Professional Documents
Culture Documents
สิทธิบัตร (ส่งรายงาน)
สิทธิบัตร (ส่งรายงาน)
กลุุมที่ 1
บทนำา
สิทธิบัตร
สิทธิบัตร เป็ นทรัพย์สินทำงปั ญญำประเภทเดียวที่เป็ นสิทธิที่ก่อตั้ง
์ ่ึงสิทธิเกิดขึ้นทันทีเมื่อ
ขึ้นด้วยกำรจดทะเบียน ซึ่งแตกต่ำงจำกลิขสิทธิซ
สร้ำงสรรค์งำนและแตกต่ำงจำกเครื่องหมำยกำรค้ำซึ่งทำงทฤษฎี สิทธิอำจ
เกิดขึ้นเนื่ องจำกกำรใช้เครื่องหมำย แต่จะมีผลสมบ้รณ์ต้องมีกำรจด
ทะเบียน ฉะนั้ นหำกไม่มีกำร
จดทะเบียนสิทธิบัตรแล้ว สิทธิก็ไม่เกิดขึ้น
3
กฎหมายสิทธิบัตร
สิ่งที่ได้รบ
ั ควำมคุ้มครองตำมกฎหมำยสิทธิบัตร มีองค์ประกอบ
สำำคัญ (สรุปกฎหมำยสิทธิบัตร. ออนไลน์. 2553 )คือ
1. กำรประดิษฐ์ (invention) ตำมพระรำชบัญญัติสิทธิ
บัตร มำตรำ 3 ให้นิยำมไว้ว่ำ กำรคิดค้นหรือคิดทำำขึ้นอันเป็ นผลให้ได้มำ
ซึ่งผลิตภัณฑ์ หรือกรรมวิธีใดขึ้นใหม่ หรือกำรกระทำำใดๆ ที่ทำำให้ดีข้ ึนซึ่ง
ผลิตภัณฑ์ หรือกรรมวิธี จำกนิ ยำมดังกล่ำวอำจแยกได้เป็ น 2 องค์
ประกอบ คือ
1.1 กำรประดิษฐ์ คือ กำรคิดค้นหรือคิดทำำขึ้น หมำยควำม
ว่ำ กำรประดิษฐ์เป็ นกำรใช้
6
มำกกว่ำสิทธิบัตรกรรมวิธี เพรำะเมื่อจดทะเบียนสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์ไว้
แล้วส่วนที่ได้รบ
ั ควำมคุ้มครอง คือผลิตภัณฑ์ คนอื่นไม่มีสิทธิใน
ผลิตภัณฑ์น้ ั นไม่ว่ำจะผลิตขึ้นโดยวิธีใดก็ตำม หำกมีลักษณะเหมือนกับ
ผลิตภัณฑ์ท่ีจดไว้ก็เป็ นกำรละเมิดสิทธิบัตร แต่ถ้ำจดทะเบียนสิทธิบัตร
กรรมวิธีไว้เฉพำะ กำรใช้วิธีกำรผลิตที่จดไว้เท่ำนั้ นจึงเป็ นกำรละเมิดสิทธิ
บัตร ดังเช่น คำำพิพำกษำฎีกำที่ 3523/2537 โจทก์ร่วมได้รบ
ั สิทธิบัตรกำร
ประดิษฐ์ตะกร้อพลำสติก ดังนั้ นไม่ว่ำผ้้ผลิตรำยใดจะพัฒนำวิธีกำรสำน
ตระกร้อพลำสติกให้ดีกว่ำ หรือต่ำงไปจำกวิธีกำรสำนขิ่งโจทก์ร่วมเพียงใด
ก็ตำม หำกล้กตระกร้อที่ผลิตออกมำมีร้ปร่ำงลักษณะเหมือนกับโจทก์ร่วม
แล้ว ถือว่ำผลิตภัณฑ์น้ ั นผลิตโดยละเมิดข้อถือสิทธิตำมสิทธิบัตรของโจทก์
ร่วม
2. กำรออกแบบผลิตภัณฑ์ (product design) ให้สงั เกต
คำำว่ำ กำรออกแบบ ซึ่งเป็ นกำรใช้ควำมคิด กำรคิดค้นหรือคิดทำำขึ้น
เหมือนกับกำรประดิษฐ์ คำำว่ำ แบบผลิตภัณฑ์ หมำยควำมว่ำ ร้ปร่ำงของ
ผลิตภัณฑ์ หรือองค์ประกอบของลวดลำยหรือสีของผลิตภัณฑ์อันมี
ลักษณะพิเศษ สำำหรับผลิตภัณฑ์ซึ่งสำมำรถใช้เป็ นแบบสำำหรับผลิตภัณฑ์
อุตสำหกรรม รวมทั้งหัตถกรรมได้ ฉะนั้ นกำรออกแบบผลิตภัณฑ์จึง
เป็ นกำรใช้ควำมคิดในกำรออกแบบ ซึ่งกฎหมำยให้ควำมคุ้มครองผลของ
กำรออกแบบ 2 ประเภท คือ ร้ปร่ำงของผลิตภัณฑ์ และองค์ประกอบของ
ลวดลำย หรือสีของผลิตภัณฑ์ ร้ปร่ำง คือ ลักษณะภำยนอกที่มีลักษณะ
สำมมิติ หรือร้ปทรงลวดลำยหรือสี เป็ นกำรออกแบบให้เกิดลักษณะขึ้นที่
พื้ นผิวของวัสดุ หรือแบบผลิตภัณฑ์ ใช้เป็ นแบบสำำหรับผลิตภัณฑ์
อุตสำหกรรม รวมทั้งหัตถกรรม หมำยถึง กำรออกแบบเพื่อใช้ผลิตภัณฑ์
ทำง
9
บัตรหำกกำรประดิษฐ์ไม่ต่ำงไปจำกเดิม แม้จะคิดเองโดยไม่ลอกเลียนผ้้
อื่น แต่บังเอิญเหมือนกับสิ่งที่มีอย่้แล้ว ขอรับสิทธิบัตรไม่ได้ เพรำะมิใช่สิ่ง
ใหม่ปัญหำว่ำ อะไรคือ งำนที่ปรำกฏอย่้แล้วซึ่งถือว่ำไม่เป็ นงำนใหม่ มี
บัญญัติไว้ในมำตรำ 6 วรรค (1) ถึง (5)
วรรค (1) กำรประดิษฐ์ท่ีมี หรือใช้แพร่หลำยอย่้แล้วในรำช
อำณำจักรก่อนวันขอรับสิทธิบัตร
คำำว่ำ “มีหรือใช้แพร่หลำย “ หมำยควำมว่ำ สำธำรณชนสำมำรถที่จะใช้
ประโยชน์หรือเข้ำถึงได้ กำรใช้ส่วนตัว กำรใช้อย่ำงไม่เปิ ดเผยหรือกำรใช้
เพื่อทดลองใช้งำนในจำำนวนเพียงเล็กน้อย ไม่ถือว่ำเป็ นงำนที่ปรำกฏอย่้
แล้ว ฉะนั้ นหำกมีผ้คิดค้นยำรักษำโรค แล้วทดลองให้เพื่อน 2-3 คนใช้
ดังนี้ ยังไม่ถือว่ำแพร่หลำย กำรแพร่กลำยตำมอนุ น้ ี จำำกัดเฉพำะภำยในประ
ทศ
วรรค (2) กำรประดิษฐ์ท่ีได้มีกำรเปิ ดเผยสำระสำำคัญหรือ
รำยละเอียดในเอกสำรหรือสิง่ พิมพ์ที่ได้เป็ นแพร่อย่้แล้วไม่ว่ำในหรือนอก
รำชอำณำจักรก่อนวันขอรับสิทธิบัตร กำรเปิ ดเผยอำจจะกระทำำด้วยวิธีกำร
ใดๆ ทำำให้สำธำรณะชนได้รบ
ั ร้้ เช่น กำรเขียนบทควำม กำรอธิบำยในกำร
ประชุม สัมมนำ กฎหมำยไม่จำำกัดร้ปแบบของกำรเปิ ดเผย กำรนำำหนั งสือ
ที่อธิบำยรำยละเอียดกำรประดิษฐ์ไปไว้ในห้องสมุดเพียง 1 เล่ม ซึ่ง
ประชำชนสำมำรถเข้ำไปอ่ำนได้ ย่อมถือได้ว่ำมีกำรเปิ ดเผยต่อสำธำรณชน
แล้ว กำรเปิ ดเผยตำมอนุ 2 นี้ แตกต่ำงจำกอนุ1 คือ มิได้จำำกัดเฉพำะ
ภำยในประเทศ เช่นเดียวกับอนุ 1 แม้จะมีกำรเปิ ดเผยนอกประเทศ ก็
ถือว่ำทำำลำยควำมใหม่แล้ว ข้อยกเว้นเรื่อง กำรเปิ ดเผยต่อสำธำรณชน
ตำมอนุ 2 ซึ่งไม่ทำำลำยควำมใหม่ มีบัญญัติไว้ในมำตรำ 6 วรรคท้ำย คือ
ข้อยกเว้นที่ 1 เป็ นกำรเปิ ดเผยสำระสำำคัญหรือตำยละเอียดที่เกิดขึ้นหรือ
11
คุณสมบัติประโยชน์ใช้สอยและทำำให้เกิดผลทำำนองเดียวกับลักษณะของ
กำรประดิษฐ์ระบุไว้ในข้อถือสิทธิตำมควำมเห็นของบุคคลที่มีควำมชำำนำญ
ในระดับสำมัญในศิลปะหรือวิทยำกำรที่เกี่ยวข้องกับกำรประดิษฐ์น้ ั น”
ขูอยกเวูนการละเมิดสิทธิบัตร
ข้อยกเว้นกำรกระทำำที่ถือว่ำเป็ นกำรละเมิดสิทธิบัตรกำรประดิษฐ์
(มำตรำ 36 วรรคสอง)
(1) กำรกระทำำเพื่อประโยชน์ในกำรศึกษำ ค้นคว้ำทดลอง หรือ
วิจัย แต่ท้ ังนี้ ต้องไม่ขัดต่อกำรใช้ประโยชน์ตำมปกติของผ้้ทรงสิทธิบัตร
และไม่ทำำให้เสื่อมเสียต่อประโยชน์อันชอบธรรมของผ้้ทรงสิทธิบัตร เกิน
สมควร (เปรียบเทียบลิขสิทธิ์ มำตรำ 32 วรรคแรก)
(2) กำรกระทำำในลักษณะที่กระทำำโดยสุจริต เป็ นกรณี ท่ีมีกำร
ผลิตหรือกำรใช้กรรมวิธีตำม
สิทธิบัตรโดยผ้้กระทได้ประกอบกิจกำรหรือมีเครื่องมือใช้ประกอบกิจกำร
ดังกล่ำวโดยสุจริต ปริไม่ร้หรือไม่มีเหตุอันควรร้้ก่อนวันยื่นขรรับสิทธิบัตร
ในรำชอำณำจักร กรณี น้ ี เป็ นเรื่องบุคคลอื่นคิดค้นกำรประดิษฐ์ได้ก่อน แต่
ไม่ได้มำขอจดทะเบียนไว้
(3) เป็ นกำรเตรียมยำหรือปรุงยำตำมคำำสัง่ ของแพทย์ แต่ต้อง
เป็ นกำรเตรียมยำม เฉพำะรำย
(4) เป็ นกำรกระทำำเกี่ยวกับกำรขอขึ้นตำำรับยำโดยมีวัตถุประสงค์
จะผลิต จำำหน่ำย นำำเข้ำหลังจำก
สิทธิบัตรหมดอำยุ
(5) กำรใช้อุปกรณ์ท่ีได้รบ
ั สิทธิบัตรของเรือที่เข้ำมำในรำช
อำณำจักรชัว่ ครำวหรือโดยอุบัติเหตุและ
19
จำำเป็ นต้องใช้อุปกรณ์ดังกล่ำว
(6) กำรใช้อุปกรณ์ท่ีได้รบ
ั สิทธิบัตรของอำกำศยำนหรือยำน
พำหนะที่เข้ำมำในรำชอำณำจักรเป็ นกำรชัว่ ครำวหรือโดยอุบัติเหตุ
(7) กำรใช้ ขำย มีไว้เพื่อขำย เสนอขำย หรือนำำเข้ำในรำช
อำณำจักรซึ่งผลิตภัณฑ์ตำมสิทธิบัตร หำกผ้้ทรงสิทธิบัตรได้อนุ ญำตหรือ
ยินยอมให้ผลิตหรือขำยผลิตภัณฑ์ดังกล่ำวแล้ว ซึ่งเป็ นไปตำมหลัก
exhaustion ดังที่ได้กล่ำวมำแล้วข้ำงต้น
นอกจำกข้อยกเว้นตำม มำตรำ 36 วรรคสองแล้ว ยังมีมำตรำ 35
ทวิ ซึ่งน่ำจะกล่ำวถึงเนื่ องจำกเกี่ยวข้องกันตำมมำตรำ 35 ทวิ เป็ น
บทบัญญัติท่ีกล่ำวถึงกำรกระทำำใดๆตำม มำตรำ 36 นั บแต่วันขอรับสิทธิ
บัตรจนถึงก่อนวันออกสิทธิบัตร มิให้ถือว่ำเป็ นกำรละเมิดสิทธิของผ้้ทรง
สิทธิบัตร เว้นแต่มีกำรประกำศโฆษณำคำำขอตำม มำตรำ 28 แล้ว และผ้้
กระทำำร้้ว่ำมีกำรยื่นคำำขอรับสิทธิบัตรหรือได้รบ
ั คำำบอกกล่ำวเป็ นลำย
ลักษณ์อักษรว่ำ มีกำรยื่นขอรับสิทธิบัตรแล้ว ดังนี้ หำกภำยหลังจำกมีกำร
ออกสิทธิบัตรแล้ว ผ้ข
้ อรับสิทธิบัตรมีสิทธิฟ้องเรียกค่ำเสียหำยจำกผ้้ฝ่ำฝื น
ได้
การเพิกถอนสิทธิบัตร
มำตรำ 54 บัญญัติให้สิทธิบัตรที่ออกโดยไม่ชอบด้วย มำตรำ
5,9,10,11 หรือ มำตรำ 14 ให้ถือว่ำสิทธิบัตรไม่สมบ้รณ์
คำาขอรับสิทธิบัตร
มำตรำ 17 บัญญัติให้คำำขอรับสิทธิบัตรมีรำยกำรดังต่อไปนี้
1.ชื่อที่แสดงถึงกำรประดิษฐ์
20
2.ลักษณะและควำมมุ่งหมำยของกำรประดิษฐ์
3.รำยละเอียดกำรประดิษฐ์ท่ีมีข้อควำมสมบ้รณ์ รัดกุม และชัด
แจ้งอันจะทำำให้ผ้มีควำมชำำนำญ
ระดับสำมัญในศิลปะหรือวิทยำกำรที่เกี่ยวข้องสำมำรถทำำและปฏิบัติตำม
กำรประดิษฐ์น้ ั นได้ และต้องระบุวิธีกำรในกำรประดิษฐ์ท่ีดีท่ีสุดที่ผ้ประดิษฐ์
จะพึงทรำบได้
4.ข้อถือสิทธิโดยชัดแจ้งข้อถือสิทธิ ต้องระบุลักษณะของกำร
ประดิษฐ์ท่ีผ้ขอรับสิทธิบัตรประสงค์จะขอควำมคุ้มครองโดยสมบ้รณ์
รัดกุมและชัดแจ้ง ข้อควำมในข้อถือสิทธิจึงไม่ควรกว้ำงเกินไปหรือแคบ
เกินไปเพรำะหำกกว้ำงเกินไปคำำขอรับสิทธิบัตรอำจถ้กยกคำำขอ หำกแคบ
เกินไปก็จะทำำให้ผ้ท่ีกระทำำละเมิดที่ต่ำงกันเพียงเล็กจ้อยหลุดพ้นจำก
ควำมรับผิดได้ ข้อถือสิทธิเปรียบได้กับกำรกำำหนดของเขตอันเป็ นพื้ นทีท่ี
เป็ นสิทธิของเจ้ำของโฉนดที่ดิน ข้อถือสิทธิเป็ นตัวกำำหนดขอบเขตของ
สิทธิของผ้้ทรงสิทธิบัตรและให้บุคคลภำยนอกร้้ว่ำทำำได้เพียงใดจึงไม่
เป็ นกำรละเมิด และหำกมีกำรกล่ำวอ้ำงว่ำละเมิดขึ้น ศำลก็จะพิจำรณำจำก
ข้อถือสิทธิโดยเปรียบเทียบสิ่งที่ละเมิดว่ำเหมือนหรือต่ำงจำกลักษณะกำร
ประดิษฐ์ในข้อถือสิทธิเพียงใด
แต่กรณี
3. ข้อถือสิทธิ
4. ร้ปเขียน (กรณี ขอรับสิทธิบัตรกำรออกแบบผลิตภัณฑ์
สำมำรถใช้ภำพถ่ำยได้)
5. บทสรุปกำรประดิษฐ์ (เฉพำะกรณี ย่ ืนขอรับสิทธิบัตรกำร
ประดิษฐ์)
6. เอกสำรประกอบคำำขอ เช่น
6.1 เอกสำรหลักฐำนกำรแสดงสิทธิในกำรขอรับสิทธิบัตร
6.2 หนั งสือรับรองกำรแสดงกำรประดิษฐ์ หรือกำรออกแบบ
แล้วแต่กรณี
6.3 หนั งสือมอบอำำนำจ
6.4 เอกสำรรำยละเอียดเกี่ยวกับจุลชีพ
6.5 เอกสำรกำรขอนั บวันยื่นคำำขอในต่ำงประเทศเป็ นวันยื่น
คำำขอในประเทศไทย
6.6 ต้นฉบับหนั งสือรับรองนิ ติบุคคลที่นำยทะเบียนออกให้
ไม่เกิน 6 เดือน นั บจนถึงวันยื่น
อำยุสิทธิบัตร
- สิทธิบัตรกำรประดิษฐ์ มีอำยุ 20 ปี นั บแต่วันยื่นขอรับสิทธิ
บัตร
- สิทธิบัตรกำรออกแบบผลิตภัณฑ์ มีอำยุ 10 ปี นั บแต่วันยื่น
ขอรับสิทธิบัตร
ตัวอย่ำง สิทธิบัตร
22
อนุสิทธิบัตร
ความหมาย ของอนุ สิทธิบัตร คือ หนั งสือสำำคัญที่ออกให้เพื่อ
คุ้มครองกำรประดิษฐ์ มีลักษณะที่เป็ น
กำรคิดค้นหรือคิดทำำขึ้นเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ หรือกรรมวิธีใหม่ท่ีแตกต่ำง
ไปจำกเดิม เช่น กำรประดิษฐ์คิดค้น
เกี่ยวกับกลไกโครงสร้ำง หรือส่วนประกอบของอุปกรณ์ สิง่ ของ หรือ
เครื่องใช้ต่ำงๆ หรือเป็ นกำรประดิษฐ์
เกี่ยวกับกรรมวิธีกระบวนกำร หรือวิธีกำรใหม่ๆ ในกำรผลิตกำรเก็บรักษำ
ให้ผลิตภัณฑ์ท่ีมีคุณภำพที่ดีข้ ึน
อนุ สิ ท ธิ บั ต ร (Petty patent) เป็ นกำรให้ ค วำมคุ้ ม ครองสิ่ ง
ประดิ ษฐ์ คิ ดค้ น (สำำ นั กงำนทรัพ ย์สิ น ทำงปั ญญำ. ออน-ไลน์ . 2553) เช่ น
23
6. เอกสำรประกอบคำำขอ เช่น
6.1 เอกสำรหลักฐำนแสดงสิทธิในกำรขอรับอนุ สิทธิบัตร
6.2 หนั งสือมอบอำำนำจ (เฉพำะมอบอำำนำจให้ตัวแทน ที่ข้ ึน
ทะเบียนไว้กับกรมทรัพย์สินทำง
ปั ญญำเท่ำนั้ น)
6.3 หนั งสือสัญญำโอนสิทธิในกำรขอรับอนุ สิทธิบัตร
6.4 หนั งสือรับรองกำรแสดงกำรประดิษฐ์ท่ีหน่วย
งำนรำชกำรจัดขึ้น (กรณี ท่ีมีกำรนำำไปแสดง)
6.5 ต้นฉบับหนั งสือรับรองกำรจดทะเบียนนิ ติบุคคล
(กรณี ท่ีผ้เป็ นนิ ติบุคคล, ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน)
ตัวอยุางอนุสิทธิบัตร
25
ความแตกตุางระหวุางสิทธิบัตรการประดิษฐ์และอนุสิทธิบัตร
สิทธิบัตรและอนุ สิทธิบัตรมีควำมเหมือนและแตกต่ำงกันบำงประกำร
ควำมเหมือนคือเป็ นกำรคุ้มครอง “กำรประดิษฐ์” เหมือนกัน (“กำร
ประดิษฐ์” หมำยถึง “ผลิตภัณฑ์” และ/หรือ “กรรมวิธี” ) ส่วนควำมแตก
ต่ำงของ “สิทธิบัตร” และ “อนุ สิทธิบัตร” สิทธิบัตรและลิขสิทธิ์
มหำวิทยำลัยขอนแก่น. (ออน-ไลน์. 2553) มี 5 ประกำรดังนี้
1. “สิทธิบัตร” ให้ควำมคุ้มครองกว้ำงกว่ำ โดยคุ้มครองทั้งกำร
ประดิษฐ์ และกำรออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วย ส่วน “อนุ สท
ิ ธิบัตร” ให้ควำม
คุ้มครองเฉพำะกำรประดิษฐ์เพียงอย่ำงเดียว
2. ลักษณะกำรประดิษฐ์ท่ีจะขอรับ “สิทธิบัตร” จะต้องมีคุณสมบัติ
3 ประกำรรวมกัน คือ เป็ นกำรประดิษฐ์ใหม่ มีข้ ันกำรประดิษฐ์ท่ีส้งขึ้น
และสำมำรถประยุกต์ใช้ได้ในทำงอุตสำหกรรม ในขณะที่ลักษณะกำร
ประดิษฐ์ท่ีจะขอรับ “อนุ สิทธิบัตร” จะต้องเป็ นกำรประดิษฐ์ใหม่และ
สำมำรถประยุกต์ใช้ได้ในทำงอุตสำหกรรม โดยไม่ต้องมีข้ ันกำรประดิษฐ์ท่ี
ส้งขึ้น
3. ขั้นตอนกำรตรวจสอบคำำขอและกำรจดทะเบียน “สิทธิบัตร” จะ
นำนกว่ำ เพรำะสิทธิบัตรเป็ นระบบตรวจสอบที่ต้องมีกำรตรวจสอบคำำขอ
เบื้ องต้น ประกำศโฆษณำคำำขอรับสิทธิบัตรและตรวจสอบรำยละเอียดกำร
ประดิษฐ์ให้ครบตำมคุณสมบัติ 3 ประกำร (ด้ข้อ 2) ก่อนกำรจดทะเบียน
26
ส่วน “อนุ สท
ิ ธิบัตร” เป็ นระบบจดทะเบียนที่มีเพียงขั้นตอนกำรตรวจ
สอบคำำขอเบื้ องต้นและประกำศโฆษณำพร้อมกับกำรรับจดทะเบียนเลย
โดยไม่ต้องมีกำรตรวจสอบรำยละเอียดกำรประดิษฐ์ ทำำให้กำรจดทะเบียน
อนุ สิทธิบัตรเร็วกว่ำสิทธิบัตร แต่ควำมเสี่ยงในเรื่องของกำรละเมิดควำม
เป็ นเจ้ำของของอนุ สิทธิบัตรจะส้งกว่ำเพรำะกรมทรัพย์สินทำงปั ญญำไม่
ได้ตรวจสอบรำยละเอียดกำรประดิษฐ์ให้ เป็ นภำระของผ้้ย่ ืนคำำขอที่จะต้อง
สืบค้นข้อม้ลกำรประดิษฐ์ในระบบฐำนข้อม้ลสิทธิบัตรเอง ต้องพิส้จน์หำ
หลักฐำนเมื่อเกิดกำรละเมิดหรือมีข้อโต้แย้งคัดค้ำนเอง ซึง่ เสีย
่ งต่อกำรที่
จะถ้กเพิกถอนอนุ สิทธิบัตรได้ง่ำย
4. “สิทธิบัตร” ให้ควำมคุ้มครองกำรประดิษฐ์นำนกว่ำ มีอำยุ 20 ปี
นั บ (ย้อนหลังไป) ตั้งแต่วันยื่นคำำขอจดสิทธิบัตร ไม่มีกำรต่ออำยุ ส่วน
“อนุ สท
ิ ธิบัตร” ให้ควำมคุ้มครองกำรประดิษฐ์ 6 ปี และขอต่อระยะเวลำ
คุ้มครองได้อีก 2 ครั้งๆ ละ 2 ปี หำกต่ออำยุจนครบ 2 ครั้ง อนุ สิทธิบัตร
จะมีอำยุกำรคุ้มครองรวมทั้งสิ้น 10 ปี และต่ออำยุไม่ได้อีกต่อไป เมื่อ
ระยะเวลำกำรคุ้มครองสิทธิบัตรและอนุ สิทธิบัตรสิ้นสุดลงก็จะตกเป็ นของ
สำธำรณะ ทุกคนสำมำรถนำำไปใช้ได้โดยไม่ต้องขออนุ ญำตและไม่ต้องเสีย
ค่ำใช้จ่ำยชำำระค่ำใช้สิทธิใดๆ
5. อัตรำค่ำธรรมเนี ยมรำยปี ของ “สิทธิบัตร” จะส้งกว่ำ “อนุ สิทธิ
บัตร” เพรำะมีระยะเวลำคุ้มครองที่นำนกว่ำ ในสิ่งประดิษฐ์อย่ำงเดียวกัน
ผ้้ย่ ืนคำำขอจะต้องเลือกยื่นคำำขอรับจดทะเบียน “สิทธิบัตร” หรือ “อนุ สิทธิ
บัตร” อย่ำงใดอย่ำงหนึ่ งเท่ำนั้ น เพื่อไม่ให้เกิดกำรคุ้มครองซำ้ำซ้อนกัน แต่
มีสิทธิท่ีจะขอเปลี่ยนแปลงกำรขอรับควำมคุ้มครองสลับกันเป็ นสิทธิบัตร
หรืออนุ สิทธิบัตรในขั้นตอนก่อนกำรรับจดทะเบียน
27
จำกควำมหมำยดังกล่ำวข้ำงต้น อนุ สท
ิ ธิบัตรและสิทธิบัตรกำร
ประดิษฐ์ต่ำงก็มีขอบเขตให้ควำม
คุ้มครองกำรประดิษฐ์เช่นเดียวกัน แต่อนุ สิทธิบัตรเป็ นกำรประดิษฐ์ท่ี มี
เทคนิ คที่ไม่ส้งมำกนั ก อำจจะเป็ นกำรปรับปรุงเพียงเล็กน้อย ส่วนสิทธิ
บัตร กำรประดิษฐ์จะต้องมีกำรแก้ไขปั ญหำทำงเทคนิ คของสิ่งที่มีมำ
ก่อน หรือที่เรียกว่ำมีข้ ันกำรประดิษฐ์ท่ีส้งขึ้นขั้นตอนกำรขอรับอนุ สิทธิ
บัตรจะใช้ระยะเวลำสั้นกว่ำสิทธิบัตรกำรประดิษฐ์มำก เนื่ องจำกใช้ระบบจด
ทะเบียน แทนกำรใช้ระบบที่ต้องมีกำรตรวจสอบก่อนกำรรับจดทะเบียน
ผ้้ประดิษฐ์คิดค้นสำมำรถที่จะเลือกว่ำ จะยื่นขอควำมคุ้มครองสิทธิบัตร
หรืออนุ สิทธิบัตรอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ งแต่จะขอควำมคุ้มครองทั้งสองอย่ำง
พร้อมกันไม่ได้