You are on page 1of 10

พ.ต.ท.

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

กับรายการวิทยุออนไลน์ "เล่าสู่กันฟัง” (Talk around the World)

ออกอากาศผ่านเว็บไซท์ www.thaksinlive.com

ทุกวันอังคาร เวลา 20.30 น. – 21.30 น.

เรียบเรียงจากการออกอากาศ วันอังคารที่ 15 กันยายน 2552


นำำาใจจากเมืองไทย
รายการจะพูดถึงการเมืองให้น้อยที่สุด ไม่อยากให้พี่น้องปวดหัว เราออกจาก
การเมือง มาดูเรื่องของโลกภายนอก ฟังเรื่องเบาๆ กัน
ช่วงนี้มีแขกมาเยี่ยมเยอะ เป็นนักธุรกิจ ส.ส. อดีตส.ส. แบกกระเป๋าใบใหญ่เป็น
สิบใบนำาอาหารมาให้ทาน ใส่ตู้เย็น 4 หลังแทบไม่ไหว มีทั้งไก่ย่างท่าช้าง ก๋วยเตี๋ยวลูก
ชิ้นปลา ลูกชิ้นเนื้อ สมองห่าน ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมจีนนำ้ายาป่า แกงส้มไหลบัว
ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ปลาสลิดแห้ง มะขามหวานเพชรบูรณ์แกะเมล็ด นำ้าพริกหนุ่ม นำ้า
พริกตาแดง แจ่วบองอีสาน อาหารเหล่านี้ช่วยให้หายคิดถึงเมืองไทยได้เยอะ
ทานมากก็จะอ้วน ยิ่งทานตอนดึกแล้วนอนเลย ไม่ดี เป็นไปได้ทุกท่านควรออก
กำาลัง ต้องรักษาสุขภาพ ถ้าร่างกายไม่แข็งแรง ก็ไม่มีแรงต่อสู้อะไรๆ ถ้าแข็งแรงจะมี
พลังต่อสู้กับชีวิตที่วุ่นวาย โดยเฉพาะท่านที่เป็นผู้นำาครอบครัว ต้องดูแลร่างกายและ
จิตใจ ส่วนตัวแล้วอาศัยนั่งสมาธิอ่านหนังสือ ก็ช่วยได้เยอะ ช่วงนี้ต้องพูดวิทยุทุก
สัปดาห์ จึงต้องอ่านหนังสือมากขึ้น เพื่อจะได้มีเกร็ดมาเล่าให้ฟัง

วอนหันหน้าเข้าหากัน
ได้คุยกับพรรคพวกที่มาเยี่ยม ได้รู้สถานการณ์ต่างๆ ของบ้านเมือง เป็นห่วงพี่
น้องคนไทยเพราะตอนนี้ใช้เวลากับการเมืองมากกว่าแก้ปัญหาบ้านเมือง อยากฝากทุก
ฝ่ายว่าถ้าเมื่อไรที่เราลุกขึ้นมา ...อย่างคำาที่โอบามาชอบใช้ คือ One Nation มีความเป็น

