Professional Documents
Culture Documents
6. หน้าต่าง GstarCAD-DWG Association ให้เลือกหัวข้อแรก “Always reassociate DWG file with GstarCAD
(Recommended) ” ซึ( งเป็ นการเลือกเปิ ดไฟล์ดว้ ยโปรแกรม GstarCAD ทุกครั*งค่ะ
6
Chapter 2
Starting up GstarCAD 2021
2. Workspace Switching:
สามารถสลับหน้าต่างการทํางานได้ 2 รู ปแบบ (2D Drafting และ GstarCAD Classic)
3. Menu Bar:
ผูใ้ ช้งานสามารถเลือกคําสั"งโดยการเข้าไปในเมนู ต่างๆ เช่น File, Edit, View, Insert, Format, Tools, Draw, Dimension,
Modify, Window, Help และ Express.
8
Menus และ Shortcut Menus
ผู ใ้ ช้ง านสามารถใช้ค ํา สั" ง โดยเลื อ กจากเมนู ห ลัก และ และเลื อ กคํา สั" ง ที"
ต้องการใช้งานและถ้าหากผูใ้ ช้งานต้องการเลือกเมนู ใช้งาน เพียงแค่กดปุ่ ม Alt ค้าง
แล้วตามด้วยตัวอักษรที" ขีดเส้นใต้ในเมนู น8 นั ๆเช่นต้องการเปิ ดเมนู Edit ให้กดปุ่ ม
Alt+E ก็จะเป็ นการเลือกใช้คาํ สั"งในเมนู Edit
Shortcuts Customize
การ Customize คําสั"งจะช่วยให้การทํางานเร็ วขึ8น Shortcut คือ CUSTACC
ข้อดี ของการ Customize ก็คือจะช่วยสร้างคําสั"งใหม่ ลบคําสั"งที" ไม่ใช้ และแก้ไข
คําสั"งเดิมที"มีอยู่ ถ้าผูใ้ ช้งานต้องการสร้างคําสั"งใหม่เพียงแค่กดที"ปุ่ม”New” ก็จะมี
หน้าต่ างการ Customize แสดงขึ8นมาแล้วหลังจากนั8นก็คน้ หาคําสั"งจากรายการ
คําสั"งที"มีอยู่ในโปรแกรมพร้อมทั8งยังสามารถกําหนด Command Line ที"จะแสดง
โต้ตอบกับ ผูใ้ ช้งานได้อีกด้วย
9
ถ้าผูใ้ ช้งานต้องการแก้ไขคําสั"งเดิ มที" มีอยู่ก็ส ามารถทําได้โดยการคลิ กที" Modify เพื" อเข้าสู ้ ข8 นั ตอนการแก้ไข จะมี
หน้าต่างการแก้ไขแสดงขึ8นมา โดยผูใ้ ช้งานสามารถตั8งค่าได้หลายส่ วน
ผูใ้ ช้งานสามารถกําหนดค่าต่างๆได้ เช่น ผูใ้ ช้งานป้ อนเลข 1 เข้าไปเพื"อสร้างเป็ น Shortcut หลังจากนั8นก็สามารถเข้าไป
ที"เดิมเพื"อทําการแก้ไขคําสัง" หรื อ ลบทิ8งก็ได้
4. The Ribbon:
เมนูรูปแบบ ริ บบ้อน เป็ นรู ปแบบที"มีการจัดแบ่งคําสั"งต่างๆออกตามแต่ละหมวดหมู่ เพื"อสะดวกต่อการเรี ยกใช้ นอกจากนี8 ยงั
สามารถเรี ยก Toolbars ออกมาใช้งานควบคู่ได้อีกด้วย
5. Appearance:
ผูใ้ ช้งานสามารถจัดการ Interface การทํางานได้ดว้ ยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็ น Theme ของหน้าจอที"ใช้งาน หรื อ ต้องการจะเปิ ด
Toolbars ที"ตอ้ งการจะแสดงผลก็ได้เช่นกัน
11
6. Drawing Area:
เป็ นส่ วนที"ผใู ้ ช้งานสามารถวาดแบบลงในส่ วนหน้าต่างนี8
7. Toolbars:
เป็ นรู ป แบบการใช้งานคําสั"งแบบ คลาสสิ ค เพี ย งแค่ ผูใ้ ช้งานทําการลากเม้าส์ ไปวางไว้บ นคําสั"งที" ตอ้ งการใช้งาน ก็จะมี
ToolTipบอกชื"อคําสั"งนั8น และถ้าต้องการเริ" มใช้งานก็เพียงแค่คลิกที"คาํ สั"งที"ตอ้ งการก็สามารถเริ" มใช้คาํ สัง" ได้
12
Toolbar ที"อยู่ดา้ นบนบริ เวณหน้าต่างเขียนแบบมีคาํ สั"งที"ใช้งานกันทัว" ไปไม่ว่าจะเป็ นคําสั"ง Copy Pan และ Zoom เหมือนกับ
โปรแกรม Microsoft Office และคําสั"งพื8นฐานเช่น New, Open และ Save หน้าต่างการทํางานของ GstarCAD ในรู ปแบบ
Classic เริ" มต้นจะมีการเปิ ด Toolbar ขึ8นมาให้เลือกใช้งาน หลากหลายเป็ นแถบเครื" องมือเริ" มต้น เช่น
Nesting a Command
เมื"อผูใ้ ช้งานกําลังใช้งานคําสั"งใดๆก็ตามอยู่ แล้ว ต้อ งการตั8งค่ าในส่ วนอื"น
เพิ"มเติ ม สามารถทําได้ เช่ น ผูใ้ ช้งานต้องการตั8งค่า Object Snap ในขณะที"
กําลังใช้คาํ สั"งวาด วงกลม ผูใ้ ช้งานก็สามารถทําได้โดยการพิมพ์เครื" องหมาย
วรรคตอน แล้วตามด้วยคําสั"งนั8นๆ
ตัวอย่ าง:
Command: circle > Specify center point for circle or [3P/2P/Ttr (tan tan radius)]: 'osnap
(จากนั8นให้ต8 งั ค่า Object Snap ตามต้องการแล้วปิ ดหน้าต่าง Object Snap ไป จะกลับเข้าสู่คาํ สัง" วาด วงกลม)
Dynamic Input
เป็ นหน้าต่ างการแจ้งสถานะต่ างๆที" ลอยอยู่ใกล้ๆกับ เคอร์ เซอร์ เม้าส์
ส่ วนนี8จะช่วยให้ผใู ้ ช้งานสะดวกในการป้อนคําสัง" และแสดงข้อมูล เพียง
แค่คลิกปุ่ ม DYN ที" Status Bar เพื"อเปิ ดหรื อปิ ดคําสัง" ในส่ วนนี8
ผูใ้ ช้งานสามารถคลิกเม้าส์ขวาที" Status Bar แล้วเลือกคําสัง" Use Icon เพื"อเปิ ดหรื อปิ ด Icon ที" Status Bar
Quick Properties
เครื" องมือ Quick properties ช่วยในการแสดงผลในหน้าต่างคุณสมบัติ เมื"อเลือกที" วตั ถุ จะมีแถบ เครื" องมือ
Quick properties ขึ8นมาแสดงทันที ทําให้ช่วยประหยัดเวลา และลดพื8นที"การแสดงผลของแถบ properties
สามารถ ตั8งค่าที" CUI ได้
Customize the Drawing Environment
ใน GstarCAD ผูใ้ ช้งานสามารถปรับเปลี"ยน สิ" งต่างๆให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผูใ้ ช้งาน
Set Interface Options
ในการตั8งค่า Option ผูใ้ ช้งานสามารถตั8งค่าส่ วนต่างๆเกี"ยวกับ Interface ซึ" งมีผลกับ หน้าต่างการวาดแบบและสภาพแวดล้อม
ของหน้าต่างวาดแบบ
19
Settings of Modifying Interface
Automatic Save (Open and Save tab) : ผูใ้ ช้งานสามารถตั8งค่า เกี"ยวกับ Open และ Save ได้โดยเลือกเปิ ดการ Save แบบ
Automatic และกําหนดระยะเวลาในการ Save เป็ นนาที
Tool Palettes
Tool Palettes เป็ นส่ วนที" ช่วยให้การทํางานง่ายมากยิ"งขึ8น เมื"อผูใ้ ช้งานมีวตั ถุที"สร้างเป็ น Block หรื อ External References
(xrefs) ผูใ้ ช้งานสามารถ คลิกซ้ายค้างแล้วลากไปวางใน Tool Palettes ได้ดว้ ย ผูใ้ ช้งานสามารถแก้ไขรายละเอียดต่างๆของ
Tool Palettes ได้ดว้ ยไม่วา่ จะเป็ น การสร้างPaletteใหม่ การลบทิ8ง การเปลี"ยนชื" อ การปรับแต่ง สามารถกดปุ่ ม CTRL+3 เพื"อ
เปิ ดหรื อปิ ด หรื อพิมพ์ TOOLPALETTES ใน Command bar
Design Center
ด้วยคําสั"ง Design Center จะช่วยให้ผูใ้ ช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลของ File นั8นๆด้วยโดยแบ่งเป็ นสัดส่ วนมีท8 งั Block, Text
style และ ส่ วนอื"นๆใน File นั8นๆ เช่น
- ค้นหา File ที"อยู่ในเครื" อง หรื อ ในระบบ Network ได้
- สร้างทางลัดไปยัง File หรื อ Folder ที"เข้าถึงบ่อยๆ
- เพิ"มวัตถุเกี"ยวกับ Xref, Block ได้
- คลิกซ้ายค้างและลาก Block ไปวางไว้ใน Tool Palettes ได้
Folders Tab: เป็ นส่ วนที" ช่วยให้ผูใ้ ช้งานเข้าถึง File ที"อยู่ในเครื" องคอมพิวเตอร์ และในระบบ Network ได้โดยง่ายและยัง
รองรับ File ที"มีการใช้งาน Xref ด้วย และในส่ วนนี8 จะเป็ นส่ วนที"คดั กรอง File แบ่งแยกออกเป็ นส่ วนๆไม่ว่าจะเป็ น Block,
Layer, Linetype, Text Style และ Dimension Style
22
Open Drawings: เป็ นส่ วนที"แสดงว่า ปัจจุบนั เปิ ดไฟล์อะไรอยู่รวมถึงสามารถเข้าถึงส่ วนต่างๆได้ดว้ ย
History: ในส่ วนนี8จะมีการแสดงรายการที" เคยเปิ ด File มาใช้งาน เพียงแค่ Double-Click รายการนั8นๆ ก็จะเป็ นการเข้าถึง
ไฟล์น8 นั ๆอีกครั8ง
Favorites: ถ้าผูใ้ ช้งานต้องการเข้าถึง File อย่างรวดเร็ ว สามารถเลือก File นั8นๆและเลือก Add to Favorites ได้
คําสัง" Workspace
Workspace คือการเปลี"ยนพื8นที"ทาํ งานและตําแหน่งของเครื" องมือ ที"หน้าต่าง interface ตามความต้องการของผูใ้ ช้งาน
นอกจากนั8นผูใ้ ช้งานสามารถดึงเครื" องมือ Toolbar ต่างๆ และบันทึกเป็ น interface ของผูใ้ ช้งานเก็บไว้ใช้งานได้
~.~ พิมพ์คาํ สัง" Workspace ที" Command
~.• จากนั8นเลือกรู ปแบบ setCurrent , SAveas , Edit , Rename , Delete
setCurrent - ใช้เปลี"ยนหน้า interface
SAveas - save interface ที"เราดึง toolbar ออกมา และตั8งเป็ น interface ของตัวเอง
Edit - แก้ไข interface
Rename - เปลี"ยนชื"อ interface
Delete - ลบ interface
23
คําสัง" MOVEBAK.
Movebak เป็ นคําสัง" ที"ช่วยจัดเก็บไฟล์ bak. ( ไฟล์ backup ) ให้จดั อยูใ่ นโฟลเดอร์ที"เราต้องการ
€.~ ให้เราพิมพ์คาํ สั"ง MOVEBAK.
Create a Drawing
Create a New Drawing Using Default Settings
เมือเริ มต้นโปรแกรมจะมีการตังค่าเริ มต้นไว้ให้โดยจะมี หน้าต่างโต้ตอบสําหรับผูใ้ ช้งานในการตังค่าเริ มต้นการ
Open a Drawing
Open a Drawing
ผูใ้ ช้งานสามารถเปิ ด File มาตรฐานทีใช้งานได้ไม่ว่าจะเป็ น File Drawing (.dwg), Drawing Exchange Format (.dxf) และ
Drawing Template (.dwt) นอกจากนีผูใ้ ช้งานยังสามารถตรวจสอบไฟล์ทีสงสัยว่าจะเสี ยหายได้ดว้ ย
หมายเหตุ:
ถ้าผูใ้ ช้งานต้องการใช้รหัสผ่าน เพือเปิ ด File ให้ทาํ การใส่ รหัส
แล้วกดปุ่ ม OK ยืนยันรหัสผ่านแล้วเปิ ด File อีกครัง
Multiple Open Drawings
ผูใ้ ช้งานสามารถเปิ ด File ได้ทีละหลายๆ File พร้อมกันและยังสลับไปมาระหว่าง File ได้ดว้ ย
27
- เมือต้องการสลับ File สามารถคลิกทีแถบของ File นันๆ หรื อใช้ Shortcut keys (Ctrl + Tab) ก็ได้
- ผูใ้ ช้งานสามารถเปลียนรู ปแบบหน้าต่าง Display ได้ทงแบบ ั แนวตัง และ แนวนอน โดยตังค่าได้ในส่ วนของเมนู Window
และยังจัดการหน้าต่างเขียนแบบทีหละหลายๆหน้าได้โดยการใช้คาํ สัง Arrange Icons
หมายเหตุ:
การใช้คาํ สัง สลับเปลียนมุมมอง จะทําได้กต็ ่อเมือผูใ้ ช้งานเปิ ดมุมมองตังแต่ 3 มุมมองขึนไป
Save a Drawing
Save a Drawing
ผูใ้ ช้งานสามารถ Save File เผือใช้งานในครังต่อไปได้ ผูใ้ ช้งานยังสามารถตังค่าการ Save แบบอัตโนมัติและตังค่าการ
Save แบบมี Backup File ได้ดว้ ย นอกจากนี ผูใ้ ช้งาน Save เป็ น File Drawing Exchange Format (.dxf) หรื อ File Drawing
Template (.dwt) สําหรับผูใ้ ช้งานทีต้องการสร้างรู ปแบบมาตรฐานไว้ใช้งาน
28
คําสัง Save a Drawing:
File > Save
Command line > SAVE Using Shortcut > CTRL+S
หมายเหตุ:
เมือผูใ้ ช้งานทําการ Save ไฟล์ครังแรกโปรแกรมจะทําการแสดหน้าต่างโต้ตอบเพือให้ผูใ้ ช้งานกําหนดรายละเอียดต่างๆ เช่น
ชือ, Versions
1. เปิ ด File ทีต้องการตรวจสอบ, คลิกเมนู File > Drawing Utilities > Audit
2. ป้อนค่า Y หรื อ N เพือกําหนดว่าต้องการตรวจสอบแบบอัตโนมัติหรื อไม่แล้วกดปุ่ ม Enter
DWG Convert
ช่วยแปลงไฟล์ DWG ได้ทีละหลายไฟล์ๆ ในครังเดียว โดยแปลงจาก version ปั จจุบนั ให้เป็ น version ที ต้องการได้ ซึ ง
โปรแกรม สามารถแปลงไฟล์ได้หลายเวอร์ชนั เช่น 2000,2004,2007,2010,2013
4.1 ให้พิมพ์คาํ สัง Command > dwgconvert
4.2 เลือก Add ไฟล์ทีต้องการ Convert เข้ามา จากนันเลือกเวอร์ชนที
ั ต้องการแปลง
4.3 กดปุ่ ม Convert
32
Chapter 4
Control the Drawing Views
Redraw and Regenerate a Drawing
เมือผูใ้ ช้งานวาดแบบไปเรื อยๆ การแสดงผลอาจจะยังมีส่วนทีแสดงผลไม่สมบูรณ์อยู่ ผูใ้ ช้งานสามารถใช้คาํ สังช่วยให้
การแสดงผลสมบูรณ์ได้ เช่น Redraw หรื อ Regen
คําสัง Redraw:
View > Redraw
Command line > REDRAW
คําสัง Regen:
View > Regen
Command line > REGEN
Zooming Methods
สําหรับคําสัง Zoom ผูใ้ ช้งานสามารถใช้งานได้ดงั ต่อไปนีA
- เมือต้องการ Zoom เฉพาะส่ วนสามาถใช้คาํ สัง Zoom และวาดเป็ นรู ป สี เหลียม
- เมือต้องการ Zoom แบบ Real Time ก็ใช้คาํ สัง Zoom Real Time ทีอยู่ใน Standard Toolbar
- ผูใ้ ช้งานสามารถใช้ลูกกลิAงเม้าส์เพือ Zoom In และ Zoom Out ได้
View Manager
ผูใ้ ช้งานสามารถสร้างมุมมองของตัวเองได้โดย ใช้คาํ สัง View โปรแกรมจะทําการเปิ ดหน้าต่าง View Manager สามารถ
แก้ไขรายละเอียดต่างๆได้ เช่น สร้างมุมมอง, ตัAงค่าปัจจุบนั , ปรับปรุ ง, เปลียนชือ หรื อ ลบมุมมอง
Specify a 3D View
ผูใ้ ช้งานสามารถตัAงค่า มุมมองแบบ 3D เพือความสะดวกในการ
ทํางานกับวัตถุทีเป็ น 3D ผูใ้ ช้งานสามารถกําหนดมุมมองใหม่เพื อ สร้ าง
วัตถุ หรื อ แก้ไขวัตถุ ทีเป็ น 3D
40
Set the Viewing Direction
เมือมีการตัAงค่ามุมมอง ผูใ้ ช้งานสามารถเปลียนทิ ศทางมุมมองได้ เพือจะช่วยให้เห็นมุมมองทัAง 3แกน และสามารถ
ปรับเปลียนมุมมองใหม่ได้โดยการกําหนดค่าให้แสดงผลเป็ น 3D ไม่วา่ จะเป็ นการใช้มุมมองมาตรฐาน หรื อการตัAงค่ามุมมอง
ใหม่ (โปรแกรมจะแสดงหน้าต่างโต้ตอบ)
คําสังการตัAงค่า New Viewing Direction:
View > 3D Views > Viewpoint Presets
Command line > DDVPOINT
- เลือกเมนู View > 3D Views > Viewpoint Presets
- ตัAงค่า มุมของมุมมอง โดยเลือกหัวข้อหลักคือ “Absolute to WCS” และ “Relative to UCS”หลังจากกําหนดค่าเสร็ จให้คลิก
ปุ่ ม OK
Isometric View
ผูใ้ ช้งานสามารถเปลียนมุมมองเป็ นค่า
มาตรฐานสําหรับใช้งานหลากหลายรู ปแบบ
ดังนีA Top, Bottom, Front, Left, Right และ
Back และผูใ้ ช้งานสามารถเปลียนมุมมองเป็ น
แบบ Isometric ไม่ว่าจะเป็ น SW (southwest)
42
Isometric, SE (southeast) Isometric, NE (northeast) Isometric และ NW (northwest)
ตัวอย่าง
เมือมีการเปิ ด คําสัง Ortho ผูใ้ ช้งานจะถูกจํากัดการทํางานอยู่เฉพาะบนแกนทีล๊อคไว้สาํ หรับ Isometric แต่ผูใ้ ช้งานสามารถ
ทํางานสลับไปมาระหว่าง แนวระนาบได้
Render
การ Render เป็ นการสร้างภาพ 2D บนพืAนฐานของวัตถุทีเป็ น 3D การ Render ทีเสมือนจริ งจะได้มาจากการตัAงค่าแสง
สว่างของผูใ้ ช้งานและการตัAงค่าสภาวะแวดล้อมเช่น พืAนหลัง เบืAองต้นผูใ้ ช้งานสามารถ Render โดยที ไม่ตอ้ งตัAงค่า Material
เมือ Render เสร็ จแล้วผูใ้ ช้งานจะไม่สามารถปรับรายละเอียดต่างๆได้อีกไม่วา่ จะเป็ การ Move หรื อ แก้ไขแสงสว่าง
Render Environment
ผูใ้ ช้งานสามารถใช้การตัAงค่าสภาวะแวดล้อมเข้ามาช่วยได้ และผูใ้ ช้งานสามารถดึงรายละเอียดต่างๆเข้ามาช่วยเผือเพิม
ความเสมื อ นจริ งได้ เช่ น หมอก หมอกก็ส ามารถกํา หนดได้อีกว่า ต้อ งการให้หนามากน้อ ยแค่ ไ หน และสี ข องหมอกก็
สามารถเปลียนได้เช่นกัน
46
Light
เป็ นการให้แสงสว่าง โดยการเลือกชนิ ดของ จุดกําเนิ ดแสงไม่ว่าจะเป็ น Point Light, Spotlight และ Distant Light
