Professional Documents
Culture Documents
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล
เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก
โดย
กองนวัตกรรมวัตถุดิบและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม
ร่วมกับ
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมการผลิตและรีไซเคิลโลหะ
สาขาวิชาวิศวกรรมโลหการ
สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
หมายเหตุ
ผู้เข้าร่วมงานควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จำนวน ๒ เข็มขึ้นไป และต้อง
แสดงผลตรวจ ATK หรือ RT-PCR ในระยะเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง ก่อนวันเข้าร่วมงาน
กำหนดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยีรีไซเคิล
“โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก”
วันที่ 29-30 กันยายน 2565
ณ ห้องประชุมรีเจ้นท์ฮอลล์ 1 โรงแรมรีเจ้นท์ ชะอำ หัวหิน จังหวัดเพชรบุรี
และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ZOOM)
*****************************************************
วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565
08.30 – 09.00 น. ลงทะเบียน
09.00 – 09.15 น. กล่าวต้อนรับ และเปิดการฝึกอบรม
โดย อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ หรือผู้แทน
09.15 – 09.45 น. สรุปภาพรวมโครงการและของเสียเป้าหมาย 3 ชนิด
โดย ผศ.ดร.สงบ คำค้อ ที่ปรึกษาโครงการ
09.45 – 10.30 น. เทคโนโลยีรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ โดยการผลิตเป็นเหล็กออกไซด์ (เฮมาไทต์) สำหรับ
ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสีป้องกันสนิม (ภาคทฤษฎี)
โดย ผศ.ดร.สงบ คำค้อ ที่ปรึกษาโครงการ
10.30 – 10.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง
10.45 – 12.00 น. เทคโนโลยีรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ โดยการผลิตเป็นเหล็กออกไซด์ (เฮมาไทต์) สำหรับ
ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสีป้องกันสนิม (ภาคปฏิบัติ)
โดย ผศ.ดร.สงบ คำค้อ ที่ปรึกษาโครงการ
12.00 – 13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00 – 13.15 น. เทคโนโลยีรีไซเคิลฝุ่นสังกะสีจากการหลอมรีไซเคิลเศษเหล็กด้วยเตาหลอมแบบเหนี่ยวนำ
ไฟฟ้า (Induction Furnace) โดยการผลิตเป็นสังกะสีบริสุทธิ์ (ภาคทฤษฎี)
โดย ผศ.ดร.สงบ คำค้อ ที่ปรึกษาโครงการ
13.45 – 14.00 น. พักรับประทานอาหารว่าง
14.00 – 15.30 น. เทคโนโลยีรีไซเคิลฝุ่นสังกะสีจากการหลอมรีไซเคิลเศษเหล็กด้วยเตาหลอมแบบเหนี่ยวนำ
ไฟฟ้า (Induction Furnace) โดยการผลิตเป็นสังกะสีบริสุทธิ์ (ภาคปฏิบัติ)
โดย ผศ.ดร.สงบ คำค้อ ที่ปรึกษาโครงการ
15.30 – 16.00 น. ถาม – ตอบ แลกเปลี่ยนความรู้เชิงวิชาการ/รับฟังความคิดเห็น
-2-
วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565
09.00 – 09.30 น. ลงทะเบียน
09.30 – 10.15 น. เทคโนโลยีรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดีเสื่อมสภาพ โดยการผลิตเป็นแก้วโฟมสำหรับใช้เป็น
ฉนวนกันความร้อน (ภาคทฤษฎี)
โดย ผศ.ดร.ฐาปนีย์ พัชรวิชญ์ ที่ปรึกษาโครงการ
10.15 – 10.30 น. พักรับประทานอาหารว่าง
10.30 – 12.00 น. เทคโนโลยีรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดีเสื่อมสภาพ โดยการผลิ ตเป็นแก้วโฟมสำหรับใช้เป็น
ฉนวนกันความร้อน (ภาคปฏิบัติ)
โดย ผศ.ดร.ฐาปนีย์ พัชรวิชญ์ ที่ปรึกษาโครงการ
12.00 – 12.30 น. ถาม – ตอบ แลกเปลี่ยนความรู้เชิงวิชาการ/รับฟังความคิดเห็น และปิดการฝึกอบรม
12.30 – 13.30 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
*****************************************************
หมายเหตุ
ผู้เข้าร่วมงานควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จำนวน ๒ เข็มขึ้นไป และต้อง
แสดงผลตรวจ ATK หรือ RT-PCR ในระยะเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง ก่อนวันเข้าร่วมงาน
สรุปภาพรวมโครงการและของเสียเป้าหมาย 3 ชนิด
การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยีรีไซเคิล
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก
การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยีรีไซเคิล
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรขี ันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก
ภาพรวมของการดําเนินงานโครงการ
ข้อมูลขยะ/ของเสียในพื้นที่เป้าหมาย
โดย ผศ.ดร.สงบ คําค้อ
ที่ปรึกษาโครงการ
วันที่ 22-23 กันยายน 2565
ณ ห้องประชุมวังพิกุล 1 โรงแรม ดิอิมพิเรียลโฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ จังหวัดพิษณุโลก และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ZOOM)
วันที่ 29-30 กันยายน 2565
ณ ห้องประชุมรีเจ้นท์ฮอลล์ 1 โรงแรมรีเจ้นท์ ชะอํา หัวหิน จังหวัดเพชรบุรี และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ZOOM)
เกี่ยวกับโครงการ
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล
เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก
ผู้ดําเนินการ กองนวัตกรรมวัตถุดิบและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
กระทรวงอุตสาหกรรม
ที่ปรึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมโลหการ
สํานักวิชาวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิลเพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 3
1. เกี่ยวกับโครงการ
1.1 หลักการและเหตุผล
การพัฒนา Eco-industrial Town การขับเคลื่อนสู่ Zero Waste Society และ Circular Economy
1. เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการนําขยะหรือของเสียทั้งจากภาคอุตสาหกรรม
และภาคครัวเรือนที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่
พัฒนาและขยายผลเทคโนโลยีรีไซเคิลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของขยะหรือของเสียเกิดขึ้นในพื้นที่เป้าหมาย
2. เพื่อพัฒนาและขยายผลเทคโนโลยีรีไซเคิลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของขยะหรือของเสียเกิดขึ้นในพื้นที่เป้าหมาย
1. เกี่ยวกับโครงการ
1.3 กลุ่มเป้าหมาย
คัดเลือกขยะหรือของเสียครัวเรือนและอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการรีไซเคิล
เป็นวัตถุดิบทดแทนด้านแร่/โลหะ รวมถึงพลังงานทดแทนได้ จํานวน 3 ชนิด
วิเคราะห์และประเมินความเป็นไปได้ในการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล
ของเสียที่ได้ศึกษาในเชิงพาณิชย์ในประเทศไทย
จัดทํารายละเอียดองค์ความรู้และเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะ/ของเสียที่ได้รับคัดเลือก
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิลเพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 7
2. ข้อมูลขยะ/ของเสียในพื้นที่เป้าหมาย
2.2 ปริมาณขยะ/ของเสียในพื้นที่เป้าหมาย
450,000
ปี 2561 ปี 2562 ปี 2563
พื้นที่ประกอบการอุตสาหกรรม
400,000 (จังหวัด) ตัน
ร้อย
ละ
ตัน
ร้อย
ละ
ตัน ร้อยละ
350,000 ประจวบคีรีขันธ์
เพชรบุรี
208,793.08 32.78 190,612.76 58.25 152,992.00 52.72
13,747.21 2.16 16,168.99 4.94 15,228.66 5.25
250,000
200,000
150,000
100,000
50,000
0
2561 2562 2563 2561 2562 2563 2561 2562 2563
ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี พิษณุโลก
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิลเพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 8
2. ข้อมูลขยะ/ของเสียในพื้นที่เป้าหมาย
2.3 พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์-สัดส่วนปริมาณของเสียแยกตามประเภทของโรงงาน ระหว่าง พ.ศ. 2561-2563
05900 (ผลิตเหล็กขั้นต้น)
120,000 06401 (ทําภาชนะบรรจุจากโลหะ)
100,000 06410 (ทําผลิตภัณฑ์โลหะด้วยเคลือบ/ลงรัก/ซุบหรือขัด)
80,000 06900 (ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์)
60,000 09501 (ซ่อมแซมยานยนต์)
40,000 10200 (ผลิต/จําหน่ายไอน้ํา)
20,000 อื่น ๆ
0
2561 2562 2563
ปี
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิลเพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 9
2. ข้อมูลขยะ/ของเสียในพื้นที่เป้าหมาย
2.3 พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์-สัดส่วนปริมาณของเสียแยกตามวิธีกําจัด ระหว่าง พ.ศ. 2561-2563
05305 (ทําพลาสติกรูปทรงต่าง ๆ)
10,000 05900 (ผลิตเหล็กขั้นต้น)
8,000 06200 (ผลิตเครื่องเรือนที่ทําจากโลหะ)
6,000 06900 (ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์)
4,000 07702 (ทําชิ้นส่วนพิเศษรถยนต์/รถพ่วง)
08801 (ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์)
2,000 อื่น ๆ
0
2561 2562 2563
ปี
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิลเพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 11
2. ข้อมูลขยะ/ของเสียในพื้นที่เป้าหมาย
2.4 พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี-สัดส่วนปริมาณของเสียแยกตามวิธีกําจัด ระหว่าง พ.ศ. 2561-2563
051 (เข้ากระบวนการนําตัวทําละลายกลับมาใหม่)
10,000 071 (ฝังกลบตามหลักสุขาภิบาล (วัสดุไม่อันตราย))
8,000 073 (ฝังกลบอย่างปลอดภัย (ปรับเสถียรแล้ว))
6,000 081 (รวบรวมและส่งออกนอกประเทศ)
4,000 083 (หมักทําปุ๋ย/ปรับปรุงดิน (วัสดุไม่อันตราย))
2,000 084 (ทําอาหารสัตว์)
อื่น ๆ
0
2561 2562 2563
ปี
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิลเพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 12
2. ข้อมูลขยะ/ของเสียในพื้นที่เป้าหมาย
2.5 พื้นที่จังหวัดพิษณุโลก-สัดส่วนปริมาณของเสียแยกตามประเภทของโรงงาน ระหว่าง พ.ศ. 2561-2563
01501 (ทําอาหารผสมสําหรับเลี้ยงสัตว์)
250,000 05001 (ทําผลิตภัณฑ์แอสฟัลต์/น้ํามันดิบ)
200,000 07702 (ทําชิ้นส่วนพิเศษรถยนต์/รถพ่วง)
150,000 08800 (ผลิตพลังงานไฟฟ้า)
100,000 08802 (ผลิตไฟฟ้าจากความร้อน)
09501 (ซ่อมแซมยานยนต์)
50,000 อื่น ๆ
0
2561 2562 2563
ปี
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิลเพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 13
2. ข้อมูลขยะ/ของเสียในพื้นที่เป้าหมาย
2.5 พื้นที่จังหวัดพิษณุโลก-สัดส่วนปริมาณของเสียแยกตามวิธีกําจัด ระหว่าง พ.ศ. 2561-2563
049 (นํากลับมาใช้อีกด้วยวิธีอื่น)
250,000
071 (ฝังกลบตามหลักสุขาภิบาล (วัสดุไม่อันตราย))
200,000 073 (ฝังกลบอย่างปลอดภัย (ปรับเสถียรแล้ว))
150,000 075 (เผาทําลายในเตาเผา (ของเสียอันตราย))
100,000 083 (หมักทําปุ๋ย/ปรับปรุงดิน (วัสดุไม่อันตราย))
50,000 084 (ทําอาหารสัตว์)
อื่น ๆ
0
2561 2562 2563
ปี
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิลเพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 14
2. ของเสียในพื้นที่เป้าหมาย
2.5 ชนิด/ประเภทของเสีย
1. ของเสียจากเคมีเกษตร 21. น้ํายาหล่อเย็น 41. ฝุ่นผงโลหะมีค่า 61. ตัวกรองอากาศที่ใช้แล้ว
2. ของเสียที่เกิดจากการแปรรูปพืช ผัก ผลไม้ 22. น้ํามันไฮดรอลิกที่ใช้แล้ว 42. เศษโลหะผสม 62. เรซินกรองน้ําที่ใช้แล้ว
