You are on page 1of 10

คาถามหาทิพย์ มนต์ บทใหญ่

พระคาถามหาทิพย์มนต์บทใหญ่นี เป็ นพระคาถาโบราณใช้ในคราวดวงชะตาตก สาธยายเพือพ้น


เคราะห์กรรม สาธยายเพือขจัดอุปสรรคภยันอันตราย ป้ องกันภัยพิบตั ิอนั เกิดแต่ดาวนพพระเคราะห์
ป้องกันภัยพิบตั ิอนั เกิดแต่ฤกษ์ทงั ๒๗ นักขัตฤกษ์ พรําสวดเพือความเป็ นมงคลชัย ขจัดสิ นเสนียด
จัญไร อัปมงคล อวมงคลทังปวงในพระคาถานีจะกล่าวถึง ชัยมงคลต่างๆ กล่าวถึงพระอรหันต์ ๘
ทิศ มีการสอดแทรกบทสวดต่างๆลงไปทังสุ ริยาสู ตร จันทิมาสู ตร อันสาธยายถึงพระพุทธเจ้าโปรด
อสุ ริทราหู เพือช่วยขจัดภยันตรายแก่พระอาทิตย์และพระจันทร์ มีการกล่าวถึงตํานานดวงดาว
ประจํานักขัตฤกษ์ทงหลาย
ั และบททีเป็ นบ่อเกิดแห่ งความสําเร็จในสิ ทธิทงหลาย

ขึนคาถาชุมนุมเทวดา
๐สะมันตา จักกะวาเฬสุ อัตรา คัจฉันตุ เทวะตา
สัทธัมมัง มุนิราชัสสะ สุ ณนั ตุ สัคคะโมกขะทัง
๐ ผะริ ตะวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา
อะวิกขิตตะจิตตา ปะริ ตงั ภะณันตุ
สัคเค กาเม จะ รู เป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน
ทีเปรัฏเฐ จะ คาเม ตะรุ วะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
ติฏฐันตา สันติเก ยังมุนิวะระวะจะนัง สาธะโวเม สุ ณนั ตุฯ
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตาฯ
บทนมัสการพระรัตนตรัย พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชาจะระณะสัมปั นโน สุ คะโต โลกะวิทู อนุ ตตะโร
ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติฯ
สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก
อะกาลิโก เอหิ ปัสสิ โก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตังเวทิตพั โพ วิญ ูหิติฯ
สุ ปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทงั จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย
ปาหุ เนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณี โย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติฯ
พระคาถาถามหาทิพย์มนต์ จากยอดพระกัณฑ์ไตรปิ ฎก (เป็ นสาวัง)
อินทะสาวัง มหาอินทะสาวัง
พรหมมะสาวัง มหาพรหมมะสาวัง
จักกะวัตติสาวัง มหาจักกะวัตติสาวัง
เทวาสาวัง มหาเทวาสาวัง
อิสีสาวัง มหาอิสีสาวัง
มุนีสาวัง มหามุนีสาวัง
