Professional Documents
Culture Documents
2547
2. กรอบอัตราพนักงานราชการทีลูกจ้างประจาถือครองอยู่สามารถนาไปของบประมาณมาจ้างพนักงาน
ราชการได้หรือไม่
ตอบ ไม่ได้ จนกว่าลูกจ้างประจานั้นจะเกษียณ ตาย หรือลาออก
3. อัตราตามภารกิจเร่งด่วน จะมีวิธีขอ
ตอบ ต้องเสนอ คพร. พิจารณาอนุมัติก่อน
4. ตาแหน่งพนักงานขับรถยนต์ในกรณีลูกจ้างประจาที่เกษียณอายุ ซึ่งส่วนราชการไม่ได้จ้างเหมาเอกชน
สามารถรับสมัครพนักงานราชการ ตาแหน่งพนักงานขับรถยนต์ได้หรือไม่
ตอบ ไม่ได้ เนื่องจากจ้างพนักงานราชการจะไม่รวมลักษณะงานจ้างเหมา
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
5. อัตรากาลังพนักงานราชการที่ส่วนราชการใช้ในปัจจุบันจะขอปรับปรุงในส่วนของการกาหนดจานวน
อัตรากาลังได้หรือไม่ กระทาได้เมื่อ
ตอบ กรณีมีเหตุผลความจาเป็นเพื่อปฏิบัติงานเร่งด่วน นโยบายรัฐบาล หรือมติคณะรัฐมนตรี
6. การกาหนดเลขที่ต่าแหน่งของพนักงานราชการทาได้หรือไม่
ตอบ ส่วนราชการสามารถกาหนดได้เอง เนื่องจากเป็นการบริหารงานบุคคลภายในพนักงานราชการทั่วไปหาก
อายุเกิน 60 ปี จะต่อสัญญาจ้างได้หรือไม่ ใช้กฎหมายฉบับใด
7. ส่วนราชการหากทาได้จะจ้างได้หลังจากที่ข้าราชการผู้นั้นเกษียณอายุไปแล้วทันที หรือต้องเว้นระยะเวลากี่ปี
ตอบ จ้างได้ไม่เกิน 1 ปี (ตามมติคณะรัฐมนตรี)
8. ลูกจ้างชั่วคราวที่จ้างจากเงินรายรับสถานพยาบาลกองทัพเรือที่ปฏิบัติงานมาแล้วไม่น้อยกว่า
ตอบ ไม่น้อยกว่า 10 ปี
9. พนักงานราชการ หมายถึง
ตอบ บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือนฯโดยได้รับเงินเดือนจากเงิน
งบประมาณหมวดเงินเดือน
10. ระเบียบ/กฎหมาย
ตอบ ขึ้นกับคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
11. ลักษณะงาน
ตอบ ภารกิจหลัก - ภารกิจรอง - ภารกิจสนับสนุน Technical / งานช่วยอานวการ มีการใช้อานาจตาม
กฎหมายกาหนด
12. ประเภทการจ้าง
ตอบ ตลอดชีวิต (อายุเกษียณ)
13. ค่าตอบแทน
ตอบ บัญชีเงินเดือน บัญชีเงินประจาตาแหน่ง บริหาร เชี่ยวชาญเฉพาะ วิชาชีพเฉพาะ เงินเพิ่ม
14. สิทธิประโยชน์
ตอบ ที่เป็นตัวเงิน ได้แก่ - ค่ารักษาพยาบาล - การศึกษาบุตร ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เบี้ยประชุม
ค่าตอบแทนนอกเวลา ค่าเช่าบ้านที่ไม่เป็นตัวเงิน ได้แก่ การลา เครื่องราชอิสริยาภรณ์บาเหน็จ บานาญ
15. การเลื่อนเงินเดือน
ตอบ ปีละ 2 ครั้ง เลื่อนขั้น 0.5 ขั้น 1 ขั้น 1.5 ขั้น
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
16. คุณสมบัติบางประการ
ตอบ สัญชาติไทยอายุไม่ต่ากว่า ๑๘ ปี ไม่เกิน ๖๐ ปี(ตาแหน่งทั่วไปปกติ)
18. ในกรปฏิบัติราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารประชาชนหรือติดต่อประสานงานระหว่างส่วนราชการ
ด้วยกัน อะไรเป็นสิ่งสาคัญที่ส่วนราชการควรกาหนดและประกาศให้ประชาชนทราบ
ตอบ ระยะเวลาแล้วเสร็จของแต่ละงาน
22. ในกรณีที่ส่วนราชการใดไม่อาจจัดให้มีระบบเครือข่ายสารสนเทศของส่วนราชการได้ให้ทาอย่างไร
ตอบ ร้องขอให้กระทรวงเทคโนโลยีฯ ดาเนินการจัดระเบียบเครือข่ายสารสนเทศ
32. ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นสมควรอาจกาหนด
ตอบ แนวทางการดาเนินการตามวรรคหนึ่งเพื่อเป็นมาตรฐานทั่วไปให้ส่วนราชการปฏิบัติก็ได้
33. งานพนักงานราชการทั่วไป
ตอบ เป็นงานประจาทั่วไปของส่วนราชการในด้านงานบริการ งานเทคนิค งานบริหารทั่วไป งานวิชาชีพเฉพาะ
หรืองานเชี่ยวชาญเฉพาะ
34. พนักงานราชการพิเศษ
ตอบ พนักงานราชการซึ่งปฏิบัติงานในลักษณะที่ต้องใช้ความรู้หรือความเชี่ยวชาญสูงมากเป็นพิเศษเพื่อ
ปฏิบัติงานในเรื่องที่มีความสาคัญและจาเป็นเฉพาะเรื่องของส่วนราชการ
35. ในกรณีที่เห็นสมควรคณะกรรมการ
ตอบ ประกาศกาหนดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามเพิ่มขึ้น หรือกาหนดแนวทางปฏิบัติของส่วนราชการใน
การจ้างพนักงานราชการเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการกาหนดให้มีพนักงานราชการตามระเบียบนี้
36. ส่วนราชการจัดทากรอบอัตรากาลังพนักงานราชการเป็นระยะเวลา
ตอบ 4 ปี โดยให้สอดคล้องกับเป้าหมายการปฏิบัติราชการของส่วนราชการและแผนงบประมาณเชิงกลยุทธ์
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
39. มีกรณีที่พนักงานราชการถูกกล่าวหาว่ากระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ตอบ ให้หัวหน้าส่วนราชการจัดให้มีคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดาเนินการสอบสวนโดยเร็ว และต้องให้โอกาส
พนักงานราชการที่ถูกกล่าวหาชี้แจงและแสดงพยานหลักฐานเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในกรณีที่ผลการ
สอบสวนปรากฏว่าพนักงานราชการผู้นั้นกระทาความผิดวินัยอย่างร้ายแรงให้หัวหน้าส่วนราชการมีคาสั่งไล่
ออก
40. ในกรณีที่ปรากฏว่าพนักงานราชการกระทาความผิดวินัยไม่ร้ายแรงตามที่ส่วนราชการกาหนด
ตอบ ให้หัวหน้าส่วนราชการสั่งลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินค่าตอบแทน หรือลดขั้นเงินค่าตอบแทน ตามควรแก่
กรณีให้เหมาะสมกับความผิด
42. ในกรณีที่บุคคลใดพ้นจากการเป็นพนักงานราชการแล้ว
ตอบ หากในการปฏิบัติงานของบุคคลนั้นในระหว่างที่เป็นพนักงานราชการก่อให้เกิดความเสียหายแก่ส่วน
ราชการให้บุคคลดังกล่าวต้องรับผิดชอบในความเสียหายดังกล่าว
43. กรณีที่คณะกรรมการเห็นสมควรอาจกาหนดแนวทางการดาเนินการเกี่ยวกับการเลิกสัญญาจ้างตามหมวด
นี้ เพื่อ
ตอบ เป็นมาตรฐานทั่วไปให้ส่วนราชการปฏิบัติก็ได้
45. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้มีวาระการดารงตาแหน่งคราวละ
ตอบ 2 ปี
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
47. ในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตาแหน่งที่ว่างหรือแต่งตั้งเพิ่มขึ้น
ตอบ ให้ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งมีวาระเท่ากับวาระการดารงตาแหน่งที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งยังอยู่ใน
ตาแหน่ง
48. ในกรณีที่เรื่องใดตามระเบียบนี้กาหนดให้ส่วนราชการกาหนดหลักเกณฑ์หรือปฏิบัติในเรื่องใด
คณะกรรมการอาจกาหนดให้เรื่องนั้นต้องกระทาโดย
ตอบ อ.ก.พ. กรม องค์การบริหารงานบุคคลอื่นของส่วนราชการ หรือให้หัวหน้าส่วนราชการแต่งตั้ง
คณะกรรมการเป็นผู้ดาเนินการก็ได้
50. ในกรณีที่ส่วนราชการยังจัดทากรอบอัตรากาลังพนักงานราชการไม่แล้วเสร็จ
ตอบ ถ้ามีความจาเป็นต้องจ้างพนักงานราชการในกลุ่มงานเชี่ยวชาญพิเศษ ให้ดาเนินการจ้างได้ในกรณีที่มี
งบประมาณและโครงการแล้ว หรือสาหรับโครงการใหม่ โดยเสนอคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติการจ้าง
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
2. กรอบอัตรากาลังพนักงานราชการมีกาหนดระยะเวลาในข้อใด
ก. 1 ปี
ข. 4 ปี
ค. 5 ปี
ง. 10 ปี
ตอบ ข. ดูระเบียบฯ ข้อ 9 วรรคหนึ่ง ส่วนราชการต้องจัดทากรอบอัตรากาลังพนักงานราชการเป็นระยะเวลา 4 ปี
ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ และแผนงบประมาณเชิงกลยุทธ์ ตามแนวทางการ
จัดกรอบอัตราอัตรากาลังพนักงานราชการที่คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.) กาหนด (ปัจจุบัน
คพร. ได้อนุมัติการจัดสรรกรอบอัตรากาลังพนักงานราชการให้ส่วนราชการต่างๆ เป็นรอบที่ 5 (ปีงบประมาณ
2564 - 2567)
4. ข้อใดมิใช่ปรัชญาของระบบพนักงานราชการ
ก. เป็นทางเลือกการจ้างงานภาครัฐที่ยืดหยุ่น คล่องตัว
ข. เป็นการจ้างตามหลักสมรรถนะ และผลสัมฤทธิ์ของงาน
ค. ไม่เป็นการจ้างงานตลอดชีพ
ง. เน้นงานบริการทั่วไป
ตอบ ง. ข้อ ก. ข. และ ค. เป็นปรัชญาของระบบพนักงานราชการ ดูคู่มือการบริหารระบบพนักงานราชการ
สานักงาน ก.พ. (พ.ศ. 2563)
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
8. พนักงานราชการกระทาความผิดในข้อใดต่อไปนี้ ถือว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ก. ละทิ้งหรือทอดทิ้งการทางานเป็นเวลาติดต่อกัน 7 วัน
ข. ประมาทเลินเล่อจนเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย
ค. ต้องคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก
ง. จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจนเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย
ตอบ ค. ดูระเบียบฯ ข้อ 24 (8) การกระทาความผิดอาญาโดยมีคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุกหรือหนักกว่าโทษ
จาคุก ถือว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
9. โทษสาหรับความผิดวินัยอย่างร้ายแรงคือข้อใด
ก. ปลดออก
ข. ไล่ออก
ค. ลดเงินค่าตอบแทน
ง. ถูกต้องทั้ง ก. และ ข.
ตอบ ข. ดูระเบียบฯ ข้อ 25 วรรคหนึ่ง ถ้าผลการสอบสวนปรากฏว่าพนักงานราชการกระทาความผิดวินัยอย่าง
ร้ายแรง ให้หัวหน้าส่วนราชการมีคาสั่งไล่ออก (พนักงานราชการไม่มีโทษปลดออก)
1.0 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาแรงงานสัมพันธ์ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหาร
พนักงานราชการ มีวาระการดารงตาแหน่งกี่ปี
ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 4 ปี
ง. 5 ปี
ตอบ ก. ดูระเบียบฯ ข้อ 35 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดารงตาแหน่งคราวละ 2 ปี
11. วันลาพักผ่อนสะสมของพนักงานราชการสูงสุดต้องไม่เกินกี่วัน
ก. 10 วันทาการ
ข. 15 วันทาการ
ค. 20 วันทาการ
ง. 30 วันทาการ
ตอบ ข. ดูประกาศ คพร. เรื่อง สิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 วันลาพักผ่อนสะสม
สูงสุดไม่เกิน 15 วันทาการ
12 พนักงานราชการมีสิทธิลาคลอดบุตรได้กี่วัน
ก. 30 วัน
ข. 45 วัน
ค. 90 วัน
ง. 120 วัน
ตอบ ค. ดูประกาศ คพร. เรื่อง สิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการ พ.ศ. 2554 ลาคลอดบุตรได้ 90 วัน (ได้
ค่าตอบแทนระหว่างลาไม่เกิน 45 วัน)
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
13. ข้อใดมิใช่โทษสาหรับความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงของพนักงานราชการ
ก. ภาคทัณฑ์
ข. ทัณฑ์บน
ค. ลดเงินค่าตอบแทน
ง. ตัดเงินค่าตอบแทน
ตอบ ข. ดูระเบียบฯ ข้อ 26 โทษทางวินัยไม่ร้ายแรงได้แก่ ภาคทัณฑ์ ตัดเงินค่าตอบแทน และลดเงิน
ค่าตอบแทน
16 สิทธิการลาของพนักงานราชการมีกี่ประเภท
ก. 6 ประเภท
ข. 7 ประเภท
ค. 8 ประเภท
ง. 9 ประเภท
ตอบ ข. ปัจจุบันพนักงานราชการมีสิทธิลา 7 ประเภท ได้แก่ 1) ลาป่วย 2) ลาคลอดบุตร 3) ลาไปช่วยเหลือ
ภริยาที่คลอดบุตร 4) ลากิจส่วนตัว 5) ลาพักผ่อน 6) ลาเพื่อรับราชการทหาร และ 7) ลาเพื่อไปอุปสมบท หรือ
ประกอบพิธีฮัจญ์ ตามประกาศ คพร. เรื่อง สิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการ พ.ศ. 2554 แก้ไขเพิ่มเติม
ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2566)
17 ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร
ก. เสนอใบลาก่อนหรือในวันที่ลา ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่คลอดบุตร
ข. ลาได้ครั้งหนึ่งติดต่อกันไม่เกิน 15 วันทาการ
ค. ได้รับค่าตอบแทนระหว่างลาไม่เกิน 30 วันทาการ
ง. ต้องเป็นสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย
ตอบ ค. การลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ภริยาคลอดบุตร ให้ได้รับค่าตอบแทน
ระหว่างลาได้ไม่เกิน 15 วันทาการ ตามข้อ 5 (2/1) ของประกาศ คพร. เรื่อง สิทธิประโยชน์ของพนักงาน
ราชการ พ.ศ. 2554 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2566)
18 พนักงานราชการต้องสิ้นสุดสัญญาจ้างเมื่ออายุเท่าใด
ก. 55 ปี
ข. 55 ปีบริบูรณ์
ค. 60 ปี
ง. 60 ปีบริบูรณ์
ตอบ ง. พนักงานราชการต้องสิ้นสุดสัญญาจ้างเมื่อสิ้นปีงบประมาณที่พนักงานราชการมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
เนื่องจากข้อ 4 ของระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547 ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบของข้าราชการและลูกจ้างประจา ซึ่งตามพระราชบัญญัติบาเหน็จบานาญข้าราชการ พ.ศ. 2551 และ
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบาเหน็จลูกจ้างประจา พ.ศ. 2519 กาหนดให้ข้าราชการและลูกจ้างประจา
พ้นจากราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
1.ข้อใดไม่ใช่ตาแหน่งของพนักงานราชการ
ก.กลุ่มงานบริการ
ข.กลุ่มงานธุรการ
ค.กลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ
ง.กลุ่มงานเชี่ยวชาญพิเศษ
ตอบ ข.กลุ่มงานธุรการ
2.การกระทาในข้อใดไม่ถือว่าเป็นความผิดวินัย
ก.ทุจริตต่อหน้าที่ราชการ
ข.ละทิ้งการทางานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่า 5 วัน
ค.ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
ง.ปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่อจนได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
ตอบ ข.ละทิ้งการทางานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่า 5 วัน
3.ในกรณีที่พนักงานราชการกระทาความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ให้หัวหน้าราชการลงโทษประเภทใด
ก.สั่งลงโทษภาคทัณฑ์
ข.ตัดเงินเดือนค่าตอบแทน
ค.ลดขั้นเงินค่าตอบแทน
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
4.การสิ้นสุดสัญญาจ้างสิ้นสุดลงเมื่อใด
ก.ครบกาหนดตามสัญญาจ้าง
ข.ขาดคุณสมบัติตามลักษณะต้องห้าม
ค.ไม่ผ่านการประเมินงาน
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
10.ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ใด
ก.1 มกราคม พ.ศ. 2547
ข. 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547
ค. 1 มีนาคม พ.ศ. 2547
ง. 1เมษายน พ.ศ. 2547
ตอบ ก.1 มกราคม พ.ศ. 2547 (ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป)
11.ใครเป็นผู้รักษาการตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงาน พ.ศ. 2547
ก.นายกรัฐมนตรี
ข.เลขาธิการคณะกรรการข้าราชการพลเรือน
ค.ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
ง.เลขาธิการคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ
ตอบ ข.เลขาธิการคณะกรรการข้าราชการพลเรือน
12.พนักงานราชการมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
ก.2 ประเภท พนักงานราชการทั่วไป พนักงานราชการพิเศษ
ข. 3 ประเภท พนักงานราชการทั่วไป พนักงานราชการพิเศษ พนักงานราชการเชี่ยวชาญ
ค.4 ประเภท พนักงานราชการทั่วไป พนักงานราชการพิเศษ พนักงานราชการเชี่ยวชาญ พนักงาน
ราชการวิชาการ
ง.ไม่มีใข้อใดถูก
ตอบ ก.2 ประเภท พนักงานราชการทั่วไป พนักงานราชการพิเศษ
13.กรณีการกาหนดตาแหน่งของพนักงานราชการ ให้กาหนดตาแหน่งโดยจาแนกเป็นกลุ่มงานใด
ก.กลุ่มงานเทคนิค กลุ่มงานบริการๆ
ข.กลุ่มงานบริการทั่วไป กลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ
ค.กลุ่มงานเชี่ยวชาญเฉพาะ กลุ่มงานเชี่ยวชาญพิเศษ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
14.การกาหนดให้พนักงานราชการมีตาแหน่งในกลุ่มใด และกาหนดลักษณะงานของคุณสมบัติเฉพาะของกลุ่ม
งาน ให้เป็นไปตามใครประกาศ
ก.คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
ข.คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ
ค.ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
ง.ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข.คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
15.บุคคลจะได้รับการจ้างเป็นพนักงานราชการต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อใด
ก.ไม่เป็นผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง
ข.ไม่เป็นผู้เคยต้องโทษความผิดที่ได้กระทาโดยประมาท
ค.ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ
ง.ถูกเฉพาะ ก. และ ค.
ตอบ ง.ถูกเฉพาะ ก. และ ค.
16.ให้ส่วนราชการจัดทากรอบอัตรากาลังพนักงานราชการเป็นระยะเวลากี่ปี
ก.ระยะเวลา 1 ปี
ข.ระยะเวลา 2 ปี
ค.ระยะเวลา 3 ปี
ง.ระยะเวลา 4 ปี
ตอบ ง.ระยะเวลา 4 ปี
17.กรอบอัตรากาลังพนักงานราชการของส่วนราชการจะต้องเสนอต่อใครและหน่วยงานใด
ก.คณะกรรมการบริหการพนักงานราชการ
ข.คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
ค.ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
ง.สานักนายกรัฐมนตรี
ตอบ .ก.คณะกรรมการบริหการพนักงานราชการ
18.อัตราค่าตอบแทนของพนักงานราชการให้เป็นไปตามที่ใครหรือหน่วยงานใดกาหนด
ก.คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
ข.สานักนายกรัฐมนตรี
ค.คณะกรรมการบริหการพนักงานราชการ
ง.เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
ตอบ ค.คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ
19.พนักงานราชการได้รับสิทธิประโยชน์ตามข้อใดบ้าง
ก.สิทธิเกี่ยวกับการลา
ข.สิทธิในการได้รับค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลา
ค.ค่าเบี้ยประชุม
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
23.กรณีการกระทาความผิดข้อใด ถือว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ก.ปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่อจนเป็นเหตุให้ราชการให้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
ข.กระทาความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ
ค.ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กาหนด ในสัญญาหรือขัดคาสั่งหรือ หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคาสั่งของ
ผู้บังคับบัญชา
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
24.กรณีการกระทาความผิดโดยละทิ้งหรือทอดทิ้งการทางานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่ากี่วันถือว่าเป็นความผิด
วินัยอย่างร้ายแรง
ก.เกินกว่า 7 วัน
ข.เกินกว่า 14 วัน
ค.เกินกว่า 30 วัน
ง.เกินกว่า 45 วัน
ตอบ ก.เกินกว่า 7 วัน
25.ในกรณีทผี่ ลการสอบสวนปรากฎว่าพนักงานราชการคนใดกระทาความผิดวินัยอย่างร้ายแรงให้หัวหน้าส่วน
ราชการมีคาสั่งอย่างไร
ก.สั่งลงโทษภาคทัณฑ์
ข.ลดขั้นเงินค่าตอบแทน
ค.ไล่ออก
ง.ตัดเงินค่าตอบแทน
ตอบ ค.ไล่ออก
26.ในกรณีที่ปรากฎว่าพนักงานราชการกระทาความผิดวินัยไม่ร้ายแรงตามี่ส่วนราชการกาหนด ให้หนัวหน้า
งานส่วนราชการสั่งลงโทษอย่างไร
ก.สั่งลงโทษภาคทัณฑ์
ข. ตัดเงินค่าตอบแทนหรือลดขั้นเงินค่าตอบแทน
ค.ไล่ออกหรือ ปลดออก
ง.ถูกเฉพาะ ก. และ ข.
ตอบ ง.ถูกเฉพาะ ก. และ ข.
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
27.กรณีสัญญาจ้างสสิ้นสุดลงเมื่อใด
ก.พนักงานราชการขาดคุณสมบัติเพราะเป็นบุคคลล้มละลาย
ข.ไม่ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงาน
ค.พนักงานราชการถูกให้ออก เพราะกระทาความผิดอย่างร้ายแรง
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
28.ส่วนราชการอาจบอกเลิกสัญญาจ้างกับพนักงานราชการก่อนครบกาหนดตามสัญญาจ้างได้และไม่เป็นเหตุที่
พนักงานราชการจะเรียกร้องค่าตอบแทน ยกเว้นกรณีใด
ก.กรณีส่วนราชการได้กาหนดเงื่อนไขค่าตอบแทนไว้
ข.กรณีส่วนราชการจะกาหนดให้ได้รับค่าตอบแทนการออกจากงานโดยไม่มีความผิด
ค.กรณีส่วนราชการได้กาหนดกฎหรือระเบียบไว้ให้ได้รับค่าตอบแทน
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ข.กรณีส่วนราชการจะกาหนดให้ได้รับค่าตอบแทนการออกจากงานโดยไม่มีความผิด
29.ใครเป็นคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ
ก.รองนายกรัฐมนตรี
ข.เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
ค.เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฏีกา
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
30.กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการมีวาระดารงตาแหน่งกี่ปี
ก.คราวละ 1 ปี
ข.คราวละ 2 ปี
ค.คราวละ 3 ปี
ง.คราวละ 4 ปี
ตอบ ข.คราวละ 2 ปี
31.นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระแล้ว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตาแหน่งเมื่อใดบ้าง
ก.ประธานกรรมการให้ออก
ข.เป็นบุคคลล้มละลาย
ค.เป็นผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง
ง.เป็นช้าราชการในหน่วยงานของรัฐ
ตอบ ก.ประธานกรรมการให้ออก
แนวข้อสอบระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
32.ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่อานาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหาพนักงานราชการ
ก.ให้ความเห็นชอบกรอบอัตรากาลังพนักงานราชการที่ส่วนราชการเสนอ
ข.กาหนดมาตรฐานการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ
ค.ตีความและวินัจฉัยปัญหาการกระทาผิดวินัยร้ายแรงของพนักงานราชการ
ง.กาหนดค่าตอบแทนและวางแผนการกาหนดสิทธิประโยชน์อื่นของพนักงานราชการ
ตอบ ค.ตีความและวินัจฉัยปัญหาการกระทาผิดวินัยร้ายแรงของพนักงานราชการ
33.ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ ประกาศใช้เมื่อใด
ก.วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2548
ข. วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2547
ค.วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2548
ง. วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2548
ตอบ ข. วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2547
34.หน่วยงานใดรับผิดชอบในงานธุรการของคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ
ก.สานักนายกรัฐมนตรี
ข.สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
ค.สานักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ข.สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน