Professional Documents
Culture Documents
แปล พค กค
แปล พค กค
ฉบับที 7(
6),หน้
า 115-119,กรกฎาคม 2558 DOI:
10.5897/JPVB2015.0197
วารสารปรสิตวิทยาและ
บทความหมายเลข 4A2F67353569
ISSN 2141-2510
ลิขสิทธิ © 2015 ผูเ้
ขียน ชีววิทยาเวกเตอร์
สงวนลิขสิทธิบทความนี http://www.academicjournals.org/
JPVB
บทความวิจย
ั ฉบับเต็
ม
การเกิดปรสิตในกุ
้
งนํ
าจืดขนาดยักษ์
Macrobrachium rosenbergii จากชายฝงเบงกอลตะวันตก
อินเดีย
บาซูเดฟ มันดาล1 ,SK Dubey2 *,AK Ghosh1 และ G. Dash3
1
ภาควิชาการจัดการและเทคโนโลยีการเพาะเลียงสัตว์นํ
า,มหาวิทยาลัย Vidyasagar,Midnapore - 721 102,รัฐเบงกอลตะวันตก,อินเดีย
2
ภาควิชาการจัดการสิงแวดล้
อมทางนํ
า คณะวิทยาศาสตร์ประมง มหาวิทยาลัยสัตว์และประมงเบงกอลตะวันตก โกลกาตา-700094 ประเทศอินเดีย
3
ภาควิชาสุ
ขภาพสัตว์ทางนํ
า คณะวิทยาศาสตร์ประมง มหาวิทยาลัยสัตว์และวิทยาศาสตร์ประมงเบงกอลตะวันตก โกลกาตา-700094 ประเทศอินเดีย
ได้
รบ
ั เมือ 8 เมษายน 2558; ยอมรับเมือ 8 มิถน
ุายน 2015
ปรสิต Metazoan ทีแสดงโดย Myxobolus sp.,Rhabdochona sp.,Indocucullanus sp.,Procamallanus sp.,Cucullanus sp. และ อะแคนโทไจรัส เอสพี; โดย 1 รายการ
เปน ecto-commensals และอีก 5 รายการเปน endo-commensals ในรัฐเบงกอลตะวันตก กิจกรรมการประมงและการประมงตามวัฒ นธรรมภายในประเทศ ซึ
งส่วนใหญ่เปนชาว
ชนบท ดํ
าเนินการโดยเกษตรกรผูย
้ากจน การพัฒ นารูปแบบการแทรกแซงและการปฏิบต
ั ิด ้
านการจัดการทีเหมาะสมสามารถปองกันผลกระทบด้
านลบของโรคและช่วยเหลือเกษตรกรผู้
ยากจนในการผลิตทียังยืน
คํ
าสํ
าคัญ: Macrobrachium rosenbergii,epibionts,ปรสิต,เบงกอลตะวันตก
การแนะนํ
า
กุ
้
งนํ
าจืดขนาดยักษ์ Macrobrachium rosenbergii rosenbergii มีความต้
านทานต่อโรคจุ
ดขาว (
Sahul et al.,2000)กุ
้
งนํ
าจืดชนิดนีเปนทีรูจ้ก
ั
มีการแพร่กระจายอย่างกว้
างขวางทัวภูมภ
ิ าคอินโดแปซิฟกและเปนทีนิยมมากทีสุ
ดสํ
าหรับการทํ
า กันอย่างแพร่หลายในชือ '
scampi'ในการค้
าขายของอินเดีย โดยส่วนใหญ่เลียงในบ่อดินขนาด
ฟาร์มในพืนทีเขตร้
อนและกึ
งเขตร้
อนของโลก (
ใหม่,2005)ในอินเดีย วัฒ นธรรมของมันได้
รบ
ั เล็
กถึ
งขนาดกลางในรัฐเบงกอลตะวันตก รัฐอานธรประเทศ รัฐทมิฬนาฑู และรัฐเกรละ ในอินเดีย
การพัฒ นาเมือไม่กีทศวรรษทีแล้
วโดยเปนทางเลือกแทน กุ
้
งกุ
ลาดํ
า Penaeus และเพือชดเชย (
Nair และ Salin,2012)
การสูญเสียจํ
านวนมากอันเนืองมาจากการแพร่ระบาดของกลุ
่มอาการจุ
ดขาวในการเลียงกุ
้
ง
Penaeid โดยตังสมมติฐานว่า M.
ในวัฒ นธรรมและสภาพแวดล้
อมทางธรรมชาติ สัตว์จาํ
พวกครัสเตเชียเปนแหล่งของโปรโต
ซัวและเมตาโซอันหลากหลายชนิด
*ผูเ้
ขียนทีเกียวข้
อง อีเมล์: sourabhkumardb@gmail.com.
ผูเ้
ขียนยอมรับว่าบทความนียังคงเข้
าถึ
งได้
แบบเปดอย่างถาวรภายใต้
เงือนไขของ Creative Commons Attribution License 4.0 International License
Machine Translated by Google
ปรสิตบางชนิดก่อให้
เกิดโรคได้
มากโดยส่งผลต่อการเจริญเติบโตและสมรรถภาพการสืบพันธุ
ข
์ อง ตรวจสอบสไลด์ทีเตรียมไว้
ด้
วยกล้
องจุ
ลทรรศน์สเตอริโอ Carlzeiss โดยใช้
วต
ั ถุ
ประสงค์ 10×,40× และ
100× การจํ
าแนกปรสิตทํ
าได้
โดยใช้
Couch (
1983)
,Kabata (
1985)
,Lightner (
1996)และ Mehlhorn
โฮสต์ (
Jayasree et al.,2001)ในเอเชีย การติดเชือไวรัส แบคทีเรีย และปรสิตของ M.
(
2008)หลังจากนัน สไลด์ดังกล่าวได้
ถก
ู นํ
าไปฝากไว้
ทีห้
องปฏิบต
ั ิการการจัดการและเทคโนโลยีการเพาะเลียง
rosenbergii เปนสาเหตุ
สาํ
คัญของการสูญเสียการผลิตบ่ออย่างมีนัยสํ
าคัญ (
Chu et al.,
สัตว์นํ
า มหาวิทยาลัยวิทยาสาคร ประเทศอินเดีย
2011)
อย่างไรก็
ตาม การศึ
กษาปรสิตและโรคต่างๆ ได้
รบ
ั ความสนใจอย่างมากในกุ
้
ง Penaeid ทีเพาะ
เลียงได้
และ โดยเฉพาะกุ
้
ง Monodon Penaeus แต่ก้
ง
ุทีไม่ Penaid ได้
รบ
ั ความสนใจน้
อยกว่า ผลลัพธ์และการอภิปราย
ในเรืองนี โรคไวรัสของ M. rosenbergii ได้
รบ
ั การตรวจสอบอย่างกว้
างขวางโดย Bonami
และ Widada (
2011) ในระหว่างการสอบสวนปจจุ
บน
ั มีการบันทึ
กปรสิตทังหมด 14 ชนิดจากอวัยวะต่าง ๆ ของ M.
rosenbergii (
ตารางที 1 รูปที 1 และ 2)โปรโตซัวทีอยูใ่ นสองกลุ
่มส่วนใหญ่ถก
ู พบ ได้
แก่
epibiontic ciliates และ gregarines ทีอาศัยอยูใ่ นลํ
าไส้
(Chakraborti และ
การศึ
กษาโปรโตซัวและปรสิตเมตาโซอันจาก M. rosenbergii ดํ
าเนินการจากส่วนต่างๆ ของ Bandyapadhyay,2011)
โลก (
Beck,1980; Rohde,1984; Schuldt and Rodrigues-Capitulo,1985; Areerat,
1988; Nash,1989; Johnson,1995; Johnson และ Bueno,2000; Rodriguez et al.,
2001; Montoya,2003)แต่คนส่วนใหญ่มุ
ง
่ เน้
นไปทีบุ
คคลหรือกลุ
่มของปรสิต ในอินเดีย ผู้ ในบรรดา ciliates ทัง 7 นัน พบ peritrichous ciliates ทีอยูใ่ นจํ
าพวก Zoothamnium,
เขียนหลายคนรายงานการเกิดปรสิตใน M. rosenbergii Epistylis และ Vorticella พบว่ามีความโดดเด่นใน pleopods,uropods,เหงือก และลํ
าไส้
พบ
เกรการีน 1 สายพันธุ
จ
์ าํ
กัดอยูใ่ นลํ
าไส้
8,
778 ตัน และรัฐเบงกอลตะวันตกเปนผูผ
้ลิตชันนํ
าด้
วยการผลิต 2,
906 เมตริกตัน (
MPEDA,2011)ในป 2554
ถึ
ง 2555 อินเดียส่งออก M. rosenbergii จํ
านวน 2,
723 เมตริกตัน โดยมีปริมาณเพิมขึ
น 31.61% เมือเทียบกับ
มีรายงานการเกิด epicommensal ทีหลากหลายจากเหงือกและพืนผิวภายนอกของกุ
้
งนํ
าจืด
ปก่อนหน้
า(MPEDA,2011)จากข้
อเท็
จจริง ข้
อมูลเกียวกับปรสิตถือเปนสิงสํ
าคัญในการปองกันการระบาดของ หลังวัยอ่อนและกุ
้
งโตเต็
มวัย (
Johnson and Bueno,2000)การติดเชือซิลิเอต โดยเฉพาะอย่าง
โรคในแหล่งเพาะเลียง และเพือจัดทํ
าแผนการจัดการทียังยืนเพือหลีกเลียงการระบาดของปรสิต เพือดํ
าเนินการต่อ ยิง Zoothamnium,Epistylis และ Vorticella ได้
รบ
ั การบันทึ
กก่อนหน้
านีจากกุ
้
ง Penaeid
จากข้
อเท็
จจริง ได้
มก
ี ารตรวจสอบปรสิตภายนอกและปรสิตเอนโดเพือเปรียบเทียบการเกิดปรสิตของ M. และกุ
้
งทีไม่ใช่ Penaeid และจากพืนทีทางภูมศ
ิ าสตร์หลายแห่ง (
Brock,1983; Colorni,1985;
rosenbergii ทีเลียงในฟาร์ม จากเขตผลิตกุ
้
งหลักสองแห่งในรัฐเบงกอลตะวันตกในอินเดีย Overstreet,1987)
เพือให้
สอดคล้
องกับการค้
นพบในปจจุ
บน
ั ผูเ้
ขียนหลายคนรายงานว่า ciliates peritrichous
จากอินเดียทีเกียวข้
องกับการเกิดขึ
น การเกิดโรค และ epizootiology (
Rajendran et al.,
1982; Felix et al.,1994; Nandi and Das,1995; Rajendran,1997; Jayasree et al. .,
2001; Chakraborti และ Bandyapadhyay,2011)Overstreet (
1973)กล่าวถึ
งการติด
เชืออย่างหนักของ ectosymbionts peritrichous ciliates จนทํ
าให้
โฮสต์เสียชีวต
ิ ในทีสุ
ด
วัสดุ
และวิธก
ี าร Jayasree และคณะ ยังได้
หารือเกียวกับ อุ
บต
ั ิการณ์ตามฤดูกาลของ การติดเชือ Zoothamnium และความ
สัมพันธ์กับความเค็
มและปริมาณนํ
าฝนด้
วย (
2544)
. ปรสิตเกรการีนทีอาศัยอยูใ่ นลํ
าไส้
ล้
วนก่อโรคในสัตว์จาํ
พวก
การศึกษานีดํ
าเนินการในช่วงเดือนพฤษภาคมถึ งเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2557
ครัสเตเซียนเดคาพอด และอาจส่งผลให้
การดูดซึ
มอาหารลดลงหรือลํ
าไส้
อุ
ดตันเปนครังคราว และอาจถึ
งแก่ชวี ต
ิ
Live M. rosenbergii (n = 75)( ยาว: 3.95-8.25 นิว; นํ
าหนัก: 35.6-
102.05 กรัม)สุ
ม
่ ตัวอย่างจากแหล่งนํ
าจืดต่างๆ รวมถึ
งแหล่งกักเก็
บนํ
ากร่อยทางทิศใต้
และทิศเหนือ เขต ได้
(Sprague and Couchi,1971; Lightner,1993)อัตราการติดเชือ gregarinids ในฤดูรอ
้นสูงกว่าฤดู
Parganas 24 แห่งของรัฐเบงกอลตะวันตกถูกนํ
าตัวไปทีห้
องปฏิบต
ั ิการโดยบรรจุ
ถง
ุpoythene ทีได้
รบ
ั หนาว ตามที Timofeev (
2001)กล่าวไว้
ในอินเดีย Jayasree และคณะ (
2001)รายงานว่า gregarines สอง
ออกซิเจนเพือตรวจสอบรายละเอียด พารามิเตอร์คณ
ุภาพนํ
าในแหล่งนํ
า เช่น อุ
ณ หภูม ิ ความเค็
ม ออกซิเจน สายพันธุ
จ
์ าก Metapenaeus dobsoni แต่ไม่มอ
ี ยูใ่ น M. rosenbergii เลย การติดเชือไส้
เดือนฝอยพบน้
อย
ละลายนํ
า และ pH อยูร่ ะหว่าง 28.5 ถึ
ง 32.5°C,0 ถึ
ง 5 ppt,3.5 ถึ
ง 7.5 ppm และ 7.8 ถึ
ง 8.5 ตามลํ
าดับ
มากจาก M. rosenbergii (
Nash,1989)ติดต่อได้
โดยการหาอาหารโคพีพอดทีติดเชือซึ
งทํ
าหน้
าทีเปนโฮสต์
ความหนาแน่นของกุ
้
งในระบบการเลียงแบบดังเดิมนีโดยทัวไปอยูท
่ ี 5 ถึ
ง 10 ตัว/ m2 กุ
้
งทังหมดถูกผ่า และ
ระดับกลางของพยาธิเหล่านี การติดเชือพยาธิในมนุ
ษย์จง
ึมีโอกาสเปนไปได้
ทก
ุอย่าง
ขูดจากหนังกํ
าพร้
า ส่วนต่อท้
าย เหงือก ระบบย่อยอาหาร ลํ
าไส้
และตับอ่อนถูกนํ
ามาสไลด์ทีสะอาดด้
วยนํ
าเกลือ
(
0.75% NaCl)และตรวจดู (
Mondal et al.,2014)สไลด์ทีทาปายนันถูกทํ
าให้
แห้
งในอากาศ ตรึ
งในเมทา
นอลทีปราศจากอะซิโตน และย้
อมด้
วย Giemsa (
HiMedia,มุ
มไบ)(
Chakraborti และ Bandyapadhyay,
2010)ใช้
วธ
ิ ก
ี ารมาตรฐานในการตรึ
งและย้
อมสีปรสิต ที
Machine Translated by Google
ตารางที 1 รายการรายละเอียดของปรสิตทีเก็
บได้
จาก Macrobrachium rosenbergii และบริเวณทีเกิดการติดเชือ
กลุ
่มเอส/เอ็
น ปรสิต ความจํ
าเพาะของอวัยวะ
โปรโตซัว
1 ซูแทมเนียม sp. กิลส่วนต่อท้
าย
2 แอมฟเลปตัส sp. เหงือก
3 ดิเลปตัส sp. ลํ
าไส้
4 ซิเลียต ชิโลโดเนลล่า sp. กิลส่วนต่อท้
าย
บัลลาไดน่า เอสพี. กิลส่วนต่อท้
าย
56 จดหมาย sp. ลําไส้
7 วอร์ติเซลลา sp. ลํ
าไส้
เมตาโซอัน
9 Myxosporadians Myxobolus sp. เหงือก
10 ราบโดโคนา sp. ลํ
าไส้
11 อินโดคูคัลลานัส sp. ลํ
าไส้
ไส้
เดือนฝอย
12 Procamallanus sp. ลํ
าไส้
Cucullanus
13 sp. ลํ
าไส้
รูปที 1 (
1)อาณานิคมของ Zoothamnium sp. ติดเหงือก 150×; (
2)เกรการินา เอ สพี. ติดอยูใ่ นลํ
าไส้
150×; (
3)
แอมฟเลปตัส sp. ติดอยูใ่ นเหงือก 150×; (
4)ดิเลปทัส เอสพี ติดอยูใ่ นลํ
าไส้
150×; (
5)ไมกโซโบลัส เอสพี ติด
เหงือก 150×; (
6)ชิโลโดเนลลา เอสพี แนบมากับส่วนต่อท้
าย 150×
Machine Translated by Google
รูปที 2 (
7)อาณานิคมของ Balladyna sp. แนบมากับส่วนต่อท้
าย 100×; (
8)แรบโดโคนา sp. ติดอยูใ่ น
ลํ
าไส้
100×; (
9)
อินโดคูคัลลานัส sp. ติดอยูใ่ นลํ
าไส้
150×; (
10)
Procamallanus sp.ติดอยูใ่ นลํ
าไส้
150×; (
11)Cucullanus sp. ติดอยูใ่ นลํ
าไส้
150×; (
12)เอพิสติลิส
sp. ติดลํ
าไส้
150×.
โดยนํ
ากุ
้
งนํ
าจืดมาอธิบายโดย Sen-Hai และ Kenneth (
1994) การจัดการบ่อก่อนการเลียง การเก็
บเมล็
ดพันธุ
ป
์ ลอดสารก่อโรค การจัดการคุ
ณ ภาพนํ
า การจัดการอาหารทีดีขน
ึ
ฯลฯ สามารถปองกันผลกระทบจากโรคภัยไข้
เจ็
บ และช่วยเหลือเกษตรกรผูย
้ากจนในการผลิตทียังยืน
บทสรุ
ป
การศึ
กษาครังนีแสดงให้
เห็
นว่ากุ
้
งนํ
าจืด M. rosenbergii ทํ
าหน้
าทีเปนทีอยูอ
่ าศัยของ
epibionts และปรสิตหลายชนิด โรคภัยเปนปจจัยจํ
ากัดทีร้
ายแรงทีสุ
ดในภาคการประมง รับทราบ
และเปนสาเหตุ
สาํ
คัญของการตายเรือรังและการเจริญเติบโตทีไม่ดี ซึ
งส่งผลต่อผลผลิตและ
ความสามารถทางการตลาดของสัตว์นํ
า พืนทีชุ
ม
่ นํ
าทีราบนํ
าท่วมถึ
งในรัฐเบงกอลตะวันตก ผูเ้
ขียนขอขอบคุ
ณ ชาวประมงท้
องถินทีอนุ
ญาตให้
เก็
บตัวอย่าง ผูเ้
ขียนขอขอบคุ
ณ เจ้
าหน้
าทีแผนก
ส่วนใหญ่เปนพืนทีชุ
ม
่ นํ
าและอุ
ดตันด้
วยพืชพรรณนํ
า ส่งผลให้
คณ
ุภาพนํ
าไม่ดีเท่าทีควร ซึ
ง AEM ของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สต
ั ว์และประมงเวสต์เบงกอล (
WBUAFS)และ VU ทีให้
การ
ท้
ายทีสุ
ดก็
สง
่ ผลกระทบต่อสุ
ขภาพโดยรวมของสัตว์นํ
าในทีสุ
ด อย่างไรก็
ตามการค้
นพบของ สนับสนุ
นอุ
ปกรณ์ SK Dubey ขอขอบคุ
ณ Prof. RK Trivedi สํ
าหรับการให้
กํ
าลังใจมาโดยตลอด
การศึ
กษาครังนีจะเปนพืนฐานในการออกแบบการศึ
กษาเฉพาะเจาะจงของปรสิตในอนาคต
ในรัฐเบงกอลตะวันตก วัฒ นธรรมภายในประเทศและกิจกรรมประมงตามการจับส่วนใหญ่
เปนชนบทและดํ
าเนินการโดยเกษตรกรผูย
้ากจน
ผลประโยชน์ทับซ้
อน
ผูเ้
ขียนประกาศว่าพวกเขาไม่มค
ี วามขัดแย้
งทางผลประโยชน์
พัฒ นาแนวทางการบริหารจัดการให้
ดีขนโดยผ่
ึ าน
Machine Translated by Google
ข้
อมูลอ้
างอิง Nandi NC,Das AK (
1995)ระบาดวิทยาของการแพร่กระจายของ Epistylis ในกุ
้
ง
ฟาร์มของรัฐเบงกอลตะวันตก ประสบการณ์อาหารทะเล จ. 26(
11)
:17-19.
อารีรต
ั น์ ส. (
1988)
. โรคของ Macrobrachium rosenbergii de Man สีขาว Natl. ปลานํ
าจืด. สถาบันฯ ปลา. ประเทศไทย, แนช จี (
1989)การติดเชือ Trematode metacercarial ของกุ
้
งนํ
าจืด Macrobrachium rosenbergii ทีเพาะเลียง เจ. อินเวอร์เทบรา.
เทคโนโลยี. แปป ลํ
าดับที 78 หน้
า 11. ปทุ
ม. 53:124-127.
เบ็
ค เจที (
1980)ผลของลูกล้
อไอโซพอด Probopyrus pandalicola บนตัวละครทางเพศของหนึ
งในโฮสต์ก้
ง
ุคาไรเดียน นิวเอ็
มบี (
2548)การเลียงกุ
้
งนํ
าจืด: สถานะระดับโลก งานวิจย
ั ล่าสุ
ด และภาพรวมอนาคต อควาค. ความละเอียด 36:210-230.
Palaemonetes paludosus ไบโอล วัว. 158:1-15.
โอเวอร์สตรีท RM (
1973)ปรสิตของกุ
้
ง Penaeid บางชนิดโดยเน้
นทีโฮสต์ทีเลียง การเพาะเลียงสัตว์นํ
า 2:105-140.
โบนามิ เจอาร์,วิดาดา เจเอส (
2011)โรคไวรัสของกุ
้
งนํ
าจืด Macrobrachium rosenbergii: บทวิจารณ์ เจ. อินเวอร์เทบรา. ปทุ
ม. 106:131-1
โอเวอร์สตรีท RM ( 1987)การแก้ปญหาทีเกียวข้องกับปรสิตในการเพาะเลียง
สัตว์นํ
าทีมีเปลือกแข็
ง นานาชาติ เจ.พาราซิทอล. 17:309-318.
บร็
อค เจเอ (
1983)โรค (
ติดเชือและไม่ติดเชือ)ปรสิตเมตาโซอัน สัตว์นักล่า และข้
อพิจารณาด้
านสาธารณสุ
ขใน การเพาะเลียง ราเชนดราน เควี ( 1997)โรคโปรโตซัว 3 ชนิดในกุ
้
งเลียง
Macrobrachium และการประมง ใน: McVey JP (
ed.)Handbook of Mariculture,Crustacean Aquaculture, อินดี. เจ. ฟช. 44:399-403.
จักระบอร์ติ เจ,Bandyapadhyay PK (
2010)บันทึ
กแรกของปรสิต septate gregarines (
Apicomplexa: Sporozoea) การประชุ
มวิชาการเรืองโรคของปลาและสัตว์มเี ปลือก 1-3 มีนาคม 2525 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยประมง มัง
ในกุ
้
ง Peneaus monodon ใน Sundarbans ของรัฐเบงกอลตะวันตก เจ.ปรสิต. โรค 34 (
1):40– คาลอร์ อินเดีย บทคัดย่อ หน้
า 13
การเพาะเลียงสัตว์นํ
า 49(
1):1-10.
โซฟา เจเอ (
1983)โรคทีเกิดจากโปรโตซัว ใน: Pro venzano AJ (
Ed.)ชีววิทยาของ Crustacea,เล่ม 6. พยาธิชวี วิทยา. ซาฮุ
ล ฮามีด อาส,ซาเวียร์ ชาร์ลส์ เอ็
ม,อนิลกุ
มาร์ เอ็
ม(2000)ความทนทานของ Macrobrachium rosenbergii ต่อไวรัส
สํ
านักพิมพ์วช
ิ าการลอนดอน หน้
า 79-107. กลุ
่มอาการจุ
ดขาว
การเพาะเลียงสัตว์นํ
า 183:207-213.
เฟลิกซ์ เอส,ราเชลที 1,สุ
นทราราชที 5 (
1994)ความแพร่หลายของการแพร่กระจายของ ciliate ในระบบการเพาะเลียงกุ
้
งใน ซันโคลี KN,เชนอย เอส,จาลิฮาล DR,อัลเมลการ์ จีบ,
ี (
1982)การระบาดของโรคในการเลียงกุ
้
งนํ
าจืด M. malcolmsonii.
รัฐทมิฬนาฑู การส่งออกอาหารทะเล เจ. 25:31-34 เจ. มี.ค.
ไบโอล รศ. อินเดีย 6:424-430.
Macrobrachium rosenbergii (
De Man)เอกสารสํ
าคัญสํ
าหรับ Protistenkunde 137:161-164.
คาบาตะ ซี (
1985)ปรสิตและโรคของปลาทีเลียงในเขตร้
อน
เทย์เลอร์และฟรานซิส ลอนดอน และฟลาเดลเฟย หน้
า 318
ไลท์เนอร์ ดีว ี (
1993)โรคของกุ
้
งเพเนียดทีเพาะเลียง ใน: McVey JP,Lightner DV (
Eds)คู่มอ
ื CRC ของการเพาะเลียงสัตว์ เซน-ไห่ หยู,เคนเนธ อี มอตต์ (
1994)ระบาดวิทยาและการเจ็
บปวยจากการติดเชือแบคทีเรียในลํ
าไส้
ทีเกิดจากอาหาร องค์การอนามัยโลก. ที: http://
นํ
า: การเพาะเลียงสัตว์นํ
าทีมีเปลือกแข็
ง สํ
านักพิมพ์ซอ
ี าร์ซ ี โบคา ราตัน หน้
า 303-346 www.who.int/iris/handle/10665/61103 Sprague V,Couchi J (
1971)รายการคํ
าอธิบายประกอบของปรสิตโปรโตซัว ปรสิตเกิน และ
ส่วนรวมของสัตว์จาํ
พวกครัสเตเชียน Decapod เจ. มีอยู่
ไลท์เนอร์ ดีว ี (
1996)คู่มอ
ื พยาธิวท
ิ ยาของกุ
้
งและขันตอนการวินิจฉัยโรคของกุ
้
งเพแนอิดทีเพาะเลียง สมาคมเพาะเลียงสัตว์นํ
า
โลก,แบตันรูช,แอลเอ
วิทยาต่อมลูกหมาก 8(
2):41-52.
มอนโตย่า เจวี (
2003)กุ
้
งนํ
าจืดในสกุ
ล Macrobrachium ทีเกียวข้
องกับรากของ Eichhornia crassipes (
ผักตบชวา)ใน
Orinoco Delta (
เวเนซุ
เอลา)คาริบบ์ เจ. วิทย์. 39:155-159.
MPEDA (
2011)หน่วยงานพัฒ นาการส่งออกผลิตภัณ ฑ์ทางทะเลรายงานประจํ
าป 2554-2555 กระทรวงพาณิชย์และ
อุ
ตสาหกรรม รัฐบาล ของอินเดีย,Panampilly Avenue,Kochi,อินเดีย
แนร์ CM,ซาลิน KR (
2012)สถานะปจจุ
บน
ั และโอกาสของการเลียงกุ
้
งแม่นํ
า Macrobrachium rosenbergii (
De Man)
และกุ
้
งแม่นํ
ามรสุ
ม Macrobrachium malcolmsonii (
HM Edwards)ในอินเดีย อควาค. ความละเอียด 43:999-1014.