พรบ น้ำมันเชื้อเพลิง42

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระราชบัญญัติ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. ๒๕๔๒สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํเป็านันกปีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ ๕๔ ในรัชกาลปัจจุบกันา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัพระบาทสมเด็ จพระปรมินกาทรมหาภูมิพลอดุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัลกยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าฯ
ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการเก็บรักษาน้ํามันเชื้อเพลิง
พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของ
บุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับสํมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๕ มาตรา ๔๘ และมาตรา ๕๐สําของรันักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบั
ญญัติแห่งกฎหมาย
จึงทรงพระกรุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ณาโปรดเกล้ าฯ ให้ตราพระราชบักญา ญัติขึ้นไว้โดยคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัาแนะนํ าและยินยอม กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิง พ.ศ.
๒๕๔๒”
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัมาตรา ๒๑ พระราชบัญกญัา ตินี้ให้ใช้บังสํคัาบนัตัก้งงานคณะกรรมการกฤษฎี

กงานคณะกรรมการกฤษฎี แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิ
กา จจา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํานัมาตรา ๓ ให้ยกเลิก กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) พระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บรักษาน้ํามันเชื้อเพลิง พุทธศักราช ๒๔๗๔
(๒)กพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ญญัสํตาิวนั่ากด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วยการเก็บรักษาน้ํามันกเชืา ้อเพลิง (ฉบับสํทีานั่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๖
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๓) พระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บรักษาน้ํามันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๘
สํานั(๔) พระราชบัญญัติว่าด้วกยการเก็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า บรักษาน้
สํานัํากมังานคณะกรรมการกฤษฎี
นเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๔) กพ.ศ.า ๒๕๒๐
(๕) พระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บรักษาน้ํามันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๐
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
สํานั“น้ ํามันเชื้อเพลิง”๒ หมายความว่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๖/ตอนที่ ๑๒๑ ก/หน้า ๑/๒ ธันวาคม ๒๕๔๒
-๒- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ํามันดิบ น้ํามันเบนซิน น้ํามันเชื้อเพลิง

สํานักสํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหรับเครื่องบิน น้ํามันกก๊าาด น้ํามันดีเซล สํานัน้กํางานคณะกรรมการกฤษฎี
มันเตา และน้ํามันหล่อกลืา่น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) สิ่งอื่นที่ใช้หรืออาจใช้เป็นวัตถุดิบในการกลั่นหรือผลิตเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์
ที่ใช้หรืออาจใช้เป็นานัเชืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ ้อเพลิงหรือเป็นสิ่งหล่อกลืา่น หรือสิ่งอื่นสํทีานั่ใช้กหงานคณะกรรมการกฤษฎี
รืออาจใช้เป็นเชื้อเพลิกงาหรือเป็นสิ่ง
หล่อลื่น ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา
“การมีน้ํามันเชื้อเพลิงไว้ในครอบครอง” หมายความว่า การมีไว้ในครอบครองไม่ว่า
เพื่อตนเองหรือผู้อสําื่นนักและไม่ ว่าจะเป็นกรณีมีไกว้าเพื่อจําหน่าย สํเพืานั่อกขนส่
งานคณะกรรมการกฤษฎี ง เพื่อใช้ หรือเพื่อประการอื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่นใด
และให้หมายความรวมถึงการทิ้งหรือปรากฏในบริเวณที่อยู่ในความครอบครองด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี “สถานีกาบริการน้ํามันเชื สํา้อนัเพลิ ง” หมายความว่า สถานที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ที่ใช้ในการเก็ สํานับกน้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ํามันเชื้อเพลิง กา
เพื่ อ ให้ บ ริ ก ารน้ํ า มั น เชื้ อ เพลิ ง แก่ ย านพาหนะ และให้ ห มายความรวมถึ ง บริ เ วณที่ กํ า หนดไว้ ใ น
ใบอนุญาตให้เป็นสําเขตสถานี บริการน้ํามันเชืก้อาเพลิง ตลอดจนสิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่ งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก่อสร้าง ถัง ท่อ และอุ กาปกรณ์ห รื อ
เครื่องมือต่าง ๆ ในบริเวณนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี “การขนส่ กา งน้ํามันเชื้อสํเพลิ านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
” หมายความว่า การเคลื กา ่อนย้ายน้ํามันสํเชื
านั้อกเพลิ งจากที่แห่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หนึ่งไปยังที่อีกแห่งหนึ่ง ไม่ว่าโดยทางบก ทางน้ํา ทางท่อ หรือโดยวิธีการอื่นใด
“คลังน้ํามันเชื้อเพลิง”๓ หมายความว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
า สถานที ่ที่ใช้ในการเก็บน้ํามันเชื้อเพลิงตาม
ปริมาณหรือประเภทกิจการที่กําหนดในกฎกระทรวง
และให้หมายความรวมถึงบริสําเนัวณที
่กําหนดไว้ใน
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบอนุญาตให้เป็นเขตคลังน้ํามันเชื้อเพลิง ตลอดจนสิ่งก่อสร้าง ถัง ท่อ และอุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้อง และรวมถึ สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานที่ที่ใช้ในการเก็บกรัากษาน้ํามันเชื้อสํเพลิ านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิ
กา ต
ในโรงกลั่นหรือผลิตน้ํามันเชื้อเพลิง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี “ข้อบักญา ญัติท้องถิ่น”สําหมายความว่ า เทศบัญญักตาิ ข้อบังคับตําบล
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อบัญญัติเมือง กา
พัทยา ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร และข้อบัญญัติอื่นใดใน
ทํานองเดียวกันทีสํ่อาอกโดยองค์ กรปกครองส่วนท้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาองถิ่น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี “พนั กกงานเจ้
า า หน้ า ทีสํ่า”นัหมายความว่ า วิ ศ วกรของกรมธุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ร กิ จสํพลั
านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
งาน*หรื อ ผู้ ซึ่ ง กา
รัฐมนตรีแต่งตั้งให้มีอํานาจหน้าที่ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
“ผู้อนุ ญ าต” หมายความว่า อธิบดีก รมธุร กิจพลั งงาน*หรื อผู้ซึ่งอธิบดี ก รมธุร กิจ
สํานักพลั งงาน*มอบหมาย กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน*รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักและให้ มีอํานาจแต่งตั้งพนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กงานเจ้าหน้สําาทีนั่ กกังานคณะกรรมการกฤษฎี
บออกกฎกระทรวงกํากหนดค่
า าธรรมเนีสํยามไม่ เกินอัตราท้าย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พระราชบัญญัตินี้ ยกเว้นค่าธรรมเนียม กําหนดกิจการอื่น และออกประกาศ ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติตาม
พระราชบัญญัตินสํี้ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎกระทรวงและประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
๒
มาตรา ๔ นิยามคําว่า “น้ํามันเชื้อเพลิง” แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมน้ํามัน
เชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐
๓
มาตรา ๔ นิยามคําว่า “คลังน้ํามันเชื้อเพลิง” แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมน้ํามัน
สํานักเชืงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
้อเพลิง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๓- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑
บททั่วไป