หลังจากนัAนก็กาํ หนดตําแหน่งของจุดกําเนิ ดแสงต่อไป
Point Light: เป็ นจุดกําเนิดแสงสว่างทีกระจ่ายไปทุกทิศทาง และไม่ได้กาํ หนดเป้าหมาย
Spotlight: เป็ นจุดกําเนิดแสงทีวิงตรงไปทีวัตถุ
Distant Light: เป็ นการจําลองแสงสว่างทีเปรี ยบเสมือนแสงแดดและสามารถนําไปใช้เพือแสดงเงาตกกระทบได้ดว้ ย
Light List: เป็ นส่ วนทีแสดงรายการเกียวกับ ชือและชนิดแสงทีใช้ใน File แสงสว่างแบบ Distant Light และ Sun จะไม่แสดง
ในรายการ
Materials
ผูใ้ ช้งานสามารถเพิ ม Materials เข้าไปในวัตถุ และ
Drawing ได้เ พื อช่ ว ยให้มี ค วามเสมื อ นจริ งมากยิ งขึA น
Materials บางประเภท จะมี Effect เพือช่วยเพิมความเสมือน
47
จริ ง เช่น Textures, Bump Effects, Reflections หรื อ Refractions
MxLVPORT
คําสังช่วยสร้าง View-Port ด้วยการเลือกครอบพืAนที ที ต้องการ บน Drawing จากนัAน ส่ งไปที Layout จะได้ View-Port
พร้อม Scale ตามทีกําหนด แบบอัตโนมัติทนั ที
- ใช้คาํ สัง MxLVIEWPORT
- จากนัAนเลือก Scale ทีแสดงในตหน้าต่าง ทีต้องการ
- เลือกรู ปแบบการแสดงผล Display, Extent, Windows
- กําหนด หน้า Layout ทีต้อวการนําไปวาง
- ทําการวางวัตถุลงบน Layout
48
คําสั,ง Hidden Message Settings
การใช้คาํ สัง"Hidden Message Settings" เป็ นการควบคุมการแสดงข้อความทีซ่ อนก่อนหน้านีA
หลังจากทีมีขอ้ ความถูกซ่ อนไว้กส็ ามารถดูและเปิ ดใช้งานได้อีกครัAงอีกครัAง
z.| ให้คลิกที Option > User Preferences > Hidden Messages Setting > แล้วคลิกถูกตรง GstarCAD
Drawing Limits
52
ผูใ้ ช้งานสามารถกําหนด ขอบเขตสําหรับวาดแบบได้ แต่จะไม่แสดงทีหน้าจอเขียนแบบ ผูใ้ ช้งานสามารถใช้คาํ สังนี#
เพือช่วยกําหนดขอบเขต ไม่ให้มีการวาดแบบทีมีขนาดใหญ่จนเกินขอบเขตทีกําหนด
คําสัง Drawing Limits:
Format > Drawing Limits
Command line > LIMITS
- เลือกเมนู Format > Drawing Limits
- กําหนดขอบเขต โดยการกําหนดจุดเริ มต้นทีมุม ซ้ายล่าง โดยการป้อนค่าทั#งแกน X และแกน Y กําหนดขอบเขตอีกด้าน
โดยการลากไปทางด้านขวาบน
AutoSnap Tools
AutoSnap Tool เป็ นเครื องมือช่ วยเกี ยวกับการตั#งค่า Snap แบบ อัตโนมัติ จะช่ วยให้การใช้งานคําสัง Snap มี
ประสิ ทธิ ภาพมากยิงขึ#น ผูใ้ ช้งานสามารถเปิ ดการทํางานได้ท# งั ในส่ วนของ Marker, Magnet, Display AutoSnap tooltip และ
Display AutoSnap
- Marker: เป็ นการตั#งค่าการแสดงผลของสัญลักษณ์ Object Snaps เมือผูใ้ ช้งานขยับเม้าส์ผ่านตําแหน่งต่างๆของวัตถุ จะมี
สัญลักษณ์ Object Snaps แสดงขึ#นมา
- Tooltip: เมือผูใ้ ช้งานขยับเม้าส์ไปค้างไว้นะตําแหน่ ง Object Snaps จะมีหน้าต่างแสดงรายละเอียดขึ# นมาแจ้งว่า อยู่ใน
ตําแหน่ง Object Snaps ใด
- Magnet: เป็ นส่ วนช่วยให้เมือขยับเม้าส์เข้าใกล้ตาํ แหน่ง Object Snaps แล้วจะมีการดึงดูดเข้าไปใกล้ตาํ แหน่ง Snap
54
- Aperture box: ส่ วนนี#จะช่วยปรับเปลียนขนาดของ Object Snaps ให้มีขนาดใหญ่หรื อเล็กตามแต่ผใู ้ ช้งานกําหนด
หมายเหตุ:
การเปิ ดและปิ ดการใช้งานของ Polar Tracking ทําได้ตลอดเวลาโดยกดปุ่ ม F10
การใช้ Polar Tracking ในการวาดแบบ:
- เมือเปิ ด Polar Tracking และเริ มใช้คาํ สังในการวาดแบบไม่ว่าจะเป็ นคําสังใดทีมี
การกําหนดระยะ
- หลังจากนั#นผูใ้ ช้งานขยับเม้าส์ไปบริ เวณตําแหน่งใกล้เคียงกับองศาทีเลือกไว้จะมี
การแสดงเส้น Guide Line บริ เวณตําแหน่งเดียวกับองศาทีเลือกไว้
Removing Layers
ผูใ้ ช้งานสามารถ Remove Layer ทีไม่ได้ใช้งานแล้วได้ โดยเข้าไป Delete ในหน้าต่าง Layer Properties Manager
Displaying Lineweights
การแสดง Lineweights บนหน้าจอสามารถทําได้ เมือผูใ้ ช้งานต้องการแสดงผลให้เห็นบนหน้าจอ ในส่ วนนี# จะมี
ประโยชน์ สําหรับ รายละเอียดทีต้องการเน้นความหนักเบาของ Lineweights เพือแสดงความแตกต่าง
Multilines:
เป็ นคําสังทีใช้สําหรับสร้างเส้นแต่จะมีเส้นมากกว่าสองเส้นขนานกันไป ผูใ้ ช้งานสามารถสร้างกําหนดตําแหน่ งของ
การวาดเส้น Multiline ได้ โดยปรกติ แล้วจะถูก ตั8งค่าไว้ให้แสดงเส้นเป็ นสองเส้นขนานกัน แต่ ผูใ้ ช้งานสามารถสร้ าง
Multiline Style ด้วยตัวเองได้
คําสัง Multi-line:
Draw > Multiline
Command line > MLINE
1. เลือกเมนู Draw > Multiline
2. กําหนดจุด เริ มต้น
3. กําหนดจุด สิ8 นสุ ด
65
4. กดปุ่ ม Enter เพือจบคําสัง
Ray:
เป็ นคําสังในการวาดเส้นแบบ ไม่มีทีสิ8 นสุ ด โดยกําหนดจุดเริ มต้นหลังจากนั8นกําหนดทิ ศทางของเส้นและกําหนด
จุดสิ8 นสุ ดเส้น คําสังนี8จะเป็ นการทํางานแบบต่อเนื อง
คําสัง Ray:
Draw > Ray
Command line > RAY
1. เลือกเมนู Draw > Ray
2. กําหนดจุดเริ มต้น, กําหนดทิศทางและกําหนดจุดสิ8นสุ ด
3. กดปุ่ ม Enter เพือจบคําสัง
66
Construction Lines:
เป็ นการวาดเส้นแบบ กําหนดตําแหน่งสองตําแหน่งเพือลากเส้นผ่านตําแหน่งทั8งสองอีกทั8งเส้นที วาดออกมาก็ยงั เป็ น
แบบ ไม่มีทีสิ8นสุ ด อีกด้วย เพียงแค่กาํ หนดตําแหน่งทีหนึงและสอง ก็จะได้เส้น Construction Line แล้ว
คําสัง Construction Line:
Draw > Construction Line
Command line > XLINE
1. เลือกเมนู Draw > Construction Line
2. กําหนดตําแหน่งทีหนึ ง
3. กําหนดตําแหน่งทีสอง
4. กดปุ่ ม Enter เพือจบคําสัง
Polylines:
วัตถุทีถูกสร้างจากคําสังนี8 จะถือว่าเป็ นหนึ งชิ8 นโดยแต่ละส่ วนจะเชื อมโยงกันไม่ว่าจะเป็ น เส้นตรงต่อเนื องเป็ นเส้น
โค้ง และเมือผูใ้ ช้งานวาดวัตถุมากกว่าหนึ งชิ8นสามารถใช้คาํ สังเพือ Close, Undo หรื อ Finish ได้
คําสัง Polyline แบบเส้นตรง:
Draw > Polyline
Command line > PLINE
1. เลือกเมนู Draw > Polyline
2. กําหนดจุดเริ มต้น
3. กําหนดจุดสิ8 นสุด
4. กดปุ่ ม Enter เพือจบคําสัง หรื อ พิมพ์ C แล้วกดปุ่ ม Enter เพือปิ ดขอบเขตวัตถุ
67
คําสัง Boundary:
Draw > Boundary
Command line > Boundary
1. เลือกเมนู Draw > Boundary
2. เลือกคําสังในส่วนของ Boundary set
- Current viewport
เป็ นการกําหนดขอบเขตบนมุมมองปัจจุบนั ถ้าเลือกตัวเลือกนี8แล้วคลิกเลือกขอบเขตจะเป็ นการสร้างขอบเขตใหม่ข8 ึนมา
- Existing set
จะเลือกคําสังนี8 ได้ตอ้ งคลิก Next จะกลับมาทีหน้าจอวาดแบบเพือให้ผใู ้ ช้งานเลือกวัตถุสาํ หรับกําหนดขอบเขต เมือเลือกวัตถุ
เสร็ จแล้วให้กดปุ่ ม Enter จะกลับมาทีหน้าต่างโต้ตอบแล้วคลิก OK จะกลับมาทีหน้าจอวาดแบบให้ทาํ การเลือกขอบเขตเพือ
สร้างขอบเขตใหม่
68
3. เลือกตัวเลือก Island detection
4. คลิกคําสัง Pick Points
5. ในหน้าต่างวาดแบบให้คลิกพื8นทีทีต้องการสร้างขอบเขตใหม่ สามารถคลิกได้หลายขอบเขต
6. เมือเลือกเสร็ จให้กดปุ่ ม Enter
7. ใน Dialog Box ให้ Click OK
Polygons:
คําสังนี8 ใช้สําหรับสร้างวัตถุทีเป็ นรู ปหลายเหลียมและแต่ละด้านจะต้องเท่ากันสามารถกําหนดด้านได้ต8 งั แต่ 3 จนถึง
1,024
คําสัง Polygon:
Draw > Polygon
Command line > POLYGON
1. เลือกเมนู Draw > Polygon
2. พิมพ์ 6 เพือสร้างวัตถุ 6มุม
3. กําหนดจุด กึงกลาง ของวัตถุ
4. กําหนดจุด มุม ของวัตถุ
Rectangles:
คําสังสร้างรู ปสี เหลียม เป็ นการสร้างเส้นตรงปิ ดมุมทั8งสี ด้านเริ มต้นด้วยการกําหนดมุมด้านใดด้านหนึ งและกําหนด
มุมตรงกันข้ามโดยสามารถเลือกตัวเลือกได้เช่น Rotation และ Area
คําสัง Rectangle:
Draw > Rectangle
Command line > RECTANG
69
1. เลือกเมนู Draw > Rectangle
2. ระบุมมุ หนึ งของรู ปสี เหลียม
3. ระบุมมุ อีกมุมหนึ งของรู ปสี เหลียม หรื อเลือกตัวเลือกใน Command Line
Points:
ผูใ้ ช้งานสามารถวาด จุด สามารถวาดทีละจุด หรื อจะว่าแบบ ต่อเนืองก็ได้
คําสัง Single Point:
Draw > Point
Command line >POINT
1. เลือกเมนู Draw > Point > Single Point
2. กําหนดตําแหน่งทีต้องการวาด จุด
คําสัง Multiple Point:
1. เลือกเมนู Draw > Point > Multiple Point
2. กําหนดตําแหน่งทีต้องการวาด จุด แบบต่อเนือง
คําสัง เปลียนรู ปแบบ Point:
Format > Point Style
Command line > DDPTYPE
1. เลือกเมนู Format > Point Style
2. ในหน้าต่างโต้ตอบให้เลือกรู ปแบบทีต้องการ
3. กําหนด Pint Size หรื อเลือกตัวเลือกอืนแล้วคลิกปุ่ ม OK
เมือผูใ้ ช้งานมีการปรับเปลียนแล้ว จุด ในหน้าต่างเขียนแบบจะเปลียนตามทีตั8งค่าไว้
Freehand Sketches:
ผูใ้ ช้งานสามารถวาดแบบด้วยการคลิกเม้าส์แล้วลาก เหมือนการวาดแบบด้วยมือ ทุ กๆส่ วนของเส้นจะเป็ นเส้นตรง
ก่อนจะเริ มวาดจะต้องกําหนดความยาวของเส้นก่อนแต่ส่วนทีมีขนาดเล็กเกินไปจะมีการเพิมขนาดให้
คําสัง Freehand Sketch:
1. บน Command line พิมพ์ SKETCH กดปุ่ ม Enter
2. ระหว่างคําสัง “Record increment” ให้กาํ หนดค่าตําสุ ดของความยาว
3. ขยับเม้าส์บนหน้าต่างเขียนแบบแล้วคลิกหรื อพิมพ์ P เพือเริ มวาดแบบ
4. คลิกหรื อพิมพ์ P อีกครั8ง เพือหยุดวาดแบบ
70
5. พิมพ์ R เพือหยุดการเขียนแบบ ชัวคราว
6. กด Enter เพือจบคําสัง
Circles:
การวาดวงกลมเริ มต้นโดยการกําหนดจุดดกึงกลางและกําหนดรัศมี ผูใ้ ช้งานสามารถเลือก
รู ปแบบในการวาดได้
-Center, Radius -Center, Diameter
-m points -n points
-Tangent, Tangent, Radius
-Tangent, Tangent, Tangent
คําสัง Circle แบบ Center และ Radius:
Draw > Circle > Center, Radius
Command line >CIRCLE
1. เลือกเมนู Draw > Circle > Center, Radius
2. กําหนดจุดกึงกลาง
3. กําหนดรัศมี
Ellipses:
วิธีการวาดวงรี คือการกําหนดเส้นผ่านศูนย์กลาง และกําหนดรัศมีอีกครั8งหรื อจะใช้ตวั เลือกอืนก็ได้เช่นกัน -
Center
-Axis, End -Ellipse, Arc
72
คําสัง Ellipse แบบ Axis และ Endpoints:
Draw > Ellipse > Axis
Command line > ELLIPSE
1. เลือกเมนู Draw > Ellipse > Axis, End
2. กําหนดจุดเริ มต้นของเส้นผ่านศูนย์กลาง และ จุดสิ8 นสุ ด
3. กําหนดรัศมีของวงรี บนแกนตรงกันข้ามทีกําหนดเส้นผ่านศูนย์กลาง
คําสัง Ellipse arc:
Draw > Ellipse > Arc
Command line > ELLIPSE
1. เลือกเมนู Draw > Ellipse > Arc
2. กําหนดจุดเริ มต้นของเส้นผ่านศูนย์กลาง และ จุดสิ8 นสุ ด
3. กําหนดรัศมีของวงรี บนแกนตรงกันข้ามทีกําหนดเส้นผ่านศูนย์กลาง
4. กําหนดจุดเริ มต้นของเส้นโค้งวงรี และกําหนดจุดสิ8 นสุ ดของเส้นโค้งวงรี
Splines:
เป็ นคําสังที ใช้สําหรั บสร้ างเส้ นโค้งต่ อเนื องและสามารถใช้คาํ สังปิ ด เพื อสร้ างเป็ นขอบเขต การใช้คาํ สัง Splines
สามารถเลือกใช้งานคําสังได้ สองรู ปแบบ
- สร้างเส้นโค้งทีดัดแปลงมาจากเส้น Spline แล้วใช้ตวั เลือกของคําสัง PEDIT
- สร้าง spline โดยการใช้คาํ สัง SPLINE
คําสัง Spline:
Draw > Spline
Command line > SPLINE
1. เลือกคําสัง Draw > Spline
2. กําหนดจุดเริ มต้นของ Spline
3. กําหนดจุดทีสองของ Spline
4. กําหนดตําแหน่งอืนต่อเนื องไปเรื อยๆ
5. เมือต้องการจบคําสังกด Enter
คําสัง Spline แบบ ปิ ดขอบเขต:
73
Draw > Spline
Command line > SPLINE
1.เลือกคําสัง Draw > Spline
2. กําหนดจุดเริ มต้นของ Spline
3. กําหนดจุดทีสองของ Spline
4. กําหนดตําแหน่งอืนต่อเนื องไปเรื อยๆ
5. เมือต้องการปิ ดขอบเขตให้พิมพ์ C แล้วคลิก Enter
6. กําหนดจุดสัมผัสระหว่างจุดเริ มต้นกับจุดสุ ดท้าย
Helix:
ใช้สาํ หรับสร้างเกลียว 2D หรื อ 3D สปริ ง ในค่าเริ มต้นจะถูกตั8งค่าเป็ น 1 ในการวาดแบบจะมีการกําหนดจุดกึงกลาง,
รัศมี และ ความสูง ส่ วนค่ารัศมี จะไม่สามารถกําหนดเป็ นค่า 0 ได้
คําสัง Helix:
Draw > Helix
Command line > HELIX
ค่าเริ มต้นจะถูกตั8งค่าไว้ดงั นี8 จํานวนรอบ
=3
รู ปแบบการหมุ น = ทวนเข็ ม นาฬิ ก า
(CCW)
1. กําหนดจุดกึงกลาง
2. กําหนดรัศมีดา้ นในของ เกลียว
74
3. กําหนดรัศมีดา้ นนอกของ เกลียว
4. กําหนดความสู งของ เกลียว ได้ถา้ ผูใ้ ช้งานต้องการให้สูงขึ8นไปในแกน Z
Donut:
การสร้างโดนัทตัววัตถุจะเป็ นแบบ Solid แบบปิ ด และตัววัตถุจะเป็ น Polyline ผูใ้ ช้งานสามารถควบคุมการทํางานได้
ด้วยคําสัง FILLMODE และถ้าตั8งค่าใน FILLMODE ให้เป็ น 1 จะสร้างพื8นผิวจนเต็ม แต่ถา้ ตั8งค่าเป็ น 0 จะสร้างพื8นผิวแต่ไม่
เต็ม
การสร้ าง โดนัท เพียงแค่ผูใ้ ช้งานระบุ เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน และ ภายนอก และผูใ้ ช้งานสามารถวางวัตถุแบบ
ต่อเนื อง ได้ดว้ ย
คําสัง Donut:
Draw > Donut
Command line > DONUT
1. เลือกเมนู Draw > Donut
2. กําหนดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน
3. กําหนดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก
4. กําหนดตําแหน่งในการวางโดยวัตถุจะติดอยูท่ ีเม้าส์
5. สามารถวางแบบ ต่อเนืองหรื อกด Enter เพือจบคําสัง
Create 3D Objects
ด้วยการวาดแบบ 3D ผูใ้ ช้งานสามารถวาดแบบพร้ อมกับเปลียนมุมมองเพือดูท8 ัง 3แกน และตรวจสอบว่าชิ8 นงาน
ถูกต้องหรื อไม่ รวมถึงการแสดงผลสําหรับวัตถุ 3D ก็มีเช่นกัน
3D Thickness and Elevation:
การเริ มสร้างวัตถุจะเริ มจากการสร้างวัตถุ 2D แล้วกําหนดความหนาของวัตถุ วิธีน8 ี เป็ นวิธีทีง่ายทีสุ ดในการสร้างวัตถุ
3D คําสั งนี8 เรี ย กว่า Extrude เป็ นคํา สังที สามารถใช้ไ ด้กับ วัตถุ หลาย
รู ปแบบ ไม่ว่าจะเป็ น Circle, Rectangle, Polyline ตัวอย่างเช่ น อยากจะ
เปลียนวงกลมเป็ น ทรงกระบอกก็ใช้คาํ สังนี8มาช่วย
คําสัง Elevation:
Command line > CHANGE
1. พิมพ์ CHANGE ที Command line แล้วกด Enter
2. พิมพ์ P (Properties) แล้วกด Enter
75
3. พิมพ์ E (Elev) แล้วกด Enter
4. กดหนดตําแหน่งใหม่ แล้วกด Enter
คําสัง การตั8งค่าความหนา:
Command line > CHANGE
1. พิมพ์ CHANGE ที Command line แล้วกด Enter
2. พิมพ์ P (Properties) แล้วกด Enter
3. พิมพ์ T (Thickness) แล้วกด Enter
4. กดหนดความสู งของ Thickness แล้วกด Enter
3D Faces:
ผูใ้ ช้งานสามารถสร้างพื8นผิวแบบ 3D ได้ซึงประกอบด้วยส่ วนของมุมของพื8นผิว เพียงแค่กาํ หนดมุมของพื8นผิวตั8งแต่สามมุม
และสี มุม
คําสัง 3D Face:
Draw > Modeling > Meshes > 3D Face
Command line > 3DFACE
1. พิมพ์ 3DFACE บน Command line
2. กําหนด จุดแรก สําหรับสร้าง 3D Face
3. กําหนด จุดทีสอง, สาม และ สี
4. จบคําสังโดยการกด Enter
Ruled Surfaces:
เป็ นคําสังทีใช้สาํ หรับสร้างพื8นผิวขึ8นมาภายในวัตถุทีทําการเลือก และพื8นผิวทีสร้างขึ8นมาจะอยู่ระหว่าง วัตถุท8 งั สอง
ชิ8น สามารถใช้ได้กบั วัตถุทีเป็ น Arcs, Circles, Lines, Points หรื อ Polylines
คําสัง Ruled Surface:
Draw > Modeling > Meshes > Ruled Mesh
Command line > RULESURF
1. พิมพ์ RULESURF บน Command line
2. เลือกวัตถุชิ8นทีหนึง
76
3. เลือกวัตถุชิ8นทีสอง
Tabulated Surface:
คําสังนี8 ช่วยในการสร้ างพื8นผิวตามขอบเขตของวัตถุตน้ ฉบับพร้มทั8งกําหนดความสู งโดยการสร้างเส้นนําทางให้กบั
วัตถุตน้ ฉบับบและมีรูปทรงด้วย สามารถใช้ได้กบั วัตถุทีเป็ น Line, Arc, Circle, Ellipse หรื อ 2D, 3D Polyline
คําสัง Tabulated Surface:
Draw > Modeling > Meshes > Tabulated Mesh
Command line > TABSURF
1. พิมพ์ TABSURF บน Command line
2. เลือกวัตถุทีจะทําการสร้างพื8นผิว
3. เลือกเส้นนําทางสําหรับการสร้างพื8นผิว
Revolved Surface:
เป็ นคําสังที ใช้สําหรับสร้ างพื8 นผิวขึ8 นมาจาก โครงร่ าง ใช้คาํ สัง Revolved Mesh หลังจากนั8นให้ทาํ การกําหนด
ตําแหน่งและทิศทางทีต้องการ ใช้ได้กบั วัตถุทีเป็ น Line, Arc, Circle, Ellipse, Elliptical arc, Closed polyline, Polygon,
Closed spline หรื อ Torus
คําสัง Revolved Mesh:
Draw > Modeling > Meshes >Revolved Mesh
Command line > REVSURF
1. พิมพ์ REVSURF บน Command line
2. เลือกวัตถุทีจะใช้คาํ สัง Revolve
3. เลือกวัตถุทีจะใช้เป็ นแกนสําหรับ Revolve
4. กําหนดมุมทีจะใช้คาํ สัง Revolve
5. กําหนดรัศมีทีจะใช้คาํ สัง Revolve
77
Solid Box:
เป็ นการสร้างวัตถุทรงสี เหลียมถือว่าเป็ นวัตถุทีมีมวลอยู่ภายใน เริ มด้วยการสร้างสี เหลีมผืนผ้าเป็ นฐานของวัตถุทรง
สี เหลียมซึ งจะอยู่บนแกน XY เสมอโดยเทียบกับ UCS (ปัจจุบนั ) แล้วหลังจากนั8นจึงกําหนดความสู งของทรงสี เหลียมไปบน
แกน Z หรื อผูใ้ ช้งานสามารถสร้างสี เหลียมแล้วกําหนดความสู งโดยใช้คาํ สัง EXTRUDE ก็ได้เช่นกัน
คําสัง สร้าง Box:
Draw > Modeling > Box
Command line > BOX
1. เลือกเมนู Draw > Modeling > Box
2. กําหนดมุมทีหนึงสําหรับฐานของวัตถุ
3. กําหนดมุมตรงกันข้ามสําหรับฐานของวัตถุ
4. กําหนดความสู ง
Solid Cone:
เริ มโดยการกําหนดพื8นผิวด้านล่างบนแกน XY ของ UCS (ปั จจุบนั ) และกําหนดความสู งของกรวยโดยขนานกับแกน
Z ผูใ้ ช้งานสามารถวาดวงกลม แล้วใช้คาํ สัง EXTRUDE เพือกําหนดความสู งและกําหนดมุมเพือให้เป็ นรู ปทรงกรวย ก็ได้
เช่นกัน
คําสัง สร้าง Cone:
Draw > Modeling > Cone
Command line > CONE
1. เลือกเมนู Draw > Modeling > Cone
2. กําหนดจุด กึงกลางของวัตถุ
3. กําหนดรัศมี หรื อ เส้นผ่านศูนย์กลาง
4. กําหนดความสู ง
78
Solid Cylinder:
ผูใ้ ช้งานสามารถสร้างวัตถุทรงกระบอกได้โดยใช้คาํ สังนี8 เพียงวาดฐานวงกลมบนแกน XY ของ UCS (ปั จจุบนั ) และ
กําหนดความสู งบนแกน Z สามารถใช้คาํ สัง EXTRUDE เพือกําหนดความสู งได้เช่นกัน
สัง Cylinder:
Draw > Modeling > Cylinder
Command line > CYLINDER
1. เลือกเมนู Draw > Modeling > Cylinder
2. กําหนดจุดกึงกลางของ ทรงกระบอก
3. กําหนดรัศมี หรื อ เส้นผ่านศูนย์กลาง
4. กําหนดความสู ง
Sphere:
เป็ นคําสังทีใช้สาํ หรับสร้างวัตถุทรงกลม โดยการทํางานเพียงแค่ผูใ้ ช้งานกําหนดจุดกึงกลางของ Sphere จุดกึงกลางนี8
จะอยูบ่ นแกน XY ของ UCS (ปั จจุบนั ) และกําหนดรัศมีหรื อเส้นผ่านศูนย์กลาง
คําสัง Sphere:
Draw > Modeling > Sphere
Command line > SPHERE
1. เลือกเมนู Draw > Modeling > Sphere
2. กําหนดจุดกึงกลางของ ทรงกลม
3. กําหนดรัศมี หรื อ เส้นผ่านศูนย์กลาง
Torus:
79
คําสังนี8 จะช่วยให้ผูใ้ ช้งานสร้างวัตถุวงกลมเหมือน 2D แต่จะมีการกําหนดความหนาของวัตถุดว้ ย แค่เริ มด้วยการวาด
วงกลม และกําหนดความหนาของวัตถุ
คําสัง Torus:
Draw > Modeling > Torus
Command line > TORUS
1. เลือกเมนู Draw > Modeling > Torus
2. กําหนดจุดกึงกลางของ Torus
3. กําหนดรัศมี หรื อ เส้นผ่านศูนย์กลาง
4. กําหนดรัศมี หรื อ เส้นผ่านศูนย์กลางของพื8นผิววัตถุ
Pyramid:
ผูใ้ ช้งานสามารถสร้างวัต ถุรูปทรง ปิ รามิ ดสามด้าน หรื อ สี ด้านก็ได้ฐานของปิ รามิ ดจะอยู่บนแกน XY ของ UCS
(ปั จจุบนั ) วิธีการสร้างเพียงแค่กาํ หนดมุมของปิ รามิดและกําหนดจุดสู งสุ ด
คําสัง Pyramid:
Draw > Modeling > Pyramid
Command line > PYRAMID
1. เลือกเมนู Draw > Modeling > Pyramid
2. กําหนดมุมทีหนึงเพือเป็ นฐานของ ปิ รามิด
3. กําหนดมุมทีสอง, มุมทีสาม และมุมทีสี
4. กําหนดความสู งของ ปิ รามิด
Wedge:
เป็ นคําสังที ใช้สร้างวัตถุ 3D โดยจะเป็ นการสร้างวัตถุสามมุมทีมีพ8ืนผิวเป็ นมุมทะแยงโดยการทํางานเพียงแค่กาํ หนด
ขอบเขตเป็ นรู ปสี เหลียม และกําหนดความสูง ของวัตถุ
คําสัง Wedge:
Draw > Modeling > Wedge
Command line > WEDGE
1. เลือกเมนู Draw > Modeling > Wedge
2. กําหนดมุมทีหนึง
80
3. กําหนดมุมตรงกันข้าม
4. กําหนดความสู ง
Solids Extrude:
EXTRUDE เป็ นคําสังทีช่วยใจการดึงวัตถุข8 ึน โดยการช้งานเพียงแค่ผูใ้ ช้งานออกแบบ 2D และใช้คาํ สังนี8 แล้วทําการ
เลือกวัตถุทีต้องการ กําหนดความสูง
คําสัง Extrude:
Draw > Modeling > Extrude
Command line > EXTRUDE
1. เลือกเมนู Draw > Modeling > Extrude
2. เลือกวัตถุเพือใช้คาํ สัง Extrude
3. สามารถเลือกหลายๆชิ8นงานก็ได้แล้วกําหนดความสู ง
Solids Revolve:
เป็ นคําสังทีช่วยในการเปลียนแบบทีเป็ น 2D ให้เป็ น 3D โดยการหมุนวัตถุตามแกน XY ของ UCS (ปั จจุบนั ) วัตถุที
สามารถใช้งานได้เช่น Polylines, Polygons, Rectangles, Circles, Ellipses, Regions และอืนๆ
คําสัง Solid Revolve:
Draw > Modeling > Revolve
Command line > REVOLVE
1. เลือกเมนู Draw > Modeling > Revolve
2. เลือกวัตถุทีจะทําการ Revolve
3. เลือกแกนสําหรับใช้คาํ สัง
- กําหนดจุดเริ มต้นและจุดสิ8 นสุด
- พิมพ์ O กด Enter สําหรับการเลือกวัตถุ
81
- พิมพ์ X กด Enter สําหรับการเลือกแกน X
- พิมพ์ Y กด Enter สําหรับการเลือกแกน Y
4. กําหนด องศา สําหรับ Revolve
Create Regions:
82
ผูใ้ ช้งานสามารถ เปลียนแปลงวัตถุที ทีทําการออกแบบไว้แต่ไม่ได้รวมเป็ นชิ8 นเดียว(วัตถุขอบเขตปิ ดเท่านั8น) ให้ทาํ
การรวมกันเป็ นวัตถุชิ8 นเดี ย วได้โดยการเขี ยนต่ อเนื องสามารถนําวัต ถุ หลากหลายประเภทมารวมกันได้ เช่ น Polylines,
Polygons, Circles, Ellipses, Donuts, Splines แบบปิ ด
คําสัง Region:
Draw > Region
Command line > REGION
1. เลือกเมนู Draw > Region
2. เลือกวัตถุทีมีขอบเขตปิ ดทีต้องการสร้างเป็ น Region และกด Enter
Create Wipeout:
เป็ นคําสังสร้ างรู ปหลายเหลี ยม เป็ นแบบ ขอบเขตปิ ดและทึ บ เพี ยงแค่ กาํ หนด มุมแต่ ละมุ มต่ อเนื องกันไป ตามที
ต้องการ
83
คําสัง Wipeout:
Draw > Wipeout
Command line > WIPEOUT
1. เลือกเมนู Draw > Wipeout
2. กําหนดจุดเริ มต้นและจุดสิ8 นสุ ดของด้านนั8นๆ
3. หลังจากกําหนดขอบเขตตามทีต้องแล้วให้กด Enter เพือจบคําสัง
Flatshot
สําหรับคําสัง FLATSHOT ผูใ้ ช้สามารถสร้างมุมมอง mD ได้จากวัตถุ nD ในมุมมองปั จจุบนั ซึ งโปรแกรมจะสร้าง
วัตถุในมุมมองนั8นๆออกมาเป็ น Block ทําให้ผูใ้ ช้งานได้งานทีเป็ นมุมมอง 2D ทีต้องการ ไม่ว่าจะเป็ น Top, Front, Side,
ISO ได้ตามทีต้องการ
84
Section Plane
คําสังช่วยตัดชิ8 นงาน nมิติ ด้วยการผ่าชิ8 นงาน ตามระนาบที ต้องการ และ สามารถบันทึกเป็ นวัตถุ m มิติ (Block) หรื อ
วัตถุ n มิติ ได้ มีข8 นั ตอนการใช้งานดังนี8
•.• เมือมีวตั ถุทีเป็ น n มิติ ให้ใช้คาํ สัง Section plane
- Menu Ribbon เข้าไปที หมวด nD > Section
- Menu Classic เข้าไปที หมวด Draw > Modeling > Section plane
•.m จะมีคาํ สังขึ8นมาให้เลือก Orthographic
•.n เลือก มุมมองทีต้องการเช่น Top ,Front ,Right, Back, Bottom
•.‚ จากนั8นกําหนด พื8นทีในการตัด Section ด้วยลูกศร กําหนดทิศทางทีต้องการแสดงผลหรื อ ไม่แสดงผล
85
85
Chapter 7
Modify Objects
Remove Objects:
ผูใ้ ช้งานสามารถใช้คาํ สัง ERASE เพือลบวัตถุอะไรก็ได้เพียงแค่ใช้คาํ สังนี- และเลือกวัตถุทีต้องการลบ แล้วกด Enter
หากผูใ้ ช้งานอยากจะคื นค่าวัตถุทีถูกลบไปแล้วให้ใช้คาํ สัง Undo อีกหนึ งวิธีทีผูใ้ ช้งานจะลบวัตถุได้ เพี ยงแค่เลือกวัตถุที
ต้องการแล้วกดปุ่ ม Delete ทีคียบ์ อร์ด ก็ลบวัตถุได้เช่นกัน
Copy Objects:
ใช้สําหรับการคัดลอก หรื อ ทําสําเนาวัตถุในหน้าต่างเขี ยนแบบปั จจุ บนั โดยไม่ตอ้ งวาดแบบใหม่เพียงแค่ใช้คาํ สัง
เลือกวัตถุ กําหนดจุดอ้างอิง และ ระยะทางเพือทําการวางวัตถุ
คําสัง Copy:
1. เลือกเมนู Modify > Copy
2. เลือกวัตถุและกดปุ่ ม Enter
3. กําหนดจุดอ้างอิงซึ งเป็ นจุดเริ มต้น
4. กําหนดจุดสิ- นสุดเพือวางวัตถุ (สามารถทําการ Copy แบบต่อเนื องได้)
5. กด Enter เพือจบคําสัง
Mirror Objects:
คําสังนี-เปรี ยบเสมือนการส่องกระจก และวัตถุทีได้มาจะเหมือนภาพสะท้อนภายในกระจก ซึ งวัตถุทีได้มาจะกลับด้าน
ทั-งหมด เพือการสร้างวัตถุทีสมมาตรกันเพียงวาดแบบแค่ครึ งเดียวแล้วใช้คาํ สังนี-
คําสัง Mirror:
1. เลือกเมนู Modify > Mirror
2. เลือกวัตถุและกดปุ่ ม Enter
3. กําหนดจุดทีหนึงและจุดทีสองเพือสร้างเส้น Mirror
4. ใน Command line สามารถเลือก Option ว่าจะเก็บวัตถุตน้ ฉบับไว้ หรื อลบทิ-ง
86
Offset an Object:
เป็ นคําสังทีใช้บ่อยครั-งเพือทําการสร้างเส้น หรื อส่ วนโค้งใหม่ ให้ขนานกับแนวเส้นเดิมตามระยะห่ างทีกําหนดใช้ได้
กับวัตถุทีเป็ น Lines, Arcs, Circle, Ellipses, 2D Polylines, Rays และ Infinite lines
คําสัง Offset:
1. เลือกเมนู Modify > Offset
2. กําหนดระยะห่าง (โดยการคลิกหรื อพิมพ์ระยะก็ได้)
3. เลือกวัตถุ
4. เลือกด้านในด้านหนึ งสําหรับการ Offset (เป็ นการทํางานแบบต่อเนื อง)
5. กดปุ่ ม Enter เพือจบคําสัง
Move Objects:
คําสังนี- ใช้ในการย้ายตําแหน่งของวัตถุ จากตําแหน่ งหนึ งไปอี กตําแหน่ งหนึ ง โดยขั-นตอนจะเหมือนกับการ Copy
เพียงแค่ เลือกวัตถุใช้คาํ สัง Move กําหนดจุดอ้างอิง และกําหนดตําแหน่งใหม่
88
คําสัง Move:
1. เลือกเมนู Modify > Move
2. เลือกวัตถุ
3. กําหนดจุดอ้างอิงและกําหนดตําแหน่ งใหม่
Rotate Objects:
ผูใ้ ช้งานสามารถใช้คาํ สังนี- ในการหมุนวัตถุไปตามองศาทีต้องการโดยกําหนดจุดศูนย์กลางและกําหนดองศาโดยการ
พิมพ์ หรื อ ขยับเม้าส์ตามเข็มนาฬิกา ทวนเข็มนาฬิกาก็ได้เช่นกัน
คําสัง Rotate:
1. เลือกเมนู Modify > Rotate
2. เลือกวัตถุ
3. กําหนดจุดกึงกลางสําหรับการหมุนวัตถุ
4. กําหนดองศาโดยการพิมพ์ใน Command line และกดปุ่ ม Enter เพือจบคําสัง
Align Objects:
เป็ นคําสังทีช่วยในการเคลือนย้ายวัตถุ โดยการกําหนดค่าทีแน่นอน
คําสัง Align:
1. เลือกเมนู Modify > Align
2. เลือกวัตถุและกด Enter
3. เลือกตัวเลือกในการเคลือนย้ายวัตถุท- งั แกน X และแกน Y
4. กําหนดระยะห่างทีต้องกดและคลิก OK
Scale Objects:
ผูใ้ ช้งานสามารถใช้คาํ สังนี- เพือช่วยในการเปลียนสัดส่ วนของวัตถุไม่ว่าจะเป็ นการย่อหรื อขยาย โดยการเลือกวัตถุและ
กําหนดตําแหน่ง แล้วกําหนดขนาดโดยการพิมพ์ทีต้องการอีกครั-ง
คําสัง Scale:
1. เลือกเมนู Modify > Scale
2. เลือกวัตถุและกดปุ่ ม Enter
3. กําหนดจุดอ้างอิง
89
4. พิมพ์ค่าทีต้องการ เช่น 2.0 หรื อ 0.5
Lengthen Objects:
คําสังนี-มีความสามารถคือการเปลียนแปลงความยาวของวัตถุเช่น Lines หรื อ Arcs แต่คาํ สังนี- จะไม่มีผลกับวัตถุปิด
คําสัง Lengthen:
1. เลือกเมนู Modify > Lengthen
2. เลือกตัวเลือกใน Command line เช่น DY (DYnamic)
3. เลือกวัตถุทีต้องการแก้ไข
4. กําหนุดจุดสิ- นสุดเส้นใหม่
Stretch Objects:
เป็ นคําสังทีช่ วยในการยืดวัตถุให้ยาวออกหรื อหดให้ส- ันลง โดยที รายละเอี ยดอื นๆที ไม่ได้ทาํ การเลื อกไว้จะไม่เสี ย
สัดส่ วนไป
คําสัง Stretch:
1. เลือกเมนู Modify > Stretch
2. เลือกกลุ่มวัตถุทีต้องการใช้คาํ สัง Stretch
3. กําหนดจุดเริ มต้น
4. กําหนดจุดสิ- นสุด
การยืด Object โดยใช้ Grip
1. เลือก Object และ Click ที Grip ในจุดทีต้องการยืด
2. ลาก Grip ไปวางในจุดทีต้องการ
Trim Objects:
คําสังนี- ใช้สําหรับการตัดวัตถุทีเกินจากเส้นที มีการตัดผ่านกันทิ-งไปสามารถตัดทีละเส้นหรื อจะลากครอบเพือตัววัตถุ
ทีทําการเลือกเป็ นชุดก็ได้ ใช้ได้กบั วัตถุหลายประเภท เช่น Lines, Arcs, Circles
คําสัง Trim:
1. เลือกเมนู Modify > Trim
2. เลือกวัตถุทุกชิ-นทีมีการตัดผ่านกันและกดปุ่ ม Enter
3. เลือกส่ วนทีเกินจากจุดตัด ทีต้องการตัดทิ-ง (สามารถเลือกแบบต่อเนื องได้)
90
4. กดปุ่ ม Enter เพือจบคําสัง
หมายเหตุ:
สามารถเลือกตัวเลือกแบบอืนได้เพือปรับเปลียนรู ปแบบการเลือกวัตถุสาํ หรับใช้คาํ สัง Trim
Extend Objects:
เป็ นคําสังทีใช้สาํ หรับยืดเส้นเพือให้ยาวออกไปจนถึงตําแหน่งทีเรากําหนดไว้โดยมีวตั ถุอีกชิ-นเป็ นตัวกําหนดใช้ได้กบั
วัตถุหลายประเภท เช่น Lines, Arcs, Splines, Polylines
คําสัง Extend:
1. เลือกเมนู Modify > Extend
2. เลือกวัตถุทีเป็ นตัวกําหนดให้เส้นยืดมาสัมผัส
3. เลือกวัตถุทีต้องการจะยืด และกดปุ่ ม Enter เพือจบคําสัง
หมายเหตุ:
สามารถเลือกตัวเลือกแบบอืนได้เพือปรับเปลียนรู ปแบบการเลือกวัตถุสาํ หรับใช้คาํ สัง Extend
Create Breaks:
คําสังนี- ใช้สําหรับการตัดเส้นบนวัตถุโดยการกําหนดจุดสองจุด จุดที หนึ งจะเป็ นการกําหนดพร้อมกับการเลือกวัตถุ
หรื อจะกําหนดจุดทีหนึ งโดยการเลือกตัวเลือกก็ได้
คําสัง Break:
1. เลือกเมนู Modify > Break
2. เลือกวัตถุ (ขั-นตอนนี- จะถือว่าเป็ นกําหนดจุดทีหนึ งด้วย)
3. กําหนดจุดทีสอง
Create Chamfers:
91
เป็ นคําสังที ใช้ในการตัดมุมของเส้นสองเส้นที ทํามุมกัน(เป็ นเส้นตรง) หรื อ มุมของวัตถุทีเป็ นสี เหลียมโดยสามารถ
กําหนดระยะห่างจากมุมและความลาดเอียงของมุมทีตัดได้
คําสัง Chamfer แบบเลือกวัตถุสองชิ-น:
1. เลือกเมนู Modify > Chamfer
2. บน Command line ให้พิมพ์ D (Distance)
3. กําหนดระยะห่างของวัตถุชิ-นทีหนึ ง
4. กําหนดระยะห่างของวัตถุชิ-นทีสอง
5. เลือกวัตถุชิ-นทีหนึง
6. เลือกวัตถุชิ-นทีสอง
คําสัง Chamfer แบบกําหนดองศา:
1. เลือกเมนู Modify > Chamfer
2. บน Command line ให้พิมพ์ A(Angle)
3. กําหนดความยาวของเส้นทีหนึง
4. กําหนดองศาของเส้นทีหนึ ง
5. เลือกวัตถุชิ-นทีหนึง
6. เลือกวัตถุชิ-นทีสอง
หมายเหตุ:
สามารถเลือกตัวเลือกแบบอืนได้เพือปรับเปลียนรู ปแบบการใช้งานสําหรับใช้คาํ สัง Chamfer
Create Fillets:
เป็ นคําสังทีใช้ในการตัดมุมของวัตถุสองชิ-น(เป็ นเส้นโค้ง) หรื อ มุมของวัตถุทีเป็ นสี เหลียมโดยสจะกําหนดการตัดมุม
รู ปแบบนี- ดว้ ยการกําหนดรัศมี สามารถใช้งานได้กบั วัตถุหลากหลายประเภท
คําสัง Fillet แบบเลือกวัตถุสองชิ-น:
1. เลือกเมนู Modify > Fillet
2. บน Command line ให้พิมพ์ R (Radius)
3. กําหนดรัศมีของการตัดมุม
4. เลือกวัตถุชิ-นทีหนึง
5. เลือกวัตถุชิ-นทีสอง
คําสัง Fillet แบบตัดมุมทั-งชิ-น (Polyline):
92
1. เลือกเมนู Modify > Fillet
2. บน Command line ให้พิมพ์ P(Polyline)
3. เลือกวัตถุทีเป็ น Polyline
หมายเหตุ:
สามารถเลือกตัวเลือกแบบอืนได้เพือปรับเปลียนรู ปแบบการใช้งานสําหรับใช้คาํ สัง Fillet
Modify Multiline:
ผูใ้ ช้งานสามารถใช้วิธีการเช่นการแก้ไขวัตถุทีเป็ น Multiline ในหน้าต่างโต้ตอบจะมีรูปแบบให้เลือกในการแก้ไข
โดยใช้คาํ สัง MLEDIT เพือเพิมหรื อลดเส้นสําหรับ Multiline
Array Options
New Array ช่วยจัดเรี ยง และ เพิมจํานวนวัตถุให้อตั โนมัติ เพียงเปลียน Pattern, แก้ไขจํานวน หรื อ แก้ไขระยะห่าง ในทิ ศทาง
ทีต้องการ รวมถึงจัดเรี ยงวัตถุไปตาม Path ทีกําหนด ช่วยให้สะดวก และ รวดเร็ วขึ-น
- พิมพ์คาํ สัง Array ที Command หรื อ ไปทีเมนู Modify > Array
- จากนั-นเลือก รู ปแบบ Rectangle, path, Polar
- เลือกรู ปแบบจากนั-นกด Enter เพือกําหนดระยะและจํานวน ทีต้องการ
95
Clip
ช่วยในการตัดพื-นที บางส่ วนของ Block, Xref, รู ปภาพ และ ในหน้า Viewport เพือใช้กาํ หนดขอบเขตของพื-นที ทีต้องการ
แสดงผล
- ใช้คาํ สังเมนู Modify > Clip
- จากนั-น เลือกขอบเขตพื-นทีต้องการตัด (แสดงผลได้) ได้อิสระ
- จากนั-นกด Enter เพือตกลง
Add Selected
ช่วยในการสร้างวัตถุ โดยไม่ตอ้ งเรี ยกใช้คาํ สังใหม่ สามารถคลิกเลือกวัตถุทีมีอยู่แล้ว ไปเขียนต่อได้ทนั ที โดยคุณสมบัติจะ
เหมือนวัตถุทีเป็ นต้นฉบับ เช่น Layer, Style, Color หรื อ Hatch Pattern
- ใช้คาํ สัง Command > addseleced
- จากนั-นคลิกเลือกวัตถุทีต้องการคัดลอก (ในทีนี- คือ Hatch)
- คลิกวางบนพื-นที ทีจะวางลงไป แล้วกด Enter
96
Change to ByLayer
คําสังช่วยเปลียนคุณสมบัติของ Layer ให้มีลกั ษณะเหมือนต้นฉบับ ByLayer ซึ งประกอบด้วย Color, Line type, Line weight
และ Material
- ใช้คาํ สัง Bylayer
- เลือกวัตถุทีต้องการเปลียนเป็ น layer (ByLayer)
ขั=นตอนกําหนดจุดอ้างอิงข้อความ (Grip)
1.เลือกหมวด Draw > Text > Single Line Text จาก Main Menu
2. ที Command Line พิมพ์ J (Justify) จากนั=น เลือก Enter
3. กําหนดแนวจุดอ้างอิง (Grip) โดยให้สังเกตที Command Line ตัวอย่าง พิมพ์ BR
เพือเลือกจุดอ้างอิงด้านขวาล่าง (Bottom Right) จากนั=น Enter
4. จากนั=นพิมพ์ขอ้ ความจนเสร็ จ เลือก Enter
5. เลือก Enter อีกครั=งเพือจบคําสัง
99
Multiline Text:
คําสัง Multiline text เพือสร้างข้อความหลายบรรทัดโดยอยู่ภายในพื=นทีที ผูใ้ ช้กาํ หนดไว้ครั=งแรก. เมือใส่ คาํ สังให้กาํ หนด
ขอบเขตของชุดข้อความโดยเลือกเป็ นลักษณะกรอบสี เหลียมผืนผ้า. พื= นที ข้อความจะวางอัตโนมัติอยู่ภายในพื=นที จากนั=น
โปรแกรมจะให้พิมพ์ขอ้ ความที ต้องการ โดยสามารถตั=งค่าข้อความหรื อตั=งค่าตัวอักษรที Text Formatting Toolbar
ขั=นตอนสร้าง multiline text :
1.เลือกหมวด Draw > Text > Multiline Line Text จาก Main Menu
2. กําหนดพื=นทีข้อความโดยคลิกมุมเป็ นลักษณะสี เหลียมผืนผ้า
3. จากนั=นพิมพ์ขอ้ ความทีต้องการ
4. เลือก Enter หากต้องการขึ=นบรรทัดใหม่
Dimension หรื อ เส้นบอกขนาดของวัตถุ (เช่น ความยาว, ความกว้าง) บอกระยะทางหรื อมุมต่างๆ รวมถึงระยะห่ างระหว่าง
จุดเริ* มต้น และ จุดสิ- นสุ ด Dimension แบ่งออกเป็ น 5 ประเภท ดังนี-
Linear (เส้นบอกขนาดเชิงเส้น)
Angular (บอกค่ามุม)
Radial (บอกค่ารัศมี)
Diametral (เส้นผ่าศูนย์กลาง)
Ordinate (บอกตําแหน่งพิกดั )
Dimension มีองค์ประกอบดังนี-
1. Dimension text: ตัวเลขหรื อข้อความที* บอกค่าการวัดได้ อาจ
ประกอบด้วยค่าการเผื*อหรื อ ส่ วนเติมหน้า-หลังของระยะและอื*นๆ
2. Dimension line: เส้นระยะบอกถึงทิ ศทางของระยะ หากเป็ น
ระนาบเชิงเส้น เส้นระยะเป็ นเส้นตรง หากบอกค่ามุม เส้นระยะเป็ น
เส้นโค้งระหว่างมุม เป็ นต้น
3. Arrowhead: โดยปรกติหัวลูกศรจะชี- ท- งั สองด้านของระยะ ผูใ้ ช้
สามารถเข้าตั-งขนาดและรู ปร่ างได้
4. Extension lines: เส้นที* ช- ี จากจุ ดของวัตถุข- ึนไปต่อเนื* องกับเส้น
ระยะ เพื*อบอกถึงช่วงที*วดั ระยะ
การให้ระยะมุมกับวัตถุส่วนโค้ง
1.ที* Main menu เลือก Dimension > Angular
2.เลือกวัตถุส่วนโค้ง
3.จากนั-นทําการวางเส้นบอกระยะ ตามความเหมาะสม
108
Create Radial Dimensions:
ผู ้ใ ช้ส ามารถให้ เ ส้ น บอกระยะรั ศ มี กับ วงกลมหรื อส่ ว นโค้ง โดย เส้ น บอกระยะ
ประกอบด้วยเส้น, ค่ารัศมีและหัวลูกศรชี-ตาํ แหน่ง
การให้ค่ารัศมี
1. ที* Main Menu เลือก Dimension > Radius
2. เลือกวัตถุส่วนโค้งหรื อ วงกลม
3. จากนั-นทําการวางเส้นบอกระยะ ตามความเหมาะสม
Jogged Dimension:
Jogged dimension ชื* อเต็ม คือ jogged radius dimension หรื อที*เรี ยกว่า scaled radius dimension" ผูใ้ ช้กาํ หนดจุดศูนย์กลาง
เพื*อวางตําแหน่ งอ้างอิ งของเส้นบอกระยะของวงกลมหรื อส่ วนโค้งเพื* อใช้เป็ นจุดอ้างอิงและจะมีเส้นบอกรั ศมีที*ส่วนโค้ง
คําสัง* DIMJOGGED นั-นมีประโยชน์สาํ หรับกรณี ที*จุดศูนย์กลางหรื อจุดอ้างอิง ไม่อยูใ่ นตําแหน่งที*แสดงได้
การสร้างเส้นบอกระยะ Jogged Dimension
1.ที* Main Menu เลือก Dimension > Jogged
2.เลือกวัตถุส่วนโค้งหรื อ วงกลมที*ตอ้ งการ
3.เลือกจุดศูนย์กลาง
4.เลือกตําแหน่งวางเส้นบอกระยะ
Dimension Units:
การตั-งค่ าหน่ ว ย ผูใ้ ช้สามารถกํา หนดรู ป แบบ หน่ ว ยใช้งานทั-ง
แบบธรรมดาหรื อปรับหน่ วยเพิ*มเติ ม ดังนี- หน่ วยสําหรั บ Linear and
angular dimensions, รวมถึ ง รู ปแบบของหน่ วยใช้งาน, รู ปแบบชุ ด
ตัวเลข, เครื* องหมายเชื*อม และอื*นๆ การตั-งค่าเหล่านี- จะควบคุมค่าต่างๆ
ที*ปรากฎ
115
การปัดจํานวนเต็ม
1. ที* Main Menu เลือก Dimension > Style
2. ที*ปรับค่า Dimension Style เลือก Style ที*ตอ้ งการ เลือก Modify
3. เลือกที*แถบ Text tab.
4. ที*หมวด Linear Dimensions and Angular Dimensions, เลือกค่าที*ไกล้เคียงกับจํานวนเต็มที*ตอ้ งการ
5. เมื*อเสร็ จสิ-น เลือก OK
Alternate Units:
ผูใ้ ช้สามารถสร้ าง Dimension จากหน่วยใช้งานพร้อม
กัน ได้ 2 ประเภทของการวัด ในบางครั- งเราอาจต้อ งวาง
Dimension 2 รู ปแบบ เช่ น หน่ วยนิ- วหรื อฟุตกับหน่ วยเมตร
หรื อ มิลลิเมตร ในไฟล์งานเดียวกัน ซึ* งหน่ วยที* 2 จะแสดงอยู่
ในช่ องคล้ายวงเล็บ บนเส้นบอกระยะ. Alternative units นี-
ใช้ได้เฉพาะ linear dimensions เท่ านั-น. และหน่ ว ยของ
alternate units กําหนดเป็ นเลขฐาน 10 เท่านั-น
การสร้างหน่วยใช้งานพร้อมกัน
1. ที* Main Menu เลือก Dimension > Style
2. ที*ปรับค่า Dimension Style เลือก Style ที*ตอ้ งการ
3. เลือกที*แถบ Alternate Units tab.
4. เลือกที* Display Alternate Units
5. เลือกตั-งค่าตามต้องการ
6. เมื*อเสร็ จสิ-น เลือก OK
Dimension Inspection:
ถูกสร้างเพื*อส่ งเป็ นค่าความถี*ในการทํางานส่ วนต่างๆของ ค่าบน Dimension รวมถึงค่าเผื*อ นั-นสามารถทําให้มน*ั ใจได้
ว่าค่าไม่ผิดจากที*ต- งั Dimension inspection ประกอบด้วย กรอบที* บรรจุขอ้ ความมากที* สุด 3 หมวดดังนี- inspection tag,
dimension value and inspection rate.
Inspection tag: ใช้สาํ หรับกําหนดจุดข้อความ ตรวจสอบได้จาก ข้อความทางด้านซ้าย
Dimension value: คือค่าเดิมก่อนจะใช้ dimension inspection, ซึ* งกําหนดจุอยู่ตรงกลางของ Dimension ประกอบด้วย ค่าเผื*อ,
ข้อความและค่าที*วดั ได้
Inspection rate: คือ ค่าตรวจสอบเป็ น (%) ซึ* ง ถูกวางทางด้านขวาภายใน กําหนดความต้องการตามวัตถุที*ถูกสร้าง
To create an inspection dimension:
1. ที* Main Menu เลือก Dimension > Inspect from the main menu.
2. บน Inspection Dimension dialog box, เลือกที*แถบ Select Dimensions
3. เลือก dimensions ที* ตอ้ งการ จากนั-นเพิ* มเข้า ที* dimension inspection, จากนั-น
ENTER เพื*อเสร็ จคําสัง* และกลับไปที* dialog box
4. เลือกรู ปทรงจาก shape option
5. เลือก Label option เพื*อเพิ*มเข้าไปที* text box
6. เลือก Inspection Rate เพื*อเพิ*มค่า บน text box
7. เลือก OK
119
To remove an inspection dimension:
1. ที* Main Menu เลือก Dimension > Inspect from the main menu.
2. บน Inspection Dimension dialog box, เลือกที*แถบ Select Dimensions
3. เลือก dimensions ที*ตอ้ งการลบ inspection,จากนั-น Enter โปรแกรมจะกลับไปที* dialog box
4. เลือกที* Remove Inspection
5. เลือก OK เพื*อจบคําสัง*
ขั"นตอนแก้ไข Attribute
1.ที& Command Line พิมพ์คาํ สัง& DDEDIT
2. เลือก Attribute ที&ตอ้ งการ
3.ปรับแก้ Tag, Promptและ Default ที&เมนู
4. เลือก OK
128
Modify Block Attributes:
การปรับแต่ง Attribute สามารถใช้คาํ สั&ง Block Attribute
Manager เพื&อปรับแต่ง ตัวอย่างดังรู ปภาพนี"
- Attributes สามารถแสดงผลหลังการปรับแก้
- Text properties แ ส ด ง ตั ว อ ย่ า ง ข อ ง Attribute ว า ง บ น
Drawing
- คุณสมบัติต่างๆของ Attribute เป็ นไปตาม Layer ที&มาํ งานอยู่
เช่น สี , นํ"าหนักเส้น และ รู ปแบบ
ขั"นตอนแก้ไข Attribute ที&นาํ เข้ามากับ Block
1. ที& Command line พิมพ์คาํ สัง& DDATTE
2. เลือก Block ที&ตอ้ งการ Edit จากนั"นโปรแกรมจะเปิ ดเมนู
แก้ไข
3. แก้ไขตามที&ตอ้ งการ จากนั"น OK
Hatches
Define Hatch Boundary:
การกําหนดพืนที วางลวดลาย ในการสร้ าง Hatch อันดับแรกผูใ้ ช้ตอ้ งกําหนดพืนทีในการลงลวดลาย โดยแบ่ ง
ออกเป็ น 2 ประเภทคือ เลือกพืนที ทีต้องการ (Boundaries) หรื อ เลือกตําแหน่ งภายในพืนที ที ต้องการ ทัง 2 ประเภทอาจเป็ น
พืนทีทีมาจาก รู ปใดๆ เช่น วงกลม สี เหลียมหรื อเส้นต่อเนืองทีมีพืนทีปิ ด
3. หากมีวตั ถุทีสร้างขึนเพือเป็ นขอบเขตของ Hatch และต้องการเก็บไว้ ให้เลือก Retain Boundaries ทีตําแหน่ งใต้ Islands
โปรแกรมจะจดจําวัตถุดงั กล่าว
4. ทีแถบ Boundaries เลือก Select Objects button.
5. จากนันเลือกวัตถุทีต้องการวางลวดลาย มักเป็ นวัตถุพืนทีปิ ด จากนัน Enter
6. จากนัน เลือก OK เป็ นอัน จบคําสัง
3. หากมีวตั ถุทีสร้างขึนเพือเป็ นขอบเขตของ Hatch และต้องการเก็บไว้ ให้เลือก Retain Boundaries ทีตําแหน่ งใต้ Islands
โปรแกรมจะจดจําวัตถุด ั งกล่าว
4. ทีแถบ Boundaries เลือก Pick Point
5. จากนันคลิกทีตําแหน่ งภายในของพืนที โดยต้องเป็ นพืนทีปิ ด
6. คลิก OK เมือเสร็ จสิ น
135
Choose and Define Hatch Patterns:
การเลือกลวดลายและคุณสมบัติ ลวดลาย Hatch ประกอบไปด้วยเส้น, จุดหรื อเส้นประ วางซําๆกัน ผูใ้ ช้สามารถ
เลือกลวดลายได้จากชุดของ predefined patterns, หรื อสามารถสร้างลวดลายได้เอง โดยเมือเราใส่ ลวดลายไปแล้ว 1 ครัง ใน
ครั งต่ อไปโปรแกรมจะจํา ลวดลาย ดังกล่ าวไว้ ลวดลายต่ า งๆที โปรแกรมมี ให้ ถู กเก็บ เป็ น นามสกุล ICAD.pat และ
ICADISO.pat
การเลือกลวดลาย
1. เลือกคําสัง Hatch จาก Main Menu > Draw
2. ที Hatch dialog เลือก Hatch
3. ทีหมวด Type เลือก Predefined เพือเลือกค่าสเกลในการกําหนด
ความกว้างหรื อแคบของลวดลาย
4. ใส่ ค่าสเกลเป็ นจํานวนเปอร์เซ็นต์ ตามต้องการ
5. ใส่ ค่าองศาของลวดลายตามต้องการ ตังแต่ 1-360 องศา โดยค่า
เริ มต้น องศาจะกําหนด ตามเข็มนาฬิกา สามารถเปลียนแปลงได้
ภายหลัง
6. เลือก ISO pen width โดยฟั งก์ชนนี
ั เราต้องเลือก ลวดลาย เป็ น ISO
เท่านัน
7. หากต้องการคัด ลอกลวดลายที มี ก ารวางอยู่แ ล้ว เลื อ ก Inherit
Properties
8. การรวม hatch ในพืนที ทีวัตถุติดกัน สามารถเลือกได้ที หมวด boundaries ด้านล่างจะมี Option เลือกที Associate เมือ
เลือกแล้วโปรแกรมจะอัพเดตอัตโนมัติ
9. หากต้องการวางลวดลายต่อไป เลือกลวดลายหรื อกําหนดตําแหน่งถัดไป
136
การใช้หมวด User-defined hatch
1. เลือกคําสัง Hatch จาก Main Menu > Draw.
2. ที Hatch dialog เลือก Hatch
3. ทีหมวด Type เลือก User Defined.
4. กําหนดระยะความห่าง เลือกที line spacing
5. หากต้องการคัดลอกลวดลายที มีการวางอยู่แล้ว เลือกคําสัง Inherit
Properties จากนันเลือกลวดลายทีต้องการ
6. การรวม hatch ในพืนที ที วัตถุติด กัน สามารถเลื อกได้ที หมวด
boundaries ด้านล่างจะมี Option เลือกที Associate เมือเลือกแล้ว
โปรแกรมจะอัพเดตอัตโนมัติ
7. หากต้องการวางลวดลายต่อไป เลือกลวดลายหรื อกําหนดตําแหน่ ง
ถัดไป
การเลือกลวดลายบน Library
1. เลือกคําสัง Hatch จาก Main Menu > Draw.
2. ที Hatch dialog เลือก Hatch
3. เลือก Predefined type.
4. การเลือกลวดลาย ทําได้ดงั นี
- ตาราง เลือกรู ปแบบทีต้องการ
- เลือกทีภาพของลวดลาย
5. หากต้องการวางลวดลายต่อไป เลือกลวดลายหรื อกําหนดตําแหน่ ง
ถัดไป
137
Solid:
ลวดลายทึบ ด้วยเครื องมือ Plane tool, ผูใ้ ช้สามารถวาดวัตถุสีเหลียม สามเหลียมหรื อหลายมุมพร้อมลงลวดลายสี ทึบ
ขันตอนเริ มแรกการกําหนดมุมของ
Plane นัน หลังจากที เรากําหนด 2
มุ ม โปรแกรมจะทํา การสร้ า งวัต ถุ
ดังกล่า วหรื อหากต้อ งการเพิ มเติ ม
วัตถุ สามารถทําได้เช่นกันThe
ขันตอนสร้าง Quadrilateral plane
1. ที Main Menu เลือก Draw >
Modeling > Meshes> 2D Solid
2. กําหนดมุมที 1, 2, 3 และ 4
3. Enter เมือจบคําสัง
Area Table
คําสังนีจะช่วยให้คาํ นวนหาพืนทีได้แบบอัตโนมัติ และ ยังสามารถหาค่าพืนทีรวมได้ เพิมความสะดวก รวดเร็ วในการ
หาพืนที ให้ สะดวกและรวดเร็ วขึน
- โดยเริ มจากการใช้คาํ สัง AREATABLE
- จะมีหน้าต่างขึนมา เพือให้กาํ หนดค่า ขนาดความสุ งตัวอักษร และให้เขียนเป็ นตารางหรื อไม่
- เมือตังค่าแล้วให้คลิกวางตาราง ก่อน จากนันคลิกบริ เวณพืนทีต้องการหา
AREA สังเกตุว่าจะมีตวั เลขขึนมาแสดงให้
141
Chapter 12
Layout, Plot and Publish Drawings
ขั/นตอนปรับแต่งคุณสมบัติ Viewport
1. คลิกทีบริ เวณขอบ ของ Layout Viewport ทีต้องการ
ปรับแต่งคุณสมบัติ
2. เปิ ด Properties palette ที
"Tools >Palettes>Properties"
3.ที Properties palette เลือก Standard Scale ที กล่อง
Properties เลือก Standard Scale จากนั/น ปรับ Scale
ตารางได้ทนั ที
การเปิ ด ปิ ด Viewports
1. เลือก Layout Tab ทีต้องการ
2. พิมพ์ MVIEW จากนั/น Enter
3. เลือก On หรื อ Off
4. เลือกทีขอบของ layout viewport ทีต้องการ เปิ ด ปิ ด
Preview a Plot:
ภาพตัวอย่างก่ อนพิ มพ์ สามารถตรวจสอบภาพก่ อนพิมพ์งาน
ได้ โดยภาพตัวอย่างแสดงถึง Drawing ทีทําการพิมพ์
ขั/นตอนการแสดงภาพตัวอย่างก่อนพิมพ์
1. ผูใ้ ช้ตอ้ งเลือกระหว่างพิมพ์บน layout หรื อ model
2. เลือก File > Plot Preview จาก main menu
3. เลือกขั/นตอนดังนี/
- เมือเห็นภาพตัวอย่างแล้ว หากต้องการพิมพ์งานเลือก
ที Plot ด้านบน ซ้าย
- หากต้องการยกเลิก ภาพตัวอย่าง คลิก ESC
150
Use Plot Styles:
การใช้งาน Plot Style: Plot styles จะช่วยแสดง Drawing ในลักษณะที ต้องการ เมือพิมพ์, และเนื องจากตัว plot
styles นั/นถูกเก็บอยู่ใน Computer เราสามารถนํามาใช้เมือเรา ต้องการให้ Drawing มีความชัดเจนหรื อแตกต่างเมือเราพิมพ์
งาน ผูใ้ ช้เลือก Plot Style ได้ 1 ประเภทต่อการพล็อต 1 ครั/ง โดย Plot Style แบ่งเป็ น 2 ประเภท
- Color-dependent plot style tables (CTB) ประกอบไปด้วย plot style ทีแบ่งออกเป็ นสี 255 สี (ตามเลเยอร์)
- Named plot style tables (STB) ประกอบด้วยรู ปแบบ plot style ทีเราได้ต/ งั ค่าไว้ อาจเป็ นสี ใดๆก็ได้
การใช้งาน Plot Style
1. ผูใ้ ช้ตอ้ งเลือกระหว่างพิมพ์บน layout หรื อmodel .
2. ที Main Menu เลือก File > Plot
3. หมวด Plot Style Table เลือกรู ปแบบทีต้องการ ดังนี/
- None: ไม่ใช้ Plot Style โดยวัตถุต่างๆจะแสดงตามทีเป็ น
- Monochrome: Drawing ทีพิมพ์จะแสดงเป็ น ขาว-ดํา
- New: สร้าง Plot Style เพือใช้เอง
4. ทําการบันทึก จากนั/นเลือก Apply
สําหรับ GstarCAD Professional ผูใ้ ช้สามารถสร้างและแก้ไขวัตถุ Dynamic block ซึ' ง Dynamic Blocks สามารถ
เปลี'ยนมุมมอง (อยู่บน Block ชิ3นเดียว) โดยเลือกที'จุด Grip หลังจากที'นาํ เข้า Block แล้ว นิยามของ Dynamic blocks คื อ
Block ที' นาํ เข้ามา 1 ชิ3น สามารถปรับเปลี'ยนมุมมอง, รู ปร่ าง หรื อ โครงร่ างภายนอกได้ ช่วยประหยัดขั3นตอนหากเราต้อง
นําเข้า Block ที'มากชิ3น
ในบางครั3ง Dynamic blocks ประกอบด้วยรู ปทรงที'กาํ หนดหรื อสร้างไว้แล้วที'หมวดแก้ไข Block (block definition) เมื'อเรา
เลือก Grip เพื'อทําการแก้ไข Block Reference จุด tick marks จะแสดงผลบนตําแหน่งที' เหมาะสม หากเราทําการเปลี'ยน
คุณสมบัติค่าของ Block ไปยังค่าอื'นแล้ว parameter จะปรับไปตําแหน่งที'ไกล้เคียงกัน
Dynamic Block Editor:
ผูใ้ ช้สามารถเข้าสู่ การแก้ไข Block โดย พิมพ์คาํ สั'งหรื อดับเบิ3ลคลิกที' วตั ถุ Block นั3นโดยตรง (Block ที' ไม่มี
Attribute) จากนั3นเมนู Block Editor จะแสดงตามภาพด้านล่าง (Ribbon menu) สําหรั บลูกศรสี ดาํ แทนค่า parameters สี
เหลืองรู ปฟ้าผ่านั3นแทน symbol action และหากใช้ classic interface โปรแกรมจะเปิ ด pop-up ในส่ วนนี3
155
Dynamic Block Editor Tool Panels:
ใช้คาํ สัง' ในส่ วน Tool Panel เพื'อกําหนดค่าปรับแต่งแก้ไข dynamic blocks อย่างง่ายดายและรวดเร็ ว
Manage
บันทึกหรื อเลือกบันทึกเป็ น Block สร้างหรื อปรับแก้ Block อื'นๆ
Tool
กําหนด, แก้ไขหรื ออัพเดท Block attribute
Parameter
เพิ'ม parameters สําหรับ Dynamic Blocks
Visibility
แผงควบคุมการแสดงผล ซ่ อนหรื อแสดงผล
Action
สามารถเพิ'ม Actions สําหรับ Dynamic Blocks
Close
เพื'อออกจากการแก้ไข Block ในบางครั3งก่อนออก คําสั'ง save หรื อ Open อาจถูกใช้
156
Parameter Sets
คุณสามารถเพิ'ม การตั3งค่า Parameter set ได้ที'นี'
Parameters:
เพื' อกําหนดค่ าหรื อรายละเอี ยดของ dynamic block เช่ น ตําแหน่ ง,ระยะทางหรื อมุมของวัตถุ เมื'อเรากําหนดค่ า
dynamic block ที'หมวด Block Editor แล้วนั3น ค่า parameters จะแสดงผลคล้ายกับ Dimensions ค่า Parameters จะกําหนด
คุณสมบัติสาํ หรับ Block นั3นๆ ค่า Parameters ยังหมายถึง ตําแหน่ง,ระยะทางและมุมองศาของวัตถุ เมื'อเราเพิ'มค่า parameter
เป็ น dynamic block แล้ว สามารถกําหนดค่าเพิ'มเติมเป็ น วัตถุ Block ได้ Dynamic block กําหนดให้สร้างข้อมูลอย่างน้อย 1
parameter ขึ3นไป เมื'อเราเพิ'ม Parameter เข้าที' dynamic block โปรแกรมจะแสดงจุด Grip เข้าให้โดยอัตโนมัติ เราต้องสร้าง
Action ให้กบั Block นั3นๆโดยผูกกับ Action parameter. ค่า parameter ยังกําหนดพฤติกรรมหรื อผลกระทบของ dynamic
block บน Drawing สําหรั บบางค่า parameter สามารถกําหนดช่วงของค่า ให้มากสุ ดหรื อน้อยสุ ดหรื อเพิ'มค่าตามต้องการ
ตัวอย่างเช่น ค่า parameter ของเส้นๆหนึ' ง ในแนวนอนที' สร้างบน Window Block มีค่าที' ต3 งั ไว้ที' 10,20,30 และ 40 เมื'อนําเข้า
block reference ที' Drawing แล้วนั3น เราสามารถเปลี'ยนค่าได้ตามที' ต3 งั ไว้ การตั3งเพื'อเพิ'ม parameter นั3นช่วยให้ผูใ้ ช้สามารถ
จํากัดการนําเข้า Block ที' Drawing
Point Parameter
ไอคอน :
Command: BParameter→O
กําหนดตําแหน่ง X และ Y บน Drawing โดยตําแหน่งนี3สามารถทํางานร่ วมกับ move หรื อ stretch action
Linear Parameter
ไอคอน:
Command: BParameter→L
แสดงระยะทางระหว่างสองตําแหน่ง ประกอบด้วยจุด Grip วางตามค่ามุมที'ต3 งั ไว้ โดยค่า parameter ในแนวนอนนี3 สามารถ
ทํางานร่ วมกับ Move, scale, stretch หรื อ Array action
Polar Parameter
ไอคอน:
Command: BParameter→P
157
แสดงระยะทางระหว่างสองตําแหน่งที'เป็ นลักษณะมุมองศา สามารถใช้ท3 งั Grip หรื อ กล่องคุณสมบัติ properties เพื'อแก้ไข
ค่าระยะและมุมดังกล่าว โดยค่า polar นี3 สามารถทํางานร่ วมกับ Move, scale, stretch หรื อ Array action.
XY Parameter
ไอคอน:
Command: BParameter→X
แสดงระยะทางระหว่าง X และ Y จากจุดอ้างอิงของค่า สามารถทํางานร่ วมกับ Move, scale, stretch หรื อ Array action.
Rotation Parameter
ไอคอน:
Command: BParameter→R
กําหนดมุม องศามุมที'ตอ้ งการ สามารถกําหนดได้อิสระหรื อกําหนดช่วงเฉพาะที'ตอ้ งการ
Alignment Parameter
ไอคอน:
Command: BParameter→A
กําหนดตําแหน่ง X,Y และมุมองศา โดยค่าการจัดวางแนวจะถูกนํามาใช้และไม่สามารถปรับเปลี'ยน Action. การจัดวางแนว
อนุญาตให้ block reference ปรับหมุนระหว่างวัตถุบน Drawing และค่าการวางแนวนี3 มีผลต่อคุณสมบัติของ block
Flip Parameter
ไอคอน:
Command: BParameter→F
การสลับค่าของวัตถุ เราสามารถสลับค่าด้วยคําสั'ง flip action
Visibility Parameter
ไอคอน:
Command: BParameter→V
การแสดงผลของวัตถุภายใน block การกําหนดการแสดงผล สามารถเลือกได้ทนั ที ไม่ตอ้ งใช้คาํ สั'งอื'นร่ วม ที' Drawing เลือก
ที' Grip เพื'อแสดงวัตถุ ของ Dynamic block
Lookup Parameter
ไอคอน:
Command: BParameter→K
กําหนดคุณสมบัติเพิ'มเติมหรื อประเมินผลค่าจากรายการที'มี สามารถทํางานร่ วมกับ single lookup grip.
158
Base Point Parameter
ไอคอน:
Command: BParameter→B
กําหนดจุดอ้างอิงสําหรับ dynamic block reference โดยสัมพันธ์กบั รู ปทรง ไม่สามารถใช้ร่วมกับคําสั'ง Action แต่นาํ ไปวาง
ร่ วมกับ Action Set อื'นได้
Actions:
Action คือ วิธีกาํ หนด dynamic block ให้เปลี'ยนหรื อย้ายตําแหน่ง เมื'อเรามีการจัดการ block reference ที' Drawing
Move
Command: BActionTool→M
ใช้ Action Move เมื'อต้องการเคลื'อนย้ายวัตถุเป็ นระยะทางและมุมเช่ นย้ายเป็ นตําแหน่ ง, ระนาบ X,Y ระนาบ ISO หรื อ
ตําแหน่งที'ใส่ ค่า XY เป็ นต้นสามารถเคลื'อนย้ายวัตถุท3 งั หมดได้ตามที'เลือก นําไปวางตามทิศทางใดก็ได้.
Scale
Command: BActionTool→S
ใช้ Action scale สําหรับ ตําแหน่ง, ระนาบ X,Y ระนาบ ISO นอกจากนั3นใช้ scale วัตถุในทิศทางตามค่าที'ใส่ ผูใ้ ช้สามารถ
ปรับแต่งจุด Grips ในทิศทางที'ต่างกันโดยเปลี'ยนคุณสมบัติและค่า บนกล่อง Properties
Stretch
Command: BActionTool→T
ใช้ Action stretch เพื'อเคลื'อนย้ายหรื อยืดขยายวัตถุ ตามระยะหรื อตําแหน่งที'ตอ้ งการ stretch action สามารถทํางานร่ วมกับ
ตําแหน่ง, ระนาบ X,Y ระนาบ ISO
Polar Stretch
Command: BParameter→PIn
ใช้ Action polar stretch กับวัตถุเพื'อหมุน, ย้ายและยืดหดบนระยะหรื อมุมที'กาํ หนด เมื'อ key point มีการเปลี'ยนแปลงมีผลต่อ
วัตถุที'ทาํ งานรวมถึง จุด grip บนกล่อง Properties สําหรับ action polar stretch สามารถใช้กบั ค่า polar เท่านั3น
Rotate
Command: BActionTool→P
สําหรับ action rotate มักทํางานคู่กบั rotate parameter เมื'อเลือกวัตถุแล้ว จะสามารถหมุนได้อิสระหรื อหมุนได้มากกว่า จุด
grips ที'ตอ้ งตั3งค่าตามกล่อง properties
159
Flip
Command: BActionTool→F
สําหรับ Action flip มักทํางานคุ่กบั flip parameter.
Array
Command: BActionTool→A
สําหรับ Action array ทํางานควบคู่กบั ตําแหน่ง, ระนาบ X,Y, ระนาบ ISO สําหรับ copies และ arrays ในทิศทางอื'นๆที'
ต้องการ
Lookup
Command: BActionTool→L
Action lookup สามารถทํางานร่ วมกับ lookup parameter
2. Add base point: คลิกใส่ ค่า “base point” บนแผง parameter ทําการใส่ ค่าตรงจุดศูนย์กลางของวงกลมตามที' กล่องเมนู
ตามรู ปภาพ
3. Insert block: ทําการบันทึกและออกจากเมนู จากนั3นนําเข้า Block ดังกล่าวที'หน้า Model เราจะทราบได้ว่า base point
หรื อจุดอ้างอิงนั3นจะเป็ นจุด insert point (จุดนําเข้า) หลังจากที' เรานําเข้ามาแล้ว จงจําไว้ว่า การกําหนดจุด base point นั3นคือ
จุด insert point นั3นเอง
161
Visibility:
ใช้ Visibility เพื'อควบคุมการแสดงผลหรื อซ่อนวัตถุบนมุมมองที'ตอ้ งการ
1. Prepare view: เตรี ยมวัตถุรูปรถ ทําการรวม 3 คัน เท่ากับ 1 block
2. Add Parameter of Visibility: ใส่ ค่าการแสดงผล (parameter of visibility) เข้าสู่ โหมด block editor โดยดับเบิ3ลคลิกที'
block หรื อคลิกขวาที'วตั ถุเลือกที'เมนู เมื'อเข้ามาแล้วเลือกที' Visibility of Parameter บนโหมดคําสั'ง Parameter จากนั3นทําการ
กําหนดตําแหน่งตามรู ปด้านล่าง
เลือกคําสั'ง “Invisibility” ที'หมวด Visibility จากนั3น เลือก Truck และ Car เพื'อซ่อน(invisible) แต่สาํ หรับรถ “roadster” ให้
แสดงตามปกติ ตามภาพด้านล่าง เมื'อเลือกแล้วให้ Enter เพื'อยืนยัน สําหรับ car และ truck ตั3งค่าตามเดิม.
4. Move and Adjust: ปรับและย้าย: หลังจากปรับค่า Visibility เสร็ จแล้ว ย้าย รถทั3ง 3 คันโดยให้แสดงซ้อนกัน ตามภาพ
2. Test the dynamic block: ทดสอบ dynamic block ทําการใส่ the roughness dynamic blocks ดังกล่าว ลองย้ายจุด grip
ตามแนว สัญลักษณ์จะหมุนตามเส้นบอกระยะ ตามที'รูปภาพด้านล่าง
Flip:
เมื'อเราใช้คาํ สั'ง "Roughness symbol block" วางลงบนส่ วนต่างๆ สัญลักษณ์บางครั3งจะวางบนด้านขวา อย่างไรก็ตาม หาก
ทิศทางของรู ปแบบดังกล่าว ไม่ถูกต้อง เราสามารถเพิ'ม "character flip" เพื'อปรับค่าที'ถูกต้อง
1. Add flip parameter: เลือกคําสัง' “Flip” ทําการเพิ'มค่าตามที'โปรแกรมต้องการ ดังรู ปด้านล่าง
2. Add flip action: เพิ'ม Flip action เลือกที' คาํ สั'ง flip บนเมนู action ทํา
การเทียบ parameter วัตถุสาํ หรับ action นัน' คือ เลือก "roughness" เป็ น
วัตถุ และที'คาํ สัง' action ตามรู ป
164
ใช้ข3 นั ตอนเดียวกันเพื'อเพิ'ม Pair หรื อ Flip และ action ตามทิศทางแนวดิ'ง ตามรู ป
Point Movement:
1. Draw a drawing: สร้างวัตถุจากนั3นทําเป็ น Block
2. Add point parameter: เพิ'มค่าตําแหน่ง เลือกที' point parameter บนทูลบาร์ กําหนดค่าตําแหน่ งตามที'โปรแกรมต้องการ
ดังรู ป
Linear Movement:
โดยทัว' ไป การกําหนดคําสั'งหรื อเครื' องหมายต่างๆ สําหรับงาน Mechanics มักอนุ ญาตให้วางได้เฉพาะเส้น Center ดังนั3น
หากเรามีระยะในแนวนอนที' มากพอจะสามารถวางได้อิสระ ในขณะที' ในแนวตั3งไม่มีผลกับจุดนี3 ขั3นตอนต่อไปเรามาดูใน
ส่ วนการใส่ ค่าในแนวตรงที'จะช่วยปรับย้ายทิศทางของเส้น Center ดังนี3
1. Draw: ทดลองเขียนวัตถุ จากนั3นบันทึกเป็ น Block ดังรู ป
2. Add linear parameter: ใส่ ค่าในแนวเส้นตรง การที'จะเพิ'มค่าในแนวนี3 คือวิธีเดียวกับการให้ Dimension ซึ' งทั3ง 2 วิธี จะ
พยายามรวมจุดค่าระยะเพื'อวางค่าให้ตรงกลาง
4. Testing Dynamic Block: เลือก dynamic block ดังกล่าว ลากจุด grip ทางด้านขวาของเส้นระยะ ตรงนี3 คือไม่ว่าลูกศรจะ
ถูกย้าย โปรแกรมจะจํากัดเส้น center ก่อนจะถึงเส้นหรื อวัตถุชิ3นต่อไป บอกได้ว่าไม่ว่าขอบเขตของเส้นค่าระยะในแนวนั3น
จะถูกจํากัดอย่างไร คําสัง' dynamic block กําหนดได้ตามทิศทางที'เราได้สร้างไว้ในแนวนั3นๆ
Number of Grips:
ที'หมวด Block Editor เลือกที' linear parameters เปลี'ยนค่า เลขของชุด grips เป็ น 1 ที'กล่อง Properties
167
Save และออกจากคําสั'ง Block Editor ผูใ้ ช้จะเห็นว่าจุด grip นั3นจะหายไป
ความจริ งแล้วเมื'อเราเปลี'ยนค่าเลขของ grip จาก 2 เป็ น 1 สิ' งแรกที' หายไปคือ
ค่าระยะทั'วไปที' วาง ให้ท าํ การสร้ างใหม่โดยการเลื อกเปลี' ยนชื' อเมื'อใส่ ค่า
เส้นระยะใหม่
Angle Offset:
เปิ ดคําสั'ง Block Editor เลือกที' Angle offset จาก 0 เป็ น 30 องศา ที'หมวด action จากนั3นบันทึกและออกจากคําสั'ง
เลือก Dynamic block จากนั3นเลือกที'จุด grip ด้านขวา จะพบว่าสามารถเคลื'อนย้ายไปในทิ ศทาง 30 องศา ตามรู ปที'แสดง
ทิศทางดังกล่าวสามารถตั3งค่าได้ที' Angle Offset
Linear Stretch:
ระหว่างการสร้างวัตถุงานเครื' องกล (Mechanical) เรามักเปลี'ยนตําแหน่งวัตถุ เช่นเดียวกันกับเส้นบอกระยะ สามารถเพิ'มเส้น
บอกระยะยืดได้ ตามระยะก่อนจะถึงวัตถุหรื อขอบเขตถัดไป
1. Add linear parameter:
168
2. Add stretch action: เลือกที' stretch action บนเมนู action กําหนดค่าตามที'เมนูตอ้ งการและเลือกจุด grip ด้านขวา ตามรู ป
วัตถุสีดาํ จะสามารถนําไปใช้งานหมวด actionได้ เส้นประแสดงขอบเขตที' สามารถยืด วัตถุที'อยู่ภายในขอบเขตจะถูกยืดออก
และเคลื'อนย้ายตาม
3. Test dynamic block: ออกจากหมวด block editor ทําการลากจุด grip ตามทิศทางที'ตอ้ งการ ตามรู ป
Symmetrical Stretch:
มีวิธีที'ง่ายสําหรับการยืดหดสองฝั'ง โดยเมื'อเราเพิ'ม action ทั3งสองฝั'ง เราทราบกันว่าสามารถยืด หดได้ท3 งั สองฝั'งแต่
action สําหรับ ยืดหดนี3มีขอ้ จํากัด ค่าระยะอาจต้องมีการตั3งค่าเพื'อให้
การยืดทั3ง สองฝั'งนั3นสมมาตร
อันดับแรก เพิ'ม Action ของค่าระยะทั3งสองฝั' ง จากนั3นทํา
การเลือกจุด grip ของทั3งสองฝั'งโดยมี ความสัมพันธ์กนั ถัดมา ที'
หมวด misc ทําการปรับแต่งที' base location จาก "Start Point" ไปยัง
"Mid Point", ตามที'รูปแสดง จากนั3นบันทึกและออกจากคําสั'ง
เพื'อความสะดวกในการตรวจสอบระหว่างขั3นตอน ให้เขียน
เส้น Center แนวดิ'งตรงกลาง จากนั3นทําการยืด จุด gripจากฝั' งซ้าย
ไปฝั'งขวา ตามที' รูปแสดง ขณะที'จุด grip ขยายไป เราจะเห็นการยืด
นั3น สมมาตรกันทันที
170
Distance Multiplier:
สังเกตดูข3นั ตอนดังรู ป หากเราทําการยืดชิ3นงานในส่ วนซ้ายและค่าระยะยังคงอยู่บนตําแหน่ง center แต่เส้นผ่านศูนย์กลางยัง
เล็กกว่าเมื'อยืด ใช้คาํ สัง' “Distance Multiplier” เพื'อสร้างระยะที'มากกว่า
1. Add linear parameter and stretch action for step shaft: การเพิ'มค่าระยะตามแนวและใส่ action สําหรับขอบเขต นั3น
ให้ซ่อนจุด grip ทางด้านขวา จะมี action ยืด หดตามรู ปตัวอย่าง วัตถุเส้นหนาคือ action ที'ใช้
2. Add Move Action for keyway: เพิ'ม action เคลื'อนย้าย สําหรับวัตถุ เลือกจุด grip ที'ดา้ นซ้าย ของค่าระยะเมื'อ เคลื'อนย้าย
ทําการยืดจุดค่าระยะ โดยเลือกค่าระยที'สัมพันธ์กนั จากนั3นย้ายวัตถุที'อยู่ภายใน action และทําการเลือกวัตถุท3 งั หมด ตามรู ป
ตัวอย่าง
Chain Action:
หากผูใ้ ช้ตอ้ งการทราบตําแหน่งยืดแบบสมมาตร โดยไม่เปลี'ยนค่าระยะของ Center อีกทั3งความยาวของเส้นผ่าน
ระยะที'เล็กกว่านั3นถูกยืดในเวลาเดียวกันนั3น เราจะทําได้อย่างไร?
1. Add stretch for Step Shaft: เพิ'มค่าระยะยืดและกําหนด action สําหรับขอบเขต ตามภาพด้านล่าง ดังนี3 วัตถุที'เส้นหนาจะ
ถูกกําหนดให้เป็ นวัตถุ action เพราะขั3นตอนที'ตามมานั3นวัตถุเส้นหนานั3นจะไม่ถูกยืดบนค่าระยะโดยจุด grips ของแนวระยะ
นี3 โดยชุดเลขของ grip นี3 อาจต้องปรับค่า เป็ น “0”
Scale Action:
Scale Action สามารถเทียบได้กบั ค่าระยะในระนาบที'ตอ้ งการ เส้น polar หรื อพิกดั XY เพื'อเข้าการใช้งานที'หลากหลายของ
Dynamic effect
Linear Scale
1. Draw: สร้างวัตถุโดยมีรู ดังรู ปตัวอย่าง จากนั3นทําเป็ นวัตถุ Block
173
2. Add Linear Parameter: จากนั3นเข้าสู่ หมวด Block Editor ทําการเพิ'มระนาบค่าระยะ โดยจุดเริ' มต้นของค่าดังกล่าวคือ
ตําแหน่ง center ของวงกลม จากนั3นเลือก ชุดตัวเลขของจุด grip เป็ น “1” ตามรู ปตัวอย่าง
3. Add Action: เลือกที' ไอคอน Scale ที'เมนู Action ทําการใส่ ค่าระยะสําหรับ action เลือกวัตถุรวมถึงรู ตรงกลาง เลือกเป็ น
Action Object ตามที'รูปตัวอย่าง
4. Test Dynamic Block: ออกจาก หมวด Block Editor จากนั3นนําเข้า dynamic block ดังกล่าว เมื'อนําเข้ามาแล้ว ลากที' จุด
grip สามเหลี'ยม วัตถุจะทําการ Scale
Polar Scale
เมื'อเราย้าย Scale ของ grip ที' ตาํ แหน่ งรู เจาะที' มุมซ้าย ของ center ของวงกลม
จากนั3นย้ายจุดอ้างอิงของระยะระนาบมาไว้ที'มุมซ้ายของcenter วงกลม จะพบว่า block วัตถุ
ดังกล่าวมีขนาด scale ที'ไม่ถูกต้อง ดังรู ปตัวอย่าง
174
เหตุ ผลที' จุด Endpoint ของค่ าระยะไม่สามารถวางอยู่บนจุ ดอ้างอิงได้เพราะ เราได้เปลี' ยนจากค่าระยะ (Linear
Parameter) เป็ น ระยะระนาบ เชิงขั3ว (Polar Parameter) จากตรงนี3 เราไม่สามารถเปลี'ยนค่าใดๆได้ ตามรู ป
Scale Character:
สําหรับหัวข้อนี3 จะอธิ บายถึงการย่อขยายวัตถุ โดยใช้ค่าระยะ XY และใช้ Scale action ตามตัวอย่าง
1. Drawing graphics: วาดวัตถุดงั รู ปจากนั3นสร้างเป็ นวัตถุ Block
2. Add XY Parameter: จากนั3นเข้าที' Block Editor ใส่ ค่าพิกดั XY โดยเพิ'มวิธีเดียวกับใส่ ค่าระยะ ทําการเลือกที' จุดแรกของ
ระยะที' มุมซ้ายของสามเหลี'ยม เป็ นจุ ดอ้างอิง (Base Point) ถัดมาเลือกจุดที' สองทางด้านมุมขวาบนเปลี'ยนชุดเลขของ grip
เป็ น 1 จากนั3นใส่ ค่า Scale ตามรู ป
175
3. Test the Dynamic Block: เมื'อออกจากหมวด Block Editor ลาก grip ที'มุมขวาของสามเหลี'ยม จะเห็นได้ว่า dynamic
block ทั3งรู ปจะถูกย่อขยายตาม เป็ นวิธีที'ง่ายเมื'อเราต้องการให้วตั ถุวงกลมและสามเหลี'ยม ย่อขยายโดยมีจุดอ้างอิงที' ใช้ค่า
ระยะ XY
4. Modify Action Base: ปรับแก้ค่าจุดอ้างอิง กลับไปที' Block Editor เลือกคําสั'ง Scale Action จากนั3นเปลี'ยนค่าเริ' มต้นจาก
“Dependent” เป็ น “Independent”
กําหนดอ้างอิงใหม่ : คลิกหนึ' งครั3งที' ดา้ นขวา ตรง “Base-X” และ “Base-Y” ผูใ้ ช้สามารถเลือกใส่ ค่าพิกดั หรื อเลือก
คลิกที'คาํ สัง' เล็กๆพร้อมกับวางจุดด้านขวาของกล่องเมนูที'จุดอ้างอิง ตามรู ป:
Rotation:
ที'คาํ สัง' นี3 เราจะใส่ ค่าระยะ การหมุน (Rotation) และใส่ ค่า rotate action เพื'อจัดเก็บระบบ dynamic rotate เพื'อใช้กบั
ระบบสัญลักษณ์ (English System) ซึ' งมักใช้บ่อยในงานสถาปัตยกรรม
1. Draw a drawing: ทําการสร้างสัญลักษณ์ดงั รู ป จัดเก็บเป็ นวัตถุ Block แนะนําให้จดั เก็บข้อความเป็ น Attribute Block
เพื'อการปรับแต่งในภายหลัง
2. Add rotation parameter: เลือก center ของวงกลมดังกล่าวเพื'อเป็ นจุดอ้างอิงแรก โปรแกรมจะตั3งค่าเริ' มต้นเป็ นมุมมอง
ดังกล่าว ตั3งค่าองศาที'ตอ้ งการที' "increment" จากนั3นทดอลงให้องศา เท่ากับ 15 ตามรู ปตัวอย่าง
177
3. Add rotate action: เลือกที' rotation action, match parameter, object และ position บนเมนู action จากนั3นเลือกสัญลักษณ์
ทั3งหมดเป็ นวัตถุ สําหรับ action
4. Test dynamic block: ออกจาก หมวด Block Editor จากนั3นนําเข้า Block ดังกล่าว หมุนที' grip เพื'อแสดงวัตถุขณะ
เปลี'ยนแปลง ตามรู ปตัวอย่าง
Polar Stretch:
เราใช้ Polar Stretch บนหมวด dynamic block เพื'อะสร้างสัญลักษณ์รูปตัดดังนี3
1. Draw, Mirror and Define as a Block: วัตถุตามรู ปภาพประกอบไปด้วย attribute text ซึ' งสามารถปรับแต่งตามต้องการ
จากนั3นทําการ mirror วัตถุดงั กล่าว สร้างเป็ น Block อีก 1 ชิ3น
2. Add action and parameter for the attribute text: ใส่ ค่าระยะตําแหน่งจากนั3นย้าย action เฉพาะ ตัวอักษร และ เปลี'ยน
chain action เป็ น “Yes” จากนั3นเราพร้องที'จะเข้าสู่ โหมด chain action สําหรับ polar stretch action
178
3. Add Polar Parameter and Action: ใส่ ค่าระยะ Polar โดยค่าเริ' มต้นควร
จะอยู่บน center ที' สั ญ ลักษณ์ รู ป ตัด ตํา แหน่ งนี3 จะเป็ นจุ ดหมุ นของ Polar
Parameter ขั3นตอนมีดงั นี3
1. เลือก grip ด้านขวา ของค่าระยะ Polar โดยค่าระยะดังกล่าวจะสัมพันธ์และ
เข้าเลือกปรับแต่งที' Stretch box (Fig. 3.1)
2. เลือกวัตถุเพื'อทําการยืด และ “ตําแหน่ง” รวมเข้าด้วยกัน ซึ'งทั3งชุดอักษรและศัญลักษณ์จะถูกรวมเข้าด้วยกัน (Fig. 3.2).
3. กําหนดวัตถุให้หมุน (rotate) เฉพาะ Polar Stretch Action (Fig 3.3).
4. กําหนดสัญลักษณ์ Action และตําแหน่ง (Fig 3.4)
5. จากนั3นทําซํ3าขั3นตอนทั3งหมด สําหรับด้านซ้าย
และ จะดีกว่า หากเราทําการซ่อน Grips ซึ' งไม่เกี'ยวข้องกันกับค่าระยะ the Polar Stretch ดังนี3
179
4. Test Dynamic Block:
เปิ ดชิ3นงาน ซึ' งจะทําการใส่ Dimension จากนั3นนําเข้า dynamic block (Fig 4.1) ทําการลาก grip ของ dynamic block โดย
สัญลักษณ์จะถูกยืดและหมุนไปยังทิศทาง โดยยึด center ไว้ เป็ นอันเสร็ จสิ3 น (Fig 4.2)
Array:
สําหรับคําสั'ง Array บนหมวด Dynamic Block เราต้องใช้ Array Action เพื'อใช้เทียบกับระยะระนาบ (Linear Parameter)
รวมถึง Polar Parameter, XY Parameter เพื'อรองรับคําสัง' Array
Linear Array
1. Draw: ทําการสร้าง รายการตามรู ปตัวอย่าง จากนั3นบันทึกเป็ น Block
2. Add Linear Parameter: เมื'อเราสร้าง action สําหรับ array แล้วจะสามารถลาก grip ได้ท3 งั 2 ชุดของค่าระยะที'จะทําเป็ น
รายการ แต่สังเกตว่า เราต้องการเพียงคัดลอกแถบช่องว่างนั3นขึ3นไป ไม่ได้ดึงลงมา เพื'อเลี'ยงข้อผิดพลาดนี3 แนะนําให้ ซ่อน
grip หลัง ค่าระยะ ตามรู ปตัวอย่าง
181
3. Add Array Action: ระหว่างการใส่ Array Action โปรแกรมต้องการช่องว่างระหว่างแถว ช่องว่างนี3 คือระยะระหว่างวัตถุ
ที'คาํ สั'ง array สร้างขึ3น ดังนั3น ตัวอย่าง มีเส้นหนา 7 มมสําหรับเส้นถัดไป เราสามารถเลือกได้ แต่ให้เส้นระหว่างแถวเป็ น 7
มม
4. Test Dynamic Block: นําเข้า Dynamic Block ลาก grip ที'มุมขวาไปด้านบน ช่องว่างหรื อตารางจะถูกเพิ'มอัตโนมัติ ตาม
รู ปภาพ
XY Array
เปรี ยบเทียบกับ Linear Array, XY Array นั3นมีทิศทางในแนวดิ'ง
Polar Array
เราได้เห็ น การทํางานของ Dynamic Block ดังตัว อย่าง และ
หลังจากที' ลาก grip แล้วจะมี ผลกระทบดังรู ป จะเห็ นได้ว่าไม่
เฉพาะการยืดขอบเขตที' เราทําได้ แต่ยงั สามารถหมุนตามทิ ศทาง
ได้อย่างง่าย ตรงนี3คือผลจากการใช้ Polar Stretch และ Polar Array
182
เข้าสู่ หมวด Block Editor ทําการยืดตามทิ ศทาง โดยสร้าง Array Action ตามรู ปตัวอย่าง วัตถุที'เป็ นเส้นหนาจะ
สัมพันธ์กบั action ที'เรากําหนด โดย Polar Parameter จะถูกกําหนดตามทิศทางของ Array โดย Polar Array จะไม่คาํ นึ งถึง
ทิศทางเดิม สามารถสร้างทิศทางใหม่ได้ตามต้องการ
183
Chapter 14
Express Tools
GstarCAD Express Tools ประกอบด้วย เครื องมือ ที ช่วยออกแบบ เพือง่ายในการใช้ โดยถูกเพิมเข้ามาในเมนู และ
เครื องมือ Tools bars และ รวมถึง คําสังอืนๆ Dimensioning, Drawing, and Selectionและ Modifying objects ทัCงหมดรวมอยู่
ใน GstarCAD Express Tools
Block Tools
Replace Block:
ใช้คาํ สังนีCสาํ หรับแทนที บล๊อคชิCนหนึ งด้วย บล๊อคอีกชิCนหนึ ง ซึ ง
อยูใ่ นแบบแปลนเดียวกัน บล๊อค ทุกชิCนที มีชือเหมือนกันจะถูกแทนที ด้วย
บล็อคชิCนใหม่
Menu: Express>Blocks>Replace Block
Command: BLOCKREPLACE
ทําการเลือก Block: Double bed. จากนัCนเลือก OK
เลือก block ทีต้องการนํามาแทนที: Sofa จากนัCนเลือก OK
Purge unreferenced items when finished? Yes/No ให้กด Yes
184
Copy Nested Objects: คําสังทีใช้คดั ลองวัตถุ ทีอยูใ่ น Xref หรื อ Block
Menu: Express>Blocks>Copy Nested Objects
Command: NCOPY
เลือกวัตถุทีต้องการคัดลอก: กําหนดจุด Base point หรื อ พิมพ์ M (Multi) เพือคัดลอกทีละหลายๆชิCน
Change Block Text High: คําสังเปลียนความสุ งของ Text ยกเว้น text Attributeไม่สามารถทําได้
Menu:Express>Blocks>Change Block Text High
Command: Entry:bChgHei
1. พิมพ์คาํ สังbChgHei ที Command
2. ใส่ ค่าความสุ งทีต้องการ
3. เลือกวัตถุทีต้องการเปลียนความสุ ง
4. กดปุ่ ม Enter เมือเสร็ จขัCนตอนปรับความสุ งของ Text
188
Change Block Layer: คําสังเปลียนเลเยอร์ ของ block
Menu: Express>Blocks>Change Block Layer
Command: bChgLay
1. ใส่ ชือ Layer ทีต้องการ
2. เลือกวัตถุหริ อ Block
3. จากนัCน ถ้าเราต้องการเปลีน Layerของ Block วัตถุทีเราเลือกนัCนจะถูกย้ายไปยัง layerทีเรากําหนด ถ้า Layer ทีเรากําหนด
ไม่มี โปรแกรมจะทําการสร้าง layer ให้อตั โนมัติ และย้ายไปที layer ใหม่
Convert BLOCK to XREF: คําสังนีCใช้สาํ หรับแทนที Block ด้วย Xraf จากไฟล์แบบแปลน dwg
Menu: Express>Blocks>Convert Block to Xref
Command Entry: BLOCKTOXREF
เมือใช้คาํ สังนีC จะปรากฏไดอะล็อค ตามรู ปขึC นมา เราสามารถคลิCกเลือก
ชื อทีขึCนมา หรื อ คลิCกบนปุ่ ม Pick แล้วคลิCก เพือเลือก Block จากนัCนจะมี
ให้เราเลือกไฟล์ Xref ทีเราต้องการแทนที Block
189
List Xref/Block Properties: คําสังนีCจะแสดง รายการและ ชือ Block, ชือ Layer และ Linetype ของวัตถุทีเป็ น Block
Menu: Express>Blocks>List Xref/Block Properties
Command Entry: XLIST
1. พิมพ์คาํ สัง XLIST
2. เลือกวัตถุทีต้องการเปลียนแปลง
3. โปรแกรมจะมีหน้าต่างแสดงขึCนมาซึ งจะแสดงรายละเอียดของ Block ชือ layer สี หรื อ Line type
Change Text: คําสังนีC จะแก้ไขให้ให้อกั ษรตัวใหญ่เป็ นอักษรตัวเล็ก หรื อจากตัวใหญ่ให้เล็กลง โดยตัวหนังสื อทีสามารถ
แก้ไขได้คือ Text และ MText แอททริ บิวต์ และเส้นบอกขนาด
Menu: Text >Change Text
Command Entry: Changetext
ยกตัวอย่างเช่ น ในตาราง Part list ซึ งเราสามารถ
เปลี ยน TEXT โดยเมื อพิ ม พ์ ค ํ า สั งลงไป และ มี
ข้อความขึCนมาดังนีC
Please select object: ให้ทาํ การเลือกวัตถุทีต้องการ
แก้ไข และ จะมีขอ้ ความขึCนมาดังภาพ
Height (H) / Justify (J) / Location (L) / Rotation (R)
/ Style (S) / Text (T) / Undo (U) / Width (W)
192
Height: เปลียนสู งของตัวอักษร ภายใต้ตวั เลือก ดังนีC
Single: เป็ นการแก้ไขความสุงของ Text แบบตัวต่อตัว
List: แสดงรายละเอียดของ Text เช่น ความสู งของตัวอักษร สู งสุ ด และ ตําสุ ด
New Height for all objects: ใช้ในการเปลียนความสู งของตัวอักษรทีเลือกทัCงหมด
Justify: การปรับเปลียนตําแหน่งของตัวอักษร. โดยจะมีตวั เลือกดังนีC
Align: วางวัตถุตามตําแหน่งทีกําหนด
Fit: ปรับความยามตัวหนังสื อโดยกําหนดสองจุด
Center: จัดกึงกลาง
Left: จัดตัวอักษรทีด้านซ้าย.
Middle: จัดตัวอักษรทีกึงกลาง
Right: จัดตัวอักษรไปทางขวา
TL: จัดตัวอักษรทีด้านบนและชิดซ้าย
TC: จัดตัวอักษรทีด้านบนและกึงกลาง
ML: จัดตัวอักษรทีด้านกลางและซ้าย
MC: จัดตัวอักษรทีกึงกลาง และ Center
MR: จัดตัวหนังสื อไปทีตําแหน่ งกลางขวา
BL: จัดตัวอักษรทีด้านล่างและชิดซ้าย
BC: จัดตัวอักษรทีด้านล่างและกึงกลาง
BR: จัดตัวอักษรทีด้านกลางและขวา
193
Text Align: คําสังนีCจะทําหน้าทีปรับตําแหน่งของตัวอักษรตามระยะทีกําหนดโดยสามารถกําหนดพิกดั X,Y ได้
Menu: Text >Text Align
Command Entry: Textalign
ตัวอย่าง
เมือเราต้องการสร้าตาราง Part list โดยมีเนืC อหา
ในตาราง ให้อยู่บริ เวณที กําหนด เมือใส่ คาํ สัง
ลงไปแล้วจะมีขอ้ ความดังนีC
Please select object: ทําการเลือกข้อความที ต้องการจัด จะมีขอ้ ความแสดง ซึ งให้เรากําหนดค่าดังนีC Select the align method:
X axis (X) / Y axis (Y) / Two points (P):
ให้เรากําหนดตําแหน่งแกน X,Y ทีต้องการ(สองจุด)
Text on Line:
Menu: Text >Text on Line
Command Entry: GC_textonline
ขัCนตอนการใช้คาํ สัง
1. เลือก Icon “text on line”
2. Click 1 จุดบนเส้นทีต้องการใส่ ตวั อักษร
3. ใส่ ตัวอักษร เช่น เราใส่ คาํ ว่า GstarCAD
4. ใส่ ความสู งของตัวอักษร
5. เลือก Mode การใส่ เราสามารถเลือก “Breakline” หรื อ
“wipeout”
Breakline: มันจะหยุดเส้นให้อตั โนมัติ ตามจุดทีเราใส่ ตวั อักษร และ ความยาวของข้อความ
Wipeout: สร้างพืCนที ทีใกล้เคียงกับความยาวข้อความ
194
Arc-Aligned Text: เราสามารถใช้คาํ สังนีC สร้าง
Arc-Aligned Text
Menu: Text >Arc-Aligned Text
Command Entry: ARCTEXT
1. พิมพ์คาํ สัง ARCTEXT ไปที Command
2. เลือกเส้นทีต้องการใส่ตวั หนังสื อเข้าไป
3. ใส่ ขอ้ ความลงไป “Arc-Aligned Text”
4. คลิCกทีปุ่ ม Ok เสร็ จขัCนตอนการสร้าง Arc-Aligned Text.
Text Mask: คําสังวาง Mask ไว้ดา้ นหลังตัวหนังสื อ Text หรื อ Mtext.โดยกําหนดค่า Offset และ ประเภทของพืCนหลัง และ
สี
Menu: Text >Text Mask
Command Entry: TEXTMASK
เมือใช้คาํ สังที Command line จะมีขอ้ ความขึCนมาถามดังนีC
- Current settings:Offset factor = 0.500000, Mask type = Solid, Mask color = 150
- Select text objects to mask or [Masktype/Offset]
เลือกตัวเลือก หรื อ text หรื อ กด Enter เพือ ออก
Text จะรวมเข้าไว้ดว้ ยกันกับ Mask object ซึ งเราสามารถย้าย, Copy หรื อ ลบ การ update mask หลังแก้ไขข้อความ ให้ใช้
คําสัง TEXTMASK อีกครัCง และ เลือก Text ทีต้องการ Update
Mask type:
3DFACE: แทนทีด้วย 3D Face หลังข้อความ
SOLID: Mask ด้วย 2D Solid ด้วยสี ทีเรากําหนด
WIPEOUT: แทนทีด้วย Mask ข้างหน้าข้อความ
Offset: กําหนดค่า Offset ระหว่างกรอบ และ Text
Enclose Text with Object: คํา สังนีC ท าํ หน้าที สร้ างวงกลมหรื อสี เหลี ยม เพื อล้อมรอบตัวอักษร. โดยขนาดของ
เส้นผ่าศูนย์กลางจะพอดีกบั ขนาดตัวอักษร หรื อ ตัวแปร
Menu: Text >Enclose Text with Object
Command Entry: TCIRCLE
198
Automatic Text Numbering: คําสังนีCช่วยเขียนหมายเลขหรื อเขียนตัวเลขเรี ยงลําดับ รวมถึงคํานําหน้าและตามหลัง
Menu: Text >Automatic Text Numbering
Command Entry: TCOUNT
1. เริ มใช้คาํ สัง ที Command line จะแสดงข้อความ
Select TEXT, MTEXT or ATTDEF objects. เพือทําการเลือกวัตถุทีเป็ น TEXT, MTEXT หรื อ ATTDEF
Sort selected objects by [X/Y/Select-order]: เพือกําหนดแนวแกนวัตถุ
Specify starting number and increment (Start increment) <1,1>: เพือกําหนดค่าตัวเลขเริ มต้น และค่าตัวเลขทีจะ
เพิม เช่น 1,5 จะนับค่าตัวเลขตัCงแต่ 1 เพิมขึCน 6,11 เป็ น 16,21ตามลําดับ
Specify the placement of numbers in text [Overwrite/Prefix/Suffix/Find&replace..]< Prefix>:
เราสามารถเลือกตัวเลือก หรื อ กดปุ่ ม Enter
“o” หากต้องการเขียนทับตัวเดิม
“P” หากต้องการเพิตัวเลขนําหน้า
“S” หากต้องการเพิมเติมตัวเลขพ่วงท้าย
“F” เพือค้นห้าแล้แทนที
ยกตัวอย่าง
Scale: คําสังนีCใช้ปรับค่า Scale ตัวอักษร สามารถทําได้ทC งั single line text และ multiline text
Menu: Text > Scale
Command Entry: SCALETEXT
1. พิมพ์คาํ สัง SCALETEXT ลงไปที Command
2. ทําการเลือกวัตถุและกําหนด Scale ทีต้องการ
3. กําหนดจุด Center บริ เวณ Center
4. กําหนดความสุ งของ TEXT
Change Text Case: คําสังนีCทาํ หน้าทีแปลง text, mtext โดยสามารถใช้กบั attributes and dimension text
Menu: Text >Change Text Case
Command Entry: TCASE
202
Change Text Style: คําสัCงนีCสามารถเปลียน text style เปลียนได้ทC งั single line text และ multiline texts
Menu: Express > Text Tools >Change Text Style
Command Entry: CHGSTY
ขัCนตอน
1. พิมพ์คาํ สัง CHGSTY ลงที Comamnd
2. ทําการเลือก text ทีต้องการเปลียน text style
3. จากนัCนทําการแก้ไขวัตถุ แล้วกด ENTER
Change Text Height/Width/Angle/Position: คําสังนีCใช้ในการแก้ไขความสู ง, ความกว้าง, มุม และ ตําแหน่ งตัวอักษร คุณ
สามารถ Click หรื อ เลือกตัวอักษรด้วย Window selection
Menu: Express>Text Tools> Change Text Height/Width/Angle/Position
Command Entry: TXTHEI / TXTWID / TXTANG / TXTPOS
Delete Annotation: คุณสามารถเลือก Text Annotation เพือทําการลบ GstarCAD จะเก็บข้อมูล Annotation ทัCงหมดใน 1
Layer คุณสามารถกดปุ่ ม Enter แล้ว Text Annotation ทัCงหมด จะถูกลบ
Menu: Express>Text Tools>Delete Annotation
Command Entry: WZOFF
ขัCนตอน
1. เริ มต้นคําสัง ด้วยการระบุ Text Annotation ที จะลบ ในขัCนตอนนีC คุณต้องระบุ Layer ที ทํางานอยู่เท่านัCน ถ้าคุณกดปุ่ ม
Enter โดยตรง Layer Single Text จะถูกลบ
2. เลือก Annotation ทีจะลบ และ กดปุ่ ม Enter เพือจบคําสัง
204
Adjust Character: เมือ Text มีการผสมกัน ระหว่าง ตัวอักษรภาษาจีน, ภาษาอังกฤษ และ ตัวเลขอารบิค ความสู งของ
ตัว อักษรจะแตกต่ างกัน และ ดู ไ ม่ ดี คุ ณ สามารถใช้คาํ สังนีC ในการปรั บ ความสู งของตัว อักษรได้ แต่ คาํ สังนีC จะทําการ
Explode ตัวอักษร และ มันจะยาก ทีจะ Re-Edit ดังนัCน เราแนะนําให้คุณใช้คาํ สัง หลังจากคุณแก้ไข Drawing เสร็ จสิC นแล้ว
Menu: Express>Text Tools>Adjust Character
Command Entry: TTL2
ขัCนตอน
1. เริ มต้นคําสัง เลือก Text ซึ งต้องการทีจะปรับความสู ง
2. กดปุ่ ม Enter เพือจบคําสัง
Dimension Tools
Change Dimension Text: แก้ไขตัวอักษรบนเส้นระยะ (Dimension)
Menu: Express>Dimension>Change Dimension Text
Command Entry: CHGDIMTXT
สังเกตทีCommand line จะขึCนคําสังดังนีC
-Select dimension objects ให้เลือก Dimension
-Currently label content <129.9>, input new dimension text <practically measure dimension> ตามตัวอย่างใส่ ค่า 130
205
Change Dim style: คําสังสําหรับเปลียนDimension style
Menu: Express>Dimension>Change Dimstyle
Command Entry: Dimstyle
Import Options: ทีแถบการตัCงค่านําเข้า ประกอบด้วย Keep the Existing Style เพือเก็บรู ปแบบชุดบอกระยะไว้ทีDrawing
นัCนๆ และใช้แทนชุ ดรู ปแบบปั จจุบนั หมวดทีเหลือคื อ overwrite styles เมือเลือกหมวดนีC โปรแกรมจะเลือกเฉพาะชุ ด
รู ปแบบทีชือไม่ซC าํ กับชุดรู ปแบบทีมีบนDrawing นัCนๆ หากชือของ Style ทีนําเข้ามาไม่ซC าํ กัน ชุดรู ปแบบจึงถูกนําเข้า
Attach Leader to Annotation: การนําเข้าลูกศรชีCระยะเข้าที Mtext, Tolerance หรื อ Block Reference Object
Menu: Express>Dimension>Attach Leader to Annotation
Command Entry: QLATTACH
-Select Leader: Select a leaderเลือกชุดลูกศรทีต้องการ
-Select a dimension: จากนัCนเลือก Mtext, Tolerance, หรื อ Block Reference Object เพือจัดค่า
ตัวอย่าง
- เลือกชุดลูกศรชีCบอกระยะ จากนัCนเลือก Mtext ชุดทีต้องการนําเข้า ต้องเลือกเป็ นแต่ละวัตถุเท่านัCน
- ชุดลูกศร และ Mtext จะรวมเป็ นวัตถุ 1 ชิCน และ ชีCตาํ แหน่งสัมพันธ์กนั
ขณะทีอยู่ในคําสัง Select Leader: ผูใ้ ช้สามารถเลือกลูกศร หรื อ ยกเลิกคําสังได้ แต่หากเป็ นขัCนตอน Select Annotation: ผูใ้ ช้
สามารถเลือก MText, Tolerance หรื อ Block Reference object. เพือเชือมโยงLeader
208
Detach Leaders from Annotation: นําชุดลูกศรชีCบอกระยะออกจาก Mtext, Tolerance, หรื อ Block Reference Object
Menu: Express>Dimension>Detach Leaders from Annotation
Command Entry: QLDETACHSET
-Select objects: Select leader line.เลือกลูกศรชีCบอกระยะ
ตัวอย่าง
-เลือกขชุดลูกศรชีCบอกระยะทีต้องการนําออก
Global Attach Leader to Annotation: นําเข้าวงกลมครอบลูกศรชีCบอกระยะไปที Mtext, Tolerance, หรื อ Block Reference
Objects
Menu: Express>Dimension>Global Attach Leader to Annotation
Command Entry: QLATTACHSET
- Select objects: เลือกชุดลูกศรชีCบอกระยะ 1 หรื อ มากกว่า
ตัวอย่าง
- เลือกชุดลูกศรบอกระยะและ ชุด Mtext
-Select objects: เลือกชุดลูกศรชีCระยะ 1 ชุด หรื อ มากกว่า
สังเกตที Command line จะขึCนว่า Number of unlocked leaders = 2, Number with annotation detached = 2
- Leader with detached Mtext object (Fig 5)
- Leader attached to block object (Fig 6)
209
Selection Tools
Get Selection Set: เลือกวัตถุแบบชัวคราวเป็ นชุด
Menu: Express>Selection>Get Selection Set
Command Entry: GETSEL
- Select an object on the Source layer: เลือกเฉพาะชุดวัตถุหรื อ Enter เพือเลือกรวม Layers ทัCงหมด
- Select an object of the Type you want: เลือกเฉพาะชุดวัตถุหรื อ Enter เพือเลือกรวมวัตถุทC งั หมด
Arrange Tool: คําสังทีช่วยจัดเรี ยงวัตถุหลายๆชิCน และ ยังสามารถเปลียนระนาบวัตถุหลายๆชิCน ไปทาง ซ้าย ขวา ด้านบน,
ล่าง หรื อ แม้แต่จุดศูนย์กลาง รวมถึงจัดเรี ยงระนาบแนวตัCง แนวนอน
Menu: Express tools>Modify>Arrange Tool
Command Entry: ARRANGETOOL
ตัวอย่าง
ใช้ Arrange Tool เพือจัดเรี ยง Bearings ให้มีระยะที เท่ ากัน คําสัง
Arrange Tool รองรับการปรับแก้ แบบ Real-Time เมือเราทําการ
ปรับแก้
จากนัCน จะขึCนคําสัง Specify the object’s direction along the curve<Y axis of WCS>: เป็ นขัCนตอนทีสําคัญ เนื องจาก
เราได้เลือกจุดอ้างอิงทีมุมซ้ายล่าง ดังนัCนเราต้องกําหนดทิศทางไปตามทิศทาง Path (เส้นสี เขียว)
219
เมือเราเลือกทิศทางของวัตถุแล้ว โปรแกรมจะแสดงข้อความ Please select the curve: เลือกทีเส้นเขียวอีกครัCง
เมือเลือกส่ วนโค้งแล้ว โปรแกรมจะแสดงคําสัง Specify select along which side of the curve <left side or forward
direction>: เป็ นขัCนตอนทีสําคัญเช่นเดียวกัน เพราะเราต้องเลือกข้างทีจะทํา Array ตามตัวอย่างเลือกข้างซ้าย
220
เมือเลือกข้างแล้ว จะขึCนคําสัง Select the method Random (R) / Division (F) / Measure (D):
ทีขัCนตอนนีCจะมีคาํ สังแยกให้เลือกดังนีC
Random: คําสัง Array วัตถุตาม Path กําหนดจุดวางได้ตามต้องการ
Division: คําสัง Array อัตโนมัติ โดยเลือกวัตถุ ตาม Path ใส่จาํ นวนได้ตามต้องการ
Measure: คําสัง Array อัตโนมัติ โดยเลือกวัตถุ ตาม Path กําหนดระยะห่างได้ตามต้องการ
ตัวอย่าง
หากเราไม่ทราบระยะห่ างของวัตถุ แต่ ทราบจํานวนที ต้องการวาง ให้เลือกหมวด Division ดังนีC เมือเข้าที Option
โปรแกรมจะแสดงคําสัง Enter the number: ใส่ ค่า 11 โปรแกรมจะแสดง
Pick a point on the curve as start point (Distribute from the end curve when selection is empty):
จากนัCนเลือกจุดของส่ วนโค้ง เมือเลือกแล้ว เราจะได้ค่าเฉลีย เรายังสามารถทําวิธีได้กบั ระนาบกลาง (เส้นนํCาเงิน) จะได้ตาม
ภาพหน้าถัดไป
221
AreaSum: คําสังทีช่วยให้การหาพืCนที ง่ายขึCน หากเป็ นขัCนตอนเดิมผูใ้ ช้ตอ้ งเขียนเส้น Polyline ปิ ด หรื อ สร้างขอบเขตพืCนที
ใหม่ บนพืCนทีงานทีทําไปแล้ว โดยการทํางานของคําสังง่ายๆ เพียงแค่ใส่ คาํ สัง จากนัCนคลิกภายในพืCนที ทีทําไว้ ก็จะสามารถ
หาค่า Area และ Region ได้อย่างง่ายดาย
Menu: Express tools>Edit>Areasum
Command Entry: Areasum
Input zoom scaling, the block and text will zoom together <Enter- No Zoom>: เลือก Enter เพือจบคําสัง
224
Trim Enhancement: คําสังที มากกว่าการ Trim (ตัดเส้น) ธรรมดา โดยขัCนตอน เมือเรา เลือกฝั งที ต้องการ Trim แล้ว
โปรแกรมจะคํานวณพืCนที และ ตัดเส้นอัตโนมัติ วัตถุอาจเป็ น Polyline, Line, Circle, Arc, Ellipse, Image หรื อ ตัวอักษร
Menu: Express tools>Modify>Trim Enhancement
Command Entry: EXTRIM
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สังข้างต้น
2. ทําการเลือกวัตถุ ดังรู ปตัวอย่าง (Fig 11)
3. Specify the side to trim on กําหนดด้านทีต้องการ Trim (Fig 12)
4. เป็ นอันเสร็ จสิC น สังเกตว่า พืCนทีภายใน เส้นหายไป นันคือโปรแกรมจะคํานวณ ตัดเส้นหรื อวัตถุทีพาดผ่านทัCงหมด
Overkill: คําสังทีนอกจากช่วยจัดการเส้น Lines, Circles, Plines linear objects อืนๆทีทับซ้อน ยังสามารถจัดการ Region,
Blocks, Dimension หรื อ Text ได้ดว้ ย ยิงกว่านัCนเมือย้ายออกไปแล้ว วัตถุจะถูกลบ โดยคํานึ งถึง Layer, Color, Line Type
และ Attribute ต่างๆ สําหรับวัตถุ 2D, 3D, Pline, Circles, Arcs นัCนคําสังนีC ยังช่วยแก้ปัญหาการทับซ้อนของเลเยอร์ เมือพิมพ์
งานอีกด้วย
Menu: Express tools >Modify >Delete Duplicate Line
Command Entry: OVERKILL
226
เมือใส่ คาํ สัง โปแกรมจะแสดง Select objects: เลือกวัตถุทีต้องการเปรี ยบเที ยบ และ ลบออก เมือเลือกเสร็ จสิC น OK เพือออก
จากคําสัง
For Image
1. เลือกคําสัง.
2. เลือกไฟล์ภาพทีต้องการ เมือเลือกแล้วโปรแกรมจะเปิ ดหน้าต่างอีกครัCง
3. เลือกที OK จากนัCนสามารถตัCงค่า Scale หรื อ ตําแหน่งวางของภาพได้
4. เมือวางภาพแล้ว โปรแกรมจะถามว่า “Is the placement of this IMAGE acceptable? [Yes/No]<yes>” ตอบ YES
5. คลิกเพือวางรู ป
229
For Blocks:
1. ใส่ คาํ สัง
2. เลือกที Block เพือนําเข้าวัตถุ Block คลิกที Block อีกครัCงเพือเลือก Block บน Drawing ทีทํางานนัCนๆ
3. เลือกวัตถุ Block ทีต้องการ จากนัCน OK
4. กําหนดจุดนําเข้า Scale และปรับจุดหมุนได้
5. โปรแกรมจะถามว่า“Is the placement of this IMAGE acceptable? [Yes/No]<yes>”หากเลือก Yes โปรแกรมจะให้
กําหนดจุดวาง หากเลือก No จะออกจากคําสัง6. คลิกทีภายในพืCนทีปิ ดเพือ วางลวดลาย Hatch
For WipeOut:
1. ใส่ คาํ สังจากนัCนเลือกทีWipeout
2. โปรแกรมจะถามถึงจุดวางตําแหน่ง เพือทําเป็ นพืCนที
3. เลือก Enter เมือเสร็ จสิCนการกําหนด
4. ตามรู ปตัวอย่าง ย้าย Block เพือวางลวดลายเป็ น Hatch โปรแกรมจะวางโดยอัตโนมัติ
230
Breakline Symbol: คําสังแทรก Breaking Symbol บนเส้น Polyline จะช่วยวางและปรับขนาดของ Breaking Symbol อย่าง
สมดุล โดยเราไม่ตอ้ งไปกําหนดค่าอืนแต่อย่างใด ใส่ คาํ สังดังนีC
Menu: Express tools>Draw>Breakline Symbol
Command Entry: BREAKLINE
เมือเริ มคําสังแล้ว โปรแกรมจะมีคาํ สังย่อยให้เลือกที Command Line ดังนีC
Block = BRKLINE.DWG, Size = 1.000, Extension = 1.250
Specify first point for breakline or [Block/Size/Extension/sPecify line for breakline]:
ให้กาํ หนดจุดทีต้องการหรื อ Esc เพือออก
Options:
Specify first point for breakline: คลิกเพือลาก Break Line ผ่านตําแหน่งทีต้องการ จุดเริ มต้น และจุดจบ
231
Block: กําหนดรู ปแบบ Block ทีต้องการจากนัCน
Enter the block name for breakline symbol <BRKLINE.DWG>: ทําการตัCงชือ และ Enter อีกครัCง แต่หากเราเคาะ Enter ผ่าน
ทันที โปรแกรมจะบันทึกให้ อัตโนมัติ
2. เลือกหมวด Union และเอาเครื องหมายที "Delete the entity choosen by second selection",
นําออกไป ตามภาพ
3. จากนัCนเลือกเส้นวงกลมด้านนอกสุ ดจากนัCน ครอบวงกลมทัCงหมด เคาะ Enter ตามรู ป
ด้านขวา
233
4. ใช้คาํ สังอีกครัCง ครัCงนีCเลือก Subtraction พร้อมกับคลิกเลือก “Delete the entity chosen by second selection"
5. ครอบวงกลมทัCงหมดอีกครัCง จะได้รูปวงกลม ตามตัวอย่างด้านล่าง
Spline to Pline: ด้วยคําสังนีC เราสามารถเปลง Spline เป็ นเส้น Polyline ซึ งขึCนอยู่กบั จุดจํานวนของส่ วนโค้งใดๆ ตามทีผูใ้ ช้
กําหนด หากกําหนดจํานวนจุดส่ วนโค้งมากเท่าไร ความแม่นยําจะสู งขึCนด้วย ดังนีC
Menu: Express tools>Draw>Spline to Pline
Command Entry: SPTPL
234
ดังตัวอย่าง
วาดเส้น Spline พร้อมด้วย ส่ วนโค้ง 5 จุด
หลังจากใช้คาํ สัง SPTPL แล้ว จะแสดงข้อความ Please select the object (Spline).เมือเลือก Spline แล้ว โปรแกรมจะถาม
>Delete the spline? Yes(Y) / No(N):ตามตัวอย่างหากเราเลือก Yes , โปรแกรมจะทําการลบ Spline หากเราเลือก No ,
โปรแกรมจะเก็บ Spline ไว้ เมือเลือกแล้ว โปรแกรมจะขึCนคําสังให้เราเลือก >Pleaseenter the number of arcs Non-zero:ให้
เราใส่ ค่าทีมากกว่า 0 ดังตัวอย่างค่า 8. ค่าตรงนีCจะกําหนดให้ Spline นีCแบ่งเป็ น 8 Segment ดังภาพ
Line to Pline: คําสังนีCจะช่วยแปลงเส้นหรื อส่ วนโค้ง ต่างๆ ให้เป็ นวัตถุ polyline ชิCนเดียว ดังนีC
Menu: Express tools>Draw>Line to Polyline
Command Entry: Line2pl
เมือใส่ คาํ สัง โปรแกรมจะให้เลือก Please enter the join precision: ส่ วนนีC โปรแกรมจะให้เลือกจุด Endpoint ของแต่ละวัตถุ
ทีต่อเนืองกัน ตามภาพตัวอย่างใส่ ค่า 0 เพือมันใจว่าวัตถุ (lines) ต่อเนื องกัน สนิท
เมือเลือกค่าได้แล้ว โปรแกรมให้เลือก Please select the objects to be joined และจะแปลงเป็ น Polyline ทันที
235
ตามภาพตัวอย่าง เราจะได้วตั ถุ Polyline
Table Tools
Table Fill In: ผูใ้ ช้สามารถใช้คาํ สังนีCเพิมตารางหรื อเข้าแก้ไขตัวอักษรบน Table
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สัง
2. คลิกที Table หรื อใส่ คาํ สัง “Q” เพือเข้าแก้ไข
3. ทีหน้าต่างของเมนูสามารถตัCงค่าคาวมสู งของอักษรและอืนๆ
4. เลือกทีตาราง ช่องว่าง จะนําใส่ ได้ทนั ที
5. เลือก Enter เพือจบคําสัง
241
Draw Table: คําสังทีช่วยเขียน Table
Menu:Express>Table Tools> Draw Table
Command Entry: BGE
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สัง
2. กําหนดเลือกจุดมุมแรก เลือกจํานวนช่องตามต้องการ
3. เตรี ยมข้อมูล เช่นความกว้าง ยาว
a. หากต้องการเพิมความกว้างของช่อง พิมพ์ (Q) ยิงพิมพ์ซC าํ ช่องยิงกว้าง
b. หากต้องการเพิมความสู ง เลือก (W)ยิงพิมพ์ซC าํ ยิงเพิมความสู ง
c. หากต้องการลดความสู งเลือก (A)
d. หากต้องการลดความกว้างเลือก (S)
4. เราสามารถค่าระบุแบบเจาะจงได้
5. จากนัCนคลิกอีกมุม เป็ นอันเสร็ จการสร้าง Table
\
Add Bias: คําสังสร้างเส้นเอียงบนช่อง cell ต่างๆ ขัCนตอนนัCน ง่าย และ เร็ วมาก เพียงเราเลือกคําสัง จากนัCนคลิกทีมุมซ้ายบน
และ ลากมาทีมุมขวาล่าง หรื อ อีกวิธีหนึงคือ คลิก สาม ครัCงทีช่อง Cell นัCน จะสามารถสร้างเส้นเอียงได้ทนั ที
Menu: Express>Table Tools>Add Bias
Command Entry: BGX
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สัง
2. กําหนดจุดเริ มต้นทีมุมซ้ายบน หรื อ คลิกทีช่อง Cell
3. จากนัCนคลิกทีมุมขวาล่างเป็ นอันเสร็ จสิC น
243
Drag Multiple Lines: เราสามารถเปลียนขนาดแถว และ บรรทัด โดยคลิกเลือก ตามเส้น Cell หากเลือกเส้นข้าง บรรทัดจะ
ขยายไป หากเลือกเส้นคัน บรรทัด Cell จะสู งขึCน
Menu: Express>Table Tools>Drag Multiple Lines
Command Entry: BGMT
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สัง
2. เลือกเส้น Cell ตามรู ป (Fig16)
3. ลากไปทางขวา สังเกตขนาดจะเพิมขึCนตามรู ป (Fig17)
4. เลือก Enter เพือเสร็จคําสัง (Fig18)
Drag Line: คําสังนีC แตกต่างกับ Drag Multiple Lines ตรงที เมือเราเลือกเส้น Cell ด้านทีต้องการ เราสามารถขยับได้เฉพาะ
CellนัCน (ไม่ได้ปรับขนาดทัCงหมด)
Menu: Express>Table Tools>Drag Line
Command Entry: BGST
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สัง
2. เลือกเส้น Cell ตามรู ป (Fig19)
3. ลากไปทางขวา สังเกตจะย้ายเส้น Cell นัCนออกไปตามรู ป (Fig20)
4. เลือก Enter เพือเสร็จคําสัง (Fig21)
244
Drag Segment: คําสังย่อยออกมา เพราะเป็ นการปรับเฉพาะเส้น Cell บนบรรทัดนัCนๆ
Menu: Express>Table Tools>Drag Segment
Command Entry: BGJT
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สัง
2. เลือกเส้น Cell ตามรู ป ทําการลากไป (Fig22)
3. ลากไปทิศทาง ทีต้องการ สังเกตจะย้ายเส้น Cell นัCนออกไปตามรู ป (Fig23)
4. เลือก Enter เพือเสร็จคําสัง (Fig24)
ข้อควรจํา:
1. คําสังนีCใช้ได้เฉพาะชุดอักษรทีอยูใ่ น Table เท่านัCน
2. ระยะทีสามารถปรับได้ ของคําสังนีC มีให้เลือกประมาณหนึ ง หากท่านต้องการ ระยะทีละเอียดกว่า สามารถใช้คาํ สังอืนๆ
ของ GstarCAD ร่ วมด้วยกันได้
CAD Table to Excel: คําสังนีC ช่วยในการ Export ข้อมูลใน Table บน Drawing เข้าไปไว้ในตารางที Excel อย่างรวดเร็ ว
โดยมีคุณสมบัติ ของ Line/Spline และ text/Mtext เข้าไปด้วย
Menu: Express>Table Tools> CAD Table to Excel
Command Entry: GC_CTE
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สังจากนัCน มีหน้าต่างให้เลือกขนาดของ Table
2. ทําการครอบ Table ทีต้องการ จากนัCน Enter โปรแกรมจะเปิ ด Microsoft Excel
ขึCนมาพร้อมตาราง
3. ทําการบันทึกข้อมูล ตามความจําเป็ น
248
Coordinate Tools
Coordinate Point: คําสังพิเศษให้ตาํ แหน่งพิกดั ของวัตถุ แบบ Leader
Menu: Express>Coordinate Tools>Coordinate Point
Command Entry: DIMCOORD
File Link Management: สามารถใช้คาํ สังนีC เพือแก้ไข จัดการลิCงค์ขอ้ มูลระหว่าง Table บน drawing และไฟล์ Table ที
เชือมต่อกับโปรแกรม Excel
Menu: Express>AutoXlsTable>File Link Management
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สังข้างต้น
2. ทําการเลือกวัตถุ Tableโปรแกรมจะเปิ ดเมนู
3. เลือกที Browse เพือเปิ ดไฟล์ทีต้องการ
4. ทําการเลือกไฟล์ XLS ทีต้องการลิCงค์กบั วัตถุ Table จากนัCน เลือก OK จะกลับมาทีเมนู Link Manager
5. สามารถใช้คาํ สัง “Attach”, “Delete” หรื อ “Update”เพือจัดการลิCงค์ดงั กล่าว
255
Path Settings: ใช้คาํ สังนีCเพือตัCงค่า Path ของไฟล์งาน Excel
Menu: Express>AutoXlsTable>Path Settings
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สังข้างต้น โปรแกรมจะเปิ ดหน้าต่างเมนู
2. เลือกตัCงค่า Path ได้ตามเมนู
Selection Management: ใช้คาํ สังนีC เพื อตัCงชื อให้ พืC นที ปิ ด หรื อ เส้น เพื อคํานวณพืC นที Area หรื อ ความยาวของเส้น
Menu: Express>AutoXlsTable>Selection Management
ตัวอย่ าง
1. ทดลองสร้างวัตถุ วงกลม และ สี เหลียม จากนัCนใช้คาํ สัง “Create Table” ทําการสร้างรายการตามรู ปด้านล่าง จากนัCน
11. ใช้วิธีเดียวกัน เพือคํานวณรู ปสี เหลียม เมือเสร็ จสิC น เลือก Finish ตามรู ปด้านล่าง
Rotate Cursor: คําสังช่วยหมุน Cursor ทวนเข็มนาฬิกา 0 – 45 องศา หมุนแบบ Side Line และ Real Time
Rotate
Menu: Express>GstarCAD Tools>Rotate Cursor>0 or 45
Command Entry: RTCUR0/RTCUR45
Side Line
Menu: Express>GstarCAD Tools>Rotate Cursor>Side Line
Command Entry: RTCUR1
ขัCนตอน
1. ใส่คาํ สังข้างต้น
2. ทําการเลือกแกน ทีต้องการ โปรแกรมจะหมุนตามแกนนัCนๆ
259
Real Time Rotate:
Menu: Express>GstarCAD Tools>Rotate Cursor>Real Time Rotate
Command Entry: RTCUR
ขัCนตอน
1. เมือเราใส่ คาํ สังแล้ว โปรแกรมจะแสดงฟังก์ชนที
ั Command Line
2. ให้ผใู ้ ช้เลือกจาก Command Line ADWS (ปรับทวนเข็มนาฬิกา) ตามรู ป
Cross to Break: สําหรับการเขียนแบบงานวิศวกรรม เราอาจต้องทําการตัดขาดเส้น หรื อเรี ยกว่า Break เส้น ซึ งวิธะรรมดา
ทัวไป อาจยุ่งยากเพราะต้องใช้หลายคําสัง สําหรับ GstarCADมีคาํ สังพิเศษ ทีช่วยให้ง่ายขึCน
Menu: Express>GstarCAD Tools>Cross to Break
Command Entry: CBK
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สังตามข้างต้น.
2. กําหนดเส้นทีต้องการ
3. เลือกเส้นทีต้องการ ของอีกฝัง ของเส้น Break
โปรแกรมจะทําการตัดเส้นอัตโนมัติ4. Enter เพือจบ
คําสัง
262
Control Break Width: คําสังสําหรับ Break เส้นออกเป็ นพืCนที
Menu: Express>GstarCAD Tools>Control Break Width
Command Entry: CBKWID
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สังตามข้างต้น.
2. เลือกเส้นทีเราสร้างขวางไว้แล้ว Enter โปรแกรม
จะทําการตัดเส้น ตามตัวอย่าง
Width Factor
Menu: Express tools>GstarCAD Tools>Modify Text>Width Factor
Command Entry: TXT41
1. ใส่คาํ สังตามข้างต้น
2. เลือก Single line Text ทีต้องการ
3. จากนัCนใส่ ค่าความสู งทีต้องการ
4. Enter เพือจบคําสัง
263
Angle:
Menu Express tools>GstarCAD Tools>Modify Text>Angle
Command Entry: TXT50
1. ใส่คาํ สังตามข้างต้น
2. เลือก Single line Text ทีต้องการ
3. จากนัCนใส่ ค่ามุมองศาทีต้องการ
4. Enter เพือจบคําสัง
Print Tools
Print PLT: Users can send PLT files to printer for printing ผูใ้ ช้สามารถใช้คาํ สังนีCส่งไฟล์ PLT เพือพิมพ์งานได้
Menu: Express tools>Plot Tool>Print PLT
Command Entry: PrintPlt
ขัCนตอน
1. ใส่ คาํ สังตามข้างต้น
2. เลือก PrintPlt.exe ทีหน้าต่างเมนู
3. ดับเบิCล คลิก ทีไฟล์ PrintPlt.exe จากนัCนโปรแกรมจะเปิ ดหน้าต่างเมนูพิมพ์งาน สามารถเลือก Printer เพือเปลียนค่าตาม
ต้องการ
264
4. จากนัCน เลือก Ok โปรแกรมจะเปิ ดหน้าต่าง OPEN ให้ผูใ้ ช้เลือก Printed file
4. เมือเราเลือกแล้ว ไฟล์ทC ังหมดจะอยู่บน List เลือกที “Preview” เพื อดูตวั อย่างการเรี ย งลําดับ โดยโปรแกรมจะทําการ
เรี ยงลําดับ ตาม Frame ด้านบน
5. เมือตรวจสอบ พอใจแล้ว เลือก OK โปรแกรมจะเรี ยงลําดับ จากนัCนจะนําเข้าทีไฟล์งานปัจจุบนั
267
บทที
What is new GstarCAD 2021
GstarCAD 2021 ยกระดับไปอีกขันด้วยคําสั!งที! สอดคล้องการทํางานในปั จจุบนั ฟั งก์ชนั! สามมิติที!ดีกว่าเก่า
คําสั!งที!จาํ เป็ นสําหรับการเขียนแบบและเครื! องมือพิเศษ ทําให้การทํางานนันเร็ วยิ!งขึนกว่าเดิม จึงทําให้ GstarCAD นันคื อ
โปรแกรมเขียนแบบที!คุม้ ค่า ที!สุด
1. New user Interface
GstarCAD ผูใ้ ช้สามารถทํางานและปรับแต่งได้ง่ายกว่าเวอร์ ชน!ั ก่อนหน้า ด้วยหน้าต่างที! มีสีเทาดํา ที! เข้มขึ น
ในเวอร์ ชน!ั 202< นัน ช่ วยลดภาระสายตาหากต้องทํางานเป็ นเวลานานๆ การปรับแต่งทําได้ทงั ย้าย Toolbar ปรับสี พืนที!
Drawing ปรั บ Command bar หรื อเปลี!ยนสี ให้สว่างกว่าก็สามารถทําได้ การปรับแต่งให้เป็ นสใตล์ตวั เองทังหมด และยัง
สามารถทําการล็อคตําแหน่งของ ไอคอนเมนูให้อยูแ่ บบถาวร
268
2. Save your time with faster running speed
พัฒนาให้มีประสิ ทธิ ภาพสู งขึน ช่ วยให้ประหยัดเวลา ด้วยการเพิ!มประสิ ทธิ ภาพของคําสั!งพืนฐาน ให้ดียิ!งขึ น
เช่น OPEN, QSAVE, PLOT, CLIP, TRIM, PASTE, MOVE, DYNAMIC, SELECTION และ การระเบิดวัตถุ ทําได้
อย่างรวดเร็ วยิ!งขึน
3. New (D Feature
พบกับคําสัง! 3D เพิ!มประสิ ทธิ ภาพการทํางาน 3D Model ด้วยคําสัง! \D Model ใหม่ ใน GstarCAD ]^]< ผูใ้ ช้งาน
สามารถใช้ ออกแบบ และ แก้ไข โมเดล \ มิติ ได้สะดวก และ ง่ายยิ!งขึน เช่น POLYSOLID, CONVTOMESH,
CONVTOSOLID, CONVTONURBS ช่วย ยกระดับการออกแบบ \D Model บนโปรแกรม GstarCAD ให้ดีมากยิ!งขึน
269
5.
270
5. Rapid Dist ให้ค่าขนาดได้สะดวก รวดเร็ วยิ!งขึน เพียงเลื!อนเมาส์ผา่ นวัตถุใดๆ สามารถวัดระยะทาง และ มุมระหว่า
วัตถุ 2 มิติ ตามแกน X, Y ได้ทนั ที
6. Point Cloud : ช่วยให้การแสดงผล Object จากข้อมูล Point Cloud (.rcp และ .rcs) เป็ นเรื! องง่าย แม่นยํามากขึน
และ แสดงผลวัตถุเป็ นรู ปแบบของสี RGB
271
7. Tool Palate: ช่วยให้การใส่ลวดลาย Hatch ง่าย และ เร็ วกว่าเดิม สามารถลากลาย Hatch เข้าไปยังบริ เวณพืนที!ๆ
ต้องการได้ทนั ที ลดขันตอนการทํางานได้มาก