You are on page 1of 68

ข้ อสอบวิทยาศาสตร์ ชั้นม.

1
1.สิ่ งที่เหมือนกันของสิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวกับสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์คืออะไร
1. ขนาดของเซลล์
2. รู ปร่ างของเซลล์
3. ความแข็งของเซลล์
4. ส่ วนประกอบพื้นฐานของเซลล์
2. เพราะเหตุใดนักวิทยาศาสตร์จึงจำแนกสิ่ งมีชีวิตออกเป็ นสิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวกับสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
1. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีความแข็งของเซลล์มากกว่าสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
2. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีส่วนประกอบพื้นฐานของเซลล์ที่แตกต่างจากสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
3. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีรูปร่ างของเซลล์ที่เหมือนกัน ส่ วนสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์มีรูปร่ างของ เซลล์ที่แตก
ต่างกัน
4. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีเพียงเซลล์เดียวก็ด ำรงชีวิตอยูไ่ ด้ แต่สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ตอ้ งมีเซลล์มารวมกลุ่ม
กันจึงจะดำรงชีวิตอยูไ่ ด้
3.ส่ วนประกอบที่ท ำให้เซลล์พืชแตกต่ างจากเซลล์สตั ว์คืออะไร
1. ไซโทพลาซึมกับไรโบโซม
2. เยือ่ หุม้ เซลล์กบั นิวเคลียส
3. ผนังเซลล์กบั คลอโรพลาสต์
4. ไมโทคอนเดรี ยกับนิวคลีโอลัส
4.เซลล์เยือ่ หอมและเซลล์สาหร่ ายหางกระรอกต่างกันอย่างไร
1. เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกมีผนังเซลล์ แต่เซลล์เยือ่ หอมไม่มี
2. เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกมีเยือ่ หุม้ เซลล์ แต่เซลล์เยือ่ หอมไม่มี
3. เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกมีคลอโรพลาสต์ แต่เซลล์เยือ่ หอมไม่มี
4. เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกมีเซลล์คุมมากมาย แต่เซลล์เยือ่ หอมไม่มี
5.เซลล์พืชกับเซลล์สัตว์เมื่อนำมาแช่ในน้ำกลัน่ เซลล์ใดจะแตกง่ายกว่ากัน
1. เซลล์พืช เพราะมีผนังเซลล์
2. เซลล์สตั ว์ เพราะไม่มีผนังเซลล์
3. เซลล์สตั ว์ เพราะไม่มีคลอโรพลาสต์
4. เซลล์พืช เพราะเยือ่ หุม้ เซลล์เปราะกว่า
6.ส่ วนประกอบของเซลล์พืชที่ท ำหน้าที่คล้ายยามคืออะไร
1. ผนังเซลล์
2. นิวเคลียส
3. เยือ่ หุม้ เซลล์
4. ไซโทพลาซึม
7.ข้อใดเป็ นการแพร่ แบบออสโมซีส
1. การฉีดยาฆ่าแมลง
2. การละลายของเกลือในน้ำ
3. การแพร่ ของด่างทับทิบในน้ำ
4. น้ำและแร่ ธาตุออกจากท่อไซเล็มไปสู่ ส่วนต่าง ๆ
8.เมื่อหย่อนเกล็ดด่างทับทิมลงในบีกเกอร์ที่บรรจุน ้ำจะเกิดการแพร่ กระจายขึ้น นักเรี ยนคิดว่าถ้ามีการเพิ่มอุณหภูมิให้
สูงขึ้น อัตราการแพร่ จะเป็ นอย่างไร
1. ช้าลง
2. เร็ วขึ้น
3. เท่าเดิม
4. ไม่มีผลต่ออัตราการแพร่
9.“ในบรรยากาศที่มีแก๊ สคาร์ บอนไดออกไซด์ น้อยหรื อไม่ มีเลยจะมีผลต่ อการเจริ ญเติบโตของพืช” นักเรี ยนเห็นด้วย
กับคำกล่าวข้างต้นหรื อไม่ เพราะเหตุใด
1. เห็นด้วย เพราะพืชใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับการหายใจ
2. เห็นด้วย เพราะแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็ นปั จจัยสำคัญสำหรับการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช
3. ไม่เห็นด้วย เพราะพืชต้องการแก๊สออกซิ เจนช่วยในการเจริ ญเติบโตของพืช
4. ไม่เห็นด้วย เพราะการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืชไม่จ ำเป็ นต้องใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
10.จากรู ป เป็ นใบไม้ที่สกัดคลอโรฟิ ลล์ออก แล้วนำไปหยดสารละลายไอโอดีนได้ผล การทดลองดังรู ป นักเรี ยนคิด
ว่าส่ วนใดของใบไม้ที่ไม่ มีการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
1. 1 และ 2
2. 2 และ 3
3. 3 และ 4
4. 4 และ 1
11. หากเรานำสาหร่ ายมาเลี้ยงไว้ในตูป้ ลา โดยไม่น ำปลามาเลี้ยงไว้ แล้วปิ ดตูเ้ ลี้ยงปลาให้สนิท พบว่าสาหร่ ายที่อยูใ่ น
น้ำจะไม่เจริ ญเติบโตเท่าที่ควร ข้อเท็จจริ งนี้ ยนื ยันผลเรื่ องใด
1 พืชและสัตว์ตอ้ งพึ่งพาอาศัยกันจึงจะอยูร่ อด
2 พืชจะเจริ ญเติบโตได้ตอ้ งอาศัยแก๊สออกซิ เจน
3 ผลการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืชจะเกิดแก๊สออกซิ เจน
4 การสร้างอาหารของพืชจำเป็ นต้องใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

12. กิจกรรมใดช่วยเพิ่มอัตราการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช


1. ใส่ ปุ๋ยเคมีให้พืชก่อนฝนตก
2. ใส่ ปุ๋ยเคมีให้พืชหลังฝนตก
3. เผาหญ้าแห้งในเวลากลางวัน
4. เผาหญ้าแห้งในเวลากลางคืน
13. ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงคืออะไร
1. น้ำตาล แป้ ง น้ำ
2. น้ำตาล แก๊สออกซิเจน น้ำ
3. แป้ ง น้ำตาล คลอโรฟิ ลล์ น้ำ
4. น้ำตาล แก๊สออกซิเจน คลอโรฟิ ลล์
14. ผลดีที่จะได้รับจากการปลูกพืชในบริ เวณที่เกิดมลภาวะของอากาศคืออะไร
1. เพิ่มปริ มาณออกซิเจนในอากาศ
2. เป็ นที่อยูอ่ าศัยของสัตว์นานาชนิด
3. เป็ นแหล่งอาหารและพลังงานของสิ่ งมีชีวิต
4. ทำให้ชุมชนบริ เวณนั้นมีความร่ มรื่ นสบายตา
15. กลุ่มเซลล์ที่ท ำหน้าที่เป็ นท่อลำเลียงน้ำพบได้ในส่ วนใดของพืช
1. เฉพาะราก
2. รากและลำต้น
3. ราก ลำต้น และกิ่ง
4. ราก ลำต้น กิ่ง และใบ
16. โครงสร้างที่พืชใช้ในการลำเลียงน้ำ–เกลือแร่ ข้ ึนสู่ ล ำต้น กิ่ง และใบคืออะไร
1. ไซเล็ม
2. โฟลเอ็ม
3. ระบบราก
4. แคมเบียม

17. ทิศทางการลำเลียงอาหารของพืชส่ วนใหญ่มีทิศทางในลักษณะใด


1 จากราก ลำต้น กิ่ง ใบ
2 จากใบ กิ่ง ลำต้น ราก
3 จากใบ กิ่ง ลำต้น กิ่ง ดอก
1. 1 และ 2
2. 2 และ 3
3. 1 และ 3
4. เฉพาะ 2
18. ข้อสรุ ปใดถูกต้อง
1. ดอกครบส่ วนจะเป็ นดอกสมบูรณ์เพศเสมอ
2. ดอกสมบูรณ์เพศต้องเป็ นดอกครบส่ วนเสมอ
3. ดอกไม่ครบส่ วนต้องเป็ นดอกสมบูรณ์เพศเสมอ
4. ดอกไม่สมบูรณ์เพศอาจจะเป็ นดอกครบส่ วนก็ได้
19. ส่ วนประกอบที่ท ำให้ดอกครบส่ วนเหมือนกับ ดอกสมบูรณ์เพศคืออะไร
1. มีรังไข่และกลีบดอก
2. มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอก
3. มีเกสรเพศผูแ้ ละเกสรเพศเมีย
4. มีกลีบเลี้ยง กลีบดอก และเกสรเพศผู ้
20. คำกล่าวใดไม่ ถกู ต้ อง
1. ถ้ามีการถ่าย(ละออง)เรณูแล้วจะต้องมีการปฏิสนธิ เกิดขึ้นเสมอ
2. การถ่าย(ละออง)เรณูตอ้ งอาศัยลมน้ำ สัตว์ หรื อคนช่วยให้เกิดขึ้น
3. การถ่าย(ละออง)เรณูในดอกเดียวกันจะเกิดเฉพาะดอกสมบูรณ์เพศเท่านั้นการถ่าย(ละออง)เรณู หมาย
ถึง การที่ละอองเรณูไปตกลงบนยอดเกสรเพศเมียเท่านั้น
21. ถ้าสมศักดิ์ตอ้ งการจะปลูกส้มเขียวหวานให้มีลกั ษณะผลและรสเหมือนต้นพ่อแม่แล้ว สมศักดิ์ตอ้ งใช้วิธีการใด
1. การติดตา
2. การตอนกิ่ง
3. การทาบกิ่ง
4. การเพาะด้วยเมล็ด
22. การหุบของใบไมยราบอย่างรวดเร็ว เมื่อเราแตะเบา ๆ เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่ งเร้าใด
1. แก๊ส
2. ความชื้น
3. อุณหภูมิ
4. การสัมผัส

23. การเคลื่อนไหวใดไม่ สัมพันธ์ กบั ทิศทางของสิ่ งเร้า


1. การเจริ ญของรากเข้าหาน้ำ
2. การหุบและบานของดอกไม้
3. การเจริ ญของยอดพืชเข้าหาแสง
4. การหันหาแสงของดอกทานตะวัน
26. การตัดแต่งยีนสำหรับพืชบางชนิดเพื่อเพิ่มผลผลิตของพืชนั้น ฝ่ ายที่ต่อต้านการดำเนินงานลักษณะดังกล่าวนี้มีขอ้
ห่วงใยในเรื่ องใดมากที่สุด
1. การกลายของพันธุ์พืช
2. วัฏจักรการเจริ ญเติบโต
3. ผลข้างเคียงต่อผูบ้ ริ โภค
4. การขยายพันธุ์เพื่อเพิ่มผลผลิต
27. ถ้านักเรี ยนต้องการจำแนกสารชนิดหนึ่งว่าเป็ นสารเนื้ อเดียวหรื อสารเนื้ อผสม นักเรี ยนควรใช้วิธีใด เพราะเหตุใด
1. การกลัน่ ถ้ามีสารตกค้างในขวดกลัน่ จะเป็ นสารเนื้ อผสม
2. การสังเกต ถ้ามองเห็นไม่เป็ นเนื้อเดียวกันจะเป็ นสารเนื้ อผสม
3. การกรอง ถ้าไม่มีสารตกค้างบนกระดาษกรองจะเป็ นสารเนื้ อเดียว
4. สามารถทำได้ทุกวิธี
28. เพราะเหตุใดจึงจัดสารละลายเป็ นสารเนื้ อเดียว
1. สารละลายมีท้ งั ตัวทำละลายและตัวละลาย
2. สารละลายประกอบด้วยน้ำมากกว่าร้อยละ 90
3. สารละลายมีสารตั้งแต่ 2 ชนิดผสมกันโดยไม่เกิดปฏิกิริยาเคมี
4. สารละลายเกิดจากสารบริ สุทธิ์ ต้ งั แต่ 2 ชนิดมาผสมกันและมองเห็นเป็ นเนื้ อเดียว
29. ถ้าเราต้องการทำให้สสารที่มีสถานะเป็ นของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็ นแก๊สจะต้องทำสิ่ งใด
1. เพิ่มมวลของอนุภาค
2. ลดน้ำหนักของอนุภาค
3. เพิ่มอิเล็กตรอนของอนุภาค
4. ลดแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค
30. ถ้ามีสารละลายเป็ นของเหลวใสอยูใ่ นขวดแก้ว และสมศักดิ์ตอ้ งการทราบว่าเป็ นกรดหรื อเบส สมศักดิ์ควร
ทดสอบด้วยวิธีใด
1. ดมและชิม
2. ทดสอบกับหินปูน
3. ทดสอบกับกระดาษลิตมัส
4. ทดสอบกับเจนเชียนไวโอเลต
31. พิจารณาข้อมูลแล้วตอบคำถาม

สารละลาย ทดสอบกับ ทำปฏิกิริยา


กระดาษลิตมัส
กับแมกนีเซี ยม

A น้ำเงินเป็ นแดง เกิดแก๊ส

B แดงเป็ นน้ำเงิน ไม่เกิดแก๊ส

C ไม่เปลี่ยนสี ไม่เกิดแก๊ส

จากข้อมูลดังกล่าว สารละลาย A, B และ C ควรเป็ นสารละลายใดตามลำดับ


1. น้ำสบู่ น้ำอัดลม น้ำปูนใส
2. น้ำปูนใส น้ำมะนาว น้ำเชื่อม
3. น้ำมะขาม น้ำปูนใส น้ำเกลือ
4. น้ำส้มสายชู น้ำเกลือ น้ำปูนใส
32. ถ้าต้องการเพิ่มค่า pH ใหกับสารละลายกรด นักเรี ยนควรทำวิธีใด
1. ผสมด้วยเบส
2. ผสมด้วยกรด
3. ผสมด้วยน้ำกลัน่
4. ถูกทั้งข้อ 1 และ 3
33. เมื่อนำขี้เถ้าจากเตาหุงต้มมาละลายในน้ำน้ำขี้เถ้าจะมีสมบัติคล้ายสบู่ และจะทำปฏิกิริยากับกระดาษลิตมัสใน
ลักษณะใด
1. ไม่เปลี่ยนสี กระดาษลิตมัส
2. เปลี่ยนสี กระดาษลิตมัสจากสี เหลืองเป็ นสี ส้ม
3. เปลี่ยนสี กระดาษลิตมัสจากสี แดงเป็ นสี น ้ำเงิน
4. เปลี่ยนสี กระดาษลิตมัสจากสี น ้ำเงินเป็ นสี แดง
34.“สารละลาย A มีความเข้ มข้ นมากกว่ าสารละลาย B” คำกล่าวนี้หมายถึงอะไรมากกว่าเมื่อปริ มาตรของสารละลาย
เท่ากัน
1. ตัวละลาย
2. ตัวทำละลาย
3. ตัวทำให้อิ่มตัว
4. ตัวแปรค่าเข้มข้น
33. เมื่อละลายสาร A ในตัวทำละลายชนิดหนึ่งพบว่าเมื่ออุณหภูมิของสารละลายเพิ่มขึ้น ความสามารถในการละลาย
ของสาร A จะลดลง ข้อสรุ ปใดถูกต้อง
1. สาร A อิ่มตัวที่อุณหภูมิปกติ
2. สาร A มีสถานะเดียวกับตัวทำละลาย
3. อุณหภูมิไม่เกี่ยวข้องกับการละลายของสาร
4. การละลายของสาร A เป็ นการคายความร้อน
34. สารละลายอิ่มตัวสามารถละลายตัวละลายได้อีก ถ้ามีการเพิ่มสิ่ งใด
1. ปริ มาตร
2. ความดัน
3. อุณหภูมิ
4. ตัวทำละลาย
35. สิ่ งใดที่บอกได้วา่ แรงเป็ นปริ มาณเวกเตอร์
1. ขนาดและทิศทาง
2. ขนาดและระยะทาง
3. ทิศทางและอัตราเร็ ว
4. ระยะทางและผลรวมของแรง
36. ข้อสรุ ปใดกล่าวถูกต้อง
1. การกระจัดและระยะทางของวัตถุมีค่าไม่เท่ากันเสมอ
2. การกระจัดจะมีค่ามากที่สุดเมื่อกลับมายังจุดเริ่ มต้น
3. การบอกระยะทางของวัตถุตอ้ งบอกทั้งขนาดและทิศทาง
4. การบอกการกระจัดของวัตถุตอ้ งบอกทั้งขนาดและทิศทาง
37. ตัวของหม้อหรื อกระทะนิยมทำด้วยอะลูมิเนียมเพราะเหตุใด
1. นำความร้อนได้ดี
2. พาความร้อนได้ดี
3. จุความร้อนได้มาก
4. ทำเป็ นรู ปทรงต่าง ๆ ได้ง่าย

38. ถ้านักเรี ยนสวมเสื้ อสี ด ำแล้วยืนกลางแดดจะรู ้สึกร้อนกว่าสวมเสื้ อสี อื่นเพราะเหตุใด


1. สี ด ำดูดความร้อนได้ดี
2. สี ด ำคายความร้อนได้ดี
3. สี ด ำส่ งผ่านความร้อนได้ดี
4. สี ด ำสะท้อนความร้อนได้ดี
39. เพราะเหตุใดจึงนิยมติดเครื่ องปรับอากาศไว้บริ เวณส่ วนบนของห้องหรื ออาจติดกับเพดานห้อง
1. พื้นที่ใช้สอยมีเท่าเดิม ไม่ท ำความลำบากให้กบั ผูใ้ ช้
2. อากาศร้อนสามารถระบายออกจากห้องได้รวดเร็ วขึ้น
3. อากาศที่ออกมาจากเครื่ องปรับอากาศมีความเย็นมาก
4. อากาศร้อนมีความหนาแน่นน้อยและจะลอยตัวสู งขึ้น ทำให้อากาศเย็นควบแน่นลอยต่ำลงมา

40. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับการพัฒนาความรู้ของมนุษย์
ก. การบันทึกข้อมูล การวิเคราะห์ขอ้ มูล การสังเกต การสรุ ปผล
ข. การสังเกต การบันทึกข้อมูล การวิเคราะห์ขอ้ มูล การสรุ ปผล
ค. การสรุ ปผล การวิเคราะห์ขอ้ มูล การสังเกต การบันทึกข้อมูล
ง. การวิเคราะห์ขอ้ มูล การสรุ ปผล การสังเกต การบันทึกข้อมูล
41. จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้
1. ถึงแม้จะไม่มีขอ้ มูลทางวิทยาศาสตร์การค้นพบความรู ้ทางวิทยาศาสตร์กส็ ามารถเกิดขึ้นได้
2. การค้นพบหลักการ หรื อกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติทุกเรื่ องอาศัยข้อมูลจากการสังเกต และการบันทึกของ
นักวิทยาศาสตร์รุ่นก่อนๆ
3. การบันทึกข้อมูลด้วยความซื่อสัตย์ (ข้อมูลเชื่อถือได้) ผูบ้ นั ทึกควรบันทึกอย่างตรงไปตรงมาตามที่สงั เกต
เห็นโดยไม่มีการแก้ไขหรื อดัดแปลง ข้อมูลตามความเชื่อของตนเอง
ข้อใดถูกต้อง
ก. ข้อ 1,2
ข. ข้อ 1,3
ค. ข้อ 2,3
ง. ข้อ 1,2,3
42. การค้นคว้าหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ สามารถสรุ ปเป็ นขั้นตอนได้ 3 ขั้น คือ
1. ขั้นสำรวจ และรวบรวมข้อมูล
2. ขั้นสงสัยอยากรู้อยากเห็น
3. ขั้นจัดกระทำ และสรุ ปผลการค้นคว้าหาความรู ้ (ทดลอง)
ข้อใดเรี ยงลำดับขั้นตอนได้ถูกต้อง
ก. ข้อ 1,2,3
ข. ข้อ 2,1,3
ค. ข้อ 3,1,2
ง. ข้อ 3,2,1
43. ถ้านักเรี ยนมีหน้าที่บนั ทึกข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ นักเรี ยนควรมีคุณสมบัติที่ส ำคัญคือ
ก. เป็ นคนร่ าเริ ง
ข. เป็ นคนมีเหตุผล
ค. เป็ นคนใจกว้าง
ง. เป็ นคนรอบคอบและซื่อสัตย์
44. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. ทฤษฎีใหม่จะต้องไม่อาศัยข้อมูลของทฤษฎีเดิม
ข. ทฤษฎีใหม่จะเป็ นที่ยอมรับว่าใช้ได้ เมื่อต้องการมีการทดลองยืนยันสนับสนุนทฤษฎีน้ นั
ค. ทฤษฎีใหม่จะเป็ นที่ยอมรับว่าใช้ได้ เมื่อสามารถนำไปอธิ บายปรากฏการณ์ต่างๆได้สอดคล้องกับข้อมูล
ที่ได้จากการทดลอง
ง. ข้อ ก,ค ถูก
45. กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ประกอบด้วยขั้นตอนเรี ยงตามลำดับข้อใด
ก. ระบุปัญหา ตั้งสมมติฐาน ทดลอง สรุ ปผล
ข. ตั้งสมมติฐาน ระบุปัญหา ทดลอง สรุ ปผล
ค. ระบุปัญหา ทดลอง ตั้งสมมติฐาน สรุ ปผล
ง. ตั้งสมมติฐาน ทดลอง ระบุปัญหา สรุ ปผล

46. การวางโครงการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่จะได้ผลตรงตามวัตถุประสงค์ของการทดลองมากที่สุด คือการวาง


โครงการเพื่ออะไร
ก. ทดสอบข้อสังเกต
ข. ทดสอบสมมติฐาน
ค. ควบคุมผลการทดลองที่เกิดขึ้น
ง. พิสูจน์สิ่งใดสิ่ งหนึ่งว่าถูกต้องตามความเป็ นจริ ง
47. สมมติฐานเกิดขึ้นเพราะมูลเหตุใด
ก. การสังเกต
ข. การทดลอง
ค. การตีความ
ง. การพยายามตอบปัญหา
48. ความช่างคิดช่างสงสัยของนักวิทยาศาสตร์ ตลอดจนการใช้เครื่ องมือที่มีประสิ ทธิ ภาพทำให้เกิดผลข้อใด
ก. ทำให้จ ำนวนนักวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น
ข. ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ละเอียดถูกต้องมากขึ้น หรื อเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ค. นักวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆได้ทุกอย่าง
ง. นักวิทยาศาสตร์สรุ ปได้วา่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติไม่มีการเปลี่ยนแปลง
49. เขียวต้องการวัดความยาวของกระดานดำ เขียวควรใช้เครื่ องมือชนิดใดจึงจะเหมาะสมที่สุด
ก. ไม้เมตร
ข. ตลับเมตร
ค. ไม้บรรทัด
ง. ใช้เชือกวัด
50. สมดุลความร้อนหมายถึงข้อใด
ก. สาร 2 ชนิด มีมวลเท่ากัน มีพลังงานความร้อนเท่ากัน
ข. การถ่ายเทความร้อนของสาร 2 ชนิด จนมีอุณหภูมิเท่ากัน
ค. สาร 2 ชนิด ถ่ายเทพลังงานจากสารที่มีมวลมากสู่ สารที่มีมวลน้อย
ง. สาร 2 ชนิด ถ่ายเทพลังงานจากสารที่มีมวลน้อยสู่ สารที่มีมวลมาก

51. ความร้อนจากดวงอาทิตย์เคลื่อนที่มายังโลกเป็ นการถ่ายโอนพลังงานความร้อนด้วยวิธีใด


ก. การพาความร้อน
ข. การนำความร้อน
ค. การแผ่รังสี ความร้อน
ง. การสะท้อนรังสี ความร้อน
52. ข้อใดไม่จดั เป็ นการถ่ายโอนพลังงานความร้อน
ก. การแผ่รังสี
ข. การนำความร้อน
ค. การพาความร้อน
ง. อุณหภูมิต ่ำไปยังอุณหภูมิสูง
53. ในการผลิตกระแสไฟฟ้ าพลังงานน้ำ เป็ นการเปลี่ยนแปลงพลังงานชนิดใดเป็ นพลังงานไฟฟ้ า
ก. พลังงานกล
ข. พลังงานศักย์
ค. พลังงานจลน์
ง. พลังงานความร้อน
54. เมื่อเอาค้อนทุบเหล็กปรากฏว่าเกิดความร้อนที่เหล็ก พลังงานที่เปลี่ยนมาเป็ นพลังงานความร้อนคืออะไร
ก. พลังงานกล
ข. พลังงานเคมี
ค. พลังงานแสง
ง. พลังงานเสี ยง
55. จากข้อ 16 เมื่อเอามือจับเหล็กแล้วรู้สึกร้อน ความร้อนในวัตถุเกิดจากอะไร
ก. การสัน่ ของอากาศ
ข. การสัน่ ของสปริ ง
ค. การสัน่ ของโมเลกุล
ง. การสัน่ ของแผ่นโลหะ

56. ถ้าเอาแอมโมเนียมไนเตรตผสมกับแคลซียมไฮดรอกไซด์แล้วได้แก๊สแอมโมเนียมีกลิ่นฉุน  อุณหภูมิลดลงจาก
เดิม 15 องศาเซลเซียส ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเป็ นปฏิกิริยาชนิดใด
ก. การแผ่รังสี ความร้อน
ข. การดูดความร้อน
ค. การคายความร้อน
ง. การเก็บความร้อน
57. เมื่อใช้สารส้มแกว่งในน้ำเกลือทำไมจึงไม่ตกตะกอน
ก. เกลือรวมตัวกับสารส้มได้
ข. น้ำเกลือยังเข้มข้นไม่มากพอ
ค. เกลือเป็ นสารที่ละลายน้ำได้
ง. ขนาดโมเลกุลเกลือเล็กกว่าโมเลกุลสารส้ม
58. สารละลายที่พบทัว่ ไปอยูใ่ นสถานะใด
ก. ของแข็ง
ข. ของเหลว
ค. แก๊ส
ง. มีท้ งั ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส
59. ข้อใดไม่ ใช่ สารละลาย
ก. นาก
ข. ทองสำริ ด
ค. พลวง
ง. เหล็กกล้า
60. ตัวทำละลายกับตัวละลายต่างกันหรื อเหมือนกันอย่างไร
ก. เหมือนกันที่ท้ งั คู่อยูใ่ นสถานะเดียวกัน เช่น เป็ นของเหลว แก๊ส หรื อของแข็งด้วยกัน
ข. เหมือนกันที่มีปริ มาณเท่าเทียมกัน
ค. ต่างกันที่ปริ มาณ
ง. ต่างกันที่สถานะของสาร
61. ข้อใดเป็ นความหมายของสารละลายอิ่มตัว
ก. สารละลายที่มีตวั ถูกละลายอยูม่ าก
ข. สารละลายที่มีตวั ถูกละลายอยูด่ ว้ ย
ค. สารละลายที่มีตวั ถูกละลายอยูม่ ากจนไม่สามารถละลายได้อีก
ง. สารละลายที่มีตวั ถูกละลายแยกออกจากตัวทำละลาย
62. ทอง 18 K มีทองคำอยูก่ ี่เปอร์เซ็นต์
ก. 50 %
ข. 25 %
ค. 75 %
ง. 90 %
63. ข้อใดไม่ ใช่ น ้ำเป็ นตัวทำละลาย
ก. น้ำยาล้างตา
ข. น้ำอัดลม
ค. น้ำเกลือ
ง. แอลกอฮอล์เช็ดแผล
64. อากาศมีสารใดเป็ นตัวทำละลายและตัวถูกละลาย
ก. แก๊สออกซิเจนเป็ นตัวทำละลาย แก๊สอื่นๆเป็ นตัวถูกละลาย
ข. แก๊สไนโตรเจนเป็ นตัวทำละลาย แก๊สอื่นๆเป็ นตัวถูกละลาย
ค. แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์เป็ นตัวทำละลาย แก๊สอื่นๆเป็ นตัวถูกละลาย
ง. แก๊สอื่นๆเป็ นตัวทำละลาย แก๊สไนโตรเจน และแก๊สออกซิ เจน เป็ นตัวถูกละลาย
65. วิธีที่ง่ายที่สุดในการทดสอบว่าสารเป็ นกรด กลาง หรื อเบส คือข้อใด
ก. นำไปทดสอบการนำไฟฟ้ า
ข. ทดสอบโดยทำปฏิกิริยากับหินปูน
ค. ทดสอบโดยทำปฏิกิริยากับโลหะหรื ออโลหะ
ง. ทดสอบกับกระดาษลิตมัส
66. กรดเมื่อทำปฏิกิริยากับหินปูน จะเกิดแก๊สอะไร
ก. แก๊สไฮโดรเจน
ข. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ค. แก๊สแอมโมเนีย
ง. โซเดียมคลอไรด์

67. ภาชนะใดเหมาะสำหรับใช้บรรจุสารละลายกรด
ก. แก้ว
ข. สังกะสี
ค. พลาสติก
ง. อะลูมิเนียม
68. กรดชนิดใดนำมาทำน้ำส้มสายชูเทียม
ก. กรดเกลือ
ข. กรดแอซิ ติก
ค. กรดกำมะถัน
ง. กรดคาร์บอนิก
69. สารในข้อใดเมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำมันแล้วได้สบู่
ก .โซเดียมซัลเฟต
ข. โซเดียมไฮดรอกไซด์
ค. โซเดียมคลอไรด์
ง. โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต

70. สารใดเมื่อทำปฏิกิริยากับแอมโมเนียมไนเตรตได้แก๊สแอมโมเนีย
ก. น้ำมะนาว , น้ำมะกรู ด
ข. น้ำมะขาม , ด่างคลี
ค. น้ำปูนใส , น้ำส้ม
ง. ผงฟู , น้ำปูนใส
71. สารข้อใดเป็ นส่ วนผสมของยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
ก. โซเดียมไฮดรอกไซด์
ข. แคลเซี ยมไฮดรอกไซด์
ค. แมกนีเซี ยมไฮดรอกไซด์
ง. แอมโมเนียมไฮดรอกไซด์
72 สารใดใช้ใส่ ขนมเพื่อให้ขนมฟูน่ารับประทาน
ก. เกลือ
ข. เบสอ่อน
ค. โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต
ง.แคลเซี ยมไฮโดรเจนคาร์บอเนต
73. น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำมีสารละลายกรดชนิดใดผสมอยู่
ก. ไฮโดรซัลฟิ วริ ก
ข. ไฮโดรคลอริ ก
ค. ซัลฟิ วริ ก
ง. ไนตริ ก
74. สารใดใช้ใส่ ขนมเพื่อให้ขนมฟูน่ารับประทาน
ก. เกลือ
ข. เบสอ่อน
ค. โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต
ง.แคลเซี ยมไฮโดรเจนคาร์บอเนต

75. สารละลายกรดกำมะถันเข้มข้น 5 % โดยมวลต่อปริ มาตร ในปริ มาตร 400 ลูกบาศก์เซนติเมตร เมื่อเติมน้ำลงไป


อีก 600 ลูกบาศก์เซนติเมตร สารละลายที่ได้จะมีความเข้มข้นเท่าใด
ก. 10 % โดยมวลต่อปริ มาตร
ข. 8 % โดยมวลต่อปริ มาตร
ค. 5 % โดยมวลต่อปริ มาตร
ง. 2 % โดยมวลต่อปริ มาตร
76. สารละลายกรดกำมะถันเข้มข้น 5 % โดยมวลต่อปริ มาตร ในปริ มาตร 400 ลูกบาศก์เซนติเมตร เมื่อเติมน้ำลงไป
อีก 600 ลูกบาศก์เซนติเมตร สารละลายที่ได้จะมีความเข้มข้นเท่าใด
ก. 10 % โดยมวลต่อปริ มาตร
ข. 8 % โดยมวลต่อปริ มาตร
ค. 5 % โดยมวลต่อปริ มาตร
ง. 2 % โดยมวลต่อปริ มาตร
77. รัชกาลที่ 4 ทรงใช้อุปกรณ์ใดศึกษาการเกิดสุ ริยปุ ราคาที่ต ำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขนั ธ์
ก. กล้องโทรทรรศน์วิทยุ
ข. กล้องโทรทรรศน์หกั เหแสง
ค. กล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสง
ง. กล้องดาราศาสตร์
78. เทอร์มอมิเตอร์แบบเซลเซียสที่จุดเยือกแข็ง (0 องศา) จะอ่านค่าในเทอร์มอมิเตอร์แบบองศาฟาเรนไฮต์ได้เท่าใด
ก. 0 องศา
ข. 32 องศา
ค. 80 องศา
ง. 273 องศา

79. ข้อใดแสดงว่าผูส้ งั เกตใช้ประสาทสัมผัสมากที่สุด


ก. เด็กหญิงสมศรี สวมเสื้ อแดง ใส่ รองเท้าสานหุม้ ส้น
ข. ลุงมีสูงผอม เสี ยงแหบ ไอบ่อย ตัวร้อน เสื้ อผ้ามีกลิ่นเหม็นสาบ
ค. นางสาวส้มอายุ 17 ปี ผิวขาว ผมยาวสลวย เสี ยงแหบ ท่าทางร่ าเริ ง
ง. นางมาลัยเป็ นคนผิวดำ สูง ผมสั้น สวมเสื้ อขาวแขนยาว กางเกงสี เทา

80. อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส สามารถแปลงได้เป็ นกี่องศาเคลวิน (K)


ก. 300 องศา
ข. 310 องศา
ค. 320 องศา
ง. 330 องศา
81. ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ก. ตา หู จมูก ลิ้น ฟัน
ข. ตา หู จมูก ลิ้น กาย
ค. ตา หู จมูก ลิ้น มือ
ง. ตา หู จมูก ลิ้น ใจ
82. ความรู ้ต่างๆที่นกั วิทยา-ศาสตร์คน้ พบ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาเนื่องจาก
1. มีการค้นพบความจริ งเพิ่มขึ้น
2. เครื่ องมือที่ใช้มีประสิ ทธิภาพดีข้ึน
3. นักวิทยาศาสตร์เป็ นผูใ้ ฝ่ หาความรู้ 4. ระบบสื่ อสารในปั จจุบนั รวดเร็ วขึ้น
5. นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ไม่เชื่อถือนักวิทยาศาสตร์รุ่นเก่า
จากสาเหตุข้างต้ นข้ อใดถูกต้ องที่สุด
ก. ข้อ 1,2,4
ข. ข้อ 1,3,4
ค. ข้อ 1,2,3
ง. ข้อ 1,2,5
83. กฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์มีลกั ษณะสำคัญที่สุดอยูอ่ ย่างหนึ่งคือเรื่ องใด
ก. คนส่ วนมากยอมรับ
ข. สามารถทดสอบผลซ้ำได้
ค. เป็ นเรื่ องลึกซึ้ งและยากมาก
ง. เปลี่ยนแปลงไปตามสิ่ งแวดล้อม

84. สาเหตุต่อไปนี้ที่นบั เป็ นสาเหตุสำคัญที่สุดในการทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่ อมโทรม


1. การเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างรวดเร็ว
2. การนำความเจริ ญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้อย่างไม่รับผิดชอบ
3. การตัดไม้ท ำลายป่ า
4. การใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีปราบศัตรู พืช
5. การเกิดอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
จากสาเหตุข้างต้ นข้ อใดถูกต้ องที่สุด
ก. ข้อ 1 และ 2
ข. ข้อ 2 และ 3
ค. ข้อ 3 และ 4
ง. ข้อ 4 และ 5
85. นักเรี ยนต้องเรี ยนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนติดตามและศึกษาข่าวคราวทางด้านนี้ เพื่ออะไร
ก. การศึกษาต่อในชั้นสูง
ข. ป้ องกันความเสี ยหายที่เกิดจากความไม่เข้าใจ
ค. รู ้จกั เลือกใช้อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง
ง. เตรี ยมตัวเป็ นผูผ้ ลิตและผูเ้ ลือกใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในทางสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
86. ข้อใดเป็ นขั้นตอนแรกของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ก. ตั้งทฤษฎี
ข. ตั้งปั ญหา
ค. ตั้งสมมติฐาน
ง. การทดลอง
87. การกระทำของบุคคลใดที่ช้ ีบ่งว่านักวิทยาศาสตร์เป็ นคนมีความพยายามและอดทน
ก. เอดิสนั สังเกตธรรมชาติมาตั้งแต่วยั เยาว์
ข. มารี กูรี ค้นคว้านาน 4 ปี จึงพบธาตุเรเดียม
ค. นิวตันสังเกตดวงดาวจึงค้นพบแรงดึงดูดระหว่างมวล
ง. ดาวินชีวาดภาพแบบจำลองต่างๆที่จะช่วยให้คนบินได้

88. ข้อใดอธิ บายความหมายของ “วิทยาศาสตร์” ได้ถูกต้องที่สุด


ก. ความรู ้ต่างๆที่มีอยูใ่ นโลกนี้
ข. เป็ นวิชาที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบนั ที่ต่อเนื่องกัน
ค. กระบวนการค้นคว้าหาความรู้ที่มีข้นั ตอนและมีระเบียบแบบแผน
ง. สอนคนให้รู้จกั ช่วยตนเอง ทำนายอนาคตของเหตุการณ์ต่างๆได้

89. ส่ วนประกอบในข้อใดไม่ได้อยูใ่ นเซลล์สตั ว์


ก. เยือ่ หุม้ เซลล์ ข. ผนังเซลล์ ค. ไซโทพลาสซึ ม ง. คลอโรพลาสต์ จ. นิวเคลียส
ข้อที่ถูกต้องคือ
1. ข้อ ก., ข.
2. ข้อ ข., ง.
3. ข้อ ก., ค., จ.
4. ข้อ ก., ง.
90. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้อง
1. ทั้งกุหลาบ เฟิ ร์น มอส จัดเป็ นพืชแม้มีขนาดต่างกัน แต่องค์ประกอบเซลล์ชนิดเดียวกัน
2. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียว เช่น อมีบา พารามีเซี ยม แม้รูปร่ างต่างกัน แต่ประกอบด้วยเซลล์เพียงเซลล์เดียว
3. เซลล์ประสาท เซลล์เม็ดเลือดขาว มีรูปร่ างคล้ายกัน องค์ประกอบคล้ายกัน
4. เซลล์ไข่ เซลล์กล้ามเนื้อ จัดเป็ นเซลล์สตั ว์ที่มีโครงสร้างคล้ายกัน รู ปร่ างลักษณะเหมือนกัน
91. ข้อใดจับคู่แสดงความสัมพันธ์ไม่ถูกต้อง
1. ไซโตพลาสซึ ม-องค์ประกอบสำคัญต่อการทำงานของเซลล์
2. เยือ่ หุม้ เซลล์-คัดเลือกสารที่ผา่ นเข้าออกเซลล์
3. นิวเคลียส-ควบคุมการทำงานทั้งภายนอกและภายในเซลล์
4. ผนังเซลล์-สารส่ วนใหญ่สามารถซึ มผ่านได้
92. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวผิดความจริ ง
1. ส่ วนของพืชที่มีคลอโรพลาสต์มากที่สุดคือ ใบ
2. บัวเป็ นพืชที่มีเซลล์คุม
3. น้ำ อากาศ อาหาร เข้าออกจากเซลล์โดยผ่านเยือ่ หุม้ เซลล์
4. ห้องครัวของเซลล์พืชเทียบได้กบั โครงสร้างคลอโรพลาสต์ของเซลล์
93. ข้อใดเป็ นขบวนการออสโมซิส
1. การกระจายของฝุ่ นในอากาศ
2. การเคลื่อนที่ของอนุภาคเกลือแกงในน้ำ
3. การเคลื่อนที่ของโมเลกุลของน้ำหอมไปทัว่ ห้องเรี ยน
4. การเคลื่อนที่ของน้ำผ่านเยือ่ หุม้ เซลล์เข้าไปในเม็ดเลือดแดง

94. ข้อใดกล่าวผิด
1. การแพร่ เกิดขึ้นในสถานะของเหลวเท่านั้น
2. การออสโมซิ ส คือ การแพร่ ของน้ำผ่านเยือ่ กั้นบางๆ

3. ของแข็งที่จะแพร่ ในของเหลวได้ ต้องละลายในของเหลวนั้น

4. การแพร่ เกิดขึ้นเมื่อความเข้มข้นของสาร 2 บริ เวณแตกต่างกัน

95. สิ่ งจำเป็ น [2] และ [3] ในปฏิกิริยาการสังเคราะห์ดว้ ยแสง คือสิ่ งใด
1. แสงแดด , อาหาร
2. แสงสว่าง , คลอโรพลาสต์
3. คลอโรฟิ ลล์ , แสงสว่าง
4. เม็ดสี เขียว , แสง

96. ผลิตภัณฑ์จากการสังเคราะห์ดว้ ยแสงที่สำคัญ ได้แก่ หมายเลขใด และคือสิ่ งใด


1. [4] , กลูโคส
2. [5] , แก๊สออกซิเจน
3. [4] , น้ำตาลโมเลกุลคู่
4. [4] , แป้ ง

97. ถ้ากำหนดหมายเลขต่อไปนี้
1 = แช่ใบชบาด่างในน้ำเย็น
2 = ต้มใบในแอลกอฮอลล์
3 = ต้มใบในน้ำเดือด
4 = เติมสารละลายไอโอดีนลงบนใบชบาด่าง
ขั้นตอนการตรวจสอบหาแป้ งในใบชบาด่างเป็ นไปตามขั้นตอนใด
1. 1 2 3 4
2. 3 2 1 4
3. 4 3 2 1
4. 3 2 4 1
98. แก๊ส [1] และแก๊ส [5] คืออะไรตามลำดับ
1. ออกซิ เจน, ออกซิเจน
2. ออกซิ เจน, คาร์บอนไดออกไซด์
3. คาร์บอนไดออกไซด์, คาร์บอนไดออกไซด์
4. คาร์บอนไดออกไซด์, ออกซิเจน

99. ในป่ าดิบชื้น จะพบกล้วยไม้เกาะอยูบ่ นต้นไม้สูงๆมากกว่าที่จะพบว่าขึ้นอยูต่ ามพื้นดิน กรณี เช่นนี้น่าจะเกิดจาก


อิทธิ พลในข้อใด
1. แสงสว่าง
2. อุณหภูมิ
3. ความกดดัน
4. ความชื้น
100. พืช A และ B มีปริ มาณขนรากไม่เท่ากัน โดย A มีขนรากมากกว่า B พืชทั้งสองมีความแตกต่างกันในเรื่ องใด
1. พืช A เจริ ญเติบโตเร็ วกว่า
2. พืช B เจริ ญเติบโตเร็ วกว่า
3. พืช A ดูดน้ำและแร่ ธาตุได้มากกว่า
4. พืช B ดูดน้ำและแร่ ธาตุได้มากกว่า
101. การคายน้ำของพืช มีประโยชน์ต่อพืชอย่างไร
1. ทำให้เกิดแรงดึงน้ำจากส่ วนล่างขึ้นสู่ ส่วนบน
2. ช่วยลดอุณหภูมิภายในลำต้นและใบ
3. เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ใบ
4. ทำให้อุณหภูมิของอากาศรอบๆพืชลดต่ำลง
ข้อที่ถูกต้องคือ
1. ข้อ 1, 3, 4
2. ข้อ 1, 2, 4
3. ข้อ 1, 2, 3
4. ข้อ 1, 2, 3, 4
102. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับดอกไม้
1. ดอกสมบูรณ์เพศทุกชนิดต้องเป็ นดอกครบส่ วน
2. ดอกไม่ครบส่ วนทุกชนิดต้องเป็ นดอกไม่สมบูรณ์เพศ
3. ดอกครบส่ วนมักเป็ นดอกสมบูรณ์เพศ
4. ดอกสมบูรณ์เพศอาจเป็ นดอกครบส่ วนหรื อดอกไม่ครบส่ วนก็ได้
103. การผสมพันธุข์ องพืชดอกมีล ำดับขั้นตอนเหมือนข้อใด
1. การงอกของละอองเรณู การถ่ายละอองเรณู การปฏิสนธิ
2. การถ่ายละอองเรณู การปฏิสนธิ การงอกของละอองเรณู
3. การงอกของละอองเรณู การแบ่งเซลล์ การปฏิสนธิ
4. การถ่ายละอองเรณู การงอกของละอองเรณู การปฏิสนธิ

104. การเคลื่อนไหวตอบสนองต่อสิ่ งเร้าของพืชในข้อใดแตกต่างจากข้ออื่น


1. การพันหลักของไม้เลื้อย
2. การเลื้อยพันหลักของต้นไม้
3. การหุบ-บานของดอกไม้
4. การเจริ ญเติบโตบริ เวณปลายยอดของพืช
105. วิธีการขยายพันธุ์แบบใดจะได้ผลผลิต “จำนวนมากที่สุด ใช้เวลาสั้น ไม่กลายพันธุ์”
1. การตอนกิ่ง
2. การเพาะเมล็ด
3. การเพาะเลี้ยงเนื้ อเยือ่
4. การทาบกิ่ง
106. ข้อใดเป็ นสมบัติทางเคมีของสาร
1. น้ำแข็งละลายในแก้วน้ำ
2. น้ำคั้นจากดอกอัญชันเป็ นสารสี น ้ำเงิน
3. น้ำบริ สุทธิ์ มีจุดเดือดที่ 100 C
4. เผาถ่านไม้เกิดเปลวไฟ ความร้อน และขี้เถ้าถ่าน
107. สารใดบ้างต่อไปนี้เป็ นสมบัติเบส
ก. มีรสฝาด
ข. เปลี่ยนสี กระดาษลิตมัสสี แดงเป็ นสี น ้ำเงิน
ค. เปลี่ยนสี กระดาษลิตมัสน้ำเงินเป็ นสี แดง
ง. มีค่า pH ต่ำกว่า 7
จ. ทำให้อินดิเคเตอร์ฟีนอล์ฟทาลีนเป็ นสี ชมพู
1. ข้อ ก., ข., ง., จ.
2. ข้อ ค., ง., จ.
3. ข้อ ค., ง.
4. ข้อ ก., ข., จ.
108. เพราะเหตุใดจึงไม่ควรใช้ภาชนะที่เป็ นโลหะหรื อพลาสติกบรรจุสารที่มีสภาพเป็ นกรด
1. เพราะโลหะหรื อพลาสติกจะถูกกรดกัดกร่ อน
2. เพราะโลหะหรื อพลาสติกเก็บรักษากรดไม่ได้
3. เพราะโลหะหรื อพลาสติกจะทำให้กรดเสื่ อมสภาพ
4. เพราะโลหะหรื อพลาสติกจะถูกกรดกัดกร่ อนหรื อละลายในกรดได้

109. ถ้าสารละลายชนิดหนึ่งมีสถานะเป็ นของแข็ง ประกอบด้วยสาร A 31% สาร N 29% นอกนั้นเป็ นสาร T สารใด
เป็ นตัวทำละลาย
1. A
2. N
3. T
4. A และ T
110. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. การเคลื่อนที่ของอนุภาคแก๊สช้ากว่าในของเหลว แต่เร็ วกว่าในของแข็ง
2. น้ำกลายเป็ นไอน้ำ โมเลกุลของน้ำมีขนาดเล็กลง
3. อนุภาคของแข็งมีการเคลื่อนที่จ ำกัด ส่ วนใหญ่เป็ นการสัน ่
4. ของแข็งบีบอัดได้ยาก เนื่องจากมีอนุภาคใหญ่มาก
111. น้ำ 50 กรัม 30 องศาเซลเซียส ทำให้ร้อนขึ้นเป็ น 75 องศาเซลเซี ยส ต้องใช้พลังงานความร้อนกี่แคลอรี
1. 1,250
2. 1,500
3. 2,250
4. 3,750
112. การที่สารใดสารหนึ่งไม่ละลายน้ำ เกี่ยวข้องกับพลังงานการละลายอย่างไร
1. พลังงานการละลายมีค่าเป็ นลบ
2. พลังงานไฮเดรชันมากกว่าพลังงานโครงร่ างผลึก
3. พลังงานไฮเดรชันมีค่าน้อยกว่าพลังงานโครงร่ างผลึก
4. พลังงานของการละลายมีค่าเท่ากับพลังงานโครงร่ างผลึก
113. รถยนต์คนั หนึ่งเคลื่อนที่ดว้ ยอัตราเร็วคงที่ 40 km/hr ในเวลา 3 hr รถยนต์คนั นี้เคลื่อนที่ได้ระยะทางเท่าใด
1. 40 km
2. 80 km
3. 120 km
4. 160 km
114. ความสัมพันธ์คู่ใดถูกต้อง
1. ใช้คีมคีบถ่านแล้วมือร้อน- การพาความร้อน
2. การเผาเส้นลวด – การนำความร้อน
3. ช้อนโลหะจุ่มน้ำร้อน – การพาความร้อน
4. ลมมรสุ มที่พดั ผ่านส่ วนต่างๆของโลก – การแผ่รังสี

115. เกี่ยวกับการถ่ายโอนความร้อน ข้อใดกล่าวผิดความจริ ง


1. การนัง่ ผิงไฟข้างกองไฟเป็ นการถ่ายโอนความร้อนโดยการแผ่รังสี
2. พลังงานความร้อนของสาร 2 ชนิดจะถ่ายเทเมื่ออุณหภูมิต่างกัน
3. ความร้อนถ่ายโอนจากวัตถุที่มีอุณหภูมิต ่ำไปสู่ วตั ถุที่มีอุณหภูมิสูงกว่า
4. ฟรี ออนในเครื่ องทำความเย็นทำงานด้วยกระบวนวิธีการพาความร้อน
116. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
1. ผิวดำ มัว สามารถแผ่รังสี และดูดกลืนรังสี ได้ดี
2. ผิวสว่าง แวววาว สามารถแผ่รังสี และดูดกลืนรังสี ได้ไม่ดี
3. อากาศเป็ นตัวพาความร้อนที่ดีกว่าน้ำ
4. วัตถุที่ร้อนกว่าจะกระจายพลังงานโดยการแผ่รังสี ได้มากกว่า
117. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของบรรยากาศ
1. ช่วยปรับอุณหภูมิของโลกให้พอเหมาะกับการดำรงชีวิตของสิ่ งมีชีวิต
2. ช่วยดูดกลืนรังสี ต่างๆไม่ให้ผา่ นเข้าสู่ โลกมากเกินไป
3. ช่วยเสี ยดสี กบั วัตถุภายนอกโลก ทำให้ลุกไหม้หมดหรื อเกือบหมดก่อนถึงผิวโลก
4. ช่วยในการโคจรของโลกและดวงจันทร์รอบดวงอาทิตย์
118. การที่รู้สึกปวดหูเมื่อขึ้นไปบนที่สูงจากระดับน้ำทะเลมากๆเนื่องจากสาเหตุใด
1. อุณหภูมิอากาศเพิ่มขึ้น
2. ความดันอากาศเปลี่ยนแปลง
3. ความหนาแน่นของอากาศเพิม่ ขึ้น
4. ไอน้ำในอากาศมีมากขึ้น
119. สภาพการรับพลังงานความร้อนของพื้นดินและพื้นน้ำในช่วงกลางวันเป็ นอย่างไร
1. พื้นดินและพื้นน้ำรับพลังงานความร้อนได้ดีเท่ากัน
2. พื้นดินรับความร้อนได้เร็ วกว่าพื้นน้ำ
3. พื้นน้ำรับความร้อนได้เร็ วกว่าพื้นดิน
4. พื้นดินรับความร้อนได้เร็ วกว่า แต่บางครั้งก็ชา้ กว่าพื้นน้ำ

120. ขณะเกิดพายุฝนฟ้ าคะนอง ควรปฏิบตั ิตามทุกข้อต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด


1. อยูใ่ นอาคาร สิ่ งก่อสร้าง จนกว่าพายุจะสงบ
2. อยูใ่ ต้ตน้ ไม้ใหญ่ จนกว่าพายุเบาลง
3. ออกห่างจากสื่ อไฟฟ้ าทุกชนิด
4. งดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้ า หรื อโทรศัพท์ทุกประเภท

121. อุปกรณ์ในข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับการพยากรณ์อากาศ
1. บารอมิเตอร์
2. ไฮกรอมิเตอร์
3. แอลติมิเตอร์
4. เทอร์มอมิเตอร์
122. ไซโคลน เกิดขึ้นได้เมื่อใด
1. ความกดอากาศเหนือพื้นดินและพื้นน้ำต่างกัน
2. ความกดอากาศในสองบริ เวณต่างกันมาก
3. หย่อมความกดอากาศต่ำมีบริ เวณแคบๆ
4. ลมเย็นปะทะกับลมร้อน
123.แก๊สที่เป็ นสาเหตุให้เกิดฝนกรด เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์
1. แก๊สที่เป็ นสาเหตุให้เกิดฝนกรด เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์
2. แก๊สที่ก่อให้เกิดฝนกรด ล้วนมีผลต่อระบบทางเดินหายใจของร่ างกายมนุษย์
3. น้ำฝนกรดจะกัดกร่ อนหินได้ทุกประเภท
4. น้ำฝนกรดทำให้ท้ งั โลหะและอโลหะผุกร่ อนได้เร็ วช้าต่างกัน
124. ผลของการเพิ่มปริ มาณสาร CFC ในบรรยากาศ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่ งต่างๆต่อไปนี้ยกเว้นข้อใด
1. ทำให้แก๊สออกซิเจน (O2) และแก๊สโอโซน (O3) ลดปริ มาณลง
2. ทำให้อากาศมีอุณหภูมิสูงขึ้น
3. ทำให้เพิ่มปริ มาณผูป้ ่ วยจากการเป็ นโรคต้อกระจก
4. ทำให้ผคู ้ นที่อาบแดดเป็ นโรคผิวหนังไหม้เกรี ยมได้ง่ายขึ้น
125.ข้ อความใดถูกต้ อง
ก. สิ่ งมีชีวิต 1 ชนิด มี 1 เซลล์
ข. เซลล์เป็ นหน่วยที่เล็กที่สุดของสิ่ งมีชีวิตทุกชนิด
ค. เซลล์หลายๆ เซลล์มารวมกันเรี ยกว่า อวัยวะ
ง. เซลล์เป็ นสิ่ งแรกที่ศึกษาพบ
126.ข้ อใดต่ อไปนีจ้ ัดเป็ นสิ่งมีชีวติ เซลล์เดียวทั้งหมด
ก. อะมีบา คลอเรลลา พลานาเรี ย
ข. พารามีเซียม พลานาเรี ย ไดอะตอม
ค. อะมีบา พารามีเซียม คลอเรลลา
ง. พลานาเรี ย ไฮดรา ไดอะตอม
127.โครงสร้ างใดที่พบได้ เฉพาะในเซลล์พชื
ก. แวคิวโอลและเซนทริ โอล
ข. เยือ่ หุม้ เซลล์และไมโทคอนเดรี ย
ค. ผนังเซลล์และคลอโรพลาสต์
ง. ผนังเซลล์และเซนทริ โฮล
128.ส่ วนประกอบใดที่พบได้เฉพาะเซลล์สัตว์
ก. แวคิวโอล ข. เซนทริ โอล
ค. คลอโรพลาสต์ ง. เยือ่ หุม้ เซลล์
129.ข้ อความใดถูกต้ อง
ก. คลอโรพลาสต์พบในเซลล์พืชคลอโรฟิ ลล์พบในเซลล์สตั ว์
ข. คลอโรพลาสต์เป็ นออร์แกเนลล์ คลอโรฟิ ลล์เป็ นรงควัตถุ
ค. ทั้งคลอโรพลาสต์และคลอโรฟิ ลล์พบในเซลล์สตั ว์
ง. ทั้งคลอโรพลาสต์และคลอโรฟิ ลล์ให้สีเขียว
130. ข้ อใดถูกต้ องเกีย่ วกับการแพร่ ของสาร
ก. อนุภาคของสารไม่เกี่ยวข้องกับการแพร่
ข.ถ้าอุณหภูมิลดลง การแพร่ จะเกิดได้รวดเร็ ว
ค.สารที่มีอนุภาคเล็กจะแพร่ ได้ชา้ กว่าสารที่มีอนุภาคใหญ่
ง.เป็ นการเคลื่อนที่ของสารจากบริ เวณที่มีความเข้มข้นของสารมากไปยังบริ เวณที่มีความเข้มข้นของสาวน้อย
131. การแพร่ ของน้ำในดิน เข้ าสู่ ลำต้ นพืชจะต้ องผ่ านโครงสร้ างใดของพืช
ก. ไซเล็ม ข. โฟลเอ็ม
ค. รากแก้ว ง. ขนราก
132. เซลล์ ของพืชบริเวณใดมีคลอโรพลาสต์ มากที่สุด และบริเวณใดไม่ พบคลอโรพลาสต์ เลย
ก. ใบ ลำต้น ข. ลำต้น ราก
ค. ใบ ราก ง. ลำต้น ใบ

133. (A) + น้ำ + แสง กลูโคส + ( B)


จากสมการ (A) และ (B) คืออะไร
ก. กลูโคส , ออกซิเจน
ข. คลอโรพลาสต์ , กลูโคส
ค. ออกซิ เจน , คาร์บอนไดออกไซด์
ง. คาร์บอนไดออกไซด์ , ออกซิเจน
134. โครงสร้ างที่พชื ใช้ ในการลำเลียงอาหารคืออะไร
ก. เนื้อไม้ ข. ไซเล็ม
ค. โฟลเอ็ม ง. เปลือกไม้
135. ข้ อใดกล่ าวถูกต้ องที่สุด
ก. พืชจะคายน้ำได้มากในฤดูหนาว
ข. เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น พืชจะคายน้ำได้มากขึ้น
ค. เมื่อแสงมีความเข้มมาก พืชจะคายน้ำได้นอ้ ย
ง. พืชจะคายน้ำได้มากหากอากาศมีความชื้นมากขึ้น
136. เมื่อผ่ า “เส้ นใบ” ของใบพืชตามขวาง แล้วไปส่ องดูด้วยกล้ องจุลทรรศน์ จะพบโครงสร้ างใด
ก. ท่อลำเลียงน้ำ
ข. ท่อลำเลียงอาหาร
ค. เซลล์ที่มีคลอโรฟิ ลล์มาก
ง. ทั้งท่อลำเลียงน้ำและท่อลำเลียงอาหาร
137. การควัน่ เปลือกต้ นไม้ จะมีผลกระทบต่ อการทำงานของระบบใด
ก. ระบบลำเลียงน้ำ
ข. ระบบลำเลียงอาหาร
ค. ระบบแลกเปลี่ยนแก๊ส
ง. ระบบการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
138. ปัจจัยใดเกีย่ วข้ องกับการลำเลียงน้ำของพืชจากรากไปสู่ ยอดพืชมากที่สุด
ก. แรงดันเต่ง
ข. อุณหภูมิที่รากพืช
ค. แรงดึงจากการคายน้ำ
ง. การดูดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใบ
139. ส่ วนประกอบของดอกที่มีสีเขียว ทำหน้ าที่ป้องกันอันตรายแก่ ดอกคือส่ วนใด
ก. กลีบเลี้ยง ข. กลีบดอก
ค. เกสรตัวผู้ ง. เกสรตัวเมีย
140. ข้ อใด ไม่ ใช่ ส่ วนประกอบของเกสรตัวเมีย
ก. ยอดเกสรตัวเมีย ข. ออวุล
ค. อับละอองเรณู ง. รังไข่
141. ส่ วนใดของพืชที่เจริญไปเป็ นเมล็ดหลังจากได้ รับการปฏิสนธิแล้ ว
ก. ฐานรองดอก ข. ออวุล
ค. เซลล์ไข่ ง. รังไข่
142. ข้ อใด ไม่ ใช่ ข้ อดีของการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
ก. ต้นใหม่ที่เกิดขึ้นมีคุณสมบัติเหมือนต้นเดิมทุกประการ
ข. มีระบบรากแก้วที่แข็งแรง และมีอายุยนื
ค. สามารถขยายพันธุ์ได้เป็ นจำนวนมากในครั้งเดียว
ง. สามารถผลิตลูกผสมซึ่ งรวมลักษณะที่ดีของพืช 2 ต้นไว้ดว้ ยกันได้
143. ข้ อใดกล่ าวถึง “กระบวนการปฏิสนธิ” ในพืชได้ อย่ างถูกต้ องที่สุด
ก. การที่ละอองเรณูจากเพศผูต้ กลงบนยอดเกสรตัวเมีย
ข. การที่ละอองเรณูงอกหลอดยาวลงมาตามก้านเกสรเพศเมีย
ค. การผสมกันระหว่างเซลล์สืบพันธุ์เพศผูก้ บั เซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย
ง. การที่รังไข่เจริ ญไปเป็ นผลที่สมบูรณ์
144. หากนักเรียนต้ องการลักษณะที่ดขี องพืช 2 ต้ นไว้ ด้วยกัน นักเรียนควรเลือกใช้ วธิ ีการขยายพันธุ์ แบบใด
ก. ตอนกิ่ง ข. ติดตา
ค. ปั กชำ ง. เพาะเมล็ด
145. ข้ อใดเป็ นลักษณะของการเพาะเลีย้ งเนือ้ เยือ่ พืช
ก. เป็ นการปลูกพืชโดยให้รากของพืชแช่ในธาตุอาหาร
ข. เป็ นการนำชิ้นส่ วนของพืชมาเพาะในดินให้เกิดเป็ นต้นใหม่
ค. เป็ นการนำชิ้นส่ วนของพืชมาเลี้ยงบนวุน้ ที่ประกอบด้วยอาหารสังเคราะห์
ง. เป็ นการสกัดสารพันธุกรรมออกจากพืช เพื่อนำไปสร้างเป็ นต้นพืชใหม่
146. สารละลายชนิดหนึ่ง มีทองแดง 55% ทองคำ 20% เหล็ก 25% สารใดเป็ นตัวทำละลาย
ก. ทองแดง ข. ทองคำ
ค. เหล็ก ง. ทองคำและเหล็ก
147. สาร ก. ละลายในสาร ข. ได้เต็มทีท่ อ่ี ณ
ุ หภูมิ 60 องศาเซลเซียส ถ้าอุณหภูมเิ พิม่ เป็ น 80 องศาเซลเซียสข้ อใดสรุ ปได้
ถูกต้ อง
ก. สาร ก. จะระเหย
ข. สาร ก. จะตกผลึก
ค. สาร ก. จะหยุดละลาย
ง. สาร ก. จะละลายได้เพิ่มขึ้น
148. ตาราง จำนวนอะตอมของธาตุต่างๆ ในโมเลกุลของสารชนิดต่ างๆ
ชนิดของ จำนวนอะตอมของธาตุต่างๆ ใน
สาร โมเลกุลของสาร
ธาตุ X ธาตุ Y ธาตุ Z
1 1 2 1
2 - 2 -
3 2 2 -
4 1 - 1
5 2 - -
จากตาราง มีสารกีช่ นิดที่จัดเป็ นสารประกอบ
ก. 2 ข. 3
ค. 4 ง. 5
149. เมทิลออเรนจ์ มีช่วง pH ที่เปลีย่ นสีคอื 4.2 – 6.3 และเปลีย่ นจากสี แดงเป็ นสี เหลืองถ้ าหยดเมทิลออเรนจ์ ลงใน
สารละลายได้ สีเหลืองข้ อสรุ ปใดถูกต้ อง
ก. สารละลายมีสมบัติเป็ นกรด
ข. สารละลายมีสมบัติเป็ นเบส
ค. สารละลายมีสมบัติเป็ นเบสหรื อกลาง
ง. ไม่สามารถสรุ ปได้วา่ สารละลายมีสมบัติเป็ นกรด เบส หรื อกลาง

150. การทดสอบน้ำส้ มสายชู ว่าเป็ นน้ำส้ มสายชู แท้ หรือไม่ ควรเลือกสารใดตรวจสอบ


ก. ฟี นอล์ฟทาลีน
ข. สารละลายเจนเชียนไวโอเลต
ค. pH มิเตอร์
ง. ยูนิเวอร์แซลอินดิเคเตอร์
151. สารละลายใดมี pH ประมาณ 10
ก. น้ำส้มคั้น ข. น้ำยาเช็ดกระจก
ค. วิตามินซี ง. น้ำโซดา
152. จงพิจารณาว่าการเปลีย่ นแปลงในข้ อใดจัดเป็ นระบบปิ ด
ก. ใช้น ้ำยาล้างห้องน้ำราดบนพื้นห้องน้ำแล้วเกิดฟองแก๊ส
ข. สารละลาย ก และ ข เป็ นของเหลวใส ไม่มีสี เมื่อผสมกันจะเกิดตะกอนสี น ้ำเงินเข้ม
ค. รถจักรยานยนต์เกิดสนิมบริ เวณล้อ
ง. ร่ างกายของเราเมื่อชัง่ ด้วยเครื่ องชัง่ พบว่ามวลคงที่
153. การเปลี่ยนแปลงใดมีการถ่ายโอนพลังงานทิศทางเดียว
ก. การทำให้ของแข็งหลอมเหลว
ข. สาร A ละลายน้ำแล้วอุณหภูมิลดลง
ค.สาร B ละลายน้ำแล้วอุณหภูมิเพิ่มขึ้นมวลคงที่
ง. สาร C ละลายน้ำแล้วอุณหภูมิของสารละลายเท่ากับอุณหภูมิของน้ำ
154. จงพิจารณาว่าข้อใด ไม่ ถูกต้อง
ก. ขณะของเหลวเดือดโดยอุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลง ระบบยังคงดูดพลังงาน
ข. ถ้าจับภาชนะที่ใส่ ระบบแล้วรู้สึกร้อนแสดงว่าระบบคายความร้อน
ค. ไอน้ำมีพลังงานสูงกว่าน้ำ
ง. การคายความร้อนเกิดได้ดีที่อุณหภูมิสูง
155. ตารางข้ อมูลจุดเดือดและจุดเยือกแข็งของน้ำ ดังนี้
ข้อมูลในตาราง อุณหภูมิ A, B, C, D มีคา่ เท่าไรตามลำดับ
ก. 100◦C 100 K 273◦R 0◦F
ข. 100◦C 80 K 212◦R 0◦F
ค. 100◦C 212 K 100◦R 0◦F
ง. 100◦C 273 K 80◦R 32◦F

156. การเปิ ดพัดลม ทำให้ ร่างกายของเราเย็นสบาย เกีย่ วข้ องกับข้ อใด


ก. การพาความร้อน
ข. การนำความร้อน
ค. การกระจายความร้อน
ง. การแผ่รังสี ความร้อน
157. วัตถุในข้ อใดดูดกลืนพลังงานความร้ อนได้ ดที ี่สุด
ก. ใบไม้สีเขียว ข. กระดาษสี ขาว
ค. ดอกไม้สีเหลือง ง. ก้อนหินสี เทาดำ
158. ข้ อใดเป็ นการพาความร้ อน
ก. กาต้มน้ำ ข. ดวงอาทิตย์
ค. ลมบก ลมทะเล ง. ช่างตีเหล็กขณะร้อน
159. วันที่มีลมพายุ ท้ องฟ้ ามืดครึ้ม ระดับปรอทในบารอมิเตอร์ จะเป็ นอย่ างไร
ก. ต่ำกล่าว 76 มิลลิเมตร
ข. สู งกว่า 760 มิลลิเมตร
ค. เท่ากับ 760 มิลลิเมตร
ง. เท่ากับ 76 มิลลิเมตร
160. ในการแบ่ งประเภทของลมพายุหมุนเขตร้ อน ใช้ สิ่งใดเป็ นเกณฑ์ ในการแบ่ ง
ก. ความเร็ วลม
ข. ความเร็ วลมใกล้ศูนย์กลาง
ค. ความเร็ วลมสูงสุ ดใกล้ศูนย์กลาง
ง. ความดันเนื่องจากแรงลม
161. ข้ อใดตรงกับปรากฏการณ์ ลานีญา
ก. บริ เวณที่เคยมีฝนตกชุกมีปริ มาณฝนลดลง
ข. บริ เวณที่เคยมีฝนน้อย ปริ มาณฝนเพิ่มมากขึ้น
ค. บริ เวณที่เคยแห้งแล้ง จะเกิดปรากฏการณ์เรื อนกระจก
ง. บริ เวณที่เคยแห้งแล้ง จะแห้งแล้งมากขึ้น
162. สภาวะอากาศแบบใดมีสาเหตุมาจากความแตกต่ างระหว่ างอุณหภูมิของพืน้ ดินและพืน้ น้ำ
1. ลมบกลมทะเล 2. มรสุ ม
3. พายุฝนฟ้ าคะนอง 4. พายุหมุนเขตร้อน
ก. ข้อ 1 และ 2 ข. ข้อ 2 และ 3
ค. ข้อ 1 และ 4 ง. ข้อ 1, 2, 3 และ 4
163. ชั้นใดของบรรยากาศ มีอุณหภูมิเพิม่ ขึน้ ตามความสู ง
ก. โทรโพสเฟี ยร์ สตราโตรเฟี ยร์
ข. สตราโตรเฟี ยร์ มิโซสเฟี ยร์
ค. มีโซสเฟี ยร์ เทอร์โมสเฟี ยร์
ง. สตราโตสเฟี ยร์ เทอร์โมสเฟี ยร์
164. ข้ อใดสรุ ปความสัมพันธ์ ระหว่างความหนาแน่ น อุณหภูมิ ความดันอากาศได้ ถูกต้ องที่สุด
ก. ความหนาแน่นน้อย อุณหภูมิสูง ความดันสู ง
ข. ความหนาแน่นมาก อุณหภูมิสูง ความดันต่ำ
ค. ความหนาแน่นน้อย อุณหภูมิต ่ำ ความดันสู ง
ง. ความหนาแน่นมาก อุณหภูมิต ่ำ ความดันต่ำ
165. อากาศ 1m3 มีไอน้ำ 40g ตรงกับข้ อใด
ก. อากาศมีความชื้นสัมบูรณ์ 40g/m3
ข. อากาศมีความชื้นสัมพัทธ์ 40g/m3
ค. อากาศมีความชื้นสัมบูรณ์ร้อยละ 40
ง. อากาศมีความชื้นสัมพัทธ์ร้อยละ 40
166. โครงสร้างใดที่พืชใช้ในการสื บพันธุ์แบบอาศัยเพศ
ก. ราก
ข. ลำต้น
ค. ใบ
ง. ดอก
167. โครงสร้างใดที่พืชใช้ล่อแมลง
ก. กลีบเลี้ยง( sepal )
ข. กลีบดอก ( petal )
ค. เกสรตัวผู้ ( stamen )
ง. เกสรตัวเมีย ( pistil )
168. ดอกไม้ในข้อใดเป็ นดอกครบส่ วน(complete flower )
ก. ดอกกุหลาบ ดอกต้อยติ่ง ดอกตำลึง
ข. ดอกชบา ดอกฟักทอง ดอกมะละกอ
ค. ดอกผักบุง้ ดอกชบา ดอกต้อยติ่ง
ง. ดอกมะเขือ ดอกส้มโอ ดอกกล้วยไม้
169. ข้อใดเป็ นดอกสมบูรณ์เพศ ( perfect flower )
ก. ดอกฟักทอง ดอกตำลึง ดอกกล้วยไม้
ข. ดอกบวบ ดอกตำลึง ดอกฟักทอง
ค. ดอกชบา ดอกผักบุง้ ดอกกล้วยไม้
ง. ดอกต้อยติ่ง ดอกชบา ดอกตำลึง
170. ข้อใดเป็ นความหมายของคำว่า” การถ่ายละอองเรณู”
( pollination ) ที่ถูกต้อง
ก. ละอองเรณูติดกับอับเรณู
ข. ละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย
ค. ละอองเรณูติดไปกับขาแมลง
ง. ละอองเรณูถูกลมพัดไปไกล ๆ
171. ตัวเลือกใดคือการปฏิสนธิซอ้ น ( double fertilization )
ก. สเปิ ร์มผสมกับไข่
ข. สเปิ ร์มผสมกับโพลาร์นิวคลีไอ
ค. สเปิ ร์ม 2 เซลล์ผสมกับไข่ 2 เซลล์
คำตอบที่ถูกต้องตรงกับตัวเลือกใด
ก. ข้อ ก และ ข
ข. ข้อ ข และ ค
ค. ข้อ ก และ ค
ง. ข้อ ก ข และ ค
172. เนื้อมะม่วงที่น ำมารับประทานคือส่ วนใด
ก. ไข่
ข. ผนังรังไข่
ค. ฐานรองดอก
ง. ยอดเกสรตัวเมีย
173. มะยม มะปราง มะม่วง เป็ นผลชนิดใด
ก. ผลเดี่ยว
ข. ผลรวม
ค. ผลกลุ่ม
ง. ผลผสม
174. ลำต้นใต้ดินของพืชชนิดใดที่ใช้สืบพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ
ก. กุหลาบหิน
ข. พลูด่าง
ค. ต้นตายใบเป็ น
ง. ต้นพุทธรักษา
175. ถ้านักเรี ยนสังเกตเห็นดอกกุหลาบหลาย ๆ สี บน ต้นกุหลาบต้นเดียวกัน นักเรี ยนคิดว่าน่าจะผ่านการ
กระทำสิ่ งใดมาก่อน
ก. การเพาะเมล็ด
ข. การแบ่งหัว
ค. การปักชำ
ง. การต่อกิ่ง
176. ข้อใด ไม่ ใช่ ข้อจำกัดของการเพาะเลี้ยงเนื้อเยือ่
ก. ฤดูกาล
ข. วัสดุอุปกรณ์
ค. บุคลากร
ง. เงินทุน
177. สิ่ งใดไม่มีผลต่อการตอบสนองต่อสิ่ งเร้าของพืช
ก. กลิ่น
ข. น้ำ
ค. แสง
ง. การสัมผัส
178. การหุบของใบไมยราบเป็ นผลเนื่องมาจากสิ่ งเร้าชนิดใด
ก. น้ำ ข. แสง ค. การสัมผัส ง. อุณหภูมิ

179. การหุบและกางใบของพืชตระกูลถัว่ จะเกี่ยวข้องกับสิ่ งเร้าในข้อใด


ก. สารเคมี
ข. อุณหภูมิ
ค. การสัมผัส
ง. แสง
180. เทคโนโลยีชีวภาพคืออะไร
ก.เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการดำรงชีวิตและผลผลิตมาใช้ประโยชน์
ข. เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการจัดการของระบบ คอมพิวเตอร์
ค. เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
ง. เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการดำเนินการทางวิทยาศาสตร์
181. การเพาะเลี้ยงเนื้อเยือ่ เป็ นเทคนิคการนำเนื้อเยือ่ ของ พืช ไปเพาะเลี้ยงในอาหารสังเคราะห์แล้วเจริ ญเป็ น
กลุ่ม เซลล์ที่เรี ยกว่าอะไร
ก. วิลลัส
ข. เซอรัส
ค. แคลลัส
ง. ไมคัส
182. การเพาะเลี้ยงเนื้อเยือ่ นิยมทำกับพืชชนิดใด
ก. กล้วยไม้ ต้นสัก ข. หวาย กล้วย ค. ข้าว กล้วยไม้ ง. ถูกทุกข้อ
183. ข้อใดคือพืช GMO s
ก. ฝ้ าย ข. มะละกอ ค. มะเขือเทศ ง. ถูกทุกข้อ
184. ข้อใดกล่าวถูกต้องตามความเป็ นจริ ง
ก. พืชที่ได้รับการตัดต่อยีนส่ วนใหญ่จะมี
ลักษณะเลวลง
ข. พืช GMO s ทำให้ผบู้ ริ โภคเสี ยชีวิต
ค. พืช GMO s ยังไม่เป็ นที่ยอมรับจากคน
ทัว่ ไปมากนัก
ง. พืชที่ขยายพันธุโ์ ดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยือ่ จะ
มีอายุส้ นั กว่าปกติ
185. ข้อใดต่อไปนี้จดั เป็ นสารเนื้ อเดียว
ก. น้ำกะทิ แป้ งมันละลายน้ำ
ข. น้ำเกลือ น้ำปลา
ค. น้ำเชื่อม พริ กป่ น
ง. คอนกรี ต ทราย
186. นักวิทยาศาสตร์ใช้สิ่งใดเป็ นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าสารใดเป็ นสารเนื้ อเดียวและสารเนื้ อผสม
ก. สถานะ
ข. การนำไฟฟ้ า
ค. ลักษณะเนื้อสาร
ง. ขนาดอนุภาคของสาร
187. เกลือแกง ( โซเดียมคลอไรด์ ) มีสมบัติอย่างไร
ก. เป็ นของแข็ง สี ขาว รสเค็ม
ข. เป็ นของเหลว ใส รสหวาน
ค. เป็ นของเหลว สี น ้ำตาล รสเค็ม
ง. เป็ นของแข็ง สี ขาว รสขม
188.  จงเรี ยงลำดับสารต่อไปนี้ตามสถานะที่เป็ นของเหลว ของแข็ง และแก๊ส
    ก.  ลูกบอล น้ำส้ม  H       
   ข.  น้ำเกลือ  สำลี  O2
     ค.  น้ำหวาน  CO2   ทอง        
    ง.  O2  ปิ่ นโต  น้ำอัดลม
189. สารในข้อใดจัดว่าเป็ นสารละลาย
ก. นาก ทองคำ อากาศ
ข. น้ำอัดลม น้ำส้มสายชู เกลือ
ค. ทองเหลือง น้ำหวาน อากาศ
ง. เหล็ก อลูมิเนียม เหรี ยญบาท
190.  ข้อใดจัดเป็ นสารคอลลอยด์
     ก.  นมสด น้ำอัดลม หมอก    
ข.  ครี มทาผิว น้ำเต้าหู้ ฝุ่ นละออง  
ค.  น้ำสบู่ เกลือแกง น้ำยาปรับผ้านุ่ม     
  ง.   น้ำสลัดครี ม น้ำโค๊ก น้ำมันพืช
191. ข้อใดคือสารแขวนลอย
ก. หมอก ควัน น้ำคลอง
ข. น้ำโคลน น้ำหอม น้ำแป้ ง
ค. น้ำอบไทย น้ำโคลน น้ำแป้ ง
ง. น้ำแป้ ง น้ำหวาน นมสด
192. ข้อใดไม่ ใช่ การเปลี่ยนแปลงลักษณะสมบัติทางกายภาพ
      ก.  น้ำแข็งละลายกลายเป็ นน้ำ        
  ข.  เกลือละลายน้ำ
       ค.  การทอดไข่เจียว                 
   ง.  ถูกต้องทุกข้อ
193. อนุภาคของสารที่มีสถานะใดที่ไม่มีการเคลื่อนที่
ก. ของแข็ง
ข. ของเหลว
ค. ก๊าซ
ง. ถูกทุกข้อ
194. ข้อใดเป็ นสมบัติของสารจำพวกกรด
ก. มีรสฝาด
ข. ไม่ท ำปฏิกิริยากับโลหะ
ค. ทำปฏิกิริยากับหินปูน
ง. เปลี่ยนสี กระดาษลิตมัสจากสี แดงเป็ นสี น ้ำเงิน
195. ถ้ามีสารละลายเป็ นของเหลวใสอยูใ่ นขวดแก้ว และ
สมศักดิ์ต้ งั สมมติฐานว่าเป็ นกรดไฮโดรคลอริ กแล้ว
สมศักดิ์ควรทดสอบสมมติฐานตามข้อใด
ก. ดมและชิม
ข. ทดสอบกับหินปูน
ค. ทดสอบกับกระดาษลิตมัส
ง. ทดสอบกับเจนเซียนไวโอเลต
196. สารในข้อใดมีสมบัติเปลี่ยนสี กระดาษลิตมัสจาก
สี น ้ำเงินเป็ นสี แดง
ก. น้ำยาล้างจาน
ข. น้ำปูนใส
ค. น้ำอัดลม
ง. น้ำหวาน
197. สาร A เปลี่ยนสี เจนเชี่ยนไวโอเลตจากสี ม่วงเป็ นสี เขียว สาร A ควรเป็ นสารชนิดใด
ก. น้ำมะขาม
ข. น้ำส้มสายชู
ค. น้ำยาเช็ดกระจก
ง. น้ำกรดซัลฟิ วริ ก
198. การตรวจสอบค่าความเป็ นกรด – เบส ของสารละลาย ใช้วิธีใดได้บา้ ง
ก. ใช้กระดาษลิตมัส
ข. ใช้กระดาษยูนิเวอร์แซล
ค. ใช้ p H มิเตอร์
ง. ถูกทุกข้อ
199. สมบัติทวั่ ๆไปของสารละลายเบส คือข้อใด
ก. มีรสฝาด
ข. มีรสเปรี้ ยว
ค. มีสมบัติในการกัดได้
ง. เปลี่ยนสี อินดิเคเตอร์ เช่น กระดาษลิตมัสจากน้ำเงินเป็ นเเดง
200. สารในข้อใดมีคุณสมบัติเป็ นเบส
ก. น้ำขี้เถ้า
ข. น้ำมะขาม
ค. น้ำมะกรู ด
ง. น้ำมะยม
201. เติมแอมโมเนียมไนเตรตลงในสารใดจึงจะได้ แก๊สแอมโมเนีย
ก. กรดเกลือ
ข. น้ำมะนาว
ค. น้ำโซดา
ง. โซดาแผดเผา
202. ใส่ ชิ้นแมกนีเซียมลงในสารใด จะทำให้เกิดฟองแก๊สไฮโดรเจน
ก. กรดไฮโดรคลอริ ก
ข. โซเดียมไฮดรอกไซด์
ค. โซเดียมคลอไรด์
ง. แอมโมเนียมไนเตรต
203. สารละลายกรดที่พอ่ ค้านิยมนำมาผสมน้ำส้ มสายชู ปลอมคือข้อใด
ก. กรดไฮโดรคลอริ ก
ข. กรดแอซิตริ ก
ค. กรดซัลฟิ วริ ก
ง. กรดไนตริ ก
204. สารละลาย B มีค่า p H = 10 จะมีสมบัติอย่างไร
ก. กรด
ข. เบส
ค. กลาง
ง. ข้อมูลไม่เพียงพอตอบไม่ได้

205. สารชนิดหนึ่งเปลี่ยนสี ของกระดาษลิตมัสจากสี น ้ำเงินเป็ นสี แดง แสดงว่าสารดังกล่าวมีคา่ pH เท่าไร


ก. pH=6.2
ข. pH=7.2
ค. pH=8.2
ง. pH=12
206. ในนาข้าวเมื่อมีการใส่ ปุ๋ยมาก ๆ จะทำให้ดินเปรี้ ยว
นักเรี ยนมีวธิ ีแก้ไขอย่างไร
ก. เติมปุ๋ ยน้ำตาลลงไป
ข. โดยด้วยปูนขาว
ค. โดยโดยใช้ข้ ีเถ้า
ง. ข้อ ข. และ ค ถูก
207. ถ้านักเรี ยนไม่มีอินดิเคเตอร์ตรวจสอบความเป็ นกรด –เบส ของสารละลาย นักเรี ยนจะใช้พืชดอกชนิด
ใดมาสกัดสี ใช้ทดแทน
ก. ดอกอัญชัน กระเจี๊ยบ ชบาซ้อน
ข. กระเจี๊ยบ ดอกเข็ม ดอกต้อยติ่ง
ค. ชบาซ้อน ขมิ้น ดอกบวบ
ง. มะเขือ ดอกอัญชัน ดอกผักบุง้

208. ปริมาณในข้ อใดที่มีเฉพาะขนาดแต่ ไม่ มีทศิ ทาง


ก. น้ำหนัก
ข. ปริ มาตร
ค. ความเร็ ว
ง. แรง
209. ความเร็วกับอัตราเร็วต่ างกันอย่างไร
ก. มีหน่วยต่างกัน
ข. มีคา่ ไม่เท่ากัน
ค. ความเร็ วมีทิศทาง อัตราเร็ วไม่มีทิศทาง
ง. ความเร็ วเป็ นปริ มาณสเกลาร์ อัตราเร็ วเป็ นปริ มาณเวกเตอร์
210. รถยนต์ คนั หนึ่งแล่นได้ ระยะทาง 200 กิโลเมตร ในเวลา 4 ชั่วโมง อัตราเร็วของรถยนต์ คนั นีเ้ ป็ นเท่ าไร
ก. 30 กิโลเมตร/ชัว่ โมง
ข. 50 กิโลเมตร/ชัว่ โมง
ค. 100 กิโลเมตร/ชัว่ โมง
ง. 20 กิโลเมตร/ชัว่ โมง
211.รถยนต์ คนั หนึ่งเคลือ่ นที่จาก ก ไป ข จาก ข ไป ค ดังรู ป โดยใช้ เวลา จาก ก ไป ข 2 วินาที จาก ข ไป ค 4 วินาที
การกระจัดมีค่าเท่ ากับเท่ าไร
ก 8 เมตร ข
ค 6 เมตร
ก. 0.33
ข. 2
ค. 14
ง. 2.33
212. จากข้ อ 4 ระยะทางทีไ่ ด้ท้งั หมดเท่ ากับเท่ าไร
ก. 0.33
ข. 2
ค. 14
ง. 2.33
213. จากข้ อ 4 ความเร็วเฉลีย่ มีค่าเท่ ากับเท่ าไร
ก. 0.33
ข. 2
ค. 14 ง. 2.33
214. อัตราเร็วเฉลีย่ มีค่าเท่ ากับเท่ าไร
ก. 0.33
ข. 2
ค. 14
ง. 2.33
215. ชุ ดดับเพลิงทีน่ ักดับเพลิงสวมใส่ เพือ่ ป้ องกันความร้ อนไม่ ให้ ผ่านเข้ าสู่ ร่างกายมากเกินไปควรมีสีอะไร
และลักษณะอย่างไร
ก. สี ด ำและผิวขัดมัน
ข. สี ด ำและผิวมันไม่แวววาว
ค. สี ขาวและผิวมัน
ง. สี เงินและผิวขัดมันแวววาว
216. พลังงานจลน์ จะมีค่ามากหรือน้ อยขึน้ อยู่กบั ข้ อใด
ก. แรงและระยะทาง
ข. มวลและความสูง
ค. มวลและความเร็ ว
ง. ความเร็ วและอัตราเร็ ว
217. มะพร้ าวหนัก 2 กิโลกรัมอยู่สูงจากพืน้ 2 เมตร จะมีพลังงานศักย์ โน้ มถ่ วงเท่ าไร
ก. 40 จูล
ข. 4 จูล
ค. 50 จูล
ง. 60 จูล
11. ค่ าของพลังงานศักย์โน้ มถ่ วงจะมีค่ามากหรือน้ อยขึน้ อยู่กบั ข้ อใด
ก. แรงและระยะทาง
ข. มวลและความสูง
ค. มวลและความเร็ว
ง. ความเร็ วและอัตราเร็ว

218. อุณหภูมิหมายถึงข้ อใด


ก. ความจุความร้อนในวัตถุ
ข. ระดับความร้อนในวัตถุ
ค. ปริ มาณความร้อนในวัตถุ
ง. ขนาดความร้อนในวัตถุ

219.ของเหลวที่ใช้ ทำเทอร์ มอมิเตอร์ ควรมีสมบัติอย่ างไร


ก. หดตัวเร็ ว ปรอทหรื อตะกัว่
ข.หดตัวเร็ ว บิวทิลแอลกอฮอล์หรื อตะกัว่
ค.ขยายตัวดี น้ำหรื อปรอท
ง. ขยายตัวดี ปรอทหรื แอลกอฮอล์ผสมสี
220. แพทย์ จะใช้ เทอร์ มอมิเตอร์ วดั ไข้ กบั ผู้ป่วยที่เป็ นทารกด้ วยวิธีใด
ก. เสี ยบไว้ตรงรู ทวารหนัก
ข. สอดไว้ใต้รักแร้หรื อขาหนีบ
ค.อมไว้ที่ใต้ลิ้น
ง. ถูกทั้งข้อ ข และ ค
221. ข้ อใดกล่ าวถูกต้ อง
ก. เทอร์มอมิเตอร์ในหน่วยองศาเซลเซียสมีจุดเยือกแข็งละจุดเดือดของน้ำห่างกัน 100 ช่อง
ข. เทอร์มอมิเตอร์แบบธรรมดามีขีดบอกอุณหภูมิต ่ำสุ ดและสู งสุ ดคือ 32-212 เคลวิน
ค. เทอร์มอมิเตอร์ในหน่วยองศาโรเมอร์มีจุดเยือกแข็งและจุดเดือดของน้ำห่างกันเพียง 60 ช่อง
ง. เทอร์มอมิเตอร์ในหน่วยฟาเรนไฮต์มีจุดเดือดของน้ำเกิน 100 องศาเซลเซี ยส
222. หน่ วยวัดของอุณหภูมิใดที่จับคู่ได้ถูกต้ อง
ก. เคลวิน-ระบบ SI
ข. องศาเซลเซี ยส – ระบบ SI
ค. องศาฟาเรนไฮต์-ระบบเมตริ ก
ง. องศาโรเมอร์ – ระบบอังกฤษ
ใช้ขอ้ มูลต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 6-7
A= ขยายตัวทันทีเมื่อได้รับความร้อน
B= ขยายตัวได้มากกว่า
C= เป็ นตัวนำความร้อนที่ดี
D = ใช้ได้ดีที่อุณหภูมิสูงกว่า
E = ใช้ได้ดีที่อุณหภูมิต ่ำกว่า
F = เป็ นสารพิษ
223. ข้ อใดเป็ นสมบัติของปรอทที่ใช้ ในเทอร์ มอมิเตอร์
ก. A C E
ข. A C D F
ค. B C D F
ง. C E F
224. ข้ อใดเป็ นสมบัติของแอลกอฮอล์ที่ใช้ ในเทอร์ มอมิเตอร์
ก. A C E F
ข. B E F
ค. B E
ง. C E F
225. อุณหภูมิ 42 0C เมื่อคิดในหน่ วย K และ 0F จะมีค่าเท่ าใด
ก. 315 K 5.5 จ
F ข. 231 K 5.5 F
0

ค. 320 K 33.6 0F ง. 315 K 107.6 0F


226. น้ำในแก้ ว ก มีอุณหภูมิสูงกว่าน้ำในแก้ว ข 15 0F ถ้ าน้ำในแก้ ว ก มีอุณหภูมิ 12 0C น้ำในแก้ ว ข จะมีอุณหภูมิกี่ 0F
ก. 38.6
ข. 53.6
ค. 68.6
ง. 78.6
227.ข้ อใดเป็ นวิธีการใช้ เทอร์ มอมิเตอร์ ที่ถูกต้ อง
ก. อย่าใช้วดั ความร้อนมากเกินไป
ข.ให้กระเปาะสัมผัสสารที่ตอ้ งการวัด
ค. ใช้แล้วเช็ดให้แห้ง
ง. ถูกทุกข้อ
228. ข้ อใดมีอุณหภูมิต่ำที่สุด
ก. 100 0C
ข. 273 K
ค. 212 0F
ง. 2 0C
229. ข้ อใดบอกส่ วนประกอบของอากาศได้ ถูกต้ อง
ก.ก๊าซเฉื่ อยที่มีมากที่สุดในอากาศคือฮีเลียม
ข. ก๊าซที่ใช้ในการหายใจมีปริ มาณ 78 % โดยปริ มาตร
ค. ก๊าซออกซิ เจนมีมากเป็ นอันดับที่ 2
ง. ไอน้ำมีปริ มาณ 0.03 % โดยปริ มาตร
230.ทุกข้ อเป็ นการแสดงว่าอากาศมีตัวตนยกเว้นข้ อใด
ก. มีมวล
ข. มีน้ำหนัก
ค. ต้องการที่อยู่
ง. เป็ นของผสม
231. ในอากาศแห้ งจะพบก๊าซชนิดใดมากที่สุด
ก. ออกซิ เจน
ข. ไนโตรเจน
ค. คาร์บอนไดออกไซด์
ง. ไฮโดรเจน
232.อัตราส่ วนของก๊าซออกซิเจนต่ อไนโตรเจนในอากาศแห้ งข้ อใดถูกต้ อง
ก. 1 : 4
ข. 4 : 1
ค. 2 : 3
ง. 3 : 2
233. บริเวณใดมีปริมาณไอน้ำมาก
ก. พื้นที่แห้งแล้ง
ข. โรงงานอุตสาหกรรม
ค. ชายทะเล ป่ าไม้
ง. แหล่งจราจรคับคัง่
234. โดยทั่วไปในอากาศจะมีไอน้ำเป็ นองค์ประกอบร้ อยละเท่ าไรของอากาศทั้งหมด
ก. 0-4 %
ข. 5-10 %
ค. 10-15 %
ง. 15-20 %
235. เหตุการณ์ ใดจะเกิดขึน้ ถ้ าโลกไม่ มบี รรยากาศ
ก. จะไม่มีเมฆ ลม ฝน พายุ
ข. อุณหภูมิบนพื้นผิวโลกจะสูงตลอดเวลา
ค. แสงแดดจะส่ องไม่ถึงพื้นโลก จึงมืดสนิท
ง. บริ เวณขั้วโลกและศูนย์สูตรจะมีอุณหภูมิเท่ากัน
236. ข้ อใดไม่ ใช่ ประโยชน์ ของอากาศ
ก. ช่วยป้ องกันอันตรายจากสะเก็ดดาว
ข. ช่วยดูดซับรังสี อลั ตราไวโอเลต
ค. ช่วยให้โลกร้อนขึ้นอย่างช้าๆในช่วงกลางวัน
ง. ช่วยให้โลกเย็นลงอย่างรวดเร็วในช่วงกลางคืน
237. ข้ อใดกล่ าวไม่ ถูกต้ อง
ก. ส่ วนผสมของอากาศคงที่ไม่วา่ จะเป็ นในเมือง ชายหาดหรื อชนบท
ข. ในอากาศประกอบด้วยก๊าซไนโตรเจนมากที่สุดรองลงมาคือออกซิ เจน
ค. ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีประโยชน์ต่อพืชเพราะใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
ง. ถ้าลดอุณหภูมิลงให้ต ่ำมากๆจะทำให้ก๊าซสามารถเปลี่ยนสถานะได้
238. ในเวลากลางคืนถ้ าไม่มีบรรยากาศโลกจะมีอุณหภูมิเป็ นอย่ างไร
ก. อุณหภูมิจะลดต่ำลงมากกว่าที่เป็ น
ข. อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นจากที่เป็ นอยู่
ค.อุณหภูมิจะไม่เปลี่ยนแปลง
ง.สรุ ปแน่นอนไม่ได้
239. ถ้ าต้ องการทราบว่าในอากาศมีไอน้ำจะทำการทดสอบได้ อย่ างไร
ก. ขุดบ่อทรายแล้วมีน ้ำออกมา
ข. ต้มน้ำให้เดือดมีไอน้ำพุง่ ออกมา
ค. หายใจรดกระจก กระจกจะเป็ นฝ้ ามัว
ง. เอาน้ำแข็งใส่ แก้วจะมีหยดน้ำมาเกาะรอบๆแก้ว
240. ฝุ่ นละอองที่ปะปนอยู่ในอากาศอยู่ในสถานะใด
ก. ก๊าซ
ข. ของแข็ง
ค. ของเหลว

241. ข้ อใดกล่ าวถูกต้ อง


ก. อากาศและบรรยากาศไม่เกี่ยวข้องกัน
ข. อากาศเป็ นส่ วนหนึ่งของบรรยากาศ
ค. อากาศไม่ใช่สสารแต่บรรยากาศเป็ นสสาร
ง. อากาศเป็ นสสารแต่บรรยากาศไม่ใช่สสาร
242. บรรยากาศชั้นใดที่สำคัญที่สุดต่ อการดำรงชีวติ ของสิ่ งมีชีวติ
ก. สตราโทสเฟี ยร์
ข. เอกโซเฟี ยร์
ค. โทรโพสเฟี ยร์
ง. มีโซสเฟี ยร์
243. บรรยากาศชั้นที่มีอนุภาคที่เป็ นสื่อไฟฟ้ าและสามารถสะท้ อนคลืน่ วิทยุได้ คอื ชั้นใด
ก. มีโซสเฟี ยร์
ข. เอกโซสเฟี ยร์
ค. ไอโอโนสเฟี ยร์
ง. สตราโทสเฟี ยร์
244. บรรยากาศชั้นที่มีอากาศมากถึง 80 % ของอากาศทั้งหมดคือชั้นใด
ก. สตราโทสเฟี ยร์
ข. เทอร์โมสเฟี ยร์
ค. โทรโพสเฟี ยร์
ง. มีโซสเฟี ยร์
245.บรรยากาศชั้นใดที่มีการเปลีย่ นแปลงของอากาศมากที่สุด
ก. สตราโทสเฟี ยร์
ข. เอกโซสเฟี ยร์
ค.โทรโพสเฟี ยร์
ง. มีโซสเฟี ยร์
246. ชั้นบรรยากาศที่เรียกว่าโฮโมสเฟี ยร์ คอื ข้ อใด
ก. โทรโพสเฟี ยร์ สตราโทสเฟี ยร์ มีโซสเฟี ยร์
ข. มีโซสเฟี ยร์ เอกโซสเฟี ยร์ โทรโพสเฟี ยร์
ค. สตราโมสเฟี ยร์ มีโซสเฟี ยร์ เทอร์โมสเฟี ยร์
ง เทอร์โมสเฟี ยร์ มีโซสเฟี ยร์ เอกโซสเฟี ยร์
247. สาร CFCs ประกอบด้ วยธาตุชนิดใดบ้ าง
ก. คาร์บอน ฟลูออรี น คลอรี น
ข. คาร์บอนไดออกไซด์ คลอรี น ไนโตรเจน
ค. ไนโตรเจน คาร์บอน ออกซิเจน
ง. คาร์บอน ฟอสฟอรัส ซีเซียม
248. ความหนาแน่ นของอากาศหมายถึงข้ อใด
ก. อัตราส่ วนระหว่างมวลกับปริ มาตรของอากาศ
ข. อัตราส่ วนระหว่างอุณหภูมิกบั ปริ มาตรของอากาศ
ค. อัตราส่ วนระหว่างแรงดันอากาศกับมวลของอากาศ
ง. อัตราส่ วนระหว่างปริ มาตรกับแรงดันอากาศ
249. อากาศมวล 45 กรัมอยู่ในกระบอกฉีดยาขนาด 30 ลูกบาศก์ เซนติเมตร ความหนาแน่ นของอากาศ
ใน กระบอกฉีดยาจะมีค่าเท่ าไร
ก. 1.2 g/cm3 ข. 1.5 g/cm3
ค. 1.75 g/cm3 ง. 1.9 g/cm3

250. เหวแห่ งหนึ่งอยู่ลกึ จากหน้ าผา 2,300 เมตร และหน้ าผาอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร
ความ ดันอากาศที่ก้นเหวเป็ นกีม่ ิลลิเมตรของปรอท
ก. 660
ข. 760
ค. 850
ง. 860
251. เครื่องใช้ ทุกข้ ออาศัยความดันอากาศยกเว้นข้ อใด
ก. หลอดดูดกาแฟ
ข. ฝักบัวอาบน้ำ
ค. กระบอกฉีดยา
ง. สเปรย์
252.โดยเฉลีย่ ที่ระดับความสู งจากพืน้ ดิน 11 เมตรระดับปรอทจะลดลงกีม่ ิลลิเมตร
ก. 760 ข. 759 ค. 76 ง. 1
253. เอ อยู่บนยอดเขาแห่ งหนึ่งเมื่อวัดความสู งของปรอทได้ 610 มิลลิเมตรของปรอทยอดเขาแห่ งนีส้ ู ง
จากระดับน้ำทะเลกีก่ โิ ลเมตร
ก. 1,650
ข. 165
ค. 16.5
ง. 1.65

254. นักเรียนขึน้ ไปอยู่บนที่สูงจะรู้ สึกหูออื้ เนื่องจากสาเหตุใด


ก. ความดันอากาศ ข. ความชื้นในอากาศ
ค. อุณหภูมิของอากาศ ง. ปริ มาณไอน้ำในอากาศ
255. หย่ อมความกดอากาศต่ำหมายถึงข้ อใด
ก. บริ เวณที่มีความกดดันต่ำ ความหนาแน่นต่ำ อุณหภูมิสูง
ข. บริ เวณที่มีความกดดันต่ำ ความหนาแน่นต่ำ อุณหภูมิต ่ำ
ค. บริ เวณที่มีความกดดันสูง ความหนาแน่นสู ง อุณหภูมิต ่ำ
ง. บริ เวณที่มีความกดดันสูง ความหนาแน่นต่ำ อุณหภูมิสูง
256.อากาศตำบล A มีหย่อมความกดอากาศสู ง ตำบล B มีหย่ อมความกดอากาศต่ำ จะเกิดลมพัดในลักษณะใด (หัว
ลูกศรแสดงทิศทางของลม)
ก. A B ข. A B
ค. AB ง. A B
257.ข้อใดเป็ นความหมายของคำว่า “วิทยาศาสตร์” ที่ถูกต้องที่สุด
ก. ความรู้เกี่ยวกับสิ่ งต่าง ๆ ในธรรมชาติ ข. กระบวนการค้นคว้าหาความรู ้ที่มีข้ นั ตอน
ข. ความรู้เกี่ยวกับสิ่ งมีชีวิตและสิ่ งแวดล้อม ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
258.นักวิทยาศาสตร์ท่านใดต่อไปนี้ที่จดั เป็ นนักวิทยาศาสตร์บริ สุทธิ์
ก. อัลเบิร์ต ไอสไตน์ คิดสูตรระเบิดนิวเคลียร์ ได้แก่ E = mc2
ข. สองพี่นอ้ งตระกูลไรท์ สร้างเครื่ องบินได้สำเร็ จเป็ นคนแรกของโลก
ค. ไมเคิล ฟาราเดย์ สามารถประดิษฐ์เครื่ องกำเนิดไฟฟ้ าเป็ นคนแรกของโลก
ง. โทมัส แอลวา เอดิสนั ประดิษฐ์หลอดไฟฟ้ าสำเร็ จเป็ นคนแรกของโลก
259.ข้อใดต่อไปนี้ ไม่จดั เป็ นคุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์
ก. การเป็ นคนช่างสังเกต ข. การเป็ นคนช่างคิดช่างสงสัย
ข. การเป็ นคนมีความคิดริ เริ่ ม ง. การเป็ นคนที่มีความเชื่อมัน่ ตนเองสู งกว่าคนอื่น

260.คุณสมบัติขอ้ ใดของนักวิทยาศาสตร์ที่ท ำให้มีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา


ก. การเป็ นคนช่างสังเกต ข. การเป็ นคนช่างคิดช่างสงสัย
ข. การเป็ นคนมีความคิดริ เริ่ ม ง. การเป็ นคนมีความพยายามและความอดทน
261.จากคุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์ต่อไปนี้ ข้อใดจัดว่าสำคัญกว่าข้ออื่น ๆ ทั้งหมด
ก. การเป็ นคนช่างสังเกต ข. การเป็ นคนช่างคิดช่างสงสัย
ข. การเป็ นมีความพยายามและความอดทน ง. การเป็ นคนทำงานอย่างเป็ นระบบ
262.นักวิทยาศาสตร์ท่านใดที่จดั ว่า เป็ นผูค้ ิดริ เริ่ มการเดินทาง ทางอากาศเป็ นคนแรกของโลก
ก. สองพี่นอ้ งตระกูลไรท์ ข. โรเจอร์ เบคอน
ข. ลีโอนาโด ดาวินซี ง. เซอร์ ยอร์จ เคย์ลีย ์
263.“วัตถุไม่วา่ หนักหรื อเบาจะตกถึงพื้นพร้อมกันเสมอ ถ้าทดลองในสู ญญากาศ” เป็ นทฤษฎีของใคร
ก. เซอร์ ไอแซก นิวตัน ข. กาลิเลอิ กาลิเลโอ
ข. อาริ สโตเติล ง. เซอร์ อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง
264.“เมื่อเดินทางไปทางทิศเหนือ ดาวที่เคยเห็นจะลับขอบฟ้ าไปทางทิศใต้” เป็ นทฤษฎีของใคร
ก. ลีโอนาโด ดาวินซี ข. เซอร์ ไอแซก นิวตัน
ข. อาริ สโตเติล ง. อาร์คิมีดีส
265.“พบวงแหวนดาวเสาร์ พบภูเขาบนดวงจันทร์ พบจุดดับบนดวงอาทิตย์” เป็ นผลงานของใคร
ก. เซอร์ ไอแซก นิวตัน ข. กาลิเลอิ กาลิเลโอ
ข. เซอร์ อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง ง. โทมัส แอลวา เอดิสนั
จากข้ อมูลต่ อไปนีจ้ งใช้ ตอบคำถามข้ อ 266-267
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ (ระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์ ) มี 5 ขั้นตอน ดังนี้ -
1. การศึกษาค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล 2. การสรุ ปผล 3. การตั้งปั ญหา 4. การทดลอง
5. การตั้งสมมติฐาน
266. ข้อใดต่อไปนี้ ที่เรี ยงลำดับขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด
ก. 1-2-3-4-5 ข. 2-4-1-5-3
ค. 3-5-4-1-2 ง. 3-5-1-4-2
267.วิธีการทางวิทยาศาสตร์ข้นั ตอนใด ที่นกั วิทยาศาสตร์ให้ความสำคัญมากที่สุด
ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4
268.”การตั้งสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์” จะต้องยึดวิธีการทางวิทยาศาสตร์ข้ นั ตอนใดเป็ นหลักสำคัญ
ก. ปัญหา ข. การทดลอง ค. การรวบรวมข้อมูล ง. การสรุ ปผล
269.”การออกแบบการทดลองทางวิทยาศาสตร์” จะต้องยึดวิธีการทางวิทยาศาสตร์ข้ นั ตอนใดเป็ นหลักสำคัญ
ก. ปัญหา ข. การทดลอง ค. การรวบรวมข้อมูล ง. สมมติฐาน

270. ข้อใดต่อไปนี้ที่จดั เป็ น “สมมติฐาน” ทางวิทยาศาสตร์


ก. แสงสว่างจากดวงอาทิตย์น่าจะมีผลต่อการเจริ ญเติบโตของพืช
ข. ตึกหลังนี้สวยงามมากเนื่องจากสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง
ค. สวนดอกไม้แห่งนี้ร่มรื่ นสวยงามเนื่องจากมีดอกไม้นานาพันธุ์
ง. แสงอาทิตย์มองเห็นเป็ นแสงขาวที่จริ งแล้วเป็ นแสงสี 7 สี ปนกันอยู่
271. “สิ่ งต่าง ๆบนท้องฟ้ าไม่สมบูรณ์แบบ ดวงดาวมีการเปลี่ยนแปลง และดวงอาทิตย์ดบั ได้ในอนาคต”
เป็ นทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์ท่านใด
ก. อาริ สโตเติล ข. กาลิเลอิ กาลิเลโอ ค. ไอแซก นิวตัน ง. อาร์คิมีดิส

272. เช้าวันหนึ่ง ปู่ ติ่งเดินอยูใ่ นสวนดอกไม้เขารู้สึกว่า อากาศสดชื่นเย็นสบายได้กลิ่นหอมจากดอกไม้


นานาชนิด “ปู่ ติ่งใช้ประสาทสัมผัสกี่ดา้ น”
ก. ด้านเดียว ข. สองด้าน ค. สามด้าน ง. สี่ ดา้ น
273. ใครเป็ นผูป้ ระดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์เป็ นคนแรกของโลก
ก. โรเบิร์ต ฮุก ข. เลเวน ฮุก ค. กาลิเลอิ กาลิเลโอ ง. ไอแซก นิวตัน
274. ภาพที่เรามองเห็นจากกล้องจุลทรรศน์ เป็ นภาพชนิดใด
ก. ภาพจริ ง หัวกลับกับวัตถุ ข. ภาพจริ ง หัวตั้งเหมือนวัตถุ
ค. ภาพเสมือน หัวกลับกับวัตถุ ง. ภาพเสมือน หัวตั้งเหมือนวัตถุ
275. กล้องจุลทรรศน์เครื่ องหนึ่งพบว่า เลนส์วตั ถุมีก ำลังขยาย 100 เท่า ส่ วนเลนส์ตามีก ำลังขยายเพียง 5 เท่า
จงหากำลังขยายของกล้องจุลทรรศน์เครื่ องนี้
ก. 500 เท่า ข. 105 เท่า ค. 95 เท่า ง. 50 เท่า
276. การใช้กล้องจุลทรรศน์ ถ้าเราต้องการให้แสงเข้าไปในลำกล้องมาก-น้อยตามที่ตอ้ งการ ต้องปรับที่ส่วนใด
ก. ปุ่ มปรับภาพหยาบ ข. ปุ่ มปรับภาพละเอียด ค. ไดอะแฟรม ง. เลนส์ใกล้วตั ถุ
277. นักวิทยาศาสตร์ท่านใดเป็ นผูค้ น้ พบและตั้งชื่อเซลล์เป็ นคนแรกของโลก
ก. เลเวน ฮุก ข. โรเบิร์ต ฮุก ค. โรเบิร์ต บราวน์ ง. ชไลเดนและชวานน์
278. คำว่า “เซลล์” หมายถึงอะไร
ก. อนุภาคที่เล็กที่สุดของสิ่ งมีชีวิต ข. สิ่ งที่เล็กที่สุดของสิ่ งมีชีวิต
ค. หน่วยที่เล็กที่สุดของสิ่ งมีชีวิต ง. ถูกทุกข้อ
279. “รู ปร่ างเรี ยวยาว คล้ายรองเท้าแตะ มีขนรอบ ๆ ตัว และใช้ขนในการเคลื่อนที่” หมายถึงสิ ่ งมีชีวิตชนิดใด
ก. อะมีบา ข. พารามีเซียม ค. ยูกลีนา ง. แบกทีเรี ย
280. การจัดระบบเซลล์ในสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์ ข้อใดจัดเรี ยงลำดับจากใหญ่ไปหาเล็กได้ถูกต้องที่สุด
ก. เซลล์-เนื้อเยือ่ -อวัยวะ-ระบบอวัยวะ-ร่ างกาย ข. เซลล์-อวัยวะ-เนื้อเยือ่ -ระบบอวัยวะ-ร่ างกาย
ค. ร่ างกาย-อวัยวะ-ระบบอวัยวะ-เนื้อเยือ่ -เซลล์ ง. ร่ างกาย-ระบบอวัยวะ-อวัยวะ-เนื้อเยือ่ -เซลล์

281. “ลำไส้ของนักเรี ยน” จัดเป็ นสิ่ งใด ในการจัดระบบเซลล์ของสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์


ก. เซลล์ ข. เนื้อเยือ่ ค. อวัยวะ ง. ระบบอวัยวะ
จากรู ปเซลล์ พชื ต่ อไปนี้ จงใช้ ตอบคำถามข้ อ 6-10

1 5

2 6

3 7

4 8

282. นักวิทยาศาสตร์จดั ให้หมายเลขใด มีความสำคัญมากที่สุดของเซลล์


ก. 1 ข. 3 ค. 5 ง. 8
283. “ควบคุมสารเข้าสู่ เซลล์และออกนอกเซลล์” เป็ นหน้าที่ของหมายเลขใด
ก. 1 ข. 3 ค. 4 ง. 6

284. “สร้างจากสารประเภทไขมันและโปรตีน” เป็ นข้อมูลของหมายเลขใด


ก. 1 ข. 3 ค. 5 ง. 6
285. “ควบคุมการทำงานและการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมไปสู่ รุ่ นลูก” เป็ นหน้าที่ของหมายเลขใด
ก. 1 ข. 3 ค. 4 ง. 8
286. ข้อใดที่จบั คู่ไม่ถูกต้อง
ก. 1 – รปภ. ข. 4 – พ่อครัว ค. 5 – กำแพงหรื อรั้ว ง. 8 – เทศบาลหรื อถังขยะ
287. ข้อใดเป็ นจริ งเกี่ยวกับเซลล์พืช
ก. เซลล์พืชที่ตายแล้วยังพบผนังเซลล์ได้ ข. เซลล์พืชส่ วนมากมีรูปร่ างเป็ นช่องสี่ เหลี่ยมผืนผ้า
ค. ไรโบโซมช่วยสร้างพลังงานให้แก่เซลล์ ง. เซลล์พืชทุกเซลล์ตอ้ งมีเม็ดคลอโรพลาสต์เสมอ
288. จากการทดลอง เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกและเซลล์เยือ่ หอมต่างกันในเรื่ องใด
ก. เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกมีเซลล์คุมแต่เซลล์เยือ่ หอมไม่มีเซลล์คุม
ข. เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกมีเยือ่ หุม้ เซลล์แต่เซลล์เยือ่ หอมไม่มีเยือ่ หุม้ เซลล์
ค. เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกมีคลอโรพลาสต์แต่เซลล์เยือ่ หอมไม่มีคลอโรพลาสต์
ง. เซลล์สาหร่ ายหางกระรอกมีผนังเซลล์แต่เซลล์เยือ่ หอมไม่มีผนังเซลล์

289. ผนังเซลล์ของเซลล์พืชประกอบด้วยสารชนิดใด
ก. โปรตีน ข. ไขมัน ค. เซลลูโลส ง. คลอโรพลาสต์
290. การที่นกั เรี ยนมีหน้าตาคล้ายแม่และมีลกั ยิม้ เหมือนพ่อ เนื่องจากส่ วนประกอบใดของเซลล์
ก. นิวเคลียส ข. ไรโบโซม ค. ไลโซโซม ง. ไมโทคอนเดรี ย
291. คลอโรพลาสต์ในเซลล์พืชทำหน้าที่อะไร
ก. ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง ข. ควบคุมการทำงานของเซลล์ท้ งั หมด
ค. ช่วยกำจัดของเสี ยให้ออกจากเซลล์ ง. ควบคุมการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
292. ส่ วนประกอบใดของเซลล์พืชที่ท ำให้เซลล์พืชคงรู ปร่ างอยูไ่ ด้ถึงแม้ตายไปแล้วนับ 100 ปี
ก. ผนังเซลล์ ข. เยือ่ หุม้ เซลล์ ค. นิวเคลียส ง. คลอโรฟี ลล์
จากรู ปเซลล์ ที่นักเรียนได้ ตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ แล้ ว ต่ อไปนี้ จงใช้ ตอบคำถามข้ อ 17-20
1 2 3

-3-
293. เพราะเหตุใดเซลล์เหล่านี้จึงมีรูปร่ างแตกต่างกัน
ก. มีหน้าที่แตกต่างกัน ข. เป็ นเซลล์ต่างชนิดกัน
ค. มีโครงสร้างพื้นฐานต่างกัน ง. ถูกทุกข้อ
294. หมายเลขใดจัดเป็ นเซลล์ของสัตว์
ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4
295. เซลล์หมายเลขใดที่สามารถสร้างอาหารเองได้โดยการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
ก. 1,2 ข. 2,3 ค. 3,4 ง. 1,4
296. เซลล์หมายเลขใด เป็ นลักษณะของเซลล์พืชที่อยูบ่ นบก
ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4
297. ภาพยูกลีนาที่มองเห็นจากกล้องจุลทรรศน์(ดังภาพ) นักเรี ยนจะต้องเลื่อนสไลด์อย่างไร ภาพยูกลีนาจึงจะอยูท่ ี่
จุดศูนย์กลางของสนามภาพกล้องจุลทรรศน์พอดี
ก. เลื่อนลงแล้วเลื่อนไปทางซ้ายมือ ข. เลื่อนลงแล้วเลื่อนไปทางขวามือ
ค. เลื่อนขึ้นแล้วเลื่อนไปทางซ้ายมือ ง. เลื่อนลงแล้วเลื่อนไปทางขวามือ

298. กล้องจุลทรรศน์มีก ำลังขยาย 500 เท่า เลนส์ใกล้ตามีก ำลังขยาย 10 เท่า จงหากำลังขยายของเลนส์ใกล้วตั ถุ


ก. 5,000 เท่า ข. 510 เท่า ค. 490 เท่า ง. 50 เท่า
299. จากคำถามข้อ 22 เมื่อนำแบคทีเรี ยไปตรวจสอบดูดว้ ยกล้องจุลทรรศน์น้ี สามารถมองเห็นภาพแบคทีเรี ย
มีขนาด 200 ไมครอน แบคทีเรี ยตัวจริ งมีขนาดเท่ากับกี่ไมครอน
ก. 0.4 ไมครอน ข. 0.3 ไมครอน ค. 0.2 ไมครอน ง. 0.1 ไมครอน
จากภาพการทดลองต่ อไปนี้ จงใช้ ตอบคำถามข้ อ 300-303
ระดับของเหลวในหลอดแก้ว 24. จากภาพนี้ เป็ นการทดลองเรื่ องใด
ถุงเซลโลเฟน ก. การแพร่ ของสาร
ระดับน้ำ สารละลายน้ำตาลทรายเข้มข้น ข. การออสโมซิ ส
บีกเกอร์ ค. การละลายของสาร
น้ำกลัน่ ง. ความเข้มข้นของสาร
300 . จากภาพการทดลองนี้ ผลการทดลองเป็ นเช่นใด
ก. ระดับของเหลวในหลอดแก้วสูงขึ้น ข. ระดับของเหลวในหลอดแก้วลดลง
ค. ระดับของเหลวในหลอดแก้วคงที่ ง. น้ำตาลในถุงเซลโลเฟนแพร่ ออกจากถุงได้

301. จากการทดลองนี้ ถ้าเปลี่ยนน้ำในบีกเกอร์เป็ นน้ำหมึกแดง ผลการทดลองที่ถูกต้องจะเป็ นดังข้อใด


ก. สารลายในถุงเซลโลเฟนจะเปลี่ยนเป็ นสี แดง
ข. สารละลายในถุงเซลโลเฟนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ค. ระดับของเหลวในหลอดแก้วจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ง. ระดับของเหลวในหลอดแก้วจะลดลงจากเดิม
302. การแพร่ ของสารในข้อใด ที่อนุภาคของของเหลวแพร่ ไปในแก๊ส
ก. การทำน้ำเชื่อม ข. การได้กลิ่นน้ำหอม ค. การได้กลิ่นการบูร ง. การได้กลิ่นผลไม้
303. ข้อใดต่อไปนี้ ที่ไม่เกิดการแพร่ ของสาร
ก. น้ำเกลือ ข. น้ำหวาน ค. น้ำแป้ ง ง. น้ำเชื่อม
29. กระดาษเซลโลเฟนที่ใช้ในการทดลอง เปรี ยบเสมือนกับส่ วนประกอบใดของเซลล์พืช
ก. ผนังเซลล์ ข. เยือ่ หุม้ เซลล์ ค. นิวเคลียส ง. คลอโรพลาสต์
304. ข้อใดต่อไปนี้ ที่ไม่จดั เป็ น “ออสโมซิส”
ก. รากพืชดูดน้ำจากดิน ข. การพรมน้ำให้แก่พืชผักที่วางขาย
ค. น้ำแพร่ เข้าสู่ เซลล์ต่าง ๆ ของสิ่ งมีชีวิต ง. การนำเกล็ดด่างทับทิมใส่ ลงไปในน้ำ

305. ข้อใดบอกความหมายของเซลล์ได้ถูกต้อง
ก. หน่วยที่เล็กที่สุดของพืชและสัตว์
ข. หน่วยของโปรตีนในเซลล์พืช
ค. หน่วยของนิวเคลียสในเซลล์พืช
ง. หน่วยของคลอโรฟี ลล์ในเซลล์พืช
306. นักวิทยาศาสตร์ที่คน้ พบเซลล์ของสิ่ งมีชีวิตคนแรก คือใคร
ก.  ชไลเดน ข.  กาลิเลโอ
ค. ชวานน์  ง.  โรเบิร์ต ฮุก
307. หากต้องการจะตรวจดูเชื้อแบคทีเรี ย ควรใช้เครื่ องมือ ชนิดใดจึงจะเหมาะสมที่สุด
ก.   แว่นขยาย  ข. กล้องจุลทรรศน์
ค. กล้องส่ องทางไกล ง.  กล้องโทรทรรศน์
308. สิ่ งใดเป็ นเกณฑ์การจำแนกสิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวกับ สิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
ก. จำนวนเซลล์ ข. ขนาดของเซลล์
ค. รู ปร่ างของเซลล์ ง. ส่ วนประกอบของเซลล์
309. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวกับสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์มีสิ่งใดที่ เหมือนกัน
ก. ขนาดของเซลล์
ข. รู ปร่ างของเซลล์   
ค. ความแข็งของเซลล์
ง. ส่ วนประกอบพื้นฐานของเซลล์
310. เพราะเหตุใดนักวิทยาศาสตร์จึงจำแนกสิ่ งมีชีวิตออก เป็ นสิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวกับสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
ก. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีความแข็งของเซลล์มากกว่าสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
ข. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีส่วนปะกอบพื้นฐานของเซลล์ที่แตกต่างจากสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์
ค. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีรูปร่ างเซลล์ที่เหมือนกัน ส่ วนสิ่ งมีชีวิตหลายเซลล์มีรูปร่ างเซลล์ที่แตกต่างกัน
ง. สิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวมีเพียงเซลล์เดียวก็ด ำรงชีวิตอยูไ่ ด้  แต่สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ตอ้ งมีเซลล์ มารวมกลุ่มกันจึง
จะดำรงชีวิตอยูไ่ ด้
311. ส่ วนประกอบของเซลล์พืชในข้อใดทำให้ เซลล์พืช แข็งแรงกว่าเซลล์สตั ว์
ก. ผนังเซลล์ ข. เยือ่ หุม้ เซลล์
ค. ไซโทพลาซึม ง. นิวเคลียส
312. ส่ วนประกอบในข้อใดพบแต่ในเซลล์พืช
ก. นิวเคลียส ข. เยือ่ หุม้ เซลล์
ค. ไซโทพลาซึม ง. คลอโรพลาสต์
313. ส่ วนประกอบของเซลล์ส่วนใดทีไม่ พบ ในเซลล์สตั ว์
ก. ผนังเซลล์ ข. นิวเคลียส
ค. เยือ่ หุม้ เซลล์ ง. ไซโทพลาซึ ม
จงใช้ ภาพของเซลล์ที่กำหนดให้ ประกอบ
การตอบคำถามข้ อ 314-316
A. B.
C. D.

314. ภาพในข้อใดเป็ นเซลล์ของว่านกาบหอย


ข. ภาพ A ข. ภาพ B
ค. ภาพ C ง. ภาพ D

315. ภาพในข้อใดเป็ นเซลล์ของสัตว์


ค. ภาพ A ข. ภาพ B
ค. ภาพ C ง. ภาพ D
316. ภาพในข้อใดเป็ นเซลล์สาหร่ ายหางกระรอก
ง. ภาพ A ข. ภาพ B
ค. ภาพ C ง. ภาพ D
317. ภาพในข้อใดเป็ นเซลล์เยือ่ หอม
จ. ภาพ A ข. ภาพ B
ค. ภาพ C ง. ภาพ D

จงใช้ ภาพเซลล์ ที่กำหนดให้ ประกอบการตอบคำถามข้ อ 318-319

5
3

318. ส่ วนที่เรี ยกว่าผนังเซลล์คือหมายเลขใด


ก. หมายเลข 1 ข. หมายเลข 2
ข. หมายเลข 3 ง. หมายเลข 4

319. หมายเลขใดเรี ยกว่า เยือ่ หุม้ เซลล์


ก. หมายเลข 1 ข. หมายเลข 2
ค. หมายเลข 3 ง. หมายเลข 4
320. ส่ วนที่เรี ยกว่าไซโทพลาซึมคือข้อใด
ก. หมายเลข 1 ข. หมายเลข 2
ค. หมายเลข 3 ง. หมายเลข 4
321. หมายเลขใดเรี ยกว่า เม็ดคลอโรพลาสต์
ก. หมายเลข 2 ข. หมายเลข 3
ค. หมายเลข 4 ง. หมายเลข 5
322. หมายเลขใดเรี ยกว่า นิวเคลียส
ก. หมายเลข 2 ข. หมายเลข 3
ค. หมายเลข 4 ง. หมายเลข 5
323 . ส่ วนประกอบของเซลล์พืชในข้อใดทำให้พืช สร้างอาหารได้เอง
ก. ไรโบโซม ข. แวคิวโอล
ค. นิวเคลียส ง. คลอโรพลาสต์
324. หน้าที่ในข้อใดถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับนิวเคลียส
ก. เป็ นแหล่งสร้างพลังงานให้แก่เซลล์
ข. ควบคุมการผ่านเข้าออกของสารต่างๆ
ค. เป็ นแหล่งที่มีการสังเคราะห์แสง
ง. ควบคุมการทำงานของเซลล์ และ
การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

325 .  โครงสร้างใดต่อไปนี้ที่มีส่วนสำคัญในการดูดน้ำ เข้าสู่ รากพืช


ก.  ขนราก ข. ปลายสุ ดของราก
ค.  ด้านบนของปลายราก ง.  บริ เวณที่อยูใ่ ต้ดิน
326. การออสโมซีสต่างจากการแพร่ อย่างไร
ก. ออสโมซี สเป็ นการเคลื่อนที่ของน้ำผ่านเยือ่ บางๆ
ข. การแพร่ เกิดจากสารเคลื่อนที่จากโมเลกุลน้ อย ไปสู่ ที่มีโมเลกุลมาก
ค. การแพร่ ไม่ตอ้ งผ่านเยือ่ บาง ๆ ก็ได้ แต่การ ออสโมซี สต้องผ่านเยือ่ บางๆ
ง. ข้อ ก และ ข้อ ค ถูก
327.  น้ำในดินสามารถเข้าสู่ รากพืชโดยอาศัยกระบวน การใด
ก. ออสโมซิ ส ข. การดูดซับ
ค.  การแพร่ ง. การดูดน้ำโดยตรงของราก
328. การพรวนดินให้ร่วนซุยเป็ นประโยชน์ต่อพืช ในแง่ใด
ก.  การดูดน้ำของรากพืช      ข.  การลำเลียงน้ำ
ค.   การลำเลียงแร่ ธาตุ ง. การลำเลียงอาหาร
329. ข้อใด ไม่ใช่ หลักการแพร่
ก. การละลายของสี
ข. การได้กลิ่นน้ำหอม
ค. ลูกเหม็นไล่แมลงสาบ
ง. การไหลของน้ำไปตามท่อ
330. ตัวอย่างของการแพร่ ที่พบในชีวิตประจำวัน ข้อใดถูกต้อง
ก. การฟุ้ งกระจายของน้ำหอม
ข. การฟุ้ งกระจายของควันไฟ
ค. การเกิดเมฆ
ง. ข้อ ก และ ข ถูกต้อง
331. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวได้ถูกต้อง
ก. แร่ ธาตุเข้าสู่ รากพืชโดยการออสโมซิส น้ำเข้าสู่ รากพืชด้วยการแพร่
ข. แร่ ธาตุและน้ำเข้าสู่ รากพืชด้วยการออสโมซิ ส
ค. แร่ ธาตุเข้าสู่ รากพืชโดยการแพร่ น้ำเข้าสู่ รากพืช ด้วยการออสโมซิ ส
ง. แร่ ธาตุและน้ำเข้าสู่ รากพืชโดยการแพร่
332. ถ้าการคายน้ำของพืชเป็ นตัวอย่างของการแพร่ อย่างหนึ่ง ดังนั้นปั จจัยในข้อใดต่อไปนี้ที่มีผลต่อ
การคายน้ำของพืช
ก. น้ำในดินมาก
ข. แร่ ธาตุในดินมาก
ค. ขนรากมีจ ำนวนมาก
ง. อุณหภูมิของอากาศ
333. คำว่า ออสโมซีส ถ้าจะอธิบายจะใช้ขอ้ ใดจึงจะถูกต้อง
ก. เป็ นการเคลื่อนที่ของน้ำผ่านเยือ่ บางไปยังบริ เวณ น้ำมากกว่า
ข. เป็ นการเคลื่อนที่ของน้ำจากสารละลายเจือจาง ผ่านเยือ่ บางไปสู่ สารละลายเข้มข้น
ค. เป็ นการเคลื่อนที่ของสารละลายเข้มข้นไปสู่ สารละลายเจือจาง
ง. เป็ นการเคลื่อนที่ของน้ำจากบริ เวณน้ำมาก ไปยังบริ เวณน้ำน้อย
334 . เพราะเหตุใดการศึกษาท่อลำเลียงน้ำของพืชต้อง ใส่ หมึกแดง หรื อสี ผสมอาหารสี แดง ลงไปในน้ำที่
แช่ตน้ พืชด้วย
ก. ช่วยให้พืชลำเลียงน้ำได้ดีข้ ึน
ข. ช่วยให้พืชสังเคราะห์ดว้ ยแสงดีข้ึน
ค. ช่วยให้เห็นเซลล์ที่เป็ นท่อลำเลียงน้ำชัดเจนขึ้น
ง. ช่วยให้เห็นเซลล์ที่เป็ นส่ วนประกอบของลำต้นชัดเจน
335. ถ้านำต้นกระสังมาตัดตามขวางเป็ นชิ้นบางๆ แล้วส่ อง ดูดว้ ยกล้องจุลทรรศน์กลุ่มเซลล์ที่ติดสี แดงคืออะไร
ก. กลุ่มท่อลำเลียงน้ำ
ข. กลุ่มท่อลำเลียงอาหาร
ค. กลุ่มเซลล์ที่ก ำลังเจริ ญ
ง. กลุ่มของเซลล์ที่มีไขมัน
336. กลุ่มเซลล์ที่ท ำหน้าที่เป็ นท่อลำเลียงน้ำ พบได้ใน ส่ วนใดของพืช
ก. เฉพาะราก ข. รากและลำต้น
ค. ราก ลำต้น กิ่ง ง. ราก ลำต้น กิ่ง และใบ
337. ท่อลำเลียงน้ำในลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่จะมีลกั ษณะ อย่างไร
ก. เรี ยงกันอยูเ่ ป็ นวง
ข. กระจัดกระจายอยูท่ วั่ ไป
ค. อยูเ่ ป็ นกลุ่มตรงกลางลำต้น
ง. อยูเ่ ป็ นหย่อม ๆ ระหว่างเซลล์

338. ท่อลำเลียงน้ำในลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวมีลกั ษณะเป็ น แบบใด


ก. เรี ยงกันอยูเ่ ป็ นวง
ข. กระจัดกระจายอยูท่ วั่ ลำต้น
ค. อยูเ่ ป็ นกลุ่มตรงกลางลำต้น
ง. อยูเ่ ป็ นหย่อม ๆ ระหว่างเซลล์
339. โครงสร้างที่พืชใช้ในการลำเลียงน้ำและแร่ ธาตุข้ ึนสู่ ลำต้น กิ่ง และใบคืออะไร
ก. ไซเลม ข. โฟลเอ็ม
ค. แคมเบียม ง. ระบบราก
340. กลุ่มเซลล์ที่ท ำหน้าที่ล ำเลียงอาหารของพืชเรี ยกว่า อะไร
ก. ไซเลม ข. โฟลเอ็ม
ค. แคมเบียม ง. คลอโรฟิ ลล์
341. จากรู ป เป็ นลำต้นของพืชชนิดใด

ก. ต้นอ้อย ข. ต้นกระสัง
ค. ต้นกล้วย ง. ต้นมะพร้าว
342. เรานับอายุของพืชขนาดใหญ่จากวงปี นักเรี ยนคิดว่าที่จริ งแล้ววงปี คือวงของอะไร
ก. เนื้อไม้
ข. เปลือกไม้
ค. ท่อลำเลียงน้ำ
ง. ท่อลำเลียงอาหาร
343. จากรู ป ต้นไม้ตน้ นี้ มีอายุกี่ปี
ก. มีอายุ 2 ปี ข. มีอายุ 3 ปี
ค. มีอายุ 4 ปี ง. มีอายุ 5 ปี

344. ถ้าควัน่ เปลือกของต้นไม้ออก จะกระทบต่อระบบใด ของพืชมากที่สุด


ก. การคายน้ำ
ข. การลำเลียงน้ำ
ค. การลำเลียงอาหาร
ง. การสังเคราะห์ดว้ ยแสง
345. ภาพ การทดสอบหาแป้ งที่ต ำแหน่งปิ ดกระดาษของใบไม้ที่อยูใ่ นต้นเดียวกันเมื่อให้ใบไม้ทุกใบได้รับแสงเป็ น
เวลา 4 ชัว่ โมง

กระดาษสา กระดาษดำ

กระดาษแก้วใส

จากภาพ การออกแบบการทดลองนี้ ก ำหนดให้สิ่งใดเป็ นตัวแปรต้น


ก. ปริ มาณแป้ ง
ข. ตำแหน่งของใบไม้
ค.ชนิดของกระดาษ
ง. ระยะเวลาที่ได้รับแสง
346. ให้ศึกษาข้อมูลจากตารางแล้วตอบคำถาม
ตาราง อัตราการสังเคราะห์ดว้ ยแสงที่อุณหภูมิต่าง ๆ ของพืช 4 ชนิด
ชนิดของพืช อัตราการสังเคราะห์ดว้ ยแสง (μmol m-2 s-1 ) ที่อุณหภูมิต่างๆ
20 oC 35 oC
1 10 30
2 15 40
3 20 50
4 50 20
ถ้าต้องการปลูกพืชเหล่านี้ในประเทศไทย ควรเลือกปลูกพืชชนิดใด เรี ยงตามลำดับจากมากไปน้อย
ก. ชนิดที่ 1 2 3 และ 4 ข. ชนิดที่ 3 1 2 และ 4
ค. ชนิดที่ 3 2 1 และ 4 ง. ชนิดที่ 4 3 2 และ 1
347. ทดลองใส่ พืชน้ำชนิดต่าง ๆ ทีละชนิดในอ่างน้ำที่ครอบด้วยหลอดแก้วดังภาพ
โดยให้แสงเป็ นเวลา 10 นาที ได้ผลดังตาราง
แสง
ฟองอากาศ

หลอดแก้ว

อ่างน้ำ
พืชน้ำ

ตาราง จำนวนฟองอากาศที่เกิดขึ้นเมื่อใส่ พืชน้ำชนิดต่างๆ


ชนิดของพืชน้ำ จำนวนฟองอากาศ (ฟอง)
A 15
B 30
C 10
ในการทดลองนี้ ข้อใดเป็ นตัวแปรที่ตอ้ งการศึกษาและตัวแปรต้นตามลำดับ
ก. ชนิดของพืชน้ำ จำนวนฟองอากาศ
ข. ฟองอากาศ พืชน้ำชนิดต่างๆ
ค. ชนิดของพืชน้ำ ฟองอากาศ
ง. จำนวนฟองอากาศ ชนิดของพืชน้ำ ชนิดของพืชน้ำ จำนวนฟองอากาศ (ฟอง)

You might also like