You are on page 1of 14

ดนตรีล้านนากับการพัฒนาชุมชน

LANNA MUSIC AND COMMUNITY DEVELOPMENT


เกริกพงศ์ ใจค�ำ1, ปรเมศวร์ สรรพศรี2, โอม จันเตยูร3* และ พิพัฒน์พงศ์ มำศิร4ิ
Krerkpong Jaikum1, Poramase Subphasri2, Ohm Chanteyoon3* and Phiphatphong Masiri4
263/2 หมู่ 7 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 501501
มหำวิทยำลัยรำชภัฏเชียงใหม่ 202 ถ.ช้ำงเผือก ต.ช้ำงเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 503002
วิทยำลัยดุรยิ ศิลป์ มหำวิทยำลัยพำยัพ ถ.แก้วนวรัฐ ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 500003
45 หมู่ 3 ต.หนองช้ำงคืน อ.เมือง จ.ล�ำพูน 511504
236/2 Moo 7, Inthakin Sub-district,Mae Taeng District, Chiang Mai Province 501501
Chiang Mai Rajabhat University, 202 Chang Puak Road, Chang Puak Sub-district, Mueang District, Chiang Mai Province 503002
Payap University, Kaew-Nawarat Road, Wat Ket Sub-district, Mueang District, Chiang Mai Province 500003
45 Moo 3, Nong Chang Khuen Sub-district, Mueang District, Lamphun Province 511504
*Corresponding author E-mail: ohm_c@payap.ac.th
(Received: 29 Apr, 2022; Revised: 27 Jun, 2022; Accepted: 28 Jun, 2022)

บทคัดย่อ
บทควำมวิชำกำรเรื่องดนตรีล้ำนนำกับกำรพัฒนำชุมชนฉบับนี้ เกิดขึ้นจำกควำมสนใจแนวคิดเกี่ยวกับ
ควำมส�ำคัญของกำรพัฒนำชุมชนและประโยชน์ของดนตรีในกำรพัฒนำชุมชน ซึ่งทั้งสองแนวคิดนี้มีควำมสัมพันธ์กัน
โดยเฉพำะในประเด็นเกี่ยวกับแนวทำงในกำรพัฒนำชุมชน ผู้เขียนได้น�ำเอำควำมสัมพันธ์ของแนวคิดทั้งสองมำสร้ำง
กรอบแนวคิดในกำรใช้ดนตรีเพื่อกำรพัฒนำชุมชนขึ้น ผู้เขียนได้ท�ำกำรศึกษำข้อมูลเกี่ยวกับดนตรีล้ำนนำที่ปรำกฏใน
งำนเขียน งำนวิจัย และสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อใช้สนับสนุนแนวคิดและกำรน�ำเสนอแนวทำงในกำรใช้ดนตรีล้ำนนำ
เพื่อพัฒนำชุมชน ผลจำกกำรสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับดนตรีล้ำนนำจำกแหล่งข้อมูลต่ำง ๆ ผู้เขียนได้พบควำมเป็นไปได้
ของกำรใช้ดนตรีล้ำนนำเพื่อพัฒนำชุมชนที่เกิดขึ้นมำแล้วในกำรศึกษำก่อนหน้ำนี้ โดยพบข้อมูลที่แสดงถึงบทบำทของ
ดนตรีล้ำนนำกับกำรพัฒนำชุมชนที่เกิดขึ้นใน 3 ด้ำน คือ ด้ำนเศรษฐกิจ ด้ำนสังคม และด้ำนกำรเมืองกำรปกครอง
ผู้เขียนหวังว่ำ บทควำมวิชำกำรฉบับนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นแนวทำงส�ำหรับผู้ที่อยู่ในแวดวงวิชำกำรเกี่ยวกับ
กำรพัฒนำชุมชนและวิชำกำรทำงด้ำนดนตรีที่จะได้น�ำแนวคิดนี้ไปปรับใช้หรือพัฒนำเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อไป

ค�าส�าคัญ: ดนตรีล้ำนนำ, กำรพัฒนำชุมชน

1 ,4
นักวิชาการอิสระ
2
อาจารย์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
3
อาจารย์ วิทยาลัยดุริยศิลป์
2
พิฆเนศวร์สาร ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม - มิถุนายน 2565
ABSTRACT
This academic paper was inspired by the idea of community development and the benefits of music in
community development. These two principles are particularly relevant to the topic of community development
initiatives. The relationship between the two notions has been used by the author to establish a conceptual framework
for employing music for community development. After investigating information regarding Lanna music found in
literature, research papers, and social media in order to support ideas and give guidelines for using Lanna music
for community development, the contribution of Lanna music to community development happened in three areas:
economic, social, and political. The author hopes that this academic paper will be useful and be used as a guideline
for those in the academic community, both in the field of community development and music academics, who can
apply this idea to or develop it for any number of benefits.

