You are on page 1of 3

หนา้ ๑

เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๒๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖

ระเบียบคณะกรรมการว่าด้วยการปรับเป็นพินัย
เรื่อง การให้คาปรึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัตงิ านของเจ้าหน้าทีข่ องรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๖

โดยที่มาตรา ๓๘ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕


บัญญัติให้ น ายกรัฐมนตรีแ ต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเพื่อให้คาแนะนาและคาปรึกษาเกี่ยวกับ
การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติดังกล่าว และนายกรัฐมนตรี
ได้มีคาสั่งสานักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๑๘/๒๕๖๕ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการว่าด้วยการปรับเป็นพินัย
ลงวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ดังนั้น เพื่อให้การให้คาแนะนาและคาปรึกษาของคณะกรรมการ
ว่าด้วยการปรับเป็นพินัยเป็นไปอย่างเรียบร้อย อาศัยอานาจตามข้อ ๒ (๕) ของคาสั่งสานักนายกรัฐมนตรี
ดังกล่าว คณะกรรมการว่าด้วยการปรับเป็นพินัย จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้ เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการว่าด้วยการปรับเป็นพินัย เรื่อง การให้
คาปรึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๖”
ข้อ ๒ ในระเบียบนี้
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการว่าด้วยการปรับเป็นพินัยที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง
ตามมาตรา ๓๘
“เจ้าหน้าที่ของรัฐ” หมายความว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงาน นายทะเบียน คณะบุคคล
และเจ้าหน้ าที่ของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่น บรรดาที่กฎหมายบัญญัติให้ มีอานาจปรับเป็นพินัย หรือที่รัฐมนตรี
ประกาศกาหนดให้เป็นผู้มีอานาจปรับเป็นพินัยตามมาตรา ๑๔
“หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า
(๑) ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง หรือปลัดทบวง ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ
สังกัดสานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี สานักงานปลัดกระทรวง หรือสานักงานปลัดทบวง แล้วแต่กรณี
(๒) อธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งมีฐานะเทียบเท่ากรม ในกรณีที่เจ้าหน้าที่
ของรัฐสังกัดกรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งมีฐานะเทียบเท่ากรม แล้วแต่กรณี
(๓) ผู้ว่าราชการจังหวัด ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดราชการส่วนภูมิภาคในจังหวัด
(๔) ผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดรัฐวิสาหกิจ
(๕) ผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอื่นของรัฐ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดหน่วยงานอื่นของรัฐ
(๖) นายกองค์ ก ารบริ ห ารส่ ว นจั ง หวั ด นายกเทศมนตรี ผู้ ว่ า ราชการกรุ ง เทพมหานคร
นายกเมืองพัทยา หรือนายกองค์การบริหารส่วนตาบล ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดองค์การบริหาร
ส่วนจังหวัด เทศบาล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา หรือองค์การบริหารส่วนตาบล แล้วแต่กรณี
(๗) น า ย ก ส ภ า วิ ช า ชี พ ใ น ก ร ณี ที่ พ นั ก ง า น ห รื อ ลู ก จ้ า ง ข อ ง ส ภ า วิ ช า ชี พ
มีอานาจปรับเป็นพินัย
หนา้ ๒
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๒๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖

ข้อ ๓ เพื่อประโยชน์ในการดาเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕


ของเจ้าหน้าที่ของรัฐในบังคับบัญ ชาหรือกากับดูแลของรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายให้เป็นแนวทาง
เดียวกัน รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายอาจขอคาปรึกษาคณะกรรมการเพื่อวางแนวทางการปฏิบัติ
ตามกฎหมายได้
ข้อ ๔ เพื่อประโยชน์ในการดาเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕
ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมาย
หรื อ กรมส่ ง เสริ ม การปกครองท้ อ งถิ่ น อาจขอค าปรึ ก ษาคณะกรรมการเพื่ อ วางแนวทางการปฏิ บั ติ
ตามกฎหมายได้
ในกรณี ที่ รั ฐ มนตรี ผู้ รั ก ษาการตามกฎหมายขอค าปรึ ก ษาคณะกรรมการตามวรรคหนึ่ ง
และคาปรึกษานั้นมีผลต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย ให้รัฐมนตรีแจ้งคาปรึกษาของคณะกรรมการ
ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทราบเพื่อแจ้งเวียนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้เป็นแนวทาง
ในการปฏิบัติงานโดยไม่ต้องขอคาปรึกษาจากคณะกรรมการอีก
ข้อ ๕ การขอคาปรึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็น พินั ย
พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเสนอเรื่องที่จะขอปรึกษานั้นต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่ตนสังกัด
เมื่อหั ว หน้ าหน่ ว ยงานของรัฐเห็นสมควร ให้ส่งเรื่องให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาต่อไป
ข้อ ๖ ในกรณีที่เคยมีการให้คาปรึกษาในประเด็นเดียวกันหรือในประเด็นที่อยู่ในลักษณะเดียวกัน
มาก่อนแล้ว เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาจะส่งคาปรึกษาที่เคยมีมาแล้วนั้น ไปให้หน่วยงานของรัฐ
ที่ขอคาปรึกษา โดยไม่ต้องเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาใหม่ก็ได้
ข้อ ๗ ในการพิจารณาให้คาปรึกษา คณะกรรมการหรือสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาจเชิญบุคคลดังต่อไปนี้ ไปชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงหรือให้ความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณา
(๑) ผู้แทนหน่วยงานของรัฐที่ขอคาปรึกษา
(๒) ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พิจารณาตามที่คณะกรรมการหรือสานักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาเห็นสมควร
ในกรณีที่การพิจารณาเป็นเรือ่ งเกี่ยวกับสิทธิของเอกชนและคณะกรรมการเห็นว่าการฟังความคิดเห็น
ของเอกชนจะเป็นประโยชน์ คณะกรรมการจะขอให้สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเชิญผู้แทนของ
สถาบันฝ่ายเอกชนหรือบุคคลอื่นที่คณะกรรมการเห็นสมควร เข้าร่วมชี้แจงให้ข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็น
เพื่อประกอบการพิจารณาด้วยก็ได้
ข้อ ๘ คณะกรรมการจะไม่พิจารณาให้คาปรึกษาในเรื่องที่มีการฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในศาล
หนา้ ๓
เลม่ ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๒๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖

ข้อ ๙ เมื่อคณะกรรมการได้พิจารณาและมีการให้คาปรึกษาแล้ว ให้สานักงานคณะกรรมการ


กฤษฎีกาส่งเรื่องดังกล่าวให้หน่วยงานของรัฐที่ขอคาปรึกษาทราบโดยเร็ว
ในกรณี ที่ หั ว หน้ าหน่ ว ยงานของรัฐ ที่ข อค าปรึก ษาเป็นหั วหน้า องค์ กรปกครองส่ วนท้องถิ่น
ให้สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งคาปรึกษาตามวรรคหนึ่งให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทราบ
เพื่อแจ้งเวียนให้องค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานโดยไม่ต้องขอคาปรึกษา
จากคณะกรรมการอีก
ข้อ ๑๐ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖6


บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
ประธานกรรมการว่าด้วยการปรับเป็นพินัย

You might also like