สัปปุริสะสาวัง มหาสัปปุริสะสาวัง
พุทธะสาวัง ปั จเจกะพุทธะสาวัง
อะระหัตตะสาวัง สัพพะสิ ทธิวชิ ชาธะรานังสาวัง
สัพพะโลกาอิริยานังสาวัง เอเตนะ สัจเจนะ สุ วตั ถิ โหนตุ
สาวังคุณงั วะชะพะลัง เตชัง วิริยงั สิ ทธิ กมั มัง
ธัมมังสัจจัง นิพพานัง โมกขัง คุยหะกัง ทานัง สี ลงั
ปัญญานิกขัง ปุญญัง ภาคะยัง ยะสัง ตัปปั ง สุ ขงั
สิ ริรูปัง จะตุวีสะติเทสะนัง เอเตนะ สัจเจนะ สุ วตั ถิ โหนตุ
หุลู หุลู หุ ลู สวาหายะ ฯ
คาถามหาทิพย์มนต์บทใหญ่
ชะยะ ชะยะ ปั ฐฐะวีสัพพัง ชะยะสัตถา ระหะตะปัง
ชะยะ ชะยะ ปั จเจกะสัมพุทธัง ชะยะอิสิ มะเหสสุ รัง
อินโท จะ เวนะเตยโย จะ กุเวโร วะรุ โณปิ จะ
อัคคิ วาโย ปะชุณโณ จะ กุเวโร จะตุโลกะปาละโก
ชะยะ ชะยะ หะโรหะริ เทวา ชะยะพรหมา ธะตะรัฏฐะกัง
ชะยะ ชะยะ นาโค วิรุฬหะโก วิรูปักโข จันทิมา ระวิ
อัฏฐาระสะ มะหาเทวา สิ ทธิ ตาปะสะอาทะโย
อะสี ติ สาวะกาสัพเพ ชะยะลาภา ภะวันตุ เต
ชะยะ ชะยะ ธัมโม จะ สังโฆ จะ ทะสะ ปาโล จะ เชยยะกัง
เอเตนะ ชะยะสิ ทธิ เตเชนะ ชะยะโสตถี ภะวันตุ เต
อัฏฐาธิ กะสะตัง ยัสสะ มังคะลัง จะระณัทวะเย
จักกะลักขะณะสัมปั นนัง นะเมตัง โลกะนายะกัง
อิมินา มังคะละเตเชนะ สัพพะสัตตะ หิเตสิ โน
เอเตนะ มังคะละเตเชนะ ชะยะโสตถี ภะวันตุ เต
เอเตนะ มังคะละเตเชนะ มะมัง รักขันตุ สัพพะทา
เอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะสิ ทธี ภะวันตุ เต
เอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะสิ ทธี ภะวันตุ เต
สัพพะสัตรุ วิธงั เสนตุ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เต
อายันตุโภนโต อิธะ ทานะสี ลา เนกขัมมะปั ญญาวิริยญั จะขันตี
สัจจาธิฏฐานา สะหะ เมตตุเปกขา ยุทธายะโว คัณหะถะอาวุธานิ
ปาระมิโย วิทิตวานะ โพธิ สัตตัสสะ สันติกงั
เกสะระราชา วะ อาคัญฉุ ง โพธิ สัตตัสสะ สันติกงั
มะยัง ปาระมิตา โยธา จะระเณนะ ตะยาภะตา
อัชชะ ทัสสามะ เต จีรัง ชะยะภัททัง นะมัตถุ เต
ชะยันโต โพธิ ยา มูเล สักยานัง นันทิวฑั ฒะโน
เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
พุทโธ จะ มัชฌิโม เสฏโฐ สารี ปุตโต จะ ทักขิเณ
ปัจฉิ เม ปิ จะ อานันโท อุตตะเร โมคคัลลานะโก
โกณฑัญโญ ปุระภาเค จะ พายัพเพ จะ คะวัมปะติ
อุปาลี หะระติฏฐาเน อาคะเณยเย จะ กัสสะโป
ราหุ โล เจวะ อิสาเณ สัพเพเต พุทธะมังคะลา
โย ญัตวา ปูชิโต โลเก นิ ททุกโข นิ รุปัททะโว
มะหาเทโว มะหาเตโช ชะยะโสตถี ภะวันตุ เต
ปะทุมุตตะโร จะ ปุระพายัง อาคะเณยเย จะ เรวัตโต
ทักขิเณ กัสสะโป พุทโธ หะระติเย สุ มงั คะโล
ปัจฉิ เม พุทธะสิ ขี จะ พายัพเพ จะ เมธังกะโร
อุตตะเร สากยะมุนี เจวะ อิสาเณ สะระณังกะโร
ปะฐะวิยงั กักกุสันโธ อากาเส จะ ทีปังกะโร
เอเต ทะสะทิสา พุทธา ราชะธัมมัสสะ ปูชิตา
นัตถิ โรคะภะยัง โสกัง เขมัง สัมปั ตติทายะกัง
ทุกขะโรคะภะยัง นัตถิ สัพพะสัตรู วิธงั เสนตุ
เตสัญญาเณนะ สี เลนะ สังยะเมนะ ทะเมนะ จะ
เตปิ ตัง อะนุ รักขันตุ อาโรคะเยนะ สุ เขนะ จะ
อะนาคะตัสสะ พุทธัสสะ เมตเตยยัสสะ ยะสัสสิ โน
มะหาเทโว มะหาเตโช สัพพะโสตถี ภะวันตุ เต
นะโม เต พุทธะวีรัตถุ วิปปะมุตโตสิ สัพพะธิ
สัพพาธะ ปะฏิปันโนสะมิ ตัสสะ เม สะระณัง ภะวะ
ตะถาคะตัง อะระหันตัง จันทิมา สะระณัง คะโต
ราหุ จันทัง ปะมุญจัสสุ พุทธา โลกานุกมั ปะกา
กินนุ สันตะระมาโน วะ ราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ
สังวิคครู โป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสี ติ
สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวนั โต นะ สุ ขงั ละเภ
พุทธะคาถาภีคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมนั ติ
นะโม เต พุทธะวีรัตถุ วิปปะมุตโตสิ สัพพะธิ
สัมพาธะปฏิปันโนสมิ ตัสสะ เม สะระณัง ภะวะ
ตะถาคะตัง อะระหันตัง สุ ริโย สะระณัง คะโต
ราหุ สุ ริยงั ปะมุญจัสสุ พุทธา โลกานุกมั ปะกา
โย อันธะกาเร ตะมะสี ปะภังกะโร เวโรจะโน
มัณฑะลิ อุคคะเตโช มา ราหุ คิลิ จะรัง อันตะลิกเข
ปะชัง มะมะ ราหุ ปะมุญจะ สุ ริยนั ติ
กินนุ สันตะระมาโน วะ ราหุ สุ ริยงั ปะมุญจะสิ
สังวิคครู โป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสี ติ
สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวนั โต นะ สุ ขงั ละเภ
พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุ ริยนั ติ
นะโมพุทธัสสะ นะโมธัมมัสสะ นะโมสังฆัสสะ
เสยยะถีทงั หุ ลู หุ ลู หุ ลู สวาหายะ
เหฏฐิมา จะ อุปะริ มา จะ วิตถาริ กา จะ ติริยญั จะ
สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา สัพเพ ปุคคะลา
สัพเพ อัตตะ ภาวะปะริ ยาปั นนา สัพเพ อิตถิโย สัพเพ ปุริสา
สัพเพ อะริ ยา สัพเพ อะนะริ ยา สัพเพ เทวา สัพเพ มะนุสสา
สัพเพ วินิปาติกา สะจิตตะกา อะจิตตะกา สะชีวกิ า
สัพเพ อะเวรา โหนตุ อัพยาปัชฌา โหนตุ อะนีฆา โหนตุ
ทีฆายุกา โหนตุ อะโรคา โหนตุ
สัมปั ตตี สะมิชฌันตุ สุ ขงั อัตตานัง ปะริ หะรันตุ
สัพเพ มัง รักขันตุ จุปัททะวา * (
ชะลัฏฐา วา ถะลัฏฐา วา อากาโสปิ จะ อันตะลิกเข
ปัพพะตัฏฐา สะมุททา จะ รักขันติ จะ ละตาสิ โน
เตปิ ตัง อะนุ รักขันตุ อาโรคะเยนะ สุ เขนะ จะ
สุ ริยงั จันทะอังคารัง พุธพฤหัสสะปะติฏฐิตา
สุ กระโสระราหู เกโส นะวัคระหา จะ สัพพะโส
เตสัง พะเลนะ เตเชนะ อะนุภาเวนะ เตนะ จะ
เตปิ ตัง อะนุ รักขันตุ อาโรคะเยนะ สุ เขนะ จะ
เจตระวิสาขะเชฏเฐ จะ อาสาเธ สะวะเน ตะถา
ภัททะปะเท จะ อาสุ ชเช กัตติเก มิคะสะริ เก
ปุสเส มาเฆ ผัคคุเณ จะ โลกัง ปาเลนติ ธัมมะตา
เอเต ทะวาทะสะ จะ มาเส อานุภาเวนะ มหาภูเต
เตปิ ตัง อะนุ รักขันตุ อาโรคเยนะ สุ เขนะ จะ
มูสิโก อุสะโภ พะยัคโฆ สะโส นาโค จะ สัปปะโก
อัสโส เมณโฑ กะปิ เจวะ กุกกุโฏ สุ วานะสุ กะโร
เอเต ทะวาทะสะ นักขัตตา โลกัง ปาเลนติ ธัมมะตา
เตปิ ตัง อะนุ รักขันตุ อะโรคเยนะ สุ เขนะ จะ
อัสสะยุโช ภะระณี จะ กัตติกา โรหิ ณีปิจะ
มิคะสิ รัญจะ อัทรัญจะ ปุนพั พะสุ ปุสสาปิ จะ
อะสิ เลโส จะ มาโฆ จะ ปุพพา จะ ผัคคุณี ตะถา
อุตตะระผัคคุณี เจวะ หัตถะจิตตา จะ สาติ จะ
วิสาขะนุ ราธะเชฏฐะ มูละ ปุพพุตตะ ระสาฬหะกา
เอกาวีสะติ นักขัตตา ปะภายันติ ทิเน ทิเน
เมสสะ พะฤสะภะเมถุนา กะระกะฏา สี หะ กัญญะกา
ตุละพิจิกะธะนูเจวะ มังกะรากุมภะมินนะกา
เอเต ทวาทะสะ จะ ราสี อานุภาเวนะ เตนะ จะ
เตปิ ตัง อะนุ รักขันตุ อาโรคเยนะ สุ เขนะ จะ
มา ขโย มา วะโย มัยหัง มา จะ โกจิ อุปัททะโว
ระตะนานิ จะ วะสันติ โชติกสั ส ยะถาฆะเร
มา ขะโย มา วะโย มัยหัง มา จะ โกจิ อุปัททะโว
กาญจะนานิ จะ วัสสันตุ เมณฑะกัสสะ ยะถา ฆะเร
มา ขะโย มา วะโย มัยหัง มา จะ โกจิ อุปัททะโว
ธะนะสารานิ ปะวัสสันตุ ธะนัญชะยัสสะ ยะถา ฆเร
มา ขะโย มา วะโย มัยหัง มา จะโกจิ อุปัททะโว
ธะนะสารานิ ปะวัสสันตุ อุคคะตัสสะ ยะถา ฆะเร
มา ขะโย มา วะโย มัยหัง มา จะ โกจิ อุปัททะโว
กาญจะนาชัลละสังกาเส โชติกสั สะ ยะถา ฆะเร
มา ขะโย มา วะโย มัยหัง มา จะ โกจิ อุปัททะโว
สัพพะธะนานิ ปะวัสสันตุ จิตตะกัสสะ ยะถา ฆะเร
มา ขะโย มา วะโย มัยหัง มา จะ โกจิ อุปัททะโว
กะหาปะณานิ ปะวัสสันตุ เมณฑะกัสสะ ยะถา ฆะเร
อักขะรัสสาริ นามะ อิสิ หิ มะวันเต วะสิ ตะทา
สิ ทธิ วชิ ชะธะรา สัพเพ เทวานัง ปูชิตา สะทา
พุทธา ปั จเจกะพุทธา จะ อะระหันตา อินทะเทวะตา
พรหมะอิสิมุนิ เจวะ ทะวาทะสะ รักขันติ
สะทา สิ ทธิ วิชชาธะรา สัพเพ ทะวาทะสะ รักขันติ สะทา
เย สัทธะจิตตา สะมาทานา มะนุสสะปูชิตา สะทา
พุทธะสาวัง คุณงั วิชชัง พะละเตชัญจะ วิริยงั
สิ ทธิ กมั มะธัมมะสัจจัง นิพพานัง โมกขะคุยหะกัง
ทานัง สี ลญั จะ ปั ญญา จะ นิ กขะมะปุญญัง ภาคะยัง ตังปะ
ยะสัง สุ ขงั สิ ริ รู ปัง จะตุวีสะติ เทสะนา
เอตา โสฬะสะ ธัมมา พุทธา-เทวา สะรันติ จะ
ปัจเจกะอะระหันตา จะ อินทา เทวา สะพรัหมะกา
อิสิ มุนิ จะ ราชาโน ปุริโส จะ วิชชาธรา
สัพเพ โลกาธิ ปะติเทวา โสฬะสะภะวะพรหมุนา
อะหะโย จะ สัปปา เจวะ อัสโส เมณโฑ จะ กุกกุโฏ
โคมะหิ งสา ตถา หะตา ติรัจฉานาคะกัณฐะกา
กูโป ปะปาโต โสพโภ จะ อุภะโต ภะคะวะโต ปิ จะ
ภัตโต วัสสะตุ ราชา จะ โจรโก อัคคะโปตะโก
สัสสะ มารา นาโค จะ คะรุ โฬ สุ วะกินนะโร
มะหะโต เทวะเทโว จะ กุเวโร มนุสโสปิ จะ
อะมะนุสโส จะ ยักโข จะ มะหายักโข จะ รักขะโส
มะหานาโค ปิ สาเจวะ มัคโค กุมภัณฑะโกปิ จะ
สิ ทธิ วชิ ชาธะรา สัพเพ เสมหัง ปิ ตัญจะวายุกงั
อุปะกายะนิปาตัญจะ สัพเพ จะ ปิ ยะมิตตะโก
สัพเพ สัตตา จะ ยักขา จะ เมตตะจิตตา สะทา ภะเว
เอกะปั ญญา จะ สัพเพเต สัพเพ รักขันตุ ตัง สะทา
อะหัง ลาภัง จะ ลาภานัง สักกาโร ปูชิโต สะทา
สัพเพ เทวา มนุสสา จะ ปิ ยา รักขันตุ มัง สะทา
คามัง เทสัญจะ นะคะรัง นะที ภูมิ จะ ปั พพะตัง
วะนะสะมุททะมัฏฐานัง สัพเพ รักขันตุ ตัง สะทา
สิ ทธิ พุทธา สิ ทธิ ธมั มา สิ ทธิ สงั ฆา จะ อุตตะมา
สิ ทธิ อฏั ฐาระสะ มะหาเทวา จะตุโลกะปาลา จะ เทวะตา
สิ ทธิปัจเจกะ สัมพุทธา สิ ทธิสัพพัญ ุ สาวะกา
สิ ทธิ ราโม สิ ทธิ เทวา สิ ทธิยกั โข จะ รักขะโส
สิ ทธิ วชิ ชาธะรา สัพเพ สิ ทธิ อิสิ มเหสสุ รา
สิ ทธิ ปัพพะตะ เทวานัง สิ ทธิการะณะ เทวะตา
สิ ทธิ ปาสาทะ เทวานัง สิ ทธิเจติยะเทวะตา
สิ ทธิโพธิ รุกขะ เทวะตา สิ ทธิสรี ระธาตุโย
พุทธะรู ปัญจะ สัพเพสัง สัพพะรู ปัญ จะ เทวะตา
สิ ทธิ ติณณัง จะ รุ กขานัง วะสิ ยา ฆะระ เทวะตา
สิ ทธิชะละถะ ละตา จะ สิ ทธิอากาสะ เทวะตา
สิ ทธิ มุนี จะ ราชาโน สิ ทธิ ปุริสะ ลักขะโณ
สิ ทธิ ภุมมัฏฐะ เทวะตา สิ ทธิกมั มะ พะลัง วะรัง
สิ ทธิปาทา อะปาทะ จะ สิ ทธิปาทา จะ ตุปาทะกา
พหูปาทา จะ สัตตา จะ สิ ทธิ ปักขา จะ วายุกงั
เอเตนะ สิ ทธิ เตเชนะ ชะยะโสตถี ภะวันตุ เต
เอเตนะ สิ ทธิ เตเชนะ มะมัง รักขันตุ สัพพะทา
เอเตนะ สิ ทธิ เตเชนะ สัพพะสิ ทธี ภะวันตุ เต
สัพพะสัตรู วิธงั เสนตุ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เต
โยสังคามัง วะ คัจฉันโต สะรันโต ทิพพะมันตระกัง
ชะยะพะลัง สุ ขงั ลาภัง สัพพะสัตรู วิธงั เสนตุ
ปุตตะกามา สัพเพ ปุตตัง ธะนะกามา สัพเพ ธะนัง
อะธิ การัง ละ เภยยาหัง ปุริโส ปัณฑิโตปิ จะ
ราชาอิตถี จะ เสฏฐี จะ ปุริโส ปัณฑิโตปิ จะ
สี โห พะยัคโฆ วะราโห จะ อัสสะ เมณโฑ จะ สุ กโร
ั ฐกา
โคมหิ งสา ตะถา หัตถี ติรัจฉา นานุกณ
สัพเพ สัตรู อัญญะโลหัง ตามพะกัง สัพพะติปุกงั
อัตถิ อัญเญ จะ กุรุเต จักรานักขาปะริ สะกัง
โก ชะโน ทัณฑะนาสายะ สัณหัง อัคคิ จะ วายุกงั
ขัคคะเสลัญจะ มัตติกงั ยันตะระภาสา นะสาตระกัง
อัญเญ จะ ตุมหากัง กัตวา มันตะระมายา นิโยชิ ตงั
เอเตนะ สิ ทธิ เตเชนะ มะมัง รักขันตุ สัพพะทา
เอเตนะ สิ ทธิ เตเชนะ สัพพะสิ ทธี ภะวันตุ เต
ทุกขะ โรคะภะยัง เวรา โสกาสัตตุ จุปัททะวา
อันตะรายานิ อะเนกานิ วินสั สันตุ จะ เตชะสา
เชยยะสิ ทธิ ธะนัง ลาภัง โสตถิ ภาคะยัง สุ ขงั พะลัง
สิ ริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒี จะ ยะสะวา
โหมิ สัพพะทา สะวาหายะฯ
ฯลฯ มหาทิพพะมันตัง นิฏฐิตงั ฯลฯ
montra9mahawed.wordpress.com
---------------------------------------------------------------------------------------
-----------

ย่อมาจากบทสวด “มหาสาวัง”
อินทะสาวัง มหาอินทะสาวัง พรหมมะสาวัง มหาพรหมมะสาวัง จักกะวัตติสาวัง มหาจักกะวัตติสาวัง เทวาสาวัง มหาเทวาสาวัง
อิสีสาวัง มหาอิสีสาวัง มุนีสาวัง มหามุนีสาวัง สัปปุริสะสาวัง มหาสัปปุริสะสาวัง พุทธะสาวัง ปั จเจกะพุทธะสาวัง อะระหัตตะ
สาวัง สัพพะสิทธิวชิ ชาธะรานังสาวัง สัพพะโลกาอิริยานังสาวัง เอเตนะ สัจเจนะ สุ วตั ถิ โหนตุ
สาวังคุณงั วะชะพะลัง เตชัง วิริยงั สิ ทธิกมั มัง ธัมมังสัจจัง นิ พพานัง โมกขัง คุยหะกัง ทานัง สี ลงั ปั ญญานิ กขัง ปุญญัง ภาคะยัง
ยะสัง ตัปปั ง สุขงั สิ ริรูปัง จะตุวสี ะติเทสะนัง เอเตนะ สัจเจนะ สุ วตั ถิ โหนตุ หุลู หุลู หุ ลู สวาหายะ ฯ
(พระคาถามหาทิพยมนต์นีแต่เดิมเป็ นบทสวดมนต์ทีเก่าแก่โบราณมาก ย่อมาจากบทสวด “มหาสาวัง” อันทรง
อานุภาพและมีความศักดิสิ ทธิมากใช้สวดในพระราชพิธีเพือเป็ นสิ ริมงคลมาแต่ครังสมัยกรุ งสุ โขทัยเป็ นราชธานี
ใช้สวดสมโภชองค์พระพุทธรู ปและอัญเชิญสิ งศักดิสิ ทธิ ตังแต่ อินทะ กําลังแห่ งพระอินทร์ พรหมมะ กําลังแห่ง
ท้าวมหาพรหม จักกะวัตติ กําลังแห่งพระมหาจักรพรรดิ เทวา กําลังแห่ งทวยเทพ อิสี ตบะญาณแห่งพระฤาษี มุนี
คุณวิเศษแห่งพระมุนี สัปปุริสะ ความดีแห่ งสัปบุรุษคนดีทงหลาย
ั และ พุทธะ ปั จเจกะพุทธะ อะระหัตตะ คือ
บารมีแห่ งคุณพระพุทธเจ้าทังหลาย รวมถึงพระปัจเจกพุทธเจ้าและพระอรหันต์เจ้าทังหลาย ทีทรงไว้ซึงวิชชา
และความสําเร็ จอันเป็ นไปในโลกทังหลายโดยไม่มีความขัดข้อง ด้วยการกล่าวคําสัตย์นี ขอความสวัสดีจงมีแก่
ข้าพเจ้า ส่ วนท่อนทีสองจะกล่าวถึงอานิสงส์ คุณแห่งการบําเพ็ญบารมีวา่ จะนํามาซึ งพลัง เดช ความสําเร็ จทังทาง
โลกและทางธรรม และด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริ ญภาวนามยปัญญาจะอํานวยผลให้ถึงพระนิพพานความ
หลุดพ้น และผลบุญทีได้ยงั นํามาซึงยศ ตบะ ความสุ ขและรู ปร่ างอันดีงามสมบูรณ์พร้อม จะตุวสี ะติเทสะนัง เป็ น
คําย่อจากคัมภีร์พระอภิธรรมทังยีสิ บสี บท ถือเป็ นหัวใจสําคัญแห่งคําสอนของพระพุทธเจ้า หุ ลู หุ ลู หุ ลู สวาหา
ยะ เป็ นคาถาโบราณของพระฤาษี เพือเปิ ดจักระและลมปราณซึ งพระคาถามหาทิพยมนต์นีโบราณาจารย์ได้ยน่ ย่อ
และ เรี ยบเรี ยงมาจากพระไตรปิ ฎก จึงเป็ นบทสวดมนต์ทีสําคัญมาก ในคัมภีร์พระเวทย์โบราณของไทยบอก
อานิสงส์ไว้เพียงว่า ไว้สวดเพือเสริ มกําลังของธาตุในร่ างกาย ช่วยปรับสภาพร่ างกาย แก้อาการเจ็บป่ วย ป้องกัน
และบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บได้ แต่ความจริ งแล้วยังมีอานิ สงส์ และอานุภาพมากมายยิงนัก และ บทสวดนียังได้
บรรจุลงไว้ในบทยอดพระกัณฑ์ไตรปิ ฎกอันเป็ นบทสวดมนต์ทีสําคัญมาแต่ครังโบราณอีกด้วย สันนิษฐานว่า
แต่งโดยคณะพระอรหันต์ผทู ้ รงฤทธิ อภิญญาในคราวสังคายนาพระไตรปิ ฎกครังที ๓ สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
แห่ งอินเดีย)และมหาทิพยมนต์นีปรากฏในจัมเปยยชาดกด้วยครับ
www.pra-nakhon.com

You might also like