หนา้ ๑๖

เลม่ ๑๓๙ ตอนที่ ๑๐ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

ระเบียบคณะกรรมการอัยการ
ว่าด้วยการโยกย้าย การย้าย และการเลื่อนตาแหน่งข้าราชการธุรการสานักงานอัยการสูงสุด
พ.ศ. ๒๕๖๕

โดยที่เป็นการสมควรให้มีระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยการโยกย้าย การย้าย และ

การเลื่อนตาแหน่งข้าราชการธุรการสานักงานอัยการสูงสุด เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานราชการและ
การบริหารงานบุคคลให้สอดคล้องกับภารกิจของสานักงานอัยการสูงสุด
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๓๐ (๙) (๑๑) และมาตรา ๙๙ แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะกรรมการอัยการจึงออกระเบียบ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยการโยกย้าย การย้าย และ
การเลื่อนตาแหน่งข้าราชการธุรการสานักงานอัยการสูงสุด พ.ศ. ๒๕๖๕”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้
“การโยกย้าย” หมายความว่า การแต่งตั้งข้าราชการให้ไปดารงตาแหน่งในสานักงานเดิมหรือ
ต่างสานักงาน
“การย้าย” หมายความว่า การย้ายต่างสายงานและการย้ายต่างประเภทตาแหน่ง
“การย้ายต่างสายงาน” หมายความว่า การย้ายข้าราชการผู้ดารงตาแหน่งในสายงานหนึ่ง
ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทเดียวกัน ในสายงานอื่น ซึ่งอยู่ในกลุ่มตาแหน่งเดียวกันหรือต่างกลุ่ม
ตาแหน่ง
“การย้ายต่างประเภทตาแหน่ง” หมายความว่า การย้ายข้าราชการผู้ดารงตาแหน่งในประเภทหนึ่ง
ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทอื่น
“การเลื่อน” หมายความว่า การเลื่อนตาแหน่งโดยการแต่งตั้งข้าราชการให้ดารงตาแหน่ง
ประเภทเดียวกันในระดับที่สูงกว่าเดิม
“ข้าราชการ” หมายความว่า ข้าราชการธุรการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
“ส านั ก งาน” หมายความว่ า หน่ ว ยงานภายในส านั ก งานอั ย การสู ง สุ ด ตามประกาศ
คณะกรรมการอัยการ เรื่อง การแบ่งหน่วยงาน และการกาหนดอานาจและหน้าที่ของหน่วยงานภายใน
ของสานักงานอัยการสูงสุด
“ก.อ.” หมายความว่า คณะกรรมการอัยการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
ข้อ ๔ ก.อ. มีอานาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
ข้อ ๕ การโยกย้ า ย การย้ า ย หรื อ การเลื่ อ น ที่ มิ ไ ด้ ก าหนดไว้ใ นระเบีย บนี้ ให้ น ากฎ
ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คาสั่ง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ. กาหนด มาใช้โดยอนุโลม
เว้นแต่อัยการสูงสุดจะกาหนดเป็นอย่างอื่น
 หนา้ ๑๗
เลม่ ๑๓๙ ตอนที่ ๑๐ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
ข้อ ๖ ให้ อั ย การสู ง สุ ด รั ก ษาการตามระเบี ย บนี้ และให้ มี อ านาจออกประกาศ ค าสั่ ง
หลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามระเบียบนี้
บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และคาสั่งอื่นใดซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนีแ้ ทน
หมวด ๑
บททั่วไป

