Professional Documents
Culture Documents
ความรู้และลักษณะการเป็ นข้าราชการทีด่ ี
เ
สอบครูผู้ช่วยรอบทั่วไป 2566
ประกอบด้วยแนวข้อสอบ จานวน 478 ข้อ ดังนี้
1.ข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน (177ข้อ)
2.ข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหาร
กิจการบ้านเมืองทีด่ ี (88 ข้อ)
3.ข้อสอบ พระราชบัญญัติวิธปี ฏิบัตริ าชการทางปกครอง (102 ข้อ)
4.ข้อสอบ พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา
พ.ศ. 2499 ฯ (25 ข้อ)
5.ข้อสอบ พระราชบัญญัตคิ วามรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
พ.ศ. 2539 (32 ข้อ)
6.ข้อสอบ พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 (54 ข้อ)
PDF 99.-
แนวข้อสอบความรู้และลักษณะการเป็ นข้าราชการทีด่ ี
สารบัญ
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน (177 ข้อ) ................................................ 1
แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองทีด่ ี(88 ข้อ) .... 34
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง(102 ข้อ) ............................................... 53
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญาพ.ศ. 2499 ฯ (25 ข้อ) ............................. 75
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (32 ข้อ) .................. 83
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 (54 ข้อ) ........................................ 90
ห้ามเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต
12.สานักนายกรัฐมนตรีมีฐานะเป็ นอะไร
ก.กระทรวง ข.ทบวง
ค.กรม ง.สํานัก
13.ข้อใดมีฐานะเป็ นนิติบุคคล
ก.สํานักนายกรัฐมนตรี
ข.กระทรวง
ค.ทบวง
ง.กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็ นกรม ซึ่งสังกัดหรือไม่สงั กัดสํานักนายกรัฐมนตรี กระทรวง
หรือทบวง
จ.มีฐานะเป็ นนิติบุคคล ทุกข้อ
14.การจัดตั้ง การรวม หรือการโอนส่วนราชการ ให้ตราเป็ นอะไร
ก.พระราชบัญญัติ ข.พระราชกฤษฎีกา
ค.พระราชกําหนด ง.ระเบียบกระทรวง
15.การรวมหรือการโอนส่วนราชการ ถ้าไม่มีการกาหนดตาแหน่งหรืออัตราของข้าราชการหรือลูกจ้าง
เพิ่มขึน้ ให้ตราเป็ นอะไร
ก.พระราชบัญญัติ ข.พระราชกฤษฎีกา
ค.พระราชกําหนด ง.ระเบียบกระทรวง
16.ข้อใด มีหน้าทีต่ รวจสอบดูแลมิให้มีการกาหนดตาแหน่งหรืออัตราของข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วน
ราชการทีจ่ ัดตั้งขึน้ ใหม่ หรือทีถ่ ูกรวมหรือโอนไปเพิ่มขึน้ จนกว่าจะครบกาหนด 3 ปี นับแต่วันทีพ
่ ระราช
กฤษฎีกา
ก.สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ข.สํานักงานประมาณ
ค.กระทรวงการคลัง ง.ถูกเฉพาะ ข้อ ก และ ข
จ.ถูกทุกข้อ
17.การเปลี่ยนชื่อส่วนราชการให้ตราเป็ นอะไร
ก.พระราชบัญญัติ ข.พระราชกฤษฎีกา
ค.พระราชกําหนด ง.กฎกระทรวง
23.ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก.การจัดระเบียบราชการในสํานักนายกรัฐมนตรีให้เป็ นไปตามระเบียบนายกรัฐมนตรี
ข.การจัดระเบียบราชการในสํานักนายกรัฐมนตรีให้เป็ นไปตามที่นายกรัฐมนตรีกาํ หนด
ค.การจัดระเบียบราชการในสํานักนายกรัฐมนตรีให้เป็ นไปตามที่คณะรัฐมนตรีกาํ หนด
ง.การจัดระเบียบราชการในสํานักนายกรัฐมนตรีให้เป็ นไปตามกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม
24.ให้ส่วนราชการในสานักนายกรัฐมนตรีมีฐานะเป็ นอะไร
ก.กระทรวง ข.ทบวง
ค.กรม ง.สํานัก
25.สานักนายกรัฐมนตรี มีผู้ใดเป็ นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ
ก.ปลัดกระทรวง ข.เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ค.นายกรัฐมนตรี ง.เลขานุการนายกรัฐมนตรี
26.ผู้ใดมีรับผิดชอบในการกาหนดนโยบาย เป้ าหมาย และผลสัมฤทธิ์ของงานในสานักนายกรัฐมนตรี
ให้สอดคล้องกับนโยบายทีค่ ณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภา
ก.ปลัดกระทรวง ข.เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ค.นายกรัฐมนตรี ง.เลขานุการนายกรัฐมนตรี
27.ในระหว่างทีค่ ณะรัฐมนตรีต้องอยู่ในตาแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าทีต่ ่อไปจนกว่า คณะรัฐมนตรีทตี่ ั้งขึน้
ใหม่จะเข้ารับหน้าที่ เพราะนายกรัฐมนตรี ตาย หรือ ขาดคุณสมบัติ ให้ข้อใดมอบหมายให้
รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็ นผู้ปฏิบัติหน้าทีแ่ ทนนายกรัฐมนตรี
ก.รองนายกรัฐมนตรี ข.คณะรัฐมนตรี
ค.ประธานสภา ง.ประธานวุฒิสภา
28.จากข้อ 27 ถ้าไม่มีผ้ดู ารงตาแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ข้อใด
มอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็ นผู้ปฏิบัติหน้าทีแ่ ทน
ก.รองนายกรัฐมนตรี ข.คณะรัฐมนตรี
ค.ประธานสภา ง.ประธานวุฒิสภา
29.ผู้ใดอยู่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล
ก.นายกรัฐมนตรี ข.คณะรัฐมนตรี
ค.ประธานสภา ง.ประธานวุฒิสภา
30.ข้อใดมีอานาจหน้าทีบ่ ังคับบัญชาข้าราชการฝ่ ายบริหารทุกตาแหน่งซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรม
และส่วนราชการทีเ่ รียกชื่ออย่างอื่นทีม่ ีฐานะเป็ นกรม
ก.นายกรัฐมนตรี ข.คณะรัฐมนตรี
ค.ประธานสภา ง.ประธานวุฒิสภา
31.ข้อใดมีอานาจหน้าทีแ่ ต่งตั้งข้าราชการการเมืองให้ปฏิบัติราชการในสานักนายกรัฐมนตรี
ก.นายกรัฐมนตรี ข.คณะรัฐมนตรี
ค.ประธานสภา ง.ประธานวุฒิสภา
32.อานาจหน้าทีข่ องนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการวางระเบียบปฏิบัติราชการ เพื่อให้การบริหารราชการ
แผ่นดินเป็ นไปโดยรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมาย
อื่นให้ใช้บังคับได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากข้อใดแล้ว
ก.รองนายกรัฐมนตรี ข.คณะรัฐมนตรี
ค.ประธานสภา ง.ประธานวุฒิสภา
33.สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีอานาจหน้าทีเ่ กี่ยวกับ อะไร
ก.มีอาํ นาจหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารงานนโยบาย
ข.มีอาํ นาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการทางการเมือง
ค.มีอาํ นาจหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล
ง.มีอาํ นาจหน้าที่ดแู ลงานเอกสารของนายกรัฐมนตรี
34.สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีผู้ใดเป็ นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ
ก.ปลัดกระทรวง ข.เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ค.รองนายกรัฐมนตรี ง.เลขานุการนายกรัฐมนตรี
35.เลขาธิการนายกรัฐมนตรีขนึ้ ตรงต่อผู้ใด
ก.ปลัดกระทรวง ข.รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ค.นายกรัฐมนตรี ง.เลขานุการนายกรัฐมนตรี
36.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ก.สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มี เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็ นผูบ้ งั คับบัญชาข้าราชการ และรับผิดชอบในการ
ปฏิบตั ิราชการขึน้ ตรงต่อปลัดกระทรวง
ข.ให้มีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองและรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหารเป็ นผูช้ ่วยสั่งและ
ปฏิบตั ิราชการ และจะให้มีผชู้ ่วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็ นผูช้ ่วยสั่งและปฏิบตั ิราชการด้วยก็ได้
ค.ให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็ นข้าราชการการเมือง
ง.ให้รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหารและผูช้ ่วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็ นข้าราชการพลเรือนสามัญ
จ.ไม่มีขอ้ ใดที่กล่าวไม่ถกู ต้อง
37.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก.เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็ นข้าราชการการเมือง
ข.รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็ นข้าราชการการเมือง
ค.รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เป็ นข้าราชการการเมือง
ง.ผูช้ ่วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็ นข้าราชการพลเรือนสามัญ
38.สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีอานาจหน้าทีเ่ กี่ยวกับราชการของข้อใด
ก.คณะรัฐมนตรี ข.รัฐสภา ค.ราชการในพระองค์ ง.ถูกทุกข้อ
39.สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีผู้ใดเป็ นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ
ก.ปลัดกระทรวง ข.เลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ค.รองนายกรัฐมนตรีท่ไี ด้รบั มอบหมาย ง.เลขานุการนายกรัฐมนตรี
40.มีเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขึน้ ตรงต่อผู้ใด
ก.ปลัดกระทรวง ข.รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ค.นายกรัฐมนตรี ง.เลขานุการนายกรัฐมนตรี
41.ข้อใดเป็ นข้าราชการพลเรือนสามัญ
ก.เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ข.รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ค.ผูช้ ่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ง.ถูกทุกข้อ
42.สานักนายกรัฐมนตรีนอกจากมีนายกรัฐมนตรีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจาสานัก
นายกรัฐมนตรีให้มีปลัดสานักนายกรัฐมนตรีกี่คน
ก.1 ข.2 ค.3 ง.4
43.ข้อใดเป็ นข้าราชการพลเรือนสามัญ
ก.ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี
ข.รองปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี
ค.ผูช้ ่วยปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี
ง.ถูกทุกข้อ
84.จากข้อ 83.ถ้าไม่มีผู้ดารงตาแหน่งรองนายกรัฐมนตรีให้ผู้ใดมอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็ น
ผู้รักษาราชการแทน
ก.รองนายกรัฐมนตรี ข.คณะรัฐมนตรี
ค.ประธานสภา ง.ประธานวุฒิสภา
85.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับการรักษาราชการแทนของ ตาแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ก.กรณีท่ไี ม่มีผดู้ าํ รงตําแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ให้รฐั มนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงเป็ นผูร้ กั ษาราชการแทน
ข.ถ้ามีรฐั มนตรีช่วยว่าการกระทรวงหลายคน ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รฐั มนตรีช่วยว่าการกระทรวงคนใดคน
หนึ่งเป็ นผูร้ กั ษาราชการแทน
ค.ถ้าไม่มีผดู้ าํ รงตําแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รฐั มนตรีคนใดคนหนึ่งเป็ น
ผูร้ กั ษาราชการแทน
ง.ถ้าไม่มีผดู้ าํ รงตําแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รฐั มนตรีคนใดคนหนึ่งเป็ น
ผูร้ กั ษาราชการแทน
86.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการรักษาราชการแทนของ ตาแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรี
ก.ในกรณีท่ไี ม่มีผดู้ าํ รงตําแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี ให้ผชู้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรีเป็ นผูร้ กั ษาราชการแทน
ข.ในกรณีท่ไี ม่มีผดู้ าํ รงตําแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี ให้เลขาธิการรัฐมนตรีเป็ นผูร้ กั ษาราชการแทน
ค.ถ้ามีผชู้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรีหลายคน ให้รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมอบหมายให้ผชู้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรีคนใด
คนหนึ่งเป็ นผูร้ กั ษาราชการแทน
ง.ถ้าไม่มีผชู้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรีให้รฐั มนตรีว่าการกระทรวงแต่งตัง้ ข้าราชการในกระทรวงคนหนึ่งเป็ นผูร้ กั ษา
ราชการแทน
87.ถ้ามีผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีหลายคน ให้ผู้ใด มอบหมายให้ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง
เป็ นผู้รักษาราชการแทนตาแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี
ก.รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ข.คณะรัฐมนตรี
ค.ประธานสภา
ง.ประธานวุฒิสภา
112.เมื่อประกาศใช้แผนพัฒนาจังหวัดแล้ว การจัดทาแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นและการดาเนินกิจการของส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐทั้งปวงทีก่ ระทาในพืน้ ทีจ่ ังหวัด
ต้องสอดคล้องกับอะไร
ก.มติคณะกรมการจังหวัด ข.แผนพัฒนาจังหวัด
ค.แผนพัฒนาภูมิภาค ง.นโยบายจังหวัด
113.ผู้วา่ ราชการจังหวัด สังกัดกระทรวงใด
ก.กระทรวงมหาดไทย ข.กระทรวงกลาโหม
ค.กระทรวงการคลัง ง.กระทรวงการต่างประเทศ
114.รองผู้ว่าราชการจังหวัด สังกัดกระทรวงใด
ก.กระทรวงมหาดไทย ข.กระทรวงกลาโหม
ค.กระทรวงการคลัง ง.กระทรวงการต่างประเทศ
115.ผู้ชว่ ยผู้ว่าราชการจังหวัด
ก.กระทรวงมหาดไทย ข.กระทรวงกลาโหม
ค.กระทรวงการคลัง ง.กระทรวงการต่างประเทศ
116.ในจังหวัดหนึ่งนอกจากกรุ งเทพมหานคร ให้มีคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดคณะหนึ่ง เรียก
โดยย่อว่าอะไร
ก. ก.ธ.ม. ข. ก.ธ.จ. ค. ก.ม.จ. ง. ก.ข.จ.
117.ข้อใดทาหน้าทีส่ อดส่องและเสนอแนะการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานของรัฐในจังหวัดให้ใช้วิธีการ
บริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ก.คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ข.คณะกรมการจังหวัด
ค.ผูต้ รวจราชการจังหวัด ง.ถูกทุกข้อ
118. คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด มีผู้ใดเป็ นประธาน
ก.ผูต้ รวจราชการสํานักนายกรัฐมนตรีซ่งึ มีเขตอํานาจในจังหวัด
ข.ผูแ้ ทนภาคประชาสังคม
ค.ผูแ้ ทนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่ไม่ได้ดาํ รงตําแหน่งผูบ้ ริหาร
ง.ผูแ้ ทนภาคธุรกิจเอกชน
119. ข้อใดไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
ก.ผูแ้ ทนพระภิกษุสงฆ์และหรือ. ผูแ้ ทนองค์กรศาสนาอื่นในพืน้ ที่
ข.ผูแ้ ทนภาคประชาสังคม
ค.ผูแ้ ทนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่ไม่ได้ดาํ รงตําแหน่งผูบ้ ริหาร
ง.ผูแ้ ทนภาคธุรกิจเอกชน
จ.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
120.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการรักษาราชการแทน ตาแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด
ก. ในกรณีท่ไี ม่มีผดู้ าํ รงตําแหน่งผูว้ ่าราชการจังหวัด หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ให้รองผูว้ ่าราชการจังหวัด
เป็ นผูร้ กั ษาราชการแทน
ข.ถ้าไม่มีผดู้ าํ รงตําแหน่งรองผูว้ ่าราชการจังหวัด ให้ผชู้ ่วยผูว้ ่าราชการจังหวัดเป็ นผูร้ กั ษาราชการแทน
ค.ถ้าไม่มีผดู้ าํ รงตําแหน่งผูช้ ่วยผูว้ ่าราชการจังหวัด ให้ปลัดจังหวัดเป็ นผูร้ กั ษาราชการแทน
ง.ถ้าไม่มีทงั้ ผูด้ าํ รงตําแหน่งรองผูว้ ่าราชการจังหวัด ผูช้ ่วยผูว้ ่าราชการจังหวัด และปลัดจังหวัด ให้หวั หน้า
ส่วนราชการประจําจังหวัดซึ่งมีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการเป็ นผูร้ กั ษาราชการแทน
ง.ไม่มีขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้อง
121.ถ้ามีรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด หรือปลัดจังหวัดหลายคน ให้ผู้ใดแต่งตั้งรอง
ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด หรือปลัดจังหวัดคนใดคนหนึ่งแล้วแต่กรณีเป็ นผู้รักษา
ราชการแทน ตาแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด
ก.นายกรัฐมนตรี ข.คณะรัฐมนตรี
ค.ปลัดกระทรวง ง.รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
122.การยกเว้น จากัด หรือตัดทอน อานาจหน้าทีข่ องผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารราชการใน
จังหวัด หรือให้ข้าราชการของส่วนราชการใดมีอานาจหน้าทีใ่ นการบริหารราชการส่วนภูมิภาค
เช่นเดียวกับผู้ว่าราชการจังหวัดจะกระทาได้โดยตรา เป็ นอะไร
ก.พระราชบัญญัติ ข.พระราชกฤษฎีกา
ค.พระราชกําหนด ง.ระเบียบกระทรวง
123.ข้อใดไม่ใช่การแบ่งส่วนราชการของจังหวัด
ก.สํานักงานจังหวัด ข.ส่วนต่าง ๆ ซึ่งกระทรวง ทบวง กรม ได้ตงั้ ขึน้
ค.องค์การบริหารส่วนตําบล ง.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่
124.ในจังหวัดหนึ่งให้มีหน่วยราชการบริหารรองจากจังหวัดเรียกว่า อะไร
ก.อําเภอ ข.ตําบล
ค.ท้องถิ่น ง.ถูกทัง้ ก และ ข
125.การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนเขตอาเภอ ให้ตราเป็ นอะไร
ก.พระราชบัญญัติ ข.พระราชกฤษฎีกา
ค.พระราชกําหนด ง.ระเบียบกระทรวง
126.ส่วนราชการใดต่อไปนี้ ไม่มีฐานะเป็ นนิติบุคคล
ก.ทบวงซึ่งไม่สงั กัดสํานักนายกรัฐมนตรีหรือกระทรวง
ข.จังหวัด
ค.อําเภอ
ง.เทศบาลตําบล
จ.ทัง้ ค และ ง ไม่มีฐานะเป็ นนิติบุคคล
127.ในอาเภอหนึ่ง ให้มีคณะบุคคลผู้ทาหน้าทีไ่ กล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทของประชาชน ทีค่ ู่กรณี
ฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่งมีภูมิลาเนาอยู่ในเขตอาเภอ ในเรื่องทีพ่ ิพาททางแพ่งเกี่ยวกับทีด่ ิน มรดก และข้อพิพาท
ทางแพ่งอื่นทีม่ ีทุนทรัพย์ไม่เกิน กี่บาท
ก.ไม่เกินสองแสนบาท ข.ไม่เกินห้าล้านบาท
ค.ไม่เกินสิบล้านบาท ง.ไม่เกินสิบสองล้านบาท
128. จากข้อ 127. ให้นายอาเภอโดยความเห็นชอบของข้อใด จัดทาบัญชีรายชื่อบุคคลทีจ่ ะทาหน้าทีเ่ ป็ น
คณะบุคคลผู้ทาหน้าทีไ่ กล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท โดยคัดเลือกจากบุคคลทีม่ ีความรู้หรือมี
ประสบการณ์เหมาะสมกับการทาหน้าทีไ่ กล่เกลี่ยข้อพิพาท
ก.คณะกรมการจังหวัด ข.ผูว้ ่าราชการจังหวัด
ค.มหิท่ีประชุมอําเภอ ง.ปลัดกระทรวง
134.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการรักษาราชการแทนของตาแหน่งนายอาเภอ
ก.ในกรณีท่ไี ม่มีผดู้ าํ รงตําแหน่งนายอําเภอ ให้ผวู้ ่าราชการจังหวัดแต่งตัง้ ปลัดอําเภอ หรือหัวหน้าส่วนราชการ
ประจําอําเภอผูม้ ีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการเป็ นผูร้ กั ษาราชการแทน
ข.ถ้ามีผดู้ าํ รงตําแหน่งนายอําเภอ แต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ให้นายอําเภอแต่งตัง้ ปลัดอําเภอ หรือหัวหน้าส่วน
ราชการประจําอําเภอผูม้ ีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการเป็ นผูร้ กั ษาราชการแทน
ค.ในกรณีท่ผี วู้ ่าราชการจังหวัดหรือนายอําเภอมิได้แต่งตัง้ ผูร้ กั ษาราชการแทนไว้ ให้นายกเทศมนตรีเป็ นผูร้ กั ษา
ราชการแทน
ง.ในกรณีท่ผี วู้ ่าราชการจังหวัดหรือนายอําเภอมิได้แต่งตัง้ ผูร้ กั ษาราชการแทนไว้ ให้ปลัดอําเภอหรือหัวหน้าส่วน
ราชการประจําอําเภอผูม้ ีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการเป็ นผูร้ กั ษาราชการแทน
จ.ไม่มีขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้อง
135.ในกรณีทไี่ ม่มีผู้ดารงตาแหน่งนายอาเภอ ให้ผู้ใดแต่งตั้งปลัดอาเภอ หรือหัวหน้าส่วนราชการประจา
อาเภอผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการเป็ นผู้รักษาราชการแทน
ก.นายอําเภอ ข.ปลัดอําเภอ
ค.ประธานคณะกรรมการอําเภอ ง.ผูว้ ่าราชการจังหวัด
136.ถ้ามีผู้ดารงตาแหน่งนายอาเภอ แต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ผู้ใด แต่งตั้งปลัดอาเภอ หรือหัวหน้า
ส่วนราชการประจาอาเภอผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการเป็ นผู้รักษาราชการแทน
ก.นายอําเภอ ข.ปลัดอําเภอ
ค.ประธานคณะกรรมการอําเภอ ง.ผูว้ ่าราชการจังหวัด
137.ข้อใดไม่ใช่การแบ่งส่วนราชการของอาเภอ
ก.สํานักงานอําเภอ
ข.ส่วนต่าง ๆ ซึ่งกระทรวง ทบวง กรม ได้ตงั้ ขึน้ ในอําเภอนัน้
ค.องค์การบริหารส่วนตําบล
ง.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่
138.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก.สํานักงานอําเภอ มีหน้าที่เกี่ยวกับราชการทั่วไปของอําเภอนัน้ ๆ มีนายอําเภอเป็ นผูป้ กครองบังคับบัญชา
ข้าราชการและรับผิดชอบ
ข.ส่วนต่าง ๆ ซึ่งกระทรวง ทบวง กรม ได้ตงั้ ขึน้ ในอําเภอนัน้ มีหน้าที่เกี่ยวกับราชการของกระทรวง ทบวง กรมนัน้ ๆ
มีหวั หน้าส่วนราชการประจําอําเภอนัน้ ๆ เป็ นผูป้ กครองบังคับบัญชารับผิดชอบ
ค.องค์การบริหารส่วนตําบล มีหน้าที่เกี่ยวกับราชการของอําเภอ นัน้ ๆ มีนายอําเภอเป็ นที่ปรึกษา
ง.ไม่มีขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้อง
139.ข้อใดไม่ใช่การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น
ก.องค์การบริหารส่วนจังหวัด
ข.เทศบาล
ค.กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น
ง.องค์การบริหารส่วนตําบล
จ.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่
140.ให้มี คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ คณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่าอะไร
ก. ก.ธ.จ. ข. ก.พ.ร. ค. ก.พ.จ. ง. ก.ธ.ร.
141.คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการมีผู้ใดเป็ นประธาน
ก.นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีท่นี ายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ข.รัฐมนตรีหนึ่งคนที่นายกรัฐมนตรีกาํ หนด
ค.ปลัดกระทรวง
ง.เลขาธิการ ก.พ.ร.
142.ในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒไิ ม่เกินกี่คน
ก.5 ข.8 ค.10 ง.12
143.คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการมีผู้ใดเป็ นกรรมการและเลขานุการโดยตาแหน่ง
ก.นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีท่นี ายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ข.รัฐมนตรีหนึ่งคนที่นายกรัฐมนตรีกาํ หนด
ค.ปลัดกระทรวง
ง.เลขาธิการ ก.พ.ร.
150.ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก.เลขาธิการ ก.พ.ร. ซึ่งเป็ นข้าราชการพลเรือนสามัญ
ข.เลขาธิการ ก.พ.ร. ซึ่งเป็ นข้าราชการเมือง
ค.เลขาธิการ ก.พ.ร. มีวาระการดํารงตําแหน่ง คราวละ 7 ปี
ง.ถูกทุกข้อ
151.เลขาธิการ ก.พ.ร.ขึน้ ตรงต่อ ผู้ใด
ก.ปลัดกระทรวง ข.รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ค.นายกรัฐมนตรี ง.เลขานุการนายกรัฐมนตรี
152.การรักษาราชการแทน จะสิน้ สุดลงเมื่อไร
ก.เมื่อมีผมู้ าดํารงตําแหน่งแล้ว หรือ มาปฏิบตั ิหน้าที่ได้แล้ว
ข.เมื่อมีคาํ สั่งจากต้นสังกัดให้สนิ ้ สุดการรักษาราชการแทน
ค.เมื่อรัฐมนตรีส่งั การ
ง.ถูกทัง้ ก และ ข
จ.ถูกทุกข้อ
153.ข้าราชการหรือลูกจ้างซึ่งต้องพ้นจากราชการเพราะเหตุยุบตาแหน่ง อันเนื่องมาแต่การยุบส่วน
ราชการ นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับอื่นแล้ว ให้ได้รับ
อะไรด้วย
ก.เงินชดเชย ข.ความดีความชอบ
ค.เงินโบนัส ง.ค่าตอบแทนตําแหน่ง
จ.ถูกทุกข้อ
154.ในกรณีทสี่ ่วนราชการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐประสงค์จะรับโอนข้าราชการหรือลูกจ้าง
ก็ให้กระทาได้โดยมิให้ถือว่าข้าราชการหรือลูกจ้างผู้นั้นได้พ้นจากราชการ แต่ทงั้ นีต้ ้องกระทาภายในกี่วัน
ก.ต้องกระทําภายใน 15 วันนับแต่พระราชกฤษฎีกา การยุบส่วนราชการ มีผลใช้บงั คับ
ข.ต้องกระทําภายใน 30 วันนับแต่พระราชกฤษฎีกา การยุบส่วนราชการ มีผลใช้บงั คับ
ค.ต้องกระทําภายใน 45 วันนับแต่พระราชกฤษฎีกา การยุบส่วนราชการ มีผลใช้บงั คับ
ง.ต้องกระทําภายใน 60 วันนับแต่พระราชกฤษฎีกา การยุบส่วนราชการ มีผลใช้บงั คับ
168.ผู้รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐานคือข้อใด
ก.ศึกษาธิการภาค ข.ปลัดกระทรวง
ค.อธิบดี ง. รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน
169.การยุบสภาผู้แทนราษฎรต้องตราเป็ นอะไร
ก.พระราชบัญญัติ ข. พระราชกําหนด
ค.พระราชกฤษฎีกา ง. ประกาศกระทรวง
170.ข้อใดคือ การบริหารราชการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
ก.ประชาชนเกิดความผาสุกและมีความเป็ นอยู่ท่ดี ี สังคมมีความสงบและปลอดภัย
ข.ประชาชนมีสมรรถนะสูงสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้
ค.ประชาชนมีความเป็ นอยู่พอเพียง สามาถช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้
ง.ประชาชนมีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความสุขในการใช้ชีวิต
171.ข้อใดสอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย
ก.หลักการรวมอํานาจ
ข.การกระจายอํานาจ
ค.ฉันทามติ
ง.ถูกเฉพาะข้อ ข และ ค
จ.ถูกทุกข้อ
172.ข้อใดไม่ใช่ราชการส่วนท้องถิ่น
ก. เทศบาล
ข. สํานักงานจังหวัด
ค.องค์การบริหารส่วนตําบล
ง.องค์การบริหารส่วนจังหวัด
173.ข้อใดไม่ใช่หน้าทีข่ องนายกรัฐมนตรี
ก.บังคับบัญชาข้าราชการฝ่ ายบริหารทุกตําแหน่งซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรม
ข.สั่งให้ขา้ ราชการซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรมหนึ่งมาปฏิบตั ิราชการสํานักนายกรัฐมนตรี
ค.สั่งให้รฐั มนตรีช่วยว่าการกระทรวงไปกํากับราชการ
ง.วางระเบียบปฏิบตั ิราชการ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็ นไปโดยรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
จ.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่
เฉลย
1.ข.ประโยชน์สขุ ของ 27.ข.คณะรัฐมนตรี 52.ข.รัฐมนตรีช่วยว่า 78.ก.การมอบอํานาจ
2.จ.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่ 28.ข.คณะรัฐมนตรี 53.ข.รัฐมนตรีช่วยว่า 79.ค.หนังสือ
3.จ.ความพึงพอใจ 29.ก.นายกรัฐมนตรี 54.ก.1 80.ก.การปฏิบตั ิ
4. ค.ความพึงพอใจ 30.ก.นายกรัฐมนตรี 55. ง.เป็ น 81.จ.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่
5.จ.ความพึงพอใจ 31. ก.นายกรัฐมนตรี 56.ก.ปลัดกระทรวง 82.ก.ผูม้ อบอํานาจ
6.ค.การบริหารกิจการ 32.ข.คณะรัฐมนตรี 57.ก.เลขานุการ 83.ข.คณะรัฐมนตรี
7.ข.พระราชกฤษฎีกา 33.ข.มีอาํ นาจหน้าที่ 58.ก.เลขานุการ 84.ข.คณะรัฐมนตรี
8.ก.ระเบียบบริหาร 34.ข.เลขาธิการ 59.ก.รัฐมนตรีว่าการ 85.ค.ถ้าไม่มีผดู้ าํ รง
9.ก.คุณภาพและ 35.ค.นายกรัฐมนตรี 60.ข.สํานักงาน 86.ข.ในกรณีท่ไี ม่มีผู้
10.ค.นายกรัฐมนตรี 36.ก.สํานักเลขาธิการ 61. ข.ทบวง 87.ก.รัฐมนตรีว่าการ
11.ข.กรุงเทพ 37.ค.รองเลขาธิการ 62.ง.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่ 88.ง.ไม่มีขอ้ ใดกล่าว
12.ก.กระทรวง 38.ง.ถูกทุกข้อ 63. ค.กรม 89.ค.นายกรัฐมนตรี
13.จ.มีฐานะเป็ นนิติ 39.ข.เลขาธิการ 64.ก.รัฐมนตรีว่าการ 90.ก.รัฐมนตรีว่าการ
14.ก.พระราชบัญญัติ 40.ค.นายกรัฐมนตรี 65.ก.นายกรัฐมนตรี 91.จ.ไม่มีขอ้ ใดกล่าว
15.ข.พระราช 41.ง.ถูกทุกข้อ 66.ข.รัฐมนตรีว่าการ 92.ง.อธิบดี
16.ง.ถูกเฉพาะ ข้อ ก 42.ก.1 67.ค.นายกรัฐมนตรี 93.ง.ไม่มีขอ้ ใดกล่าว
17.ข.พระราช 43.ง.ถูกทุกข้อ 68.ก.1 94.ก.เกี่ยวกับทหาร
18.ง.กฎกระทรวง 44.ค.สํานักงานปลัด 69.ข.สํานักงานปลัด 95.ข.กระทรวง
19.ข.รัฐมนตรีเจ้า 45.ค.ทบวง 70.ข.สํานักงานปลัด 96.ง.หัวหน้าคณะ
20.ก.กฎกระทรวงนัน้ 46.ค.กรม 71.ค.สํานักงาน 97.ง.หัวหน้าคณะ
21.ข.ให้เป็ นไปตาม 47. ค.กรม 72.ก.กรมมีอาํ นาจ 98.ง.กระทรวงการ
22.ข.พระราช 48.ข.มีฐานะเป็ นนิติ 73.ข.อธิบดี 99. ง.กระทรวงการ
23.ง.การจัดระเบียบ 49.ค.กรม 74.ข.สํานักงาน 100.ข.หัวหน้าคณะ
24.ค.กรม 50.ง.กฎกระทรวง 75.ค.เลขานุการกรม 101.ค.ภูมิภาค
25.ค.นายกรัฐมนตรี 51.ง.ถูกทุกข้อ 76.ก.ผูต้ รวจราชการ 102.ค.ภูมิภาค
26.ค.นายกรัฐมนตรี 77.ก.การมอบอํานาจ 103. ค.องค์การ
7.ข้อใดไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ก.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข.การรถไฟแห่งประเทศไทย
ค.ธนาคารกสิกรไทย ง.องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
จ.เฉพาะข้อ ค และ ง ไม่ใช่
8.ข้อใดเป็ นส่วนราชการ ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ก.องค์การบริหารส่วนจังหวัด ข.องค์การบริหารส่วนตาบล
ค.กรุงเทพมหานคร และ เมืองพัทยา ง.กระทรวงศึกษาธิการ
จ.เฉพาะ ข้อ ค และ ง เป็ นส่วนราชการ
9.การปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองทีด่ ี ในเรื่องใด
สมควรทีส่ ่วนราชการใดจะปฏิบัติเมื่อใด และจะต้องมีเงือ่ นไขอย่างใด ให้เป็ นไปตามทีค่ ณะรัฐมนตรี
กาหนดตามข้อเสนอแนะของข้อใด
ก. ก.ร.อ. ข. ก.พ.ร.
ค. ก.ร.พ. ง. ก.อ.ส.
10.การบริหารราชการเพื่อบรรลุเป้ าหมายข้อแรก ของ การบริหารกิจการบ้านเมืองทีด่ ี คือข้อใด
ก. เกิดประโยชน์สขุ ของประชาชน
ข. เกิดผลสัมฤทธิต์ ่อภารกิจของรัฐ
ค. มีประสิทธิภาพและเกิดความคุม้ ค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
ง. ไม่มีขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงานเกินความจาเป็ น
11.การบริหารกิจการบ้านเมืองทีด่ ีได้แก่ การบริหารราชการเพื่อบรรลุเป้ าหมาย 7 ข้อดังต่อไปนี้
ข้อใดไม่ถกู ต้อง
ก. 1.เกิดประโยชน์สขุ ของประชาชน
ข. 2.เกิดผลสัมฤทธิ์ท่ีดีต่อผลการเรียน
ค. 3.มีประสิทธิภาพและเกิดความคุม้ ค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
ง. 4.ไม่มีขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงานเกินความจาเป็ น
จ. 5.มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทนั ต่อสถานการณ์
ฉ. 6.ประชาชนได้รบั การอานวยความสะดวกและได้รบั การตอบสนองความต้องการ
ช. 7.มีการประเมินผลการปฏิบตั ิราชการอย่างสม่าเสมอ
17.ในการบริหารราชการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ส่วนราชการจะต้องดาเนินการโดยถือว่า
ประชาชนเป็ นศูนย์กลางที่จะได้รับการบริการจากรัฐ และจะต้องมีแนวทางการบริหารราชการกี่ข้อ
ก.3 ข้อ ข.4 ข้อ
ค.5 ข้อ ง.6 ข้อ จ.7 ข้อ
18.การบริหารกิจการบ้านเมืองทีด่ ีได้แก่ การบริหารราชการเพื่อบรรลุเป้ าหมาย กี่ข้อ
ก.4 ข้อ ข.5 ข้อ ค.6 ข้อ ง.7 ข้อ
19.การกาหนดภารกิจของรัฐและส่วนราชการต้องเป็ นไปเพื่อวัตถุประสงค์ และ สอดคล้อง กับข้อใด
ก.การบริหารราชการเพื่อประโยชน์สขุ ของประชาชน
ข.แนวนโยบายแห่งรัฐและนโยบายของคณะรัฐมนตรีท่ีแถลงต่อรัฐสภา
ค.นโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ
ง.ข้อ ก และ ข ถูก
20.การปฏิบัติภารกิจของส่วนราชการต้องเป็ นไปโดยซื่อสัตย์สุจริต สามารถตรวจสอบได้และมุ่งให้เกิด
ประโยชน์สุขแก่ข้อใด
ก.ชาวบ้านทัง้ ในระดับหมู่บา้ นและจังหวัด ข.ชาวบ้านทัง้ ในระดับประเทศและท้องถิ่น
ค.ประชาชนทัง้ ในระดับหมู่บา้ นและจังหวัด ง.ประชาชนทัง้ ในระดับประเทศและท้องถิ่น
21.ก่อนเริ่มดาเนินการ ส่วนราชการต้องทาสิ่งใด
ก.ต้องจัดให้มีการศึกษาวิเคราะห์ผลดีและผลเสีย ให้ครบถ้วนทุกด้าน
ข.กาหนดขัน้ ตอนการดาเนินการที่โปร่งใส
ค.มีกลไกตรวจสอบการดาเนินการในแต่ละขัน้ ตอน
ง.กรณีท่ภี ารกิจใดจะมีผลกระทบต่อประชาชน ส่วนราชการต้องดาเนินการรับฟั งความคิดเห็นของประชาชนหรือ
ชีแ้ จงทาความเข้าใจเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงประโยชน์ท่สี ว่ นรวมจะได้รบั จากภารกิจนัน้
จ.ถูกทุกข้อ
22.ให้เป็ นหน้าที่ ของข้อใด ทีจ่ ะต้องคอยรับฟั งความคิดเห็นและความพึงพอใจ ของสังคมโดยรวมและ
ประชาชนผู้รับบริการ เพื่อปรับปรุ งหรือเสนอแนะต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อให้มีการปรับปรุ งวิธีปฏิบัติ
ราชการให้เหมาะสม
ก.พนักงาน ข.ข้าราชการ
ค.ลูกจ้าง ง.ธุรการ
48.การบริการประชาชนและการติดต่อประสานงานระหว่างส่วนราชการด้วยกัน ต้องกระทาโดยใช้
แพลตฟอร์มใด
ก.แพลตฟอร์มดิจิทลั กลางที่สานักงานแต่ละแห่ง กาหนด
ข.แพลตฟอร์มดิจิทลั กลางที่กระทรวงดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสังคม กาหนด
ค.แพลตฟอร์มดิจิทลั กลางที่สานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทลั (องค์การมหาชน) กาหนด
ง.แพลตฟอร์มดิจิทลั พืน้ ฐานที่กระทรวงวดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสังคม กาหนด
49.ในกระทรวงหนึ่ง ให้เป็ นหน้าทีข่ องผู้ใด ทีจ่ ะต้องจัดให้ส่วน ราชการภายในกระทรวงทีร่ ับผิดชอบ
ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริการประชาชนร่วมกันจัดตั้งศูนย์บริการร่วม
ก.รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ข.ปลัดกระทรวง
ค.หัวหน้าส่วนราชการ ข.ผูท้ ่นี ายกรัฐมนตรีแต่งตัง้
50.ให้จัดให้มีเจ้าหน้าทีร่ ับเรื่องราวต่าง ๆ และดาเนินการส่งต่อให้เจ้าหน้าทีข่ องส่วนราชการทีเ่ กี่ยวข้อง
เพื่อดาเนินการต่อไป โดยให้มีข้อมูลและเอกสารทีเ่ กี่ยวข้องกับอานาจหน้าที่ของทุกส่วนราชการใน
กระทรวง รวมทัง้ แบบคาขอต่าง ๆ ไว้ให้พร้อมทีจ่ ะบริการประชาชนได้ ณ ทีใ่ ด
ก.สานักงานปลัดกระทรวง ข.ศูนย์บริการร่วม
ค.ศูนย์บริการประชาชน ง.ศาลาประชาคม
51.ให้ข้อใด จัดให้ส่วนราชการทีร่ ับผิดชอบดาเนินการเกี่ยวกับการบริการประชาชนในเรื่องเดียวกันหรือ
ต่อเนื่องกันในจังหวัด อาเภอ หรือกิ่งอาเภอนั้น ร่วมกันจัดตั้งศูนย์บริการร่วมไว้ ณ ศาลากลางจังหวัด
ทีว่ ่าการอาเภอ หรือทีว่ ่าการกิ่งอาเภอ หรือสถานที่อื่นตามทีเ่ ห็นสมควร โดยประกาศให้ประชาชนทราบ
ก.ผูว้ ่าราชการจังหวัด ข.นายอาเภอ
ค.ปลัดอาเภอผูเ้ ป็ นหัวหน้าประจากิ่งอาเภอ ง.ถูกทุกข้อ
52.ให้ส่วนราชการจัดให้มีการทบทวนภารกิจของตนว่าภารกิจใดมีความจาเป็ น หรือสมควรทีจ่ ะยกเลิก
ปรับปรุ ง หรือเปลี่ยนแปลงการดาเนินการต่อไปหรือไม่ โดยคานึงถึง ข้อต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใดทีไ่ ม่ใช่
ก.ยุทธศาสตร์ชาติ ข.แผนแม่บท
ค.แผนการปฏิรูปประเทศ ง.แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
จ.นโยบายของคณะรัฐมนตรีท่แี ถลงต่อรัฐสภา ช.แผนอื่นที่เกี่ยวข้อง
ซ.รวมถึงกาลังเงินงบประมาณของประเทศ ความคุม้ ค่าของภารกิจและสถานการณ์อ่ืนประกอบกัน
ต.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่
53.ข้อใดเป็ นผู้กาหนดเวลาในการจัดให้ส่วนราชการจัดให้มีการทบทวนภารกิจของตนว่าภารกิจใดมี
ความจาเป็ น หรือสมควรทีจ่ ะได้ดาเนินการต่อไปหรือไม่ ตามให้เป็ นไปตามทีข่ ้อใดกาหนด
ก.คณะรัฐมนตรี
ข. ก.พ.ร.
ค.นายกรัฐมนตรี
ง.หัวหน้าส่วนราชการ
54.ในกรณีทม่ี ีการยุบเลิก โอน หรือรวมส่วนราชการใดทัง้ หมดหรือบางส่วนห้ามมิให้จัดตั้งส่วนราชการ
ทีม่ ีภารกิจหรืออานาจหน้าทีท่ มี่ ีลักษณะเดียวกันหรือคล้ายคลึงกันกับส่วนราชการดังกล่าวขึน้ อีก เว้นแต่
กรณีใด
ก.มีเหตุผลและความจาเป็ นเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐหรือเศรษฐกิจของประเทศ
ข.หรือรักษาผลประโยชน์สว่ นรวมของประชาชน
ค.และได้รบั ความเห็นชอบจาก ก.พ.ร.
ง.ถูกทุกข้อ
55.ส่วนราชการมีหน้าทีส่ ารวจ ตรวจสอบ และทบทวนกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศ ที่
อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อดาเนินการยกเลิก ปรับปรุง หรือจัดให้มีกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ
หรือประกาศขึน้ ใหม่ ให้ทันสมัยและเหมาะสมกับสภาวการณ์หรือสอดคล้องกับความจาเป็ นทาง
เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ ทั้งนีโ้ ดยคานึงถึง อะไรเป็ นสาคัญ
ก.ความสะดวกรวดเร็วและลดภาระของประชาชน
ข.ความสะดวกและคุม้ ค่าของส่วนราชการ
ค.ความคุม้ ค่าและความถูกต้องในข้อมูลของส่วนราชการ
ง.การบริการประชาชน
56.ให้เป็ นหน้าทีข่ อง ข้อใด ทีจ่ ะต้องตรวจสอบให้ข้าราชการปฏิบัติงานให้แล้วเสร็จตามกาหนดเวลา
ก.บุคคลที่ได้รบั มอบหมาย
ข.ผูบ้ งั คับบัญชา
ค.ปลัดที่ได้รบั มอบหมาย
ง.ฝ่ ายบริหารงานบุคคล
75.เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองทีด่ ี
(ฉบับที่ 2) คือข้อใด
ก.ปรับปรุงการจัดทาแผนปฏิบตั ิราชการของส่วนราชการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท แผนการ
ปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายของคณะรัฐมนตรีท่แี ถลงต่อรัฐสภา และแผนอื่นที่
เกี่ยวข้อง
ข.สมควรกาหนดให้การปฏิบตั ิงานที่เกี่ยวข้องกับการบริการประชาชนและการติดต่อประสานงานระหว่างส่วน
ราชการด้วยกันต้องกระทาโดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทลั กลางเพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปประสิทธิภาพในการ
ปฏิบตั ิราชการและการบริหารราชการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ค.เพื่อความสะดวกรวดเร็วแก่การบริการประชาชนทุกระดับ และเพื่อตอบสนองภารกิจภาครัฐ
ง.ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
จ.ถูกทุกข้อ
76.ในการจัดซือ้ หรือจัดจ้างให้ส่วนราชการดาเนินการ โดย
ก.โดยเปิ ดเผยและเที่ยงธรรม ข.คุม้ ค่าและประหยัด
ค.ถูกต้องและเที่ยงธรรม ง.แจ่มแจ้งและชัดเจน
77.ข้อใดไม่ใช่ การบริหารราชการเพื่อบรรลุเป้ าหมาย ของการบริหารกิจการบ้านเมืองทีด่ ี
ก.ความคุม้ ค่าของภารกิจที่ได้รบั มอบหมาย
ข.มีประสิทธิภาพและเกิดความคุม้ ค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
ค.ไม่มีขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงานเกินความจาเป็ น
ง.มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทนั ต่อสถานการณ์
จ.ไม่ใช่ เฉพาะข้อ ก และ ค
78.ให้ส่วนราชการจัดให้มีคณะผู้ประเมินอิสระดาเนินการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ
เกี่ยวกับข้อต่อไปนี้ ข้อใดไม่ใช่
ก.ความพึงพอใจต่อส่วนราชการ ข.ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ
ค.คุณภาพการให้บริการ ง.ความพึงพอใจของประชาชนผูร้ บั บริการ
จ.ความคุม้ ค่าในภารกิจ
เฉลย
1.ก.นายกรัฐมนตรี 29.ค.5 ปี 57.ค.ให้หวั หน้าส่วน 85.ก.การลดขัน้ ตอน
2.ข.ส่วนราชการ 30.ซ.วิสยั ทัศน์ของ 58.ง.ข้อ ก และ ข ถูก 86.ค.กาลังเงิน
3.ง.องค์การบริหารส่วน 31.ง.ปี งบประมาณ 59.ข.ระบบเครือข่าย 87.ง.ถูกเฉพาะข้อ ก
4.ก.ศาลปกครอง 32.ข.คณะรัฐมนตรี 60.ก.ภายใน 15 วัน 88.ก.สถานศึกษา
5.ค.รัฐวิสาหกิจ 33.ค.หัวหน้าส่วน 61.ง. ก.พ.ร.
6.จ.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่ 34. ก.วิสยั ทัศน์ 62.ง.ถูกทุกข้อ
7.ค.ธนาคารกสิกรไทย 35.ง.ข้อ ก และ ข ถูก 63.ก.ห้ามมิให้เปิ ดเผย
8.ง.กระทรวงศึก 36.ค.ความคุม้ ค่า 64.ข.การประเมิน
9.ข. ก.พ.ร. 37.ก.ให้สามารถ 65.ง.ถูก เฉพาะข้อ ก
10. ก. เกิดประโยชน์สขุ 38.ข.รัฐมนตรี 66.ง.ถูกทุกข้อ
11.ข. 2.เกิดผลสัมฤทธิ์ 39.ข.สานัก 67.ง.ถูกทุกข้อ
12.ค.หัวหน้าส่วน 40.ง.ถูกทุกข้อ 68.ข. ก.พ.ร. โดยความ
13.ง.ถูกเฉพาะข้อ ก 41.ข.15 วัน 69.ข.องค์กรปกครอง
14.ง.ถูกทุกข้อ 42.ก.ส่วนราชการที่ 70.ง.กระทรวง
15.ข.การบริหาร 43.ง.การสั่งด้วยวาจา 71.ง.ถูกเฉพาะข้อ ก
16.ข. ประชาชน 44.ก.เพื่อให้เกิดความ 72.ค.90 วัน
17. ค.5 ข้อ 45.ข.ความสะดวกและ 73.ข. 2 ปี
18.ง.7 ข้อ 46. ข. ก.พ.ร. ด้วย 74.ค.หัวหน้าส่วน
19.ง.ข้อ ก และ ข ถูก 47.ง.ถูกทัง้ ก และ ข 75.ง.ถูกเฉพาะข้อ ก
20.ง.ประชาชนทัง้ ใน 48.ค.แพลตฟอร์ม 76.ก.โดยเปิ ดเผยและ
21.จ.ถูกทุกข้อ 49.ข.ปลัดกระทรวง 77.ก.ความคุม้ ค่าของ
22.ข.ข้าราชการ 50. ข.ศูนย์บริการร่วม 78.ก.ความพึงพอใจต่อ
23.ข.แผนปฏิบตั ิ 51.ง.ถูกทุกข้อ 79.ก.แพลตฟอร์ม
24.จ. นโยบายสาคัญ 52.ต.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่ 80.ก.สานักงานพัฒนา
25.ข.ผลสัมฤทธิ์ต่อ 53.ข. ก.พ.ร. 81.ก. สพร.
26.ข.ส่วนราชการ 54.ง.ถูกทุกข้อ 82.ก.มิให้สานัก
27.ข.ส่วนราชการ 55.ก.ความสะดวก 83.ง.คณะรัฐมนตรี
28.ข.คณะรัฐมนตรี 56.ข.ผูบ้ งั คับบัญชา 84.ก.เพื่อให้เกิด
7.ข้อใดคือความหมายของ วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
ก.การเตรียมการและการดาเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคาสั่งทางปกครองหรือกฎ
ข.การเตรียมการและการดาเนินการของผูป้ กครองเพื่อจัดให้มีคาสั่งทางปกครองหรือกฎ
ค.การเตรียมการและการดาเนินการของประชาชนเพื่อจัดให้มีคาสั่งทางปกครองหรือกฎ
ง.การเตรียมการและการดาเนินการของคณะบุคคลเพื่อจัดให้มีคาสั่งทางปกครองหรือกฎ
8.การเตรียมการและการดาเนินการของเจ้าหน้าทีเ่ พื่อจัดให้มีคาสั่งทางปกครองคือความหมาย
ของข้อใด
ก.การพิจารณาทางปกครอง ข.วิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
ค.คาสั่งทางปกครอง ง.อานาจทางปกครอง
9.พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น ระเบียบ ข้อบังคับ หรือ
บทบัญญัติอื่นทีม่ ีผลบังคับเป็ นการทั่วไป โดยไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดหรือบุคคลใดเป็ นการ
เฉพาะ คือความหมายของข้อใด
ก.ระเบียบ ข.กฎ
ค.ข้อบังคับ ง.ข้อตกลง
10.ข้อใดไม่ใช่ กฎ ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และทีแ่ ก้ไขเพิ่มเติม
ก.พระราชกฤษฎีกา ข.กฎกระทรวง
ค.ประกาศกระทรวง ง.พระราชบัญญัติ
11.ข้อใดไม่ใช่ กฎ ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และทีแ่ ก้ไขเพิ่มเติม
ก.พระราชกฤษฎีกา ข.กฎกระทรวง
ค.ประกาศกระทรวง ง.รัฐธรรมนูญ
จ.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่
12.คณะกรรมการทีจ่ ัดตั้งขึน้ ตามกฎหมายทีม่ ีการจัดองค์กรและวิธีพิจารณาสาหรับการวินิจฉัยชีข้ าด
สิทธิและหน้าทีต่ ามกฎหมาย คือความหมายของข้อใด
ก.คณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ข.คณะกรรมการทางปกครอง
ค.คณะกรรมการกลาง ง.คณะกรรมการพิจารณาคดี
23.คาสั่งทางปกครองจะต้องกระทาโดยข้อใด
ก.เจ้าพนักงานซึ่งมีอานาจหน้าที่ในเรื่องนัน้
ข.เจ้าหน้าที่ซ่งึ มีอานาจหน้าที่ในเรื่องนัน้
ค.ข้าราชการซึ่งมีอานาจหน้าที่ในเรื่องนัน้
ง.นายอาเภอซึ่งมีอานาจหน้าที่ในเรื่องนัน้
24.เจ้าหน้าทีใ่ นข้อใด จะทาการพิจารณาทางปกครองไม่ได้
ก.เป็ นคู่กรณีเอง
ข.เป็ นคู่หมัน้ หรือคู่สมรสของคู่กรณี
ค.เป็ นญาติของคู่กรณี คือ เป็ นบุพการีหรือผูส้ ืบสันดานไม่ว่าชัน้ ใด ๆ หรือเป็ นพี่นอ้ งหรือลูกพี่ลกู น้องนับได้เพียง
ภายในสามชัน้ หรือเป็ นญาติเกี่ยวพันทางแต่งงานนับได้เพียงสองชัน้
ง.ทาการพิจารณาทางปกครองไม่ได้ทกุ ข้อ
25.เจ้าหน้าทีใ่ นข้อใดทาหน้าทีพ
่ ิจารณาคดีทางปกครองได้
ก.เป็ นคู่กรณีเอง ข.เป็ นญาติของคู่กรณี
ค.เป็ นเพื่อนของคู่กรณี ง.เป็ นนายจ้างของคู่กรณี
จ.ถูกเฉพาะ ข้อ ค และ ง
26.เจ้าหน้าทีใ่ นข้อใด จะทาการพิจารณาทางปกครองไม่ได้
ก.เป็ นหรือเคยเป็ นผูแ้ ทนโดยชอบธรรมหรือผูพ้ ิทกั ษ์หรือผูแ้ ทนหรือตัวแทนของคู่กรณี
ข.เป็ นเจ้าหนีห้ รือลูกหนี ้ หรือเป็ นนายจ้างของคู่กรณี
ค.เป็ นคู่หมัน้ หรือคู่สมรสของคู่กรณี
ง.ทาการพิจารณาทางปกครองไม่ได้ทกุ ข้อ
27.มีกรณีมีการคัดค้านว่าเจ้าหน้าทีเ่ ป็ นญาติของคู่กรณี ทาให้ไม่มีอานาจพิจารณาคดีทางปกครองได้
เจ้าหน้าทีผ่ ู้น้ันต้องทาอย่างไร
ก. ให้เจ้าหน้าที่ผนู้ นั้ หยุดการพิจารณาเรื่องไว้ก่อน และแจ้งให้ผบู้ งั คับบัญชาเหนือตนขึน้ ไปชัน้ หนึ่งทราบ เพื่อที่
ผูบ้ งั คับบัญชาดังกล่าวจะได้มีคาสั่งต่อไป
ข. ให้เจ้าหน้าที่ผนู้ นั้ พิจารณาคดีต่อไปจนกว่าจะสิน้ สุด
ค.ถอนตัวออกจากการพิจารณาคดีทนั ที และแจ้งให้ผบู้ งั คับบัญชาเหนือตนขึน้ ไปชัน้ หนึ่งทราบ
ง.ถูกทัง้ ก และ ค
38.ข้อใดเป็ นคาสั่งทางปกครอง
ก.พระราชกฤษฎีกายุบสภา
ข.คาสั่งให้เป็ นผูล้ ะทิง้ งาน
ค.คาสั่งให้ใส่ชดุ ผ้าไทยทุกวันศุกร์
ง.คาสั่งแต่งตัง้ คณะกรรมการสอบวินยั ไม่รา้ ยแรง
39.พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 สามารถใช้บังคับกับข้อใดได้
ก.รัฐสภา ข.คณะรัฐมนตรี
ค.คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ง.สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
40.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเอกสารทีย่ ่นื ต่อเจ้าหน้าที่
ก.เอกสารที่ย่ืนต่อเจ้าหน้าที่ให้จดั ทาเป็ นภาษาไทย
ข.ถ้าเป็ นเอกสารที่ทาขึน้ เป็ นภาษาต่างประเทศ ให้ค่กู รณีจา้ งผูแ้ ปลภาษาผูม้ ีใบรับรองมาเป็ นกรณีพิเศษเพื่อแปล
เอกสารนัน้
ค.ในกรณีนีใ้ ห้ถือว่าเอกสารดังกล่าวได้ย่นื ต่อเจ้าหน้าที่ในวันที่เจ้าหน้าที่ได้รบั คาแปลนัน้
ง.เว้นแต่เจ้าหน้าที่จะยอมรับเอกสารที่ทาขึน้ เป็ นภาษาต่างประเทศ และในกรณีนใี ้ ห้ถือว่าวันที่ได้ย่ืนเอกสารฉบับที่
ทาขึน้ เป็ นภาษาต่างประเทศเป็ นวันที่เจ้าหน้าที่ได้รบั เอกสารดังกล่าว
จ.ไม่มีขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้อง
41.เมื่อมีผู้ยื่นคาขอเพื่อให้เจ้าหน้าทีม่ ีคาสั่งทางปกครอง ให้เป็ นหน้าทีข่ องเจ้าหน้าทีผ่ ู้รับคาขอทีจ่ ะต้อง
ดาเนินการตรวจสอบความถูกต้องของคาขอและความครบถ้วนของเอกสาร หากมีเอกสารใดไม่
ครบถ้วนให้แจ้งให้ผู้ย่นื คาขอทราบทันทีหรือภายในไม่เกิน กี่วัน นับแต่วันทีไ่ ด้รับคาขอ
ก.7 วัน ข.14 วัน
ค.30 วัน ง. 90 วัน
42.ในกรณีทคี่ าสั่งทางปกครองอาจกระทบถึงสิทธิของคู่กรณี เจ้าหน้าทีต่ ้องให้คู่กรณีมีโอกาสทีจ่ ะได้
ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอและมีโอกาสได้โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตน แต่ห้ามมิให้
เจ้าหน้าทีใ่ ห้โอกาสดังกล่าว ถ้าจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรง ต่อข้อใด
ก.ต่อประชาชน ข.ต่อประโยชน์สาธารณะ
ค.ต่อเจ้าหน้าที่ ง.ต่อการปกครอง
ก.ข้อเท็จจริงอันเป็ นสาระสาคัญ
ข.ข้อกฎหมายที่อา้ งอิง
ค.ชื่อของคู่กรณี
ง.ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดลุ พินิจ
49.การออกคาสั่งทางปกครองเป็ นหนังสือในเรื่องใด หากมิได้มีกฎหมายหรือกฎกาหนดระยะเวลาใน
การออกคาสั่งทางปกครองในเรื่องนั้นไว้เป็ นประการอื่น ให้เจ้าหน้าทีอ่ อกคาสั่งทางปกครองนั้นให้แล้ว
เสร็จภายในกี่วัน นับแต่วันทีเ่ จ้าหน้าทีไ่ ด้รับคาขอและเอกสารถูกต้องครบถ้วน
ก.7 วัน ข.15 วัน
ค.30 วัน ง.90 วัน
50.คาสั่งทางปกครองทีอ่ าจอุทธรณ์หรือโต้แย้งต่อไปได้ให้ระบุ อะไรไว้ด้วย
ก.ระบุกรณีท่อี าจอุทธรณ์หรือโต้แย้ง ข.การยื่นคาอุทธรณ์หรือคาโต้แย้ง
ค.ระยะเวลาสาหรับการอุทธรณ์หรือการโต้แย้ง ง.ถูกทุกข้อ
51.คาสั่งทางปกครองทีอ่ อกโดยการฝ่ าฝื นหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามข้อใด ไม่เป็ นเหตุให้คาสั่ง
ทางปกครองนั้นไม่สมบูรณ์
ก.การออกคาสั่งทางปกครองโดยยังไม่มีผยู้ ่นื คาขอในกรณีท่เี จ้าหน้าที่จะดาเนินการเองไม่ได้นอกจากจะมีผยู้ ่นื คา
ขอ ถ้าต่อมาในภายหลังได้มีการยื่นคาขอเช่นนัน้ แล้ว
ข.คาสั่งทางปกครองที่ตอ้ งจัดให้มีเหตุผลตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง ถ้าได้มีการจัดให้มีเหตุผลดังกล่าวในภายหลัง
ค.การรับฟั งคู่กรณีท่จี าเป็ นต้องกระทาได้ดาเนินการมาโดยไม่สมบูรณ์ ถ้าได้มีการรับฟั งให้สมบูรณ์ในภายหลัง
ง.คาสั่งทางปกครองที่ตอ้ งให้เจ้าหน้าที่อ่นื ให้ความเห็นชอบก่อน ถ้าเจ้าหน้าที่นนั้ ได้ให้ความเห็นชอบในภายหลัง
จ.ถูกทุกข้อ
52.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับคาสั่งทางปกครอง
ก.คาสั่งทางปกครองให้มีผลใช้ยนั ต่อบุคคลตัง้ แต่ขณะที่ผนู้ นั้ ได้รบั แจ้งเป็ นต้นไป
ข.คาสั่งทางปกครองย่อมมีผลตราบเท่าที่ยงั ไม่มีการเพิกถอนหรือสิน้ ผลลงโดยเงื่อนเวลาหรือโดยเหตุอ่นื
ค.เมื่อคาสั่งทางปกครองสิน้ ผลลง ให้เจ้าหน้าที่มีอานาจเรียกผูซ้ ่งึ ครอบครองเอกสารหรือวัตถุอ่ืนใดที่ได้จดั ทาขึน้
เนื่องในการมีคาสั่งทางปกครองดังกล่าว ซึ่งมีขอ้ ความหรือเครื่องหมาย แสดงถึงการมีอยู่ของคาสั่งทางปกครองนัน้
ให้สง่ คืนสิ่งนัน้ หรือให้นาสิ่งของดังกล่าวอันเป็ นกรรมสิทธิ์ของผูน้ นั้ มาให้เจ้าหน้าที่จดั ทาเครื่องหมายแสดงการสิน้
ผลของคาสั่งทางปกครองดังกล่าวได้
ง.ไม่มีขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้อง
53.คาสั่งทางปกครองทีม่ ีข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือผิดหลงเล็กน้อยนั้น สามารถดาเนินการอย่างไรได้
ก.เจ้าหน้าที่สามารถจัดทาขึน้ มาใหม่ได้เสมอและให้แจ้งให้ผทู้ ่เี กี่ยวข้องทราบตามควรแก่กรณี
ข.เจ้าหน้าที่อาจแก้ไขเพิ่มเติมได้เสมอและให้แจ้งให้ผทู้ ่เี กี่ยวข้องทราบตามควรแก่กรณี
ค.เจ้าหน้าที่อาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอและให้แจ้งให้ผทู้ ่เี กี่ยวข้องทราบตามควรแก่กรณี
ง.ถูกทัง้ ก และ ค
63.การยื่นคาขอให้พิจารณาใหม่ต้องกระทาภายในกี่วัน นับแต่ผู้นั้นได้รู้ถึงเหตุซึ่งอาจขอให้พิจารณา
ใหม่ได้
ก.30 วัน ข.90 วัน
ค.150 วัน ง.180 วัน
64.พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 ได้ยกเลิกส่วนที่ 8 การบังคับ
ทางปกครอง มาตราใด ถึง มาตราใด
ก.มาตรา 53 ถึง มาตรา 63 ข.มาตรา 54 ถึง มาตรา 63
ค.มาตรา 55 ถึง มาตรา 63 ง.มาตรา 56 ถึง มาตรา 63
ก.เพิ่มอัตราดอกเบีย้
ข.เพิ่มระยะเวลาในการชาระเงินให้
ค.เรียกเก็บเงินจากทายาท
ง.ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผูน้ นั้ และขายทอดตลาดเพื่อชาระเงินให้ครบถ้วน
69.หน่วยงานของรัฐทีอ่ อกคาสั่งให้ชาระเงินต้องดาเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินภายในกี่ปี นับแต่วันที่
คาสั่งทางปกครองทีก่ าหนดให้ชาระเงินเป็ นทีส่ ุด
ก.5 ปี ข.7 ปี
ค.10 ปี ง.12 ปี
ค.เอกชน
ง.กานันและผูใ้ หญ่บา้ น
73.จากข้อ 72. ให้เอกชนทีส่ ืบพบทรัพย์สินได้รับค่าตอบแทนไม่เกินร้อยละสองครึ่งจากเงินหรือ
ทรัพย์สินทีไ่ ด้มาจากการยึด อายัด หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินที่สืบพบได้ ทั้งนี้ จานวนเงิน
ค่าตอบแทนสูงสุดต้องไม่เกินจานวนเงินค่าตอบแทนสูงสุดต้องไม่เกินเท่าไร ต่อจานวนเงินทีต่ ้องชาระ
ตามคาสั่งทางปกครองในเรื่องนั้น
ก.ไม่เกินหนึ่งล้านบาท
ข.ไม่เกินสองล้านบาทบาท
ค.ไม่เกินสามล้านบาท
ง.ไม่เกินสี่ลา้ นบาท
74.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก.เจ้าหนีต้ ามคาพิพากษา หมายถึง หน่วยงานของรัฐที่ออกคาสั่งให้ชาระเงิน
ข.ลูกหนีต้ ามคาพิพากษา หมายถึง ผูอ้ ยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครอง
ค.อานาจของศาลในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดี เป็ นอานาจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ทัง้ นี ้ ตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง
ง.เจ้าพนักงานบังคับคดี หมายถึง เจ้าพนักงานบังคับทางปกครอง
จ.ไม่มีขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้อง
75.ในกรณีทม่ี ีการบังคับให้ชาระเงินและคาสั่งทางปกครองทีก่ าหนดให้ชาระเงินเป็ นทีส่ ุดแล้ว หาก
หน่วยงานของรัฐทีอ่ อกคาสั่งให้ชาระเงินประสงค์ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีในสังกัดกรมบังคับคดี
ดาเนินการบังคับให้เป็ นไปตามคาสั่งทางปกครองดังกล่าว ให้ยื่นคาขอฝ่ ายเดียวต่อศาลภายในกี่ปี
นับแต่วันที่คาสั่งทางปกครองทีก่ าหนดให้ชาระเงินเป็ นทีส่ ุด
ก.5 ปี ข.7 ปี
ค.10 ปี ง.12 ปี
76.หน่วยงานของรัฐทีอ่ อกคาสั่งให้ชาระเงินต้องดาเนินการสืบทรัพย์แล้วแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดี
ทราบพร้อมเอกสารหลักฐานทีเ่ กี่ยวข้องเพื่อให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดาเนินการเพื่อให้มีการยึดหรือ
อายัดทรัพย์สิน ภายในกี่ปี นับแต่วันทีค่ าสั่งทางปกครองทีก่ าหนดให้ชาระเงินเป็ นทีส่ ุด
ก.5 ปี
ข.7 ปี
ค.10 ปี
ง.12 ปี
77.ค่าปรับทีเ่ จ้าหน้าทีส่ ่งั ให้ผู้ทฝี่ ่ าฝื นหรือไม่ปฏิบัติตามคาสั่งทางปกครองทีก่ าหนดให้กระทาหรือละเว้น
กระทา ชาระเป็ นรายวันไปจนกว่าจะยุติการฝ่ าฝื นคาสั่งหรือได้มีการปฏิบัติตามคาสั่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็ น
ค่าปรับทีก่ าหนดโดยพระราชบัญญัตินีห้ รือโดยกฎหมายอื่น คือความหมายของข้อใด
ก.ค่าปรับจริง
ข.ค่าปรับทางปกครอง
ค.ค่าปรับบังคับการ
ง.การเรียกค่าปรับ
78.คาสั่งทางปกครองทีก่ าหนดให้กระทาหรือละเว้นกระทา ถ้าผู้อยู่ในบังคับของคาสั่งทางปกครองฝ่ าฝื น
หรือไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าทีอ่ าจใช้มาตรการบังคับทางปกครอง โดย เจ้าหน้าทีเ่ ข้าดาเนินการด้วย
ตนเองหรือมอบหมายให้บุคคลอื่นกระทาการแทน โดยผู้อยู่ในบังคับของคาสั่งทางปกครองจะต้องชดใช้
ค่าใช้จ่ายและเงินเพิ่มรายวันในอัตราร้อยละเท่าไร
ก.ร้อยละ 10 ต่อปี ของค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่หน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่นนั้ สังกัด
ข.ร้อยละ 20 ต่อปี ของค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่หน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่นนั้ สังกัด
ค.ร้อยละ 25 ต่อปี ของค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่หน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่นนั้ สังกัด
ง.ร้อยละ 30 ต่อปี ของค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่หน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่นนั้ สังกัด
79. คาสั่งทางปกครองทีก่ าหนดให้กระทาหรือละเว้นกระทา ถ้าผู้อยู่ในบังคับของคาสั่งทางปกครองฝ่ า
ฝื นหรือไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าทีอ่ าจใช้มาตรการบังคับทางปกครอง โดยให้มีการชาระค่าปรับบังคับการ
ตามจานวนทีส่ มควรแก่เหตุแต่ต้องไม่เกินเท่าไร
ก.ไม่เกิน 25,000 บาทต่อวัน
ข.ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน
ค.ไม่เกิน 75,000 บาทต่อวัน
ง.ไม่เกิน 100,000 บาทต่อวัน
80.ระยะเวลาและอายุความ กาหนดเวลาเป็ นวัน สัปดาห์ เดือน หรือปี นั้น มิให้นับวันใด รวมเข้าด้วย
ก.วันแรกแห่งระยะเวลานัน้
ข.วันสุดท้ายแห่งระยะเวลานัน้
ค.วันหยุดนักขัตฤกษ์
ง.วันยื่นคาร้อง
81.ในกรณีทเี่ จ้าหน้าทีม่ ีหน้าทีต่ ้องกระทาการอย่างหนึ่งอย่างใดภายในระยะเวลาทีก่ าหนด ข้อใดกล่าว
ถูกต้อง
ก.ให้นบั วันแรกระยะเวลานัน้ รวมเข้าด้วยแม้ว่าเป็ นวันหยุดทาการงานสาหรับเจ้าหน้าที่
ข.ให้นบั วันสิน้ สุดของระยะเวลานัน้ รวมเข้าด้วยแม้ว่าวันสุดท้ายเป็ นวันหยุดทาการงานสาหรับเจ้าหน้าที่
ค.ให้นบั วันหยุดนักขัตฤกษ์รวมเข้าด้วยแม้ว่าวันสุดท้ายเป็ นวันหยุดทาการงานสาหรับเจ้าหน้าที่
ง.ให้นบั วันยื่นคาร้องรวมเข้าด้วยแม้ว่าวันสุดท้ายเป็ นวันหยุดทาการงานสาหรับเจ้าหน้าที่
82.ในกรณีทบ่ี ุคคลใดต้องทาการอย่างหนึ่งอย่างใดภายในระยะเวลาทีก่ าหนดโดยกฎหมายหรือโดย
คาสั่งของเจ้าหน้าที่ ถ้าวันสุดท้ายเป็ นวันหยุดทาการงานสาหรับเจ้าหน้าทีห่ รือวันหยุดตามประเพณีของ
บุคคลผู้รับคาสั่ง ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก.ให้ถือว่าระยะเวลานัน้ สิน้ สุดในวันตามที่กาหนดในข้อตกลง
ข.ให้ถือว่าระยะเวลานัน้ สิน้ สุดในวันที่ผบู้ งั คับบัญชาสั่งการ
ค.ให้ถือว่าระยะเวลานัน้ สิน้ สุดในวันทางานที่ถดั จากวันหยุดนัน้
ง.ถูกทุกข้อ แล้วแต่ กรณี
83.ในกรณีทผ่ี ู้ใดไม่อาจกระทาการอย่างหนึ่งอย่างใดภายในระยะเวลาทีก่ าหนดไว้ในกฎหมายได้เพราะมี
พฤติการณ์ทจี่ าเป็ นอันมิได้เกิดขึน้ จากความผิดของผู้นั้น ถ้าผู้นั้นมีคาขอเจ้าหน้าทีอ่ าจขยายระยะเวลา
และดาเนินการส่วนหนึ่งส่วนใดทีล่ ่วงมาแล้วเสียใหม่ก็ได้ แต่ต้องยื่นคาขอ ภายในกี่วัน
ก.ภายใน 7 วัน นับแต่พฤติการณ์เช่นว่านัน้ ได้สนิ ้ สุดลง
ข.ภายใน 15 วัน นับแต่พฤติการณ์เช่นว่านัน้ ได้สนิ ้ สุดลง
ค.ภายใน 30 วัน นับแต่พฤติการณ์เช่นว่านัน้ ได้สนิ ้ สุดลง
ง.ภายใน 60 วัน นับแต่พฤติการณ์เช่นว่านัน้ ได้สนิ ้ สุดลง
84.การแจ้งคาสั่งทางปกครอง การนัดพิจารณา หรือการอย่างอื่นทีเ่ จ้าหน้าทีต่ ้องแจ้งให้ผู้ทเี่ กี่ยวข้อง
ทราบโดยวิธีใดได้บ้าง
ก.อาจกระทาด้วยวาจาก็ได้
ข.ถ้าผูน้ นั้ ประสงค์จะให้กระทาเป็ นหนังสือก็ให้แจ้งเป็ นหนังสือ
ค.นกพิราบสื่อสาร
ง.ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
85.การแจ้งเป็ นหนังสือให้ส่งหนังสือแจ้งต่อผู้นั้น หรือถ้าได้ส่งไปยังภูมิลาเนาของผู้นั้นก็ให้ถือว่าได้รับ
แจ้งตั้งแต่เมื่อไร
ก.ถือว่าได้รบั แจ้งวันที่สง่ จดหมายนัน้
ข.ถือว่าได้รบั แจ้งตัง้ แต่ในขณะที่ไปถึง
ค.ถือว่าได้รบั แจ้งวันที่ออกหนังสือ
ง.ถือว่าได้รบั แจ้งวันที่มีคาสั่ง
94.การให้กรรมการในคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทพ้นจากตาแหน่งก่อนครบวาระจะกระทามิได้ เว้น
แต่กรณีใด
ก.มีพฤติกรรมเชิงชูส้ าว ข.มีเหตุบกพร่องอย่างยิ่งต่อหน้าที่
ค.มีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรง ง.ถูกเฉพาะข้อ ข และ ค
จ.ถูกทุกข้อ
95.การประชุมของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทต้องมีกรรมการมาประชุมตามข้อใด จึงจะเป็ นองค์
ประชุม
ก.อย่างน้อย 2 ใน 3 ข.อย่างน้อย 3 ใน 4
ค.อย่างน้อย 4 ใน 5 ง.อย่างน้อยกึ่งหนึ่ง
96.การนัดประชุมของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทต้องทาเป็ นหนังสือและแจ้งให้กรรมการทุกคน
ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า กี่วัน เว้นแต่กรรมการนัน้ จะได้ทราบการบอกนัดในที่ประชุมแล้ว กรณีดงั กล่าวนีจ้ ะ
ทาหนังสือแจ้งนัดเฉพาะกรรมการที่ไม่ได้มาประชุมก็ได้
ก.ไม่นอ้ ยกว่า 3 วัน ข.ไม่นอ้ ยกว่า15 วัน
ค.ไม่นอ้ ยกว่า30 วัน ง.ไม่นอ้ ยกว่า90 วัน
97.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการประชุมของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท
ก.การลงมติของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก
ข.กรรมการคนหนึ่งให้มีหนึ่งเสียงในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึน้
อีกเสียงหนึ่งเป็ นเสียงชีข้ าด
ค.เรื่องใดถ้าไม่มีผคู้ ดั ค้าน ให้ประธานถามที่ประชุมว่ามีผเู้ ห็นเป็ นอย่างอื่นหรือไม่ เมื่อไม่มีผเู้ ห็นเป็ นอย่างอื่น ให้ถือ
ว่าที่ประชุมลงมติเห็นชอบในเรื่องนัน้
ง.ไม่มีขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้อง
98.บทบัญญัติมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539และทีแ่ ก้ไข
เพิ่มเติม ให้เป็ นอันยกเลิกเมื่อใด
ก.เมื่อมีการประกาศใช้รฐั ธรรมนูญ
ข.เมื่อได้มีการจัดตัง้ ศาลปกครองขึน้ แล้ว
ค.เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล
ง.เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายใหม่
เฉลย
1.ก.นายกรัฐมนตรี 27.ก. ให้เจ้าหน้าที่ผู้ 53.ข.เจ้าหน้าที่อาจ 79.ข.ไม่เกิน 50,000
2.จ.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่ 28.ค.วัน เดือน และปี 54.ข.15 วัน 80.ก.วันแรกแห่ง
3.ค.การดาเนินกิจการ 29.ข.ตัง้ แต่ขณะที่ผู้ 55.ข.หนังสือ 81.ข.ให้นบั วันสิน้ สุด
4.จ.ถูกเฉพาะข้อ ค 30.ง.ถูกเฉพาะข้อ ก 56.ค.30 วัน 82.ค.ให้ถือว่า
5. ง.การออกกฎ 31.ง.ได้ ถ้าเป็ น ผูซ้ ่งึ มี 57.ค.30 วัน 83.ข.ภายใน 15 วัน
6.ง.การออกกฎ 32.ง.ถูกเฉพาะข้อ ข 58. ค.30 วัน 84.ง.ถูกเฉพาะข้อ ก
7.ก.การเตรียมการ 33.ค.บุคคลหนึ่ง 59. ง.90 วัน 85.ข.ถือว่าได้รบั แจ้ง
8.ก.การพิจารณาทาง 34.ค.ผูส้ ืบสิทธิตาม 60. ง.90 วัน 86.ข.หากได้วาง
9.ข.กฎ 35.ง.ไม่มีขอ้ ใดกล่าว 61. ง.180 วัน 87.ก.7 วัน
10.ง.พระราชบัญญัติ 36.ก.มีหนังสือ 62.จ.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่ 88.ข.15 วัน
11.ง.รัฐธรรมนูญ 37.ก.มีหนังสือ 63. ข.90 วัน 89.ง.ถูก เฉพาะข้อ ก
12.ก.คณะกรรมการ 38.ข.คาสั่งให้เป็ นผู้ 64. ค.มาตรา 55 ถึง 90.ข.15 วัน
13.ค.เจ้าหน้าที่ 39.ง.สานักงาน 65.ง.หน่วยงานของรัฐ 91.ข.15 วัน
14.ข.คู่กรณี 40.ข.ถ้าเป็ นเอกสารที่ 66.ง.ถูกเฉพาะข้อ ก 92.ก.ตามวัน เวลา ที่
15.ง.ไม่มีขอ้ ใดกล่าว 41.ก.7 วัน 67.ก.7 วัน 93.ง.แต่งตัง้ โดยระบุ
16.ก.ให้คณะรัฐมนตรี 42.ข.ต่อประโยชน์ 68.ง.ยึดหรืออายัด 94.ง.ถูกเฉพาะข้อ ข
17.ฉ.เลขาธิการ 43.ข.คู่กรณีไม่มีสิทธิ 69.ค.10 ปี 95.ง.อย่างน้อยกึ่ง
18. ก.ไม่นอ้ ยกว่า 5 44.ข.กรณีท่ตี อ้ งรักษา 70.ง.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่ 96.ก.ไม่นอ้ ยกว่า 3
19.ง.ให้เลขาธิการ 45. ข.คาสั่งทางเพียง 71.ก.สานักงาน 97.ง.ไม่มีขอ้ ใดกล่าว
20.ข.3 ปี 46.ก.7 วัน 72.ค.เอกชน 98.ข.เมื่อได้มีการ
21.ข.สานักงาน 47.ข.เจ้าหน้าที่ผทู้ า 73.ก.ไม่เกินหนึ่งล้าน 99.ข.ระเบียบ ก.ค.ศ.
22.ง.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่ 48.ค.ชื่อของคู่กรณี 74.จ.ไม่มีขอ้ ใดกล่าว 100.ข.15 วัน
23.ข.เจ้าหน้าที่ซ่งึ มี 49.ค.30 วัน 75.ค.10 ปี 101.ก.การเตรียมการ
24.ง.ทาการพิจารณา 50.ง.ถูกทุกข้อ 76.ค.10 ปี 102.ก.นายอาเภอโดย
25.ค.เป็ นเพื่อนของ 51.จ.ถูกทุกข้อ 77.ค.ค่าปรับบังคั
26.ง.ทาการพิจารณา 52.ง.ไม่มีขอ้ ใดกล่าว 78.ค.ร้อยละ 25 ต่อปี
12.กรณีทหี่ น่วยงานของรัฐต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายเพื่อการละเมิดของเจ้าหน้าที่
ให้หน่วยงานของรัฐมีสิทธิเรียกให้เจ้าหน้าทีผ่ ู้ทาละเมิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวแก่หน่วยงาน
ของรัฐได้ ในกรณีใด
ก.ถ้าเจ้าหน้าที่กระทาด้วยความคึกคะนอง
ข.ถ้าเจ้าหน้าที่กระทาด้วยเหตุผลส่วนตัวและบันดาลโทสะ
ค.ถ้าเจ้าหน้าที่ได้กระทาการนัน้ ไปด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
ง.ถูกทัง้ ข และ ค
13.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ตามมาตรา 8
ก. สิทธิเรียกให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจะมีได้เพียงใดให้คานึงถึงระดับความร้ายแรงแห่งการกระทาและความ
เป็ นธรรมในแต่ละกรณีเป็ นเกณฑ์โดยมิตอ้ งให้ใช้เต็มจานวนของความเสียหายก็ได้
ข. ถ้าการละเมิดเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐหรือระบบการดาเนินงานส่วนรวม ให้หกั
ส่วนแห่งความรับผิดดังกล่าวออกด้วย
ค. ในกรณีท่ีการละเมิดเกิดจากเจ้าหน้าที่หลายคน มิให้นาหลักเรื่องลูกหนีร้ ว่ มมาใช้บงั คับและเจ้าหน้าที่แต่ละคน
ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะส่วนของตนเท่านัน้
ง. ไม่มีขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้อง
14.ถ้าหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าทีไ่ ด้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย สิทธิทจี่ ะเรียกให้อีกฝ่ ายหนึ่ง
ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตนให้มีกาหนดอายุความ กี่ปี นับแต่วันทีห่ น่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าทีไ่ ด้
ใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้นแก่ผู้เสียหาย
ก.1 ปี ข.2 ปี
ค.3 ปี ง.4 ปี
15.ในกรณีทเี่ จ้าหน้าทีเ่ ป็ นผู้กระทาละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็ นหน่วยงานของรัฐทีผ่ ู้นั้นอยู่ใน
สังกัดหรือไม่ ถ้าเป็ นการกระทาในการปฏิบัติหน้าที่การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าหน้าที่ให้นา
บทบัญญัติมาตรา 8 มาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ถ้ามิใช่การกระทาในการปฏิบัติหน้าทีใ่ ห้บังคับตาม
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมาย ใด
ก. ประมวลกฎหมายอาญา ข. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ค. ประมวลกฎหมายวิธีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง ง. ประมวลกฎหมายปกครอง
16.เพื่อให้การจัดทาประมวลจริยธรรมในภาครัฐมีมาตรฐานทางจริยธรรมในระดับเดียวกัน ในการจัด
ทาประมวลจริยธรรมขององค์กรกลางบริหารงานบุคคลของศาลหรือองค์กรอัยการ องค์กรกลาง
บริหารงานบุคคลของหน่วยงานธุรการของรัฐสภาและองค์กรอิสระ ให้นามาตรฐานทางจริยธรรม
ตามมาตรา ใด ไปใช้ประกอบการพิจารณาจัดทาประมวลจริยธรรมของเจ้าหน้าทีข่ องรัฐทีอ่ ยู่ในความ
รับผิดชอบด้วย
ก.มาตรา 5 ข.มาตรา 6
ค.มาตรา 7 ง.มาตรา 8
17.คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม เรียกโดยย่อว่าอะไร
ก. ก.ม.จ. ข. ก.จ.ม.
ค. ก.ม.ว. ง. ก.ม.ข.
18.คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม มีกี่คณะ
ก.1 ข.2
ค.3 ง.4
19.ข้อใดเป็ นประธานกรรมการ ใน คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม
ก.นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซ่งึ นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ข.ผูแ้ ทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนที่ได้รบั มอบหมาย
ค.ผูแ้ ทนที่ได้รบั มอบหมายจากคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา
ง.คณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น
20.ข้อใดเป็ นรองประธานกรรมการ ใน คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม
ก.นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซ่งึ นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ข.ผูแ้ ทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนที่ได้รบั มอบหมาย
ค.ผูแ้ ทนที่ได้รบั มอบหมายจากคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา
ง.เลขาธิการ ก.พ.
21.กรรมการโดยตาแหน่ง ใน คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม มีจานวนกี่คน
ก.3 ข.4
ค.5 ง.6
ิ ้นจากตาแหน่งตามข้อต่อไปนี้
30.นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒพ
ยกเว้นข้อใดทีไ่ ม่ใช่
ก.ตาย
ข.ลาออก
ค.ขาดคุณสมบัติหรือมีลกั ษณะต้องห้ามตามมาตรา 9
ง. ก.ม.จ. มีมติให้ออกจากตาแหน่งด้วยคะแนนเสียงไม่นอ้ ยกว่ากึ่งหนึ่งของจานวนกรรมการเท่าที่มีอยู่ เพราะ
บกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อนความสามารถ
จ.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่
31. ก.ม.จ. มีหน้าทีแ่ ละอานาจ ดังต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใดทีไ่ ม่ใช่
ก.เสนอแนะและให้คาปรึกษาเกี่ยวกับนโยบายและยุทธศาสตร์ดา้ นมาตรฐานทางจริยธรรมและการส่งเสริม
จริยธรรมภาครัฐต่อคณะรัฐมนตรี
ข.กาหนดแนวทางหรือมาตรการในการขับเคลื่อน การดาเนินกระบวนการรักษาจริยธรรมรวมทัง้ กลไกและการ
บังคับใช้ประมวลจริยธรรมสาหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อให้องค์กรกลางบริหารงานบุคคล หรือผูบ้ งั คับบัญชา
นาไปใช้ในกระบวนการบริหารงานบุคคลอย่างเป็ นรูปธรรม
ค.กาหนดแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมีความรูค้ วามเข้าใจ
เกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมและยึดถือแนวทางปฏิบตั ิตามประมวลจริยธรรม รวมทัง้ เสนอแนะมาตรการในการ
เพิ่มพูนประสิทธิภาพและเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบตั ิตามประมวลจริยธรรมแก่หน่วยงานของรัฐต่อ
คณะรัฐมนตรี
ง.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่
32.ข้อใดมีอานาจกาหนดหลักเกณฑ์เป็ นระเบียบคู่มือ หรือแนวทางปฏิบัติเพื่อให้องค์กรกลาง
บริหารงานบุคคล และหน่วยงานของรัฐ ใช้เป็ นหลักเกณฑ์สาหรับการจัดทาประมวลจริยธรรมและ
ข้อกาหนดจริยธรรม
ก. ก.ม.จ. ข. ก.จ.ม.
ค. ก.ม.ว. ง. ก.ม.ข.
48.ข้อใดไม่ใช่จริยธรรมที่กาหนดไว้ให้ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาต้องประพฤติปฏิบัติตน
เพื่อรักษาไว้อย่างเคร่งครัด
ก.ยึดมั่นในสถาบันหลักของประเทศ อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริยแ์ ละการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็ นประมุข
ข.ซื่อสัตย์สจุ ริต มีจิตสานึกที่ดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่และต่อผูเ้ กี่ยวข้องในฐานะข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษา
ค.กล้าคิด กล้าตัดสินใจ กล้าแสดงออก และกระทาในสิ่งที่ถกู ต้องชอบธรรม
ง.มีจิตอาสา จิตสาธารณะ มุ่งประโยชน์สว่ นรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพ้อง
จ.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่
49.ข้อใดไม่ใช่จริยธรรมที่กาหนดไว้ให้ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาต้องประพฤติปฏิบัติตน
เพื่อรักษาไว้อย่างเคร่งครัด
ก.มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน มุ่งมั่นในการปฏิบตั ิงานอย่างเต็มกาลังความสามารถ ที่สะท้อนถึงคุณภาพผูเ้ รียนและ
คุณภาพการศึกษา
ข.ปฏิบตั ิหน้าที่อย่างเป็ นธรรมและไม่เลือกปฏิบตั ิ
ค.ดารงตนเป็ นแบบอย่างที่ดีและรักษาภาพลักษณ์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ง.เคารพในศักดิ์ศรีความเป็ นมนุษย์ คานึงถึงสิทธิเด็ก และยอมรับความแตกต่างของบุคคล
จ.ไม่มีขอ้ ใดที่ไม่ใช่
50.การจัดทาแนวทางการประพฤติปฏิบัติตนของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาตามประมวล
จริยธรรมข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษานี้ ให้เป็ นไปตามทีผ่ ู้ใดกาหนด
ก. ก.ค.ศ. ข. สพฐ. ค.สานักงานศึกษาธิการจังหวัด ง.สานักงานปลัดกระทรวง
51.ผู้ใดทีไ่ ม่ต้องประพฤติปฏิบัติตนตามประมวลจริยธรรมข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา
ก.พนักงานราชการ ข.ครูอตั ราจ้าง
ค.ลูกจ้าง ง.วิทยากรพิเศษ จ.ต้องปฏิบตั ิตามทุกข้อ
52.ผู้รักษาการตามประมวลจริยธรรมข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา คือข้อใด
ก.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ข.ประธาน ก.ค.ศ.
ค.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ง.เลขาธิการสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน