You are on page 1of 10

ดัชนีวิเคราะห์สภาพของหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังสำ�หรับการบำ�รุงรักษาเชิงป้องกันของ

การไฟฟ้านครหลวงโดยวิธีการตัดสินใจเชิงวิเคราะห์แบบตรรกะคลุมเครือ 33
ดัชนีวิเคราะห์สภาพของหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังสำ�หรับการบำ�รุงรักษาเชิงป้องกันของการไฟฟ้านครหลวง
โดยวิธีการตัดสินใจเชิงวิเคราะห์แบบตรรกะคลุมเครือ
Health Index of MEA Power Transformers for Preventive Maintenance by Using
Fuzzy Analytic Hierarchy Process

คมกฤษฏ์ จิตตวีระ1 และ ปานจิต ดำ�รงกุลกำ�จร2


ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
E-mail: komkrit_jit@hotmail.com, fengpjd@ku.ac.th
บทคัดย่อ
บทความนีน้ �ำ เสนอวิธกี ารประเมินค่าดัชนีวเิ คราะห์ (Health Index) ของหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังด้วยวิธกี าร
ถ่วงนํา้ หนักความสำ�คัญของปัจจัยเสีย่ ง โดยค่าถ่วงนาํ้ หนักความสำ�คัญของปัจจัยเสีย่ งได้มาจากวิธกี ารตัดสินใจเชิง
วิเคราะห์แบบฟัซซี่ (Fuzzy Analytic Hierarchy Process; FAHP) วิธีนี้เป็นการนำ�เอาแนวคิดของทฤษฎีความ
คลุมเครือ (Fuzzy Set Theory) มาเป็นเครื่องมือช่วยตัดสินใจภายใต้ความไม่แน่นอนของข้อมูลซึ่งยอมให้มีความ
ยืดหยุน่ ได้ โดยกระบวนการตัดสินใจนีจ้ ะเปรียบเทียบความสำ�คัญของปัจจัยเสีย่ งเป็นคู่ เพือ่ นำ�ไปคำ�นวณหาค่าถ่วง
นํ้าหนักความสำ�คัญของปัจจัยเสี่ยง พร้อมทั้งพิจารณาความสอดคล้องของการกำ�หนดค่าความสำ�คัญของปัจจัย
เสี่ยง จากนั้นนำ�ค่าถ่วงนํ้าหนักความสำ�คัญของปัจจัยไปใช้คำ�นวณค่าดัชนีวิเคราะห์ เพื่อประเมินความเสี่ยงของ
หม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังในสถานีไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) พร้อมกับจัดทำ�แผนบำ�รุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้า
กำ�ลังเชิงป้องกันประจำ�ปี โดยการคำ�นวณค่าดัชนีวิเคราะห์แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่ได้จากชุดเปลี่ยนแทป
ขณะจ่ายไฟ (On Load Tap Changer) และส่วนที่ได้จากถังนํ้ามันหม้อแปลง (Main Tank) ซึ่งงานวิจัยนี้ได้นำ�
ไปทดสอบกับหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังในสถานีไฟฟ้าทั้งหมด 15 ลูกของ กฟน. ผลของค่าดัชนีวิเคราะห์ที่ได้จากการ
คำ�นวณสอดคล้องกับสภาพการทำ�งานของหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลัง วิธกี ารนีจ้ งึ มีประโยชน์ในการนำ�ไปใช้กบั วางแผน
บำ�รุงรักษาเชิงป้องกันของหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลัง
คำ�สำ�คัญ:
หม้อแปลงไฟฟ้า ค่าดัชนีวิเคราะห์ กระบวนการลำ�ดับชั้นเชิงวิเคราะห์แบบฟัซซี
Abstract
This paper presents an analytical method to evaluate the health index of power transformers
by using weighted scores for transformer’s risk factors. The weighted scores for risk factors are
obtained from Fuzzy Analytic Hierarchy Process (FAHP) which applies the Fuzzy Set theory for
addressing the effects of risk factors considering the decision making uncertainty. The FAHP
34 วิศวกรรมสาร มก.
compares the effects of risk factors in pairs in order for calculating their weighted scores as well
as checking for the correlation of the assigned effects of risk factors. The weighted scores are
then used to calculate the health index in order to evaluate the risk for power transformers in
the substations of Metropolitan Electricity Authority (MEA) and plan for their annual preventive
maintenance. In this study, the risk factors are categorized into two parts: (1) the risk factors for
on load tap changer and (2) the risk factors for transformer main tank. The proposed method is
tested on fifteen MEA’s power transformers. The study results show that the obtained health
indices correctly reflex the conditions of those power transformers. Therefore this method is a
useful tool for the planning of preventive maintenance schedule for power transformers.
Keywords:
power transformer, health Index, fuzzy analytic hierarchy process
1. คำ�นำ� งานวิจยั นีไ้ ด้น�ำ ข้อมูลผลการทดสอบหม้อแปลง
ไฟฟ้ากำ�ลังในสถานีย่อยของ กฟน.ประจำ�ปี 2557
หม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังในสถานีไฟฟ้าย่อยเป็น
จำ�นวน 11 ลูก ปี 2556 จำ�นวน 1 ลูก ปี 2555 จำ�นวน
อุปกรณ์ทมี่ คี วามสำ�คัญทีส่ ดุ ในการส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้า
1 ลูก และปี 2554 จำ�นวน 2 ลูก มาใช้ในการคำ�นวณ
การขัดข้องหรือการชำ�รุดเสียหายของหม้อแปลงไฟฟ้า
หาค่าดัชนีวิเคราะห์ของหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังด้วยวิธี
กำ�ลัง จะมีผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟเป็นวงกว้าง ปัจจุบัน
การตัดสินใจเชิงวิเคราะห์แบบฟัซซี่ โดยวิธีการถ่วงนํ้า
การไฟฟ้านครหลวงมีพื้นที่รับผิดชอบอยู่ 3 จังหวัด
หนักความสำ�คัญของปัจจัยซึ่งมีทั้งหมด 12 ปัจจัย และ
คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ และมี
นำ�ผลการคำ�นวณทีไ่ ด้ไปใช้ในการบำ�รุงรักษาเชิงป้องกัน
หม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังในสถานีย่อยของกฟน. ซึ่งทำ�
ประจำ�ปีให้กับหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังในสถานีย่อยของ
หน้าที่แปลงแรงดันจาก 69 หรือ 115 เควี เป็น 12 หรือ
กฟน. สาเหตุทใี่ ช้ขอ้ มูลผลการทดสอบหม้อแปลง 4 ลูก
24 เควี เพื่อส่งกำ�ลังไฟฟ้าเข้าสู่ระบบจำ�หน่ายต่อไป
จากปี 2554 ถึงปี 2556 เนื่องจากเห็นว่าหม้อแปลงทั้ง
ดังนั้นงานวิจัยนี้ได้ตระหนักถึงความสำ�คัญของ
4 ลูก เคยมีการชำ�รุด
หม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังในสถานีย่อย เพื่อให้บริการแก่ผู้
ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้นำ�วิธีการประเมิน 2. วิธีการ
ความเสี่ยงหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังด้วยวิธีการตัดสินใจ
บทความนีไ้ ด้น�ำ ค่าทีใ่ ช้ทดสอบภายในองค์กรมา
เชิงวิเคราะห์แบบฟัซซี่ (Fuzzy Analytic Hierarchy
กำ�หนดเป็นปัจจัยเสีย่ งเพือ่ ใช้ในการวิเคราะห์และประเมิน
Process- FAHP) มาใช้ประเมินสภาพการทำ�งานได้
ความเสี่ยงของหม้อแปลงไฟฟ้าด้วยวิธีการตัดสินใจเชิง
ของหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังในสถานีย่อย กฟน. เพื่อจัด
วิเคราะห์แบบฟัซซีม่ าใช้ในการถ่วงนาํ้ หนักความสำ�คัญ
ทำ�แผนบำ�รุงรักษาเชิงป้องกันให้กับหม้อแปลงไฟฟ้า
ของปัจจัยซึง่ วิธนี เี้ ป็นการนำ�เอาแนวคิดของทฤษฎีความ
กำ�ลังในสถานีย่อย และป้องกันไม่ให้หม้อแปลงไฟฟ้า
คลุมเครือ (Fuzzy Set Theory) เข้ามาใช้ร่วมด้วยกับ
กำ�ลังในสถานีย่อยชำ�รุดเสียหาย โดยแบ่งการคำ�นวณ
กระบวนการตัดสินใจ โดยจะเปรียบเทียบปัจจัยเป็นคู่
ออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ได้จากชุดเปลี่ยนแทปขณะ
และให้คะแนนประเมินเป็นชุดตัวเลขแบบฟัซซีแ่ ทนการ
จ่ายไฟ (On Load Tap Changer) และส่วนที่ได้จาก
ให้คะแนนประเมินเพียงตัวเลขตัวเดียวแสดงในตารางที่ 1
ถังนํ้ามันหม้อแปลง (Main Tank)
วั ด คื อ
ของปจจัย ซึ่งวิธีนี้เปนการนําเอาแนวคิดของทฤษฎีคในระดั วาม บในระดั เล็กนอบบยเล็
ในระดั เล็การเปรี ยการเปรี
กกนนออถึยยงปานกลาง บเทียบป
การเปรี สจวจันป
ยยบเที
บเที ยยยในทางกลับป
จจัจจยจัจัCยยในทางกลั
บป มีบคกัวามสํ
ในทางกลั น าบบคักัญ กันนมากกว ดังนั้นาปคจาดัดัจัลํงงยานนด
อแปลง เชนบ ความสํ
คลุ ม เครื อ (Fuzzy Set Theory) เข า มาใช ร ว มด ว ยกั เชนนาความสํ
เช คัความสํ
ญของป าาคัคัจญญในระดั
จัของป
ย C เที
ของป จัจัยยยบกั
บจจเล็ กนCCบอเที ปย จยยการเปรี
เที จับกั
บกั ย บบBปปคิจจยดจัจับเที จาก
ยย BBยคิบป คิดดจากจจัยในทางกลั
จาก ตั ว อ ย าตัตังบววไกดออ
ที่ แ ปลง
กระบวนการตั ด สิ นใจ โดยจะเปรี ย บเที ยบป จ จั ยเปสนวนกลั คู บสสของปนกลัจบบจัของป
ววนกลั ย B เทีจจเชจัจัยนยยบกัBความสํ
ของป Bบเที ปจยยจับกั
เที ยาคับบCญปปนัของป
บกั จจ่นจัจัคืยยอCCจถจันันัายป่น่นจCคืคืจัออเที
ยถถยาาบกั
ปปจจบจัจัยปย จ0.205
จัย B คิตามล ด0.20 จา
ควี เพื่อ ดั ช นี ว เ
ิ คราะห์ ส ภาพของหม้ อ แปลงไฟฟ้ า กำ � ลั
B เทียบกัBBบเที ง สำ � หรั บ การบำ � รุ ง รั ก ษาเชิ ง ป้ อ งกั น ของ 0.20
และใหคะแนนประเมินเปนชุดตัวเลขแบบฟซซี่แทนการให เทีCยยเป บกันบบ(3,4,5)
บกั CC เป สวนนนกลั
เป ป(3,4,5)
จจับยของป
(3,4,5) Cปปเทีจจจจัจัยจัยยบกัย CCBบเที เทีBยยยจะเป
เที บกั บกับบ นปBBจ35 จะเป
จัย Cนนนั่นคือ ถาปจจ
จะเป
การไฟฟ้ า นครหลวงโดยวิ ธ ก
ี ารตั
คะแนนประเมินเพียงตัวเลขตัวเดียว แสดงในตารางที่ (11 , 1 , 1()11จากนั
ด สิ น ใจเชิ ง วิ เ คราะห์
11 11้ น หาผลรวมของตั แ บบตรรกะคลุ
B ้ นเทีหาผลรวมของตั
ยบกับ วCเลขในคอลั เปน (3,4,5)
ม เครื อ
ปขจองจัยมCน ขเทีองยบกับ B จะเป
จา
, , ) จากนั ว ม
เลขในคอลั น
คัญของ 5 4 3 ( 55 , 44 , 33 ) จากนั1้ น หาผลรวมของตั 1 1
ว เลขในคอลั ม น ข อง สอดคลอสอด งขอ
สอด
ตารางที ่ 1 เปรี ยบเที ย บความสำ � คัญ รายคู
ตารางที่ 1 เปรียบเทียบความสําคัญรายคูแบบฟซซี่ [1] แ่ บบฟั ซ ซี ่ [1] กั บ
แตละแถวของตารางเมทริ
แต B จะเป็ น , ,
จากนั
( กซ ) จากนั ้ นน
้ หาผลรวมของตั
หาผลรวมของตั ว เลข
เลขในคอลั ม น ขอ
แกผูใช แตลละแถวของตารางเมทริ
ะแถวของตารางเมทริ 5 4 3 กกซซ 1.
ในคอลัมน์ของแต่ แตลลยะแถวของตารางเมทริ
ะแถวของตารางเมทริกซกซ์
นความ ระดับ ตารางที
ตัวเลขความ ่ 2
ตารางที
ตารางที ตารางเปรี
ตารางที่ ่ 22่ 2 ตารางเปรี ย บเที
ตารางเปรี
ตารางเปรี บรายคู บเทียยยบรายคู
ยยยบเที
บเที บรายคู  ่
บรายคู เมทริกซเมท ด ว ย
ความหมาย คลุมเครือเชิง เมท
ใจเชิ ง ความสําคัญ ตารางที่ 2 ตารางเปรียบเทียบรายคู สองดวยคสอง าล
สามเหลี่ยม ปจจัย
ปปจจจัจัยย A AA B BB C CC สอง
rarchy 1 มีความสําคัญเทากันในกรณีปจจัยเดียวกัน (1,1,1)
A
แลวนําผลคู แลวณ
แล ว
AA(1,1,1) (1,1,1) (1,1,1)
(0.11,0.11,0.13)
ป จ จั ย (0.11,0.11,0.13)
A
(0.11,0.11,0.13)
(0.25,0.33,0.50) (0.25,0.33,0.50)
(0.25,0.33,0.50)B C
นไดของ 1 มีความสําคัญเทากันในกรณีคนละปจจัย (1, 1, 1+ δ ) ไดเรียก Weig
B BB(8,9,9) (8,9,9) (8,9,9)
(1,1,1) (1,1,1) (3,4,5) (3,4,5)
(1,1,1) (3,4,5)
ได
ไดเเรร
(3 - δ , 3, 3 + δ C A (1,1,1) (0.11,0.11,0.13) (0.25,0.33,0.50)
ทําแผน 3 มีความสําคัญมากกวาในระดับเล็กนอย CC(2,3,4) (2,3,4) (0.20,0.25,0.33)
(2,3,4) B (0.20,0.25,0.33)
(0.20,0.25,0.33)
(1,1,1) (1,1,1)
(1,1,1)
) (8,9,9) (1,1,1) (3,4,5)
ผลรวม ผลรวม(11,13,14) (11,13,14)
(1.31,1.36,1.46)
(1.31,1.36,1.46)(4.25,5.33,6.50) (4.25,5.33,6.50)
นสถานี 5 มีความสําคัญมากกวาในระดับปานกลาง
(5 - δ , 5, 5 + δ ผลรวม (11,13,14) C (1.31,1.36,1.46)
(2,3,4) (4.25,5.33,6.50)
(0.20,0.25,0.33) (1,1,1)
) 2. นําเอาตั ผลรวม (11,13,14) (1.31,1.36,1.46) (4.25,5.33,6.50)
านียอย
(7 - δ , 7, 7 + δ 2. นำวนํนํเลขแต
เอาตัลวววเลขแต
�าาเอาตั ะช
เลขแต่
เลขแต องของแต ลละช
ละชะช่ ออลงของแต
อะแถวงของแต่
งของแต หาร ลละแถวละแถว
ะแถว หาร
หาร
วน คือ 7 มีความสําคัญมากกวาในระดับคอนขางมาก ด ว ยผลรวมของตั
หารด้
ด ว ว เลขในคอลั
ยผลรวมของตั ม น
ว น้ ั น ซึ
เลขในคอลั ่ ง คํ า นวณได ม น์ น จ้ ั นากสู
ซึ ่ ง ต
คำ ร
� นวณได้
) ดวยผลรวมของตัวเลขในคอลัมนนั้นซึ่งคํานวณไดจากสูตตรร ละแถว หา
ว ยผลรวมของตั ว เลขในคอลั2. ม
นํ าน น ้
เอาตัั น ซึว่ ง คํ า
เลขแต นวณได ล ะชจ ากสู
อ งของแต
(9 - δ , 9,ที9)่ (1)
เพืทีทีจากสู
่ อ่ ่ ให
ad Tap 9 มีความสําคัญมากกวาในระดับมากที่สุด
(1)ไตเพื
(1) ดรที
เพืต่ ่ออาราง
่ ให วตNormalized
ให(1)ไไดดเพืาราง ตารางMatrix
่อให้ได้Normalized
ตยผลรวมของตั
าราง แสดงใน
Normalized
Matrix
วเลขในคอลั
Normalized นMatrix
ั้นซึ่งคํานวณไดจากสู2.ต
มนแสดงใน
Matrix แสดงใน
(Main 2 , 4 , 6 , 8 คาระหวางเพื่อลดชองวางทางความรูสึก + 1), ่ 3แสดงใน ตารางที่ 3
(x - 1, x, x ตารางที
ตารางที
ตารางที่ ่ 33 ที่ (1) เพื่ อ ให ไ ด ต าราง Normalized Matrix Sumแสดงใ
ดวSum
ยคา
Sum
x = 2, 4, 6, 8

ตารางที่ 3 
ซึ่งฐานตัวเลขความคลุมเครือเชิงสามเหลี่ยมจะมีค่าอยู่  lij  m llijij uij  u 
m
อแปลง ซึ่งฐานตัวเลขความคลุมเครือเชิงสามเหลี่ยม (δ ) จะมีคา Nij =  Nn = , n ij ,, n ijij , uijij (1) (1)  m
(1) 
ระหว่าง 0.5 ถึง 2 ดังนั้นการเลือกใช้ค่าฐานของตัวเลข Nij =  nn
 ∑ijuij  ∑ um
, nn
∑m lij  lij
, nn
llij  mij
 uij 
อยูระหวาง 0.5 ถึง 2 ดังนั้นการเลือกใชคาฐานของตัวเลข ∑ ∑ ∑
ป 2557 ความคลุมเครือเชิงสามเหลีย่ มขึน้ อยูก่ บั ความสอดคล้อง =  i 1= = ∑
 iii 111 = u=ij ij
ij Niiij∑ m
i 11== ij
ij ∑
nii 11 ij, n , n (1)
= = 1=  
ความคลุ  ij i 1 ij 
กันของปัมจเครื จัยอซึเชิง่ งในบทความนี
สามเหลี่ยมขึเ้ ้นลือยู อกค่กับาฐานตัความสอดคล อง ∑ u ij i 1 = ∑ m ∑ l
านวน 1 วเลขความ ตารางที่ ตารางที
3 ตาราง่ ่ 33่ 3Normalized
ตารางที ตาราง
ตาราง Normalized
Normalized Matrix=  Matrix
i 1=
Matrix
กัคลุ
นของป ตารางที ตาราง Normalized Matrix
ณหาคา มเครืจอจัเชิยงซึสามเหลี
่งในบทความนี ่ยมมีค่า้เท่ เลือากักคบาฐานตั 1 เพื่อวทีเลขความ ่ต้องการ ตารางที ่ 3 ตาราง Normalized Matrix
3.
วิ ธี ก าร คลุจะแบ่มเครืงอแยกปั
เชิงสามเหลี
จจัยโดยชั ่ยมมีดคเจน าเทาจากนักับ 1 ้นเพืนำ่อ�ทีตั่ตวอเลขความ งการจะปจจัย ปปจจจัจัยย A AA B BB C CC Values สูValuงสุด
n
Valu
น้ํ า หนั ก คลุมเครือเชิงสามเหลี่ยม (l1.1,mเปรี
แบ ง แยกป จ จั ย โดยชั ด เจน จากนั 1,uย1)บเที
้ น นํ า
มาใช้ ตั ว
ย บป เลขความ
ในการถ่จ จั ย รายคูวง A  ใ ส ล งในตาราง (0.07,0.08,0.09)
AA ป(0.08,0.08,0.10)
(0.07,0.08,0.09)
(0.07,0.08,0.09)จจัย A(0.04,0.06,0.12)
(0.08,0.08,0.10)
(0.08,0.08,0.10) (0.04,0.06,0.12)
∑ BNij
(0.04,0.06,0.12) C
j = 1
= ( li(0.04,0.06,0.12) , mi , ui )
B (0.57,0.69,0.82) (0.69,0.73,0.76) (0.46,0.75,1.18)
ะนําผล คลุนํา้ มหนั
เครืกอความสำ �คัญ
เชิ ง สามเหลี เ มของปั
่ ยทมริ(lจก1จั,ซยmในตารางเมตริ
(Fuzzy Pairwise
1 , u1 ) มาใช ใ นการถ ว ง C
กซ์ แล้วComparison
นำ� BB Matrix)
(0.14,0.23,0.36)
(0.57,0.69,0.82)
(0.57,0.69,0.82) A
(0.14,0.18,0.25)
(0.69,0.73,0.76)
=
(0.69,0.73,0.76)
(0.07,0.08,0.09)
(0.46,0.75,1.18)
Wi (0.46,0.75,1.18)
(0.15,0.19,0.24)
(0.08,0.08,0.10)
CC (0.14,0.23,0.36) (0.14,0.18,0.25) (0.15,0.19,0.24) n
ป อ งกั น ค่ า ทีไ่ ด้ม าสั ง
น้ําหนักความสําคัญดัของปเคราะห์ เพื อ
่ ให้
งตัวอยจาจังที เ กิด ตัว เลขหลั
่แสดงในตารางที
ยในตารางเมตริ ก เดี ย วที แ
่ สดง
กซ่ 2แลโดยสมมุ
วนํา ติให ปจจัย B มี
(0.14,0.23,0.36) B (0.14,0.18,0.25)
(0.57,0.69,0.82) (0.15,0.19,0.24)
(0.69,0.73,0.76) (0.46,0.75,1.18)
3. จากตาราง C Normalized Matrix Matrix
และ(0.14,0.23,0.36) หาค่
(0.14,0.18,0.25) ย่ าาาเฉลี ย่ (0.15,0.19,0.24)
อยของ คถึางทีความสำ
่ไดมาสั�งเคราะห
คัญของแต่ เพื่อลใหะปัาเคักิจญดจัตัมากกว
ความสํ ยวซึเลขหลั
ง่ เรียาปกขักจเดีจัน้ ยตอนนี
A ในระดั
ยวที ว้ า่ การ
่แสดงถึ บงมากที3.่สุด จากตาราง และป ย Normalized
3.3.จจัจากตาราง
จากตาราง Normalized
Normalized หาค
Matrix
Matrix าเฉลี หาค
หาค เฉลี
เฉลีย่ย่
หาลำ�ดัาคับญความสำ
ความสํ ของแต�คัBลญะป มีคโดยมี จัย ซึ3่งเรีขัย้นกขั
จวามความสํ ตอนดั
าคั้นญตอนนี งนี้ ้วาการหา
มากกว ตัตัตัวววเลขในแนวนอนแต
ปจตัจัวยเลขในแนวนอนแต
C ในระดั
เลขในแนวนอนแต่
บเล็กนอยล ะแถว ลลผลลั
เลขในแนวนอนแต
ละแถว
3.ะแถว
ะแถว พจากตารางี่ผลลั
ธ ทผลลั
ผลลัไ ด พพคืพธอธNormalized
ทธ์ทคที่ ี่ไไดาดี่ไถด้lคืคืวคองอือ+ค่ค4คาmาาถ่ถถMatrix
ววงง หาคาเฉล
4.
ง 4 ลูก นํ า
้ หนั ก ความสำ � คั ญ ของแต่ ล ะปั จ จั ย Wi = i่งสามารถ
ซึ i ว+งui
1. เปรียถึบเที ย บปั จ จั ย รายคู ่ ใ ส่ ล งในตาราง น้ํ าาหนั
คัญกมากกว
ความสํ ( Wiจจ)จัจัซึยย่ งล((สามารถ
ลงทั้ง 4 ลําดับความสําคัญ โดยมี งปานกลาง 3 ขั้นตอนดั สวนป งนี้จจัย C มีความสํ หนัากกปาความสํ
น้น้ํ ําาหนั จคัจัญยของแต
ความสํ ญญลของแต
ะป จ จั ยลละป
Aตัาาวคัคัเลขในแนวนอนแต
ของแต ะป W
ะแถว
Wii )) ซึซึ่ ่งงผลลั สามารถ
สามารถ 6พ ธ ที่ ไ[3]
ด คื(Consist
อ ค[3]
า ถ ว
[3] ((
เมทริกซ์ (Fuzzy ในระดั Pairwise Comparison Matrix) ดั ง คำ � นวณได้ จ ากสู ต ร [2]
บเที ย บป จ จับยเล็่ รายคู กนอยใ สการเปรี ยบเทียคํบป านวณได าจนวณได
จจัยคํในทางกลั ากสูตร จบ[2] ากสู
กันน้ตํ ารหนั [2]nก ความสํ า คั ญ ของแต ล ะป จ จั ย ( W ) ซึ่ ง สามาร
ตัวอย่ 1. าเปรี
งที่แยสดงในตารางที 2 โดยสมมุ ติ ให้ปัจจัย B มี คํานวณไดจากสูตร [2]∑ ดัNงijนั้นคาลําดับความสําคัญของปi จจัย A, B แ
ล งในตาราง
เชน ความสํ าคัญของปจMatrix) จัย C เทียบกับปจจัย B คิดจากคํานวณได j =1 ตัจวากสู อ ยต(ารliง[2] ดiแ, uกi )W1 = (2)
เ ม ท ริความสำ
ก ซ �(Fuzzyคัญมากกว่ Pairwise
าปัจจัยComparison A ในระดับมากที ่สุด และ = Wi = ,ไm (2)0.076, W2 = 0.7
ส ว นกลั บ ของป จ จั ย B เที ย บกั บ ป จ จั ย C นั ่ น คื อ ถ า ป จ จั ย n
ดังตัวอย
ปัจาจังทีย่แBสดงในตารางที
มีความความสำ่ 2�คัโดยสมมุ ญมากกว่ ติใาหปัปจจัจจัยยCBในระดั มี บ 0.205 ตามลําดับ
ความสํเล็าคักญน้มากกว
อยถึงปานกลาง B เที
าปจจัย Aส่ในระดั ย บกั บ
วนปัจจับยมากที C เป น
C มีค่สวามสำ (3,4,5)
ุด และป ป จ จั
�คัญจจัมากกว่ ย
ย า และ C เที ย บกั
และ บ B จะเป น
1 1 1 จากนั้นนําคาถวงน้ําหนักที่ไดไปคํา
ปัจจัย A ในระดั
B มีความความสํ าคัญมากกวบเล็( ก,น้าอป,ยจการเปรี จั) ยจากนั ย้ นบเที
C ในระดั ยบบปั
เล็กจนจัอยยในทาง
หาผลรวมของตั ว เลขในคอลั ม น ข อง li + 4mi + ui
กลับกันสวเช่นปนจความสำ 5 4คัญ3ของปัจจัย C เทียบกับปัจจัย Wi = สอดคลองของปจจัยโดยมี(3)(3) 5 ขั้นตอนดังนี้
ถึงปานกลาง จัย Cแตมีล�คะแถวของตารางเมทริ
วามสําคัญมากกวาปกจซจัย A 6
ในระดัBบเล็ คิดกจากส่
นอย วการเปรี
นกลับของปั ยบเทีจยจับป ย จBจัเที ยบกับปัจบจักัยนC นั่น ดังนั้นค่าลำ�ดับความสำ�คัญของปัจ1.จัยคูA,ณ Bแตและ
ยในทางกลั ล ะคCาจาก ในคอลั ม น แ รกข
ดังนั้นคาลําดับความสําคัญของปจจัย A, B และ C จาก
คื อ ถ้ า ปั จ จั ย B เที ย บกั
ตารางที
เชน ความสําคัญของปจจัย C เทียบกับปจจัย B คิดจาก บ C่ 2 เป็ น (3,4,5)
ตารางเปรี ยปั
บเทีจ จั ย C
บรายคู เที ย  บ ตั ว อย่ า ง ได้ แ ก่ =0.076, =0.732, เมทริกซดวยคาลําดับความสํดับาคัญตัวแรก คูณ
=0.205 ตามลำ �
ตั ว อ ย า ง ไ ด แ ก W1 = 0.076, W2 = 0.732, W3 =
สวนกลับของปจจัย B เทียบกั
ปจจับยปจจัย C Aนั่นคือ ถาปจจัยB
สองดวยคาลําดับความสําคัญตัวที่สองไปเรื่อย
0.205Cตามลําดับ
B เทียบกับ C เปน (3,4,5) ปAจจัย C เที(1,1,1)
ยบกับ B จะเป น
(0.11,0.11,0.13) (0.25,0.33,0.50)
แลวนําผลคูณดังกลาวมาบวกกันในแถวเดียวกัน
1 1 1 B (8,9,9) (1,1,1) (3,4,5) จากนั้ น นํ า ค า ถได
วงน้
เรียํากหนัWeighted
กที่ไดไปคํSum
านวณความ
( , , ) จากนั้ น หาผลรวมของตั ว เลขในคอลั ม(0.20,0.25,0.33)
น ข อง
5 4 3 C (2,3,4) สอดคล องของปจจัยโดยมี 5 ขั้นตอนดังนี้
(1,1,1)
ดังนั้นตามลํ
0.205 คาลําดัดับบ1 ความสําคั6ญของป 2 จ จั ย A, B และ 3 C จาก [3] (Consistency Ratio : C.R.)
นาก
น 0.205 ตามลําดับ [5]
ดัตังจากนั
นัว ้นอคยาา้นลํงนําไดัาดคบแาความสํ W ําาหนั
ถกวงน้ =คัญก0.076ที่ไดไ,ปคํ
ของป จจัWยานวณความA,= B0.732, และ C Wจาก=
จากนั้นนําคา1 ถวงน้ําหนักที่ได2 ไปคํานวณความ3 C .I .
(8)
งจัย
าก สอดคลตัอ0.205งของป จงจัไ้ยนดโดยมี
นําแาดักคบาW5ถ1วขังน้ ้นตอนดั
ําหนักงทีนี,่ไ้ ดWไปคํ C .R. =
ขั้นตอนดัง2นี=้ 0.732, W3 =
ว อ จากนั ตามลํ านวณความ
จัปยน สอดคล ยอางของป จจัยโดยมี= 50.076 R.I . ลําดับ G
สอดคล0.205องของป จจัายดัโดยมี 5 ขั้นตอนดังนี้
1.36 คูตามลํ
ณ แต จากนั ล บะค้นนํา าในคอลัคาถวงน้มํานหนั แ รกของตาราง
กที่ไดไปคํานวณความ C.R. = 0.026

อง 1. คู ณวิศแตวกรรมสาร ล ะค า ในคอลั มก. ม น แ รกของตาราง 1 H
เมทริกซสอดคล
ดวยคาอลํงของป าณดัแตบความสํ าาาในคอลั
จจัายคโดยมี ถคัวญงน้
5ตัวําขัแรก
้นมตอนดั คูรกของตาราง
่ไณดงนีคอลั ้ ามนวณความ
นที่
อง เมทริก1.ซดคูวจากนั ยค าลํ้นาลนํดัะค บความสํ าคัหนั ญนตักแวทีแรก ไปคํคูณ คอลัมนที่ โดยที่ R.I. (Random Index) คือ คาดัชนีความสอดคลอง
สองด
เมทริวยคกซาดลํวาดัยค
สอดคล บาความสํ
ลําดัจบ้นจัาความสํ
ยคัโดยมี
ญตัวถ่าทีว5คั่สงนํญองไปเรื
้นวตั้าตอนดั
วแรก ก่อทีมงยๆ
นีคู่ได้้ณไจนครบ
คอลั�นวณความ
มนที่
วยคองของป
าลํจากนั ณนำแต�ค่ลาาะค คัญาขัตัในคอลั ทีหนั ปคำ โดยที
เชิงสุม่ R.I.
ที่ได(Random Index) คือค่าดัมชตันีวคอย
วามสอดคล้ อง 2 CH
สองด 1.าดัคูบความสํ ่สองไปเรื น แ่อรกของตาราง
ยๆ จนครบ จากการทดลองโดยการสุ างจากตาราง
แลสองด
วนําผลคู วยค ณาดัลํงากล ดัอบางของปั
วมาบวกกั
ความสํ นญโดยมี
จดัาจัลคับยะคในแถวเดี
ตัวที่ส5องไปเรื ยวกัน่อผลลั พธที่
ยๆงนีจนครบ
วสอดคล้
แลเมทริ
นําผลคู กซ1. ดณวดัยคคูงกล าาวมาบวกกั
ณาลํแต ความสํ าคัขัญ้นมตัตอนดั
นในแถวเดี
า ในคอลั วนแรก ยแวกั นคู้ ณผลลั
รกของตาราง คอลั พธมทนี่ ที่ เชิเมตริ
งสุม่ กทีซไ่จด้ําจนวน
ากการทดลองโดยการสุ ม่ ตัวอย่างจากตาราง
64,000 ตัวอยาง แสดงในตารางที ่4 3 C2
ไดเแล
รียวกนํWeighted
าผลคูณดั1. คู งกลSum าณวมาบวกกั
แต่ ล ะค่ า นในคอลั
ในแถวเดี ม น์ ยรกของตารางเมทริ
แ วกัน ผลลัพธที่ กซ์ เมตริกซ์จำ�นวน 64,000 ตัวอย่างแสดงในตารางที่ 4 4 C2
ไดเมทริ
เรียกกวWeighted
สองด ซยค
ดวายค ลําาดัลํบาSum ความสํ
ดับความสํ าคัญาตัคัวญทีตั่สวองไปเรื แรก คู่อณยๆ คอลัจนครบ มนที่ ตาราง 44 ค่คาาดัดัชชนีนีคความสอดคล
ไดเรียกด้Weighted
ว ยค่
แลวนํวายค
สองด า
ผลคู ลำ � ดั บ
าลํณาดับงBกล
Sum
ความสำ าวมาบวกกั
ความสํ � คั ญ ตั ว แรก
าคัญตันวทีในแถวเดี คู ณ
่สองไปเรืยวกั คอลั ม
่อยๆ น์ท
น ผลลั ส
่ ี
จนครบองด้
พธวทยี่ ตาราง วามสอดคล้อองเชิ
งเชิงสุงสุม่ม[4][4] 5 C2
) 1  B 0.231 
ค่าลำก�ดัWeighted
แลไดวเนํรียาผลคู
บความสำ  �คัญ1ตัวทีส่ องไปเรื
 2.228
Sum  น0.231 อ ่ ยๆยวกั จนครบ (4)ผลลัแล้ วทนำี่ � จํานวนปจจัย 1 2 3 4 5 6
= B nณดัง= กล
B2าBวมาบวกกั ในแถวเดี น พ ธ 6 C
ผลคูณดังกล่ = Bาnวมาบวกกั 1
= B20.621 0.231 2.228
นในแถวเดี   ยวกัน ผลลัพ(4) ธ์ที่ได้ R.I. 0.00 0.00 0.58 0.90 1.12 1.24
ร ไดเรียก Weighted   Sum 0.621  
= B n  B3= B2  2.228 (4) จํานวนปจจัย 7 8 9 10 11 12 7
เรียก Weighted    0.231  CO

)
 Sum B3B1 0.621
    R.I. 1.32 1.41 1.45 1.49 1.51 1.48
2. หารสมาชิ= กBแต nB3ละตั  B=B  0.231
วในเวกเตอร 
2.228Weighted (4)
2. หารสมาชิกแต12ละตัวในเวกเตอร จากนั้ น
 Weighted จํานวนปจจัย 13 14 15 - - -

หาร
ารตร Sum ดSumวยคา2.ลําดัหารสมาชิ
บความสํ = B nากคัแต ญ= ในตํ
B าวแหน
ลBะตั ง0.621
2.228  นWeighted(4)(4)
เดียวกั
ในเวกเตอร R.I. 1.56 1.57 1.59 - - -
ดวยคาลําดับความสํา2คั3ญในตํ าแหนงเดียวกัน
 0.621
คํานวณ
 
ตรใน Sum ดวยคาลํา2.ดับความสํ B1 B2 ก3แต
หารสมาชิ
าคั ญ B ในตํ าแหนงเดียวกัน
Bnละตัวในเวกเตอร Weighted
ซึ่งค่คา CR CR ทีที่ค่คําำ�นวณได นวณได้ตตอ้องมีงมีคคาไม ่าไม่เกิเกินน10% 10%สําหรั สำ�บหรัการ บ ดังสมกา
λ 2. หารสมาชิ
=  + B1 + กแต่
B2ละตัBวnในเวกเตอร์
 (5)Weighted การวิ
วิ เ คราะหเคราะห์ ป จ จัปยัจทีจั่ มยี มทีากกว ่มีมากกว่ า 5าป5จ จัปัยจจัไมยคไม่ ควรเกิ
วรเกิ น 9% น
น Sum ดว2. ยคาหารสมาชิ
ลํWλา1ดั= Bบ1ความสํ
W2Bก+แต W า คั

nB
+ในตํ

ะตั
 ว
 า
ในเวกเตอร วกัน (5)
แหนงเดียWeighted
Sum ด้วλยค่= าลำ�ดัW+บ1ความสำ 2 W+ �nคัWญ
2  nในตำ  �แหน่งเดี (5)ยวกัน 9%
สําหรัสำบ�หรั 4 ปบจจั4ย ปัและไม จจัย คและไม่ วรเกินควรเกิ 5% สํนาหรั 5%บ 3สำ�ปหรัจจับย ถ3า
Sum ดวยคาลําดั บWความสํ W า คั ญ
W ในตํ
n า แหน งเดี ย วกั น
λ =1 9.09 2
B1 B2 Bn  ปัคจา จัCR
ย ถ้เกิ าค่นากว CRา มาตรฐานดั
เกินกว่ามาตรฐานดั ง กล า ว งหมายความว
กล่าว หมายความ า การ
λ = λ = +9.09 +  (5)
λ=BW 9.09
1 22 n W
B BW n  (5) ว่วิาเคราะห
การวิเคราะห์ ปจจัยปไมจั มจัยีคไม่ มคี วามสอดคล้
วามสอดคล องกันอของเหตุ งกันของเหตุ ผล เป ผล น
3. คํ า นวณคλา เฉลี =  ่ ย1ผลหารมาเป
+ + น ค า Eigen (5)
3. คํ า นวณค  Wา เฉลีW่ ย ผลหารมาเป
 1 = 29.09 Wn  น ค า Eigen เป็
เพีนยเพี ยงการเดาสุ
งการเดาสุ ม่ ของตั
 ม ของตั ว เลข วเลขในตั ในตัววอย อย่าางที งที่ แ สดงข
สดงข้างต้ งตนน จากนั้ น
Values สูงสุด3. ( λคํmax
า นวณค
) า เฉลีλ่ ย ผลหารมาเป น ค า Eigen
Values สูงสุด ( λmax ) แสดงให้
แสดงใหเห็ห็นนว่วาาการกำ การกํ�าหนดความสำหนดความสํ�าคัคัญญของปั ของปจจจัจัยยA,A,BB ละลายใ
Values สูงสุด (3.3.λmax คำ�)นวณค่λา=เฉลี9.09
คํ า นวณค า เฉลี
่ยผลหารมาเป็นค่า Eigen
λ ่ ย ผลหารมาเป น ค า Eigen
Values สูงสุด ( ) λ max = λ (6) และ
และ CCมีมีคความสอดคล้ วามสอดคล องกัอนงกัและค่ น และค าถ่วงนํา ถ้าวหนังน้กํ าความ
หนั ก ตารางท
Values สู3.งสุคํด า(นวณค λ n
λmax λ) า เฉลี=่ ย ผลหารมาเป
max =
λ n ค า(6)Eigen
น(6) สำความสํ
�คัญของปั า คั ญจจัของป ยทีไ่ ด้จสจัามารถนำย ที่ ไ ด ส�ามารถนํ ไปใช้ในการวิ า ไปใชเคราะห์
ใ นการ ได้
max
2) Values สูงสุด ( λmaxλmax ) = 3.03n λ วิเคราะหในบทความนี ได ้ ปัจจัยเสี่ยงของหม้อแปลงไฟฟ้า ระด
ย)8) λmax = 3.03
λmax =
(6)
(6)
λ = 3.03 n กำ�ลังทีน่ �ำ มาใช้ในการวิเคราะห์มที ง้ั หมด 12 ปัจจัย ได้แก่
ง)
4) 4. คํานวณคาดัชนีความสอดคล max
λค
λ
= อ งของป จ จั ย (6) ในบทความนี้ ปจจัยเสี่ยงของหมอแปลงไฟฟา
4. คํ า นวณค า ดั ช นี maxวามสอดคล อ งของป จ จั ย ปัจจัยที่ 1การวิ เคราะห์หาปริมาณก๊าซในนํา้ มันหม้อแปลง
) [3] (Consistency
ถลีย่ 4. คํ4.
า คำ
Index
นวณค� นวณค่ :
า C.I.
ดั ช า ดั
นี)คช นี ค วามสอดคล้
วามสอดคล
λ = n
3.03
อ อ งของปั
งของป จ จั จ
ย จัย [3] กํไฟฟ้
าลังาทีกำ่น�ําลัมาใช ในการวิเคราะห
[3] (Consistency Index : C.I.max
(Consistency ) ง (Dissolved Gas มAnalysis)ีทั้งหมด 12เป็ปนจการตรวจ จัย ไดแก
ลีวง [3] (Consistency IndexIndex : C.I. :λ−)maxC.I. )= 3.03 จั ย ที่ 1 การวิ เ คราะห หาาปริ
ย่ 4.C.Iคํ.า=นวณค (λmax า(ดัλชnนี)ความสอดคล อ(7)
งของป จ จั ย สุปขจภาพของหม้ อแปลงไฟฟ้ กำ�ลัมงาณก
โดยการเก็ า ซในน้บํ าตัมัวนอย่หมางอ
max − n )
วงรถ [3]
(Consistency
4. คํCานวณค C . I .
Index( =
n
.I . = max( n − 1)
− 1)
(λา ดั ช:นีC.I. n))
ค− วามสอดคล องของป (7)
จ จั ย
(7) (7) นํแปลงไฟฟ
้ามันหม้อแปลงโดยไม่ า กํ า ลั ง (Dissolved จำ�เป็นต้Gas องปลดหม้ Analysis) เป น การ
อแปลงออก ป จ จั ย ท
รถ [3] (Consistency Index(n: −C.I. 1) ) ตรวจสุ ข ภาพของหม
จากระบบความถี ่ เพือ่ วิอเไคราะห์
แปลงไฟฟ หาซที า กํ า ลัดงปกติ
าความผิ โดยการเก็
องก๊าซบมีอยู
ขารณา
(λmax − n ) ไฟฟ า กํ า ลั ง ในสถานี ด ซึ ่ ง ก ่ ใ ช ใ นการพิ จ กําลัง (M
C .IC.I. . = C.I. = 0.015
= 0.015 (7) ตั ว อย
หลั า่เกิงน้ดขึํ า้นมั นซึหม
กทัที้งหมด ่งดก๊อแสดงในตารางที
าแปลง
ซที่เกิดโดยไม ขึ้นแต่ลจ่ 5ะชนิ ํ า เป นดตสามารถบอก
อ งปลดหม อ
(λmax ( n −−1)n ) 7 ชนิ หัวขอย
C .I . =
5. คํานวณอัตราสวนความสอดคล ( n − 1) องของปจจัย
(7) ถึแปลงออกจากระบบความถี
งความผิดปกติอนั นำ�ไปสูก่ ่ ารชำ เพื่อ�วิรุเดคราะห
ของหม้หาความผิ อแปลงไฟฟ้ ดปกติา แปลงตอ
5. คำ�นวณอัตราส่วนความสอดคล้องของปัจจัย ของก า
ตารางที ซหลั ่ ก5ที ่ เ กิ ด ขึ ้ น ซึ ่ ง ก
กำ�ลังในสถานีได้ซงึ่ ก๊าซทีใ่ ช้ในการพิจารณามีอยูท่ งั้ หมดาํ มัน
คะแนนความสํ า ซที า่ เ กิ
คั ญด ขึ
ของก ้ น แต าล ะชนิ
ซที ล
่ ด สามารถ
ะลายในน้
[3] (Consistency Ratio : C.R.) การตร
[3] (Consistency Ratio : C.R.) 7บอกถึ [5]ดงแสดงในตารางที
ชนิ ความผิดปกติอัน่ นํ5าไปสูการชํารุดของหมอ แปลง
C .I .
Test) ซ
C .R. = (8) น้ําหนัก
R.I . คะแนน (Si )
(8) ลําดับ Gas
1 2 3 4 5 6 (Wi )
C.R. = 0.026
C.R. = 0.026 101- 201-
1 H2 ≤ 100 301-500 501-700 >700 2
200 300
โดยที่ R.I. (Random Index) คือ คาดัชนีความสอดคลอง 126-
2 CH 4 ≤ 75 76-125 201-400 401-600 >600 3
เชิงสุมที่ไดจากการทดลองโดยการสุมตัวอยางจากตาราง 200
เมตริกซจํานวน 64,000 ตัวอยาง แสดงในตารางที่ 4 3 C2H6 ≤ 65 66-80 81-100 101-120 121-150 >150 3
4 C2H 4 ≤ 50 51-80 81-100 101-150 151-200 >200 3
ตาราง 4 คาดัชนีความสอดคลองเชิงสุม [4]
ไฟฟากําลังในสถานีได ซึ่งกาซที่ใชในการพิจารณา มีอยู
ไฟฟากําลัทัง้งในสถานี
หมด 7 ชนิ
ได ดซึ่งแสดงในตารางที ่ 5 จารณา มีอยู
กาซที่ใชในการพิ
องปจจัย
ทั้งหมด 7ตารางที
ชนิด แสดงในตารางที
่ 5 คะแนนความสํ ่ 5 าคัญของกาซที่ละลายในน้าํ มัน
ไฟฟาดักํชาลันีงวในสถานี
ิเคราะห์ไดสซึภาพของหม้ อแปลงไฟฟ้
่งกาซที่ใชในการพิ จารณา มีาอกำยู� ลังสำ�หรับการบำ�รุงรักษาเชิงป้องกันของ
ตารางที่ 5[5]คะแนนความสํการไฟฟ้ าคัญของกานครหลวงโดยวิ
าซที่ละลายในน้าํ มันธีการตัดสินใจเชิ น้ํ า มั น มากกว า การทดสอบความคงทนของน้ํ า มั37
งวิเคราะห์ แบบตรรกะคลุมเครือํ ามั น หมน หม อ
ตาร
ทั้งหมด 7 ชนิด แสดงในตารางที่ 5 น้ ํ า มั น มากกว า การทดสอบความคงทนของน้ อ
(8) น้ําหนัก แปลงตอแรงดันไฟฟา เนื่องจากน้ําเปนปจจัยสําคัญที่ทํา ตาราง
องปจจัย[5] คะแนน (Si ) น้ํ า มัอนแรงดั
มากกว า การทดสอบความคงทนของน้ เปนจึปงจทํจัายใหสํคาคัาํ าความเป
ญมัทีน่ทหม ํา นอ
ลําดับ Gas
ตารางที
ตารางที่ 5่ 5คะแนนความสํ
คะแนนความสำ 3าคัญ
� ของก
คั ญ าซทีา5่ลซที
4 ของก๊ ะลายในน้
่ ล ะลายใน าํ มัi )น แปลงตอัของนํ
นตรายต า
้ มั น
นไฟฟ
อหม้ อ
า เนื่องจากน้ําโลส
ฉนวนประเภทเซลลู
แปลงต่ อ แรงดั น ไฟฟ้ า เนื อ
่ งจากนํ ตาร
1 2
คะแนน (Si ) น้ําหนัก 6 (W
อันแปลงต
ตรายตออฉนวนประเภทเซลลู
แรงดันไฟฟา เนื่องจากน้ โลสวขึจึ้นํางเปทํแสดงในตารางที สําคัญทีน่ทนํา
านใหปจคจัายความเป

้ เป็
ระ
ลําดับ Gas [5] 101- 201- ฉนวนลดลง ทํ า ให เ สื อ
่ มสภาพเร็ ่ 7ง
นํ1้ามั1นH[5] ปันจตรายต
จัยสำ�คัอญฉนวนประเภทเซลลู
ทีท่ �ำ อันตรายต่อฉนวนประเภทเซลลู โลสจึ
ฉนวนลดลง ทําใหเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แสดงในตารางที่ 7 น
อั โ ลส จึ ง ทํ า ให ค  า ความเป
2 2 ≤ 100 3 200 4 300 5
301-500 6501-700(Wi )>700 2
อดคล(8)อง 101- 201- 126-
คะแนน (Si ) >700 2 น้ า
ํ หนั ก ทำ�ให้ค่า่ ความเป็
ฉนวนลดลง
ตารางที ทําใหนเสืฉนวนลดลง
7 คะแนนคุ ภาพน้ํามัวทำนขึ�้นหม
่อณมสภาพเร็ ให้แสดงในตารางที
อเสืแปลงกํ
่อมสภาพเร็ าลัง [6]ว่ ขึ7้น
1 H 2 ลํา2ดั≤บ 100
CHGas4 200≤ 7530076-125 301-500 501-700
201-400 401-600 >600 3
กตาราง 1 2 200 3 4 5 6 (Wi ) ตารางที แสดงในตารางที
่ 7 คะแนนคุ่ 7ณภาพน้ํามันหมอแปลงกําลัง [6]
126- คะแนน น้ําหนัก
4 2 CH 4 3 ≤ C75 H 76-125
≤ 65 66-80 81-100
201-400
101- 201- 101-120
401-600 121-150
>600 3 >150 3 ตารางที
ตารางที
ลําดับ วิธีท่ ดสอบ
่ 77 คะแนนคุ
คะแนนคุ ณภาพน้
U ≤ 69 kVณภาพนํ้ามันUหม้
ํามันหม≥อ230
69kV<U<230 แปลงกํ
อแปลงกำ าลั�งลั[6] ง ก[6]
1 2H 26 ≤ 100200 301-500 501-700 >700 2 kV
kv
คะแนน น้ า
ํ หนั
200 81-100300 101-150 151-200 >200 3 ลําดับ วิธีทดสอบ U 69 kV 69kV<U<230 (Si ) (Wi )
อดคลอง 3 C 2 H 6 4 ≤C652 H 66-80 4 ≤ 50
51-80
81-100 101-120 121-150 >150 3 ≤
kV
45kV 69kV<U<230
U ≥ 230 kv คะแนน
60 kv(Si ) 1 (Wi )
น้ําหนัก
≤≥69 ≥ 52 U ≥≥230
126- Dielectric
52 CCH ≤ 75 76-125
4-7 8-35 201-400
36-50 401-600
51-80 >600
>80 53 ลํ าดั บ วิ ธ ท
ี ดสอบ U
ากตาราง 4 C 2 H 4 ≤ 502 H451-80 2 ≤ 381-100 101-150 200151-200 >200 3 Strength ≥ 45
Dielectric 35-45 ≥ 52 kV
47-52 ≥ 6050-60 1 (S2i ) (Wi )
351- 701- 901- 1100- 1 Strength kV 35-45 3 ปจจ
ที่ 4 6 5 C 2 H 2 63 ≤C3CO 2 H 64-7≤≤350658-3566-80 36-50
700 900 1100 1400
101-120>80
81-10051-80 121-150 >150 13
5 >1400 Dielectric ≥ 45 47-52
30-35 ≥ 52 50-60
35-47 ≥ 60 2 13
40-50
ปจหม
จัยทอ
1.24 1 kV (2 30-35
Strength 35-45 3 2 3 35-47
47-52 40-50
50-60
≤ 30 ≤ 35 ≤ 40
หมปเป
อจแปจ
4 C 2 H 351- ≤ 50701-51-80901- 101-150 151-200 >200 3
81-1001100- 4
12 6 CO 2 4 ≤ 2500 ≤ 3000 ≤ 4000 ≤ 5000>1400
CO 7 ≤ 350 ≤ 70001 >7000 1 1 mmgap)
(2 kV 30-35 3 35-47 40-50
700 900 1100 1400 ≤ 30 4 3 ≤ 35 ≤ 40 น
≤ 30 ≤ 20 ≤ 15 เปนหม อ
1.48 5 C 2 H 2 ≤ 3 4-7 8-35 36-50 51-80 >80 5 mmgap)
Water
(2 1
-6 7 ≤ 2500
CO 2จากนั ้ น นํ≤า3000 ≤ 4000351-
คะแนนและน้ ≤ 5000 ≤ 7000
ํ า หนั
701- ก901->7000
ของก 1 ล ะตั ว มา
า ซแต
1100-
≤ 30
Content ≤ 30
Water
mmgap) 30-35 1 2
4 ≤ 35
≤ 20
20-25
≤ 40
≤ 15
15-20 จุดกาอ
6 CO ≤ 350 >1400 1 2 Content
(ppm) 4 เป
อานอง
จุดกล
- 700 900 1100 1400 ≤ 30
Water 30-35
35-40 2 13 ≤ 20
20-25
25-30 ≤ 15
15-20
20-25
จากนั้ น นํคําาคะแนนและน้
นวณหาชวงคะแนนก าซที่ลาะลายในน้
ซแต ล ะตัําวมัมา
น (%DGAF)
1.24
12
ํ า หนั ก ของก
7 CO 2 ≤ 2500 ≤ 3000 ≤ 4000 ≤ 5000 ≤ 7000 >7000 1
2 (ppm)
Content35-40
≥ 40
30-35 3 42
4
≥ 30
25-30
20-25 ≥ 25
20-25
15-20 กลจุอดงถอ
หรับ1.48
การคํานวณหาช
ดังสมการ
วงคะแนนกาซที่ละลายในน้ํามัน (%DGAF)
2 (ppm)
≥ 40
35-40 4 3
4
≥ 30
25-30 ≥ 25
20-25 ตารอ
กล
กิ น 9% จากนัน้ ้ นนำนํ�คะแนนและน
- ดังสมการ จากนั าํ้ หนั
า คะแนนและน้ กของก๊าซแต่ละตัวมาคำ�นวณ
7 ํ า หนั ก ของก า ซแต ล ะตั ว มา
จากนั้นนําคาที่ได≥จ40ากการวิเ≥คราะห
30 คุณ≥
ภาพน้
25 ํามัน
4 แตละตัว ตาราง
รอน
Wน (%DGAF) ดังสมการ จากนั
าซที( ่ลiะลายในน้
มาคํ้นานํนวณหาช i)
จจัย- ถา หาช่วงคะแนนก๊าซทีล่ ะลายในน Σ S าํ้ xมั าคาที่ไดจวากการวิ
งคะแนนคุเคราะห
ณภาพน้คุณําภาพน้ ํามันแตละตัว
มัน (%MOQF) รอนตาร[7
คํานวณหาช%วงคะแนนก DGAF = i =1 x100%
ํามัน (%DGAF) (9) มาคํจากนั จากนั้นน้ นํนำา�คค่าาทีที่ไไ่ ดด้จจากการวิ ากการวิเคราะห เคราะห์คคุณณ ุ ภาพน้ ภาพนํามัาํ้ นมัแต
นแต่ ละว
ละตั
7 7 านวณหาชวงคะแนนคุณภาพน้ ํามัน (%MOQF) รอน
มว า
หรับการ การ ดังสมการ Σ ( Si xWi 6) × Σ W ตัวมาคำ �นวณหาช่ วงคะแนนคุ ณภาพน
มาคํ านวณหาช วงคะแนนคุ 2 ณภาพน้ ํามัน าํ้ (%MOQF) มัน (%MOQF)
ผลกิ น เป9%
น % DGAF = i =1
7
i =1 i
x100% (9) (9) 2 Σ ( S i ix W ) ระ
6 × Σ Wi 7 % MOQF =Σ i(=S1 xW ) x100% (10)
(10)
ปขจาจังต
ย ถนา จากนั ้ น นํ า ค า ที ่ ไ ด มiาประเมิ
= 1 Σ (
น S ระดั
x
i i W บ ) คะแนนของก า ซที ่ % MOQF = i =1 2 i 2 i
Σ4 2×( SΣi xWix100% ) (10)
จากนั ้ น นำ � ค่ %
า ทีDGAF
่ ไ ด้ ม = i =1 นระดับคะแนนของก๊
าประเมิ x100% า (9)
ซที ่ i = 1 i =1
จัมวย าA,การ ละลายในน้ า
ํ มั น
Bจากนั้ น นํ า ค า ที่ ไ ด ม าประเมิ น ระดั บ6คะแนนของก 7
า ซที่ % MOQF =4 × Σ W x100% (10)
× Σ Wi i =1 2 i
น้ผล
ํ า หนั ละลายในนํ ้ามัน i =1 จากนั้นนําคาที่ไดมาประเมิ 4 × ΣนW ระดับคะแนนของคุณภาพ
เปกนละลายในน้ตารางที ํามัน ่ 6 ระดั บคะแนนของกาซที่ละลายในน้ํามัน i =1 i
งขในการ
า งต น ตารางที
จากนั ้ น นํ่ 6 ระดั า ค า ที่ ไ ดบมคะแนนของก๊
าประเมิ น ระดั าซที ่ละลายในนํ้ามัานซที่ จากนั
บ คะแนนของก ํามั้นนนํหม
น้จากนั น้ านำคอ�าแปลงไฟฟ
ค่ทีา่ไทีดไ่มด้าประเมิากําลันงระดั
มาประเมิ นระดั บคะแนนของคุ บคะแนนของคุ ณณภาพ
ภาพ ป จ จ
ตารางที่ 6 ระดั บบคะแนนของก าซทีสภาพ ่ละลายในน้ํามัน ชวงคะแนน จากนั ้
น้ํานํมัน้ามัหมนอหม้ น นํ า ค
แปลงไฟฟ า ที
อแปลงไฟฟ้ ่ ไ ด ม าประเมิ
ากําลัางกำ�ลัง น ระดั บ คะแนนของคุ ณ ภาพ ป จพฤต
จั ย
จัย A, B ละลายในน้ํามัน
ระดั คะแนน
น้ตารางที
ํามันหม่ ่ อ88แปลงไฟฟ ระดับบคะแนนของคุ
คะแนนของคุ
ากําลัง ณณภาพนํ ภาพน้้าํามัมันนหม้ หมออแปลง
แปลง ป จจ
ตารางที ระดั พฤติสถาก
น้ํ า หนัาก ระดับคะแนน 4 ดี %DGAF < 20 ตารางที
ไฟฟ ่ 8
าากํกำา�ลัลังง ระดั บ คะแนนของคุ ณ ภาพน้ ํ า มั น หม อ แปลง พฤต
ลงไฟฟ ตารางที่36 ระดัสภาพ บคะแนนของก าซที ชวงคะแนน
่ละลายในน้ ํามัน ไฟฟ้
ตารางที สถานี
หมไอ
ชย ใไดนการ 4 ดี
ยอมรับได 20 ≤ %DGAF < 25 ไฟฟ
<
า กํ า ลัง ่ 8 ระดับคะแนนของคุณภาพน้ํามันหมอแปลง สถา
แก 2 เฝาระวัง %DGAF 20
25 ≤ %DGAF < 33.33 ไฟฟาระดั กําบลัคะแนน ง สภาพ ชวงคะแนน
หมโดย
อแ
3 ระดับ1คะแนน ยอมรับได สภาพ 20 ≤ %DGAF < ช25 วงคะแนน หม อ
มั น หมอ แย 33.33 ≤ %DGAF < 50 ระดับคะแนน สภาพ ชวงคะแนน โดยปร
ดังน
2 เฝาระวัง
แยม25ดีาก ≤ %DGAF <%DGAF 33.33 < 20 4 ดี %MOQF < 30
ปลงไฟฟ
น การา 1
04
แย 33.33 ≤ %DGAF
%DGAF
< %DGAF
50
≥ 50 ระดั
4
บ คะแนน
3 ดี
สภาพ
ยอมรับได 30 ≤ %MOQF
%MOQF
ชวงคะแนน
< 30 < 37.5 ดังนีโดย

ป จ จั ย ที ่ 2 3 การทดสอบคุ ยอมรั
ณ บ ได
ภาพน้ ํ า มั น หม
20 ≤ อ แปลงไฟฟ < 25า ดัNงน0
การเก็
ย ไดแกบ 0 ปัจจัยที่ 22 การทดสอบคุ แยมาก ณภาพนํ้ามันหม้อแปลงไฟฟ้า
เฝาระวัง %DGAF 25≥ ≤50%DGAF < 33.33
3 42 ยอมรัเฝบาไดดีระวัง 30 37.5 ≤ %MOQF %MOQF≤ %MOQF<< 37.5
30< 50
กํ า ลั ง (Main Oil Quality) ของ กฟน. ประกอบไปด ว ย 2 37.53050≤≤≤%MOQF %MOQF<<<5037.5
N 0ต่ําก=
มั น หมออป จ จั ย ที่ 2กำ�การทดสอบคุ
ลัง (Main OilณQuality)ภาพน้ํา มัแยนของ หมกฟน. ประกอบไปด้ า <วย50 2 3
1 เฝ ายอมรั
ระวั ง
แย บ ได %MOQF
ลดหม 1 อ แปลงไฟฟ 33.33 ≤ %DGAF
75
Nา0
หั2วหัขOil
อวข้ยอQuality) ยย่0 อไดย แได้ก แของ การทดสอบความคงทนของน้ 1 2 เฝ
แย า ระวั ง 50 ≤
37.5 ≤
%MOQF%MOQF<
≥ 75< 50 ต่ํากว
วย 2 ํา≥มัน50้าหม มันอ 0 แย ม าก
ก่ การทดสอบความคงทนของนํ N
การกําลัง (Main กฟน. แยมประกอบไปด
าก %DGAF
มผิปดนปกติ 50 ≤ %MOQF ≥ 75 < 75 ต่ําก1=
แปลงต
หม้
ป จ อ
จั ยแปลงต่ อการทดสอบความคงทนของน้
ที ่ แรงดั
2 อนแรงดั
ไฟฟาน(Dielectric
การทดสอบคุ ไฟฟ้ า
ณ Strength
(Dielectric
ภาพน้ ํ า มั น หม ofแปลงไฟฟ
Strength
อ Oil) และ of า ปปัจจจัจัยยที0ที่ ่ 331 ตัตัววประกอบการสู
ประกอบการสู แยมากแยญเสีย (Dissipation
ญ เสี ย
%MOQF
(Dissipation Factor)
Factor) Nอยู
1 ร
สามารถบ
การเก็ หั ว ข อ ย อ ย ได แ ก ํ า มั น หม อ ปจหรื
จัยอที่ Tan 3 ตัวDelta 0 ประกอบการสู แย ม าก ≥
เปนนวิวิธธที ีทใี่ ญี่ใช้ชเสี ยดสอบความเป
(DissipationนFactor) %MOQF 75 Nะห1
การตรวจวั
Oil)
กํ า ลั ง และการตรวจวั
(Main ด หาปริ
Oil ม าณน้
Quality) ด หาปริ ํ า
ของ ในน้
ม าณนํ า
กฟน. มั น้ ํ า (Water
ในน ้ ํ
ประกอบไปดา มั น Content
(Waterว ย 2 หรื อ Tan Delta เป็ ท ทดสอบความเป็ ฉนวนของ
นฉนวนของ อยูรN
อแปลง
ลดหม อ แปลงต อ แรงดั น ไฟฟ า (Dielectric Strength of Oil) และ ป
หรืหม
อ Tan จ จั ย ที ่ 3 ตั วประกอบการสู
Deltaโดยจะวั เปนวิธดีทดี่ใวชยค ญ
ทดสอบความเป เสี ย (Dissipation นฉนวนของ Factor) 2
Test)
Content
หั ว ข อ ซึ
ย ่ ง
อ ค
ย า น้ ํ า
Test)
ได แ หนัก ก ของการตรวจวั
ซึ ่ ง ค่ า น ้
การทดสอบความคงทนของน้ ํ า หนั ก ด
ของการตรวจวั หาปริ ม าณน้
ํ า มั นํ
ด า ใน
หา
หม อ หม้ อแปลง
อ แปลง โดยจะวั ด ด้ ว ยค่ า าเก็เก็บบประจุ ประจุ(Capacitance) (Capacitance) N 2อยู
อยูร=
ร
มผิดปกติการตรวจวั ด หาปริ ม าณน้ํ า ในน้ํ า มั น (Water Content หรื
หมและตั
อ แปลงอ Tanโดยจะวั

Delta เปด ดนววิยค
ประกอบการสู
ธีที่ใาชเก็ทบดสอบความเป
ญ เสี ย ประจุ
ซึ ่ ง ค า ที (Capacitance)
่ ต ั ว
นฉนวนของ
ประกอบการ อยูรN
ปริมาณนั ้าในนํ ้ามันา มากกว่ าการทดสอบความคงทน และตั ว ประกอบการสู ญ เสี ย ซึ ่ ง ค่ า ที ่ ต ั ว ประกอบการ Nะห3
2
แปลงต อแรงดั นไฟฟ (Dielectric Strength of Oil) และ หม อ แปลง โดยจะวั ด ด ว ยค า เก็ บ ประจุ (Capacitance)
สามารถTest) ซึ่ ง ค า น้ํ า หนั ก ของการตรวจวั ด หาปริ ม าณน้ํ า ใน และตั ว ประกอบการสู ญ เสี เยคราะห ซึ่ ง ค านทีี้จ่ ตะต ั ว ประกอบการ อยู ร
การตรวจวั ด หาปริ ม าณน้ํ า ในน้ํ า มั น (Water Content สูและตั ญเสี ยที่นํามาใชในการวิ
ว ประกอบการสู ญ เสี ย ซึ ่ ง ค า ที
องเปนคาที่มาก
่ ตงเปั ว ประกอบการ Nอยู
3 ร=
มอ แปลง สูญทีเสี่สุดยทีจากนั ่นํามาใช ใ นการวิ เ คราะห น ้ ี จ ะต อ นคาที่มาก ว
Test) ซึ่ ง ค า น้ํ า หนั ก ของการตรวจวั ด หาปริ ม าณน้ํ า ใน สูญเสียที่นํามาใชในการวิเคราะหนี้จะตอคะแนนของตั ้ น นํ า ค า ที ่ ไ ด ม าประเมิ น ระดั บ
งเปนคาที่มวาก อยูรNะห3
ที่สประกอบกํ
ุด จากนั้นานํลัางคาที่ไดมาประเมินระดับคะแนนของตั อยูร
ที่สุด จากนั
ประกอบกํ าลัง ้นนําคาที่ไดมาประเมินระดับคะแนนของตัว
38 วิศวกรรมสาร มก.
สูญเสียทีน่ �ำ มาใช้ในการวิเคราะห์นจี้ ะต้องเป็นค่าทีม่ าก อยู่ระหว่าง 1 ถึง 1.3 จะมีค่า i เท่ากับ 2
หม อ ที่สุด จากนั้นนำ�ค่าที่ได้มาประเมินระดับคะแนนของ NN34 = จำ = �จํนวนของหม้
านวนของหมออแปลงที แปลงที่ค่ค่าาสัสัดดสส่ววนน SSk /SSr มีมีคค่าา
k r
ปจจัยที่
ตารางที่ 9 ระดับคะแนนของตัวประกอบกําลัง [6] N 4 = มากกว า 1.5 จะมี Sk Sr มีคา ปจจัยที่ 7กับอายุ อายุกข
ที่ทอํา
หม ตัวประกอบกำ�ลัง จํา่รนวนของหม
อยู ะหว่ าง 1.3 ถึคงา 1.5
อแปลงที i ่คเท
าสัาดกัสคบว่าน4i เท่
จะมี ากับ 3
ตารางที่ 9 ระดับคะแนนของตัวประกอบกําลัง [6] มากกวา 1.5 จะมีคา i เทากับ 4
มเป
ที่ทนํา ตารางที
ระดับ่คะแนน
9 ระดับคะแนนของตั
สภาพ วประกอบกำ ชว�งคะแนน
ลัง [6] N4 = จำ
โดยที ่ Sk �=นวนของหม้
การจายโหลดสู อแปลงที งสุดในแต Sk /Sr มีค่า กับอายุขสองฉนวน
่ค่าสัดลส่ะสัวนปดาห ว นที่ ส
มากกว่ า 1.5 จะมี ค า
่ i เท่ า กั บ 4 ส ว นที่ สั มทํผัาสใหกักบรล
7น
มเป ระดับคะแนน
4 สภาพดี TD <
ชวงคะแนน โดยที
0.5 ่ S k = การจ Sา ยโหลดสู
r = พิ ก ด
ั ง สุ ด ในแต
โหลดของหม ล ะสั ป
อ ดาห
แปลงไฟฟ า กํ า ลั ง
max
โดยที ่ S = การจ่ายโหลดสู งสุดในแต่ ลาลัะสัง ปดาห์ ทําใหกระดาษสูไดมาปรญ
7 43 ยอมรั ดี บได 0.5 TD≤ max
TD < 0.5 < 0.7 S = พิ
k กด
ั โหลดของหม อ แปลงไฟฟ า กํ
6] max r
ซึS่งประวั ติการจายโหลดสามารถคํานวณไดจาก [6] ไดมาประเมินระด
0.50.7≤≤ TDTDmax <1 r = พิกัดโหลดของหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลัง ตารางท
max < 0.7
23 เฝ าระวั
ยอมรับได ง
] ก
าหนั ซึ่งประวัตซึิก่งารจ า ยโหลดสามารถคํ
ประวัติการจ่ายโหลดสามารถคำ 4 า นวณได จ าก [6]
�นวณได้จาก [6] ตารางที่ [9]
21 เฝาแย
ระวัง 1 ≤ TD <2 0.7 ≤ TDmax <1 ∑ (4 − i ) × N i
13 ระ
Wi )ก max
4LF = i =0
าหนั
∑ (4 − i ) × N4i (11) [9]
10 maxmax≥ <
แยแยมาก 1 ≤TDTD 22
∑ N
Wi ) LF = i =0 i =0 i (11) (11) ระดับ
0 แยมาก TD ≥2 4
ปจจัยที่ 4 อุณหภูมิ (Temperature) เปนการตรวจสอบ คาที่ไดจากการคํานวณนําไปใชประเมินระดับคะแนนของ
max ∑ N ระดับคะแนน
3 i =0 i
3 ปปัหมจจจัจัอยยแปลงไฟฟ
ทีที่ ่ 44 อุอุณณหภู
ากํมามิ ลั(Temperature)
หภู งดวยกลองถายภาพความร
ิ (Temperature) เป็เปนนการตรวจสอบ อนคาโดย
การตรวจสอบ ค่าที่ไตด้ิกจาารจ
ประวั
ที่ไดจากการคํ ากการคำ
นวณนํ �นวณนำ
ายโหลดของหม
าไปใช �อไปใช้
ประเมิ ระดัปบระเมิ
นแปลง นระดับคะแนน
คะแนนของ
4
หม้ อ แปลงไฟฟ้ า กำ� ลั ง ด้ว ยกล้ องถ่า ยภาพความร้ อ น โดย 3
เปนอการเปรี
หม แปลงไฟฟ ยบเที
ากํยาลับอุงดณวหภู ยกลมอิระหว างจุดที่ตองการวั
งถายภาพความร ดโดย
อนประวักับติการจ
ของประวั
ายโหลดของหม ติการจ่าอยโหลดของหม้
แปลง อแปลง 2
เป็
จุเปดนนอการเปรี
าการเปรี
งอิง จากนั ยยบเที
้ นย นํบอุ
า ค ณา หภู
ที ่ ไ ดมมร
ิ ะหว่ า
าประเมิงจุ
นด ที
ระดัต
่ อ
้ บงการวั ด
คะแนนของ กั

บเทียบอุณหภู ิระหวางจุดที่ตองการวัดกับ ตารางที่ 11 ระดับคะแนนของประวั ตารางที ่ 11 ระดั บ คะแนนของประวั ติการจายโหลดของ
ติการจ่ายโหลด 1
4
จุจุกลดดออ้อางถ
างอิ
งอิางยความร
ง จากนั
จากนั้นอ้นนํนนำาค�าค่ทีา่ไทีด่ไมด้าประเมิ
มาประเมิ น ระดั บ ตารางที
คะแนน ่ 11
หม อแปลง
ระดั
N 4 = อแปลง
บ [6]
คะแนนของประวั ต ิ ก ารจ า ยโหลดของ
นระดับคะแนนของ ของหม้ [6] อแปลงที่คาสัดสวน Sk Sr มีคา
จํานวนของหม ป0 จจัยที่
ป จ จั ย ท
4 ของกล้
กล อ
องถายความร งถ่ า ยความร้ อ น
อนบคะแนนอุณหภูมิของกลองถายความ มากกว หม อ แปลง [6] กับอายุข
ตารางที ่ 10 ระดั ระดัาบคะแนน1.5 จะมีคา i เท ากับ 4
สภาพ ชวงคะแนน ป จ จั ย ที่(Found
8 ฐา
ละตัว ตารางที่ 10 ระดับคะแนนอุณหภูมขิ องกล้องถ่ายความ ส ว นที่ ส
ชวงคะแนน LF ≥ 3.5
ร้รออนน [7]
ตารางที ระดับคะแนน 4 สภาพ ดี (Foundation) เพราะอา ต
[7]่ 10 ระดับคะแนนอุณหภูมิของกลองถายความ โดยที่ Sk3 = การจายโหลดสู งสุดในแต ละสัปดาห
2.5 ≤ LF < 3.5 ทําใหกร
ละตัว รอน [7] 4 ดี ยอมรับได

อแปลงไฟฟ≤ าLFกําลั<ง2.5 เพราะอาจทํ
LF 3.5 ตามไปด
าใหอ
ระดับคะแนน สภาพ ชวงคะแนน °C 3 2S r = ยอมรั
พิกัดโหลดของหม
บได เฝาระวัง 2.5 ≤ LF 1.5 ไดมาปร
< 3.5
1 แย
≤ LF 0.5 ≤ LF < 1.5 ตามไปดวฐานหม ย จากนอ
ระดับคะแนน 4 สภาพ ดี ≤ T ≤ °10
ช0วงคะแนน C ซึ2 ่งประวัต0ิการจายโหลดสามารถคํ
เฝาระวัง 1.5านวณได <จาก2.5 [6]
0) 10 < T ≤ 20 1 แย แยมาก
0.5 ≤ LF < 1.5 LF ≤ 0.5 ฐานหมอตารางท แปลงไฟ
4
2 เฝาระวัง
ดี 0 ≤ T ≤ 10 4 ตารางท
ปปัจจจัจัยยทีที่ ่ 66 ความต้
ความตาiา=∑นทานฉนวนหม้
0) 1 แย 20 < T ≤ 40 0 แยมาก (4 − i ) × N LFอแปลง ≤ 0.5 (Insulation [9]
2 เฝาระวัง 10 < T ≤ 20 นทานฉนวนหม
0 i อแปลง (Insulation ตารางที่ 14 ระด
1
0 แยมาก
แย T > 40
20 < T ≤ ป ResistanceLF
40จจัยที่ Resistance
= เป็นการทดสอบค่าความต้านทานฉนวน
Test) 4 (11) ระดับ
ภาพ 6 ความตานทานฉนวนหม Test) เป น∑การทดสอบค Nอiแปลง (Insulation า ความต า นทาน ระดับ
ปัปจจัจัยยทีที่ ่ 055 ประวั าแยยโหลด
มาก T > 40 คือ หม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังi (PI) =0 โดยจะวัดค่าความต้านทาน
ภาพ ประวัติกติารจ่
ก ารจ า ยโหลด(Load (LoadHistory)
History) คื อ ฉนวนหม
Resistance Test) อเปแปลงไฟฟ น การทดสอบค า กํ า ลั งา ความต(PI) โดยจะวั า นทาน ด ค า ความ ระดับคะแนน
ระหว่่ไดาจงขดลวดของหม้ าอไปใช
แปลงด้ วยเครื ่องมื อวัดความ
ปพฤติ
พฤติ จ จั ยกกทีรรมการจ่
่ 5 ประวัาายโหลดของหม้
รรมการจ ยโหลดของหม
ติ ก ารจ า ยโหลด ออแปลงไฟฟ้
แปลงไฟฟ
(Load History) คืในอ คตาาอทีนทานระหว
าากำกํ�าลัฉนวนหม
ลังงใน แปลงไฟฟ ากการคํางขดลวดของหม
กํานวณนํ
า ลั ง (PI) ปอระเมิ
โดยจะวั ดนคระดั
แปลงด าวความ บคะแนนของ
ยเครื ่องมือวัด 4
แปลง ต้านทาน (Megger) จากนั น้ อนำแปลง
�ค่าทีไ่ ด้มาประเมินระดับ 3
สถานี
สถานีกไไรรมการจ
พฤติ ฟฟ้
ฟฟาา โดยจะพิ
โดยจะพิ จจารณาจากการจ่
ารณาจากการจ
า ยโหลดของหม าายโหลดสู
อ แปลงไฟฟยโหลดสูางกํงสุสุาดตลัดของใน ประวั
างของ
นทานระหว ความต ตาิกงขดลวดของหม
าารจ นทาน ายโหลดของหม
(Megger) อแปลงดจากนั ว้ นยเครื
นํ าค่าอทีงมื่ไดอมวัดาประเมิน 1
ปลง หม้ อ
หมอแปลง แปลง หรื อการจ่ า ยโหลดเกิ น พิ ก ด
ั ในช่ ว งเวลาหนึ ง่ โดย คะแนนของความต้ า นทานฉนวนหม้ อ แปลงไฟฟ้ า กำ
� ลัง
สถานี ไฟฟา หรื อการจจาารณาจากการจ
โดยจะพิ ยโหลดเกินพิกาัดยโหลดสู ในชวงเวลาหนึ ดของ่ง าตารางที
งสุความต ระดั
นทาน บคะแนนของความต
(Megger)
่ 11 ระดับจากนั ้ นานํนทานฉนวนหม
คะแนนของประวั าคา ที่ไดมตาประเมิ ิการจอาแปลงไฟฟน
ยโหลดของ า 0
ป จ จั ย ท
ประวั ติการจ่ ิกาารจ
ยโหลดสามารถแบ่ ตารางที ่ 12 ระดั บ คะแนนของความต้ า นทานฉนวน
โดยประวั
หม อแปลง ตหรื อการจ ายโหลดเกินงออกเป็
ายโหลดสามารถแบ น ว5งเวลาหนึ
พิกัดง ออกเป
ในช กลุ
น ่ม5ระดัดักลุ
งนีบม่ง้ คะแนนของความต
กําลัองแปลง [6] านทานฉนวนหมอแปลงไฟฟา
หม ป จ จั ย ที่ กฟน.
9 ระบ ใช
Nโดยประวั
ดัง0นี้ = จำ � นวนของหม้ อ แปลงที ค
่ า
่ สั ด ส่ ว น N /N มี ค า
่ หม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลัง [8] ป จ จั ย ทห
0 ติก ารจ ายโหลดสามารถแบ ง ออกเป น 5กํกลุ k r าลังม กฟน. ใชกัแบบบอุณON
ตารางที ่ 12 ระดั บ คะแนนของความต า นทานฉนวนหม อ
ดัตํNง่านีกว่้ า= 0.6 จะมีค่า i เท่ากับ 0 ระดับคะแนน สภาพ ชวงคะแนน
0
37.5
จํ า นวนของหม อ แปลงที ค
่ า
 สั
ด ส ว น S S มี ค า
 กับอุณหภู(Found
อุณมิทหภูี่กํมา
< 50
37.5 N10 = จำ�นวนของหม้อแปลงที่ค่าสัดส่วน Skk /Srrตารางที มีค่า ่ แปลงไฟฟ12 ระดั4บาคะแนนของความต กําลัง [8] ดี านทานฉนวนหม LF ≥อ 3.5 เพราะอา
< 75
< 50
ต่Nํา0กว
อยู ่ระหว่ า= 0.6 0.6 คถึาง 1i จะมี
จะมี
าจํงานวนของหม อเทแปลงที
าคกั่าบ i่ค0เท่าสัาดกัสบวน1 Sk Sr แปลงไฟฟ มีคา ากําลัง [8] 3 ยอมรับได 2.5 ≤ LF < 3.5 อุณหภูมิกระดั ารทํบาคะ งา
ตามไปด
<5 75 ต่NNํา2กว า=0.6�จํนวนของหม้
าจะมี
นวนของหม
คา i อเท ากับ 0่ค่ค่าาสัสัดดส่สววนน SSkk/SSr rมีมีคค่าา
อแปลงที
แปลงที
ระดับคะแนน 2 เฝสภาพ
าระวัง 1.5 ≤ LF <GΩ2.5 ระดับคะแนนระบ
ชวงคะแนน
1= จำ ตารางทอ
ctor) ระดับคะแนน 14 สภาพ แย
ดี ชวงคะแนน0.5GΩ ≤ LF >< 21.5 ฐานหม
5 อยู
N1ระหว = าจํง า0.6 ถึง 1 จะมีอแปลงที
นวนของหม คา i ่คเทาสัาดกัสบวน1 Sk Sr มีคา PI
max
ตารางที่ 15 ระด
0 แยมาก LF ≤ 0.5
นของ
ctor) Nร2 ะหว 4 3 ดี ยอมรั บ ได > ≤ ≤ ตารางท
อยู = างจํา0.6 นวนของหม
ถึง 1 จะมีอคแปลงที า i ่คเทาสัากัดบสวน1 Sk Sr มีคา PI
max 1.25 2 PI
max 2 ระดับ
nce)
นของ อยู คา i ่คเทาสัาดกัสบวน2 Sk Sr มีคา ป3 จจัยที่ 62 ความต ยอมรัาบนทานฉนวนหม
ได เฝาระวั1.25 ง ≤ อPI1.1 แปลง
max≤ ≤PI 2
(Insulation
max < 1.25
ระดับคะแนน
N 2ระหว = าจํง า1นวนของหม
ถึง 1.3 จะมีอแปลงที
ระดับ
บการ
nce) อยู Nร3ะหว = างจํา1นวนของหม
ถึง 1.3 จะมีอคแปลงทีา i ่คเทาสัากัดบสวน2 Sk Sr มีคา Resistance 2 1 Test) เปงน การทดสอบค
เฝาระวั แย 1.1 ≤ PI max1า ความต ≤< PI1.25 า นทาน
max < 1.1
4
มาตรวัดระดับหมอแปลงไฟฟากําลังจะถูกติดตั้งไว ที่ ถั ง น้ํามันหมอ
Sr มีคา ปจจัยที่ 7 อายุการใชงาน (Age) ของหมอแปลงจะขึ้นอยู มาตรวัดระดับหมอแปลงไฟฟากําลังจะถูกติดตั้งไว ที่ ถั ง น้ํามัน
สํารองน้ํามันดานบนหม อแปลง เพื่อปองกันหมอ แปลง
กับอายุของฉนวนกระดาษที่ใชพันลวดตัวนํา เพราะเปน สํปาจรองน้ จั ย ที่ ํา10 มันํนา ดคระดั
าานบนหม บ น้ํ า มัอนแปลง หม อ แปลง เพื่อบป(Main องกันหม OilอLevel) แปลง ตารางทีจาก่
Sr มีคา รั ่ ว ซึ ม จากนั ้ น ที ่ ไ ด ม าประเมิ น ระดั คะแนนของ
สปวจนที
จัย่ สทีั ม่ 7ผั สอายุ กั บกลวดโดยตรง
ารใชงาน (Age) ความร ของหม อแปลงจะขึว้นนํอยู
อ นจากลวดตั า  รัมาตรวั ด ระดั บ หม อ แปลงไฟฟ า กํ า ลั ง จะถู ก ติ ด ตั ้ ง ไว ที่ ถั ง ไฟฟาตารา
น้กํํามล
กั บ อายุดัชขนีองฉนวนกระดาษที
วิเคราะห์สภาพของหม้ ่ ใ ช พ ั น ลวดตั อแปลงไฟฟ้
ว นํ า เพราะเป าระดั
กำน�ลับงน้่ วสำําซึมั�มนหรัหมจากนั บอการบำ ้ น นํ�ารุคงารัทีากกํ่ ไาดษาเชิ
แปลงไฟฟ งป้องกั
ลัมงาประเมิ น ระดันของ บ คะแนนของ
ไฟฟา
ทําใหกระดาษสูการไฟฟ้ ญเสียความแข็ า งแรงทางกล จากนั
นครหลวงโดยวิ ธ ก
ี ้นารตั
นําคด าทีสิ่ นระดั สํใจเชิ
ารองน้
บน้งําวิมัําเนมัคราะห์ นดอาแปลงไฟฟ
หม นบนหมแ บบตรรกะคลุอาแปลงกําลัง เพื่อมปเครื องกัอนหมอ39 แปลง
าลัSงr มีคา ปสจวจันที
ยที่ ส่ 7ั ม ผัอายุ ก ารใช ง าน (Age) ของหม อ แปลงจะขึ น
้ อยู  ตารา
ห ไดมาประเมินสระดั กั บ ลวดโดยตรง
บคะแนนของอายุ ความร หมออแปลงไฟฟ นจากลวดตั ากําวลันํตารางที
งา รั่ ว ซึ่ ม16จากนั ระดั้ นบนํคะแนนของระดั
า ค า ที่ ไ ด ม าประเมิ บน้ํ านมัระดั
น หมบอคะแนนของแปลง
ระดั บค
กัทํบาอายุ
ให ก ข
ระดาษสูองฉนวนกระดาษที ญ เสี ย ความแข็ ่ ใ ช
ง พ ั น
แรงทางกล ลวดตั ว นํ า
จากนั เพราะเป

้ นํ า ค า นที่ ตารางที่ 16 ระดับคะแนนของระดับน้ํ ามัน หมอ แปลง ไฟฟ4
] ง ปัวจนทีจัยที่ สั่ม่ 713 ไฟฟาระดั บงน้ํามัํ้านมัหม
กํสำา�ลัรองน นด้อาแปลงไฟฟ
นบนหม้อาแปลงเพื กําลัง ่อป้องกันหม้อแปลง
าลั สตารางที
ได ม าประเมิ ผัอายุ บกลวดโดยตรง
สนกัระดั
ระดั
ารใช้ งาน (Age)ความร
บบคะแนนของอายุ
คะแนนของอายุ
ของหม้ อแปลงไฟฟ
แปลงจะขึากํน้ วาอยู
หหมมอออนจากลวดตั
แปลงไฟฟ า กํ านํลัลัางง่ ไฟฟ า กํ า ลั ง 3
กับอายุของฉนวนกระดาษทีใ่ ช้พนั ลวดตัวนำ� เพราะเป็น รั่วซึม จากนั้นนำ�ค่าที่ได้มาประเมินระดับคะแนนของ
6] ทํ[9]าใหกระดาษสูญเสียความแข็งแรงทางกล จากนั้นนําคาทีระดั่ บคะแนน ตารางที ่ มั16
สภาพ ระดั บคะแนนของระดั ช�วงคะแนน บน้ํ ามัน หมอ แปลง 2
าลั ส่ตารางที
วนทีส่ มั ่ ผั13 สกับระดั
ลวดโดยตรง ความร้ อ นจากลวดตั ว นำ� ทำ � ให้ ระดั บ นํ า
้ น หม้ อ แปลงไฟฟ้ า กำ ลั ง
1)ง ได มาประเมิญนเสีระดั
กระดาษสู บบคะแนนของอายุ
ยความแข็
คะแนนของอายุหหมมออแปลงไฟฟ
งสภาพ
แรงทางกล จากนัชวน้ งคะแนน
แปลงไฟฟากํากําลัาลัง ง ไฟฟ
นำ�ค่าทีไ่ ด้ 4ตารางที ระดับาคะแนนกําลั่ ง16ดี ระดั สภาพ
บคะแนนของระดั 4 ≤ MOLF บชวนงคะแนน
≤าํ้ มั5นหม้อแปลงไฟ
1
[9] ระดั บ คะแนน 0
] มาประเมิ่ 413 นระดั บคะแนนของอายุ หหม้มออแปลงไฟฟ้ าากำกํ�าลัลังง 3 4 ยอมรั บ ได ดี 3 ≤ MOLF < Or 5 < MOLF 4 ≤ MOLF ≤ 5≤ 6
11) ตารางที ระดั บคะแนนของอายุ แปลงไฟฟ
AGE < 20
แนนของ ตารางที ่ 13 ระดับคะแนนของอายุ
ดี
ห20ม้อ≤ชแปลงไฟฟ้ า 2
ระดับ3คะแนน ยอมรั สภาพ
เฝาระวัง บ2ได ≤ MOLF 3 ≤ MOLF < 3 Or< 64 <Or MOLF
ช ว งคะแนน 5 < MOLF ≤7≤6 ป จ จั ย ที่ 1
[9] ระดับ3คะแนน ยอมรั สภาพ บได วAGE
งคะแนน < 40
กำ�ลัง [9]2 24 เฝาระวั
ดี 1.5 ง ≤2 MOLF ≤ MOLF <42<≤Or3MOLF 7Or<6 MOLF<≤ MOLF5 ≤ ≤7
กําลังปในห
จจ
1)แนนของ เฝาระวั ดี ง 40 ≤AGEAGE< <20 60 1 แย
4
1
3 ยอมรับได 1.5
แย 3 ≤≤MOLF MOLF7.5 <<4 2OrOr5 7<<MOLF MOLF≤≤6 กําลัง
ระดับคะแนน 13 ยอมรั แย บได
สภาพ 20 ช≤≤วงคะแนน
60 AGE ≤< 70
AGE 40 0 2 แยมากเฝาระวัง MOLF <
2 ≤ MOLF < 3 Or 6 < MOLF ≤ 7
1.5 Or MOLF 7.5 > 7.5 Changer
หลดของ > 70
ป จ จ
Chan
0
42
แย
เฝาดีมระวั
าก ง AGE
40 AGE≤ AGE < 20< 60 0 แยมาก 1.5 MOLF≤ MOLF < 1.5< Or2 OrMOLF 7 < >MOLF 7.5 ≤ คะแนนขอ
แนนของ AGE <≤ 4070ปจจัยที่ 11 การทดสอบคุณภาพน้ํามันหมอ7.5แปลงไฟฟา
1 แย กําล
หลดของ
1
ป จ จั ย ที่308 ฐานตั้ ง หมยอมรั
แยบได
อแยแปลงไฟฟ
60 ≤ AGE
า20กํ า≤AGE
ลั ง ในสถานี ปจจัยที่ 11 การทดสอบคุ ณMOLF
ภาพน้ ขณะจคะแ ายไ
นน
2 เฝาระวัง ม าก 40 ≤ AGE> <70 60 กําลังในหอ0งชุดเปลี่ยแยนแทปขณะจ มาก ายไฟ< ํา(On มันหมMOLF
1.5 OrLoad
อแปลงไฟฟ > 7.5 า
Tap Cha
ขณะ
(Foundation) 1 ต อ งไม มี ก แยารแตกหรื อ60รอยแตกชํ ≤ AGE ≤ 70 Changer
า รุ ด กําลังในหองชุดเปลี่ยนแทปขณะจายไฟ (On Load Tap ตารางที คะแ่
Oil Quality) จะทดสอบเหมื อ นกั บ ป จอจัแปลงไฟฟ้ย ที่ 2 า
หลดของ
3.5 ป จ จั
เพราะอาจทํ ย ที ่ 8 ฐานตั
0 าใหอุปกรณตแย ้ ง หม อ
างๆ แปลงไฟฟ
มากที่ติดอยูกับหม า กํ า ลั ง
อแปลงชํ ในสถานี
> 70 ารุด Changer ปปัจจจัจัยยทีที่ ่ 11 11 การทดสอบคุ
Oil การทดสอบคุ
Quality)
ณณภาพน
จะทดสอบเหมืภาพน้าํ้ ํามัมันนอหม้ หม
นกั อบแปลงไฟฟ
ป จ จั ยTap ที่ 2า ตาร
แนน
< 3.5
AGE
และนํ กำ
า ค� ลั
า ง
ที ในห้

่ ด ม อ
าใช งชุ ค ดา
ํ เปลี ย
่ นแทปขณะจ่
นวณในตารางที ่ 17 ายไฟ (On Load ไฟฟาขณะ กําล
(Foundation) วย จากนั ต้นอนํงไม คามทีอี ก่ไดแปลงไฟฟ้
ารแตกหรื
มาประเมินาอระดั รอยแตกชํ า รุ ด กําลังในหองชุดเปลี่ยนแทปขณะจายไฟ (On Load Tap
ตามไปด
ปปัเพราะอาจทํ
จจจัจัยยทีที่ ่ 88 าฐานตั ฐานตั ้ ้งาหม
ง หม้ กำา�ลัลับคะแนนของ
งในสถานี และนํ
Changer าคาที่ไOil ดมาใช คํานวณในตารางที
Quality) จะทดสอบเหมื ่ 17 อนกับปัจจัยที่ ไฟฟา
<
3.52.5
ฐานหม อ แปลงไฟฟ ใหอุปากรณ กํ า ลั ตางๆ ที่ติดอยูกับหมองแปลงชํ

อ แปลงไฟฟ า กํ ในสถานี าตารางที
รุด Changer ่ 17 Oil
คะแนนคุ Quality)ณ ภาพน้ จะทดสอบเหมื

ํ มั น หม อ แปลงไฟฟ อ นกั่ 17บากํปาจลัจังย ที่ 2 ตาร
ระดับคะแน
<
นน< 1.5
3.5 (Foundation)ต อต้งไม
(Foundation) องไม่มี กมีารแตกหรืการแตกหรืออรอยแตกชํ รอยแตกชำ�ารุรุดด 2 และนำ�ค่าที่ได้มาใช้คำ�นวณในตารางที
0.5< 2.5 ตามไปดวย จากนั
เพราะอาจทำ ให้อุปอ้นบกรณ
�ระดั ุปนํคะแนนของฐานหม
าคาทีต่ได่ามงๆาประเมิ
กรณ์ ่ติดกนอยู
ทีอยู ระดั
่กับอบหม้
คะแนนของ
อาแปลง ในหอตารางที และนํ
งชุ ดเปลี
ตารางที าค่ ่ยา17 ่ไดคะแนนคุ
่ ทีนแทปขณะจ
17 มาใชคะแนนคุ าณยไฟภาพน้
คํานวณในตารางที
ณภาพนํ[6]ํามัน้าหม อแปลงไฟฟากําลัง
มั่ น17หม้อแปลงไฟฟ้า ไฟฟ
4
ระดับ
3.5 ตารางที
เพราะอาจทํ ่ 14 า ให ต า
 งๆ ที ต
่ ด

กําลัง้นนำ�ค่าที่ได้มาประเมินระดับ ในห อ บ
ั แปลงไฟฟ
หม แปลงชํ กํ า ลั
รุ ง

<< 3.5
1.5 ชำฐานหม
�รุดตามไปด้อแปลงไฟฟ วย าจากนั กำ�ลัองงชุในห้
ตารางที
ดเปลี
่ 17
องชุ่ยคะแนนคุ
นแทปขณะจ
ดเปลี่ยนแทปขณะจ่ณ ภาพน้
ายไฟ [6]ายไฟ [6] 3
ulation ตามไปด วย จากนั้นนําอคแปลงไฟฟ้ าที่ไดมาประเมิ นงระดับคะแนนของลําดับ วิธีทดสอบ U ≤ 69 kV 69kV<U<230 Uํามั≥น230หมอคะแนน แปลงไฟฟ น้ําหนักากําลัง ระดับ
0.5
< 2.5 คะแนนของฐานหม้
ตารางทีอแปลงไฟฟ
ระดั บ ่ 14 ระดับากํคะแนนของฐานหม
คะแนน สภาพ า กำ � ลั อแปลงไฟฟากําลัง ในห
ช ว งคะแนน kV69kV<U<230kV U ≥ 230 (Si ) (Wi ) น้ําหนัก
คะแนน
2
านทาน ฐานหม า ลั ง ลําดับองชุ วิธีทดดสอบ เปลี ย
่ U นแทปขณะจ
≤ 69 kV า ยไฟ [6] 1
< 1.5 ตารางที่ 14 ระดับคะแนนของฐานหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลัง Dielectric ≥ 45 ≥ 52 ≥ 60 kV kV (S ) (W )
คsulation 4 ดี ปกติ 1 i i
า ความ
0.5 StrengthDielectric ≥ ≥ ≥ คะแนน
1 น้ า
ํ หนั ก
0
ตองมื
า นทาน ระดั บ3คะแนน ยอมรั
สภาพ บ ได
ตารางที่ 14 ระดับคะแนนของฐานหมอแปลงไฟฟากําลัง ลําดับ วิธีทดสอบ U ≤ 69 kVชํ า ชรุ ด
ว เล็ ก
งคะแนนน อย 35-45 45 47-52 52
69kV<U<23050-60 60
U ≥ 230 2
อวัด 1 แย ชํารุดปานกลาง 1 kV Strength 30-35 35-45 35-47 47-52 kV 40-50 50-60 3
kV 3 (S2i ) (Wi )
ulation
คประเมิ
า ความ 0
4 ดี
แยมาก
ปกติ
ชํารุดมาก 1 (2 Dielectric
kV 30-35 35-47 40-50 3 3
น 3
ระดับคะแนน ยอมรั
สภาพบได ชํชาวรุงคะแนน
ดเล็กนอย ≤ 30 ≥ 45 ≤ 35 ≥ 52 ≤ 40 ≥ 604 1 ปจจัยมาแ
านทาน mmgap) (2
ลงไฟฟาด
องมื อ วั
ป จ จั ย ที่ 4901 ระบบระบายความเย็ แย
ดี น ชํารุดปานกลาง
(Cooling ปกติSystem) Water
Strength 35-45
mmgap)
≤ 30 ≤ 35
47-52
≤ 30 30-35 ≤ 20 35-47 ≤ 15 40-501 3
≤ 40
50-60 42
ประเมิปจนจส
คประเมิ
า ความน 3
แยมาก
ยอมรับได
ชํารุดมาก
ชํารุดเล็กนอย
1 kV 3
≤ ≤ ≤
สถานีประเ
ContentWater 30-35 30 20-25 20 15-20 15 2 1
องมื อวัดา กฟน. ใช1แบบ ONAF และการทํ างานของพัชําดรุดลมจะขึ ้นอยู2 (2 พร
ลงไฟฟ ปัปจจจัจัยยทีที่ ่ 99 ระบบระบายความเย็ แย น น(Cooling System)
ปานกลาง (ppm)Content ≤ 30 25-30 20-25
35-40 30-35 ≤ 403 24 4
≤ 35 20-25 15-20 ปจจ
ระบบระบายความเย็
กับอุณหภู0 มิที่กําหนดไว แย ซึ่งมการไฟฟ
าก า (Cooling
นครหลวงกํ
ชํารุดมาก
System)
า หนด 2 mmgap) 4 คะแนนท สถาน
นวนหม
ประเมินอ กฟน. ใช้ แ บบ ONAF และการทำ � งานของพั ด ลมจะ (ppm)
Water≥ 40 35-40 ≤ 30 ≥ 30 25-30
≤ 20 ≥ 25 20-25
≤ 154 31 ประ
อุกฟน.
ณหภู่กมใชัิกบแารทํบบาONAFงานไว และการทํ
มิที่ก2ำ�หนดไว้
ชวง จากนั างานของพั
นําคาที่ไดาดลมจะขึ
ซึ่ง้นการไฟฟ้ มาประเมิ ้นอยูน ≥ 40 ≥ 30 ≥ 25 ประจํคะแา ป ใ
ปขึกัจ้นบจัอยู อุณระบบระบายความเย็
หภู นครหลวง Content 30-35 42
ลงไฟฟา ย ที ่ 9 น (Cooling System) 20-25 15-20
สถา
นวนหมอ ระดั
กำกฟน. อุบณคะแนนระบบระบายความเย็
�หนดอุ หภูณมหภู ิที่กมําิกหนดไว
ารทำ � ซึ่งการไฟฟ
งานไว้ 2 นวงาจากนั
ช่ นครหลวงกํ น
้ นำ � ค่ าาทีหนด

่ จากนั
ด้ ้นนําคา(ppm)
2 ที่ไดจากการวิ35-40 เคราะห คุณภาพน้20-25
25-30 ํามันแตล3ะตัว 4 ประ
กฟน. โดย
จากนั น
้ นำ � ค่
า ทีไ่ ด้จ ากการวิ เคราะห์ ค ณ
ุ ภาพนาํ้ มันแต่ละ
GΩ อุณหภูใชมแิกนบบ
มาประเมิ ารทํ ONAF และการทํ
ระดัางานไว 2 ชวง จากนั
บคะแนนระบบระบายความเย็
างานของพั
้นนําคาทีด่ไลมจะขึดมนาประเมิ ้นอยู น าจากนั
มาคํ นวณหาช ้นนําวคงคะแนนคุ
าที่ได≥จากการวิ
40 ณภาพน้
เคราะห
ํามัน ค(%OQF)
≥ 30 ุณภาพน้
≥ 25 ํามัน4 แตละตัว คะแ
จ า กกฟน
กัตารางที ่ 15มิที่ระดั บคะแนนระบบระบายความเย็
บอุบณคะแนนระบบระบายความเย็
หภู น า หนด ตัวมาคำ
มาคํ �นวณหาช่
านวณหาช วงคะแนนคุ
วงคะแนนคุ ณภาพน้ ณภาพนํ ้ามัน (%OQF)
ํามัน (%OQF) ชุ ด เ
นวนหม
>2 อ ระดั
ตารางที ่ 15 กระดั
ําหนดไว ซึ่งการไฟฟ
น านครหลวงกํ
บคะแนนระบบระบายความเย็ น จากนั้นนําค
าที่ไดΣ2จากการวิ เคราะหคุณภาพน้ํามันแตละตัว
ประ

Changer) าก
น GΩ อุณหภูมิการทํางานไว 2 ชวง จากนั้นนําคาที่ไดมาประเมิน ( Si2xWi ) กฟน
max ≤2 ตารางที
ระดั ่ 15 ระดับคะแนนระบบระบายความเย็
ระดับคะแนน
บคะแนนระบบระบายความเย็
สภาพ
น น
ชวงคะแนน มาคํา%นวณหาช i =
OQF =วงคะแนนคุ1
2Σ ( Sณi xภาพน้
Wi ) ํามัน (%OQF)
x100% (12)(12) น้ํามันChan
หมอ
><2 1.25 %OQF4 =× Σ W i =1 x100% (12) จําามัก
น้
GΩ
4 ดี ปกติ 2
i =21 i สามารถค
Cha
max< ≤
1.1 2 ตารางที 2
ระดับ่ 15 เฝ าระวั ง
คะแนนระดับคะแนนระบบระบายความเย็
สภาพ ไม ทชวงาน

ํ งคะแนน น1 ตัว
i
4× Σ W
Σ iS=i1xWii ( ) สามา
>2 0
4
แยมาก
ดี
ไมทํางานตั้งแต 2 ตัวขึ้นไป
ปกติ %OQF = 1 =
2
x100% (12) น้ําม
x< <1 1.25 จากนัน้ นำ�ค่าทีไ่ ด้มาประเมินระดับคะแนนของคุณภาพ
ปัจจัระดั
ยทีบ่ คะแนน
10 ระดั บ นํ า
้ มั น หม้ อ แปลง (Main ํางาน 1Level)
Oil 4 × Σ Wi HI สาม=
max <≤1.1
2 2 เฝ
สภาพาระวัง ไมชวทงคะแนน ตัว Total
นํ้ามันหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลัง i =1
x มาตรวัด4ระดั 0 บหม้อแปลงไฟฟ้ แยมาก ากำ�ลังไมจะถู
ดี

ทํางานตั ติ้งดแตตั2ง้ ไว้
ปกติ
ตัวทขึ้นถ
ี่ ไปงั HI
< 1.25
<1
2 เฝาระวัง ไมทํางาน 1 ตัว
< 1.1 HI
0 แยมาก ไมทํางานตั้งแต 2 ตัวขึ้นไป
<1
el) จากนั้นนําคาที่ไดมาประเมินระดับคะแนนของคุณภาพ
ถั ง
evel) น้ําจากนั
มันหม้นอนํแปลงไฟฟ
าคาที่ไดมาาประเมิ
กําลัง นระดับคะแนนของคุณภาพ
ลง
ที่ ถั ง
vel) น้ํามัน้นหมนําอคแปลงไฟฟ
จากนั ากําลัง นระดับคะแนนของคุณภาพ
ตารางที ่ 18 าระดั ที่ไดบมคะแนนของคุ
าประเมิ ณภาพน้ํามันหมอแปลง
ทีอง
ปลง่ ถั ง น้ า
ํ 40
มั น หม อ แปลงไฟฟ
ากําลัง่ 18วิศระดั า กํ า ลั ง ตารางท
นของ
ไฟฟตารางที วกรรมสาร
บคะแนนของคุ มก.ณภาพน้ํามันหมอแปลง หลังจากนั้นนําคาดัชนีชี้วิเคราะหที่จากการคํานวณมาดู
ปลง ไฟฟากํา่ ลั18 ง ระดับคะแนนของคุณภาพน้ํามันหมอแปลง ระดับคะ
ตารางที
ของ
ลง
ระดับคะแนน
ตารางที
ไฟฟ กําบลั่ คะแนน
าระดั 18
ง ระดับคะแนนของคุ
สภาพ
นหม้อแปลง ความหมายโดยใช
ณภาพนํา้ชวมังคะแนน หลังจากนัตารางที ้นนำ�ค่่ 20
าดัชเพืนี่อชใชี้วิใเนการบํ
คราะห์าทรุงี่จรัากการ
กษาเชิง
ลําดับที่
ไฟฟ้ากำ4�ลัง ดีสภาพ %OQF < 30
ชวงคะแนน ปคำอ�งกั น
นวณมาดู ความหมายโดยใช้ตารางที่ 20 เพื่อใช้ใน
ปลง
34 ยอมรับดีได 30 ≤ %OQF <
< 30 การบำ�รุ่ ง20รักษาเชิ งป้อชงกั 1
นีวนิเคราะหสภาพการทํางานไดของ
ระดับคะแนน สภาพ %OQF
ชวงคะแนน 37.5
ปลง 37.530 ≤≤ %OQF < ตารางที ตารางดั 2
23 เฝยอมรั
าระวังบได %OQF < 37.5 ตารางที่ 20 ตารางดัชนีวิเคราะห์สภาพการทำ�งานได้
50
4 ดี %OQF < 30 3
12 แย
เฝาระวัง 50 ≤
37.5 ≤ %OQF
%OQF < 75< 50 หม อแปลง [6]
ของหม้อแปลง [6]
3 ยอมรับได 30 ≤ %OQF < 37.5 4
01 แยมาก แย 50%OQF ≥ 75 < 75
≤ %OQF 5
6 2 เฝาระวัง 37.5 ≤ %OQF < 50 คะแนน HI สถานะ ความหมาย total
0 แยมาก %OQF ≥ 75 6
≤7 6 ป จ จั ย ที่ 121 การทดสอบระดั แย บ น้ํ า มั น หม 50 อ≤แปลงไฟฟ %OQF < 75 า 85 < HI ≤ 100 ดี บํารุงรักษาตามปกติ 7
≤≤ 7 กําปลัจงจัในห ย ทีอ่ 12 0 งชุดเปลี ่ยนแทปขณะจบาน้ยไฟ
การทดสอบระดั แย ม าก ํ า มั น(On %OQF
หม อLoad แปลงไฟฟ ≥ 75
Tap า 70 < HI ≤ 85 ยอมรับได กลับมาดูอีกครั้งภายใน 6 เดือน 8
≤6
F≤ 9
≤7 ปปักํจจาลัจัจังยยในห
Changer ทีที่ ่ Oil 12
12 องชุ การทดสอบระดั
Level)ดเปลี่ยจากนั
การทดสอบระดั นแทปขณะจ ้นนําบคบานํน้ที้าํ าา่ไมัมัยไฟ
ดนนมหม้ ออแปลงไฟฟ้
าประเมิ
หม (On Load
แปลงไฟฟ นระดัTap บาา 50 < HI ≤ 70 เฝาระวัง วางแผนดําเนินการแกไขภายใน 3 เดือน 10
F≤ กํกำChanger
า�ลัลังงในห
คะแนนของระดั ในห้ออOil งชุดดLevel)
งชุ เปลี
น้ํามั่ยย่ นนแทปขณะจ่
บเปลี หมอแปลงในห
จากนั
นแทปขณะจ ้นนําคาายไฟ ที่อไดงชุม(On
ยไฟ ดเปลี
าประเมิ
(On Load
Load ่ยนแทป Tap
นระดั Tapบ 30 < HI ≤ 50 แย วางแผนดําเนินการแกไขภายใน 1 เดือน 11
5
ฟา Changer Oil Level) บน้ํามัจากนั นหมน้ อ้นนำแปลงในห นํ�าค่คาาทีทีไ่ ่ได้ดมอมาประเมิ ดเปลีนน่ยระดั ระดับบ 0 < HI ≤ 30 แยมาก
ขณะจคะแนนของระดั ายไฟOil งชุ นแทป ดําเนินการแกไขทันที 12
Changer Level) จากนั าประเมิ
ap
ฟฟา คะแนนของระดั
ขณะจายไฟ บบน้นํํามั้านมัหม นหม้ อแปลงในห้ อดงชุเปลีดเปลี ่ยน 3. ผลการวิจัย
คะแนนของระดั
ตารางที ่ 19 ระดั บ คะแนนของระดั อแปลงในห บ น้ อํางชุ
มั น หม อ ่ยแปลงนแทป 3. ผลการวิจัย
ทีฟฟ
่ Tap
2า แทปขณะจ่ายไฟ
ไฟฟขณะจ
ตารางที ากําาลัยไฟ ง่ ในห่ 19 19อระดั งชุ
ระดั ดบเปลี ่ยนแทปขณะจบาบยไฟ
บคะแนนของระดั
คะแนนของระดั จากวิธีกธี การถ่
จากวิ ารถววงนงน้ํ้าํ าหนัหนักกความสำ
ความสํ�าคัคัญญของแต่ ของแตลละะ คํานวณ
ยที
Tap ่2 ตารางที นํน้้าํามัมันนหม้ หมออแปลง แปลง
วางแผน
ไฟฟากํกำา�ลั่ 19
ไฟฟ้
ตารางที งงในห
ในห้ระดั อองชุงชุบดดคะแนนของระดั
เปลี
เปลี่ย่ยนแทปขณะจ นแทปขณะจ่ บาน้ยไฟ ําามัยไฟน หมอ แปลง ปปัจจจัจัยยเสีเสี่ยย่ งซึ งซึ่งง่ มีมีททั้งง้ั หมด
หมด1212ปจปัจัจยจัยดวด้ยวิวยวิ ธีกธารตั ดสิดนสิใจเชิ
กี ารตั นใจง
ลัทีง่ 2 ระดับคะแนน สภาพ ชวงคะแนน
วิเชิเ คราะห
งวิเคราะห์ แ บบฟ แบบฟั ซ ซี่ ซทํซีา่ทใหำ�ทให้ราบถึทราบถึ ง ค างความสํ
ค่าความสำ า คั ญ�ของ
คัญ ประจําป
ไฟฟ า กํ า ลั ง ในห อ งชุ ด เปลี ย
่ นแทปขณะจ า ยไฟ
กําลัง ระดั4บคะแนน ดีสภาพ 5 ≤ ชOLF วงคะแนน ≤6 ของแต่
แต ล ะปลจะปั จั ยจดัจังยแสดงในตารางที
ดังแสดงในตารางที ่ 21่ 21 แต กแต่ อกนจะนํ
่อนจะนำ า ค�า ทั้ ง หมด
กํนัากลัง 3
ระดับคะแนน 4 ยอมรั บ
สภาพ ได
ดี 4 ≤ OLF < 5 ช≤วงคะแนน
5 Or OLF ≤ 6
6 < OLF ≤ 7 ค่าความสำ
ความสํ า คั�ญคัของป
ญของปั จ จัจยจัไปใช
ยไปใช้ไ ดได้ตต้อองคํ งคำา�นวณค
นวณค่าาความ ความ แปลงไฟ
23 าระวังบได 3.5 ≤
เฝยอมรั 4 ≤OLFOLF < < 4 Or
5 Or7 <
6 < OLF OLF ≤ ≤ 7.5 7 สอดคล้ อ งก่ อ น เพื อ
่ ตรวจสอบความน่ า เชื อ
่ ถื อ ของการ พบวามีห
) ก
iาหนั
4 ดี 5 ≤ OLF ≤ 6 สอดคล อ งก อ น เพื่ อ ตรวจสอบความน าเชื่ อ ถื อ ของการ
12 เฝาระวัง 3 ≤
แย 3.5 OLF≤ < 3.5< Or4 Or7.57 << OLF
OLF OLF ≤≤ 87.5 เปรียบเทียบค่าความสำ�คัญรายคู่ และค่าที่ได้จากการ
3 ยอมรับได 4 ≤ OLF < 5 Or 6 < OLF ≤ 7 ลูกที่ 13
Wi ) 01 แยมาก OLF << 33.5 OLF7.5><8 OLF ≤ 8 เปรี ย บเที ย บค า ความสํ า คั ญ รายคู และค า ที่ ไ ด จ ากการ
เฝาระวัง 3.5≤≤OLF
Or Or
าหนั ก
2
แย 3
OLF < 4 Or 7 < OLF ≤ 7.5
คำ�นวณต้องมีคา่ ไม่เกิน 0.1 ซึง่ ผลจากการคำ�นวณปรากฏ หมอแปล
Wi ) 0 แยมาก OLF < 3 Or OLF > 8 คํว่าานวณต องมีคาไมเกินองมี
ได้คา่ ความสอดคล้ 0.1คา่ซึเท่่งผลจากการคํ
ากับ 0.078าแสดงว่ นวณปรากฏ าการ
1 หลั ง จากได แย ค า น้ํ า3 หนั ≤ กOLFความสํ < 3.5าOrคั ญ7.5ของแต < OLF ล≤ะ 8 อยูในสถ
3
ปจจัยมาแล 0 หลัวงจะนํ
หลัจากได้ แย มากค่าใน
ามาใช
ง จากได  าํ้าน้หนั
คนการคํ ํ า หนักาOLF
ความสำ
นวณดั
ก ความสํ < ช3 นี�OrคัวาOLFิเคัญคราะห
ญของแต่ > 8 เพืล่อละะ กำ�หนดระดับความสำ�คัญของปัจจัยจากการเปรียบเทีาการ
ของแต
ว า ได ค  า ความสอดคล อ งมี ค  า เท า กั บ 0.078 แสดงว ยบ
กํรายคู
าหนดระดั ่มีความน่ บความสํ าเชื่อถืาคัอญของปจจัยจากการเปรียบเทียบ 11 และ
3 ปัปจจจัจัยยนมาแล
ประเมิ มาแล้
สภาพการทํ ววงจะนํ จะนำาา�มาใช มาใช้ในการคํ
งานได ใขนการคำ
องหม อ�แปลงไฟฟ
าความสํ
นวณดั นวณดั ชานีคัชวญิเนีคราะห
วกํิเาคราะห์
าของแต ลังในเพืล ะ่อ ตารางที่ 21 แสดงผลการคํ า นวณค า ถ ว งน้ํ า หนั ก และ
หลังจากนั หลั จากได ค  า น้ ํ า หนั ก ตารางที
รายคู ่ 21 าแสดงผลการคำ
มคะแนนของแต
ีความน เชื่อถืลอะปจจัย �นวณค่าถ่วงนํ้าหนักและ หม อ แป
สถานีเพื
ประเมิ ่อ้นประเมิ
นําคาดันชสภาพการทำ
พร น อ มกั
สภาพการทํ บ
นีชี้วิเคราะห�ทงานได้
หาสาเหตุ า งานได แ
ี่จากการคํ
ละแนวทางการแก
ข องหม ขอองหม้ านวณมาดู
แปลงไฟฟ อแปลงไฟฟ้
ไ ข และนํ
า กํ า ลั ง า า ระดั
ใน บ
ปจจัยมาแลตวารางที
กำ�ลังในสถานีจะนํ
ความหมายโดยใช พร้อา่มาใช
มกั20บเพืหาสาเหตุในการคํ
่อใชในการบํ านวณดั ารุชงรันีกวษาเชิ
และแนวทางการแก้ ิเคราะห ง เพืไข่อ ระดับคะแนนของแต่ละปัจจัย ไดรับกา
คะแนนที
สถานี พร ่ไสภาพการทํ
ดอไมกัปใชบใหาสาเหตุ นการวางแผนบํ ของหมารุองแปลงไฟฟ
และแนวทางการแก รัก ษาเชิงไปาขกํอและนํ างกั
ลังนในงา ลําดับที่ เกณฑในการตัดสินใจ
ปองกันประเมิ
และนำ�นคะแนนที ่ได้ไาปใช้ งานได
4 ตารางดัช
ในการวางแผนบำ �รุงรักษาเชิ K ระดับคะแนน
ประจํคะแนนที
สถานี า ป ใ ห ่ ไก ั
ด บ ไ หม
ปใช อ ใแปลงไฟฟ
นการวางแผนบํ า กํ า ลั ง
า ในสถานี
รุ ง รั ก ษาเชิ ย  อ
ง ยของ
ป อ งกั น
4
ตัว ป้องกันพรประจำ อมกั�บปีหาสาเหตุ ให้กับหม้แอละแนวทางการแก แปลงไฟฟ้ากำ�ลังไขในสถานี และนํา 1 DGA 26.15% 4,3,2,1,0 จึงไมเกิด
ตารางที ่คะแนนที
กฟน. ประจํ 20 โดยแบ
ย่อยของ ่ไกฟน.โดยแบ่ าตารางดั
ป ใ ห งก ั ช
การคํ
บ นี
หม
ดไปใชในการวางแผนบํว เ
ิ คราะห

อ นวณออกเป
แปลงไฟฟ ส
งการคำ�นวณออกเป็ ภาพการทํ
า น
กํ า 2
ลั ส
ง า งานได
ว นคื
ในสถานี
ารุ งรัก ษาเชิ อ ข
ส
น 2งส่ปวอนคื องว
ย นที
 อ ยของ่ ไ
งกัอนด 2 Main Oil Quality 12.28% 4,3,2,1,0 แตหมอ
ละตัว หมอแปลง
จ ประจํ ชุ[6]ดาไ่ โดยแบ 3 Tan Delta 11.20% 4,3,2,1,0
ส่ากฟน.
วกนที ด้ปเ ปจใากชุ
หลีก่ ยั บงนดหม แ ทอย่ ปแปลงไฟฟ
การคํ
เปลี ขนวณออกเป
านแทปขณะจ่ณ ะ จ าายกํไานฟลัยไฟ ง2(On ส(On
ในสถานี วนคื Load อยส อวยของ
Load Tap
นที
Tap่ได 4 Temperature 8.95% 4,3,2,1,0 ดําเนินก
ะตัว Changer)
จ า ก ชุโดยแบ ด คิเ ปดคิเป นนน40
ลีดง่ ยเป็ แ40 ทาเปอร
ปเปอร์ ข ณเ ซ็ะเนซ็จนตาต์และส ไ 2ฟ สว(On
ยนและส่ นที ่ ไอLoad
ด่ได้สจจากถั Tapง่ไงด
Changer)
กฟน.
คะแนน HI total สถานะ
การคํ นวณออกเป ความหมาย
วว นที
นคื วากถั
นที 5 Load History 7.00% 4,3,2,1,0 ซึ่ ง จะเห
2) น้ํจานํChanger)
มัา้ นมักหม
นชุหม้ ดอเแปลง อปคิแปลงลีด่ ยเป(Main
นนแ(Main ท40ปTank) เปอร ณ ะเคิซ็จดนาเป
ข Tank) คิตยดนไและส
เป็ฟ60น(On เปอร
ว นที
60 เปอร์
Loadเ่ ไซ็ดนจเตซ็ากถั
ซTapนึ่งต์ง 6 PI 4.38% 4,3,2,1,0
คํ า นวณ
85 < HI ≤ 100 ดี บํารุงรักษาตามปกติ 7 Age 4.06% 4,3,2,1,0
(12) ซึน้่งําสามารถคำ
สามารถคํ
Changer) มันหมานวณได อคิแปลง ด�เป นวณได้
จน(Main
ากสู 40 ตจเปอร
รากสู [6]ตเ ซ็ร นคิ[6]
Tank) ดเปและส
ต น 60ว นที เปอร ่ ไ ด เจซ็ากถั
นตซงึ่ง สอดคลอ
70 < HI ≤ 85 ยอมรับได กลับมาดูอีกครั้งภายใน 6 เดือน 8 Foundation 2.00% 4,3,2,1,0
12) สามารถคํ
น้ํามันหมอแปลง ง(Main า นวณได จ ากสู ต ร [6]
Tank) คิดเปขภายใน น 60 เปอร เซ็นตซึ่ง 9 Cooling System 1.58% 4,3,2,1,0 หมอแป
50 < HI ≤ 70 เฝาระวั∑
10 12

j HIF าเนินการแกไ∑
Kวางแผนดํ
j j jK HIF 3 เดือน
10 Main Oil Level 1.49% 4,3,2,1,0
30 < สามารถคํ
HI ≤ 50= า60%
HI นวณได แย จากสู
(13)
j =1 10
× วางแผนดํ ตร [6] า
j =1112
+เนิ40%
น การแก× ไขภายใน 1 เดือน (13) การคําน
HIF∑ ∑ K HIF∑ ∑ K
Total 10
j K HIF j
12
j jK HIF 11 OLTC Oil Quality 21.24% 4,3,2,1,0
0 < HI HI ≤ 30 = 60%
Total แยมาก
jmax
10
=1
× j =1 10
j
ดําเนิ+น40%
j max
12
=11
การแก×ไขทันที
j =1112
j
(13) 12 OLTC Oil Level 3.03% 4,3,2,1,0 ตรวจสอ
∑ Kmaxj HIF
HIF ∑ Kj j ∑ Kmaxj HIF
HIF ∑ Kj j
HITotal = 60% × j =1 j =1 + 40% × j =11 j =11 (13) จากนั้นนําคาที่ไดจากตารางที่ 21 ไปใชในการ ในสถาน
3. ผลการวิจัย HIF ∑ K HIF ∑ K
10 12

max j max j

จากวิ ธี ก ารถ ว งน้ํ า หนั ก ความสํ าคั ญของแตละ j =1 j =11 คํานวณคาดัชนีวิเคราะห และนําคะแนนที่ไดไปใชในการ
ดัชนีวิเคราะห์สภาพของหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังสำ�หรับการบำ�รุงรักษาเชิงป้องกันของ
การไฟฟ้านครหลวงโดยวิธีการตัดสินใจเชิงวิเคราะห์แบบตรรกะคลุมเครือ 41
จากนั้นนำ�ค่าที่ได้จากตารางที่ 21 ไปใช้ในการ ทัง้ นีห้ ม้อแปลงบางลูกได้รบั การดำ�เนินการแก้ไขภายใน
คำ�นวณค่าดัชนีวิเคราะห์ และนำ�คะแนนที่ได้ไปใช้ใน ระยะเวลาทีก่ �ำ หนดในตารางดัชนีวเิ คราะห์ (หม้อแปลง
การวางแผนบำ�รุงรักษาเชิงป้องกันหม้อแปลงไฟฟ้า ลูกที่ 13, 12, 10 และ 8) จึงไม่เกิดการชำ�รุดก่อนถึงวาระ
กำ�ลังประจำ�ปี โดยทดสอบกับหม้อแปลงไฟฟ้าในสถานี การบำ�รุงรักษาตามปกติ แต่หม้อแปลงทีอ่ ยูใ่ นสภาพเฝ้า
ไฟฟ้าทั้งหมด 15 ลูก ผลของค่าดัชนีวิเคราะห์ที่ได้จาก ระวังลูกอื่นๆ ที่ไม่มีการดำ�เนินการแก้ไข เกิดการชำ�รุด
หม้อแปลงไฟฟ้าทั้งหมด 15 ลูก ดังแสดงไว้ในตาราง ก่อนถึงวาระการบำ�รุงรักษาซึ่งจะเห็นได้ว่าผลของค่า
ที่ 22 พบว่ามีหม้อแปลงอยู่ในสถานะแย่ 1 ลูก ได้แก่ ดัชนีวเิ คราะห์ทไ่ี ด้จากการคำ�นวณตามวิธกี ารถ่วงนํา้ หนัก
หม้อแปลงลูกที่ 13 มีหม้อแปลงอยู่ในสถานะเฝ้าระวัง ทีน่ �ำ เสนอในบทความนีส้ อดคล้องกับตารางดัชนีวเิ คราะห์
8 ลูก ได้แก่ หม้อแปลงลูกที่ 12, 10, 4, 8, 1, 5, 2 สภาพการทำ�งานได้ของหม้อแปลงที่แสดงในตารางที่
และ 3 มีหม้อแปลงอยู่ในสถานะยอมรับได้ 4 ลูก ได้แก่ 20 จริง ดังนัน้ จึงสรุปได้วา่ การคำ�นวณค่าดัชนีวเิ คราะห์
หม้อแปลงลูกที่ 7, 6, 11 และ 9 และมีหม้อแปลงอยู่ใน ดังกล่าวนี้สามารถนำ�ไปใช้ตรวจสอบสภาพการทำ�งาน
สถานะดี 2 ลูก ได้แก่ หม้อแปลงลูกที่ 14 และ 15 แต่ ได้ของหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังในสถานีไฟฟ้าของ กฟน.

ตารางที่ 22 สรุปค่าดัชนีวิเคราะห์ (HI) ของหม้อแปลงทั้งหมด 15 ลูก


ตารางที่ 22 สรุปคาดัชนีวิเคราะห (HI) ของหมอแปลงทั้งหมด 15 ลูก
หมอแปลงในสถานียอ ย HI ความหมาย ชํารุด ไมชํารุด หมายเหตุ
หมอแปลงลูกที่ 13 41.43% ดําเนินการแกไขภายใน 1 เดือน  ดําเนินการแกไขภายในระยะเวลาที่กําหนด
หมอแปลงลูกที่ 12 51.49% ดําเนินการแกไขภายใน 3 เดือน  ดําเนินการแกไขภายในระยะเวลาที่กําหนด
หมอแปลงลูกที่ 10 59.44% ดําเนินการแกไขภายใน 3 เดือน  ดําเนินการแกไขภายในระยะเวลาที่กําหนด
หมอแปลงลูกที่ 4 62.67% ดําเนินการแกไขภายใน 3 เดือน  ไมไดดําเนินการภายในระยะเวลาทีก่ ําหนด
หมอแปลงลูกที่ 8 62.68% ดําเนินการแกไขภายใน 3 เดือน  ดําเนินการแกไขภายในระยะเวลาที่กําหนด
หมอแปลงลูกที่ 1 66.21% ดําเนินการแกไขภายใน 3 เดือน  ไมไดดําเนินการภายในระยะเวลาทีก่ ําหนด
หมอแปลงลูกที่ 5 66.33% ดําเนินการแกไขภายใน 3 เดือน  ไมไดดําเนินการภายในระยะเวลาทีก่ ําหนด
หมอแปลงลูกที่ 2 66.84% ดําเนินการแกไขภายใน 3 เดือน  ไมไดดําเนินการภายในระยะเวลาทีก่ ําหนด
หมอแปลงลูกที่ 3 68.73% ดําเนินการแกไขภายใน 3 เดือน  ไมไดดําเนินการภายในระยะเวลาทีก่ ําหนด
หมอแปลงลูกที่ 7 72.76% กลับมาตรวจสอบภายใน 6 เดือน  กลับมาตรวจสอบภายในระยะเวลาทีก่ ําหนด
หมอแปลงลูกที่ 6 75.09% กลับมาตรวจสอบภายใน 6 เดือน  กลับมาตรวจสอบภายในระยะเวลาทีก่ ําหนด
หมอแปลงลูกที่ 11 77.34% กลับมาตรวจสอบภายใน 6 เดือน  กลับมาตรวจสอบภายในระยะเวลาทีก่ ําหนด
หมอแปลงลูกที่ 9 77.42% กลับมาตรวจสอบภายใน 6 เดือน  กลับมาตรวจสอบภายในระยะเวลาทีก่ ําหนด
หมอแปลงลูกที่ 14 88.29% บํารุงรักษาตามปกติ  บํารุงรักษาตามรอบเวลา
หมอแปลงลูกที่ 15 92.08% บํารุงรักษาตามปกติ  บํารุงรักษาตามรอบเวลา

4. สรุป ทํ า งานได ข องหมอ แปลงไฟฟ า กํ าลัง ในสถานี ไฟฟาของ


วิธีการประเมินคาดัชนีวิเคราะหของหมอแปลง กฟน.
ไฟฟ า กํ า ลั ง ในสถานี ไ ฟฟ า ของ กฟน. ด ว ยวิ ธี ก ารถ ว ง
5. เอกสารอางอิง
42 วิศวกรรมสาร มก.
4. สรุป [3] Saaty T. L and Kearns K.P. (1985),
“Analytical Planning: The Organization of
วิธีการประเมินค่าดัชนีวิเคราะห์ของหม้อแปลง
Systems,” Pergamon Press, New York.
ไฟฟ้ากำ�ลังในสถานีไฟฟ้าของ กฟน. ด้วยวิธีการถ่วง
[4] Saaty T.L. (1980), “The Analytic Hierarchy
นํา้ หนักความสำ�คัญของปัจจัยเสีย่ ง เพือ่ จัดทำ�แผนบำ�รุง
Process. McGraw-Hill International,” New York,
รักษาหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังเชิงป้องกันประจำ�ปี ซึ่งค่า
NY, U.S.A.
ดัชนีวิเคราะห์ที่คำ�นวณได้นั้นขึ้นอยู่กับค่าถ่วงนํ้าหนัก
[5] Jahromi N.A., Cress S., Piercy Rand wang F.
ความสำ�คัญของปัจจัยเสีย่ ง และระดับคะแนนของแต่ละ
(2008), “An Approach to Determine the Health
ปัจจัยเสีย่ ง โดยค่าถ่วงนํา้ หนักความสำ�คัญของปัจจัยเสีย่ ง
Index of Power Transformers,” Conference Record
ได้มาจากวิธีการตัดสินใจเชิงวิเคราะห์แบบฟัซซี่ และ
of the 2008 IEEE International Symposium on
ค่าถ่วงนํ้าหนักความสำ�คัญที่คำ�นวณได้นั้นต้องมีความ
Electrical Insulation.
สอดคล้องกันซึ่งมีค่าไม่เกิน 0.1 สำ�หรับการวิเคราะห์
[6] Jahromi A. N., Piercy R., Cress S. and Wang.
ที่มีมากกว่า 5 ปัจจัยขึ้นไป โดยการคำ�นวณแบ่งออก
F. (2009), “An Approach to Power Transformer
เป็น 2 ส่วน คือส่วนทีไ่ ด้จากชุดเปลีย่ นแทปขณะจ่ายไฟ
Asset Management Using Health Index,” IEEE
(On Load Tap Changer) และส่วนที่ได้จากถังนํ้ามัน
Electrical Insulation Magazine 25, (2): 20-34.
หม้อแปลง (Main Tank) จากนั้นนำ�ไปทดสอบกับ
[7] Infraspection Institute. (1993), “Temperature
หม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังในสถานีไฟฟ้าของ กฟน. ทัง้ หมด
Criteria for Electrical System,”January.
15 ลูกซึง่ ผลการคำ�นวณดัชนีวเิ คราะห์ทไี่ ด้สอดคล้องกับ
[8] IEEE Std 62., (1995),“IEEE Guide for
สภาพการทำ�งานได้ของหม้อแปลงไฟฟ้ากำ�ลังในสถานี
Diagnostic Field Testing of Electric Power
ไฟฟ้าของ กฟน.
Apparatus,” IEEE Transformers Committee.
5. เอกสารอ้างอิง [9] ABB Management Service Ltd.,
(2007),”Handbook of Transformers,”. Zurich.
[1] Bozbura F.T. and Beskese A. (2007),
2nded.
“ Prioritization of Organizational Capital
Measurement Indicators Using Fuzzy AHP,”
International Journal of Approximate Reasoning,
44(2), 124-147.
[2] Kwong C.K. and Bai H. (2003), “Determining
the Importance Weights for the Customer
Requirements in QFD Using a Fuzzy AHP with
an Extent Analysis Approach,” IIE Transactions,
35, 616-626.

You might also like