Professional Documents
Culture Documents
1
1.สิ่ งที่เหมือนกันของสิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวกับสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์คืออะไร
1. ขนาดของเซลล์
2. รู ปร่ างของเซลล์
3. ความแข็งของเซลล์
4. ส่ วนประกอบพื้นฐานของเซลล์
2. เพราะเหตุใดนักวิทยาศาสตร์จึงจำแนกสิ่ งมีชีวิตออกเป็ นสิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวกับสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
1. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีความแข็งของเซลล์มากกว่าสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
2. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีส่วนประกอบพื้นฐานของเซลล์ที่แตกต่างจากสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
3. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีรูปร่ างของเซลล์ที่เหมือนกัน ส่ วนสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์มีรูปร่ างของ เซลล์ที่แตก
ต่างกัน
4. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีเพียงเซลล์เดียวก็ด ำรงชีวิตอยูไ่ ด้ แต่สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ตอ้ งมีเซลล์มารวมกลุ่ม
กันจึงจะดำรงชีวิตอยูไ่ ด้
3.ส่ วนประกอบที่ท ำให้เซลล์พืชแตกต่ างจากเซลล์สตั ว์คืออะไร
1. ไซโทพลาซึมกับไรโบโซม
2. เยือ่ หุม้ เซลล์กบั นิวเคลียส
3. ผนังเซลล์กบั คลอโรพลาสต์
4. ไมโทคอนเดรี ยกับนิวคลีโอลัส
4.เซลล์เยือ่ หอมและเซลล์สาหร่ ายหางกระรอกต่างกันอย่างไร
1. เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกมีผนังเซลล์ แต่เซลล์เยือ่ หอมไม่มี
2. เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกมีเยือ่ หุม้ เซลล์ แต่เซลล์เยือ่ หอมไม่มี
3. เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกมีคลอโรพลาสต์ แต่เซลล์เยือ่ หอมไม่มี
4. เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกมีเซลล์คุมมากมาย แต่เซลล์เยือ่ หอมไม่มี
5.เซลล์พืชกับเซลล์สัตว์เมื่อนำมาแช่ในน้ำกลัน่ เซลล์ใดจะแตกง่ายกว่ากัน
1. เซลล์พืช เพราะมีผนังเซลล์
2. เซลล์สตั ว์ เพราะไม่มีผนังเซลล์
3. เซลล์สตั ว์ เพราะไม่มีคลอโรพลาสต์
4. เซลล์พืช เพราะเยือ่ หุม้ เซลล์เปราะกว่า
6.ส่ วนประกอบของเซลล์พืชที่ท ำหน้าที่คล้ายยามคืออะไร
1. ผนังเซลล์
2. นิวเคลียส
3. เยือ่ หุม้ เซลล์
4. ไซโทพลาซึม
7.ข้อใดเป็ นการแพร่ แบบออสโมซีส
1. การฉีดยาฆ่าแมลง
2. การละลายของเกลือในน้ำ
3. การแพร่ ของด่างทับทิบในน้ำ
4. น้ำและแร่ ธาตุออกจากท่อไซเล็มไปสู่ ส่วนต่าง ๆ
