You are on page 1of 4

ชื#อ...........พิ ชญา................นามสกุล.............กุมารสิ ทธิ/ ........................รหัสนักศึกษา...........01232024506...........

กลุม่ ที#เรี ยน .............W (ศุกร์ เช้ า)................คณะ.........วิ ศวกรรมศาสตร์........ภาควิชา......วิ ศวกรรมเครื>องกล


..........
1.จากกรณีข่าวที+แม่ P อายุ 29 ปีก่ อเหตุวางยาลูก 2 คน คือ น้ อง A และน้ อง B เพื+อหวังเงินบริจาค
จนน้ อง Aเสียชีวติ ส่ วนน้ อง B มีปัญหาทางสุขภาพอย่ างรุ นแรง ซึ+งพบอีกว่ า น้ อง A ไม่ ใช่ ลูกแท้ ๆ ของแม่ P
อีกด้ วยนันL นอกจากนี L เมื+อตํารวจกองปราบตรวจสอบบัญชีช่วยเหลือน้ องอมยิมL พบว่ า มีเงินบริจาคไหลเข้ า
10 ล้ านบาท และมีเงินหมุนเวียน 20 ล้ านบาท

ประเด็นข่ าวที+เกิดขึนL ในฐานะที+นักศึกษาเรี ยนวิธีการวิเคราะห์ ข้อมูลแล้ ว นักศึกษาสามารถนํามาใช้ ใน


การวิเคราะห์ ข้อมูลเกี+ยวกับการรั บบริจาคออนไลน์ ได้ อย่ างไร ( 2 คะแนน)
1. การวิเคราะห์ ข้อมูลเรื+ องความน่ าเชื+อถือการบริจาคออนไลน์
สามารถวิเคราะห์ความน่าเชือ1 ถือได้จากการสืบค้นข้อมูลเพิม1 เติมเกีย1 วกับแม่ P และลูก โดย 1. การหาข้อมูลทาง
อินเตอร์เน็ต เพือ1 ดูวา่ แม่ P มีประวัตเิ กีย1 วกับการบริจาคทีผ1 ดิ ปกติมาก่อนหรือไม่ ซึง1 ในกรณีนPีพบว่าแม่ P ขอรับ
บริจาคในลักษณะเดียวกันมาแล้วสมัยลูกคนแรกหรือน้อง A ซึง1 เป็ นการกระทําทีน1 ่าสงสัย ใช้ประกอบการตัดสิน
ความน่าเชือ1 ถือของการกระทํานัไP ด้ 2.สอบถามโรงพยาบาลทีน1 ้อง B กําลังทําการรักษา เพือ1 ยืนยันข้อมูลว่าน้อง B
ได้เข้ารับการรักษาจริงหรือไม่ มีอาการรุนแรงตามทีแ1 ม่ของน้องได้ประกาศผ่านโลกออนไลน์หรือไม่ และค่าใช้จา่ ย
สูงหรือไม่ เพือ1 เป็ นการยืนยันว่าเหตุการณ์นPีได้เกิดขึนP จริง 3. โทรไปสอบถามโดยตรงกับแม่ P เพือ1 ยืนยันว่า
ประสบปั ญหาอยูจ่ ริงๆ หากพบอาการทีน1 ่าสงสัย เช่นพูดวกไปวนมา หรือให้ขอ้ มูลทีผ1 ดิ ไปจากทีไ1 ด้ประกาศในโลก
โซเชีย1 ล ก็สามารถตัดสินใจได้วา่ แม่น้อง P มีพฤติกรรมน่าสงสัยและเราสามารถแจ้งกับโรงพยาบาลหรือตํารวจให้
ช่วยสืบประวัตเิ พิม1 เติมได้ เช่นในกรณีขา่ วนีP แม่ P มัประวัตกิ บั ทางโณงพยาบาลคือเคยพาน้อง A มารักษาด้วย
อาการคล้ายกัน และมีประวัตกิ บั ทางตํารวจคือ แม่ P เคยเปลีย1 นชือ1 ถึง 7 ครังP ซึง1 เป็ นข้อมูลทีใ1 ช้ตดั สินความ
น่าเชือ1 ถือของข่าวได้อกี ทังP เป็ นประโยชน์ในการสืบสวนอีกด้วย
การเสนอแนะวิธีการป้ องกันการหลอกลวงเรื+ องการบริจาคออนไลน์

1. ช่วยกันเปลีย1 นกระแสสังคมโดยการ หยุด “บริจาค” ผ่านบัญชีสว่ นตัวของใครก็แล้วแต่ทก1ี าํ ลังตกทุกข์ได้ยาก


เพราะคนไทยมีสทิ ธิ 30 บาทรักษาทุกโรค ถ้าค่าใช้จา่ ยไม่พอจริงๆ เคสในลักษณะนีPจะถูกส่งต่อพบนักสังคม
สงเคราะห์ของทางโรงพยาบาลเพือ1 ประเมินวินิจฉัยปั ญหาทางสังคมต่อไป หรือติดต่อศูนย์ชว่ ยเหลือสังคมของ
ภาครัฐโดยโทรเบอร์ 1300
2. เมือ1 การโพสต์ในสือ1 ออนไลน์เพือ1 ขอรับบริจาค ซึง1 ก่อนจะบริจาคให้การช่วยเหลือใดๆควรตรวจสอบข้อมูลจาก
หน่วยงานทีเ1 กีย1 วข้องว่าไม่ใช่เป็ นการหลอกลวง ในกรณีนPีเป็ นโรงพยาบาล เป็ นต้น
3. หน่วยงานภาครัฐควรมีระบบการรับแจ้งจากประชาชนเกีย1 วกับการขอรับบริจาค เรีย1 ไรต่างๆ ทังP ผ่านทางระบบ
ออนไลน์ และการแจ้งข้อมูลโดยตรง เพือ1 เป็ นการทํางานเชิงรุกทังP การสืบสวน ตรวจสอบ ป้ องกันมิจฉาชีพที1
แฝงตัวมาขอรับบริจาคต่างๆ โดยการประสานงาน บูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานทีเ1 กีย1 วข้องอย่างจริงจัง ย่อม
เป็ นการป้ องกันเหตุก่อนทีจ1 ะมีการหลอกลวงคนจํานวนมาก เช่น ขอรับบริจาคเพือ1 ช่วยเหลือผูต้ กทุกข์ได้ยาก
หรือแม้กระทังสั
1 ตว์เลียP งอย่างสุนขั แมว
4. หน่วยงานทีเ1 กีย1 วข้องกับทางทะเบียนราษฎรควรตรวจสอบข้อมูล และประสานการปฏิบตั กิ บั หน่วยงานตํารวจ
หากพบพิรธุ คนทีม1 าเปลีย1 นชือ1 มากถึง 7 ครังP อย่างกรณีแม่ปกุ๊ เพือ1 ให้ตรวจสอบถึงความผิดปกติทเ1ี กิดขึนP
หรือสืบสวนตรวจสอบความเคลือ1 นไหวต่างๆ เช่น ความเคลือ1 นไหวทางการเงิน บัญชีธนาคาร ความร่วมมือ
ระหว่างหน่วยงานทีเ1 กีย1 วข้องจึงมีความสําคัญอย่างยิง1 เพือ1 ไม่ให้คนร้ายไปก่อเหตุกบั เหยือ1 รายอืน1 ๆ ต่อไป
2.จงอ่ านบทความต่ อไปนี L ( 6 คะแนน)
วิกฤตการระบาดของโควิด-[\ ไม่ เพียงแต่ นํามาซึ+งความสูญเสียชีวติ ของผู้คนทั+วโลกเท่ านันL แต่ ยังทํา
ให้ ประเด็นด้ านสังคมอย่ าง “การเหยียดเชือL ชาติ” กลับมาเป็ นสนใจอีกครั งL เมื+อเกิดกรณีท+ ชี าวเอเชียในประเทศ
ตะวันตกหลายคนต้ องเผชิญการถูกทําร้ ายทังL ทางร่ างกายและคําพูด เพียงเพราะพวกเขาเป็ นชาวเอเชีย เพราะ
ชาวตะวันตกหลายคนมองว่ าเอเชีย หรื อจีน คือต้ นกําเนิดของเชือL โคโรนาไวรั สสายพันธุ์ใหม่ เช่ นในกรณีของ
นักศึกษาเชือL สายจีน ที+ถกู กลุ่มชายรุ มทําร้ ายในกรุ งลอนดอน ในช่ วงกลางวันแสกๆ
บทความในเว็บไซต์ เดอะ การ์ เดียน ได้ สาํ เสนอข้ อมูลจากมุมมองของชาวเอเชียที+เคยเผชิญปั ญหานี L
และผู้เชี+ยวชาญที+เสนอความคิดเห็นว่ า ปั ญหาการเหยียดชาวเอเชียเกิดขึนL มานานมากกว่ าที+เราคิด
เมื+อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ในระหว่ างการเดินทางด้ วยเครื+ องบิน “โรซาลินด์ โจว” เห็นผู้หญิงคนหนึ+งที+
นั+งแถวด้ านหน้ าของเธอ และยกโทรศัพท์ ขนึ L สูงคล้ ายกับกําลังถ่ ายภาพเซลฟี+ เธอถ่ ายรู ปและส่ งไปให้ เพื+อน ซึ+ง
ตอบกลับมาว่ า “ผู้หญิงคนนันL เป็ นคนจีนใช่ ไหม” ใกล้ กับเธอเป็ นชายคนหนึ+งซึ+งทราบในภายหลังว่ าเป็ นชาว
อเมริกันเชือL สายเกาหลี และผู้หญิงที+น+ ังข้ างเขาก็ดเู หมือนเป็ นชาวเอเชีย หญิงคนนันL ตอบเพื+อนว่ า “มีชาวเอเชีย
มากมาย ภาวนาให้ ฉันด้ วย”
จากประสบการณ์ ท+ ผี ่ านมา ทําให้ โจวรู้ ว่านี+ไม่ ใช่ เรื+ องผิดปกติ เพราะในสหรั ฐฯ ชาวอเมริกันเชือL สายจีน
และชาวเอเชียชาติอ+ ืนๆ ต่ างต้ องใช้ ชีวติ อยู่ด้วยความหวาดกลัว ท่ ามกลางปั ญหาความมีอคติทางเชือL ชาติ และ
การระบาดของไสรั สโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที+ถกู มองว่ านี+คือความผิดของจีน และกระแสความมีอคตินียL + งิ ลุกโหม
รุ นแรงขึนL หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรั มป์ และที+ปรึกษาของเขา ยืนยันที+จะเรี ยกไวรั สชนิดนีวL ่ า “ไวรั สจีน”
โรซาลินด์ โจว รองศาสตราจารย์ ด้านสังคมวิทยาประจํามหาวิทยาลัยจอร์ เจีย สเตท กล่ าวว่ า นี+ย+ งิ ทํา
ให้ กระแสความมีอคติแพร่ กระจายมากขึนL “ความกลัวของฉันคือการไอในที+สาธารณะ การไอและการเป็ นคน
เอเชีย และปฏิกริ ิยาการแสดงออกของคนอื+น” ในช่ วงไม่ ก+ ีสัปดาห์ ท+ ผี ่ านมา เกิดกรณีการเหยียดเชือL ชาติ
บ่ อยครั งL ขึนL รวมถึงการแสดงความเห็นต่ อชาวอเมริกันเชือL สายเอเชียที+ผูกโยงกับความกลัวเชือL ไวรั ส
เมื+อสัปดาห์ ท+ แี ล้ ว ผู้นําสหรั ฐฯ ได้ เรี ยกโรคโควิด-19 แทนด้ วยคําว่ า “ไวรั สจีน” โดยทวีตข้ อความเมื+อ
วันที+ 16 มี.ค. ว่ า “สหรั ฐฯ จะให้ การสนับสนุนอุตสาหกรรมต่ างๆ อย่ างแข็งขัน เช่ น ธุรกิจสายการบินและอื+นๆ
ซึ+งล้ วนแต่ ได้ รับผลกระทบจากไวรั สจีน เราจะแข็งแกร่ งขึนL กว่ าที+เคยเป็ น” ซึ+งนี+ถอื เป็ นครั งL แรกที+ทรั มป์ อ้ างถึง
โรคนีวL ่ า “ไวรั สจีน” ทางออนไลน์
การใช้ ถ้อยความของทรั มป์ ได้ สร้ างเสียงวิพากษ์ วจิ ารณ์ อย่ างหนัก เช่ นจาก เจเรมี หลิน นักบาสเก็ต
บอลอาชีพชาวอเมริกันเชือL สายจีน ที+บอกกับทรั มป์ ทางทวิตเตอร์ ว่า เขาควรให้ การช่ วยเหลือคนที+คนที+ต้อง
เผชิญกับปั ญหาต่ างๆ เช่ นคนที+ได้ รับผลกระทบจากการเหยียดเชือL ชาติท+ เี กิดจากการใช้ คาํ พูดของเขา ด้ าน
เซเลสต์ อึงL นักเขียนชาวอเมริกันเชือL สายจีน ทวีตข้ อความว่ า ชาวเอเชียทั+วโลกกําลังเผชิญการถูกคุกคาม
เพราะคนที+ยังยืนยันที+จะเรี ยกโรคนีวL ่ าไวรั สจีน
อย่ างไรก็ดี ในการแถลงข่ าวเมื+อวันที+ 23 มี.ค. ทรั มป์ ยืนยันว่ าการใช้ คาํ ดังกล่ าวไม่ ได้ เป็ นการเหยียด
เชือL ชาติ “สาเหตุกเ็ พราะมันมาจากจีน เขาแค่ ต้องการให้ มันถูกต้ อง” ทรั มป์ ยังได้ รับการสนับสนุนจาก
นักการเมืองในพรรครี พบั ลิกัน โดยนายจอห์ น คอร์ นิน วุฒสิ มาชิกจากรั ฐเท็กซัส ที+กล่ าวปกป้ องผู้นําสหรั ฐฯ ว่ า
“นี+เป็ นความผิดของจีน เพราะมีวัฒนธรรมการกินค้ างคาว งู สุนัข และสัตว์ แปลกๆ จีนจึงเป็ นแหล่ งรวมของ
ไวรั สหลายชนิด” หลังผู้ส+ ือข่ าวถามว่ าชื+อดังกล่ าวเหมาะสมหรื อไม่ การตังL ชื+อของผู้นําสหรั ฐฯ เกิดขึนL หลาย
สัปดาห์ หลังเกิดกรณีการทําร้ ายชาวอเมริกันเชือL สายเอเชียหลายครั งL โดยเมื+อต้ นเดือนกุมภาพันธ์ หญิงชาว
เอเชียในนครนิวยอร์ ก ซึ+งสวมหน้ ากากอนามัย ถูกทําร้ ายและถูกเรี ยกว่ า “เชือL โรค” จากคนแปลกหน้ าในสถานี
รถไฟใต้ ดนิ ส่ วนที+นครลอสแองเจลิส ชายคนหนึ+งด่ าโดยใช้ ถ้อยคําเหยียดเชือL ชาติเพื+อนร่ วมขบวนรถไฟใต้ ดนิ
ซึ+งเป็ นชาวเอเชีย เกี+ยวกับโควิด-19
ส่ วนครอบครั วหนึ+งในเมืองเฟรสโน รั ฐแคลิฟอร์ เนีย ถูกมือดีพ่นสีสเปรย์ รถยนต์ ด้วยคําว่ า “ไปต**ซะ
พวกเอเชีย และโคโรนาไวรั ส” ส่ วนนักเรี ยนชันL มัธยมในแคลิฟอร์ เนียคนหนึ+ง ได้ รับแจ้ งจากครู ให้ ไปห้ อง
พยาบาลหลังจากที+เขาไอ แม้ เขาจะยืนยันว่ าเขาไอเพราะสําลักนําL และไม่ ได้ ป่วย และเมื+อถามครู ว่าทําไมจึงไม่
บอกให้ นักเรี ยนคนอื+นที+ไม่ ใช่ ชาวเอเชียไปห้ องพยาบาลหลังจากไอ ครู ตอบว่ า “ช่ างมันเถอะ” เกรกก์ ออร์ ตนั
ผู้อาํ นวยการสมาคมเอเชียแปซิฟิกแห่ งอเมริกา (NCAPA) กล่ าวว่ า เหตุการณ์ ลักษณะดังกล่ าวที+เริ+มมีความถี+
มากขึนL เป็ นสิ+งที+เราต้ องรั บมืออย่ างจริงจัง การหาแพะรั บบาปด้ วยการเหยียดเชือL ชาติ เป็ นสิ+งที+อยู่ตรงข้ ามกับ
การตอบสนองที+เราต้ องการเห็นจากผู้นําประเทศ
NCAPA ทําหน้ าที+เป็ นแกนนําขององค์ กรด้ านสิทธิพลเมืองกว่ า 260 แห่ ง ในการยื+นคําร้ องต่ อสภาคอง
เกรส เพื+อประณามการเหยียดเชือL ชาติชาวเอเชียที+เกี+ยวข้ องกับโควิด-19 ต่ อมากลุ่มสมาชิกคองเกรสเชือL สาย
เอเชีย ได้ ย+ ืนจดหมายไปยังสมาชิกคองเกรสคนอื+นๆ เพื+อเรี ยกร้ องให้ พวกเขาเผยแพร่ ข้อมูลเกี+ยวกับการระบาด
ที+ถกู ต้ อง โดยเฉพาะความเข้ าใจที+ผิดเกี+ยวกับประเทศต้ นกําเนิดและการแพร่ กระจายของไวรั ส
นักวิชาการด้ านประวัตศิ าสตร์ เอเชีย-อเมริกัน ชีวL ่ า ได้ เกิดกระแสการเลือกปฏิบตั ชิ าวเอเชียในสหรั ฐฯ
มาอย่ างยาวนาน ที+นําไปสู่การทําร้ ายชาวอเมริกันเชือL สายเอเชีย ที+เกี+ยวข้ องกับการระบาดของไวรั ส แคลร์ จีน
คิม ศาสตราจารย์ ด้านรั ฐศาสตร์ และเอเชียอเมริกันศึกษา จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์ เนีย เออร์ ไวน์ กล่ าวว่ า
ในช่ วงแรกผู้อพยพชาวจีนถูกมองว่ าด้ อยคุณภาพ สกปรก และเต็มไปด้ วยโรคร้ าย เมื+อคนเหล่ านีเL ดินทางมายัง
อเมริกาเมื+อปี 1870 พวกเขาถูกมองว่ าเป็ นภัยต่ อกลุ่มแรงงานผิวขาว ซึ+งนําไปสู่การเหยียดสีผิว ทําร้ ายร่ างกาย
และเหยียดเชือL ชาติ ย่ านไชน่ าทาวน์ ถกู มองว่ าเป็ นแหล่ งสกปรกและเต็มไปด้ วยเชือL โรค หลายคนคิดว่ า “คนที+
ใช้ ภาษาแบบนีจL ะประสบความสําเร็จได้ อย่ างไร” เราถูกทําให้ เข้ าใจผิดๆ เกี+ยวกับสาเหตุของโรคระบาด วิธีการ
ป้ องกัน หรื อการลดความรุ นแรงของโรคในอนาคต ซึ+งสิ+งเหล่ านีคL ือสิ+งที+ควรมีการพูดถึงในอนาคต ซูซาน เบ
เนช จากศูนย์ เบิร์กแมน ไคลน์ เพื+ออินเตอร์ เน็ตและความปลอดภัย มหาวิทยาลัยฮาร์ วาร์ ด กล่ าวว่ า ยังมีผ้ ูนํา
ในอดีตอีกหลายคนที+พยายามป้ ายสีว่ากลุ่มคนนอกเหล่ านันL เป็ นเชือL โรค ซึ+งกระตุ้นให้ เกิดความกลัว และนํามา
ซึ+งความรุ นแรง เบเนช ให้ คาํ จํากัดความของคําว่ า “ถ้ อยแถลงอันตราย” ว่ าคือการใช้ ถ้อยคําชักจูงโน้ มน้ าวเพื+อ
ทําให้ คนกลุ่มหนึ+งกระทําด้ วยความรุ นแรงต่ อคนอีกกลุ่มหนึ+ง คําพูดที+ว่า “ชาวจีนไม่ มีสุขอนามัยและไร้
สุขลักษณะ” จึงเป็ นถ้ อยแถลงอันตรายที+เก่ าครํ+าครึ เพื+อใช้ ต่อต้ านชาวจีนในอเมริกา “ความเกลียดชังจึงไม่ ใช่
สิ+งที+เกิดขึนL จากถ้ อยแถลงอันตราย แต่ เป็ นความกลัว ความกลัวคือสิ+งที+ทาํ ให้ คนเราใช้ ความรุ นแรงต่ อคนอีก
กลุ่มหนึ+งมากกว่ าความเกลียดชัง และระดับของความกลัวที+เกี+ยวกับโรคระบาดครั งL นีกL ย็ + งิ ใหญ่ มาก”
ในขณะที+การระบาดในสหรั ฐฯ ยังคงไม่ มีทที ่ าว่ าจะสินL สุด กลุ่มเคลื+อนไหวชาวอเมริกันเชือL สายเอเชีย
ได้ เน้ นยําL ความสําคัญของการแสดงความคิดเห็นและเรี ยกร้ องในประเด็นที+เกี+ยวข้ องกับการเหยียดเชือL ชาติ
เมื+อสถานการณ์ เริ+มมีความปลอดภัยแล้ ว โจวกล่ าวว่ า เราจะเป็ นต้ องสร้ างความรู้ ความเข้ าใจให้ แก่ มนุษย์ ทกุ
คนในขณะนี L เพราะไวรั สไม่ สนใจว่ าเราจะมีเชือL ชาติและสีผิวใด
1. ความหมายของการเหยียดเรื+ องเชือL ชาติ ( 1 คะแนน)
การที#มนุษย์มองผู้อื#นตํ#าต้ อยกว่าตนด้ วยเหตุมาจากเชื Hอชาติที#ตา่ งกัน ทําให้ เกิดการดูถกู และการกีดกันสิทธิตา่ งๆ
รวมถึงการคุกคามทางคําพูด และทําร้ ายร่างกายอีกด้ วย
2. ยกตัวอย่ างของประวัตศิ าสตร์ เหตุการณ์ ท+ เี กี+ยวข้ องกับการเหยียดเชือL ชาติ ( 2 คะแนน)
"สวนสัตว์มนุษย์" (Human Zoo) มีชอ1ื เรียกอย่างสวยหรูวา่ "นิ ทรรศการชาติ พนั ธุ"์ ไม่มหี ลักฐาน
แน่ชดั นักว่าเริม1 ต้นแห่งใดเป็ นทีแ1 รก แต่กเ็ ริม1 มีขนPึ ในประเทศแถบตะวันตกนับตังP แต่ยคุ การค้นพบทวีปอเมริกา
ของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เป็ นต้นมา (ราว ค.ศ.1500s) อันเป็ นจุดเริม1 ต้นของการล่องเรือสํารวจและล่าอาณา
นิคม ก่อนจะกลายเป็ นทีน1 ิยมจัดแสดง "มนุษย์" กันอย่างครึกครืนP ในช่วงปี ค.ศ.1870s-1930s ส่วนใหญ่พบใน
ประเทศแถบตะวันตกทังP หลาย อาทิ เยอรมนี ฝรังเศส 1 อังกฤษ รวมทังP อเมริกา โดยนําชนพืนP เมืองทังP ผิวเหลือง
และผิวสี จากพืนP ทีห1 รือประเทศทีต1 วั เองรุกรานยึดครองไว้ได้ ทังP ชาวแอฟริกา บรรดานิโกร ชนพืนP เมืองเอเชีย
อาทิ ชาวเกาะชวา ชาวเกาะนิวกินี ฯลฯ ตลอดจนชนพืนP เมืองของอเมริกา มาแสดงโชว์
แม้จะจัดขึนP โดยอ้างจุดประสงค์ "เพื>อการศึกษา" แต่รปู แบบและวิธกี ารก็สะท้อนการเหยียดหยาม
ศักดิ sศรีความเป็ นมนุษย์ดว้ ยกันอย่างร้ายกาจ ราวกับพวกเขาเหล่านันP ไม่ใช่คน ด้วยการจับชาวพืนP เมืองใส่กรง
ทําคอกกันP ไม่ต่างจากขังสัตว์ใว้ให้คนดู ซึง1 เหล่าผูช้ มนันP ก็คอื บรรดาชาวตะวันตกหรือพวกคน "ผิวขาว" ทีม1 งุ ดู
คนที1 "แตกต่างจากพวกเขา" อย่างอยากรูอ้ ยากเห็น
หลายครังP ทีช1 าวพืนP เมืองถูกนํามาจัดแสดงในสภาพเปลือยล่อนจ้อนหรือมีอาภรณ์ปกปิ ดเพียงช่วงล่วง
อันยิง1 ทําให้เหล่าคนซึง1 เรียกตัวเองว่าผูเ้ จริญแล้ว มองคนเหล่านีPแตกต่างและอยูต่ 1าํ ต้อยกว่าตนเข้าไปใหญ่
ชาวตะวันตกในขณะนันP มองผูค้ นเหล่านีPวา่ เป็ นมนุษย์ทอ1ี ยูใ่ นช่วงระหว่างวิวฒ ั นาการจากมนุษย์ลงิ ก่อนจะ
กลายเป็ นมนุษย์สมบูรณ์แบบเยีย1 งพวกตนเท่านันP เอง

3. วิธีการรั บมือกับสถานการณ์ ดงั กล่ าว


กรณีเป็ นผู้ถกู กระทํา ( 0.5 คะแนน)
ไม่ตอบโต้และพยายามปลีกตัวออกมาจากบริเวณนันP เพราะการตอบโต้จะทําให้ผทู้ เ1ี หยียดเราพึงพอใจ และ
นันหมายถึ
1 งการเหยียดของเขาประสบความสําเร็จ อาจทําให้สถานการณ์รนุ แรงยิง1 ขึนP จนนํามาสูก่ ารทะเลาะ
วิวาทได้

กรณีเป็ นผู้เห็น หรื ออยู่ในเหตุการณ์ ( 0.5 คะแนน)


ถามเขาว่าทําไมถึงทําเช่นนันP เพือ1 ให้เขาได้แสดงทรรศนะทีม1 ตี ่อผูถ้ กู กระทํา เราจะได้สามารถสือ1 สารถึงสิทธิ
และความเท่าเทียมของมนุษย์ให้เขาทราบได้อย่างตรงจุด เพราะการทีบ1 ุคคลทีส1 ามยืน1 มือเข้าช่วยเป็ นสิง1 ทีท1 าํ
ให้ผทู้ ถ1ี กู เหยียดรูส้ กึ ว่ามีใครสักคนเห็นคุณค่าของเขา และทําให้ผพู้ ดู รูส้ กึ เสียความมันใจได้
1 ในระดับหนึ1งซึง1
โอกาสการเกิดทะเลาะวิวาทได้
4. จากสถานการณ์ ดงั กล่ าว นักศึกษาคิดว่ า เป็ นบทเรี ยนของมนุษยชาติได้ อย่ างไรบ้ าง และเราสามารถ
หาข้ อเสนอหรื อ Model วิธีการป้ องกันปั ญหาดังกล่ าวเพื+ออยู่ร่วมกันอย่ างปกติสุขได้ อย่ างไร (2
คะแนน)
ทางด้านเอเชียได้รบั บทเรียนคือ ภาพลักษณ์เป็ นสิง1 สําคัญมาก ดังนันP ควรทําแต่สงิ1 ทีด1 แี ละสร้างชือ1 เสียงทีด1 ใี ห้
ตนเองเสมอ ส่วนฝั ง1 อเมริกาและยุโรปได้รบั บทเรียนคือ การเหยียดนอกจากจะส่งเสริมให้เกิดความรุนแรงและ
ความเกลียดชังแล้วก็เป็ นสิง1 ทีไ1 ม่มปี ระโยชน์เลย เพราะไม่ได้ชว่ ยให้สถานการณ์โรคระบาดดีขนPึ แต่อย่างใด ซํPา
ยังทําให้เกิดความโกลาหลและความเสีย1 งในการติดเชือP เพิม1 จากการทะเลาะวิวาทอีกด้วย
Model ทีเ1 สนอได้แก่
1. การออกกฎหมายและบทลงโทษเกีย1 วกับการเหยียด ซึง1 มีโมเดลมาจากกฎหมายหมิน1 ประมาท เช่นหากมีผใู้ ด
ใช้คาํ พูดทีส1 อ1ื ถึงการเหยียดเชือ1 ชาติจะต้องได้รบั โทษตามสมควรแล้วแต่รายกรณี เป็ นต้น
2. ปลูกฝั งผูค้ นให้เข้าใจถึงความเท่าเทียมของมนุษย์ ไม่วา่ จะผ่านภาพยนต์ โฆษณา บทความออนไลน์ เพือ1 ให้
เกิดความเคลือ1 นไหวทางสังคม (Social movement) คนได้ตระหนักถึงความสําคัญของการเคารพสิทธิของ
ผูอ้ น1ื ซึง1 การเหยียดเป็ นการริดรอนสิทธิอกี อย่างหนึ1ง
3. สือ1 ต่างๆหลีกเลีย1 งการใช้คาํ ทีส1 อ1ื ถึงการเหยียดเช่น แทนคนจีนด้วยคําว่าเจ๊ก การใช้คาํ ว่าสินค้าจีนแดง เป็ นต้น
เพือ1 ไม่ให้คาํ พูดเหล่านีPกลายเป็ นคําพูดปกติ (normalize) ในชีวติ ประจําวัน

You might also like