3. ของเสียที่เกิดจากการแปรรูปเนื้อสัตว์ 23. น้ํามันเครื่องยนต์/เกียร์/หล่อลื่นที่ใช้แล้ว 43. กระป๋องสเปรย์ 63. ตะกอน/วัสดุที่เกิดจากการผลิตน้ํา
4. ผลิตภัณฑ์อาหารที่เสียแล้ว 24. น้ํามันเชื้อเพลิงเก่า/ปนเปื้อน 44. เศษวัสดุ/ชิ้นส่วนที่เกิดจากการขัด/เจียรโลหะ 64. ฝุ่นที่เกิดจากเตาหลอมโลหะ
5. กากตะกอนที่เกิดจากการแปรรูปอาหาร 25. ตะกอนน้ํามัน 45. เถ้าหนัก 65. ขยะทั่วไป/ขยะชีวมวล
6. เศษไม้/ชิ้นส่วนไม้ 26. ตัวทําละลายที่ใช้แล้ว 46. เถ้าลอย 66. ขยะ/ของเสียอื่น ๆ
7. เศษกระดาษ/ชิ้นส่วนกระดาษ 27. เศษชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 47. แบตเตอรี่ชนิดตะกั่วที่ใช้แล้ว
8. กากปูนขาว/ตะกอนปูนขาว 28. อุปกรณ์ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ที่เสื่อมสภาพ 48. แบตเตอรี่ชนิดนิกเกิลแคดเมียมที่ใช้แล้ว
9. เศษผ้า/ด้าย/เส้นใยผ้าและสิ่งทอ 29. หลอดไฟฟ้าหมดอายุ 49. แบตเตอร์รี่ไฮบริดจ์ที่ใช้แล้ว
10. เศษพลาสติก/ยาง/กาว 30. เศษเหล็ก/ขี้กลึงเหล็ก 50. แผงโซลาร์เซลล์เสื่อมสภาพ
11. ยางเสื่อมสภาพ 31. ลูกรีดเหล็กเสื่อมสภาพ 51. เศษปูน/เศษกระเบื้อง/เศษคอนกรีต/วัสดุก่อสร้าง
12. เศษแก้ว/กระจก/เซรามิกส์ 32. มิลล์สเกล 52. เศษยางมะตอย/ยางพารา
13. น้ําเสียจากการชะล้างชิ้นงาน/กระบวนการผลิต 33. เศษทองแดง/ทองเหลือง 53. อิฐทนไฟ
14. ตะกอนก้นกรอง 34. เศษอะลูมิเนียม 54. เศษฉนวนใยแก้วกันความร้อน
15. กากตะกอนจากระบบบําบัดน้ําเสีย 35. เศษบัดกรี/เศษดีบุก 55. บรรจุภัณฑ์ที่เป็นวัสดุผสม
16. สารละลายกรดที่ใช้แล้ว 36. เศษสังกะสี 56. บรรจุภัณฑ์เปื้อนสารเคมี
17. สารละลายด่างที่ใช้แล้ว 37. ตะกรันสังกะสี 57. บรรจุภัณฑ์ประเภทเหล็กเปื้อนสารเคมี
18. คะตะลีสต์ที่ใช้งานแล้ว 38. เถ้าสังกะสี 58. บรรจุภัณฑ์ประเภทพลาสติกเปื้อนสารเคมี
19. สารเคมี/ตะกอนสารเคมีเสื่อมสภาพ 39. กากตะกอนที่เกิดจากการชุบเคลือบผิวโลหะ 59. วัสดุดูดซับ/ตัวกรอง/ผ้าเช็ดที่ใช้แล้ว
20. กากสี/ผงสี/สารเคลือบเงา/หมึก 40. ตะกอนโลหะที่เกิดกจากการขัด/เจียร 60. ไส้กรองน้ํามันที่ใช้แล้ว
3. การคัดเลือกขยะ/ของเสียในพื้นที่เป้าหมายเพื่อนํามาศึกษากระบวนการรีไซเคิล
3.1 ชนิดของขยะ/ของเสียที่มโี ลหะเป็นองค์ประกอบในพื้นที่เป้าหมาย
คัดเลือกขยะหรือของเสียครัวเรือนและ
พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการรีไซเคิลเป็น
- อุตสาหกรรมผลิตเหล็กกล้า วัตถุดิบทดแทนด้านแร่/โลหะ รวมถึง กรดเกลือเสื่อมสภาพ
พลังงานทดแทนได้ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เป้าหมาย เฮมาไทต์
พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ฝุ่นสังกะสี
- อุตสาหกรรมผลิตเหล็กกล้า หรือขยะหรือของเสียที่กรมอุตสาหกรรม
- อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้ศึกษา สังกะสีบริสุทธิ์
รวบรวมข้อมูลไว้ แต่ยังไม่มีการพัฒนา หน้าจอแอลซีดีเสื่อมสภาพ
พื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เทคโนโลยีรีไซเคิลขยะหรือของเสียดังกล่าว
- ของเสียภาคครัวเรือน แก้วโฟม
ในเชิงพาณิชย์ในประเทศ จํานวน 3 ชนิด
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก
การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยีรีไซเคิล
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรขี ันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก
เทคโนโลยีรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ โดยการผลิตเป็นเหล็กออกไซด์ (เฮมาไทต์)
สําหรับใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสีป้องกันสนิม
โดย ผศ.ดร.สงบ คําค้อ
ที่ปรึกษาโครงการ
วันที่ 22-23 กันยายน 2565
ณ ห้องประชุมวังพิกุล 1 โรงแรม ดิอิมพิเรียลโฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ จังหวัดพิษณุโลก และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ZOOM)
วันที่ 29-30 กันยายน 2565
ณ ห้องประชุมรีเจ้นท์ฮอลล์ 1 โรงแรมรีเจ้นท์ ชะอํา หัวหิน จังหวัดเพชรบุรี และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ZOOM)
หัวข้อนําเสนอ
1. ลักษณะของของเสียชนิดกรดเกลือเสื่อมสภาพ
1.1 แหล่งที่มา ปริมาณ และการจัดการ
- กรดเกลือเสื่อมสภาพที่เกิดจากโรงงานผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน
- ส่งกําจัดในปริมาณ 3,500 ตันต่อปี กรดเกลือเสื่อมสภาพเกิดขึ้นในขั้นตอนการกําจัดสาร
มลทิ น (impurity) สนิ ม (rust) และสะเก็ ด (scale)
- ปัจจุบันจ้างกําจัดในอัตรา 3,000 บาทต่อตัน ออกจากพื้นผิวเหล็กแผ่นรีดร้อนก่อนที่จะนําแผ่นเหล็ก
รีดร้อนไปเข้าสู่กระบวนการรีดเย็นต่อไป
ลักษณะของกรดเกลือเสือ่ มสภาพ
1. ลักษณะของของเสียชนิดกรดเกลือเสื่อมสภาพ
1.3 แนวคิด/แรงจูงใจในการรีไซเคิล
• ลดค่าใช้จ่ายด้านการกําจัดของเสียชนิดกรดเกลือเสื่อมสภาพ (ค่ากําจัดประมาณ 3,000 บาทต่อตัน)
• เพิ่มรายได้โดยการขายผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการรีไซเคิล (เฮมาไทต์ราคาประมาณ 30,000 บาทต่อตัน)
Precipitation
Fe(OH)2
Oxidation
Fe(OH)3
Decomposition
Fe2O3
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
3.1 หลักการและวัตถุประสงค์
หลักการ : ใช้หลักการโลหวิทยาสารละลายในการเปลี่ยน Fe2+ ที่อยู่ในสารละลายของเสียให้เกิดการตกตะกอนเป็นเหล็กไฮดรอกไซด์
จากนั้นทําการออกซิไดซ์ Fe2+ ในตะกอนให้เป็น Fe3+ และในขั้นตอนสุดท้ายทําการสลายสารประกอบไฮดรอกไซด์ให้เป็น
สารประกอบออกไซด์ (เฮมาไทต์) โดยข้อมูลเบื้องต้นมีดังนี้
1. ตกตะกอนให้เกิดเป็นเหล็กไฮดรอกไซด์ด้วยสารละลายด่าง
2. ออกซิไดซ์ตะกอนเหล็กไฮดรอกไซด์ด้วยสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
3. สลายรูปเหล็กไฮดรอกไซด์ให้เป็นเหล็กออกไซด์โดยการเผา
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ โดยการนํามาผลิตเป็นเฮมาไทต์ (Fe2O3) ซึ่งมีสมบัติที่
สามารถนําไปทําเป็นวัตถุดิบสําหรับผลิตเป็นผงสี (pigment) ทากันสนิมได้
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
3.3 วัตถุดิบและสารเคมี
วัตถุดิบและสารเคมีหลัก มีดังนี้
- กรดเกลือเสื่อมสภาพ
- โซเดียมไฮดรอกไซด์
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
- น้ําอาร์โอ
Fe2O3
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
3.4 ขั้นตอนและวิธีการทดลอง : กําดําเนินการทดลอง Spent HCl Acid
NaOH (0.5-4 M) Precipitation
Drying: 110oC 24 h
Roasting: 700oC, 2 h
Drying & Roasting
Washing
S L
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
3.5.1 การตกตะกอนให้เป็น Fe(OH)2 ด้วย NaOH
สารละลายของเสียเริ่มต้น สารละลายหลังตกตะกอน
Fe2+ 240 g/L
ลักษณะของตะกอนที่ pH 7
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 14
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
3.5.1 การตกตะกอนให้เป็น Fe(OH)2 ด้วย NaOH
รูปแบบการเลี้ยวเบนรังสีเอ็กซ์ของตะกอนที่ผ่านการตกตะกอนที่ pH 7
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
3.5.2 การออกซิไดซ์ตะกอน Fe(OH)2 ให้เป็น Fe(OH)3 ด้วย H2O2
การออกซิไดซ์ตะกอนที่เกิดจากการตกตะกอนที่ pH 7 ด้วย H2O2 35 v/v %
70 ml 80 ml
90 ml 100 ml
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
3.5.3 การออกซิไดซ์ตะกอน Fe(OH)2 ให้เป็น Fe(OH)3 ด้วย H2O2
สีของเฮมาไทต์ที่ผ่านการล้างมาแล้วโดยนําตะกอนที่ผ่านการตกตะกอนที่ pH 7 และถูกนํามาออกซิไดซ์ด้วย H2O2 ในอัตราส่วนต่าง ๆ
และเผาที่อุณหภูมิ 700ºC เวลา 2 ชั่วโมง
ผ่านการเผา ผ่านการล้างหลังจากเผา
Element (wt.%)
(pH 7, Lab.)
Fe O Na Al Cl Cr Mn Bal.
หลังจากเผา 52.36 30.81 3.00 0.08 13.53 0.05 0.07 0.10
หลังจากล้าง 70.21 28.91 0.09 0.09 0.45 0.04 0.08 0.13
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 19
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
3.6 การทดลองในระดับโรงงานนําร่อง
ตกตะกอน
ออกซิเดชัน
กรองตะกอน เผา/ล้าง/อบแห้ง
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
3.6.2 การทดลองในระดับโรงงานนําร่อง : ตกตะกอนที่ pH 7
วิเคราะห์ของเฮมาไทต์ที่ผ่านการเผาและการล้างมาแล้วโดยนําตะกอนที่ผ่านการตกตะกอนที่ pH 7 และ ถูกนํามาออกซิไดซ์ด้วย H2O2
(4.5 ลิตร) และเผาที่อุณหภูมิ 700oC เวลา 2 ชั่วโมง
ผ่านการเผา ผ่านการล้างหลังจากเผา
Element (wt.%)
(pH 7, pilot)
Fe O Na Al Cl Cr Mn Bal.
หลังจากเผา 53.93 33.98 3.367 0.09 8.22 0.16 0.10 0.16
หลังจากล้าง 66.93 31.73 0.61 0.09 0.23 0.16 0.13 0.15
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 22
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
3.6.2 การทดลองในระดับโรงงานนําร่อง : ตกตะกอนที่ pH 7
สีของของเฮมาไทต์ที่ผ่านการเผาและการล้างมาแล้ว
โดยนําตะกอนที่ผ่านการตกตะกอนที่ pH 7 และ
ถูกนํามาออกซิไดซ์ด้วย H2O2 และเผาที่อุณหภูมิ 700oC
เวลา 2 ชั่วโมง
0 ml 3500 ml 4000 ml
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
3.6.2 การทดลองในระดับโรงงานนําร่อง : ผลวิเคราะห์คุณภาพเฮมาไทต์
ผลการวิเคราะห์สมบัติของเฮมาไทต์ที่ได้จากการ
รีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพได้รับการยืนยันใน
เบื้องต้นโดยผู้ผลิตสีชั้นนําของประเทศ*พบว่า
เฮมาไทต์ที่ได้ผลิตได้มีสมบัตินําไปผลิตเป็นผงสี
ทากันสนิมได้ โดยมีราคารับซื้อประมาณ 25-30
บาท ต่อกิโลกรัม
*ขอขอบคุณบริษัทดังกล่าวอย่างสูงที่ได้ให้ความ
อนุเคราะห์ในครั้งนี้
4. องค์ความรู้การรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
4.1 วัตถุดิบและสารเคมี
วัตถุดิบและสารเคมีที่สําคัญที่ใช้ในกระบวนการได้แก่
- กรดเกลือเสื่อมสภาพ
- โซเดียมไฮดรอกไซด์gเข้มข้น 2 M
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้มข้น 35 %v/v
- น้ําประปา
4. องค์ความรู้การรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
4.3 ขั้นตอนและวิธีการ
1. การตกตะกอนเหล็ก
- บรรจุสารละลายของเสียลงในถังตกตะกอนซึ่งมีชุดกวนสารละลายติดตั้งอยู่
- เติมสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ลงในถังกวนและทําการกวนสารละลายในระหว่างการเติมสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ ให้
ทําการเติมสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์เป็นช่วง ๆ พร้อมกับกวนเพื่อให้เกิดปฏิกิริยาการตกตะกอนได้อย่างทั่วถึง และให้วัดค่า
pH ของสารละลายเป็นระยะๆ
- ให้ทําการตกตะกอนจนกระทั่งสารละลายมีค่า pH 7
- ปริมาณสารที่ต้องใช้คือ สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์เข้มข้น 2 M ในปริมาณ 62 ลิตร ต่อ สารละลายกรดเกลือเสื่อมสภาพ (มี
เหล็กเป็นองค์ประกอบประมาณ 233 กรัมต่อลิตร) ในปริมาณ 20 ลิตร ซึ่งจะทําให้เกิดสารละลายหลังจากตกตะกอนประมาณ 82
ลิตร
3. การเผาให้เป็นเฮมาไทต์
- นําตะกอนที่กรองแล้วมาทําการอบกําจัดน้ําที่อุณหภูมิ 110oC เวลา 24 ชั่วโมง
- นําตะกอนที่อบแล้วไปเผาที่อุณหภูมิ 700oC เวลา 2 ชั่วโมง
- นําตะกอนที่เผาแล้วไปล้างน้ําเพื่อกําจัดเกลือโซเดียม และนําตะกอนไปอบที่อุณหภูมิ 110oC เวลา 24 ชั่วโมง
