Professional Documents
Culture Documents
librecadไทย
librecadไทย
คานา
สุทิน พัชรวงศ์ศักดา
พฤษภาคม 2557
2
เกี่ยวกับผู้เขียน
ประวัติการศึกษา
ประถม. รร.วัดมหาพฤฒาราม
มัธยม. รร.วัดสุทธิวราราม
ประวัติการทางาน
หนังสือเล่มนี ้สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติว่ าด้ วยการละเมิ ดลิขสิท ธิ์ ห้ ามมิ ให้ ผ้ ใู ดคัดลอกหรื อลอก
เลียนไม่ว่าส่วนหนึง่ ส่วนใดในหนังสือเล่มนี ้จะโดยรู ปแบบใดๆก็ตามนอกจากจะได้ รับอนุญาตเป็ นลายลักษณ์ อักษรจาก
ผู้เขียนเท่านั ้น
สุทิน พัชรวงศ์ศกั ดา
3
สารบัญ
Export 27
Import 27
Close 27
Print 27
Export as PDF. 27
Print preview 27
Quit: 27
บทที่5 Edit 28
Selection pointer 28
Undo 28
Redo 28
Cut 28
Copy 28
Paste 28
Draw order 29
Application preferences 30
Current drawing preferences 33
บทที่6View 38
Grid 38
Isometric grid 39
Draft 40
Redraw 42
Zoom in 42
Zoom out 43
Auto zoom 43
Previous view 44
Window zoom 44
Zoom panning 44
Status bar 45
45
Toolbars 46
45
Focus on command line 45
5
บทที่7Selection 46
Select all 46
Deselect all 47
(De)Select contour 47
(De)Select entity 48
Select window 49
De select window 51
Select intersected entities 51
De select intersected entities 52
Select layer 52
De select layer 53
Invert selection 53
บทที่8 Draw 55
Point 55
Lines 56
Line with two points 57
Line with given angle 58
Horizontal lines 59
Vertical lines 59
Rectangle 59
Bisector 60
Parallels with distance 61
Parallels through point 61
Tangents from circle to circle 62
Tangents from point to circle 63
Tangents to a circle, orthogonal to a line 63
Orthogonal lines 64
Line with relative angles 65
Polygons 66
Polygons with center and corner 66
Polygons with two corners 66
6
Delete node 87
Append node 88
Delete between two nodes 89
Trim segment 89
Polyline equidistance 90
Create polyline from existing segments 90
Text 92
Multiline Text 92
ทดสอบการเขียนข้ อความ 95
การพิมพ์ข้อความภาษาไทยในLibreCAD 96
Hatch 100
Insert image 103
บทที่9 Dimensions 105
การตั ้งค่าDimension 105
Horizontal dimension 106
Vertical dimension 106
Aligned dimension 106
Linear dimension 106
Diametric dimension 107
Radial dimension 107
Angular dimension 107
Leader Line 108
Dimensions of Isometric Part 108
การบอกขนาดของรูปสเก็ตช์ 109
บทที่10Modify 112
Move 112
Copy 114
Rotate 115
Scale 117
Mirror 119
Move and Rotate 121
8
การเพิ่มBlockไปยังLibrary 157
Title Block 160
บทที่15Window 161
Tab mode 161
Sub window mode 162
Window Tile 162
Tile vertically 162
Tile Horizontally 163
บทที่16 เทคนิคการทาให้ เขียนแบบในLibreCADง่ายขึ ้น 164
Short cut (คีย์ลดั )ที่ควรรู้ ในการเขียนแบบLibreCAD 165
บทที่17การใช้ คาสัง่ ใน Command Line 166
ตัวอย่างการพิมพ์คาสัง่ ในCommand line 166
11
บทที่1
เริ่ มต้ นใช้ งานLibreCAD
การทาความคุ้นเคยกับLibreCAD
ก่อนเข้ าสูข่ บวนการใช้ งานหรือทาการเขียนแบบด้ วยLibreCAD จาเป็ นอย่างยิ่งที่ต้องทาความรู้จัก
เข้ าใจ และศึกษาสิง่ ที่เกี่ยวข้ องกับ LibreCAD เพื่อให้ ค้ นุ เคยและทาให้ การเขียนแบบถูกต้ องและสมบูรณ์ ในเบื ้องต้ นจะ
แสดงให้ เห็นรูปและคาอธิบายโดยสังเขป ส่วนรายละเอียดจะได้ กล่าวไว้ ในบทลาดับต่อไป
หน้ าต่ างของLibreCAD (LibreCAD window)ประกอบด้ วย
Main menu (เมนูหลัก)
Top toolbar (แถบเครื่องมือที่อยู่ข้างบน)
Main CAD tools (เครื่องมือหลักในการเขียนแบบ หรืออาจเรี ยกว่า เมนูที่อยู่
ซ้ ายมือ)
Main drawing area or Model space (พื ้นที่เขียนแบบ)
Command line (แถบบรรทัดสาหรับให้ ป้อนคาสัง่ )
Status bar (แถบสถานะของค่าพิกดั )
Layer list (รายการเลเยอร์ )
Block list (รายการบล็อก)
Main menu
Top toolbar Layer list
Main CAD tools Block list
Main drawing area or Model space
Command line
Status bar
รูปแสดงหน้ า
ต่างของLibreCAD
หลังจากที่เราDownload โปรแกรม LibreCAD และเปิ ดนามันมาใช้ งานเป็ นครั ้งแรก เราอาจพบว่าบริเวณพื ้นที่
เขียนแบบ(Main drawing area ) ส่วนที่เป็ นพื ้นหลัง(Background)เป็ นสีดา ซึง่ ถ้ าเราต้ องการทาให้ สว่ นที่เป็ นพื ้นหลัง
(Background) เป็ นสีขาวหรือสีเทาเราก็สามารถทาได้ โดยการเข้ าไปตั ้งค่าในรายการของ Application Preferences ซึง่
จะได้ อธิบายขั ้นตอนรายละเอียดของส่วนประกอบบนหน้ าต่างLibreCAD ตลอดจนรายละเอียดคาสัง่ ต่างๆไว้ ในหนังสือ
เล่มนี ้
12
Option tool
Pen selection (Attributes for the next draw)
Rectangle of Grid ( 100 unit wide)
Point of Grid (10 unit space)
Absolute zero point Relative zero point
Command output and history
Position of cursor Command line
Relative zero point
รูปแสดงพิกดั แบบCartesian
14
160<45
รูปแสดงค่าพิกดั แบบPolar
การกาหนดค่ าพิกัดในการเขียนแบบ
การกาหนดค่าพิกดั ในการเขียนแบบ เป็ นการวางหรือระบุจดุ พิกดั ที่อ้างอิงแนวแกนXและแกนYลงบนพื ้นที่เขียน
แบบ(Main drawing area) ซึง่ มีวิธีการดังต่อไปนี ้
การกาหนดพิกัดด้ วยการพิมพ์ ค่าพิกัดลงบนCommand line โดยอ้ างอิงจุดAbsolute coordinate และ
Relative coordinate
ในLibreCAD เส้ นตรง(Lines),จุด(Point),ส่วนโค้ ง(Arc),เส้ นPolylines,วงกลม(Circle)และเส้ นอีกหลายชนิด
(More entities) สามารถเขียนและวางมันลงบนพื ้นที่เขียนแบบ(Main drawing area)โดยการใช้ วิธีการระบุหรือกาหนด
พิกดั แบบอ้ างอิงจุดพิกัดสมบูรณ์ (Absolute coordinate )และอ้ างอิงจุดพิกัดสัมพันธ์ (Relative coordinate )
การวางพิกดั อ้ างอิงจุดพิกดั สมบูรณ์ (Absolute coordinate)คือการอ้ างอิงจุดกาเนิด(Origin)หรืออาจเรี ยกว่าจุด
0,0 (ค่าพิกดั X=0,Y=0) ส่วนการวางพิกดั แบบอ้ างอิงพิกัดสัมพันธ์ (Relative coordinate) เป็ นการวางพิกดั อ้ างอิงจุดที่
เราวางก่อนหน้ านี ้ ซึง่ เปรียบเสมือนจุดก่อนหน้ านี ้มีค่าเป็ นจุด0,0 บางครั ้งอาจเรียกจุดอ้ างอิงพิกดั ก่อนหน้ านี(้ Relative
coordinate) ว่าพิกดั Relative zero
การวางค่าจุดพิกัดในLibreCAD เราสามารถพิมพ์ค่าที่เราต้ องการลงในคาสัง่ Command line ซึง่ การใช้ วิธีนี ้จะ
ทาให้ การเขียนแบบมีความแม่นยา อนึง่ ก่อนจะพิมพ์คาสัง่ ลงในCommand line เราต้ องทาให้ บรรทัดของCommand
line ที่จะพิมพ์ค่าพิกัด สามารถรับรู้หรือสือ่ คาสัง่ ได้ โดยการใช้ เคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์คลิกที่Command line หรือกดSpace
barที่แป้นพิมพ์(Key board)ของคอมพิวเตอร์ หรืออาจพิมพ์ คีย์ลดั Ctrl+M วิธีใดวิธีหนึ่ง ซึง่ สังเกตได้ ว่าตัวอักษรคาว่า
15
Commandจะสว่างขึ ้นมาและเปลี่ยนเป็ นสีน ้าเงิน ดังรูปข้ างล่าง และหลังพิมพ์คาสัง่ แล้ วให้ กดEnter ดังรายละเอียดใน
รูปข้ างล่าง
การวางพิกดั แบบสมบูรณ์ (Absolute coordinate) เป็ นการใช้ วิธีการใส่จดุ พิกดั โดยตรงสัมพันธ์ อ้างอิงกับจุด
กาเนิด(Origin หรือจุด 0,0) การทาเช่นนี ้ในLibreCAD อาจเรียกว่าAbsolute zero เช่นการใส่ค่าจุดแน่นอน60,45เป็ น
ต้ น โดยไม่ต้องพิมพ์ สญ
ั ลักษณ์ @หน้ าค่าพิกัด เพื่อให้ ได้ จดุ ที่สมั พันธ์ หรือจุดห่างกับจุดกาเนิด(Origin)หรือจุด0,0
ส่วนการวางพิกดั แบบ Relative coordinate(ค่าพิกัดนี ้แทนด้ วยสัญลักษณ์ กากบาทแดงในวงกลมเล็กสีแดง)
ดังที่กล่าวมาแล้ วข้ างต้ นในหัวข้ อ ของค่าพิกดั ในLibreCAD การใช้ วิธีนีจ้ ะทางานง่ายและเข้ าใจง่ายขึ ้นโดยค่าพิกัดถูก
ใส่ให้ สมั พันธ์ หรือห่างกับจุดก่อนหน้ านั ้น(ไม่ใช่จดุ กาเนิด)ดังเข่นถ้ าจุดแรกของเราอยู่ที่60,45 แล้ วเราต้ องการจุดต่อมาให้
สัมพันธ์ หรือห่างกับจุดนี ้ เราต้ องใช้ สญ
ั ลักษณ์ @นาหน้ าค่าพิกดั ในการพิมพ์ ลงไปบนบรรทัดของCommand line เช่น
@100,100 แล้ ว จะเป็ นการวางจุดพิกัดที่ถดั จากจุดก่อนหน้ าที่แล้ ว (60,45)โดยเป็ นจุดที่นบั จากแกนX(แนวนอน)เป็ น
ระยะทาง100หน่วยและแกนY(แนวดิ่ง)เป็ นระยะทาง100หน่วยอ้ างอิงกับจุด(60,45)ที่เขียนจุดก่อนหน้ านี ้ ดังรูปข้ างล่าง
อนึง่ สัญลักษณ์ @หน้ าจุดพิกดั มีความสาคัญมากเพราะถ้ าไม่ใส่สญ
ั ลักษณ์นี ้จะทาให้ ความหมายของค่าพิกดั ผิด
ไประหว่างมีสญ
ั ลักษณ์ @กับไม่มีสญ
ั ลักษณ์ @
สรุปว่าถ้ าพิมพ์ ค่าพิกดั ลงบนบรรทัดCommand line ถ้ าไม่มี@นาหน้ าค่าพิกัด จะเป็ นค่าพิกดั แบบ Relative
absolute zero หรือเรี ยกกันสั ้นๆว่า Absolute ซึง่ มีพิกดั ระยะห่างของX,Y อ้ างอิงจากจุดกาเนิด(Origin) ถ้ าพิมพ์ค่า
พิกดั ลงบนบรรทัดของCommand line มี@นาหน้ าค่าพิกัด จะเป็ นค่าพิกดั Relative zero หรือเรียกกันสั ้นๆว่าRelative
ซึง่ เป็ นค่าพิกัดที่มีระยะห่างX,Y หรือห่างจากจุดก่อนหน้ านี ้ เราสามารถตรวจสอบทั ้งสองค่าที่เราเขียนหรือวางเคอร์ เซอร์
ของเม๊ าส์ผ่านบนพื ้นที่เขียนแบบ โดยดูได้ ที่บรรทัดของStatus bar
16
Relative zeroหรื อ
เรี ยกRelative
4.สุดท้ายคลิกขวาสองครัง้
@ 0,50 เพื่อออกจากคาสัง่
1.คลิกLine
@20,40
2 คลิกเมนูยอ่ ย
@ 35,0
ของLineที่Line @10,10
with two points 3. คลิกที่บริ เวณCommand
line หรื อกดSpace barที่
แป้นพิมพ์ แล้วพิมพ์@ตามด้ วย
ค่าพิกดั
รูปแสดงการเขียนเส้ นโดยพิมพ์
ค่าพิกดั Relative zeroลงบนCommand line
รูปแสดงค่าพิกัดที่Status bar
การกาหนดพิกัดโดยการคลิกวางโดยตรงหรื อManually
เราสามารถเขียนแบบโดยการคลิกวางพิกัดโดยตรงหรือแบบManually โดยการเคลือ่ นเคอร์ เซอร์ ซึ่งเปลีย่ นจาก
ลูกศรเป็ นกากบาท(Crosshair)หลังจากเราคลิกที่คาสัง่ เครื่องมือ (Tool)ที่เราต้ องการ แล้ ววางจุดพิกดั บนพื ้นที่เขียนแบบ
18
การกาหนดพิกัดแบบอ้ างอิงมุม
มุมทุกมุมในLibreCADจะถูกวัดในลักษณะ360องศาและมีทิศทางทวนเข็มนาฬิกา ดังรูปข้ างล่าง โดยเริ่ มจาก0
องศา(ตาแหน่งที่3นาฬกิ า) สัญลักษณ์ <จะนามาใช้ ก่อนจะพิมพ์ค่าของมุม
รูปแสดงการวัดค่ามุมใน
LibreCAD
รูปแสดงผลจากการเขียนค่า
พิกดั มุมลงบน Command line
19
บทที่2
Main menu (เมนูหลัก)
Main menu (เมนูหลัก) เป็ นที่รวมคาสัง่ ต่างๆที่จะใช้ งานในหลายลักษณะเข่นการSaveหรือบันทึกไฟล์ การแก้ ไข
(Edit) การเขียนเส้ นรูปทรงเรขาคณิต การบอกขนาด เป็ นต้ น ติดตั ้งอยู่แถวบนสุดของหน้ าต่างLibreCAD ถ้ าเราคลิก
ซ้ ายบนรายการของเมนเมนูหรือเมนูหลักจะปรากฏให้ เห็นเมนูย่อยต่างๆ หรือคาสัง่ ย่อยต่างๆปรากฏขึ ้นมาแสดงให้ เรา
เลือกตามที่เราต้ องการ ถ้ าเราคลิกขวาที่แต่ละเมนูบนเมนูหลักนั ้นจะพบว่ามีคาสัง่ แสดงให้ เห็นสิ่งที่กาเครื่องหมายถูก
หน้ าข้ อความให้ ปรากฏเห็นบนหน้ าต่างLibreCAD ถ้ าไม่ต้องการให้ มนั ปรากฏให้ เห็นก็เพียงแต่คลิกเอาเครื่องหมายถูก
ออกจากหน้ าข้ อความ รายละเอียดต่างๆของเมนูหลัก (Main menu)แสดงในรูปข้ างล่าง
รูปแสดงการคลิกซ้ ายที่เมนูหลัก
(Main menu)
รูปแสดงการคลิกขวาที่เมนูหลัก
(Main menu)
21
Top toolbar
ในการเขียนแบบด้ วยLibreCAD มีความสะดวกและประหยัดเวลาในการค้ นหาเครื่องมือโดยที่เมื่อเรานา
เคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์ ไปวางบนเครื่องมือ(Tool)ตัวใดแล้ วจะปรากฏตัวหนังสือให้ เราสามารถอ่านและเข้ าใจในความหมาย
ของเครื่องมือนั ้น โดยโปรแกรมได้ ออกแบบเป็ นแบบTool tips เสมือนเป็ นปลายปากกาชี ้ไปเครื่องมือ(Tool)ตัวใดก็จะมี
หนังสือปรากฏขึ ้นมา
Top toolbar เป็ นแถบเครื่องมือติดตั ้งอยู่แถวบนของหน้ าต่างLibreCAD รองลงมาจากแถบMain menu เป็ นการ
นาเครื่องมือจากคาสัง่ ที่ Main menu บางตัวมาสร้ างเป็ นไอคอนเครื่องมือ(Tool icon) เข่น ไอคอนจาก Snap, File,
Edit และ View ดังรูปข้ างล่าง
Circles Ellipses
Polylines Splines
Points
Dimensions
Multiline Text
Hatch Insert Image
Modify Info
Block
Select
สาหรับเครื่องมือ(Tool) อีกสองตัวบนเมนูหลัก ( Main menu) อันได้ แก่Layer และ Block ได้ ถกู นามาสร้ าง
เป็ นไอคอนเครื่องมือ(Tool icon) และถูกติดตั ้งอยู่ทางขวามือของLibreCAD ดังรูปข้ างล่าง
บทที่3
Corner toolbar
Corner toolbar เป็ นคาสัง่ อันแรกชองเมนูหลัก(Main menu)ติดตั ้งอยู่มมุ ซ้ ายสุดที่ตาแหน่งโลโก้ ของLibre
CAD เป็ นคาสัง่ ที่ช่วยให้ เราสามารถเขียนแบบคราวละหลายๆไฟล์ และเปิ ดดูหน้ าต่างไฟล์เขียนแบบเหล่านั ้นได้ จาก
หน้ าต่างเล็กๆที่วางอยู่บนหน้ าต่างใหญ่ของพื ้นที่เขียนแบบ
Corner toolbar
รูปแสดงเมนูย่อยของCorner toolbar
Corner toolbar มีคาสัง่ ดังต่อไปนี ้
Restore:แสดงหน้ าต่างการเขียนแบบของเราที่เขียนขึ ้นมาครั ้งละหลายไฟล์เขียนแบบ เก็บวางหน้ าต่างของ
การเขียนแบบหลายหน้ าต่างใหญ่ของการเขียนแบบบนพื ้นที่เขียนแบบให้ เป็ นหน้ าต่างเล็ก ดังรูปข้ างล่าง
อนึง่ ถ้ าเรานาเคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์ผ่านแถบบนสุดของหน้ าต่างเล็ก(แถบสีน ้าเงิน ซึง่ มีคาสัง่ ปิ ด, เปิ ดและซ่อน
หน้ าต่าง) หน้ าต่างเล็กเหล่านั ้นยังคงปรากฏให้ เห็นอยู่ แต่ถ้านาเคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์ผ่านบริเวณอื่นนอกเหนือจาก
บริเวณที่กล่าวมาแล้ วของหน้ าต่างเล็ก รูปหน้ าต่างเล็กเหล่านั ้น จะหายไป(ถูกซ่อนอีกครั ้ง)
1คลิกที่โลโก้ LibreCAD
2.คลิกให้ มีเครื่องหมาย
ถูก
ดก
รูปแสดงไม่ปรากฏหน้ าต่างเล็ก
ดก
1คลิกที่โลโก้ LibreCAD
2.คลิกอีกครัง้ ไม่ให้ มี
เครื่ องหมายถูก
ดก
รูปแสดงมีหน้ าต่างเล็กปรากฏบน
ดก
พื ้นที่เขียนแบบ หลังจากคลิกที่โลโก้ ของLibreCADบนMain menu>คลิกให้ เครื่องหมายถูกหายไปที่หน้ าชื่อ Stay on top
ดังรูปข้ างล่าง
25
ดก
รูปแสดงการทาหน้ าต่างเล็กปรากฏ
หรือไม่ปรากฏบนพื ้นที่เขียนแบบ
ดก
เพื่อให้ เป็ นการง่ายและไม่สบั สน ในการเลือกหน้ าต่างเล็กให้ ปรากฏขึ ้นมาบนจอพื ้นที่เขียนแบบ ให้ เปิ ดการ
ทางานโดยการคลิกที่Restoreเท่านั ้น เราก็สามารถดูและเลือกหน้ าต่างเขียนแบบได้ ง่ายและสะดวกยิ่งขึ ้น
บทที่4
File
File(ไฟล์) เป็ นโปรแกรมเขียนแบบส่วนหนึ่งในรูปของกราฟฟิ กและข้ อมูล เป็ นการรวมเอา
คาสัง่ เกี่ยวกับการจัดการก่อนและหลังจากเราเขียนแบบ ติดตั ้งอยู่บนเมนูหลัก(Main menu) ซึง่ ในLibreCAD สามารถ
เขียนแบบคราวละหลายๆไฟล์พร้ อมกันโดยเปิ ดทีละไฟล์ ดังเช่นเดียวกับการทางานบนไมโครซอร์ ฟออฟฟิ ส เรา
สามารถเรียกใช้ คาสัง่ File ได้ จากเมนูหลัก(Main menu) และที่ไอคอนเครื่องมือ(Tools icon)จากTop toolbar ดังรูป
ข้ างล่าง
รูปการเรียกใช้
คาสัง่ FileจากไอคอนบนTop toolbar
รูปแสดงการเรียกไฟล์ที่เป็ น
Template มาใช้ งาน
บทที่5
Edit
Edit เป็ นการรวมคาสัง่ เกี่ยวกับการแก้ ไขหรือเปลี่ยนแปลงแบบหรือไฟล์ที่เราเขียน เราสามารถ
เรียกใช้ คาสัง่ Edit ได้ ทั ้งทางเมนูหลัก(Main menu) และเมนูไอคอนซึง่ ติดตั ้งวางอยู่ที่Top toolbar ดังรูปข้ างล่าง
Draw order เป็ นการสัง่ ให้ วตั ถุที่เขียนเรียงซ้ อนกันหรือทับกัน เช่นรูปลวดลายภาคตัด (Cross section)ให้ แสดง
ออกมารูปใดรูปหนึง่ ตามที่เราต้ องการ ดังตัวอย่างแสดงให้ เห็นว่ารูปสีที่มีหลายรูปซ้ อนกันอยู่ แต่เราสามารถสัง่ ให้ มนั
แสดงให้ เป็ นรูปด้ านบนสุด หรือ รูปล่างสุด ดังรูปข้ างล่าง
จากรู ป หากเราต้ อ งการน ารู ป สี่เหลี่ยมรู ป ใดขึน้ มาแสดงเป็ นภาพบนสุด เราก็ คลิ กที่ เมนูข้ างบนEdit>Draw
order>Move to top
คลิกรูปที่ต้องการนาขึ ้นมาบนสุดในที่นี ้เราทดสอบโดยเอารูปสีเ่ หลีย่ มล่างสุด .ให้ คลิกที่ส่วนของรูปสีเ่ หลี่ยมอัน
ล่างสุด แล้ วกดEnter แล้ วคลิกซ้ ายอีกครัง้ รูปข้ างล่างจะปรากฏขึ ้นมาอยู่ข้างบนดังรูปข้ างล่าง อนึง่ ในการคลิกเลือก
ต้ องใช้ ความระมัดระวัง อย่าคลิกไปถูกส่วนที่ทบั ซ้ อนกัน มิฉะนั ้นมันอาจทางานผิดพลาดหรือไม่ทางานก็ได้
Application preferences
Application preferences เป็ นการเปลีย่ นแปลงค่าและการปรับตั ้งค่าในการเขียนแบบLibreCAD
ขั ้นตอนแรกให้ คลิกEdit ที่เมนูหลัก(Main menu) แล้ วเลือก Application Preferences ดูช่องและดูสงิ่ ที่เรา
สามารถเปลีย่ นแปลง ซึง่ มีค่อนข้ างมากภายใต้ สงิ่ ที่มนั ปรากฏ เช่น ภาษา ซึง่ เราคงไม่ต้องไปเปลี่ยนมัน คงไว้ เป็ น
ภาษาอังกฤษ ในขั ้นตอนนี ้เราสามารถใช้ Default(การตั ้งค่าโปรแกรมตั ้งแต่แรกเริ่ม)ที่โปรแกรมLibreCADได้ ตั ้งค่าไว้ แล้ ว
ตอนแรกเริ่ มให้ แก่เรา อย่างไรก็ตามต้ องแน่ใจว่าที่ Graphic view>Show large crosshairsที่เลือกให้ Red Crosshair
(เครื่องหมายกากบาทสีแดงใหญ่)ในพื ้นที่เขียนแบบเปิ ดหรือปิ ด(กาเครื่องหมายถูกหมายถึงเปิ ด) ในส่วนของAutomatic
scale grid เป็ นการตั ้งมาตราส่วนของGrid โดยอัตโนมัติ (ทั ้งRed crosshair และ Automatic scale grid เป็ นค่า
Default)
มีค่าหนึง่ บน Application preferences ที่น่าสนใจคือ Display splash เป็ นการเปิ ดให้ แสดงโลโก้ ของ
LibreCAD บนพื ้นที่เขียนแบบก่อนที่จะเข้ าสูข่ บวนการเขียนแบบ ถ้ าเราไม่ต้องการให้ แสดงโลโก้ ของLibreCAD ก่อนเข้ า
สูข่ บวนของการเขียนแบบเราสามารถปิ ดโดยการคลิกเอาเครื่องหมายถูกออก ดังรูปข้ างล่าง
31
รูปแสดงพื ้นที่เขียนแบบสีดา
รูปแสดงพื ้นที่เขียนแบบสีขาว
รูปแสดงหน้ าต่างของDrawing
Preferences
จากรูปข้ างบนถ้ าเราเลือก Isometric Grid เราสังเกตในหน้ าต่างจะเห็นหัวข้ อCrosshair เป็ นการให้ เลือก
ลักษณะของCrosshair ว่าต้ องการเป็ นแบบซ้ าย (Left) หรือบน(Top) หรือแบบขวา(Right) แต่เนื่องจากLibreCAD เป็ น
การเขียนแบบ2D(สองมิติ) ดังนั ้นในส่วนของการเลือกCrosshairจะไม่มีผล คือยังคงสภาพของCrosshairเป็ นแบบ
Orthogonal Grid ส่วนค่า X spacing และค่าY spacing เป็ นค่าแสดงระยะห่างระหว่างจุดของGrid โดยปกติจะตั ้งค่า
ไว้ ที่Auto ซึง่ เป็ นค่าที่มนั สามารถปรับเปลีย่ นไปตามอัตราส่วนที่เรากาหนดบนพื ้นที่เขียนแบบเช่นส่วนใหญ่ จะเป็ น
10/100(สามารถสังเกตดูได้ ที่มุมล่างของพื ้นที่เขียนแบบ) แสดงว่าใน1ช่องเล็กของGridเท่ากับ10หน่วย และ1ตาราง
ใหญ่ของGrid เท่ากับ100หน่วย ดังรูปข้ างล่าง
36
รูปแสดงค่าระยะห่างของGrid
(Grid spacing)
รูปหน้ าต่างDimensionรายละเอียด
กล่าวไว้ ในบทที่9(Dimension)
37
การตั ้งค่าตัวต่อไปคือSpline (รายละเอียดได้ กล่าวไว้ ในบทที่8 หัวข้ อ Spline) ให้ คงค่าไว้ ที่เดิม ซึ่งเป็ นค่าที่นิยม
ใช้ กนั คือค่าที่8
ลาดับสุดท้ ายคลิกOK.เพื่อปิ ดหน้ าต่างนี ้
38
บทที่6
View
View เป็ นการรวมคาสัง่ เกี่ยวกับคาสัง่ ต่างๆมีลกั ษณะที่ทาให้ การเขียนแบบมองดูชดั เจนและมองดูดีทาให้
เขียนแบบได้ สะดวก ง่าย สวยงาม และถูกต้ อง เราสามารถเรียกใช้ คาสัง่ Viewได้ ทั ้งที่เมนูหลัก(Main menu)และที่ไอคอน
เครื่องมือ(Tools icon) ที่Top toolbar ดังรูปข้ างล่าง
Grid
Grid เป็ นจุดบนพื ้นที่เขียนแบบมีมากับโปรแกรมLibreCAD เป็ นลักษณะคล้ ายกับกระดาษกราฟ ช่วยเพิ่ม
ความสะดวกในการเขียนแบบ และการกาหนดตาแหน่งในการเขียนแบบได้ แม่นยา เสมือนหนึง่ เราเขียนแบบบนกระดาษ
กราฟ
ถ้ าเราสังเกตดูที่พื ้นที่สาหรับเขียนแบบ (Main drawing area) จะมีจดุ เล็กๆเต็มจอ เราเรี ยกจุดนี ้ว่าGrid ถ้ าเรา
เคลือ่ นเคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์ และเลือ่ นจอพื ้นที่เขียนแบบไปหรือเรี ยกว่าDrag (กดลูกเลือ่ นซึง่ อยู่ตรงกลางของเม๊ าส์ค้างไว้
ตลอดเวลาที่เราเคลือ่ นเม๊ าส์) เราจะพบกากบาทสีแดง ซึง่ เป็ นจุด0,0 (จุดกาเนิดหรือจุดOrigin)คือจุดที่X=0,Y=0
ใน1ช่องสีเ่ หลี่ยมของGrid จะเท่ากับ10จุด ซึง่ หมายถึง 10 มิลลิเมตรถ้ าเราใช้ หน่วยของมิลลิเมตร ซึง่ เป็ นค่าที่เราตั ้ง
ไว้ เป็ นค่าDefault(ค่าแรกเริ่ มที่กาหนดมา)โดยสามารถเปิ ดดูหรือแก้ ไขจากEdit>Application preferences>Apearance
39
รูปแสดงการตั ้งค่าที่Application
Preferences
ตัวเลขแสดงค่าของGrid
รูปแสดงการเลือกค่าIsometric
Grid
Y
Z X
1. คลิก View
2. คลิก Draft
รูปแสดงวิธีการเปิ ดโหมดDraft
รูปแสดงโหมดDraftถูกปิ ดหลังเราคลิกView>Draft
อีกครั ้ง
รูปแสดงลวดลาย(Hatch)เกิดขึ ้น
หลังปิ ดโหมดDraft
คลิก Zoom in
2 Drag คลุมรูป
ที่จะขยาย
3 คลิกขวาที่
เม๊ าส์เพื่อออก
จากคาสัง่
รูปแสดงStatus bar
Toolbars: แสดงรายละเอียดแถบเครื่องมือ ถ้ าไม่ต้องการแถบเครื่องมือ(Toolbar)ปรากฏให้ เห็นบนหน้ าต่าง
ของLibreCAD ก็เพียงคลิกที่ชื่อไม่ให้ มีเครื่องหมายถูก หน้ าชื่อTool bars ในทานองเดียวกันเราคลิกที่ชื่อToolbarsอีก
ครั ้งก็จะปรากฏมีเครื่องหมายถูกเกิดขึ ้นเพื่อให้ Toolbarที่เราคลิกปรากฏให้ เห็นบนหน้ าต่างLibreCAD สลับกันไป ดังรู ป
ข้ างล่าง
Focus on command line: เป็ นการเปิ ดให้ เขียนคาสัง่ ลงที่แถบCommand line หรือโดยการคลิกปุ่ มCtrl+M
หรือกดSpace barที่Key board (สังเกตจะเห็นคาว่าCommandจะสว่างทันทีที่เราคลิก) ดังรูปข้ างล่าง
46
บทที่7
Select
Select เป็ นการรวมคาสัง่ เกี่ยวกับการเลือกวัตถุหรือชิ ้นงานบนแบบ เพี่อทาการอย่างใดอย่างหนึง่ ตาม
คาสัง่ ที่ต้องการ เช่นเลือกเพื่อลบทิ ้ง(Delete) หรือเลือกเพื่อเคลือ่ นย้ าย(Move)เป็ นต้ น เส้ นหรือด้ าน(Entity)หลังจากถูก
คลิกเลือกจะมีลกั ษณะเป็ นเส้ นประสีแดง เราสามารถเรี ยกใช้ คาสัง่ Select ได้ ทางเมนูหลัก(Main menu)และที่ไอคอน
เครื่องมือ(Tool icon)ที่เมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)ดังรูปข้ างล่าง
คลิกSelect all
รูปแสดงผลการคลิกSelect all
1คลิก(De)Select contour
3. คลิกขวาเพื่อ
ออกจากจากคาสัง่
2นาเคอร์ เซอร์กากบาทมาคลิก
รูปแสดงการคลิก(De)Select
contour
3. คลิกขวาเพื่อ
ออกจากจากคาสัง่
2นาเคอร์ เซอร์กากบาทมาคลิก
รูปแสดงการคลิก De select
contour อีกครัง้
(De-)Select entity เป็ นการเลือกเส้ นหรือด้ านที่ต้องการทา เมือ่ เราคลิกไอคอน(De-)Select entity แล้ วเอา
เคอร์ เซอร์ (เปลี่ยนเป็ นกากบาท)ไปคลิกที่จดุ ใดจุดหนึง่ บนเส้ นหรือด้ านของรูปที่ต้องการ ก็จะเปลีย่ นรูปร่ างเป็ นเส้ นประ
เฉพาะอันที่เราเลือก
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
49
2. คลิกเลือก
1 คลิก
(De)Select entity
3. คลิกขวาเพื่อ
ออกจากจากคาสัง่
รูปแสดงคลิก(De) Select
entity
ในทานองเดียวกันถ้ าเราคลิกที่เส้ นที่เปลีย่ นเป็ นเส้ นประหรือคลิก ที่ไอคอนตัวของมันอีกครั ้งแล้ วเอาเคอร์ เซอร์
(เปลีย่ นเป็ นกากบาท)ไปคลิกที่จดุ ใดจุดหนึ่งบนเส้ นหรือด้ านเก่านั ้นของรูปมันก็จะกลับเปลีย่ นไปเหมือนรูปเดิมตอนแรก
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
2. คลิกเลือกอีกครัง้
1 คลิกอีกครัง้
(De)Select entity
3. คลิกขวาเพื่อ
ออกจากจากคาสัง่
รูปแสดงคลิก(De) select
entityอีกครั ้ง
Select window เป็ นการเลือกส่วนที่มีหน้ าต่างสีเ่ หลีย่ มมาคลุมมัน ถ้ าเราคลิกแล้ วDragหน้ าต่างคลุมส่วนที่
ต้ องการเลือก แล้ วปล่อยDrag ส่วนที่ถกู คลุมจะเปลี่ยนเป็ นเส้ นประ(สัญลักษณ์ของSelect) ดังรูปข้ างล่าง
50
2. คลิกจุดแรกแล้วคลิกค้ างไว้
รูปแสดงวิธีการDragหน้ าต่าง
ของSelect window
1 คลิกSelect
window
รูปแสดงผลของการทา select
window เฉพาะส่วน
51
Select intersected entities เป็ นการเลือกอีกวิธีหนึง่ โดยใช้ เส้ นแนวนอนหรือแนวดิ่งเป็ นเส้ นตัด ซึง่ เกิดขึ ้น
หลังจากเราคลิกที่ไอคอนSelect intersected entities ที่เมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)แล้ วมาคลิกลากเส้ นแนวนอน
หรือแนวดิ่งที่เหนือเส้ นที่ต้องการวางพาดผ่านมัน ส่วนเส้ นหรือด้ านอื่นที่มนั ไม่พาดผ่านจะคงสภาพเดิมคือไม่ถกู เลือก(ไม่
เปลีย่ นเป็ นเส้ นประสีแดง)ดังรูปข้ างล่าง
2. คลิกลากเส้ นตัดแนวนอน
3. คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่
รูปแสดงการวางเส้ นตัดแนวนอน
พาดผ่านด้ านสองด้ านของรูปหกเหลีย่ มของการทา Select intersected entities จะทาให้ ด้านสองด้ านนั ้นถูกเลือก
(เปลีย่ นจากเส้ นเต็มเป็ นเส้ นประสีแดง) ดังรูปข้ างล่าง
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่
52
2. คลิกลากเส้ นตัดแนวดิ่ง
3. คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่
รูปการวางเส้ นตัดแนวดิ่งพาด
ผ่านด้ านสองด้ านของรูปหกเหลี่ยมของการทาSelect intersected entities จะทาให้ ด้านสองด้ านนั ้นถูกเลือก (เปลีย่ น
จากเส้ นเต็มเป็ นเส้ นประสีแดง) ดังรูปข้ างล่าง
ในทานองเดียวกันถ้ าเราคลิกDe select intersected entities แล้ วคลิกเส้ นพาดผ่านด้ านหรือเส้ นที่ถกู เลือก
(เส้ นประสีแดง)มันจะเปลี่ยนกลับสภาพไปเป็ นรูปแบบเดิมเหมือนก่อนหน้ านั ้น(เส้ นเต็ม)
อนึง่ การใช้ Select intersected entity กับรูปวงกลม มันจะถูกเลือก(เปลีย่ นเป็ นเส้ นประ)ทั ้งวงกลม
Select layer เป็ นการเลือกรูปหรือเส้ นทั ้งหมดในเลเยอร์ โดยคลิกชื่อเลเยอร์ ในLayer list แล้ วคลิกSelect
layer แล้ วนาCrosshair(กากบาทที่เคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์)มาวางใกล้ รูปแล้ วคลิกซ้ าย จะเห็นว่ารูปหรือเส้ นทั ้งหมดที่เขียน
ในเลเยอร์ นั ้นจะเปลีย่ นเป็ นเส้ นประสีแดงซึ่งหมายถึงการเลือกมัน ดังรูปข้ างล่าง
53
2.คลิกSelect Layer
1.เลือกเลเยอร์
Invert selection เป็ นการใช้ คาสัง่ การเลือกให้ รูปทุกรูปกลับไปสภาพตรงกันข้ ามกับปั จจุบนั ดังรูปข้ างล่าง
หลังใช้ คาสัง่ Invert selection จะสังเกตเห็นว่ารูปจะเปลีย่ นจากรูปเดิมที่เป็ นเส้ นประเปลีย่ นเป็ นเส้ นเต็ม และจาก
รูปเดิมที่เป็ นเส้ นเต็มจะเปลี่ยนเป็ นเส้ นประ
55
บทที่8
Draw
Draw เป็ นการรวมคาสัง่ ของการเขียนรูปทรงเรขาคณิต และ การเขียนเส้ นต่างๆที่มีความสัมพันธ์ ของ
พิกดั ระหว่างจุดแรกและจุดสุดท้ าย ตลอดจนการรวมคาสัง่ เกี่ยวกับการทาลวดลาย(Hatch)ลงบนวัตถุหรือชิ ้นงานที่เขียน
เราสามารถเรี ยกใช้ คาสัง่ จากเมนูหลัก(Main menu)และเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)
การเขียนจุด(Point)
Point เป็ นคาสัง่ ให้ เขียนจุดซึง่ กาหนดลงบนพื ้นที่เขียนแบบ(Main drawing area or model space)ในตาแหน่ง
ที่ต้องการ
เราสามารถเขียนจุดใดๆบนพื ้นที่เขียนแบบ (Main working area or Model space) โดยการคลิกบนเมนู
หลัก(Main menu) และคลิก Draw>point หรือคลิกปุ่ มไอคอน Pointที่ Main CAD tools (เมนูซ้ายมือ)
วางCrosshair (กากบาทที่เคลือ่ นไปพร้ อมกับเม๊ าส์)ในตาแหน่งที่ต้องการแล้ วคลิกหนึง่ ครั ้ง
เราอาจใช้ คาสัง่ ที่Command line โดยกดSpace bar หรือCtrl+Mเพื่อให้ command line ทางาน(อักษร
Command สว่างเปลีย่ นเป็ นสีน ้าเงิน) แล้ วพิมพ์POแล้ วกดEnter จากนั ้นที่command line จะระบุให้ เราพิมพ์ค่าพิกดั
X,Y(Relative to originหรือRelative to absolute zero)ของจุดที่เราต้ องการเขียน หรืออาจพิมพ์พิกดั @X,Y(Relative to
zero coordinate)
ทดสอบการเขียนจุด โดยต้ องการคลิกเขียนจุดแรกที่20,30 (จุด Relative to absolute zero หรือเรียกสั ้นๆว่า
Absolute zero ) กับคลิกเขียนอีกจุดที่@40,50 (จุดRelative zero) ดังรูปข้ างล่าง
เมื่อคลิกจุดตามตาแหน่งที่ต้องการแล้ ว เวลาจะออกจากคาสัง่ ให้ คลิกขวาที่เม๊ าส์
56
1.คลิกPoint
3.คลิก@40,50
2.คลิก20,30
รูปแสดงการเขียนจุด(Point)
3.คลิกจุดแรกหรื อ
1.คลิกLine พิมพ์ค่าพิกัดลงบน 5.คลิกจุดต่อมา
Command line หรื อพิมพ์ค่าพิกัดลงบนCommand
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
แล้ วกด Enter line แล้ วกดEnterแล้ วคลิกขวาสอง
LineทีL่ ine with two
ครัง้ เพื่อออกจากคาสัง่
points
4.คลิกจุดต่อมาหรือ
พิมพ์ค่าพิกัดลงบน
Command line แล้ ว
กด Enter
รูปการเขียนLine with two
points
1.คลิกLine
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ 3.เขียนเส้ นตรง
LineทีL่ ine with two แนวนอนจากจุด
points แรกถึงจุดที่สอง
4.พิมพ์145<25ลงบน
Command lineแล้ วกด
Enter
58
2.คลิกจุดปลายเส้ น(โดยคลิกค้ าง
ไว้ )แล้วยืดหรือหดหรือหมุนรอบจุด
ตรงกันข้ าม
1.คลิกเส้ นที่จะทาการ
เปลี่ยนตาแหน่ง
3.คลิกวางลงตาแหน่งทีต่ ้ องการแล้ว
คลิกซ้าย แล้วคลิกเส้ นประอีกครัง้ จะ
เป็ นเส้ นเต็ม
รูปการเปลี่ยนตาแหน่งของเส้ น
การเขียนเส้ นตรงอีกเส้ นคือLine with given angle เป็ นการเขียนเส้ นตรงที่มีการระบุขนาดของมุม และความ
ยาว และ Snap point จากกล่องเลือกค่า (Option tool)ซึง่ ปรากฏขึ ้นมาอยู่เหนือบริเวณพื ้นที่เขียนแบบมาให้ เราเติมค่า
ลงไป ดังตัวอย่างการทดสอบต่อไปนี ้
คลิกที่เมนูหลัก(Main menu)หรือที่ไอคอนที่เมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)โดยคลิกที่ Line>Line with given
angle
ที่กล่องเลือกค่า(Option tool)ซึง่ ปรากฏอยู่เหนือพื ้นที่เขียนแบบ (Main drawing area ) ให้ เติมค่าAngle=15,
Length=40 , Snap point=start จะปรากฏเส้ นตรงขึ ้นมาดังรูปข้ างล่าง
59
given angle
4.คลิกวางเส้ นทีต่ าแหน่งที่
ต้ องการแล้วคลิกขวาเพื่อ
ออกจากคาสัง่
1.คลิกLine
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
LineทีH่ orizontal
line 3.ระบุความยาว 3.ระบุความยาว
ของเส้ นและSnapที่ ของเส้ นและSnapที่
ต้ องการ 1.คลิกLine ต้ องการ
4.คลิกวางเส้ นทีต่ าแหน่งที่ 2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
ต้ องการแล้วคลิกขวาเพื่อ LineทีV่ ertical line 4.คลิกวางเส้ นทีต่ าแหน่งที่
ออกจากคาสัง่
ต้ องการแล้วคลิกขวาเพื่อ
ออกจากคาสัง่
หรือเราอาจใช้ คาสัง่ ในCommand line โดยคลิกSpace bar หรือชี ้ปลายลูกศรเม๊ าส์ไปที่บริเวณCommand line
แล้ วคลิกซ้ าย จากนั ้นพิมพ์คาว่า Rectangleแล้ วกดEnter
ใส่ค่าพิกดั X,Yที่จดุ มุมแรกตามคาสัง่ ในCommand line(Specify first corner) แล้ วกดEnter
ใส่ค่าพิกดั X,Yที่จดุ มุมสองตามคาสัง่ ในCommand line(Specify second corner)แล้ วกดEnter ดังรูปข้ างล่าง
4.คลิกวางจุดมุมที่สองแล้วคลิกขวาเพื่อออก
จากคาสัง่ หรื อพิมพ์ค่าพิกดั ลงบนCommand
lineแล้ วกดEnter
1.คลิกLine
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
LineทีR่ ectangle
3.คลิกวางจุดที่มมุ แรก
หรื อพิมพ์ค่าพิกัดลงบน
Command lineแล้ วกด
รูปการเขียนRectangle
Enter
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่
มีเส้ นตรงอีกเส้ นหนึง่ ชื่อBisector เป็ นการเขียนเส้ นแบ่งมุม จะมีวิธีการเขียนโดยต้ องเขียนเส้ นแนวดิ่งและ
แนวนอนบรรจบกันให้ มีมมุ เกิดขึ ้นก่อน แล้ วคลิกที่เมนูหลัก(Main menu) หรือคลิกปุ่ ม ทีเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)
โดยการคลิกที่ไอคอน Bisectors
ทดสอบโดยการเขียนเส้ นแบ่งมุมBisector ให้ ความยาวเส้ น(Length)=20 ,จานวน(Number)=3เส้ น
ให้ เราระบุขนาดความยาวและจานวนเส้ นแบ่งมุมที่กล่องเลือกค่า (Option tool)ซึง่ จะปรากฏให้ เราเห็นบริเวณ
เหนือพื ้นที่เขียนแบบ
คลิกที่เส้ นแรก และคลิกเส้ นที่สอง ของเส้ นที่ประกบกันเป็ นมุม จะปรากฏให้ เห็นเส้ นแบ่งมุมเกิดขึ ้น
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
61
รูปแสดงการเขียนเส้ นBisector
ส่วนการเขียนเส้ นแบบParallels with distance เป็ นการเขียนเส้ นใหม่ให้ ขนานกับเส้ นเดิมที่เราต้ องการ เรา
สามารถทดสอบการเขียนโดยเขียนเส้ นตรงขึ ้นมาหนึ่งเส้ น
ที่เมนูหลัก(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)คลิก Line>Parallels with distance ถ้ าเราเอา
เคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์ไปใกล้ เส้ นที่เขียนครั ้งแรกจะมีเส้ นใหม่ที่เราจะเขียน ปรากฏให้ เห็นลอยขึ ้นมาที่เคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์
ขนานกับเส้ นที่เราเขียนไว้ ครั ้งแรก และจะขนานห่างกันเท่ากับค่าตัวเลขที่ระบุ(Length)และจานวนเส้ นขนาน(Number)ที่
ปรากฏบนกล่องเลือกค่า (Option tool)ซึง่ ตั ้งอยู่เหนือพื ้นที่เขียนแบบ (Main drawing area)
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
4.วางเส้ นขนานไว้
ตาแหน่งที่ต้องการแล้ ว
คลิกขวาเพื่อออกจาก
คาสัง่ 3.ระบุค่าระยะห่าง
และจานวนเส้ นของ
เส้ นขนาน
1.คลิกLine
2.คลิกเมนูยอ่ ยของLineที่
Parallels with distance
รูปแสดงการเขียนเส้ นParallels
with distance
มีการเขียนเส้ นตรงขนานอีกแบบคือ Parallels through point เป็ นการเขียนเส้ นขนานให้ เกิดใหม่โดยการคลิก
ที่จดุ ใดจุดหนึง่ ของเส้ นเดิมที่มีอยู่แล้ ว มีวิธีการเขียนเช่นเดียวกับParallels with distance แต่เส้ นขนานที่จะเขียนนี ้จะ
ขนานกับเส้ นที่เคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์ไปคลิกจุดใดจุดหนึง่ ของเส้ นนั ้น เราสามารถทดสอบการเขียนเส้ น Parallels through
point ได้ ดงั ต่อไปนี ้
62
3. ระบุจานวนเส้ นขนาน
รูปแสดงการเขียนเส้ นParallels
through point
4.คลิกขอบ
3.คลิกขอบ วงกลมวงที่สอง
วงกลมวงที่หนึง่
รูปแสดงการเขียนเส้ นTangents
from circle to circle
ต่อไปลองทดสอบการเขียนเส้ นสัมผัสวงกลมจากจุดๆหนึง่ (Tangent from point to circle)จากรูปเดิม
ที่เมนูหลัก(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools) คลิกLine>Tangents from point to circle
สังเกตที่Command line จะบอกSpecify point ให้ เรากาหนดจุดโดยคลิกเม๊ าส์ที่จุดๆหนึง่ ที่ต้องการ
ต่อไปที่คาสัง่ Command line จะระบุว่า Select circle ,arc,or ellipse ให้ เราคลิกที่วงกลมวงหนึ่งที่ต้องการให้
เกิดเส้ นสัมผัสวงกลม
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ จะเห็นได้ ว่าเส้ นตรงจากจุดหนึ่งไปสัมผัสขอบวงกลมหนึ่งตามต้ องการดังรูป
1.คลิกLine 3.คลิกจุด
2. คลิกเมนูย่อย
ของLine ที่ 4.คลิกวงกลม 5.เกิดเส้ นสัมผัส
Tangents from วงกลมขึน้ แล้ ว
คลิกขวาเพื่อออก
point to circle
จากคาสัง่
รูปแสดงการเขียนเส้ นTangents
from point to circle
การเขียนเส้ นTangents to a circle, orthogonal to a line เป็ นการเขียน เส้ นสัมผัสวงกลมและไปตั ้งฉากกับ
อีกเส้ นหนึง่ ที่ตั ้งอยู่ใกล้ ๆกับวงกลม วิธีทดสอบให้ เขียนวงกลมขึ ้นมาหนึง่ วง และเขียนเส้ นตรงใดๆขึ ้นมาหนึง่ เส้ นโดย
ไม่สมั ผัสวงกลม
64
5. คลิกวงกลมที่จดุ นี ้
จะเกิดเส้ นตัง้ ฉากกับ
3. คลิกเส้ นตรงที่ เส้ นตรงที่เขียนไว้ แล้ ว
เขียนไว้ แล้ ว
6.คลิกขวาเพื่อ
1.คลิกLine
ออกจากคาสัง่
2. คลิกเมนูย่อยของ
4. คลิกวงกลมที่จดุ นี ้
Line ที่ Tangents to
จะเกิดเส้ นตัง้ ฉากกับ
a circle,orthogonal เส้ นตรงที่เขียนไว้ แล้ ว
to a line
รูปแสดงการเขียนTangents to
a circle,orthogonal to a line
การเขียน Orthogonal lines เป็ นการเขียนให้ เส้ นตรงเส้ นหนึ่งหรื อหลายเส้ นตัดกับเส้ นตรงที่มีอยู่แล้ วในลักษณะ
ตั ้งฉากกัน ทดลองวิธีการทาได้ โดยเขียนเส้ นตรงขึ ้นมาเส้ นหนึง่
แล้ วคลิกเมนูหลัก(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools) โดยการคลิก Line>Orthogonalแล้ วคลิกจุด
ที่เส้ นตรงที่จะทาให้ เกิดเส้ นตั ้งฉากตามคาสัง่ ในCommand line คือSelect base entity
จะเห็นว่ามีเส้ นตรงเกิดขึ ้นมากับเคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์ โดยมีความยาวเท่ากับที่ระบุในกล่องเลือกค่า(Option tool)ที่
ปรากฏขึ ้นมาเหนือพื ้นที่เขียนแบบ และเส้ นที่เกิดใหม่มีลกั ษณะตั ้งฉากกับเส้ นเดิมที่เราคลิก
ต่อไปคลิกวางเส้ นในตาแหน่งที่ต้องการ แล้ วคลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
’รูปแสดงการเขียนOrthogonal
65
การเขียนเส้ นตรงอีกชนิดหนึง่ คือ Line with relative angles เป็ นการเขียนเส้ นตรงตัดผ่านเส้ นตรงอีกเส้ นหนึง่
โดยทามุมกันตามที่เราต้ องการ เราสามารถทดลองเขียนได้ โดยเขียนเส้ นตรงใดๆขึ ้นมาเส้ นหนึง่
ที่เมนูหลัก(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)คลิก Line>Line with relative angle จะปรากฏมี
กล่องเลือกค่า (Option tool) ปรากฏขึ ้นมาเหนือพื ้นที่เขียนแบบและให้ เราระบุมมุ และความยาวของเส้ นเกิดใหม่ในกล่อง
เลือกค่า(Option tool) นั ้น
คลิกจุดใดจุดหนึ่งที่เส้ นตรงที่เราเขียนขึ ้นมาครั ้งแรกตามคาสัง่ ที่ Command lineคือ Select base entity แล้ ว
คลิกวางCrosshair(เคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์เปลีย่ นเป็ นกากบาท)พร้ อมเส้ นเกิดใหม่ไว้ ที่จดุ ใดจุดหนึง่ บนเส้ นตรงเดิมนั ้นใน
ตาแหน่งที่ต้องการตามคาสัง่ ที่Command line คือ Specify position แล้ วคลิกซ้ าย ดังรูปข้ างล่าง
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่
3.ระบุมมุ และความ
ยาวของเส้ นเกิดใหม่
1.คลิกLine
2. คลิกเมนูย่อยของ 4.คลิกวางเส้ นเกิดใหม่ในตาแหน่งที่
Line ที่ Line with ต้ องการแล้วคลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่
relative angle
หลังจากเขียนได้ เส้ นตัดทามุมกับเส้ นตรงใดๆนั ้นแล้ ว เราสามารถคลิกที่เส้ นตัดนั ้นแล้ วยืดหรือหมุนเส้ นตัดนั ้นให้
ทามุมตามที่ต้องการ ดังรูปข้ างล่าง
รูปแสดงการวิธีการเปลีย่ นแปลง
ตาแหน่งของเส้ น
66
4.คลิกเลือก
3.คลิกจุด จานวนด้ าน
ศูนย์กลาง
1.คลิกLine
2. คลิกเมนูย่อยของ 5.คลิกวางรูปในตาแหน่งที่
ต้ องการและคลิกขวาสอง
Line ที่ Polygon
ครัง้ เพื่อออกจากคาสัง่
with center and
corner
รูปแสดงการเขียนรูปPolygon
with center and corner
4.คลิกเลือก
1.คลิกLine จานวนด้ าน
2. คลิกเมนูย่อยของ
Line ที่ Polygon 3.คลิกจุดที่
with two corners มุมแรก 5.คลิกจุดมุมที่สองวางรูป
ในตาแหน่งทีต่ ้ องการและ
คลิกขวาสองครัง้ เพื่อออก
จากคาสัง่
รูปแสดงการเขียนPolygons
with two corners
บางครั ้งมีความจาเป็ นที่ต้องเคลือ่ นย้ ายเส้ น เพราะเราต้ องการไปวางไว้ ที่อื่น เราสามารถทาได้ โดยถ้ าไม่ทา
วิธีการDragging ก็อาจใช้ วิธีMove/Copy (ในเมนูModify) มาดูวิธีการทาแบบDragging
คลิกเส้ นที่ต้องการเคลือ่ นย้ าย โดยวางcursorบนเส้ นที่ต้องการย้ ายและคลิกที่เส้ น หนึง่ ครั ้งเพื่อเลือกมัน
Dragเส้ นที่เลือก โดยแตะเส้ นนั ้นด้ วยcursorของเม๊ าส์และคลิกซ้ ายที่เม๊ าส์ค้างไว้
ขณะคลิกซ้ ายที่เม๊ าส์ค้างไว้ พร้ อมเคลือ่ นเม๊ าส์นาเส้ น ลอย(preview line) ซึง่ เป็ นเส้ นประสีแดง ไปด้ วยกันพร้ อม
cursor ปล่อยคลิกซ้ ายของเม๊ าส์ที่ตาแหน่งใหม่
หลังจากนาเส้ นไปวางที่ตาแหน่งใหม่และคลิกซ้ ายที่เม๊ าส์หนึง่ ครัง้ เพื่อยอมรับที่จะวางมันในตาแหน่งใหม่ เรา
สามารถมองเห็นเส้ นที่เคลือ่ นย้ ายมา
ถ้ าต้ องการยกเลิกเส้ นประ(ทาเส้ นประแดงให่เป็ นเส้ นเต็ม) ให้ คลิกวางที่เส้ นประด้ วยการคลิกซ้ ายที่เม๊ าส์หนึง่
ครั ้ง หรือกดCtrl-Kหรือใช้ ลกู ศรชี ้ไปที่เมนูซ้ายมือแล้ วคลิกที่>Select>Deselect all ดังรูปข้ างล่าง
การเขียนFreehand Line
ในการเขียนFreehand Line จะไม่อธิบายในรายละเอียดมากเพราะใช้ งานง่ายเพียงทาการเรียกใช้ คาสัง่ จากเมนู
หลัก(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)ที่Line>Freehand Line แล้ วคลิกวางเคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์ไว้ บนพี ้น
ที่เขียนแบบแล้ วทาการDrag (คลิกซ้ ายที่เม๊ าส์ค้างไว้ )แล้ ววาดรูปตามที่ต้องการ
Circle (การเขียนวงกลม)
การเขียนวงกลมสามารถเขียนจากหลายคาสัง่ ที่เมนูหลัก (Main menu)และที่เมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)ดัง
รูปข้ างล่าง
Circle with center and point Circle with center and radius
Circle with two opposite points Circle with two points and radius
Circle with three points Concentric
Circle inscribe in a triangle Tangential circle of 2 circles,1radius
Tangential circle of 2 circles,1point Tangential circle of a circle 2points
Tangential circle of 3lines/arcs/circles
1.คลิกCircle
3..คลิกจุดศูนย์กลาง
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
ของวงกลม
Circleที่ Circle with
center and point
4.คลิกขยายวงกลมให้ ได้ ขนาดตาม
ต้ องการแล้วคลิกซ้ ายและคลิกขวา
สองครัง้ เพื่อออกจากคาสัง่ หรือพิมพ์
ค่ารัศมีลงบนCommand lineแล้ วกด รูปแสดงการเขียนวงกลมแบบ
Enter
Circle with center and point
3.ระบุค่ารัศมี
1.คลิกCircle
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
Circleที่ Circle with
4.คลิกจุดศูนย์กลางและ
center and radius
คลิกวางวงกลมที่ลอย
ขึนมาด้
้ วยรัศมีตามที่ระบุ
ไว้ แล้ว คลิกขวาเพื่อออก
จากคาสัง่
รูปแสดงการเขียนวงกลมแบบ
Circle with center and radius
4.คลิกจุดแรก 3.ระบุค่ารัศมี
1.คลิกCircle
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ 5..คลิกจุดที่สองจะ
Circleที่ Circle with ปรากฏวงกลมเกิดขึน้
two points and แล้ วคลิกขวาเพื่อออก
radius จากคาสัง่
รูปแสดงการเขียนวงกลมแบบ
Circle with two points and radius
ต่อไปทดสอบการเขียนวงกลมแบบCircle with two opposite points
ที่เมนูหลัก(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)คลิกCircle>Circle with two opposite points ให้
เรากาหนดจุดที่จะคลิกวางวงกลมจุดแรกและคลิกจุดที่สองอยู่ตรงกันข้ ามกัน ตามคาสัง่ ในCommand line จะเห็นว่า
วงกลมจะขยายออกไปโดยมีจดุ ตรงช้ ามอยู่ที่ขอบวงกลมซึง่ เคลือ่ นออกไป ดังรูปข้ างล่าง
1.คลิกCircle
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ 3. คลิกจุดที่หนึง่
Circleที่ Circle with
two opposite points
4. คลิกจุดที่สอง
แล้ วคลิกขวาเพื่อ
ออกจากคาสัง่
รูปแสดงการเขียนวงกลมแบบ
Circle with two opposite points
72
รูปแสดงการเขียนวงกลมแบบ
Circle with three points
มีการเขียนวงกลมอีกแบบหนึง่ ซึ่งเป็ นวงกลมขนานกับวงกลมเดิมหรือเป็ นวงกลมซ้ อนกัน(Concentric)โดยมี
ระยะห่างระหว่างวงกลมเท่ากับที่ระยะระบุไว้ บนCommand line ทดสอบโดยเขียนวงกลมขึ ้นมาวงหนึง่
ที่เมนูหลัก(Main menu)หรือที่เมนูด้านซ้ ายมือ(Main CAD tools) คลิกCircle>Concentric
เคลือ่ นเคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์ไปที่วงกลมที่เราเขียนแต่แรก จะเห็นมีวงกลมอีกวงใหม่เกิดซ้ อนกันห่างกันเท่ากับ
ระยะที่ระบุไว้ ในCommand line และเราสามารถเปลีย่ นค่าระยะห่างระหว่างวงกลมทั ้งสอง โดยการพิมพ์ ค่าลงไปบน
Command line แล้ วคลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
4.วงกลมวงใหม่เกิดขึนมา
้
โดยมีระยะห่างเท่ากับทีร่ ะบุ
บนCommand line คลิก
1.คลิกCircle ขวาเพื่อออกจากคาสัง่
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
Circleที่ Concentric 3.พิมพ์ค่าระยะห่าง
ระหว่างวงกลมที่
Command line แล้ ว
กดEnter
รูปแสดงการเขียนวงกลมแบบ
Concentric
73
1.คลิกCircle
4.คลิกด้ านที่สอง
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ 3.คลิกด้ านที่หนึง่
Circleที่ Circle
inscribed in a triangle
5.คลิกด้ านที่สาม แล้วคลิก
ขวาเพื่อออกจากคาสัง่
รูปแสดงการเขียนวงกลมแบบ
Circle inscribed in a triangle
6.คลิกวางวงกลมวงที่สาม
(วงใหม่)แล้วคลิกขวาเพื่อ
ออกจากคาสัง่ 4.ระบุรัศมีของวงกลมวงที่สาม
1.คลิกCircle
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
Circleที่ Tangential
circle of two circles
3.คลิกวงกลมวงที่หนึง่
5.คลิกวงกลมวงที่สอง
รูปแสดงการเขียนวงกลมแบบ
Tangential circle of two circles
การเขียนวงกลม Tangential circle of two circles passing a given point เป็ นการเขียนวงกลมวงหนึง่ ให้
สัมผัสกับวงกลมสองวงคล้ ายกับที่กล่าวมาข้ างต้ น แต่วงกลมวงใหม่ที่จะมาสัมผัสวงกลมสองวงนั ้นมีเส้ นรอบวงผ่านจุดที่
กาหนดด้ วย
ทดสอบโดยการเขียนวงกลมขึ ้นมาก่อนสองวงให้ อยู่ห่างกันพอสมควร และกาหนดจุดขึ ้นมาหนึง่ จุดนอกวงกลม
ทั ้งสอง แล้ วคลิกเมนูหลัก(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools) ที่Circle> Tangential circle of two circles
passing a given point
คลิกวงกลมวงที่หนึง่ แล้ วคลิกวงกลมวงที่สอง จะปรากฏวงกลมวงที่สามขึ ้นมาสัมผัสวงกลมสองวงแรกโดย
คลิกให้ เส้ นรอบวงของวงกลมที่สามผ่านจุดที่กาหนด แล้ วคลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
3.คลิกวงกลมวงที่หนึง่
1.คลิกCircle
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
4.คลิกวงกลมวงที่สอง
Circleที่ Tangential
circle of two circles 5.คลิกวางวงกลมวงที่สาม(วง
passing a given point ใหม่)ที่มีจดุ บนเส้ นรอบวงแล้ ว
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่
รูปแสดงการเขียนวงกลมแบบ
Tangential circle of two circles passing a given point
การเขียนวงกลมอีกแบบคือ Tangential circle of a circle passing two given points เป็ นการเขียนวงกลม
วงหนึง่ ให้ สมั ผัสวงกลมอีกวงหนึง่ โดยให้ มีจดุ สองจุดที่กาหนดวางอยู่บนเส้ นรอบวงของวงกลมวงใหม่ ที่สมั ผัสที่วงกลมวง
แรก
75
3.คลิกวงกลมวงที่หนึง่
1.คลิกCircle
2.คลิกเมนูยอ่ ยของCircle
ที่ Tangential circle of
4.คลิกวางวงกลมวงที่สองที่มีจดุ
circle passing two
สองจุดผ่านเส้ นรอบวง แล้วคลิก
given points
ขวาเพื่อออกจากคาสัง่
รูปแสดงการเขียนวงกลมแบบ>
Tangential circle of a circle passing two given points
3.คลิกวงกลมวงที่หนึง่ 4.คลิกวงกลมวงที่สอง
1.คลิกCircle 6.คลิกวางวงกลมวง
2.คลิกเมนูยอ่ ยของCircle ที่4(เกิดใหม่) แล้ ว
ที่ Tangential circle of คลิกขวาเพื่อออกจาก
5..คลิกวงกลมวงที่สาม
three circles คาสัง่
รูปแสดงการเขียนวงกลมแบบ
Tangential circle of three circles
76
Ellipse (การเขียนวงรี )
การเขียนวงรีเป็ นการใช้ คาสัง่ เขียนวงรีได้ หลายแบบ และสามารถเรียกใช้ คาสัง่ ได้ ทั ้งทางเมนูหลักและเมนู
ทางซ้ ายมือ(Main CAD tools)ดังรูปข้ างล่าง
Ellipse with center and two points Ellipse arc with center, 2points and angle
Foci and point on Ellipse Ellipse with axis and 4points
Center and three points on Ellipse Ellipse inscribed in a quadrilateral
5.ขยายวงรี ออกมาแนวดิ่ง
แล้ วคลิกเมื่อได้ ความกว้ าง
1.คลิกEllipse ที่ต้องการ แล้ วคลิกขวา
เพื่อออกจากคาสัง่
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
Ellipseที่ Ellipse with
center and two
points 3. คลิกจุดศูนย์กลาง
4..ขยายวงรีออกมา
แนวนอน แล้วคลิกเมื่อได้
ความยาวทีต่ ้ องการ
รูปการเขียนวงรีแบบ Ellipse
with center and two points
5..ขยายวงรีออกมาดิ่ง
1.คลิกEllipse แล้ วคลิกเมื่อได้ ความยาวที่ 6.คลิกจุดปลาย
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ ต้ องการ ส่วนโค้ งจุดแรก
Ellipseที่ Ellipse arc
with center, two
3. คลิกจุดศูนย์กลาง
points and angles 4..ขยายวงรีออกมา
แนวนอน แล้วคลิกเมื่อได้ 7..คลิกจุดปลายส่วนโค้ ง
ความยาวทีต่ ้ องการ จุดที่สอง แล้ วคลิกขวา
เพื่อออกจากคาสัง่
รูปแสดงการเขียนส่วนโค้ งวงรี
แบบ Ellipse arc with center, two points and angles
78
การทดสอบเขียนวงรีแบบ Foci and a point on ellipse ซึง่ เป็ นการเขียนวงรีที่ระบุจดุ โฟกัสขึ ้นสองจุด(จุดที่ทา
ให้ เกิดส่วนโค้ งของวงรี) และระบุจดุ อีกจุดหนึ่งบนเส้ นขอบของวงรี โดยมีวิธีการเขียนดังต่อไปนี ้
ที่เมนูหลัก(Main menu)หรือที่เมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)คลิก Ellipse> Foci and a point on ellipse
คลิกจุดโฟกัสจุดแรก ตามด้ วยคลิกจุดโฟกัสจุดที่สอง แล้ วลากเม๊ าส์ออกมา จะพบวงรีถกู สร้ างขึ ้นแล้ วแต่
ทิศทางของเม๊ าส์จะกวาดไปหรือระบุความยาวของจุดทั ้งสองบนพื ้นที่เขียนแบบ เมื่อได้ ตาแหน่งที่ต้องการ ให้ คลิกซ้ าย
จะสังเกตได้ ว่าเราสามารถระบุจดุ ที่เส้ นรอบวงของวงรี ผ่านได้ เช่นกัน
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
4.คลิกจุดโฟกัสจุดที่สอง
1.คลิกEllipse ขยายวงรี ออกมา ให้ เส้ น
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ รอบวงผ่านจุดที่ต้องการ
Ellipseที่ Foci and a แล้ วคลิกซ้าย และคลิก
point on ellipse ขวาเพื่อออกจากคาสัง่
3..คลิกจุดโฟกัสจุดที่หนึง่
3..คลิกจุดที่หนึง่ 4.คลิกจุดที่สอง
1.คลิกEllipse
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
Ellipseที่ Four points
5.คลิกจุดที่สาม
on ellipse 6.คลิกจุดที่สแี่ ล้ ว
คลิกขวาเพื่อออก
จากคาสัง่
รูปการเขียนวงรีแบบ Four
points on ellipse
79
3..คลิกจุดศูนย์กลาง
ของวงรี 4.คลิกจุดที่หนึง่
1.คลิกEllipse
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
Ellipseที่ Center 5.คลิกจุดที่สอง
and three points 6.คลิกจุดที่สาม
on ellipse แล้ วคลิกขวาเพื่อ
ออกจากคาสัง่
รูปแสดงการเขียนวงรีแบบ
Center and three points on ellipse
4.คลิกด้ านที่สอง
1.คลิกEllipse
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ 5.คลิกด้ านที่สาม
Ellipseที่ Ellipse 3.คลิกด้ านที่หนึง่
inscribed in a
quadrilateral 6.คลิกด้ านที่สี่
แล้ วคลิกขวาเพื่อ
ออกจากคาสัง่
I รูปการเขียนวงรีแบบ Ellipse
inscribed in a quadrilateral
80
1. คลิก Arc
2.คลิกเมนูยอ่ ยของArc
4.คลิกจุดแรกหรื อระบุค่ามุม
ที่Arc with center 3.คลิกจุดศูนย์กลาง
ลงบนCommand lineแล้ ว
point,angles ของวงกลม
กด Enter
รูปแสดงการเขียนส่วนโค้ งแบบ
Arc> Arc with center, point, angles
1. คลิก Arc
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
3.คลิกจุดแรก 4.คลิกจุดที่สอง
Arcที่Arc with three
points
5.คลิกจุดที่สาม
แล้ วคลิกขวาเพื่อ
ออกจากคาสัง่
1. คลิก Arc
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ 4.คลิกวางเส้ นโค้ งแล้ว
Arcที่ Concentric คลิกขวาเพื่อออกจาก
คาสัง่
3.พิมพ์ค่าระยะห่างลง
บนCommand line
รูปแสดงการเขียนส่วนโค้ ง
แบบConcentric
การทดสอบเขียนส่วนโค้ งแบบ Arc tangential to base entity with radiusให้ เขียนเส้ นตรงขึ ้นมาเส้ นหนึ่งก่อน
ที่เมนูหลัก(Main menu)หรือที่เมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)คลิก Arc tangential to base entity with radius
คลิกที่เส้ นตรง จะพบว่ามีส่วนโค้ งเกิดขึ ้นตามรัศมีทีระบุในกล่องเลือกค่า ( Option tool)ซึง่ อยู่เหนือพื ้นที่เขียน
แบบ(Main drawing area หรือ Model space)
ระบุมมุ ที่กล่องเลือกค่า(Option tool) ที่อยู่บนเหนือพื ้นที่เขียนแบบ หรือจะกวาดเม๊ าส์ไปจนกว่าจะได้ สว่ นโค้ ง
ตามที่ต้องการแล้ วคลิกซ้ าย
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
4.ระบุค่ารัศมีของ
ส่วนโค้ ง 5.คลิกวางส่วนโค้ งหรือระบุ
1. คลิก Arc มุมที่กล่องเลือกค่าแล้วคลิก
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ ขวาเพื่อออกจากคาสัง่
Arcที่ Arc tangential
to base entity with 3.คลิกที่เส้ นตรงที่
radius เขียนขึนมาก่
้ อน
รูปการเขียนส่วนโค้ งแบบArc
tangential to base entity with radius
83
การเขียนSpline
การเขียนSpline เป็ นการเขียนส่วนโค้ ง(Curve)โดยเขียนติดต่อกัน ซึง่ ส่วนใหญ่ จะพบได้ เช่นในการเขียนงาน
แผนที่โดยแสดงเป็ นเส้ นชั ้นความสูง หรือใช้ เขียนในการสเก็ตช์เค้ าโครงร่างจากรูปภาพที่เราโหลดมาไว้ ในพื ้นที่เขียนแบบ
การเขียนSpline มีวิธีการเขียนสองแบบคือเขียนSpline ผ่านจุด และไม่ผ่านจุดที่กาหนด โดยสามารถเรี ยกใช้ คาสัง่ จาก
เมนูหลัก (Main menu)หรือจากเมนูซ้ายมือ (Main CAD tools) ดังรูปข้ างล่าง
รูปแสดงการใช้ คาสัง่ Spline จากเมนูหลัก (Main menu) รูปแสดงการใช้ คาสัง่ SplineจากMain CAD tools
3.คลิกระบุเลือก
ค่าDegree
1.คลิกSpline 4.คลิกเลือกClose
8.คลิกจุดถัดมา
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ หรื อไมClose
6.คลิกจุดถัดมา
Splineที่ Spline
9.คลิกจุดถัดมา แล้วคลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่
5.คลิกจุดแรก
7.คลิกจุดถัดมา
รูปแสดงการเขียนเส้ น Spline
แบบไม่ผ่านจุดที่กาหนด
อนึง่ เราสามารถยืดส่วนโค้ งของSplineที่เราเขียนขึ ้นมาแล้ ว โดยคลิกที่เส้ นSplineนั ้นให้ เห็นเป็ นเส้ นจุดสีแดง
สังเกตดูที่เส้ นประในขณะนี ้ จะเห็นจุดที่เราคลิกแต่แรกเปลีย่ นเป็ นจุดสีน ้าเงิน คลิกจุดสีน ้าเงินนี ค้ ้ างไว้ แล้ วDragจุดสีน ้า
เงินนั ้นออกมาจะพบว่าเส้ นโค้ งใกล้ จุดนั ้นยืดออกไปตามเม๊ าส์ที่เราDragไป
คลิกวางเส้ นSpline (ที่ยงั เป็ นเส้ นประสีแดง) ในตาแหน่งที่ต้องการ
คลิกที่เส้ นประนั ้นอีกครั ้ง เส้ น Spline จะเปลีย่ นสภาพเป็ นเส้ นเต็ม ดังรูปข้ างล่าง
1.คลิกที่เส้ นSpline.
ให้ เปลี่ยนสภาพ
เป็ นเส้ นประ
รูปแสดงการยืดเส้ นSpline
3.คลิกเลือกClosed
1.คลิกSpline
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ 5.คลิกจุดถัดมา 7.คลิกจุดสุดท้ าย
Splineที่ Spline
through points
6.คลิกจุดถัดมา
4.คลิกจุดแรก
8. จุดสองจุดมาบรรจบกัน
ถ้ าเราเลือกให้ เป็ นClosed
บนกล่องเลือกค่า
รูปแสดงการเขียนSplineแบบ
ผ่านจุด(Spline through points) แบบClosed end
Spline มีทั ้งแบบปลายเปิ ดและแบบปลายปิ ด( Opened end and closed end)ให้ เรากาเครื่องหมายถูก ลงใน
ช่องClosed(แบบปิ ด)ซึง่ เป็ นการเขียนSplineให้ ปลายสุดท้ ายบรรจบจุดแรกเริ่มต้ น (ดังรูปข้ างบน) หรือให้ เราคลิกเอา
เครื่องหมายถูก หน้ าClosed ออก ถ้ าต้ องการเขียนSplineไม่ให้ ปลายแรกและปลายสุดท้ ายบรรจบกัน
การตั ้งค่าตัวเลขNumber of line segment per spline patch ในDrawing preferences (Edit>Current
drawing preferences >Spline) ถ้ าจานวนตัวเลขยิ่งมากยิ่งทาให้ การเขียนSplineแม่นยาและเส้ นมีความเรียบ สาหรับ
จานวนตัวเลขที่แนะนาและพอเพียงกับการเขียนSpline คือ 8 ดังรู ปข้ างล่าง
86
การเขียนเส้ นPolylines
Polylines เป็ นเส้ นตรงที่เกิดจากเราเขียนต่อเนื่องติดต่อกันตลอด ถึงแม้ จะมีหลายลักษณะแต่ก็ถือว่าเป็ นเส้ น
เดียว การเขียนPolylines สามารถเขียนได้ จากการเรี ยกใช้ คาสัง่ จากเมนูหลัก (Main menu) และที่เมนูซ้ายมือ(Main
CAD tools) และเขียนได้ หลายลักษณะดังรูปข้ างล่าง
4.คลิกจุดถัดไป
1.คลิกPolyline
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
Polylineที่Create 3.คลิกจุดแรก 6.คลิกจุดสุดท้ าย
polyline แล้ วคลิกขวาเพื่อออก
5.คลิกจุดถัดไป จากคาสัง่
รูปแสดงการเขียนPolyline แบบ
Create polyline
87
นอกจากการเขียนเส้ นแบบCreate polyline แล้ วยังมี การเขียน Add node,Delete node, ,Append node, Delete
between two nodes, Trim segment, Polyline equidistance ดังรายละเอียดดังต่อไปนี ้
การเขียน Add nodes เป็ นการเขียนจุดหรือปุ่ มบนเส้ น Polyline
ทดลอบการเขียน Add nodes โดยเขียนเส้ นPolyline ขึ ้นมาหนึง่ เส้ นก่อน
ที่เมนูหลัก(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)คลิก Polyline >Add nodes
เพื่อให้ การเขียนได้ ง่ายขึ ้นให้ คลิกไอคอน Snap on entityที่Top toolbar ตามด้ วยการคลิกที่เส้ นPolylineที่เรา
เขียนขึ ้นมาก่อนหน้ านั ้น ดังคาสัง่ บนcommand line แล้ วคลิกจุดในตาแหน่งที่ต้องการบนเส้ น Polyline
หลังจากเราคลิกจุดที่เส้ นPolylineนี ้แล้ วเราอยากเห็นจุดที่เราคลิกนั ้น ให้ คลิกขวาสองครั ้งที่เม๊ าส์ เพื่อออกจาก
คาสัง่ ก่อน แล้ วนาลูกศรที่เม๊ าส์คลิกที่เส้ นPolylineนั ้น เราจะเห็นจุดซึง่ แสดงเป็ นจุดสีน ้าเงินเส้ นบนเส้ นประของเส้ น
Polyline นั ้นซึง่ เป็ นตาแหน่งที่ๆเราคลิกก่อนหน้ านั ้น ถ้ าต้ องการให้ เส้ นประกลับมากลายเป็ นเส้ นเต็มให้ คลิกที่เส้ นประนั ้น
3.คลิกSnap on entity
5.คลิกจุดที่เส้ นPolyline
1.คลิกPolyline
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
Polylineที่Add nodes 7.คลิกจุดที่เส้ นPolyline
4.คลิกจุดที่เส้ นPolyline
6.คลิกจุดที่เส้ นPolyline
3.คลิกSnap intersection
4.คลิกจุดที่เส้ นPolyline
1.คลิกPolyline
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
Polylineที่Delete
5.คลิกเส้ นประเพื่อให้ เป็ นเส้ นเต็ม
nodes
รูปแสดงการเขียนDelete nodes
การเขียนAppend node เป็ นการคลิกใกล้ จุดเริ่มต้ นของเส้ นPolyline เคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์จะวิ่งเข้ าไปจับที่
จุดเริ่มต้ นของเส้ นPolyline หรือถ้ าคลิกใกล้ จดุ ปลายของเส้ น Polyline เคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์จะวิ่งเข้ าไปจับที่จดุ ปลายของ
เส้ นPolyline
ทดสอบการเขียนโดยที่เมนูหลัก(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)คลิกPolyline>Append node
ที่เส้ นPolyline ที่ถกู เขียนขึ ้นมาก่อน ถ้ าเราคลิกบริเวณใกล้ จุดเริ่ มต้ น จะสังเกตว่าเคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์จะวิ่งเข้ า
ไปจับที่ปลายจุดเริ่มต้ น
หรือถ้ าเราคลิกที่บริเวณใกล้ จดุ ปลาย จะสังเกตว่าเคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์จะวิ่งเข้ าไปจับที่ปลายจุดสุดท้ ายของเส้ น
Polyline นั ้น
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
6.จะเกิดการการเขียน
เส้ นเริ่ มที่จดุ สุดท้ ายแล้ ว
คลิกขวาเพื่อออกจาก
3.คลิกใกล้ จดุ เริ่ มต้ น คาสัง่
1.คลิกPolyline
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ 5.คลิกใกล้ จดุ สุดท้ าย
Polylineที่ Append
node 4.จะเกิดการการเขียน
เส้ นเริ่ มที่จดุ เริ่ มต้ น แล้ว
คลิกขวาเพื่อออกจาก
คาสัง่
รูปแสดงการเขียนAppend
node
89
4.คลิกเส้ นPolyline
7เส้ นส่วนที่หายไป
1.คลิกPolyline
2.คลิกเมนูยอ่ ย
ของPolylineที่
Delete between 5.คลิกจุดแรก 6.คลิกจุดถัดมา แล้ว
two nodes คลิกขวาเพื่อออกจาก
คาสัง่
รูปแสดงการเขียน Delete
between two points
3.คลิกSnap on
entity
4.ตัง้ ค่าในกล่อง
เลือกค่า
1.คลิกPolyline
6.จะเกิดเส้ นเหมือน
2.คลิกเมนูยอ่ ย 5.คลิกเส้ นPolyline
ต้ นแบบ แล้ วคลิกขวา
ของPolylineที่ ต้ นแบบ
เพื่อออกจากคาสัง่
Equidistant
รูปแสดงการเขียนEquidistant
รูปแสดงการเขียนเส้ นต่อเนื่อง
จากคาสัง่ Line>Line with two points
1.คลิกPolyline
2.คลิกเมนูยอ่ ย
ของPolylineที่ 3คลิกส่วนหนึง่ ส่วนใดของเส้ น แล้ว 4. เส้ นที่เขียนจากLine with two pointsจะ
Create polyline คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ เปลี่ยนเป็ นเส้ นPolyline ซึง่ สามารถทดสอบโดย
from existing การคลิกที่เส้ นจะพบว่าเป็ นเส้ นประหมดทังเส้
้ น
segments
รูปแสดงก่อนเขียน Polyline with existing segments รูปแสดงหลังการเขียน Polyline with existing segments
92
รูปแสดงการตั ้งค่าและเขียน
ข้ อความบนหน้ าต่างของMText
93
รูปแสดงการคลิกวางข้ อความ
บนพื ้นที่เขียนแบบ
เราสังเกตจะเห็นว่ามีข้อความเกิดขึ ้นอีกที่เคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์แม้ ว่าเราจะคลิกวางบนพื ้นที่เขียนแบบแล้ วก็ตาม
ให้ เราคลิกขวาอีกครั ้งข้ อความที่เกิดซ้ อนขึ ้นมาจะหายไป
ถ้ าเราเข้ าไปแก้ ไขในการตั ้งค่าโดยการเลือกให้ เป็ นมุมที่90องศาในหน้ าต่างMText แล้ วคลิกOK. เราจะได้ ข้อ
ความถูกวางดังข้ างล่าง
รูปแสดงการตั ้งค่ามุม
รูปแสดงการคลิกวางข้ อความ
บนพื ้นที่เขียนแบบหลังจากตั ้งค่ามุมเท่ากับ 90องศาที่หน้ าต่างMText
94
รูปแสดงการเลือกสัญลักษณ์ที่
หน้ าต่างMText
รูปแสดงการคลิกวางสัญลักษณ์
ลงบนพื ้นที่เขียนแบบ
รูปการวางข้ อความโดยเลือกค่า
แบบFit และคลิกวางครัง้ แรกจะเป็ นเส้ นตรงก่อน
96
รูปการวางข้ อความโดยเลือกค่า
แบบFit และหลังจากการคลิกเป็ นเส้ นตรงแล้ วจะเปลี่ยนเป็ นข้ อความ
การใส่ ข้อความภาษาไทยในLibreCAD
ในLibreCADไม่อาจใช้ ข้อความ(Text)ที่มีตวั อักษร(Font)เป็ นภาษาไทยโดยตรงได้ เนื่องจากFontในLibreCAD
เป็ นโปรแกรมไฟล์แบบLFF ไม่ได้ รองรับโปรแกรมฟ๊ อนท์ไทย(Thai font) ซึง่ เป็ นโปรแกรมแบบ True type ต้ องทาการ
ดัดแปลงวิธีการใช้ เพื่อให้ สามารถพิมพ์ข้อความออกมาเป็ นภาษาไทย โดยการทาข้ อความภาษาไทยให้ เป็ นเสมือนหนึง่
เป็ นรูป (Image)แล้ วนามาวางใส่ในตาแหน่งที่ต้องการ
การสร้ างข้ อความให้ เป็ นเสมือนหนึง่ เป็ นรูปภาพ (Image)สามารถทาโดยอาศัยโปรแกรมPaint ที่มีมากับWindows
ซึง่ หาได้ โดยการคลิกStart>All programs>Accessories>Paint แล้ วทาตามขั ้นตอน ดังวิธีการต่อไปนี ้
เปิ ดโปรแกรมPaint แล้ ว คลิกDragแถบพื ้นสีขาวบนจอของPaintโดยเริ่มจากจุดปลายล่างขวาสุดแล้ วร่นขึ ้นมา
ให้ มีพื ้นที่แถบขาวน้ อยที่สดุ เท่าที่พอวางข้ อความ ดังรูปข้ างล่าง
คลิกและDragพื ้นแถบ
ขาวโดยเริ่ มจากจุด
ปลายล่างสุดมุมขวา
97
3.คลิกพิมพ์
ข้ อความภาษาไทย
1.คลิกตัวอักษร Aซึง่ เป็ น
สัญลักษณ์ให้ พิมพ์ข้อความ
2.คลิกปลายแถบขาวแล้ ว
Drag แถบขาวออกมาให้
ยาวพอที่จะบรรจุข้อความได้
และเมื่อพิมพ์ข้อความเสร็ จ
แล้ วให้ ปรับแถบขาวอีกครัง้
ปรับขนาดของแถบ
ขาวให้ เท่ากับข้อความ
1.คลิกSave as
2.เลือกPathทีจ่ ะSave
เปิ ดLibreCAD โดยคลิกเมนูหลัก หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools) แล้ วคลิกDraw>Insert Image ดังรูป
ข้ างล่าง
98
่ บริษัท
ชือ
รูปแสดงพื ้นที่เขียนแบบถูก
ตั ้งค่าเป็ นพื ้น(Background)สีดา
ตัวอย่างการพิมพ์ภาษาไทยลงบนแบบLibreCAD
รูปแสดงการทาลวดลาย(Hatch)แบบSolid fill
ถ้ าเราเลือกลายที่ไม่ใช่Solid fill โดยเอาเครื่องหมายถูก ออกจากช่องหน้ าSolid fill เราสามารถเลือกลายต่างๆ
ในช่องให้ เลือกชนิดลวดลาย ในที่นี ้เราเลือกลายแบบansi31 และจะมีลวดลายชนิด ansi31 ปรากฏให้ เห็นที่หน้ าต่าง
เล็ก(Enable preview)
กาหนดให้ มาตราส่วนของลวดลายที่เลือก(Scale) =2 กาหนดมุมเอียงของลวดลาย(Angle)=0 ดังรูปข้ างล่าง
แล้ วคลิกOK. จะได้ แบบดังรูปล่าง
รูปแสดงลวดลายแบบansi31
scale=2
จะสังเกตว่าจะเกิดลวดลายเกิดขึ ้นมาในรูปสีเ่ หลีย่ มใหญ่ที่เราเขียนขึ ้นมาและบรรจุเต็มในรูปสีเ่ หลีย่ ม เนื่องจาก
เราให้ Scale=2 ซึง่ มันใหญ่เกินไป ต่อไปลองให้ Scale=1 จะได้ แบบดังรูปช้ างล่าง
รูปแสดงลวดลายแบบansi31
scale=1
อนึง่ ในทางปฏิบตั ิจะพบสาเหตุที่เราไม่สามารถทาให้ เกิดลวดลาย(Hatch) ได้ หลายประการอาทิเช่น
103
2.นารูปจากข้างนอกโดยBrowseหา
ที่Pathที่เก็บรูปไว้ แล้วคลิกวาง
1.คลิกInsert image
1.เขียนเส้ นโครงร่ าง
ทังหมด
้ แล้ วคลิกขวา
เพื่อออกจากคาสัง่
2.คลิกทีร่ ูป
3.กดปุ่ มDelete
ที่แป้นพิมพ์
บทที่9
Dimensions( การบอกขนาด)
ก่อนที่จะกาหนดให้ ขนาดในแบบ เราสามารถไปตั ้งค่าเกี่ยวกับการบอกขนาดโดยคลิกที่เมนเมนู
Edit>Current drawing preferences>Dimension แล้ วตั ้งค่าในช่องต่างๆตามความเหมาะสมบนหน้ าต่างDrawing
preferences ดังรูปข้ างล่าง
รูปการบอกขนาดแบบ
Horizontal และVertical dimension
ต่อไปลองเขียนเส้ นตรงเอียง ซึง่ การจะบอกให้ ขนาดให้ เราคลิก Aligned dimension แล้ วคลิกจุดปลายทั ้งสองจะ
เห็นเส้ นบอกขนาดปรากฏขึ ้นมาขนานกับเส้ นเอียงนั ้น ซึง่ จะแสดงขนาดความยาวที่แท้ จริงของเส้ นนั ้น
ต่อไปคลิกไอคอนLinear dimension เราทาเหมือนกับการบอกขนาดข้ างต้ นคือคลิกปลายทั ้งสองของเส้ นตรง
นั ้นจะปรากฏเส้ นบอกขนาดขึ ้นมาในแนวระดับ ดังรูปข้ างล่าง
107
Linear dimension
รูปแสดงAligned และLinear
dimension
เขียนวงกลมขึ ้นมาหนึ่งวง แล้ วคลิกไอคอน Diametric dimension และคลิกที่ขอบวงกลมจะปรากฏเส้ นบอก
ขนาดเส้ นผ่าศูนย์ กลางเกิดขึ ้นมา
คลิกไอคอนRadial dimension แล้ วคลิกที่ขอบวงกลมจะปรากฏเส้ นบอกขนาดรัศมีเกิดขึ ้นดังแสดงในรูป
ข้ างล่าง
รูปแสดงAngular dimension
108
สาหรับเส้ นอีกเส้ นหนึ่งที่ระบุอยู่ในกลุม่ ของการบอกขนาด(Dimension)คือเส้ นLeader Line เป็ นเส้ นชี ้นาเพื่อ
จะมีรายละเอียดเป็ นข้ อความ(Text)แสดงประกอบด้ วย ซึง่ การเขียนเส้ นLeader นั ้นทาได้ โดยคลิกไอคอนLeaderแล้ ว
คลิกจุดแรกที่จะวางและคลิกจุดที่สองของเส้ น Leader จะปรากฏเส้ นLeaderขึ ้นมา ต่อไปเราต้ องไปคลิกไอคอนTextเพื่อ
จะนาข้ อความที่พิมพ์ออกมาวางที่ปลายเส้ น Leader Line ดังรูปข้ างล่าง
รูปแสดงการบอกขนาดรูปไอโซ
เมตริก (Isometric dimension)
การบอกขนาดของรู ปสเก็ตช์
บางครัง้ ในการเขียนแบบ การกาหนดค่าขนาดอาจไม่เป็ นไปตามรูปที่เขียนซึง่ เป็ นการเขียนแบบสเก็ตช์หรือ
เขียนหยาบๆ แต่เราต้ องการกาหนดตัวเลขของขนาดให้ เป็ นไปตามที่เราต้ องการ ดังตัวอย่างเราต้ องการเขียนรูป
สีเ่ หลีย่ มผืนผ้ าให้ มีขนาดกว้ าง1 M. ยาว2 M. แต่ในการเขียนแบบรู ปสีเ่ หลียมผืนผ้ า เราไม่เขียนตามสเกลหรือตามมาตรา
ส่วน เรามีวิธีการให้ ขนาดได้ ดงั นี ้
เขียนเส้ นบอกขนาดที่ด้านกว้ างของรูปสีเ่ หลีย่ มโดยคลิกเมนูหลัก(Main menu)ที่Dimension>Vertical หรือ
คลิกไอคอนDimension>Vertical dimensionที่เมนูซ้ายมือ(Main CAD tools) แล้ วคลิกจุดที่มุมทั ้งสองในแนวตั ้ง จะได้
ค่าขนาดด้ านกว้ างตามจริ ง
เขียนเส้ นบอกขนาดที่ด้านยาวของรูปสีเ่ หลี่ยมโดยคลิกเมนูหลักข้ างบนที่Dimension>Horizontalหรือคลิก
ไอคอนDimension>Horizontal dimensionที่เมนูซ้ายมือ(Main CAD tools) แล้ วคลิกจุดที่มมุ ทั ้งสองในแนวนอน จะได้
ค่าขนาดด้ านยาวตามจริง
ที่เมนูหลักหรือไอคอนเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)คลิก Modify>Explode
คลิกวางCrosshair cursor (เคอร์ เซอร์ กากบาท)ที่เส้ นบอกขนาดทั ้งแนวตั ้งและแนวนอน เส้ นบอกขนาดและ
ตัวเลขบอกขนาดจะเปลี่ยนเป็ นเส้ นประ ดังรูปข้ างล่าง
110
3.คลิกเส้ นบอก
ขนาด
4.คลิกเส้ นบอก
ขนาด แล้ วกด
1.คลิก Modify Enter
2. คลิกเมนูย่อย
ของ Modifyที่
Explode
1.ลบตัวเลข
บอกขนาด
2..ลบตัวเลข
บอกขนาด
1.คลิกMulti 4.คลิกวาง
line Text ค่า 1M.
2.ระบุขนาด
3.ตัง้ ค่าเป็ น90 1M.
องศาแล้วคลิก
OK.
111
4.คลิกวาง
ค่า 2 M.
1.คลิกMulti
line Text
2.ระบุขนาด
3.ตัง้ ค่าเป็ น0 2 M.
องศาแล้วคลิก
OK.
112
บทที่10
Modify(การปรั บแต่ ง)
Modify เป็ นที่รวมคาสัง่ ในการปรับแต่งภาพหรือวัตถุชิ ้นงาน เพื่อวัตถุประสงค์ในการทาให้ การเขียน
แบบง่ายขึ ้น สะดวกขึ ้นหรือ ทาให้ วตั ถุหรือชิ ้นงานดูถกู ต้ องและสมบูรณ์ขึ ้น เราสามารถเรียกใช้ คาสัง่ Modifyได้ ทั ้งเมนู
หลัก(Main menu)และเมนูที่อยู่ทางซ้ ายมือ(Main CAD tools)มีรายละเอียดดังรูปข้ างล่าง
Modify
Scale Mirror
Bevel Fillet
Divide Stretch
Property Attributes
Delete selected Explode
รูปการใช้ คาสัง่ Modifyจากเมนูหลัก รูปการใช้ คาสัง่ Modify จาก Main CAD tools
(Main menu)
เลือกTarget point (จุดที่จะวาง) โดยเลือกจุดใดจุดหนึง่ บนพื ้นที่เขียนแบบ แล้ วเคลือ่ นเม๊ าส์พร้ อมนารูปนั ้นไป
วางตาแหน่งที่ต้องการ ดังรูปข้ างล่าง
1.คลิก Modify
2.คลิกเมนูยอ่ ย 4.คลิกเลือก
ของModifyที่ 3.คลิกเลือก จุดอ้ างอิง
Move/Copy ด้ านทังสี
้ ่แล้ว
กดEnter
5.คลิกจุดที่จะ
นารูปไปวาง
6.เลือกค่าใน Move/Copy
option แล้ วคลิก ok.
จะปรากฏเป็ นรูปเส้ นประของวัตถุหรือชิ ้นงานในทีนี ้เราให้ เป็ นรูปสีเ่ หลีย่ ม ให้ คลิกที่เส้ นประทั ้งหมดหรืออาจใช้
คาสัง่ จากเมนูหลัก(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools) คลิกSelect> Deselect window แล้ วDrag
สีเ่ หลีย่ มคลุมรูปเส้ นประเหล่านั ้น หรือเราอาจคลิกที่ไอคอน Deselect all เพียงอย่างเดียว จะได้ รูปเป็ นเส้ นเต็ม
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
114
7.คลิกที่เส้ นประทังหมดหรื
้ อคลิกDe
select window คลุมเส้ นทังหมด
้
หรื อคลิก Deselect all จะ
เปลี่ยนเป็ นเส้ นเต็ม
รูปแสดงการทาMove]
การทาCopy
การทาCopy เป็ นการคัดลอกหรือทาสาเนาวัตถุหรื อชิ ้นงานที่เราเขียนขึ ้นมาให้ ซ ้ากันและสามารถคัดลอกได้
หลายๆชิ ้นในคราวเดียวกัน มีกรรมวิธีการทาเช่นเดียวกับMove
เขียนรูปสีเ่ หลีย่ มขึ ้นมาหนึง่ รูปเพื่อสาธิ ตการใช้ งานMoveและCopyและที่เมนูหลักข้ างบน( Main menu) คลิก
Modify>Move/copyหรือจะคลิกไอคอนที่เมนูซ้ายมือ(Main CAD tools) คลิก Modify>Move/copy
คลิกด้ านแต่ละด้ านของรูปสีเ่ หลีย่ ม หรือคลิกSelect>Select window แล้ วDrag คลุมรูปสีเ่ หลี่ยมที่ด้าน
ทั ้งหมด แล้ วกดEnter
สังเกตดูในCommand lineบอกSpecify reference point คือให้ เราคลิกจุดReference point(จุดอ้ างอิง)ซึง่ เป็ น
จุดที่เราเลือกว่าจะเอาจุดนั ้นของรูปที่เราMove/copyไปวางจุดที่ๆเราต้ องการวาง(Target point) จุดReference point
อาจเป็ นจุดที่มุมใดมุมหนึง่ หรือจุดตรงกลางหรือที่ใดในรูปก็ได้ ในที่นี ้เราคลิกจุดมุมล่างขวามือเป็ นจุดReference point
จะเห็นได้ ว่ารูปสีเ่ หลีย่ มจะเคลือ่ นไปกับเคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์
เมื่อเราต้ องการวางบนตาแหน่งที่ใดบนพื ้นที่เขียนแบบก็ให้ คลิกซ้ ายและมีหน้ าต่าง ของ Move/copy option
ปรากฏขึ ้นมาให้ เราเลือกว่าเราจะเก็บรูปเก่าที่เราทาการMove/copyเอาไว้ หรือต้ องการลบทิ ้ง หรือต้ องการทาสาเนา
เพิ่มขึ ้นอีกจานวนเท่ากับตัวเลขที่เราเติมในหน้ าต่างMove/copy option
5.คลิกจุดที่จะ
นารูปไปวาง
115
6.คลิกปุ่ มMultiple
copies แล้ วเติม
จานวนที่ต้องการทา
สาเนา แล้ วคลิกok.
7.คลิกที่เส้ นประทังหมด
้
หรื อคลิกDe select
window คลุมเส้ นทังหมด้
หรื อคลิก Deselect all
จะเปลี่ยนเป็ นเส้ นเต็ม
รูปแสดงการทาCopy
Rotate (การหมุนวัตถุ )
Rotate (การหมุนวัตถุ) เป็ นการหมุนของวัตถุหรือชิ ้นงาน(Object) จากตาแหน่งเดิมแล้ วหมุนไปยังตาแหน่งที่
ต้ องการจากการกาหนดเป็ นองศาตามที่ต้องการบนพื ้นที่เขียนแบบ
ทดสอบโดยเขียนรูปสีเ่ หลี่ยมขึ ้นมาหนึง่ รูป และที่เมนูหลักข้ างบนคลิกModify>Rotate หรือคลิกไอคอนที่เมนู
ซ้ ายมือ(Main CAD tools)คลิกไอคอนModify> Rotate
116
1.คลิก Modify
2.คลิกเมนูยอ่ ย 4. ระบุจดุ หมุน
ของModifyที่
Rotate
3.คลิกเลือก
ทุกด้ าน 5.คลิกจุดอ้ างอิง
6.เลือกค่าในRotation
options แล้ วคลิกok.
117
รูปแสดงการทาRotate
1.คลิก Modify
2.คลิกเมนูยอ่ ย
ของModifyที่ 4.คลิกจุดอ้ างอิง
Scale
3.คลิกเลือกทุกด้ าน
แล้ วกด Enter
118
5.คลิกกาหนดมาตรา
ส่วน แล้วคลิกOk.
.
จากหน้ าต่างScaling option เราเลือกให้ รูปใหม่มีมาตราส่วนลดลงโดยให้ มาตราส่วนทีแกนX=0.5 และที่แกน
Y=0.5 โดยเก็บรูปเก่าไว้ (Keep original) แล้ วคลิกOK. จะปรากฏภาพดังรูปข้ างล่าง
6.ลบรูปเก่าออกถ้ าไม่
ต้ องการโดยการคลิกที่
เส้ นทุกเส้ นของรูปเก่า
แล้ วกดแป้นDelete
การทาMirror
การทา Mirror เป็ นการใช้ คาสัง่ ทาให้ ภาพวัตถุหรือชิ ้นงานเกิดขึ ้นใหม่มีลกั ษณะต่างๆเหมือนกับต้ นฉบับ
เพียงแต่กลับด้ านจากซ้ ายเป็ นขวาเหมือนกับ รูปเกิดจากการสะท้ อนของกระจกเงา(Mirror)
ทดสอบโดยเขียนรูปวัตถุใดๆรูปหนึง่ เพื่อทาการMirror ดังรู ปข้ างล่าง
5.Drag คลุมรูป
ทังหมด
้ แล้ วกด
Enter
1.คลิก Modify
2.คลิกเมนูยอ่ ย
ของModifyที่ 3.คลิกเลือกรูปทังหมดโดยคลิ
้ ก
Select
Mirror
4.เลือกเมนูย่อยของSelectที่Select
window
6.คลิกจุดที่หนึง่
และจุดที่สอง 7.เลือกค่าในMirroring
ของรูป option แล้ วคลิกOK.
120
รูปที่เกิดจากการทาMirror
คลิกเลือกส่วนที่
ต้ องการทาMirror
รูปแสดงการทาMirorเฉพาะส่วน
121
รูปที่เกิดจากการทาMirrorเฉพาะ
บางส่วน
4.เลือกค่ามุมทีต่ ้ องการ
3.คลิกเลือกทุก 6.คลิกวางรูปใหม่
1.คลิก Modify
ด้ าน แล้วกด
2.คลิกเมนูยอ่ ย
Enter
ของModifyที่ 5.ระบุจดุ อ้ างอิง
Move and rotate
7.คลิกMultiple copies
และระบุจานวนรูปที่
ต้ องการแล้วคลิกOK.
รูปแสดงการทาRotate two
3.คลิกที่เส้ นแล้ ว
กดEnter
จุดสุดท้ าย(สีน ้าเงิน)
1.คลิก Modify
2.คลิกเมนูยอ่ ย จุดเริ่ มต้ น(สีเหลือง)
ของModifyที่
Revert direction
จุดสุดท้ าย(สีเหลือง)
จุดแรก(สีน ้าเงิน)
การใช้ คาสั่งTrim
การใช้ คาสัง่ Trim เป็ นการเลาะหรือขลิบเส้ นส่วนที่ไม่ต้องการทิ ้ง อันเนื่องมาจากการตัดกันของเส้ นสองเส้ น ดัง
ตัวอย่างมีเส้ นสองเส้ นตัดกัน
ทดสอบการใช้ งานTrimโดยเลือกเมนูหลักข้ างบน(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)คลิก
Modify>Trim
จากเส้ นตัดกันสองเส้ นที่เขียนไว้ ก่อนนั ้นให้ คลิกเส้ นตัดที่ไม่ต้องการเลาะหรือขลิบ เส้ นจะเปลี่ยนเป็ นสีเทา
คลิกเส้ นตัดอีกเส้ นที่ไม่ต้องการถูกเลาะออก(เส้ นที่ต้องการเก็บหรื อรักษาไว้ ) จะปรากฏเส้ นถูกเลาะออกจาก
เส้ นตัดที่เราคลิกครั ้งแรก(ส่วนของเส้ นที่ไม่ได้ คลิกจะถูกเลาะหรือขลิบออกไป)
คลิกขวาหนึง่ ครั ้ง เส้ นสีเทาจะกลับเป็ นสีดา
คลิกขวาอีกครั ้งเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
125
5.เส้ นส่วนที่ไม่ได้
คลิกจะหายไป
แล้ วคลิกขวาเพื่อ
4.คลิกเส้ นทีต่ ้ องการ ออกจากคาสัง่
เก็บไว้ แล้ วคลิกขวา
เพี่อให้ เส้ นสีเทาเป็ น
สีดา
3.คลิกเส้ นที่
1.คลิก Modify หนึง่
2.คลิกเมนูยอ่ ย
ของModifyที่
Trim two
4.คลิกเส้ นที่สอง
แล้ วคลิกขวาเพื่อ
ออกจากคาสัง่
จากรูปข้ างบน เส้ นขนานจะไม่ชนกัน นัน่ หมายถึงเราจะต้ องโมดิ ฟายเส้ นโดยการเขียนเส้ นให้ ต่อกัน เราทาได้
โดยการใช้ เมนูโมดิฟายจากเมนูหลัก(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)คลิก Modify>Lengthen
ให้ เราเคลือ่ นเคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์คลิกที่Command line และพิมพ์2หรือ3 แล้ วกดEnter หรืออาจจะพิมพ์ 2หรือ3
ที่กล่องเลือกค่า(Option tool)ที่ปรากฏอยู่เหนือพื ้นที่เขียนแบบ( ตัวเลขที่ระบุเป็ นความยาวที่เราต้ องการต่อขยาย)และ
โดยที่เรายังไม่ต้องคลิกที่เม๊ าส์ ให้ เคลือ่ นมันไปวางบนเส้ นแนวดิ่งตรงตาแหน่งที่จะต่อขยายความยาว และคลิกหนึง่ ครัง้
ด้ วยปุ่ มซ้ ายของเม๊ าส์
การกาหนดขนาดความยาวต่อขยาย(Lengthen)ที่กล่องเลือกค่า(Option tool)เหนือพื ้นที่เขียนแบบนั ้น เรา
สามารถเติมตัวเลขทั ้งเป็ นค่าเพิ่มหรือค่าลดได้ ถ้ าไม่คลิกเครื่องหมายถูกที่ท้ายกล่องนั ้นแสดงว่าค่าที่เติมลงไปเป็ นค่า
เพิ่ม(ความยาวถูกต่อเพิ่ม) ถ้ าต้ องการความยาวลดลงให้ ยาวเท่ากับตัวเลขในกล่องเลือกค่า(Option tool)ให้ คลิกท้ าย
กล่องเลือกค่า(Option tool)ให้ มเี ครื่องหมายถูก ดังรูปข้ างล่าง (ต่อขยายความยาวเพิ่มโดยไม่คลิกให้ มีเครื่องหมายถูก
ท้ ายกล่องเลือกค่า)
3.พิมพ์ค่าความยาวที่ที่กล่อง
1.คลิก Modify เลือกค่าหรือพิมพ์ที่Command
2.คลิกเมนูยอ่ ย lineแล้ วกดEnter
ของModifyที่
4.คลิกส่วนที่
Lengthen
ต้ องการต่อขยาย
รูปแสดงการทาLengthen
127
ผลลัพธ์ ที่ได้ จะแสดงดังภาพข้ างบน ขณะนี ้ทั ้งหมดที่เหลือเพียงขั ้นตอนการใช้ เครื่องมื อTrimเพี่อทาการ
ขลิบเส้ นที่ไม่ต้องการออกไป ดังรูปข้ างล่าง
5.ทาการTrimความ
ยาวส่วนเกิน
รูปแสดงหลังการทาTrim
การเขียน Offset(ขนานกัน)
การเขียน Offsetเป็ นการเขียนเส้ นใหม่อาจเป็ นเส้ นตรงหรือเส้ นโค้ งเพื่อให้ ขนานกันกับเส้ นเดิม
ทดสอบโดยเขียนเส้ นตรงใดๆหรือส่วนโค้ งขึ ้นมาเส้ นหนึง่ ในที่นี ้เราจะเขียนเป็ นส่วนโค้ ง
คลิกเมนูหลัก(Main menu)ข้ างบนหรือไอคอนที่เมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)คลิกที่Modify>Offset
คลิกเส้ นเดิมที่จะทาOffset แล้ วกดEnter
กาหนดค่าระยะห่างของเส้ นที่จะขนานกันจากกล่องเลือกค่า(Option tool )เหนือพื ้นที่เขียนแบบ ในที่นี ้กาหนด
ให้ มีค่าเท่ากับ5 มม.
เลือกตาแหน่งทีจะวางเส้ นขนานกับเส้ นเดิม แล้ วคลิกซ้ าย และคลิกเส้ นใหม่อีกครัง้ (เส้ นประ) จะปรากฏดังรูป
ข้ างล่าง แล้ วคลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่
3.คลิกเส้ นเดิม
1.คลิก Modify แล้ วกดEnter
4.เลือกเติมค่า
2.คลิกเมนูยอ่ ย ระยะห่างระหว่าง
ของModifyที่ เส้ นขนาน
Offset 5.วางตาแหน่งที่
ต้ องการแล้ว
6.คลิกเส้ นประ
คลิกซ้าย
อีกครัง้
รูปแสดงวิธีการทาOffset
128
7.คลิกขวาเพื่อ
ออกจากคาสัง่
รูปแสดงหลังการทาOffset
รูปแสดงการทาBevel(ลบมุม)ที่
ไม่ทาการTrim
5.คลิกเส้ นที่สองแล้ว
คลิกขวาเพื่อออก
จากตาสัง่
รูปแสดงการทาRound(มนมุม)
130
3.คลิกSnap on entity
5.คลิกจุดตัดจุดที่หนึง่
4.คลิกทีข่ อบวงกลม
8.คลิกทีว่ งกลมจะเห็นเส้ นประ
1.คลิก Modify .6.คลิกที่ขอบ
2.คลิกเมนูยอ่ ย วงกลมอีกครัง้
ของModifyที่
Divide 7.คลิกจุดตัดจุดที่สอง
แล้ วคลิกขวาเพื่อออก
จากคาสัง่
รูปแสดงวิธีการทาDivide
131
9.กดปุ่ มDeleteที่
แป้นพิมพ์จะเห็นเหลือ
เพียงส่วนโค้ งที่เรา
ต้ องการ
Stretch (การยืด)
Stretch (การยืด)เป็ นการยืดภาพหรือรูปของวัตถุหรือชิ ้นงานที่เราเขียนขึ ้นมาเพื่อให้ มีความสัมพันธ์ กบั รูปที่อยู่
ใกล้ เคียง เนื่องจากในความเป็ นจริงแล้ วเราอาจไม่สามารถเขียนแบบให้ สมบูรณ์ขึ ้นมาในคราวเดียวกันได้ จึงต้ องทาการ
ปรับแต่ง(Modify)รูปภาพอันเดิมให้ เป็ นรูปภาพใหม่ตามที่เราต้ องการ
ต่อไปจะทดสอบการทาStretch หรือการยืด ให้ เราเขียนรูปสีเ่ หลี่ยมขึ ้นมาก่อนรูปหนึง่ เพื่อจะทา Stretch ให้ คลิก
เมนูหลักข้ างบน(Main menu)หรือเมนูซ้ายมือ (Main CAD tools) แล้ วคลิกที่ Modify>Stretch
อนึง่ เพื่อให้ เกิดความแม่นยาในการระบุจดุ ลงบนเส้ นรูปสีเ่ หลี่ยม ให้ เราเปิ ดSnapโดยการคลิกไปที่ไอคอนSnap
on end point ที่แถบเมนูเครื่องมือข้ างบน(Top toolbar)
คลิกตามคาสัง่ บนCommand line คือคลิกมุมแรกและมุมที่สอง แล้ วกลับไปปิ ดSnap โดยการคลิก Snap on
end point (ให้ ปมุ่ Snap on end point นั ้นปิ ด)หรือถ้ าไม่ปิดปุ่ มSnap on end points เราอาจเปิ ดปุ่ มFree snap(ไอคอน
ตัวแรกซ้ ายสุดบนแถบ Top toolbar )ขึ ้นมาอีกปุ่ มก็ได้
คลิกจุดอ้ างอิง(Reference point) ที่ใดที่หนึง่ บนรูปสีเ่ หลี่ยม จะเห็นว่ามีเส้ นลอยปรากฏขึ ้นมาจากมุมสองข้ าง
และเคลือ่ นไปพร้ อมกับเคอร์ เซอร์
คลิกส่วนที่ยืดออกมาไปวางตาแหน่งที่ต้องการ
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
132
รูปแสดงการหลังจากการทา
Stretch (การยืด)
จากตารางในหน้ าต่างของLine ดูที่หวั ข้ อการเลือกที่ซ้ายมือ ได้ แก่ สี(Color) ความกว้ าง(Width) และชนิดของ
เส้ น(Line type) สาหรับสี (Color)เราสามารถเปลี่ยนสีของเส้ นที่เราเลือก โดยการคลิกที่เมนูสีในแถบColor แล้ วเลือกสี
ที่เราต้ องการ เช่นถ้ าเราเลือกสีเขียวแล้ วคลิกOK. สังเกตเส้ นของรูปที่เราคลิกก่อนหน้ านี ้จะเป็ นสีเขียวดังรูปข้ างล่าง
5.สีของเส้ นจะ
เปลี่ยนตามสีที่
เลือก
เส้ น(Line type) ให้ วางcrosshair (เคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์)ลงบนที่เส้ นแล้ วคลิกอีกครัง้ หนึง่ หน้ าต่างLineจะปรากฏขึ ้นมา
อีกครั ้งและครั ้งนี ้เราต้ องการคลิกชนิดของเส้ น (Line type) ให้ เลือ่ นลง(Drop –down)ในเมนูที่หน้ าต่างLine จะปรากฏให้
เห็น ชนิดของเส้ นแตกต่างกันหลายชนิดให้ เราเลือก เช่น ถ้ าเราต้ องการเลือกเส้ นประเล็กจากตารางที่เลือ่ นลงมาแล้ วคลิก
dash (Small) แล้ วคลิก OK. จะเห็นเส้ นบนพื ้นที่เขียนแบบในขณะนี ้จะเป็ นเส้ นประ(Dash line) ดังรูปข้ างล่าง
5.ชนิดของเส้ น
จะเปลี่ยนตาม
ชนิดที่เลือก
รูปแสดงการเลือกชนิดของเส้ น
Delete (การลบ)
ที่เมนูซ้ายมือมีไอคอน Deleteซึง่ เป็ นคาสัง่ อยู่ในเมนูModify หรื อที่เมนูหลัก(Main menu)ข้ างบน ให้ เราคลิก
Modify>Delete เป็ นการทาการลบเส้ นหรือด้ านที่เราไม่ต้องการ
ทดลอบการทางานของDelete โดยการเขียนเส้ นหรือรูปขึ ้นมาเวลาจะลบเส้ นหรือด้ านใดก็คลิกที่ปมไอคอน
ุ่
Delete หรือ Modify>Delete แล้ วนาCrosshair(กากบาทที่เกิดขึ ้นเคลือ่ นพร้ อมกับการเคลือ่ นที่ของเม๊ าส์) ไปวางด้ าน
หรือเส้ นนั ้นแล้ วคลิกซ้ ายที่เม๊ าส์ เส้ น หรือด้ านนั ้นจะเปลี่ยนจากเส้ นเต็มเป็ นเส้ นประ จากนั ้นให้ กดEnter เส้ นหรือด้ าน
นั ้นจะหายไป
หรือเราอาจลบโดยคลิกเส้ นหรือด้ านที่ไม่ต้องการแล้ วคลิกด้ านบนเมนูที่Modify>Delete selected
มีวิธีการลบอีกวิธีหนึง่ ซึง่ เป็ นปุ่ มลัด (Short key) คือให้ คลิกที่เส้ นหรือด้ านที่เราจะลบแล้ วตามด้ วยการกดปุ่ ม
Deleteที่แป้นพิมพ์(Key board)ของคอมพิวเตอร์ ดังรูปข้ างล่าง
136
1.คลิกModify
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
Modifyที่Delete
3.คลิกเส้ นที่จะทาการ
ลบแล้วกดEnter หรื อกด
ที่ปมDeleteที
ุ่ ่แป้นพิมพ์
รูปแสดงวิธีการลบ(Delete) รูปแสดงหลังการทาการลบ(Delete)
4.ลบตัวอักษรบางตัว
1.คลิกModify
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ 3.คลิกกลุ่มข้อความ
Modifyที่Expiode แล้ วกดEnter
text into letters
Explode มีวิธีการทางานเช่นเดียวกับที่กล่าวข้ างต้ น (Explode text into letters) เพียงแต่ Explode เป็ นการ
กระทากับเส้ นหรือรูปทรงเรขาคณิต ไม่ได้ กระทากับข้ อความ ดังตัวอย่างรูปข้ างล่าง เราสามารถExplode เส้ นPolyline
ให้ แตกตัวออกมาเป็ นด้ านแต่ละด้ านอิสระกัน ซึง่ ง่ายต่อการจะทาการแก้ ไขเส้ นที่เราต้ องการโดยไม่ต้องไปแก้ ไขเส้ น
ทั ้งหมด
3.คลิกที่เส้ น
Polylineแล้ ว
กดEnter
4.เส้ นPolylineจะกลายเป็ น
1.คลิกModify เส้ นอิสระสามารถคลิกเลือก
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ เส้ นใดเส้ นหนึง่ ที่ใดก็ได้
Modifyที่Expiode
Align
การทาAlign เป็ นการนาเอารูปที่เราต้ องการย้ ายไปวางในตาแหน่งและแนวที่เราต้ องการ
ทดสอบโดยเขียนรูปสีเ่ หลี่ยมขึ ้นมารูปหนึง่
ที่เมนูหลัก(Main menu)ข้ างบน คลิก Modify>Align
คลิกทุกด้ านหรืออาจใช้ เครื่องมือ Select>Select windowที่เมนูหลักหรือเมนูซ้ายมือ แล้ วDragคลุมรูปสีเ่ หลีย่ ม
กดEnter
คลิกจุดอ้ างอิงจุดแรกที่รูปสีเ่ หลีย่ ม แล้ วคลิกจุดที่ต้องการวางจุดแรกนอกรูปสีเ่ หลีย่ ม
คลิกจุดอ้ างอิงจุดที่สองที่รูปสีเ่ หลียม แล้ วคลิกจุดที่ต้องการวางจุดที่สองนอกรูปสีเ่ หลีย่ ม จะปรากฏรูปสีเ่ หลี่ยม
นั ้นเคลือ่ นไปอยู่ในตาแหน่งใหม่ในรูปของเส้ นประ
ที่เมนูซ้ายมือ(Main CAD tools) คลิก Select>Deselect window แล้ วDragคลุมทุกด้ าน(เส้ นประทั ้งหมดแล้ ว
ปล่อยเม๊ าส์ หรืออาจคลิกที่ปมDeselect
ุ่ all อย่างเดียว จะได้ รูปสีเ่ หลีย่ มรูปเก่าแต่อยู่ในตาแหน่งใหม่
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่ ดังรูปข้ างล่าง
138
3.คลิกเลือกทุกด้ าน
แล้ วกดEnter
4.คลิกจุดอ้ างอิงจุด
ที่หนึง่ แล้ วนาไปวาง
ตาแหน่งที่ต้องการ 1.คลิกModify
5..คลิกจุดอ้ างอิงจุดที่สอง 2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
แล้ วนาไปวางตาแหน่งที่ Modifyที่Align
ต้ องการ แล้วคลิกขวาเพื่อ
ออกจากคาสัง่
6.คลิกSelect>Deselect
window แล้วDragคลุม
เส้ นประของรูปสี่เหลียมหรือ
คลิกปุ่ ม Deselect all จะ
เปลี่ยนเป็ นเส้ นเต็ม
บทที่11
Snap
Snap เป็ นการกาหนดการเคลือ่ นที่ของ Crosshair cursor (เคอร์ เซอร์ รูปกากบาทของเม๊ าส์)ในลักษณะเกาะติด
หรือจับสิ่งที่เราเลือก เช่นจับที่Grid หรือจับที่จดุ ปลายของเส้ น หรือ จุดตัดของเส้ นตัดกัน เป็ นต้ น แล้ วแต่เราจะเลือกชนิด
ของSnap ให้ ทางาน เพี่อให้ เกิดความสะดวกและแม่นยาในการระบุจดุ บนพื ้นที่เขียนแบบ การเปิ ดSnapให้ ทางานในสิง่
ที่เราต้ องการแล้ ว เมื่อบรรลุจุดประสงค์แล้ วควรปิ ดการทางานของSnap แล้ วดาเนินการเขียนแบบต่อไป เพราะบางงาน
ของการดาเนินงานขั ้นตอนต่อไปอาจติดขัดเพราะเราเปิ ดSnap (Snap on)ค้ างไว้ ดังตัวอย่างเช่นถ้ าเราเขียนรูปสีเ่ หลีย่ ม
ขึ ้นมาหนึง่ รูปแต่เราคลิกที่ไอคอน Snap on entityจากแถบทูลล์บาร์ ข้างบน(Top toolbar)ซึง่ เราเรียกว่าเปิ ดSnap on
entityค้ างไว้ แล้ วเราลองเขียนรูปสีเ่ หลีย่ มใหม่อีกรูปนอกเขตรูปสีเ่ หลีย่ มเก่า จะเห็นว่าเราไม่สามารถเขี ยนรูปสีเ่ หลีย่ ม
ใหม่ได้ จนกว่าเราจะปิ ด Snap on entity โดยการคลิกที่ไอคอนตัวมัน(Snap on entity)อีกครั ้ง หรือเราอาจคลิกเปิ ด
ไอคอนFree snap อีกตัวที่ตั ้งอยู่มุมซ้ ายสุดบรรทัดเดียวกัน แล้ วเราสามารถเขียนรูปสีเ่ หลี่ยมใหม่ได้ ดังรูปข้ างล่าง
Snap on grid เป็ นการSnapกับเส้ นGridที่มนั ตัดกัน คาสัง่ ในCommand line คือsg
ประโยชน์ของการใช้ Snap on grid คือถ้ าเราลองเขียนเส้ นตรงเส้ นหนึง่ โดยมีจดุ แรกที่จดุ บนGrid เวลาเราลากเส้ น
ตรงนี ้ไปมันจะไปเป็ นเส้ นตรง ซึ่งจะทาให้ เราเขียนแบบได้ ง่ายขึ ้น
ทดสอบโดย คลิกเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools)คลิก Line>Line with two points สังเกตก่อนที่เราจะคลิก
วางเส้ นนั ้นเราสามารถเคลือ่ นเคอร์ เซอร์ ไปได้ อย่างอิสระบนทุกที่จอเขียนแบบ รวมทัง้ บนจุดทุกจุดของGrid
เรากลับมาคลิกSnap>snap on grid ที่แถบทูลล์บาร์ ข้างบน(Top toolbar) สังเกตเห็นได้ ว่าเมื่อเราเคลือ่ น
Crosshair(เคอร์ เซอร์ ที่เม๊ าส์) มันจะพยายามเคลือ่ นจับจุดของGridที่อยู่ใกล้ ที่สดุ กับCrosshair ดังรูปข้ างล่าง
1.คลิกSnap on grid
Snap distance ถ้ าเราSnapจุดปลายของเส้ นที่เขียนเส้ นหนึง่ แล้ วใช้ Snap distance ที่50
หน่วย(ระบุที่กล่องเลือกค่าที่เป็ นแถบอยู่เหนือพื ้นที่เขียนแบบ) แล้ วมันจะทาการSnapจุดที่อยู่ห่างจากจุดปลาย(End
point)เป็ นระยะ50หน่วย อย่างไรก็ตามมันอาจไปSnap จุดที่ห่าง50หน่วยจากจุดปลายเส้ นอื่นก็ได้
Restrict Nothing จะเปิ ดSnap ของRestrict Horizontal และ Restrict Vertical พร้ อมก้ น
บทที่12
Info icons
บนเมนูหลัก(Main menu)หรือเมนูไอคอนทางซ้ ายมือ(Main CAD tools)เราจะพบไอคอนInfo (ไอคอนรูปบรรทัดสี
เขียวแนวนอน)
3.คลิกSnap on end
point
1.คลิกInfo
2.คลิกเมนูยอ่ ยของInfo
ที่ Distance point to
point 4.คลิกจุดแรก 5.คลิกจุดที่สอง
6.ขนาดระยะจะระบุให้ เราทราบ
3.คลิกทีด่ ้ านบน
1.คลิกInfo
4.คลิกทีจ่ ดุ ทแยงมุม
2.คลิกเมนูยอ่ ยของInfo
ที่ Distance entity to
point
5.คาตอบขนาดระยะห่าง
4.คลิกที่เส้ นทีส่ อง
1.คลิกInfo
2.คลิกเมนูยอ่ ยของInfo
ที่ Total length of
3.คลิกที่เส้ นทีห่ นึง่
selected entities
ด้ านบนฃ
5.คาตอบขนาดของความยาวทังหมด
้
ถ้ าคลิกคาสัง่ Info จากเมนูซ้ายมือ(Main CAD tools) ไอคอนล่างสุดคือคาสัง่ Area of polygons จะให้ เราวัด
พื ้นที่รูปหลายเหลี่ยม เราสามารถทดสอบโดยการเขียนรูปสามเหลีย่ มขึ ้นมาก่อนหนึง่ รูป
เพื่อความสะดวกในการคลิกจุดเราอาจคลิกเปิ ดปุ่ มSnap on end points ที่Top toolbar
คลิกจุดแรก คลิกจุดถัดไป(จุดที่สอง) และคลิกจุดถัดไป(จุดที่สาม)
145
จะได้ คาตอบขนาดพื ้นที่ทั ้งหมดของรูปสามเหลีย่ มที่ Command output and history ดังรูปข้ างล่าง
3.คลิกSnap on endpoints
6.คลิกจุดที่สาม
1.คลิกInfo
5.คลิกจุดที่
2.คลิกเมนูยอ่ ยของInfo
สอง
ที่ Area polygons
4.คลิกจุดที่หนึง่
7.คาตอบขนาดของพื ้นที่ทงหมด
ั้
นอกจากนี ้ถ้ าเราคลิกเมนูหลัก(Main menu)ข้ างบนและคลิกที่ Info>List entity แล้ ววางเคอร์ เซอร์ กากบาทคลิก
ลงด้ านใดด้ านหนึง่ หรือทุกด้ าน ตามด้ วยการกดEnter เราจะพบรายละเอียดของด้ านหรือเส้ นที่เราคลิกปรากฏขึ ้นมาให้
เราเห็น ดังรูปข้ างล่าง
บทที่13
Layers (เลเยอร์ )
.Layers(เลเยอร์ ) เป็ นการเขียนขึ ้นมาแต่ละส่วนของวัตถุหรือชิ ้นงาน เป็ นการควบคุมการจัดเก็บลักษณะของเส้ นที่
สร้ างขึ ้นด้ วยคาสัง่ ต่างๆให้ เป็ นหมวดหมู่ มีความสาคัญพิเศษสาหรับการเขียนแบบโดยแท้ จริ ง การเขียนLayer(เลเยอร์ )
เป็ นการเขียนแบบในลักษณะเปรียบเหมือนแต่ละชิ ้นงานเขียนบนแผ่นใสแต่ละชั ้น เมื่อจะดูภาพรวมของแบบก็เอา
แผ่นใสนั ้นทุกชั ้นมาวาง หรืออีกนัยหนึง่ อาจพูดได้ ว่า Layers(เลเยอร์ ) มีความสาคัญมากในแบบเกี่ยวกับการประกอบ
(Assembly drawing) แบบการประกอบ(Assembly drawing)คือแบบแสดงสองสิง่ หรือมากกว่ามาประกอบกันบนแบบ
แต่ละส่วนถูกเขียนบนแต่ละLayer(เลเยอร์ )ของมัน เมื่อเลเยอร์ ทั ้งหมดถูกแสดงบนแบบ เราต้ องประกอบให้ สมบูรณ์ให้
เห็นในแบบนั ้น ในโรงงานอุตสาหกรรมผลิตวัสดุสงิ่ ของ แบบประกอบ(Assembly drawing)ของเครื่องจักรเครื่องหนึง่
อาจมีถงึ 50เลเยอร์ หรือมากกว่า แต่ละเลเยอร์ แสดงชิ ้นส่วนแต่ละอย่างแตกต่างกันไป ไม่เพียงแต่แสดงชิ ้นส่วนแต่ยงั
บอกว่าประกอบกันอย่างไรในการประกอบแต่ละครัง้ ในการตรวจแบบจากเลเยอร์ นี ้ทาให้ เราพบข้ อผิดพลาดซึง่ สามารถ
เกิดขึ ้นในการประกอบ และสามารถแก้ ไขได้ จากเลเยอร์ ส่วนที่ผิดพลาด
เราสามารถเรียกใช้ คาสัง่ เลเยอร์ (Layer)จากเมนูหลัก(Main menu) หรือรายการเลเยอร์ (Layer list) ที่กล่องเล
เยอร์ )Layer box)ซึง่ ติดตั ้งอยู่ทางขวามือของพื ้นที่เขียนแบบ(Main drawing area ) ดังรูปข้ างล่าง
เลเยอร์(Layer)ที่เรา
เขียน
ข้ างใต้ ไอคอนจะมีแถบรายการเลเยอร์ (Layer list) ที่นี่จะแสดงเลเยอร์ ทั ้งหมดในแบบ และถ้ าเลเยอร์ อนั ไหน
ต้ องการ มองเห็นหรือไม่เห็นในการพิมพ์แบบแปลนออกมา เราสามารถสัง่ ได้ จากการปิ ดหรือเปิ ดที่ไอคอนลูกตา(Toggle
layer visible)ของรายการเลเยอร์ นี ้ อนึง่ สาหรับชื่อเลเยอร์ 0เป็ นเลเยอร์ ที่มีติดตัวมาตั ้งแต่แรก(Default layer) เราไม่อาจ
เปลีย่ นเป็ นชื่อเลเยอร์ อื่นได้ และไม่สามารถลบ(Remove the current layer )เลเยอร์ 0นี ้
Toggle layer visibility (ไอคอนรูปเครื่องหมายลูกตา ที่วางอยู่หน้ าสุดของแถบชื่อเลเยอร์ ในLayer list เป็ น
ไอคอนที่คลิกเพื่อให้ เราเห็นหรือไม่ต้องการให้ เห็นรูปที่เขียนบนเลเยอร์ ของแถบชื่อที่เราคลิก
มีไอคอนตัวหนึง่ คือ Toggle layer lock (ไอคอนรูปแม่กุญแจ) เป็ นคาสัง่ ที่แสดงให้ ร้ ู ว่าถ้ าคลิกไอคอนนี ้ให้ ทา
งาน(ปรากฏไอคอนแม่กุญแจสีดา)บนเลเยอร์ ใด จะไม่สามารถคลิกที่เส้ นหรือด้ านเพื่อเลือกให้ ทางานอย่างใดอย่างหนึง่
149
เปิ ดเลเยอร์ ใหม่โดยคลิกไอคอนAdd layer (เครื่องหมายบวก)ในLayer list จะมีหน้ าต่างLayer settingขึ ้นมาให้
เราตั ้งชื่อ ในขณะนี ้เราจะให้ ชื่อว่าDim และมีช่องให้ เราเลือกสีที่จะเขียนเส้ นในที่นี ้เราเลือกสีเขียว และคลิก OK. ดังรูป
ข้ างล่าง
หลังจากที่เราตั ้งค่าบนหน้ าต่าง Layer settingเสร็ จให้ เราเขียนเส้ นบอกขนาดในรูป จะปรากฏเส้ นบอกขนาด
เกิดเป็ นสีเขียวตามที่เราตั ้งค่าไว้ และถ้ าสังเกตจะพบที่แถบซ้ ายของ Pen selection จะมีสญ
ั ลักษณ์ สตี ามที่เราเลือกตั ้ง
ค่าใน Layer selection ด้ วย ดังรูปข้ างล่าง
สัญลักษณ์สีที่
เกิดขึนหลั
้ งตัง้ ค่าใน
Layer setting
สีของเส้ นที่เขียน
หลังตัง้ ค่าในLayer
setting แถบสีเทาคลุมชือ่ เล
เยอร์ แสดงถึงกาลัง
ทางานในเลเยอร์
นัน้
คลิกให้ มีเครื่องหมายถูก
หรื ออาจคลิก
ที่สญ
ั ลัษณ์นี ้
บทที่14
Block
Block เป็ นการเขียนรูปภาพวัตถุหรือชิ ้นงาน เก็บเอาไว้ เป็ นกลุ่มเพื่อสะดวกในการเรียกมันมาใช้ ในลักษณะทีต้อง
เขียนซ ้าๆในลักษณะเดิม เป็ นการประหยัดเวลาไม่ต้องเริ่ มต้ นเขียนรูปวัตถุเดิมนั ้นใหม่ เช่นเมื่อเขียนรูปภาพของบ้ านที่
มีประตูพร้ อมวงกบที่มีขนาดเดียวกันหลายๆที่ในบ้ าน เราสามารถเขียนบานประตูพร้ อมวงกบชุดเดียวและทาการเก็บ
รูปแบบบานประตูพร้ อมวงกบไว้ ในรู ปของBlock แล้ วนาBlockที่สร้ างไว้ แล้ วไปใช้ วางในตาแหน่งที่ต้องการได้ อนึง่ ใน
การเขียนแบบในBlock ควรเขียนด้ วยมาตราส่วน1:1 เนื่องจากง่ายต่อการนาไปใช้ งาน และควรทาหมายเหตุหรือที่ๆ
สังเกตง่ายต่อการค้ นหาจุดที่จะนาBlockไปเก็บไว้
เราสามารถเรียกใช้ คาสัง่ Block จากเมนูหลัก(Main menu)หรือรายการบล๊ อก ( Block list)ที่กล่องบล๊ อก ( Block
box)ซึง่ ติดตั ้งอยู่ทางขวามือของพื ้นที่เขียนแบบ(Main drawing area ) ดังรูปข้ างล่าง
รูปแสดงการเขียนแบบเพื่อทาเป็ น
Block
153
วิธีการสร้ าง Block
จากตัวอย่างรูปข้ างบนจะเห็นเป็ นรูป Nutหกเหลีย่ มด้ านบนและด้ านหน้ าหรือด้ านข้ าง ในการเขียนรูปเช่นนี ้
ประกอบด้ วยการเขียนเลเยอร์ 6เลเยอร์ (ดูLayer listทางด้ านขวามือ)
จากเมนูหลัก(Main menu)ข้ างบนคลิกBlock>Create block หรื ออาจคลิกไอคอน Create Block จากBlock
box (รายการ Block list)
ต่อไปคลิกไอคอน Select>select windowจากเมนูด้านซ้ ายมือ(Main CAD tools) แล้ วคลิกลาก(Drag)คลุม
รูปNut หกเหลีย่ มที่เราจะทาBlock จากนั ้นกดEnter
คลิกจุดอ้ างอิงโดยคลิกจุดใดจุดหนึ่งบนรูปที่จะทาBlock จะมีหน้ าต่างเล็กๆ(Block settings)ปรากฏขึ ้นมา ให้
เราเติมชื่ออะไรก็ได้ ในการทดสอบนี ้เราจะให้ ชื่อว่า Block แล้ วกดOK.ที่หน้ าต่างBlock settings นั ้น ดังรูปข้ างล่าง
2.คลิกเลือกทังหมดโดยคลิ
้ ก
1.คลิกCreate Block
ที่Select>Select window
แล้ วDragคลุมรูปทังหมดแล้
้ ว
3.คลิกจุดอ้ างอิงที่ใดที่
กดEnter หนึง่ บนรูป
4.ระบุชอื่ Blockแล้ ว
คลิกOK.
1.คลิกCreate
Block
5.ชื่อ Blockจะมาปรากฏ
รูปแสดงการสร้ างBlock
154
2.คลิกInsert Block
1.คลิกแถบชือ่
3.คลิกวางรูปที่เกิดใหม่ที่
ตาแหน่งที่ต้องการ แล้ว
คลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่
3.คลิกเลือกทังหมดโดยการคลิ
้ ก
Select>Select windowแล้ ว
Dragคลุมรูปทังหมด
้ แล้ วกดOK.
1.คลิกModify
2.คลิกเมนูยอ่ ยของ
Modifyที่Explode
รูปแสดงการทาExplode ที่Block
1.คลิกDelete Block
2.คลิกชื่อ Block
4.รูปBlockจะถูกลบ
3.คลิกOK.
ถ้ าเราจะSave Block ที่เราสร้ างขึ ้นมา ให้ เราคลิกไอคอนSave Block ที่Block list หรือที่เมนูหลัก(Main
menu) คลิก Block>Save block ซึง่ เราสามารถบันทึกBlockนั ้นไปเก็บไว้ ในPath file ที่ต้องการ
เวลาจะเปิ ดBlockที่เราSaveไว้ นามาใช้ งานในLibreCAD ให้ คลิกFile>Import>Block>คลิกชื่อBlock.ในPath
ที่เราเก็บไว้ และคลิกOpen ที่หน้ าต่างPathนั ้น
นอกจากนี ้ยังมีไอคอนEdit Block สาหรับการนาBlock มาทาการแก้ ไข แต่หลังจากการแก้ ไขเป็ นรูปใหม่แล้ วไม่
สามารถSave เป็ นBlockได้ ถ้ าต้ องการแก้ ไขและSaveเป็ นBlockต้ องทาการExplodeก่อนแล้ วถึงนารูปที่แก้ ไขนั ้นมา
สร้ างเป็ นBlock และSaveเก็บเอาไว้
สาหรับไอคอนรูปลูกตาปิ ดเป็ นไอคอน ขื่อHide all Blocks เมื่อคลิกที่ไอคอนนี ้จะทาให้ ทุกรูปที่เขียนเป็ นBlock
บนพื ้นที่เขียนแบบหายไป
ส่วนไอคอนรูปลูกตาเปิ ดเป็ นไอคอน ขื่อ Show all Blocks เมื่อคลิกที่ไอคอนนี ้จะทาให้ ทุกรูปที่เขียนเป็ นBlock
บนพื ้นที่เขียนแบบนั ้นปรากฏขึ ้นมา
ชื่อของBlock(Square)จะไปปรากฏที่Block list
3.ชื่อจะมาปรากฏที่
Block list
1.คลิกAdd Block
4.คลิกชือ่ ของBlock
5.คลิก Edit
Block
2.ระบุชอื่ แล้ วคลิกOK.
คลิกชื่อSquareที่Block list แล้ วคลิกBlock>Edit the active Block จะเกิดหน้ าต่างว่างเปล่าขึ ้นที่พื ้นที่เขียน
แบบและชื่อSquareที่Block listก็หายไปด้ วย
เขียนรูปสีเ่ หลีย่ มจัตุรัสขนาด 50มม.x50มม.ขึ ้นมาใหม่หนึง่ รูป
ปิ ดหน้ าต่างBlock edit โดยคลิกที่Corner toolbar (ตาแหน่งLogoของLibreCAD ตั ้งอยู่ที่มุมซ้ ายสุดบนแถบ
Top toolbar) แล้ วคลิกClose จะปรากฏมีรูปสีเ่ หลีย่ มขนาด200มม.x200มม.เกิดขึ ้น
คลิกBlock>Insert จะปรากฏว่ามีรูปสีเ่ หลีย่ มขนาด50มม.x50มม.,มาพร้ อมกับเคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์ ให้ คลิก
วางรูปนั ้นใกล้ รูปเดิมขนาด200x200มม. แล้ วคลิกขวาเพื่อออกจากคาสัง่
เราสามารถลบรูปขนาด200x200นี ้ได้ เหลือไว้ เพียงรูปสีเ่ หลีย่ มขนาด50x50มม.รูปนี ้จะเป็ นBlockของSquare
ดังรูปข้ างล่าง
11.ลบรูปสี่เหลี่ยมเก่า
7.คลิกทืCorner
toolbar
9.คลิกInsert Block
8.คลิกCloseที่เมนู
ย่อยของCorner
toolbar 6..เขียนรูปสี่เหลี่ยม
ขึนมาใหม่
้ 10.คลิกวางรูปสี่เหลี่ยมใหม่
การเพิ่มBlockไปยังLibrary
การเขียนBlockแล้ วไปเก็บเพิ่มที่Library เปรียบเสมือนห้ องสมุดให้ เราเก็บหนังสือ เวลาเราจะนาBlock มา
ใช้ จะสะดวก ค้ นหาง่ายขึ ้น และสามารถค้ นหาได้ เร็ว LibreCAD LibraryจะมีติดตัวมากับโปรแกรมของLibreCAD ซึง่ เรา
สามารถค้ นหาได้ ไม่ยากดังที่จะกล่าวต่อไป
เขียนรูปใดๆขึ ้นมารูปหนึ่งอาจสร้ างเลเยอร์ ขึ ้นมาหรือในขณะนี ้เราใช้ เลเยอร์ 0และเขียนรูป ดังรูปข้ างล่าง
1.คลิกProgram Fileจาก
ไดร๊ ฟ์ที่เราDownloadมา
2.คลิกLibreCAD
4.คลิกLibrary
3.คลิกResource
มาแล้ วคลิกSave
6.คลิกทีช่ ื่อ
Block(Spurgear)
9.คลิกMisc
10.พิมพ์ชื่อของ
Block(Spurgear)แล้ ว
คลิก Save
159
12.คลิก Misc
11.คลิก
View>Toolbars>Library
13.คลิกชือ่ Block(Spurgear)
browser
14.คลิกInsert
รูปแสดงหลังการInsert
อนึง่ เราสามารถSaveหรือบันทึกPath ของ Path library เก็บไว้ ที่หน้ าต่างของApplication Preferencesได้
โดยการคลิกที่เมนูหลัก(Main menu)แล้ วคลิกEdit>Application Preferences>Path แล้ ววาง(Paste)Path Libraryลง
ไปที่ช่อง Path Libraries แล้ วกดEnterดังรู ปข้ างล่าง
14.คลิกPaths
คลิกวาง(Paste)ชื่อของPath Libraryที่
คัดลอกมาจาก LibreCAD (Program File)
แล้ วคลิกOK.
Title Block ปก
แบบทุกแบบแปลน จะมีTitle Block ซึง่ เป็ นที่ๆอยู่สาหรับรายงานพิเศษเกี่ยวกับชื่อบริษัท ชื่อชิ ้นส่วน ชื่อ
ผู้เขียนแบบ ชื่อวัสดุ ความหนา มาตราส่วน และเลขหมายหรือเลขที่ชิ ้นส่วน หรือเลขที่แบบแปลน ซึง่ จะทาเป็ นBlock
โดยที่เราอาจทาเป็ นBlockธรรมดาๆหรือสลับซับซ้ อนแล้ วแต่เราต้ องการ ดังรูปข้ างล่าง
บทที่15
Window
สาหรับเครื่องมือตัวสุดท้ ายที่ติดตั ้งอยู่บนแถบเมนูหลัก (Main menu) ได้ แก่ Window คาสัง่ Window เป็ น
คาสัง่ ที่ใช้ เรี ยกงานไฟล์เขียนแบบหลายไฟล์ในคราวเดียวกัน เป็ นการทาให้ การทางานได้ รวดเร็ วขึ ้น นอกจากนี ้ยังใช้ ใน
การจัดเรียงหน้ าจอเขียนแบบของแต่ละไฟล์ในลักษณะต่างๆกันแล้ วแต่จะเรียง การที่จะเรี ยกคาสัง่ Window ดังรูป
ข้ างล่างนี ้ ต้ องทาการเขียนแบบบนหน้ าต่างเขียนแบบอย่างน้ อย 2 หน้ าต่าง(2ไฟล์เขียนแบบ) เก็บไว้ ในคราวเดียวกัน
ทีT่ ab mode ยังสามารถเรี ยกดู Sub window mode หรือ Cascadeซึง่ จะปรากฏให้ เห็นหน้ าต่างทั ้งสองไฟล์
ซ้ อนกัน ดังรูปข้ างล่าง
รูปแสดงการจัดเรียงหน้ าต่าง
แบบ Tile vertically
163
รูปแสดงการเรียงหน้ าต่างแบบ
Tile Horizontally
มีวิธีการเรี ยกไฟล์เขียนแบบอีกวิธีหนึง่ ที่เมนูย่อยของWindow ให้ เราคลิกเครื่องหมายถูกที่หน้ าชื่อของไฟล์ที่
เราจะเขียน(บริเวณบรรทัดสุดท้ าย) ดังรูปข้ างล่าง
164
บทที่16
เทคนิ คการทาให้ เขียนแบบในLibreCADง่ ายขึน้
ตั ้งค่าหน่วยที่ต้องการให้ เป็ นค่าที่ Default จะทาให้ เราประหยัดเวลาในตอนเริ่มต้ น ซึง่ เราจะพบได้ ตอนติดตั ้ง
โปรแกรมLibreCAD
ในการค้ นหาปุ่ มบนเมนูให้ ชี ้เม๊ าส์ไปบนปุ่ มเครื่องมือเพื่อใช้ คาอธิบายบนเครื่องมือ (Tool tip )
เมื่อเราทางานบนLibreCAD เราต้ องค้ นหาเครื่องมือเขียนแบบ(Drawing tools)ต่างๆซึง่ ส่วนใหญ่จะเก็บ
ไว้ ในกลุม่ เครื่องมือที่แสดงอยู่บนแถบเครื่องมือซ้ ายมือของจอ(Main CAD tools) ที่กลุม่ ของเครื่องมือเหล่านี ้แต่ละ
เครื่องมือยังประกอบด้ วยกลุ่มเครื่องมือย่อยๆ ดังตัวอย่างเมื่อเราคลิกที่เครื่องมือ Line จะมีเครื่องมือเป็ นแถว(Drop-
down)แสดงออกมาซึ่งจะทาให้ เราสามารถนาไปเขียนให้ เป็ นเส้ นและรูปทรงซึง่ ประกอบกันเป็ นเส้ นได้
คุณลักษณะที่ดีอย่างหนึง่ ของLibreCAD คือเมื่อเราวางเคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์บนปุ่ มเครื่องมือมันจะปรากฏ
รายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องมือตัวนั ้นให้ เราทราบ หากจะมีความสับสน เกี่ยวกับสัญลักษณ์ของปุ่ มเครื่องมือ ที่เราวาง
เคอร์ เซอร์ ของเม๊ าส์อยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหามากเพราะปุ่ มเหล่านั ้นจะอธิบายหน้ าที่ของมันให้ เราทราบได้
ใช้ Snap to grid และ Snap อื่นๆประกอบการเขียนแบบจะทาให้ การทางานง่ายขึ ้น
ในLibreCAD เราสามารถใช้ Snap to Grid ในการเขียนให้ เส้ นหรือรูปทรงให้ เกาะจับ (Snap)กับจุดที่
Gridทาให้ เราสามารถวางแนวและตาแหน่งได้ แน่นอน รวมทั ้งอาจใช้ Snap ตัวอื่นๆเช่น Snap on end points หรือ
Snap on entity เป็ นต้ น แต่อย่าลืมปิ ดSnapเมื่อเราต้ องใช้ คาสัง่ เขียนต่อไป หรืออาจเปิ ดปุ่ มFree Snap ทิ ้งไว้ ถ้าเราไม่
ต้ องการปิ ดSnap ในโหมดอื่น
ใช้ Layer ประกอบในการเขียนแบบ
ในการเขียนแบบด้ วยCAD วิธีดีที่สดุ คือการสร้ างLayerในการเขียนแบบ แบบพื ้นฐานทัว่ ๆไปจะวาง
Layerอยู่ชั ้นบนของแบบอื่นๆ มันเปรียบเหมือนเราวางแผ่นใสซึง่ ระบุรายการชองแบบต่างๆวางซ้ อนกัน เราสามารถเพิ่ม
หรือถอดมันออกจากชั ้นบนได้
ใช้ เมนูLayerที่เมนูหลัก(Main menu)หรือคลิกที่ไอคอนของเลเยอร์ ในบริเวณLayer list แล้ วสร้ างและเพิ่ม
Layerโดยกาหนดให้ มีสขี องวัตถุหรือเส้ นต่างๆในแต่ละLayer
ถ้ าเราสังเกตจะพบว่าตอนแรกเขียนแบบจะมีLayer ที่เป็ นDefault (มีชื่อLayer 0)ซึง่ จะมีสเี ส้ นมาพร้ อมกับ
Default layer เมื่อเราทาการเขียนและเพิ่มLayerไป จะทาให้ เราสามารถจัดการเขียนแบบงานใหญ่ได้ โดยอย่างดีเลิศ
เมื่อเราต้ องการเน้ นวัตถุหรือเอาวัตถุที่สบั สนของการเขียนแบบที่เหลืออยู่ก็เพียงแต่เราเพิ่มหรือถอดออก
จากLayerนั ้นได้ โดยง่าย
ใช้ ข้อความ(Text)ตลอดการเขียนแบบ
หลักการนี ้ขึ ้นอยู่กบั แบบที่เราเขียน แต่แบบส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีข้อความบอกมากในแบบ ข้ อความจะ
สือ่ ให้ เรารู้ว่ามันหมายถึงอะไรหรือวัตถุประสงค์ของพื ้นที่ต่างกันในแบบของเรา
165
บทที่ 17
การใช้ คาสั่งใน Command Line
การเขียนแบบในLibreCAD มีการใช้ คาสัง่ อีกทางหนึง่ โดยใช้ Command line นอกเหนือจากการใช้ คาสัง่ โดย
ทางเมนูหลัก(Main menu) และการใช้ คาสัง่ โดยการคลิกที่ไอคอนเครื่องมือ (Tool icon)ดังที่กล่าวมาแล้ ว การใช้ คาสัง่
โดยใช้ Command line เป็ นการโต้ ตอบกับโปรแกรมผ่านแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ ซึง่ เราสามารถใช้ คาสัง่ ที่จะทางาน
เฉพาะและแม่นยาในตาแหน่งในแบบ เราสามารถเขียนเส้ นต่างๆ รูปสีเ่ หลีย่ ม วงกลม และอีกมากมาย Command line
ปรากฏขึ ้นบนพื ้นที่เขียนแบบของเราในLibreCAD
Draw
Point พิมพ์ po, point
Line พิมพ์ l,li,line
Polyline พิมพ์ pl,polyline
Line Parallel พิมพ์ o,pa,offset,parallel
Arc 3 P พิมพ์ a , ar, arc
Circle พิมพ์ ci , circle
Line Rectangle พิมพ์ rec , rect, rectangle
M-Text พิมพ์ mtext
Text พิมพ์ text
167
View
Zoom Redraw พิมพ์ zr ,rg,regent, redraw
Zoom Window พิมพ์ zw
ZoomAuto พิมพ์ za
ZoomPan พิมพ์ zp
ZoomPrevious พิมพ์ zv
Edit
Edit Undo พิมพ์ u ,undo .oo
Edit Redo พิมพ์ r, redo , uu
Dimension
Dimaligned พิมพ์ da
DimLinearHor พิมพ์ dh
DimLinearVer พิมพ์ dv
DimLeader พิมพ์ ld
Modify
Modify Trim พิมพ์ xt ,rm
ModifyTrim2 พิมพ์ tm
Modify Move พิมพ์ mv
Modify Bevel พิมพ์ ch, fillet
Modify Mirror พิมพ์ mi
Modify Rotate พิมพ์ ro
Modify Scale พิมพ์ sz
Modify Stretch พิมพ์ ss
Modify Delete พิมพ์ er
Blocks Explode พิมพ์ Xp
168
169