8.เมื่อหย่อนเกล็ดด่างทับทิมลงในบีกเกอร์ที่บรรจุน ้ำจะเกิดการแพร่ กระจายขึ้น นักเรี ยนคิดว่าถ้ามีการเพิ่มอุณหภูมิให้
สูงขึ้น อัตราการแพร่ จะเป็ นอย่างไร
1. ช้าลง
2. เร็ วขึ้น
3. เท่าเดิม
4. ไม่มีผลต่ออัตราการแพร่
9.“ในบรรยากาศที่มีแก๊ สคาร์ บอนไดออกไซด์ น้อยหรื อไม่ มีเลยจะมีผลต่ อการเจริ ญเติบโตของพืช” นักเรี ยนเห็นด้วย
กับคำกล่าวข้างต้นหรื อไม่ เพราะเหตุใด
1. เห็นด้วย เพราะพืชใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับการหายใจ
2. เห็นด้วย เพราะแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็ นปั จจัยสำคัญสำหรับการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช
3. ไม่เห็นด้วย เพราะพืชต้องการแก๊สออกซิ เจนช่วยในการเจริ ญเติบโตของพืช
4. ไม่เห็นด้วย เพราะการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืชไม่จ ำเป็ นต้องใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
10.จากรู ป เป็ นใบไม้ที่สกัดคลอโรฟิ ลล์ออก แล้วนำไปหยดสารละลายไอโอดีนได้ผล การทดลองดังรู ป นักเรี ยนคิด
ว่าส่ วนใดของใบไม้ที่ไม่ มีการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
1. 1 และ 2
2. 2 และ 3
3. 3 และ 4
4. 4 และ 1
11. หากเรานำสาหร่ ายมาเลี้ยงไว้ในตูป้ ลา โดยไม่น ำปลามาเลี้ยงไว้ แล้วปิ ดตูเ้ ลี้ยงปลาให้สนิท พบว่าสาหร่ ายที่อยูใ่ น
น้ำจะไม่เจริ ญเติบโตเท่าที่ควร ข้อเท็จจริ งนี้ ยนื ยันผลเรื่ องใด
1 พืชและสัตว์ตอ้ งพึ่งพาอาศัยกันจึงจะอยูร่ อด
2 พืชจะเจริ ญเติบโตได้ตอ้ งอาศัยแก๊สออกซิ เจน
3 ผลการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืชจะเกิดแก๊สออกซิ เจน
4 การสร้างอาหารของพืชจำเป็ นต้องใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
C ไม่เปลี่ยนสี ไม่เกิดแก๊ส
40. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับการพัฒนาความรู้ของมนุษย์
ก. การบันทึกข้อมูล การวิเคราะห์ขอ้ มูล การสังเกต การสรุ ปผล
ข. การสังเกต การบันทึกข้อมูล การวิเคราะห์ขอ้ มูล การสรุ ปผล
ค. การสรุ ปผล การวิเคราะห์ขอ้ มูล การสังเกต การบันทึกข้อมูล
ง. การวิเคราะห์ขอ้ มูล การสรุ ปผล การสังเกต การบันทึกข้อมูล
41. จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้
1. ถึงแม้จะไม่มีขอ้ มูลทางวิทยาศาสตร์การค้นพบความรู ้ทางวิทยาศาสตร์กส็ ามารถเกิดขึ้นได้
2. การค้นพบหลักการ หรื อกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติทุกเรื่ องอาศัยข้อมูลจากการสังเกต และการบันทึกของ
นักวิทยาศาสตร์รุ่นก่อนๆ
3. การบันทึกข้อมูลด้วยความซื่อสัตย์ (ข้อมูลเชื่อถือได้) ผูบ้ นั ทึกควรบันทึกอย่างตรงไปตรงมาตามที่สงั เกต
เห็นโดยไม่มีการแก้ไขหรื อดัดแปลง ข้อมูลตามความเชื่อของตนเอง
ข้อใดถูกต้อง
ก. ข้อ 1,2
ข. ข้อ 1,3
ค. ข้อ 2,3
ง. ข้อ 1,2,3
42. การค้นคว้าหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ สามารถสรุ ปเป็ นขั้นตอนได้ 3 ขั้น คือ
1. ขั้นสำรวจ และรวบรวมข้อมูล
2. ขั้นสงสัยอยากรู้อยากเห็น
3. ขั้นจัดกระทำ และสรุ ปผลการค้นคว้าหาความรู ้ (ทดลอง)
ข้อใดเรี ยงลำดับขั้นตอนได้ถูกต้อง
ก. ข้อ 1,2,3
ข. ข้อ 2,1,3
ค. ข้อ 3,1,2
ง. ข้อ 3,2,1
43. ถ้านักเรี ยนมีหน้าที่บนั ทึกข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ นักเรี ยนควรมีคุณสมบัติที่ส ำคัญคือ
ก. เป็ นคนร่ าเริ ง
ข. เป็ นคนมีเหตุผล
ค. เป็ นคนใจกว้าง
ง. เป็ นคนรอบคอบและซื่อสัตย์
44. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. ทฤษฎีใหม่จะต้องไม่อาศัยข้อมูลของทฤษฎีเดิม
ข. ทฤษฎีใหม่จะเป็ นที่ยอมรับว่าใช้ได้ เมื่อต้องการมีการทดลองยืนยันสนับสนุนทฤษฎีน้ นั
ค. ทฤษฎีใหม่จะเป็ นที่ยอมรับว่าใช้ได้ เมื่อสามารถนำไปอธิ บายปรากฏการณ์ต่างๆได้สอดคล้องกับข้อมูล
ที่ได้จากการทดลอง
ง. ข้อ ก,ค ถูก
45. กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ประกอบด้วยขั้นตอนเรี ยงตามลำดับข้อใด
ก. ระบุปัญหา ตั้งสมมติฐาน ทดลอง สรุ ปผล
ข. ตั้งสมมติฐาน ระบุปัญหา ทดลอง สรุ ปผล
ค. ระบุปัญหา ทดลอง ตั้งสมมติฐาน สรุ ปผล
ง. ตั้งสมมติฐาน ทดลอง ระบุปัญหา สรุ ปผล
56. ถ้าเอาแอมโมเนียมไนเตรตผสมกับแคลซียมไฮดรอกไซด์แล้วได้แก๊สแอมโมเนียมีกลิ่นฉุน อุณหภูมิลดลงจาก
เดิม 15 องศาเซลเซียส ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเป็ นปฏิกิริยาชนิดใด
ก. การแผ่รังสี ความร้อน
ข. การดูดความร้อน
ค. การคายความร้อน
ง. การเก็บความร้อน
57. เมื่อใช้สารส้มแกว่งในน้ำเกลือทำไมจึงไม่ตกตะกอน
ก. เกลือรวมตัวกับสารส้มได้
ข. น้ำเกลือยังเข้มข้นไม่มากพอ
ค. เกลือเป็ นสารที่ละลายน้ำได้
ง. ขนาดโมเลกุลเกลือเล็กกว่าโมเลกุลสารส้ม
58. สารละลายที่พบทัว่ ไปอยูใ่ นสถานะใด
ก. ของแข็ง
ข. ของเหลว
ค. แก๊ส
ง. มีท้ งั ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส
59. ข้อใดไม่ ใช่ สารละลาย
ก. นาก
ข. ทองสำริ ด
ค. พลวง
ง. เหล็กกล้า
60. ตัวทำละลายกับตัวละลายต่างกันหรื อเหมือนกันอย่างไร
ก. เหมือนกันที่ท้ งั คู่อยูใ่ นสถานะเดียวกัน เช่น เป็ นของเหลว แก๊ส หรื อของแข็งด้วยกัน
ข. เหมือนกันที่มีปริ มาณเท่าเทียมกัน
ค. ต่างกันที่ปริ มาณ
ง. ต่างกันที่สถานะของสาร
61. ข้อใดเป็ นความหมายของสารละลายอิ่มตัว
ก. สารละลายที่มีตวั ถูกละลายอยูม่ าก
ข. สารละลายที่มีตวั ถูกละลายอยูด่ ว้ ย
ค. สารละลายที่มีตวั ถูกละลายอยูม่ ากจนไม่สามารถละลายได้อีก
ง. สารละลายที่มีตวั ถูกละลายแยกออกจากตัวทำละลาย
62. ทอง 18 K มีทองคำอยูก่ ี่เปอร์เซ็นต์
ก. 50 %
ข. 25 %
ค. 75 %
ง. 90 %
63. ข้อใดไม่ ใช่ น ้ำเป็ นตัวทำละลาย
ก. น้ำยาล้างตา
ข. น้ำอัดลม
ค. น้ำเกลือ
ง. แอลกอฮอล์เช็ดแผล
64. อากาศมีสารใดเป็ นตัวทำละลายและตัวถูกละลาย
ก. แก๊สออกซิเจนเป็ นตัวทำละลาย แก๊สอื่นๆเป็ นตัวถูกละลาย
ข. แก๊สไนโตรเจนเป็ นตัวทำละลาย แก๊สอื่นๆเป็ นตัวถูกละลาย
ค. แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์เป็ นตัวทำละลาย แก๊สอื่นๆเป็ นตัวถูกละลาย
ง. แก๊สอื่นๆเป็ นตัวทำละลาย แก๊สไนโตรเจน และแก๊สออกซิ เจน เป็ นตัวถูกละลาย
65. วิธีที่ง่ายที่สุดในการทดสอบว่าสารเป็ นกรด กลาง หรื อเบส คือข้อใด
ก. นำไปทดสอบการนำไฟฟ้ า
ข. ทดสอบโดยทำปฏิกิริยากับหินปูน
ค. ทดสอบโดยทำปฏิกิริยากับโลหะหรื ออโลหะ
ง. ทดสอบกับกระดาษลิตมัส
66. กรดเมื่อทำปฏิกิริยากับหินปูน จะเกิดแก๊สอะไร
ก. แก๊สไฮโดรเจน
ข. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ค. แก๊สแอมโมเนีย
ง. โซเดียมคลอไรด์
67. ภาชนะใดเหมาะสำหรับใช้บรรจุสารละลายกรด
ก. แก้ว
ข. สังกะสี
ค. พลาสติก
ง. อะลูมิเนียม
68. กรดชนิดใดนำมาทำน้ำส้มสายชูเทียม
ก. กรดเกลือ
ข. กรดแอซิ ติก
ค. กรดกำมะถัน
ง. กรดคาร์บอนิก
69. สารในข้อใดเมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำมันแล้วได้สบู่
ก .โซเดียมซัลเฟต
ข. โซเดียมไฮดรอกไซด์
ค. โซเดียมคลอไรด์
ง. โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต
70. สารใดเมื่อทำปฏิกิริยากับแอมโมเนียมไนเตรตได้แก๊สแอมโมเนีย
ก. น้ำมะนาว , น้ำมะกรู ด
ข. น้ำมะขาม , ด่างคลี
ค. น้ำปูนใส , น้ำส้ม
ง. ผงฟู , น้ำปูนใส
71. สารข้อใดเป็ นส่ วนผสมของยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
ก. โซเดียมไฮดรอกไซด์
ข. แคลเซี ยมไฮดรอกไซด์
ค. แมกนีเซี ยมไฮดรอกไซด์
ง. แอมโมเนียมไฮดรอกไซด์
72 สารใดใช้ใส่ ขนมเพื่อให้ขนมฟูน่ารับประทาน
ก. เกลือ
ข. เบสอ่อน
ค. โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต
ง.แคลเซี ยมไฮโดรเจนคาร์บอเนต
73. น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำมีสารละลายกรดชนิดใดผสมอยู่
ก. ไฮโดรซัลฟิ วริ ก
ข. ไฮโดรคลอริ ก
ค. ซัลฟิ วริ ก
ง. ไนตริ ก
74. สารใดใช้ใส่ ขนมเพื่อให้ขนมฟูน่ารับประทาน
ก. เกลือ
ข. เบสอ่อน
ค. โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต
ง.แคลเซี ยมไฮโดรเจนคาร์บอเนต
94. ข้อใดกล่าวผิด
1. การแพร่ เกิดขึ้นในสถานะของเหลวเท่านั้น
2. การออสโมซิ ส คือ การแพร่ ของน้ำผ่านเยือ่ กั้นบางๆ
95. สิ่ งจำเป็ น [2] และ [3] ในปฏิกิริยาการสังเคราะห์ดว้ ยแสง คือสิ่ งใด
1. แสงแดด , อาหาร
2. แสงสว่าง , คลอโรพลาสต์
3. คลอโรฟิ ลล์ , แสงสว่าง
4. เม็ดสี เขียว , แสง
97. ถ้ากำหนดหมายเลขต่อไปนี้
1 = แช่ใบชบาด่างในน้ำเย็น
2 = ต้มใบในแอลกอฮอลล์
3 = ต้มใบในน้ำเดือด
4 = เติมสารละลายไอโอดีนลงบนใบชบาด่าง
ขั้นตอนการตรวจสอบหาแป้ งในใบชบาด่างเป็ นไปตามขั้นตอนใด
1. 1 2 3 4
2. 3 2 1 4
3. 4 3 2 1
4. 3 2 4 1
98. แก๊ส [1] และแก๊ส [5] คืออะไรตามลำดับ
1. ออกซิ เจน, ออกซิเจน
2. ออกซิ เจน, คาร์บอนไดออกไซด์
3. คาร์บอนไดออกไซด์, คาร์บอนไดออกไซด์
4. คาร์บอนไดออกไซด์, ออกซิเจน
109. ถ้าสารละลายชนิดหนึ่งมีสถานะเป็ นของแข็ง ประกอบด้วยสาร A 31% สาร N 29% นอกนั้นเป็ นสาร T สารใด
เป็ นตัวทำละลาย
1. A
2. N
3. T
4. A และ T
110. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. การเคลื่อนที่ของอนุภาคแก๊สช้ากว่าในของเหลว แต่เร็ วกว่าในของแข็ง
2. น้ำกลายเป็ นไอน้ำ โมเลกุลของน้ำมีขนาดเล็กลง
3. อนุภาคของแข็งมีการเคลื่อนที่จ ำกัด ส่ วนใหญ่เป็ นการสัน ่
4. ของแข็งบีบอัดได้ยาก เนื่องจากมีอนุภาคใหญ่มาก
111. น้ำ 50 กรัม 30 องศาเซลเซียส ทำให้ร้อนขึ้นเป็ น 75 องศาเซลเซี ยส ต้องใช้พลังงานความร้อนกี่แคลอรี
1. 1,250
2. 1,500
3. 2,250
4. 3,750
112. การที่สารใดสารหนึ่งไม่ละลายน้ำ เกี่ยวข้องกับพลังงานการละลายอย่างไร
1. พลังงานการละลายมีค่าเป็ นลบ
2. พลังงานไฮเดรชันมากกว่าพลังงานโครงร่ างผลึก
3. พลังงานไฮเดรชันมีค่าน้อยกว่าพลังงานโครงร่ างผลึก
4. พลังงานของการละลายมีค่าเท่ากับพลังงานโครงร่ างผลึก
113. รถยนต์คนั หนึ่งเคลื่อนที่ดว้ ยอัตราเร็วคงที่ 40 km/hr ในเวลา 3 hr รถยนต์คนั นี้เคลื่อนที่ได้ระยะทางเท่าใด
1. 40 km
2. 80 km
3. 120 km
4. 160 km
114. ความสัมพันธ์คู่ใดถูกต้อง
1. ใช้คีมคีบถ่านแล้วมือร้อน- การพาความร้อน
2. การเผาเส้นลวด – การนำความร้อน
3. ช้อนโลหะจุ่มน้ำร้อน – การพาความร้อน
4. ลมมรสุ มที่พดั ผ่านส่ วนต่างๆของโลก – การแผ่รังสี
121. อุปกรณ์ในข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับการพยากรณ์อากาศ
1. บารอมิเตอร์
2. ไฮกรอมิเตอร์
3. แอลติมิเตอร์
4. เทอร์มอมิเตอร์
122. ไซโคลน เกิดขึ้นได้เมื่อใด
1. ความกดอากาศเหนือพื้นดินและพื้นน้ำต่างกัน
2. ความกดอากาศในสองบริ เวณต่างกันมาก
3. หย่อมความกดอากาศต่ำมีบริ เวณแคบๆ
4. ลมเย็นปะทะกับลมร้อน
123.แก๊สที่เป็ นสาเหตุให้เกิดฝนกรด เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์
1. แก๊สที่เป็ นสาเหตุให้เกิดฝนกรด เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์
2. แก๊สที่ก่อให้เกิดฝนกรด ล้วนมีผลต่อระบบทางเดินหายใจของร่ างกายมนุษย์
3. น้ำฝนกรดจะกัดกร่ อนหินได้ทุกประเภท
4. น้ำฝนกรดทำให้ท้ งั โลหะและอโลหะผุกร่ อนได้เร็ วช้าต่างกัน
124. ผลของการเพิ่มปริ มาณสาร CFC ในบรรยากาศ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่ งต่างๆต่อไปนี้ยกเว้นข้อใด
1. ทำให้แก๊สออกซิเจน (O2) และแก๊สโอโซน (O3) ลดปริ มาณลง
2. ทำให้อากาศมีอุณหภูมิสูงขึ้น
3. ทำให้เพิ่มปริ มาณผูป้ ่ วยจากการเป็ นโรคต้อกระจก
4. ทำให้ผคู ้ นที่อาบแดดเป็ นโรคผิวหนังไหม้เกรี ยมได้ง่ายขึ้น
125.ข้ อความใดถูกต้ อง
ก. สิ่ งมีชีวิต 1 ชนิด มี 1 เซลล์
ข. เซลล์เป็ นหน่วยที่เล็กที่สุดของสิ่ งมีชีวิตทุกชนิด
ค. เซลล์หลายๆ เซลล์มารวมกันเรี ยกว่า อวัยวะ
ง. เซลล์เป็ นสิ่ งแรกที่ศึกษาพบ
126.ข้ อใดต่ อไปนีจ้ ัดเป็ นสิ่งมีชีวติ เซลล์เดียวทั้งหมด
ก. อะมีบา คลอเรลลา พลานาเรี ย
ข. พารามีเซียม พลานาเรี ย ไดอะตอม
ค. อะมีบา พารามีเซียม คลอเรลลา
ง. พลานาเรี ย ไฮดรา ไดอะตอม
127.โครงสร้ างใดที่พบได้ เฉพาะในเซลล์พชื
ก. แวคิวโอลและเซนทริ โอล
ข. เยือ่ หุม้ เซลล์และไมโทคอนเดรี ย
ค. ผนังเซลล์และคลอโรพลาสต์
ง. ผนังเซลล์และเซนทริ โฮล
128.ส่ วนประกอบใดที่พบได้เฉพาะเซลล์สัตว์
ก. แวคิวโอล ข. เซนทริ โอล
ค. คลอโรพลาสต์ ง. เยือ่ หุม้ เซลล์
129.ข้ อความใดถูกต้ อง
ก. คลอโรพลาสต์พบในเซลล์พืชคลอโรฟิ ลล์พบในเซลล์สตั ว์
ข. คลอโรพลาสต์เป็ นออร์แกเนลล์ คลอโรฟิ ลล์เป็ นรงควัตถุ
ค. ทั้งคลอโรพลาสต์และคลอโรฟิ ลล์พบในเซลล์สตั ว์
ง. ทั้งคลอโรพลาสต์และคลอโรฟิ ลล์ให้สีเขียว
130. ข้ อใดถูกต้ องเกีย่ วกับการแพร่ ของสาร
ก. อนุภาคของสารไม่เกี่ยวข้องกับการแพร่
ข.ถ้าอุณหภูมิลดลง การแพร่ จะเกิดได้รวดเร็ ว
ค.สารที่มีอนุภาคเล็กจะแพร่ ได้ชา้ กว่าสารที่มีอนุภาคใหญ่
ง.เป็ นการเคลื่อนที่ของสารจากบริ เวณที่มีความเข้มข้นของสารมากไปยังบริ เวณที่มีความเข้มข้นของสาวน้อย
131. การแพร่ ของน้ำในดิน เข้ าสู่ ลำต้ นพืชจะต้ องผ่ านโครงสร้ างใดของพืช
ก. ไซเล็ม ข. โฟลเอ็ม
ค. รากแก้ว ง. ขนราก
132. เซลล์ ของพืชบริเวณใดมีคลอโรพลาสต์ มากที่สุด และบริเวณใดไม่ พบคลอโรพลาสต์ เลย
ก. ใบ ลำต้น ข. ลำต้น ราก
ค. ใบ ราก ง. ลำต้น ใบ
250. เหวแห่ งหนึ่งอยู่ลกึ จากหน้ าผา 2,300 เมตร และหน้ าผาอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร
ความ ดันอากาศที่ก้นเหวเป็ นกีม่ ิลลิเมตรของปรอท
ก. 660
ข. 760
ค. 850
ง. 860
251. เครื่องใช้ ทุกข้ ออาศัยความดันอากาศยกเว้นข้ อใด
ก. หลอดดูดกาแฟ
ข. ฝักบัวอาบน้ำ
ค. กระบอกฉีดยา
ง. สเปรย์
252.โดยเฉลีย่ ที่ระดับความสู งจากพืน้ ดิน 11 เมตรระดับปรอทจะลดลงกีม่ ิลลิเมตร
ก. 760 ข. 759 ค. 76 ง. 1
253. เอ อยู่บนยอดเขาแห่ งหนึ่งเมื่อวัดความสู งของปรอทได้ 610 มิลลิเมตรของปรอทยอดเขาแห่ งนีส้ ู ง
จากระดับน้ำทะเลกีก่ โิ ลเมตร
ก. 1,650
ข. 165
ค. 16.5
ง. 1.65
1 5
2 6
3 7
4 8
289. ผนังเซลล์ของเซลล์พืชประกอบด้วยสารชนิดใด
ก. โปรตีน ข. ไขมัน ค. เซลลูโลส ง. คลอโรพลาสต์
290. การที่นกั เรี ยนมีหน้าตาคล้ายแม่และมีลกั ยิม้ เหมือนพ่อ เนื่องจากส่ วนประกอบใดของเซลล์
ก. นิวเคลียส ข. ไรโบโซม ค. ไลโซโซม ง. ไมโทคอนเดรี ย
291. คลอโรพลาสต์ในเซลล์พืชทำหน้าที่อะไร
ก. ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง ข. ควบคุมการทำงานของเซลล์ท้ งั หมด
ค. ช่วยกำจัดของเสี ยให้ออกจากเซลล์ ง. ควบคุมการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
292. ส่ วนประกอบใดของเซลล์พืชที่ท ำให้เซลล์พืชคงรู ปร่ างอยูไ่ ด้ถึงแม้ตายไปแล้วนับ 100 ปี
ก. ผนังเซลล์ ข. เยือ่ หุม้ เซลล์ ค. นิวเคลียส ง. คลอโรฟี ลล์
จากรู ปเซลล์ ที่นักเรียนได้ ตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ แล้ ว ต่ อไปนี้ จงใช้ ตอบคำถามข้ อ 17-20
1 2 3
-3-
293. เพราะเหตุใดเซลล์เหล่านี้จึงมีรูปร่ างแตกต่างกัน
ก. มีหน้าที่แตกต่างกัน ข. เป็ นเซลล์ต่างชนิดกัน
ค. มีโครงสร้างพื้นฐานต่างกัน ง. ถูกทุกข้อ
294. หมายเลขใดจัดเป็ นเซลล์ของสัตว์
ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4
295. เซลล์หมายเลขใดที่สามารถสร้างอาหารเองได้โดยการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
ก. 1,2 ข. 2,3 ค. 3,4 ง. 1,4
296. เซลล์หมายเลขใด เป็ นลักษณะของเซลล์พืชที่อยูบ่ นบก
ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4
297. ภาพยูกลีนาที่มองเห็นจากกล้องจุลทรรศน์(ดังภาพ) นักเรี ยนจะต้องเลื่อนสไลด์อย่างไร ภาพยูกลีนาจึงจะอยูท่ ี่
จุดศูนย์กลางของสนามภาพกล้องจุลทรรศน์พอดี
ก. เลื่อนลงแล้วเลื่อนไปทางซ้ายมือ ข. เลื่อนลงแล้วเลื่อนไปทางขวามือ
ค. เลื่อนขึ้นแล้วเลื่อนไปทางซ้ายมือ ง. เลื่อนลงแล้วเลื่อนไปทางขวามือ
305. ข้อใดบอกความหมายของเซลล์ได้ถูกต้อง
ก. หน่วยที่เล็กที่สุดของพืชและสัตว์
ข. หน่วยของโปรตีนในเซลล์พืช
ค. หน่วยของนิวเคลียสในเซลล์พืช
ง. หน่วยของคลอโรฟี ลล์ในเซลล์พืช
306. นักวิทยาศาสตร์ที่คน้ พบเซลล์ของสิ่ งมีชีวิตคนแรก คือใคร
ก. ชไลเดน ข. กาลิเลโอ
ค. ชวานน์ ง. โรเบิร์ต ฮุก
307. หากต้องการจะตรวจดูเชื้อแบคทีเรี ย ควรใช้เครื่ องมือ ชนิดใดจึงจะเหมาะสมที่สุด
ก. แว่นขยาย ข. กล้องจุลทรรศน์
ค. กล้องส่ องทางไกล ง. กล้องโทรทรรศน์
308. สิ่ งใดเป็ นเกณฑ์การจำแนกสิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวกับ สิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
ก. จำนวนเซลล์ ข. ขนาดของเซลล์
ค. รู ปร่ างของเซลล์ ง. ส่ วนประกอบของเซลล์
309. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวกับสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์มีสิ่งใดที่ เหมือนกัน
ก. ขนาดของเซลล์
ข. รู ปร่ างของเซลล์
ค. ความแข็งของเซลล์
ง. ส่ วนประกอบพื้นฐานของเซลล์
310. เพราะเหตุใดนักวิทยาศาสตร์จึงจำแนกสิ่ งมีชีวิตออก เป็ นสิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวกับสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
ก. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีความแข็งของเซลล์มากกว่าสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
ข. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีส่วนปะกอบพื้นฐานของเซลล์ที่แตกต่างจากสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
ค. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีรูปร่ างเซลล์ที่เหมือนกัน ส่ วนสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์มีรูปร่ างเซลล์ที่แตกต่างกัน
ง. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีเพียงเซลล์เดียวก็ด ำรงชีวิตอยูไ่ ด้ แต่สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ตอ้ งมีเซลล์ มารวมกลุ่มกันจึง
จะดำรงชีวิตอยูไ่ ด้
311. ส่ วนประกอบของเซลล์พืชในข้อใดทำให้ เซลล์พืช แข็งแรงกว่าเซลล์สตั ว์
ก. ผนังเซลล์ ข. เยือ่ หุม้ เซลล์
ค. ไซโทพลาซึม ง. นิวเคลียส
312. ส่ วนประกอบในข้อใดพบแต่ในเซลล์พืช
ก. นิวเคลียส ข. เยือ่ หุม้ เซลล์
ค. ไซโทพลาซึม ง. คลอโรพลาสต์
313. ส่ วนประกอบของเซลล์ส่วนใดทีไม่ พบ ในเซลล์สตั ว์
ก. ผนังเซลล์ ข. นิวเคลียส
ค. เยือ่ หุม้ เซลล์ ง. ไซโทพลาซึ ม
จงใช้ ภาพของเซลล์ที่กำหนดให้ ประกอบ
การตอบคำถามข้ อ 314-316
A. B.
C. D.
5
3
ก. ต้นอ้อย ข. ต้นกระสัง
ค. ต้นกล้วย ง. ต้นมะพร้าว
342. เรานับอายุของพืชขนาดใหญ่จากวงปี นักเรี ยนคิดว่าที่จริ งแล้ววงปี คือวงของอะไร
ก. เนื้อไม้
ข. เปลือกไม้
ค. ท่อลำเลียงน้ำ
ง. ท่อลำเลียงอาหาร
343. จากรู ป ต้นไม้ตน้ นี้ มีอายุกี่ปี
ก. มีอายุ 2 ปี ข. มีอายุ 3 ปี
ค. มีอายุ 4 ปี ง. มีอายุ 5 ปี
กระดาษสา กระดาษดำ
กระดาษแก้วใส
หลอดแก้ว
อ่างน้ำ
พืชน้ำ