Professional Documents
Culture Documents
คำขานนาค (เอสาหัง)
คำขานนาค (เอสาหัง)
(ผู้ให้ศีลว่า)
“ อิมานิ ด๊ะสะ สิกข้าปะดานิ สะมาดิ๊ยามิ ” ( ๑ ครั้ง )
( เราว่าตาม ๓ ครั้ง )
เสร็จแล้วกราบผู้ให้ศีล ๓ ครั้ง
*** รับบาตรสะพายไหล่แล้วเดินกลับไปนั่งในโบสถ์ (ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ)์
ตามตาแหน่งเพื่อรอขอนิสัยกับพระอุปัชฌาย์ ***
๔
อุ้มบาตรคลานเข้าไปทีอ่ าสน์สงฆ์แล้วคลานเข่าขึ้นบนอาสน์สงฆ์ทีละ ๓ รูป
เอาบาตรวางไว้ด้านซ้ายมือนั่งคุกเข่ากราบพระอุปัชฌาย์พร้อมกัน ๓ ครั้ง
เสร็จแล้วว่าคาขอนิสัยทีละรูปตามลาดับ
คาขอนิสัย
อะหั้ง ภันเต , นิสสะยัง ยาจามิ.
ดุ๊ติยัมปิ อะหั้ง ภันเต , นิสสะยัง ยาจามิ.
ตะติยัมปิ อะหั้ง ภันเต , นิสสะยัง ยาจามิ.
ต่อด้วย “ อุปัชฌาโย เม ภันเต โห้หิ ” ( ๓ ครั้ง )
พระอุปัชฌาย์จะกล่าวว่า
๑. “ โอปายิกัง ” ให้เรารับว่า “ ส้าธุ ภันเต ”
๒. “ ปะฏิรูปัง ” ให้เรารับว่า “ ส้าธุ ภันเต ”
๓. “ ปาส้าดิเกนะ สั้มปาเดหิ ” ให้เรารับว่า “ ส้าธุ ภันเต ”
เสร็จแล้วว่าต่อว่า ( ๓ ครั้ง )
“ อัชยะตัคเคดานิ เถ้โร , มัยหั้ง ภาโร , อะหั้มปิ เถ้รัสสะ ภาโร ”
พระคู่สวดจะเอาสายบาตรมาคล้องตัวผู้บวช (ให้เราประนมมือขึ้น) แล้วสวดถามว่า
๑.“ อะยันเต ปัตโต ” เรารับว่า “ อามะ ภันเต ”
๒.“ อะยัง สั้งฆาฎิ ” เรารับว่า “ อามะ ภันเต ”
๓.“ อะยัง อุตตะราสัง้ โค ” เรารับว่า “ อามะ ภันเต ”
๔.“ อะยัง อันตะระวาสะโก ” เรารับว่า “ อามะ ภันเต ”
เสร็จแล้วพระคู่สวดจะพูดว่า “ คัจฉะ อะมุมหิ โอกาเส ติฏฐาหิ ” ให้ประนมมือไว้
ตลอดเวลาแล้วคลานเข่าถอยหลังลงจากอาสน์สงฆ์แล้วทากลับหลังหันทางขวาเดิน
๕
ไปยังจุดที่กาหนด ( ประตูโบสถ์ ) แล้วกลับหลังหันอีกครั้งยืนประนมมือหันหน้าเข้าใน
โบสถ์รอจนครบ ๓ รูป
ต่อจากนั้นพระคู่สวดจะเดินมาสวดถามอันตรายิกธรรมเราทีละรูป ดังนี้
๑. “ กุฏฐัง ” ให้เราตอบว่า “ นัตถิ ภันเต ”
๒. “ คัณโฑ ” ” “ นัตถิ ภันเต ”
๓. “ กิลาโส ” ” “ นัตถิ ภันเต ”
๔. “ โส โส ” ” “ นัตถิ ภันเต ”
๕. “ อะปะมาโร ” ” “ นัตถิ ภันเต ”
๖. “ มะนุสโสสิ๊ ” ” “ อามะ ภันเต ”
๗. “ ปุริโสสิ๊ ” ” “ อามะ ภันเต ”
๘. “ ภุชิสโสสิ๊ ” ” “ อามะ ภันเต ”
๙. “ อะนะโณสิ๊ ” ” “ อามะ ภันเต ”
๑๐. “ นะสิ๊ ราชะภะโฏ ” ” “ อามะ ภันเต ”
๑๑. “ อะนุญญาโตสิ๊ มาตาปิตูหิ ” ” “ อามะ ภันเต ”
๑๒. “ ปะริปุณณะวีสะติวัสโสสิ๊ ” ” “ อามะ ภันเต ”
๑๓. “ ปะริปุณณันเต ปัตตะจีวะรัง ” ” “ อามะ ภันเต ”
“ กินนาโมสิ ” ตอบว่า “ อะหั้ง ภันเต ฉายาผู้บวช นามะ ”
“ โก นามะ เต อุปัชฌาโย ” ตอบว่า “ อุปัชฌาโย เม ภันเต อายัสสะม้า
วะระชาโย นามะ ”
เมื่อพระคูส่ วดถามอันตรายิกธรรมจนครบทั้ง ๓ รูปแล้ว ท่านจะเดินกลับไปที่
อาสน์สงฆ์ แล้วเรียกเราโดยพูดว่า “ อาคัจฉะถะ ” ให้เราเดินแถวตอนเรียง ๑
ประนมมือตามไปนั่งคุกเข่าบนอาสน์สงฆ์จนครบทั้ง ๓ รูป แล้วกราบพร้อมกัน ๓ ครั้ง
เสร็จแล้วกล่าวคาขออุปสมบทพร้อมกัน ๓ รูป
๖
คาขออุปสมบท
สั้งฆัมภันเต , อุปะสั้มปะดัง ยาจามะ , อุลลุมปะตุ โน ภันเต สั้งโฆ ,
อะนุกัมปัง อุปาดายะ.
ดุ๊ติยัมปิ ภันเต สั้งฆัง , อุปะสั้มปะดัง ยาจามะ , อุลลุมปะตุ โน ภันเต สั้งโฆ ,
อะนุกัมปัง อุปาดายะ.
ตะติยัมปิ ภันเต สั้งฆัง, อุปะสั้มปะดัง ยาจามะ , อุลลุมปะตุ โน ภันเต สั้งโฆ ,
อะนุกัมปัง อุปาดายะ.
เมื่อกล่าวคาขออุปสมบทเสร็จแล้วพระอุปัชฌาย์จะเผดียงสงฆ์ ( ประกาศให้
หมู่สงฆ์ทราบว่ามีผู้มาขอบวช ) หมู่สงฆ์ก็จะกล่าวสาธุการขึ้นพร้อมกัน
ต่อจากนั้นพระคู่สวดจะสวดสมมติตนถามอันตรายิกธรรมอีกครั้ง ผู้บวชก็รับ
ว่า “ นัตถิ ภันเต ” ๕ ครั้ง และ “ อามะ ภันเต ” ๘ ครั้ง บอกชื่อพระใหม่
ของตัวเองและชื่อพระอุปัชฌาย์แบบที่ผ่านมาอย่างละ ๑ ครั้ง เราก็ประนมมือ
ฟังท่านสวดญัตติจนจบเสร็จแล้ว กราบพร้อมกัน ๓ ครั้ง เป็นอันเสร็จพิธีบวช
เป็นพระภิกษุแล้ว
*** เสร็จแล้วให้คลานเข่าถอยหลังลงจากอาสน์สงฆ์แล้วเดินออกไป
จากโบสถ์เพื่อไปรับอนุศาสน์และทาพินธุผ้าต่อไป และเมื่อออกจากโบสถ์แล้ว
ห้ามกลับเข้ามาที่โบสถ์อีกจนกว่าพิธีบวชพระทุกรูปจะเสร็จสิ้นแล้ว ***