ข้อ ๗ ระเบี ย บนี้ ใ ห้ ใ ช้ บั ง คั บ แก่ ก ารโยกย้ า ย การย้ า ย หรื อ การเลื่ อ น เพื่ อ แต่ ง ตั้ ง
ให้ดารงตาแหน่งประเภททั่วไป ตาแหน่งประเภทวิชาการ และตาแหน่งประเภทอานวยการ
กรณีตามวรรคหนึ่ง หากข้าราชการตาแหน่งใดมีการกาหนดเรื่องการโยกย้าย การย้าย หรือ
การเลื่อนไว้เป็นการเฉพาะ ให้ดาเนินการตามที่กาหนดไว้นั้น
ข้อ ๘ ให้มีคณะกรรมการบริหารงานบุคคลคณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่า “กบบ.” ประกอบด้วย
(๑) รองอัยการสูงสุดที่รับผิดชอบงานสานักบริหารทรัพยากรบุคคล เป็นประธานกรรมการ
(๒) เลขานุการอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ
(๓) เลขานุการรองอัยการสูงสุดที่รับผิดชอบงานสานักบริหารทรัพยากรบุคคล เป็นกรรมการ
(๔) รองเลขานุการอัยการสูงสุดหรือผู้ช่วยเลขานุการอัยการสูงสุดที่อัยการสูงสุดมอบหมาย
จานวนไม่เกินสองคน เป็นกรรมการ
(๕) เลขาธิการสานักงานอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ
(๖) รองเลขาธิการส านั กงานอัย การสู งสุ ด ที่ รับ ผิ ด ชอบงานสานัก บริห ารทรั พ ยากรบุคคล
เป็นกรรมการ
(๗) รองเลขาธิ ก ารส านั ก งานอั ย การสู ง สุ ด หรื อ ผู้ ช่ ว ยเลขาธิ ก ารส านั ก งานอั ย การสู ง สุ ด
ที่เลขาธิการสานักงานอัยการสูงสุดมอบหมาย จานวนไม่เกินสองคน เป็นกรรมการ
ให้ผู้อานวยการสานักบริหารทรัพยากรบุคคล เป็นเลขานุการ และให้เจ้าหน้าที่ในสานักบริหาร
ทรัพยากรบุคคล จานวนไม่เกินสามคน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ให้ กบบ. ทาหน้าที่พิจารณากลั่นกรองการโยกย้าย และการโอนตามระเบียบสานักงานอัยการสูงสุด
ว่าด้วยการโอนข้าราชการธุรการสานักงานอัยการสูงสุด รวมถึงการบริหารงานบุคคลอื่น เพื่อเสนอ
ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวต่ออัยการสูงสุด ทั้งนี้ กบบ. อาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วย
ทาหน้าที่ด้วยก็ได้
ข้อ ๙ การโยกย้าย การย้าย หรือการเลื่อน ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภททั่วไป
ตาแหน่งประเภทวิชาการ และตาแหน่งประเภทอานวยการ ต้องพิจารณาถึงความรู้ความสามารถ
ความเชี่ยวชาญที่เหมาะสมกับตาแหน่ง ศักยภาพ สมรรถนะ พฤติกรรมทางจริยธรรมและความประพฤติ
ประวัติการรับราชการ ระยะเวลาการปฏิบัติราชการ และเหตุผลความจาเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ
 หนา้ ๑๘
เลม่ ๑๓๙ ตอนที่ ๑๐ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
ข้อ ๑๐ การโยกย้าย การย้าย หรือการเลื่อน จะกระทาได้เมื่อผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตาม
คุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งตามที่กาหนดไว้ในมาตรฐานกาหนดตาแหน่งสาหรับตาแหน่งที่จะแต่งตั้ง
