You are on page 1of 4

📇

พระราชบัญญัตวิ า่ ด้วยการกระทําความผิดเกียวกับคอมพิวเตอร์
Tags

💥🖥 การกระทําความผิดต่อระบบ หรือต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ (มาตรา 5 - มาตรา 13)


 การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยปราศจากอํานาจ (มาตรา 5-6)

มาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึงระบบคอมพิวเตอร์ทีมีมาตรการปองกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และ มาตรการนันมิได้มีไว้สาํ หรับตน ต้องระวางโทษฯ

การเข้า ถึง หมายถึง การเข้า ถึงระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่า ด้วยตนเอง ด้วยการเชือมต่อระยะไกล หรือการใช้โปรแกรมเฉพาะทางทีใช้ในการบุ กรุกระบบ

มาตรการรักษาความปลอดภัย ของระบบ หมายถึง มาตรการใด ๆ เพือความปลอดภัย ของระบบสารสนเทศทีมีลักษณะเฉพาะทางคอมพิวเตอร์ หรือเปนวิธีการทางอิเลกทรอนิกส์ (ไม่ใช่การ


รักษาความปลอดภัย ทางกายภาพ เช่น การเอามือถือใส่ในตู้นิรภัย )

การเข้า รหัส (Encryption) เช่น การตัง ID Passcode

การติดตัง Firewall

มาตรการนันมิได้มีไว้สํา หรับตน : ผู้กระทํา ไม่มี “อํา นาจกระทํา ” ในการเข้า ถึงระบบคอมพิวเตอร์นัน ๆ ไม่ว่า จะด้วยฐานของกฎหมาย สัญญา หรือข้อตกลงอืนใด

มาตรา 6 ผู้ใดล่วงรูม
้ าตรการปองกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อืนจัดทําขึนเปนการเฉพาะ ถ้านํามาตรการดังกล่าวไปเปดเผยโดยมิชอบในประการที
น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อืน ต้องระวางโทษฯ

การล่วงรู ้ มีทังล่วงรูไ้ ด้โดยชอบ และล่วงรูไ้ ด้โดยมิชอบ

โดยวัตถุแห่งการล่วงรูน
้ ันเปนมาตรการปองกันฯ เช่น พาสเวิรด
์ รหัสเฉพาะ

นํา มาตรการเฉพาะไปเปดเผยโดยมิชอบ ผ่า นการกระทํา การหรืองดเว้นกระทํา การ

เมือได้ทํา การเปดเผยแล้ว ความผิดสํา เร็จ ทันที โดยไม่ต้องพิจ ารณาว่า ผู้อืนนํา ไปใช้ หรือทราบเกียวกับมาตรการนันหรือไม่

ต้องมีเจตนา คือ รูว้ ่า เปนมาตรการ และ จงใจเปดเผยด้วย

ในประการทีน่า จะเกิดความเสีย หายแก่ผู้อืน

🔥 บทเพิมโทษ มาตรา 12 : หากทํากับระบบคอมฯ เกียวกับความมันคง ความปลอดภัยสาธารณะ ความมันคงทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพืนฐานอันเปนประโยชน์สาธารณะ แล้วเกิด


ผลคือ ความเสีย หายแก่ระบบคอมพิวเตอร์ ผู้กระทํา ต้องรับโทษหนักขึน

👁 การเข้าถึง สอดส่อง หรือโจรกรรมข้อมูลคอมพิวเตอร์ (มาตรา 7-8)


มาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ทีมีมาตรการเข้าถึงไว้โดยเฉพาะ และมาตรการนันมิได้มีไว้สาํ หรับตน ต้องระวางโทษฯ

เหมือนกับมาตรา 5 แต่เปลียนวัตถุแห่งการกระทํา เปน “ข้อมูลคอมพิวเตอร์”

หากเจาะเข้า สู่ระบบคอมฯ แล้วเข้า ถึงข้อมูลในระบบคอมฯ ได้ด้วย จะผิดทังมาตรา 5 และ 7 ผลคือเปนกรรมเดีย วผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษในมาตรา 7 ซึงเปนบทหนักกว่า

หากเจาะเข้า สู่ระบบคอมฯ แล้วเข้า ถึงข้อมูล แต่ต้องเจาะระบบข้อมูลอีกครัง จะเปนต่า งกรรม ต่า งวาระ

มาตรา 8 ผู้ใดกระทําด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพือดักรับไว้ซงข้
ึ อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อืนทีอยู่ระหว่างการส่งในระบบ
คอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นันมิได้มีไว้เพือประโยขน์สาธารณะหรือเพือให้บุคคลทัวไปใช้ประโยชน์ ต้องระวางโทษฯ

การดักรับ : การกระทํา ใด ๆ ด้วยวิธีการเชิงเทคนิค (หมายรวมถึงการใช้คลืนแม่เหล็กไฟฟา ฮาร์ดแวร์ โปรแกรมต่า ง ๆ เช่น Sniffer) ในการดักรับข้อมูลทีอยู ่ระหว่า งการส่ง

ข้อมูลคอมพิวเตอร์ทีอยู ่ระหว่า งการส่งในระบบ : ข้อมูลคอมพิวเตอร์ทีอยู ่ในระหว่า งการส่งด้วยวิธีแบบไร้สาย (Wireless) โดยเปนการส่งภายในระบบคอมพิวเตอร์เดีย วกันหรือสองระบบก็ได้

ข้อมูลมิได้มีไว้เพือประโยชน์สาธารณะ/เพือให้บุคคลทัวไปใช้ : พิจ ารณา “ความประสงค์ของผู้ส่ง” ว่า ต้องการเผยแพร่ให้บุคคลทัวไปใช้งาน หรือดูข้อมูลนัน ๆ ได้หรือไม่ หากไม่ประสงค์ ย่อมถือว่า
ผู้กระทํา ความผิดไม่มีอํา นาจกระทํา ในการดักรับข้อมูลคอมฯ ระหว่า งส่งนัน

โดยเจตนา : ผู้กระทํา ต้องทราบว่า เปนข้อมูลของคนอืน และเจตนาดักรับข้อมูลนัน ๆ

🔥 บทเพิมโทษ มาตรา 12 : หากทํากับระบบคอมฯ เกียวกับความมันคง ความปลอดภัยสาธารณะ ความมันคงทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพืนฐานอันเปนประโยชน์สาธารณะ ผู้


กระทํา ต้องรับโทษหนักขึน
🔥🔥มาตรา 12 วรรคสอง : หากเกิดผลคือความเสียหาย รับโทษหนักขึนอีก

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกียวกับคอมพิวเตอร์ 1
💥📑 การรบกวนหรือทําลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ (มาตรา 9)
มาตรา 9 ผู้ใดทําให้เสียหาย ทําลาย แก้ไข เปลียนแปลง หรือเพิมเติมไม่ว่าทังหมดหรือบางส่วนซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อืนโดยมิชอบ ต้องระวางโทษฯ

ซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อืน

กรณีบุคคลผู้ไม่มีสิทธิเข้า ถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์เปนผู้กระทํา ความผิด

เปนการใช้วิธีการทางเทคนิคใด ๆ เพือเข้า ถึงข้อมูลนันและทํา ให้เสีย หาย ทํา ลาย แก้ไข เปลียนแปลง หรือเพิมเติมข้อมูลนันให้ผิดไปจากเดิม

กรณีบุคคลผู้มีสิทธิเข้า ถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์เปนผู้กระทํา ความผิด

เปนการทีผู้มีสิทธิเข้า ถึงกระทํา ลงบนข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อืนในความดูแลตนโดยปราศจากอํา นาจกระทํา อาจเกิดจากการฝาฝนหรือทํา นอกเหนือจากกฎหมาย สัญญา หรือข้อ


ตกลงอืนใด

🔥 บทเพิมโทษ มาตรา 12 : หากทํากับข้อมูลคอมฯ เกียวกับความมันคง ความปลอดภัยสาธารณะ ความมันคงทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพืนฐานอันเปนประโยชน์สาธารณะ ผู้


กระทํา ต้องรับโทษหนักขึน
🔥🔥มาตรา 12 วรรคสอง : หากเกิดผลคือความเสียหาย รับโทษหนักขึนอีก
💥 บทเพิมโทษ มาตรา 12/1 วรรคหนึง : หากการกระทําต่อข้อมูลคอมฯ นันเปนเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอืนหรือทรัพย์สินของบุคคลอืน
💀 บทเพิมโทษ มาตรา 12/1 วรรคสอง : หากผู้กระทําไม่ได้มีเจตนาฆ่า แต่เปนเหตุให้ผู้อืนถึงแก่ความตาย
🧨 การก่อวินาศกรรมคอมพิวเตอร์ (มาตรา 10)
มาตรา 10 ผู้ใดกระทําด้วยประการใดโดยมิชอบ เพือให้การทํางานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อืนถูกระงับ ชะลอ หรือรบกวนจนไม่สามารถทํางานตามปกติได้
ต้องระวางโทษฯ

กระทํา ด้วยประการใดโดยมิชอบ : ผู้กระทํา จะใช้วิธีทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีทางกายภาพก็ได้ โดยวัตถุแห่งการกระทํา นันคือคอมพิวเตอร์ และมีเจตนาประสงค์ต่อผลให้คอมพิวเตอร์ไม่สามารถ


ทํา งานตามปกติได้

จนไม่สามารถทํา งานตามปกติได้ : พิจ ารณาตาม “สภาพทีควรจะเปน” ของระบบคอมพิวเตอร์

🔥 บทเพิมโทษ มาตรา 12 : หากทํากับระบบคอมฯ เกียวกับความมันคง ความปลอดภัยสาธารณะ ความมันคงทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพืนฐานอันเปนประโยชน์สาธารณะ แล้วเกิด


ผลคือ ความเสีย หายแก่ระบบคอมพิวเตอร์ ผู้กระทํา ต้องรับโทษหนักขึน

💥 บทเพิมโทษ มาตรา 12/1 วรรคหนึง : หากการกระทําต่อข้อมูลคอมฯ นันเปนเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอืนหรือทรัพย์สินของบุคคลอืน


💀 บทเพิมโทษ มาตรา 12/1 วรรคสอง : หากผู้กระทําไม่ได้มีเจตนาฆ่า แต่เปนเหตุให้ผู้อืนถึงแก่ความตาย
🗑 การรบกวนด้วยการส่ง Spam (มาตรา 11)
มาตรา 11 วรรคหนึง ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอืนโดยปกปดหรือปลอมแปลงแหล่งทีมาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อัน
เปนการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอืนโดยปกติสขุ ต้องระวางโทษ

การส่งข้อมูลหรืออีเมลโดยปกปดหรือปลอมแปลงทีมา : การปลอมเลข IP Address ไม่ให้ผู้รบ


ั รูว้ ่า ส่งมาจากไหน

อันเปนการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อืนโดยปกติสุข : คล้า ยกับความผิดฐานบุ กรุก โดยพิจ ารณาในแง่ ภาวะวิสัย ว่า วิญ ูชนเดือดร้อนหรือรูส
้ ึกถูกรบกวนหรือไม่ เช่น ส่งเมล์สแปม
มาเยอะจนไม่สามารถรับอีเมลอืนได้

มาตรา 11 วรรคสอง ผู้ใดส่งข้อมูลหรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอืนอันมีลักษณะเปนการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรําคาญแก่ผู้รบ


ั ข้อมูลคอมพิวเตอร์
หรือจดหมาย โดยไม่เปดโอกาสให้ผู้รบ
ั สามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพือปฏิเสธการตอบรับได้โดยง่าย ต้องระวางโทษ

ผู้ส่งข้อมูล : ผู้มีเจตนาส่งข้อมูลคอมฯ หรืออีเมล ในเบืองต้นเพือประโยชน์ทางการค้า รวมถึงผู้ให้บริการเว็บไซต์ แอป หรือแพลตฟอร์ม

อันมีลักษณะเปนการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรํา คาญ : การส่งข้อมูลคอมฯ โดยไม่เข้า ลักษณะตามประกาศกระทรวงดิจ ิทัลดังนี

การรับส่งเพือเปนหลักฐานในการทํา นิติกรรมสัญญา

การรับส่งเพือใช้ในการชํา ระหนีหรือการกระทํา ใด ๆ ทีเปนนิติกรรมในเชิงพาณิชย์

การรับส่งเพือใช้สิทธิเรีย กร้องในทางหนี

การรับส่งเพือให้คํา รับรองเรีย กคืนสินค้า และบริการทีชํา รุดบกพร่อง

การรับส่งเกียวกับการแก้ไขเพิมเติม เปลียนแปลงข้อกํา หนด

การรับส่งโดยสถาบันการศึกษา หน่วยงาน องค์กร หรือมูลนิธิเพือการกุศลทีไม่แสวงหาผลกํา ไร

การรับส่งข้อมูลทีไม่มีลักษณะผิดกฎหมาย ไม่ละเมิดสิทธิบุคคล และไม่มีวัตถุประสงค์ในเชิงพาณิชย์

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกียวกับคอมพิวเตอร์ 2
🔥 บทลงโทษหนักขึนเนืองจากการกระทําผิดต่อระบบคอมฯทีสําคัญ
มาตรา 12 ถ้าการกระทําความผิดตามมาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 8 หรือมาตรา 11 เปนการกระทําต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที
เกียวกับการรักษาความมันคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมันคงในทางเศรษฐกิจของประเทศหรือโครงสร้างพืนฐานอันเปน
ประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษหนักขึน

ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึงเปนเหตุให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ดังกล่าว

ถ้าการกระทําความผิดตามมาตรา 9 หรือมาตรา 10 เปนการกระทําต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึง

ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึงหรือวรรคสามโดยมิได้มีเจตนาฆ่า แต่เปนเหตุให้บุคคลอืน
ถึงแก่ความตาย

บทลงโทษหนักขึนเนืองจากผลของการกระทําตามมาตรา 9 และมาตรา 10

มาตรา 12/1 ถ้าการกระทําความผิดตามมาตรา 9 หรือมาตรา 10 เปนเหตุให้เกิดอันตราย


แก่บุคคลอืนหรือทรัพย์สน
ิ ของผู้อืน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบป และปรับไม่เกินสองแสนบาท

ถ้าการกระทําความผิดตามมาตรา 9 หรือมาตรา 10 โดยมิได้มีเจตนาฆ่า แต่เปนเหตุให้บุคคลอืน


ถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจําคุกตังแต่ห้าปถึงยีสิบป และปรับตังแต่หนึงแสนบาทถึงสีแสนบาท

การจําหน่ายหรือเผยแพร่ชด
ุ คําสังทีใช้เพือการกระทําความผิด (มาตรา 13)

มาตรา 13 ผู้ใดจําหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคําสังทีจัดทําขึนโดยเฉพาะเพือนําไปใช้เปนเครืองมือในการกระทําความผิดตามมาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 8


มาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึงป หรือปรับไม่เกินสองหมือนบาท หรือทังจําทังปรับ

ผู้ใดจําหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคําสังทีจัดทําขึนโดยเฉพาะเพือนําไปใช้เปนเครืองมือในการกระทํา
ความผิดตามมาตรา 12 วรรคหนึงหรือวรรคสาม ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองป หรือปรับไม่เกินสีหมืนบาท หรือทังจําทังปรับ

ผู้ใดจําหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคําสังทีจัดทําขึนโดยเฉพาะเพือนําไปใช้เปนเครืองมือในการกระทํา
ความผิดตามมาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 8 มาตรา 9 มาตรา 10 หรือมาตรา 11
หากผู้นําไปใช้ได้กระทําความผิดตามมาตรา 12 วรรคหนึงหรือวรรคสาม หรือต้องรับผิดตามมาตรา 12
วรรคสองหรือวรรคสี หรือมาตรา 12/1 ผู้จําหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคําสังดังกล่าวจะต้องรับผิดทางอาญา
ตามความผิดทีมีกําหนดโทษสูงขึนด้วย ก็เฉพาะเมือตนได้รห ู ้ รืออาจเล็งเห็นได้ว่าจะเกิดผลเช่นทีเกิดขึนนัน

ผู้ใดจําหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคําสังทีจัดทําขึนโดยเฉพาะเพือนําไปใช้เปนเครืองมือในการกระทํา
ความผิดตามมาตรา 12 วรรคหนึงหรือวรรคสาม หากผู้นําไปใช้ได้กระทําความผิดตามมาตรา 12 วรรคหนึงหรือวรรคสาม หรือต้องรับผิดตามมาตรา 12
วรรคสองหรือวรรคสี หรือมาตรา 12/1 ผู้จําหน่าย
หรือเผยแพร่ชุดคําสังดังกล่าวต้องรับผิดทางอาญาตามความผิดทีมีกําหนดโทษสูงขึนนันด้วย
ในกรณีทีผู้จําหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคําสังผู้ใดต้องรับผิดตามวรรคหนึงหรือวรรคสอง และตามวรรคสาม
หรือวรรคสีด้วย ให้ผู้นันต้องรับโทษทีมีอัตราโทษสูงทีสุดแต่กระทงเดียว

👻 การเผยแพร่ขอ้ มูลต้องห้ามเข้าสูร่ ะบบคอมพิวเตอร์ (มาตรา 14)


มาตรา 14 (1) ผู้ใดโดยทุจริตหรือหลอกลวง นําเข้าสูร่ ะบบคอมพิวเตอร์ซงข้
ึ อมูลทีบิดเบือนหรือปลอมทังหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเปนเท็จ
โดยประการทีน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่ความผิดฐานหมินประมาทตามกฎหมายอาญา

นํา เข้า ข้อมูล

บิดเบือนหรือปลอม

อันเปนเท็จ

ในประการทีน่า จะเกิดความเสีย หายแก่ประชาชน

มีไว้เพืออุ ดช่องโหว่ฐานปลอมและแปลงตามประมวลกฎหมายอาญาฯ เพือปองกันอาชญากรรมไซเบอร์ทีใช้ข้อมูลเท็จ เพือหลอกลวง

เช่น การทํา เว็บไซต์ปลอมเพือดักรับข้อมูล การขโมยตัวตน ทํา โซเชีย ลมีเดีย ปลอม เปนต้น

ถ้า การกระทํา ความผิดตามวรรคหนึง (1) มิได้กระทํา ต่อประชาชน แต่เปนการกระทํา ต่อบุ คคลใด


บุ คคลหนึง ผู้กระทํา ผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่า วต้องระวางโทษจํา คุกไม่เกินสามป
หรือปรับไม่เกินหกหมืนบาท หรือทังจํา ทังปรับ และให้เปนความผิดอันยอมความได้

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกียวกับคอมพิวเตอร์ 3
มาตรา 14 (2) นําเข้าสูร่ ะบบคอมพิวเตอร์อันเปนเท็จ โดยประการทีน่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมันคงของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ
ความมันคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพืนฐานอันเปนประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตืนตระหนกแก่ประชาชน

นํา เข้า ข้อมูล

อันเปนเท็จ

โดยประการทีน่า จะเกิดความเสีย หาย

ความมันคงของประเทศ

ความปลอดภัย สาธารณะ

ความมันคงทางเศรษฐกิจ

โครงสร้า งพืนฐานอันเปนประโยชน์สาธารณะ

ก่อให้เกิดความตืนตระหนก

มาตรา 14 (3) นําเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเปนความผิดเกียวกับความมันคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกียวกับการก่อการร้ายตามประมวล


กฎหมายอาญา

นํา เข้า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ

อันเปนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

ความผิดเกียวกับความมันคงแห่งราชอาณาจักร

ความผิดเกียวกับการก่อการร้า ย

กรณีนีอาจผิดทังพรบ.คอม และประมวลกฎหมายอาญาได้

มาตรา 14 (4) นําเข้าสูร่ ะบบคอมพิวเตอร์ซงข้


ึ อมูลใด ๆ ทีมีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นันประชาชนทัวไปอาจสามารถเข้าถึงได้

มาตรา 14 (5) เผยแพร่ หรือส่งต่อซึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรูอ


้ ยู่แล้วว่าเปนข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1-4)

มาตรา ๑๖/๑ ในคดีความผิดตามมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๖ ซึงมีคํา พิพากษาว่า จํา เลย


มีความผิด ศาลอาจสัง
(๑) ให้ทํา ลายข้อมูลตามมาตราดังกล่า ว
(๒) ให้โฆษณาหรือเผยแพร่คํา พิพากษาทังหมดหรือแต่บางส่วนในสืออิเล็กทรอนิกส์ วิทยุ กระจายเสีย ง
วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หรือสืออืนใด ตามทีศาลเห็นสมควร โดยให้จ ํา เลยเปนผู้ชํา ระค่า โฆษณา
หรือเผยแพร่
(๓) ให้ดํา เนินการอืนตามทีศาลเห็นสมควรเพือบรรเทาความเสีย หายทีเกิดขึนจากการกระทํา
ความผิดนัน

มาตรา ๑๖/๒ ผู้ใดรูว้ ่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ในความครอบครองของตนเปนข้อมูลทีศาลสังให้ทํา ลาย


ตามมาตรา ๑๖/๑ ผู้นันต้องทํา ลายข้อมูลดังกล่า ว หากฝาฝนต้องระวางโทษกึงหนึงของโทษทีบัญญัติไว้
ในมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๖ แล้วแต่กรณี”

มาตรา ๑๗/๑ ความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๑๑ มาตรา ๑๓ วรรคหนึง


มาตรา ๑๖/๒ มาตรา ๒๓ มาตรา ๒๔ และมาตรา ๒๗ ให้คณะกรรมการเปรีย บเทีย บทีรัฐมนตรีแต่งตัง
มีอํา นาจเปรีย บเทีย บได้

คณะกรรมการเปรีย บเทีย บทีรัฐมนตรีแต่งตังตามวรรคหนึงให้มีจ ํา นวนสามคนซึงคนหนึงต้องเปน


พนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณาความอาญา
เมือคณะกรรมการเปรีย บเทีย บได้ทํา การเปรีย บเทีย บกรณีใดและผู้ต้องหาได้ชํา ระเงิ นค่า ปรับ
ตามคํา เปรีย บเทีย บภายในระยะเวลาทีคณะกรรมการเปรีย บเทีย บกํา หนดแล้ว ให้ถือว่า คดีนันเปนอันเลิกกัน
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจ ารณาความอาญา
ในกรณีทีผู้ตองหาไม่ชํา ระเงิ นค่า ปรับภายในระยะเวลาทีกํา หนด ให้เริมนับอายุ ความในการฟองคดีใหม่
นับตังแต่วันทีครบกํา หนดระยะเวลาดังกล่า ว

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกียวกับคอมพิวเตอร์ 4

You might also like