KEYWORDS: Lanna Music, Community Development


3
Ganesha Journal Vol. 18 No. 1 January - June 2022
บทน�า มีนักวิชำกำรต่ำง ๆ แสวงหำแนวทำงที่ท�ำให้ชุมชนเกิด
ชุมชน หรือ Community เป็นค�ำที่มีกำรใช้กัน ควำมเข้มแข็งและสำมำรถเผชิญกับปัญหำต่ำง ๆ ได้ เช่น
ในควำมหมำยที่ ก ว้ ำ งขวำงตำมลั ก ษณะของบริบ ทใน กำรวิจัยของ รพีภัทร์ สุขสมเกษม (2559, น. 31-32)
กำรใช้เช่น ในด้ำนกำรปกครองของสังคมไทยทีม่ มี ำแต่เดิม ได้กล่ำวถึงลักษณะของชุมชนที่มีควำมเข้มแข็งว่ำ เกิดขึ้น
ค�ำว่ำชุมชนมีควำมซ้อนทับกับค�ำว่ำ บ้ำน หรือ หมู่บ้ำน จำกกระบวนกำรมีสว่ นร่วมของผูค้ นในชุมชน เพือ่ เอำชนะ
แต่ในส่วนของหน่วยทำงสังคมและสถำบันกำรปกครอง ปั ญ หำที่ ชุ ม ชนต้ อ งเผชิ ญ โดยกำรระดมทรั พ ยำกรใน
มีกำรใช้ค�ำว่ำชุมชนในหลำยลักษณะ เช่น ชุมชนชนบท ชุมชนมำใช้ร่วมกันซึ่งจะท�ำให้เกิดกำรพัฒนำชุมชนไปสู่
ชุมชนเมือง และชุมชนแออัด ส�ำหรับในทำงวิชำกำรได้ ควำมเข้มแข็งในมิติต่ำง ๆ ได้แก่ มิติทำงด้ำนเศรษฐกิจ
มองชุมชนว่ำเป็นสิ่งที่มีลักษณะในเชิงของกระบวนกำร มิติทำงด้ำนสังคม มิติทำงด้ำนวัฒนธรรม และมิติทำง
จึงได้มีกำรใช้ค�ำว่ำชุมชนในลักษณะต่ำง ๆ เช่น องค์กร ด้ำนทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม โดยกำรพัฒนำ
ชุมชน ป่ำชุมชน ผูน้ ำ� ชุมชน พัฒนำชุมชน วัฒนธรรมชุมชน ของชุมชนในแต่ละชุมชนนั้นจะน�ำไปสู่ควำมเข้มแข็งที่
สิทธิชุมชนและอ�ำนำจชุมชน เป็นต้น ส�ำหรับควำมหมำย แตกต่ำงกัน ในบำงชุมชนอำจมีควำมเข้มแข็งทำงด้ำน
ของชุมชนที่ให้ไว้โดยรำชบัณฑิตยสถำน (2542, น. 368) สังคม หรือด้ำนเศรษฐกิจ หรือ ด้ำนทรัพยำกรสิง่ แวดล้อม
ได้ให้ควำมหมำยของชุมชนว่ำหมำยถึง อำณำบริเวณ ทั้ ง นี้ ขึ้ น อยู ่ กั บ ทรั พ ยำกรและควำมร่ ว มมื อ กั น ของ
ของบ้ำน หรือ หมู่บ้ำน ที่มีผู้คนตั้งบ้ำนเรือนอำศัยอยู่ ผู้คนภำยในชุมชน ควำมเข้มแข็งของชุมชนที่ขึ้นอยู่กับ
โดยที่บุคคลในชุมชนต่ำงมีปฏิสัมพันธ์ระหว่ำงกัน ชุมชน ทรัพยำกรของชุมชนและควำมร่วมมือกันของผูค้ นภำยใน
เป็ น สั ง คมในรู ป แบบหนึ่ ง เป็ น อำณำบริ เ วณที่ ม นุ ษ ย์ ชุมชนนี้ เป็นสิ่งที่ผู้เขียนให้ควำมส�ำคัญและเป็นประเด็น
อำศัยอยู่รวมกัน และพึ่งพำอำศัยกันเป็นปึกแผ่นมั่นคง ส�ำคัญที่น�ำมำซึ่งกำรเริ่มศึกษำประเด็นส�ำหรับกำรเขียน
ชุมชนเป็นสิ่งที่ประกอบไปด้วยระบบควำมสัมพันธ์ของ บทควำมวิชำกำรฉบับนี้
บุ ค คล ควำมเชื่อ ศำสนำ ประเพณี วั ฒ นธรรม ระบบ ดนตรีล้ำนนำ หรือ ดนตรีพื้นบ้ำนล้ำนนำ หรือ
เศรษฐกิ จ อำชี พ ระบบกำรเมื อ ง ระบบกำรปกครอง ดนตรีพนื้ เมือง เป็นดนตรีในลักษณะหนึง่ ทีเ่ กิดขึน้ ในชุมชน
โครงสร้ ำ งทำงอ� ำ นำจ รวมไปถึ ง ระบบนิ เ วศวิ ท ยำ และมีควำมสัมพันธ์กับผู้คนในชุมชมมำอย่ำงยำวนำน
สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีด้ำนต่ำง ๆ ซึ่งระบบเหล่ำนี้ ในช่วงระยะเวลำที่ผ่ำนมำได้ปรำกฏกำรศึกษำเกี่ยวกับ
ในชุมชนต่ำงมีควำมสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่ำงกันและ ดนตรีล้ำนนำที่แสดงให้เห็นถึงควำมสัมพันธ์ของดนตรี
ไม่สำมำรถแยกออกจำกกันได้ (จิตติ มงคลชัยอรัญญำ, ล้ ำ นนำและชุ ม ชน ยกตั ว อย่ ำ งเช่ น กำรศึ ก ษำดนตรี
2540, น. 3) ลักษณะส�ำคัญอีกประกำรหนึ่งของชุมชน ล้ำนนำทีเ่ รียกว่ำ ตกเส้ง ในพืน้ ทีจ่ งั หวัดล�ำปำงของ ณรงค์
คือ ชุมชนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจำกกำรรวมตัวกันของบุคคล สมิ ท ธิ ธ รรม (2541) ได้ ก ล่ ำ วถึ ง ดนตรี ต กเส้ ง ว่ ำ เป็ น
ที่มีเป้ำประสงค์เดียวกัน บุคคลที่รวมตัวกันเป็นชุมชนนี้ ดนตรีล้ำนนำที่มีรูปแบบกำรประสมวงในลักษณะของ
มีควำมพยำยำมทีจ่ ะท�ำอะไรร่วมกัน แสดงออกด้วยควำม วงปี่กลองประกอบไปด้วยเครื่องดนตรีชนิดต่ำง ๆ ได้แก่
เอือ้ อำทรต่อกัน และมีระบบทีใ่ ช้สอื่ สำรกันระหว่ำงบุคคล ปี ่ แ น กลองตะโล้ ด โป๊ ด กลองแอว ฉำบ ฉิ่ ง และฆ้ อ ง
ภำยในชุมชน (ประเวศ วสี, 2541, น. 3) ด้วยควำมหมำย ดนตรีตกเส้งถือเป็นทรัพยำกรดนตรีของชุมชน และเป็น
และลักษณะของชุมชนที่ได้กล่ำวมำ อย่ำงน้อยได้สะท้อน ของคู่กันกับวัดในฐำนะศูนย์กลำงของชุมชน ดังปรำกฏ
ถึงควำมสัมพันธ์ที่มนุษย์สร้ำงขึ้นในลักษณะของชุมชน ข้อมูลกำรวิจัยว่ำ เมื่อมีงำนบุญเกิดขึ้นภำยในหมู่บ้ำน
ที่เป็นแหล่งพักพิงและพึ่งพำอำศัยกัน ชำวบ้ ำ นจะมำช่ ว ยกั น แห่ ป ระโคมตกเส้ ง ที่ วั ด เพรำะ
ด้ ว ยควำมหมำยและควำมส� ำ คั ญ ของชุ ม ชน เชื่อว่ำกำรแห่ประโคมตกเส้งจะท�ำให้ได้บุญกุศล ผลจำก
ในฐำนะสังคมขนำดเล็กที่เป็นที่พักพิงและน�ำมำซึ่งกำร กำรวิจัยดนตรีตกเส้งนี้ได้สะท้อนถึงควำมสัมพันธ์ของ
พึ่งพำอำศัยกัน ดังนั้นในช่วงระยะเวลำที่ผ่ำนมำจึงได้ บุคคลในชุมชนกับดนตรีตกเส้ง ส่งผลให้เกิดควำมร่วมมือ
4
พิฆเนศวร์สาร ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม - มิถุนายน 2565
เป็นอันหนึง่ อันเดียวกันในชุมชน ดนตรีตกเส้งเป็นตัวอย่ำง จำกควำมเป็นมำของกำรพัฒนำชุมชนดังกล่ำว
หนึ่งที่สะท้อนควำมสัมพันธ์ของดนตรีล้ำนนำกับชุมชน แสดงให้เห็นถึงควำมต้องกำรเปลี่ยนแปลงชุมชนให้ดีขึ้น
และบทบำทของดนตรีล้ำนนำในกำรสร้ำงควำมเข้มแข็ง โดยมีเป้ำหมำยทีผ่ ้คู นทีอ่ ำศัยอยู่ในชุมชนเป็นหลัก ในช่วง
ให้กับชุมชนได้เป็นอย่ำงดี ระยะเวลำที่ผ่ำนมำได้มีนักวิชำกำรชำวไทยหลำยท่ำน
ด้วยควำมเป็นมำและควำมส�ำคัญของแนวคิด ได้ แ ก่ สั ญ ญำ สั ญ ญำวิ วั ฒ น์ (2525) สนธยำ พลศรี
เกี่ ย วกั บ ชุ ม ชนและข้ อ มู ล จำกกำรวิ จั ย เกี่ ย วกั บ ดนตรี (2547) กรมกำรพัฒนำชุมชน (2527) โกวิทย์ พวงงำม
ล้ ำ นนำดั ง ที่ ไ ด้ ก ล่ ำ วมำข้ ำ งต้ น ผู้เขียนจึงได้น�ำเสนอ (2553) และณัฏฐวุฒิ ทรัพย์อุปถัมภ์ (2558) ได้อธิบำย
บทควำมวิชำกำรเรือ่ ง “ดนตรีลำ้ นนำกับกำรพัฒนำชุมชน” ควำมหมำยของกำรพั ฒ นำชุ ม ชนไปในทิ ศ ทำงต่ ำ ง ๆ
ขึ้น เพื่อเสนอแนวคิดและแนวทำงในกำรใช้ดนตรีล้ำนนำ โดยสำมำรถสรุปควำมหมำยของกำรพัฒนำชุมชนว่ำ
ในกำรพัฒนำชุมชน เนื้อหำของบทควำมวิชำกำรฉบับนี้ หมำยถึ ง กระบวนกำรเปลี่ ย นแปลงที่ มุ ่ ง เป้ ำ หมำยไป
ผูเ้ ขียนได้เริม่ ต้นโดยกำรน�ำเสนอแนวคิดกำรพัฒนำชุมชน ที่บุคคลในชุมชน ให้มีคุณภำพชีวิตที่ดี โดยใช้พลังและ
เพื่อ ให้ เ ห็ น ถึง กรอบแนวคิด เกี่ย วกั บ กำรพั ฒ นำชุ ม ชน ควำมร่ ว มมื อ จำกคนในชุ ม ชน และหน่ ว ยงำนของรั ฐ
โดยได้ เ พิ่ ม เติ ม แนวคิ ด กำรใช้ ด นตรี เ พื่ อ พั ฒ นำชุ ม ชน ตลอดจนองค์ ก รในชุ ม ชน เพื่ อ ปรั บ ปรุ ง แก้ ไ ขปั ญ หำ
เพื่อให้เห็นควำมสัมพันธ์ของแนวคิดทั้งสอง หลังจำกนั้น และสร้ำงสรรค์ชุมชนให้เกิดควำมก้ำวหน้ำทั้งในด้ำน
ผูเ้ ขียนได้นำ� เสนอแนวทำงกำรใช้ดนตรีลำ้ นนำเพือ่ พัฒนำ คุณภำพชีวิต ควำมเป็นอยู่ เศรษฐกิจ สังคม กำรเมือง
ชุมชน โดยน�ำแนวคิดกำรพัฒนำชุมชนและข้อมูลเกีย่ วข้อง และกำรปกครอง โดยมุ่งยกระดับมำตรฐำนกำรครองชีพ
กับดนตรีลำ้ นนำทีป่ รำกฏมำประกอบกัน เพือ่ แสดงให้เห็นถึง และคุ ณ ภำพชี วิ ต ของประชำชนเป็ น ส� ำ คั ญ ส� ำ หรั บ
แนวทำงและควำมเป็ น ไปได้ ข องกำรใช้ ด นตรี ล ้ ำ นนำ แนวคิดเกี่ยวกับกำรพัฒนำสังคมนี้ ในช่วงระยะเวลำที่
เพื่อพัฒนำชุมชน ดังต่อไปนี้ ผ่ำนมำได้มีกำรศึกษำและอธิบำยกันอย่ำงกว้ำงขวำง
เกิดขึ้นในประเด็นต่ำง ๆ ได้แก่ แนวคิดเบื้องต้นส�ำหรับ
แนวคิดการใช้ดนตรีเพื่อพัฒนาชุมชน กำรพัฒนำชุมชน หลักกำรและปรัชญำของกำรพัฒนำ
แนวคิ ด เกี่ ย วกั บ กำรพั ฒ นำชุ ม ชนได้ รั บ กำร ชุมชน วัตถุประสงค์ของกำรพัฒนำชุมชน ลักษณะของ
พัฒนำมำจำกแนวควำมคิดเกี่ยวกับ “กำรศึกษำมวลชน” กำรพัฒนำชุมชน และองค์ประกอบของกำรพัฒนำชุมชน
(Mass Education) ที่ให้ ค�ำ จ�ำ กัด ควำมของกำรพั ฒ นำ เป็นต้น แต่สำ� หรับประเด็นทีผ่ ้เู ขียนให้ควำมส�ำคัญและได้
ชุมชนว่ำหมำยถึง ขบวนกำร (Movement) เพื่อส่งเสริม น�ำเสนอในเนือ้ หำของบทควำมฉบับนีเ้ ป็นประเด็นเกีย่ วกับ
ควำมเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชนให้ดีขึ้น โดยเปิดโอกำส ควำมส�ำคัญของกำรพัฒนำชุมชน (มยุรี วัดแก้ว, 2535,
ให้ประชำชนได้ เ ข้ ำมำมีส ่ ว นร่ ว มและริเ ริ่ม กำรพั ฒ นำ น. 34-36) ซึ่ ง เป็ น กำรอธิ บ ำยว่ ำ กำรพั ฒ นำชุ ม ชนมี
ชุมชนเอง กำรพัฒนำชุมชนได้รบั ควำมนิยมและแพร่หลำย ควำมส�ำคัญต่อชุมชน ใน 3 ด้ำน คือ
เมือ่ องค์กำรสหประชำชำติได้ให้กำรยอมรับและได้กำ� หนด 1) ควำมส� ำ คั ญ ในด้ ำ นเศรษฐกิจ กำรพั ฒ นำ
ควำมหมำย หลักกำร และวิธีกำรพัฒนำชุมชนขึ้น และได้ ชุมชนท�ำให้เศรษฐกิจของเกษตรกรในชนบทดีขึ้น ได้แก่
ก�ำหนดให้ปี ค.ศ. 1960 จนถึง ปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2503 กำรพัฒนำชุมชนช่วยยกระดับกำรครองชีพของประชำชน
จนถึง พ.ศ. 2512) เป็นทศวรรษแห่งกำรพัฒนำ ส�ำหรับ ให้ดีสูงขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหำว่ำงงำน กำรพัฒนำชุมชน
ในประเทศไทยกำรพัฒนำชุมชนได้เริ่มขึ้นโดยกระทรวง ส่งเสริมให้ประชำชนได้รู้จักใช้เวลำว่ำงให้เกิดประโยชน์
มหำดไทยที่ได้ประกำศใช้แผนบูรณะชนบท เมื่อวันที่ 1 และกำรพัฒนำชุมชนท�ำให้ประชำชนมีฐำนด้ำนเศรษฐกิจ
เมษำยน พ.ศ. 2485 โดยมุ ่ ง หวั ง ให้ ร ำษฎรไทยเป็ น ดีขึ้นและประเทศชำติมีควำมมั่นคงด้ำนเศรษฐกิจ
พลเมืองดี มีทดี่ นิ ท�ำกิน และกำรครองชีพทีด่ ขี นึ้ (ณัฏฐวุฒิ
ทรัพย์อุปถัมภ์, 2558, น. 119-121)
5
Ganesha Journal Vol. 18 No. 1 January - June 2022
2) ควำมส�ำคัญทำงสังคม กำรพัฒนำชุมชนมีผล กลำงแจ้ ง หรื อ แม้ ก ระทั่ ง กำรแสดงดนตรี ที่ เ กิ ด ขึ้ น ใน
ท�ำให้สภำพสังคมในชุมชนเปลีย่ นแปลงไปในทำงทีด่ ี ได้แก่ ร้ำนกำแฟ กำรแสดงดนตรีทเี่ กิดขึน้ ในบริบทต่ำง ๆ เหล่ำนี้
กำรท�ำให้ประชำชนได้รู้จักปรับปรุงสภำพควำมเป็นอยู่ เป็ น พำหะที่น� ำ เอำควำมสุ ข ไปสู ่ ผู ้ ค น ท� ำ ให้ ชุ ม ชนเกิด
ของตนเองให้ดีขึ้น ช่วยให้ประชำชนรู้จักป้องกันโรคภัย ควำมมีชีวิตชีวำ เป็นกำรสร้ำงสีสันและตัวตนของชุมชน
ไข้เจ็บ กำรรักษำอนำมัยครอบครัวให้ดีขึ้น กำรพัฒนำ จำกกำรแสดงดนตรีที่มีหลำกหลำยชนิด กำรแบ่ง ปัน
ชุ ม ชนลดควำมแตกต่ ำ งระหว่ ำ งชนชั้ น ในสั ง คมให้ ควำมสุขและกำรสร้ำงสีสันควำมมีชีวิตชีวำให้กับชุมชน
บรรเทำลง กำรสร้ำงควำมเป็นธรรมให้เกิดขึ้นแก่สมำชิก ผ่ ำ นกำรแสดงดนตรีใ นชุ ม ชนนี้ มีค วำมสอดคล้องกับ
ช่วยปรับปรุงชีวิตในด้ำนควำมสัมพันธ์ในครอบครัวและ ควำมส�ำคัญของกำรพัฒนำชุมชนในด้ำนต่ำง ๆ ได้แก่
สังคมให้ดีขึ้น และกำรพัฒนำชุมชนท�ำให้ประชำชนรู้จัก (1) ด้ำนเศรษฐกิจ ได้แก่ กำรแสดงดนตรีภำยในชุมชน
หน้ำที่ของตน มีควำมรับผิดชอบต่อสังคมมำกขึ้น เพื่อ เปลี่ย นสภำพของชุ ม ชนในทำงที่ดีขึ้น กำรจั ด กำร
3) ควำมส�ำคัญทำงด้ำนกำรเมืองกำรปกครอง แสดงดนตรีของนักดนตรีในบริบทต่ำง ๆ เป็นกำรพัฒนำ
กล่ำวคือ กำรพัฒนำชุมชนเป็นกำรก่อให้เกิดควำมสำมัคคี ชุมชนช่วยยกระดับกำรครองชีพของประชำชนให้ดีสูงขึ้น
ควำมเป็นน�้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในชุมชนท้องถิ่นและ ช่วยแก้ไขปัญหำว่ำงงำน กำรแสดงดนตรีและกำรฟัง
คนในชำติ ท�ำให้ประชำชนเกิดควำมรัก ควำมเข้ำใจใน ดนตรีเป็นกำรพัฒนำชุมชนส่งเสริมให้ประชำชนได้รู้จัก
รัฐบำล และประเทศชำติของตนยิ่งขึ้น กำรพัฒนำชุมชน ใช้ เ วลำว่ ำ งให้ เ กิ ด ประโยชน์ (2) ในด้ ำ นสั ง คม ได้ แ ก่
ช่วยขจัดควำมขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นระหว่ำงประชำชนกับ กำรใช้ ด นตรี เ พื่ อ สร้ ำ งสี สั น และควำมมี ชี วิ ต ชี ว ำ
ประชำชน และระหว่ำงประชำชนกับเจ้ำหน้ำที่ของรัฐ ในชุ ม ชน เป็ น วิ ธี ก ำรหนึ่ ง ที่ ท� ำ ให้ ป ระชำชนได้ รู ้ จั ก
ท� ำ ให้ ป ระชำชนสนใจที่ จ ะปกครองตนเอง และเข้ ำ ใจ ปรับปรุงสภำพควำมเป็นอยู่ของชุมชนของตนให้ดีขึ้น
กำรปกครองในระบอบประชำธิปไตยมำกขึ้น กำรใช้ ด นตรี เ พื่ อ ปรั บ ปรุ ง ชี วิ ต ในด้ ำ นควำมสั ม พั น ธ์
แนวคิดควำมส�ำคัญของกำรพัฒนำชุมชนนี้มี ในครอบครั ว และสั ง คมผ่ ำ นกิ จ กรรมกำรเล่ น ดนตรี
ควำมสัมพันธ์กับแนวคิดเกี่ยวกับกำรใช้ดนตรีเพื่อพัฒนำ ห รื อ ก ำ ร พ ำ ค ร อ บ ค รั ว ไ ป พั ก ผ ่ อ น ด ้ ว ย ก ำ ร ช ม
ชุมชน ดังปรำกฏจำกกำรศึกษำดนตรีชุมชนของ Foster กำรแสดงคอนเสิ ร ์ ต กำรแสดงดนตรี ใ นบริ บ ทต่ ำ ง ๆ
(2010) ที่ชื่อว่ำ Music and Community Development: ของนักดนตรีเป็นกำรสะท้อนกำรรู้จักหน้ำที่ของตน และ
Perspectives on Relationship, Roles and Structures in ควำมรับผิดชอบต่อสังคม นอกจำกนี้กำรแสดงดนตรี
Music in Community งำนเขียนดังกล่ำวได้น�ำเสนอแง่มุม ในลักษณะของกำรร้องประสำนเสียงหมู่ (Chorus) ยัง
ที่เกี่ยวกับควำมสัมพันธ์ของดนตรีกับชุมชน นอกจำกนี้ เป็นกำรเสริมสร้ำงควำมสัมพันธ์ของผู้คน ลดควำมไม่
ในบทควำมเกี่ยวกับประโยชน์ของดนตรีในชุมชนที่มีกำร เท่ำเทียมกันระหว่ำงชนชั้นในสังคม (3) ในด้ำนกำรเมือง
เผยแพร่ผ่ำนเวปไซต์ของ PlayCore (2020) ซึ่งเป็นกลุ่ม กำรปกครอง ได้แก่ กำรแสดงดนตรีในชุมชนเป็นกระบวน
ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ในสหรัฐอเมริกำ กำรสร้ำงกำรมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ทั้งในส่วนของ
ได้น�ำเสนอประเด็นเกี่ยวกับประโยชน์ของดนตรีในกำร ผูแ้ สดงดนตรีและผูฟ้ งั ดนตรี กำรเข้ำร่วมกิจกรรมในชุมชน
พัฒนำชุมชน ซึ่งกำรศึกษำงำนเขียนของนักวิชำกำรต่ำง ผ่ำนกำรแสดงดนตรีก่อให้เกิดควำมส�ำนึกร่วมและควำม
ประเทศดังกล่ำว ท�ำให้ผู้เขียนได้เห็นถึงกำรเชื่อมโยงกัน เป็นปึกแผ่นภำยในชุมชน น�ำไปสู่กำรค้นหำรำกเหง้ำและ
ของดนตรีกับกำรพัฒนำพัฒนำชุมชน กล่ำวคือ ดนตรีที่ อัตลักษณ์ของชุมชน
เกิดขึ้นในชุมชนไม่ว่ำจะเป็นกำรซ้อมดนตรี หรือเป็นกำร กำรเชือ่ มโยงแนวคิดควำมส�ำคัญของกำรพัฒนำ
แสดงดนตรี ที่ เ กิ ด ขึ้ น จริ ง ช่ ว ยท� ำ ให้ ชุ ม ชนเกิ ด ควำมมี ชุมชนและแนวคิดกำรใช้ดนตรีเพื่อประโยชน์ของชุมชน
ชีวิตชีวำ โดยเฉพำะผู้ที่อำศัยอยู่ภำยในชุมชน กำรแสดง ดังที่ได้กล่ำวมำนั้น ท�ำให้ผู้เขียนได้น�ำควำมสัมพันธ์ของ
ดนตรีข องนัก ดนตรีในชุม ชนเป็นกำรแบ่ง ปั นควำมสุ ข แนวคิดดังกล่ำวมำสร้ำงเป็นกรอบแนวคิดในกำรใช้ดนตรี
ควำมหลงใหลในดนตรีของตน ให้กับผู้อื่นซึ่งสำมำรถ เพื่อพัฒนำชุมชน และได้น�ำเสนอในภำพดังต่อไปนี้
เกิ ด ขึ้ น ในบริ บ ทต่ ำ ง ๆ เช่ น กำรแสดงดนตรี บ นเวที
6
พิฆเนศวร์สาร ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม - มิถุนายน 2565

กำรปรับสภำพชุมชน
เศรษฐกิจ กำรจ้ำงงำน
กำรเพิ่มค่ำครองชีพ

กำรมีส่วนร่วม สภำพควำมเป็นอยู่
ควำมเป็นปึกแผ่น ควำมสัมพันธ์ในครอบครัว
การใช้ดนตรี
ควำมเป็นมำและอัตลักษณ์ ควำมรับผิดชอบต่อสังคม
พัฒนาชุมชน
ของชุมชน ควำมแตกต่ำงทำงชนชัน้

การเมือง
สังคม
การปกครอง

แผนภาพที่ 1 กรอบแนวคิดกำรใช้ดนตรีเพื่อพัฒนำชุมชน

กรอบแนวคิดในกำรใช้ดนตรีเพื่อพัฒนำชุมชน ดังกล่ำวได้ปรำกฏน้อยลงและเกือบสูญหำย ไปจำกชุมชน


ทีเ่ กิดขึน้ จำกกำรน�ำเอำแนวคิดควำมส�ำคัญในกำรพัฒนำ ปั ญ หำหนึ่ ง ของกำรสู ญ สลำยของพิ ณ เปี ๊ ย ะคื อ ขำด
ชุมชนและแนวคิดเกี่ยวกับประโยชน์ของดนตรีในกำร เครื่องดนตรีที่มีคุณภำพ เนื่องจำกส่วนประกอบที่ส�ำคัญ
พัฒนำชุมชน มำเชื่อมโยงกัน และสร้ำงเป็นกรอบแนวคิด ของเครื่องดนตรีที่เรียกว่ำ “หัวเปี๊ยะ” ท�ำมำจำกโลหะ
ในกำรใช้ดนตรีเพื่อพัฒนำชุมชนที่น�ำไปสู่กำรพัฒนำใน สัมฤทธิท์ หี่ ลอมเป็นรูปหัวของช้ำงหรือหัวของนกหัสดีลงิ ค์
3 ด้ำน คือ ด้ำนเศรษฐกิจ ด้ำนสังคม และด้ำนกำรเมือง ซึ่งในอดีตปรำกฏช่ำงฝีมือที่มีทักษะในกำรหลอมโลหะ
กำรปกครอง กรอบแนวคิ ด ที่ ไ ด้ น� ำ เสนอนี้ น� ำ ไปสู ่ ในชุมชนต่ำง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ เช่น ชุมชนวัดช่ำงฆ้อง
แนวทำงกำรใช้ดนตรีล้ำนนำเพื่อพัฒนำชุมชนซึ่งน�ำเสนอ และชุมชนวัดเชียงแสน จะเป็นผู้สร้ำงหัวเปี๊ยะส�ำหรับ
ในเนื้อหำต่อไปนี้ ท�ำพิณเปี๊ยะโดยเฉพำะ กำรขำดแคลนวัตถุดิบในกำรท�ำ
พิณเปี๊ยะดังกล่ำวส่งผลให้กำรสร้ำงพิณเปี้ยะในปัจจุบัน
การใช้ดนตรีลา้ นนาเพือ่ พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ประสบปั ญ หำทั้ ง ในด้ ำ นคุ ณ ภำพและต้ น ทุ น กำรผลิ ต
กำรน� ำ เสนอกรอบแนวคิ ด ในกำรใช้ ด นตรี ผลกำรวิจยั พบว่ำกำรทีห่ วั ของพิณเปีย๊ ะเป็นของทีห่ ำยำก
เพื่อพัฒนำชุมชนที่ได้แสดงมำก่อนหน้ำนี้ ท�ำให้เห็นถึง โดยเฉพำะหั ว เปี ๊ ย ะที่ เ ป็ น ของเก่ ำ ที่ ส ่ ง ผลต่ อ คุ ณ ภำพ
แนวคิดในกำรใช้ดนตรีเพื่อพัฒนำชุมชนในด้ำนต่ำง ๆ ของเสี ย งพิ ณ เปี ๊ ย ะโดยตรง จึ ง ท� ำ ให้ หั ว พิ ณ เปี ๊ ย ะ
ซึ่ง จำกกำรศึ ก ษำข้ อ มู ล จำกงำนวิ จั ย วิ ท ยำนิ พ นธ์ ที่มี มี ร ำคำประมำณ 1,000–1,500 บำท (ปี พ.ศ. 2544)
กำรศึ ก ษำดนตรี ล ้ ำ นนำได้ ป รำกฏข้ อ มู ล ที่ แ สดงให้ ควำมขำดแคลนวั ต ถุ ดิ บ ในกำรท� ำ พิ ณ เปี ๊ ย ะดั ง กล่ ำ ว
เห็นแนวทำงในกำรใช้ดนตรีล้ำนนำเพื่อพัฒนำในด้ำน เป็นอีกตัวอย่ำงหนึ่งที่สะท้อนถึงควำมจ�ำเป็นในกำรผลิต
เศรษฐกิ จ ของชุ ม ชนในลั ก ษณะต่ ำ ง ๆ เช่ น งำนวิ จั ย เครื่องดนตรีล้ำนนำส�ำหรับชุมชน และต้องเป็นกำรผลิต
เรื่อง ศักยภำพกำรผลิตเพลงพื้นบ้ำนล้ำนนำ กรณีศึกษำ ในเชิงธุรกิจหรือในรูปแบบอุตสำหกรรมเพือ่ ให้สอดคล้อง
“พิ ณ เปี ๊ ย ะ” จั ง หวั ด ล� ำ ปำงได้ แ สดงให้ เ ห็ น ถึ ง ควำม กับควำมต้องกำรเครื่องดนตรีล้ำนนำที่มีคุณภำพและ
ต้องกำรของสังคมที่มีต่อเครื่องดนตรีล้ำนนำที่เรียกว่ำ ต้นทุนในกำรผลิตทีส่ งู ขึน้ ในปัจจุบนั (โชติมำ โชติกเสถียร,
พิณเปี๊ยะ ซึ่งในอดีตเป็นเครื่องดนตรีที่ปรำกฏในชุมชน 2548)
ต่ำง ๆ ในพืน้ ทีต่ อนบนของไทย แต่ในปัจจุบนั เครือ่ งดนตรี
7
Ganesha Journal Vol. 18 No. 1 January - June 2022
ควำมต้ อ งกำรผลิ ต เครื่ อ งดนตรี ล ้ ำ นนำของ ให้เห็นถึงสถำนภำพกำรผลิตเครื่องดนตรีล้ำนนำที่ใน
ชุมชนยังปรำกฏในงำนวิจยั ของ บูรณพันธุ์ ใจหล้ำ (2563) อดีตเป็นเพียงช่ำงประดิษฐ์เครื่องดนตรีในชุมชน ปัจจุบัน
เรือ่ ง ภูมปิ ญ
ั ญำกำรสร้ำงเครือ่ งดนตรีลำ้ นนำเพือ่ สืบทอด มีกำรให้ควำมส�ำคัญในกำรผลิตเครื่องดนตรีล้ำนนำและ
กำรสร้ ำ งเครื่ อ งดนตรี พื้ น บ้ ำ น และเสริ ม สร้ ำ งควำม ได้รบั กำรยกย่องให้เป็นภูมปิ ญ ั ญำทำงวัฒนธรรมของชำติ
เข้ ม แข็ ง ทำงวั ฒ นธรรม งำนวิ จั ย ฉบั บ นี้ ไ ด้ ก ล่ ำ วถึ ง ดั ง ปรำกฏว่ ำ มี ช ่ ำ งฝี มื อ ได้ รั บ รำงวั ล เชิ ด ชู เ กี ย รติ จ ำก
กำรสร้ำงเครื่องดนตรีล้ำนนำที่เกิดขึ้นของชุมชนในอดีต สถำบั น กำรศึ ก ษำและหน่ ว ยงำนรำชกำรต่ ำ ง ๆ เช่ น
ว่ำเป็นกำรผลิตในครัวเรือนเพื่อใช้ในโอกำสและกิจกรรม นำยบุ ญ รั ต น์ ทิ พ ยรั ต น์ ที่ ไ ด้ รั บ กำรยกย่ อ งให้ เ ป็ น ครู
ทำงสั ง คมของผู ้ ค นในแต่ ล ะชุ ม ชน ปั จ จุ บั น กำรสร้ ำ ง ภูมปิ ญั ญำไทยและได้รบั รำงวัลเพชรรำชภัฏ-เพชรล้ำนนำ
เครื่องดนตรีล้ำนนำได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นกำรผลิตในเชิง กำรได้ รั บ รำงวั ล เชิ ด ชู เ กี ย รติ ค รั้ ง นี้ แ สดงถึ ง กำรยก
อุตสำหกรรมมำกขึ้น กำรสร้ำงเครื่องดนตรีในปัจจุบัน ระดับกำรสร้ำงเครื่องดนตรีที่เกิดขึ้นภำยในชุมชน ท�ำให้
มีคุณภำพมำตรฐำนสูงขึ้น ตลอดจนได้มีกำรถ่ำยทอด ช่ำงฝีมือพื้นบ้ำนที่อยู่ภำยในชุมชนได้มีพื้นที่ทำงสังคม
ภูมิปัญญำและเทคนิควิทยำจำกคนรุ่นก่อนสู่คนรุ่นใหม่ และเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีกำรพัฒนำคุณภำพชีวิตที่ดีของ
กำรสร้ ำ งเครื่ อ งดนตรี ล ้ ำ นนำในปั จ จุ บั น เกิ ด ขึ้ น จำก ช่ำงฝีมือที่เป็นบุคคลกลุ่มหนึ่งในชุมชนให้ดขี ึ้นด้วย
ภู มิป ั ญ ญำที่ ห ลำกหลำยในแต่ ล ะพื้น ที่ ท� ำ ให้ เ กิด สำย จำกแนวคิดในกำรใช้ดนตรีเพื่อพัฒนำชุมชนที่
สกุลช่ำงในกำรสร้ำงเครื่องดนตรีในปัจจุบัน เช่น สกุล แสดงก่อนหน้ำนี้ แสดงให้เห็นถึงแนวคิดในกำรใช้ดนตรี
ช่ำงประดิษฐ์เครื่องดนตรีล้ำนนำที่มีกำรสืบทอดมำจำก เพื่อพัฒนำชุมชนในด้ำนต่ำง ๆ ซึ่งจำกกำรศึกษำข้อมูล
เจ้ ำ สุ น ทร ณ เชีย งใหม่ ได้ แ ก่ นำยบุ ญ รั ต น์ ทิพ ยรั ต น์ จำกงำนวิจัย วิทยำนิพนธ์ที่มีกำรศึกษำดนตรีล้ำนนำมำ
และนำยก�ำ จร เทโวขัติย์ ซึ่งในปัจ จุบันได้ท� ำกำรผลิต ก่อนหน้ำนี้ได้ปรำกฏข้อมูลที่แสดงให้เห็นแนวทำงในกำร
เครื่องดนตรีล้ำนนำในชุมชนสันผักหวำน อ�ำเภอหำงดง ใช้ดนตรีล้ำนนำเพื่อพัฒนำในด้ำนเศรษฐกิจของชุมชน
จังหวัดเชียงใหม่ กำรผลิตเครื่องดนตรีล้ำนนำในลักษณะ ข้ อ มู ล ที่ ป รำกฏจำกงำนวิ จั ย ของ พิ พั ฒ น์ พ งศ์ มำศิ ริ
ของอุตสำหกรรมในครัวเรือนนี้เป็นงำนฝีมือที่ต้องใช้ (2562) เรือ่ งกำรเปลีย่ นแปลงอัตลักษณ์ของดนตรีลำ้ นนำ
ประสบกำรณ์สูง ตลอดจนกำรใช้วัตถุดิบในกำรสร้ำง ในพื้ น ที่ ต อนบนของประเทศไทย ได้ แ สดงให้ เ ห็ น ถึ ง
เครื่องดนตรีที่ต้องคัดสรรและมีต้นทุนตำมสภำพของ กำรปรับเปลี่ยนกระบวนกำรผลิตเครื่องดนตรีล้ำนนำใน
เศรษฐกิจ ดังนั้นกำรสร้ำงเครื่องดนตรีล้ำนนำของช่ำง พื้นที่ตอนบนของไทยในลักษณะของกำรประกอบธุรกิจ
ฝีมือ จึงต้องกำรมีกำรปรับตัวและพัฒนำไปตำมบริบท เกีย่ วกับเครือ่ งดนตรีลำ้ นนำมำกขึน้ งำนวิจยั ฉบับดังกล่ำว
ของเศรษฐกิ จ และสั ง คม โดยอำศั ย เครื อ ข่ ำ ยดนตรี ได้ น� ำ เสนอข้ อ มู ล เกี่ย วกั บ กำรเปลี่ย นแปลงรำคำของ
ล้ำนนำที่ช่ำงฝีมือแต่ละคนมีควำมสัมพันธ์อยู่ กำรสร้ำง เครื่องดนตรีล้ำนนำชนิดต่ำง ๆ ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นใน
เครื่ อ งดนตรี ล ้ ำ นนำของช่ ำ งฝี มื อ แต่ ล ะคนแสดง ช่วงสองทศวรรษ ดังแสดงในตำรำงต่อไปนี้
8
พิฆเนศวร์สาร ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม - มิถุนายน 2565
ตารางที่ 1 กำรเปลี่ยนแปลงรำคำเครื่องดนตรีล้ำนนำ
เครื่องดนตรีล้านนา ราคา (บาท/หน่วย) ราคา (บาท/หน่วย)
(พ.ศ. 2540 – พ.ศ. 2550) (พ.ศ. 2562)
1. สะล้อ 500 1,200 – 2,000
2. ซึง 500 2,000 – 4,000
3. ขลุ่ย 100 300 – 500
4. เปี๊ยะ 1,000 3,000
5. ปี่ (1 จุม) 300 500 – 1,000
6. แน (1 คู่) 150 -200 1500-2,000
7. ระนำดเอก 700 6,000 – 8,000
8. ระนำดทุ้ม 700 6,000 – 8,000
9. ระนำดเหล็ก 700 6,000 – 8,000
10. ฆ้องวง 1,400 20,000
11. กลองโป่งป้ง 150 2,500
12. กลองเต่งถิ้ง 1,500 6,500 - 8,000
13. กลองแอว 4,000 15,000 – 20,000
14. กลองตะโล้ดโป๊ด 300 2,000
15. กลองปู่เจ่ 500 7,000
16. กลองมองเซิง 3,000 5,000
17. กลองซิงมอง 300 2,500
18. กลองสะบัดชัย 8,000 20,000 – 23,000
19. ฆ้อง 600 (1 กิโลกรัม) 1,600 (1 กิโลกรัม)
ที่มา: พิพัฒน์พงศ์ มำศิริ, 2562
ข้อมูลทีป่ รำกฏในตำรำงแสดงให้เห็นว่ำกำรผลิต ในจังหวัดแพร่ และโรงงำนผลิตเครื่องดนตรีล้ำนนำใน
เครื่องดนตรีล้ำนนำในเชิงธุรกิจสำมำรถสร้ำงมูลค่ำทำง จังหวัดล�ำปำง เป็นต้น แหล่งผลิตเครื่องดนตรีล้ำนนำ
เศรษฐกิจให้กับชุมชนได้ กำรผลิตเครื่องดนตรีล้ำนนำ ในลั ก ษณะของโรงงำนนี้ ท� ำ ให้ เ กิ ด กำรจ้ ำ งงำนขึ้ น
บำงชนิด ได้แก่ กลองแอว กลองสะบัดชัย และฆ้องวง ท�ำให้ ภำยในชุมชนที่มีโรงงำนตั้งอยู่ ท�ำให้เกิดกำรสร้ำงรำยได้
เกิดมูลค่ำของเครื่องดนตรีได้สูงนับหมื่นบำท กำรผลิต ทั้ ง ต่ อ ผู ้ เ ป็ น เจ้ ำ ของโรงงำนและในส่ ว นของลู ก จ้ ำ ง
เครือ่ งดนตรีลำ้ นนำในเชิงธุรกิจนีไ้ ด้ปรำกฏในชุมชนต่ำง ๆ ในโรงงำนเอง กำรพั ฒ นำทำงด้ ำ นเศรษฐกิ จ ชุ ม ชนนี้
ในพื้ น ที่ ท ำงตอนบนของประเทศไทย ซึ่ ง ข้ อ มู ล จำก สะท้ อ นออกมำชั ด เจนจำกแนวโน้ ม รำคำของเครื่ อ ง
กำรวิ จั ย (พิ พั ฒ น์ พ งศ์ มำศิ ริ , 2562, น. 166-169) ดนตรี ล ้ ำ นนำที่ เ พิ่ ม สู ง ขึ้ น ในตลอดสองทศวรรษ
ได้ แ สดงถึ ง แหล่ ง ในกำรผลิ ต เครื่ อ งดนตรี ล ้ ำ นนำว่ ำ ที่ผ่ำนมำ กำรแสดงข้อมูลจำกงำนวิจัยฉบับนี้อย่ำงน้อย
ได้ ป รำกฏในพื้ น ที่ ข องจั ง หวั ด เชี ย งรำย น่ ำ น แพร่ ได้แสดงให้เห็นถึงควำมเป็นไปได้ในกำรใช้ดนตรีล้ำนนำ
ล�ำปำง และเชียงใหม่ ซึ่งแหล่งในกำรผลิตเครื่องดนตรี ในกำรพัฒนำเศรษฐกิจชุมชน
ล้ำนนำเหล่ำนี้ ในบำงแห่งมีลักษณะเป็นโรงงำนขนำด กำรพั ฒ นำเศรษฐกิ จ ของชุ ม ชนนอกจำกจะ
ใหญ่ แ ละมี ก ำรจ้ ำ งแรงงำนซึ่ ง เป็ น ผู ้ ค นในชุ ม ชนใน เกิ ด ขึ้ น ในลั ก ษณะของกำรผลิ ต เครื่ อ งดนตรี ล ้ ำ นนำ
กำรผลิต ได้ แ ก่ ร้ ำ นเชีย งใหม่ ก ำรดนตรี โฮงซึง หลวง เพื่อจ�ำหน่ำยแล้ว ยังปรำกฏในลักษณะของกำรใช้ดนตรี
9
Ganesha Journal Vol. 18 No. 1 January - June 2022
ล้ำนนำเพือ่ ประกอบอำชีพทำงดนตรีอกี ด้วย กำรประกอบ พื้นบ้ำนของกำรขับซอท�ำให้กำรขับซอล้ำนนำถูกน�ำมำ
อำชีพของนักดนตรีลำ้ นนำในกลุม่ ของกำรขับซอทีร่ จู้ กั กัน ปรับใช้เพื่อกำรสื่อสำรข้อมูลต่ำง ๆ ส�ำหรับผู้คนในชุมชน
ในนำมของ “ช่ำงซอ” ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ต่ำง ๆ ทำงตอน ในตลอดช่วงระยะเวลำที่ผ่ำนมำ เช่น กำรขับซอพื้นบ้ำน
บนของประเทศไทย ดังปรำกฏข้อมูลจำกกำรรวมกลุ่ม เรือ่ งต่อต้ำนยำเสพติดของ สิงห์เดช แม่วำง และแม่บวั ชุม
ของผู ้ ป ระกอบอำชี พ ขั บ ซอในชื่ อ ของ สมำคมศิ ล ปิ น สั น ป่ ำ ตอง กำรขั บ ซอล้ ำ นนำเพื่ อ ให้ ผู ้ ค นในชุ ม ชนได้
ขับซอล้ำนนำ (สมำคมศิลปินขับซอล้ำนนำ, ม.ป.ป.) ได้ ทรำบถึงอันตรำยจำกกำรแพร่ระบำดของโรคเอดส์ของศรี
แสดงให้เห็นจ�ำนวนของบุคคลต่ำง ๆ ที่ประกอบอำชีพ ทวน และจันทร์สวย สืบใจยศ กำรใช้กำรขับซอล้ำนนำเป็น
ในกำรขับซอที่เข้ำร่วมเป็นสมำชิกของสมำคมจ�ำนวน สื่อในกำรแจ้งข่ำวสำรให้คนในชุมชนทรำบถึงอันตรำยใน
308 คน ที่มีภูมิล�ำเนำอยู่ในพื้นที่ต่ำง ๆ ได้แก่ จังหวัด ลักษณะต่ำง ๆ ทีจ่ ะเกิดขึน้ ในชุมชนนีเ้ ป็นแนวทำงหนึง่ ของ
เชียงใหม่ เชียงรำย ล�ำพูน ล�ำปำง พะเยำ แพร่ น่ำน และ กำรใช้ดนตรีล้ำนนำเพื่อพัฒนำชีวิตควำมเป็นอยู่ของคน
ตำก กลุม่ ศิลปินขับซอล้ำนนำเหล่ำนีย้ งั คงประกอบอำชีพ ในชุมชน ดังตัวอย่ำงสือ่ ประชำสัมพันธ์เกีย่ วกับโรคติดเชือ้
ด้วยกำรขับซอในงำนพิธกี รรม ประเพณี เทศกำลทีเ่ กิดขึน้ ไวรัสโคโรนำ ของจังหวัดพะเยำที่ได้ร่วมกับศิลปินขับซอ
ในชุมชนต่ำง ๆ ได้แก่ พิธีเลีย้ งผี ประเพณีบูชำเสำอินทขิล ล้ำนนำคณะสวรรค์ลำ้ นนำ เพือ่ แจ้งข่ำวสำรให้ชำวบ้ำนใน
พิธีกรรม และประเพณีทำงพุทธศำสนำ งำนขึ้นบ้ำนใหม่ ชุมชนต่ำง ๆ ของจังหวัดพะเยำได้ทรำบถึงกำรแพร่ระบำด
พิ ธี บ วชพระ เป็ น ต้ น (มณี พยอมยงค์ , 2529, วนิ ด ำ และอันตรำยของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ดังนี้
ริ ก ำกรณ์ , 2545 และศุ ภ นิ จ ไชยวรรณ, 2547) กำร ช่างซอผู้ชาย: “ปี๋นี้ พ.ศ. สองปันห้าร้อยหกสิบ
ประกอบอำชีพกำรขับซอของกลุ่มศิลปินขับซอล้ำนนำ ป๋ า ย หมู ่ เ ฮาตั ง หลายมั น อะหยั ง มาอิ ด พ.ศ.สองปั น
ดังกล่ำวแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของดนตรีลำ้ นนำในด้ำน ห้าร้อยหกสิบสี่ คนไทยหงุดหงิดเพราะว่าโรคโควิดแพร่
