You are on page 1of 6

ข้ อสอบมาตรฐานชั้นปี

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 3


คำชี้แจง : 1. แบบทดสอบชุดนี้ เป็ นแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ตำมมำตรฐำนกำรเรี ยนรู ้
มี 2 ชุด ชุดละ 50 ข้อ เป็ นแบบเลือกตอบ มี 4 ตัวเลือก
2. ให้นกั เรี ยนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว โดยกำ  ทับตัวอักษร
ลงในกระดำษคำตอบที่ตรงกับตัวเลือกที่ตอ้ งกำร

ชุ ดที่ 1 เวลำทำข้อสอบ 60 นำที

1. ถ้ำลูกมีลกั ษณะไม่เหมือนพ่อหรื อแม่ ลูกควร 5. พ่อสุ นขั หำงดำบผสมพันธุ์กบั


จะมีลกั ษณะเหมือนใคร แม่สุนขั หำงม้วน ออกลูก 4 ตัว
ก. ญำติห่ำงๆ ข. เพื่อนสนิท มีหำงดำบทั้ง 4 ตัว
ค. ตำ ยำย ง. คุณครู อยำกทรำบว่ำลักษณะใดเป็ นลักษณะเด่น
2. ข้อใดเป็ นลักษณะทำงพันธุกรรม ก. หู ต้ งั
ก. วิง่ เร็ ว ข. หำงดำบ
ข. หูตึง ค. หำงม้วน
ค. ชอบพูดโกหก ง. หำงเป็ นพวง
ง. พับลิ้นได้ 6. ยีรำฟมีลกั ษณะใดที่เหมำะกับกำรกิน
3. พ่อควรมีหน้ำตำเหมือนใคร ใบไม้บนยอดไม้สูงๆ ได้
ก. ตำ ข. ปู่ ก. มีขำยำว
ค. ยำย ง. น้ำ ข. มีคอยำว
4. ข้อใดถ่ำยทอดลักษณะทำงพันธุ กรรมได้ ค. มีเขำเล็กๆ บนหัว
ก. อำกำรติดสุ รำ ง. มีลำยพรำงตลอดตัว
ข. สี ผวิ คล้ ำ
ค. โรคมะเร็ ง
ง. แผลเป็ นบริ เวณใบหน้ำ

1
7. สำหร่ ำยมีลกั ษณะใดเหมำะสมกับ 12. สิ่ งมีชีวติ ชนิดใด มีควำมสัมพันธ์แบบ
สภำพแวดล้อมในน้ ำ พึ่งพำกัน
ก. มีมือเกำะ ก. โพรโทซัวในลำไส้ปลวก
ข. ใบแผ่เป็ นแผ่น ข. ฉลำมกับเหำฉลำม
ค. ลำต้นอ่อน ใบเรี ยวยำว ค. นกกับดอกไม้
ง. ลำต้นพองเป็ นกระเปำะ ง. เหำกับคน
8. จำกคำตอบข้อ 7 ลักษณะดังกล่ำวของสำหร่ ำย 13. ขยะประเภทใด เมื่อทิ้งลงในดินแล้วย่อย
มีประโยชน์อย่ำงไร สลำยยำก
ก. ทำให้ลอยน้ ำได้ ก. ถุงพลำสติก ข. เศษอำหำร
ข. ช่วยยึดเหนี่ยวลำต้น ค. กล่องโฟม ง. กระดำษ
ค. ช่วยในกำรสร้ำงอำหำร 14. ขยะประเภทใดนำมำทำเป็ นปุ๋ ยหมักได้
ง. ลดแรงต้ำนกระแสน้ ำ ก. เศษถุงพลำสติกที่ทิ้งแล้ว
9. พืชชนิดใดต่อไปนี้ มีคุณสมบัติเป็ นทั้งผูผ้ ลิต ข. เศษกระป๋ องน้ ำอัดลม
และผูล้ ่ำ ค. เศษพืชและใบไม้
ก. ว่ำนกำบหอยแครง ง. เศษยำงรถยนต์เก่ำ
ข. ตะบองเพชร 15. สิ่ งของในข้อใดทำจำกแก้ว
ค. สำหร่ ำย ก. ช้อน ข. กระทะ
ง. ไมยรำบ ค. ลูกโป่ ง ง. กระจก
10. สิ่ งมีชีวติ ในข้อใด ไม่ได้มีควำมสัมพันธ์กบั 16. วัสดุใดเหมำะสำหรับนำมำทำเสื้ อกันฝน
สิ่ งมีชีวติ อื่นแบบปรสิ ต ก. ผ้ำ ข. กระดำษ
ก. เห็บ ข. ผึ้ง ค. พลำสติก ง. โลหะ
ค. เหำ ง. หมัด 17. รองเท้ำของพนักงำนดับเพลิงควรทำจำก
11. ปลำเสื อตอมีควำมสัมพันธ์กบั แมลงใน วัสดุชนิดใด
ลักษณะใด ก. พลำสติก ข. โลหะ
ก. ปรสิ ต ค. ยำง ง. ผ้ำ
ข. เหยือ่ กับผูล้ ่ำ 18. กำรจับหม้อโลหะที่ได้รับควำมร้อนอำจ
ค. อิงอำศัยกัน ทำให้เกิดอันตรำยในข้อใด
ง. ได้ประโยชน์ร่วมกัน ก. มือพอง ข. มือหงิก
ค. มือบวม ง. มือไหม้
2
19. วัสดุชนิดใด ที่เกิดสนิมได้ 24. วัตถุในข้อใดต่อไปนี้ เคลื่อนที่
ก. เหล็ก ข. แก้ว ก. รถเมล์จอดอยูท่ ี่ป้ำยหยุดรถ
ค. พลำสติก ง. ไม้ ข. ยำงลบบนโต๊ะ
20. กำรใช้มือทำให้สิ่งของคดหรื อตรงตำมควำม ค. ปำกกำในกระเป๋ ำ
ต้องกำร เรี ยกว่ำอะไร ง. ลูกบอลที่ถูกโยน
ก. กำรดึง ข. กำรบีบ 25. จำกข้อ 24. สิ่ งนั้นเคลื่อนที่ได้เพรำะอะไร
ค. กำรดัด ง. กำรบิด ก. แรงโน้มถ่วงของโลก
21. นำมำใช้ นำมำ ข. แรงกระทำ
วัสดุ ประโยชน์ เปลี่ยนแปลง ค. แรงต้ำนทำน
โดยตรง ก่อนใช้ประโยชน์ ง. แรงเสี ยดทำน
A 
26. ถ้ำออกแรงกระทำกับวัตถุในทิศทำง
B 
ตรงกันข้ำมกับกำรเคลื่อนที่ของวัตถุ
C  วัตถุจะเคลื่อนที่อย่ำงไร
D  ก. ช้ำลง
อยำกทรำบว่ำ วัสดุ B น่ำจะเป็ นวัสดุในข้อใด ข. เร็ วขึ้น
ก. ไม้ไผ่ ข. ใยไหม ค. เปลี่ยนทิศทำง
ค. ดินเหนียว ง. กระดำษ ง. กระเด็นขึ้นด้ำนบน
22. วัสดุที่ใช้ทำของเล่นเด็กไม่ควรมีสมบัติ 27. สิ่ งใดทำงำนด้วยแรงดึงดูดของโลก
ในข้อใด ก. นำฬิกำ
ก. แข็งแรง ทนทำน ข. แบตเตอรี่
ข. มีน้ ำหนักเบำ ค. เครื่ องชัง่ สปริ ง
ค. มีสีสวยงำม ง. เทอร์มอมิเตอร์
ง. แตกหักง่ำย 28. ข้อใดไม่ ได้ เกิดจำกแรงโน้มถ่วงของโลก
23. วัตถุในข้อใดต่อไปนี้ อยูน่ ิ่ง ก. ลูกมะพร้ำวร่ วงลงพื้น
ก. ใบไม้ที่ถูกลมพัด ข. เครื่ องบินตกลงทะเล
ข. ยำงลบถูกขว้ำงทิง้ ค. น้ ำตกไหลจำกที่สูงลงที่ต่ำ
ค. แก้วน้ ำในตูเ้ ย็น ง. เหยียบน้ ำแล้วไถลลื่น
ง. กระถำงต้นไม้ตกลงพื้น

3
29. กิจกรรมใดไม่ ต้องใช้ไฟฟ้ำ 35. น้ ำมีควำมสำคัญกับกำรดำรงชีวติ ในด้ำน
ก. กวำดบ้ำน ใดมำกที่สุด
ข. ดูโทรทัศน์ ก. ใช้บริ โภค
ค. ฟังวิทยุ ข. ใช้ชำระร่ ำงกำย
ง. เล่นคอมพิวเตอร์ ค. ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้ำ
30. ข้อใดเป็ นกำรประหยัดพลังงำนไฟฟ้ำ ง. ใช้ในโรงงำนอุตสำหกรรม
ก. เปิ ดโทรทัศน์พร้อมๆ กันหลำยเครื่ อง 36. กำรกระทำใดอำจทำให้เกิดอันตรำยได้
ข. รี ดผ้ำทีละตัวแต่รีดบ่อยๆ ก. จับสำยไฟขณะมือเปี ยก
ค. ปิ ดสวิตช์ไฟเมื่อไม่อยูใ่ นห้อง ข. รี ดผ้ำครั้งละหลำยๆ ชุด
ง. ใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ำพร้อมกันหลำยๆ ค. ถอดเต้ำเสี ยบทันทีเมื่อใช้
อย่ำง เครื่ องใช้ไฟฟ้ำเสร็ จแล้ว
31. ใครใช้ตูเ้ ย็นถูกวิธี ง. ใช้เต้ำรับหลำยตัวกับ
ก. ต้อมเปิ ดตูเ้ ย็นค้ำงไว้ขณะดื่มน้ ำ เครื่ องใช้ไฟฟ้ำหลำยเครื่ อง
ข. ต้อยละลำยน้ ำแข็งที่เกำะอยูใ่ นตูเ้ ย็น 37. ใครใช้น้ ำอย่ำงประหยัดและคุม้ ค่ำที่สุด
ค. โด่งนำกำแฟร้อนไปแช่ในตูเ้ ย็น ก. อ้อล้ำงรถโดยใช้สำยยำงฉีด
ง. เปิ้ ลถอดปลัก๊ ตูเ้ ย็นเมื่อเห็นว่ำเสี ยบ ข. ตุม้ ล้ำงจำนโดยเปิ ดก๊อกน้ ำแรงๆ
นำนเกินไป ค. ต้อยซักผ้ำโดยเปิ ดน้ ำไว้
32. ข้อใดนำมำเป็ นแหล่งพลังงำนในกำรผลิต ตลอดเวลำ
กระแสไฟฟ้ำไม่ได้ ง. อ้อมนำน้ ำสุ ดท้ำยที่ลำ้ งจำนไป
ก. ดิน ข. น้ ำ รดต้นไม้
ค. ลม ง. แสงแดด 38. ผลไม้ใดต่อไปนี้ มีน้ ำเป็ นส่ วนประกอบ
33. น้ ำในข้อใด ที่อยูใ่ นสถำนะต่ างจากพวก มำกที่สุด
ก. ลูกเห็บ ข. หิมะ ก. แตงโม ข. มะม่วง
ค. ไอน้ ำ ง. น้ ำแข็ง ค. ทุเรี ยน ง. มะนำว
34. น้ ำบริ สุทธิ์ มีจุดเดือดที่อุณหภูมิเท่ำใด 39. วิธีกำรใดที่ฆ่ำเชื้ อโรคในกระบวนกำรทำ
ก. 50 C ข. 70 C น้ ำประปำ
ค. 90 C ง. 100 C ก. ต้ม ข. กรอง
ค. ผ่ำนโอโซน ง. ใส่ คลอรี น

4
40. เมื่อใส่ เกลือลงไปในน้ ำ เกลือหำยไป แสดงว่ำ 44. วิธีกำรใช้สำรส้มแกว่งน้ ำนั้น เป็ นวิธีทำ
น้ ำมีสมบัติในข้อใด น้ ำให้สะอำดโดยวิธีใด
ก. สมบัติเปลี่ยนสถำนะเป็ นของแข็ง ก. กำรทำให้ตกตะกอน
ของน้ ำ ข. กำรกรอง
ข. สมบัติเปลี่ยนสถำนะเป็ นไอน้ ำ ค. กำรกลัน่
ค. สมบัติกำรเป็ นตัวทำละลำยที่ดี ง. กำรระเหิ ด
ง. สมบัติกำรเป็ นตัวถูกละลำยที่ดี 45. น้ ำที่ได้จำกกำรทำให้สะอำดด้วยวิธีใด
41. กิจกรรมในข้อใด ที่เป็ นกำรใช้น้ ำและทำให้ เหมำะสำหรับนำมำดื่มมำกที่สุด
เกิดมลภำวะทำงน้ ำมำกที่สุด ก. กำรต้ม
ก. กำรใช้น้ ำในกำรซักล้ำง ข. กำรกรอง
ข. กำรใช้น้ ำในกำรทำอุตสำหกรรม ค. กำรใส่ คลอรี น
ค. กำรใช้น้ ำในกำรเพำะปลูก ง. กำรทำให้ตกตะกอน
ง. กำรใช้น้ ำในกำรเลี้ยงสัตว์ 46. อำกำศมีรูปร่ ำงอย่ำงไร
42. ข้อใดเป็ นสำเหตุในระยะยำวที่ทำให้ ก. ไม่มีรูปร่ ำง
อำกำศเสี ย ข. เป็ นรู ปวงกลม
ก. กำรล่ำสัตว์ ค. เป็ นรู ปสำมเหลี่ยม
ข. กำรตัดไม้ทำลำยป่ ำ ง. เป็ นรู ปสี่ เหลี่ยม
ค. กำรฝังกลบขยะ 47. พืชใช้ก๊ำซคำร์ บอนไดออกไซด์ใน
ง. กำรทำเกษตรแบบผสมผสำน กระบวนกำรใด
43. สมบัติในข้อใด ที่ไม่ใช้ในกำรตรวจสอบ ก. หำยใจ
คุณภำพของน้ ำ ข. คำยน้ ำ
ก. สี ค. ผสมพันธุ์
ข. กลิ่น ง. สังเครำะห์ดว้ ยแสง
ค. รสชำติ 48. บริ เวณที่มีอุณหภูมิต่ำจะมีสภำพอำกำศ
ง. สิ่ งที่อยูบ่ นผิวน้ ำ เป็ นอย่ำงไร
ก. เย็น ข. ร้อน
ค. อบอุ่น ง. อบอ้ำว

5
49. นักเรี ยนสำมำรถช่วยอนุรักษ์ป่ำได้อย่ำงไร 50. อำกำศเสี ยเป็ นอำกำศที่มีปริ มำณสิ่ งใดอยู่
ก. ถำงหญ้ำ มำกที่สุด
ข. ปลูกต้นไม้ ก. ก๊ำซคำร์ บอนไดออกไซด์
ค. ช่วยเฝ้ำป่ ำ ข. ก๊ำซออกซิ เจน
ง. สำรวจป่ ำ ค. ก๊ำซไนโตรเจน
ง. หมอกควัน


You might also like