Professional Documents
Culture Documents
ชั้นเอก
วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๖
******************************************************
๑. พระบรมศาสดาทรงชักชวนให้มาดูโลกนี้โดยมีพระประสงค์อย่างไร ?
ตอบ มีพระประสงค์เพื่อให้รู้จักสิ่งที่เป็ นจริงอันมีอยู่ในโลก จักได้ละสิ่งที่
เป็ นโทษ และไม่ต้องติดอยู่ในสิ่งที่เป็ นคุณ
๑๔. เจริญมรณัสสติอย่างไรจึงจะแยบคาย ?
ตอบ เจริญพร้อมด้วยองค์ ๓ คือ สติ ระลึกถึงความตาย ๑ ญาณ รู้ว่าความ
ตายจักมีแก่ตน ๑ เกิดสังเวชสลดใจ ๑ เจริญอย่างนี้จึงจะแยบคาย ฯ
๑๕. คนวิตกจริตมีนิสัยอย่างไร ? คนประเภทนี้ควรเจริญกัมมัฏฐานบทใด
?
ตอบ ชอบคิดมาก ฟุ้งซ่าน ฯ
ควรเจริญอานาปานสติกัมมัฏฐาน ฯ
๒. การที่พระพุทธองค์ทรงเลิกการทรมานพระวรกายแล้ว กลับมาเสวยพ
ระกระยาหาร เพราะทรงพิจารณาเห็นอย่างไร ?
ตอบ เพราะทรงพิจารณาเห็นว่า คนที่ไม่บริโภคอาหารจนร่างกายหมด
กำลัง ไม่สามารถบำเพ็ญเพียรทางจิตได้
๑๘. บุคคลต่อไปนี้ได้รับเอตทัคคะในทางใด?
ก พระอนุรุทธเถระ ข. พระโสณโกฬิวิสเถระ
ค. พระรัฐปาลเถระ ง นางปฏาจาราเถรี
จ.นางกีสาโคตมีเถรี
ตอบ ก. พระอนุรุทธเถระ ได้ทิพยจักษุญาณ
ข. พระโสณโกฬิวิสเถระ มีความเพียรปรารภแล้ว
ค. พระรัฐปาลเถระ บวชด้วยศรัทธา
ง. นางปฏาจาราเถรี ทรงไว้ซึ่งวินัย
จ. นางกีสาโคตรมีเถรี ทรงไว้ซึ่งจีวรอันเศร้าหมอง
๒๐. พระมหากัสสปเถระชักชวนภิกษุทั้งหลายให้ทำสังคายนาครั้งแรก
เพราะปรารภเหตุอะไร ?
ตอบ เพราะปรารภเหตุ ๒ ประการ คือ
๑. ระลึกถึงคำของสุภัททวุฑฒบรรพชิตกล่าวจ้วงจาบพระธรรมวินัย
๒. ระลึกถึงอุปการคุณของพระผู้มีพระภาคที่มีอยู่แก่ตน ฯ
๒. สังฆกรรมมีอะไรบ้าง ? สังฆกรรมอะไรที่สงฆ์จตุวรรคทำไม่ได้ ?
ตอบ มี ๑. อปโลกนกรรม ๒. ญัตติกรรม
๓. ญัตติทุติยกรรม ๔. ญัตติจตุตถกรรม ฯ
ปวารณา ให้ผ้ากฐิน อุปสมบท และอัพภาน สงฆ์จตุวรรคทำไม่ได้ ฯ
๓. สังฆกรรมย่อมวิบัติ โดยอะไรบ้าง ? สงฆ์ให้อุปสมบทแก่อภัพพบุคคล
เป็ นสังฆกรรมวิบัติโดยอะไร ?
ตอบ โดยวัตถุ สีมา ปริสะ(บริษัท) และกรรมวาจา ฯ
วิบัติโดยวัตถุ ฯ
๖. เจ้าอธิการตามพระวินัยหมายถึงใคร ? สงฆ์พึงสวดสมมติเจ้าอธิการ
ด้วยกรรมวาจาประเภทใด ?
ตอบ หมายถึง ภิกษุผู้ได้รับสมมติจากสงฆ์ให้เป็ นเจ้าหน้าที่ทำการสงฆ์นั้น
ๆฯ
พึงสวดสมมติด้วยญัตติทุติยกรรม ฯ
๙. กรานกฐิน ได้แก่การทำอย่างไร ?
ตอบ ได้แก่ เมื่อมีผ้าเกิดขึ้นแก่สงฆ์ในเดือนท้ายฤดูฝน พอจะทำเป็ นไตร
จีวรผืนใดผืนหนึ่งได้ สงฆ์พร้อมใจกันยกให้แก่ภิกษุรูปหนึ่งผู้เหมาะสม
ภิกษุผู้ได้รับผ้านั้น นำไปทำเป็ นจีวรผืนใดผืนหนึ่ง ให้แล้วเสร็จในวันนั้น
แล้วมาบอกแก่ภิกษุผู้ยกผ้านั้นให้ เพื่ออนุโมทนา ภิกษุเหล่านั้น อนุโมทนา
ทั้งหมดนี้ คือกรานกฐิน ฯ
พระราชบัญญัติคณะสงฆ์
๑๗. กรรมการมหาเถรสมาคมซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งพ้นจาก
ตำแหน่งเมื่อใด ?
ตอบ พ้นเมื่อ
๑.มรณภาพ
๒. พ้นจากความเป็ นพระภิกษุ
๓.ลาออก
๔. สมเด็จพระสังฆราชมีพระบัญชาให้ออก
๕. อยู่ครบวาระ ๒ ปี ฯ
๒๐. ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์หรือคณะสงฆ์อื่นอันอาจก่อให้เกิดความเสื่อม
เสียหรือความแตกแยก มีโทษอย่างไร ?
ตอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ ฯ
เรื่องที่ควรรู้ ดูก่อนสอบธรรมสนามหลวง วิชาธรรมวิภาค นักธรรมชั้น
โท
วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๖
******************************************************
๑.พระอริยบุคคล ๘ จำพวก จำพวกไหนชื่อว่าพระ เสขะ และพระอเสขะ
? เพราะหตุไร ?
ตอบ พระอริยบุคคล ๗ เบื้องต้น ชื่อว่าพระเสขะ เพราะเป็ นผู้ยังต้อง
ปฏิบัติเพื่อบรรลุมรรคผลเบื้องสูง ฯ
พระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตผล ชื่อว่า พระอเสขะ เพราะเสร็จ
กิจอันจะต้องทำแล้ว ฯ
๒. การพิจารณาสังขารทั้งหลายโดยความเป็ นไตรลักษณ์ จัดเป็ นกัมมัฏ
ฐานอะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ?
ตอบ จัดเป็ นวิปั สสนากัมมัฏฐาน ฯ
มีประโยชน์ คือ ทำให้รู้จักสภาพที่เป็ นจริงแห่งสังขารทั้งหลายว่าไม่
เที่ยง เป็ นทุกข์ เป็ นอนัตตา แล้วเกิดความเบื่อหน่ายในสังขารทั้งหลาย
เหล่านั้น ฯ
๓. มหาภูตรูปและอุปาทายรูป คืออะไร ?
ตอบ มหาภูตรูป คือ รูปใหญ่ ได้แก่ธาตุ ๔ มีปฐวี อาโป เตโช วาโย
อุปาทายรูป คือ รูปอาศัยมหาภูตรูปนั้น ฯ
๔. พระอัสสชิได้แสดงธรรมแก่อุปติสสปริพาชก มีใจความย่อว่าอย่างไร ?
ตอบ มีใจความย่อว่า “พระศาสดาทรงแสดงความเกิดแห่งธรรมทั้งหลาย
เพราะเป็ นไปแห่งเหตุ และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น เพราะดับแห่งเหตุ
พระศาสดาตรัสอย่างนี้ ฯ
๑๑. พระมหากัจจายนะได้รับมอบหมายจากพระพุทธเจ้าให้ไปเผยแผ่
พระพุทธศาสนาแทนพระองค์ ณ เมืองใด และได้ผลเป็ นอย่างไร ?
ตอบ ณ เมืองอุชเชนี ฯ
ได้รับผล คือพระเจ้าจัณฑปั ชโชตและชาวพระนครเลื่อมใสใน
พระพุทธศาสนา ฯ
๑๖ การทำสังคายนาก่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่พระศาสนาอย่างไรบ้าง ?
ตอบ ให้เกิดคุณประโยชน์อย่างนี้ กำจัดและป้ องกันอลัชชีได้ ทำความเห็น
พุทธศาสนิกให้ถูกต้องและปฏิบัติถูกต้องได้ และทำให้พระศาสนามั่นคง
และแพร่หลายยิ่งขึ้น ฯ
ศาสนพิธี
๑๗. การศึกษาให้เข้าใจในศาสนพิธี มีประโยชน์อย่างไร ?
ตอบ ๑ ทำให้เข้าใจเรื่องของศาสนพิธีได้โดยถูกต้อง
๒. ทำให้เห็นเป็ นเรื่องสำคัญ ไม่ไร้สาระ
๓. ทำให้ปฏิบัติได้ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนจากขนบธรรมเนียมประเพณี
๑๘. สามีจิกรรม หมายถึงอะไร ? มีกี่แบบ ? อะไรบ้าง ?
ตอบ หมายถึง การขอขมาโทษกันให้อภัยกันทุกโอกาส ไม่ว่าจะมีโทษ
ขัดข้องหมองใจกันหรือไม่ก็ตาม ถึงโอกาสที่ควรทำสามีจิกรรมกันแล้ว ทุก
รูปไม่พึงละโอกาสเสีย ฯ
มี ๒ แบบ คือ
๑ แบบขอขมาโทษ
๒. แบบถวายสักการะ
๓. เปลือยกายอย่างไรต้องอาบัติถุลลัจจัย ? อย่างไรต้องอาบัติทุกกฏ ?
ตอบ เปลือยกายเป็ นวัตรเอาอย่างเดียรถีย์ ต้องอาบัติถุลลัจจัย ฯ
เปลือยกายทำกิจแก่กัน เช่น ไหว้ รับไหว้ ทำบริกรรม ให้ของ รับ
ของ และเปลือยกายในเวลาฉัน ในเวลาดื่ม ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ
๗. ภิกษุเช่นไรควรได้นิสัยมุตตกะ ?
ตอบ ภิกษุผู้ควรได้นิสัยมุตตกะ คือ
๑. เป็ นผู้มีศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ สติ
๒. เป็ นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล อาจาระ ความเห็นชอบ เคยได้ยิน ได้ฟั ง
มามาก มีปั ญญา
๓. รู้จักอาบัติ มิใช่อาบัติ อาบัติเบา อาบัติหนัก พระปาฏิโมกข์ได้
แม่นยำ ทั้งมีพรรษาพ้น ๕ ฯ
๑๘. ลักษณะถือวิสาสะที่มาในพระบาลีมีอะไรบ้าง ?
ตอบ มี ๑. เป็ นผู้เคยได้เห็นกันมา
๒. เป็ นผู้เคยคบกันมา
๓. ได้พูดกันไว้๔. ยังมีชีวิตอยู่
๕. รู้ว่าของนั้นเราถือเอาแล้วเขาจักพอใจ ฯ