กำรสร้ำงอำชีพของคนในชุมชน ซึ่งปัจจุบันได้มีสถำบัน ระบาดหลวงหลาย เจ้ า เห้ ย ปี ๋ นี้ พ.ศ. สองปั น ห้ า ร้ อ ย
กำรศึ ก ษำต่ ำ ง ๆ เข้ ำ มำช่ ว ยในกำรสร้ ำ งหลั ก สู ต ร หกสิ บ ป๋ า ย หมู ่ เ ฮาตั ง หลายมั น อะหยั ง มาอิ ด พ.ศ.
เพือ่ สร้ำงบุคคลทีป่ ระกอบอำชีพทำงด้ำนดนตรีลำ้ นนำให้ สองปันห้าร้อยหกสิบสี่ คนไทยหงุดหงิดเพราะว่าโรคโค
กับสังคม ได้แก่ วิทยำลัยนำฏศิลปเชียงใหม่ มหำวิทยำลัย วิดสิบเก้านายทีน บ่เป๋นอันยะท�ามาหากิ๋น อันว่าโรคร้าย
รำชภัฏเชียงใหม่ และมหำวิทยำลัยเชียงใหม่ ท�ำให้กำรใช้ มันมาจากเมืองจีน ตามตี้ข้าได้ยินกะอู่ฮั่นปู้นแล้ว นี้กะ
ดนตรีล้ำนนำเพื่อกำรประกอบอำชีพนี้ ได้รับกำรยอมรับ แหล่นอ น้องก่อแหล่นาย หือ้ เจ้าปีน้ ้องก่อนัน้ หมัน่ ป้องกัน๋
มำกขึ้นในสังคมปัจจุบัน เน่ อ เจ้ า หื้ อ สวมหน้ า กากอนามั ย ขอสาหวั ด ดี ป ี ้ น ้ อ ง
ตังหลาย ผมจะบรรยายเรื่อราวที่เกิดขึ้น ในปี๋ 63 บ่อมีไผ๋
การใช้ดนตรีล้านนาเพื่อพัฒนาสังคม ตันมึง้ คนเฮาแตกตื่นทั่วทัง้ ประเทศไทย ไวรัสโครโรน่าดัง
กำรน� ำ เสนอกรอบแนวคิ ด ในกำรใช้ ด นตรี มาแต่ไกล๋ เมืองจีนเมืองไทยไกล๋บ่อใจ้ใกล้ โรคนี้ถึงต๋าย
เพื่อพัฒนำชุมชนในด้ำนสังคม ได้แก่ กำรปรับปรุงสภำพ บ้านเมืองเดือนร้อน”
ควำมเป็นอยู่ของคนในชุมชน กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์ใน ช่างซอผูห้ ญิง: “สวัสดีเจ้าปีน้ อ้ งตังหลายตึงหญิง
ครอบครัว กำรสร้ำงควำมรับผิดชอบต่อสังคม และกำร ตึงจายอยู่ตางจองตางบ้าน อันโรคโควิดมันอิดใจ๋เจ่นล�้า
ลดควำมแตกต่ ำ งทำงชนชั้ น ผลจำกกำรศึ ก ษำข้ อ มู ล จะไปซอต่างบ้านปอบะได้ไป โควิดสิบเก้าเข้าแล้วถึงต๋าย
เกีย่ วกับดนตรีลำ้ นนำในกำรพัฒนำด้ำนสังคมนีไ้ ด้ปรำกฏ ละวุ่นละวายอาวอาน้าป้า ถ้าบ่อตันได้ยาก็ถึงตายแต้ ๆ
ขึ้น จำกกำรใช้ ก ำรขั บ ซอล้ ำ นนำเป็ น สื่อ ในชุ ม ชน ทั้ง นี้ จะติ ด ไผ๋ ม าเฮาก่ อ ผ่ อ บ่ อ ฮั น เฮาจ่ ว ยผ่ อ กั๋ น เตอะป้ อ
เนื่องจำกองค์ประกอบของกำรขับซอที่มีกำรใช้ภำษำ เจ้าแม่เจ้า ปี้น้องตังหลายหญิงจายใหญ่เฒ้า บ่อฮู้มัน
ท้องถิ่น หรือ ค�ำเมือง ในกำรสื่อควำมกับผู้ฟังได้โดยตรง จะเข้าไผ๋ไหนคนใด ก่อยฮักษาตั๋วเตอะปี้น้องตังหลาย
ท�ำให้กำรขับซอล้ำนนำจึงเป็นกำรสื่อสำรที่สำมำรถเข้ำ ตึงหญิงตึงจายอย่าพึง่ ออกนอกบ้าน อย่างพึง่ สังสรรค์กนั
ถึงผู้คนในชุมชนทำงภำคเหนือได้เป็นอย่ำงดี กำรเป็นสื่อ เตี่ยเน่อปี้น้อง”
10
พิฆเนศวร์สาร ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม - มิถุนายน 2565
ช่างซอผู้ชาย: “นักรบเสื้อขาวนั่นคือคุณหมอ โดยใช้กิจกรรมดนตรีพื้นบ้ำนล้ำนนำ ผลกำรวิจัยพบว่ำ
ล�าบากใจ๋แต้หนอเก่งไปทุกด้าน ทุกวันทุกคืนบ่อได้หยุด (1) กิ จ กรรมดนตรี พื้ น บ้ ำ นล้ ำ นนำส� ำ หรั บ ผู ้ สู ง อำยุ
ได้ย้าง จ่วยเหลือจาวบ้านทั่วประเทศไทย คนเฮาทุกคน ประกอบไปด้ ว ยกิ จ กรรม กำรเรี ย นกำรสอน และ
ต่างก็กลั๋วต๋าย เสี่ยงอันตรายปอบ่อมีรายได้ ปัญหามี กิ จ กรรมกำรแสดงดนตรี ส� ำ หรั บ กิ จ กรรมกำรเรี ย น
หลายมากมายแต้แต้ หื้อเฮาฟังก�านายแพทย์คุณหมอ กำรสอนจะมี ทุ ก เย็ น วั น อั ง คำร และวั น พฤหั ส บดี ข อง
ตึง อสม. ประจ�าหมู่บ้าน จะไปดื้ดไปด้านเน่อปี้น้องวงใย ทุ ก สั ป ดำห์ ณ วั ด เชี ย งยื น อั น เป็ น วั ด ประจ� ำ ชุ ม ชน
ปฏิบตั ติ วั๋ ท�าอย่างตัง้ ใจ๋ ชีวติ จะปลอดภัยตกไปว่าอี้ หือ้ ขอ วัตถุประสงค์ในกำรเรียนรู้ของชมรม มุ่งเน้นให้ผู้สูงอำยุ
สวัสดีจบเพียงเต้าอี้” มีควำมสุขในกำรท�ำกิจกรรมดนตรี และกิจกรรมกำร
(ส�ำนักงำนวัฒนธรรมจังหวัดพะเยำ, 2564) แสดงดนตรีจะเกิดขึ้นต่อเนื่องจำก กิจกรรมกำรเรียน
กำรสอนดนตรี ผู้สอนจะพำผู้สูงอำยุไปร่วมแสดงดนตรี
กำรขับซอของคณะสวรรค์ล้ำนนำนี้ เป็นกำร ตำมงำนต่ำง ๆ ส่วนใหญ่งำนของชมรมจะมุ่งเน้นกำร
ขั บ ซอในท� ำ นองล่ อ งน่ ำ นซึ่ ง เป็ น ท� ำ นองส� ำ หรั บ กำร บรรเลงดนตรีจติ อำสำ (2) กิจกรรมดนตรีพนื้ บ้ำนล้ำนนำ
ขั บ ซอที่ มี ค วำมเก่ ำ แก่ ข องชำวล้ ำ นนำ เนื้ อ หำในกำร ของชมรมดนตรีพื้นเมืองผู้สูงอำยุ ชุมชนสันโค้งหลวง
ขั บ ซอเป็ น กำรบอกถึ ง ควำมเป็ น มำของโรคติ ด เชื้ อ จั ง หวั ด เชี ย งรำย ส่ ง ผลต่ อ กำรพั ฒ นำสุ ข ภำวะของ
ไวรั ส โคโรนำที่ มี ค วำมอั น ตรำยถึ ง ชี วิ ต และได้ มี ก ำร ผู ้ สู ง อำยุ ทั้ ง 4 ด้ ำ น ได้ แ ก่ สุ ข ภำวะด้ ำ นร่ ำ งกำย
แจ้งเตือนให้ชำวบ้ำนในชุมชน ได้ตระหนักถึงอันตรำย ผู้สูงอำยุได้เคลื่อนไหวกล้ ำมเนื้อในกำรบรรเลงดนตรี
ของโรคติ ด เชื้ อ ไวรั ส โคโรนำ โดยกำรประชำสั ม พั น ธ์ เปรียบเสมือนกำรได้ออกก�ำลังกำย สุขภำวะด้ำนจิตใจ
ให้ ช ำวบ้ ำ นให้ ค วำมร่ ว มมื อ กั บ ทำงรำชกำรและ ผู ้ สู ง อำยุ มี ค วำมร่ ำ เริ ง แจ่ ม ใส สุ ข ภำวะด้ ำ นอำรมณ์
ผู ้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งได้ แ ก่ แพทย์ อำสำสมั ค รสำธำรณสุ ข ผู้สูงอำยุไม่มีควำมวิตกกังวลเรื่องกำรจำกลำในวำระ
ประจ�ำหมู่บ้ำน หรือ อ.ส.ม. เพื่อระวังกำรติดเชื้อของโรค สุดท้ำยของชีวิต ตระหนักถึงคุณค่ำและใช้ชีวิตในช่วง
ดั ง กล่ ำ วในชุ ม ชน เนื้ อ ควำมที่ ป รำกฏในกำรขั บ ซอนี้ บั้ น ปลำยอย่ ำ งมี ค วำมสุ ข และสุ ข ภำวะด้ ำ นสั ง คม
สะท้อนถึงกำรใช้ดนตรีล้ำนนำในด้ำนกำรพัฒนำชุมชน ผู้สูงอำยุมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อสมำชิกในชมรมและผู้อื่น
ที่เกี่ยวข้องกับสภำพควำมเป็นอยู่ กำรเตือนให้ชำวบ้ำน ในสังคม งำนวิจยั ฉบับนีแ้ สดงให้เห็นถึงบทบำทของดนตรี
ได้ ต ระหนั ก รู ้ ใ นวิ ธี ด� ำ รงชี วิ ต อย่ ำ งปลอดภั ย จำก ล้ ำ นนำในกำรพั ฒ นำคุ ณ ภำพชี วิ ต ของผู ้ ค นในชุ ม ชน
โรคติ ด เชื้ อ ไวรั ส โคโรนำโดยกำรปฏิ บั ติ ต นตำมแนว โดยเฉพำะผู้สูงวัยซึ่งเป็นกลุ่มประชำกรของชุมชนที่มี
ปฏิ บั ติ ข องทำงรำชกำร เช่ น กำรใส่ ห น้ ำ กำกอนำมั ย ควำมส�ำคัญและมีจ�ำนวนที่เพิ่มมำกขึ้นในปัจจุบันตำม
กำรงดพบปะผูค้ นตำมมำตรกำรรักษำระยะห่ำงทำงสังคม สภำวะของสังคมผู้สูงวัย (Aging Society) โดยงำนวิจัย
(Social Distancing) เพือ่ ไม่ให้เกิดกำรแพร่ระบำดในชุมชน ฉบับนี้ได้ชี้ให้เห็นถึงศักยภำพของดนตรีล้ำนนำในกำร
ซึง่ กำรใช้กำรขับซอเพือ่ เตือนให้ผคู้ นระวังโรคติดเชือ้ ไวรัส พัฒนำชุมชนในด้ำนสังคมได้เป็นอย่ำงดี
โคโรนำนี้ ถือเป็นแนวทำงหนึ่งที่สะท้อนถึงกำรใช้ดนตรี กำรยกตั ว อย่ ำ งเกี่ ย วกั บ กำรขั บ ซอของ
เพื่อพัฒนำในด้ำนสังคมของชุมชน คณะสวรรค์ลำ้ นนำ และงำนวิจยั เรือ่ งกำรพัฒนำสุขภำวะ
นอกจำกนี้ในงำนวิจัยของ เพียงแพน สรรพศรี, ผู ้ สู ง อำยุ โ ดยใช้ กิ จ กรรมดนตรี พื้ น บ้ ำ นล้ ำ นนำของ
สกำวรุ้ง สำยบุญมี และยุทธนำ ฉัพพรรณรัตน์ (2563) เพีย งแพน สรรพศรี และคณะ เป็ น เพีย งตั วอย่ำ งหนึ่ง
เรื่อง กำรพัฒนำสุขภำวะผู้สูงอำยุโดยใช้กิจกรรมดนตรี ที่สะท้อนแนวทำงในกำรใช้ดนตรีล้ำนนำเพื่อพัฒนำใน
พื้นบ้ำนล้ำนนำ กรณีศึกษำชมรมดนตรีพื้นเมือง ชุมชน ด้ำนสังคมของชุมชน ซึ่งผู้เขียนมีควำมคิดเห็นว่ำยังคง
สั น โค้ ง หลวง จั ง หวั ด เชี ย งรำย ที่ ไ ด้ ศึ ก ษำรู ป แบบ มีแนวทำงในกำรใช้ดนตรีล้ำนนำเพื่อพัฒนำสังคมของ
กิ จ กรรมกำรเรี ย นกำรสอนดนตรี พื้ น บ้ ำ นล้ ำ นนำ ชุมชนที่เกิดขึ้นในลักษณะอื่น ๆ อีก ซึ่งมีควำมส�ำคัญใน
ส�ำหรับผู้สูงอำยุและศึกษำกำรพัฒนำสุขภำวะผู้สูงอำยุ กำรศึกษำวิจัยเพื่อรวบรวมองค์ควำมรู้ในด้ำนอื่นต่อไป
11
Ganesha Journal Vol. 18 No. 1 January - June 2022
การใช้ ด นตรี ล ้ า นนาเพื่ อ พั ฒ นาการเมื อ ง นอกจำกนี้ ข ้ อ มู ล จำกงำนวิ จั ย ของ รณชิ ต
การปกครอง แม้นมำลัย (2537) ที่ศึกษำเกี่ยวกับกลองหลวงในพื้นที่
กำรน�ำเสนอแนวคิดในกำรใช้ดนตรีเพื่อพัฒนำ จังหวัดล�ำพูนและจังหวัดเชียงใหม่ ผลจำกกำรศึกษำได้
ชุมชนในด้ำนกำรเมืองกำรปกครองที่ปรำกฏในลักษณะ สะท้อนให้เห็นว่ำดนตรีกลองหลวงที่เกิดขึ้นในชุมชนของ
ต่ำง ๆ ได้แก่ กำรสร้ำงกำรมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ชำวไทยอง ช่วยสร้ำงควำมเป็นปึกแผ่นของผู้คนในชุมชน
ก่อให้เกิดควำมส�ำนึกร่วมและควำมเป็นปึกแผ่นภำยใน จำกกระบวนกำรต่ำง ๆ ของกำรเกิดขึ้นของกลองหลวง
ชุมชน กำรค้นหำควำมเป็นมำและอัตลักษณ์ของชุมชน ในชุมชนชำวไทยอง ได้แก่ กำรสร้ำงกลองหลวง กำรใช้
ควำมเป็นไปได้ของแนวคิดดังกล่ำวได้สะท้อนจำกกำร กลองหลวงในงำนประเพณี และกำรเก็บรักษำกลองหลวง
ศึกษำดนตรีลำ้ นนำทีเ่ รียกว่ำ ตกเส้ง ของณรงค์ สมิทธิธรรม เนื่องจำกกลองหลวงเป็นกลองที่มีขนำดใหญ่ รูปร่ำงยำว
(2541, น. 89-95) ที่ก ล่ ำ วถึง วงดนตรีต กเส้ ง ว่ ำเป็ น คล้ ำ ยขวด ด้ ำ นในทะลุ ถึง กั น ใช้ ห นั ง วั ว หุ ้ ม หน้ ำ กลอง
ดนตรีที่มีบทบำทในกำรส่งเสริมกระบวนกำรมีส่วนร่วม ในด้ ำ นเดี ย ว ดั ง นั้ น กระบวนกำรสร้ ำ งกลองหลวง
ของคนในชุ ม ชน จำกกำรที่ ช ำวบ้ ำ นในจั ง หวั ด ล� ำ ปำง จึงจ�ำเป็นต้องอำศัยควำมร่วมมือของชำวบ้ำนในชุมชน
ได้ ร ่ ว มมื อ กั น ในกำรแห่ ป ระโคมตกเส้ ง เมื่ อ มี ง ำนบุ ญ โดยมีผู้เชี่ยวชำญ เรียกว่ำ “สล่ำกลอง” หรือในบำงครั้ง
เกิ ด ขึ้ น ในชุ ม ชน เนื่ อ งจำกลั ก ษณะของดนตรี ต กเส้ ง เป็ น พระภิก ษุ ที่มีค วำมรู ้ เ กี่ย วกั บ กลองหลวงเป็ น ผู ้ น� ำ
เป็นดนตรีประเภทปี่กลองที่ประกอบไปด้วยเครื่องดนตรี ชำวบ้ำนในกำรสร้ำงกลองหลวง กำรสร้ำงกลองหลวง
หลำกหลำยชนิด ได้แก่ แน กลองแอว กลองตะโล๊ดโป๊ด มี ก ระบวนกำรที่ ซั บ ซ้ อ นตั้ ง แต่ ก ำรคั ด เลื อ กต้ น ไม้ ซึ่ ง
ฆ้อง ฉิ่ง และฉำบ และกำรแห่ตกเส้งที่เกิดขึ้นในบริบท ส่วนใหญ่เป็นไม้เนือ้ แข็งทีม่ ขี นำดใหญ่ กำรตัดต้นไม้ตอ้ งมี
ของงำนบุ ญ ตั้ ง แต่ เ ริ่ ม ต้ น จนกระทั่ ง สิ้ น สุ ด งำน ดั ง นั้ น กำรประกอบพิธีกรรมตำมควำมเชื่อ กำรน�ำไม้มำกลึง
กำรจะเกิดดนตรีตกเส้งขึ้นในชุมชนได้นั้นจึงต้องอำศัย เพื่อสร้ำงกลอง โดยกำรเตรียมหนังวัวส�ำหรับหุ้มหน้ำ
กำรมีส่วนร่วมของผู้คนภำยในชุมชน ซึ่งข้อมูลจำกกำร กลองหลวง และกระบวนกำรสร้ำ งกลองหลวงนี้ต ้อง
วิจยั แสดงให้เห็นว่ำ ได้มีกำรรวมตัวกันของคนในชุมชน อำศัยควำมร่วมมือและควำมเป็นปึกแผ่นของชำวบ้ำน
เพือ่ ท�ำกำรแห่ประโคมวงดนตรีตกเส้งในงำนบุญประกอบ ในชุ ม ชนจึ ง จะสำมำรถสร้ ำ งกลองหลวงให้ ส� ำ เร็ จ ได้
ไปด้วยนักดนตรีที่มีทักษะสูงและนักดนตรีมือสมัครเล่น กำรใช้กลองหลวงเป็นอีกกระบวนกำรหนึ่งที่สร้ำงควำม
กำรร่วมมือกันของบุคคลที่มีทักษะทำงดนตรีที่ต่ำงกันนี้ เป็นปึกแผ่นของผูค้ นในชุมชน กำรแข่งขันตีกลองหลวงเป็น
แสดงถึงกำรร่วมแรงร่วมใจและกำรสร้ำงกระบวนกำร ประเพณีที่นิยมกันในหมู่ชำวไทยองในจังหวัดล�ำพูนและ
มีส่วนร่วมของคนในชุมชน โดยไม่มกี ำรแบ่งแยกชนชนชัน้ ชุมชนในบำงพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ กำรแข่งขันกำรตี
จำกควำมแตกต่ำงทำงด้ำนทักษะดนตรี ในทำงตรงกันข้ำม กลองหลวงต้องอำศัยควำมร่วมมือ ควำมสำมัคคี และ
กำรร่ ว มกั น ประโคมแห่ ต กเส้ ง ในงำนบุ ญ กลั บ ท� ำ ให้ ควำมเป็นปึกแผ่นของคนในชุมชน เนื่องจำกเป็นกลอง
ชำวบ้ำนในชุมชนรู้สึกว่ำได้รับบุญกุศลจำกกำรร่วมกัน ขนำดใหญ่ อีกทัง้ ในกำรแข่งขันทีต่ อ้ งท�ำกำรตีกลองหลวง
แห่ตกเส้งในงำนบุญดังกล่ำว นอกจำกนี้กระบวนกำร หลำยครั้ ง รวมถึ ง กำรสลั บ ต� ำ แหน่ ง ของกลองตลอด
มีส่วนร่วมยังเกิดขึ้นจำกกำรมำช่วยแห่ประโคมตกเส้ง กำรแข่งขัน กระบวนกำรเหล่ำนี้ได้สร้ำงควำมร่วมมือ
ของผู้คนที่อยู่ต่ำงชุมชน กำรช่วยเหลือกันของผู้คนใน ควำมเป็นปึกแผ่นของชำวบ้ำนในชุมชนให้เกิดขึ้น และ
ต่ำงชุมชนที่เรียกว่ำ “กำรเอำมื้อเอำวัน” หรือกำรลงแขก สร้ำงอัตลักษณ์ของชุมชนผ่ำนกำรแข่งขันตีกลองหลวง
เป็ น กำรช่ ว ยเหลื อ กั น ของบุ ค คลต่ ำ งชุ ม ชนในกำรแห่ ดังปรำกฏในภำพกำรตีกลองหลวงในงำนบุญของชำวบ้ำน
ประโคมตกเส้งที่เกิดขึ้นในชุมชนชำวล�ำปำง กำรเกิดขึ้น ในชุมชนวัดยำงหลวง อ�ำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ของวงดนตรีตกเส้งในชุมชนนี้สะท้อนถึงแนวทำงในกำร ดังต่อไปนี้
ใช้ดนตรีในกำรพัฒนำชุมชนในด้ำนกำรเมืองกำรปกครอง
ได้เป็นอย่ำงดี
12
พิฆเนศวร์สาร ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม - มิถุนายน 2565