มาตรา ๖ พระราชบัญญั ตินี้ไม่ใช้บังคับแก่น้ํามันเชื้อเพลิงที่ใช้ในราชการทหาร
โดยเฉพาะ แต่ให้สํนานัํากหลังานคณะกรรมการกฤษฎี
กเกณฑ์และวิธีการตามที
กา ่กําหนดในพระราชบั ญญัตินี้ไปเป็นแนวทางในการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดําเนินงาน
มาตรา ๗ เพื่อประโยชน์แก่การป้องกันหรือระงับเหตุเดือดร้อนรําคาญหรือความ
เสียหายหรืออันตรายที ่จะมีผลกระทบต่อบุคกาคล สัตว์ พืช สํทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์ หรือสิ่งแวดล้อมหรืกอาการกําหนด
แนวทางหรื อ ลั ก ษณะการดํ า เนิ น การเกี่ ย วกั บ การควบคุ ม น้ํ า มั น เชื้ อ เพลิ ง ให้ ส อดคล้ อ งกั บ สภาพ
สํานักเศรษฐกิ จและสังคม ให้รกัฐามนตรีมีอํานาจออกกฎกระทรวงดั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งต่อไปนีกา้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) กําหนดการเก็ บรั กษา การขนส่ง การใช้ การจําหน่าย การแบ่งบรรจุน้ํามัน
เชื้อเพลิง และการควบคุมอื่นใดเกี่ยวกับน้ํามันเชื้อเพลิง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) กําหนดที่ตั้ง แผนผั ง รูปแบบ และลักษณะของสถานที่เก็บรัสํกาษาน้
ํามันเชื้อเพลิง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถานีบริการน้ํามันเชื้อเพลิง และคลังน้ํามันเชื้อเพลิง และการบํารุงรักษาสถานที่ดังกล่าว
สํ(๓) กํ า หนดลั ก ษณะของถักาง หรื อ ภาชนะที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่ ใกช้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ใ นการบรรจุ ห รื อ ขนส่ กาง และการ
บํารุงรักษาถังหรือภาชนะดังกล่าว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔) กํกาาหนดคุ ณ สมบัสําตนัิ แกละการฝึ ก อบรมผู้ ป ฏิ บกั ตา ิ ง านเกี่ ย วกั บสํการควบคุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ม น้ํ า มั น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เชื้อเพลิง
สํ(๕)
านักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดวิธีการปฏิบัติงานและการจั
กา ดให้สํามนัีแกละบํ ารุงรักษาอุปกรณ์หการือเครื่องมือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
อื่นใดเพื่อประโยชน์ในการดําเนินการตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๖) กํกาหนดการรั
า บฟัสํงาความเห็ นของประชาชนตามความเหมาะสมแก่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กิจการในการ
ดําเนินกิจการหรืออนุญาตให้ดําเนินกิจการตามพระราชบัญญัตินี้ที่มีผลกระทบต่อประชาชน
(๗) กํ า หนดการอื่ น ใดอั น จํ า เป็ น เพื่ อ ให้ บ รรลุ วั ต ถุ ป ระสงค์ ใ นการปฏิ บั ติ ต าม
สํานักพระราชบั ญญัตินี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ากฎกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น หรือประกาศใดที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยการ
ควบคุมอาคารขัดสํหรื านัอกแย้ งกับกฎกระทรวงที่อกอกตามวรรคหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานั่ง กกฎกระทรวง ข้อบัญญัตกิทา ้องถิ่น หรือ
ประกาศนั้นย่อมไม่มีผลใช้บังคับหรือสิ้นผลใช้บังคับ แล้วแต่กรณี เว้นแต่กฎกระทรวง ข้อบัญญัติ
สํานักท้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องถิ่น หรือประกาศดักงากล่าวจะได้ออกโดยได้ รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเนื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่องจากมีความ
จําเป็นหรือเหตุผลพิเศษเฉพาะท้องถิ่น
สํกฎกระทรวงตามวรรคหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี่งจะกํ กา าหนดให้เรืสํ่อางรายละเอี ยดทางด้านเทคนิกคา หรือเรื่องที่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้ อ งเปลี่ ย นแปลงรวดเร็ว เพื่อ ประโยชน์ ข องความปลอดภั ย ให้ เ ป็น ไปตามหลั ก เกณฑ์ที่ รั ฐ มนตรี
สํานักประกาศกํ าหนดในราชกิกจาจานุเบกษาก็สํได้านั๔กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๗ วรรคสาม เพิสํา่มนัโดยพระราชบั
มาตรา ญญัติควบคุมน้กํามัา นเชื้อเพลิง (ฉบัสํบาทีนั่ก๒)งานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๕๐ กา
-๔- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะกรรมการควบคุ มน้ํามันเชื้อเพลิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๕ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการควบคุมน้ํามัน
เชื้อเพลิง” ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธานกรรมการ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ
อธิบดีกรมการขนส่ สํานังกทางน้ ําและพาณิชยนาวีกาอธิบดีกรมการขนส่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งทางบก อธิบดีกรมควบคุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มมลพิษ
อธิบดีก รมป้องกั นและบรรเทาสาธารณภัย อธิบดี กรมโยธาธิการและผังเมือง อธิบดีกรมโรงงาน
สํานักอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตสาหกรรม ผู้อํานวยการสํ กา านักงานนโยบายและแผนการขนส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีงและจราจร กา ผู้อํสํานวยการสํ านักงาน
นโยบายและแผนพลังงาน ผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
และผู้ทรงคุณวุฒิอสําีกนัหกคนซึ ่งคณะรัฐมนตรีแต่กงาตั้ง เป็นกรรมการ
ให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้อธิบดีกรมธุรกิจ
สํานักพลั งงานแต่งตั้งข้าราชการของกรมธุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา รกิสํจาพลั
นักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานอีกไม่เกินสองคนเป็กานผู้ช่วยเลขานุสํกาาร นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งตามวรรคหนึ่งต้องไม่เป็นที่ปรึกษา
พรรคการเมือง ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือเจ้าหน้าสํทีา่พนัรรคการเมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อง และต้องเป็นผู้มีความรู้
ความเชี่ ย วชาญ มี ผ ลงานและประสบการณ์
ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ สาขาวิ ท ยาศาสตร์สําวินัศกวกรรมศาสตร์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิ่งแวดล้อม กฎหมาย การควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิง และธุรกิจน้ํามันเชื้อเพลิงสาขาละหนึ่งคน และอย่าง
น้อยสองคนให้แต่สํงานัตัก้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
จากผู้ทรงคุณวุฒิที่ดําเนิกานงานในองค์สํกาารสาธารณประโยชน์
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี เพื่อกการคุ
า ้มครอง
สุขภาพอนามัย ความปลอดภัย หรือสิ่งแวดล้อม
มาตรา ๙ ให้คณะกรรมการมีอํานาจดังต่อไปนี้
สํ(๑)
านักเสนอแนะนโยบายและมาตรการต่
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา อคณะรั ฐมนตรีเกี่ยวกับการควบคุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มน้ํามัน
เชื้อเพลิงเพื่อประโยชน์แก่การป้องกันหรือระงับเหตุเดือดร้อนรําคาญ หรือความเสียหายหรืออันตราย
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่จะมีผลกระทบต่อบุคคล กา สัตว์ พืช ทรัสํพานัย์กหรื อสิ่งแวดล้อม หรือการกํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหนดแนวทางหรื อลักษณะการ
ดําเนินการเกี่ยวกับการควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิง ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคม
(๒) ให้ คํ า แนะนํ า ต่ อ รั ฐ มนตรี ใ นการออกกฎกระทรวงและประกาศตาม
สํานักพระราชบั ญญัตินี้
(๓) ให้ความเห็นประกอบการพิจารณาให้สัมปทานของคณะรัฐมนตรีตามมาตรา ๔๔
สํ(๔)
านักสอดส่ องดูแลและประสานการปฏิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บัตสํิงาานของเจ้ าหน้าที่และหน่กวายงานต่าง ๆ
ซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับการควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิงเพื่อประโยชน์แก่การป้องกันหรือระงับเหตุเดือดร้อน
สํานักรํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าคาญหรือความเสียหายหรื กา ออันตรายที สํานั่จกะมี ผลกระทบต่อบุคคลกาสัตว์ พืช ทรัพสํย์านัหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี อสิ่งแวดล้อม
หรือการกําหนดแนวทาง หรือลักษณะการดําเนินการเกี่ยวกับการควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิงให้สอดคล้อง
กับสภาพเศรษฐกิสํจาและสั งคม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ให้คําแนะนําและข้อคิดเห็นแก่หน่วยงานต่าง ๆ เกี่ยวกับการเก็บรักษา การขนส่ง
สํานักการใช้ การจําหน่าย การแบ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งบรรจุ และการควบคุ มอย่างอื่นเกี่ยวกักบาน้ํามันเชื้อเพลิสํงานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๖) ปฏิบัติการอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกําหนดไว้
ให้เป็นอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการ
๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๘ แก้ไขเพิ่มเติสํมาโดยพระราชบั
มาตรา ญญัติควบคุมน้ํากมัานเชื้อเพลิง (ฉบับสํทีานั่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๐ กา
-๕- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๐ กรรมการผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
รงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตํ
กาาแหน่งคราวละสองปี กรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตําแหน่งอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดํารงตําแหน่งติดต่อกันสองคราวไม่ได้
มาตรา ๑๑ นอกจาการพ้ น จากตํ า แหน่ ง ตามวาระตามมาตรา ๑๐ กรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่งเมื่อ
สํ(๑)
านักตาย
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ลาออก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๓) คณะรักา ฐมนตรีให้อสํอกเพราะไม่ สุจริตต่อหน้าทีก่หารือมีความประพฤติ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เสื่อมเสีย
(๔) เป็นบุคคลล้มละลาย
สํ(๕)
านักเป็ นคนไร้ความสามารถกหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อเสมือนไร้คสําวามสามารถ
(๖) ได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิด
่ได้กระทําโดยประมาทหรื กา อความผิดลหุ
สําโนัทษ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนในตําแหน่งที่ว่างเพราะเหตุพ้นจาก
ตําแหน่งตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนั้นอยู่ในตําแหน่ งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งตนแทน
สํมาตรา ๑๒ ในกรณีที่กรรมการผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ทรงคุณวุสํฒานัิดกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
รงตําแหน่งครบวาระแล้กาว แต่ยังมิได้
มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตําแหน่งตามวาระ
สํานักปฏิ บัติหน้าที่ไปพลางก่อกนจนกว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าจะมีกสํารแต่ งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณกวุาฒิขึ้นใหม่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํมาตรา ๑๓ การประชุมของคณะกรรมการต้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งมีกรรมการมาประชุกมาไม่น้อยกว่า
กึ่งหนึ่งของจํานวนกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุม
สํานักหรื อไม่อาจปฏิบัติหน้าทีก่ไาด้ ให้กรรมการที
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่มกาประชุ มเลือกกรรมการคนหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งเป็นประธานในที ่ประชุม
การวินิจฉัยชี้ข าดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่ง
ในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียง
สํานักชีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ขาด กรรมการผู้ใดมีสก่วานได้เสียเป็นการส่
สํานักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
นตัวในเรื่องใดในระหว่กาางการลงคะแนน
สํานักรรมการผู ้นั้นไม่
มีสิทธิอยู่ในห้องประชุม
มาตรา ๑๔ ให้คณะกรรมการมีอํานาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือ
สํานักปฏิ บัติการอย่างใดอย่างหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมายก็ ได้ และให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นํามาตราสํา๑๓ มาใช้บังคับแก่
การประชุมของคณะอนุกรรมการโดยอนุโลม
สํให้
านัคกณะกรรมการและคณะอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก รรมการเป็ สํานันกเจ้ าพนักงานตามประมวลกฎหมาย
อาญา
มาตรา ๑๕ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบั
ญญัตินี้ ให้คณะกรรมการมีอํานาจ
ออกคําสั่งเป็นหนังสือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคําหรือให้ส่งเอกสารหรือวัตถุใด ๆ มาเพื่อประกอบการ
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จารณาได้ และคณะกรรมการจะมอบอํ
กา สําานันาจให้ คณะอนุกรรมการใดใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อํานาจดังกล่
สํานัากวด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วยก็ได้ กา
-๖- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๖ ให้กรมธุสํารนักิกจงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี พลังงาน*ปฏิบัติงานเกีก่ยา วกับงานวิชาการและงานธุ รการ
ให้แก่คณะกรรมการ รวมทั้งประสานงานและให้ความช่วยเหลือแก่หน่วยงานต่าง ๆ ในการปฏิบัติงาน
เกี่ยวกับการควบคุสํมานัน้กํางานคณะกรรมการกฤษฎี
มันเชื้อเพลิง และงานอืก่นาใดตามที่คณะกรรมการมอบหมาย

หมวด ๓
การประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการควบคุ
สํานัมกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๗ เพื่อให้การควบคุมการประกอบกิจการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และ
เพื่อปกป้องประชาชนให้ มีความปลอดภัย ให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา รั ฐมนตรี มี อสํํ าานาจออกกฎกระทรวงกํ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีาหนดประเภท
กา
กิจการควบคุมของการมีน้ํามันเชื้อเพลิงไว้ในครอบครอง สถานีบริการน้ํามันเชื้อเพลิง คลังน้ํามัน
สํานักเชืงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อเพลิงและการขนส่งกน้าํามันเชื้อเพลิสํงาสํนัากหรั บน้ํามันเชื้อเพลิงชนิกดาใดชนิดหนึ่ง สํหรืานัอกทุงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กชนิดรวมกัน กา
ให้สอดคล้องกับระดับอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยแบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังนี้
(๑) ประเภทที่ ๑ ได้แก่กิจการที่สามารถประกอบการได้ ทันทีตามความประสงค์ของ
ผู้ประกอบกิจการ
(๒) ประเภทที่ ๒ ได้แก่กิจการที่เมื่อจะประกอบการต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่
ทราบก่อน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ประเภทที่ ๓ ได้ แ ก่ กิ จ การที่ ต้ อ งได้ รั บ ใบอนุ ญ าตจากผู้ อ นุ ญ าตก่ อ นจึ ง จะ
สํานักประกอบการได้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖
วรรคสอง (ยกเลิก)
สํการขนส่ งน้ํามันเชื้อเพลิงทางน้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาําให้เป็นไปตามกฎหมายว่ าด้วยการเดินเรือในน่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา านน้ําไทย
มาตรากา๑๘ ผู้ประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จการควบคุมประเภทที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ๑ ต้องปฏิบสํัตานัิตกามหลั กเกณฑ์ที่
กําหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๗
มาตรากา๑๙ ผู้ประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ๒ ต้องปฏิบสํัตานัิตกามหลั กเกณฑ์ที่
กําหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๗ และเมื่อจะเริ่มประกอบการให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ทราบก่อน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แบบและรายละเอียดที่ต้องแจ้ง วิธีการแจ้ง และแบบใบรับแจ้ง ให้เป็นไปตามที่
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดในกฎกระทรวง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบรับแจ้ง
เพื่ อเป็ นหลั กฐานการแจ้ งให้ แ ก่ ผู้แ จ้ งในวันกทีา่ได้รั บ แจ้ง ในการนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ใ ห้ผู้แ จ้งประกอบกิจกาการควบคุ ม
ประเภทที่ ๒ ได้ตั้งแต่วันที่แจ้ง
๖
มาตรา ๑๗ วรรคสอง ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
สํานัก๒๕๕๐
-๗- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจพบในภายหลังว่าการแจ้งตามวรรคหนึ่งไม่ถูกต้อง
สํานักหรื อไม่ครบถ้วน ให้พนักกางานเจ้าหน้าทีสํ่ามนัีอกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี นาจสั่งให้ผู้แจ้งแก้ไขหนั
กา งสือแจ้งให้ถสํูกาต้นัอกงหรื อครบถ้วน
ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคําสั่งดังกล่าว
สํการเลิ กประกอบกิจการและการโอนกิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการควบคุ มประเภทที่ ๒ ผู้ประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการ
ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้ดําเนินการดังกล่าว
สํมาตรา ๒๐ เมื่อได้มีการออกกฎกระทรวงกํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัาหนดกิ จการควบคุมประเภทที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ๓ แล้ว
ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบกิจการดังกล่าวโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีในกรณี กาที่การประกอบกิ สํานักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
การควบคุมประเภททีก่ ๓า จะต้องมีการก่ สํานัอกสร้ าง ดัดแปลง
รื้อถอน เคลื่อนย้าย ใช้ หรือเปลี่ยนการใช้อาคารอันเกี่ยวกับการนั้นด้วย ถ้าผู้ยื่นขอรับใบอนุญาตมีคําขอ
ให้ผู้อนุญาตตามพระราชบั ญญัตินี้มีอํานาจออกใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตหรื
สําอนักใบรั บแจ้งหรือใบรับรองการใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อาคาร
ควบคุมการใช้สําหรับการดังกล่าวได้ แล้วแต่กรณี ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และเมื่อมี
สํานักการดํ าเนินการตามนั้นไปเสร็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จแล้ว ให้สํสา่งนัเอกสารหลั กฐานต่าง ๆ ให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาแก่ผู้มีอํานาจหน้
สํานัากทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ตามกฎหมาย กา
ว่าด้วยการควบคุมอาคาร เพื่อรับช่วงการดําเนินการต่อไป
มาตรา ๒๑ การขอรัสําบนัใบอนุ
ญาต การออกใบอนุญาต และอายุสําในับอนุ
ญาต ในการ
ประกอบกิ จการควบคุ มประเภทที่ ๓ ให้ เป็ นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่ อนไขที่ กําหนดใน
กฎกระทรวง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๒๒ ผู้ประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ๓ ต้องปฏิบสํัตานัิตกามหลั กเกณฑ์ที่
กําหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๗
สํในการอนุ ญาตให้ประกอบกิกจา การควบคุมประเภทที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ ๓ ผู้อนุญาตจะกํากหนดเงื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อนไข
ใด ๆ ตามควรแก่กรณีก็ได้ และจะกําหนดจํานวนปริมาณสูงสุดของน้ํามันเชื้อเพลิงที่ผู้ได้รับใบอนุญาต
สํานักอาจมี ไว้ในครอบครองด้กวายก็ได้
ใบอนุญาตที่ออกไปแล้วนั้น ถ้าต่อมามีเหตุสําคัญเพื่อคุ้มครองความปลอดภัย หรือ
กฎหมายหรื อพฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป ให้ผู้อนุญาตมีอํานาจสั่งแก้ไขเพิ่ มเติมเงื่อนไขในการ
สํานักอนุ ญาตได้ตามความจําเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ าเป็นการอนุญ าตให้ ประกอบกิ จ การขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่ อ ให้ รัฐ มนตรี
ประกาศกําหนดเขตระบบการขนส่ งน้ํามันเชืกา้อเพลิงทางท่อสําและเครื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่องหมายแสดงเขตในราชกิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จจา
นุเบกษา และให้ผู้ได้รับใบอนุญาตดําเนินการให้เป็นไปตามมาตรา ๓๔ โดยอนุโลม และให้นํามาตรา
สํานัก๓๗ และมาตรา ๓๙ มาใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บังคับโดยอนุสํโาลม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํมาตรา ๒๓ การขอต่ อ อายุ

านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ใ บอนุ ญ าตสําให้
นักผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้ รั บ ใบอนุ ญ าตยื่ น คํ ากขอก่
า อ นวั น ที่
ใบอนุญาตสิ้นอายุ เมื่อได้ยื่นคําขอดังกล่าวแล้วให้ถือว่าผู้ยื่นคําขออยู่ในฐานะผู้รับใบอนุญาตจนกว่าจะ
สํานักได้ รับแจ้งคําสั่งไม่อนุญาตให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต่ออายุใบอนุ
สํานัญกาต
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การยื่ น คํ า ขอต่ อ อายุ ใ บอนุ ญ าตและการให้
ต่ อ อายุ ใ บอนุ ญ าต ให้ เ ป็ น ไปตาม
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
-๘- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๔ คําสั่งไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่ต่ออายุใบอนุญาต ผู้ขออนุญาต หรือผู้ขอ

สํานักต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ออายุใบอนุญาตมีสิทธิกอาุทธรณ์ต่อรัฐมนตรี
สํานักไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้ภายในสามสิบวันนับกแต่
า วันที่ได้รับแจ้สํงานัคํกาสังานคณะกรรมการกฤษฎี
่ง กา
รัฐมนตรีต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วัน
ได้รับอุทธรณ์ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
สํมาตรา ๒๕ ผู้รับใบอนุญาตจะโอนกิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการตามที ่ได้รับอนุญาตให้แก่บกุคาคลอื่นไม่ได้
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต
การยื่นกคํา าขอโอนใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําญ
นักาตและการออกใบอนุ ญาต
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้เป็นไปตามหลั
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกณฑ์ วิธีการ กา
และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๖ ในกรณีผู้รับใบอนุญาตตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคลหรือตกเป็นบุคคล
สํานักล้งานคณะกรรมการกฤษฎี
มละลาย ให้ทายาทหรืกอาผู้ชําระบัญชีหสํารืนัอกเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าพนักงานพิทักษ์ทรัพกย์ายื่นคําขอต่อผูสํ้อานุนัญกงานคณะกรรมการกฤษฎี
าต เพื่อรับโอน กา
ใบอนุญาตภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล หรือตกเป็นบุคคล
ล้มละลาย แล้วแต่ กรณี หรือภายในระยะเวลาที่ผู้อนุญาตขยายเวลาให้ ตามความจําเป็น ถ้ามิได้ยื่น
คําขอภายในระยะเวลาที่กําหนดให้ถือสํว่าานัใบอนุ
ญาตสิ้นอายุ หากจะประกอบกิจการตามใบอนุ
ญาตนั้น
ต่อไปให้ดําเนินการขอรับใบอนุญาตใหม่
สํในระหว่ างระยะเวลาตามวรรคหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ง ให้ถือเสมื
สํานัอกนว่ าทายาทหรือผู้ชําระบักาญชี หรือเจ้า
พนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งเข้าประกอบกิจการตามใบอนุญาตนั้นเป็นผู้รับใบอนุญาต
ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาที่ผู้รั บใบอนุสํญาาตถู กศาลสั่งให้เป็นคนไร้กคาวามสามารถสํให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําความในสอง กา
วรรคก่อนมาใช้บังคับแก่ผู้อนุบาลโดยอนุโลม
มาตรา ๒๗ ผู้ รั บ ใบอนุ ญ าตต้ อ งแสดงใบอนุ ญ าตไว้ ใ นที่ เ ปิ ด เผยเห็ น ได้ ง่ า ย ณ
สํานักสถานที ่ประกอบการที่รกะบุา ในใบอนุญาตสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๘ ถ้าใบอนุญาตสูญหายหรือถูกทําลายในสาระสําคัญ ให้ผู้รับใบอนุญาต
สํานักแจ้ งต่อผู้อนุญาตและยื่นกคําาขอรับใบแทนใบอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ญาตภายในสิบห้าวันกนัา บแต่วันที่ได้ทสําราบถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งการสูญหาย
หรือถูกทําลายดังกล่าว
สํการขอรั บ ใบแทนใบอนุ ญกาาตและการออกใบแทนใบอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญ าต ให้กเาป็ น ไปตาม
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๙ ให้รัฐมนตรีมีอํานาจออกกฎกระทรวงกําหนดให้ท้องที่หนึ่งท้องที่ใดเป็น
เขตห้ามประกอบกิสําจนัการควบคุ มตามมาตรา ๑๗
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อย่างหนึ่งอย่สําานังใดหรื อทุกอย่างได้
มาตรากา๓๐ ในกรณีทสําี่ไนัด้กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ีการออกกฎกระทรวงตามมาตรา
กา ๒๙ สํแล้
านัวกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้ามมิให้มีการ กา
ประกอบกิจการควบคุ มตามที่ระบุไว้ในกฎกระทรวงดังกล่าวสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่ผู้ซึ่งประกอบกิจการควบคุมในเขตห้ามประกอบ
สํานักกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จการควบคุมอยู่ก่อนทีก่จาะมีกฎกระทรวงตามมาตรา ๒๙ ใช้บังคับกและจะประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานัจกการควบคุ มนั้น
-๙- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต่อไปเมื่อมีกฎกระทรวงดังกล่าวแล้ว แต่ถ้าอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน*เห็นว่าการประกอบกิจการ
สํานักควบคุ ม เช่ น นั้ น ต่ อ ไปจะขั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ด ต่ อ เจตนารมณ์ ข องการมี ก ฎกระทรวงดั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง กล่สําาวนักหรื อ อาจมี ผ ล
กระทบกระเทื อ นต่ อ การป้ อ งกั น เหตุ เ ดื อ ดร้ อ นรํ า คาญ หรื อ ความเสี ย หายหรื อ อั น ตรายที่ จ ะมี
ผลกระทบต่อบุคสํคล านักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิก่งาแวดล้อม หรืสํอาการกํ าหนดแนวทาง หรือกลัา กษณะการ
ดําเนินการเกี่ยวกับการควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิงไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคม อธิบดีกรม
ธุรกิจพลังงาน*มีอํานาจออกคําสั่งกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบกิจการ
ควบคุมนั้นได้ และจะสั ่งเป็นหนังสือถึงผู้ประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการควบคุ สํานัมกให้ แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อระงับการ
กระทําใดภายในระยะเวลาที่เห็นสมควรก็ได้ แต่ถ้าการปฏิบัติตามคําสั่งดังกล่าว ทําให้ผู้ประกอบ
สํานักกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จการควบคุมนั้นต้องเสีกยาหายหรือขาดประโยชน์ ที่เคยได้รับเกินสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้ผู้นั้นมีสสํิทานัธิไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
รับค่าทดแทน กา
ตามความเป็นธรรม
สํในกรณี ที่ผู้ประกอบกิจการควบคุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มซึ่งได้รับสําคํนัากสังานคณะกรรมการกฤษฎี
่งจากอธิบดีกรมธุรกิจพลั กา งงาน*ตาม
วรรคสองไม่พอใจในคําสั่งดังกล่าว ให้อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าสั่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รัฐมนตรีต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ตามวรรคสามให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วัน
ได้รับอุทธรณ์
คําวินิจฉัยของรัฐมนตรี ให้เป็นที่สุด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บริการของรัฐเกี่ยวกับน้ํามันเชื้อเพลิง
สํมาตรา ๓๑ คณะรัฐมนตรีอกาจอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มัติให้หน่สํวายงานของรั ฐหน่วยงานหนึก่งหน่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า วยงานใด
เป็นผู้ดําเนินการจัดให้มีคลังน้ํามันเชื้อเพลิงหรือระบบการขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อเพื่อให้บริการ
สํานักในด้ านการใช้เป็นสถานทีกา่เก็บรักษาน้ํามัสํนานัเชืก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี เพลิงหรือการขนส่งน้ํากมัานเชื้อเพลิงได้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หน่ ว ยงานของรั ฐ ที่ เ ป็ น ผู้ ดํ า เนิ น การต้ อ งปฏิ บั ติ ต ามหลั ก เกณฑ์ ที่ กํ า หนดใน
กฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๗
มาตรา ๓๒ เมื่อมีความจําเป็นที่หน่วยงานของรัฐจะต้องได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์
เพื่อสร้างคลังน้ําสํมัานนัเชืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อเพลิงหรือระบบการขนส่
กา งน้ํามันเชืสํ้อาเพลิ งทางท่อ ให้ดําเนินการเวนคื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นตาม
กฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
มาตรา ๓๓ เพื่อประโยชน์ในการสร้างหรือบํารุงรักษาคลังน้ํามันเชื้อเพลิง หรือ
ระบบการขนส่งน้สํําามันันกเชื ้อเพลิงทางท่อ ให้เจ้ากหน้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าที่ของหน่วสํยงานของรั ฐที่เป็นผู้ดําเนินกการ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มีอํานาจ
เข้าไปใช้สอยหรือครอบครองอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมิใช่ที่อยู่อาศัยของบุคคลใดเป็นการชั่วคราวได้ภายใต้
สํานักเงืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อนไขดังต่อไปนี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) การใช้สอยหรือเข้าครอบครองนั้นเป็นสํการจํ
าเป็นสําหรับการสํารวจ หรือสร้าง
หรือบํารุงรักษาคลังน้ํามันเชื้อเพลิงหรือระบบการขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อ หรือเป็นการจําเป็น
- ๑๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สําหรับการป้องกันอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดแก่คลังน้ํามันเชื้อเพลิงหรือระบบการขนส่ง
สํานักน้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ํามันเชื้อเพลิงทางท่อ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) หน่วยงานของรัฐนั้นได้บอกกล่าวให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์
ทราบล่วงหน้าแล้วานัโดยแจ้
สํ งเป็นหนังสือให้เจ้ากของหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า อผู้ครอบครองอสั งหาริมทรัพย์ทราบภายในเวลา
อันสมควร แต่ต้องไม่น้ อยกว่ าเจ็ดวั น เว้น แต่ ใ นกรณีที่ไม่อาจติ ดต่ อกับเจ้ าของหรือผู้ครอบครอง
อสังหาริมทรัพย์ได้ ให้ประกาศให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทราบล่วงหน้าไม่น้อย
กว่ า สามสิ บ วั น การประกาศให้ ทํ า เป็ น หนักงาสื อ ปิ ด ไว้ ณ สํทีา่ ซนัึ่กง งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ นั้ น ตัก้ งาอยู่ และ ณ
สํานักงานเขตหรือที่ว่าการอําเภอ ที่ทําการกํานัน และที่ทําการผู้ใหญ่บ้านแห่งท้องที่ที่อสังหาริมทรัพย์
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นตั้งอยู่ ทั้งนี้ ให้แจ้งกํกาาหนดวันเวลาและการที ่จะกระทํานั้นไว้ด้วกยา
ในกรณีที่การปฏิบัติตามมาตรานี้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของหรือผู้ครอบครอง
อสังหาริมทรัพย์หสํรืาอนัผูก้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
รงสิทธิอื่น บุคคลนั้นย่กอามเรียกค่าทดแทนจากหน่ วยงานของรัฐได้กา
มาตรากา๓๔ ให้หน่วยงานของรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ฐประกาศกําหนดเขตระบบการขนส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานังกน้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ํามันเชื้อเพลิง กา
ทางท่อและเครื่องหมายแสดงเขตในราชกิจจานุเบกษา และปิดประกาศดังกล่าวไว้ ณ สํานักงานเขต
หรื อ ที่ ว่ า การอํ าสํเภอแห่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ง ท้ อ งที่ ที่ ร ะบบการขนส่ ง น้ํ า มั น เชื ้ อ เพลิ ง ทางท่ อ นั้ น ตั้ ง อยู่ กั บ ให้ จั ด ทํ า
เครื่องหมายแสดงไว้ในบริเวณเขตระบบการขนส่
งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อตามหลัสํกาเกณฑ์
ที่กรมธุรกิจ
พลังงาน*กําหนด
มาตรา ๓๕ ในการจัดทําระบบการขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อ หน่วยงานของรัฐมี
สํานักอํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านาจดําเนินการอย่างหนึ กา ่งอย่างใดดังสํต่าอนัไปนี ้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) วางระบบการขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อไปใต้ เหนือ ตาม หรือข้ามที่ดินของ
บุคคลใด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) รื้อถอนอาคารหรือโรงเรือนซึ่งมิใช่ที่อยู่อาศัยของบุคคลใด ๆ หรือทําลายสิ่งอื่นที่
สํานักสร้ างหรือทําขึ้น หรือทํากลาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี า หรือตัดฟัสํนานัต้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
กิ่ง หรือรากของต้นไม้กาหรือพืชผลในเขตระบบการขนส่ ง
น้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อ
ก่ อ นที่ จ ะดํ า เนิ น การตาม (๑) หรื อ (๒) ให้ ห น่ ว ยงานของรั ฐ แจ้ ง เป็ น หนั ง สื อ ให้
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าของหรือผู้ครอบครองทรั กา พย์สินที่เกีสํ่ยาวข้
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งทราบ และให้นํามาตรา กา ๓๓ วรรคหนึสํานั่ง ก(๒) มาใช้บังคับ
โดยอนุโลม
สํเจ้านัากของหรื อผู้ครอบครองทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาพย์สิ นตามวรรคหนึ ่งอาจอุทธรณ์เหตุทกี่ไาม่สมควรทํา
เช่นนั้นต่อรัฐมนตรีได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี รัฐมนตรี กา ต้องวินิจฉัยสํอุาทนักธรณ์ ตามวรรคสามให้แกล้าวเสร็จภายในหกสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี บวันนับแต่วัน
สํคําานัวิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็กนาไปที่สุด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๓๖ ให้หน่วสํยงานของรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ฐจ่ายค่าทดแทนแก่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เจ้าของหรืสํอาผูนั้ทกรงสิ ทธิในที่ดิน
อาคาร โรงเรือน หรื อสิ่งปลูกสร้างในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) การใช้ที่ดินที่ประกาศกําหนดเป็นเขตระบบการขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อตาม
สํานักมาตรา ๓๔
- ๑๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) การใช้ที่ดินวางระบบการขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อตามมาตรา ๓๕ (๑)

(๓) การกระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าตามมาตรา ๓๕ (๒)
ค่าทดแทนตามวรรคหนึ่ง ให้คํานวณจากความเสียหายตามความเป็นจริง รวมทั้งค่า
ขาดประโยชน์จากการใช้
สํ สอยสิ่งต่าง ๆ ดังกล่ากวนั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้นด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๓๗ ห้ามมิให้ผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดอันอาจเป็นอันตรายต่อระบบ
การขนส่งน้ํามันเชืสํ้อานัเพลิ งทางท่อ รวมทั้งอุปกรณ์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ของระบบดังสํกล่
านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
วนั้น กา
มาตรากา๓๘ ในเขตระบบการขนส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งน้ํามันเชื้อเพลิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งทางท่อ ไม่สํวา่านับนบกหรื อในน้ํา
หรือใต้พื้นท้องน้ําหรือพื้นท้องทะเล ห้ามมิให้ผู้ใดปลูกสร้างอาคาร โรงเรือน ต้นไม้หรือสิ่งอื่นใด ติดตั้ง
สิ่งใด เจาะหรือขุดสํพืานั้นกดิงานคณะกรรมการกฤษฎี
น ถมดิน ทิ้งสิ่งของ หรืกอา กระทําด้วยประการใด ๆ ที่อาจทําให้เกิดกอัานตรายหรือ
เป็น อุป สรรคแก่ ร ะบบการขนส่ ง น้ํา มั น เชื้อ เพลิง ทางท่ อ เว้น แต่ จ ะได้ รับ อนุ ญ าตเป็ น หนั ง สือ จาก
สํานักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
ฐมนตรี ในกรณีเช่นนี้ใกห้ารัฐมนตรีอนุญสําาตได้ เมื่อได้รับฟังความเห็นกาของหน่วยงานของรั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ฐผู้ดําเนินการ
แล้วปรากฏว่าการกระทําดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อบุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม และ
ในการอนุญาตรัฐสํมนตรี านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะกําหนดเงื่อนไขอย่างใดด้วยหรือไม่สํากนั็ไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้ามีการฝ่าฝืนให้รัฐมนตรีกา
มีอํานาจ
สั่งให้ผู้ฝ่าฝืนรื้อถอน ขนย้าย ตัดฟัน สํทํานัากลาย
หรือกระทําการใด ๆ ได้ภายในระยะเวลาที
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่กําหนด
ถ้า ผู้นั้น ไม่ป ฏิบัติต าม หรือ ในกรณีที่ห าตัว ผู้ฝ่า ฝืน ไม่ไ ด้ เมื่อ ได้ป ระกาศคํา สั่ง ไว้ ณ บริเ วณนั้น
และ ณ สํานักงานเขตหรื อที่ว่าการอําเภอ ทีก่ทาําการกํานันและที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ทําการผู้ใหญ่บ้านแห่งกท้าองที่นั้นเป็น
เวลาไม่น้อยกว่าเจ็ดวันแล้ว และไม่มีการปฏิบัติตามคําสั่งนั้น รัฐมนตรีอาจมีคําสั่งให้หน่วยงานของรัฐ
สํานักเข้ ารื้อถอน ขนย้าย ตัดกฟัา น ทําลาย หรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําอนักระทํ าการใด ๆ ได้ตามควรแก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กรณี โดยผู
สํานัก้ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดจะเรียกร้อง กา
ค่าเสียหายมิได้ และผู้ฝ่าฝืนต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายตามจํานวนที่จ่ายจริงในการนั้น พร้อมกับเงินเพิ่ม
ในอัตราร้อยละสามสิ บต่อปีของค่าใช้จ่ายดักงากล่าว โดยคําสํนวณตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้งแต่วันที่หน่วยงานของรั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ฐได้ เข้ า
ดําเนินการจนถึงวันที่ได้ชําระค่าใช้จ่ายและเงินเพิ่มครบถ้วน
มาตรา ๓๙ ในกรณีมีการประกาศกําหนดเขตระบบการขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อ
ในแม่น้ํา ลําคลอง ทะเล หรือทางสัญจรทางน้ําแห่งใด ไม่ว่าจะอยู่ในราชอาณาจักรหรือไม่ ห้ามมิให้
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ใดทอดสมอเรือ หรือเกาสมอกา หรือลากแห อวน หรือเครื่องจับสัตว์กอา ย่างใด ๆ ในเขตเหล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านั้น
เมื่อเรือใดแล่นข้ามเขตระบบการขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อ ถ้ามิได้ชักสมอขึ้นพ้น
จากน้ําจนแลเห็นสํได้านัให้ ถือว่าการกระทํานั้นมีผกลเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า นการเกาสมอแล้ ว
มาตรากา๔๐ เพื่อประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี แห่งความปลอดภัย ให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาหน่วยงานของรั
สํานัฐกมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
อํานาจทําลาย กา
หรือตัดฟันต้น กิ่ง รากของต้นไม้ หรือสิ่งอื่นใดที่อยู่ใกล้คลังน้ํามันเชื้อเพลิงหรือระบบการขนส่งน้ํามัน
เชื้อเพลิงทางท่อ สํแต่
านัตก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
งแจ้งเป็นหนังสือให้เจ้กาาของหรือผู้ครอบครองต้ นไม้ หรือสิ่งนั้นทราบล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วงหน้า
ภายในเวลาอันสมควร ถ้าไม่อาจติดต่อกับเจ้าของหรือผู้ครอบครองได้ ให้หน่วยงานของรัฐมีอํานาจ
สํานักดํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเนินการได้ตามที่เห็นกสมควร
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ต้นไม้หรือสิ่งอื่นใดมีอยู่ก่อนการสร้
างคลังน้ํามันเชื้อเพลิง หรือระบบการ
ขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อ ให้หน่วยงานของรัฐจ่ายค่าทดแทนตามความเป็นธรรมให้แก่เจ้าของหรือ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ครอบครองต้นไม้หรือสิก่งานั้น ตามสมควรแก่ กรณี
- ๑๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๔๑ ในกรณีสํทาี่จนัํากเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นและเร่งด่วน หน่วยงานของรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ฐมีอสํําานาจเข้ าไปในที่ดิน
หรือสถานที่ของบุคคลใดในเวลาใดเพื่อตรวจ ซ่อมแซม หรือแก้ไขระบบการขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทาง
ท่อได้ แต่ถ้าเจ้าของหรื อผู้ครอบครองอยู่ ณ ทีก่นาั้นด้วย ก็ให้แสํจ้างนัให้กเงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จ้าของหรือผู้ครอบครองทราบก่
กา อน
มาตรา ๔๒ ในการกระทํากิจการตามมาตรา ๔๐ หรือมาตรา ๔๑ หน่วยงานของรัฐ
ต้องพยายามมิให้สํเากินัดกความเสี ยหาย แต่ถ้าเกิกดาความเสียหายขึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้นกหน่ วยงานของรัฐต้องรักบาผิดต่อความ
เสียหายนั้น
มาตรา ๔๓ เพื่อประโยชน์ในการดําเนินงาน คณะรัฐมนตรีอาจอนุมัติให้เอกชนรายใด
เป็นผู้รับสัมปทานในการจั ดให้มีคลังน้ํามันเชืก้อา เพลิงหรือระบบการขนส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งน้ํามันเชื้อเพลิกงาทางท่อตาม
หมวดนี้ก็ได้
การขอรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บ สั ม ปทานให้
สํานัเกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
น ไปตามหลั ก เกณฑ์ กวิาธี ก าร และเงืสํ่ อานันไขที ่ กํ า หนดใน
กฎกระทรวง
ผู้ยื่นคําขอต้องมีคุณสมบัติตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๔๔ การยื่นขอสัมปทานให้ยื่นต่ออธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน* และให้อธิบดี
กรมธุรกิจพลังงาน*ทํ
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
เรื่องเสนอคณะกรรมการเพื
กา ่อพิจารณาความเหมาะสมในการให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีสกัมาปทาน และ
เงื่อนไขในการให้สัมปทานประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป
มาตรา ๔๕ ผู้ รั บ สั ม ปทานจะโอนสั ม ปทานได้ ต่ อ เมื่ อ มี เ หตุ อั น สมควรและ
คณะรัฐมนตรีได้พสําิจนัารณาแล้ วเห็นว่าผู้รับโอนมี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คุณสมบัติตามมาตรา ๔๓ วรรคสาม และอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตให้
โอนสัมปทานได้
ผู้รับโอนสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มปทานตามวรรคหนึ ่งต้องรับไปซึ่งสิทกธิา หน้าที่ และความรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บผิดทั้งหมด
ของผู้รับสัมปทานรายเดิม
มาตรากา๔๖ ในกรณีสํทาี่นัผู้กรับงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สัมปทานตายหรือสิ้นกสภาพนิ
า ติบุคคลหรื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ตกเป็นบุคคล กา
ล้มละลาย ให้ทายาทหรือผู้ชําระบัญชีหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ แล้วแต่กรณี เป็นผู้มีสิทธิแสดง
เจตนาในการโอนสัสํามนัปทานตามมาตรา ๔๕ กา
การแสดงเจตนาในการโอนสัมปทานตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามวิธีการที่กําหนดใน
สํานักกฎกระทรวง
สํมาตรา ๔๗ การโอนสั ม ปทานตามมาตรา

านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัก๔๕ และมาตรา ๔๖ ให้กาเ ป็ น ไปตาม
หลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๔๘ ในกรณีที่ผู้รับสัมปทานไม่ได้สํรับานัอนุ
ญาตให้โอนสัมปทาน ให้รัฐมนตรีมี
หนังสือแจ้งให้ผู้รับสัมปทานทราบพร้อมทั้งเหตุผลภายในสามสิบวันนับแต่วันที่รัฐมนตรีมีคําสั่ง
- ๑๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๙ กิจการตามที่ได้รับสัมปทานจะตกเป็นของรัฐเมื่อใดให้เป็นไปตามที่
าหนดในสัมปทาน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํมาตรา ๕๐ ในกรณีมีเหตุกจาําเป็นเพื่อประโยชน์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สาธารณะ รัฐมีอํานาจเข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ายึ ดถื อ
ครอบครองกิจการที่ได้รับสัมปทาน โดยรัฐจะต้องใช้ค่าทดแทนให้แก่ผู้รับสัมปทานตามที่กําหนดใน
สัมปทาน ในกรณีที่สัมปทานมิได้กําหนดเรื่องค่าทดแทนไว้ ให้ใช้ค่าทดแทนโดยคํานึงถึงประโยชน์ที่
ผู้รับสัมปทานควรได้ สํานัรกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามความเป็นธรรม กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหนังสือแจ้งให้ผู้รับสัมปทานมารับเงินค่าทดแทนภายในเวลา
่กําหนด ถ้าผู้รับสัมปทานไม่กา มารับเงินสํภายในกํ าหนดเวลาที่ได้รับแจ้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง ให้พนักงานเจ้
สํานัากหน้ าที่นําเงินค่า
ทดแทนไปฝากไว้กับธนาคารออมสินในชื่อของผู้รับสัมปทาน
มาตรา ๕๑ ในกรณีที่มีผู้รับสัมปทานมีความจําเป็นจะต้องได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์
สํานักเพื ่อสร้างคลังน้ํามันเชื้อกเพลิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า งหรือระบบการขนส่ งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อตามที่กําสํหนดไว้ ในสัมปทาน
และผู้รับสัมปทานไม่สามารถดําเนินการให้ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์เพื่อการนั้นโดยวิธีอื่น ให้กรมธุรกิจ
พลังงาน*เป็นผู้ดสํําาเนินักนงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การเวนคืนตามกฎหมายว่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าด้วยการเวนคื นอสังหาริมทรัพย์ โดยผู้รับสัมปทาน
เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายและค่าทดแทน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํมาตรา ๕๒ ให้นําบทบัญญักตา ิตามความในหมวดนี

านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ที่ใช้บังคับแก่การดํกาเนิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นการของ
หน่วยงานของรัฐมาใช้บังคับแก่ผู้รับสัมปทานโดยอนุโลม
หมวด ๕
การควบคุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มและตรวจสอบ

มาตรา ๕๓ เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มี
อํานาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) เข้กาาไปในอาคาร สํสถานที ่ หรือยานพาหนะที่ดกําาเนินกิจการ หรืสําอนัมีกเงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี หตุสงสัยว่าจะ กา
มีการดําเนินกิจการควบคุมตามมาตรา ๑๗ หรือคลังน้ํามันเชื้อเพลิงหรือเขตระบบการขนส่งน้ํามัน
เชื้อเพลิงทางท่อตามหมวด ๔ ในเวลาระหว่กางพระอาทิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ตย์ขสําึ้นนัถึกงงานคณะกรรมการกฤษฎี
พระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทํ กา าการ
ของสถานที่นั้น เพื่อตรวจสภาพอาคาร สถานที่ ยานพาหนะ หรือการกระทําใดที่อาจเป็นการฝ่าฝืน
สํานักบทบั ญญัติแห่งพระราชบักาญญัตินี้ หรือไม่สําปนัฏิกบงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ัติตามที่กําหนดในสัมปทาน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) นําตัวอย่างน้ํามันเชื้อเพลิงที่สงสัยในปริมาณพอสมควรเพื่อใช้ในการตรวจสอบ
พร้อมกับเอกสารทีสํา่เนักีก่ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
วข้อง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ตรวจ ค้น กัก ยึด หรืออายัดน้ํามันเชื้อเพลิง ถังหรือภาชนะบรรจุท่อส่งน้ํามัน
สํานักเครื ่ อ งอุ ป กรณ์ หรื อ สิ่ งกใด
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ๆ ที่ เ กี่ ย วข้สําอนังกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในกรณี ที่ มี เ หตุ ส งสั ย ว่กาา มี ก ารฝ่ า ฝื น สํหรื
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ ป ฏิ บั ติ ต าม กา
บทบัญญัติแห่งพระราชบั ญญัตินี้ หรือไม่เป็นไปตามที่กําหนดในสั
มปทาน หรืออาจก่อให้เกิดความ
เสียหายหรืออันตรายที่จะมีผลกระทบต่อบุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม
- ๑๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) มี ห นั ง สื อ เรี ย กบุ ค คลใดมาให้ ถ้ อ ยคํ า หรื อ ให้ ส่ ง เอกสารหรื อ วั ต ถุ ใ ดมาเพื่ อ

สํานักประกอบการพิ จารณา กา
(๕) ตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริงแล้วรายงานต่อผู้อนุญาตหรือรัฐมนตรี แล้วแต่
กรณี ในกรณีที่ผู้ปาระกอบกิ
สํ จการควบคุมตามมาตรา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๗ หรืสําอนัผูก้รงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับสัมปทานได้กระทําผิกดา หรือทําให้
เกิดความเสียหายเพราะเหตุไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่กําหนดในสัมปทาน
สํมาตรา ๕๔ ในกรณี พ นักกางานเจ้ า หน้ าสํทีานั่ พกบว่

านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ผู้ ใ ดฝ่ า ฝื น หรื อ ไม่กาป ฏิ บั ติ ต าม
พระราชบัญญัตินี้ หรือตามเงื่อนไขที่ผู้อนุญาตกําหนดตามมาตรา ๒๒ หรือผู้รับสัมปทานผู้ใดฝ่าฝืน
สํานักหรื อไม่ปฏิบัติตามพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัตินี้หสํรืาอนัตามที ่กําหนดในสัมปทานกาหรือการดําเนิสํานนักิกจงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี การมีสภาพที่ กา
อาจก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อนรําคาญ ความเสียหาย หรืออันตรายที่จะมีผลกระทบต่อบุคคล สัตว์ พืช
ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้
สํานัอกมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้พนักงานเจ้าหน้าทีกา่มีอํานาจสั่งให้สํผานัู้นกั้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระงับการกระทําที่ฝ่าฝืกนา หรือแก้ไข
หรือปรับปรุง หรือปฏิบัติให้ถูกต้องหรือเหมาะสมภายในระยะเวลาที่กําหนดก็ได้
มาตรา ๕๕ ในกรณี ที่ ผู้ ป ระกอบกิ จ การควบคุ ม ตามมาตรา ๑๗ ไม่ แ ก้ ไ ข หรื อ
ปรับปรุง หรือปฏิบัติให้ถูกต้องตามคําสั่งตามมาตรา ๕๔ ภายในเวลาที ่กําหนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มี
อํานาจสั่งห้ามประกอบกิจการต่อไป หรื
อให้ผู้อนุญาตเพิกถอนใบอนุญาต แล้วแต่สํกานัรณี
และถ้าน้ํามัน
เชื้อเพลิงที่มีอยู่ มีปริมาณมากกว่ าที่จะมีไว้ในครอบครอง หรือที่ได้รับอนุญาต หรืออาจก่อให้เกิด
อันตรายขึ้นได้ ก็ใสํห้าพนักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจดํ กา าเนินการอย่สําางหนึ ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ กา
(๑) สั่ งให้ ผู้ป ระกอบกิ จ การขนย้ า ยน้ํามั นเชื้ อ เพลิงทั้ งหมดหรื อบางส่ว นไปไว้ยั ง
สํานักสถานที ่ที่ปลอดภัยภายในระยะเวลาที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่พสํนัานักกงานเจ้ าหน้าที่กําหนด กา
(๒) ในกรณีจําเป็น พนักงานเจ้าหน้าที่อาจเข้าดําเนินการขนย้ายน้ํามันเชื้อเพลิง
หรือมอบหมายให้สํบานัุคกคลอื ่นดําเนินการขนย้ายน้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ํามันเชื้อเพลิสํงานันั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
และนําไปเก็บรักษาไว้กาณ สถานที่ที่
ปลอดภัยก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ผู้ประกอบกิจการต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการขนย้ายและการเก็บรักษานั้น
สํานักตามจํ านวนที่จ่ายจริงรวมกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บเบี้ยปรับในอั
สํานัตกราร้ อยละสามสิบต่อปีของเงิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นจํานวนดังสํกล่
านักาวงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๖ ในกรณีที่ผู้รับสัมปทานไม่แก้ไขหรือปรับปรุงหรือปฏิบัติให้ถูกต้องตาม
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าสั่งตามมาตรา ๕๔ ภายในเวลาที
กา ่กําสํหนด ให้รัฐมนตรีพิจารณาเกี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ยวกับการเพิสํกาถอนสั มปทานโดย
ไม่ชักช้า
สํถ้าานัรักฐงานคณะกรรมการกฤษฎี
มนตรีเพิกถอนสัมปทาน กา ให้กิจการทีสํ่ได้านัรับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สัมปทานนั้นตกเป็นของรั กา ฐ ในการนี้
ให้ผู้รับสัมปทานที่ถูกเพิกถอนดังกล่าวได้รับค่าทดแทน โดยคํานึงถึงประโยชน์ที่ผู้รับสัมปทานควร
สํานักได้ รับตามความเป็นธรรมกาและให้นํามาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก๕๐ วรรคสอง มาใช้บังคักาบโดยอนุโลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํมาตรา ๕๗ ในกรณีที่ผู้ประกอบกิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการควบคุ
สํานักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือผู้รับสัมปทานซึ่งได้กราับคําสั่งจาก
พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๕๔ ไม่พอใจในคําสั่งดังกล่าว ให้อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีได้ภายในสามสิบ
สํานักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นนับแต่วันที่ได้รับแจ้งกคําาสั่ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รัฐมนตรีต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ตามวรรคหนึสํ่งาให้
แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วัน
คําวินิจกาฉัยของรัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําในัห้กเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ป็นที่สุด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา ๕๘ ในการปฏิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บั ติ ก ารตามหน้ า ที่ พนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาก งานเจ้ า หน้สําานัทีก่ ตงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ อ งแสดงบั ต ร กา
ประจําตัวเมื่อผู้ที่เกี่ยวข้องร้องขอ
สํบัาตนัรประจํ าตัวพนักงานเจ้ากหน้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า าที่ให้เป็นไปตามแบบที ่รัฐมนตรีกําหนดโดยประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา
สํมาตรา ๕๙ ให้รัฐมนตรีมีอกําานาจกําหนดแนวทางและเงื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่อนไขสําหรับการปฏิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บัติงาน
ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ได้ตามความเหมาะสม
มาตรา ๖๐ ให้ มี ค ณะกรรมการอุ ท ธรณ์ ค ณะหนึ่ ง ประกอบด้ ว ยปลั ด กระทรวง
พลังงาน*เป็นประธานกรรมการ อธิบดีกรมการผั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งเมือง อธิสํบานัดีกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
รมควบคุมมลพิษ ผู้แกทนสํ า านักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนสํานักงานอัยการสูงสุด และผู้ทรงคุณวุฒิอีกสามคน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง
สํานักเป็ นกรรมการ
ให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน*เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้อธิบดีกรมธุรกิจ
พลังงาน*แต่งตั้งข้าราชการของกรมธุรกิจพลังงาน*อีกไม่เกินสํสองคนเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นผู้ช่วยเลขานุการ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒ
ิที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งตามวรรคหนึ่งต้องเป็
นผู้มีความรู้ความ
เชี่ ย วชาญมี ผ ลงานเกี่ ย วกั บ สาขาวิ ท ยาศาสตร์ วิ ศ วกรรมศาสตร์ สิ่ ง แวดล้ อ ม และเคยเป็ น ผู้ มี
ประสบการณ์ด้านการควบคุ มน้ํามันเชื้อเพลิงหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อธุรกิจน้ํามันสํเชื
านั้อกเพลิ ง
ให้คณะกรรมการอุทธรณ์มีหน้าที่ให้ความเห็นต่อรัฐมนตรีในการพิจารณาวินิจฉัย
สํานักอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธรณ์ตามพระราชบัญกญัา ตินี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นํามาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ มาตรา ๑๒ มาตรา ๑๓ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๕
มาใช้บังคับแก่คณะกรรมการอุ ทธรณ์โดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๖
บทกําหนดโทษ

มาตรา ๖๑ ผู้ ใ ดไม่ ม าให้ ถ้ อ ยคํ า หรื อ ไม่ ส่ ง เอกสารหรื อ วั ต ถุ ใ ด ๆ ตามที่
คณะกรรมการหรืสํอานัคณะอนุ กรรมการสั่งตามมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๕ หรืสํอาทีนั่กพงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานเจ้าหน้าที่มีหนักงสืา อเรียกตาม
มาตรา ๕๓ (๔) ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๖๒ ผู้ใดประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ ๑ โดยไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์
ที่กําหนดในกฎกระทรวงที ่ออกตามมาตรา ๗กาต้องระวางโทษจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากคุงานคณะกรรมการกฤษฎี
กไม่เกินสามเดือน หรืกอาปรับไม่เกิน
สามหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๖๓ ผู้ ใ ดประกอบกิ จ การควบคุสํมานัประเภทที
่ ๒ โดยไม่ แ จ้ ง ให้ พ นั ก งาน
เจ้าหน้าที่ทราบก่อน หรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๗ ต้อง
สํานักระวางโทษจํ าคุกไม่เกินหกเดื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อน หรือปรัสําบนัไม่ เกินห้าหมื่นบาท หรือทัก้งาจําทั้งปรับ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๖๔ ผู้ใดประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ๒ โดยแจ้งการประกอบกิ จการ
ไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่กําหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตามมาตรา ๑๙ วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับ
ไม่เกินห้าหมื่นบาทสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ ๒ ผู้ใดไม่แจ้งการประกอบกิจการให้ถูกต้อง
ครบถ้วนตามคําสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๙ วรรคสี่ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสน
บาท และให้ศาลสัสํ่งาให้
นักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลิกการประกอบกิจการกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา ๖๕ ผู้ ใดประกอบกิ

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ๓ โดยไม่สําไนัด้กรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับอนุญาตต้อง กา
ระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๖๖ ผู้ใดประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ ๓ โดยไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์
่กําหนดในกฎกระทรวงที
กา ่ออกตามมาตรา ๗ ต้องระวางโทษจําคุกกไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า เกินหนึ่งปี หรื
สํานัอกปรั บไม่เกินหนึ่ง
แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๖๗ ผู้รับสัมสํปทานผู
้ใดไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดในกฎกระทรวงที
่
ออกตามมาตรา ๗ ต้องระวางโทษตามที่กําหนดไว้ในมาตรา ๖๒ มาตรา ๖๓ หรือมาตรา ๖๖ แล้วแต่
กรณี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๖๘ ผู้ประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จการควบคุมประเภททีกา่ ๓ ผู้ใดไม่ปฏิสํบานััตกิตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ามมาตรา ๒๗ กา
หรือมาตรา ๒๘ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
มาตรา ๖๙ ผู้ใดประกอบกิจการควบคุมโดยฝ่าฝืนมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง
(๑) ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่เป็นกิจสํการควบคุ มประเภทที่ ๑ ต้กอางระวางโทษจํสําาคุนักกไม่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เกินหกเดือน
หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(๒) ในกรณีที่เป็นกิจการควบคุมประเภทที่ ๒ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี
สํานักหรื อปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือทั้งจํสําาทันั้งกปรั บ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ในกรณีที่เป็นกิจการควบคุมประเภทที่ ๓ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสี่ปี หรือ
ปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ กา
มาตรากา๗๐ ผู้ประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
การควบคุมตามมาตรา กา ๑๗ ผู้ใดไม่ปสํฏิานับกัตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิตามคําสั่งของ กา
อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน*ที่สั่งตามมาตรา ๓๐ วรรคสอง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือ
ปรับไม่เกินห้าหมืสํ่นาบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ศาลสั่งให้เสํลิากนัการประกอบกิ จการ กา
มาตรากา๗๑ ผู้ใดไม่ปสํฏิานับกัตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ิตามคําสั่งของพนักงานเจ้
กา าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๕๔ โดย
ไม่มีเหตุผลอันสมควร ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรื
อปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้ง
ปรับ และให้ศาลสั่งให้เลิกการประกอบกิจการ
- ๑๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๒ ผู้ใดไม่ให้ความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๓๓
สํานักมาตรา ๓๕ หรือมาตรากา๔๐ หรือมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั๔๑ หรือมาตรา ๕๓ (๑)ก(๒)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า หรือ (๓) หรื สํานัอกตามมาตรา ๕๕
ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๗๓ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๗ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่
เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
สํถ้าานัการกระทํ านั้นเป็นเหตุให้กราะบบการขนส่สํงาน้นัํากมังานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นเชื้อเพลิงทางท่อหรือกาอุปกรณ์ของ
ระบบดังกล่าวถูกทําลาย เสียหาย เสื่อมค่า หรือไร้ประโยชน์ ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบปี
สํานักหรื อปรับไม่เกินสองแสนบาท
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือทั้งจํสําาทันั้งกปรั บ
สํมาตรา ๗๔ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๓๘ หรือไม่
สําปนัฏิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
บัติตามเงื่อนไขที่ได้รับกอนุ
า ญาตตาม
มาตรา ๓๘ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๗๕ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๙ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่
เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ถ้าการกระทํานั้นเป็นสํเหตุ
ให้ระบบการขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่สําอนัหรื
ออุปกรณ์ของ
ระบบดังกล่าวถูกทําลาย เสียหาย เสื่อมค่า หรือไร้ประโยชน์ ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสอง
ปี หรือปรับไม่เกินสํสีานั่หกมืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรักบา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในระหว่างการพิจารณาคดีการกระทําความผิดตามมาตรานี้ ให้ศาลมีอํานาจกักเรือ
สํานักไว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้จนกว่าจะมีการชําระค่ กา าปรับตามคํสําาพินัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ากษาของศาล กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํมาตรา ๗๖ ผู้ใดทําให้เครื่อกงหมายแสดงเขตระบบการขนส่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า งน้ํามันเชื้อกเพลิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า งทางท่อ
เคลื่อนที่หรือทําให้เสียหายด้วยประการใด ๆ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหก
สํานักหมื ่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๗ ถ้าการกระทําความผิดตามมาตรา ๗๓ มาตรา ๗๔ มาตรา ๗๕ หรือ
สํานักมาตรา ๗๖ เป็นเหตุให้กปาระชาชนขาดความสะดวก
งานคณะกรรมการกฤษฎี หรือน่าจะเป็นกเหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ให้เกิดอันตรายแก่ บุคคล สัตว์
พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
หรือทั้งจําทั้งปรับสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับอันตรายสาหัส ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบ
สํานักปีงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท
กา หรือทัสํ้งจํานัากทังานคณะกรรมการกฤษฎี
้งปรับ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินยี่สิบปี
หรือปรับไม่เกินสี่แสําสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๗๘๗ ในกรณีสําทนัี่ผกู้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ระทําความผิดเป็นนิตกิบาุคคล ถ้าการกระทํ าความผิดของ
นิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั ่งการหรือการกระทําของกรรมการสําหรื
อผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบ
๗
มาตรา ๗๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับ
สํานักความรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้แทนนิติบุคคลสํพ.ศ.
บผิดในทางอาญาของผู านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๖๐ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการดําเนินงานของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการ
สํานักและละเว้ นไม่สั่งการหรืกอาไม่กระทําการจนเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี นเหตุให้นิติบุคคลนั้นกกระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าความผิสํดานัผูก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั้นต้องรับโทษ กา
ตามที่บัญญัติไว้สําหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย
มาตรา ๗๙ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ที่มีโทษปรับสถานเดียว หรือโทษ
จําคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับ ให้คณะกรรมการมีอํานาจเปรียบเทียบปรับได้ และคณะกรรมการอาจ
มอบอํานาจให้คณะอนุ กรรมการหรือพนักงานเจ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหน้าที่ใช้อําสํนาจดั งกล่าวด้วยก็ได้
ในกรณี ที่ พ นั ก งานสอบสวนพบว่ า ผู้ ใ ดกระทํ า ความผิ ด ตามวรรคหนึ่ ง และผู้ นั้ น
สํานักยิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นยอมให้เปรียบเทียบปรั กา บ ให้พนักงานสอบสวนส่ งเรื่องให้คณะกรรมการหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อผู้ซสําึ่งนัได้กรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับมอบอํานาจ กา
ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ผู้นั้นแสดงความยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ
สํเมืานั่อกได้ เสียค่าปรับตามที่เปรีกยาบเทียบภายในสามสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี บวันนับแต่วันที่มีการเปรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยบเทียบ
ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าผู้ตก้อางหาไม่ยินยอมตามที ่เปรียบเทียบ หรือยินกยอมแล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า วไม่ชําระเงิ
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ค่าปรับภายใน กา
กําหนดเวลาดังกล่าว ให้ดําเนินคดีต่อไป
มาตรา ๘๐ ในการพิสํจาารณาพิ พากษาคดีที่มีการกระทําความผิดตามพระราชบั
ญญัตินี้
หรื อ ความผิ ด ตามกฎหมายอื่ น ในกรณี ที่ เ ป็ น ความผิ ด หลายเรื่ อ งเกี่ ย วพั น กั น กั บ ความผิ ด ตาม
พระราชบัญญัตินสํี้ าถ้นัากศาลเห็ นว่าการรอการกํกาาหนดโทษหรืสํอานัรอการลงโทษความผิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กงานคณะกรรมการกฤษฎี ดไว้กาโดยกําหนด
เงื่อนไขให้ต้องปฏิบัติจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่าในการทําให้สํานึกในการกระทําความผิดหรือการป้องกัน
สํานักมิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้เกิดการกระทําความผิ กา ดทํานองเดียสํวกั
านันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
อีก ศาลที่พิพากษาความผิ กา ดดังกล่าวจะรอการกํ าหนดโทษ
หรือกําหนดโทษแต่รอการลงโทษความผิดเหล่านั้นไว้ โดยกําหนดเงื่อนไขอย่างหนึ่งอย่างใดให้ผู้กระทํา
ความผิดหรือผู้ซึ่งสํต้าอนังรั บโทษเสมือนเป็นตัวการหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อผู้สนับสนุสํานนัต้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
องปฏิบัติภายในระยะเวลาที กา ่กําหนด
ก็ได้ โดยจะเป็นเงื่อนไขให้ดําเนินการหรืองดเว้นการดําเนินการอย่างใดเพื่อให้มีการแก้ไขเยียวยาความ
สํานักเสีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยหายที่เกิดขึ้นแล้ว หรื กาอเพื่อป้องกันสํมิานัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกิดการกระทําความผิกดาเช่นนั้นอีก หรืสํอานัเพืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อทําประโยชน์ กา
อย่างหนึ่งอย่างใดแก่ส่วนรวมก็ได้ ในการนี้ ศาลจะแต่งตั้งบุคคลใดไว้คอยสอดส่องดูแลและแนะนํา
เพื่อให้การเป็นไปตามคําพิพากษานั้น โดยจะกําหนดให้ผู้กระทําความผิดต้องชําระค่าป่วยการสําหรับ
สํานักการงานของบุ คคลดังกล่กาาวไว้ด้วยก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรณีที่ศาลจะใช้หรือไม่ใช้มาตรการตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลแสดงเหตุผลสําหรับการ
นั้นไว้ในคําพิพากษาด้
สํานักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงื่อนไขที่กําหนดตามวรรคหนึ่งศาลอาจแก้ไขเพิ่มเติมหรือเพิกถอนหรือเพิ่มเติม
สํานักเงืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อนไขขึ้นใหม่ได้ตามความเหมาะสมตามที
กา ่ศาลเห็นสมควร ไม่ว่ากจะมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า คําขอของผูสํา้ทนัี่เกกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยวข้องหรือไม่ กา
ก็ตาม
สํถ้าานัความปรากฏแก่ ศาลเองหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อปรากฏตามคํสํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
แถลงของผู้ที่เกี่ยวข้อกงว่า า ผู้กระทํา
ความผิดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกําหนด ศาลอาจตักเตือนผู้กระทําความผิด หรือกําหนดโทษ
สํานักสํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหรับโทษที่รอการกําหนดโทษ กา หรือลงโทษสํ าหรับโทษที่รอการลงโทษไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นั้นก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๑ ในกรณี ที่ ศ าลพิ พ ากษาลงโทษปรั บ บุ ค คลใดในความผิ ด ตาม

สํานักพระราชบั ญญัตินี้ ศาลจะกํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหนดไว้ในคํสําาพินัพกากษาให้ บุคคลดังกล่าวแบ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชําระเงินค่าสํปรั
านับกออกเป็ นส่วน ๆ
ตามระยะเวลาและจํานวนเงินที่ต้องชําระในแต่ละคราวตามที่ศาลเห็นสมควรก็ได้
มาตรา ๘๒ บทบัญญัติมาตรา ๘๐ และมาตรา ๘๑ ให้ใช้บังคับแก่การเปรียบเทียบ
ปรับของคณะกรรมการหรือผู้ซึ่งได้รับมอบอํานาจโดยอนุโลม
หมวด ๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา บทเฉพาะกาล
มาตรา ๘๓ คําขออนุญาตใด ๆ และการอนุญาตใด ๆ ที่ได้ให้ไว้ตามพระราชบัญญัติ
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าด้วยการเก็บรักษาน้ํากมัานเชื้อเพลิง พุสํทานัธศักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กราช ๒๔๗๔ ให้ถือว่ากเป็า นคําขออนุญสําตและการอนุ ญาต
ตามพระราชบัญญัตินี้โดยอนุโลม และให้อยู่ในบังคับตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๘๔ ภายใต้บสําังนัคักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๘๓ บรรดาใบอนุ
กา
ญาตที่ออกให้ แก่บุคคลใด ตาม
พระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บรักษาน้ํามันเชื้อเพลิง พุทธศักราช ๒๔๗๔ ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้
ใช้บังคับ ให้คงใช้สํได้านัตก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปจนสิ้นอายุที่กําหนดไว้
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๘๕ ถ้าผู้ประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จการขนส่งน้ํามันเชืกา้อเพลิงทางท่สํอาทีนั่เกข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าลักษณะเป็น กา
กิจการควบคุมประเภทที่ ๓ ตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัตินี้ซึ่งประกอบกิจการอยู่แล้วก่อนวันที่
พระราชบั ญ ญั ติ นสําี้ในัช้กบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั งคับ ยื่ น คํ าขอรั บใบอนุ
กา ญ าตภายในกํ
สํานัา หนดหนึ ่ง ร้อยแปดสิ บวักนานั บแต่ วัน ที่
กฎกระทรวงที่ออกตามมาตราดังกล่าวใช้บังคับ ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักให้ แก่ผู้ประกอบกิจการขนส่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งน้ํามันเชื้อสํเพลิ
านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทางท่อนั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้อนุญาตมีอํานาจกําหนดเงื่อนไขอย่างหนึ่งอย่างใด
ให้ผู้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติได้ตามความเหมาะสม โดยให้คํานึงถึงประโยชน์แห่งการป้องกันอัคคีภัย
สํานักความมั ่ น คงแข็ ง แรง ความปลอดภั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยสําการสาธารณสุ ข การผั ง เมืกาอ ง การอํ า นวยความสะดวกแก่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจราจร การป้ อ งกั น หรื อ ระงั บ เหตุ เ ดื อ ดร้ อ นรํ า คาญหรื อ ความเสี ย หายหรื อ อั น ตรายที่ จ ะมี
ผลกระทบต่อบุคคล สํานัสักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้
กา อม หรือการอื
สํานัก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใดที่จําเป็นเพื่อให้บรรลุกวาัตถุประสงค์
แห่งพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๘๖ บรรดาบทบั ญ ญั ติ แ ห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ว่ า ด้ ว ยการเก็ บ รั ก ษาน้ํ า มั น
เชื้อเพลิง พุทธศักสํราช ๒๔๗๔ ในส่วนที่เกี่ยวกักบา หลักเกณฑ์แสํละวิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักธงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีการในการเก็บรักษาน้กําามันเชื้อเพลิง
ให้คงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ จนกว่าจะมี
สํานักกฎกระทรวง ประกาศ คํกาา สั่ง ระเบียบ สํหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี านัอกข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อบังคับที่ออกตามพระราชบั
กา ญญัตินี้ใสํช้าบนัังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บแทน ซึ่งต้อง กา
ไม่เกินหนึ่งปีนับแต่สําวนัันกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่พระราชบัญญัตินี้ใช้บกังคัา บ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๒๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๗ บรรดากฎกระทรวง ประกาศ คําสั่ง ระเบียบ และข้อบังคับที่ออกตาม

สํานักพระราชบั ญญัติว่าด้วยการเก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บรักษาน้สําํานัมักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
เชื้อเพลิง พุทธศักราชกา๒๔๗๔ ซึ่งใช้สํบาังนัคักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
อยู่ในวันก่อน กา
วั น ที่ พ ระราชบั ญ ญั ติ นี้ ใ ช้ บั ง คั บ ให้ ค งใช้ บั ง คั บ ได้ ต่ อ ไปเท่ า ที่ ไ ม่ ขั ด หรื อ แย้ ง กั บ บทบั ญ ญั ติ แ ห่ ง
พระราชบั ญ ญั ติสํนาี้ นัจนกว่ า จะมี ก ฎกระทรวงกา ประกาศ คํสําาสันั่ งกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ระเบี ย บ หรื อ ข้ อ บั ง คักบาที่ อ อกตาม
พระราชบัญญัตินี้ขึ้นใช้แทน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลีกภัยกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายกรัฐมนตรี

- ๒๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อัตราค่าธรรมเนียม
(๑) คําขอ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ฉบับละ กา ๒๐๐ บาท

(๒) ใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ ๓ ฉบับละ ๓,๐๐๐ บาท
๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) การขออนุญาตให้ใช้ถังหรือภาชนะในการบรรจุ หรือขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิง โดยคิดตามปริมาตร
สถานะของเหลว หรือเทียบเท่าตามน้ํากหนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า กในกรณีทสํี่เป็านันกการบรรจุ หรือขนส่งน้ํากมัา นเชื้อเพลิง
สถานะก๊าซ
(ก) ปริมาตรไม่เกิน ก๑๐๐,๐๐๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ลิตสํรานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถังสํละ ๔,๐๐๐ บาท
(ข) ปริมาตรเกิน ๑๐๐,๐๐๐ ลิตร
ให้คิดค่าธรรมเนี ยม ๔๐๐ บาท กา
ต่อปริมาตรทุก ๆ ๑๐,๐๐๐ ลิตร
เศษของ ๑๐,๐๐๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ลิตร สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้คิดเป็น ๑๐,๐๐๐ ลิตร
(๔) การอนุญาตให้สําในัช้กทงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อที่ใช้ในการขนส่งน้ํามักนาเชื้อเพลิง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้คิดตามปริมาตรตามอัตราใน (๓)สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๒๐๐ บาท
(๖) การต่ออายุใบอนุ
สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
าตให้เป็นไปตามอัตราใน กา (๒) (๓) หรืสํอา(๔) แล้วแต่กรณี
ในการออกกฎกระทรวงกําหนดค่าธรรมเนียมจะกําหนดอัตราค่าธรรมเนียมให้แตกต่างกัน
สํานักโดยคํ านึงถึงลักษณะของการประกอบกิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํจาการ ชนิด หรือปริมาณของน้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ํามันเชื้อเพลิงสํทีานั่จกะอนุ ญาตก็ได้
๘
อัตราค่าธรรมเนียม (๓) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๒)
สํานักพ.ศ.
๒๕๕๐ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บ

สํานักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
ก ษาน้ํ า มั น เชื้ อ เพลิ งกาพุ ท ธศั ก ราช สํ๒๔๗๔ ได้ ใ ช้ บั ง คั บ มาเป็กนาเวลานานแล้สํวานัไม่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เ หมาะสมกั บ กา
สภาวะการณ์ในปัจจุบันและทันกับความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว สมควร
ปรับปรุงการควบคุ สํานัมกการประกอบกิ จการเกีก่ยา วกับน้ํ ามั นเชืสํา้อนัเพลิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี งให้สามารถปรับเปลี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ ย นได้ อ ย่ า ง
เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพของการประกอบกิจการตามที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ได้เพิ่ม
บทบัญญัติที่ให้อํานาจรัฐในการจัดให้มีคลังน้ํามันเชื้อเพลิงและระบบการขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อ
และบทบั ญ ญั ติ ใสํนเรื านัก่ องานคณะกรรมการกฤษฎี
งของสั ม ปทาน รวมทั กา้ ง ให้ มี ก ารกํ าสํหนดรายละเอี ย ดต่ า ง ๆ กเกีา ่ ย วกั บ การ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ควบคุ ม ดูแ ลการประกอบกิจ การการเก็ บ รัก ษาและการขนส่ง น้ํ ามั น เชื้ อ เพลิง พร้ อ มทั้ ง ปรั บ ปรุ ง
สํานักบทบั ญญัติความผิดและโทษทางอาญาให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัเหมาะสมยิ ่งขึ้นด้วย จึงจํกาเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า นต้องตราพระราชบั ญญัตินี้
*พระราชกฤษฎีกสําแก้ ไขบทบัญญัติให้สอดคล้กาองกับการโอนอํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากนาจหน้ าที่ของส่วนราชการให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เป็นไป
๙
ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕
มาตรา ๔๖ ในพระราชบัญญัติควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้แก้ไขคําว่า
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย” เป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลั งงาน” คําว่า “ปลัดกระทรวง
มหาดไทย” เป็น “ปลัดกระทรวงพลังงาน”
คําว่า “กรมโยธาธิการ” เป็น “กรมธุรสํกิานัจกพลั
งงาน” คําว่า
“อธิบดีกรมเจ้าท่า” เป็น “อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ําและพาณิชยนาวี” คําว่า “อธิบดีกรมโยธาธิการ”
เป็น “อธิบดีกรมธุสํารนักิกจงานคณะกรรมการกฤษฎี
พลังงาน” คําว่า “เลขาธิ
กา การคณะกรรมการนโยบายพลั งงานแห่กางชาติ” เป็น
“ผู้อํานวยการสํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน” และคําว่า “ผู้อํานวยการสํานักงานคณะกรรมการ
สํานักป้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องกันอุบัติภัยแห่งชาติก”า เป็น “อธิบดีสํการมป้ องกันและบรรเทาสาธารณภั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ย” สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุสํผานัลในการประกาศใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี พระราชกฤษฎี
กา กาฉบัสําบนันีก้งานคณะกรรมการกฤษฎี
คือ โดยที่พระราชบัญกญัา ติปรับปรุง
กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้บัญญัติให้จัดตั้งส่วนราชการขึ้นใหม่โดยมีภารกิจใหม่ ซึ่งได้มี
สํานักการตราพระราชกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาก าโอนกิ จ การบริ ห ารและอํ า นาจหน้ ากทีา่ ข องส่ ว นราชการให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เ ป็ น ไปตาม
พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม นั้นแล้ว และเนื่องจากพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
บัญญัติให้โอนอํานาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐมนตรีผู้ดํารงตําแหน่งหรือผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในส่วน
สํานักราชการเดิ มมาเป็นของส่กาวนราชการใหม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัโดยให้ มีการแก้ไขบทบัญกญัา ติต่าง ๆ ให้สสํอดคล้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี องกับอํานาจ
หน้าที่ที่โอนไปด้วย ฉะนั้น เพื่ออนุวัติให้เป็นไปตามหลักการที่ปรากฏในพระราชบัญญัติและพระราช
กฤษฎีกาดังกล่าวสํจึานังสมควรแก้ ไขบทบัญญัติขกองกฎหมายให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํสาอดคล้ องกับการโอนส่วนราชการ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เพื่อให้
ผู้เกี่ยวข้องมีความชัดเจนในการใช้กฎหมายโดยไม่ต้องไปค้นหาในกฎหมายโอนอํานาจหน้าที่ว่าตาม
สํานักกฎหมายใดได้ มี ก ารโอนภารกิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จ ของส่
สํานัว นราชการหรื อ ผู้ รั บ ผิ ด ชอบตามกฎหมายนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ น ไปเป็ น ของ
หน่วยงานใดหรือผู้ใดแล้ว โดยแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายให้มีการเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ รัฐมนตรี
ผู้ดํารงตําแหน่งหรืสําอนัผูก้ซงานคณะกรรมการกฤษฎี
ึ่งปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการให้
กา ตรงกัสํานับกการโอนอํ านาจหน้าที่ และเพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่มผู้แทน
ส่วนราชการในคณะกรรมการให้ตรงตามภารกิจที่มีการตัดโอนจากส่วนราชการเดิมมาเป็นของส่วน
สํานักราชการใหม่ รวมทั้งตัดส่กวานราชการเดิมสํทีานั่มกีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ารยุบเลิกแล้ว ซึ่งเป็นการแก้
กา ไขให้ตรงตามพระราชบั ญญัติ
และพระราชกฤษฎี กาดังกล่าว จึงจําเป็นต้องตราพระราชกฤษฎี
กานี้
๙
ราชกิกจาจานุเบกษา เล่มสํา๑๑๙/ตอนที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตุลาคม ๒๕๔๕
่ ๑๐๒ ก/หน้า ๖๖/๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักพระราชบั ญญัติควบคุมน้กาํามันเชื้อเพลิงสํ(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐๑๐ กา
านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํมาตรา ๓ ให้ยกเลิกประกาศของคณะปฏิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วสํัตานัิ ฉบั บที่ ๒๘ ลงวันที่ ๒๙ ธักนา วาคม พ.ศ.
๒๕๑๔
สํมาตรา ๑๐ คําขอและการอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตใด ๆ สํทีานั่ได้กใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้หรือดําเนินการตามประกาศของ
กา
คณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๘ ลงวันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ให้ถือว่าเป็นคําขอและการอนุญาตตาม
สํานักพระราชบั ญญัติควบคุมน้กาํามันเชื้อเพลิงสํพ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติกมาโดยพระราชบัสํญานัญักงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตินี้ กา
สํมาตรา ๑๑ ในระหว่างที่ยกังาไม่มีกฎกระทรวง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ประกาศ ระเบียบ คํากสัา่ง ข้อบังคับ
หรือเงื่อนไขที่ออกหรือกําหนดตามพระราชบัญญัติควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไข
สํานักเพิ ่ ม เติ ม โดยพระราชบักญา ญั ติ นี้ เฉพาะในส่
งานคณะกรรมการกฤษฎี ว นที่ เ กี่ ย วกั บ การบรรจุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก๊ า ซตามข้ อสํา๒นักและที ่ เ กี่ ย วกั บ
กฎกระทรวงที่ออกตามข้อ ๓ ของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๘ ลงวันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ.
๒๕๑๔ ให้นํากฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ คําสั่ง ข้อบังสํคัานับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือเงื่อนไขที่ออกหรือกากําหนดตาม
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๘ สํลงวั
นที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ รวมทัสํ้งานับทกํ
าหนดโทษที่
เกี่ยวข้องมาใช้บังคับ
มาตรา ๑๒ บรรดากฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ คําสั่ง ข้อบังคับ หรือเงื่อนไขที่
สํานักออกหรื อ กํ า หนดตามพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ ญัสําตนัิ กคงานคณะกรรมการกฤษฎี
วบคุ ม น้ํ า มั น เชื้ อ เพลิกงา พ.ศ. ๒๕๔๒ สํานัทีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ใ ช้ อ ยู่ ใ นวั น ที่ กา
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ มิให้นํามาใช้บังคับแก่การประกอบกิจการก๊าซปิโตรเลียมเหลว จนกว่าจะมี
กฎกระทรวง ประกาศ ระเบี ย บ คํ า สั่ ง ข้ อกบัาง คั บ หรื อ เงืสํ่ อานไขที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ กํ า หนดหลั ก เกณฑ์กเากี่ ย วกั บ การ
ประกอบกิจการก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ออกหรือกําหนดตามพระราชบัญญัติควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิง
สํานักพ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิก่มาเติมโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักญ ญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๑๓ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่กฎหมายในการควบคุมการ
ประกอบกิจการน้สําํานัมักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
เชื้อเพลิง ก๊าซปิโตรเลีกยา มเหลว และก๊ สําานัซธรรมชาติ ที่ใช้บังคับอยูก่ใานปัจจุบันมี
หลายฉบับ โดยเฉพาะก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่อยู่ภายใต้บังคับของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๘
สํานักลงวั นที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๑๔ ซึ่งใช้สําบนักังคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บมาเป็นเวลานาน มีบกทบั า ญญัติบางประการไม่ สอดคล้อง
กับสภาพปัจจุบัน จึงสมควรแก้ไขโดยรวมกฎหมายที่เป็นเรื่องเดียวกันหรือคล้ายคลึงกันให้อยู่ในฉบับ
เดียวกันเพื่ออํานวยความสะดวกแก่ ประชาชนกาและสมควรปรัสํบานัปรุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งบทบัญญัติของกฎหมายดั กา งกล่าวใน
ส่วนที่เกี่ยวกับการควบคุมดูแลเพื่อความปลอดภัยของประชาชนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น รวมทั้งสมควร
าหนดให้ก๊าซปิโตรเลียกมเหลว
า ก๊าซธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่น และสิ่งอื่นสํทีา่ในัช้กเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นเชื้อเพลิงซึ่ง กา
๑๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาจจานุเบกษา เล่สํมานั๑๒๔/ตอนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตุลาคม ๒๕๕๐
ราชกิ ่ ๗๐ ก/หน้า ๔/๑๘
- ๒๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีลักษณะและองค์ประกอบใกล้เคียงกับเชื้อเพลิงอยู่ภายใต้การกํากับดูแลของกฎหมาย จึงจําเป็นต้อง
สํานักตราพระราชบั ญญัตินี้ กา
พระราชบัญญัติแสํก้าไนัขเพิ ่มเติมบทบัญญัติแห่งกกฎหมายที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่เกี่ยสํวกั
านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ความรับผิดในทางอาญาของผู
กา ้แทน
๑๑
นิติบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๐
สํมาตรา ๒ พระราชบัญญัตกินา ี้ให้ใช้บังคับตัสํา้งนัแต่กงานคณะกรรมการกฤษฎี

านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วันถัดจากวันประกาศในราชกิ
กา จจา
นุเบกษาเป็นต้นไป
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคําวินิจฉัยว่า
พระราชบัญญัติขสํายตรงและตลาดแบบตรง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกพ.ศ. า ๒๕๔๕ มาตรา ๕๔ เฉพาะในส่วนทีก่สาันนิษฐานให้
กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลนั้น ต้องรับโทษ
สํานักทางอาญาร่ วมกับการกระทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าความผิดของนิ
สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิบุคคล โดยไม่ปรากฏว่กามีา การกระทําหรืสําอนัเจตนาประการใด
อันเกี่ยวกับการกระทําความผิดของนิติบุคคลนั้น ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๙ วรรคสอง เป็นอันใช้บังคับไม่สํไาด้นัตกามรั
ฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖ และต่สํอามาศาลรั
ฐธรรมนูญได้มีคําวินิจฉัยในลักษณะดั
งกล่าวทํานอง
เดียวกัน คือ พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๗๔ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการ
โทรคมนาคม พ.ศ.สํา๒๕๔๔ มาตรา ๗๘ พระราชบั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติสถานบริ
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
าร พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรากา๒๘/๔ และ
พระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๗๒/๕ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
สํานักพุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา กา ๓๙ วรรคสอง สํานักเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นอันใช้บังคับไม่ได้ตามรักา ฐธรรมนูญแห่สํงาราชอาณาจั กรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖ ดังนั้น เพื่อแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวและกฎหมายอื่นที่มี
บทบัญญัติในลักษณะเดี ยวกันมิให้ขัดหรือแย้งกต่าอรัฐธรรมนูญสําจึนังกจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าเป็นต้องตราพระราชบักาญญัตินี้
๑๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาจจานุเบกษา เล่สํมานั๑๓๔/ตอนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
ราชกิ ่ ๑๘ ก/หน้า ๑/๑๑
- ๒๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปณตภร/ผู้จัดทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑๓
สํานัมิกถงานคณะกรรมการกฤษฎี
นุ ายน ๒๕๕๗ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ปริญกสิานีย์/เพิ่มเติม
๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐

พรบ น้ำมันเชื้อเพลิง42

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

พรบ น้ำมันเชื้อเพลิง42

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานัมาตรา ๒๑ พระราชบัญกญัา ตินี้ให้ใช้บังสํคัาบนัตัก้งงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๑) ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ํามันดิบ น้ํามันเบนซิน น้ํามันเชื้อเพลิง

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๓ การขอต่ อ อายุ

มาตรา ๒๔ คําสั่งไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่ต่ออายุใบอนุญาต ผู้ขออนุญาต หรือผู้ขอ

(๒) การใช้ที่ดินวางระบบการขนส่งน้ํามันเชื้อเพลิงทางท่อตามมาตรา ๓๕ (๑)

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๗ การโอนสั ม ปทานตามมาตรา

สํมาตรา ๕๒ ให้นําบทบัญญักตา ิตามความในหมวดนี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๔) มี ห นั ง สื อ เรี ย กบุ ค คลใดมาให้ ถ้ อ ยคํ า หรื อ ให้ ส่ ง เอกสารหรื อ วั ต ถุ ใ ดมาเพื่ อ

สํมาตรา ๕๔ ในกรณี พ นักกางานเจ้ า หน้ าสํทีานั่ พกบว่

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๖๕ ผู้ ใดประกอบกิ

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๘๑ ในกรณี ที่ ศ าลพิ พ ากษาลงโทษปรั บ บุ ค คลใดในความผิ ด ตาม

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๘๗ บรรดากฎกระทรวง ประกาศ คําสั่ง ระเบียบ และข้อบังคับที่ออกตาม

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๑) คําขอ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ฉบับละ กา ๒๐๐ บาท

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บ

สํมาตรา ๒ พระราชบัญญัตกินา ี้ให้ใช้บังคับตัสํา้งนัแต่กงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

You might also like