You are on page 1of 5

ข้ อสอบนาตยา

1.จากหนังเรื่อง up the Yangtze


1.1 การสร้ างเขื่อนของหน่วยงานรัฐบาลทาให้ เกิดการเคลื่อนย้ ายพรมแดน/ชาติคือ จากหนัง up the Yangtze เมื่อการสร้ าง
เขื่อนส่งผลกระทบต่อพื ้นที่ทามาหากินของชาวเกษตรกรและชาวนาเป็ นเงื่อนไขที่รัฐบังคับให้ ชาวเกษตรกรต้ องย้ ายถิ่นฐาน
ทาให้ ต้องมีคนอพยพถูกบังคับให้ ย้ายถิ่นฐานครอบครัวชาวนาต้ องอพยพมาสร้ างกระท่อมเพื่ออยู่อาศัยบริเวณใกล้ ริมแม่น ้า
แยงซีด้วยเหตุการณ์นีท้ าให้ ลกู สาวของครอบครับชาวนาต้ องออกไปเป็ นแรงงานบนเรือสาราญทาให้ เห็นว่าการสร้ างเขื่อน
ก่อให้ เกิดการเคลื่อนย้ ายของแรงงานจากแรงงานภาคเกษตรกรรมมาสู่แรงงานภาคอุตสาหกรรมเด็กหญิงจากครอบครัว
เกษตรกรที่เป็ นชาวนาที่ยากจนต้ องย้ ายไปทางานบนเรือสาราญสิ่งนี ้ก่อให้ เกิดการแพร่วฒ ั นธรรม ทาให้ เขาได้ เรียนรู้วัฒนธรรม
อื่นจากการถูกสอนงาน เมื่อหญิงสาวต้ องเข้ าไปเป็ นแรงงานบนเรือสาราญเพราะครอบครัวไม่มีกาลังทรัพย์พอที่จะส่งเขาเรียน
และหายังชีพเขาจึงต้ องไปเป็ นแรงงานบนเรือสาราญซึ่งต้ องมีการเทรนพนักงานก่อนออกปฏิบตั ิงานจริง การสอนงานของชาว
จีนบนเรือนั ้นมีการสอนถึงการพูดภาษาอังกฤษและสอนถึงการพูดกับลูกค้ าชาวตะวันตกและชาวอเมริกันว่าควรพูดหรือไม่ควร
พูดอย่างไร เพราะบนเรือสาราญมีแขกและลูกค้ าชาวตะวันตกเป็ นจานวนมาก องค์กรจึงให้ ความสาคัญในการเทรนพนักงานใน
การต้ อนรับลูกค้ าที่มาจากฝั่งตะวันตก ด้ วยสิ่งนี ้ทาให้ แรงงานข้ ามชาติได้ รับวัฒนธรรมของตะวันตกจากการเรียนรู้งานครัง้ นี ้
นอกจากนี ้ยังเป็ นการเผยแพร่วัฒนธรรมของจีนให้ กับนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกอีกด้ วยคือวัฒนธรรมการทานด้ วยตะเกียบที่
ปรากฏบนการล่องเรือสาราญโดยมีการเสิร์ฟอาหารพื ้นเมืองของจีนเป็ นการเผยแพร่วัฒนธรรมให้ นักท่องเที่ยวชาวตะวันตกได้ ร้ ู
อย่างหนึ่ง

1.2 ผลกระทบการสร้ างเขื่อนในด้ านดี


-เศรษฐกิจ การเติบโตขึ ้นของเศรษฐกิจทาให้ ประเทศมีรายได้ จากการล่องเรือผ่านเขื่อนขนาดใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยว
ชาวตะวันตกฐานะร่ารวย นาเงินต่างชาติเข้ าประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดเป็ นธุรกิจการท่องเที่ยวที่สาคัญ
-วัฒนธรรม เกิดการแลกเปลี่ยนของภาษาจากนักท่องเที่ยวที่ล่องเรือบนเรือสาราญบนเขื่อนแห่งนี ้ และแรงงานชาวจีนบนเรือซึ่ง
ไม่ได้ มีเพียงแรงงานชาวจีนแต่ยงั มีแรงงานช้ ามชาติที่เช้ ามาทางานทาให้ มีการแลกเปลี่ยนกันของวัฒนธรรมของแต่ละสัญชาติ
ที่เกิดการผสมผสานในที่แห่งนี ้
-ระบบคมนาคมที่สะดวกขึ ้นจากการพัฒนาเทคโนโลยีและความทันสมัย เขื่อนแห่งนี ้ยังเป็ นที่ขนส่งสินค้ าและสามารถเดินทาง
ไปยังที่ต่างๆของประเทศได้
-สิ่งแวดล้ อม ทาให้ มีน ้าใช้ หมุนเวียนได้ ตลอด มีแหล่งผลิตไฟฟ้าที่ทนั สมัยและมีคุณภาพ

ด้ านไม่ดี
-ด้ านสังคม การสร้ างเขื่อนนี ้ทาให้ เกิดการตังถิ
้ ่นฐานใหม่ของประชากรชาวเกษตรกรที่เป็ นชาวนาครอบครัวหนึ่ง ซึ่งการสร้ าง
เขื่อนที่เป็ นโรงไฟฟ้าพลังงานน ้าที่ใหญ่ที่สดุ ภายใต้ โปรเจคการสร้ างของเหมา เจ๋อตง ทาให้ เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันของ
สังคม เกิดความสัมพันธ์ใหม่ทางสังคมคือเจ้ านายและลูกจ้ างจากแรงงานทางเกษตรกรรมต้ องถูกแทนที่ด้วยแรงงานใน
ภาคอุตสาหกรรม เพราะการสร้ างเขื่อนทาให้ ครอบครัวหญิงสาวไม่สามารถทาอาชีพของตนได้ จึงต้ องส่งลูกสาวไปเป็ นแรงงาน
บนเรือสาราญ ปั ญหามากมายที่ตามมาเช่น ครอบครัวของหญิง ยูส่ยุ ไม่มีรายได้ จ่กการทานาเพราะการสร้ างเขื่อนเมื่อประตู
เขื่อนปิ ดทาให้ น ้าสูงขึ ้น ที่ดินทางการเกษตรจะถูกน ้าท่วมครอบครัวของหญิงสาวต้ องอพยพย้ ายถิ่นฐานไปที่ใหม่เพื่อหาเลี ้ยงชีพ
และหาเงินเลี ้ยงดูค่าเล่าเรียนของลูกสาว แต่ครอบครัวเขาไม่มีเงินมากพอจะส่งทาให้ หญิงสาวต้ องออกไปเป็ นแรงงานบนเรือ
สาราญ การสร้ างเขื่อนทาให้ เขาต้ องออกไปหาเลี ้ยงตนโดยการทางานบนเรือสาราญเพื่อเลี ้ยงชีพตัวเอง ครอบครัวของเขาทา
อาชีพชาวนาเมื่อโดนผลกระทบจากการสร้ างเขื่อนนี ้ครอบครัวเขาจึงไม่สามารถประกอบอาชีพอื่นได้ อีกเพราะขาดทักษะและ
การศึกษานอกจานกีย้ งั ทาให้ เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมระหว่างคนรวยและคนจน ครอบครัวที่มาจากชนชันกลาง้
และปั ญหาจากการสร้ างเขื่อนยังนาไปสู่ปัญหาในครอบครัวที่เมื่อครอบครัวไม่สามารถหารายได้ ได้ เหมือนเดิมจากการทาอาชีพ
ชาวนาทาให้ ไม่มีเงินส่งเสียให้ ลกู เรียนเกิดปั ญหากันระหว่างคนในครอบครัว

-ความเป็ นอยู่ของชาวบ้ านเปลี่ยนไปเพราะจากแต่ก่อนที่ชาวบ้ านหาเลี ้ยงชีพโดยการทาเกษตรและทานาแต่ส่งผลกระทบต่อที่


อยู่อาศัยของคนในชนบทนั ้นที่ต้องกลายเป็ นผู้ไร้ ที่ดินต้ องออกมาตังถิ
้ ่นฐานที่บริเวณริมแม่น ้าแยงซีและทาให้ ขาดปั จจัยการ
ผลิตเพราะพื ้นที่ดินถูกนาไปสร้ างเขื่อน

-สิ่งแวดล้ อม ทาลายระบบนิเวศน์และป่ าไม้ การสร้ างเขื่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สดุ ในโลก มีการใช้ สิ่งก่อสร้ างที่จานวนเยอะทาให้


ทาลายพื ้นที่ป่าและที่อยู่อาศัยของสัตว์ ทาให้ ป่าไม้ ลดลง ภูมิประเทศเปลี่ยนแปลงเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้ อม

1.3 ผู้ที่ได้ ผลประโยชน์จากการสร้ างเขื่อน คือ รัฐบาลจีนที่สร้ างเขื่อนนี ้ และเจ้ าของธุรกิจเรือสาราญเพราะเขื่อนนีม้ ีขนาดใหญ่
ทาให้ สามารถล่องเรือขนาดใหญ่รับนักท่องเที่ยวจากตะวันตกและลูกค้ าที่มีฐานะร่ารวยมาใช้ บริการเรือสาราญนี ้ได้ สร้ าง
รายได้ ให้ กับเจ้ าของธุรกิจนี ้ นอกจากนี ้ยังเป็ นการพัฒนาประเทศให้ เห็นถึงความทันสมัยของจีนในยุคโลกาภิวัฒน์ในการสร้ าง
สิ่งยิ่งใหญ่ขึ ้นมา ทาให้ เห็นว่าหน่วยงานรัฐบาลจีนตังใจจะท
้ าให้ เขื่อนดูเป็ นประโยชน์ในทางด้ านการท่องเที่ยวเพิ่มรายได้ เข้ า
ประเทศอีกด้ วย การสร้ างเขื่อนแห่งนี ้ยังมีการใช้ เพื่อขนส่งสินค้ าและทาการอื่นๆเห็นได้ ว่าผู้ได้ ผลประโยชน์จากการสร้ างเขื่อนที่
แท้ จริงไม่ใช่ประชาชนเพราะเป็ นการสร้ างผลกระทบทางสิ่งแวดล้ อมที่จะเกิดขึ ้นในระยะยาว ให้ เห็นถึงวาทกรรมการพัฒนา
ของคนชนชันสู ้ งหรือผู้มีอานาจในการนาเอาวาทกรรมการพัฒนามาเป็ นข้ ออ้ างในการสร้ างเขื่อน และเป็ นการกระตุ้นให้ มีเงิน
จากต่างประเทศเข้ าประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี ้การสร้ างเขื่อนที่ยิ่งใหญ่นี ้เป็ นสัญลักษณ์ที่ทาให้ หลายคนมองว่า
ประเทศนั ้นมีความทันสมัย และมีความเจริญก้ าวหน้ าทางเทคโนโลยี

ผู้ที่เสียผลประโยชน์จากการสร้ างเขื่อนคือ แรงงานในภาคเกษตรกรรม ชาวนา


คนชนบทต้ องอพยพไปตังถิ ้ ่นฐานใหม่เพราะการสร้ างเขื่อนส่งผลให้ เสียพื ้นที่ทางการเกษตรกรรมเพราะต้ องใช้ พื ้นที่จานวนมาก
ในการสร้ างจึงทาให้ ไปรบกวนพื ้นที่การทาเกษตรของคนชนบทหรือชาวนาในเรื่องนี ้ นอกจากนี ้ยังส่งผลเสียทาให้ เสียคุณภาพ
และปริมาณการเพาะปลูกและทาให้ ไม่สามารถหารายได้ จากการทาเกษตรได้ อีก การล่องเรือสาราญที่สดุ หรูบนเขื่อนแห่งนี ้
ภายใต้ เขื่อนนี ้เต็มไปด้ วยพื ้นที่ทามาหากินของชาวนาที่จมหายไป นอกจากนี ้การถูกบังคับให้ ย้ายถิ่นฐานเป็ นปั จจัยที่ทาให้ คน
ต้ องขวนขวายหางานทา เมื่อลูกสาวชาวนาเปลี่ยนแปลงสถานะตัวเองกลายเป็ นแรงงานยังทาให้ เห็นถึงความแตกต่างของชน
ชันที
้ ่มีฐานะปานกลางและยากจนในสังคมแรงงานหญิงสาวที่มาจากครอบครัวยากจนทางานหนักชีวิตยากลาบากมากขึ ้นแต่
ไม่ทาให้ รายได้ มากขึ ้น และไม่มีชีวิตที่มนั่ คง แต่ครอบครัวเจอร์ รี่ที่มาจากชนชันกลางค่
้ อนข้ างมีฐานะเมื่อทางานใช้ แรงงานเช่นนี ้
ก็ยงั คงมีรายได้ เพิ่มมากยิ่งขึ ้นเมื่อเขาต้ องออกจากงานก็ไม่ทาให้ เขาเดือดร้ อนเพราะเชายังคงได้ เงินจากครอบครัวของเขา การ
สร้ างเขื่อนนี่ทาให้ ประชาชนแรงงานทางภาคเกษตรกรรมเสียผลประโยชน์ของตนเองหลายล้ านคน

2. กระแสความนิยมในปั จจุบนั นี ้ที่วยั รุ่นและวัยอื่นๆได้ ให้ ความนิยมเป็ นอย่างมากเช่นกระแส Korean wave ผู้เขียนขอ
ยกตัวอย่างกระแสKorean wave ที่เป็ นที่นิยมดังนี ้ การไปตามรอยฉากต่างๆในซีรีส์เกาหลี, การแต่งกายและแฟชัน่ ของศิลปิ น
เกาหลี
2.1 อิทธิพลของการสร้ างละครและซีรีส์แบบฉบับของคนเกาหลีที่มีความพัฒนาในการสร้ างโปรดัคชัน่ ต่างๆที่สามารถดึงดูด
ความสนใจให้ ผ้ ชู มมีความรู้สึกสนใจในวัฒนธรรมและรายละเอียดต่างๆที่ปรากฏในซีรีส์ ซีรีส์เกาหลีได้ แผ่ขยายอิทธิพลเป็ น
อย่างมากในแถบเอเชียและปั จจุบนั ได้ ขยายไปถึงฝั่งยุโรป กลายเป็ นจุดเด่นที่สาคัญจุดหนึ่งที่ทาให้ เกาหลีประสบความสาเร็จ
ในการเผยแพร่วฒ ั นธรรมของประเทศสู่สายตาคนภายนอก โดยปั จจัยที่สาคัญที่ทาให้ เกาหลีประสบความสาเร็ จในการเผยแพร่
ความนิยมนีม้ ีปัจจัยภายในประเทศที่มาจากทางรัฐบาลเกาหลีเช่นกันคือ
-บทบาทของรัฐในการพัฒนา โดยจัดตังนโยบายทางตรงและทางอ้
้ อม ให้ เงินสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ มีการตังองค์้ กร
KOCCA ที่สนับสนุนผู้ผลิตสื่อบันเทิงและภาพยนตร์
•นโยบายทางตรงคือ การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ได้ แก่ การสร้ างโรงถ่ายภาพยนตร์ การจัดเทศกาลของหนังแต่ละเรื่อง
เพื่อเป็ นการโปรโมท เป็ นต้ น
•นโยบายทางอ้ อมคือ การลงทุนผลิตภาพยนตร์ และซีรีส์ที่มีการขานลิขสิทธิ์ให้ กับต่างประเทศเป็ นการเชื่อมความสัมพันธ์ไมตรี
กับทางประเทศในการเผยแพร่ภาพยนตร์ หรือซีรีส์ในแต่ละเรื่อง
ปั จจัยภายนอกประเทศมีดงั นี ้
-การสร้ างภาพลักษณ์ที่ทาให้ เกิดธุรกิจการท่องเที่ยวแบบใหม่คือ ความนิยมนี ้มาสร้ างเป็ นธุรกิจท่องเที่ยวที่สาคัญให้ กับ
ประเทศคือการมาตามรอยซีรีส์จะเห็นได้ ว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่วางแพลนในการมาเที่ยวเกาหลีมีการดูสถานที่ในซีรีส์
เพื่อที่จะไปตามรอยนอกจากนีก้ ารไปตามร้ านอาหารหรือไปตามสถานที่ที่ปรากฏในซีรีส์ยงั เป็ นสิ่งสาคัญที่นักท่องเที่ยวส่วน
ใหญ่นิยมทากันเมื่อต้ องมาเยี่ยมชมประเทศเกาหลี ซีรีส์ในแต่ละเรื่องของเกาหลีมีการสร้ างภาพลักษณ์ที่น่าดึงดูดและสร้ าง
ความเป็ นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมที่ปรากฏผ่านซีรส์
-เกิดการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมต่างๆคือ กระแสความนิยมซีรีส์เกาหลียงั เกิดปรากฏการณ์ที่ทาให้ ผ้ ชู มสนใจในภาษาเกาหลี
และอยากที่จะเรียนรู้เพื่อที่จะเข้ าใจเวลาที่ตวั ละครสื่อสารกัน ทาให้ เกิดกระแสทางการศึกษาที่เกาหลีมองว่าสามารถสร้ างให้
เกิดประโยชน์ได้ คือการสร้ างหลักสูตรการศึกษาวัฒนธรรมเกาหลี ได้ เรียนรู้ภาษา ประวัติศาสตร์ ไปจนถึงอาหารการกินของชาว
เกาหลีที่ดงเดิ
ั ้ มที่อาจไม่ปรากฏในซีรีส์ทาให้ เห็นถึงความสนใจในวัฒนธรรมเกาหลีของชาวต่างชาติ
2.2 ประเด็นที่สองกระแสแฟชัน่ ของศิลปิ นเกาหลี ในปั จจุบนั นอกจากศิลปิ นนักร้ องเกาหลีจะขยายอิทธิพลต่างๆสู่แฟนคลับยัง
ได้ เพยแผร่ความเป็ นตัวเองผ่านแฟชัน่ การแต่งกาย จะเห็นได้ ว่าในปั จจุบนั เมื่อศิลปิ นใส่เสื ้อผ้ าแบรนด์ไหนย่อมมีผ้ ูคนออกมา
รวบรวมเสื ้อผ้ าที่ศิลปิ นทาให้ แฟนคลับหลายคนตามไปซื ้อเพื่อที่จะได้ ใช้ ของแบรนด์เดียวกับศิลปิ น เห็นได้ ถึงอิทธิพลของศิลปิ น
นักร้ องเกาหลีที่แพร่อิทธิพลให้ กับสาธารณะชนตัวอย่างเช่น สมาชิกวง blackpink ได้ ใส่เสื ้อผ้ าแบรนด์ adidas ทาให้ มีแฟน
คลับไปซื ้อตามจนสินค้ าหมด เป็ นต้ น
บริบททางสังคมที่ทาให้ เกิดความนิยมนี ้คือ เกาหลีในยุคโลกาภิวฒ
ั น์ที่ความสาคัญในการพัฒนาสื่อบันเทิงต่างๆ การเข้ า
ไปให้ เงินสนับสนุนและตังนโยบาย
้ มีการสร้ างภาพลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร ภาษา และวัฒนธรรมต่างๆของเกาหลี
ให้ มีความเป็ นเอกลักษณ์สอดแทรกไปในซีรีส์และสื่อบันเทิงของเกาหลี ในสังคมสมัยใหม่ที่รับเอาอิทธิพลตะวันตกเข้ ามา
พัฒนาการผลิตภาพยนตร์ ให้ มีความทันสมัยแต่บงั มีความดังเดิ้ มของวัฒนธรรมเกาหลีเป็ นเหตุผลทาให้ เกาหลีได้ รับกระแส
ความนิยมเป็ นอย่างมากจากคนทัว่ โลก

3.1 คลิบโฆษณาทีห่ นึง่


3.1.1 ความเป็ นครอบครัว
แสดงถึงความเป็ นครอบครัวที่พบมากในสังคมครอบครัวชาวเอเชีย จากคลิบที่หนึ่งที่ลกู สาวสอบติดหมอและบอกกับพ่อว่า
อยากเรียนสถาปั ตยกรรมพฤติกรรมของพ่อที่อยากให้ ลกู เรียนหมอแสดงให้ เห็นถึงความเป็ นครอบครัวประเพณีหรือครอบครัว
แบบเก่าที่มองว่าอาชีพหมอคืออาชีพที่มนั่ คงและมีเกี ยรติ แต่ในสุดท้ ายพ่อก็ยอมให้ ลกู สาวเรี ยนสถาปั ตยกรรมทาให้ เห็นถึงการ
เปลี่ยนแปลงของสังคมที่มีต่อครอบคือความสัมพันธ์และบทบาทของพ่อในสังคมสมัยใหม่ที่มีการพัฒนาของอุตสาหกรรมและ
ทันสมัยมากขึ ้น คนในสังคมจึงมีความเป็ นอิสระและความเป็ นตัวของตัวเองในการเลือกทางเดินของตัวเอง เลือกสิ่งที่ตวั เอง
ชอบ ทาให้ เห็นว่าบทบาทของพ่อมีการปรับตัวกับสังคมสมัยใหม่มากขึ ้นที่ให้ ลกู เลือกเรียนสิ่งที่ชอบได้
3.1.2 วัยรุ่น
นอกจากนี ้ยังทาให้ เห็นถึงความเป็ นวัยรุ่นของลูกสาวในโฆษณาคลิบแรกแสดงให้ เห็นว่าเป็ นวัยรุ่นในช่วง Gen-z ที่มาพร้ อมกับ
การพัฒนาของเทคโนโลยีมากมายและสิ่งอานวยความสะดวก ลักษณะของลูกสาวคืออยากได้ อิสระในการเลือกสิ่งที่ชอบและ
ไม่อยู่ในกรอบของความคิดแบบเก่าๆ

3.2 คลิบโฆษณาที่สอง
3.2.1 ความเป็ นเพศภาวะ เพศวิถี/ ความเป็ นหญิงความเป็ นชาย และเพศที่สามในเอเชีย
ที่ปรากฏในคลิบที่สามแสดงให้ เห็นถึงความเป็ นเพศภาวะ เพศวิถี/ความเป็ นหญิง ความเป็ นชายในยุคโลกาภิวัฒน์
จากการผู้ชายทังสองคนได้
้ พูดกับแม่ของเขาว่าเป็ นแฟนกันและแม่ก็ยอมรับ แสดงให้ เห็นว่าสังคมมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่อง
ของการมีคู่รักร่ วมเพศมากขึ ้น

3.2.2 การยอมรับความหลากหลายทางเพศ และรักเพศเดียวกัน


ในปั จจุบนั สังคมเอเชียมีการยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ ้นเมื่อแม่ยอมรับว่าลูกชายคบกับเพศเดียวกันและเข้ าใจ ทา
ให้ เห็นว่าคนในสังคมยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงนี ้มากขึ ้น ในปั จจุบนั มีครอบครัวของ Lgbtq หลายครอยครัวมากมายที่
ยอมรับลูกของพวกในการรักเพศเดียวกันและรับความหลากหลายทางเพศมากขึ ้นเพราะปั จจุบนั สื่อและความหลากหลายทาง
เพศที่ไม่ได้ จากัดแค่การรักกันของเพศตรงข้ าม และครอบครัวในสังคมเอเชียก็มีการทาความเข้ าใจในเรื่องนี ้มากขึ ้น และให้ การ
ยอมรับมากกว่าในอดีต

3.3 คลิบโฆษณาที่สาม
3.3.1 ความเป็ นครอบครัว
ความเป็ นครอบครัวกับชนชัน้ คนทุกคนเกิดมาในครอบครัวและชนชัน้ ที่ต่างกันทาให้ การใช้ ชีวิตและความเป็ นอยู่ย่อมต่างกัน
จากคลิบที่สามจะเห็นได้ ว่าคู่รักคู่หนึ่งที่ฝ่ายหญิงจองร้ านอาหารสุดหรูเอาไว้ และได้ บอกฝ่ ายชายว่าเป็ นร้ านที่จองยากทาให้ เห็น
ว่าการใช้ ชีวิตและความเป็ นอยู่ของฝ่ ายหญิงย่อมมีฐานะค่อนข้ างดีจากการเลือกร้ านอาหารถือว่าเป็ นรสนิยมที่อาจเกิดมาจาก
พื ้นฐานของทางครอบครัว ในขณะที่ฝ่ายชายอยากทานอาหารไม่หรู อาหารข้ างทางทาให้ เห็นว่าฝ่ ายชายมีความเป็ นอยู่และ
การใช้ ชีวิตที่ต่างจากฝ่ ายหญิง รสนิยมทาให้ เห็นถึงชนชันที้ ่ถูกเลี ้ยงดูมาในสังคมเดียวกัน
3.3.2 วัยรุ่น
ในคลิบที่สามคู่รักทังสองอยู
้ ่ในช่วงประมาณวัยทางานหรือใน Gen-Y เป็ นวัยที่มีการจัดสรรเวลางานและชีวิตส่วนตัวเห็นได้ จาก
คู่รักสองคนที่ต่างมาพบกันเพื่อทานข้ าวด้ วยกันอาจเห็นได้ ว่ามีการแบ่งเวลาจากเวลาส่วนตัว เวลาทางานและมาทานด้ วยกัน
เป็ นการทากิจกรรมอื่นๆนอกจากทางาน การพบปะคนรัก แสดงให้ เห็นถึงการสร้ างความสุขให้ กับตัวเองในคนรุ่นนี ้โดยการไม่
กดดันตัวเองในการใช้ เวลากับเวลาใดมากเกินไป

You might also like