You are on page 1of 2

หน้า 5 หน้า 6

5. ควรเทน้าปัสสาวะออกจากถุงทุก 8 ชั่วโมง หรือเมื่อ


มีปริมาณน้าปัสสาวะ 3 ใน 4 ของถุง โดยเช็ดรอบๆ
ผู้ที่จาเป็นต้องคาสายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน
ปลายเปิดของถุง ด้วยแอลกอฮอล์ 70% ทั้งก่อนและ
ควรเปลี่ยนสายใหม่ทุก 4 สัปดาห์ หรือเมื่อเกิดการอุดตัน
หลังการเท และระมัดระวังไม่ให้ท่อเปิดของถุงสัมผัส
กรณีน้าปัสสาวะใสดี ไม่มีหินปูนเกาะที่ปลายสายสวน
กับสิ่งของต่างๆ
อาจยืดเวลาการเปลี่ยนสาย เป็น 6 - 8 สัปดาห์ได้

ผู้ที่คาสายสวนปัสสาวะ ควรปฏิบัติตามคาแนะนา
6. ระวังจุดต่อสายสวนกับถุงปัสสาวะ หลุดออกจากกัน ของแพทย์หรือพยาบาลอย่างเคร่งครัด และไปตรวจตาม
แต่หากเกิดหลุด ควรเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ 70% ให้ทั่ว นัดทุกครั้ง และควรพบแพทย์หากมี
ที่ปลายสายทั้ง 2 ด้านก่อนต่อเข้าด้วยกันใหม่ อาการผิดปกติ เช่น
1. สายสวนปัสสาวะอุดตัน หรือปัสสาวะ
ซึมออกตรงรูเปิดท่อปัสสาวะ
ถุงรองรับปัสสาวะ
2. ปัสสาวะขุ่น เป็นตะกอน มีหนอง หรือเลือดปน
จุดต่อสายสวนกับถุงปัสสาวะ
3. มีไข้ หนาวสั่น ปวดบริเวณบั้นเอวมาก
4. ถุงปัสสาวะสกปรก มีคราบหินปูนเกาะหรือรั่วซึม
7. ไม่วางถุงปัสสาวะกับพื้นและระมัดระวังอย่าให้ถุงรั่ว
8. รักษาความสะอาดของร่างกาย **************************
สามารถอาบน้าชาระร่างกาย หากต้องการปรึกษา
ฟอกสบู่ได้ตามปกติ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่... ด้วยความปรารถนาดีจาก…
สาหรับอวัยวะเพศ ควรทาความสะอาดจาก หอผู้ป่วยศัลยกรรมระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลลาปาง โทร. 0 5423 7400
โทร. 0 5423 7400 ต่อ 8400 กลุ่มงานสุขศึกษา ต่อ 4200
ด้านหน้าไปด้านหลัง อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
หรือทุกครั้งที่ถ่ายอุจจาระ หอผู้ป่วยศัลยกรรมระบบทางเดินปัสสาวะ
9. ห้ามดึงสายสวนปัสสาวะออกเอง เพราะจะทาให้ท่อ ต่อ 8400
ปัสสาวะฉีกขาดได้
หน้า 2 หน้า 3 หน้า 4

“การคาสายสวนปัสสาวะ” จาเป็นอย่างยิ่ง ตาแหน่งสายสวนปัสสาวะในผู้ชาย


สาหรับผู้ป่วยในโรคระบบทางเดินปัสสาวะผิดปกติ โรคที่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ผู้ที่คาสายสวนปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะ
ร่างกายไม่สามารถขับน้าปัสสาวะออกเองได้ เช่น ต่อม ควรปฏิบัติดังนี้
ลูกหมากโต กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะอ่อนแรง โรค 1. ตรึงสายสวนปัสสาวะไว้ ไม่ให้เลื่อนและดึงรั้งป้องกัน
อัมพาตและอื่นๆ หรือในระหว่างการรักษาของแพทย์เพื่อ มดลูก สายสวนขยับเข้าๆ ออกๆ ซึ่งจะทาให้เกิดการระคาย
ต้องการตรวจวัดลักษณะ สี และปริมาณของน้าปัสสาวะ เคืองเยื่อบุทางเดินปัสสาวะ และเชื้อโรคจากภายนอก
อย่างละเอียด เข้าสู่ปากท่อปัสสาวะได้ โดยผู้ชายให้ตรึงไว้ที่โคนขา
ปลายสายทีต่ ่อลงถุงรองรับปัสสาวะ ด้านหน้าหรือหน้าท้อง ผู้หญิงตรึงไว้ที่โคนขาด้านใน

ตาแหน่งสายสวนปัสสาวะในผู้หญิง

การคาสายสวนปัสสาวะ จะทาให้เกิดการระคาย 2. แขวนถุงปัสสาวะให้ต่ากว่าระดับกระเพาะปัสสาวะ


เคืองต่อเยื่อบุในทางเดินปัสสาวะ ขณะเดียวกันเชื้อโรค หรือสะโพกเสมอ เพื่อป้องกันน้าปัสสาวะในสายไหล
สามารถเข้ามาตามสายสวนปัสสาวะได้ง่าย หากการดูแล ย้อนกลับเข้าสู่ร่างกาย กรณีจาเป็นต้องยกถุงสูง ให้
การคาสายสวนปัสสาวะ คือการสอดสายยางที่ ไม่ถูกต้องจะเกิดการอักเสบขึ้นได้และเชื้อโรคอาจลุกลาม พับสายยางไว้ทุกครั้ง
ปลอดเชื้อผ่านเข้าทางรูเปิดท่อปัสสาวะไปจนถึงกระเพาะ จนทาให้กรวยไตอักเสบ เกิดภาวะไตวาย หรือติดเชื้อใน
ปัสสาวะ แล้วดันลูกโป่งที่อยู่ทางปลายสายให้พองขึ้นใน กระแสเลือด ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ 3. ดูแลน้าปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะเพื่อตรึงสายสวนนี้ไว้ ป้องกันการเลื่อน ให้ไหลลงถุงได้สะดวก ระวังสายหัก
หลุดออกมา และต่อสายนี้กับถุงรองรับน้าปัสสาวะ พับ งอ และหมั่นบีบไล่น้าปัสสาวะในสาย ให้ไหลลงถุง
กระเพาะปัสสาวะ
ไต อย่าปล่อยให้คั่งค้างอยู่ในสายนาน
ท่อไต 4. ควรดื่มน้าวันละ 2 ลิตรครึ่งถึง 3 ลิตร กรณีที่แพทย์
กระเพาะปัสสาวะ
ไม่จากัดน้าดื่ม เพื่อเพิ่มปริมาณน้าปัสสาวะให้มากขึ้น
ลูกโป่ง
รูเปิดท่อปัสสาวะ ป้องกันปัสสาวะขุ่น เป็นตะกอน และลดการเกาะตัว
ของหินปูนที่ปลายสายสวนปัสสาวะ

You might also like