You are on page 1of 30

โครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์

แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ประจาปีการศึกษา 2560 (สอบคัดเลือกรอบที่ 1)
สอบวันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2560 เวลา 13.00 – 15.00 น.

แบบทดสอบ

คาชี้แจง
1. แบบทดสอบฉบับนี้เป็นข้อสอบแบบเลือกตอบ จำนวน 50 ข้อ คะแนนเต็ม 50 คะแนน
2. ใช้เวลำสอบ 2 ชั่วโมง (13.00 – 15.00 น.)
3. ตรวจสอบชื่อ-นำมสกุล เลขประจำตัวสอบ บนกระดำษคำตอบ ให้ตรงกับบัตรประจำตัวสอบ
4. สำหรับกระดำษคำตอบคอมพิวเตอร์ให้นักเรียนระบำยคำตอบที่ต้องกำรในกระดำษคำตอบ
โดยใช้ดินสอดำ 2B ขึ้นไป
5. เมื่อต้องกำรแก้ไขคำตอบ ให้นักเรียนใช้ยำงลบ ลบให้สะอำดก่อน แล้วจึงระบำยคำตอบใหม่
6. รูปประกอบกำรทำแบบทดสอบไม่เป็นไปตำมสัดส่วนจริง
7. เมื่อสอบเสร็จให้นักเรียนส่งเฉพำะกระดำษคำตอบให้กับกรรมกำรคุมสอบ
8. ห้ำมใช้เครื่องคำนวณและอุปกรณ์สื่อสำรทุกชนิด
การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

ฝ่ายโอลิมปิกวิชาการและพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
แบบทดสอบนี้เป็นเอกสารสงวนลิขสิทธิ์ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)

 การเผยแพร่แบบทดสอบฉบับนี้โดยการทาซ้า ดัดแปลง เฉลยเพื่อจาหน่าย โดยไม่ได้รับ


อนุญาตจาก สสวท. จะถูกดาเนินคดีตามกฎหมาย
 สสวท. จะย่อยทาลายแบบทดสอบและกระดาษคาตอบทั้งหมดภายในเวลา 3 เดือน
นับจากวันที่ประกาศผลการสอบคัดเลือกรอบที่ 1 ไปแล้ว
1

โครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ประจาปีการศึกษา 2560 (สอบคัดเลือกรอบที่ 1)
สอบวันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2560 เวลา 13.00 – 15.00 น.

1. นำแปรงขัดห้องน้ำ 2 แบบ คือ แปรง A และ แปรง B ที่มีขนแปรงทำจำกวัสดุชนิดเดียวกัน


ยำวเท่ำกัน มำใส่เข้ำและดึงออกจำกที่เก็บแปรง ดังรูป

แปรง A แปรง B

ใส่แปรงขัดห้องน้ำเข้ำที่เก็บแปรง ดึงแปรงขัดห้องน้ำออกจำกที่เก็บแปรง

ถ้ำต้องกำรออกแรงให้น้อยที่สุดในกำรใส่แปรงขัดห้องน้ำเข้ำและดึงออกจำกที่เก็บแปรง
ข้อใดเปรียบเทียบแรงที่ใช้ได้ถูกต้อง

ตัวเลือก แรงที่ใช้ในการใส่แปรงเข้าที่เก็บแปรง แรงที่ใช้ในการดึงแปรงออกจากที่เก็บแปรง


 แปรง A ใช้แรงมำกกว่ำแปรง B แปรง A ใช้แรงมำกกว่ำแปรง B
 แปรง A ใช้แรงมำกกว่ำแปรง B แปรง A ใช้แรงน้อยกว่ำแปรง B
 แปรง A ใช้แรงน้อยกว่ำแปรง B แปรง A ใช้แรงมำกกว่ำแปรง B
 แปรง A ใช้แรงน้อยกว่ำแปรง B แปรง A ใช้แรงน้อยกว่ำแปรง B

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


2

2. นำผ้ำรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีขนำดเท่ำกัน 4 ชนิด มำทดสอบหำระยะยืดก่อนผ้ำขำด ขนำดแรงดึง


สูงสุดก่อนผ้ำขำด และควำมสำมำรถในกำรดูดซับน้ำ ได้ผลดังตำรำง

ผ้า ระยะยืดก่อนผ้าขาด ขนาดแรงดึงสูงสุดก่อนผ้าขาด ความสามารถในการดูดซับน้า


A 1 เซนติเมตร ♦ ●●
B 3 เซนติเมตร ♦♦♦♦ ●●●●
C 20 เซนติเมตร ♦♦ ●●●
D 18 เซนติเมตร ♦♦♦ ●
หมายเหตุ
♦ แทนขนำดแรงดึงที่ใช้น้อยที่สุด ♦♦♦♦ แทนขนำดแรงดึงที่ใช้มำกที่สุด
● แทนควำมสำมำรถในกำรดูดซับน้ำน้อยที่สุด ●●●● แทนควำมสำมำรถในกำรดูดซับน้ำมำกที่สุด

ข้อใดถูกต้อง
 ผ้ำ A เหมำะสำหรับทำผ้ำถูพื้นมำกกว่ำผ้ำ C
 ผ้ำ B เหมำะสำหรับทำเป็นร่มมำกกว่ำผ้ำ D
 ผ้ำ C เหมำะสำหรับทำเป็นถุงผ้ำใส่ของ
 ผ้ำ D เหมำะสำหรับทำเป็นผ้ำพันเข่ำเพื่อบรรเทำอำกำรเคล็ดขัดยอก

3. ฟูซิลลี (Fusilli) เป็นเส้นที่ใช้ประกอบอำหำรที่มีต้นกำเนิดจำกประเทศอิตำลี ทำจำกแป้งสำลี


มีลักษณะเป็นเกลียวและเป็นท่อนสั้น ๆ ดังรูป

ก้อนแป้งสำลี ฟูซิลลี

ข้อใดระบุกระบวนกำรเปลี่ยนแปลงรูปร่ำงจำกก้อนแป้งสำลีเป็นฟูซิลลีได้ถูกต้องที่สุด
 แผ่ บิด ตัด ยืด  ยืด บิด แผ่ ตัด
 ยืด แผ่ บิด ตัด  ตัด ยืด บิด แผ่

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


3

4. นักเรียนคนหนึ่งจำแนกวัสดุโดยใช้เกณฑ์ต่ำง ๆ ดังนี้

วัสดุ

โค้งงอไม่ได้ โค้งงอได้

พื้นผิวขรุขระ พื้นผิวเรียบ คืนรูปได้ คืนรูปไม่ได้

วัสดุ A วัสดุ B วัสดุ C วัสดุ D

ข้อใดระบุชนิดวัสดุ A B C และ D ได้ถูกต้อง


ตัวเลือก วัสดุ A วัสดุ B วัสดุ C วัสดุ D
 ดินน้ำมัน ลูกแก้ว สปริง ยำงรัดของ
 เหรียญห้ำบำท กระจกส่องหน้ำ ยำงรัดของ ดินน้ำมัน
 กระจกส่องหน้ำ ดินน้ำมัน ยำงรัดของ เหรียญห้ำบำท
 ถ่ำนไม้ ลูกแก้ว แผ่นดินเหนียว สปริง

5. พิจำรณำเหตุกำรณ์ต่อไปนี้
ก. หยดน้ำลงในก้นหม้อที่ร้อนจัด จะเห็นหยดน้ำกลิ้งไปมำและเกิดเสียงซู่ซ่ำ
ข. ละลำยแป้งมันในน้ำและให้ควำมร้อนจนกลำยเป็นของเหลวใส
ค. วำงน้ำแข็งแห้งบนเวทีแสดงดนตรีแล้วเกิดควันพวยพุ่ง
ง. นำแป้งมำนวดกับไข่ไก่กลำยเป็นก้อนแป้งขนมปัง
เหตุกำรณ์ในข้อใดเกี่ยวข้องกับกำรเปลี่ยนแปลงสถำนะ
 ก และ ค  ก และ ง
 ข และ ค  ข และ ง

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


4

6. นักเรียนกลุ่มหนึ่งสังเกตกำรเปลี่ยนแปลงของวัสดุ A B C และ D ได้ผลดังตำรำง

วัสดุ ลักษณะก่อนการเปลี่ยนแปลง การกระทา ลักษณะหลังการเปลี่ยนแปลง


A เป็นก้อนของแข็งสีขำว น้ำหนักเบำ ใส่ถุง ปิดปำกถุง เป็นก้อนของแข็งสีขำว ขนำดเล็กลง
แล้วทุบ จำนวนหลำยก้อนอยู่ภำยในถุง
B เป็นก้อนของแข็งสีขำว เย็นมำก ใส่ขวด ปิดฝำ เกิดเสียงดัง ขวดแตก
จับด้วยมือเปล่ำไม่ได้ แล้วถือไว้กลำงแดด เกิดไอสีขำวจำนวนมำก
C เป็นแผ่นของแข็ง ใสไม่มีสี จุดไฟเผำ ติดไฟและเกิดแก๊สปริมำณมำก
น้ำหนักเบำ ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับแก๊ส
ในลมหำยใจออกของคน
D เป็นก้อนของแข็งสีขำว ใส่หม้อ ปิดฝำ เป็นของเหลวสีขำว ไหลได้
แล้วให้ควำมร้อน ทิง้ ไว้สักครู่จะแข็งตัวเป็นก้อนแข็งสีขำว

จำกข้อมูลที่กำหนดให้ กำรเปลี่ยนแปลงของวัสดุในข้อใดที่มีโอกำสก่อให้เกิดอันตรำยต่อร่ำงกำยหรือ
สิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
 วัสดุ A และ วัสดุ B  วัสดุ B และ วัสดุ C
 วัสดุ A และ วัสดุ D  วัสดุ C และ วัสดุ D

7. บ้ำนหลังหนึ่งมีห้องปิดขนำดเท่ำกัน 2 ห้อง ห้อง A อยู่หน้ำบ้ำน ซึ่งหันไปทำงทิศตะวันตก และห้อง B


อยู่หลังบ้ำน เมื่อเวลำ 06.00 น. นักเรียนคนหนึ่งนำขวดแบบเดียวกันที่บรรจุน้ำหอมชนิดเดียวกัน
และปริมำณเท่ำกัน มำวำงไว้กลำงห้อง A และ ห้อง B ห้องละ 1 ขวด ดังรูป

ห้อง A ห้อง B
หน้ำบ้ำน หลังบ้ำน

ณ เวลำ 10.00 น. ข้อใดระบุกำรเปลี่ยนแปลงได้ถูกต้อง


 ปริมำณไอน้ำหอม ในห้อง A มำกกว่ำในห้อง B
 อุณหภูมิของอำกำศ ในห้อง A สูงกว่ำในห้อง B
 กลิ่นน้ำหอม ในห้อง A หอมแรงกว่ำกลิ่นในห้อง B
 ปริมำณน้ำหอมที่เหลือในขวด ในห้อง A เหลือมำกกว่ำในห้อง B

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


5

8. กำรทดลองเปรียบเทียบควำมสำมำรถของกำรละลำยของสำร A และ B ดังรูป

ขั้นที่ 1 ต้มน้ำ ขั้นที่ 2 แบ่งน้ำร้อนใส่ในภำชนะ


ที่มีขนำดเท่ำกัน 2 ใบ

สำร A สำร B

ขั้นที่ 4 คนสำรในแต่ละภำชนะ ขั้นที่ 3 เติมสำร A และ B


ด้วยแรงที่เท่ำกัน และสังเกตผล ลงในภำชนะอย่ำงละ 1 กรัม

กำรทดลองนี้ควรแก้ไขที่ขั้นตอนใดจึงจะทำให้กำรทดลองเป็นไปตำมวัตถุประสงค์
 ขั้นที่ 1  ขั้นที่ 2
 ขั้นที่ 3  ขั้นที่ 4

9. อัพไซเคิล (Upcycle) เป็นกำรนำวัสดุเหลือใช้มำออกแบบทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภำพ


และมีมูลค่ำเพิ่มขึ้น ซึ่งมีกำรประหยัดพลังงำนและคำนึงถึงสภำพแวดล้อม
ข้อใดไม่ใช่กำรอัพไซเคิล
 นำกะลำมะพร้ำวมำทำเป็นโคมไฟ
 นำสำยไฟเสียแล้วมำถักเป็นสร้อยคอ
 นำขวดแยมมำใช้เป็นแจกันใส่ดอกไม้
 นำซองขนมขบเคี้ยวมำสำนเป็นกระเป๋ำสะพำย

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


6

10. นำน้ำปริมำตรเท่ำกันมำใส่ในกระป๋องขนำดและน้ำหนักเท่ำกัน แล้วจัดเป็นชุดกำรทดลอง ดังรูป


ชุดที่ 1 แช่แข็งในตู้เย็น

ชุดที่ 2 ตั้งไว้บนโต๊ะ

ชุดที่ 3 อุ่นด้วยไฟอ่อนๆ

เมื่อเวลำผ่ำนไป 1 ชั่วโมง ข้อใดเปรียบเทียบน้ำหนักของน้ำที่อยู่ในกระป๋องแต่ละชุดได้ถูกต้อง


 ชุดที่ 1 = ชุดที่ 2 = ชุดที่ 3  ชุดที่ 1 > ชุดที่ 3 > ชุดที่ 2
 ชุดที่ 2 > ชุดที่ 1 > ชุดที่ 3  ชุดที่ 1 > ชุดที่ 2 > ชุดที่ 3

11. ถ้ำผสมสำรละลำย A กับสำร B จะเกิดแก๊สขึ้น นักเรียนคนหนึ่งนำสำร B ปริมำณ 5 10 และ


15 กรัม บรรจุในลูกโป่งยำงชนิดเดียวกันและขนำดเท่ำกัน 3 ใบ จำกนั้นนำลูกโป่งแต่ละใบไป
สวมปิดที่ปำกขวดแก้วแบบเดียวกัน ซึ่งภำยในขวดบรรจุสำรละลำย A ปริมำณเท่ำกัน ดังรูป
ลูกโป่ง ลูกโป่ง ลูกโป่ง
ยำงรัด ยำงรัด ยำงรัด

สำร B สำร B สำร B


5 กรัม สำรละลำย A 10 กรัม สำรละลำย A 15 กรัม
สำรละลำย A

ขวดใบที่ 1 ขวดใบที่ 2 ขวดใบที่ 3


จำกนั้น ยกปลำยลูกโป่งขึ้นในแนวดิ่ง เขย่ำสำร B ลงไปในขวดให้หมด สักครู่พบว่ำ ลูกโป่งขยำยใหญ่ขึ้น
ข้อใดคือจุดประสงค์ของกำรทดลองนี้
 ศึกษำผลของปริมำณของสำร B ต่อกำรเกิดแก๊ส
 ศึกษำผลของปริมำณของสำร B ต่อควำมยืดหยุ่นของลูกโป่ง
 ศึกษำผลของปริมำณของสำร B ต่อกำรขยำยตัวและหดตัวของแก๊ส
 ศึกษำผลของปริมำณของสำร B ต่อกำรขยำยตัวและหดตัวของลูกโป่ง

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


7

12. ข้อใดแสดงสัญลักษณ์ที่ระบุควำมปลอดภัยได้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์

ตัวเลือก สัญลักษณ์ คาอธิบายสัญลักษณ์ ผลิตภัณฑ์

รับรองอำหำรสด อำหำรแปรรูป
อำหำรปรุงสุกที่จำหน่ำยในร้ำนค้ำ เนื้อไก่สด

อำหำรสดในตลำดสดและ ปลำกระป๋อง
ซุปเปอร์มำร์เก็ต

รับรองมำตรฐำน แอปเปิ้ลสด

ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม กระติกน้ำร้อน
มอก. XXXX-XXXX

รับรองผลิตภัณฑ์สุขภำพที่มีคุณภำพ น้ำส้มสำยชู
 XX-X-XXXXX-X-XXXX
และปลอดภัย น้ำยำล้ำงห้องน้ำ

รับรองผลิตภัณฑ์จำกกำรเกษตร
ข้ำวหอมมะลิ
 ที่ใช้วัสดุธรรมชำติ หลีกเลี่ยงกำรใช้
ยำงรถยนต์
วัตถุดิบจำกกำรสังเครำะห์

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


8

13. เมื่อนำชุดมอเตอร์ติดใบพัดมำต่อกับสำยไฟและถ่ำนไฟฉำย 2 ก้อน ดังรูป

1.5 V 1.5 V 1.5 V 1.5 V 1.5 V 1.5 V


รูปที่ 1 รูปที่ 2 รูปที่ 3

ข้อใดถูกต้อง
 รูปที่ 1 และรูปที่ 2 ใบพัดจะไม่หมุน แต่รูปที่ 3 ใบพัดจะหมุน
 รูปที่ 1 และรูปที่ 2 ใบพัดจะหมุนไปในทิศตรงกันข้ำม แต่รูปที่ 3 ใบพัดจะไม่หมุน
 รูปที่ 1 ใบพัดจะไม่หมุน แต่รูปที่ 2 และ รูปที่ 3 ใบพัดจะหมุนไปในทิศตรงกันข้ำม
 รูปที่ 1 และรูปที่ 2 ใบพัดจะหมุนไปในทิศเดียวกัน แต่รูปที่ 3 ใบพัดจะหมุนในทิศตรงกันข้ำม

14. ในวันที่อำกำศหนำวเย็น ขณะที่เด็กชำยโฟกัสเดินไปหยิบของบนชั้นวำงของเหนือโทรทัศน์


เสื้อของเด็กชำยโฟกัสไปติดกับหน้ำจอโทรทัศน์ ดังรูป

จำกเหตุกำรณ์ข้ำงต้น ข้อใดถูกต้อง
 เกิดแรงดันจำกโทรทัศน์กระทำต่อเสื้อ
 เกิดแรงแม่เหล็กจำกโทรทัศน์กระทำต่อเสื้อ
 เกิดแรงโน้มถ่วงจำกโทรทัศน์กระทำต่อเสื้อ
 เกิดแรงไฟฟ้ำจำกโทรทัศน์กระทำต่อเสื้อ

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


9

15. ตอนเย็นวันหนึ่ง ขณะที่นักเรียนคนหนึ่งกำลังรดน้ำต้นไม้ในสวนหลังบ้ำน เขำสังเกตเห็น


รุ้งกินน้ำบริเวณที่มีละอองน้ำกระจำยอยู่
ข้อใดถูกต้อง
 นักเรียนคนนั้นกำลังรดน้ำต้นไม้โดยหันหน้ำไปทำงทิศตะวันออก
 นักเรียนคนนั้นกำลังรดน้ำต้นไม้โดยหันหน้ำไปทำงทิศตะวันตก
 นักเรียนคนนั้นกำลังรดน้ำต้นไม้โดยหันหน้ำไปทำงทิศเหนือ
 นักเรียนคนนั้นกำลังรดน้ำต้นไม้โดยหันหน้ำไปทำงทิศใต้

16. ทดสอบปลำยแท่งโลหะ 3 ชิ้น โดยถือแท่งที่ 1 ให้ปลำย Q เข้ำใกล้กับปลำยของแท่งอื่นๆ ได้ผลดังนี้

P R T เข้าใกล้ปลายของแท่งโลหะ ผลที่เกิดขึ้น
R ดึงดูดกัน
S ดึงดูดกัน
Q S U T ดึงดูดกัน
แท่งที่ 1 แท่งที่ 2 แท่งที่ 3 U ผลักกัน

แท่งโลหะใดเป็นแท่งแม่เหล็ก
 แท่งที่ 1 เท่ำนั้น
 แท่งที่ 1 และ 2
 แท่งที่ 1 และ 3
 แท่งที่ 3 เท่ำนั้น

17. โรงไฟฟ้ำถ่ำนหินมีกระบวนกำรผลิตกระแสไฟฟ้ำ ดังนี้


ขั้นตอนที่ 1 เผำถ่ำนหินเพื่อนำไปต้มน้ำ
ขั้นตอนที่ 2 เมื่อน้ำเดือดกลำยเป็นไอน้ำ ทำให้ใบพัดหมุน
ขั้นตอนที่ 3 ใบพัดหมุนทำให้แกนขดลวดที่ติดอยูห่ มุนตำม
ขั้นตอนที่ 4 แกนขดลวดหมุนระหว่ำงแท่งแม่เหล็กทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ำ
ขั้นตอนใดเป็นกำรเปลี่ยนแปลงที่ใช้ควำมร้อนทำให้เกิดแรงดัน
 ขั้นตอนที่ 1  ขั้นตอนที่ 2
 ขั้นตอนที่ 3  ขั้นตอนที่ 4

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


10

18. ภำยในโลกจะมีแกนโลก ซึ่งมีสมบัติคล้ำยกับมีแท่งแม่เหล็กอยู่ และแม่เหล็กโลกจะกลับขั้วโดยเฉลี่ย


ประมำณทุกๆ 250,000 ปี ถ้ำนำเข็มทิศไปวำงไว้ที่ตำแหน่ง X Y และ Z หลังจำกแม่เหล็กโลกกลับขั้ว
ดังรูป

กาหนดให้
ทิศเหนือ

Y
ประมำณ 250,000 ปี

Z
โลก โลก

เข็มทิศที่วำงไว้ที่ตำแหน่ง X Y และ Z จะมีลักษณะตำมข้อใด


ตัวเลือก ตาแหน่ง X ตาแหน่ง Y ตาแหน่ง Z

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


11

19. นักเรียนนำแท่งแม่เหล็กมำติดที่หัวและท้ำยของถ่ำนไฟฉำย แล้วผลักเบำๆ เข้ำไปในขดลวด


ทำให้ถ่ำนไฟฉำยที่มีแม่เหล็กติดอยู่เริ่มเคลื่อนที่ ดังรูป

ทิศกำรเคลื่อนที่

ขดลวด แม่เหล็ก ถ่ำนไฟฉำย แม่เหล็ก

อุปกรณ์ในข้อใดใช้หลักกำรเปลี่ยนรูปพลังงำนแบบเดียวกับกำรทดลองข้ำงต้น
 

พัดลม หลอดไฟแบบมีไส้

 

โทรทัศน์แอลอีดี (LED) กำต้มน้ำไฟฟ้ำ

20. ขณะที่รถยนต์คันหนึ่งเคลื่อนที่ไปข้ำงหน้ำบนถนนทำงตรง มีกำรเปลี่ยนอัตรำเร็วจำก 20 เมตร


ต่อวินำที เป็น 10 เมตรต่อวินำที ดังรูป
รูปแสดงมุมมองของรถคันเดียวกัน
มุมมองด้ำนหน้ำของรถ มุมมองด้ำนข้ำงของรถ

F1 F2 F3 F4

ผลรวมของแรงที่กระทำต่อรถยนต์ไปในทิศทำงใด
 F1  F2
 F3  F4
แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
12

21. เมื่อออกแรง 3 แรงกระทำต่อวัตถุ W ที่วำงนิ่งอยู่บนพื้นลื่นทั้งหมด 4 ครั้ง ดังรูป

25 N 25 N W
25 N W 50 N 25 N 40 N

ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2

30 N W 40 N W
30 N 70 N 100 N
60 N
ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4

กำรออกแรงครั้งใดทำให้วัตถุ W เคลื่อนที่ไปด้ำนขวำมือ
 ครั้งที่ 1  ครั้งที่ 2
 ครัง้ ที่ 3  ครัง้ ที่ 4

22. นักเรียนออกแรงผลักกล่องที่มมี วล 20 และ 30 กิโลกรัม บนพื้นผิว A และ B ได้ผลดังตำรำง

พื้นผิวที่รองรับกล่อง มวลของกล่อง (กิโลกรัม) แรงที่ทาให้กล่องเริ่มเคลื่อนที่ (นิวตัน)


20 10
A
30 15
20 20
B
30 30

ถ้ำออกแรงผลักกล่องมวล 60 กิโลกรัม จนทำให้กล่องเริ่มเคลื่อนที่ได้ จะต้องออกแรงขนำดเท่ำใด


บนพื้นผิวใด
 ออกแรง 20 นิวตัน บนพื้นผิว A
 ออกแรง 30 นิวตัน บนพื้นผิว A
 ออกแรง 40 นิวตัน บนพื้นผิว B
 ออกแรง 50 นิวตัน บนพื้นผิว B

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


13

23. นักบินอวกำศชั่งมวล 5 กิโลกรัม ด้วยตำชั่งสปริงบนดำว Y ได้ผลดังรูป

ถ้ำแรงดึงดูดบนโลกเป็น 2 เท่ำของแรงดึงดูดบนดำว Y เมื่อนักบินอวกำศชั่งมวลก้อนเดิมและตำชั่ง


สปริงอันเดิมบนโลก รูปใดแสดงผลกำรชั่งได้ถูกต้อง
   

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


14

24. นักเรียนคนหนึ่งออกแรงกระทำต่อวัตถุชิ้นหนึ่ง แล้วบันทึกตำแหน่งของวัตถุทุก ๆ 1 นำที


ได้ผลดังกรำฟ

C D
ตาแหน่ง (เซนติเมตร)

A B

เวลา (นาที)

เมื่อนักเรียนพิจำรณำตำแหน่งวัตถุที่ตำแหน่ง A B C และ D ตำแหน่งใดบ้ำงที่มีแรงมำกระทำต่อ


วัตถุแล้วทำให้วัตถุเปลี่ยนตำแหน่ง
 ตำแหน่ง B และ C  ตำแหน่ง B และ D
 ตำแหน่ง A และ C  ตำแหน่ง A และ D

25. โครงกำร “เรำทำควำมดีด้วยหัวใจ” มีกิจกรรมกำจัดผักตบชวำและขยะมูลฝอยที่กีดขวำง


ทำงไหลของน้ำ กิจกรรมนี้ทำให้น้ำในแหล่งดังกล่ำวมีกำรเปลี่ยนแปลงหลำยอย่ำงยกเว้นข้อใด
 มีออกซิเจนละลำยในน้ำมำกขึ้น
 เกิดกำรตกตะกอนทำให้น้ำใส
 สีและกลิ่นของน้ำลดลง
 แสงแดดส่องลงไปในน้ำได้มำกขึ้น

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


15

26. พื้นที่ A และ B เป็นชั้นตะกอนต่ำงกัน ดังนี้

ถ้ำฝนตกหนักอย่ำงต่อเนื่องใน 2 พื้นที่ แล้วพื้นที่ทั้งสองแห่งจะเป็นอย่ำงไร


ก. พื้นที่ A แห้งเร็วกว่ำพื้นที่ B
ข. พื้นที่ B มีโอกำสเสี่ยงต่อกำรเป็นแหล่งน้ำเน่ำเสีย
ค. น้ำที่ไหลผ่ำนพื้นที่ A จะขุน่ กว่ำน้ำที่ไหลผ่ำนพื้นที่ B
ข้อใดถูกต้อง
 เฉพำะ ก  เฉพำะ ค
 ก และ ข  ข และ ค

27. ดิน A B และ C มีขนำดอนุภำคเม็ดดินแตกต่ำงกัน เมื่อนำดินปริมำณเท่ำกันมำผสมกัน


ครั้งละ 2 ชนิด แล้วเทน้ำปริมำณเท่ำกันไหลผ่ำนดินผสม บันทึกเวลำที่น้ำหยดแรกหยดลงมำ
ได้ผลดังตำรำง

ชนิดดินที่ผสมกัน เวลาที่น้าหยดแรกหยดลงมา (วินาที)


A+B 15
A+C 25
B+C 10

ข้อใดเรียงลำดับขนำดอนุภำคเม็ดดินจำกใหญ่ไปเล็กได้ถูกต้อง
 A B C  B C A
 B A C  C A B

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


16

28. เทศบาลตําบลแห่งหนึ่งต้องการเลือกพื้นที่กําจัดขยะโดยวิธฝี ังกลบ และเพื่อไม่ให้มีผลต่อ


การปนเปื้อนน้ําบาดาลบริเวณนั้น เทศบาลตําบลนี้ต้องเลือกพื้นที่ที่เป็นดินชนิดใด
จึงจะเหมาะสมที่สุด
 ดินร่วน  ดินทราย
 ดินเหนียว  ดินร่วนปนทราย

29. พิจารณาแผนภาพแสดงอัตราส่วนของน้ําบนโลก ต่อไปนี้


อื่น ๆ 4.1%
ไอน้ํา 3.0%
พื้นที่ชุ่มน้ํา 3.0%
ทะเลสาบ 20.9%

น้ําที่ผิวดิน 1.2% น้ําแข็งในดินและบนดิน 69.0%

น้ําจืด 2.6%

น้ําบาดาล 30.1%
น้ําเค็ม 97.4% น้ําแข็งขั้วโลก 68.7%

จากแผนภาพข้างต้น พิจารณาข้อความต่อไปนี้
ก. น้ําจืดส่วนใหญ่อยู่ในสถานะของแข็ง
ข. น้ําเค็มมีปริมาณมากเป็นอันดับ 2 รองจากน้ําแข็ง
ค. น้ําผิวดินกับน้ําใต้ดินมีปริมาณน้อยกว่าน้ําแข็งที่ขั้วโลก
ง. เมื่อน้ําแข็งของโลกละลาย ปริมาณของน้ําแต่ละแหล่งในโลกจะเปลี่ยนแปลง
จ. สถานะของน้ําในโลกเรียงตามปริมาณมากไปน้อย ได้เป็น ของแข็ง > ของเหลว > แก๊ส
ข้อใดถูกต้อง
 ก ค และ ง  ก ข และ จ
 ข ค และ ง  ค ง และ จ

แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.3 ประจําปีการศึกษา 2560 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


17

30. ข้อมูลมำตรฐำนคุณภำพน้ำบำดำลที่ใช้บริโภค โดยกรมทรัพยำกรน้ำบำดำล เป็นดังตำรำง


คุณภาพน้า หน่วยวัด เกณฑ์ (ปริมาณอนุโลม)*
กรด – ด่ำง - 6.5 – 9.2
ควำมขุ่น เอ็นทียู <5
สี แพลตตินัมโคบอลต์ <20
หมายเหตุ * เป็นปริมำณที่กรมทรัพยำกรน้ำบำดำลอนุญำตให้ใช้บริโภคได้
หมู่บ้ำนแห่งหนึ่งสร้ำงแหล่งกักเก็บน้ำใต้ดินเพื่อกำรบริโภค และวัดค่ำคุณภำพของน้ำได้ผล ดังนี้

ค่าคุณภาพน้า
 กรด – ด่ำง = 8

 ควำมขุ่น = 5 เอ็นทียู
 สี = 19 แพลตตินัมโคบอลต์
หมายเหตุ คุณภำพน้ำพื้นฐำนอื่นๆ ผ่ำนเกณฑ์มำตรฐำน

จำกข้อมูลข้ำงต้น น้ำจำกแหล่งน้ำดังกล่ำวสำมำรถนำมำบริโภคได้หรือไม่ เพรำะเหตุใด


 ได้ เพรำะมีควำมเป็นกรด – ด่ำงไม่เกินค่ำมำตรฐำนที่กำหนด
 ได้ เพรำะค่ำคุณภำพน้ำที่วัดได้เป็นไปตำมมำตรฐำน
 ไม่ได้ เพรำะมีควำมขุ่นเกินค่ำมำตรฐำนที่กำหนด
 ไม่ได้ เพรำะมีสีเกินค่ำมำตรฐำนที่กำหนด

31. ใส่น้ำแข็งเกล็ดหิมะในประมำณที่เท่ำกัน ลงในแก้ว A และ B ซึ่งเป็นแก้วพลำสติก 2 ชั้น ดังรูป

น้ำแข็งเกล็ดหิมะ

แก้ว A แก้ว B
นำแก้วทั้ง 2 ใบ ไปวำงไว้บริเวณเดียวกันระยะเวลำหนึ่ง ข้อใดเป็นกำรเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับแก้วทั้ง 2 ใบ
 ผิวด้ำนนอกของแก้ว A เกิดละอองน้ำมำกกว่ำ แก้ว B
 น้ำแข็งในแก้ว A หลอมเหลวช้ำกว่ำน้ำแข็งในแก้ว B
 ผิวด้ำนนอกของแก้ว A เกิดละอองน้ำเร็วกว่ำแก้ว B
 ปริมำณละอองน้ำที่ผิวด้ำนนอกแก้วทั้ง 2 ใบ ไม่แตกต่ำงกัน
แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
18

32. พิจำรณำรูปดังต่อไปนี้

ก. ล้อรถไฟ ข. หัวฉีดน้ำรดต้นไม้

ค. บอลลูน ง. ล้อรถยนต์

รูปในข้อใดที่แสดงถึงกำรใช้ประโยชน์ของอำกำศ
 ก และ ข  ข และ ค
 ข และ ง  ค และ ง

33. พิจำรณำตำแหน่งของโลกและดวงอำทิตย์ ดังรูป

ข้อใดถูกต้อง
 ซีกโลกใต้จะมีกลำงวันสั้น และจุด B จะมืดตลอดวัน
 ซีกโลกเหนือจะมีกลำงวันสั้น และจุด A จะมืดตลอดวัน
 ซีกโลกใต้จะมีกลำงวันยำว และจุด B จะมืดประมำณ 6 ชั่วโมง
 ซีกโลกเหนือจะมีกลำงวันยำว และจุด A จะมืดประมำณ 6 ชั่วโมง

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


19

34. ริมบึงแห่งหนึ่งในประเทศไทย ดวงอำทิตย์กำลังขึ้นจำกขอบฟ้ำด้ำนหน้ำของน้องพัฒน์ ดังรูป

พิจำรณำข้อควำมต่อไปนี้
ก. ด้ำนขวำของน้องพัฒน์เป็นทิศใต้
ข. เงำของน้องพัฒน์ทอดยำวไปทำงด้ำนซ้ำยของเขำ
ค. โลกหมุนรอบตัวเองไปทำงทิศด้ำนหน้ำของน้องพัฒน์
ง. โลกโคจรรอบดวงอำทิตย์ไปทำงทิศด้ำนหน้ำของน้องพัฒน์
ข้อใดถูกต้อง
 ก และ ค  ก และ ง
 ข และ ค  ข และ ง

35. พิจำรณำรูปต่อไปนี้
B

C A
โลก ดวงอำทิตย์

ณ ตำแหน่งใดของดวงจันทร์ที่ดวงอำทิตย์และดวงจันทร์ขึ้นพร้อมกันและตกพร้อมกัน
 ตำแหน่ง A  ตำแหน่ง B
 ตำแหน่ง C  ตำแหน่ง D

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


20

36. พิจำรณำรูปกำรโคจรของโลกรอบดวงอำทิตย์ ดังนี้

ดวงอำทิตย์

โลก
A
B
ข้อใดถูกต้อง
 B อยู่ทำงทิศตะวันตกของ A
 A และ B ไม่มีโอกำสเห็นดวงอำทิตย์พร้อมกัน
 ขณะที่ A เห็นดวงอำทิตย์ขึ้น B จะเป็นเวลำเที่ยงคืน
 ขณะที่ B เห็นดวงอำทิตย์ตก A จะเห็นดวงอำทิตย์ตอนเที่ยงวัน

37. พืชชนิดหนึ่งมีลักษณะดอก 2 แบบ คือ ดอก A และ ดอก B อยู่บนต้นเดียวกัน ดังรูป


ดอก B

ดอก A

ข้อใดไม่ถูกต้อง
 ดอก A สำมำรถสร้ำงเรณูได้
 ดอก A เป็นดอกไม่สมบูรณ์เพศ
 ดอก B เป็นดอกสมบูรณ์
 ดอก B สำมำรถเจริญเป็นผลได้

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


21

38. กำรกระทำในข้อใดมีประสิทธิภำพน้อยที่สุดในกำรป้องกันเชื้อโรคเข้ำสู่ร่ำงกำย
 สวมหน้ำกำกอนำมัยก่อนออกจำกบ้ำน
 ใช้สบู่ล้ำงมือหลังจำกเล่นที่สนำมเด็กเล่น
 ใช้ช้อนกลำงในกำรรับประทำนอำหำรร่วมกับผู้อื่น
 จุม่ ช้อนในน้ำอุณหภูมิ 40 - 50 องศำเซลเซียส ก่อนนำไปตักอำหำร

39. ถ้ำต้องเลี้ยงเต่ำที่มีลักษณะดังรูป ในตู้กระจก

ตู้กระจกในข้อใดมีสภำพแวดล้อมเหมำะสมกับกำรเลี้ยงเต่ำตัวนี้มำกที่สุด

 
น้า

ดิน ดิน น้า

 
น้า

น้า
ดิน

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


22

40. พิจำรณำตำรำงต่อไปนี้

ประโยชน์ของพืชต่อมนุษย์
พืช
อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย เชื้อเพลิง เครื่องสาอาง
A   - - -
B  -   -
C - -   -
D  - - - 
หมายเหตุ  หมำยถึง พบกำรใช้ประโยชน์ - หมำยถึง ไม่พบกำรใช้ประโยชน์
พืช A B C และ D คือพืชชนิดใดตำมลำดับ
 สับปะรด ไผ่ โกงกำง ว่ำนหำงจระเข้
 กล้วย สัก กระบองเพชร ขมิ้นชัน
 ฝ้ำย มะม่วง มะขำม กล้วย
 บัว ตะเคียน โหระพำ ขิง

41. ผักตบชวำเป็นพืชต่ำงถิ่นที่เจริญเติบโตอย่ำงรวดเร็ว พบมำกในแหล่งน้ำจืดทั่วไป


คนในชุมชนมักจะรณรงค์ให้มีกำรกำจัดผักตบชวำ

ข้อใดไม่ใช่สำเหตุที่คนในชุมชนกำจัดผักตบชวำ
 ผักตบชวำกีดขวำงกำรจรำจรทำงน้ำ
 ผักตบชวำแย่งน้ำและธำตุอำหำรจำกพืชชนิดอื่น
 เมื่อผักตบชวำตำยจะจมลง ทำให้แหล่งน้ำตื้นเขิน
 ผักตบชวำผลิตแก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ลงสู่แหล่งน้ำทำให้ปลำตำย

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


23

42. นักเรียนคนหนึ่งศึกษำกำรกินอำหำรของสัตว์ 4 ชนิด โดยให้อำหำร 2 แบบ คือ ข้ำวโพด


และ เนื้อสัตว์ อย่ำงละ 100 กรัมทุกมื้อ จำกนั้นนำอำหำรที่เหลือของแต่ละมื้อมำชั่งน้ำหนัก
เป็นเวลำ 1 สัปดำห์แล้วหำค่ำเฉลี่ย ได้ผลดังตำรำง

สัตว์ น้าหนักเฉลี่ยของข้าวโพดที่เหลือ (กรัม) น้าหนักเฉลี่ยของเนื้อสัตว์ที่เหลือ (กรัม)


A 50 100
B 100 20
C 60 70
D 0 100

ข้อใดถูกต้อง
 B เป็นสัตว์กินพืช  D เป็นสัตว์กินเนื้อ
 A และ C เป็นสัตว์กินพืช  มีสัตว์เพียงชนิดเดียวที่กินทั้งพืชและสัตว์

43. พิจำรณำลักษณะปำกของนก A B C และ อำหำรของนก ต่อไปนี้

นก A นก B นก C

อำหำร ก อำหำร ข อำหำร ค อำหำร ง

ข้อใดเป็นอำหำรหลักของนก A B และ C ตำมลำดับ


 ง ก ข  ง ข ค
 ข ก ค  ข ค ง

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


24

44. นักเรียนทำกำรทดลองปลูกถั่วเขียวในกระถำง จำนวน 3 กระถำง ดังรูป

น้ำ 400 มิลลิลิตร

แผ่นกระจก
กระถางที่ 1

น้ำ 400 มิลลิลิตร

แผ่นกระจก
กระถางที่ 2

น้ำ 200 มิลลิลิตร น้ำ 200 มิลลิลิตร

แผ่นกระจก
กระถางที่ 3

วำงกระถำงไว้ในบริเวณที่มีสภำพแวดล้อมเดียวกันเป็นเวลำ 10 วัน วัตถุประสงค์ของกำรทดลองนี้คือข้อใด


 แรงโน้มถ่วงมีผลต่อกำรเจริญเติบโตของพืช
 น้ำมีผลต่อทิศทำงกำรเจริญเติบโตของรำก
 ปริมำณน้ำมีผลต่อกำรเจริญเติบโตของรำก
 ปริมำณน้ำมีผลต่อกำรเจริญเติบโตของพืช