1
นำ้าหนึ่งใจเดียวกัน เรามีศักยภาพเยอะ บ้านเมืองเราจะไปได้ไกล วันนี้ความขัดแย้ง
ภายในของเราซึ่งมีหนังสือเล่มหนึ่งจะมาเล่าให้ฟัง
ช่วงนี้มีการแต่งตั้งผบ.ตร. หักกันไปมา เอาเป็นเอาตายกัน ที่จริงไม่น่ามีอะไร
ตั้งไปแล้วทุกคนก็ต้องทำาตามหน้าที่ที่จะรักษากฎหมาย...ลึกๆ แล้วเดาว่าน่าจะสืบ
เนื่องจากคดีลอบฆ่านายสนธิ มีการต่อสู้กันเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของแต่ละ
ฝ่าย
ผมเองก็โดนเรื่องลอบฆ่ามาหลายรอบ โชคดีที่ไม่โดน ถูกปฏิวัติออกไปนอก
ประเทศเสียก่อน นึกไม่ถึงว่าทำาไมบ้านเมืองเราถึงเครียด ดุร้าย จริงจังเอาเป็นเอาตาย
กันมากเหลือเกิน น่าจะให้อภัยซึ่งกันและกัน หันหน้าเข้าหากัน ให้บ้านเมืองเดินหน้า
ต่อไปได้
ที่สำาคัญคือผู้ที่รบกันอยู่ฐานบนเพื่อแย่งอำานาจกัน แต่คนฐานล่างพลอยแย่ไป
หมด เหมือนช้างสารชนกัน หญ้าแพรกแหลกราญ...เมื่อไรเราจะลดราวาศอก คุยกัน
ด้วยเหตุผล อยู่บนพื้นฐานของกฎหมายกติกาที่จะเดินหน้าอย่างไม่มีปัญหา เหมือน
การแข่งกีฬา จบแล้วก็ยังจับมือกันได้ ส่วนตัวแก่แล้วก็ไม่อยากเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้น
ในสังคม หากใครเห็นว่าผมจะมีส่วนช่วยอะไรได้บ้าง ก็บอกกันมา ต้องหันหน้าเข้าหา
กัน ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งมัดมืออีกฝ่ายไว้ ตบซ้ายตบขวาแล้วบอกอย่าร้อง อย่างนี้คงไม่ใช่
หันหน้าเข้าหากัน ไม่เกิดประโยชน์เลย วันนี้ความขัดแย้งเกิดขึ้นเต็มไปหมดทั้งพรรค
แกนนำารัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการ ประชาชน ยังไม่สายถ้าจะหันหน้า
ปรองดองกัน

19 กันยายน รำาลึกที่มาความบอบชำำาของประเทศ
ปัญหาความขัดแย้งทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสังคม ต้นเหตุมาจากเหตุการณ์ปฎิวัติ
รัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่งจะครบ 3 ปี ซึ่งทางกลุ่มเสื้อแดงก็จะชุมนุม และ
ฝ่ายพันธมิตรก็ประกาศจะไปชุมนุมที่ชายแดนเขาพระวิหาร และยังมีข่าวออกมาว่าผม
ได้ส่งสัญญาณให้เกิดความรุนแรงในวันที่ 19 กันยา
อยากจะบอกว่าเข้าใจผิดแล้ว สิ่งที่ผมส่งสัญญาณ คือ ความสันติสุขและเอา
ความจริงมาต่อสู้ พูดคุยกัน คนที่ทำาผิดไปแล้วก็แล้วไป อย่าไปพยายามโกหกว่าสิ่งที่ผิด
นั้นมันถูก ซึ่งหากความจริงปรากฏขึ้นมา จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร มีความเชื่อมั่นว่าคน

