบ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๒ พนักงานสอบสวนจะไม่ทําการสอบสวนในกรณีต่อไปนี้ก็ได้
(๑) เมืก่อาผู้เสียหายขอความช่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วยเหลือ แต่ไม่ยอมร้อกงทุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า กข์ตามระเบีสํยานับกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อผู้เสียหายฟ้องคดีเสียเองโดยมิได้ร้องทุกข์ก่อน
สํ(๓) เมื่ อ มี ห นั ง สื อ กล่ า วโทษเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา น บั ต รสนเท่
สํานักหงานคณะกรรมการกฤษฎี
์ หรื อ บุ ค คลที่ ก ล่ า วโทษด้
กา ว ยปาก
ไม่ ย อมบอกว่ า เขาคือใคร หรือไม่ยอมลงลายมือชื่อในคํากล่าวโทษหรือบันทึกคํากล่าวโทษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๓ ผู้เสียหายอาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนได้
สํคําานัร้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งทุ ก ข์ นั้ น ต้ อ งปรากฏชื
กา ่ อ และที่ อ ยูสํ่ ขานัองผู ้ ร้ อ งทุ ก ข์ ลั ก ษณะแห่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง ความผิ ด
พฤติการณ์ต่าง ๆ ที่ความผิดนั้นได้กระทําลง ความเสียหายที่ได้รับและชื่อหรือรูปพรรณของผู้กระทํา
สํานักผิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดเท่าที่จะบอกได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําร้องทุกข์นี้จะทําเป็นหนังสือหรือร้องด้วสํยปากก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้ ถ้าเป็นหนังสือต้องมีวันเดือนปี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๘
มาตรา ๑๑๙ ทวิ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๒๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

และลายมือ ชื่อ ของผู้ร้อ งทุกข์ ถ้า ร้อ งด้ว ยปาก ให้พนัก งานสอบสวนบันทึก ไว้ ลงวัน เดือ นปีแ ละ
สํานักลงลายมื อชื่อผู้บันทึกกับกาผู้ร้องทุกข์ในบัสํนานัทึกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี นั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๔ ผู้ เ สี ย หายจะร้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ งทุ ก ข์ ต่ อสํพนั
านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานฝ่ า ยปกครองหรื อกตํา า รวจ ซึ่ ง มี
ตําแหน่งหน้าที่รองหรือเหนือพนักงานสอบสวน และเป็นผู้ซึ่งมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายก็ได้
สํเมื
านั่ อกมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห นั ง สื อ ร้ อ งทุ ก ข์ ยื่ นกต่าอ เจ้ า พนั ก งานเช่
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
กล่ า วแล้ ว ให้ รี บ จั ดกการส่
า ง ไปยั ง
พนักงานสอบสวน และจะจดหมายเหตุอะไรไปบ้างเพื่อประโยชน์ของพนักงานสอบสวนก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีเมื่อมีคกําาร้องทุกข์ด้วยปากให้ รีบจัดการให้ผู้เสียหายไปพบกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บพนัสํกานังานสอบสวนเพื ่อ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จดบันทึกคําร้องทุกข์นั้นดังบัญญัติในมาตราก่อน ในกรณีเร่งร้อนเจ้าพนักงานนั้นจะจดบันทึกเสียเอง
ก็ไ ด้ แต่ แล้วให้รสํีบาส่นังกไปยั งพนักงานสอบสวนกา และจะจดหมายเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี อะไรไปบ้างเพื่ อประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ของ
พนักงานสอบสวนก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีวรรคสีก่๖๙ า (ยกเลิก) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๗๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๔/๑ ให้นําบทบัญญัติในมาตรา ๑๓๓ ทวิ วรรคหนึ่ง วรรคสอง และ
วรรคสามมาใช้บังคับโดยอนุโลมแก่กสํารจดบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นทึกคําร้องทุกข์ในคดีที่ผู้เสียหายเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นเด็กอายุไม่เกิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิบแปดปี เว้นแต่มีเหตุจําเป็น ไม่อาจหาหรือรอนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์บุคคลที่เด็กร้องขอ
และพนักงานอัยการได้ และเด็กไม่ประสงค์จกะให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มีหรือรอบุสํคานัคลดั งกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาผู้รับคําร้อง
ทุกข์ ตามมาตรา ๑๒๓ หรือมาตรา ๑๒๔ แล้วแต่กรณี บันทึกเหตุดังกล่าวไว้ในบันทึกคําร้องทุกข์ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๕ เมื่ อ พนัก งานสอบสวน หรือ พนัก งานฝ่า ยปกครองหรือตํ า รวจได้
กระทําการสืบสวนหรื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
สอบสวนไปทั้งหมดหรืกอาแต่ส่วนหนึ่งส่สํวานใดตามคํ าขอร้องให้ช่วยเหลื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อให้ตกเป็น
หน้าที่ของพนักงานนั้นจัดการให้มีคําร้องทุกข์ตามระเบียบ ตามบทบัญญัติแห่งมาตรา ๑๒๓ และ ๑๒๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๖ ผู้ร้องทุกข์จะแก้คํ าร้ องทุกข์ร ะยะใด หรือจะถอนคําร้องทุกข์เสี ย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อใดก็ได้
ในคดีกซาึ่ ง มิ ใ ช่ ค วามผิสํดานัต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ส่ ว นตั ว การถอนคํ า ร้กอางทุ ก ข์ เ ช่ น นั้ นสําย่นัอกมไม่ ตั ด อํ า นาจ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พนักงานสอบสวนที่จะสอบสวน หรือพนักงานอัยการที่จะฟ้องคดีนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๗ ให้นําบทบัญญัติในมาตรา ๑๒๓ ถึง ๑๒๖ มาบังคับโดยอนุโลมในเรือ่ ง
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
ากล่าวโทษ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รับคํากล่าวโทษจะไม่บันทึกคํากล่าวโทษในกรณีต่อไปนี้ก็ได้
สํ(๑)
านักเมื ่อผู้กล่าวโทษไม่ยอมแจ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กางว่าเขาคือใครสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อคํากล่าวโทษเป็นบัตรสนเท่ห์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๙
มาตรา ๑๒๔ วรรคสี่ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๖)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๕๐ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๐
มาตรา ๑๒๔/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๒๖) กพ.ศ.
า ๒๕๕๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

คํา กล่ า วโทษซึ่ ง บั น ทึ ก แล้ ว แต่ ผู้ ก ล่ า วโทษไม่ ย อมลงลายมื อ ชื่ อ เจ้ า พนั ก งาน
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ รั บ คํา กล่ า วโทษจะไม่กจาัดการแก่คํากล่สําานัวโทษนั ้นก็ได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๘ พนักงานสอบสวนมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อํานาจให้
สําเนัจ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
พนักงานอื่นทําการแทนกาดังต่อไปนี้
(๑) การใดในการสอบสวนอยู่นอกเขตอํานาจของตน มีอํานาจส่ งประเด็ นไปให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พนักงานสอบสวน ซึ่งมีอํานาจทําการนั้นจัดการได้
สํ(๒)
านักการใดเป็ นสิ่งเล็กน้อยในการสอบสวน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําซึนั่งกอยู ่ในเขตอํานาจของตนกาไม่ว่าทําเอง
งานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือจัดการตามประเด็น มีอํานาจสั่งให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาทําแทนได้ แต่ทั้งนี้เมื่อประมวลกฎหมายนี้
สํานักหรื อกฎหมายอื่นมิได้เจาะจงให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ทําด้วยตนเอง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๙ ให้ทําการสอบสวนรวมทั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้งสํการชั นสูตรพลิกศพ ในกรณีกาที่ความตาย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นผลแห่งการกระทําผิดอาญา ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายนี้อันว่าด้วยการชันสูตรพลิกศพ
สํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าการชันสูตรพลิกศพยักงาไม่เสร็จ ห้ามมิสํใาห้นัฟกงานคณะกรรมการกฤษฎี
้องผู้ต้องหายังศาล กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานัการสอบสวนสามั ญ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๐ ให้เริ่มการสอบสวนโดยมิชักช้า จะทําการในที่ใด เวลาใด แล้วแต่จะ
สํานักเห็ นสมควร โดยผู้ต้องหาไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จําต้องอยู่ดสํ้วายนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๗๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๑ ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานทุกชนิด เท่าที่สามารถจะทํา
สํานักได้ เพื่อประสงค์จะทราบข้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อเท็จจริงและพฤติ การณ์ต่าง ๆ อันเกี่ยกวกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บความผิดทีสํ่ถาูกนักล่ าวหา เพื่อจะ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รู้ตัวผู้กระทําผิดและพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๒
มาตรา ๑๓๑/๑ ในกรณีที่จํา เป็น ต้อ งใช้พ ยานหลัก ฐานทางวิท ยาศาสตร์
สํานักเพื ่อ พิสูจ น์ข้อ เท็จ จริง ตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๓๑
สํานักให้ พนักงานสอบสวนมีอกําานาจให้ทําการตรวจพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สูจน์บุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วัตถุ หรือเอกสารใด ๆ โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ได้
สํในกรณี ความผิดอาญาที่มีอกัตาราโทษจําคุกสํอย่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งสูงเกินสามปี หากการตรวจพิ
กา สูจน์
ตามวรรคหนึ่ง จําเป็นต้องตรวจเก็บตัวอย่างเลือด เนื้อเยื่อ ผิวหนัง เส้นผมหรือขน น้ําลาย ปัสสาวะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๑
มาตรา ๑๓๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๒
มาตรา ๑๓๑/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๒๘) กพ.ศ.
า ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

อุจจาระ สารคัดหลั่ง สารพันธุกรรมหรือส่วนประกอบของร่างกายจากผู้ต้องหา ผู้เสียหายหรือบุคคลที่


สํานักเกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยวข้อง ให้พนักงานสอบสวนผู
กา ้รับผิดสํชอบมี อํานาจให้แพทย์หรือผูก้เาชี่ยวชาญดําเนิสํนาการตรวจดั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งกล่าว
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ได้ แต่ต้องกระทําเพียงเท่าที่จําเป็นและสมควรโดยใช้วิธีการที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุดเท่าที่
จะกระทําได้ ทั้งจะต้สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งไม่เป็นอันตรายต่อร่ากงกายหรืา ออนามัสํายนัของบุ คคลนั้น และผู้ต้องหา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผู้เสียหาย
หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องให้ความยินยอม หากผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายไม่ยินยอมโดยไม่มีเหตุอัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมควรหรือผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายกระทําการป้องปัดขัดขวางมิให้บุคคลที่เกี่ยวข้องให้ความยินยอม
โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไว้เบื้องต้กานว่าข้อเท็จจริสํงาเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปตามผลการตรวจพิกสาูจน์ที่หากได้
ตรวจพิสูจน์แล้วจะเป็นผลเสียต่อผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายนั้น แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ค่าใช้จก่าายในการตรวจพิ สํานัสกูจงานคณะกรรมการกฤษฎี
น์ตามมาตรานี้ ให้สั่งจ่กาายจากงบประมาณตามระเบี ยบที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สํา นัก งานตํา รวจแห่ง ชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธ รรม หรือ สํา นัก งานอัย การสูง สุด
แล้วแต่กรณี กําหนดโดยได้ รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๑๓๒ เพื่อประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี แห่งการรวบรวมหลักกฐาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ให้พนักงานสอบสวนมี อํานาจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ตรวจตัวผู้เสียหายเมื่อผู้นั้นยินยอม หรืสํอาตรวจตั นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วผู้ต้องหา หรือตรวจสิ่งของหรือ
ที่ทางอันสามารถอาจใช้เป็นพยานหลัสํกานัฐานได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้รวมทั้งทําภาพถ่าย แผนที่ หรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อภาพวาดจําลอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือพิมพ์ลายนิ้วมือ ลายมือหรือลายเท้า กับให้บันทึกรายละเอียดทั้งหลายซึ่งน่าจะกระทําให้คดี
แจ่มกระจ่างขึ้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการตรวจตั ว ผู้ เ สี ย หายหรื อ ผู้ ต้ อ งหาตามวรรคหนึ่ ง หากผู้ เ สี ย หายหรื อ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ต้องหาเป็นหญิง ให้จกัดาให้เจ้าพนักงานซึ สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นหญิงหรือหญิงอื่นกเป็า นผู้ตรวจ ทัสํ้งานีนั้ กในกรณี ที่มีเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๗๓
อันสมควร ผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาจะขอนําบุคคลใดมาอยู่ร่วมในการตรวจนั้นด้วยก็ได้
สํ(๒)
านักค้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นเพื่อพบสิ่งของ ซึ่งมีกไาว้เป็นความผิดสําหรื อได้มาโดยการกระทํากผิาด หรือได้ใช้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือสงสัยว่าได้ใช้ในการกระทําผิด หรือซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ แต่ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติ
สํานักแห่ งประมวลกฎหมายนีก้วา่าด้วยค้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) หมายเรียกบุคคลซึ่งครอบครองสิ่งของ ซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ แต่บุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่ถูกหมายเรียกไม่จําต้องมาเอง เมื่อจัดส่งสิ่งของมาตามหมายแล้ว ให้ถือเสมือนว่าได้ปฏิบัติตามหมาย
(๔) ยึดกไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ซึ่งสิ่งของที่คสํา้นนัพบหรื อส่งมาดังกล่าวไว้ในอนุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มาตรา (๒)สํและ (๓)
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๑๓๓ พนักงานสอบสวนมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อํานาจออกหมายเรี ยกผู้เสียหายหรือกบุาคคลใดซึ่งมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เหตุอัน ควรเชื่อ ว่า ถ้อ ยคํา ของเขาอาจเป็น ประโยชน์แ ก่ค ดีใ ห้ม าตามเวลาและสถานที่ใ นหมาย
สํานักแล้ วให้ถามปากคําบุคคลนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นไว้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การถามปากคํ า นั้ น พนั ก งานสอบสวนจะให้ ผู้ ใ ห้ ถ้ อ ยคํ า สาบานหรื อ ปฏิ ญ าณตั ว
เสียก่อนก็ได้ และต้
สําอนังปฏิ บัติตามบทบัญญัติแห่กางประมวลกฎหมายนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ว่าด้วยพยานบุคคล กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้ามมิให้พนักงานสอบสวนตักเตือน พูดให้ท้อใจหรือใช้กลอุบายอื่นเพื่อป้องกันมิให้
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลใดให้ถ้อยคํา ซึ่งอยากจะให้
กา ด้วยความเต็ มใจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๓
มาตรา ๑๓๒ (๑) วรรคสอง เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บ ที่ ๒๘) พ.ศ.สํานั๒๕๕๑
ธีพิ จ ารณาความอาญา (ฉบั กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ในคดี ค วามผิ ด เกี่ ย วกั บ เพศ การถามปากคํ า ผู้ เ สี ย หายซึ่ ง เป็ น หญิ ง ให้ พ นั ก งาน
สํานักสอบสวนซึ ่งเป็นหญิงเป็กานผู้สอบสวนสํเว้านันกแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี ผู้เสียหายนั้นยินยอมหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ มีเ หตุจําสํเป็
านันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
อย่างอื่น และ กา
ให้บัน ทึก ความยิน ยอมหรือเหตุจําเป็นนั้นไว้ ทั้งนี้ ผู้เสียหายจะขอให้บุคคลใดอยู่ร่วมในการถาม
ปากคํานั้นด้วยก็ไสํด้า๗๔นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่มีความจําเป็นต้องจัดให้ผู้เสียหายหรือพยานยืนยันตัวผู้กระทําความผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในชั้นจับกุมหรือชี้ตัวผู้ต้องหาในคดีอาญา ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ หรือพนักงานสอบสวน
จัดให้มีการยืนยันสํตัาวนัผูก้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระทําความผิดหรือชี้ตกัวาผู้ต้องหาในสถานที ่ที่เหมาะสม และสามารถจะป้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องกัน
มิให้ผู้กระทําความผิดหรือผู้ต้องหาเห็นตัวผู้เสียหายหรือพยาน โดยให้คํานึงถึงความปลอดภัยของ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้เสียหายหรือพยานเท่กาาที่เหมาะสมแก่สําพนัฤติ การณ์แห่งกรณี เว้นแต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผู้เสียหายหรืสํอานัพยานนั ้นยินยอม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๗๕
และให้บันทึกความยินยอมนั้นไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๖
มาตรา ๑๓๓ ทวิ ในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นมิใช่ความผิดที่เกิดจากการชุ
กา ลมุนต่สํอาสูนั้ กความผิ ดเกี่ยวกับเสรีภาพ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ความผิดฐานกรรโชก ชิงทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การค้าประเวณี ความผิ ดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการป้ องกันและปราบปรามการค้าหญิงและ
เด็ก ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การ หรือคดีความผิดอื่นที่มีอัตราโทษจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าคุก ซึ่งผู้เสียหาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือพยานที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปีร้องขอ การถามปากคําผู้เสียหายหรือพยานที่เป็นเด็กอายุ
ไม่เกินสิบแปดปี สํให้านัพกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานสอบสวนแยกกระทํ กา าเป็นส่วนสัสํดานัในสถานที ่ที่เหมาะสมสําหรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บเด็ก และ
ให้มีนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ บุคคลที่เด็กร้องขอ และพนักงานอัยการร่วมอยู่ด้วยในการ
สํานักถามปากคํ าเด็กนั้น และในกรณี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่นักจิตสําวินัทกยาหรื อนักสังคมสงเคราะห์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เห็นว่าการถามปากคํ าเด็กคนใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือคําถามใด อาจจะมีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจเด็กอย่างรุนแรง ให้พนักงานสอบสวนถามผ่าน
นักจิตวิทยาหรือนัสํกานัสักงคมสงเคราะห์
งานคณะกรรมการกฤษฎีเป็นการเฉพาะตามประเด็
กา สํานนัคํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
ถามของพนักงานสอบสวน กา โดยมิให้
เด็ ก ได้ ยิ น คํ า ถามของพนั ก งานสอบสวนและห้ า มมิ ใ ห้ ถ ามเด็ ก ซ้ํ า ซ้ อ นหลายครั้ ง โดยไม่ มี เ หตุ อั น
สํานักสมควร ๗๗
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ เ ป็ น หน้ า ที่ ข องพนั ก งานสอบสวนที่ จ ะต้ อ งแจ้ ง ให้ นั ก จิ ต วิ ท ยาหรื อ นั ก สั ง คม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สงเคราะห์ บุคคลที่เด็กร้องขอ และพนักงานอัยการทราบ รวมทั้งแจ้งให้ผู้เสียหายหรือพยานที่เป็นเด็ก
๗๘
สํานักทราบถึ งสิทธิตามวรรคหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั ก จิ ต วิ ท ยาหรื อนั ก สัง คมสงเคราะห์ หรือ พนั ก งานอัย การที่เ ข้ าร่ ว มในการถาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๔
มาตรา ๑๓๓ วรรคสี่ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๕
มาตรา ๑๓๓ วรรคห้า เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๘)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๖
มาตรา ๑๓๓ ทวิ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๐) กพ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ๒๕๔๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๗
มาตรา ๑๓๓ ทวิ วรรคหนึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ประมวล
สํ านั
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ก๒๕๕๐
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๘
มาตรา ๑๓๓ ทวิ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธีพิจารณาความอาญา (ฉบักบา ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๕๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ปากคําอาจถูกผู้เสียหายหรือพยานซึ่งเป็นเด็กตั้งรังเกียจได้ หากมีกรณีดังกล่าวให้เปลี่ยนตัวผู้นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีภายใต้กาบั ง คั บ แห่ ง มาตรา ๑๓๙ การถามปากคํกาาเด็ ก ตามวรรคหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ ง ให้ พ นั ก งาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สอบสวนจัดให้มีการบันทึกภาพและเสียงการถามปากคําดังกล่าวซึ่งสามารถนําออกถ่ายทอดได้อย่าง
ต่อเนื่องไว้เป็นพยาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีจําเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่งซึ่งมีเหตุอันควรไม่อาจรอนักจิตวิทยาหรือนักสังคม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สงเคราะห์ บุคคลที่เด็กร้องขอ และพนักงานอัยการเข้าร่วมในการถามปากคําพร้อมกันได้ ให้พนักงาน
สอบสวนถามปากคํ สํานัากเด็งานคณะกรรมการกฤษฎี
กโดยมีบุคคลใดบุคคลหนึ กา ่งตามวรรคหนึ
สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
อยู่ร่วมด้วยก็ได้ แต่ต้อกงบัา นทึกเหตุที่
ไม่อาจรอบุคคลอื่นไว้ในสํานวนการสอบสวน และมิให้ถือว่าการถามปากคําผู้เสียหายหรือพยานซึ่งเป็น
สํานักเด็งานคณะกรรมการกฤษฎี
กในกรณีดังกล่าวที่ได้กการะทําไปแล้วไม่สําชนัอบด้ วยกฎหมาย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๓ ตรี๗๙ ในกรณีกาที่พนักงานสอบสวนมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ความจําเป็นต้องจัดกให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ผู้เสียหาย
หรือพยานที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปีชี้ตัวบุคคลใด ให้พนักงานสอบสวนจัดให้มีการชี้ตัวบุคคลใน
สํานักสถานที ่ที่เหมาะสมสําหรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บเด็กและสามารถป้ องกันมิให้บุคคลซึ่งกจะถู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า กชี้ตัวนั้นเห็
สํานนัตักงานคณะกรรมการกฤษฎี
วเด็ก โดยให้มี กา
นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ บุคคลที่เด็กร้องขอ และพนักงานอัยการร่วมอยู่ด้วยในการชี้ตัว
บุคคลนั้น เว้นแต่สํมาีเนัหตุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จําเป็นไม่อาจหาหรือรอบุคคลใดบุคสํคลหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งได้และเด็กไม่ประสงค์จะให้มีหรือ
รอบุคคลดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ให้พนักงานสอบสวนบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นทึกเหตุดังกล่าวไว้ในสํานวนการสอบสวนด้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีการชี้ตัวผู้ต้องหาที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปี ให้พนักงานสอบสวนจัดให้มี
การชี้ตัวในสถานทีสํา่ทนัี่เกหมาะสมสํ าหรับเด็กและสามารถป้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา องกัสํนามินักให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ต้องหาที่เป็นเด็กนั้นกเห็า นตัวบุคคล
ที่จะทําการชี้ตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๐
มาตรา ๑๓๔ เมื่อผู้ต้องหาถูกเรียก หรือส่งตัวมา หรือเข้าหาพนักงานสอบสวน
เอง หรือปรากฏว่สําาผูนั้ใกดซึ ่งมาอยู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวนเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํนานัผูก้ตงานคณะกรรมการกฤษฎี
้องหา ให้ถามชื่อตัว ชื่อกรอง
า ชื่อสกุล
สัญชาติ บิดามารดา อายุ อาชีพ ที่อยู่ ที่เกิด และแจ้งให้ทราบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทําที่
สํานักกล่ าวหาว่าผู้ต้องหาได้กกระทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าผิด แล้วจึสํงาแจ้
นักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้อหาให้ทราบ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การแจ้งข้อหาตามวรรคหนึ่ง จะต้องมีหลักฐานตามสมควรว่าผู้นั้นน่าจะได้กระทําผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามข้อหานั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ผู้ต้องหามี
กา สิทธิได้รับการสอบสวนด้ วยความรวดเร็กวา ต่อเนื่อง และเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกธรรม
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พนักงานสอบสวนต้องให้โอกาสผู้ต้องหาที่จะแก้ข้อหาและที่จะแสดงข้อเท็จจริง
อันเป็นประโยชน์สํแาก่นัตกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ถ้าผู้ต้องหาไม่ใช่ผู้ถูกจับและยังไม่ได้มีการออก
สํานักหมายจั บ แต่ พ นั ก งานสอบสวนเห็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา น ว่สําานัมีกเงานคณะกรรมการกฤษฎี
หตุ ที่ จ ะออกหมายขั งกผูา้ นั้ น ได้ ต ามมาตรา ๗๑ พนัก งาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สอบสวนมีอํานาจสั่งให้ผู้ต้องหาไปศาลเพื่อขอออกหมายขังโดยทันที แต่ถ้าขณะนั้นเป็นเวลาที่ศาลปิด
หรือใกล้จะปิดทํสําาการ ให้พนักงานสอบสวนสั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ง ให้ผู้ต้อ งหาไปศาลในโอกาสแรกที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ศาลเปิ
กา ด ทํา การ
กรณีเช่นว่านี้ให้นํามาตรา ๘๗ มาใช้บังคับแก่การพิจารณาออกหมายขังโดยอนุโลม หากผู้ต้องหา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๙
มาตรา ๑๓๓ ตรี แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ประมวลกฎหมาย
วิ ธี พิ จ ารณาความอาญากงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั กา
(ฉบั บ ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๕๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๐
มาตรา ๑๓๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของพนักงานสอบสวนดังกล่าว ให้พนักงานสอบสวนมีอํานาจจับผู้ต้องหานั้นได้
สํานักโดยถื อว่าเป็นกรณีจําเป็กนาเร่งด่วนที่จะจัสํบาผูนั้ตกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้องหาได้โดยไม่มีหมายจักบา และมีอํานาจปล่
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ยชั่วคราวหรือ กา
ควบคุมตัวผู้ต้องหานั้นไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๔/๑๘๑ ในคดีที่มีอัตราโทษประหารชีวิต หรือในคดีที่ผู้ต้องหามีอายุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่เกินสิบแปดปีในวันที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ก่อนเริ่มถามคําให้การให้พนักงานสอบสวนถาม
ผู้ต้องหาว่ามีทนายความหรื อไม่ ถ้าไม่มีให้รัฐจักดาหาทนายความให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในคดีที่มีอัตราโทษจําคุก ก่อนเริ่มถามคําให้การให้พนักงานสอบสวนถามผู้ต้องหาว่า
สํานักมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทนายความหรือไม่ ถ้ากไม่า มีและผู้ต้องหาต้
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งการทนายความ ให้รัฐกจัาดหาทนายความให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจัดหาทนายความตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้พนักงานสอบสวนปฏิบัติตาม
หลักเกณฑ์ วิธีการสํานัและเงื ่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และให้ ทนายความที่รัฐจัดหาให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้รับเงิน
รางวั ล และค่ า ใช้ จ่ า ยตามระเบี ย บที่ ก ระทรวงยุ ติ ธ รรมกํ า หนดโดยได้ รั บ ความเห็ น ชอบจาก
สํานักกระทรวงการคลั ง กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อได้จัดหาทนายความให้แก่ผู้ต้องหาตามวรรคหนึ่ง วรรคสอง หรือวรรคสามแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีจําเป็นเร่งด่วน หากทนายความไม่อาจมาพบผู้ต้องหาได้ โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้พนักงาน
สอบสวนทราบหรือแจ้งแต่ไม่ มาพบผูสํ้ ตานั้อกงหาภายในเวลาอั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นสมควร ให้พนักงานสอบสวนทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สอบสวนผู้ต้องหาไปได้โดยไม่ต้องรอทนายความ แต่พนักงานสอบสวนต้องบันทึกเหตุนั้นไว้ในสํานวน
การสอบสวนด้วยสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๒
มาตรากา๑๓๔/๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ให้
สํานันกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
บทบัญญัติในมาตรา ๑๓๓
กา ทวิ มาใช้บสํังานัคักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยอนุโลมแก่ กา
การสอบสวนผู้ต้องหาที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๔/๓๘๓ ผู้ต้องหามีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการ
สํานักสอบปากคํ าตนได้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๘๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๔/๔ ในการถามคํ า ให้ ก ารผู้ ต้ อ งหา ให้ พ นั ก งานสอบสวนแจ้ ง ให้
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ต้องหาทราบก่อนว่า กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะให้การหรือไม่ก็ได้ ถ้าผู้ต้องหาให้การ ถ้อยคําที่ผู้ต้องหา
ให้การนั้นอาจใช้สํเป็านันกพยานหลั กฐานในการพิจการณาคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ผู้ต้องหามีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคําตนได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๑
มาตรา ๑๓๔/๑ แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ประมวลกฎหมายวิ ธี
พิจารณาความอาญา (ฉบักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๒
มาตรา ๑๓๔/๒ แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ประมวลกฎหมายวิ ธี
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จารณาความอาญา (ฉบับกทีา่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๕๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๓
มาตรา ๑๓๔/๓ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํ านั
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒) กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๔
มาตรา ๑๓๔/๔ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๒๒) กพ.ศ.
า ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

เมื่อผู้ต้องหาเต็มใจให้การอย่างใดก็ให้จดคําให้การไว้ ถ้าผู้ต้องหาไม่เต็มใจให้การเลย
สํานักก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้บันทึกไว้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้อยคําใด ๆ ที่ผู้ต้องหาให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวนก่อนมีการแจ้งสิทธิตามวรรคหนึ่ง
หรือก่อนที่จะดําสํเนิานันกการตามมาตรา ๑๓๔/๑
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา มาตรา ๑๓๔/๒ และมาตรา ๑๓๔/๓ กจะรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บฟังเป็น
พยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของผู้นั้นไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๕
สํมาตรา ๑๓๕ ในการถามคํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าให้การผู้ต้อสํงหา ห้ามมิให้พนักงานสอบสวนทํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหรือ
จัดให้ทําการใด ๆ ซึ่งเป็นการให้คํามั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง ทรมาน ใช้กําลังบังคับ หรือกระทํา
สํานักโดยมิ ชอบประการใด ๆกเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อจูงใจให้เขาให้
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารอย่างใด ๆ ในเรื่องทีก่ตา้องหานั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๖๘๖ (ยกเลิก) กา


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๗ พนักงานสอบสวนขณะทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าการอยูก่ใานบ้านเรือนหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําอนัในสถานที ่อื่น ๆ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มีอํานาจสั่งมิให้ผู้ใดออกไปจากที่นั้น ๆ ชั่วเวลาเท่าที่จําเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๘ พนักงานสอบสวนมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อํานาจสอบสวนเองหรือส่งประเด็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นไปสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพื่อทราบความเป็นมาแห่งชีวิตและความประพฤติอันเป็นอาจิณของผู้ต้องหา แต่ต้องแจ้งให้ผู้ต้องหา
ทราบข้อความทุกสํข้าอนัทีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ได้มา กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๙ ให้พนัสํกานังานสอบสวนบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นทึกการสอบสวนตามหลั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํกานัทัก่วงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปในประมวล กา
กฎหมายนี้อันว่าด้วยการสอบสวนและให้เอาบันทึก เอกสารอื่นซึ่งได้มา อีกทั้งบันทึกเอกสารทั้งหลาย
ซึ่งเจ้าพนักงานอื่นสํผูานั้สกอบสวนคดี เดียวกันนั้นส่งกมารวมเข้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าสํานวนไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เอกสารที่ ยื่ น เป็ น พยานให้ ร วมเข้ า สํ า นวน ถ้ า เป็ น สิ่ ง ของอย่ า งอื่ น ให้ ทํ า บั ญ ชี
สํานักรายละเอี ยดรวมเข้าสํานวนไว้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพื่ อ ประโยชน์ ใ นการติ ด ตามพยานให้ ไ ปตามกํ า หนดนั ด ของศาล ให้ พ นั ก งาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สอบสวนบันทึกรายชื่อของพยานบุคคลทั้งหมดพร้อมที่อยู่หรือสถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์หรือ
๘๗
สํานักช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
องทางอื่นที่ใช้ในการติกดาต่อพยานเหล่สํานัานั้นกเก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
บไว้ ณ ที่ทําการของพนักา กงานสอบสวนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๐ เมื่ อ พนั ก งานสอบสวนผู


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ สํรัาบนัผิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชอบในการสอบสวนกาเห็ น ว่ า การ
สอบสวนเสร็จแล้ว ให้จัดการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
(๑) ถ้กาาไม่ปรากฏว่าสํผูา้ในัดเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นผู้กระทําความผิดและความผิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดนัสํ้นามีนัอกัตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ราโทษจําคุก กา
อย่างสูงไม่เกินสามปี ให้พนักงานสอบสวนงดการสอบสวน และบันทึกเหตุที่งดนั้นไว้ แล้วให้ส่งบันทึก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๕
มาตรา ๑๓๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๖
มาตรา ๑๓๖ ยกเลิก โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํ านั
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒) กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๗
มาตรา ๑๓๙ วรรคสาม เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พร้อมกับสํานวนไปยังพนักงานอัยการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้กาาอั ต ราโทษอย่สําานังสูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ง เกิ น กว่ า สามปี ให้ พกนัาก งานสอบสวนส่
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ า นวนไปยั ง กา
พนักงานอัยการพร้อมทั้งความเห็นที่ควรให้งดการสอบสวน
สํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าพนักงานอัยการสั่งให้กงา ด หรือให้ทําสํการสอบสวนต่ อไป ให้พนักกงานสอบสวน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า
ปฏิบัติตามนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ถ้ารู้ตัวผู้กระทําผิด ให้ใช้บทบัญญัติในสี่มาตราต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๑ ถ้ารู้ตัวผู้กระทําความผิด แต่เรียกหรือจับตัวยังไม่ได้ เมื่อได้ความตาม
สํานักทางสอบสวนอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎีางใด ให้กาทําความเห็นสํว่าานัควรสั ่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องส่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งไปพร้อมกับสํสํานัานวนยั งพนักงาน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อัยการ
สํถ้าานัพนั กงานอัยการเห็นชอบด้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วยว่าควรสั่งสํไม่านัฟก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
ง ให้ยุติการสอบสวนโดยสั กา ่งไม่ฟ้อง
และให้แจ้งคําสั่งนี้ให้พนักงานสอบสวนทราบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าพนักกางานอัยการเห็สํนาว่นัากควรสอบสวนต่ อไป ก็ให้กสาั่งพนักงานสอบสวนปฏิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี บัติเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าพนักงานอัยการเห็นว่าควรสั่งฟ้อง ก็ให้จัดการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้ได้ตัว
ผู้ต้องหามา ถ้าผู้ต้องหาอยู่ต่างประเทศ ให้พนักงานอัยการจัดสํการเพื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อขอให้ส่งตัวข้ามแดนมา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๒ ถ้ารู้ตัวผู้กระทําความผิดและผู้นั้นถูกควบคุม หรือขังอยู่ หรือปล่อย
ชั่วคราวหรือเชื่อว่สําาคงได้ ตัวมาเมื่อออกหมายเรี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กายก ให้พนักงานสอบสวนทํ าความเห็นตามท้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องสํานวน
การสอบสวน ว่าควรสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องส่งไปยังพนักงานอัยการพร้อมด้วยสํานวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี กาที่เสนอความเห็
สํานันกควรสั ่งไม่ฟ้อง ให้ส่งแต่กสา ํานวนพร้อมด้สําวนัยความเห็
งานคณะกรรมการกฤษฎี นไปยัง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พนักงานอัยการ ส่วนตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนมีอํานาจปล่อยหรือปล่อยชั่วคราวถ้าผู้ต้องหา
ถูกขังอยู่ ให้ขอเองหรื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ขอให้พนักงานอัยการขอต่ กา อศาลให้ปล่สํอานัยกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณี ที่ เ สนอความเห็ น ควรสั่ ง ฟ้ อ ง ให้ พ นั ก งานสอบสวนส่ ง สํ า นวนพร้ อ มกั บ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ ต้อ งหาไปยั ง พนั ก งานอั
กา ย การ เว้ น แต่
สํานัผกู้ ตงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อ งหานั้น ถูก ขัง อยู่ แ ล้กวา หรือ ผู้ ต้อ งหาซึ
สํานัก่ งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถู ก แจ้ ง ข้ อ หา กา
ได้หลบหนี ไป๘๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถ้าเป็น ความผิด ซึ่งพนักงานสอบสวนเปรีย บเทียบได้ และผู้กระทําความผิด
สํานักได้ ป ฏิบัติต ามเปรีย บเทีกาย บนั้น แล้ว ให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานับกันงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทึกการเปรียบเทียบนัก้นาไว้ แล้วส่งไปให้ สํานัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานอัยการ กา
พร้อมด้วยสํานวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๙
มาตรา ๑๔๓ เมื่อได้รับความเห็นและสํานวนจากพนักงานสอบสวนดังกล่าวใน
สํานักมาตราก่ อน ให้พนักงานอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กายการปฏิบัติดสํังาต่นัอกไปนี ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ในกรณีที่มีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง ให้ออกคําสั่งไม่ฟ้อง แต่ถ้าไม่เห็นชอบด้วย
ก็ให้สั่งฟ้องและแจ้
สํางนัให้ พนักงานสอบสวนส่งผูก้ตา้องหามาเพื่อฟ้สํอานังต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ไป กา

๘๘ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักแก้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กษาความสงบแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๑๔๒ วรรคสาม ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรั งชาติ ฉบับที่
๑๑๕/๒๕๕๗ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช
๒๕๕๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๙
มาตรา ๑๔๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๖) พ.ศ.กา๒๔๙๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๒) ในกรณีมีค วามเห็น ควรสั่ง ฟ้อ ง ให้อ อกคํา สั่ง ฟ้อ งและฟ้อ งผู้ต้อ งหาต่อ ศาล
สํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าไม่เห็นชอบด้วย ก็ให้กสา ั่งไม่ฟ้อง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีหนึ่งกรณีใดข้างต้น พนักงานอัยการมีอํานาจ
สํ(ก)
านักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
่งตามที่เห็นควร ให้พนักกางานสอบสวนดํสําานัเนิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นการสอบสวนเพิ่มเติมกหรืา อส่งพยาน
คนใดมาให้ซักถามเพื่อสั่งต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ข) วิ นิ จ ฉั ย ว่ า ควรปล่ อ ยผู้ ต้ อ งหา ปล่ อ ยชั่ ว คราว ควบคุ ม ไว้ หรื อ ขอให้ ศ าลขั ง
แล้วแต่กรณี และจัสําดนัการหรื อสั่งการให้เป็นไปตามนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในคดีฆาตกรรม ซึ่งผู้ตายถูกเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ฆ่าตาย
สํานักหรื อตายในระหว่างอยู่ใกนความควบคุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า มสํของเจ้ าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาบัติราชการตามหน้ าที่ อธิบดีกรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อัยการหรือผู้รักษาการแทนเท่านั้นมีอํานาจออกคําสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๔ ในกรณีที่พนักงานอัยการมีคําสั่งฟ้อง ถ้าความผิดนั้นเป็นความผิดซึ่ง
สํานักอาจเปรี ยบเทียบได้ ถ้าเห็กานสมควรพนักสํงานอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยการมีอํานาจ ดังต่อไปนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) สั่งให้พนักงานสอบสวนพยายามเปรียบเทียบคดีนั้น แทนการที่จะส่งผู้ต้องหา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไปยังพนักงานอัยการ
(๒) เมื่อผู้ต้องหาถูกส่สํงามายั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งพนักงานอัยการแล้ว สั่งให้ส่งผู้ต้องหาพร้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อมด้วยสํานวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กลับไปยังพนักงานสอบสวนให้ พยายามเปรียบเทียบคดีนั้น หรื อถ้าเห็นสมควรจะสั่ งให้พนักงาน
สอบสวนอื่นที่มีอสํํานาจจั ดการเปรียบเทียบให้กก็ไาด้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๐
มาตรากา๑๔๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี
สํานักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่มีคําสั่งไม่ฟ้อง และคํกาาสั่งนั้นไม่ใช่ของอธิ
สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดีกรมอัยการ กา
ถ้าในนครหลวงกรุงเทพธนบุรี ให้รีบส่งสํานวนการสอบสวนพร้อมกับคําสั่งไปเสนออธิบดีกรมตํารวจ
รองอธิบดีกรมตําสํรวจานักหรื อผู้ช่วยอธิบดีกรมตํากรวจ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ถ้าในจังหวั สําดนัอืก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้รีบส่งสํานวนการสอบสวนพร้
กา อม
กับคําสั่งไปเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ทั้งนี้ มิได้ตัดอํานาจพนักงานอัยการที่จะจัดการอย่างใดแก่
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ต้องหาดังบัญญัติไว้ในมาตรา
กา ๑๔๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่อธิบดีกรมตํารวจ รองอธิบดีกรมตํารวจหรือผู้ช่วยอธิบดีกรมตํารวจในนคร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลวงกรุงเทพธนบุรี หรือผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดอื่นแย้งคําสั่งของพนักงานอัยการ ให้ส่งสํานวน
สํานักพร้ อมกับความเห็นที่แย้กางกันไปยังอธิบสํดีานักกรมอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยการเพื่อชี้ขาด แต่กถา ้าคดีจะขาดอายุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
วามหรือมีเหตุ กา
อย่างอื่นอันจําเป็นจะต้องรีบฟ้อง ก็ให้ฟ้องคดีนั้นตามความเห็นของอธิบดีกรมตํารวจ รองอธิบดีกรม
ตํารวจ ผู้ช่วยอธิบสํดีากนัรมตํ ารวจ หรือผู้ว่าราชการจั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งหวัดไปก่อสํนานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติในมาตรานี้ ให้นํามาบังคับในการที่พนักงานอัยการจะอุทธรณ์ ฎีกา หรือ
สํานักถอนฟ้ อง ถอนอุทธรณ์แกละถอนฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า กาโดยอนุ
สํานักโงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลม กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๕/๑๙๑ สําหรับกการสอบสวนซึ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํ่งาอยู
นัก่ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นความรับผิดชอบของเจ้
กา าพนักงาน
ตํารวจในกรณีที่มีคําสั่งไม่ฟ้องและคําสั่งนั้นไม่ใช่คําสั่งของอัยการสูงสุด ถ้าในกรุงเทพมหานครให้รีบส่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๐
มาตรา ๑๔๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๓ ประกาศ ณ วันที่ ๑๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธันวาคม ๒๕๑๕
๙๑
มาตรา ๑๔๕/๑ เพิ่มโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑๕/๒๕๕๗ เรื่อง
สํานักแก้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธีพิจารณาความอาญา
ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พุทธศักราช ๒๕๕๗
ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานวนการสอบสวนพร้อมกับคําสั่งเสนอผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ
สํานักหรื อผู้ช่วยผู้บัญชาการตํกาา รวจแห่งชาติสําถ้นัากในจั
งานคณะกรรมการกฤษฎี งหวัดอื่นให้รีบส่งสํกาานวนการสอบสวนพร้
งานคณะกรรมการกฤษฎี อมกับคําสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสนอผู้บัญ ชาการหรือ รองผู้บัญ ชาการ ซึ่ง เป็น ผู้บัง คับ บัญ ชาของพนัก งานสอบสวนผู้รับ ผิด ชอบ
แต่ทั้งนี้ มิได้ตัดอํสําานาจพนั กงานอัยการที่จะจัดกการอย่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า างใดแก่สํผานัู้ตก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
งหาดังบัญญัติไว้ในมาตรา
กา ๑๔๓
ในกรณีที่ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ หรือผู้ช่วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู ้บ ัญ ชาการตํ า รวจแห่ ง ชาติ ใ นกรุ ง เทพมหานคร หรื อ ผู้ บั ญ ชาการหรื อ รองผู้ บั ญ ชาการซึ่ ง เป็ น
ผู้บังคับบัญชาของพนั กงานสอบสวนผู้รับผิดกชอบในจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า งหวัดสําอืนั่นกแย้ งคําสั่งของพนักงานอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยการให้ส่ง
สํานวนพร้อมกับความเห็นที่แย้งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อชี้ขาด แต่ถ้าคดีจะขาดอายุความ หรือมีเหตุ
สํานักอย่ างอื่นอันจําเป็นจะต้กอา งรีบฟ้อง ก็ใสํห้านัฟก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี งคดีนั้นตามความเห็นกาของผู้บัญชาการตํ ารวจแห่งชาติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการหรือรองผู้บัญชาการ
ดังกล่าวแล้วแต่กรณี สํานัไกปก่ อน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติในมาตรานี้ ให้นํามาบังคับในการที่พนักงานอัยการจะอุทธรณ์ ฎีกา หรือ
สํานักถอนฟ้ องถอนอุทธรณ์และถอนฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กาโดยอนุ
สํานัโกลมงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๖ ให้แ จ้ง คํา สั่ง เด็ด ขาดไม่ฟสํ้อานังคดี
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใ ห้ผู้ต้อ งหาและผู้ร้อ งทุก ข์ท ราบ
ถ้าผู้ต้องหาถูกควบคุมหรือขังอยู่ ให้จสํัดาการปล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อยตัวไปหรือขอให้ศาลปล่อย แล้วแต่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อพนักงานอัยการมีคําสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องแล้ว ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือผู้มีส่วน
ได้เสียมีสิทธิร้องขอต่
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
พนักงานอัยการเพื่อขอทราบสรุ
กา ปพยานหลั กฐานพร้อมความเห็นกของพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า กงาน
๙๒
สอบสวนและพนักงานอัยการในการสั่งคดี ทั้งนี้ ภายในกําหนดอายุความฟ้องร้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๗ เมื่อมีคําสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีแล้ว ห้ามมิให้มีการสอบสวนเกี่ยวกับ
บุคคลนั้นในเรื่องเดี
สํานัยกวกั นนั้นอีก เว้นแต่จะได้กพา ยานหลักฐานใหม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี อันสําคัญแก่คดี ซึ่งน่ากจะทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าให้ศาล
ลงโทษผู้ต้องหานั้นได้
วรรคสอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๙๓ (สภาไม่สํอานุนัมกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัติ) กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานัการชั นสูตรพลิกศพ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๙๒ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๔๖ วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๔๗
สํ๙๓านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีพ ระราชบัญ ญัติไ ม่อนุมัติพ ระราชกํา หนดแก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา พุทธศักราช ๒๔๘๗
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พุทธศักราช สํานั๒๔๘๗ เป็นเหตุให้มาตรา ก๑๔๗
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า วรรคสอง สํแห่านังกประมวลกฎหมาย
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
พุทธศักราช ๒๔๘๗ เป็นอันตกไป (มาตรา ๑๔๗ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไข
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพิ่มเติมโดยพระราชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลวิธีพิจารณาความอาญา พุทธศักราช ๒๔๘๗ บัญญัติว่า “เมื่อมี
คําสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีแล้ว ห้ามมิให้พนักงานอัยการฟ้องคดีนั้น เว้นแต่จะได้มีการสอบสวนตามบทบัญญัติในวรรค
สํานักก่งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บดีกรมอัยสํการ”)
อน หรือได้มีคําสั่งให้ฟ้องของอธิ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๔๘ เมื่อปรากฏแน่ชัด หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลใดตายโดยผิด


สํานักธรรมชาติ หรือตายในระหว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา างอยู่ในความควบคุ มของเจ้าพนักงานกา ให้มีการชันสูสํตานัรพลิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กศพ เว้นแต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๙๔
ตายโดยการประหารชีวิตตามกฎหมาย
สํการตายโดยผิ ดธรรมชาตินั้นกาคือ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ฆ่าตัวตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ถูกผู้อื่นทําให้ตาย
สํ(๓)
านักถูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กสัตว์ทําร้ายตาย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ตายโดยอุบัติเหตุ
(๕) ตายโดยยั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งมิปรากฏเหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๙ ความตายผิดกธรรมชาติ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า เกิดมีสํขานัึ้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ณ ที่ใด ให้เป็นหน้าที่ขกองสามี
า ภริยา
ญาติ มิตรสหายหรือผู้ปกครองของผู้ตายที่รู้เรื่องการตายเช่นนั้นจัดการ ดังต่อไปนี้
(๑) เก็กบาศพไว้ ณ ที่ซสํึ่งพบนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นเองเพียงเท่าที่จะทําได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ไปแจ้งความแก่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจโดยเร็วที่สุด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หน้าที่ดังกล่าวในวรรคต้นนั้นมีตลอดถึงผู้อสํื่นานัซึก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ได้พบศพในที่ซึ่งไม่มีสามี ภริยา ญาติ
มิตรสหาย หรือผู้ปกครองของผู้ตายอยูสํ่ในที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่นั้นด้วย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ใ ดละเลยไม่ก ระทํา หน้า ที่ดัง บัญ ญัติไ ว้ใ นมาตรานี้ ต้อ งระวางโทษปรับ ไม่เ กิน
หนึ่งพันบาท๙๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๖
มาตรากา๑๕๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี
สํานักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่จะต้องมีการชันสูตรพลิ กา กศพ ให้พนัสํกางานสอบสวนแห่ ง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ท้องที่ที่ศพนั้นอยู่กับแพทย์ทางนิติเวชศาสตร์ซึ่งได้รับวุฒิบัตรหรือได้รับหนังสืออนุมัติจากแพทยสภา
ทําการชันสูตรพลิสํกานัศพโดยเร็ ว ถ้าแพทย์ทางนิกตา ิเวชศาสตร์ดสํังากล่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
วไม่มีหรือไม่อาจปฏิบัตกาิหน้าที่ได้ ให้
แพทย์ประจําโรงพยาบาลของรัฐปฏิบัติหน้าที่ ถ้าแพทย์ประจําโรงพยาบาลของรัฐไม่มีหรือไม่อาจ
สํานักปฏิ บัติหน้าที่ได้ให้แพทย์กปา ระจําสํานักงานสาธารณสุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ขจังหวัดปฏิบกัตาิหน้าที่ ถ้าแพทย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัปกระจํ าสํานักงาน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สาธารณสุขจังหวัดไม่มีหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้แพทย์ประจําโรงพยาบาลของเอกชนหรือแพทย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ขึ้นทะเบียนเป็นแพทย์อาสาสมัครตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข
สํานักปฏิ บัติหน้าที่ และในการปฏิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บัติหน้าทีสํ่ดานัังกล่ าว ให้แพทย์ประจําโรงพยาบาลของเอกชนหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อแพทย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ป ระกอบวิชาชีพเวชกรรมผู้นั้น เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ทั้งนี้ ให้พนักงาน
สอบสวนและแพทย์ สํานัดกังงานคณะกรรมการกฤษฎี
กล่าวทําบันทึกรายละเอีกายดแห่งการชันสําสูนัตกรพลิ กศพทันที และให้แกพทย์
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ดังกล่าว
ทํารายงานแนบท้ายบันทึกรายละเอียดแห่งการชันสูตรพลิกศพด้วยภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
สํานักเรืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อง ถ้ามีความจําเป็นให้ กา ขยายระยะเวลาออกไปได้ ไม่เกินสองครัก้งาครั้งละไม่เกินสํสามสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บวัน แต่ต้อง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บันทึกเหตุผลและความจําเป็นในการขยายระยะเวลาทุกครั้งไว้ในสํานวนชันสูตรพลิกศพ รายงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๔๘ วรรคหนึ
สํานั่ง กแก้ ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาญญัติแก้ไขเพิ่มสํเติานัมกประมวลกฎหมาย
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๔๙๙
๙๕
มาตรา ๑๔๙ วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๔๒
๙๖
มาตรา ๑๕๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ดังกล่าวให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสํานวนชันสูตรพลิกศพ และในกรณีที่ความตายมิได้เป็นผลแห่งการ
สํานักกระทํ าผิดอาญา ให้พนักกางานสอบสวนส่สํางนัสํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี นวนชันสูตรพลิกศพไปยักางพนักงานอัยการเมื ่อเสร็จสิ้นการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชันสูตรพลิกศพโดยเร็วและให้พนักงานอัยการดําเนินการต่อไปตามมาตรา ๑๕๖
สํให้
านัเกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนแจ้
กา งแก่สํผานัู้มกีหงานคณะกรรมการกฤษฎี
น้าที่ไปทําการชันสูตรพลิ กา กศพทราบ
และก่อนการชันสูตรพลิกศพ ให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้แทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือญาติของผู้ตายอย่างน้อยหนึ่งคนทราบเท่าที่จะทําได้
สํในกรณี ที่มีความตายเกิดขึ้นกโดยการกระทํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าสํของเจ้ าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บัติราชการ
ตามหน้าที่หรือตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่
สํานักให้ พนักงานอัยการและพนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กงานฝ่ายปกครองตํ าแหน่งตั้งแต่ระดับปลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดอําเภอหรือสํเที
านัยกบเท่ าขึ้นไปแห่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ท้องที่ที่ศพนั้นอยู่เป็นผู้ชันสูตรพลิกศพร่วมกับพนักงานสอบสวนและแพทย์ตามวรรคหนึ่ง และให้นํา
บทบัญญัติในวรรคสองมาใช้ บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อได้มีการชันสูตรพลิกศพตามวรรคสามแล้ว ให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้พนักงาน
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการเข้าร่วมกับพนักกงานสอบสวนทํ
า สําาสํนัากนวนชั นสูตรพลิกศพให้กเาสร็จภายในสามสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
วันนับแต่วันที่ กา
ได้รับแจ้งถ้ามีความจําเป็นให้ขยายระยะเวลาออกไปได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวันแต่ต้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีก๙๗า
บันทึกเหตุผลและความจํ าเป็นในการขยายระยะเวลาทุกครั้งสํไว้านัในสํ านวนชันสูตรพลิกศพ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อได้รับสํานวนชันสูสํตานัรพลิ กศพแล้ว ให้พนักงานอัยการทําคําร้สํอางขอต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อศาลชั้นต้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แห่งท้องที่ที่ศพนั้นอยู่ เพื่อให้ศาลทําการไต่สวนและทําคําสั่งแสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด
และถึงเหตุและพฤติ สํานักการณ์ ที่ตาย ถ้าตายโดยคนทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าร้ายให้กล่สําานัวว่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ใครเป็นผู้กระทําร้ายเท่ กาาที่จะทราบ
ได้ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับสํานวน ถ้ามีความจําเป็น ให้ขยายระยะเวลาออกไปได้ไม่เกิน
สํานักสองครั ้ง ครั้งละไม่เกินสามสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บวัน แต่ตสํ้อางบั
นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทึกเหตุผลและความจํากเป็ า นในการขยายระยะเวลาทุ กครั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไว้ในสํานวนชันสูตรพลิกศพ
สํในการปฏิ บัติหน้าที่ ตามวรรคหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ง วรรคสาม วรรคสี่ และวรรคห้ากาให้พนักงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สอบสวนปฏิบัติตามคําสั่งของพนักงานอัยการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในการไต่ กา สวนตามวรรคห้สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ศาลปิดประกาศแจ้กงากําหนดวันที่จสํะทํ านักาการไต่ สวนไว้ที่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ศาล และให้พนักงานอัยการยื่นคําร้องต่อศาลขอให้ศาลส่งสําเนาคําร้องและแจ้งกําหนดวันนัดไต่สวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือญาติของผู้ตายตามลําดับ
สํานักอย่ างน้อยหนึ่งคนเท่าทีก่จาะทําได้ทราบก่สําอนันวั
งานคณะกรรมการกฤษฎี นนัดไต่สวนไม่น้อยกว่กาาสิบห้าวันและให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานอัยการ กา
นําพยานหลักฐานทั้งปวงที่แสดงถึงการตายมาสืบ
สํเมืานั่อกศาลได้ ปิดประกาศแจ้งกกําาหนดวันที่จะทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากการไต่ สวนแล้ว และก่อกนการไต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สวน
เสร็จสิ้น สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือญาติของผู้ตายมีสิทธิ
สํานักยืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่นคําร้องต่อศาลขอเข้ากมาซั า กถามพยานที สํานัก่พงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานอัยการนําสืบและนํ กา าสืบพยานหลัสํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฐานอื่นได้ด้วย กา
เพื่อการนี้ สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือญาติของผู้ตายมีสิทธิ
แต่งตั้งทนายความดํ สํานัากเนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นการแทนได้ หากไม่มกาีทนายความทีสํ่ได้านัรกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
การแต่งตั้งจากบุคคลดักงากล่าวเข้ามา
ในคดีให้ศาลตั้งทนายความขึ้นเพื่อทําหน้าที่ทนายความฝ่ายญาติผู้ตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เมื่อศาลเห็กา นสมควรเพื สํานั่อกประโยชน์ แห่งความยุตกิธารรม ศาลจะเรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัยกกพยานที ่นําสืบ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๗
มาตรา ๑๕๐ วรรคสี่ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี กาบที่ ๒๗) พ.ศ. สํ๒๕๕๐
ธีพิจารณาความอาญา (ฉบั านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาแล้วมาสืบเพิ่มเติมหรือเรียกพยานหลักฐานอื่นมาสืบก็ได้ และศาลอาจขอให้ผู้ทรงคุณวุฒิหรือ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้เชี่ยวชาญมาให้ความเห็ กา นเพื่อประกอบการไต่ สวนและทําคําสัก่งา แต่ทั้งนี้ ไม่ตสําัดนัสิกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ธิของผู้นําสืบ กา
พยานหลักฐานตามวรรคแปดที่จะขอให้เรียกผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญอื่นมาให้ความเห็นโต้แย้ง
หรือเพิ่มเติมความเห็ สํานันกของผู ้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เกชีา่ยวชาญดังกล่สําาวนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
คําสั่งของศาลตามมาตรานี้ให้ถึงที่สุด แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิฟ้องร้อง และการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิจารณาพิพากษาคดีของศาล หากพนักงานอัยการหรือบุคคลอื่นได้ฟ้องหรือจะฟ้องคดีเกี่ยวกับการตายนั้น
สํเมืานั่อกศาลได้ มีคําสั่งแล้ว ให้ส่งกสําานวนการไต่สสํวนของศาลไปยั
งานคณะกรรมการกฤษฎี งพนักงานอักยาการ เพื่อส่ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แก่พนักงานสอบสวนดําเนินการต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี แพทย์กตาามวรรคหนึ่งสํเจ้ านัากพนั กงานผู้ได้ทําการชันกสูาตรพลิกศพ และผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
รงคุณวุฒิหรือ กา
ผู้เ ชี่ย วชาญที่ ศ าลขอให้ ม าให้ค วามเห็ น ตามมาตรานี้ มีสิท ธิ ไ ด้ รับ ค่า ตอบแทน หรื อ ค่า ป่ว ยการ
ค่ า พาหนะเดิ น ทางและค่ าเช่าที่พัก ตามระเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กายบที่กระทรวงยุ
สํานัตกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิธรรมกําหนดโดยความเห็ กา นชอบของ
กระทรวงการคลั ง ส่ ว นทนายความที่ ศ าลตั้ ง ตามมาตรานี้ มี สิ ท ธิ ไ ด้ รั บ เงิ น รางวั ล และค่ า ใช้ จ่ า ย
สํานักเช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
นเดียวกับทนายความที กา่ศาลตั้งตามมาตรา ๑๗๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๙๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๑๕๐ ทวิ ผู้ใดกระทําการใด ๆ สํแก่
กา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบ
ศพก่อนการชันสูตรพลิ กศพเสร็จสิ้นสํในประการที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่น่ าจะทํ าให้การชั นสูตรพลิกสํศพหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อผลทางคดี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เปลี่ยนแปลงไป เว้นแต่จําเป็นต้องกระทําเพื่ อป้องกันอั นตรายแก่อนามัยของประชาชนหรือเพื่ อ
ประโยชน์สาธารณะอย่ างอื่น ต้องระวางโทษจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าคุกตั้งแต่หกเดื
สํานัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นถึงสองปี หรือปรับตั้งกแต่า หนึ่งหมื่น
บาทถึงสี่หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ถ้าการกระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าความผิสํดานัตามวรรคหนึ ่งเป็นการกระทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าโดยทุจริตหรื
สํานัอกเพื ่ออําพรางคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้กระทําต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่กําหนดไว้สําหรับความผิดนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๑ ในเมื่อมีการจําเป็นเพื่อพบเหตุของการตาย เจ้าพนักงานผู้ทําการ
สํานักชังานคณะกรรมการกฤษฎี
นสูตรพลิกศพมีอํานาจสั
กา ่งให้ผ่าศพแล้สํวานัแยกธาตุ ส่วนใด หรือจะให้กสา ่งทั้งศพหรือบางส่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี วนไปยังแพทย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือพนักงานแยกธาตุของรัฐบาลก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๕๒ ให้แพทย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัหกรืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อพนักงานแยกธาตุของรั
กาฐบาลปฏิบัติดสํังานีนั้กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ทํารายงานถึงสภาพของศพ หรือส่วนของศพตามที่พบเห็นหรือตามที่ปรากฏจาก
การตรวจพร้อมทัสํ้งาความเห็ นในเรื่องนั้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) แสดงเหตุที่ตายเท่าที่จะทําได้
(๓) ลงวั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานเดือนปีและลายมื อชื่อในรายงาน แล้วจักดาการส่งไปยังเจ้สําานัพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานผู้ทําการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชันสูตรพลิกศพ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๓ ถ้าศพฝังไว้แล้ว ให้ผู้ชันสูตรพลิกศพจัดให้ขุดศพขึ้นเพื่อตรวจดู เว้นแต่
สํานักจะเห็ นว่าไม่จําเป็นหรือจะเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นอันตรายแก่
สํานัอกนามั ยของประชาชน กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๘
มาตรา ๑๕๐ ทวิ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๕๔ ให้ผู้ชันสํสูานัตกรพลิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กศพทําความเห็นเป็กนา หนังสือแสดงเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ละพฤติการณ์ กา
ที่ตาย ผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด ถ้าตายโดยคนทําร้าย ให้กล่าวว่าใครหรือสงสัยว่าใครเป็น
ผู้กระทําผิดเท่าที่จสําะทราบได้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๕๕ ให้นํา บทบัญ ญัติใ นประมวลกฎหมายนี้อัน ว่า ด้ ว ยการสอบสวน
มาใช้แ ก่การชันสูสํตานัรพลิ กศพโดยอนุโ ลม กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นําบทบัญญัติในมาตรา ๑๗๒ ตรี มาใช้บังคับโดยอนุโลมแก่การไต่สวนของศาล
สํานักตามมาตรา ๑๕๐ ในคดีกทาี่พยานเป็นเด็กสํอายุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ไม่เกินสิบแปดปี๙๙ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๕/๑๑๐๐ การสอบสวนในกรณี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํทานัี่มกีคงานคณะกรรมการกฤษฎี
วามตายเกิดขึ้นโดยการกระทํ
กา าของ
เจ้ า พนั ก งานซึ่ ง อ้ า งว่ า ปฏิ บั ติ ร าชการตามหน้ า ที่ หรื อ ตายในระหว่ า งอยู่ ใ นความควบคุ ม ของ
สํานักเจ้ า พนั ก งานซึ่งอ้างว่ากปฏิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า บัติร าชการตามหน้ าที่ หรือในกรณีทกี่ผาู้ตายถูกกล่าวหาว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อสู้ขัดขวาง กา
เจ้าพนักงานซึ่ ง อ้ า งว่ า ปฏิ บั ติ ร าชการตามหน้ า ที่ ให้ พ นั ก งานสอบสวนแจ้ ง ให้ พ นั ก งานอั ย การ
เข้ า ร่ ว มกั บ พนั กสํงานสอบสวนในการทํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
า สํา นวนสอบสวนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การทําสํานวนสอบสวนตามวรรคหนึ ่ง ให้พนักงานสอบสวนเป็สํานนัผูก้รงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ับผิดชอบโดย กา
พนักงานอัยการอาจให้คําแนะนํา ตรวจสอบพยานหลักฐาน ถามปากคํา หรือสั่งให้ถามปากคําบุคคลที่
เกี่ ยวข้องได้ ตั้งแต่สําเนัริก่ มงานคณะกรรมการกฤษฎี
การทําสํานวนสอบสวนนั กา บ แต่ โ อกาสแรกเท่ าที่จะพึงกระทําได้กา ทั้งนี้ ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณีกาจําเป็นเร่งด่วสํนและมี เหตุอันควรไม่อาจรอพนั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กงานอัยการเข้
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ร่วมในการทํา กา
สํานวนสอบสวนให้พนักงานสอบสวนทําสํานวนต่อไปได้ แต่ต้องบันทึกเหตุที่ไม่อาจรอพนักงานอัยการ
ไว้ในสํานวนและถืสํอานัว่ากเป็ นการทําสํานวนสอบสวนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ชอบด้วยกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๕๖ ให้ส่งสํสําานันวนชั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นสูตรพลิกศพในกรณี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่ความตายมิ
สําไนัด้กเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นผลแห่งการ กา
กระทําผิดอาญาไปยังข้าหลวงประจําจังหวัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ภาค ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิธีพิจารณาในศาลชั้นต้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลักษณะ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฟ้องคดีอาญาและไต่สวนมูลฟ้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๙๙
มาตรา ๑๕๕ วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๐)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั พ.ศ. ๒๕๔๒ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๐
มาตรา ๑๕๕/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๗) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๕๗ การฟ้ อ งคดี อ าญาให้ ยื่ น ฟ้ อ งต่ อ ศาลใดศาลหนึ่ ง ที่ มี อํ า นาจตาม
สํานักบทบั ญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้หรือสํกฎหมายอื ่น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๘ ฟ้องต้องทําเป็กนา หนังสือ และมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ชื่อศาลและวันเดือนปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) คดีระหว่างผู้ใดโจทก์ผู้ใดจําเลย และฐานความผิด
สํ(๓)
านักตํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าแหน่งพนักงานอัยการผู กา ้เป็นโจทก์ สํถ้าานัราษฎรเป็ นโจทก์ให้ใส่ชื่อกตัาว นามสกุล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อายุ ที่อยู่ ชาติและบังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๔) ชื่อกตัา ว นามสกุล สํทีา่อนัยูก่ งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชาติและบังคับของจําเลย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) การกระทําทั้งหลายที่อ้างว่าจําเลยได้กระทําผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่
เกี่ยวกับเวลาและสถานที ่ซึ่งเกิดการกระทํานัก้นา ๆ อีกทั้งบุคสํคลหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้กวายพอสมควร
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เท่าที่จะให้จําเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในคดี
กา ห มิ่น ประมาทสํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อยคําพูด หนังสือ ภาพขี กา ด เขีย นหรืสํอาสินั่งกอืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่นอันเกี่ยวกับ กา
ข้อหมิ่นประมาท ให้กล่าวไว้โดยบริบูรณ์หรือติดมาท้ายฟ้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทํ าเช่นนั้นเป็นความผิด
(๗) ลายมือชื่อโจทก์ สํผูา้เนัรียกงงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้เขียนหรือพิมพ์ฟ้องกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๙ ถ้ าจําเลยเคยต้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ งคํ าพิ พ ากษาให้ ลงโทษเพราะได้กระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าความผิ ด
มาแล้ว เมื่อโจทก์ต้องการให้เพิ่มโทษจําเลยฐานไม่เข็ดหลาบ ให้กล่าวมาในฟ้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้ามิได้กขา อเพิ่มโทษมาในฟ้ อง ก่อนมีคําพิพากษาศาลชั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นต้น โจทก์
สํานัจกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ะยื่นคําร้องขอ กา
เพิ่มเติมฟ้อง เมื่อศาลเห็นสมควรจะอนุญาตก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๐ ความผิดหลายกระทงจะรวมในฟ้องเดียวกันก็ได้ แต่ให้แยกกระทง
สํานักเรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยงเป็นลําดับกันไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความผิดแต่ละกระทงจะถือว่าเป็นข้อหาแยกจากข้อหาอื่นก็ได้ ถ้าศาลเห็นสมควรจะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สั่งให้แยกสํานวนพิจารณาความผิดกระทงใดหรือหลายกระทงต่างหาก และจะสั่งเช่นนี้ก่อนพิจารณา
สํานักหรื อในระหว่างพิจารณาก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๑ ถ้าฟ้องไม่ถูกกต้าองตามกฎหมาย


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักให้ ศาลสั่งโจทก์แก้ฟ้องให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาถูกต้องหรือ
ยกฟ้องหรือไม่ประทับฟ้อง
โจทก์มกีอา ํานาจอุทธรณ์สําคนัํากสังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งเช่นนั้นของศาล กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๒ ถ้าฟ้องถูกต้อกงตามกฎหมายแล้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานัวกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ศาลจัดการสั่งต่อไปนีก้ า
(๑) ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ให้ไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถ้าคดีนั้นพนักงานอัยการได้ฟ้อง
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเลยโดยข้อหาอย่างเดีกยาวกันด้วยแล้วสํให้
านัจกัดงานคณะกรรมการกฤษฎี
การตามอนุมาตรา (๒)กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ในคดีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ ไม่จําสํเป็านันกต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
องไต่สวนมูลฟ้อง แต่ถก้าาเห็นสมควร
จะสั่งให้ไต่สวนมูลฟ้องก่อนก็ได้
ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาที่ มี ก ารไต่ ส วนมู
สํานักลงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฟ้ อ งดั ง กล่ า วแล้ ว ถ้ ากจํา า เลยให้ ก ารรัสําบนัสารภาพให้ ศ าล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๕๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ประทับฟ้องไว้พิจารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๓ เมื่อมีเหตุอันควร โจทก์มีอํานาจยื่นคําร้องต่อศาลขอแก้หรือเพิ่มเติม
ฟ้อ งก่อ นมีคํ า พิพสําากษาศาลชั ้น ต้น ถ้า ศาลเห็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา น สมควรจะอนุ ญ าตหรือ จะสั ่ง ให้ไ ต่กสาวนมูล ฟ้อ ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เสียก่อนก็ได้ เมื่ออนุญาตแล้วให้ส่งสําเนาแก้ฟ้องหรือฟ้องเพิ่มเติมแก่จําเลยเพื่อแก้ และศาลจะสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แยกสํานวนพิจารณาฟ้องเพิ่มเติมนั้นก็ได้
สํเมืานั่อกมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
เหตุอันควร จําเลยอาจยื
กา ่นคําร้องขอแก้
สํานัหกรืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อเพิ่มเติมคําให้การของเขาก่
กา อนศาล
พิพากษา ถ้าศาลเห็นสมควรอนุญาต ก็ให้ส่งสําเนาแก่โจทก์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๔ คําร้องขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องนั้น ถ้าจะทําให้จําเลยเสียเปรียบในการ
ต่อสู้คดี ห้ามมิให้สํศานัาลอนุ ญาต แต่การแก้ฐานความผิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดหรือสํรายละเอี ยดซึ่งต้องแถลงในฟ้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องก็ดี การ
เพิ่มเติมฐานความผิดหรือรายละเอียดซึ่งมิได้กล่าวไว้ก็ดี ไม่ว่าจะทําเช่นนี้ในระยะใดระหว่างพิจารณาใน
สํานักศาลชั ้นต้นมิให้ถือว่าทําให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาจําเลยเสียเปรีสํยานับกเว้ นแต่จําเลยได้หลงต่อสูก้ใานข้อที่ผิดหรือสํทีา่มนัิไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กล่าวไว้นั้น กา

๑๐๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๕ ในคดีซึ่งพนักงานอัยการเป็ นโจทก์ ในวันไต่สวนมูลฟ้อง ให้จําเลย
มาหรือคุมตัวมาศาล ให้ศาลส่งสําเนาฟ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
องแก่จําเลยรายตัวไป เมื่อศาลเชื่อว่าเป็นสําจํนัากเลยจริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งแล้ว ให้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อ่านและอธิบายฟ้องให้ฟัง และถามว่าได้กระทําผิดจริงหรือไม่ จะให้การต่อสู้อย่างไรบ้าง คําให้การ
ของจําเลยให้จดไว้สําถ้นัากจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเลยไม่ยอมให้การก็ให้กศา าลจดรายงานไว้
สํานักและดํ าเนินการต่อไป กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
จําเลยไม่มีอํานาจนําพยานมาสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิใน
สํานักการที ่จําเลยจะมีทนายมาช่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วยเหลือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ศาลมีอํานาจไต่สวนมูลฟ้องลับหลังจําเลย ให้ศาลส่งสําเนา
ฟ้องแก่จําเลยรายตั
สําวนัไป กับแจ้งวันนัดไต่สวนให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาจําเลยทราบ สํจําานัเลยจะมาฟั งการไต่สวนมูกลาฟ้อง โดยตั้ง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทนายให้ซักค้านพยานโจทก์ด้วยหรือไม่ก็ได้ หรือจําเลยจะไม่มา แต่ตั้งทนายมาซักค้านพยานโจทก์ก็ได้
สํานักห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ามมิให้ศาลถามคําให้กการจํ า าเลย และก่สําอนันที ่ศาลประทับฟ้องมิให้ถกือาว่าจําเลยอยู่ในฐานะเช่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๖ ถ้าโจทก์ไม่มาตามกําหนดนัด ให้ศาลยกฟ้องเสีย แต่ถ้าศาลเห็นว่า
สํานักมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
เหตุสมควรจึงมาไม่ได้กจะสั
า ่งเลื่อนคดีสํไปก็
านักได้งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คดีที่ศาลได้ยกฟ้องดังกล่าวแล้ว ถ้าโจทก์มาร้องภายในสิบห้าวัน นับ แต่วันศาล
ยกฟ้องนั้น โดยแสดงให้ ศาลเห็นได้ว่ามีเหตุสมควรจึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งมาไม่ได้สําก็นัใกห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลยกคดีนั้นขึ้นไต่สวนมู กา ลฟ้องใหม่
ในคดีที่ศาลยกฟ้องดังกล่าวแล้ว จะฟ้องจําเลยในเรื่องเดียวกันนั้นอีกไม่ได้ แต่ถ้าศาล
สํานักยกฟ้ องเช่นนี้ในคดีซึ่งราษฎรเท่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา านั้นเป็สํนานัโจทก์ ไม่ตัดอํานาจพนักงานอั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยการฟ้องคดี สํานันกั้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
อีก เว้นแต่จะ กา
เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๗ ถ้าปรากฏว่าคดีมีมูล ให้ศาลประทับฟ้องไว้พิจารณาต่อไปเฉพาะ
สํานักกระทงที ่มีมูล ถ้าคดีไม่มกีมาูล ให้พิพากษายกฟ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๑
มาตรา ๑๖๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๖) พ.ศ.กา๒๔๙๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๖๘ เมื่อศาลประทั


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บฟ้องแล้ว ให้ส่งกสําาเนาฟ้องให้แสําก่นัจกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เลยรายตัวไป กา
เว้นแต่จําเลยจะได้รับสําเนาฟ้องไว้ก่อนแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๙ เมื่ อ ศาลประทั บ ฟ้ อ งแล้ ว แต่ ยั ง ไม่ ไ ด้ ตั ว จํ า เลยมา ให้ ศ าลออก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเรียกหรือหมายจับมาแล้วแต่ควรอย่างใดเพื่อพิจารณาต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๐ คําสั่งของศาลที่ให้คดีมีมูลย่อมเด็ดขาด แต่คําสั่งที่ว่าคดีไม่มีมูลนั้น
สํานักโจทก์ มีอํานาจอุทธรณ์ฎกีกาาได้ตามบทบัสํญาญันักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ิว่าด้วยลักษณะอุทธรณ์กฎาีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าโจทก์ร้องขอศาลจะขังจําเลยไว้หรือปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ฎีกาก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๑ ให้นําบทบัญญัติว่าด้วยการสอบสวนและการพิจารณาเว้นแต่มาตรา
สํานัก๑๗๕ มาบังคับแก่การไต่กสา วนมูลฟ้องโดยอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักโงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลม กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นําบทบัญญัติในมาตรา ๑๓๓ ทวิ และมาตรา ๑๗๒ ตรี มาใช้บังคับโดยอนุโลมแก่
การไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่พยานเป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปีสําทันัก้งในคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่ราษฎรเป็นโจทก์และในคดีที่
๑๐๒
พนักงานอัยการเป็นโจทก์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกลัากษณะ ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การพิจารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๒ การพิจารณาและสื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บพยานในศาล ให้ทําโดยเปิดเผยต่กอาหน้าจําเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เว้นแต่บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เมื่อโจทก์
กา ห รื อ ทนายโจทก์ และจําเลยมาอยู่ ต่อหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าศาลแล้ ว และศาลเชื ่อว่าเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จําเลยจริง ให้อ่านและอธิบายฟ้องให้จําเลยฟัง และถามว่าได้กระทําผิดจริงหรือไม่ จะให้การต่อสู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อย่ า งไรบ้ า ง คํ า ให้ ก ารของจํ า เลยให้ จ ดไว้ ถ้ า จํ า เลยไม่ ย อมให้ ก าร ก็ ใ ห้ ศ าลจดรายงานไว้ แ ละ
สํานักดํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเนินการพิจารณาต่อไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการสืบพยาน เมื่อได้พิเคราะห์ถึงเพศ อายุ ฐานะ สุขภาพอนามัย ภาวะแห่งจิต
ของพยานหรือความเกรงกลั วที่พยานมีต่อจํากเลยแล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ว จะดําเนิ สํานนักการโดยไม่ ให้พยานเผชิญกหน้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าโดยตรง
กับจําเลยก็ได้ซึ่งอาจกระทําโดยการใช้โทรทัศน์วงจรปิด สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นตามที่กําหนดใน
สํานักข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อบังคับของประธานศาลฎี กา กา และจะให้
สํานัสกอบถามผ่ านนักจิตวิทยากนัา กสังคมสงเคราะห์
งานคณะกรรมการกฤษฎี หรือบุคคลอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๑๐๓
ที่พยานไว้วางใจด้วยก็ได้
สํในการสื บพยาน ให้มีการบันกาทึกคําเบิกความพยานโดยใช้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วิธีการบันทึกกลงในวั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สดุ ซึ่ง
สามารถถ่ายทอดออกเป็นภาพและเสียงซึ่งสามารถตรวจสอบถึงความถูกต้องของการบันทึกได้ และให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๒
มาตรา ๑๗๑ วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๐) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๔๒ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๓
มาตรา ๑๗๒ วรรคสาม เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาใช้การบันทึกดังกล่าวประกอบการพิจารณาคดีด้วย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ


สํานักและเงื ่อนไขที่กําหนดในข้กาอบังคับของประธานศาลฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา๑๐๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อบังคับของประธานศาลฎีกาตามวรรคสามและวรรคสี่ เมื่อได้รับความเห็นชอบ
จากที่ประชุมใหญ่ขานัองศาลฎี
สํ กาและประกาศในราชกิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จจานุเบกษาแล้ วให้ใช้บังคับได้๑๐๕ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรา ๑๗๒ ทวิ๑๐๖ ภายหลังที่ศาลได้ดําเนินการตามมาตรา ๑๗๒ วรรค ๒ แล้ว


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อศาลเห็นเป็นการสมควร เพื่อให้การดําเนินกการพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า จารณาเป็ สํานนัไปโดยไม่ ชักช้า ศาลมีอํากนาจพิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า จารณา
และสืบพยานลับหลังจําเลยได้ในกรณี ดังต่อไปนี้
(๑)๑๐๗กาในคดีมีอัตราโทษจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าคุกอย่างสูงไม่เกินสิบกปีา จะมีโทษปรัสํบานัด้กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยหรือไม่ก็ตาม กา
หรือในคดีมีโทษปรับสถานเดียว เมื่อจําเลยมีทนายและจําเลยได้รับอนุญาตจากศาลที่จะไม่มาฟังการ
พิจารณาและการสืสําบนัพยาน
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ในคดีที่มีจําเลยหลายคน ถ้าศาลพอใจตามคําแถลงของโจทก์ว่า การพิจารณา
สํานักและการสื บพยานตามทีก่โาจทก์ขอให้กระทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากไม่ เกี่ยวแก่จําเลยคนใดกาศาลจะพิจารณาและสื
งานคณะกรรมการกฤษฎี บพยานลับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หลังจําเลยคนนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ในคดีที่มีจําเลยหลายคน ถ้าศาลเห็นสํสมควรจะพิานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จารณาและสืบพยานจําเลย
คนหนึ่ง ๆ ลับหลังจําเลยคนอื่นก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในคดีที่ศาลพิจารณาและสืบพยานตาม (๒) หรือ (๓) ลับหลังจําเลยคนใด ไม่ว่ากรณี
จะเป็นประการใดสํานัห้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
มมิให้ศาลรับฟังการพิกจาารณา และการสื สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
พยาน ที่กระทําลับหลักางนั้นเป็นผล
เสียหายแก่จําเลยคนนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๘
มาตรา ๑๗๒ ตรี เว้นแต่ในกรณีที่จําเลยอ้างตนเองเป็นพยาน ในการสืบพยานที่
เป็นเด็กอายุไม่เกิสํนานัสิกบงานคณะกรรมการกฤษฎี
แปดปี ให้ศาลจัดให้พกยานอยู
า ่ในสถานที
สํานั่ทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่เหมาะสมสําหรับเด็ก กและศาลอาจ

ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(๑) ศาลเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นผู้ ถามพยานเอง โดยแจ้งให้พยานนัก้ นาทราบประเด็สํนาและข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อเท็จจริงซึ่ ง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต้องการสืบแล้วให้พยานเบิกความในข้อนั้น ๆ หรือศาลจะถามผ่านนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ให้คู่ความถาม ถามค้าน หรือถามติงผ่านนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์
ในการเบิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กความของพยานดั งกล่าวตามวรรคหนึก่งา ให้มีการถ่ายทอดภาพและเสี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไปยังห้องพิจารณาด้วย และเป็นหน้าที่ของศาลที่จะต้องแจ้งให้นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ทราบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๔
มาตรา ๑๗๒ วรรคสี่ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๕
มาตรา ๑๗๒ วรรคห้า เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๖
มาตรา ๑๗๒ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๔๙๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๗
มาตรา ๑๗๒ ทวิ (๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํ
วิธีพิจารณาความอาญา (ฉบั านั ก งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๒๗กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๘
มาตรา ๑๗๒ ตรี แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธี พิ จ ารณาความอาญา (ฉบั กา บ ที่ ๒๖) พ.ศ.
สํานั๒๕๕๐
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ก่อนการสืบพยานตามวรรคหนึ่ง ถ้าศาลเห็นสมควรหรือถ้าพยานที่เป็นเด็กอายุ
สํานักไม่ เกินสิบแปดปีหรือคู่คกวามฝ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ายใดฝ่ายหนึ สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ร้องขอโดยมีเหตุผลอันกสมควรซึ า ่งเมื่อพิสําจนัารณาแล้ วเห็นว่า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จะเป็นผลร้ายแก่เด็กถ้าไม่อนุญาตตามที่ร้องขอ ให้ศาลจัดให้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงคําให้การ
ของผู้เสียหายหรือสํพยานที ่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิกบาแปดปีที่ได้บันสํทึานักกไว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในชั้นสอบสวนตามมาตรา กา ๑๓๓ ทวิ
หรือชั้นไต่สวนมูลฟ้องตามมาตรา ๑๗๑ วรรคสอง ต่อหน้าคู่ความและในกรณีเช่นนี้ให้ถือสื่อภาพและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เสียงคําให้การของพยานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของคําเบิกความของพยานนั้นในชั้นพิจารณาของศาล
โดยให้คู่ความถามพยานเพิ ่มเติม ถามค้านหรือกาถามติงพยานได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักทังานคณะกรรมการกฤษฎี
้งนี้ เท่าที่จําเป็นและภายในขอบเขต
กา
ที่ศาลเห็นสมควร
ในกรณีกาที่ไม่ได้ตัวพยานมาเบิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กความตามวรรคหนึก่งาเพราะมีเหตุจําสํเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านันกอย่ างยิ่งให้ศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รับฟังสื่อภาพและเสียงคําให้การของพยานนั้นในชั้นสอบสวนตามมาตรา ๑๓๓ ทวิ หรือชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
ตามมาตรา ๑๗๑สํวรรคสอง เสมือนหนึ่งเป็นคํกาาเบิกความของพยานนั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นในชั้นพิจารณาของศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และให้
ศาลรับฟังประกอบพยานอื่นในการพิจารณาพิพากษาคดีได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๒ จัตวา๑๐๙ ให้นําบทบัญญัติในมาตรา ๑๗๒ ตรี มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แก่การสืบพยานนอกศาลในคดี ที่พยานเป็นเด็กอายุไม่เกินสิบสํแปดปี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๗๓๑๑๐ ในคดีที่มีอัตราโทษประหารชีวิต หรือในคดีที่จําเลยมีอายุไม่เกิน
สิบแปดปีในวันทีสํ่ถาูกนัฟ้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งต่อศาล ก่อนเริ่มพิจการณาให้
า ศาลถามจํ
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
เลยว่ามีทนายความหรืกาอไม่ ถ้าไม่มี
ก็ให้ศาลตั้งทนายความให้
ในคดีทกาี่มีอัตราโทษจําสํคุานักกก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อนเริ่มพิจารณาให้ศาลถามจํ
กา าเลยว่ามีสําทนันายความหรื อไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าไม่มีและจําเลยต้องการทนายความ ก็ให้ศาลตั้งทนายความให้
สํให้
านัศกาลจ่ ายเงินรางวัลและค่ากใช้า จ่ายแก่ทนายความที
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่ศาลตั้งตามมาตรานีก้ าโดยคํานึงถึง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สภาพแห่งคดีแ ละสภาวะทางเศรษฐกิ จ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดโดยความเห็นชอบจากกระทรวงการคลั
กา ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑๑๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๓/๑ เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็น
สํานักธรรมในคดี ที่จําเลยไม่ให้กกา ารหรือให้การปฏิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
สธ เมื่อคู่ความฝ่ายใดฝ่กาายหนึ่งร้องขอหรื
สํานัอกศาลเห็ นสมควร
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ศาลอาจกําหนดให้มีวันตรวจพยานหลักฐานก่อนกําหนดวันนัดสืบพยานก็ได้ โดยแจ้งให้คู่ความทราบ
ล่วงหน้าไม่น้อยกว่สําานัสิกบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สี่วัน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก่อนวันตรวจพยานหลักฐานตามวรรคหนึ่งไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ให้คู่ความยื่นบัญชีระบุ
สํานักพยานต่ อศาลพร้อมสําเนาในจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา านวนที่เสํพีายนังพอ เพื่อให้คู่ความฝ่ายอืก่นารับไปจากเจ้าพนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกงานศาลและถ้ า
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๙
มาตรา ๑๗๒ จัตวา เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๐
มาตรา ๑๗๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๒) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๔๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๑
มาตรา ๑๗๓/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

คู่ความฝ่ายใดมีความจํานงจะยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม ให้ยื่นต่อศาลก่อนการตรวจพยานหลักฐาน
สํานักเสร็ จสิ้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อล่วงพ้นระยะเวลาตามวรรคสองจะกระทําได้ต่อเมื่อ
ได้รับอนุญาตจากศาลสํ เมื่อผู้ร้องขอแสดงเหตุกอาันสมควรว่าไม่สํสานัามารถทราบถึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งพยานหลักกาฐานนั้นหรือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นกรณีจําเป็นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม หรือเพื่อให้โอกาสแก่จําเลยในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าพยานเอกสารหรือพยานวัตถุใดอยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอก ให้
คู่ค วามที่ป ระสงค์สําจนัะอ้ า งอิ ง ขอให้ ศ าลมีคํา สักา่ง เรีย กพยานเอกสารหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี อ พยานวั ต ถุ ดั งกกล่า า วมาจาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ค รอบครองโดยยื่นคําขอต่อศาลพร้อมกับการยื่นบัญชีระบุพยาน เพื่อให้ได้พยานเอกสารหรือพยาน
สํานักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตถุนั้นมาก่อนวันตรวจพยานหลั
กา กฐานหรืสํานัอกวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นที่ศาลกําหนด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๓/๒๑๑๒ ในวันกตรวจพยานหลั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํากนัฐาน ให้คู่ความส่งพยานเอกสารและ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พยานวัตถุที่ยังอยู่ในความครอบครองของตนต่อศาลเพื่อให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตรวจสอบ เว้นแต่ศาล
สํานักจะมี คํ า สั่ ง เป็ น อย่ า งอืก่ นาอั น เนื่ อ งจากสภาพและความจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า เป็ น แห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง พยานหลั สํกาฐานนั ้ น เอง หรื อ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พยานหลักฐานนั้นเป็นบันทึกคําให้การของพยาน หลังจากนั้นให้คู่ความแต่ละฝ่ายแถลงแนวทางการ
เสนอพยานหลักสํฐานต่ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อศาล และให้ศาลสอบถามคู่ความถึสํางนัความเกีกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ยวข้องกับประเด็นและความ
จําเป็นที่ต้องสืบพยานหลักฐานที่อ้างอิสํงตลอดจนการยอมรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บพยานหลักฐานของอีกสํฝ่านัากยหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ง เสร็จแล้ว
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ศาลกําหนดวันสืบพยาน และแจ้งให้คู่ความทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ในกรณีที่โจทก์ไม่มา
ศาลในวันตรวจพยานหลั กฐานให้นําบทบัญญักตาิมาตรา ๑๖๖ สํมาใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บังคับโดยอนุโลม กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในกรณีจําเป็นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม เมื่อศาลเห็นสมควรหรือคู่ความฝ่าย
สํานักหนึ ่งฝ่ายใดร้องขอ ศาลจะมี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา คําสั่งให้สืบสําพยานหลั กฐานที่เกี่ยวกับประเด็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นสําคัญในคดีสํานักไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ว้ล่วงหน้าก่อน กา
ถึงกําหนดวันนัดสืบพยานก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๔ ก่อนนําพยานเข้าสืบ โจทก์มีอํานาจเปิดคดีเพื่อให้ศาลทราบคดีโจทก์
สํานักคืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อแถลงถึงลักษณะของฟ้ กา อง อีกทั้งพยานหลั กฐานที่จะนําสืบเพื่อพิกาสูจน์ความผิดของจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าเลยเสร็จแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้โจทก์นําพยานเข้าสืบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อสืบพยานโจทก์แล้ว จําเลยมีอํานาจเปิดคดีเพื่อให้ศาลทราบคดีจําเลย โดยแถลง
สํานักข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายซึ กา ่งตั้งใจอ้าสํงอิ
านังกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทั้งแสดงพยานหลักฐานที กา ่จะนําสืบ เสร็
สําจนัแล้ วให้จําเลยนํา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พยานเข้าสืบ
สํเมืานั่อกสืงานคณะกรรมการกฤษฎี
บพยานจําเลยเสร็จแล้กวา โจทก์และจําสํเลยมี อํานาจแถลงปิดคดีของตนด้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วยปาก
หรือหนังสือหรือทั้งสองอย่าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีในระหว่ กา างพิจารณา สํถ้าานัศาลเห็ นว่าไม่จําเป็นต้องสืกาบพยานหรือทํสําาการอะไรอี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กจะสั่ง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
งดพยานหรือการนั้นเสียก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๕ เมื่อโจทก์สืบพยานเสร็จแล้ว ถ้าเห็นสมควรศาลมีอํานาจเรียกสํานวน
สํานักการสอบสวนจากพนั กงานอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยการมาเพืสํ่อาประกอบการวิ นิจฉัยได้ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๒
มาตรา ๑๗๓/๒ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๒๒) กพ.ศ.
า ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๗๖ ๑๑๓ ในชั


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้ นกพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จารณา ถ้าจํา เลยให้กกาารรับสารภาพตามฟ้ อง ศาลจะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปก็ได้ เว้นแต่คดีที่มีข้อหาในความผิดซึ่งจําเลยรับสารภาพนั้น
กฎหมายกําหนดอัสําตนัราโทษอย่ างต่ําไว้ให้จําคุกกาตั้งแต่ห้าปีขึ้นสํไปหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี อโทษสถานที่หนักกว่ากนัา ้น ศาลต้อง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจําเลยได้กระทําผิดจริง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในคดีที่มีจําเลยหลายคน และจําเลยบางคนรับสารภาพ เมื่อศาลเห็นสมควรจะสั่ง
จําหน่ายคดี สําหรัสําบนัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
เลยที่ปฏิเสธเพื่อให้โจทก์กา ฟ้องจําเลยทีสํ่ปานัฏิกเสธนั ้น เป็นคดีใหม่ภายในเวลาที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ศาล
กําหนดก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๗ ศาลมีอํานาจสั่งให้พิจารณาเป็นการลับ เมื่อเห็นสมควรโดยพลการ
หรือโดยคําร้องขอของคู ่ความฝ่ายใด แต่ต้องเพื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อประโยชน์แสํห่านังกความสงบเรี ยบร้อยหรือกศีาลธรรมอันดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ของประชาชน หรือเพื่อป้องกันความลับอันเกี่ยวกับความปลอดภัยของประเทศมิให้ล่วงรู้ถึงประชาชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๘ เมื่อมีการพิจารณาเป็นการลับ บุคคลเหล่านี้เท่านั้นมีสิทธิอยู่ในห้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิจารณาได้ คือ
(๑) โจทก์และทนาย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) จําเลยและทนาย
สํ(๓)
านักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ควบคุมตัวจําเลย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) พยานและผู้ชํานาญการพิเศษ
(๕) ล่ากมา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) บุคคลผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องและได้รับอนุญาตจากศาล
สํ(๗)
านักพนั กงานศาลและเจ้าหน้กาาที่รักษาความปลอดภั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยแก่ศาลแล้วแต่จะเห็กานสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา ๑๗๙ ภายใต้


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานับกั งงานคณะกรรมการกฤษฎี
คั บ แห่ ง ประมวลกฎหมายนี
กา ้ ห รื อ กฎหมายอื ่ น ศาลจะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดําเนินการพิจารณาตลอดไปจนเสร็จโดยไม่เลื่อนก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าพยานไม่มา หรือมีเหตุอื่นอันควรต้องเลื่อนการพิจารณา ก็ให้ศาลเลื่อนคดีไป
สํานักตามที ่เห็นสมควร
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๘๐ ให้นําบทบัญญักาติเรื่องรักษาความเรี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยบร้อยในศาลในประมวลกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วิธีพิจารณาความแพ่งมาบังคับแก่การพิจารณาคดีอาญาโดยอนุโลม แต่ห้ามมิให้สั่งให้จําเลยออกจาก
สํานักห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องพิจารณา เว้นแต่จํากเลยขั
า ดขวางการพิ
สํานัจการณา
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๘๑ ให้นําบทบัญญักาติในมาตรา ๑๓๙


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักและ ๑๖๖ มาบังคับแก่กกาารพิจารณา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๓
มาตรา ๑๗๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๖) พ.ศ.กา๒๔๙๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ลักษณะ ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สําคํนัากพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
พากษาและคําสั่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๒ ๑๑๔ คดี ที่ อ ยู่ ใ นระหว่ า งไต่ ส วนมู ล ฟ้ อ งหรื อ พิ จ ารณา ถ้ า มี คํ า ร้ อ ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระหว่างพิจารณาขึ้นมา ให้ศาลสั่งตามที่เห็นควร เมื่อการพิจารณาเสร็จแล้ว ให้พิพากษาหรือสั่งตาม
รูปความ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้อ่านคําพิพากษาหรือคําสั่งในศาลโดยเปิดเผยในวันเสร็จการพิจารณา หรือภายใน
สํานักเวลาสามวั นนับแต่เสร็จกคดีา ถ้ามีเหตุอันสํสมควร
งานคณะกรรมการกฤษฎี จะเลื่อนไปอ่านวันอืก่นาก็ได้ แต่ต้องจดรายงานเหตุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นั้นไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เมื่อศาลอ่านให้คู่ความฟังแล้ว ให้คู่ความลงลายมือชื่อไว้ ถ้าเป็นความผิดของโจทก์ที่
ไม่มา จะอ่านโดยโจทก์ ไม่อยู่ก็ได้ ในกรณีที่จํากเลยไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อยู่ โดยไม่
สํานัมกีเงานคณะกรรมการกฤษฎี
หตุสงสัยว่าจําเลยหลบหนี
กา หรือจงใจ
ไม่มาฟัง ก็ให้ศาลรอการอ่านไว้จนกว่าจําเลยจะมาศาล แต่ถ้ามีเหตุสงสัยว่าจําเลยหลบหนีหรือจงใจ
สํานักไม่ มาฟัง ให้ศาลออกหมายจั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บจําเลยสํเมื านั่อกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ออกหมายจับแล้วไม่กาได้ตัวจําเลยมาภายในหนึ ่งเดือน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นับแต่วันออกหมายจับ ก็ให้ศาลอ่านคําพิพากษาหรือคําสั่งลับหลังจําเลยได้ และให้ถือว่าโจทก์หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จําเลย แล้วแต่กรณี ได้ฟังคําพิพากษาหรือคําสั่งนั้นแล้ว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่คําพิพากษาหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อคําสั่งต้องเลื่อนอ่านไปโดยขาดจําเลยบางคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าจําเลยที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อยู่จะถูกปล่อย ให้ศาลมีอํานาจปล่อยชั่วคราวระหว่างรออ่านคําพิพากษาหรือคําสั่งนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๓ คํ า พิ พ ากษา หรื อ คํ า สั่ ง หรื อ ความเห็ น แย้ ง ต้อ งทํ า เป็ น หนั ง สื อ ลง
สํานักลายมื อชื่อผู้พิพากษาซึก่งานั่ งพิจารณา สํผูานั้ พกิพงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ากษาใดที่นั่งพิ จารณากา ถ้าไม่เห็ นพ้อสํงด้
านักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย มีอํานาจทํ า กา
ความเห็นแย้ง คําแย้งนี้ให้รวมเข้าสํานวนไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๔ ในการประชุมปรึกษาเพื่อมีคําพิพากษาหรือคําสั่ง ให้อธิบดีผู้พิพากษา
สํานักข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหลวงยุติธรรม หัวหน้กาา ผู้พิพากษาในศาลนั ้นหรือเจ้าของสํานวนเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นประธาน สํถามผู ้พิพากษาที่นั่ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พิจารณาทีละคน ให้ออกความเห็นทุกประเด็นที่จะวินิจฉัย ให้ประธานออกความเห็นสุดท้าย การ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วินิจฉัยให้ถือตามเสียงข้างมาก ถ้าในปัญหาใดมีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่ายหรือเกินกว่าสองฝ่าย
สํานักขึงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นไป จะหาเสียงข้างมากมิ
กา ได้ ให้ผู้พสํิพาากษาซึ ่งมีความเห็นเป็นผลร้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ายแก่จําเลยมากยอมเห็ นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จําเลยน้อยกว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๕ ถ้าศาลเห็นว่าจําเลยมิได้กระทําผิดก็ดี การกระทําของจําเลยไม่เป็น
สํานักความผิ ดก็ดี คดีขาดอายุกคาวามแล้วก็ดี มีสํเาหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี นักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ามกฎหมายที่จําเลยไม่กาควรต้องรับโทษก็
สํานัดกี งานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ศาลยกฟ้อง กา
โจทก์ปล่อยจําเลยไป แต่ศาลจะสั่งขังจําเลยไว้หรือปล่อยชั่วคราวระหว่างคดียังไม่ถึงที่สุดก็ได้
สํเมืานั่อกศาลเห็ นว่าจําเลยได้กระทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าผิด และไม่
สํามนัีกการยกเว้ นโทษตามกฎหมาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้ศาล
ลงโทษแก่จําเลยตามความผิด แต่เมื่อเห็นสมควรศาลจะปล่อยจําเลยชั่วคราวระหว่างคดียังไม่ถึงที่สุด
สํานักก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๔
มาตรา ๑๘๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๖) พ.ศ.กา๒๔๙๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๘๖ คําพิพสํากษาหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อคําสั่งต้องมีข้อสําคักญา เหล่านี้เป็นอย่สําานังน้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี อย กา
(๑) ชื่อศาลและวันเดือนปี
สํ(๒)
านักคดี ระหว่างใครโจทก์ใครจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาาเลย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) เรื่อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ข้อหาและคําให้การ
สํ(๕)
านักข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อเท็จจริงซึ่งพิจารณาได้กาความ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) เหตุผลในการตัดสินทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
(๗) บทมาตราที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ยกขึ้นสําปรั
นักบงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๘) คําชี้ขาดให้ยกฟ้องหรือลงโทษ
สํ(๙)
านักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าวินิจฉัยของศาลในเรื่อกางของกลางหรืสํอาในเรื ่องฟ้องทางแพ่ง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คําพิพากษาในคดีที่เกี่ยวกับความผิดลหุโทษ ไม่จําต้องมีอนุมาตรา (๔) (๕) และ (๖)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๗ คําสั่งระหว่างพิจารณาอย่างน้อยต้องมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) วันเดือนปี
(๒) เหตุผลตามกฎหมายในการสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) คําสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๘ คําพิพากษาหรือคําสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ได้อ่านในศาลโดยเปิดเผยเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๙ เมื่อจําเลยซึ่งต้อ งคําพิพ ากษาให้ล งโทษเป็น คนยากจนขอสํา เนา
คําพิพากษาซึ่งรับสํรองว่ าถูกต้อง ให้ศาลคัดสํกาาเนาให้หนึ่งฉบัสําบนัโดยไม่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี คิดค่าธรรมเนียมกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๑๙๐ ห้ามมิสํให้านัแกก้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ไขคําพิพากษาหรือคําสัก่งาซึ่งอ่านแล้ว นอกจากแก้ ถ้อยคําที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เขียนหรือพิมพ์ผิดพลาด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๙๑ เมื่อเกิสํดาสงสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยในการบังคับตามคํากพิาพากษาหรือคํสําาสันั่งกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าบุคคลใดที่มี กา
ประโยชน์เกี่ยวข้องร้องต่อศาลซึ่งพิพากษาหรือสั่ง ให้ศาลนั้นอธิบายให้แจ่มแจ้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๕
มาตรา ๑๙๒ ห้ามมิให้พิพากษา หรือสั่ง เกินคําขอ หรือที่มิได้กล่าวในฟ้อง
ถ้าศาลเห็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นว่าข้อเท็จสํจริ
านังกตามที ่ปรากฏในการพิจการณาแตกต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า างกั
สํานับกข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อเท็จจริงดังที่ กา
กล่าวในฟ้อง ให้ศาลยกฟ้องคดีนั้น เว้นแต่ข้อแตกต่างนั้นมิใช่ในข้อสาระสําคัญและทั้งจําเลยมิได้หลง
ต่อสู้ ศาลจะลงโทษจํ
สํานักาเลยตามข้ อเท็จจริงที่ได้กคาวามนั้นก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ในกรณีที่ข้อแตกต่างนั้นเป็นเพียงรายละเอียด เช่น เกี่ยวกับเวลาหรือสถานที่กระทํา
สํานักความผิ ดหรือต่างกันระหว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา างการกระทํ สําานัผิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฐานลักทรัพย์ กรรโชกกา รีดเอาทรัพย์สําฉ้นัอกโกง โกงเจ้าหนี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๕
มาตรา ๑๙๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๒๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ยักยอก รับของโจร และทําให้เสียทรัพย์ หรือต่างกันระหว่างการกระทําผิดโดยเจตนากับประมาท


สํานักมิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ถือว่าต่างกันในข้อสาระสํกา าคัญ ทั้งสํมิาในัห้กถงานคณะกรรมการกฤษฎี
ือว่าข้อที่พิจารณาได้คกวามนั
า ้นเป็นเรื่อสํงเกิ
านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
คําขอหรือเป็น กา
เรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ เว้นแต่จะปรากฏแก่ศาลว่าการที่ฟ้องผิดไปเป็นเหตุให้จําเลยหลงต่อสู้
แต่ทั้งนี้ ศาลจะลงโทษจํ าเลยเกินอัตราโทษที่กกฎหมายกํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าหนดไว้ หรับความผิดที่โจทก์ฟก้อางไม่ได้๑๑๖
สํานัสกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้าศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงบางข้อดังกล่าวในฟ้อง และตามที่ปรากฏในทางพิจารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ ห้ามมิให้ศาลลงโทษจําเลยในข้อเท็จจริงนั้น ๆ
สํถ้าานัศาลเห็ นว่าข้อเท็จจริงตามฟ้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องนั้นโจทก์สํสาืบนักสม แต่โจทก์อ้างฐานความผิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดหรือบท
มาตราผิด ศาลมีอํานาจลงโทษจําเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าความผิกา ดตามที่ฟ้อสํงนัานั้นกรวมการกระทํ าหลายอย่กาาง แต่ละอย่างอาจเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี นความผิดได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อยู่ในตัวเอง ศาลจะลงโทษจําเลยในการกระทําผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่พิจารณาได้ความก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภาค ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานัอุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธรณ์ และฎีกา กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อุทธรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลักทั่วไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๙๓ คดี อสํุทานัธรณ์


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี คํา พิพ ากษาหรื อ คํากสัา ่ ง ศาลชั้น ต้ นสํในข้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
เท็ จ จริง และ กา
ข้อกฎหมายให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ เว้นแต่จะถูกห้ามอุทธรณ์โดยประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อุทธรณ์ทุกฉบับต้องระบุข้อเท็จจริงโดยย่อหรือข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงเป็นลําดับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓ ทวิ๑๑๗ ห้ามมิให้อุทธรณ์คําพิพากษาศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง
ในคดีซึ่งอัตราโทษอย่
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งสูงตามที่กฎหมายกําหนดไว้
กา ให้จําคุกไม่สํานัเกิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สามปี หรือปรับไม่เกินกหกหมื
า ่นบาท
หรือทั้งจําทั้งปรับ เว้นแต่กรณีต่อไปนี้ให้จําเลยอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๑) จํากเลยต้
า องคําพิพสํากษาให้ ลงโทษจําคุกหรือให้กลางโทษกักขังแทนโทษจํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าคุก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๒) จําเลยต้องคําพิพากษาให้ลงโทษจําคุก แต่ศาลรอการลงโทษไว้
สํ(๓)
านักศาลพิ พากษาว่าจําเลยมีกคาวามผิด แต่รอการกํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี าหนดโทษไว้ หรือ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๔) จําเลยต้องคําพิพากษาให้ลงโทษปรับเกินหนึ่งพันบาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๖
มาตรา ๑๙๒ วรรคสาม แก้ไ ขเพิ ่ม เติม โดยพระราชบัญ ญัต ิแ ก้ไ ขเพิ ่ม เติม ประมวล
สํ านั
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ก งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ.กา๒๕๓๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๗
มาตรา ๑๙๓ ทวิ แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธี พิ จ ารณาความอาญา (ฉบั กา บ ที่ ๑๗) พ.ศ.สํานั๒๕๓๒
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๙๓ ตรี๑๑๘สําในคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ตกามมาตรา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ๑๙๓สํานัทวิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้าผู้พิพากษา กา
คนใดซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคําพิพากษาหรือทําความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นพิเคราะห์เห็นว่าข้อความ
ที่ตัดสินนั้นเป็นปัสํญานัหาสํ าคัญอันควรสู่ศาลอุทกธรณ์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า และอนุญสําตให้ อุทธรณ์หรืออธิบดีกรมอั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยการหรือ
พนักงานอัยการซึ่งอธิบดีกรมอัยการได้มอบหมายลงลายมือชื่อรับรองในอุทธรณ์ว่า มีเหตุอันควรที่ศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อุทธรณ์จะได้วินิจฉัยก็ให้รับอุทธรณ์นั้นไว้พิจารณาต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๔ ถ้ า มี อุ ท ธรณ์ แ ต่ ใ นปั ญ หาข้ อ กฎหมาย ในการวิ นิ จ ฉั ย ปั ญ หา
สํานักข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อกฎหมายนั้น ๆ ศาลอุกทา ธรณ์จะต้องฟัสํงาข้นัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้กนาวินิจฉัยมาแล้วสํจากพยานหลั กฐาน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในสํานวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๕ ข้อกฎหมายทั้งปวงอันคู่ความอุทธรณ์ร้องอ้างอิงให้แสดงไว้โดยชัดเจน
สํานักในฟ้ องอุทธรณ์ แต่ต้องเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กานข้อที่ได้ยกขึสํ้นามาว่ ากันมาแล้วแต่ในศาลชัก้นา ต้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้ อ กฎหมายที่ เ กี่ ย วกั บ ความสงบเรี ย บร้ อ ย หรื อ ที่ เ กี่ ย วกั บ การไม่ ป ฏิ บั ติ ต าม
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้อันว่าด้วยอุทธรณ์ เหล่านีสํ้ผานัู้อกุทงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธรณ์หรือศาลยกขึ้นอ้ากงได้ า
แม้ว่าจะ
ไม่ได้ยกขึ้นในศาลชั้นต้นก็ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๙๖ คําสั่งระหว่ากงพิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า จารณาที่ไม่สําทนัํากให้ คดีเสร็จสํานวน ห้ามมิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้อุทธรณ์
คําสั่งนั้นจนกว่าจะมีคําพิพากษาหรือคําสั่งในประเด็นสําคัญและมีอุทธรณ์คําพิพากษาหรือคําสั่งนั้น
สํานักด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๙๗ เหตุที่มีอุทธรณ์


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาคําพิพากษาหรื
สํานัอกคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าสั่งฉบับหนึ่งแล้ว หาเป็กานผลตัดสิทธิ
ผู้อื่นซึ่งมีสิทธิอุทธรณ์ จะอุทธรณ์ด้วยไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๘๑๑๙ การยื่นอุทธรณ์ ให้ยื่นต่อศาลชั้นต้นในกําหนดหนึ่งเดือนนับแต่วัน
อ่าน หรือถือว่าได้อ่านคําพิพากษาหรือคําสั่งให้คู่ความฝ่ายที่อุทธรณ์ฟัง๑๒๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้เป็นกหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าที่ศาลชั้นสํต้านันกตรวจอุ ทธรณ์ว่าควรจะรักาบส่งขึ้นไปยังสํศาลอุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ทธรณ์หรือไม่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ถ้าเห็นว่าไม่ควรรับให้จดเหตุผลไว้ในคําสั่งของศาลนั้นโดย
ชัดเจน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๘
มาตรา ๑๙๓ ตรี เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๑๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๙
มาตรา ๑๙๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํ านั ก
ความอาญา (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.งานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๑๗ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๐
มาตรา ๑๙๘ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธีพิจารณาความอาญา (ฉบั กาบที่ ๑๗) พ.ศ. สํ๒๕๓๒
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๙๘ ทวิ๑๒๑ เมื่อศาลชั้นต้นปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ ผู้อุทธรณ์อาจอุทธรณ์


สํานักเป็ นคําร้องอุทธรณ์คําสัก่งของศาลนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ้นต่สํอาศาลอุ ทธรณ์ได้ คําร้องเช่นกนีา้ให้ยื่นที่ศาลชัสํ้นาต้นันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ภายในกําหนด กา
สิบห้าวันนับแต่วันฟังคําสั่ง แล้วให้ศาลนั้นรีบส่งคําร้องเช่นว่านั้นไปยังศาลอุทธรณ์พร้อมด้วยอุทธรณ์
และคําพิพากษาหรื าสั่งของศาลชั้นต้น๑๒๒ กา
สําอนัคํกงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นสมควรตรวจสํานวนเพื่อสั่งคําร้องเรื่องนั้น ก็ให้สั่งศาลชั้นต้นส่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาให้
สํให้
านัศกาลอุ ท ธรณ์พิจ ารณาคํกาาร้อ งนั้น แล้ว มีสํคานัํากสังานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่ง ยืน ตามคํา ปฏิเ สธของศาลชั
กา ้น ต้น
หรือมีคําสั่งให้รับอุทธรณ์ คําสั่งนี้ให้เป็นที่สุดแล้วส่งไปให้ศาลชั้นต้นอ่าน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๙ ผู้อุทธรณ์ต้องขังหรือต้องจําคุกอยู่ในเรือนจํา อาจยื่นอุทธรณ์ต่อพัศดี
ภายในกําหนดอายุ สําอนัุทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธรณ์ เมื่อได้รับอุทธรณ์กนาั้นแล้ว ให้พัศสํดีาอนัอกใบรั บให้แก่ผู้ยื่นอุทธรณ์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แล้วให้รีบ
ส่งอุทธรณ์นั้นไปยังศาลชั้นต้น
อุทธรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาฉบับใดที่ยื่นต่สํอานัพักศงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดีส่งไปถึงศาลเมื่อพ้นกํกาาหนดอายุอุทธรณ์ สํานัแกล้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วถ้าปรากฏว่า กา
การส่งชักช้านั้นมิใช่เป็นความผิดของผู้ยื่นอุทธรณ์ ให้ถือว่าเป็นอุทธรณ์ที่ได้ยื่นภายในกําหนดอายุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อุทธรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๐๑๒๓ ให้ศาลส่งสําเนาอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งแก้ภายในกําหนดสิบห้า
วันนับแต่วันที่ได้รสํับาสํนัากเนาอุ ทธรณ์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๔
มาตรากา๒๐๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เมืสํ่อาศาลส่ งสําเนาอุทธรณ์แก่อกีกาฝ่ายหนึ่งไม่ได้สําเพราะหาตั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี วไม่พบ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือหลบหนี หรือจงใจไม่รับสําเนาอุทธรณ์ หรือได้รับแก้อุทธรณ์แล้ว หรือพ้นกําหนดแก้อุทธรณ์แล้ว
ให้ศาลรีบส่งสํานวนไปยั งศาลอุทธรณ์เพื่อทําการพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จารณาพิพสํากษาต่ อไป
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๒๐๒ ผู้อุทสํธรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีอํานาจยื่นคําร้องขอถอนอุ
กา ท ธรณ์ต่อสํศาลชั ้นต้นก่อนส่ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สํานวนไปศาลอุทธรณ์ ในกรณีเช่นนี้ศ าลชั้นต้นสั่ งอนุ ญาตได้ เมื่อส่งสํานวนไปแล้วให้ยื่นต่ อศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อุทธรณ์หรือต่อศาลชั้นต้นเพื่อส่งไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อสั่ง ทั้งนี้ ต้องก่อนอ่านคําพิพากษาศาลอุทธรณ์
เมื่อถอนไปแล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว ถ้าคูสํ่คานัวามอี กฝ่ายหนึ่งมิได้อุทธรณ์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คําพิพากษาหรื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
คําสั่งของศาล กา
ชั้นต้นย่อมเด็ดขาดเฉพาะผู้ถอน ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งอุทธรณ์ จะเด็ดขาดต่อเมื่อคดีถึงที่สุดโดยไม่มีการแก้
คําพิพากษาหรือคํสําาสันั่งกศาลชั ้นต้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๑๒๑
มาตรา ๑๙๘ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.
สํ านั ก ๒๕๑๗
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๒
มาตรา ๑๙๘ ทวิ วรรคหนึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติม โดยพระราชบั ญ ญั ติ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ประมวล
สํานักกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๑๗)
สํานัพ.ศ. ๒๕๓๒
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๓
มาตรา ๒๐๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๑๗) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๓๒ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๔
มาตรา ๒๐๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๖) พ.ศ.กา๒๔๙๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาการพิจารณาสํคํานัาพิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
พากษาและคําสั่งชั้นศาลอุ
กา ทธรณ์ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๓ ให้ ศ าลอุ ท ธรณ์ พิ จ ารณาโดยเปิ ด เผยเฉพาะแต่ ใ นกรณี ที่ นั ด หรื อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนุญาตให้คู่ความมาพร้อมกัน หรือมีการสืบพยาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๔ เมื่อจะพิจารณาในศาลโดยเปิดเผย ให้ศาลอุทธรณ์ออกหมายนัด
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดวันพิจารณาไปยักงาคู่ความให้ทราบล่ สํานัวกงหน้ าอย่างน้อยไม่ต่ํากว่กาาห้าวัน
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การฟังคําแถลงการณ์นั้นห้ามมิให้กําหนดช้ากว่าสิบห้าวันนับแต่วันรับสํานวน ถ้ามี
เหตุพิเศษจะช้ากว่สําานันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก็ได้แต่อย่าให้เกินสองเดืกาอน เหตุที่ต้องช้
สํานัาให้ ศาลรายงานไว้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา ๒๐๕ คํ า ร้สํอางขอแถลงการณ์


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ด้ ว ยปากให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ติ ด มากั บ ฟ้สํอางอุ
นักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธรณ์ ห รื อ แก้ กา
อุทธรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําแถลงการณ์เป็นหนังสือให้ยื่นก่อนวันศาลอุ ทธรณ์พิพากษา
คํา แถลงการณ์ด้ว ยปากหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อ หนัง สือ ก็ต าม มิใ ห้ถือ ว่า เป็น ส่วสํนหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ง ของอุท ธรณ์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นับว่าเป็นแต่คําอธิบายข้ออุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์เท่านั้น
สํคําานัแถลงการณ์ เป็นหนังสือจะยื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่นต่อศาลชั้นสํต้านนัหรื อต่อศาลอุทธรณ์ก็ได้ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๒๐๖ ระเบียสํบแถลงการณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ด้วยปากมีดังนีก้ า
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ถ้าคู่ความฝ่ายใดขอแถลงการณ์ ให้ฝ่ายนั้นแถลงก่อน แล้วให้อีกฝ่ายหนึ่งแถลง
แก้ เสร็จแล้วฝ่ายแถลงก่ อนแถลงแก้ได้อีก กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ถ้าคู่ความทั้งสองฝ่ายขอแถลงการณ์ ให้ผู้อุทธรณ์แถลงก่อน แล้วให้อีกฝ่ายหนึ่ง
สํานักแถลงแก้ เสร็จแล้วให้ผู้อกุทา ธรณ์แถลงแก้สํไาด้นัอกีกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ถ้าคู่ความทั้งสองฝ่ายขอแถลงการณ์และเป็นผู้อุทธรณ์ทั้งคู่ ให้โจทก์แถลงก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แล้วให้จําเลยแถลง เสร็จแล้วโจทก์แถลงแก้ได้อีก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๗ เมื่อมีอุทธรณ์คําพิพากษา ศาลอุทธรณ์มีอํานาจสั่งให้ศาลชั้นต้นออก
หมายเรียกหรือจัสํบานัจํกาเลย ซึ่งศาลนั้นปล่อยตักวาไปแล้ว มาขัสํงาหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ปล่อยชั่วคราวระหว่ากงอุา ทธรณ์ก็ได้
หรือถ้าจําเลยถูกขังอยู่ระหว่างอุทธรณ์จะสั่งให้ศาลชั้นต้นปล่อยจําเลยหรือปล่อยชั่วคราวก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๘ ในการพิจารณาคดีอุทธรณ์ตามหมวดนี้
สํ(๑)
านักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าศาลอุทธรณ์เห็นว่าควรสืกา บพยานเพิสํา่มนัเติ ม ให้มีอํานาจเรียกพยานมาสื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บเอง
หรือสั่งศาลชั้นต้นสืบให้ เมื่อศาลชั้นต้นสืบพยานแล้ว ให้ส่งสํานวนมายังศาลอุทธรณ์เพื่อวินิจฉัยต่อไป
(๒) ถ้ากศาลอุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ทธรณ์เห็สํนานัเป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
การจําเป็น เนื่องจากศาลชั
กา ้นต้นมิได้ปสํฏิานับกัตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิให้ถูกต้องตาม กา
กระบวนพิจารณาสําก็นัใกห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
พิพากษาสั่งให้ศาลชั้นต้กนา ทําการพิจารณาและพิ พากษาหรือสั่งใหม่ตามรูปคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๗๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๐๘ ทวิ ๑๒๕ ถ้ า อธิ บ ดี ผู้ พิ พ ากษาศาลอุ ท ธรณ์ เ ห็ น สมควร จะให้ มี ก าร
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นิจฉัยปัญหาใด ในคดีเกรืา่องใด โดยที่ปสํระชุ
านักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใหญ่ก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่ประชุมใหญ่ให้ประกอบด้วยผู้พิพากษาทุกคนซึ่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่ แต่ต้องไม่น้อย
กว่ากึ่งจํานวนผู้พิพาากษาแห่
สํ งศาลนั้น และให้อกธิาบดีผู้พิพากษาศาลอุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ทธรณ์เป็นประธาน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การวินิจฉัยในที่ประชุมใหญ่ให้ถือเสียงข้างมาก ถ้าในปัญหาใดมีความเห็นแย้งกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นสองฝ่าย หรือเกินสองฝ่ายขึ้นไป จะหาเสียงข้างมากมิได้ ให้ผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้าย
แก่จําเลยมากยอมเห็ สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็กา นเป็นผลร้าสํยแก่ จําเลยน้อยกว่า
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในคดีซึ่งที่ประชุมใหญ่ได้วินิจฉัยปัญหาแล้ว คําพิพากษาหรือคําสั่งต้องเป็นไปตาม
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าวินิจฉัยของที่ประชุมใหญ่
กา และต้องระบุ สํานัไกว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้วยว่าปัญหาข้อใดได้วินกาิจฉัยโดยที่ประชุ
สํามนักใหญ่ ผู้พิพากษา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ที่เข้าประชุม แม้มิใช่เป็นผู้นั่งพิจารณา ก็ให้มีอํานาจพิพากษา ทําคําสั่ง หรือทําความเห็นแย้งในคดีนั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๙ ให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาโดยมิชักช้า และจะอ่านคําพิพากษาที่ศาล
สํานักอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธรณ์ หรือส่งไปให้ศาลชั
กา ้นต้นอ่านก็ไสํด้านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๐ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้อสํงอุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทธรณ์มิได้ยื่นในกําหนด ให้พิพากษา
ยกฟ้องอุทธรณ์นั้นเสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๑๑ เมื่อมีอุทธรณ์กาคัดค้านคําพิพสํากษาในประเด็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นสําคัญและคั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาดค้านคําสั่ง
ระหว่างพิจารณาด้วย ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาโดยคําพิพากษาอันเดียวกันก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๒ คดีที่จําเลยอุทธรณ์คําพิพากษาที่ให้ลงโทษ ห้ามมิให้ศาลอุทธรณ์
พิพากษาเพิ่มเติมสํโทษจํ าเลย เว้นแต่โจทก์จะได้กาอุทธรณ์ในทําสํนองนั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๒๑๓ ในคดีสํซาึ่งนัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เลยผู้หนึ่งอุทธรณ์คัดค้กาานคําพิพากษาสํซึานั่งกให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ลงโทษจําเลย กา
หลายคนในความผิดฐานเดียวกันหรือต่อเนื่องกัน ถ้าศาลอุทธรณ์กลับหรือแก้คําพิพากษาศาลชั้นต้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่ล งโทษหรือลดโทษให้ จําเลย แม้เป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลอุทธรณ์มี อํานาจพิพากษา
สํานักตลอดไปถึ งจําเลยอื่นที่มกิไาด้อุทธรณ์ ให้มสําิตนั้อกงถูงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กรับโทษ หรือได้ลดโทษดุ
กา จจําเลยผู้อสํุทาธรณ์
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๑๔ นอกจากมีขก้อาความซึ่งต้องมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําในันคํ าพิพากษาศาลชั้นต้นกาคําพิพากษา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลอุทธรณ์ต้องปรากฏข้อความดังต่อไปนี้ด้วย
(๑) นามหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อตําแหน่งสํของผู ้อุทธรณ์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ข้อความว่า ยืน ยก แก้หรือกลับคําพิพากษาศาลชั้นต้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๕ นอกจากที่บัญญัติมาแล้ว ให้นําบทบัญญัติว่าด้วยการพิจารณาและ
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าด้วยคําพิพากษาและคํกาาสั่งศาลชั้นต้สํนามาบั งคับในชั้นศาลอุทธรณ์กดา ้วยโดยอนุโลมสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๕
มาตรา ๒๐๘ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๔๘๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉะบับที่ ๒) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลักษณะ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกหลั
า กทั่วไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๑๒๖
มาตรา ๒๑๖ ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๒๑๗ ถึง ๒๒๑ คู่ความมีอํานาจฎีกา
คัด ค้ า นคํา พิ พ ากษา หรือ คํา สั่ ง ศาลอุท ธรณ์กาภ ายในหนึ่ง เดื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
นับ แต่วัน อ่า น หรือกถืาอ ว่า ได้อ่ า น
คําพิ พากษาหรือคําสั่งนั้นให้คู่ความฝ่ายที่ฎีกาฟัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ฎีกานัก้นา ให้ยื่นต่อศาลชั
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้น และให้นําบทบัญกญัา ติแ ห่งมาตราสํานั๒๐๐ และ ๒๐๑
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาบังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๗ ในคดีสํซาึ่งนัมีกขงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้อจํากัดว่า ให้คู่ความฎีกกา าได้แต่เฉพาะปั ญหาข้อกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อจํากัดนี้ให้บังคับแก่คู่ความและบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๘ ในคดี ที่ ศ าลอุ ท ธรณ์ พิ พ ากษายื น ตามศาลล่ า งหรื อ เพี ย งแต่ แ ก้ ไ ข
สํานักเล็งานคณะกรรมการกฤษฎี
กน้อย และให้ลงโทษจํ กาาคุกจําเลยไม่สํเากินันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้าปี หรือปรับหรือทั้งจํกาาทั้งปรับแต่โทษจํ
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
คุกไม่เกินห้าปี กา
ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
สํในคดี ที่ ศ าลอุท ธรณ์พิพ ากษายื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา น ตามศาลล่ สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งหรือ เพี ย งแต่แ ก้ไ ขเล็
กาก น้ อ ยและ
ให้ ล งโทษจํา คุ ก จํา เลยเกิน ห้ า ปี ไม่ว่าจะมีโทษอย่างอื่นด้วยหรือไม่ ห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในปัญหา
อเท็จจริง๑๒๗
สํานักข้งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑๒๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๙ ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจําคุกจําเลยไม่เกินสองปีหรือ
สํานักปรั บไม่เกินสี่หมื่นบาท กหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อทั้งจําทั้งปรั
สําบนักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจํ
กา าเลยไม่เสํกิานนักํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
หนดที่ว่ามานี้ กา
ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่ข้อห้ามนี้มิให้ใช้แก่จําเลยในกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา
แก้ไขมากและเพิ่มสํเติ
านัมกโทษจํ าเลย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๖
มาตรา ๒๑๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.กา๒๔๙๙
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๗
มาตรา ๒๑๘ วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๑๗) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๓๒ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๘
มาตรา ๒๑๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๓๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๑๙ ทวิ ๑๒๙ ห้ า มมิ ใ ห้ คู่ ค วามฎี ก าคั ด ค้ า นคํ า พิ พ ากษาหรื อ คํ า สั่ ง ใน
สํานักข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อเท็จจริงในปัญหาเรื่อกงวิา ธีการเพื่อความปลอดภั ยแต่อย่างเดียว แม้กาคดีนั้นจะไม่ต้อสํงห้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักามฎี กาก็ตาม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในการนับกําหนดโทษจําคุกตามความในมาตรา ๒๑๘ และ ๒๑๙ นั้น ห้ามมิใ ห้
คํานวณกําหนดเวลาที
สํ านัก่ศงานคณะกรรมการกฤษฎี
าลมีคําพิพากษาหรือคํกาาสั่งเกี่ยวกับวิธสํีกาารเพื ่อความปลอดภัยรวมเข้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาด้วย

มาตรา ๒๑๙ ตรี๑๓๐ ในคดีที่ศาลชั้นต้นลงโทษกักขังแทนโทษจําคุก หรือเปลี่ยนโทษ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กักขังเป็นโทษจําสํคุานักกหรื อคดีที่เกี่ยวกับการกักากขังแทนค่าปรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําบนักหรื อกักขังเกี่ยวกับการริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาบทรัพย์สิน
ถ้าศาลอุทธรณ์มิได้พิพากษากลับคําพิพากษาศาลชั้นต้น ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๑
มาตรา ๒๒๐ ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษา
ยกฟ้องโจทก์ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๒๑ ในคดีซสําึ่งนัห้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มฎีกาไว้โดยมาตรา ๒๑๘,
กา ๒๑๙ และสํ๒๒๐ แห่งประมวล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กฎหมายนี้ ถ้าผู้พิพากษาคนใดซึ่งพิจารณา หรือลงชื่อในคําพิพากษาหรือทําความเห็นแย้งในศาล
ชั้นต้นหรือศาลอุทสําธรณ์
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิเคราะห์เห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นสํเป็านันกปังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญหาสําคัญอันควรสู่ศกาลสู

งสุดและ
อนุญาตให้ฎีกา หรืออธิบดีกรมอัยการลงลายมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อชื่อรับรองในฎีกาว่ามีเหตุอันควรที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ศาลสูงสุดจะได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วินิจฉัย ก็ให้รับฎีกานั้นไว้พิจารณาต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๒๒ ถ้าคดีมีปัญหาแต่เฉพาะข้อกฎหมาย ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้น ศาลฎีกาจะต้องฟังข้กอาเท็จจริงตามทีสํ่ศานัาลอุ ทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้กวาจากพยานหลัสํกาฐานในสํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านวน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๒๒๓ ให้เป็นหน้าทีกา่ศาลชั้นต้นตรวจฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาว่าควรจะรับส่งขึ้นไปยั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งศาลฎีกา
หรือไม่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ถ้าเห็นว่าไม่ควรรับ ให้จดเหตุผลไว้ในคําสั่งของศาลนั้น
สํานักโดยชั ดเจน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑๓๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๒๔ เมื่อศาลชั้นต้นไม่ยอมรับฎีกา ผู้ฎีกาอาจฎีกาเป็นคําร้องอุทธรณ์
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าสั่งของศาลนั้นต่อศาลฎี
กา กาได้ คําร้อสํงเช่
านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
นี้ให้ยื่นที่ศาลชั้นต้นภายในกํ
กา าหนดสิบสําห้นัากวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นนับแต่วันฟัง กา
คําสั่ง แล้วให้ศาลนั้นรีบส่งคําร้องเช่นว่านั้นไปยังศาลฎีกาพร้อมด้วยฎีกาและคําพิพากษาหรือคําสั่ง
ของศาลชั้นต้นและศาลอุ ทธรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรตรวจสํานวนเพื่อสั่งคําร้องเรื่องนั้น ก็ให้สั่งศาลชั้นต้นส่งมาให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๙
มาตรา ๒๑๙ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.
สํ านั ก ๒๕๑๗
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๐
มาตรา ๒๑๙ ตรี เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๑๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๑
มาตรา ๒๒๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๑๗) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๓๒ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๒
มาตรา ๒๒๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ.กา ๒๕๓๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การพิจารณา คําพิพากษาและคําสั่งชั้นฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒๒๕ ให้นําบทบัญญัติว่าด้วยการพิจารณา และว่าด้วยคําพิพากษาและ
คําสั่งชั้นอุทธรณ์มสําบั
านักงคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บในชั้นฎีกาโดยอนุโลมกาเว้นแต่ห้ามมิสํให้านัทกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
ความเห็นแย้ง กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ภาค ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พยานหลักฐาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลักทั่วไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒๒๖ พยานวัตถุ พยานเอกสาร หรือพยานบุคคลซึ่งน่าจะพิสูจน์ได้ว่าจําเลย
มีผิดหรือบริสุทธิสํ์ าให้
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
้างเป็นพยานหลักฐานได้ กา แต่ต้อ งเป็สํนาพยานชนิ ดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจู
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งใจ
มีคํา มั่น สัญ ญา ขู่เข็ญ หลอกลวงหรือโดยมิชอบประการอื่น และให้สืบตามบทบัญญัติแห่งประมวล
สํานักกฎหมายนี ้หรือกฎหมายอื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา่นอันว่าด้วยการสื
สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
พยาน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๒๖/๑ ๑๓๓ ในกรณี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่ ค วามปรากฏแก่ ศ าลว่ า พยานหลักกาฐานใดเป็ น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พยานหลักฐานที่เกิดขึ้นโดยชอบแต่ได้มาเนื่องจากการกระทําโดยมิชอบ หรือเป็นพยานหลักฐานที่
สํานักได้ มาโดยอาศัยข้อมูลที่เกกิาดขึ้นหรือได้มสําโดยมิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ชอบ ห้ามมิให้ศาลรักบาฟังพยานหลักสํฐานนั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้น เว้นแต่การ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รับฟังพยานหลักฐานนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการอํานวยความยุติธรรมมากกว่าผลเสียอันเกิดจาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผลกระทบต่อมาตรฐานของระบบงานยุติธรรมทางอาญาหรือสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของประชาชน
ในการใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดุลพินิจรับฟัสํางนัพยานหลั กฐานตามวรรคหนึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ง ให้ศาลพิจสํารณาถึ งพฤติการณ์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทั้งปวงแห่งคดี โดยต้องคํานึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ด้วย
สํ(๑)
านักคุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ณค่าในเชิงพิสูจน์ ความสํ กา าคัญ และความน่ าเชื่อถือของพยานหลักกฐานนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้น
(๒) พฤติการณ์และความร้ายแรงของความผิดในคดี
(๓) ลักกษณะและความเสี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
หายที่เกิดจากการกระทํกาาโดยมิชอบ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ผู้ที่กระทําการโดยมิชอบอันเป็นเหตุให้ได้พยานหลักฐานมานั้นได้รับการลงโทษ
หรือไม่เพียงใด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๓
มาตรา ๒๒๖/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๒๖/๒ ๑๓๔ ห้ า มมิ ใ ห้ ศ าลรั บ ฟั ง พยานหลั ก ฐานที่ เ กี่ ย วกั บ การกระทํ า
สํานักความผิ ดครั้งอื่น ๆ หรือกความประพฤติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สําในันทางเสื ่อมเสียของจําเลยกาเพื่อพิสูจน์ว่าสํจําานัเลยเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นผู้กระทํา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความผิดในคดีที่ถูกฟ้อง เว้นแต่พยานหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
สํ(๑)
านักพยานหลั กฐานที่เกี่ยวเนืก่อางโดยตรงกับองค์
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระกอบความผิดของคดีกทา ี่ฟ้อง
(๒) พยานหลักฐานที่แสดงถึงลักษณะ วิธี หรือรูปแบบเฉพาะในการกระทําความผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของจําเลย
สํ(๓) พยานหลั ก ฐานที่ หั ก ล้กาางข้ อ กล่ า วอ้ าสํางของจํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า เลยถึ ง การกระทํกาา หรื อ ความ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประพฤติในส่วนดีของจําเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ความในวรรคหนึ
กา ่งไม่สํหา้านัมการนํ าสืบพยานหลักฐานดั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งกล่าว เพื่อสําให้นักศงานคณะกรรมการกฤษฎี
าลใช้ประกอบ กา
ดุลพินิจในการกําหนดโทษหรือเพิ่มโทษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๕
มาตรา ๒๒๖/๓ ข้อความซึ่งเป็นการบอกเล่าที่พยานบุคคลใดนํามาเบิกความต่อ
สํานักศาลหรื อที่บันทึกไว้ในเอกสารหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อวัตถุสํอาื่นนัใดซึ ่งอ้างเป็นพยานหลักฐานต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อศาล หากนํ
สํานัากเสนอเพื ่อพิสูจน์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความจริงแห่งข้อความนั้น ให้ถือเป็นพยานบอกเล่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานบอกเล่า เว้นแต่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ตามสภาพ ลักษณะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แหล่งที่มา และข้อเท็จจริงแวดล้อมของพยานบอกเล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
น่าเชื่อว่าจะพิสูจน์ความจริงได้ หรือ
สํ(๒)
านักมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
เหตุจําเป็น เนื่องจากไม่
กา สามารถนําบุสําคนัคลซึ ่งเป็นผู้ที่ได้เห็น ได้ยกินา หรือทราบ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้อความเกี่ยวในเรื่องที่จะให้การเป็นพยานนั้นด้วยตนเองโดยตรงมาเป็นพยานได้ และมีเหตุผลสมควร
สํานักเพื ่อประโยชน์แห่งความยุกาติธรรมที่จะรับสําฟันังกพยานบอกเล่
งานคณะกรรมการกฤษฎี านั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ศาลเห็นว่าไม่ควรรับไว้ซึ่งพยานบอกเล่าใด และคู่ความฝ่ายที่เกี่ยวข้องร้อง
คัดค้านก่อนที่ศาลจะดํ าเนินคดีต่อไป ให้ศาลจดรายงานระบุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานันกาม หรือชนิดและลักษณะของพยาน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บอกเล่า เหตุผลที่ไม่ยอมรับ และข้อคัดค้านของคู่ความฝ่ายที่เกี่ยวข้องไว้ ส่วนเหตุผลที่คู่ความฝ่าย
สํานักคังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดค้านยกขึ้นอ้างนั้น ให้กศาาลใช้ดุลพินิจสํจดลงไว้ ในรายงานหรือกําหนดให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คู่ความฝ่าสํยนั านัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยื่นคําแถลงต่อ กา
ศาลเพื่อรวมไว้ในสํานวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๖
มาตรากา ๒๒๖/๔ สํานัในคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ค วามผิ ด เกี่ ย วกั บกเพศ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ห้ า มมิ ใ ห้สํจานัํ ากเลยนํ า สื บ ด้ ว ย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พยานหลักฐานหรือถามค้านด้วยคําถามอันเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศของผู้เสียหายกับบุคคลอื่น
นอกจากจําเลย เว้สํนานัแต่ จะได้รับอนุญาตจากศาลตามคํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าขอ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศาลจะอนุญาตตามคําขอในวรรคหนึ่ง เฉพาะในกรณีที่ศาลเห็นว่าจะก่อให้เกิดความ
สํานักยุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ติธรรมในการพิจารณาพิ กาพากษาคดี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๔
มาตรา ๒๒๖/๒ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) กพ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๕
มาตรา ๒๒๖/๓ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๘)งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๖
มาตรา ๒๒๖/๔ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๒๘) กพ.ศ.
า ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๒๖/๕๑๓๗ ในชั้นพิจารณาหากมีเหตุจําเป็นหรือเหตุอันสมควร ศาลอาจรับ


สํานักฟังานคณะกรรมการกฤษฎี
งบันทึกคําเบิกความในชั
กา ้นไต่สวนมูลสํฟ้านัอกงหรื อบันทึกคําเบิกความของพยานที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่เบิสํากนัความไว้ ในคดีอื่น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประกอบพยานหลักฐานอื่นในคดีได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๒๗ ให้ศ าลใช้ดุล พินิจ วินิจ ฉัย ชั่ง น้ํา หนัก พยานหลัก ฐานทั้ง ปวง อย่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิพากษาลงโทษจนกว่าจะแน่ใจว่ามีการกระทําผิดจริงและจําเลยเป็นผู้กระทําความผิดนั้น
สํเมื
านั่อกมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ค วามสงสัย ตามสมควรว่
กา า จํา เลยได้สํกานัระทํ าผิดหรือไม่ ให้ย กประโยชน์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แ ห่ง
ความสงสัยนั้นให้จําเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๘
มาตรา ๒๒๗/๑ ในการวินิจฉัยชั่งน้ําหนักพยานบอกเล่า พยานซัดทอด พยานที่
จําเลยไม่มีโอกาสถามค้ าน หรือพยานหลักฐานที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่มีข้อบกพร่สํานัอกงประการอื ่นอันอาจกระทบถึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งความ
น่ า เชื่ อ ถื อ ของพยานหลั ก ฐานนั้ น ศาลจะต้ อ งกระทํ า ด้ ว ยความระมั ด ระวั ง และไม่ ค วรเชื่ อ
สํานักพยานหลั กฐานนั้นโดยลํกาาพังเพื่อลงโทษจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัาเลย เว้นแต่จะมีเหตุผลอักนาหนักแน่น มีพสํฤติ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารณ์พิเศษแห่ง กา
คดี หรือมีพยานหลักฐานประกอบอื่นมาสนับสนุน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พยานหลักฐานประกอบตามวรรคหนึ่ง หมายถึ ง พยานหลักฐานอื่นที่รับฟังได้ และมี
แหล่งที่มาเป็นอิสระต่างหากจากพยานหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฐานที่ต้องการพยานหลักฐานประกอบนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้น ทั้งจะต้องมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คุณค่าเชิงพิสูจน์ที่สามารถสนับสนุนให้พยานหลักฐานอื่นที่ไปประกอบมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๒๘ ระหว่างพิจารณาโดยพลการหรือคู่ความฝ่ายใดร้องขอ ศาลมีอํานาจ
สํานักสืงานคณะกรรมการกฤษฎี
บพยานเพิ่มเติม จะสืบกเองหรื
า อส่งประเด็
สํานันกก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๒๙ ศาลเป็นผู้สืบกพยาน


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า จะสืบในศาลหรื อนอกศาลก็ได้ แล้กวาแต่เห็นควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามลักษณะของพยาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๒๙/๑๑๓๙ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๗๓/๑ ในการไต่สวนมูลฟ้องหรือการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิจารณา โจทก์ต้องยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐาน โดยแสดงถึงประเภทและลักษณะของวัตถุ สถานที่พอ
สํานักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
งเขป หรือเอกสารเท่ากทีา่จะระบุได้ รวมทั
สํานั้งกรายชื ่อ ที่อยู่ของบุคคลหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาอผู้เชี่ยวชาญ สํซึา่งนัโจทก์ ประสงค์จะ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นําสืบ หรือขอให้ศาลไปตรวจหรือแต่งตั้งต่อศาลไม่น้อยกว่าสิบห้าวันก่อนวันไต่สวนมูลฟ้องหรือวัน
สืบพยาน พร้อมทัสํา้งนัสํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
เนาบัญชีระบุพยานหลักากฐานดังกล่าวในจํ านวนที่เพียงพอเพื่อให้กจา ําเลยรับไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่วนจําเลยให้ยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานพร้อมสําเนาก่อนวันสืบพยานจําเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีในการไต่ กา สวนกรณีร้อสํงขอคื นของกลางที่ศาลสั่งริกบาหรือกรณีร้องขอให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ศาลริบทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานต่อศาลไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันไต่สวนพร้อมทั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๗
มาตรา ๒๒๖/๕ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) กพ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๘
มาตรา ๒๒๗/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๘)งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๙
มาตรา ๒๒๙/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๒๘) กพ.ศ.
า ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สําเนาบัญชีระบุพยานหลักฐานดังกล่าวในจํานวนที่เพียงพอ เพื่อให้บุคคลที่เกี่ยวข้องอื่น ถ้ามี รับไป


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เมื่อระยะเวลาที
กา ่กําหนดให้ ยื่นบัญชีระบุพยานหลักกาฐานตามวรรคหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือวรรคสอง กา
แล้วแต่กรณี ได้สิ้นสุดลง ถ้าคู่ความหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งได้ยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานไว้แล้วมีเหตุ
อันสมควรแสดงได้สําวนั่ากตนไม่ สามารถทราบได้วก่าาต้องนําพยานหลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกฐานบางอย่ างมาสืบ หรืกอา ไม่ทราบว่า
งานคณะกรรมการกฤษฎี
พยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่ หรือมีเหตุสมควรอื่นใด หรือถ้าคู่ความหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องฝ่ายใดซึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มิได้ยื่นบั ญชี ระบุพยานหลั กฐานเช่นว่ านั้นแสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลได้ ว่า มีเหตุ อันสมควรที่ ไม่
สามารถยื่นบัญชีรสํะบุานักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยานหลักฐานตามกําหนดเวลาดั กา งกล่าสํวได้
านักคูงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ความหรือบุคคลเช่นว่กาานั้น อาจร้อง
ขออนุญาตอ้างพยานหลักฐานดังกล่าวต่อศาล พร้อมกับบัญชีระบุพยานหลักฐานและสําเนาบัญชีระบุ
สํานักพยานหลั กฐานนั้นไม่ว่ากเวลาใด
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ๆ ก่อสํนเสร็ จสิ้นการสืบพยานของฝ่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ายนั้นสําหรับสํกรณี ที่คู่ความหรือ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุคคลเช่นว่านั้นได้ยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานไว้แล้ว หรือก่อนเสร็จสิ้นการพิจารณาสําหรับกรณีที่
คู่ความหรือบุคคลเช่สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ว่านั้นไม่ได้ยื่นบัญชีรกะบุา พยานหลักฐานและถ้ าศาลเห็นว่าจําเป็กนา จะต้องสืบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พยานหลักฐานดังกล่าว เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสําคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรม ให้ศาลมี
สํานักอํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านาจอนุญาตให้สืบและรั กา บฟังพยานหลั สํากนัฐานเช่ นว่านั้นได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห้ า มมิ ใ ห้ ศ าลอนุ ญ าตให้ สื บ และรั บ ฟั ง พยานหลั ก ฐานใดซึ่ ง คู่ ค วามหรื อ บุ ค คลที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เกี่ยวข้องซึ่งอ้างพยานหลักฐานนั้นมิได้แสดงความจํานงจะอ้ างอิงพยานหลักฐานนั้นตามวรรคหนึ่ง
วรรคสอง หรือวรรคสาม หรือตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๗๓/๑ วรรคสองหรือวรรคสาม แต่ถ้าสํศาลเห็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นว่าจําเป็นที่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะต้องคุ้มครองพยาน หรือจะต้องสืบพยานหลักฐานดังกล่าวเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสําคัญแห่ง
ประเด็นเป็นไปโดยเทีสํานัก่ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
งธรรม หรือเพื่อให้โอกาสแก่กา จําเลยในการต่ อสู้คดีอย่างเต็มที่ ให้กศาาลมีอํานาจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุญาตให้สืบและรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๐
มาตรา ๒๓๐ เมื่อคู่ความที่เกี่ยวข้องร้องขอหรือเมื่อศาลเห็นเป็นการสมควร
ศาลอาจเดินเผชิญสําสืนับกพยานหลั กฐาน หรือเมืก่อามีเหตุจําเป็นไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัสกามารถนํ าพยานหลักฐานมาสื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บที่ศาล
นั้น และการสืบพยานหลักฐานโดยวิธีอื่นไม่สามารถกระทําได้ ศาลมีอํานาจส่งประเด็นให้ศาลอื่นสืบ
สํานักพยานหลั กฐานแทน ให้กศาาลที่รับประเด็
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานนัมีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
อํานาจและหน้าที่ดังศาลเดิ
กา ม รวมทั้งมีสําอนัํากนาจส่ งประเด็น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต่อไปยังศาลอื่นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภายใต้บังคับมาตรา ๑๗๒ และมาตรา ๑๗๒ ทวิ ให้ส่งสํานวนหรือสําเนาฟ้อง สําเนา
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าให้การและเอกสารหรื กาอของกลางเท่สําานัทีก่จงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําเป็นให้แก่ศาลที่รับประเด็
กา นเพื่อสืบพยานหลั กฐาน หาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จําเลยต้องขังอยู่ในระหว่างพิจารณาให้ผู้คุมขังส่งตัวจําเลยไปยังศาลที่รับประเด็น แต่ถ้าจําเลยในกรณี
ตามมาตรา ๑๗๒ สํานัทวิ ไม่ ติ ด ใจไปฟั ง การพิกจา ารณาจะยื่ นสํคํานัา ถามพยานหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี อ คํ า แถลงขอให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต รวจ
พยานหลักฐานก็ได้ ให้ศาลสืบพยานหลักฐานไปตามนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีเมื่อสืบกพยานหลั
า กฐานตามที ่ได้รับมอบหมายเสร็จกสิา้นแล้ว ให้ส่งถ้สํอานัยคํกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าสํานวนพร้อม กา
ทั้งเอกสารหรือของกลางคืนศาลเดิม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๑
มาตรา ๒๓๐/๑ ในกรณีที่มีเหตุจําเป็นอันไม่อาจนําพยานมาเบิกความในศาลได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๐
มาตรา ๒๓๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๑
มาตรา ๒๓๐/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

เมื่อคู่ความร้องขอหรือศาลเห็นสมควร ศาลอาจอนุญาตให้พยานดังกล่าวเบิกความที่ศาลอื่นหรือ
สํานักสถานที ่ทําการของทางราชการหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อสถานที
สํานัก่แงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห่งอื่นนอกศาลนั้น โดยจั
กา ดให้มีการถ่ายทอดภาพและเสี ยง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในลักษณะการประชุมทางจอภาพได้ ทั้งนี้ ภายใต้การควบคุมของศาลที่มีเขตอํานาจเหนือท้องที่นั้น
ตามหลักเกณฑ์แสํละวิานักธงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีการที่กําหนดในข้อบังกคัาบของประธานศาลฎี กา โดยได้รับความเห็กานชอบจากที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การเบิกความตามวรรคหนึ่งให้ถือเสมือนว่าพยานเบิกความในห้องพิจารณาของศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๔๒
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓๐/๒ ในกรณีที่ไม่อาจสืบพยานตามมาตรา ๒๓๐/๑ ได้ เมื่อคู่ความ
สํานักร้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องขอหรือศาลเห็นสมควร กา ศาลอาจอนุสํญ านัาตให้ เสนอบันทึกถ้อยคํายืกนา ยันข้อเท็จจริสํงาหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ความเห็นของ กา
ผู้ให้ถ้อยคําซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศต่อศาลแทนการนําพยานบุคคลมาเบิกความต่อหน้าศาลได้
แต่ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทสํธิาผนัู้ใกห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้อยคําที่จะมาศาลเพืก่อาให้การเพิ่มเติสํมานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บันทึกถ้อยคําตามวรรคหนึ่ง ให้มีรายการดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) ชื่อกศาลและเลขคดี
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) วัน เดือน ปี และสถานที่ที่ทําบันทึกถ้อยคํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ชื่อและสกุลของคู่ความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ชื่อ สกุล อายุ ที่อสํยูานั่ และอาชี พของผู้ให้ถ้อยคํา และความเกี่ยสํวพั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นกับคู่ความ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) รายละเอียดแห่งข้อเท็จจริง หรือความเห็นของผู้ให้ถ้อยคํา
สํ(๖)
านักลายมื อชื่อของผู้ให้ถ้อยคํกาา และคู่ความฝ่สําานัยผูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้เสนอบันทึกถ้อยคํา กา
สําหรับลายมือชื่อของผู้ให้ถ้อยคําให้นํามาตรา ๔๗ วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธีพิจารณาความแพ่ง มาใช้ กา บังคับโดยอนุ สํานัโลม
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห้ามมิใ ห้แก้ไขเพิ่ม เติมบั นทึกถ้อยคําที่ได้ยื่นไว้แล้วต่อศาล เว้นแต่เป็นการแก้ไข
ข้อผิดพลาดหรือผิสํดานัหลงเล็ กน้อย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๓๑ เมื่อคูสํ่คาวามหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อผู้ใดจะต้องให้การหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อส่งพยานหลั
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฐานอย่างหนึ่ง กา
อย่างใด ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เอกสารหรือข้อความที่ยังเป็นความลับในราชการอยู่
(๒) เอกสารหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อข้อความลั บ ซึ่งได้มาหรือทราบเนืก่อา งในอาชีพหรืสํอาหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ของเขา กา
(๓) วิธีการ แบบแผนหรืองานอย่างอื่นซึ่งกฎหมายคุ้มครองไม่ยอมให้เปิดเผย คู่ความ
หรือบุคคลนั้นมีอสํําานาจไม่ ยอมให้การหรือส่งกพยานหลั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า กฐานสําเว้นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ได้รับอนุญาตจากเจ้กาาหน้าที่หรือ
บุคคลที่เกี่ยวข้องกับความลับนั้น
ถ้าคู่คกวามหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อบุคคลใดไม่ ยอมให้การ หรือไม่ส่งกพยานหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า กฐานดั
สํางนักล่ าวแล้ว ศาลมี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อํานาจหมายเรียกเจ้าหน้าที่หรือบุคคลผู้เกี่ยวข้องกับความลับนั้นมาแถลงต่อศาล เพื่อวินิจฉัยว่า
การไม่ยอมนั้นมีเสํหตุ
านัผกลค้ ําจุนหรือไม่ ถ้าเห็นว่กาาไร้เหตุผล ให้ศสําลบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
คับให้ ๆ การหรือส่งพยานหลั
กา กฐาน
นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๒
มาตรา ๒๓๐/๒ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พยานบุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓๒ ห้ามมิให้โจทก์อ้างจําเลยเป็นพยาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๓
สํมาตรา ๒๓๓ จําเลยอาจอ้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างตนเองเป็สํนาพยานได้ ในกรณีที่จําเลยอ้กาางตนเองเป็น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พยาน ศาลจะให้เข้าสืบก่อนพยานอื่นฝ่ายจําเลยก็ได้ ถ้าคําเบิกความของจําเลยนั้นปรักปรําหรือ
สํานักเสีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยหายแก่จําเลยอื่น จํากเลยอื
า ่นนั้นซักค้สําานได้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่จําเลยเบิกความเป็นพยาน คําเบิกความของจําเลยย่อมใช้ยันจําเลยนั้นได้
และศาลอาจรับฟัสํงาคํนัากเบิงานคณะกรรมการกฤษฎี
กความนั้นประกอบพยานหลั กา กฐานอืสํ่นาของโจทก์ ได้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๒๓๔ พยานไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัตก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
งตอบคําถามซึ่งโดยตรงหรื
กา ออ้อม อาจจะทํ าให้เขาถูกฟ้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คดีอาญา เมื่อมีคําถามเช่นนั้น ให้ศาลเตือนพยาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓๕ ในระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างพิจารณา เมื่อเห็นสมควร ศาลมีอํานาจถามโจทก์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จําเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือพยานคนใดได้
สํห้าานัมมิ ให้ถามจําเลยเพื่อประโยชน์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แต่เฉพาะจะเพิ ่มเติมคดีโจทก์ซึ่งบกพร่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อง เว้นแต่
จําเลยจะอ้างตนเองเป็นพยาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓๖ ในระหว่างพิจารณาศาลมีอํานาจสั่งให้ผู้ที่จะเป็นพยานซึ่งมิใช่จําเลย
ออกไปอยู่นอกห้อสํงพิ
านัจกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารณาจนกว่าจะเข้ามาเบิ
กากความ อนึ่งเมื
สํา่อนัพยานเบิ กความแล้วจะให้กราออยู่ในห้อง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พิจารณาก่อนก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓๗ ๑๔๔ บัน ทึก คํา เบิก ความพยานชั้น ไต่ส วนมูล ฟ้อ งหรือ พิจ ารณานั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ศาลอ่านให้พยานฟังต่อหน้าจําเลย เว้นแต่ในกรณีดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๑๖๕ วรรคสาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณีกาที่คู่ความตกลงกั
สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลอาจอนุญาตให้ถือกเอาบั
า นทึกคําเบิสํกานัความพยานในชั ้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไต่สวนมูลฟ้องเป็นคําเบิกความพยานในชั้นพิจารณา โดยพยานไม่ต้องเบิกความใหม่หรือให้พยาน
เบิกความตอบคําสํถามค้ านของจําเลยไปทันทีกได้า เว้นแต่ในข้อสํหาความผิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดที่กฎหมายกําหนดอั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตราโทษ
อย่างต่ําจําคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปหรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๕
มาตรา ๒๓๗ ทวิ ก่อนฟ้องคดีต่อศาล เมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าพยานบุคคลจะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๓
มาตรา ๒๓๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๔
มาตรา ๒๓๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๕
มาตรา ๒๓๗ ทวิ แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธี พิ จ ารณาความอาญา (ฉบั กา บ ที่ ๒๐) พ.ศ.
สํานั๒๕๔๒
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือเป็นบุคคลมีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากศาลที่


สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จารณาคดี หรือมีเหตุอกันา ควรเชื่อว่าจะมี สํานักการยุ ่งเหยิงกับพยานนั้นไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาว่าโดยทางตรงหรื สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ทางอ้อม หรือ กา
มีเหตุจําเป็นอื่นอันเป็นการยากแก่การนําพยานนั้นมาสืบในภายหน้า พนักงานอัยการโดยตนเองหรือ
โดยได้รับคําร้องขอจากผู ้เสียหายหรือจากพนักกางานสอบสวน สํจะยื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
คําร้องโดยระบุการกระทํ กา าทั้งหลาย
ที่อ้างว่าผู้ต้องหาได้กระทําผิดต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคําสั่งให้สืบพยานนั้นไว้ทันทีก็ได้ ถ้ารู้ตัวผู้กระทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความผิด และผู้นั้นถูกควบคุมอยู่ในอํานาจพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ ให้พนักงานอัยการ
นําตัวผู้นั้นมาศาลสําหากถู กควบคุมอยู่ในอํานาจของศาล
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้ศาลเบิ
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตัวผู้นั้นมาพิจารณาต่อกไป า
เมื่อ ศาลได้รับ คํา ร้อ งเช่น ว่า นั้น ให้ศ าลสืบ พยานนั้น ทัน ที ในการนี้ ผู้ต้อ งหาจะ
สํานักซังานคณะกรรมการกฤษฎี
กค้านหรือตั้งทนายความซั กา กค้านพยานนั สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้วยก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีตามวรรคสอง ถ้าเป็นกรณีที่ผู้ต้องหานั้นถูกกล่าวหาว่ากระทําความผิดอาญา
ซึ่ ง หากมี ก ารฟ้ อสํงคดี จ ะเป็ น คดี ซึ่ ง ศาลจะต้กอา งตั้ ง ทนายความให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรื อ จํ า เลยมี สิ ท ธิกขาอให้ ศ าลตั้ ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทนายความให้ตามมาตรา ๑๗๓ ก่อนเริ่มสืบพยานดังกล่าว ให้ศาลถามผู้ต้องหาว่ามีทนายความหรือไม่
สํานักในกรณี ที่ศาลต้องตั้งทนายความให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ถ้สําานัศาลเห็ นว่าตั้งทนายความให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ทันก็ ใ ห้ ตั้งสํทนายความให้ และ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดําเนินการสืบพยานนั้นทันที แต่ถ้าศาลเห็นว่าไม่สามารถตั้งทนายความได้ทันหรือผู้ต้องหาไม่อาจตั้ง
ทนายความได้ทันสํก็านัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลซักถามพยานนั้นให้กแา ทน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําเบิกความของพยานดั งกล่าวให้ศาลอ่านให้พยานฟัง หากมีตัสํวาผูนั้ตก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งหาอยู่ในศาล กา
ด้วยแล้ว ก็ให้ศาลอ่านคําเบิกความดังกล่าวต่อหน้าผู้ต้องหา
สํถ้าานัต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
มาผู้ต้องหานั้นถูกฟ้อกงเป็ า นจําเลยในการกระทํ าความผิดอาญานัก้นา ก็ให้รับฟัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คําพยานดังกล่าวในการพิจารณาคดีนั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี กาที่ผู้ ต้องหาเห็สํนานัว่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
หากตนถูกฟ้องเป็นจํกาาเลยแล้ว บุคคลซึ สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
จําเป็นจะต้อง กา
นํามาสืบเป็นพยานของตนจะเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือเป็น
บุคคลมีถิ่นที่อยู่หสํ่าางไกลจากศาลที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี่พิจารณาคดีกา หรือมีเหตุอันสําควรเชื ่อว่าจะมีการยุ่งเหยิงกกัาบพยานนั้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือมีเหตุจําเป็นอื่นอันเป็นการยากแก่การนําพยานนั้นมาสืบ ใน
สํานักภายหน้ า ผู้ต้องหานั้นจะยื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่นคําร้องต่อศาลโดยแสดงเหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีผลความจํกาาเป็น เพื่อให้ศาลมี สํานักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําสั่งอนุญาตให้ กา
สืบพยานบุคคลนั้นไว้ทันทีก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่ อ ศาลเห็ น สมควร ให้ ศ าลมี คํ าสั่ ง อนุ ญ าตให้ สืบ พยานนั้ น และแจ้ งให้พ นั ก งาน
สํานักสอบสวนและพนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กงานอักยา การที่เกี่ยวข้สํอางทราบ ในการสืบพยานดักงากล่าว พนักงานอั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัยกการมี สิทธิที่จะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ซักค้านพยานนั้นได้ และให้นําความในวรรคสาม วรรคสี่ และวรรคห้า มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํให้
านันกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
บทบัญญัติในมาตรา ก๑๗๒ า ตรี มาใช้สํบานัังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บโดยอนุโลมแก่การสืบกาพยานที่เป็น
เด็กอายุไม่เกินสิบแปดปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๖
มาตรา ๒๓๗ ตรี ให้นําความในมาตรา ๒๓๗ ทวิ มาใช้บังคับโดยอนุโลมแก่กรณี
การสืบพยานผู้เชีสํ่ยาวชาญ และพยานหลักฐานอื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่น และแก่กรณี
สําทนัี่ไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
มีการฟ้องคดีไว้แล้วแต่กมา ีเหตุจําเป็น
ที่ต้องสืบพยานหลักฐานไว้ก่อนถึงกําหนดเวลาสืบพยานตามปกติตามมาตรา ๑๗๓/๒ วรรคสองด้วย
ในกรณีกาที่พยานหลักฐานทางวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ทยาศาสตร์จะสามารถพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สูจน์ให้เห็สํานนัถึกงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้อเท็จจริงอัน กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๖
มาตรา ๒๓๗ ตรี เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สําคัญในคดีได้ หรือมีเหตุอันควรเชื่อว่า หากมีการเนิ่นช้ากว่าจะนําพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อัน


สํานักสํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าคัญมาสืบในภายหน้ากพยานหลั
า กฐานนั
สํานั้นกจะสู ญเสียไปหรือเป็นการยากแก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา การตรวจพิ สูจน์ ผู้ต้องหา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือพนักงานอัยการโดยตนเองหรือเมื่อได้รับคําร้องจากพนักงานสอบสวนหรือผู้เสียหาย จะยื่นคําร้อง
ขอ ให้ศาลสั่งให้ทสําํานัการตรวจพิ สูจน์ทางวิทยาศาสตร์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตามความในมาตรา ๒๔๔/๑ ไว้กกา่อนฟ้องก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทั้งนี้ ให้นําบทบัญญัติในมาตรา ๒๓๗ ทวิ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พยานเอกสาร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๓๘ ต้นฉบับเอกสารเท่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา านั้นที่อ้าสํงเป็
านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
พยานได้ ถ้าหาต้นฉบับกาไม่ได้ สําเนา
ที่รับรองว่าถูกต้องหรือพยานบุคคลที่รู้ข้อความก็อ้างเป็นพยานได้
ถ้าอ้างหนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งสือราชการเป็
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
พยาน แม้ต้นฉบับยังมีกอา ยู่จะส่งสําเนาที
สํานั่เกจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหน้าที่รับรอง กา
ว่าถูกต้องก็ได้ เว้นแต่ในหมายเรียกจะบ่งไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓๙ เอกสารใดซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งคู่ความอ้าง แต่มิได้อยู่ในความยึดถือสําของเขา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าคู่ความ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั้นแจ้งถึงลักษณะและที่อยู่ของเอกสารต่อศาล ให้ศาลหมายเรียกบุคคลผู้ยึดถือนําเอกสารนั้นมาส่งศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๔๗
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๔๐ ในกรณีที่ศาลมิได้กําหนดให้มีวันตรวจพยานหลักฐานตามมาตรา
สํานัก๑๗๓/๑ เมื่อคู่ความประสงค์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จะอ้างเอกสารที ่อยู่ในความครอบครองของตนเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นพยานหลั กฐาน ให้ยื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พยานเอกสารนั้นต่อศาลก่อนวันไต่สวนมูลฟ้องหรือวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน เพื่อให้คู่ความอีก
ฝ่ายหนึ่งมีโอกาสตรวจและขอคั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดสําเนาเอกสารดั กา งกล่าวได้สํกา่อนันที ่จะนําสืบพยานเอกสารนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น เว้นแต่
เอกสารที่คู่ความประสงค์จะอ้างอิงนั้นเป็นบันทึกคําให้การของพยาน หรือเป็นเอกสารที่ปรากฏชื่อ
สํานักหรื อที่อยู่ของพยาน หรืกอา ศาลเห็นสมควรสั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่งเป็นอย่างอื่นอันเนื่อกงจากสภาพและความจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าเป็นแห่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เอกสารนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณี ที่ ไ ม่ อ ยู่ ใ นบั ง คั บ ต้ อ งส่ ง เอกสารตามวรรคหนึ่ ง เมื่ อ มี เ อกสารใช้ เ ป็ น
สํานักพยานหลั กฐานในชั้นศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้อ่านหรือสําส่นังกให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
คู่ความตรวจดู ถ้าคู่คกวามฝ่า ายใดต้อสํงการสํ าเนา ศาลมี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อํานาจสั่งให้ฝ่ายที่อ้างเอกสารนั้นส่งสําเนาให้อีกฝ่ายหนึ่งตามที่เห็นสมควร
สํถ้าานัคูก่ คงานคณะกรรมการกฤษฎี
วามฝ่ า ยใดไม่ ส่ ง เอกสารตามวรรคหนึ
กา สํานัก่ งงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรื อ สํ า เนาเอกสารตามวรรคสอง
กา
หรือไม่ ส่งพยานเอกสารหรื อพยานวั ตถุตามมาตรา ๑๗๓/๒ วรรคหนึ่ง ให้ศ าลมีอํานาจไม่รับฟัง
สํานักพยานหลั กฐานนั้น เว้นกแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ศาลเห็นว่าสํเป็
านันกกรณี เพื่อประโยชน์แห่กงความยุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ติธรรมสําหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
การไม่ปฏิบัติ กา
ดังกล่าวมิได้เป็นไปโดยจงใจและไม่เสียโอกาสในการดําเนินคดีของคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พยานวัตถุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๗
มาตรา ๒๔๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒๔๑ สิ่งใดใช้เป็นพยานวัตถุต้องนํามาศาล
สํในกรณี ที่นํามาไม่ได้ ให้ศาลไปตรวจจดรายงานยั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งที่ที่พยานวัตถุนั้นอยูก่ตาามเวลาและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
วิธีซึ่งศาลเห็นสมควรตามลักษณะแห่งพยานวัตถุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๔๒ ในระหว่างสอบสวน


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไต่สวนมูสําลนัฟ้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งหรือพิจารณา สิ่งของซึ
กา่งเป็นพยาน
วัตถุต้องให้คู่ความหรือพยานตรวจดู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้ามีกการแก้
า ห่อหรือทํสําาลายตรา การห่อหรือตีตราใหม่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้ทําต่อหน้สําาคูนัก่คงานคณะกรรมการกฤษฎี
วามหรือพยาน กา
ที่เกี่ยวข้องนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๘
หมวด ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้เชี่ยวชาญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๙
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๔๓ ผู้ใสํดโดยอาชี พหรือมิใช่ก็ตาม มีความเชี่ยวชาญในการใด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ๆ เช่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในทางวิทยาศาสตร์ ศิลปะ ฝีมือ พาณิชยการ การแพทย์ หรือกฎหมายต่างประเทศ และซึ่งความเห็น
ของผู้นั้นอาจมีปสํระโยชน์ ในการวินิจฉัยคดี ในการสอบสวน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัไต่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา กา อาจเป็น
พยานในเรื่องต่าง ๆ เป็นต้นว่า ตรวจร่างกายหรือจิตของผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือจําเลย ตรวจลายมือ
สํานักทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าการทดลองหรือกิจการอย่ กา างอื่น ๆ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้เชี่ยวชาญอาจทําความเห็นเป็นหนังสือก็ได้แต่ต้องส่งสําเนาหนังสือดังกล่าวให้ศาล
และคู่ความอีกฝ่าสํยหนึ ่งทราบ และต้องมาเบิกากความประกอบหนั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งสือนั้น เว้นแต่มีเหตุกจา ําเป็น หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คู่ความไม่ติดใจซักถามผู้เชี่ยวชาญนั้น ศาลจะให้รับฟังความเห็นเป็นหนังสือดังกล่าวโดยผู้เชี่ยวชาญ
สํานักไม่ ต้องมาเบิกความประกอบก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ผู้เชี่ยวชาญต้องมาเบิกความประกอบ ให้ส่งสําเนาหนังสือดังกล่าวต่อศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในจํานวนที่เพียงพอล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันเบิกความเพื่อให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมารับไป
ในการเบิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กความประกอบ ผู้เชี่ยวชาญจะอ่านข้อความที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่เขียนมาก็สํไาด้นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๐
สํมาตรา ๒๔๔ ถ้าศาลหรืกอา พนักงานฝ่ายปกครองหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี อตํารวจชั้นผู้ใหญ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เห็นจําเป็น
เนื่องในการไต่สวนมูลฟ้อง พิจารณา หรือสอบสวน ที่จะต้องตรวจศพ แม้ว่าจะได้บรรจุหรือฝังแล้ว
สํานักก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ต าม ให้มีอํานาจสั่งให้กาเอาศพนั้นให้สํผาู้เนัชีก่ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
วชาญตรวจได้ แต่การกระทํ
กา าตามคําสํสัานั่งกดังานคณะกรรมการกฤษฎี
งกล่าวจะต้อง กา
คํานึงถึงหลักทางศาสนาและไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๘
หมวด ๕ ผู้เชี่ยวชาญ มาตรา ๒๔๓ ถึง มาตรา ๒๔๔/๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
สํานักแก้ ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๙
มาตรา ๒๔๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๐
มาตรา ๒๔๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๒๔๔/๑ ๑๕๑สํานัในกรณี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ค วามผิ ด อาญาทีกา่ มี อั ต ราโทษจํสําานัคุกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี หากมี ค วาม กา
จําเป็นต้องใช้พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดที่เป็นประเด็นสําคัญแห่งคดี
ให้ศาลมีอํานาจสัสํ่งาให้นักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําการตรวจพิสูจน์บุคคลกาวัตถุ หรือเอกสารใด โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้
ในกรณีที่การตรวจพิสูจน์ตามวรรคหนึ่ง จําเป็นต้องตรวจเก็บตัวอย่างเลือด เนื้อเยื่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผิวหนัง เส้นผมหรือขน น้ําลาย ปัสสาวะ อุจจาระ สารคัดหลั่ง สารพันธุกรรมหรือส่วนประกอบของ
ร่างกายจากคู่ความหรืสํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
บุคคลใด ให้ศาลมีอํานาจสั กา ่งให้แพทย์สํหานัรืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้เชี่ยวชาญดําเนินการตรวจดั กา งกล่าว
ได้ แต่ต้องกระทําเพียงเท่าที่จําเป็นและสมควรโดยใช้วิธีการที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุดเท่าที่
สํานักจะกระทํ าได้ทั้งจะต้องไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาเป็นอันตรายต่
สําอนัร่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
งกายหรืออนามัยของบุกาคคลนั้น และคูสํา่คนัวามหรื อบุคคลที่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เกี่ยวข้องต้องให้ความยินยอม หากคู่ความฝ่ายใดไม่ยินยอมหรือกระทําการป้องปัดขัดขวางมิให้บุคคล
ที่เกี่ยวข้องให้ความยิ
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยอมโดยไม่มีเหตุอันสมควร กา ให้สันนิษสํฐานไว้ เบื้องต้นว่าข้อเท็จจริงกเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นไปตามที่
คู่ความฝ่ายตรงข้ามกล่าวอ้าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณีกาที่พยานหลักฐานทางวิ ทยาศาสตร์สามารถพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สูจน์ให้เห็นสํถึางนัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
เท็จจริงที่อาจ กา
ทําให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดีได้โดยไม่ต้องสืบพยานหลักฐานอื่นอีก หรือมีเหตุอันควรเชื่อว่าหากมีการ
เนิ่นช้ากว่าจะนําสํพยานหลั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฐานทางวิทยาศาสตร์อันสําคัญสํมาสื านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บในภายหน้าพยานหลักฐานนั้นจะ
สูญเสียไปหรือยากแก่การตรวจพิสูจน์ สํเมืานั่อกคูงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร้กอางขอหรือเมื่อศาลเห็ นสมควร ศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาจสั่งให้ทําการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ตามความในวรรคหนึ่งและวรรคสองได้ทันทีโดยไม่จําต้อง
รอให้ถึงกําหนดวันสํสืานับกพยานตามปกติ ทั้งนี้ ให้กนาําบทบัญญัติในมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี ๒๓๗ ทวิ มาใช้บังคักบาโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ค่าใช้จ่ายในการตรวจพิสูจน์ตามมาตรานี้ให้สั่งจ่ายจากงบประมาณตามระเบียบที่
สํานักคณะกรรมการบริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี หารศาลยุ กา ติธรรมกําหนดโดยความเห็ นชอบจากกระทรวงการคลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาภาค ๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การบังคับตามคําพิพากษาและค่าธรรมเนียม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การบั
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
คับตามคําพิพากษา กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๒
มาตรา ๒๔๕ ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๒๔๖, ๒๔๗ และ ๒๔๘ เมื่อคดีถึงที่สุด
สํานักแล้ ว ให้บังคับคดีโดยไม่ชกาักช้า
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศาลชั้นต้นมีหน้าที่ต้องส่งสํานวนคดีที่พิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิต หรือจําคุก
ตลอดชีวิต ไปยังสํศาลอุ ทธรณ์ในเมื่อไม่มีการอุกาทธรณ์คําพิพสํากษานั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้น และคําพิพากษาเช่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานว่านี้จะยัง
ไม่ถึงที่สุด เว้นแต่ศาลอุทธรณ์จะได้พิพากษายืน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๑
มาตรา ๒๔๔/๑ เพิ่ม โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๘)งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๒
มาตรา ๒๔๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๖) พ.ศ.กา๒๔๙๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๒๔๖ ๑๕๓ เมื


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่ อกจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
า เลย สามี ภริ ย า ญาติ
กา ข องจํา เลยสําพนั ก งานอั ย การ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู ้ บ ั ญ ชาการเรื อ นจํ า หรื อ เจ้ า พนั ก งานผู้ มี ห น้ า ที่ จั ด การตามหมายจํ า คุ ก ร้ อ งขอ หรื อ เมื่ อ ศาล
เห็นสมควร ศาลมีสําอนัํากนาจสั ่งให้ทุเลาการบังกคัาบให้จําคุกไว้สํกา่อนันจนกว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี าเหตุอันควรทุเลาจะหมดไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในกรณีต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เมื่อจําเลยวิกลจริต
สํ(๒)
านักเมื ่อเกรงว่าจําเลยจะถึงอักนา ตรายแก่ชีวิตสํถ้านัาต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี งจําคุก กา
(๓) ถ้าจําเลยมีครรภ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔) ถ้ากจําาเลยคลอดบุสํตารแล้ วยังไม่ถึงสามปี และจํากเลยต้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า องเลี้ยงดูสํบาุตนัรนั ้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในระหว่างทุเลาการบังคับอยู่นั้นศาลจะมีคําสั่งให้บุคคลดังกล่าวอยู่ในความควบคุม
ในสถานที่อันควรนอกจากเรื อนจําหรือสถานที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ที่กําหนดไว้ใสํนหมายจํ าคุกก็ได้ และให้ศกาลกํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าหนดให้
เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายนั้นเป็นผู้มีหน้าที่และรับผิดชอบในการดําเนินการตามคําสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ลักษณะของสถานที
กา ่อสํันานัควรตามวรรคสองให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี เป็นไปตามที
กา ่กําหนดในกฎกระทรวง ซึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต้องกําหนดวิธีการควบคุมและบําบัดรักษาที่เหมาะสมกับสภาพของจําเลย และมาตรการเพื่อป้องกัน
การหลบหนี หรือสํความเสี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยหายที่อาจเกิดขึ้นด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อศาลมีคําสั่งตามวรรคหนึ ่งแล้ว หากภายหลังจําเลยไม่ปฏิสํบาัตนัิตกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ามวิธีการหรือ กา
มาตรการตามวรรคสามหรือพฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป ให้ศาลมีอํานาจเปลี่ยนแปลงคําสั่งหรือให้
ดําเนินการตามหมายจํ าคุกได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้หักจํานวนวันที่จําเลยอยู่ในความควบคุมตามมาตรานี้ออกจากระยะเวลาจําคุก
สํานักตามคํ าพิพากษา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๔๗ คดีที่จําเลยต้กอางประหารชีวิตสําห้นักามมิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ให้บังคับตามคําพิพากษา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จนกว่า
จะได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยอภัยโทษแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีหญิงใดจะต้
กา องประหารชี
สํานักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิต ถ้ามีครรภ์อยู่ ให้รอไว้
กาจนพ้นกําหนดสามปี นับแต่คลอด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุตรแล้ว ให้ลดโทษประหารชีวิตลงเหลือจําคุกตลอดชีวิต เว้นแต่เมื่อบุตรถึงแก่ความตายก่อนพ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กําหนดเวลาดังกล่าว ในระหว่างสามปีนับแต่คลอดบุตร ให้หญิงนั้นเลี้ยงดูบุตรตามความเหมาะสม
สํานักในสถานที ่ที่สมควรแก่กการเลี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ้ยงดูบุตรภายในเรื อนจํา๑๕๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การประหารชีวิตให้ประหาร ณ ตําบลและเวลาที่เจ้าหน้าที่ในการนั้นจะเห็นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๔๘ ถ้าบุ คคลซึ่งต้ องคําพิพากษาให้ประหารชีวิตเกิดวิ กลจริตก่อนถู ก
สํานักประหารชี วิต ให้รอการประหารชี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วิตไว้กสํา่อนันจนกว่ าผู้นั้นจะหาย ขณะทุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เลาการประหารชี วิตอยู่นั้น ศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มีอํานาจยกมาตรา ๔๖ วรรค (๒) แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาบังคับ
สํถ้าานัผูก้วงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิกลจริตนั้นหายภายหลักงาปีหนึ่งนับแต่สํวาันนัคํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
พิพากษาถึงที่สุดให้ลดโทษประหาร
กา
ชีวิตลงเหลือจําคุกตลอดชีวิต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๓
มาตรา ๒๔๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๕) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๕๐ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๔
มาตรา ๒๔๗ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธีพิจารณาความอาญา (ฉบั กาบที่ ๒๕) พ.ศ. สํ๒๕๕๐
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๒๔๙ ๑๕๕ คํสําาพินัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ากษาหรือคําสั่งให้คื นกหรื
า อ ใช้ ร าคาทรัสําพนัย์กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิน ค่าสินไหม กา
ทดแทนหรือค่าธรรมเนียมนั้น ให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๕๐ ๑๕๖ ถ้า คํา พิพ ากษามิไ ด้ร ะบุไ ว้เ ป็น อย่า งอื่น บุค คลทั้ง ปวงซึ่ง ต้อ ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําพิพากษาให้ลงโทษโดยได้กระทําความผิดฐานเดียวกัน ต้องรับผิดแทนกันและต่างกันในการคืนหรือ
ใช้ราคาทรัพย์สินหรื
สํานัอกใช้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ค่าสินไหมทดแทน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๗
มาตรากา๒๕๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้สําาต้นัอกงยึ ดทรัพย์สินคราวเดียกวกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า นสํ าหรับ ใช้สํคานั่ ากธรรมเนี ยมศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ค่าปรับราคาทรัพย์สิน หรือค่าสินไหมทดแทน แต่ทรัพย์สินของจําเลยไม่พอใช้ครบทุกอย่างให้นํา
จํานวนเงินสุทธิของทรั พย์สินนั้นใช้ตามลําดับดักงาต่อไปนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑) ค่าธรรมเนียม
(๒) ราคาทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์สินหรืสํอานัค่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
สินไหมทดแทน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ค่าปรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ค่าธรรมเนียม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๕๒ ในคดีอสําญาทั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้งหลายห้ามมิให้ศาลยุกตาิธรรมเรียกค่าสํธรรมเนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยมนอกจาก
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๕๓๑๕๘ ในคดีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ซึ่งมีคําร้องให้คืนหรือใช้ราคา
สํานักทรั พย์สินติดมากับฟ้องอาญาตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๔๓ หรือมีคําขอของผูก้เาสียหายขอให้สํบานัังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บจําเลยชดใช้ กา
ค่า สิน ไหมทดแทนมิให้เรียกค่าธรรมเนียม เว้นแต่ในกรณีที่ศาลเห็นว่าผู้เสียหายเรียกเอาค่าสินไหม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทดแทนสูงเกินสมควร หรือดําเนินคดีโดยไม่สุจริต ให้ศาลมีอํานาจสั่งให้ผู้เสียหายชําระค่าธรรมเนียม
สํานักทังานคณะกรรมการกฤษฎี
้งหมดหรือแต่เฉพาะบางส่
กา วนภายในระยะเวลาที ่ศาลกําหนดก็ได้กและถ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าผู้เสียหายเพิ กเฉยไม่ปฏิบัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตามคําสั่งศาล ให้ถือว่าเป็นการทิ้งฟ้องในคดีส่วนแพ่งนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๑๕๕
มาตรา ๒๔๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๔) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๔๘ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๖
มาตรา ๒๕๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๗
มาตรา ๒๕๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๔) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๔๘ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๘
มาตรา ๒๕๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ในกรณีที่มีคําพิพากษาหรือคําสั่งให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์สิน หรือค่าสินไหมทดแทน
สํานักตามวรรคหนึ ่ง ถ้าศาลยักงาต้องจัดการอะไรอี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กเพื่อการบังคับ ผู้ที่จกะได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า รับคืนทรัพสํย์าสนัินกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือราคาหรือ กา
ค่าสินไหมทดแทน จักต้องเสียค่าธรรมเนียมดังคดีแพ่งสําหรับการต่อไปนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๕๔ ๑๕๙ ภายใต้ บั ง คั บ แห่ ง มาตรา ๒๕๓ วรรคหนึ่ ง ในคดี ที่ ผู้ เ สี ย หาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เรียกร้องให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์สิน หรือใช้ค่าสินไหมทดแทนซึ่งติดมากับฟ้องคดีอาญา หรือที่ฟ้อง
เป็นคดีแพ่งโดยลําสํพัานังกให้ เรียกค่าธรรมเนียมดังกคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า แพ่ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คดี ใ นส่ ว นแพ่ ง ตามวรรคหนึ่ ง ถ้ า ผู้ เ สี ย หายซึ่ ง เป็ น โจทก์ ป ระสงค์ จ ะขอยกเว้ น
สํานักค่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าธรรมเนียมศาลในศาลชั กา ้นต้น ชั้นอุสํทานัธรณ์ หรือชั้นฎีกา ให้ยื่นกคําาขอต่อศาลชัสํ้นาต้นันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ที่ได้ยื่นฟ้องไว้ กา
พร้อมกับคําฟ้อง คําฟ้องอุทธรณ์ หรือคําฟ้องฎีกา แล้วแต่กรณี หากศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีอาญาที่
ฟ้องมีมูลและการเรี
สํานัยกกเอาค่ าสินไหมทดแทนนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น ไม่เกินสมควรและเป็ นไปด้วยความสุจกริา ต ให้ศาลมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คําสั่งอนุญาตตามคําขอ แต่ถ้าศาลมีคําสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้แก่โจทก์แต่เฉพาะบางส่วนหรือมี
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าสั่งยกคําขอ ก็ให้ศาลกํ กา าหนดเวลาให้ สําโนัจทก์ ชําระค่าธรรมเนียมดักางกล่าว คําสั่งสํของศาลชั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นต้นที่ให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยกเว้นค่ าธรรมเนี ย มศาลหรื อยกคําขอให้ มี ผ ลสํ าหรับการดําเนินคดีตั้งแต่ชั้นศาลซึ่งคดีนั้นอยู่ ใ น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระหว่างพิจารณาไปจนกว่ าคดีจะถึงที่สุด เว้นแต่ในกรณีที่พสําฤติ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การณ์แห่งคดีเปลี่ยนแปลงไป ศาลที่
พิจารณาคดีจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําสั่งสํนัา้นนัได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามที่เห็นสมควร
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห้ามมิให้อุทธรณ์หรือฎีกาคําสั่งของศาลตามวรรคสอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๕๕ ในคดีดังบัญญัติในมาตรา ๒๕๓ วรรค ๒ และมาตรา ๒๕๔ ถ้ามีคําขอ
สํานักศาลมี อํานาจสั่งให้ฝ่ายทีก่แาพ้คดีใช้ค่าธรรมเนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
มแทนอีกฝ่ายหนึ่งได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๕๖๑๖๐ ให้ศาลจ่กายค่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าพาหนะ ค่สําานัป่กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการ และค่าเช่าที่พักกทีา่จําเป็นและ
สมควรแก่พยานซึ่งมาศาลตามหมายเรียก ตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมกําหนด
สํานักโดยความเห็ นชอบจากกระทรวงการคลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํงานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พยานที่ ไ ด้ รั บ ค่ า พาหนะ ค่ า ป่ ว ยการ หรื อ ค่ า เช่ า ที่ พั ก ในลั ก ษณะเดี ย วกั น ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายอื่นแล้วไม่มีสิทธิได้รับตามมาตรานี้อีก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๕๗๑๖๑ (ยกเลิก)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๒
มาตรา ๒๕๘ ให้นําบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๙
มาตรา ๒๕๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๔) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๔๘ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๐
มาตรา ๒๕๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๑
มาตรา ๒๕๗ ยกเลิก โดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไ ขเพิ่ม เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๘)งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๒
มาตรา ๒๕๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ค่าฤชาธรรมเนียมมาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภาค ๗
อภัยโทษ เปลี่ยนโทษหนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กเป็นโทษเบา
สํานักและลดโทษ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๑๖๓
สํมาตรา ๒๕๙ ผู้ ต้ อ งคํกาาพิ พ ากษาให้สํราั บนัโทษอย่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า งใด ๆ หรื อ ผู้ ทกี่ มา ี ป ระโยชน์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกี่ยวข้อง เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว ถ้าจะทูลเกล้าฯ ถวายเรื่องราวต่อพระมหากษัตริย์ขอรับพระราชทาน
สํานักอภั ยโทษ จะยื่นต่อรัฐมนตรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว่าการกระทรวงยุ ติธรรมก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๖๐๑๖๔ ผู้ถวายเรืก่อางราวซึ่งต้องจํสําาคุนักกอยู


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ในเรือนจํา จะยื่นเรื่อกงราวต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อพัศดี
หรือผู้บัญชาการเรือนจําก็ได้ เมื่อได้รับเรื่องราวนั้นแล้ว ให้พัศดีหรือผู้บัญชาการเรือนจําออกใบรับ
สํานักให้ แก่ผู้ยื่นเรื่องราว แล้วกให้า รีบส่งเรื่องราวนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุ
กา ติธรรมสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๖๑ รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงยุ ติ ธ รรมมี ห น้ า ที่ ถ วายเรื่ อ งราวต่ อ
พระมหากษัตริย์พร้อมทั้งถวายความเห็สํนาว่นัากควรพระราชทานอภั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยโทษหรือไม่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ไม่มีผู้ใดถวายเรื่องราว ถ้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเห็นเป็นการ
สมควร จะถวายคํสําาแนะนํ าต่อพระมหากษัตริยก์ขาอให้พระราชทานอภั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยโทษแก่ผู้ต้องคําพิพกากษานั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้นก็ได้
๑๖๖
มาตรากา๒๖๑ ทวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําในกรณี ที่คณะรัฐมนตรีเห็นกเป็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นการสมควรจะถวายคํ าแนะนํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต่อพระมหากษัตริย์ขอให้พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องโทษก็ได้
สํการพระราชทานอภั ยโทษตามวรรคหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ง ให้สําตนัราเป็ นพระราชกฤษฎีกา กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๒๖๒ ภายใต้สําบนัังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บแห่งมาตรา ๒๔๗ และกา ๒๔๘ เมื่อคดี
สํานัถกึงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่สุด ผู้ใดต้อง กา
คําพิพากษาให้ประหารชีวิต ให้เจ้าหน้าที่นําตัวผู้นั้นไปประหารชีวิตเมื่อพ้นกําหนดหกสิบวันนับแต่วัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฟังคําพิพากษา เว้นแต่ในกรณีที่มีการถวายเรื่องราวหรือคําแนะนําขอให้พระราชทานอภัยโทษตาม
สํานักมาตรา ๒๖๑ ก็ให้ทุเลาการประหารชี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํวาิตนัไว้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จนกว่าจะพ้นกําหนดหกสิกา บวันนับแต่วสํันานัทีก่รงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัฐมนตรีว่าการ กา
กระทรวงยุติธรรมถวายเรื่องราวหรือคําแนะนําขึ้นไปนั้น แต่ถ้าทรงยกเรื่องราวนั้นเสีย ก็ให้จัดการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๑๖๓
มาตรา ๒๕๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๓) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๔๘ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๔
มาตรา ๒๖๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักความอาญา (ฉบับที่ ๒๓) พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๕
มาตรา ๒๖๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับที่ ๒๓) งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ก พ.ศ. ๒๕๔๘ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๖
มาตรา ๒๖๑ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญ ญัติแ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณา
สํานักความอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๙) พ.ศ.กา ๒๕๑๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ประหารชีวิตก่อนกําหนดนี้ได้๑๖๗
เรื่องราวหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อคําแนะนํ สํานัาขอพระราชทานอภั ยโทษแก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผู้ต้องคําพิสํพานัากษาให้ ประหาร
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชีวิต ให้ถวายได้แต่ครั้งเดียวเท่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๖๓ เหตุที่มีเรื่องราวขอพระราชทานอภัยโทษในโทษอย่างอื่นนอกจากโทษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประหารชีวิต ไม่เป็นผลให้ทุเลาการลงโทษนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๖๔ เรื่องราวขอพระราชทานอภัยโทษอย่างอื่นซึ่งมิใช่โทษประหารชีวิต
สํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าถูกยกหนหนึ่งแล้ว จะยื
กา ่นใหม่อีกไม่ไสํด้าจนันกว่ าจะพ้นสองปีนับแต่วกันาถูกยกครั้งก่อนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํมาตรา ๒๖๕ ในกรณีที่มีกการอภั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ยโทษเด็ดสํขาดโดยไม่ มีเงื่อนไข ห้ามมิกใาห้บังคับโทษ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้น ถ้าบังคับโทษไปบ้างแล้วให้หยุดทันที ถ้าเป็นโทษปรับที่ชําระแล้ว ให้คืนค่าปรับให้ไปทั้งหมด
ถ้าการอภั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยโทษเป็นสํแต่
านัเกพีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยงเปลี่ยนโทษหนักเป็กนา เบาหรือลดโทษ
สํานักโทษที ่เหลืออยู่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ก็ให้บังคับไปได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่การได้รับพระราชทานอภัยโทษ ไม่เป็นสํเหตุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ผู้รับพ้นความรับผิดในการต้องคืน
หรือใช้ราคาทรัพย์สินหรือค่าทดแทนตามคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าพิพากษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๖๖ เมื่อ ผู้ไ ด้รับกพระราชทานอภั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานัยกโทษเนื ่อ งจากการกระทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา า ความผิด
อย่างหนึ่งถูกฟ้องว่ากระทําความผิดอีกอย่างหนึ่ง อภัยโทษนั้นย่อมไม่ตัดอํานาจศาลที่จะเพิ่มโทษ
สํานักหรื อไม่รอการลงอาญาตามกฎหมายลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กสํษณะอาญาว่ าด้วยกระทําผิดกหลายครั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้งไม่เข็สํดาหลาบ หรือว่าด้วย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รอการลงอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๖๗ บทบั ญ ญั ติ ใ นหมวดนี้ ให้ นํ า มาบั ง คั บ โดยอนุ โ ลมแก่ เ รื่ อ งราวขอ
สํานักพระราชทานเปลี ่ยนโทษหนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กเป็นเบาหรื
สําอนัลดโทษ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๗
มาตรา ๒๖๒ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี กาบที่ ๒๓) พ.ศ. สํ๒๕๔๘
ธีพิจารณาความอาญา (ฉบั านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

บัญชีแนบท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา๑๖๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ความผิดในกฎหมายลักกษณะอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ทีสํ่มาาตรา ๗๙ อ้างถึง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ซึ่งราษฎรมีอํานาจจับได้โดยไม่ต้องมีหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประทุษร้ายต่อพระบรมราชตระกูล มาตรา ๙๗ และ ๙๙
สํานักขบถภายในพระราชอาณาจั
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา กร สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๑๐๑ สํานัถึกงงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๐๔ กา
ขบถภายนอกพระราชอาณาจักร มาตรา ๑๐๕ ถึง ๑๑๑
ความผิดต่อทางพระราชไมตรี กับต่างประเทศกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา ๑๑๒ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทําอันตรายแก่ธง หรือเครื่องหมายของต่างประเทศ มาตรา ๑๑๕
สํานักความผิ ดต่อเจ้าพนักงาน
งานคณะกรรมการกฤษฎี ก า สํ านั กงานคณะกรรมการกฤษฎี ก า มาตรา ๑๑๙
สํานัถึกงงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๒๒ กา
และ ๑๒๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลบหนีจากที่คุมขัง มาตรา ๑๖๓ ถึง ๑๖๖
ความผิดต่อศาสนา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๒ และ ๑๗๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก่อการจลาจล มาตรา ๑๘๓ และ ๑๘๔
กระทําให้เกิดภยันสํตรายแก่ สาธารณชน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทําให้สาธารณชนปราศจากความสะดวก
สํานักในการไปมาและการส่
งานคณะกรรมการกฤษฎีงข่กาาวและของถึงสํกัานนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และกระทําให้สาธารณชนปราศจากความสุขสบาย มาตรา ๑๘๕ ถึง ๑๙๔, ๑๙๖,
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑๙๗ และ ๑๙๙ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปลอมแปลงเงินตรา มาตรา ๒๐๒ ถึ ง ๒๐๕ และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒๑๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข่มขืนกระทําชําเรา มาตรา ๒๔๓ ถึง ๒๔๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประทุษร้ายแก่ชีวิต มาตรา ๒๔๙ ถึง ๒๕๑
สํานักประทุ ษร้ายแก่ร่างกาย กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๒๕๔ สํานัถึกงงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๗ กา
ความผิดฐานกระทําให้เสื่อมเสียอิสรภาพ มาตรา ๒๖๘, ๒๗๐ และ ๒๗๖
ลักทรัพย์ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๒๘๘ ถึง ก๒๙๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า
วิ่งราว ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ และโจรสลัด มาตรา ๒๙๗ ถึง ๓๐๒
สํานักกรรโชก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๐๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๘
บัญชีแนบท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
สํานักแก้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธีพิจารณาความอาญา
ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๔๙๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พุทธศักราช ๒๔๘๓๑๖๙


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พุทธศักราช ๒๔๘๓ นี้ มีหลักการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑. แก้ไขเพิ่มเติมตําแหน่งเจ้าพนักงานที่เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจชั้น
ผู้ใหญ่บางตําแหน่สํงานัและเที ยบยศตํารวจบางอย่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างเพื่อให้ตรงกั
สํานับกตํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าแหน่งราชการของตํากรวจที า ่เป็นอยู่
และเพื่อให้เป็นการเหมาะสมยิ่งขึ้น
๒. ให้กอาธิบดีกรมตํารวจประกาศแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งตั้งข้าราชการตํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ารวจที่มียศไม่
สํานัตก่ํางานคณะกรรมการกฤษฎี
กว่าชั้นนายสิบ กา
ตํารวจในราชกิจจานุเบกษา เป็นพนักงานสอบสวนได้ด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้การสอบสวนได้ดําเนินไป
ด้วยดีและรวดเร็วสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักพระราชกํ ๑๗๐
าหนดแก้ไขเพิก่มาเติมประมวลกฎหมายวิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พุทธศักราช
สํานั๒๔๘๗
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชกําหนดนี้ให้ใช้บังคับสํตัานั้งแต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติไสํม่านัอกนุงานคณะกรรมการกฤษฎี
มัติพระราชกําหนดแก้กาไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๑๗๑
พุทธศักราช ๒๔๘๗ พุทธศักราช ๒๔๘๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓ ไม่อนุมัติพระราชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา พุทธศัสํากนัราช ๒๔๘๗
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉะบับที่ ๒) สํพ.ศ. ๒๔๘๗๑๗๒
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับได้ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สํานักเป็ นต้นไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๗๓
พระราชบัญญัติแก้สํไาขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายวิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาธีพิจารณาความอาญา (ฉะบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๒ พระราชบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกํากหนดสามสิ
า บวันสํานันับกแต่วันประกาศ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิ
กา จจานุเบกษา สํเล่ามนัก๕๗/-/หน้ า ๕๐๑/๘ ตุลาคมกา๒๔๘๓
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๗๐
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๖๑/ตอนที่ ๒๓/หน้า ๓๙๔/๑๑ เมษายน ๒๔๘๗
๑๗๑
สํานักราชกิ จจานุเบกษา เล่ม ๖๑/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ๕๖/หน้สํา า๗๘๐/๑๐ กันยายน ๒๔๘๗ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๗๒
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๖๑/ตอนที่ ๗๙/หน้า ๑๒๑๐/๓๑ ธันวาคม ๒๔๘๗
๑๗๓ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๖๔/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา มกราคม ๒๔๙๐
่ ๓/หน้า ๑๑๘/๑๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๙๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักพระราชบั ๑๗๔
ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
สํานัก๒๔๙๓
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ใกห้าใช้บังคับตั้งแต่สําวนัันกถังานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดจากวันประกาศในราชกิกาจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๗๕
พระราชบัญญัติแก้สํไาขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายวิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๔๙๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๒ พระราชบัญสํญัานัตกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดกจากวั
า นประกาศในราชกิ จจานุเบกษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๔๙๙๑๗๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหกสิบวัน นับแต่วันประกาศ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เพื่อให้คดีลุล่วงไปโดยเหมาะสมและ
รวดเร็วยิ่งขึ้น กับสํเพืานั่อกแก้ ข้อขัดข้องของศาล เจ้กาาพนักงาน และคู
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่คกวามในการดํ าเนินกระบวนพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จารณาที่
สําคัญบางประการ และแก้บัญชีแนบท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๐๑๑๗๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สํานักเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นต้นไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากพระราชบัญญัติระเบียบ
สํานักบริ หารราชการแผ่นดินก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า บที่ ๔) พ.ศ.
สํานั๒๔๙๙ ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงการจั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดระเบีสํายนับบริ หารราชการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ส่วนภูมิภาคใหม่ โดยให้มีแต่จังหวัดและอําเภอ ส่วนภาคยุบเลิกไป ตําแหน่งผู้ว่าราชการภาค รองผู้ว่า
ราชการภาค ผู้ช่วสํยผูานั้วก่างานคณะกรรมการกฤษฎี
ราชการภาค และมหาดไทยภาค
กา ซึ่งเป็นสําตํนัากแหน่ งประจําภาคจึงยุบเลิกกา ตามไปด้วย
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ประกอบกับสมควรจะให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองบางตําแหน่งซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวน
สํานักคดี อาญาในส่วนภูมิภาคกาเป็นพนักงานฝ่สําานัยปกครองหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี อตํารวจชั้นผูกา้ใหญ่ จึงจําเป็สํนาต้นัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งแก้ไขเพิ่มเติม กา
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเฉพาะที่เกี่ยวกับคําว่า “พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ
ชั้นผู้ใหญ่” เสียใหม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๑๗๔
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๖๗/ตอนที่ ๖๐/หน้า ๙๗๙/๗ พฤศจิกายน ๒๔๙๓
๑๗๕
สํานักราชกิ จจานุเบกษา เล่ม ๗๐/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ๑๐/หน้สํา า๑๙๘/๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๖ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๗๖
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๗๓/ตอนที่ ๑๖/หน้า ๑๒๖/๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๙
๑๗๗ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๗๕/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตุลาคม ๒๕๐๑สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ ๗๘/หน้า ๕๒๑/๗
- ๙๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักประกาศของคณะปฏิ วัตกิ าฉบับที่ ๓๓๓ สํลงวั


งานคณะกรรมการกฤษฎี ที่ ๑๓ ธันวาคม พุทธศักการาช ๒๕๑๕๑๗๘
านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํโดยที ่คณะปฏิวัติพิจารณาเห็กนา ว่า ในปัจจุบสํันานีนั้ภกงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าระของอธิบดีกรมตํารวจ
กา รองอธิบดี
กรมตํารวจ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นอันมาก ตลอดทั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิธีการชันสูตรพลิกศพก็ไม่สะดวกและเหมาะสม สมควรแก้ไขกรณีดังกล่าว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อ ๓ การชันสูตรพลิกศพกรณีที่การตายเกิดขึ้นโดยการกระทําของเจ้าพนักงาน
สํานักซึงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้
กา าที่ หรืสํอาตายในระหว่ างอยู่ในความควบคุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มของเจ้าสํพนั
านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งาน ซึ่งอ้างว่า กา
ปฏิบัติราชการตามหน้าที่ที่ได้เริ่มทําการชันสูตรพลิกศพไว้ก่อนวันประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใช้
บังคับ ให้ดําเนินสํการต่ อไปตามบทบัญญัติแห่กงาประมวลกฎหมายวิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ธีพิจารณาความอาญาซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งใช้อยู่ใน
ขณะนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อ ๔ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราช
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๑๗๑๗๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศ
สํานักในราชกิ จจานุเบกษาเป็นกาต้นไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมายเหตุ :- เหตุสํผาลในการประกาศใช้ พระราชบั


นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติฉบับนีสํา้ นัคืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
เพื่อให้ประชาชนในเขตอํ
กา านาจศาล
แขวงและศาลจังหวัดมีสิทธิในการอุทธรณ์โดยเท่าเทียมกัน และเพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีใน
สํานักศาลอุ ทธรณ์และศาลฎีกกาลุา ล่วงไปโดยเหมาะสมและรวดเร็
งานคณะกรรมการกฤษฎี วยิ่งขึ้น จึงกจําาเป็นต้องตราพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัตินี้ขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๑๗๑๘๐


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเป็นต้นไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักหมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํพาระราชบั ญญัติฉบับนี้ คือ เนื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่องด้วยการพระราชทานอภั ยโทษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ซึ่งบัญญัติไว้ในภาค ๗ ว่าด้วยอภัยโทษเปลี่ยนโทษหนักเป็นเบา และลดโทษ แห่งประมวลกฎหมายวิธี
พิจารณาความอาญา ยังมิได้กําหนดวิธีการขอพระราชทานอภั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
โทษให้แก่ผู้ต้องโทษทัก่วา ไป สมควร
กําหนดให้คณะรัฐมนตรีถวายคําแนะนําต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขอพระราชทานอภัยโทษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํ๑๗๘
านักราชกิ จจานุเบกษา เล่ม ๘๙/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ๑๙๐/ฉบัสําบนัพิกเศษ หน้า ๑๖๗/๑๓ ธันวาคม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๑๕
๑๗๙
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๑/ตอนที่ ๒๐๒/ฉบับพิเศษ หน้า ๑/๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๗
๑๘๐ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๙๑/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ๒๒๕/ฉบับพิเศษกาหน้า ๘/๒๙ ธันสํวาคม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๑๗ กา
- ๙๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

แก่ผู้ต้องโทษทั่วไปดังกล่าวได้ และโดยที่การพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องโทษทั่วไปได้เคยกระทําใน
สํานักรูงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปพระราชกฤษฎีกาเสมอมา กา แต่เนื่อสํงจากรั ฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กรไทย พุสําทนัธศั กราช ๒๕๑๗
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๑๙๒ ได้บัญญัติว่า “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอํานาจในการตราพระราชกฤษฎีกา
ตามที่กําหนดไว้ใสํนรั
านักฐงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธรรมนูญหรือกฎหมายอื กา ่ น ” สมควรกํ
สําานัหนดให้ การพระราชทานอภั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ย โทษได้
กระทําในรูปพระราชกฤษฎีกาดังที่ได้เคยปฏิบัติมา จึงจําเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๒๒๑๘๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาเป็ นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักหมายเหตุ :- เหตุ ผลในการประกาศใช้


งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัพกระราชบั ญ ญัติ ฉ บับนี้ คืกาอ โดยที่บทบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ิ แ ห่ ง ประมวล กา
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันมิได้ให้อํานาจศาลชั้นต้นอย่างชัดแจ้งในการที่
จะสั่งคําร้องขอให้สํปานัล่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
ยผู้ต้องหาหรือจําเลยชั่วกคราว า
ในกรณีสํทาี่ศนัาลชั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นต้นได้อ่านคําพิพากษาแล้ว ทั้งใน
การที่ศ าลจะสั่งคําร้อ งขอให้ปล่อ ยชัสํ่วาคราวในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ค วามผิดที่มีอัต ราโทษจําคุสํกาอย่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างสูง เกินสิบ ปี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศาลจะต้องถามพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือโจทก์ว่าจะคัดค้านประการใดหรือไม่ทุกกรณี
ไป ทําให้ศาลไม่สํสาามารถมี คําสั่ งได้โดยรวดเร็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาว สมควรให้สํอาํ านันาจศาลชั ้ นต้นสั่งคําร้อกงขอให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ปล่ อ ย
ผู้ต้องหาหรือจําเลยชั่วคราวในกรณีที่ศาลชั้นต้นได้อ่านคําพิพากษาแล้ว และให้อํานาจศาลที่จะงดการ
สํานักถามพนั กงานสอบสวน พนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กงานอัยการสําหรื นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
โจทก์ในกรณีที่ไม่อาจถามได้ กา โดยมีเหตุสํอานัันกควร เพื่อให้ศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สามารถมีคําสั่งคําร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวได้โดยรวดเร็วและเพื่อให้ผู้ต้องหาหรือจําเลยที่ถูกขังได้รับ
การคุ้มครองสิทธิสํแานัละเสรี ภาพมากยิ่งขึ้น ส่กวานการที่ศาลจะมี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัคกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําพิพากษานั้น สมควรกํ กาาหนดไว้ว่า
ถ้าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องเพียงรายละเอียดที่
สํานักเกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยวกั บเวลา หรือสถานที กา ่ ก ระทํ าความผิสํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรื อต่างกั นระหว่างการกระทํ
กา าความผิ
สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฐานลักทรัพย์ กา
กรรโชก ฉ้อโกง ยักยอก รับของโจร หรือต่างกันระหว่างการกระทําผิดฐานโดยเจตนาและประมาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มิให้ถือว่าต่างกันในข้อสาระสําคัญอันจะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องคดีนั้น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
สํานักแก่ ผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงจําเป็กานต้องตราพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัตินี้ขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘๒
พระราชบัญญัติแก้สํไาขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายวิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๒๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๒ พระราชบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพันกํกาาหนดสามสิบวัสํนานันับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่วันประกาศ กา
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระธรรมนูญศาลยุติธรรม
สํานักซึงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบั
กา ญญัติแก้สํไาขเพิ ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ติธรรม (ฉบับสําทีนั่ ก๗)งานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๒๒ กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๖/ตอนที่ ๖๔/ฉบับพิเศษ หน้า ๑/๒๘ เมษายน ๒๕๒๒
๑๘๒ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๙๗/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ๑๐๙/ฉบับพิเศษกาหน้า ๑/๑๖ กรกฎาคม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๒๓ กา
- ๙๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ได้แก้ไขเพิ่มเติมอํานาจในการพิจารณาพิพากษาคดีอาญาของศาลแขวงโดยเพิ่มจํานวนค่าปรับให้
สํานักสูงานคณะกรรมการกฤษฎี
ง ขึ้น จากหกพัน บาทเป็กาน หกหมื่น บาท สํานักเห็งานคณะกรรมการกฤษฎี
น สมควรแก้ไ ขเพิ่ม เติกาม ประมวลกฎหมายวิ ธีพิจ ารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความอาญา ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ๗)
พ.ศ. ๒๕๒๒ เพืสํ่อานัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ค ดีอาญาของศาลจังหวั กาดและศาลแขวงที ่ห้ามอุทธรณ์ คําพิพากษาในปั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญหา
ข้อเท็จจริงมีอัตราโทษเท่าเทียมกันอันจะเป็นผลทําให้ประชาชนที่อยู่ในเขตอํานาจศาลแขวงและใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เขตอํานาจศาลจังหวัดมีสิทธิในการอุทธรณ์โดยเท่าเทียมกัน และได้รับผลปฏิบัติทางคดีเช่นเดียวกัน
จึงจําเป็นต้องตราพระราชบั ญญัตินี้ขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘๓
สํานักพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๑๒)สํพ.ศ. ๒๕๒๓
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๒ พระราชบัญญัตกินา ี้ให้ใช้บังคับตัสํา้งนัแต่กงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วันถัดจากวันประกาศในราชกิ
กา จจา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ ๓๓๓ ข้อสํ๒านักได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกเลิกความในมาตรากา ๑๕๐ แห่งประมวลกฎหมายวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธีพิจารณาความอาญา
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้สํไาขเพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๖)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พ.ศ. ๒๔๙๙ โดยให้เหตุผลว่าวิธีการชันสูตรพลิกศพไม่สะดวกและเหมาะสม แต่เมื่อประกาศของ
คณะปฏิวัติฉ บั บสํนีานั้ปกระกาศใช้ แ ล้ว ปรากฏว่กาา เจ้ าพนั กงานที
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่ มกี องานคณะกรรมการกฤษฎี
ํ า นาจตามกฎหมายบางแห่
กา ง ได้ ใ ช้
ตําแหน่งหน้าที่ในทางมิชอบ เช่น เมื่อยิงราษฎรตายหรือทําร้ายราษฎรถึงแก่ความตายแล้วมักจะทํา
สํานักเป็ นวิสามัญฆาตกรรม และสรุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ปสํานวนส่ สํานังให้ อธิบดีกรมอัยการวินิจกฉัายโดยไม่ต้องให้สําศนัาลทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าการไต่สวน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ก่อน ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมขึ้นแก่ผู้ตาย ซึ่งญาติผู้ตายไม่สามารถนําพยานเข้าสืบเป็นการให้
อํานาจพนักงานสอบสวนมากเกิ นไป จึงสมควรยกเลิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กประกาศของคณะปฏิ วัติ ฉบับทีก่ า๓๓๓ ข้อ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
และให้บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๐ ที่ถูกยกเลิกมีผลใช้
สํานักบังานคณะกรรมการกฤษฎี
งคับต่อไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๒๕๑๘๔


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเป็นต้นไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักหมายเหตุ :- เหตุ ผลในการประกาศใช้


งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัพกระราชบั ญ ญั ติ ฉ บับนี้ คืกาอ โดยที่ บทบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ิแ ห่ง ประมวล กา
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน
สํ(๑)
านักอนุ ญาตให้มีการปล่อยชั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา่วคราวโดยไม่สํตานั้อกงมี ประกันได้เฉพาะคดีกทาี่มีอัตราโทษ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
จําคุกอย่างสูงไม่ถึงหนึ่งปี และ
(๒) มิกได้า กําหนดอย่างชั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําดนักแจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งว่า ในกรณีที่ศาลชั้นกต้านอ่านคําพิพากษาแล้ ว หากมีการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘๓
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๗/ตอนที่ ๑๑๓/ฉบับพิเศษ หน้า ๑/๒๕ กรกฎาคม ๒๕๒๓
๑๘๔ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๙๙/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ๘๐/ฉบับพิเศษกหน้
า า ๔/๑๑ มิถุนสํายน
านัก๒๕๒๕
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๙๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ยื่นคําร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวต่อศาลชั้นต้นก่อนส่งสํานวนไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาและศาล
สํานักชังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นต้นเห็นไม่สมควรอนุกญา าต ศาลชั้นต้สํนานัจะต้ อง “รีบ” ส่งคําร้องพร้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอมสํานวนไปให้สํานัศกาลอุ ทธรณ์หรือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ศาลฎีกาเพื่อสั่ง แล้วแต่กรณี เหมือนกับที่ได้กําหนดอย่างชัดแจ้งในกรณีที่มีการยื่นคําร้องขอให้ปล่อย
ชั่วคราวต่ อศาลชัสํ้านนัต้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่ อส่ งสํา นวนไปยั งศาลอุ
กา ท ธรณ์ ห รืสํอานัศาลฎี กาแล้ ว ทํา ให้ สิ ท ธิกเาสรี ภ าพของ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ต้ อ งหาและจํ า เลยในการได้ รั บ อนุ ญ าตให้ป ล่ อ ยชั่ ว คราวไม่ ได้ รั บ ความคุ้ ม ครองเท่ า ที่ค วร และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติของกฎหมายในเรื่องอย่างเดียวกันไม่สอดคล้องเป็นอย่างเดียวกัน
สํสมควรแก้ ไขเพิ่มเติมให้มีการอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตให้ปล่สํอานัยชั ่วคราวในคดีที่ไม่ร้ายแรงโดยไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต้ อ ง
มีประกันได้มากขึ้น และให้บทบัญ ญัติของกฎหมายดังกล่าวมีความสอดคล้องเป็นอย่างเดียวกัน
สํานักจึงานคณะกรรมการกฤษฎี
งจําเป็นต้องตราพระราชบั กา ญญัตินี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติแก้สํไาขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายวิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาธีพิจารณาความอาญา กา ๑๘๕
(ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๒๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๒ พระราชบัสําญนักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วกันา ถัดจากวันประกาศในราชกิ จจา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้สํพาระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญญัติฉบับนี้ คือ เพื่อให้การสอบสวนและคดี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลุล่วงไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยรวดเร็วและเหมาะสมยิ่งขึ้น กับเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการสืบสวนและสอบสวนจนได้ความแน่ชัด
ก่อนจับกุมผู้ต้องหา
สํานักจึงานคณะกรรมการกฤษฎี
งจําเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติกามประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญากา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๘๖
สํานักพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๑๕)สํพ.ศ. ๒๕๒๗
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ใกห้าใช้บังคับตั้งแต่สําวนัันกถังานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดจากวันประกาศในราชกิกาจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญ ญัติ ฉ บับนี้ คื อ โดยที่บทบัญ ญัติแ ห่ง ประมวล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) มิกได้าให้สิทธิแก่ผู้ถสํูกานัจักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือผู้ต้องหาที่จะพบและปรึ กา กษาทนายสองต่ อสอง สิทธิที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จะได้รับการเยี่ยมและสิทธิที่จะได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็ว ทําให้ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหามิได้รับ
ความคุ้มครองตามสมควร สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) มิได้ให้สิทธิแก่ผู้ต้องหาหรือจําเลยที่จะอุทธรณ์คําสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ปล่อย
สํานักชังานคณะกรรมการกฤษฎี
่วคราว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) มิได้ให้ศาลมีอํานาจพิจารณาและสืบพยานลับหลังจําเลยในคดีที่มีอัตราโทษ
จํา คุ ก อย่ า งสูง เกิสํนานัสามปี แ ต่ ไ ม่เ กิน สิบ ปี หรืกาอ ปรับ เกิน ห้าสํพัานันกบาท
กงานคณะกรรมการกฤษฎี หรื อ ทั้ง จํา ทั้ง ปรักบา ทํา ให้ศ าล
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ สามารถเร่งรัดการพิจารณาพิพากษาคดีดังกล่าวให้แล้วเสร็จไปโดยรวดเร็วได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔) มิกได้า ให้ศาลตั้งทนายความให้ แก่จําเลยในคดีทกี่มา ีอัตราโทษจําสํคุากนัอย่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี างสูงเกินห้าปี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘๕
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๙/ตอนที่ ๑๐๘/ฉบับพิเศษ หน้า ๑/๖ สิงหาคม ๒๕๒๕
๑๘๖ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๑๐๑/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ๑๒๗/ฉบับพิเกศษ
า หน้า ๑/๒๐ กัสํนานัยายน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๒๗ กา
- ๙๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

แต่ไม่ถึงสิบปี ทําให้จําเลยที่ยากจนในคดีดังกล่าวไม่มีทนายในการต่อสู้คดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๕) มิไกด้าให้อํานาจศาลสื
สํานับกพยานบุ คคลซึ่งจะเดินทางออกไปนอกราชอาณาจั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กรอันยาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แก่การนําพยานมาสืบในภายหน้าไว้ทันทีก่อนฟ้องคดีต่อศาล ทําให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการ
พิจารณาพิพากษาคดี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมควรแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพื่อให้ผู้เสียหาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ถูกจับ ผู้ต้องหา และจําเลยได้รับความคุ้มครอง และให้การพิจารณาพิพากษาคดีอาญาดําเนินไปด้วย
ความรวดเร็วสามารถอํ านวยความสะดวกความยุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ติธรรม สํตลอดจนให้ จําเลยที่ยากจนได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา รั บ ความ
ช่วยเหลือทางกฎหมายในการดําเนินคดีมากขึ้น จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๒๙๑๘๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
สํานักนุงานคณะกรรมการกฤษฎี
เบกษาเป็นต้นไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมายเหตุ :- เหตุสํผานัลในการประกาศใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติฉบัสํบานีนั้กคืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อ เนื่องจากได้มีการแก้กา
ไขเพิ่มเติม
กฎหมายว่าด้วยการเปรียบเทียบคดีอสําญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพื่อให้พนักงานสอบสวนมีอํานาจเปรีสํยานับเที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยบได้มากขึ้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยเปรียบเทียบในคดีที่มีโทษปรับสถานเดียวอย่างสูงไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทได้ สมควรแก้ไขเพิ่มเติม
บทบัญญัติว่าด้วยคดี
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
าญาเลิกกันในประมวลกฎหมายวิ
กา ธีพสํิจานัารณาความอาญาเพื ่อให้สกาอดคล้องกัน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๓๒๑๘๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศ
สํานักในราชกิ จจานุเบกษาเป็นกาต้นไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติม
สํานักประมวลกฎหมายวิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ธีพกิจาารณาความอาญา เพื่อให้ผู้ต้องหาที่ได้รกับาการปล่อยชั่วสํคราวโดยพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กงาน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สอบสวนหรือพนักงานอัยการได้รับความเป็นธรรมในการดําเนินคดีเพื่อให้ศาลตั้งทนายให้จําเลยในทุก ๆ
คดีที่มีอัตราโทษประหารชี วิตถ้าจําเลยยังไม่มกีทา นาย และให้สํศาาลตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้งทนายให้จําเลยในคดีกทาี่มีอัตราโทษ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จําคุกอย่างสูงตั้งแต่สามปีขึ้นไปแต่ไม่ถึงสิบปี ถ้าจําเลยไม่มีทนายและต่อสู้คดีโดยแถลงต่อศาลก่อนเริ่ม
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จารณาว่าจําเลยยากจนและต้ กา องการทนาย เพื่อกําจัดปัญหาข้อกฎหมายเกี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ยวกับการพิ สํานัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ากษาเกินคําขอ กา
และเพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาลุล่วงไปโดยเหมาะสม
รวดเร็วยิ่งขึ้น จึงสํจําานัเป็กงานคณะกรรมการกฤษฎี
นต้องตราพระราชบัญญักาตินี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๑๘)สํพ.ศ. ๒๕๓๕๑๘๙
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘๗
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๓/ตอนที่ ๒๑๕/หน้า ๑๔๗/๔ ธันวาคม ๒๕๒๙
๑๘๘ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๑๐๖/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ๑๔๙/ฉบับพิเกศษ
า หน้า ๔/๘ กันสํยายน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๓๒ กา
- ๙๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒ พระราชบัสําญนักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วกันา ถัดจากวันประกาศในราชกิ จจา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่มีการกําหนดชื่อตําแหน่งใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรมตํารวจขึ้นใหม่ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตํารวจ กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ ๑๕)
พ.ศ. ๒๕๓๒ ดังนัสํา้นนักเพืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อมิให้เกิดปัญหาในการบริ กา หารงานของกรมตํ ารวจ กระทรวงมหาดไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สมควร
แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๒ (๑๗) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเฉพาะที่เกี่ยวกับนิยาม
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าว่า “พนักงานฝ่ายปกครองหรื
กา อตํารวจชั
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ใหญ่” เสียใหม่ จึงจํากเป็
า นต้องตราพระราชบั ญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

พระราชบัญญัติแก้สํไาขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายวิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาธีพิจารณาความอาญา กา ๑๙๐
(ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๓๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๒ พระราชบัสําญนักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วกันา ถัดจากวันประกาศในราชกิ จจา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘ บรรดาบทบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ซึ่งแก้ไข
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ไม่ใช้บังคับแก่การดําเนินการของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ
หรือศาล ในคดีทสํี่พานันักกงานสอบสวน พนักงานอักายการ หรือศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัแล้ วแต่กรณี ได้ดําเนินการไปก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อนวันที่
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙ ให้ น ายกรั ฐ มนตรี รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงมหาดไทย และ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุ ติธรรมรักษาการตามพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัสําตนัินกี้ งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักหมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํพาระราชบั ญญัติฉบับนี้ คือ โดยที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความอาญาที่ ใ ช้ บั ง คั บ อยู่ ใ นปั จ จุ บั น ยั ง มี บ ทบั ญ ญั ติ บ างประการที่ เ ป็ น อุ ป สรรคต่ อ การสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดําเนินคดี อันเป็นผลให้การสอบสวนดําเนินคดีเป็นไปโดยล่าช้า และทําให้ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือ
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเลยได้รับการปฏิบัตกิไาม่เท่าเทียมกันสําและไม่ สามารถต่อสู้คดีได้กอาย่างเต็มที่ สมควรแก้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ไขเพิ่มเติม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยกําหนดให้พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาล
จัดหาล่ามให้แก่ผสํู้เสีานัยกหาย ผู้ต้องหา จําเลย หรืกอาพยานที่ไม่สามารถพู
งานคณะกรรมการกฤษฎี ดหรือเข้าใจภาษาไทยและไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มีล่าม
ลดระยะเวลาที่ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจควบคุมตัวผู้ถูกจับในกรณีที่มีเหตุจําเป็นลงเหลือ
สํานักไม่ เกินสามวัน และกําหนดให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พนักงานสอบสวนมี อํานาจร้องขอต่อกศาลให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สั่งขังผู้ตสํ้อางหาไว้ ณ สถานที่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ที่พนักงานสอบสวนกําหนดตามระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควร รวมทั้งกําหนดให้ศาลต้องถามจําเลยก่อน
เริ่มการพิจารณาว่สําานัมีกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
นายความหรือไม่ หากไม่ กา มีและจําเลยต้
สําอนังการก็ ให้ศาลตั้งทนายความให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําหรับ
คดีที่มีอัตราโทษจําคุกหรือคดีที่จําเลยมีอายุไม่เกินสิบแปดปีในวันที่ถูกฟ้อง ทั้งนี้ เพื่อให้การสอบสวน
สํานักดํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเนินคดีลุล่วงไปโดยรวดเร็ กา ว และเพืสํ่อาให้ นักผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้เสียหาย ผู้ต้องหา และจํกา าเลยได้รับความช่ วยเหลือทาง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘๙
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๙/ตอนที่ ๓๒/หน้า ๑๐/๑ เมษายน ๒๕๓๕
๑๙๐ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๑๑๓/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พฤศจิกายนสํา๒๕๓๙
่ ๖๑ ก/หน้า ๖/๑๗ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๙๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

กฎหมายโดยเท่าเทียมกัน และจําเลยได้มีโอกาสต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๔๒๑๙๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหนึ่งปีนับแต่วันถัดจากวัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันการถามปากคํา
สํานักเด็ กอายุไม่เกินสิบแปดปี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาในฐานะเป็นสํผูา้เนัสีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
หายหรือพยานในชั้นสอบสวน กา และการสื บพยานบุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ซึ่งเป็นเด็กในชั้นศาลนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากําหนดวิธีปฏิบัติไว้เช่นเดียวกับ
กรณี ข องผู้ ใ หญ่ สํโดยในชั ้ น สอบสวน พนั ก งานสอบสวนยั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํงามีนัคกวามชํ า นาญในด้า นจิ ตกวิาท ยาเด็ ก ไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เพียงพอ รวมทั้งมิได้คํานึงถึงสภาพร่างกายและจิตใจของเด็กที่อ่อนแอเท่าที่ควรและการใช้ภาษากับ
สํานักเด็งานคณะกรรมการกฤษฎี
กยังไม่เหมาะสม อันเป็กานเหตุให้การถามปากคํ าเด็กส่งผลกระทบต่กาอสภาพจิตใจของเด็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กและส่งผลให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การสอบสวนคลาดเคลื่อน ส่วนการสืบพยานในชั้นศาลนั้น นอกจากเด็กจะต้องเผชิญหน้ากับจําเลยใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห้องพิจารณาและตอบคํ าถามซ้ํากับในชั้นสอบสวนเสมือนหนึ ่งต้องตกเป็นเหยื่อซ้ําอีกครั้งหนึ่งแล้ว
คําถามที่ใช้ถามเด็กยังอาจเป็นคําถามทีสํา่ตนัอกย้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ําจิตใจของเด็กซึ่งบอบช้ําให้เลวร้ายยิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งขึ้น และยังส่งผล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ข้อเท็จจริงที่ได้จากการสืบพยานคลาดเคลื่อนอีกเช่นกัน นอกจากนั้นในการจดบันทึกคําร้องทุกข์
การชันสูตรพลิกศพ สํานัการไต่ สวนมูลฟ้อง และการพิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จารณาคดีสํทานัี่เกีก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ยวกับเด็กก็อาจจะเกิดผลในลักา กษณะ
ทํานองเดียวกันได้ ฉะนั้น สมควรแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในเรื่องดังกล่าวให้มี
สํานักกระบวนการถามปากคํ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสื า บพยานสํ สําานัหรั บเด็กเป็นพิเศษ เพื่อให้กาเหมาะสมยิ่งขึสํ้นาและสอดคล้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี องกับ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรฐานตามข้อ ๑๒ แห่งอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ค.ศ. ๑๙๘๙ และบทบัญญัติในมาตรา ๔ และ
มาตรา ๕๓ วรรคหนึ สํานัก่ง งานคณะกรรมการกฤษฎี
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักา กรไทย
สํานัและโดยที ่เป็นการสมควรปรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บปรุงเหตุ
และวิธีการเกี่ยวกับการสืบพยานไว้ก่อนการฟ้องคดีต่อศาล และสมควรให้นําวิธีสืบพยานสําหรับเด็ก
สํานักอายุ ไม่เกินสิบแปดปีในชัก้นา ศาลไปใช้กับสํการสื
งานคณะกรรมการกฤษฎี บพยานไว้ก่อนการฟ้องคดี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต่อศาลด้วยสํานัจึกงจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นต้องตรา กา
พระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙๒
สํานักพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๒๑)สํพ.ศ. ๒๕๔๒
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๒ พระราชบัญญัตินกี้ใาห้ใช้บังคับเมืสํ่อาพ้นันกกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าหนดหนึ่งร้อยแปดสิบกาวันนับแต่วัน
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖ บรรดาบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบั ญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่กการชั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นสูตรพลิกสํศพและการไต่ สวนสําหรับการตายที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ได้มี
การแจ้งต่อเจ้าพนักงานไว้แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับและให้ใช้กฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ใน
สํานักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นที่ได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานไปบั
กา งคับแก่กสํารชั านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สูตรพลิกศพและการไต่กาสวนจนกว่าศาลจะมี คําสั่งถึงที่สุด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๖/ตอนที่ ๘๑ ก/หน้า ๓๐/๑๔ กันยายน ๒๕๔๒
๑๙๒ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๑๑๖/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ๑๓๗ ก/หน้า ก๑๗/๓๐
า ธันวาคมสํา๒๕๔๒
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๙๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗ ภายในห้าสํปีานันกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี แต่วันที่พระราชบัญญักตา ินี้ใช้บังคับ ในกรณี ที่ต้องชันสูตร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พลิกศพตามมาตรา ๑๔๘ (๓) และ(๔) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ถ้าแพทย์ตาม
มาตรา ๑๕๐ วรรคหนึ ่ ง แห่ ง ประมวลกฎหมายวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธี พิ จ ารณาความอาญา ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ม เติ ม โดย
พระราชบัญญัตินี้ มีเหตุจําเป็นไม่สามารถไปตรวจชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุได้ แพทย์ดังกล่าวอาจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดที่ผ่านการ
อบรมทางนิติเวชศาสตร์ ไปร่วมตรวจชันสูตรพลิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กศพในที่เกิดสํเหตุ
านักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นเบื้องต้น แล้วรีบรายงานให้
กา แพทย์
ทราบโดยเร็ว เพื่อดําเนินการตามมาตรา ๑๕๐ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
สํานักอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญสํญัานัตกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี้ ต่อไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความในวรรคหนึ่ง มิให้ใช้บังคับแก่การปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ประจําโรงพยาบาล
ของเอกชนหรือแพทย์ สํานักผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที กา ่ขึ้นทะเบียสํนเป็
านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
แพทย์อาสาสมัคร กา
ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามวรรคหนึ่งได้รับค่าตอบแทน หรือค่าป่วยการ
สํานักค่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าพาหนะเดินทาง และค่ กา าเช่าที่พัก ตามระเบี ยบที่กระทรวงยุติธกรรมกํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าหนดโดยความเห็ นชอบของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กระทรวงการคลัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘ ให้นายกรัสําฐนัมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รัฐมนตรีว่าการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ
รัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิ ทยาลัย รักษาการตามพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญสํญั
านัตกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี้ กา

สํานักหมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํพาระราชบั ญญัติฉบับนี้ คือ เนื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่องจากในทางปฏิ
สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัติ การชันสูตร กา
พลิกศพมักกระทําโดยพนักงานสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขประจําท้องที่หรือ
แพทย์ ป ระจํ าตํ าสํบลแทนแพทย์ ซึ่ งอาจทําให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี การ ะบบการตรวจสอบพยานหลั กฐานทางนิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ติ เ วชไม่ มี
ประสิทธิภาพเพียงพอ และอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดในการวินิจฉัยถึงสาเหตุและพฤติการณ์ที่ทําให้
สํานักเกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดการตายนั้น อีกทั้งการชั กา นสูตรพลิกสํศพในกรณี ที่ความตายเกิดขึกา้นโดยการกระทํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําานัของเจ้ าพนักงาน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่หรือตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปฏิบัติราชการตามหน้าที่ ยังขาดการตรวจสอบและถ่วงดุลกันของผู้ร่วมทําการชันสูตรพลิกศพอย่าง
สํานักแท้ จริง นอกจากนี้ วิธีกการในการชั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า นสูสํตานัรพลิ กศพและการไต่สวนการตายของบุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํคาคลยั งเป็นไปอย่าง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ล่าช้าและมิได้คุ้มครองสิทธิของผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นญาติของผู้ตายอย่างเพียงพอ ฉะนั้น สมควรแก้ไข
ประมวลกฎหมายวิ สํานัธกีพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิจารณาความอาญาในเรื กา่องดังกล่าว โดยกํ าหนดตัวบุคคลผู้ร่วมทํกาาการชันสูตร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พลิกศพเสียใหม่ กล่าวคือ ให้พนักงานสอบสวนทําการชันสูตรพลิกศพร่วมกับแพทย์ทางนิติเวชศาสตร์
สํานักแพทย์ ประจําโรงพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา และแพทย์ปสํระจํ านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานสาธารณสุขกจัางหวัด ตามลําสํดัาบนักและให้ พนักงาน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อัยการและพนักงานฝ่ายปกครองเข้าร่วมทําการชันสูตรพลิกศพด้วยในกรณีที่ความตายเกิดขึ้นโดยการ
กระทําของเจ้าพนัสํกานังานซึ ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าที่หสํรืาอนัตายในระหว่ างอยู่ในความควบคุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มของ
เจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ รวมทั้งปรับปรุงวิธีการในการชันสูตรพลิกศพและการ
สํานักไต่ สวนการตายโดยศาลกาเพื่อให้เป็นไปด้สําวนัยความรวดเร็
งานคณะกรรมการกฤษฎี ว รอบคอบกามีประสิทธิภาพสํานัและคุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้มครองสิทธิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ของผู้ที่เกี่ยวข้องเป็ นญาติของผู้ตายมากยิ่งขึ้น และโดยที่เป็สํนาการสมควรกํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าหนดลักษณะความผิดขึ้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใหม่ที่ทําให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป อีกทั้ งสมควรแก้ไขอัตราโทษตาม
สํานักบทบั ญญัติที่เกี่ยวข้องเพืก่อาให้มีอัตราโทษสอดคล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี องกัน จึงจําเป็นต้อกงตราพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินี้ กา
- ๙๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๒๒)สํพ.ศ. ๒๕๔๗๑๙๓
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๒ พระราชบัญญัตกินา ี้ให้ใช้บังคับตัสํา้งนัแต่กงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วันถัดจากวันประกาศในราชกิ
กา จจา
นุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติมาตรา ๑๓๔/๑ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
นับแต่วันถัดจากวัสํนานัประกาศในราชกิ จจานุเบกษาเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นต้นไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๖ ในระหว่สําางที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นัก่ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ังไม่มีระเบียบคณะกรรมการบริ
กา หารศาลยุ
สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิธรรมที่กําหนด กา
เกี่ยวกับการให้ศาลจ่ายเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายแก่ทนายความที่ศาลตั้งตามมาตรา ๑๗๓ แห่งประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิกา่มเติมโดยพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัตินี้ ให้นําระเบียกบซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่งกํ าหนด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ใช้บังคับอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษามาใช้บังคับ ทั้งนี้
สํานักต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องดําเนินการออกระเบีกายบคณะกรรมการบริ หารศาลยุติธรรมดังกกล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าวให้แล้วเสร็สําจนัภายในเก้ าสิบวัน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๗ ให้ประธานศาลฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ติธรรม รักษาการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
สํานักได้ บัญญัติรับรองและคุ้มกครองสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ทธิของผู
สํา้ถนัูกกจังานคณะกรรมการกฤษฎี
บ ผู้ต้องหา และจําเลยในคดี กา อาญาไว้สํหาลายประการ อาทิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เช่น การจับกุมหรือคุมขังบุคคลและการค้นในที่รโหฐานจะกระทํามิได้ เว้นแต่มีคําสั่งหรือหมายของ
ศาล หรือมีเหตุจสํําาเป็
นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
อื่น ๆ ตามที่กฎหมายบั กา ญ ญัติ และผูสํ้าตนั้ อกงหาและจํ าเลยย่อมมีสกิทาธิได้รับการ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
สอบสวนหรือ การพิจ ารณาคดีด้ว ยความรวดเร็ว ต่อ เนื่อ ง และเป็น ธรรม รวมทั้ง มีสิท ธิไ ด้รับ
สํานักความช่ วยเหลือจากรัฐกด้าวยการจัดหาทนายความให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สมควรที่จะได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แก้ไขเพิ่มเติสํมาประมวลกฎหมาย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิ ธี พิ จ ารณาความอาญาให้ ส อดคล้ อ งกั บ บทบัญ ญั ติ ข องรั ฐ ธรรมนู ญ ดัง กล่ า ว จึ ง จํา เป็ น ต้อ งตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๘๑๙๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
สํานักนุงานคณะกรรมการกฤษฎี
เบกษาเป็นต้นไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔ บรรดากฎกระทรวงซึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งออกตามความในพระราชบั ญญัติใกห้าใช้ประมวล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พุทธศักราช ๒๔๗๗ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สํานักให้ ยั ง คงใช้ บั ง คั บ ได้ ต่ อกไปโดยอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า โ ลมเพี
สํานัยกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งเท่ า ที่ ไ ม่ ขั ด หรื อ แย้ งกกัาบ พระราชบั ญสําญันัตกิ งานคณะกรรมการกฤษฎี
ใ ห้ ใ ช้ ป ระมวล กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙๓
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๑/ตอนพิเศษ ๗๙ ก/หน้า ๑/๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๗
๑๙๔ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๑๒๒/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา มกราคม ๒๕๔๘
่ ๖ ก/หน้า ๑๔/๑๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พุทธศักราช ๒๔๗๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ จนกว่า
สํานักจะมี การออกข้อบังคับหรืกาอกฎกระทรวงขึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้นกใหม่ ใช้บังคับแทน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕ ให้ประธานศาลฎีกากา นายกรัฐมนตรี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ : - เหตุ สํานัผกลในการประกาศใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎีพกระราชบั
า ญ ญั ตสํิ ฉานับักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
นี้ คื อ เนื่ อ งด้ ว ยรั ฐ ธรรมนู
กา ญ แห่ ง
ราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๗๕ กําหนดให้สํานักงานศาลยุติธรรมเป็นหน่วยงานอิสระขึ้นตรงต่อ
สํานักประธานศาลฎี กา และโดยที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่พระราชบัสํญาญั
นักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิปรับปรุงกระทรวง ทบวง กา กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้กําหนดให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สํานักงานอัยการสูงสุดเป็นส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ
สํานักงานตํารวจแห่สํานังกชาติ เป็นส่วนราชการที่อกยูา่ในบังคับบัญชาของนายกรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ฐมนตรี ดังนั้นกสมควรแก้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ไข
เพิ่มเติมพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พุทธศักราช ๒๔๗๗ โดยกําหนด
สํานักเพิ ่มเติมให้ประธานศาลฎีกากาและนายกรัสํฐานัมนตรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี รักษาการในส่วนที่เกีก่ยา วกับอํานาจหน้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัาทีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ของตน เพื่อให้ กา
สอดคล้องกับสภาพการณ์ดังกล่าว จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙๕
พระราชบั ญญั ตแ
ิ ก้ ไขเพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

่ เติ มประมวลกฎหมายวิ ธพ
ี จ
ิ ารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบั บที ่ ๒๓) พ.ศ. ๒๕๔๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒ พระราชบัญญัตกินา ี้ให้ใช้บังคับตัสํา้งนัแต่กงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วันถัดจากวันประกาศในราชกิ
กา จจา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕ บรรดาเรื่ อ งราวการขอรั บ พระราชทานอภั ย โทษใด ๆ ที่ ไ ด้ ส่ ง ไปยั ง
รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงมหาดไทยก่ อ นวักาน ที่ พ ระราชบัสําญนักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ติ นี้ ใ ช้ บั ง คั บ และรั ฐ มนตรี
กา ว่ า การ
กระทรวงมหาดไทยยังมิได้ถวายเรื่องราวต่อพระมหากษัตริย์ ให้โอนมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
สํานักยุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ติธรรม กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การถวายเรื่องราว การถวายความเห็น หรือการถวายคําแนะนําขอให้พระราชทาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อภัยโทษที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้กระทําไปก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ถือว่า
สํานักเป็ นการถวายเรื่องราว กการถวายความเห็
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือการถวายคําแนะนํกาาขอให้พระราชทานอภั ยโทษโดย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัตินสํี้ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๖ ให้รัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัวก่ างานคณะกรรมการกฤษฎี
การกระทรวงมหาดไทยและรั
กา ฐมนตรี
สํานัวก่ างานคณะกรรมการกฤษฎี
การกระทรวง กา
ยุติธรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุ ผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติปรั บปรุง
สํานักกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๕ กําสํหนดให้ โอนกรมราชทัณฑ์ ซึก่งามีภารกิจและอํสําานันาจหน้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าที่ในการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดําเนินการเกี่ยวกัสํบานัการขอพระราชทานอภั ยโทษแก่ผู้ต้องขัสํงาในคดี
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาญาไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑๙๕ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๑๒๒/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กุมภาพันธ์ สํ๒๕๔๘
่ ๑๔ ก/หน้า ๓๐/๘ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ดังนั้น บทบัญญัติว่าด้วยการขอพระราชทานอภัยโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
สํานักซึงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งกําหนดให้รัฐมนตรีว่ากการกระทรวงมหาดไทยเป็
า นผู้มีหน้าที่ในเรืก่อางดังกล่าว จึงสํไม่านัสกอดคล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี องกับการ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ปรับปรุงโครงสร้างของส่วนราชการ สมควรแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โดยให้รัฐมนตรีว่สําการกระทรวงยุ ติธรรมมีหน้กาาที่ในการขอพระราชทานอภั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยโทษ จึงจํากเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นต้องตรา
พระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙๖
พระราชบัญญัติแสํก้าไนัขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายวิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ.๒๕๔๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๒ พระราชบัสําญนักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วกันา ถัดจากวันประกาศในราชกิ จจา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙ บทบัญญัติมาตรา ๒๕๓ และมาตรา ๒๕๔ แห่งประมวลกฎหมายวิธี
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จารณาความอาญาซึ่งกแก้า ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบั ญญัตินี้ไม่มีผลกระทบต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อการชํสําาระค่ าธรรมเนียมที่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ได้ชําระไปแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุ ผลในการประกาศใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญ ญัติฉ บับนี้ คือ เนื่องจากการดํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าเนินคดีแ พ่งที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
บัญญัติให้พนักงานอั
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
การมีเพียงอํานาจในการเรี กา ยกทรัพย์สํสานัินกหรื อราคาแทนผู้เสียหายในความผิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ด
เกี่ยวกับทรัพย์บางประเภทเท่านั้นผู้เสียหายซึ่งได้รับความเสียหายจากการกระทําความผิดของจําเลย
สํานักต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องไปดําเนินคดีส่วนแพ่กงาเพื่อเรียกค่าสิสํนานัไหมทดแทนอื ่นด้วยตนเองกาและต้องเสียค่สําานัธรรมเนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ยมในการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เรียกค่าสินไหมทดแทนอันเป็นภาระยิ่งขึ้นให้แก่ผู้เสียหาย ดังนั้น สมควรแก้ไขเพิ่มเติมประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาให้ ผู้เสียหายมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สิทธิยื่นคําร้อสํงขอให้ จําเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนใน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คดีอาญาทุกประเภทที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ต่อเนื่องไปได้เพื่อให้การพิจารณาคดีส่วนแพ่งเป็นไป
สํานักโดยรวดเร็ ว รวมทั้งยกเว้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กานค่าธรรมเนีสํยามสํ นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
หรับการดําเนินคดีดังกกล่ า าวเพื่อลดภาระให้ แก่ผู้เสียหาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักพระราชบั ญญัติว่าด้วยการมอบหมายให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัเกจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหน้าที่ไปร่วมชันสูตรพลิ
กา๑๙๗กศพตามมาตรา ๑๔๘ (๓) (๔)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และ (๕) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ. ๒๕๕๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญ ญัตินี้ใ ห้ใ ช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๘
สํานักเป็ นต้นไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓ ให้ ขยายระยะเวลาการใช้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บังสํคัาบนัมาตรา ๗ แห่งพระราชบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาญ ญั ติแ ก้ ไ ข
เพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๔๒ ออกไปอีกเป็นระยะเวลา
สํานักตามที ่กําหนดในพระราชกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙๖
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๒/ตอนที่ ๑๒๗ ก/หน้า ๑/๓๐ ธันวาคม ๒๕๔๘
๑๙๗ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๑๒๔/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พฤษภาคม ๒๕๕๐
่ ๒๒ ก/หน้า ๑/๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา ๔ ให้นํ า ความในมาตรา


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๗ แห่ง พระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ ญั ติ แ ก้ ไสํขเพิ
านัก่ มงานคณะกรรมการกฤษฎี
เติ ม ประมวล กา
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๔๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม ในกรณีที่ต้อง
ชันสูตรพลิกศพตามมาตรา ๑๔๘ (๕) แห่งประมวลกฎหมายวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัธกีพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิจารณาความอาญาตั้งกแต่
า วันถัดจาก
วันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนถึงกําหนดเวลาตามที่กําหนดตามมาตรา ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕ ให้นายกรัฐมนตรี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา รั ฐ มนตรี ว่าสํการกระทรวงกลาโหม รัฐกมนตรี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ว่าการ
กระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ
สํานักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
ฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุ
กา ข รัสํกาษาการตามพระราชบั ญญัตกินาี้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมายเหตุ :- เหตุสํผาลในการประกาศใช้ พระราชบั


นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติฉบับนีสํ้ าคืนัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยที่มาตรา ๗ แห่งพระราชบั กา ญญัติ
แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๔๒ บัญญัติให้ ภายใน
สํานักห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าปีนับแต่วันที่พระราชบั กา ญญัติดังกล่าสํวใช้
านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ังคับ ในกรณีที่ต้องชันกสูาตรพลิกศพตามมาตรา ๑๔๘ (๓)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และ (๔) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แพทย์ตามมาตรา ๑๕๐ วรรคหนึ่ง แห่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา อาจมอบหมายให้สํเาจ้นัากหน้ งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าที่ของโรงพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่
ในสังกัดสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดทีสํ่ผา่านันการอบรมทางนิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ติเวชศาสตร์ไปร่วมชันสูสํตานัรพลิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กศพในที่เกิด
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เหตุแทนได้ แต่เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่กําหนดแล้ว ยังคงมีข้อจํากัดเกี่ยวกับจํานวนแพทย์ จึงสมควร
ขยายระยะเวลาดัสํางนักล่ าวออกไปจากเดิมอีกกตามความจํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า าเป็สํนานัและโดยที ่ยังข้อจํากัดเกี่กยาวกับจํานวน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
แพทย์ดังกล่าว จึงสมควรกําหนดให้มีการมอบหมายการชันสูตรพลิกศพในกรณีการตายโดยยังมิปรากฏ
สํานักตามมาตรา ๑๔๘ (๕)กาแห่ ง ประมวลกฎหมายวิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ธี พิ จ ารณาความอาญาด้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว ย สํจึานัง จํกงานคณะกรรมการกฤษฎี
า เป็ น ต้ อ งตรา กา
พระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๕) พ.ศ. ๒๕๕๐๑๙๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗ บทบัญญัติมาตรา ๒๔๗ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญาซึ่งแก้สํไาขเพิ ่มเติมโดยพระราชบัญญักาตินี้ ไม่ใช้บังคัสํบาแก่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารขอรับพระราชทานอภักา ยโทษและ
การขอรับพระราชทานเปลี่ยนโทษหนักเป็นเบาหรือลดโทษ ที่ได้มีการถวายเรื่องราวหรือคําแนะนําต่อ
สํานักพระมหากษั ตริย์แล้วก่อกนวัา นที่พระราชบัสําญนัญั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ตินี้ใช้บังคับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ติธสํรรมรั กษาการตามพระราชบักญา ญัตินี้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักหมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํพานัระราชบั ญญัติฉบับนี้ คือกโดยที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ในปัจจุบสํันานัเรืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
นจํามีสภาพที่ กา
แออัดไม่ได้สัดส่วสํนกัานับกจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนของผู้ซึ่งต้องขังหรื
กา
อต้องจําคุก สํและไม่ เหมาะสมกับสภาพของผู้ซึ่งต้องขัง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑๙๘ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๑๒๔/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กันยายน สํ๒๕๕๐
่ ๕๓ ก/หน้า ๑๗/๑๒ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
หรือต้องจําคุกบางลักษณะโดยเฉพาะสภาพชีวิตหญิงมีครรภ์ซึ่งต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ประกอบ
สํานักกังานคณะกรรมการกฤษฎี
บเทคโนโลยีในการควบคุ กา มตัวบุคคลดัสํางนักล่ าวมีความก้าวหน้าเป็นกอัานมาก ดังนั้นสําเพื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นัก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ผู้ซึ่งต้องขัง กา
หรือต้องจําคุกได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสม สมควรปรับปรุงวิธีการขังและจําคุก โดยกําหนดวิธีการหรือ
สถานที่ในการขังสํหรืานัอกจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าคุกนอกเรือนจําให้เหมาะสมกั
กา บสภาพของผู ้ซึ่งต้องขังหรือต้องจํกาาคุกในแต่ละ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลักษณะตลอดจนปรับปรุงการทุเลาการบังคับโทษจําคุกหญิงมีครรภ์และเปลี่ยนโทษประหารชีวิตหญิง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีครรภ์เป็นจําคุกตลอดชีวิตเพื่อให้บุตรได้รับการเลี้ยงดูจากมารดาและสืบสายสัมพันธ์ทางครอบครัว
อันจะเป็นแนวทางให้
สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ุตรเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดกีใานสังคมต่อไป สําจึนังกจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นต้องตราพระราชบักญา ญัตินี้
๑๙๙
สํานักพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิก่มาเติมประมวลกฎหมายวิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๒๖)
สํานัพ.ศ. ๒๕๕๐
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๒ พระราชบัญญัตกินา ี้ให้ใช้บังคับตัสํา้งนัแต่กงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วันถัดจากวันประกาศในราชกิ
กา จจา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องด้วยประมวลกฎหมายวิธี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิจารณาความอาญาได้ กําหนดวิธีปฏิบัติในการถามปากคําสํการสื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บพยาน และการชี้ตัวผู้ต้องหาของ
ผู้เสียหายหรือพยานที่เป็นเด็กอายุไม่เกิสํานนัสิกบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แปดปี รวมถึงการสอบสวนผูกา
้ต้องหาทีสํ่เาป็นันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เด็กอายุไม่เกิน กา
สิบแปดปี ต้องมีนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ บุคคลที่เด็กร้องขอ และพนักงานอัยการอยู่ร่วมด้วย
โดยมุ่งหมายมิให้สํเด็านักกได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
รับผลกระทบทั้งทางร่กาางกายและสภาวะทางจิ ตใจจากกระบวนการยุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ติธรรม
แต่เนื่องจากการที่มิได้จํากัดประเภทคดีซึ่งมีความจําเป็นต้องใช้วิธีการพิเศษอย่างแท้จริงไว้ จึงทําให้
สํานักการดํ าเนินคดีบางประเภทเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นไปด้วยความล่ าช้าโดยไม่จําเป็น ประกอบกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บการถามปากคํ ามีความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ซ้ําซ้อนในแต่ละขั้นตอน ทําให้ผู้เสียหายหรือพยานที่เป็นเด็กได้รับผลกระทบจากกระบวนการยุติธรรม
เกินสมควร ดังนัสํา้ นนักเพืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ อให้การใช้บังคับกฎหมายเป็
กา นไปอย่สําานังมี ประสิทธิภาพ จึงจํากเป็า นต้องตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๗) พ.ศ. ๒๕๕๐๒๐๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๒ พระราชบัสําญนัญั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกกําาหนดหนึ่งร้อสํยแปดสิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี บวันนับแต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากปัจจุบันประมวลกฎหมาย
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธีพิจารณาความอาญาให้ กา อํานาจเจ้าพนั
สํานักกงานยึ ดสิ่งของต่าง ๆ ที่อกาจใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า เป็นพยานหลั สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฐานได้จนกว่า กา
คดีถึงที่สุด บางกรณีอาจต้องยึดสิ่งของดังกล่าวไว้เป็นเวลานาน ทําให้สิ่งของนั้นชํารุดบกพร่อง เสื่อม
ประโยชน์ หรือเสืสํ่อามราคาก่ อความเสียหายแก่กผา ู้เสียหาย ผู้ต้สํอางหา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี จําเลย หรือผู้อื่น ซึ่งมีกสาิทธิเรียกร้อง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขอคืนสิ่งของนั้น สมควรกําหนดให้เจ้าพนักงานมีอํานาจใช้ดุลพินิจผ่อนผันให้บุคคลดังกล่าวรับสิ่งของ
สํานักดังานคณะกรรมการกฤษฎี
งกล่าวไปดูแลรักษาหรืกอา ใช้ประโยชน์สํราะหว่ างการดําเนินคดีอาญาเพื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อเป็นการบรรเทาความเสี ยหาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙๙
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๔/ตอนที่ ๑๐๐ ก/หน้า ๑/๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๐
๒๐๐ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๑๒๕/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา มกราคม ๒๕๕๑
่ ๓ ก/หน้า ๑๕/๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
และเพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนผู้สุจริตตลอดจนลดภาระหน้าที่ของเจ้าพนักงานในการดูแลรักษา
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งของนั้น ประกอบกับกการทํา าสํานวนชัสํานนัสูกตงานคณะกรรมการกฤษฎี
รพลิกศพในกรณีที่มีคกวามตายเกิา ดขึ้นสํโดยการกระทํ าของ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หรือตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน
ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติรสําชการตามหน้ าที่ และการสอบสวนในคดี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํดาังนักล่ าวรวมทั้งคดีที่ผู้ตายถูกกากล่าวหาว่า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ เป็นคดีที่มีผลกระทบถึงสิทธิและเสรีภาพ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของประชาชนอย่างสําคัญ สมควรให้พนักงานอัยการเข้าร่วมกับพนักงานสอบสวนในการทําสํานวน
ชันสูตรพลิกศพและการสอบสวนคดี ดังกล่าวด้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วย เพื่อคุ้มครองสิ ทธิและเสรีภาพของประชาชนมาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยิ่งขึ้น จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๑๒๐๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
สํานักนุงานคณะกรรมการกฤษฎี
เบกษาเป็นต้นไป เว้นกแต่า มาตรา ๓ และมาตรา ๗ ให้ใช้บังคับเมื่อกพ้า นกําหนดหนึสํ่งาร้นัอกยแปดสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บวันนับ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๔ พระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญญัตินี้ไม่มีผลกระทบถึงกระบวนพิจารณาใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ๆ ที่ได้กระทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไปแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ส่วนกระบวนพิจารณาใดที่ยังมิได้กระทําจนล่วงพ้นเวลาที่
ต้องกระทําตามกฎหมายที ่ใช้บังคับอยู่ก่อนพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัตินสํี้ าแต่
นักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ังอยู่ในกําหนดเวลาที่อกาาจกระทําได้
ตามบทบั ญ ญั ติ ที่ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ นี้ ให้ ดํ า เนิ น กระบวนพิ จ ารณานั้ น ได้ ภ ายใน
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดเวลาตามบทบัญกญัาติดังกล่าว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๕ ให้ประธานศาลฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติเกี่ยวกับพยานหลักฐานแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้ทันสมัยและ
สํานักสอดคล้ องกับสภาวการณ์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาทางเศรษฐกิสํจานัสักงคม และการพัฒนาด้านเทคโนโลยี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ของประเทศในปั จจุบัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๙) พ.ศ. ๒๕๕๑๒๐๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเป็นต้นไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๐๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๓๐ ก/หน้า ๑/๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑
๒๐๒ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๑๒๕/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กุมภาพันธ์ สํ๒๕๕๑
่ ๓๐ ก/หน้า ๑๖/๗ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติม
สํานักหลั กเกณฑ์การสอบสวนความผิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดซึ่งมีสํโาทษตามกฎหมายไทยที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ได้กการะทําลงนอกราชอาณาจั กรตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๒๐ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทน
มีอํานาจมอบหมายหน้ าที่การเป็นพนักงานสอบสวนให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แก่พนัสํกานังานอั ยการหรือพนักงานสอบสวน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือ
จะมอบหมายให้ พ นั ก งานอัย การทํ า การสอบสวนร่ ว มกั บ พนั ก งานสอบสวนก็ ไ ด้ และเพื่ อ ให้ ก าร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สอบสวนความผิ ด ดั ง กล่ า วเป็ น ไปโดยรวดเร็ ว และมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพยิ่ ง ขึ้ น จึ ง จํ า เป็ น ต้ อ งตรา
พระราชบัญญัตินสํี้ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักประกาศคณะรั กษาความสงบแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติสํฉบั
านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ ๑๑๕/๒๕๕๗ เรื่องกแก้
า ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิ ธี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พิจารณาความอาญา ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗๒๐๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๓๐) พ.ศ. ๒๕๕๘๒๐๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗ เมื่อครบสามปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้คณะรัฐมนตรีจัด
ให้มีการประเมินสํความคุ ้มค่าและภาระค่าใช้จก่าายของรัฐในการใช้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กหา รืออุปกรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อื่นใดตามมาตรา ๑๐๘ วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
สํานักพระราชบั ญญัตินี้ ในกรณี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่ค ณะรั ฐมนตรี เห็นสมควรให้เก็บค่าใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาจ่ายจากผู้ ถูกสํปล่
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ยชั่วคราวที่ใช้ กา
อุปกรณ์ดังกล่าว ให้กําหนดอัตราค่าใช้จ่าย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในพระราชกฤษฎีกา ซึ่ง
ต้องมีข้อยกเว้นในการเรี ยกเก็บค่าใช้จ่ายจากผูก้ทา ี่ไม่มีทรัพย์สินสําพอที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่จะชําระด้วย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๘ ให้ประธานศาลฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นายกรัฐมนตรี รักฐามนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักหมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัพกระราชบั ญญัติฉ บับนี้ คืกอา โดยที่ ปัจจุบสํันานัมีกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ารนําอุปกรณ์ กา
อิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการบังคับตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา สมควรให้นําอุปกรณ์ดังกล่าวไป
ใช้ในการติดตามตัสํวาผูนั้ถกูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปล่อยชั่วคราว ถ้ามีการทํ
กา าลายอุปกรณ์ สํานัดกังงานคณะกรรมการกฤษฎี
กล่าวหรือทําให้ใช้การไม่
กาได้ไม่ว่าโดย
วิธีใด ให้สันนิษฐานว่าผู้ถูกปล่อยชั่วคราวนั้นหนีหรือจะหลบหนี และมิให้เรียกหลักประกันเกินสมควร
สํานักเพื ่อให้ผู้ต้องหาและจําเลยมี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา โอกาสได้รสํับาการปล่ อยชั่วคราวมากขึ้นกอีากทั้งสมควรกํสําาหนดให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี มีการสั่งงด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การบังคับตามสัญญาประกันหรือลดจํานวนเงินที่ต้องใช้ตามสัญญาประกันโดยคํานึงถึงความพยายาม
ของผู้ประกันในการติสํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามผู้ที่หลบหนี รวมทัก้งาความเสียหายที
สํานั่เกิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขึ้นว่ามีมากน้อยเพียงใด
กา และแก้ไข
เพิ่มเติมหลักเกณฑ์การบังคับตามสัญญาประกันในกรณีที่ต้องมีการบังคับคดีโดยเจ้าพนักงานบังคับคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๐๓
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๑/ตอนพิเศษ ๑๔๓ ง/หน้า ๒๙/๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗
๒๐๔ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๑๓๒/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ๑๒๗ ก/หน้า ก๑/๓๐
า ธันวาคม ๒๕๕๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
กรมบั ง คั บ คดี เพื่ อ ให้ ก ารบั ง คั บ ตามสั ญ ญาประกั น มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพมากขึ้ น จึ ง จํ า เป็ น ต้ อ งตรา
สํานักพระราชบั ญญัตินี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติแสํก้าไนัขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายวิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๓๑) พ.ศ.กา๒๕๕๙๒๐๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเป็นต้นไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักหมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํพานัระราชบั ญญัติฉบับนี้ คือกเนื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่องจากในปัสํจาจุนับกันงานคณะกรรมการกฤษฎี
การพิจารณา กา
พิพากษาคดีบางเรื่องอาจเกิดผลกระทบต่อประโยชน์อันสําคัญของรัฐ ดังนั้น เพื่อให้การพิจารณาและ
พิพากษาคดีของศาลเป็ นไปอย่างมีประสิทกธิาภาพ สมควรกํสําานัหนดให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ประธานศาลฎีกกามี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า อํา นาจสั่ง
โอนคดีไปยังศาลอื่นที่มีความเหมาะสมกว่าได้ จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๒๐๕ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ราชกิจจานุเบกษา สํเล่ามนัก๑๓๓/ตอนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา มีนาคม ๒๕๕๙
่ ๒๓ ก/หน้า ๔/๑๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


กองกฎหมายไทย/ปรับปรุง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒๐ ตุกลาาคม ๒๕๕๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักปุงานคณะกรรมการกฤษฎี


ณิกา/เพิ่มเติม กา
ปัญญา/ตรวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๔ มกราคม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๙

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักนุงานคณะกรรมการกฤษฎี


สรา/ปรับปรุง กา
๑๒ มกราคม ๒๕๕๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิชพงษ์/ปรับปรุง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕ มีนาคม ๒๕๕๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

You might also like