อิ โ ต ป ะรั ง เบื้ องห น้ าต่ อ แต่ นี้ ไป อาต ม ภ าพ ทั้ ง ๒ รู ป จั ก ได้

ประคับประคองฉลองศรัทธา แสดงพระธรรมเทศนาในส่วนปุจฉา และวิสัชนา

ซึ่งกันและกัน ก็แลการปุจฉาและวิสัชนาในทานอง ๒ ธรรมาสน์นั้น ตามธรรม
เนียมของพระธรรมกถิกาจารย์จาต้อง มีการสมมติมอบหมายถวายหน้าที่ให้แก่
กัน และกันในขั้นต้นนี้เสียก่อน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความสะดวก แก่พระธรรมกถึก
ผู้แสดง และเพื่อความแจ่มแจ้งแก่ท่านสาธุชนผู้สดับ
ปุ รโต ทั ก ขิ ณ ะโต วามะโต ธั ม มาสะเน นิ สิ น นั ง สั ม มั น นามิ
วาระนี้ อ าตมภาพ ขอสมมติ พ ระเดชพระคุ ณ ผู้ สั ง ฆชิ น บุ ต รพุ ท ธชิ โ นรส
ซึ่งนั่ งปรากฏ ณ ธรรมาสน์ เบื้ อ งหน้ า ผู้ มี ส มั ญ ญาปรากฏตามศาสนโวหาร
ว่า.................... ขอสมมติมอบหมายถวายตาแหน่ง ให้พระเดชพระคุณแสดง
เป็น “ พระสะกะวาทะยาจารย์ ” มีหน้าที่ในการปุจฉา คือไต่สวนทวนถาม
ปั ญ หาอรรถธรรมค าสั่ ง สอนของสมเด็ จ พระชิ น วรสั ม มาสั ม พุ ท ธเจ้ า ไป
ตามลาดับ
สะยะเมวาหัง อัตตานัง สัมมันนามิ ส่วนอาตมภาพยังเป็นผู้มีความรู้
น้อ ย ด้ อยด้ วยความสามารถ จึงขอโอกาสสมมติสมั ญ ญาตนเป็ น ผู้แสดงใน
ตาแหน่งแห่ง “ พระปะระวาทะยาจารย์ ” มีหน้าที่ในการวิสัชนา
ตัสมา สาธะโว เพราะฉะนั้น ขอท่านสาธุชนผู้มีศรัทธา อุบาสกอุบาสิกา
ผู้ ใจบุ ญ ทั้ ง หลาย จงได้ โปรดตั้ ง โสตประสาทของท่ า นให้ เป็ น ประหนึ่ ง ว่ า
ภาชนะทอง คอยรองรับพระสัทธรรมเทศนา เพื่อให้เกิดธัมมัสวะนานิสงส์
ภันเต สะกะวาทาจะริโย ขอพระเดชพระคุ ณ พระสังฆชินบุ ตรพุ ท ธ
ชิโนรส ผู้ ได้ รับ สมมติส มัญ ญา จงได้ด าเนิ นเนื้ อความตามบุ รพประโยคกถา
เริ่ ม แจกแจงแสดงพระสั ท ธรรมเทศนา เพื่ อ ประดั บ สติ ปั ญ ญาและบารมี
สร้างเสริม กุ ศ ลบุ ญ ราศี ในธัม มั สสะวะนามั ย และเพิ่ ม พู น ก าลัง ใจในสั ม มา
ปฏิบัติแก่ท่านสาธุชนพุทธบริษัทสืบไปก็มี ณ กาลบัดนี้
 พระปะระวาทะยาจารย์

อะถะโข ปะระวาทาจะริโย ระโหคะโต สั ต ถุ ธั มมั ง วิจินั น โต เตสุ

ธัมเมสุ กังขัง อุปัฏฐะเปตะวา อัตตะนา วิสัชเชตุง อะสักโกนโต เยนะ
ปะระวาทาจะระโย เตนุป ะสังกะมิ อุปะสังกะมิตะวา วันทะนัง กัตตะวา
อัตถะปัญหัง ปุจฉะตีติ.
ณ บัดนี้ อาตมภาพ ผู้ได้รับการสมมติจากท่านพระสังฆชินบุต รพุทธ
ชิ โนรส ซึ่ ง นั่ ง ปรากฏอยู่ ณ ธรรมาส์ เบื้ อ งหน้ า นั้ น พระเดชพระคุ ณ นี้ มี
สมัญญานามปรากฏในภาคพจน์พระพุทธศาสนาว่า................
ท่านได้แสดงอานิสังสกถาพรรณนาอานิสงส์ของการ........ เริ่มตั้งแต่ต้น
จนปริโยสานด้วยสานวนโวหารที่สละสลวย มากด้วยสาระ จังหวะดี ลีลางาม
ใจความก็กระชับ เป็นที่จับจิต สะกิดใจท่านสาธุชนผู้ฟัง และในที่สุดก็ได้สมมติ
ให้อาตมภาพรับแสดงในตาแหน่งพระสะกะวาทะยาจารย์ เป็นประธานในการ
เทศนา มี ห น้ า ที่ อั ญ เชิ ญ พระสั ท ธรรม น าพระวาจาแห่ ง องค์ ส มเด็ จ พระ
สัมมาสัมพุทธเจ้า ยกขึ้นตั้งเป็นหัวข้อปัญหา เพื่อปุจฉาไต่ถามซึ่งกันและกัน
อาตมภาพ จักได้ดาเนินความตามหน้าที่ของพระสกวาที เพื่อตั้งปัญหา
ธรรมแล้วนามาสอบถามตามโอกาสอันควรสืบต่อไป
อะถะโข ปะระวาทาจะริโย อัตถะปัญหัง สุณันโต ตัสสะ วิสัชเชสีติ
การปุจฉาวิสัชนาปัญหาธรรมในรูปของการสนทนานั้น พระพุทธเจ้าตรัส
ว่ า เป็ น มงคล ดั ง มี พ ระบาลี ว่ า ธั ม มะสากั จ ฉา เอตั ม มั ง คะละมุ ต ตะมั ง
การสนทนาธรรมเป็ น มงคลประการหนึ่ ง และพระพุ ท ธองค์ ต รั ส ไว้ อี ก ว่ า
กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง การฟังธรรมตามกาลก็เป็น
มงคลอีกประการหนึ่ง