ภาพที่ 1 กำรตีกลองหลวง
ที่มา: จักรพงษ์ ค�ำบุญเรือง, 2561

ข้ อ มู ล เกี่ ย วกั บ ดนตรี ล ้ ำ นนำทั้ ง สองชนิ ด คือ ที่ประกอบด้วยกำรพัฒนำทำงด้ำนเศรษฐกิจ สังคม และ


ตกเส้ง และกลองหลวง จำกงำนวิจัยทั้งสองฉบับที่ได้ กำรเมืองกำรปกครอง ซึ่งเป็นเป้ำหมำยของกำรพัฒนำ
กล่ ำ วมำข้ ำ งต้ น นี้ ได้ แ สดงถึ ง แนวคิ ด ในกำรใช้ ด นตรี ชุมชนในช่วงระยะเวลำที่ผ่ำนมำ ผู้เขียนได้น�ำเอำแนวคิด
ล้ำนนำเพื่อพัฒนำชุมชนในด้ำนกำรเมืองกำรปกครองที่ เกี่ ย วกั บ ควำมส� ำ คั ญ ของกำรพั ฒ นำมำเชื่ อ มโยงกั บ
เกิดขึน้ ภำยในชุมชนต่ำง ๆ ได้เป็นอย่ำงดี อีกทัง้ ยังสะท้อน แนวคิดเกี่ยวกับประโยชน์ของดนตรีในกำรพัฒนำชุมชน
ถึงควำมเป็นไปได้ส�ำหรับแนวทำงในกำรใช้ดนตรีล้ำนนำ ที่ปรำกฏในงำนเขียนของนักวิชำกำรชำวต่ำงประเทศ
เพื่อพัฒนำชุมชนในด้ำนกำรเมืองกำรปกครองนี้ด้วย ทัง้ งำนวิจยั ของ Foster (2010) จำกมหำวิทยำลัยวิคตอเรีย
และบทควำมของ PlayCore (2020) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่
ประกอบธุรกิจเพือ่ สังคมในสหรัฐอเมริกำ ข้อมูลทีป่ รำกฏ
บทสรุป ในงำนเขียนดังกล่ำวได้เสนอแนวคิดและแนวทำงในกำร
กำรน�ำเสนอแนวคิดและแนวทำงในกำรใช้ดนตรี ใช้ดนตรีเพื่อพัฒนำชุมชนที่ในบริบทของประเทศต่ำง ๆ
ล้ ำ นนำเพื่ อ พั ฒ นำชุ ม ชนที่ ป รำกฏในบทควำมฉบั บ นี้ ซึ่งผู้เขียนได้น�ำเอำแนวคิดเกี่ยวกับควำมส�ำคัญของกำร
เป็นกำรน�ำเสนอแนวคิดในกำรใช้ดนตรีเพื่อพัฒนำชุมชน พัฒนำชุมชนและแนวคิดเกี่ยวกับประโยชน์ของดนตรี
โดยผู้เขียนได้ท�ำกำรศึกษำแนวคิดในกำรพัฒนำชุมชน ในกำรพัฒนำชุมชนมำเชื่อมโยงกัน และได้น�ำเสนอเป็น
ซึ่ ง เป็ น แนวคิ ด หนึ่ ง ที่ มี ค วำมส� ำ คั ญ ในกำรศึ ก ษำทำง กรอบแนวคิดในกำรใช้ดนตรีเพือ่ พัฒนำชุมชนดังแสดงใน
สังคมศำสตร์โดยเฉพำะในด้ำนกำรพัฒนำสังคม ซึ่งกำร แผนภำพที่ 1
ศึ ก ษำพบว่ ำ ในช่ ว งระยะเวลำที่ ผ ่ ำ นมำมี นั ก วิ ช ำกำร ส�ำหรับเนื้อหำในส่วนหลังของบทควำมฉบับนี้
หลำยท่ ำ นได้ ท� ำ กำรศึ ก ษำและอธิ บ ำยแนวคิ ด ในกำร ผู้เขียนได้เสนอแนวทำงในกำรใช้ดนตรีล้ำนนำเพื่อกำร
พัฒนำชุมชนอย่ำงกว้ำงขวำง ประกอบกับกำรให้ควำม พัฒนำชุมชน โดยกำรน�ำเสนอข้อมูลเกีย่ วกับดนตรีลำ้ นนำ
ส�ำคัญต่อชุมชนของภำครัฐ และองค์กำรสหประชำชำติ จำกงำนวิจัยต่ำง ๆ ที่มีควำมสอดคล้องกับกรอบแนวคิด
ที่ได้ก�ำหนดกำรพัฒนำชุมชนเป็นประเด็นส�ำคัญหนึ่งใน ในกำรใช้ดนตรีเพื่อพัฒนำชุมชนที่น�ำเสนอมำในเนื้อหำ
กำรพัฒนำ ส�ำหรับในบทควำมฉบับนี้ผู้เขียนได้ให้ควำม ของบทควำมในส่วนแรก ผู้เขียนได้ยกเอำข้อมูลที่ปรำกฏ
ส�ำคัญในประเด็นเกี่ยวควำมส�ำคัญของกำรพัฒนำชุมชน ในงำนวิจัยเกี่ยวกับกำรเปลี่ยนแปลงของกระบวนกำร
13
Ganesha Journal Vol. 18 No. 1 January - June 2022
ผลิตเครื่องดนตรีล้ำนนำของ พิพัฒน์พงศ์ มำศิริ (2562) ของจังหวัดล�ำปำง และงำนวิจัยเกี่ยวกับกลองหลวงใน
เพื่อชี้ให้เห็นถึงแนวทำงกำรใช้ดนตรีล้ำนนำเพื่อพัฒนำ พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และล�ำพูนของรณชิต แม้นมำลัย
ชุมชนในด้ำนเศรษฐกิจ ซึ่งงำนวิจัยดังกล่ำวได้ชี้ให้เห็น (2537) เพื่ อ แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง แนวทำงในกำรใช้ ด นตรี
ถึงควำมเป็นไปได้ในกำรใช้กำรผลิตเครื่องดนตรีล้ำนนำ ล้ำนนำเพื่อพัฒนำชุมชนในด้ำนกำรเมืองกำรปกครอง
ในด้ำนกำรจ้ำงงำน กำรประกอบอำชีพ และกำรสร้ำง อีกด้วย กำรศึกษำข้อมูลเกี่ยวกับดนตรีล้ำนนำที่ปรำกฏ
รำยได้ของผู้คนในชุมชน กำรศึกษำข้อมูลเกี่ยวกับกำร ในงำนเขี ย น งำนวิ จั ย ตลอดจนสื่ อ สั ง คมออนไลน์
ขับซอเพื่อเป็นสื่อในกำรแจ้งเตือนถึงอันตรำยของโรค ดั ง กล่ ำ ว เพื่ อ ต้ อ งกำรสะท้ อ นให้ ถึ ง ควำมเป็ น ไปได้
ติ ด เชื้ อ ไวรั ส โคโรนำตลอดจนแนวทำงปฏิ บั ติ เ พื่ อ ของแนวคิ ด และแนวทำงในกำรใช้ ด นตรี ล ้ ำ นนำเพื่ อ
ป้องกันกำรติดเชื้อโรคดังกล่ำวของศิลปินขับซอล้ำนนำ พั ฒ นำชุ ม ชน โดยผู ้ เ ขี ย นหวั ง ว่ ำ บทควำมฉบั บ นี้ จ ะ
คณะสวรรค์ ล ้ ำ นนำร่ ว มกั บ ส่ ว นรำชกำรในจั ง หวั ด เป็นประโยชน์ต่อวงวิชำกำรทำงด้ำนกำรพัฒนำชุมชน
พะเยำ เป็นกำรยกตัวอย่ำงของแนวทำงในกำรใช้ดนตรี นักวิชำกำรด้ำนดนตรี ตลอดจนเจ้ำหน้ำทีใ่ นส่วนรำชกำร
ล้ำนนำเพื่อพัฒนำชุมชนในด้ำนของสังคม นอกจำกนี้ ที่จะได้น�ำแนวคิดดังกล่ำวไปปรับใช้และเกิดประโยชน์
กำรศึ ก ษำงำนวิ จั ย เกี่ ย วกั บ วงดนตรี ต กเส้ ง ในชุ ม ชน ต่อกำรพัฒนำชุมชนในล�ำดับต่อไป

เอกสารอ้างอิง
กรมกำรพัฒนำชุมชน. (2527). การพัฒนาชุมชน. กรุงเทพฯ: กรมกำรพัฒนำชุมชน.
โกวิทย์ พวงงำม. (2550). การปกครองท้องถิ่นไทย. กรุงเทพฯ: เอ็กซเปอร์เน็ท.
จักรพงษ์ ค�ำบุญเรือง. (2561). กลองหลวงล้านนา สืนสานมรดกแห่งบรรพชน. สืบค้นจำก https://www.chiangmainews.
co.th/page/archives/855612/?fbclid=IwAR2y_mQY2HrXpr-LJhQYK9xwfp2FgOspr9-MeuboubOn1xzj
7iLhPTrb-Do
จิตติ มงคลชัยอรัญญา. (2540). การศึกษาชุมชนเพื่อการพัฒนา. กรุงเทพฯ: มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์.
โชติ ม ำ โชติ ก เสถี ย ร. (2548). ศั ก ยภาพการผลิ ต เพลงพื้ น บ้ า นล้ า นนา กรณี ศึ ก ษา “พิ ณ เปี ๊ ย ะ” จั ง หวั ด ล� า ปาง.
(กำรค้นคว้ำอิสระเศรษฐศำสตรมหำบัณฑิต, สำขำวิชำเศรษฐศำสตร์ มหำวิทยำลัยเชียงใหม่).
ณรงค์ สมิทธิธรรม. (2541). วงตกเส้ง: ดนตรีแห่ในวิถีชีวิตของชาวล�าปาง. (วิทยำนิพนธ์ศิลปศำสตรมหำบัณฑิต,
สำขำวิชำวัฒนธรรมศึกษำ มหำวิทยำลัยมหิดล).
ณัฏฐวุฒิ ทรัพย์อุปถัมภ์. (2558). ทฤษฎีและหลักการพัฒนาชุมชน. จันทบุรี: คณะมนุษยศำสตร์และสังคมศำสตร์
มหำวิทยำลัย รำชภัฏร�ำไพพรรณี.
บูรณพันธุ์ ใจหล้ำ. (2563). ภูมิปัญญำกำรสร้ำงเครื่องดนตรีล้ำนนำเพื่อสืบทอดกำรสร้ำงเครื่องดนตรีพื้นบ้ำน
และเสริมสร้ำงควำมเข้มแข็งทำงวัฒนธรรม. วารสารวิจัยราชภัฏเชียงใหม่, 21(1), 45-61.
ประเวศ วสี . (2541). ยุ ท ธศาสตร์ ช าติ เ พื่ อ ความเข้ ม แข็ ง ทางเศรษฐกิ จ สั ง คมและวั ฒ นธรรม ปาฐกถาพิ เ ศษ
ป๋วย อึ้งภากรณ์. กรุงเทพฯ: หมอชำวบ้ำน.
พิพฒั น์พงศ์ มำศิร.ิ (2562). การเปลีย่ นแปลงอัตลักษณ์ของดนตรีล้านนา. (วิทยำนิพนธ์ปรัชญำดุษฎีบณ ั ฑิต, สำขำวิชำ
สังคมศำสตร์ มหำวิทยำลัยแม่ฟ้ำหลวง).
เพียงแพน สรรพศรี, สกำวรุง้ สำยบุญมี และยุทธนำ ฉัพพรรณรัตน์. (2563). กำรพัฒนำสุขภำวะผูส้ งู อำยุโดยใช้กจิ กรรม
ดนตรีพื้นบ้ำนล้ำนนำ กรณีศึกษำชมรมดนตรีพื้นเมือง ชุมชนสันโค้งหลวง จังหวัดเชียงรำย. วารสารวิชาการ
เซนต์จอห์น, 23(33), 224-239.
มณี พยอมยงค์. (2529). ประเพณีสิบสองเดือนของล้านนาไทย. เชียงใหม่: ส.ทรัพย์กำรพิมพ์.
14
พิฆเนศวร์สาร ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม - มิถุนายน 2565
มยุรี วัดแก้ว. (2535). ทฤษฎีและหลักการพัฒนาชุมชน. เพชรบุร:ี คณะวิชำมนุษยศำสตร์และสังคมศำสตร์ วิทยำลัยครู
เพชรบุรี.
รณชิต แม้นมำลัย. (2537). กลองหลวงล้านนา: ความสัมพันธ์ระหว่างวิถีชีวิตและชาติพันธุ์. (วิทยำนิพนธ์ศิลปศำสตร
มหำบัณฑิต, สำขำวิชำวัฒนธรรมศึกษำ มหำวิทยำลัยมหิดล).
รพีภัทร์ สุขสมเกษม. (2559). ปัจจัยที่มีผลต่อการส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน กรณีศึกษาชุมชนในเทศบาลนคร
ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี. (กำรค้นคว้ำอิสระรัฐศำสตรมหำบัณฑิต, สำขำวิชำบริหำรรัฐกิจและกิจกำร
สำธำรณะ มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์).
รำชบัณฑิตยสถำน. (2542). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ: อักษรเจริญ.
วนิดำ ริกำกรณ์. (2545). การด�ารงอยู่ของการละเล่นพื้นบ้านซอล้านนา. (วิทยำนิพนธ์ศึกษำศำสตรมหำบัณฑิต, สำขำ
วิชำกำรศึกษำนอกระบบ มหำวิทยำลัยเชียงใหม่).
ศุภนิจ ไชยวรรณ. (2547). กระบวนการสืบทอดเพลงซอพื้นบ้านของจังหวัดเชียงใหม่. (วิทยำนิพนธ์ศึกษำศำสตร
มหำบัณฑิต, สำขำวิชำอำชีวศึกษำ มหำวิทยำลัยเชียงใหม่).
สัญญำ สัญญำวิวัฒน์. (2525). การพัฒนาชุมชน. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนำพำนิช.
สนธยำ พลศรี. (2547). ทฤษฎีและหลักการพัฒนาชุมชน. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
สมำคมศิลปินขับซอล้ำนนำ. (ม.ป.ป.). สมาชิกปัจจุบัน. สืบค้นจำก http://sorlanna.com/about
ส�ำนักงำนวัฒนธรรมจังหวัดพะเยำ. (2564). สื่อประชาสัมพันธ์ COVID-19 จังหวัดพะเยา (ซอพื้นบ้านคณะสวรรค์
ล้านนา). สืบค้นจำก https://www.youtube.com/watch?v=lv33ADNIOX0
Foster, D. (2010). Music and community development: Perspectives on relationship, roles and structures in music in
community. (Master Thesis in Education, Victoria University).
PlayCore. (2020). Benefits of music on communities. สืบค้นจำก https://www.playcore.com/news/benefits-of-music-
on-communities

You might also like