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 29
4. องค์ความรู้การรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
4.4 ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการรีไซเคิลและการนําไปใช้ประโยชน์
– ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการเป็นเฮมาไทต์ที่มีความบริสุทธิ์ไม่ต่ํากว่า 97% โดยสามารถที่จะนําไปผลิตเป็นสารตั้งต้นสําหรับทําผงสี
ทากัน
4.5 การจัดการของเสียที่เกิดจากกระบวนการรีไซเคิล
– สารละลายที่ถูกกรองแยกจากขั้นตอนการออกซิไดซ์ด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพื่อเปลี่ยนเหล็กไฮดรอกไซด์เป็นเหล็กออกไซด์ โดย
สารละลายนี้มีองค์ประกอบหลักคือสารละลายเกลือโซเดียมคลอไรด์โดยมีโซเดียมเป็นองค์ประกอบประมาณ 20,420 มิลลิกรัมต่อลิตร
และมีเหล็กเป็นองค์ประกอบประมาณ 1,850 มิลลิกรัมต่อลิตร สารละลายนี้จะถูกนําไปบําบัดได้ภายในโรงงานของผู้ดําเนินกิจการรี
ไซเคิล หรือส่งให้ผู้รับกําจัดนําไปบําบัดตามกระบวนการ
– สารละลายที่เป็นน้ําล้างเฮมาไทต์หลังจากการเผา ซึ่งสารละลายส่วนนี้จะถูกนําไปบําบัดได้ภายในโรงงานของผู้ดําเนินกิจการรีไซเคิล
5. การประเมินความเป็นไปได้ในเบื้องต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
5.0 เกณฑ์พิจารณา
การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในเชิงเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นสําหรับการรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ โดยการผลิตเป็นเหล็กออกไซด์ (เฮมา
ไทต์) สําหรับใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสีป้องกันสนิมได้พิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
– พิจารณานํากรดเกลือเสื่อมสภาพ 4,000 ตันต่อปี จากแหล่งกําเนิดของเสียมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล จะได้ผลิตภัณฑ์เป็นเฮมา
ไทต์ประมาณ 992 ตันต่อปี
– วันทํางานของการรีไซเคิล 200 วันต่อปี โดยนํากรดเกลือเสื่อมสภาพมาเข้าสู่กระบวนการวันละ 20 ตัน
– ตกตะกอนเหล็ก/ออกซิเดชัน วันละ 1 ตันต่อถัง จํานวน 20 ถัง เกิดเฮมาไทต์วันละ 4.96 ตันต่อวัน หรือ 992 ตันต่อปี
5. การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
5.2 ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานด้านบุคลากร
อัตราเงินเดือน จํานวนคน ค่าใช้จ่ายรายเดือน ค่าใช้จ่ายรายปี
ลําดับ รายการ
หรืออัตราต่อหน่วย หรือหน่วย (บาท/เดือน) (บาท/ปี)
1 เงินเดือนหัวหน้างาน 22,000 1 22,000 264,000
2 เงินเดือนพนักงาน 17,500 4 70,000 840,000
3 เงินเดือนเจ้าหน้าที่ธุรการและประสานงาน 14,500 1 14,500 174,000
4 ค่าเดินทาง ขนส่ง และประสานงาน 5,000 1 5,000 60,000
5 อื่น ๆ 5,000 1 5,000 60,000
ค่าใช้จ่ายในการดําเนินการด้านบุคลากร งานธุรการและติดต่อประสานงาน 116,500 1,398,000
5. การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
5.4 รายได้
ปริมาณ ราคา รายได้
ลําดับ รายการ
(ตัน/ปี) (บาท/ตัน) (บาท/ปี)
1 เฮมาไทต์ (Fe2O3) ที่มีความบริสุทธิ์ประมาณ 97% 991.68 30,000 29,750,400
2 ค่ารับกําจัดของเสีย 4,000 3,000 12,000,000
รายได้รวม (บาท/ปี) 41,750,400
5. การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลกรดเกลือเสื่อมสภาพ
5.5 ผลการวิเคราะห์ในเชิงเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น : การวิเคราะห์ผลตอบแทนแบบปกติ
Year Year Year Year Year Year Year Year Year Year
Analysis Total
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
Revenue 41,750,400.00 41,750,400.00 41,750,400.00 41,750,400.00 41,750,400.00 41,750,400.00 41,750,400.00 41,750,400.00 41,750,400.00 42,230,900.00 417,984,500.00
Expense + Tax 45,817,898.40 37,669,898.40 37,669,898.40 37,669,898.40 37,669,898.40 37,669,898.40 37,669,898.40 37,669,898.40 37,669,898.40 37,814,048.40 384,991,134.00
Accumulated profit -4,067,498.40 4,080,501.60 4,080,501.60 4,080,501.60 4,080,501.60 4,080,501.60 4,080,501.60 4,080,501.60 4,080,501.60 4,416,851.60 32,993,366.00
Discount Rate 2% 0.98 0.96 0.94 0.92 0.91 0.89 0.87 0.85 0.84 0.82 8.98
Expense*Discount Rate 44,919,508.24 36,207,130.33 35,497,186.60 34,801,163.34 34,118,787.58 33,449,791.75 32,793,913.48 32,150,895.57 31,520,485.85 31,020,690.32 346,479,553.06
Revenue*Discount Rate 40,931,764.71 40,129,181.08 39,342,334.40 38,570,916.07 37,814,623.60 37,073,160.39 36,346,235.68 35,633,564.39 34,934,867.05 34,644,047.02 375,420,694.40
PWF 6% 0.94 0.89 0.84 0.79 0.75 0.70 0.67 0.63 0.59 0.56 7.36
NPV
NPV 2% -3,837,262.64 3,631,631.90 3,426,067.83 3,232,139.46 3,049,188.17 2,876,592.61 2,713,766.62 2,560,157.19 2,415,242.63 2,466,346.86 22,533,870.62
PWF 99% 0.50 0.25 0.13 0.06 0.03 0.02 0.01 0.00 0.00 0.00 1.01
NPV 99% -2,043,969.05 1,030,403.68 517,790.79 260,196.38 130,751.95 65,704.50 33,017.34 16,591.63 8,337.50 4,535.05 23,359.76
PVB/PVC 1.08
Internal rate of return (IRR) 99.10
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก
การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยีรีไซเคิล
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรขี ันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก
เทคโนโลยีรีไซเคิลฝุ่นสังกะสีจากการหลอมรีไซเคิลเศษเหล็ก
ด้วยเตาหลอมแบบเหนี่ยวนําไฟฟ้า (Induction Furnace) โดยการผลิตเป็นสังกะสีบริสุทธิ์
โดย ผศ.ดร.สงบ คําค้อ
ที่ปรึกษาโครงการ
วันที่ 22-23 กันยายน 2565
ณ ห้องประชุมวังพิกุล 1 โรงแรม ดิอิมพิเรียลโฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ จังหวัดพิษณุโลก และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ZOOM)
วันที่ 29-30 กันยายน 2565
ณ ห้องประชุมรีเจ้นท์ฮอลล์ 1 โรงแรมรีเจ้นท์ ชะอํา หัวหิน จังหวัดเพชรบุรี และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ZOOM)
หัวข้อนําเสนอ
เทคโนโลยีรีไซเคิลฝุ่นสังกะสีจากการหลอมรีไซเคิลเศษเหล็ก
ด้วยเตาหลอมแบบเหนี่ยวนําไฟฟ้า (Induction Furnace) โดยการผลิตเป็นสังกะสีบริสทุ ธิ์
1. ของเสียชนิดฝุ่นสังกะสี
2. วรรณกรรมปริทัศน์เทคโนโลยีรีไซเคิลที่เกี่ยวข้อง
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
4. องค์ความรู้การรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
5. การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
1. ของเสียชนิดฝุ่นสังกะสี
1.1 แหล่งที่มา ปริมาณ และการจัดการ
- ฝุ่นสังกะสีที่เกิดจากการผลิตเหล็กกล้าด้วยเตาหลอมไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนํา
- เกิดขึ้นในปริมาณ 85-90 ตันต่อปี (โรงงานขนาดเล็ก)
- ปัจจุบันขายในราคาประมาณ 15-25 บาท ให้กับผู้รวบรวมของเสียเพื่อส่งขายต่อไปยังต่างประเทศ
Type Zn Fe Pb Cr Al Cd Cu Ni Mn
ปริมาณธาตุ (wt.%)
High-zinc 26.66 16.93 2.71 0.12 0.59 0.044 0.25 0.013 1.19 สภาวะ
22.00 22.70 4.16 - 0.67 0.061 0.25 - - Zn Fe O Cl Si S Pb K Ca Mn Bal.
Medium-zinc 19.40 24.60 4.50 0.30 - 0.10 0.42 - 2.20 วัตถุดิบเริม่ ต้น 57.5 6.5 20.7 5.3 5.0 0.6 1.6 0.6 0.8 0.6 0.9
12.20 37.08 1.72 0.22 0.41 0.01 0.17 - - ล้าง 1 ครั้ง 55.2 6.1 27.9 3.4 4.0 0.4 1.4 0.1 0.5 0.5 0.6
Low-zinc 4.20 19.37 1.40 10.90 0.39 - - 4.1 - ล้าง 2 ครั้ง 54.6 7.2 27.3 3.2 4.3 0.5 1.3 0.1 0.5 0.6 0.6
0.77 35.88 0.28 11.15 0.34 - - 5.26 - ล้าง 3 ครั้ง 44.4 5.4 42.6 2.3 2.5 0.5 1.1 0.1 0.4 0.4 0.4
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 5
1. ของเสียชนิดฝุ่นสังกะสี
1.3 แนวคิด/แรงจูงใจในการรีไซเคิล
• หลีกเลี่ยงการส่งขายไปยังต่างประเทศ
• สกัดเอาสังกะสีกลับมาใช้ประโยชน์
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
3.1 หลักการและวัตถุประสงค์
หลักการ : ใช้หลักการโลหวิทยาสารละลายในการชะละลายโลหะจากฝุ่นของเสีย จากนั้น ทําสารละลายให้บริสุทธิ์ขึ้นโดยการขจัด
สารมลทินต่าง ๆ สารละลายที่ได้จะถูกนําไปปรับ pH ให้เหมาะสมและถูกนํามาสกัดเอาโลหะให้อยู่ในรูปของแข็งด้วย
กระบวนการเคมีไฟฟ้า โดยมีขั้นตอนในการศึกษาหลัก ๆ ดังนี้
- ชะละลายฝุ่นสังกะสีด้วยสารละลายกรด
- กําจัดเหล็กจากสารละลายเพื่อทําให้สารละลายสังกะสีให้มีความบริสุทธิ์สูงขึ้น
- แยกสังสะสีจากสารละลายด้วยวิธีเคมีไฟฟ้า
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี โดยการผลิตเป็นสังกะสีบริสุทธิ์
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
3.3 วัตถุดิบและสารเคมี
วัตถุดิบและสารเคมีหลัก มีดังนี้
- ฝุ่นสังกะสีที่เกิดจากการหลอมเศษเหล็กด้วยเตาหลอมไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนํา
- สารละลายกรดซัลฟิวริก 2 M
- แคลเซียมออกไซด์ 20% โดยน้ําหนักต่อปริมาตร
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 35% โดยปริมาตร
- น้ําอาร์โอ
- น้ําประปา
- น้ําดีไอ
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
3.5 ผลการทดลอง
1. การเตรียมวัตถุดิบ
2. การชะละลายฝุ่นสังกะสีด้วยสารละลายกรดซัลฟิวริก
3. การกําจัดเหล็ก
4. การสกัดสังกะสีด้วยวิธีเคมีไฟฟ้า
ฝุ่นสังกะสีหลังล้างน้ํา
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 13
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
1. การชะละลายฝุ่นสังกะสี
100
สภาวะการชะละลายด้วยกรดซัลฟิวริก 0.5 M
- อัตราส่วนของแข็งต่อของเหลว (g/L) 85
Solubility of zinc dust (%)
1M
50, 100, 150, 200 70
- ความเข้มข้นของกรดซัลฟิวริก (M) 2M
0.5, 1.0, 2.0, 4.0, 6.0 55
4M
40
6M
25
10
ความสามารถในการละลายของฝุ่นสังกะสี -5
50 g/L 100 g/L 150 g/L 200 g/L
ที่สภาวะการชะละลายต่าง ๆ
(เวลาชะละลาย 50 นาที) Concentration of H2SO4 (M)
สารชะละลายหลังกรอง
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 15
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
1. การชะละลายฝุ่นสังกะสี
การชะละลายสังกะสีด้วยกรดซัลฟิวริกที่ความเข้มข้น 2 M และ 4 M
ปริมาณ (mg/L) 112,900 247.50 539.50 166.90 551.90 18.30 3,548.00 701.10
สารชะละลายหลังกรอง
กากตะกอนที่กรอง
จากสารละลาย
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
2. การกําจัดเหล็กออกจากสารละลายสังกะสี
สภาวะการกําจัดเหล็กจากการชะละลายสังกะสี ออกซิไดซ์เหล็กด้วย H2O2 ในอัตราส่วน 10 ml/L (pregnant leach solution) ตกตะกอน
เหล็กด้วยสารละลาย CaO ความเข้มข้น 20%
สารชะละลายที่กําจัดเหล็กแล้ว กากตะกอนที่เกิดจากการกําจัดเหล็ก
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 18
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
4. การสกัดสังกะสีด้วยวิธีเคมีไฟฟ้า
สภาวะการสกัดสังกะสีด้วยวิธีเคมีไฟฟ้า
- อิทธิพลของสารมลทินในอิเล็กโตรไลต์ (ความบริสุทธิ์ของอิเล็กโตรไลต์)
- ค่า pH ของอิเล็กโตรไลต์ 4, 3, 2, 1
- ความต่างศักย์ของเซลล์เคมีไฟฟ้า 3.4 V.