2
เสื้อแดงจะต่อสู้ด้วยการเอาความจริงมาพูดและความสันติ และสิ่งที่ตนอยากจะฝาก
คือ การชุมนุมก็เพื่อเป็นการมารำาลึกถึงสิ่งที่ทำาให้ประเทศชาติต้องบอบชำ้ามาเป็นเวลา
ถึง 3 ปี
อยากจะฝากพี่น้องคนไทยช่วยกันคิดกันหน่อยว่า 3 ปีที่ผ่านมาชีวิตของพวกท่าน
ดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่ามีคนที่มีชีวิตที่ดีขึ้นเพียงไม่กี่คน บรรดาแกนนำาพวกปฎิวัติ บรรดา
พวกที่หากินกับการค้าอาวุธ พวกที่หากินจากการทุจริตคอรัปชั่นซื้อขายตำาแหน่ง แต่
ประชาชนทั้งประเทศดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งบอกได้เลยว่าแย่ ส่วนใหญ่เดือดร้อน เม็ดเงิน
หดหาย คนตกงาน นักท่องเที่ยวหดหาย ความน่าเชื่อถือ เกียรติภูมิของประเทศในต่าง
ประเทศลดลง สิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนลดลง ประชาธิปไตยของประเทศหายไป
ระบบยุติธรรมของประเทศไม่เหลือหรือเหลือน้อยลง สิ่งที่บอกจะเข้ามาแก้ไขปัญหา
ภาคใต้ก็เลวร้ายกว่าเดิม บอกว่าจะเข้ามาสร้างความปรองดองก็ยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม
3 ปีที่ผ่านมา บอบชำ้ามากพอหรือยัง เราแตกแยกกันพอหรือยัง เราอยากเป็น
ประเทศไทยที่เป็นหนึ่งเดียวหรือไม่ อยากวิงวอนเรียกร้องสันติสุข เลิกรบรากันต่อไป
ไม่เป็นผลดีต่อใครเลย โลกเวลานี้รับรู้กันหมด ทุกอย่างบันทึกไว้ได้หมด แม้กระทั่งใคร
แอบสั่งการความรุนแรงไว้ มีคนแอบอัดเทปออกมา ก็อ้างว่ามีการตัดต่อเทป ซึง่ ตัดต่อ
อย่างไร เนื้อหาก็มีความรุนแรงสมบูรณ์ในตัวเองในส่วนที่ยังไม่ตัด
ยิ่งต่อสู้กันต่อไป โอกาสที่จะผิดพลาดทุกฝ่ายจะสูงขึ้น โอกาสที่ประชาชนคน
ไทยจะลำาบากกว่านี้ก็มากขึ้น รัฐบาลอัดเงิน 1.4 ล้านล้าน ถามว่าช่วยเขาได้หรือไม่
ช่วยได้นิดหน่อย แต่ไม่ยั่งยืน ที่แน่ๆ คือเป็นหนี้ถาวร ต้องชดใช้จำานวนมาก เหมือน
ลงทุนร้อยนึง เกิดผลแค่ยี่สิบ แต่เป็นหนี้ร้อยนึง ไม่คุ้ม
หากความเชื่อมั่นของประเทศ ความสามัคคีของคนในชาติ กระบวนการ
ยุติธรรมกลับคืนมาสู่ภาวะปกติ ความน่าเชื่อถือจะเกิดขึ้น คนมาลงทุน มาท่องเที่ยว
มากขึ้น ชาติจะฟื้นอย่างยั่งยืน ก็ไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหนก่อน ก็ได้แต่ฝากเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ดังนั้น วันที่ 19 กันยายน ขอร้องทุกฝ่ายเราไปชุมนุมกันอย่างสันติสุข เพื่อเตือน
ให้คนไทยและคนทั้งโลกรู้ว่า การปฏิวัติรัฐประหารที่ผ่านมานั้น ได้ทำาให้ประเทศชาติเกิด
ความเสื่อมโทรม มีคนเพียงหยิบมือเดียวที่ได้ประโยชน์จากการทำาการปฏิวัติ ขอ
ประณามต่อไปนี้อย่าได้มีอีกเลย ประเทศถอยหลังเข้าคลอง คณะปฏิวัติพยายาม

3
หาเหตุผลว่าทำาไมถึงต้องปฏิวัติ ทั้งที่ไม่มีเหตุผล คนถูกกล่าวหา ถูกรังแกก็ต้องต่อสู้
เพื่อให้ความจริงปรากฏ สิ่งที่ออกมาเรียกร้องให้หันหน้าเข้าหากัน ไม่ใช่ว่าอยู่ที่เมือง
นอกไม่ไหวแล้ว จะตายแล้วนั่นไม่ใช่ คิดถึงบ้านจริง แต่ก็ปรับตัวได้พอสมควร

วิพากษ์การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงในเขตดุสิต
ส่วนการประกาศ พ.ร.บ.ในเขตดุสิต นั้น สมัยผมออกพ.ร.ก.ลักษณะนี้ถูกว่า
อย่างไม่มีดี จริงแล้วที่ตอนนั้น ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อมาทดแทนการประกาศกฎ
อัยการศึกที่ใช้แทนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการต่อว่าว่าเอาออกมาใช้ทำาไม อ้าง
ว่าจะไปริดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน ไปกระทบภาคประชาชน
แต่เวลานี้รัฐบาลใช้อย่างพรำ่าเพรื่อมาก ใช้พ.ร.บ.นี้เหมือนใช้กระดาษทิชชู่ จะ
ไปตกใจกลัวอะไร รัฐบาลรู้ดีว่าเหตุการณ์ช่วงสงกรานต์นั้น เกิดอะไรขึ้น ใครสร้าง
สถานการณ์ ใครก่อเหตุ การออกบ่อยๆ ทำาให้ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ จริงแล้ว
วัตถุประสงค์ของการใช้พ.ร.บ.ฉุกเฉิน เพื่อต้องการประกาศใช้ในภาคใต้ ใช้ระงับเหตุ
แทนกฎอัยการศึก ไม่ใช่นำามาใช้ในเมืองหลวง เป็นการละเมิดสิทธิการชุมนุมของ
ประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยและละเมิดเสรีภาพของสื่อมวลชน ตรงนี้ทบทวน
ให้ดี ยิ่งประกาศใช้มาก ไม่ดี

วอนรัฐบาลลงพืำนที่ดูแลปัญหาภาคใต้
ทำาไมตอนนี้ UNDSS (The United Nations Department of Safety and
Security) ไปด้อมๆ มองๆ จะตั้งสำานักงานเพื่อดูแลความปลอดภัยและความมั่นคงใน 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเขาเห็นว่ามีการฆ่ากันตายมาก มีระเบิดบ่อย รุนแรงขึ้น
เรื่อยๆ รัฐบาลเราไม่เห็นด้วยกับการที่ UN จะเข้ามา ซึ่งผมก็ไม่เห็นด้วย แต่ถ้ารัฐบาล
ไม่ให้เขาเข้ามา ก็ต้องลงไปดูแล ไม่ค่อยเห็นรัฐบาลนี้ลงไปเลย อ้างว่ามีทหารดูแลแล้ว
สมัยที่เป็นนายกฯ ผมลงไปนอนในพื้นที่ที่อันตรายที่สุด แวะเยี่ยมบ้านคนที่ถูก
หมายจับในข้อหาเป็นแกนนำาสำาคัญ ขอร้องเขาให้มอบตัว จะให้ประกันตัวและให้
ความเป็นธรรม ขอมาพูดคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น ไปทุกที่บางที่พอออกมาแล้ว ผ่านไป
10 นาทีระเบิดเลยก็เคยมี

4
การที่รัฐบาลบอกจะแก้ปัญหาภายใน 99 วัน มีปัญหาภาคใต้ด้วย ท่านเป็น
พรรคภาคใต้ด้วย อยากจะให้ลงไปดู โดยเฉพาะคุณสุเทพน่าจะไป นายกฯ น่าจะไป
เพื่อให้ขวัญกำาลังใจ ติดตามความก้าวหน้าโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ทรงพระราชทานคำาแนะนำา คือ การเข้าถึง เข้าใจและพัฒนา จำาเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเน้น
ความแข็งและนุ่มนวลไปพร้อมกัน ไม่เช่นนั้น UN จะเข้าไปตั้งสำานักงานที่นั่น เป็นการ
เชื้อเชิญต่างชาติเข้ามา ไม่เป็นเรื่องที่ดีต่อบูรณภาพแห่งดินแดนเรา

ที่มานโยบายสำาคัญประจำาสัปดาห์ : โครงการ SML


จะเล่าเรื่องนโยบายสำาคัญที่เคยทำาไว้ สัปดาห์ละเรื่อง เพื่อให้เข้าใจปรัชญา
แนวคิด การที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่าเป็นประชานิยม ที่จริงมีความหมายในตัว
เอง ประชาชนชอบเพราะมีประโยชน์ รัฐไม่เสียหายเลย ภาพรวมกลับเป็นเรื่องดีต่อ
เศรษฐกิจและสังคมไทย
โครงการอันหนึ่งที่รัฐบาลนี้เปลี่ยนชื่อเป็น ชุมชนพอเพียง เพื่ออิงเศรษฐกิจพอ
เพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นการตั้งชื่อและการกระทำาที่ไม่เหมาะสม
เลย
โครงการนี้เกิดเมื่อผมนั่งเครื่องบินเพื่อไปประชุมเอเปคที่ชิลี นั่งกลับมาก็คิดว่า
หลังจากไปทัวร์นกขมิ้น ได้จัดงบประมาณแก้ปัญหาเป็นรายจังหวัด การมองปัญหา
จากส่วนกลาง เราไม่รู้จริง ต้องไปฟังปัญหาจากชาวบ้านแล้วให้เขาคิดแนวทาง
โครงการแก้ปัญหาของเขาเอง ในหลายจังหวัดเราก็ให้งบประมาณไปทำา
มีจดหมายน้อยเข้ามามากทีเดียว ส่วนใหญ่เล่าปัญหาเล็กๆ ระดับหมู่บ้าน เช่น
ขยะเน่าเหม็น ถนนฝุ่นคลุ้ง จึงนั่งคิดว่าทำาอย่างไรจะแก้ปัญหาระดับหมู่บ้านได้ เรามี
องค์กรปกครองท้องถิ่นระดับเล็กสุดคือ ตำาบล ที่มีงบประมาณ แต่หมู่บ้านมีผู้ใหญ่
บ้าน แต่ไม่มีงบประมาณ
ตำาบลหนึ่งมีประมาณ 10 หมู่บ้าน งบอาจไม่พอ แต่ปัญหาเล็ก จึงคิดตั้งงบ
ประมาณให้หมู่บ้านต่อปี แบ่งขนาด S - Small ให้สองแสน ขนาด M – Medium ให้
สองแสนห้า ขนาด L – Large ให้สามแสน กำาหนดไปว่าให้ชาวบ้านรวมตัวกันให้ได้
75% ของคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนั้น ถ้ามี 200 คนก็ต้องได้มา 150 คน ประชุมเลือก
กรรมการหมู่บ้านอาจสัก 10 -15 คนเพื่อมาบริหารงบประมาณก้อนนั้น แต่เขาจะร่วม

5
กันเสนอโครงการแก้ปัญหาหมู่บ้านของเขาเอง โหวตเรียงลำาดับความสำาคัญของปัญหา
เพื่อจะจัดสรรงบประมาณที่ต้องใช้ในแต่ละปัญหา เป็นการให้อำานาจแก่หมู่บ้านในการ
จัดการปัญหาของตนเอง หรือ People Empowerment โดยกรมการปกครอง อำาเภอ
ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง
ถ้ายุ่งก็อย่างที่เห็นคือยัดเยียดขายของให้เขา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกรองนำ้าแสง
อาทิตย์ เอาของไม่แพงมาขายแพงให้ชาวบ้าน แต่สิ่งที่เราเคยทำาคือ ไม่ไปยุ่งกับเขา
เขาซื้อของกันเอง จะทำาเมรุเผาศพก็เรื่องของเขา ซื้อเก้าอี้ก็ซื้อเอง ตกลงกันเอง ควบคุม
กันเอง ไม่มีรั่วไหล เงินไปถึงหมู่บ้านเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ใครมาชักเปอร์เซ็นต์ เหมือน
ส่งไอศกรีมให้เขา ไม่มีละลายระหว่างทาง ไม่ใช่ตอนนี้ที่เลียไอศกรีมของเขาตั้งแต่
กระทรวงถึงตำาบล ถึงหมู่บ้านก็หมด
ขณะนี้โครงการถูกแปลงเป็น “ชุมชนพอเพียง” กลายเป็นให้ส่วนราชการไปให้
ชาวบ้านเซ็นว่าอยากซื้อของ ได้ซื้อของแพง ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา ไม่เป็นประโยชน์
เลย ทำาอย่างนั้นเอางบคืนไปดีกว่า ถ้าจะทำาจริงต้องให้อำานาจประชาชน
แนวคิดโครงการ SML ที่ถูกแปลงชื่อเป็นชุมชนพอเพียงนั้น มาจากการคิดถึง
ทุกข์ของประชาชน ทุกข์เล็กๆ น้อยๆ มีเงินให้เขาก็แก้กันเองได้ เราให้จำานวนไม่มากต่อ
ปี แต่ช่วยให้เขาจัดการปัญหาได้ โดยภาคราชการไม่ต้องเข้าไปยุ่งกับเขา

แนะนำาหนังสือว่าด้วย 5 แกนคิดเปลี่ยนโลกในอนาคต
เล่มแรกเขาพูดถึงสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงโลกในอีก 50 ปีข้างหน้า เป็นแนวโน้ม
สำาคัญของโลก หนังสือชื่อ Future Files : the 5 trends that will shape the next
50 years ผู้แต่งชื่อ Richard Watson เป็นเรื่องเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงโลก
ใน 50 ปีข้างหน้า ผู้แต่งเฝ้าสังเกตุพัฒนาการการเปลี่ยนแปลงโลกว่าเกิดจากแกนหลัก
5 แกน
แกนแรก คือ Aging เมื่อคนอายุยืนขึ้นจะมีผลต่อโลกอย่างไรบ้าง ประชากร
ส่วนใหญ่อายุเฉลี่ยจะสูงขึ้น คนเกิดมาก คนตายน้อย จะเป็นภาระของแต่ละประเทศ
เรื่องการเก็บภาษีเพื่อนำามาใช้ในระบบสวัสดิการเลี้ยงดูผู้สูงอายุมากขึ้น ค่าใช้จ่ายต่อ
หัวจะมากขึ้น จะเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องยามากขึ้น การวางแผนเรื่องสุขภาพ จะเกิด
Medical Tourism มากขึ้น มีการลงทุนด้านวิจัยเพื่อให้ผู้สูงอายุมีชีวิตอยู่อย่าวมีความ

6
สุข วิจัยเรื่องเสียงไม่ให้แก่ เป็นยุคชลอความชรา การซื้อความทรงจำา การเปลี่ยน
อะไหล่ร่างกายมนุษย์ ยุคต่อไปจะมีช่องทางทำามาหากินกับการชลอความชรา
แกนที่สอง คือ A Global Powershift Eastwards ศูนย์กลางอำานาจทาง
เศรษฐกิจ การเมืองและการทหารของโลก จะย้ายจากตะวันตกมาตะวันออก
ตัวอย่างเช่นจีน ในปี 2015 การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคของจีนจะสูงถึง 2.2 ล้าน
ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ การลงทุนของซาอุดิ
อาราเบีย ยูเออี คูเวต บาห์เรน กาต้าร์ โอมานได้ลงทุนไปแล้ว 1 ล้านล้านเหรียญ
สหรัฐเพื่อวางท่อส่งนำ้ามัน ท่อก๊าซ จะเพิ่มเป็นสองสามเท่าภายในสิบปีข้างหน้า
ประเทศที่กำาลังมาแรงอย่างจีน อินเดียจะไม่ใช่แหล่งสินค้าราคาถูกอีกต่อไป แต่จะ
กลายเป็นแหล่งทุนเพราะผลิตของส่งออกขายได้เยอะ มีทุนเยอะ ในที่สุดจะเห็นบริษัท
ของจีน อินเดียและตะวันออกกลางไปไล่ซื้อบริษัทในตะวันตก และความต้องการใช้
ทรัพยากรธรรมชาติก็จะสูงขึ้นมาก
การทำานายเหล่านี้ จะเป็นจริงได้ถ้าเราไม่ทำาลายตัวเองเสียก่อน โดยเฉพาะ
ปัญหาสังคมและการเมืองของเรา เราเองเป็นพวกอยู่ในตะวันออก ก็ควรเกาะความ
เจริญไปกับภูมิภาคนี้ได้
แกนที่สาม คือ Global Connectivity โลกจะเชื่อมโยงกันมากด้วยเทคโนโลยีที่
ไม่มีข้อห้ามหรือกติกา เรื่องของโลกาภิวัตน์ สายการบินราคาตำ่า การเคลื่อนย้ายถิ่นที่
อยู่ของคนแต่ละประเทศ สิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อการคิดและการทำางานของมนุษย์ ขณะนี้
คนติดต่อกันทางออนไลน์มีถึง 1 พันล้านคนจากที่มีทั้งหมด 6 พันล้านคน และ 2.5 พัน
ล้านคนใช้โทรศัพท์มือถือ คนในโลกนี้ 13% ไม่ได้อยู่ในประเทศตนเอง คนจะไปทำางาน
นอกประเทศมากขึ้น อย่างที่ดูไบมีฟิลลิปปินส์ บังคลาเทศ อินเดีย พม่า มาอยู่มาก
เทคโนโลยีที่เคยพูดบ่อยในสมัยเป็นนายกฯ คือ ระบบไมโครชิพที่สามารถส่งเป็น
คลื่นวิทยุออกไปได้ ทำาให้ระบบการสื่อสารละเอียดขึ้น แม้กระทั่งการใช้ชิพตัวเล็กมา
แทนบาร์โค้ด ในอนาคตอาจใช้ระบบเงินสกุลเดียวกันทั้งโลก แต่ไม่ใช่สกุลเงินจริงอาจ
ใช้ทองคำามาอ้างอิง หรือใช้ระบบการ์ดคอมพิวเตอร์เปลี่ยนสกุลเงินตราได้อย่างรวดเร็ว
โดยไม่ต้องอ้างอิงว่าเป็น Currency อะไร

7
แกนที่สี่ คือ ‘GRIN’ technologies ย่อมาจาก genetics (ยีน), robotics (หุ่น
ยนต์), the internet and nanotechnology เป็นเทคโนโลยีที่กำาลังมาแรง เป็นส่วน
สำาคัญที่จะเปลี่ยนมนุษย์ใน 50 ปีข้างหน้า คอมพิวเตอร์จะฉลาดขึ้น อ่านจิตใจเราได้
และคิดแทนเรามากขึ้น แม้กระทั่งของดิบในตู้เย็น คอมพิวเตอร์สามารถคำานวณว่า
ด้วยของพวกนี้ จะปรุงเป็นเมนูอะไรให้เราได้บ้าง เพราะเขาใส่ฝุ่นสารที่มีหน่วยความ
จำา เป็น Smart Dust อยู่ในวัตถุดิบให้คุยกันจนออกมาเป็นเมนูได้
แกนที่ห้า คือ The Environment เรื่องสิ่งแวดล้อม ...ทั้ง 5 แกนเป็นเรื่อง
ธรรมดา แต่มองลึกลงไปเราจะเห็นว่ามีการพัฒนาของแกนเหล่านั้น ซึง่ ส่งผลให้โลก
พัฒนาเปลี่ยนแปลง เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมเขาพูดถึงบรรยากาศโลกที่เปลี่ยนไป หรือ
Global Warming ภาวะโลกร้อนซึ่งมีอิทธิพลต่อรัฐบาล บริษัทต่างๆ หรือบุคคลที่จะต้อง
คิดปรับตัวให้ทันกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง เช่น นำ้ามัน ถ่านหิน ยูเรเนียม แก๊ส นำ้า หรือ
แม้แต่แรงงานคนที่ไม่เพียงพอ ทุกอย่างราคาแพงขึ้น ทุกคนจะเริ่มปรับตัว จะมีคำาพูด
ว่า Sustain and Ability ให้ยั่งยืน จึงต้องมี Reduce (ลดการใช้) Reuse (ใช้แล้วใช้อีก)
Recycle (หมุนเวียนการใช้) ทั้งสามเรื่องเป็นหัวใจสำาคัญในการใช้ทรัพยากรในโลกข้าง
หน้า อย่างที่ดูไบ เขาเอานำ้าทะเลมาทำานำ้าจืด นำ้าจืดที่ใช้แล้วก็เอาไปกำาจัดสิ่งสกปรก
แล้วนำามารดนำ้าต้นไม้ เป็นการลดต้นทุน
5 แกนนี้เป็นฐานการคิด ภาคเอกชนใช้เพื่อคิดช่องทางทำามาหากิน ส่วนรัฐบาล
ใช้เป็นช่องทางคิดเชิงยุทธศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาประเทศ

อีกเล่มชื่อ The Next 100 Years: A Forecast for the 21st Century ศตวรรษที่
21 จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง อาทิ จีนจะมีปัญหากับความใหญ่ของตนเอง หรือต่อไปจะมี
โรงไฟฟ้าบนสถานีอวกาศ
เล่มที่สามคือ อนาคตของอินเตอร์เน็ต
เล่มที่สี่คือ The Theory Of Everything ของ Stephen Hawking เป็นหนังสือ
เก่าตั้งแต่ปี 2005 น่าสนใจตรงที่เมื่อก่อนเราเชื่อว่าเรามีระบบจักรวาลเดียว ต่อมา
ไม่ใช่เลยกลับมีหลายจักรวาล

ธุรกิจใหม่ : เหมืองเพชร เป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสให้คนไทย

8
ประมาณอีกสองถึงสามสัปดาห์ จะนำาทีมงานฝรั่งเข้าไปสัมภาษณ์ช่างเจียรนัย
เพชรคนไทย เพื่อจะเอาไปทำางานที่แอฟริกา
ได้ไปเห็นบัญชีของที่จะสั่งซื้อเพื่อนำาเข้าติดตั้งในโรงงานเจียรนัยเพชร
เทคโนโลยีสมัยนี้ก้าวหน้ามาก เราสามารถใช้คอมพิวเตอร์เลเซอร์ยิงเจาะเข้าไปในเนื้อ
เพชร เพื่อที่จะเจียรนัยให้เป็นรูปร่างอย่างไรก็ได้และตัดขอบให้เหลือเนื้อเพชรใช้
ประโยชน์ได้มากที่สุด
ถือว่าเป็นช่องทางการเรียนรู้เทคโนโลยี ช่างไทยมีฝีมืออยู่แล้ว เสริมเทคโนโลยี
ทันสมัย เขาจะเก่งขึ้น มีโอกาสไปเป็นซูเปอร์ไวเซอร์ เป็นผู้จัดการ ช่วงแรกจะรับช่าง
ไทยสี่ห้าคนเอามาฝึก แล้วไปทำางานที่แอฟริกา เมื่อเขาเก่ง เราขยายโรงงานเจียรนัย
เพชรได้มากขึ้น ช่างสี่ถึงห้าคนนี้สามารถเจียรนัยได้ประมาณเดือนละ 800 กะรัต เรา
อวดฝีมือช่างไทยต่อชาวโลกได้ว่าเพชรยี่ห้อนี้เป็นฝีมือคนไทยเป็นหลัก เน้นขายตลาด
เอเชีย เรื่องนี้จะทำาเพราะได้ภาพพจน์ประเทศ เมื่อได้ตัวเพชรแล้วจะเชื่อมธุรกิจกับงาน
จิวเวอรี่ของคนไทยประดับตัวเรือน ต่อไปคนไทยไม่ต้องสั่งซื้อเพชรต่างประเทศ ก็มาสั่ง
กันเองของไทยทำา ให้ประเทศได้ประโยชน์มากที่สุด

วันอังคารหน้าพบกันใหม่ จะพยายามเลือกหนังสือที่อยากให้คนไทยได้
รู้เพื่อจะตามโลกทัน เขาพัฒนาก้าวไกล เขาเอาชนะธรรมชาติและสิ่งยากๆ ได้
คนไทยก็มีฝีมือทำาได้เช่นกัน ขอบคุณที่ติดตามมาตลอด สวัสดี.

.......................

9
..................

10

You might also like