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


25

45. พิจำรณำแผนภำพกำรจัดจำแนกสัตว์ต่อไปนี้

สัตว์ A B C D

กำรมีกระดูก ไม่มี กำรมีขำ ไม่มี สัตว์ A

มี
มี
สัตว์ B

กำรมีต่อมน้ำนม ไม่มี สัตว์ C

มี

สัตว์ D

จำกแผนภำพ สัตว์ A B C และ D เป็นสัตว์ชนิดใด


ตัวเลือก สัตว์ A สัตว์ B สัตว์ C สัตว์ D
 ไส้เดือนดิน ผีเสื้อ นกอินทรีย์ วำฬ
 กิ้งกือ มด จระเข้ ลิง
 ปลิง เห็บ งู ปลำฉลำม
 ทำก ผึ้ง ชะนี จิงโจ้

46. กำรกระทำของเกษตรกรต่อพืชในข้อใดทำให้เก็บผลผลิตของพืชชนิดนั้นได้น้อยลง
 งดให้น้ำต้นองุ่นก่อนกำรเก็บผล
 ห่อผลฝรั่งด้วยกระดำษหนังสือพิมพ์
 ใส่ปุ๋ยไนโตรเจนตลอดกำรปลูกต้นส้ม
 ฉีดพ่นฮอร์โมนพืชเพื่อเร่งกำรสุกของผล

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


26

47. อูฐเป็นสัตว์ที่อำศัยอยู่ในทะเลทรำย โหนกของอูฐเป็นที่เก็บสำรอำหำร ซึ่งสำมำรถนำออกมำใช้


เมื่อขำดแคลน ทำให้อูฐอยู่รอดได้
โหนก

โครงสร้ำงใดของพืชที่ทำหน้ำที่คล้ำยกับโหนกของอูฐ

 หนำมกระบองเพชร 

ปลีกล้วย

  เนื้อมะพร้ำว

รำกโกงกำง

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


27

48. น้องกุ้งทําการทดลองเพื่อชะลอความเหี่ยวของดอกกุหลาบพันธุ์ A B และ C โดยใช้สาร X ผสมกับ


น้ําประปาในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน จากนั้นนํามาทดสอบกับดอกกุหลาบพันธุ์ละ 10 ดอก เป็นเวลา
1 สัปดาห์ ได้ผลดังตาราง

ดอกกุหลาบ อัตราส่วนของสาร X ต่อน้ําประปา ระยะเวลาทีด่ อกกุหลาบไม่เหี่ยว (วัน)


1:1 1
A 1:2 1
1:3 1
1:1 0
B 1:2 2
1:3 3
1:1 4
C 1:2 2
1:3 1

จากข้อมูลในตาราง หากมีการทดลองเปลี่ยนอัตราส่วนของสาร X ต่อน้ําประปา แล้วนําไปทดสอบกับ


ดอกกุหลาบ ข้อใดน่าจะชะลอความเหี่ยวของดอกกุหลาบได้ดีที่สุด

ตัวเลือก ดอกกุหลาบ อัตราส่วนของสารต่อน้ําประปา


 A 1:0
 B 1:0
 B 1:4
 C 1:4

แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.3 ประจําปีการศึกษา 2560 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


28

49. ในระบบนิเวศแห่งหนึ่งประกอบด้วย พืช X สัตว์ A สัตว์ B สัตว์ C สัตว์ D และ ผึ้ง


โดย พืช X มีดอกแบบไม่สมบูรณ์เพศ และต้องอำศัยผึ้งในกำรถ่ำยเรณูเท่ำนั้น
สัตว์ B กินผลของพืช X เท่ำนั้น
สัตว์ C กินใบของพืช X เท่ำนั้น
และผึ้งดูดน้ำหวำนจำกดอกของพืช X เท่ำนั้น ดังแผนภำพ

สัตว์ A สัตว์ D
สัตว์ C

สัตว์ B

พืช X

กำหนดให้ แทนกำรกิน

จำกแผนภำพ ถ้ำจำนวนของผึ้งลดลงจะส่งผลต่อจำนวนสิ่งมีชีวิต A B C และ D ในระบบนิเวศนี้


เป็นดังข้อใด
จำนวนของสัตว์ (ตัว)
ตัวเลือก สัตว์
ก่อนที่ผึ้งลดลง หลังจำกที่ผึ้งลดลง
 A 200 300
 B 800 600
 C 800 1,200
 D 500 700

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี


29

50. พ่อกับแม่มีลักษณะภำยนอกดังนี้
พ่อ : ผมสีดำ หนังตำชั้นเดียว ผมเหยียดตรง ตำสีดำ มีติ่งหู สันจมูกโด่ง
แม่ : ผมสีน้ำตำล หนังตำชั้นเดียว ผมหยักศก ตำสีดำ ไม่มีติ่งหู สันจมูกไม่โด่ง
พ่อและแม่มีลูกสำวหนึ่งคนคือ น้องแก้ว ซึ่งมีลักษณะภำยนอกสังเกตได้ ดังตำรำง

อายุของน้องแก้ว ลักษณะของน้องแก้ว
4 ปี ผมสีน้ำตำล หนังตำชั้นเดียว ผมหยักศก
ตำสีดำ ไม่มีติ่งหู สันจมูกไม่โด่ง
25 ปี ผมสีดำ หนังตำสองชั้น ผมเหยียดตรง
ตำสีดำ ไม่มีติ่งหู สันจมูกโด่ง
จำกกำรสังเกตลักษณะภำยนอกของน้องแก้ว ข้อใดถูกต้อง
 น้องแก้วน่ำจะได้รับกำรถ่ำยทอดลักษณะผมสีน้ำตำลมำจำกแม่
 น้องแก้วน่ำจะได้รับกำรถ่ำยทอดลักษณะผมเหยียดตรงมำจำกพ่อ
 น้องแก้วน่ำจะได้รับกำรถ่ำยทอดลักษณะสันจมูกโด่งมำจำกพ่อ
 น้องแก้วน่ำจะได้รับกำรถ่ำยทอดลักษณะผมสีดำมำจำกพ่อ

แบบทดสอบวิชำวิทยำศำสตร์ ชั้น ป.3 ประจำปีกำรศึกษำ 2560 สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

You might also like