ในกรณีที่มีเหตุผลและความจาเป็น และเพื่อประโยชน์ของทางราชการที่จะต้องมีการโยกย้าย
การย้าย หรือการเลื่อนผู้ที่มีคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งแตกต่างไปจากวรรคหนึ่ง ก.อ. อาจอนุมัติ
ให้ แ ต่งตั้งข้าราชการที่มีคุณสมบัติต่างไปจากคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งตามมาตรฐานกาหนด
ตาแหน่งก็ได้
ในกรณีที่เป็นการเลื่อนที่มีคุณสมบัติเพิ่มเติมนอกเหนือจากคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่ง
ตามวรรคหนึ่ง ให้กระทาได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สานักงานอัยการสูงสุดกาหนด
ข้อ ๑๑ เพื่อประโยชน์ในการโยกย้าย การย้าย หรือการเลื่อน ให้สานักงานอัยการสูงสุด
จัดกลุ่มตาแหน่งข้าราชการ ในตาแหน่งประเภททั่วไป และตาแหน่งประเภทวิชาการ โดยพิจารณาถึง
คุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่ง ความรู้ ความชานาญงานหรือความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์
ในงานนั้น ๆ ให้เหมาะสมกับตาแหน่งที่จะแต่งตั้ง โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้
(๑) ต าแหน่ ง ที่ มี ลั ก ษณะงานและหน้ า ที่ ค วามรั บ ผิ ด ชอบที่ เ หมื อ นกั น หรื อ คล้ า ยคลึ ง กั น
ให้จัดไว้ในกลุ่มเดียวกัน
(๒) ตาแหน่งที่ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ความชานาญงาน ความเชี่ยวชาญ
หรือเทคนิคเฉพาะด้านที่เหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน ให้จัดกลุ่มไว้ในกลุ่มเดียวกัน
ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนชื่อตาแหน่งหรือการกาหนดสายงานเพิ่มใหม่ ให้สานักงานอัยการสูงสุด
จัดกลุ่มตาแหน่งเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดไว้ในวรรคหนึ่ง
ข้อ ๑๒ การโยกย้าย หรือการย้าย เพื่อแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งในระดับที่ต่ากว่าเดิมหรือ
ที่เทียบได้ว่าเป็นระดับที่ ต่ากว่าเดิมตามบัญชีเทียบตาแหน่งประเภทและระดับที่สานักงานอัยการสูงสุด
กาหนด ให้อัยการสูงสุดกระทาได้เมื่อได้รับความยินยอมจากข้าราชการผู้นั้น
กรณีที่ข้าราชการตามวรรคหนึ่ง ประสงค์จะขอกลับมาดารงตาแหน่งประเภท สายงาน และ
ระดั บเดีย วกับที่ ต นเคยดารงอยู่ เดิมก่ อนมีการโยกย้ าย หรื อ การย้ าย ให้ ด าเนินการตามหมวด ๓
หรือหมวด ๔ แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ การโยกย้ายข้าราชการที่ได้รับการย้าย หรือการเลื่อนตามระเบียบนี้ ให้ดาเนินการ
ตามที่กาหนดไว้ในหมวด ๒
ข้อ ๑๔ คณะกรรมการตามหมวด ๓ และหมวด ๔ มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนตามระเบียบ
สานักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายในการสอบ
หมวด ๒
การโยกย้าย

ข้อ ๑๕ การโยกย้ายข้าราชการ ให้พิจารณาตามลาดับความสาคัญ ดังนี้

 หนา้ ๑๙
เลม่ ๑๓๙ ตอนที่ ๑๐ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
(๑) การโยกย้ายเพื่อประโยชน์ของทางราชการ
(๒) การโยกย้ายเพื่อการพัฒนาเพิ่มพูนศักยภาพและประสบการณ์
(๓) การโยกย้ายด้วยเหตุผลความจาเป็นตามความประสงค์ของข้าราชการ
ส านั ก งานอัย การสูง สุด อาจดาเนินการโยกย้ ายปีล ะสองครั้ ง ประมาณเดือ นเมษายนและ
เดือนตุลาคมของทุกปี เว้นแต่กรณีมีเหตุผลความจาเป็นอาจดาเนินการมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นก็ได้
การโยกย้ายตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดไว้ในระเบียบนี้ และตามหลักเกณฑ์
ที่สานักงานอัยการสูงสุดกาหนด
ข้อ ๑๖ การโยกย้ายเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ได้แก่ การโยกย้ายเพื่อให้เหมาะสมกับ
กรอบอัตรากาลังข้าราชการ การโยกย้ายเพื่อเสริมอัตรากาลังที่ว่าง การโยกย้ายเพื่อหมุนเวียนงาน หรือ
การโยกย้ายด้ว ยเหตุผลอื่น เพื่อประโยชน์ของทางราชการ โดยอาจฟังความเห็นของผู้บังคับบัญชา
ของสานักงานประกอบการพิจารณาด้วยก็ได้
ข้อ ๑๗ การโยกย้ายเพื่อการพัฒนาเพิ่มพูนศักยภาพและประสบการณ์ ได้แก่ การโยกย้าย
เพื่อเพิ่มพูนความรู้ และทักษะในการบริหารและการปฏิบัติงานของข้าราชการ
ข้อ ๑๘ การโยกย้ า ยด้ ว ยเหตุ ผ ลความจ าเป็ น ตามความประสงค์ ข องข้ า ราชการ ได้ แ ก่
การโยกย้ายด้วยเหตุผลความจาเป็นส่วนตัวและครอบครัว สุขภาพร่างกาย ขอกลับภูมิลาเนา ค่าครองชีพ
หรือเหตุผลอื่นใดของข้าราชการผู้ขอโยกย้ายนั้น
ข้าราชการที่มีความประสงค์ขอโยกย้าย ต้องยื่นคาร้องขอโยกย้ายพร้อมเหตุผลความจาเป็นต่อ
ผู้บังคับบัญชาตามลาดับชั้นในเดือนธันวาคมของทุกปี เพื่อพิจารณาโยกย้ายในรอบปีถัดไป
ข้าราชการผู้ไ ด้รับการโยกย้ายตามความประสงค์ไม่มีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการตามที่
กาหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ และระเบียบกระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง
สิทธิอื่น ๆ ตามที่กาหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
ข้อ ๑๙ การโยกย้ายตามข้อ ๑๕ จะมีสิทธิได้รับการพิจารณาตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข
ดังนี้
(๑) ข้าราชการที่ได้รับการบรรจุใหม่ จะต้องได้ปฏิบัติงานในตาแหน่งและสานักงานที่ได้รับ
การบรรจุและแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับแต่วันที่ไปรายงานตัวเพื่อปฏิบัติงาน
(๒) ข้าราชการที่ได้รับการย้ายหรือการเลื่อน จะต้องได้ปฏิบัติงานในตาแหน่งและสานักงาน
ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันที่ไปรายงานตัวเพื่อปฏิบัติงาน
(๓) ข้ า ราชการที่ ไ ด้ รั บ การพิ จ ารณาให้ โ ยกย้ า ยตามความประสงค์ จะต้ อ งได้ ป ฏิ บั ติ งาน
ในตาแหน่ งและสานั กงานที่ไ ด้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งติด ต่อกันไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันที่
ไปรายงานตัวเพื่อปฏิบัติงาน
 หนา้ ๒๐
เลม่ ๑๓๙ ตอนที่ ๑๐ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
(๔) ข้าราชการตามกฎหมายอื่นหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นที่โอนมาบรรจุและแต่งตั้ง จะต้อง
ได้ปฏิบัติงานในตาแหน่งและสานักงานที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งติดต่อกันไม่น้อยกว่า
สามปีนับแต่วันที่ไปรายงานตัวเพื่อปฏิบัติงาน
(๕) ข้าราชการตาแหน่งประเภทอานวยการ จะต้องได้ปฏิบัติงานในตาแหน่งและสานักงาน
ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันที่ไปรายงานตัวเพื่อปฏิบัติงาน
ข้าราชการที่อยู่ระหว่างการประเมินบุคคลและการประเมินผลงานตามระเบียบนี้ จะไม่ได้รับ
การพิจารณาโยกย้าย
เพื่อประโยชน์ในการนับระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง หากสานักงานอัยการสูงสุดมีคาสั่งให้เลื่อน
การเดิ น ทางไปรายงานตั ว เพื่ อ ปฏิ บั ติ ง าน ให้ นั บ ระยะเวลาการเลื่ อ นการเดิ น ทางไปรายงานตั ว
เพื่อปฏิบัติงานรวมเข้ากับระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง แต่ต้องไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับอนุญาต
ให้เลื่อนการเดินทาง
กรณีมีเหตุผลจาเป็นอย่างยิ่งเป็นพิเศษเฉพาะรายที่ไม่อาจดาเนินการตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข
ที่กาหนดตามวรรคหนึ่ง ให้เสนออัยการสูงสุดพิจารณา
ข้อ ๒๐ ให้สานักงานเลขาธิการสานักงานอัยการสูงสุดมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการโยกย้าย
ในเรื่อง ดังนี้
(๑) รวบรวมข้อมูลประกอบการพิจารณาโยกย้ายตามข้อ ๑๕ (๑) และ (๒) และคาร้อง
ขอโยกย้าย ตามข้อ ๑๘ อย่างเป็นระบบ พร้อมเหตุผลและความจาเป็น รวมทั้งความเห็นของผู้บังคับบัญชา
เพื่อประกอบการพิจารณา
(๒) รวบรวมและจัดทาข้อมูลประวัติ คุณวุฒิ ความรู้ความสามารถ ทักษะและสมรรถนะ
ความประพฤติ และประสบการณ์ในการทางานของข้าราชการที่จะพิจารณาโยกย้าย
(๓) จัดทาบัญชีการโยกย้าย พร้อมแสดงเหตุผลการโยกย้ายโดยสังเขป
เมื่อจัดทาบัญชีการโยกย้ายแล้ว ให้เลขาธิการสานักงานอัยการสูงสุดเสนออัยการสูงสุดพิจารณา
โดยผ่านการกลั่นกรองของ กบบ.
หมวด ๓
การย้าย

ส่วนที่ ๑
การย้ายต่างสายงาน

ข้อ ๒๑ การย้ายต่างสายงาน ดังนี้ ให้อัยการสูงสุดพิจารณาโดยไม่ต้องมีการประเมิน

(๑) การย้ายต่างสายงานในกลุ่มตาแหน่งเดียวกัน ในประเภททั่วไปหรือประเภทวิชาการ
ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทเดียวกันและในระดับเดียวกัน
 หนา้ ๒๑
เลม่ ๑๓๙ ตอนที่ ๑๐ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
(๒) การย้ายต่างสายงานในต่างกลุ่มตาแหน่ง ในประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ไปแต่งตั้ง
ให้ดารงตาแหน่งประเภทเดียวกันและในระดับเดียวกัน
(๓) การย้ายต่างสายงานในประเภทอานวยการ ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งในระดับเดียวกัน
ในสายงานอานวยการ หรือในสายงานอานวยการเฉพาะด้าน
ข้อ ๒๒ การย้ายต่างสายงานในต่างกลุ่มตาแหน่ง ในประเภททั่วไป ระดับชานาญงาน หรือ
ระดับอาวุโส ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทเดียวกันและในระดับเดียวกัน ให้อัยการสูงสุดกระทาได้
เมื่อผู้นั้นได้ผ่านการประเมินแล้ว
การประเมิ น ตามวรรคหนึ่ ง ให้ ก ระท าได้ โ ดยวิ ธี ก ารสอบข้ อ เขี ย น การสอบภาคปฏิ บั ติ
การสอบสัมภาษณ์ การพิจารณาผลการปฏิบัติงานย้อนหลัง การทดลองปฏิบัติงาน หรือวิธีการอย่างอืน่
ซึ่ ง อาจใช้ วิ ธี ก ารใดวิ ธี ก ารหนึ่ ง หรื อ หลายวิ ธี ต ามที่ เ ห็ น ว่ า เหมาะสม โดยให้ อั ย การสู ง สุ ด แต่ ง ตั้ ง
คณะกรรมการประเมิน เพื่ อ พิ จ ารณาข้าราชการผู้ มีความรู้ความสามารถ ทั ก ษะ และสมรรถนะ
ซึ่งเหมาะสมกับตาแหน่งที่จะได้รับการแต่งตั้ง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สานักงานอัยการสูงสุดกาหนด
ข้อ ๒๓ การย้ายต่างสายงานในต่างกลุ่มตาแหน่ง ในประเภทวิชาการ ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง
ประเภทเดียวกันและในระดับเดียวกัน ให้ดาเนินการ ดังนี้
(๑) การย้ า ยต่ า งสายงานไปแต่ ง ตั้ ง ให้ ด ารงต าแหน่ ง ประเภทวิ ช าการ ระดั บ ปฏิ บั ติ ก าร
ระดับชานาญการ และระดับชานาญการพิเศษ ให้อัยการสูงสุดกระทาได้เมื่อผู้นั้นได้ผ่านการประเมิน
บุคคลและผลงานแล้ว
(๒) การย้ายต่างสายงานไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ และ
ระดับทรงคุณวุฒิ ให้อัยการสูงสุดกระทาได้เมื่อผู้นั้นได้ผ่านการประเมินบุคคลและการประเมินผลงานแล้ว
การประเมินตามวรรคหนึ่ง ให้กระทาได้โดยวิธีการสอบข้อเขียน การสอบสัมภาษณ์ หรือ
วิธีการอย่างอื่น ซึ่งอาจใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งหรือหลายวิธีตามที่เห็นว่าเหมาะสม โดยให้อัยการสูงสุด
แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินบุคคลและผลงาน หรือคณะกรรมการประเมินบุคคลและคณะกรรมการ
ประเมินผลงาน แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาข้าราชการผู้มีความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ
ความชานาญงานหรือความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ซึ่งเหมาะสมกับตาแหน่งที่จะได้รับการแต่งตั้ง
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สานักงานอัยการสูงสุดกาหนด
ส่วนที่ ๒
การย้ายต่างประเภทตาแหน่ง

ข้อ ๒๔ การย้ายต่างประเภทตาแหน่งจากประเภทอานวยการหรือประเภทบริหารไปแต่งตั้ง
ให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ หรือจากประเภทวิชาการไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทอานวยการ
ดังนี้ ให้อัยการสูงสุดกระทาได้เมื่อได้รับความยินยอมจากข้าราชการผู้นั้น โดยไม่ต้องมีการประเมิน
 หนา้ ๒๒
เลม่ ๑๓๙ ตอนที่ ๑๐ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
(๑) การย้ายข้าราชการตาแหน่งประเภทอานวยการ ระดับต้น ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง
ประเภทวิชาการ ระดับชานาญการพิเศษ
(๒) การย้ายข้าราชการตาแหน่งประเภทอานวยการ ระดับสูง ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง
ประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ
(๓) การย้ายข้าราชการตาแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภท
วิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ
(๔) การย้ายข้าราชการตาแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภท
วิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ
(๕) การย้ายข้าราชการตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง
ประเภทอานวยการ ระดับต้น
(๖) การย้ายข้าราชการตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง
ประเภทอานวยการ ระดับสูง
ข้อ ๒๕ การย้ายต่างประเภทตาแหน่งจากประเภททั่ว ไป ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภท
วิชาการ ให้ดาเนินการ ดังนี้
(๑) การย้ายข้าราชการตาแหน่งประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน หรือระดับชานาญงาน
ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ให้อัยการสูงสุดกระทาได้เมื่อผู้นั้นได้ผ่าน
การประเมินบุคคลและผลงานแล้ว
(๒) การย้ายข้าราชการตาแหน่งประเภททั่วไป ระดับชานาญงาน ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง
ประเภทวิชาการ ระดับชานาญการ ให้อัยการสูงสุดกระทาได้เมื่อผู้นั้นได้ผ่านการประเมินบุคคลและ
การประเมินผลงานแล้ว
(๓) การย้ายข้าราชการตาแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุ โส ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง
ประเภทวิชาการ ระดับชานาญการพิเศษ ให้อัยการสูงสุดกระทาได้เมื่อผู้นั้นได้ผ่านการประเมินบุคคล
และการประเมินผลงานแล้ว
การประเมินตามวรรคหนึ่ง ให้กระทาได้โดยวิธีการสอบข้อเขียน การสอบสัมภาษณ์ หรือ
วิธีการอย่างอื่น ซึ่งอาจใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งหรือหลายวิธีตามที่เห็นว่าเหมาะสม โดยให้อัยการสูงสุด
แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินบุคคลและผลงาน หรือคณะกรรมการประเมินบุคคลและคณะกรรมการ
ประเมินผลงาน แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาข้าราชการผู้มีความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ
ความชานาญงานหรือความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ซึ่งเหมาะสมกับตาแหน่งที่จะได้รับการแต่งตั้ง
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สานักงานอัยการสูงสุดกาหนด
ข้อ ๒๖ การย้ายต่างประเภทตาแหน่งจากประเภททั่วไปหรือประเภทวิชาการ ไปแต่งตั้ง
ให้ดารงตาแหน่งประเภทอานวยการ ดังนี้ ให้อัยการสูงสุดกระทาได้เมื่อผู้นั้นได้ผ่านการคัดเลือกแล้ว
 หนา้ ๒๓
เลม่ ๑๓๙ ตอนที่ ๑๐ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
(๑) การย้ายข้าราชการตาแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส หรือตาแหน่งประเภทวิชาการ
ระดับชานาญการพิเศษ ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทอานวยการ ระดับต้น
(๒) การย้ายข้าราชการตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง
ประเภทอานวยการ ระดับสูง
การคั ด เลื อ กตามวรรคหนึ่ ง ให้ ก ระท าได้ โ ดยวิ ธี ก ารสอบข้ อ เขี ย น การสอบสั ม ภาษณ์
การนาเสนอวิสัยทัศน์ การทดสอบความสามารถ การพิจารณาผลงานทางวิชาการในอดีต หรือวิธีการ
อย่างอื่น ซึ่งอาจใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งหรือหลายวิธีตามที่เห็นว่าเหมาะสม โดยให้อัยการสูงสุดแต่งตั้ง
คณะกรรมการคัดเลือกเพื่อดาเนินการตามวิธีการดังกล่าว และพิจารณาผลสัมฤทธิ์ของงานอันเป็น
ที่ประจักษ์ในความสามารถ สมรรถนะ พฤติกรรมทางจริยธรรม ความหลากหลายของประสบการณ์
ประวัติการรับราชการ และคุณสมบัติที่จาเป็นเหมาะสมกับตาแหน่งที่จะได้รับการแต่งตั้ง ประกอบ
การคัดเลือกด้วย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สานักงานอัยการสูงสุดกาหนด
หมวด ๔
การเลื่อน

ข้อ ๒๗ การเลื่ อ นข้ า ราชการต าแหน่ ง ประเภททั่ ว ไป ให้ เ ลื่ อ นได้ ไ ม่ เ กิ น หนึ่ ง ระดั บ
โดยการเลื่อนไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ระดับชานาญงาน และระดับอาวุโส ให้อัยการสูงสุดกระทาได้
เมื่อผู้นั้นได้ผ่านการประเมินแล้ว
การประเมินตามวรรคหนึ่ง ให้กระทาได้โดยวิธีการสอบข้อเขียน การสอบสัมภาษณ์ การสอบ
ภาคปฏิบัติ การพิจารณาผลการปฏิบัติงานย้อนหลัง การทดลองปฏิบัติงาน หรือวิธีการอย่างอื่น
ซึ่ ง อาจใช้ วิ ธี ก ารใดวิ ธี ก ารหนึ่ ง หรื อ หลายวิ ธี ต ามที่ เ ห็ น ว่ า เหมาะสม โดยให้ อั ย การสู ง สุ ด แต่ ง ตั้ ง
คณะกรรมการประเมิน เพื่ อ พิ จ ารณาข้าราชการผู้ มีความรู้ความสามารถ ทั ก ษะ และสมรรถนะ
ซึ่งเหมาะสมกับตาแหน่งที่จะได้รับการแต่งตั้ง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สานักงานอัยการสูงสุด
กาหนด
ข้อ ๒๘ การเลื่ อ นข้ า ราชการต าแหน่ ง ประเภทวิ ช าการ ให้ เ ลื่ อ นได้ ไ ม่ เ กิ น หนึ่ ง ระดั บ
โดยการเลื่อนไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ระดับชานาญการ ระดับชานาญการพิเศษ ระดับเชี่ยวชาญ
และระดับทรงคุณวุฒิ ให้อัยการสูงสุดกระทาได้เมื่อผู้นั้นได้ผ่านการประเมินบุคคลและการประเมิน
ผลงานแล้ว
การเลื่อนไปแต่งตัง้ ในระดับชานาญการพิเศษ ให้ดารงตาแหน่งผู้อานวยการสานัก ให้กระทาได้
เมื่อผู้นั้นได้ผ่านการประเมินบุคคลและผลงาน
การประเมินตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้กระทาได้โดยวิธีการสอบข้อเขียน การสอบสัมภาษณ์
หรื อ วิ ธี ก ารอย่ า งอื่ น ซึ่ ง อาจใช้ วิ ธี ก ารใดวิ ธี ก ารหนึ่ ง หรื อ หลายวิ ธี ต ามที่ เ ห็ น ว่ า เหมาะสม โดยให้
อัยการสูงสุดแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินบุคคลและผลงาน หรือคณะกรรมการประเมินบุคคลและ
 หนา้ ๒๔
เลม่ ๑๓๙ ตอนที่ ๑๐ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
คณะกรรมการประเมินผลงาน แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาข้าราชการผู้มีความรู้ความสามารถ ทักษะ
สมรรถนะ ความชานาญงานหรือความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ซึ่งเหมาะสมกับตาแหน่งที่จะได้รับ
การแต่งตั้ง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สานักงานอัยการสูงสุดกาหนด
ข้อ ๒๙ การเลื่อนข้าราชการตาแหน่งประเภทอานวยการ ระดับต้น ไปแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง
ประเภทอานวยการ ระดับสูง ให้อัยการสูงสุดกระทาได้เมื่อผู้นั้นได้ผ่านการคัดเลือกแล้ว
การคัดเลือกตามวรรคหนึ่ง ให้นาความในข้อ ๒๖ วรรคสอง มาใช้โดยอนุโลม
บทเฉพาะกาล

ข้อ ๓๐ ในวาระเริ่มแรกของการใช้ระเบียบนี้ เรื่องใดที่ไม่อาจดาเนินการได้ตามระเบียบนี้

ให้อัยการสูงสุดมีอานาจดาเนินการได้ตามที่เห็นสมควร
ข้อ ๓๑ การดาเนินการใดเกี่ยวกับการย้าย หรือการเลื่อน ซึ่งได้กระทาไปแล้วในขั้นตอนใด
ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้เป็นการใช้ได้ และให้ดาเนินการตามระเบียบคณะกรรมการอัยการ
ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของข้าราชการธุรการสานักงานอัยการสูงสุด หลักเกณฑ์และวิธีการ คาสั่ง
และประกาศว่าด้วยการนั้นต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ
ข้อ ๓๒ ในระหว่างที่ยังมิได้กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตามระเบียบนี้ ให้นากฎ ก.พ. ระเบียบ
ข้ อ บั ง คั บ ประกาศ ค าสั่ ง หลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร และเงื่ อ นไขที่ ใ ช้อ ยู่ ก่ อนวัน ที่ร ะเบี ย บนี้ ใช้บังคับ
มาใช้บังคับต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ จนกว่าจะมีหลักเกณฑ์และวิธีการที่ออกตามระเบียบนี้
ใช้บังคับแทน

ประกาศ ณ วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. ๒๕6๕

พชร ยุตธิ รรมดารง
ประธานคณะกรรมการอัยการ