- ระยะเวลาของกระบวนการ 12, 24 ชั่วโมง
- ชนิดของอิเล็กโตรด และอื่น ๆ การจัดเซลล์อิเล็กโตรวินนิง
เริ่มทดลอง สิ้นสุดการทดลอง
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 19
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
4. การสกัดสังกะสีด้วยวิธีเคมีไฟฟ้า
ผลวิเคราะห์ส่วนผสมทางเคมีด้วยเทคนิค ICP-OES ของสารอิเล็กโตรไลต์ที่ค่า pH ต่างกันและหลังการผ่านอิเล็กโตรวินนิ่ง (ความต่างศักย์
3.4 โวลต์ เวลา 12 ชั่วโมง)
กระบวนการ Element (mg/l)
Zn Fe Pb Si Al Mg Ca Mn
สารชะละลายสังกะสี 113,200.00 3,137.00 15.4 106.4 251.4 156.9 561.7 820.5
สารละลาย pH 4 107,500.00 24 8.6 114.9 168.9 241.7 604.6 794.2
สารละลายหลัง EW-pH 4 70,680.00 15.4 8.6 86.1 243.1 252.5 606.8 128
สารละลาย pH 3 109,900.00 129.5 9.2 113.6 176.5 246 606 820.2
สารละลายหลัง EW-pH 3 73,320.00 18.8 8.5 87.4 276.2 257.3 617 71.1
สารละลาย pH 2 108,000.00 20.7 7.3 104.3 164.6 241.4 578.2 795.9
สารละลายหลัง EW-pH 2 71,680.00 16.7 8.9 88.3 235.9 251.9 600.3 114.2
สารละลาย pH 1 103,100.00 15.3 6.9 96.1 156.7 228 541.5 755.2
สารละลายหลัง EW-pH 1 60,050.00 10.5 8.7 79.2 264.1 237.3 579.5 15.2
ลักษณะการเกาะของสังกะสีที่แคโทดของเซลล์อิเล็กโตรวินนิ่ง
ที่ใช้สารละลายอิเล็กโตรวินนิงที่มีค่า pH เริ่มต้นต่างกัน (ความ
ต่างศักย์ 3.4 โวลต์ เวลา 12 ชั่วโมง)
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 20
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
4. การสกัดสังกะสีด้วยวิธีเคมีไฟฟ้า
ผลวิเคราะห์ส่วนผสมทางเคมีด้วยเทคนิค ICP-OES ของโลหะที่เกาะที่แคโทด
(ความต่างศักย์ 3.4 โวลต์ เวลา 12 ชั่วโมง)
Element (mg/l) Impurity Impurity Purity
pH
Fe Pb Si Al Mg Ca Mn (mg/l) (%) (%)
pH 1 0.23 2.21 0.27 0.67 0.14 0.6 0.05 4.17 0.041 99.959
pH 2 0.2 3.36 0.84 0.7 0.09 1.92 0.05 7.16 0.071 99.929
pH 3 0.01 4.08 0.95 0.66 0.1 1.21 0.05 7.06 0.070 99.927
pH 4 0.44 4.14 0.71 0.56 0.12 2.09 0.05 8.11 0.081 99.919
ผลวิเคราะห์ค่าประสิทธิภาพการใช้กระแสไฟฟ้า การกู้คืนโลหะสังกะสีและความบริสุทธิของสังกะสี
(ความต่างศักย์ 3.4 โวลต์ เวลา 12 ชั่วโมง)
สภาวะการทดลอง น้ําหนักแคโทด CE Recovery Purity
เริ่มต้น (g) สิ้นสุด (g) น้ําหนักเพิ่มขึ้น (g) (%) (%) (%)
pH 1 21.24 31.25 10.01 70.01 55.46 99.96
pH 2 21.83 30.59 8.76 72.04 50.03 99.93
pH 3 21.08 29.36 8.28 79.08 48.57 99.92
pH 4 21.18 29.25 8.07 83.35 46.88 99.91
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 21
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
4. การสกัดสังกะสีด้วยวิธีเคมีไฟฟ้า
ผลวิเคราะห์ส่วนผสมทางเคมีด้วยเทคนิค ICP-OES ของสารอิเล็กโตรไลต์ที่เวลาต่างกัน
กระบวนการ Element (mg/l)
Zn Fe Pb Si Al Mg Ca Mn
สารชะละลายสังกะสี 104,700.00 3,606.00 21 714 238.8 147.5 766.5 726.3
สารชะละลายหลังจากกําจัดเหล็ก 98,820.00 25.3 6.1 111.5 166.6 231.8 598.5 749.4
สารละลายอิเล็กโตรวินนิง pH 1 91,990.00 31.8 5.6 103.3 152.4 220.4 558.5 709.1
สารละลายหลัง EW, 12 h 52,970.00 27.8 8.2 89.1 272.9 229.5 594.1 11.9
สารละลายหลัง EW, 18 h 62,660.00 21.2 8.7 0.9 348.2 252 560.3 15.9
สารละลายหลัง EW, 24 h 86,540.00 23.6 7.9 106 547.5 265.5 508.5 32.5
ผลวิเคราะห์ค่าประสิทธิภาพการใช้กระแสไฟฟ้า การกู้คืนโลหะสังกะสีและความบริสุทธิของสังกะสีที่เกาะที่แคโทดที่ระยะเวลาต่างกัน
(ความต่างศักย์ 3.4 โวลต์ pH 1)
น้ําหนักแคโทด CE Recovery Purity
เวลา
เริ่มต้น (g) สิ้นสุด (g) นน.เพิ่มขึ้น (g) (%) (%) (%)
12 h 21.24 31.769 10.52 70.26 56.67 99.963
18 h 21.02 29.3 8.28 33.77 44.96 99.896
24 21.99 26.05 4.06 14.45 22.03 99.837
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
4. การสกัดสังกะสีด้วยวิธีเคมีไฟฟ้า
ผลวิเคราะห์ส่วนผสมทางเคมีด้วยเทคนิค ICP-OES ของสารอิเล็กโตรไลต์ที่เมื่อนําอิเล็กโตรไลต์มาใช้ซ้ํา
กระบวนการ Element (mg/l)
Zn Fe Pb Si Al Mg Ca Mn
สารชะละลายสังกะสี 104,700 3,606 21 714 238.8 147.5 766.5 726.3
สารชะละลายหลังจากกําจัดเหล็ก 98,820 25.3 6.1 111.5 166.6 231.8 598.5 749.4
สารละลายอิเล็กโตรวินนิง pH 1 91,990 31.8 5.6 103.3 152.4 220.4 558.5 709.1
สารละลายหลัง EW#1, 12 h 52,970 27.8 8.2 89.1 272.9 229.5 594.1 11.9
สารละลายหลังปรับค่า pH 1 ด้วย NaOH 37,410 17.3 6.4 64.6 221.1 178.5 404.4 7.3
สารละลายหลัง EW#2, 12 h 860 24.5 4.0 49.4 262.2 192.4 447.4 1.9
ผลวิเคราะห์ค่าประสิทธิภาพการใช้กระแสไฟฟ้า การกู้คืนโลหะสังกะสีและความบริสุทธิของสังกะสีเมื่อสารละลายอิเล็กโตรไลต์มาใช้ซ้ํา
(ความต่างศักย์ 3.4 โวลต์ pH 1)
น้ําหนักแคโทด CE Recovery Purity
สภาวะ
เริ่มต้น (g) สิ้นสุด (g) นน.เพิ่มขึ้น (g) (%) (%) (%)
EW#1 20.86 31.34 10.48 69.99 55.09 99.96
EW#2 28.25 35.37 7.12 55.96 95.13 99.97
Total recovery of zinc - 99.20 -
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
3.6 สรุปผลการทดลอง
คอนดิชันที่เหมาะสมในการกู้คืนสังกะสีจากฝุ่นสังกะสีที่เกิดจากเตาหลอมไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนําโดยการผลิตเป็นโลหะสังกะสีบริสุทธิ์มีดังนี้
1. การเตรียมวัตถุดิบสําหรับการชะละลาย โดยการนําฝุ่นสังกะสีมาล้างน้ําด้วยอัตราส่วน S/L 1/10 g/ml เพื่อกําจัดคลอรีน
2. การชะละลายฝุ่นสังกะสีด้วยสารละลายกรดซัลฟิวริกที่ความเข้มข้น 2M, S/L 200 g/l ระยะเวลา 10 นาที
3. การกําจัดเหล็กออกจากสารชะละลายก่อนการทําอิเล็กโตรวินนิงสามารถทําได้โดยการเติม H2O2 ปริมาตร 10 ml ต่อสารละลาย 1
ลิตร หลังจากนั้นเติมสารละลาย CaO เข้มข้น 20 w/v% ลงไปจนสารละลายมีค่า pH ที่ 4
4. การสกัดโลหะสังกะสีด้วยวิธีเคมีไฟฟ้าให้ได้ร้อยละการกู้คืนสูงที่สุดเมื่อสารละลายมีค่า pH 1 ศักย์ไฟฟ้า 3.4 V ระยะเวลา 12 ชั่วโมง
ซึ่งจะได้โลหะสังกะสีที่มีความบริสุทธิ์มากกว่า 99.97% การกู้คืนสังกะสีจากสารละลายอิเล็กโตรไลต์มีค่าประมาณ 99.2%
4. องค์ความรู้การรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
4.2 เครื่องมือและอุปกรณ์
อุปกรณ์และเครื่องมือหลัก ได้แก่
- ชุดอุปกรณ์เครื่องแก้วทดลองที่ใช้กับสารเคมีสําหรับการทดลองในห้องปฏิบัติการ
- เครื่องกวนด้วยแม่เหล็ก (magnetic stirrer) สําหรับการทดลองในห้องปฏิบัติการ
- เครื่องกวนในระดับอุตสาหกรรมและถังบรรจุสารละลายในระดับโรงงานอุตสาหกรรม
- เครื่องชั่งละเอียดในระดับห้องปฏิบัติการและในระดับโรงงานอุตสาหกรรม
- เครื่องวัดความเป็นกรดด่าง (pH meter) และวัดอุณหภูมิ
- เครื่องกรองและกระดาษกรองในระดับห้องปฏิบัติการ
- เครื่องกรองและปั๊มสําหรับเครื่องกรองในระดับโรงงานอุตสาหกรรม
- ตู้อบไล่ความชื้นในระดับห้องปฏิบัติการและระดับโรงงานอุตสาหกรรม
- เครื่องวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ (ICP-OES, XRF, XRD, SEM)
- อุปกรณ์ป้องกันเกี่ยวกับความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น ถุงมือ หน้ากาก แว่นตา เป็นต้น
2. การชะละลาย
- นําสารละลายกรดซัลฟิวริกเข้มข้น 2 M บรรจุลงในถัง และเติมฝุ่นสังกะสีลงในถังบรรจุกรดในอัตราส่วน 1 กิโลกรัมต่อสารละลายกรด
ปริมาตร 5 ลิตร จากนั้น ให้กวนสารในถังด้วยอุปกรณ์การกวนด้วยความเร็วรอบประมาณ 400 รอบต่อนาที เป็นเวลาประมาณ 10 นาที
เพื่อทําให้เกิดการชะละลาย
- เมื่อครบกําหนดเวลากวนแล้วให้ทําการกรองแยกเอาสารชะละลายออกจากกากตะกอน โดยนําสารละลายไปใช้ในขั้นตอนต่อไป ส่วนกาก
ตะกอนให้เก็บรวบรวมเพื่อนําไปบําบัด
4. องค์ความรู้การรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
4.3 ขั้นตอนและวิธีการ
3. การกําจัดเหล็ก
- นําสารชะละลายที่กรองแล้วมาเติมด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้มข้น 35 %v/v ในอัตราส่วนสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 10 ml
ต่อสารชะละลาย 1 ลิตร จากนั้นกวนสารละลายให้ทั่วถึงพอประมาณและปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที
- เติมสารละลายแคลเซียมออกไซด์เข้มข้น 20 %w/v ลงในสารละลายเพื่อตกตะกอนแยกเอาเหล็กออกจากสารชะละลายสังกะสี ใน
ระหว่างการเติมสารละลายแคลเซียมออกไซด์ให้กวนสารละลายด้วยความการกวนประมาณ 300 รอบต่อนาที และให้เติมสารละลาย
แคลเซียมออกไซด์ไปเรื่อย ๆ เป็นช่วง ๆ จนกระทั่งสารละลายมีค่าpH 4
- เมื่อสารละลายมีค่า pH ที่กําหนดแล้ว ให้ทําการกรองแยกสารละลายและตะกอน ซึ่งสารละลายจะถูกนําไปปรับสภาพให้เป็นสารละลายอิ
เล็กโตรไลต์ ส่วนกากตะกอนที่แยกออกให้นําไปบําบัดต่อไป
4. องค์ความรู้การรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
4.4 ผลิตภัณฑ์และการนําไปใช้ประโยชน์
– ผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นเป็นโลหะสังกะสีบริสุทธิ์ระดับ 99.97% ซึ่งอาจจะจําหน่ายเป็นวัตถุดิบสําหรับการผลิตทองเหลือง หรือขายเป็นโลหะ
สังกะสีป้องกันการกัดกร่อน (zinc anode) ในราคากิโลกรัมละ 140-150 บาท นอกจากนี้ ยังสามารถนําไปเป็นวัตถุดิบสําหรับผลิตเป็น
สังกะสีบริสุทธิ์สูงด้วยกระบวนการอิเล็กโตรรีไฟนิงได้
4.5 การจัดการของเสียที่เกิดจากกระบวนการรีไซเคิล
– ของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการชะละลายเป็นตะกอนของเสียอันตรายโดยมี เหล็ก สังกะสี และตะกั่วเป็นองค์ประกอบหลัก ดังนั้น จึงต้อง
ส่งไปยังบริษทั รับกําจัดของเสียเพื่อที่จะได้จัดการได้อย่างถูกวิธี ส่วนของเสียที่เกิดขึ้นจากขั้นตอนกําจัดเหล็กมีเหล็กและแคลเซียมเป็น
องค์ประกอบหลัก ของเสียในขั้นตอนนี้มีความอันตรายน้อยกว่าของเสียที่เกิดจากการกรองในขั้นตอนการชะละลาย อย่างไรก็ตาม จะต้อง
จัดการโดยมีการกําจัดอย่างถูกวิธี ส่วนของเสียอีกส่วนหนึ่งเป็นสารละลายอิเล็กโตรไลต์ที่ใช้แล้ว ของเสียส่วนนี้มีสังกะสีเป็นองค์ประกอบ
ประมาณ 860 mg/l ซึ่งไม่เหมาะที่จะนํากลับมาใช้เป็นสารละลายอิเล็กโตรไลต์ได้ ดังนั้น จึงต้องส่งกําจัดเช่นเดียวกัน หรืออาจจะต้องสกัด
สังกะสีให้อยู่ในรูปของสังกะสีออกไซด์เพื่อจําหน่ายต่อไป
5. การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี
5.0 เกณฑ์การพิจารณา
การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในเชิงเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นสําหรับการรีไซเคิลฝุ่นสังกะสี โดยการผลิตเป็นสังกะสีบริสุทธิ์ได้พิจารณาถึง
ปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
– พิจารณานําฝุ่นสังกะสี 80 ตันต่อปี จากแหล่งกําเนิดของเสียมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล จะได้ผลิตภัณฑ์เป็นสังกะสีบริสุทธิ์ 26.6
ตันต่อปี
– วันทํางานของการรีไซเคิล 200 วันต่อปี โดยนําฝุ่นสังกะสีมาเข้าสู่กระบวนการวันละ 400 ตัน
– ชะละลายตะกอนโดยใช้ถังชะละลาย 1 ถัง (4 ครั้ง ครั้งละ 100 กิโลกรัม) ตกตะกอนกําจัดเหล็กโดยใช้ถังตกตะกอน 2 ถัง ใช้เซลล์
อิเล็กโตรวินนิ่ง 8 เซลล์ (ใช้อิเล็กโตรด 1 คู่ โดยอ้างอิงจากการทดลองในห้องปฏิบัติการ)
5.การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีรไี ซเคิลฝุ่นสังกะสี
5.2 ค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิตและบุคลากร
อัตราเงินเดือน จํานวนคน ค่าใช้จ่ายรายเดือน ค่าใช้จ่ายรายปี
ลําดับ รายการ
หรืออัตราต่อหน่วย หรือหน่วย (บาท/เดือน) (บาท/ปี)
1 เงินเดือนหัวหน้างาน 22,000 1 22,000 264,000
2 เงินเดือนพนักงาน 16,500 2 33,000 396,000
3 เงินเดือนเจ้าหน้าที่ธุรการและประสานงาน 14,500 1 14,500 174,000
4 ค่าเดินทาง ขนส่ง และประสานงาน 5,000 1 5,000 60,000
5 อื่น ๆ 5,000 1 5,000 60,000
ค่าใช้จ่ายในการดําเนินการด้านบุคลากร งานธุรการและติดต่อระสานงาน 79,500 954,000
5.การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีรไี ซเคิลฝุ่นสังกะสี
5.4 รายได้และค่าตอบแทน
5.5 ผลการวิเคราะห์ในเชิงเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
วัตถุดิบ/ ความเสี่ยง PWF* มูลค่าปัจจุบันสุทธิ B/C อัตราผลตอบแทนภายใน เริ่มได้กําไร ความเป็นไปได้
ผลิตภัณฑ์ (Net Present อัตราผลตอบแทน (Internal Rate of Return: IRR) ปีที่ ของการลงทุน
Value: NPV) ต่อค่าใช้จ่าย
ฝุ่นสังกะสี/ ปกติ 6% 4,324,815.07 1.21 87.96 ปีท่ี 2 เป็นไปได้
สังกะสีบริสุทธิ์ ค่าใช้จ่าย+ 6% 3,864,438.37 1.19 85.58 ปีที่ 2 เป็นไปได้
*อ้างอิง PWF อ้างอิงจาก http://www.price.moc.go.th/price/fileuploader/file_cpi/Cpig072565_tg.pdf 35 เดือน
5.การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีรไี ซเคิลฝุ่นสังกะสี
5.5 ผลการวิเคราะห์ในเชิงเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น : การวิเคราะห์ผลตอบแทนแบบค่าใช้จ่ายเพิ่ม
Year Year Year Year Year Year Year Year Year Year
Analysis Total
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
Revenue 3,729,600.00 3,729,600.00 3,729,600.00 3,729,600.00 3,729,600.00 3,729,600.00 3,729,600.00 3,729,600.00 3,729,600.00 3,825,900.00 37,392,300.00
Expense + Tax 5,851,545.18 2,821,245.18 2,821,245.18 2,821,245.18 2,821,245.18 2,821,245.18 2,821,245.18 2,821,245.18 2,821,245.18 2,850,135.18 31,271,641.78
Accumulated profit -2,121,945.18 908,354.82 908,354.82 908,354.82 908,354.82 908,354.82 908,354.82 908,354.82 908,354.82 975,764.82 6,120,658.22
Discount Rate 2% 0.98 0.96 0.94 0.92 0.91 0.89 0.87 0.85 0.84 0.82 8.98
Expense*Discount Rate 5,736,809.00 2,711,692.79 2,658,522.34 2,606,394.45 2,555,288.68 2,505,184.98 2,456,063.71 2,407,905.59 2,360,691.76 2,338,103.55 28,336,656.85
Revenue*Discount Rate 3,656,470.59 3,584,775.09 3,514,485.38 3,445,573.90 3,378,013.63 3,311,778.07 3,246,841.24 3,183,177.69 3,120,762.44 3,138,570.56 33,580,448.58
PWF 8% 0.94 0.89 0.84 0.79 0.75 0.70 0.67 0.63 0.59 0.56 7.36
NPV
NPV 2% -2,001,835.07 808,432.56 762,672.22 719,502.10 678,775.56 640,354.31 604,107.84 569,913.05 537,653.82 544,861.98 3,864,438.37
PWF 99% 0.50 0.25 0.13 0.06 0.03 0.02 0.01 0.00 0.00 0.00 1.01
NPV 99% -1,066,304.11 229,376.74 115,264.69 57,921.96 29,106.51 14,626.39 7,349.94 3,693.44 1,856.00 1,001.88 -606,106.57
PVB/PVC 1.19
Internal rate of return (IRR) 85.58
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก
การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยีรีไซเคิล
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน
ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรขี ันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก
ภาพรวมของการดําเนินงานโครงการ
ข้อมูลขยะ/ของเสียในพื้นที่เป้าหมาย
โดย ผศ.ดร.ฐาปนีย์ พัชรวิชญ์
ที่ปรึกษาโครงการ
วันที่ 22-23 กันยายน 2565
ณ ห้องประชุมวังพิกุล 1 โรงแรม ดิอิมพิเรียลโฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ จังหวัดพิษณุโลก และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ZOOM)
วันที่ 29-30 กันยายน 2565
ณ ห้องประชุมรีเจ้นท์ฮอลล์ 1 โรงแรมรีเจ้นท์ ชะอํา หัวหิน จังหวัดเพชรบุรี และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ZOOM)
หัวข้อนําเสนอ
เทคโนโลยีรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดีเสื่อมสภาพโดยการผลิตเป็นแก้วโฟม
สําหรับใช้เป็นฉนวนกันความร้อน
1. ของเสียชนิดหน้าจอแอลซีดี
2. วรรณกรรมปริทัศน์เทคโนโลยีรีไซเคิลที่เกี่ยวข้อง
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดีเสื่อมสภาพ
4. องค์ความรู้การรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดีเสื่อมสภาพ
5. การประเมินความเป็นไปได้ในเบื้องต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล
1. ของเสียชนิดหน้าจอแอลซีดี
1.1 แหล่งที่มา ปริมาณ และการจัดการ
หน้าจอแอลซีดีมาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ
- Mobile phone
- Tablets
- Notebooks/Laptops
- Desktops
เป็นของเสียอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อม หากไม่ถูกนํามาเข้าสู่ระบบการบริหารจัดการของเสีย
ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและระเบียบแนวทางปฏิบัติทางข้อกฎหมาย
มีปรอทในหลอดไฟที่ให้ความสว่างกับภาพ จึงจําเป็นต้องคํานึงถึงความปลอดภัยรวมถึงวิธีการกําจัดอย่างถูกต้อง
สัดส่วนของเสียหน้าจอแอลซีดีจากทีวีมีแนวโน้มเพิ่มมากขึน้
1. ของเสียชนิดหน้าจอแอลซีดี
1.1 แหล่งที่มา ปริมาณ และการจัดการ
จากข้อมูลการศึกษาวิจัยภายในประเทศ เพื่อจัดทําระบบฐานข้อมูลการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และ
ประเมินปริมาณซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์จํานวน 7 ชนิด (โดยใช้แบบสอบถาม) เมื่อพิจารณาเฉพาะขยะของเสีย
หน้าจอแอลซีดี พบว่า เกิดจาก 1) หน้าจอทีวีในปริมาณที่มากที่สดุ 2) หน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 3) คอมพิวเตอร์โน๊ตบุค๊ และ4)
โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับข้อมูลสัดส่วนของเสียหน้าจอแอลซีดใี นต่างประเทศ
ปัจจัยสนับสนุน: การเปลี่ยนระบบส่งสัญญาณทีวีแบบอนาล็อก
มาเป็นแบบดิจิทัลโดย กสทช. จึงส่งผลให้เกิดขยะทีวีรุ่นเก่าแบบ
อนาล็อกซึ่งอาจมากถึง 2 ล้านเครื่องต่อปี เพื่อเปลี่ยนรุ่นทีวีรุ่น
ใหม่รองรับกับระบบดิจิทัลที่อาศัยหน้าจอแอลซีดี 1 2
ข้อมูลการบริโภคทีวีภายในประเทศสูงถึง 4.9 ล้านเครื่องในปี 3 4
พ.ศ. 2553
ของเสียหน้าจอแอลซีดีจากโทรศัพท์มือถือก็มีแนวโน้มสูงมากขึ้น
เช่นเดียวกัน คาดว่าในปี พ.ศ. 2559 จะมีขยะจากโทรศัพท์มือถือ
มากถึง 11 ล้านเครื่อง รูปที่ 3: ปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดในประเทศไทย ปี พ.ศ.2562 (ไม่รวม stock) [2]
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 6
1. ของเสียชนิดหน้าจอแอลซีดี
1.1 แหล่งที่มา ปริมาณ และการจัดการ
การจัดการขยะของเสียหน้าจอแอลซีดีภายในประเทศ
- ปัจจุบันยังไม่มีระบบการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ทมี่ ีมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจนและครบวงจร ของเสียหน้าจอ
มีราคาที่ไม่สูงมาก ถอดแยกประกอบได้ยาก
- ปัญหาสําคัญนั้นอาจะเนื่องมาจากการรวบรวมซากผลิตภัณฑ์เพื่อส่งต่อไปยังโรงงานหรือสถานประกอบการที่มี
กระบวนการรีไซเคิลทีไ่ ด้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
- ขาดสถานที่บําบัดและกําจัดที่ได้มาตรฐานด้านการดําเนินงานอันเนื่องมาจากมีค่าใช้จ่ายสูง
- หากสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้อย่างเป็นระบบ จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้เกิดระบบการ
บริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจรได้
1. ของเสียชนิดตะกอนหน้าจอแอลซีดี
1.2 ลักษณะทางกายภาพและองค์ประกอบทางเคมีของตะกอนหน้าจอแอลซีดี
องค์ประกอบหน้าจอแอลซีดี
หน้าจอแอลซีดีผลิตจากพิกเซลโมโนโครมจํานวนมากซึ่งเป็นชั้นโมเลกุลผลึกเหลวที่แขวนลอยอยู่ระหว่างขั้วไฟฟ้าโปร่งแสง
สองขั้วที่ทําจากวัสดุอินเดียมทินออกไซด์ (Indium tin oxide) และฟิลเตอร์แบบโพลาไรซ์สองตัวที่มีแกนตั้งฉากกัน
ดังนั้นแนวทางการรีไซเคิลขึ้นอยู่กับ
ระดับการปนเปื้อนหรือมลทินที่พบ
ในของเสีย
งานวิจัยนี้สนใจที่จะศึกษาแนวทาง
การรีไซเคิลของเสียหน้าจอแอลซีดี
ที่สิ้นอายุการใช้งาน (EOL-LCD)
รูปที่ 6: ประเภทของเสียหน้าจอแอลซีดีและแนวทางการรีไซเคิลตามลักษณะของเสีย [6]
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 9
1. ของเสียชนิดหน้าจอแอลซีดี
1.2 ลักษณะทางกายภาพและองค์ประกอบทางเคมีของตะกอนหน้าจอแอลซีดี
องค์ประกอบของเสียหน้าจอแอลซีดี ตารางที่ 1: ตัวอย่างองค์ประกอบต่าง ๆ ของหน้าจอ LCD [1, 7]
[1]
องค์ประกอบหลักของอุปกรณ์ที่มีหน้าจอแอลซีดี [1, 7] คือ
1) โลหะแผ่นที่เป็นส่วนหุ้ม เช่น เหล็กกล้าคาร์บอน 33.55 – 46.34 wt.%
2) หน้าจอแอลซีดี 7.04 - 12.22 wt.%
Ex: model: LG
1. ของเสียชนิดตะกอนหน้าจอแอลซีดี
1.3 แนวคิด/แรงจูงใจในการรีไซเคิล
สเปกของผลิตภัณฑ์ที่นําไปใช้ประโยชน์
สมบัติของผลิตภัณฑ์แก้วโฟมสําหรับการใช้งานทนความร้อนที่ได้จากการรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
- ทนความร้อนได้ดีและมีความแข็งแรงอัดที่ดีในช่วงอุณหภูมิในการใช้งานต่ํา -268 ถึง -179 oC ไปจนถึงช่วงอุณหภูมิสูง 205 ถึง 482 oC
- สําหรับงานภายในและภายนอกอาคาร (indoor/outdoor installations) โดยหากต้องการสมบัติพิเศษด้านการป้องกันไฟ (fire protection)
หรือสมบัติเป็นฉนวนกันเสียง (acoustic insulation) นั้นจําเป็นต้องมีข้อกําหนดพิเศษเพิ่มเติม
สมบัติตามมาตรฐาน ASTM 552-22 Standard specification for cellular glass thermal insulation [11]
- ความแข็งแรงอัด (compressive strength)
- ความแข็งแรงดัด (flexural strength)
- การดูดซึมน้ํา (water absorption)
- การซึมผ่านไอนํ้า (water vapor permeability)
- การนําความร้อน (thermal conductivity)
- สมรรถนะการทนความร้อนที่พื้นผิว (hot-surface performance)
- คุณลักษณะการไหม้ที่พื้นผิว (surface burning characteristics)
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 12
1. ของเสียชนิดตะกอนหน้าจอแอลซีดี
1.3 แนวคิด/แรงจูงใจในการรีไซเคิล
แก้วโฟมที่มีสมบัติทนความร้อนสามารถนําไปใช้งานเชิงโครงสร้าง มีข้อกําหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์วัสดุฉนวนความร้อน หรือ Product
Category Rule for “Insulation materials” [10]
ผลิตภัณฑ์แก้วโฟมสําหรับงานทนความร้อน สามารถอ้างอิงได้จากแหล่งข้อมูล Alibaba.com
- ราคาขาย 258 – 500 USD/m3 (8,729.84–18,340.00 บาท/ลม.) ณ อัตราแลกเปลี่ยนวันที่ 15 กันยายน 2565
- เปรียบเทียบราคาของเสียหน้าจอแอลซีดีคอมพิวเตอร์ 25 บาท/หน่วย (ที่มา: บริษัท วงษ์พาณิชย์ อินเตอร์เนชั่นเนล จํากัด)
- การนําหน้าจอแอลซีดีที่สิ้นอายุการใช้งานแล้วมาผ่านกระบวนการรีไซเคิลและพัฒนาเพื่อให้ได้เป็นแก้วโฟมสําหรับการใช้งาน
เป็นฉนวนนั้นจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับของเสียดังกล่าว
FOAMGLAS® Insulation
อุตสาหกรรมที่นําผลิตภัณฑ์ไปใช้ประโยชน์ System Specification
งานทั้งภายในและภายนอกที่ใช้แก้วโฟม
เป็นวัสดุฉนวนต่าง ๆ
และในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
สามารถใช้ในงานหุ้มท่อและถัง (งานบนพื้นดิน/
งานใต้ดิน, งานในร่ม/กลางแจ้ง
www.sirinengineering.co.th
ในช่วง -268 oC ถึง +200oC
รูปที่ 11 FOAMGLAS® Insulation รูปที่ 12 แก้วโฟมเม็ดในรูปทรง/ขนาดต่าง ๆ [13]
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 13
2. วรรณกรรมปริทัศน์เทคโนโลยีรีไซเคิลที่เกี่ยวข้อง
2.2 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิลของเสียจอแอลซีดีเพื่อผลิตเป็นแก้วโฟม
2.2.1 การผลิตแก้วโฟมฉนวนความร้อน (งานวิจัยโดย M. Assfi และคณะ [8])
ศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตแก้วโฟมความแข็งแรงสูงสําหรับใช้งานเป็นฉนวนความร้อน
- ใช้ของเสียหน้าจอแอลซีดีผสมกับแมงกานีสออกไซด์ (MnO2) ที่ได้จากกระบวนการรีไซเคิลถ่านไฟฉายอัลคาไลน์ และสารที่ทําให้เกิดโฟม
คือ โซเดียมคาร์บอเนต (Na2CO3)
- ทําให้เกิดโฟมที่ 900 oC/30 min
ตารางที่ 5 องค์ประกอบทางเคมีของของเสียหน้าจอ LCD และแก้วโฟม [8]
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.1 วัตถุประสงค์และแนวทาง
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาการรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดีที่สิ้นอายุการใช้งานโดยนํามาผลิตเป็นแก้วโฟมสําหรับการใช้งานเป็นฉนวนความร้อน
แนวทาง :
ขั้นตอนที่ 1
- จอแอลซีดีที่สิ้นอายุการใช้งานสามารถนํามารีไซเคิลโดยการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่ได้
โดยผลิตเป็นแก้วโฟมที่มีสมบัติเป็นฉนวนความร้อน
- ศึกษาองค์ประกอบของอุปกรณ์ และวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีเบื้องต้น
เพื่อปรับส่วนผสมให้เหมาะสมกับการเกิดโครงสร้างโฟม
ขั้นตอนที่ 2
- เติมสารที่ทําให้เกิดฟองแก๊ส เช่น แกรไฟต์และแคลเซียมคาร์บอเนต
- ผสมกับเศษแผ่นแก้วโซดาไลม์หรือเศษแก้วจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ในสัดส่วน
ที่เหมาะสมเพื่อเป็นการปรับส่วนผสมและอุณหภูมิ Tg
- เมื่อขึ้นรูปทรงแล้วนํามาทดลองเผาในช่วงอุณหภูมิ 900 – 1100 oC
เพื่อให้ได้เป็นผลิตภัณฑ์แก้วโฟมตามต้องการ รูปที่ 17 แผนผังการทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดีเพือ่ ผลิตเป็นแก้วโฟม
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 16
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.2 อุปกรณ์และเครื่องมือ
อุปกรณ์และเครื่องมือหลักที่เกี่ยวข้องกับการผลิตแก้วโฟมจากของเสียหน้าจอแอลซีดี ได้แก่
- ค้อนทุบ
- ชุดตะแกรงกรอง
- กระดาษทราย
- เครื่องมือตัดชิ้นงาน
- ชุดอุปกรณ์เครื่องแก้วทดลองที่ใช้กับสารเคมี
- ชุดภาชนะเหล็กกล้าไร้สนิมสําหรับผสมผง และที่กวนผสม (spatula)
- ชุดหม้อบดลดขนาดแบบเปียก (ball mill)
- ชุดหม้อผสม (ball mixing)
- ชุดแม่พิมพ์อัดเหล็กกล้าไร้สนิม
- เครื่องมืออัดขึ้นรูปผง
- เตาเผาอุณหภูมิสูง 1400 องศาเซลเซียส พร้อมเครื่องมือวัดอุณหภูมิ
- ถาดเผาที่อุณหภูมิสูง เช่น alumina, cordierite saggar
- อุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ถุงมือกันความร้อน ทนสารเคมี แว่นตา ฯลฯ
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.2 อุปกรณ์และเครื่องมือ
อุปกรณ์และเครื่องมือหลักที่เกี่ยวข้องกับการผลิตแก้วโฟมจากของเสียหน้าจอแอลซีดี ได้แก่ [ต่อ]
- เครื่อง X-Ray Diffractometer (XRD)
- เครื่อง X-Ray Fluorescence (XRF)
- กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (Scanning Electron Microscope: SEM) พร้อมอุปกรณ์วิเคราะห์ธาตุด้วยเทคนิค EDS
- กล้องสเตอริโอพร้อมซอฟแวร์วิเคราะห์ภาพ
- เครื่องวิเคราะห์ขนาดอนุภาคด้วยเลเซอร์
- เครื่องทดสอบความแข็งแรงอัด
- เครื่องทดสอบความหนาแน่นด้วยวิธี Archimedes
- เครื่องทดสอบการนําความร้อน
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.4 ขั้นตอนและวิธีการทดลอง
ขั้นตอนที่ 1: การถอดแยกประกอบและวิเคราะห์ของเสีย
- ถอดประกอบหน้าจอแอลซีดีจากอุปกรณ์ เพื่อแยกแผ่นแอลซีดี ออกจากส่วนประกอบอื่น ๆ
คือ โครงสร้างหน้าจอทําจากพลาติก แผ่นพีซีบี แผ่นโลหะ สกรู หลอดไฟ ชั้นฟิล์มพลาสติก
อุปกรณ์ต่อพ่วงและสายไฟ เพื่อชั่งน้ําหนักคํานวนสัดส่วน
- วิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีและเฟสเริ่มต้นของแผ่นหน้าจอแอลซีดีด้วยเทคนิค XRF และ
XRD รวมถึงส่วนผสมเริ่มต้นอื่น ๆ เช่น กระจกแผงเซลล์แสงอาทิตย์ และกระจกแผ่นเรียบ
คอร์เดียไรท์ เพื่อเตรียมสูตรส่วนผสมสําหรับการผลิตแก้วโฟม
ขั้นตอนที่ 2: การผลิตเป็นแก้วโฟม
- เตรียมสูตรส่วนผสม ชั่งน้ําหนัก บดลดขนาด ทําให้ส่วนผสมแห้ง แล้วผสมสารยึดเพื่ออัด
ขึ้นรูปทรงชิ้นงาน ก่อนนําเข้าเตาเผา
- วิเคราะห์เฟส ลักษณะรูพรุน ความหนาแน่น ความแข็งแรงอัดและค่าการนําความร้อน
รูปที่ 17 แผนผังการทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดีเพือ่ ผลิตเป็นแก้วโฟม
ของชิ้นงานแก้วโฟม
- ถอดแยกประกอบ
- ผลการวิเคราะห์คุณลักษณะ องค์ประกอบทางเคมีของแผ่นแอลซีดี
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลอง: ขั้นตอนที่ 1 – การถอดแยกประกอบและวิเคราะห์แผ่นหน้าจอแอลซีดี
รูปที่ 18 ขั้นตอนการถอดแยกประกอบหน้าจอแอลซีดี
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 22
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลอง: ขั้นตอนที่ 1 – การถอดแยกประกอบและวิเคราะห์แผ่นหน้าจอแอลซีดี
- หลังการถอดแยกประกอบ ชั่งน้ําหนักและวิเคราะห์องค์ประกอบของหน้าจอแอลซีดี หน้าจอมีน้ําหนักประมาณ 2.59 – 4.42 kg.
และมีน้ําหนักแผ่นหน้าจอแอลซีดี 255.9 – 454.25 g.
ตารางที่ 6 การวิเคราะห์องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะยี่ห้อต่าง ๆ หลังการถอดแยกประกอบ
Model
No. Parts Samsung
Philips Brilliance Samsung
Samsung VDO
syncMaster Acer X171 LG Flatron E2041 syncMaster Acer G205HL Philips 150E6 LG E2041T Unknown Samsung 713NS Acer AL176WA
17S La19D400E1
743BX SA300
1 Plastic parts (PC-ABS FR 40) 683.19 774.38 880 1000 846.96 833.45 839.04 820.10 673.16 805.00 838.13 682.22
2 Sheet metal 1406.45 1074.37 1,480 1,160 1190 536.01 1073.36 2020.00 2003.22 1445.30 1185.84 960.32
3 Screws 14.06 13.26 19.82 12.12 21.19 6.84 18.13 33.94 25.26 24.33 21.29 18.42
4 LCD screen 386.02 290.46 391 390.57 451.9 387.15 419.36 255.90 373.85 411.51 454.25 322.00
5 Fluorescence/LED lamps 13.51 36.01 49.69 27.20 - - - 19.13 13.93 44.85 5.95 2.38
6 Mainboard+frame 270.24 225.05 295.55 183.34 216.31 113.76 272.47 309.16 296.94 151.55 215.83 316.87
7 Acrylic + sheet 789.19 798.11 800 820 566.8 344.17 595.81 408.29 1006.28 1016.89 574.30 259.60
8 wire connector 7.9 8.49 10.98 16.3 17.82 9.16 8.23 7.05 23.79 14.53 17.58 27.24
Total weight (kg) 3.57 3.22 3.93 3.61 3.31 2.23 3.23 3.87 4.42 3.91 3.31 2.59
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลอง: ขั้นตอนที่ 1 – ถอดแยกประกอบและวิเคราะห์องค์ประกอบแผ่นหน้าจอแอลซีดี
- ตัวอย่างองค์ประกอบของหน้าจอแอลซีดียหี่ ้อง Samsung 743BX และ Acer X171 Samsung 743BX
มีแผ่นแอลซีดีในช่วง 10.81 – 9.96 %
ตารางที่ 7 ตัวอย่างองค์ประกอบของหน้าจอแอลซีดีจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
Samsung syncMaster 743BX Acer X171
No. Parts
weight (g) % weight (g) % LCD 10.81 %
1 Plastic parts (PC-ABS FR 40) 683.19 19.13 880.00 22.41
2 Sheet metal 1406.45 39.39 1480.00 37.69
3 Screws 14.06 0.39 19.82 0.50
4 LCD screen 386.02 10.81 391.00 9.96
5 Fluorescence lamps 13.51 0.38 49.69 1.27 LCD 9.96 %
6 Mainboard + frame 270.24 7.57 295.55 7.53
7 Acrylic + sheet 789.19 22.10 800.00 20.37
8 wire connector 7.90 0.22 10.98 0.28
Total 3570.6 100.00 3927.04 100.00 รูปที่ 19 กราฟแสดงตัวอย่างองค์ประกอบหน้าจอแอลซีดี
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 24
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลอง: ขั้นตอนที่ 1 - ถอดแยกประกอบและวิเคราะห์องค์ประกอบแผ่นหน้าจอแอลซีดี
ผลวิเคราะห์ XRD
- ผลการวิเคราะห์ด้วยเทคนิค XRD พบเฟสของแก้วที่เป็น
อสัณฐาน (amorphous) คล้ายคลึงกันกับกระจกแผง
Glassy phase (amorphous)
เซลล์แสงอาทิตย์ (PV cullet) ที่ล้างด้วยน้ํา
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลอง: ขั้นตอนที่ 1 - ถอดแยกประกอบและวิเคราะห์องค์ประกอบแผ่นหน้าจอแอลซีดี
ผลวิเคราะห์ XRF
ผลการวิเคราะห์ด้วยเทคนิค XRF โดยแสดงเป็นร้อยละ
ของสารประกอบออกไซด์
- ซิลิกา (SiO2) ร้อยละ 55-58
- อะลูมินา (Al2O3) ร้อยละ 18-22
- แคลเซียมออกไซด์ (CaO) ร้อยละ 11-15
- แบเรียมออกไซด์ (BaO) ร้อยละ 0.1-7.5
- สตรอนเทียมออกไซด์ (SrO) ร้อยละ 2.7-2.9
- เหล็กออกไซด์ (Fe2O3) ร้อยละ 0.3-5
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลองเบื้องต้น : ขั้นตอนที่ 2 – การผลิตแก้วโฟม
ผลการทดลองปรับสูตรส่วนผสมเบื้องต้น (การขึ้นรูปชิ้นงานเม็ดยาและชิ้นงานแผ่นหน้าตัด 30 mm x 30 mm)
1) การบดหยาบด้วยครกหิน
รูปที่ 23 การขึ้นรูปชิ้นงานทรงเม็ดยา
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 29
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลองเบื้องต้น : ขั้นตอนที่ 2 – การผลิตแก้วโฟม
ผลการทดลองปรับสูตรส่วนผสมเบื้องต้น (ชิ้นงานเม็ดยาและชิ้นงานแผ่นหน้าตัด 30 mm x 30 mm)
4) การเผาชิ้นงานและการวิเคราะห์คุณลักษณะของแก้วโฟม
- เผาชิ้นงานที่อุณหภูมิ 900 – 1100 oC/2 h ในเตาเผาที่บรรยากาศปกติ
- ที่อุณหภูมิการเผาที่สูงขึ้น ชิ้นงานฟอร์มโครงสร้างโฟมมากขึ้น
- สูตร F1-1 และ F1-2 ขยายขนาดชัดเจนที่ 1000 oC และยังคงรูป
- สูตร F1-3 และ F1-4 เกิดการฟอร์มผิวแก้วที่ 1000 oC และเสียรูปเป็นโดมที่
1050 oC
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลองเบื้องต้น : ขั้นตอนที่ 2 – การผลิตแก้วโฟม
ผลการทดลองปรับสูตรส่วนผสมเบื้องต้น (ชิ้นงานเม็ดยาและชิ้นงานแผ่นหน้าตัด 30 mm x 30 mm)
6) การผลิตชิน้ งานแผ่น 30 mm x 30 mm
- พัฒนาสูตร F3-1 ถึง F3-4 และเตรียมส่วนผสม
เหมือนขั้นตอนที่ผา่ นมา สเปรย์สารยึดพีวีเอแล้ว
อัดขึ้นรูปขนาดหน้าตัด 30 mm x 30 mm ที่
ความดันอัด 5-10 MPa
- เผาชิ้นงานที่ 1000 และ 1050 oC/ 2h
- ทดสอบความหนาแน่น และวัดขนาดรูพรุน
1 cm 1 cm รูปที่ 26 อัดขึ้นรูปชิ้นงานแผ่นหน้าตัด 30 mm x 30 mm
รูปที่ 27 ชิ้นงานแผ่นหน้าตัด 30 mm x 30 mm หลังเผา
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 32
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลองเบื้องต้น : ขั้นตอนที่ 2 – การผลิตแก้วโฟม
ผลการทดลองปรับสูตรส่วนผสมเบื้องต้น (ชิ้นงานเม็ดยาและชิ้นงานแผ่นหน้าตัด 30 mm x 30 mm)
6) การผลิตชิน้ งานแผ่น 30 mm x 30 mm ตารางที่ 11 สูตรส่วนผสมและสมบัตขิ องชิ้นงาน F3-1 ถึง F3-4
- ชิ้นงานสูตร F3-1 เผาที่ 1050 oC ให้ค่าความหนาแน่น ส่วนผสมและสมบัติ
สูตรส่วนผสม
ต่ําที่สุด 0.299 g/cm3 F3-1 F3-2 F3-3 F3-4
1. ส่วนผสม
* เลือกนําไปขึ้นรูปทรงลูกบาศก์ F3-1 1.1 แผ่นของเสีย LCD (blended waste) 80.00 80.00 80.00 80.00
1.2 แผ่นกระจกเซลล์แสงอาทิตย์ (PV glass) 5.00 6.60 6.48 6.60
1.3 กระจกแผ่นเรียบ (flat glass) 7.00 4.72 4.63 4.72
1.4 คอร์เดียไรท์ (Cordierite) 2.00 3.77 3.70 1.89
F3-2 1.5 แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) 3.00 4.72 4.63 4.72
1.6 แกรไฟต์ (graphite) 3.00 4.72 4.63 4.72
1.7 บอแร็กซ์ (borax) - - 1.85 1.89
รวม 100.00 100.00 100.00 100.00
F3-3 2. ความหนาแน่นรวม (bulk density, g/cm3)
รูปที่ 29 การวัดขนาดรูพรุนด้วยซอฟแวร์ 2.1 เผา 1000 oC/2h 0.299 0.781 0.501 0.622
Leica LAS EZ 2.2 เผา 1050 oC/2h 0.414 0.383 0.299 0.323
F3-4 3. ขนาดรูพรุน (mm)
รูปที่ 28 ชิ้นงานสูตร F3-1 ถึง F3-4 3.1 เผา 1000 oC/2h 0.320 0.092 0.949 0.150
หลังเผาที่ 1000 และ 1050oC /2h 3.2 เผา 1050 oC/2h 0.398 0.834 1.984 1.852
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 33
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลองเบื้องต้น : ขั้นตอนที่ 2 – การผลิตแก้วโฟม
ผลการทดลองขึ้นรูปชิ้นงานแก้วโฟมทรงลูกบาศก์และชิ้นงานแผ่นขนาดหน้าตัด 80 mm x 80 mm
ขั้นตอนการทดลอง
- ชั่งส่วนผสมต่าง แล้วทําการบดผสมตามสูตร โดยบดหยาบวัตถุดิบที่เป็นแก้วก่อน
แล้วจึงนํามาบดผสมแบบเปียกโดยเติม คอร์เดียไรท์ แคลเซียมคาร์บอเนต แกรไฟต์
(บอแร็กซ์) และน้ํา
- นําส่วนผสมเปียกมากรองผ่านตะแกรงขนาด 150 และ 75 ไมครอน เพื่อแยกเศษ
ฟิล์มออก จากนั้นอบให้ส่วนผสมแห้ง
- สเปร์สารยึดพีวีเอ (ละลายน้ําอัตราส่วน 2 wt.%) ลงบนส่วนผสมแห้ง แล้วทําการ
ขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์เหล็กกล้าไร้สนิมรูปทรงต่าง ๆ เช่น ลูกบาศก์ แผ่นบางและแผ่น
ขนาดใหญ่ เป็นต้น ที่ความดันอัด 5 – 10 MPa
- นําเข้าเผาในเตาอุณหภูมิ 1000 และ 1050 oC เวลา 1 – 4 ชั่วโมง
- ตรวจสอบโครงสร้างจุลภาค วิเคราะห์ขนาดรูพรุน องค์ประกอบทางเคมีและเฟส
ของชิ้นงานแก้วโฟม
- ทดสอบความหนาแน่น ความแข็งแรงอัดและค่าการนําความร้อนของชิ้นงาน รูปที่ 29 การขึ้นรูปแก้วโฟมทรงลูกบาศก์และแผ่นหน้าตัด 80 mm x 80 mm
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 34
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลองเบื้องต้น : ขั้นตอนที่ 2 – การผลิตแก้วโฟม
ผลการทดลองขึ้นรูปชิ้นงานแก้วโฟมทรงลูกบาศก์และชิ้นงานแผ่นขนาดหน้าตัด 80 mm x 80 mm
1) บดละเอียดแบบเปียกด้วยหม้อบด (ball mill) และอบแห้ง
- เลือกสูตร F3-1 และ F3-3 เตรียมชั่งส่วนผสมครั้งละ 500 กรัม แล้วบด
ผสมในหม้อบดขนาด 2 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 120 rpm เวลา 24 ชั่วโมง
- กรองส่วนผสมผ่านตะแกรง 150 และ 75 ไมครอน เพื่อนําเศษฟิล์มค้าง
ตะแกรง (% residual) ออก
- อบส่วนผสมที่ 105 oC จนแห้ง
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลองเบื้องต้น : ขั้นตอนที่ 2 – การผลิตแก้วโฟม
ผลการทดลองขึ้นรูปชิ้นงานแก้วโฟมทรงลูกบาศก์และชิ้นงานแผ่นขนาดหน้าตัด 80 mm x 80 mm
2) การอัดขึ้นรูปทรงลูกบาศก์ เผาและตรวจสอบสมบัติชิ้นงาน ตารางที่ 12 สูตรส่วนผสมและสมบัตขิ องชิ้นงาน F3-1 และ F3-3
สูตรส่วนผสม
ส่วนผสม/สมบัติ
F3-1 F3-3
1. ส่วนผสม
1.1 แผ่นของเสีย LCD (blended waste) 80 74.0
1.2 แผ่นกระจกเซลล์แสงอาทิตย์ (PV glass) 7.0 6.5
1.3 กระจกแผ่นเรียบ (flat glass) 5.0 4.5
a) อัดขึ้นรูปชิ้นงานด้วยแม่พิมพ์ลูกบาศก์ 30 x 30 x 30 มม. และนําเข้าเผา 1.4 คอร์เดียไรท์ (Cordierite) 2.0 3.8
1.5 แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) 3.0 4.6
1.6 แกรไฟต์ (graphite) 3.0 4.6
1.7 บอแรกซ์ (borax) - 2.0
รวม 100.0 100.0
2. ความหนาแน่นรวม (bulk density, g/cm3) 0.156 0.232
3. ขนาดรูพรุน (mm) 0.173 8.17
1 cm 4. ความแข็งแรงอัด (MPa) 1.10-4.20 -
b) ชิ้นงานหลังเผาที่อุณหภูมิ 1050 oC /4 ชั่วโมง
5. ค่าการนําความร้อน (W/m K) 0.1183 -
รูปที่ 31 การอัดขึ้นรูปชิ้นงานทรงลูกบาศก์และเผา
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 36
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลองเบื้องต้น : ขั้นตอนที่ 2 – การผลิตแก้วโฟม
ผลการทดลองขึ้นรูปชิ้นงานแก้วโฟมทรงลูกบาศก์และชิ้นงานแผ่นขนาดหน้าตัด 80 mm x 80 mm
2) การอัดขึ้นรูปทรงลูกบาศก์ เผาและตรวจสอบสมบัติชิ้นงาน
- มีความหนาแน่นต่ํา 0.156 g/cm3
- มีการกระจายตัวของขนาดรูพรุนที่ดี มีขนาดรูพรุนเฉลี่ย 0.173 mm
- ประกอบไปด้วยเฟส Anorthite และ cristobalite ให้ความแข็งแรง
- มีความแข็งแรงอัดที่ดี 1.1- 4.2 MPa 1 cm
a) ชิ้นงานทรงลูกบาศก์
4.22 MPa
1.10 MPa
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลองเบื้องต้น : ขั้นตอนที่ 2 – การผลิตแก้วโฟม
ผลการทดลองขึ้นรูปชิ้นงานแก้วโฟมทรงลูกบาศก์และชิ้นงานแผ่นขนาดหน้าตัด 80 mm x 80 mm
2) การอัดขึ้นรูปทรงลูกบาศก์ เผาและตรวจสอบสมบัติชิ้นงาน ตารางที่ 12 สูตรส่วนผสมและสมบัตขิ องชิ้นงาน F3-1 และ F3-3
ค่าความแข็งแรงอัด 0.414 – 0.620 MPa สูตรส่วนผสม
ส่วนผสม/สมบัติ
F3-1 F3-3
1. ส่วนผสม
1.1 แผ่นของเสีย LCD (blended waste) 80 74.0
1.2 แผ่นกระจกเซลล์แสงอาทิตย์ (PV glass) 7.0 6.5
1.3 กระจกแผ่นเรียบ (flat glass) 5.0 4.5
1.4 คอร์เดียไรท์ 2.0 3.8
0.115 g/cm3 1.5 แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) 3.0 4.6
1.6 แกรไฟต์ (graphite) 3.0 4.6
ความหนาแน่น
1.7 บอแร็กซ์ (borax) - 2.0
0.045 W/m K รวม 100.0 100.0
2. ความหนาแน่นรวม (bulk density, g/cm3) 0.156 0.232
ค่าการนําความร้อน 3. ขนาดรูพรุน (mm) 0.173 8.17
4. ความแข็งแรงอัด (MPa) 1.10-4.20 -
5. ค่าการนําความร้อน (W/m K) 0.1183 -
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 38
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลองเบื้องต้น : ขั้นตอนที่ 2 – การผลิตแก้วโฟม
ผลการทดลองขึ้นรูปชิ้นงานแก้วโฟมทรงลูกบาศก์และชิ้นงานแผ่นขนาดหน้าตัด 80 mm x 80 mm
2) การอัดขึ้นรูปทรงลูกบาศก์ เผาและตรวจสอบสมบัติชิ้นงาน
d) ชิ้นงานสูตร F3-3 เผาที่อุณหภูมิ 1050 oC/4h e) การกระจายตัวของขนาดรูพรุน F3-3 f) ผลวิเคราะห์เฟสด้วย XRD สูตร F3-3
รูปที่ 33 เปรียบเทียบลักษณะและสมบัตชิ ิ้นงานทรงลูกบาศก์สตู ร F3-1 และ F3-3 หลังเผา
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 39
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลองเบื้องต้น : ขั้นตอนที่ 2 – การผลิตแก้วโฟม
ผลการทดลองขึ้นรูปชิ้นงานแก้วโฟมทรงลูกบาศก์และชิ้นงานแผ่นขนาดหน้าตัด 80 mm x 80 mm
2) การอัดขึ้นรูปทรงลูกบาศก์ เผาและตรวจสอบสมบัติชิ้นงาน
3. การศึกษาทดลองรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
3.5 ผลการทดลองเบื้องต้น : ขั้นตอนที่ 2 – การผลิตแก้วโฟม
ผลการทดลองขึ้นรูปชิ้นงานแก้วโฟมทรงลูกบาศก์และชิ้นงานแผ่นขนาดหน้าตัด 80 mm x 80 mm
2) การอัดขึ้นรูปแผ่น เผาและตรวจสอบสมบัติชิ้นงาน
- ชิ้นงานสูตร F3-3 แบบแผ่นขนาดหลังเผาประมาณเท่าฝ่ามือ มีลกั ษณะรูพรุนขนาดใหญ่และเป็นทรงกลมมากกว่าสูตร F3-1
เนื่องจากเติม CaCO3 และแกรไฟต์ในปริมาณที่มากกว่า รวมถึงเติมบอแร็กซ์ซึ่งช่วยลดอุณหภูมกิ ารกลายเป็นแก้ว (glass transition
temperature, Tg)
4. องค์ความรู้การรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
4.2 เครื่องมือและอุปกรณ์
อุปกรณ์และเครื่องมือหลักที่เกี่ยวข้องกับการผลิตแก้วโฟมจากของเสียหน้าจอแอลซีดี ได้แก่
- ค้อนทุบ, เครื่องบดหยาบ
- ชุดอุปกรณ์เครื่องแก้วทดลองที่ใช้กับสารเคมี
เครื่องมือวิเคราะห์และทดสอบ ได้แก่
- เครื่องชั่งน้ําหนัก 2 ตําแหน่ง
- ชุดเครื่องมือวัดความหนาแน่น
- เครื่องมือวัดขนาดเวอร์เนียคาลิปเปอร์
- ชุดเครื่องมือทดสอบความแข็งแรงอัด
- ชุดภาชนะเหล็กกล้าไร้สนิมสําหรับผสมผง และที่กวนผสม (spatula)
- อุปกรณ์ป้องกันเกี่ยวกับความปลอดภัยต่าง ๆ
- ชุดหม้อบดผสม (ball mill mixing) พร้อมรางบด
เช่น ถุงมือ หน้ากาก แว่นตา เป็นต้น
- ชุดหม้อบดลดขนาด (ball milling) พร้อมรางบด
- เครื่องวิเคราะห์ส่วนผสมทางเคมี เฟสและ
- ชุดตะแกรงกรองขนาด 150 (100 mesh) และ 75 ไมครอน (200 mesh)
องค์ประกอบ (หากจําเป็น) เช่น XRD และ
- เครื่องมือตัดชิ้นงาน ใบมีดตัด diamond wheel
XRF เป็นต้น
- ชุดแม่พิมพ์อัดเหล็กกล้าไร้สนิม
- เครื่องมือวิเคราะห์โครงสร้างและเฟส เช่น
- เครื่องมืออัดขึ้นรูปผง
SEM + EDS
- เตาเผาอุณหภูมิสูง 1400 องศาเซลเซียส พร้อมเครื่องมือวัดอุณหภูมิ
- ชุดกล้องสเตอริโอพร้อมซอฟแวร์วเิ คราะห์ภาพ
- ถาดเผาที่อุณหภูมิสูง เช่น alumina, cordierite saggar
- อุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ถุงมือกันความร้อน ทนสารเคมี แว่นตา ฯลฯ
- ชุดเครื่องมือทําความสะอาดด้วยอัลตร้าโซนิก
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 44
4. องค์ความรู้การรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
4.3 ขั้นตอนและวิธีการ
4. องค์ความรู้การรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
4.3 ขั้นตอนและวิธีการ
1) การถอดแยกประกอบของเสียหน้าจอแอลซีดี
องค์ประกอบหลัก
- หน้าจอแอลซีดี 10 %
- แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ 8%
- แผ่นโลหะ 40 %
- สายไฟและอุปกรณ์พ่วง 0.3 %
- สกรู 0.5 %
- โครงสร้างหน้าจอพลาสติก 20 %
- แผ่นพอลิเมอร์จากหน้าจอแอลซีดี 21 %
- หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ 0.2 %
4. องค์ความรู้การรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
4.4 ผลิตภัณฑ์และการนําไปใช้ประโยชน์
ผลิตภัณฑ์แก้วโฟมที่ได้จากการรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี สามารถใช้เป็นวัสดุทนความร้อนได้ดีและมีความแข็งแรงอัดที่ดี สําหรับงานภายในและ
ภายนอกอาคาร (indoor/outdoor installations)
มาตรฐาน ASTM 552-22 Standard specification for cellular glass thermal insulation [11]
4.5 ของเสียและการจัดการของเสียที่เกิดจากกระบวนการรีไซเคิล
ของเสียจากกระบวนการผลิตแก้วโฟมมีดังต่อไปนี้
- เศษชิ้นงานที่เหลือจากการตัดสามารถนําไปบดลดขนาด ใช้เติมผสมลงในส่วนผสมเริ่มต้นได้
- เศษฟิล์มค้างตะแกรงกรองหลังบดผสมซึ่งมีปริมาณน้อย (0.45 %) รวมถึงเศษแผ่นฟิล์มพอลิเมอร์ที่แยกออกจากหน้าจอแอลซีดี
สามารถเผากําจัดทิ้งในเตาเผาที่มีระบบควบคุมมลพิษ
- โครงสร้างหน้าจอพลาสติกสามารถนํามาบดละเอียดแปรรูปเป็นวัสดุเติมเต็มในการนํามารีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น เก้าอี้
กรอบรูป หรือส่งกําจัด
5. การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
5.0 เกณฑ์พิจารณา
-- ของเสียหน้าจอแอลซีดีเริ่มต้น 1,000 kg ถอดแยกประกอบได้
แผ่นแอลซีดี 100 kg นํามาผลิตเป็นโฟมแก้ว ได้น้ําหนัก 93 kg
คิดเป็น 0.596 m3 ที่ความหนาแน่น 0.156 g/cm3
ดังนั้นหากคิดปริมาณของเสียหน้าจอ TV, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
ปีละ 4,000 ตัน โดยคิดและคิดเป็นน้ําหนักหน้าจอแอลซีดีร้อยละ
10 ต่อเครื่อง จะมีน้ําหนักของจอแอลซีดี 400,000 kg/ปี และ
หากสามารถรวบรวมของเสียได้ 50% จะสามารถนํามาเข้าสู่
กระบวนการรีไซเคิลได้ 200,000 kg/ปี
จากสมดุลวัสดุ เริ่มต้นจากน้ําหนักหน้าจอแอลซีดี 100 kg จะ
ผลิตแก้วโฟมได้ 93 kg ดังนั้น ใน 1 ปีจะสามารถผลิตแก้วโฟมได้
186,000 kg (ปริมาตร 1,192.31 m3 @ 0.156 g/cm3)
และหากพิจารณาราคาขายแก้วโฟมที่ 13,396.18 THB/m3
(238-500 USD/m3 หรือที่ค่าเฉลี่ย 369 USD/m3 อ้างอิง:
www.made-in-china.com)
ณ อัตราแลกเปลี่ยน 36.3 THB/USD ณ วันที่ 15 กันยายน 2565)
คิดเป็นเงิน 15,972,399 บาท/ปี (1.331 ล้านบาท/เดือน)
โครงการส่งเสริมและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และพิษณุโลก 50
5. การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
5.1 เงินลงทุนในสินทรัพย์ ตาราง: เงินลงทุนในสินทรัพย์ (เครื่องมือ)
ราคาต่อหน่วย ราคา มูลค่าซาก
- ค่าปรับพื้นที่ ค่าก่อสร้างอาคารโรงงาน ระบบไฟฟ้า-น้ําประปา ลําดับ รายการ หน่วย
(บาท/หน่วย) (บาท) (บาท)
ระบบรักษาความปลอดภัย ฯลฯ โดยกําหนดให้โครงสร้างอาคาร 1 ชุดเครื่องมือถอดแยกประกอบ 2 30,000 60,000 6,000
2 เตาเผา 1000ºC พร้อมอุปกรณ์บําบัดอากาศ 1 480,000 480,000 48,000
มีพื้นที่ 200 ตารางเมตร และโครงสร้างสําหรับเก็บวัตถุดิบ และ 3 ชุดเครื่องมือบดลดขนาด 1 330,000 330,000 33,000
ผลิตภัณฑ์มีพื้นที่ 300 ตารางเมตร รวมเป็นเงิน 1,000,000 บาท 4 ชุดหม้อบดบอลมิล 200 กิโลกรัม 3 186,000 558,000 55,800
5 ชุดเครื่องกรองแบบเปียก 2 4,000 8,000 800
(ไม่รวมค่าที่ดิน) 6 เครื่องอบทําผงแห้งแบบพ่นฝอย (Spray Dryer) 2 1,000,000 2,000,000 200,000
- ค่าเครื่องจักร วัสดุ อุปกรณ์ สําหรับการรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี 7 ชุดเครื่องกวนแบบให้ความร้อน 200 ลิตร 1 70,000 70,000 7,000
8 เครื่องอัดแบบแผ่น 1 3,000,000 3,000,000 300,000
จํานวน 200 ตันต่อปี มีการลงทุนครั้งแรกเป็นจํานวนทั้งสิ้น 9 เตาเผาเซรามิก Roller 1400ºC 1 1,900,000 1,900,000 190,000
10,366,000 บาท 10 เครื่องตัดชิ้นงาน 2 125,000 250,000 25,000
- มีมูลค่าซากเมื่อสิ้นปีที่ 10 เป็นจํานวนทั้งสิ้น 911,600 บาท 11 เครื่องชั่งน้ําหนัก 300 kg 2 3,000 6,000 600
12 เครื่องชั่งน้ําหนัก 2 ตําแหน่ง 1 3,000 3,000 300
13 เครื่องมือวัดขนาด เช่น digital Vernia 2 5,500 11,000 1,100
14 เครื่องมือทดสอบแรงอัด 1 160,000 160,000 16,000
15 เครื่องมือทดสอบการนําความร้อน 1 280,000 280,000 28,000
ค่าปรับพื้นที่ ค่าก่อสร้างอาคารโรงงาน ระบบไฟฟ้า-
16 1 1,000,000 1,000,000 -
น้ําประปา ระบบรักษาความปลอดภัย ฯลฯ
17 งบในการบํารุงรักษาเครื่องมือเครือ่ งจักร 1 250,000 250,000 -
18 อื่น ๆ - 800,000 - -
รวมเงินลงทุนในสินทรัพย์ 10,366,000 911,600
5. การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
5.2 ค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิตและบุคลากร
ตาราง: ค่าใช้จ่ายบุคลากร
- ค่าใช้จ่ายในด้านบุคลากรคิดเป็นเงิน 113,500 บาท
ต่อเดือน หรือคิดเป็นเงิน 1,362,000 บาทปี ค่าใช้จ่ายรายเดือน ค่าใช้จ่ายรายปี
รายการ จํานวน
รายละเอียดของบุคลากรแต่ละตําแหน่งแสดงใน (บาท/เดือน) (บาท/ปี)
ตาราง เงินเดือนพนักงาน
- ผู้จัดการ/หัวหน้างาน 2 60,000 720,000
- พนักงาน 3 45,000 540,000
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
- ค่าใช้จ่ายสํานักงาน 1 1,500 18,000
- ค่าเดินทาง/ขนส่ง 1 3,500 42,000
- อื่น ๆ 1 3,500 42,000
เงินเดือนพนักงานและค่าใช้จ่ายสํานักงาน 113,500 1,362,000
5. การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
5.4 รายได้และค่าตอบแทน
รายได้ทางตรงจากการขายผลิตภัณฑ์แก้วโฟมราคา 13,396.18 บาทต่อลูกบาศก์เมตร มีรายได้รวม 15,972,399 บาท/ปี
นอกจากนี้ สามารถขายเศษแผ่นเหล็กและสกรู ราคา 2 บาทต่อกิโลกรัม และแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ราคา 225 บาทต่อ
กิโลกรัม ซึ่งจะมีรายได้รวม 19,734,399 บาท/ปี (1.331 ล้านบาท/เดือน) อีกทั้งยังมีรายได้ รายได้จากผลตอบแทนทางอ้อม
จากมูลค่าซาก ณ สิ้นปีที่ 10 ของการผลิตอีก 911,600 บาท
ตาราง : ผลตอบแทนทางตรง
ปริมาณ ราคา
(ลบ.ม/ปี ) (บาท/ลบ.ม) รายได้
ลําดับ รายการ
หรือ หรือ (บาท/ปี )
(กิโลกรัม/ปี) (บาท/kg)
1 โฟมแก้ว ความหนาแน่น~0.156 g/cm3 1,192.31 13,396 15,972,399
2 เหล็กแผ่น+สกรู 81,000 2 162,000
3 แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ 16,000 225 3,600,000
รายได้รวม (บาท/ปี) 19,734,399
5. การประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นในการรีไซเคิลหน้าจอแอลซีดี
5.5 ผลการวิเคราะห์ในเชิงเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
ตาราง: รายละเอียดการวิเคราะห์จุดคุ้มทุนและผลตอบแทนที่ได้จากโครงการกรณีการวิเคราะห์ผลตอบแทนแบบปกติ
Year Year Year Year Year Year Year Year Year Year
Analysis Total
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
Revenue 19,734,184.76 19,734,184.76 19,734,184.76 19,734,184.76 19,734,184.76 19,734,184.76 19,734,184.76 19,734,184.76 19,734,184.76 20,645,784.76 198,253,447.60
Expense + Tax 20,166,480.43 12,910,280.43 12,910,280.43 12,910,280.43 12,910,280.43 12,910,280.43 12,910,280.43 12,910,280.43 12,910,280.43 13,183,760.43 136,632,484.28
Accumulated profit -432,295.67 6,823,904.33 6,823,904.33 6,823,904.33 6,823,904.33 6,823,904.33 6,823,904.33 6,823,904.33 6,823,904.33 7,462,024.33 61,620,963.32
Discount Rate 2% 0.98 0.96 0.94 0.92 0.91 0.89 0.87 0.85 0.84 0.82 8.98
Expense*Discount
19,771,059.24 12,408,958.50 12,165,645.59 11,927,103.52 11,693,238.75 11,463,959.56 11,239,176.04 11,018,800.03 10,802,745.13 10,815,275.45 123,305,961.82
Rate
Revenue*Discount
19,347,239.96 18,967,882.31 18,595,963.05 18,231,336.33 17,873,859.14 17,523,391.32 17,179,795.41 16,842,936.68 16,512,683.02 16,936,734.43 178,011,821.65
Rate
NPV PWF 6% 0.94 0.89 0.84 0.79 0.75 0.70 0.67 0.63 0.59 0.56 7.36
NPV 2% -407,826.10 6,073,250.56 5,729,481.66 5,405,171.38 5,099,218.28 4,810,583.29 4,538,286.12 4,281,402.00 4,039,058.49 4,166,755.41 43,735,381.09
PWF 99% 0.50 0.25 0.13 0.06 0.03 0.02 0.01 0.00 0.00 0.00 1.01
NPV 99% -217,234.00 1,723,164.65 865,911.88 435,131.60 218,659.10 109,878.94 55,215.55 27,746.51 13,942.97 7,661.71 3,240,078.91
PVB/PVC 1.44
Internal rate of return
106.92
(IRR)
เอกสารอ้างอิง
[1] S. Salhofer, et. al., Recycling of LCD screen in Europe – state of the art and challenges, 18th CIRP International Conference on Life Cycle Engineering,
Braunschweig, 2011.
[2] รายงานการวิจัย “โครงการการวิจัยเพื่อศึกษาวิเคราะห์ผังการไหล และจัดทําระบบฐานข้อมูลการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และของเสียอันตรายชุมชนในประเทศ
ไทย” โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย, 2563.
[3] กฤษฎา ศุภวรรธนะกุล, ขยะมือถือเข้าระบบแค่หมื่นเครื่อง ระบุอีกเกือบ 10 ล้านยังทิ้งเกลื่อน ชี้ไม่ตั้งรง.เพราะไม่มีกม.รองรับ, ศูนย์ข่าว TCIJ 6 มีนาคม 2556.
[4] https://www.xenarc.com/lcd-technology.html
[5] https://en.wikipedia.org/wiki/Liquid-crystal_display
[6] K. Kim and K. Kim, Valuable recycling of waste glass generated from liquid crystal display panel industry, Journal of Cleaner Production, vol.174, p.191-198, 2018.
[7] M. Buzatu and N.B. Milea, Recycling the liquid crystal displays, U.P.B. Sci. Bull, Series B, vol.70 (4), 2008.
[8] M. Assefi, et. al., High strength glass foams recycled from LCD waste screens for insulation application, Journal of Cleaner Production, vol.280, 124311, 2021.
[9] K. Kim and K. Kim, Recycling of waste glass generated from end-of-life LCD devices: A feasibility study using simulated waste glass, Journal of Cleaner Production,
227 (2019, p.199-206.
[10] ข้อกําหนดเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุฉนวนความร้อน มอก
[11] ASTM C552 Standard Specification for Cellular Glass Thermal Insulation.
[12] FOAMGLAS® Insulation System Specification - General Guidelines for FOAMGLAS® Insulation, Pittsburgh Corning, I-GENERAL-PI-EQ 10/2016.
[13] M.A. Ali, Granulated foamed glass, Advanced building Materials.
[14] Y. Liu, et. al., Study of factors affecting properties of foam glass made from waste glass, Journal of Renewable Materials, DOI:10.32604/jrm.2021.012228.
[15] D.U. Tulyaganov, et. al., Preparation and characterization of high compressive strength foams from sheet glass, Journal of Porous Materials, 13. P.133-139, 2006.
[16] Product data sheet/FOAMGLAS® ONETM, Industrial pipe and & equipment insulation, ASTM C552 Grade 6, September 2020.