Professional Documents
Culture Documents
7 บทที่ 3 +
7 บทที่ 3 +
กฎหมายเกีย่ วกับการประกอบธุรกิจโรงแรม
3.1 กฎหมายเกีย่ วกับการ ประกอบธุรกิจโรงแรม
ปั จจุบนั มีการประกอบธุ รกิ จการให้บริ การที่พกั ในรู ปแบบและลักษณะต่าง ๆ มากมาย
และมีแนวโน้มที่จะมีการขยายตัวมากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับการเจริ ญเติบโตทางภาคธุ รกิจการท่องเที่ยว
ซึ่ งรู ปแบบการให้บริ การด้านที่พกั แรมในปั จจุบนั มีชื่อเรี ยกที่หลากหลายและรู ปแบบที่พกั ที่แตกต่างกัน
เช่ น รี ส อร์ ท (Resort) เซอร์ วิส อพาร์ ท เมนท์ (Service Apartment) อิ น ท์ (Inn) เกสต์เ ฮาส์
(Guesthouse) โฮมสเตย์ (Homestay) โมเต็ล (Motel) ที่พกั บนเรื อแบบบ้านหรื อเรื อนแพ (Houseboat) เรื อ
สาราญ (Yacht) กระโจมหรื อเต็นท์ (Tent) และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะอย่า งยิ่ง สถานที่ พ กั
ของทางราชการที่มีการให้ประชาชนทัว่ ไปเช่ าพักได้เช่ นที่พกั ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทาให้เกิ ด
ความสับสนว่ากิ จการที่ พกั แรมประเภทใดบ้างที่ เป็ นโรงแรมหรื อไม่เป็ นโรงแรมตามกฎหมาย1
หากเป็ นการประกอบการที่เข้าลักษณะเป็ นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมแล้ว ผูป้ ระกอบธุ รกิจ
โรงแรมยังมีหน้าที่ตอ้ งปฏิบตั ิตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ อาทิเช่น กฎหมายว่าด้วยโรงแรม
ซึ่ งเป็ นกฎหมายหลักที่ควบคุ มและส่ งเสริ มการประกอบธุ รกิจโรงแรมซึ่ งกาหนดให้การประกอบธุ รกิ จ
โรงแรมต้องได้รับ ใบอนุ ญาตและปฏิ บตั ิ ใ ห้เป็ นไปตามกฎหมายว่า ด้วยโรงแรม ส าหรั บ อาคาร
โรงแรมถื อว่าเป็ นอาคารประเภทควบคุมการใช้ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุ มอาคาร การก่อสร้ าง
ดัดแปลงอาคารเพื ่อ เป็ นโรงแรมจึ ง มี ค วามมัน่ คงแข็ง แรง มี ร ะบบความปลอดภัย ส าหรั บ
ผูใ้ ช้อ าคาร ต้อ งปฏิ บ ตั ิ ให้เป็ นไปตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุ มอาคาร หากโรงแรมนั้นมี จานวน
ห้องพักตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไปหรื อมีพ้ืนที่ใช้สอยตั้งแต่ 4,000 ตารางเมตรขึ้นไป จะมีกฎหมายควบคุม
มาตรฐานเพิ่ มขึ้ นอี กหนึ่ ง ฉบับ คื อ กฎหมายว่า ด้วยการส่ ง เสริ ม และรั ก ษาคุ ณ ภาพสิ่ ง แวดล้อ ม
แห่ ง ชาติ ซ่ ึ งก าหนดให้ ต้อ งจัด ท ารายงานการวิ เ คราะห์ ผ ลกระทบสิ่ ง แวดล้ อ ม นอกจากนี้
ยัง ต้อ งตรวจสอบพื้ น ที่ ที่ ต้ ัง ของโรงแรมว่ า ที่ ต้ ัง ของโรงแรมอยู่ ใ นเขตการบังคับ ใช้ ก ฎหมาย
ว่าด้วยการผังเมืองหรื อไม่ หากอยู่ในเขตการบังคับใช้ก ฎหมายว่า ด้วยการผัง เมือ ง ต้อ งพิจ ารณา
ต่อ ไปว่า โรงแรมตั้ง อยู่ใ นเขตผัง เมือ งรวมประเภทใด เป็ นประเภทที่ส ามารถประกอบธุ รกิจ
1
สานักการสอบสวนและนิ ติการกรมการปกครอง. (มปป.) กฎหมายโรงแรม. กรุ งเทพฯ: อาสารักษาดินแดน
กรมการปกครอง. หน้า 1.
21
โรงแรมได้ห รื อ ไม่ หากที ่ดิน ประเภทดัง กล่า วถูก ก าหนดห้า มมิ ใ ห้ ป ระกอบธุ ร กิ จ โรงแรม
ผูป้ ระกอบธุ รกิจโรงแรมย่อมไม่สามารถประกอบธุ รกิจโรงแรมในพื้นที่ดงั กล่าวได้ เนื่ องจากขัดต่อ
กฎหมายว่า ด้ว ยการผัง เมื อง และในกรณี ที่ โ รงแรมมี ห้อ งครั ว ห้อ งอาหาร การจัด เก็ บ วัตถุ ดิ บ
ในการท าอาหาร การจัด เก็ บ ขยะมู ล ฝอย สระว่า ยน้ า ฯลฯ ต้อ งอยู่ภ ายใต้บ งั คับ ของกฎหมาย
ว่า ด้วยการสาธารณสุ ข รวมถึง หากโรงแรมจะขายเครื่ องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ตอ้ งปฏิ บตั ิให้เป็ นไป
ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิตและกฎหมายว่าด้วยการควบคุมเครื่ องดื่มแอลกอฮอล์ เป็ นต้น
จะเห็นได้วา่ การประกอบธุ รกิจโรงแรมนั้นมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับที่ผปู้ ระกอบ
ธุ รกิจโรงแรมจะต้องดาเนินการให้เป็ นไปตามกฎหมายทุกฉบับที่กล่าวมา การศึกษาเกี่ยวกับปั ญหา
และอุ ปสรรคทางกฎหมายในการขอรั บใบอนุ ญาตประกอบธุ รกิ จโรงแรมในบทนี้ ผูเ้ ขียนจึงได้
ศึ ก ษาเพี ย งเฉพาะบทบัญ ญัติ แ ห่ ง กฎหมายที่ เ กี่ ย วข้อ งหลัก ๆ และเห็ น ว่ า ยัง เป็ นอุ ป สรรค
ต่อการยืน่ ขอใบอนุญาตประกอบธุ รกิจโรงแรมในปัจจุบนั
2
ยกเลิกพระราชบัญญัติโรงแรม พุทธศักราช 2478 , พระราชบัญญัติโรงแรม (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2484 ,
พระราชบัญญัติโรงแรม (ฉบับที่3) พุทธศักราช2495 , พระราชบัญญัติโรงแรม (ฉบับที่4) พุทธศักราช 2503.
3
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547. มีผลบังคับใช้ต้ งั แต่วนั ที่ 12 พฤษภาคม 2547 เป็ นต้นไป. (2547, 12 พฤศจิกายน).
ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 121 (ตอนที่ 70 ก), หน้า 12.
22
4
หมายเหตุทา้ ยพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547.
23
3) สถานที่พกั อื่นใดตามที่กาหนดไว้ในกฎกระทรวง
ทั้งนี้ เมื่ อพิจารณากฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุ รกิ จ
โรงแรม พ.ศ. 2551 ซึ่ งออกโดยอานาจของรั ฐมนตรี ว่า การกระทรวงมหาดไทยโดยค าแนะน า
ของคณะกรรมการส่ งเสริ มและกากับธุ รกิจโรงแรมได้กาหนดหลักเกณฑ์ไว้วา่ สถานที่พกั ที่มีจานวน
ห้องพักในอาคารเดียวกันหรื อหลายอาคารรวมกันไม่เกิน 4 ห้องและมีจานวนผูพ้ กั รวมกันทั้งหมด
ไม่ เ กิ น ยี่สิ บ คน ซึ่ งจัด ตั้ง ขึ้ น เพื่ อ ให้ บ ริ ก ารที่ พ กั ชั่ว คราวส าหรั บ คนเดิ น ทางหรื อ บุ ค คลอื่ น ใด
โดยมีค่าตอบแทนอันมีลกั ษณะเป็ นการประกอบกิจการเพื่อหารายได้เสริ มและได้แจ้งให้นายทะเบียน
ทราบตามแบบที่ รัฐมนตรี ก าหนดไม่ เป็ นโรงแรมตามมาตรา 4 (3) ของพระราชบัญญัติโรงแรม
พ.ศ. 25475
สถานที่ พ ัก แรมใดที่ มี ล ัก ษณะเข้า องค์ ป ระกอบตามค านิ ย ามของค าว่ า “โรงแรม”
จะต้องอยู่ภายใต้การกากับดู แลตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 25476 โดยผูย้ ื่นขอรับใบอนุ ญาต
จะต้อ งเป็ นผู ้มี คุ ณ สมบัติ ต ามที่ ก ฎหมายก าหนด 7เมื่ อได้รั บ ค าขออนุ ญ าตแล้ว ให้ น ายทะเบี ย น
เป็ นผูต้ รวจสอบพิจารณาว่าเป็ นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกาหนดหรื อไม่8
เมื่อเป็ นไปตามที่กฎหมายกาหนดให้ออกใบอนุ ญาตหรื อกรณี ไม่สามารถออกใบอนุญาตได้
เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกาหนดต้องแจ้งเหตุผลแก่ผยู ้ ื่นคาขอด้วย9 กรณี ได้รับอนุญาตแล้ว
ใบอนุ ญาตให้ใช้ได้กบั โรงแรมที่ ระบุชื่อไว้เท่านั้นและให้มีอายุ 5 ปี นับแต่วนั ที่ ออกใบอนุ ญาต10
ใบอนุ ญาตประกอบธุ รกิจโรงแรมนี้ หากหมดอายุตอ้ งสามารถต่ออายุใบอนุ ญาตได้11 และการโอน
ใบอนุ ญาตสามารถกระทาได้โดยต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผูข้ ออนุญาต
เป็ นการเฉพาะซึ่งต้องเป็ นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกาหนด12
5
ข้อ 1 แห่งกฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551. (2551, 23 พฤษภาคม).
ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 125 (ตอนที่ 70 ก), หน้า 7.
6
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547. มาตรา 15.
7
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547. มาตรา 16.
8
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547. มาตรา 17.
9
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547. มาตรา 18.
10
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547. มาตรา 19.
11
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547. มาตรา 21.
12
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547. มาตรา 24.
24
ผูป้ ระกอบธุ ร กิ จโรงแรมต้อ งแต่ง ตั้ง ผูจ้ ดั การคนหนึ่ ง เป็ นผูม้ ีห น้า ที่จดั การโรงแรม13
โดยจะเป็ นคนเดียวกันกับผูป้ ระกอบธุรกิจโรงแรมก็ได้
ทั้งนี้ มีขอ้ สังเกตมาตรา 654 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิ ชย์ใช้ถอ้ ยคาว่า “เจ้าสานัก
โรงแรม” หมายถึง บรรดาผูค้ วบคุ มและจัดการสถานที่ทุกชนิ ดที่จดั ตั้งขึ้ นเพื่อรับสิ นจ้างสาหรับ
คนเดินทางหรื อบุคคลที่หาที่อยูท่ ี่พกั ชัว่ คราว14 ไม่วา่ จะมีชื่อเรี ยกว่า โรงแรม โฮเต็ล โมเต็ล รี สอร์ ท
บังกะโลก็ตาม โดยได้รับค่าตอบแทน15 ซึ่ งย่อมครอบคลุ มทั้งผูป้ ระกอบธุ รกิจโรงแรมหรื อเจ้าของ
โรงแรมและผูจ้ ดั การโรงแรมด้วย 16 โดยผูจ้ ดั การโรงแรมต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกาหนด17
ผูป้ ระกอบธุ รกิจโรงแรมและผูจ้ ดั การโรงแรมต้องมีหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ 18 ต้องจัดทาบันทึก
รายการต่ า ง ๆ เกี่ ย วกับ ผูพ้ กั และจ านวนผูพ้ กั 19 พระราชบัญ ญัติโ รงแรม พ.ศ. 2547 ได้ก าหนด
หลักเกณฑ์สาหรับการกากับการประกอบธุ รกิจโรงแรมโดยให้อานาจนายทะเบียนโรงแรมมีอานาจ
ออกค าสั่ ง ระงับ การกระท าใด ๆ สั่ ง ให้ แก้ไ ขหรื อมี ค าสั่ ง เพิ ก ถอนใบอนุ ญาต หากมี ก ารฝ่ าฝื น
ไม่ปฏิ บตั ิตามกฎหมาย ซึ่ งผูท้ ี่ได้รับผลกระทบจากการออกคาสั่งใด ๆ ของนายทะเบียนโรงแรม
มีสิทธิ ที่จะยื่น อุ ท ธรณ์ คาสั่ง ของนายทะเบี ย นโรงแรม โดยคณะกรรมการส่ ง เสริ ม และกากับ
ธุ ร กิ จ โรงแรมมีอานาจพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ และแจ้งคาวินิจฉัยพร้อมด้วยเหตุผลเป็ นหนังสื อ
ไปยังนายทะเบียนและผูอ้ ุทธรณ์ทราบ สาหรั บการฝ่ าฝื นหรื อไม่ปฏิ บตั ิตามพระราชบัญญัติโรงแรม
พ.ศ. 2547 ได้ก าหนดบทลงโทษไว้ 2 ประเภท คื อ บทก าหนดโทษทางปกครองและบทก าหนด
โทษทางอาญา
การขออนุ ญาตประกอบธุ รกิ จโรงแรมหากประกอบธุ รกิ จให้บริ การที่พกั หากมีลกั ษณะ
เข้าข่ายตามบทนิ ยามของคาว่า โรงแรม” ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 แล้ว ผูป้ ระกอบธุ รกิ จ
โรงแรมต้อ งปฏิ บ ัติ ต ามเงื่ อ นไขและมาตรการต่ า งๆ ตามพระราชบัญ ญัติ โ รงแรม พ.ศ. 2547
จะต้อ งยื่ น ขออนุ ญ าตและต้อ งได้ รั บ อนุ ญ าตจากนายทะเบี ย นโรงแรมก่ อ นจึ ง จะสามารถ
13
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547. มาตรา 30.
14
พลประสิ ทธิ์ ฤทธิ์รักษา. (2535). สรุปวิชากฎหมายยืมฝากทรัพย์ เก็บของในคลังสินค้ าประนีประนอมยอมความการพนัน
ขันต่ อ. กรุ งเทพฯ: วิญญูชน. หน้า 95.
15
ไผทชิต เอกจริ ยกร. (2559). คาอธิบายยืมฝากทรัพย์ (พิมพ์ครั้งที่ 15). กรุ งเทพฯ: วิญญูชน. หน้า 259.
16
นนทวัชร์ นวตระกูลพิสุทธิ์. (2558). หลักกฎหมายเอกเทศสัญญาลักษณะยืม-ฝากทรั พย์ . กรุ งเทพฯ: วิญญูชน.
หน้า 272.
17
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547. มาตรา 33.
18
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547. มาตรา 34.
19
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547. มาตรา 35.
25
4) การประกอบกิจการต้องเป็ นการประกอบกิจการที่ไม่ใช่อาชีพหลัก
5) ต้องแจ้งให้นายทะเบี ยนทราบตามแบบหนังสื อแจ้งสถานที่ พกั ที่ ไม่เป็ นโรงแรม
ตามกฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุ รกิจโรงแรม พ.ศ. 2551
กล่าวโดยสรุ ป สถานที่พกั ซึ่ งมีวตั ถุประสงค์ในทางธุ รกิจเพื่อให้บริ การสาหรับคนเดินทาง
หรื อบุ คคลอื่ นใดที่ เรี ย กเก็ บค่ าที่ พ กั ต่ ากว่า เดื อนลงไปและไม่ เข้าข้อยกเว้นดังที่ กล่ า วมาข้างต้น
ถือเป็ น “โรงแรม” ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 ทั้งสิ้ นไม่วา่ จะมีชื่อเรี ยกว่าอย่างไรก็ตาม
กฎหมายก าหนดให้ ส ถานที่ ดั ง กล่ า วข้ า งต้ น ต้ อ งแจ้ ง ต่ อ นายทะเบี ย นโรงแรม
โดยหลักเกณฑ์ในการแจ้งและรับแจ้งตามแบบที่รัฐมนตรี กาหนดนั้นประกอบไปด้วย28
1) ชื่อ สกุล อายุ อาชีพ เลขประจาตัวประชาชน และภูมิลาเนา
2) แจ้งชื่ อสถานที่พกั ที่ไม่เป็ นโรงแรมและประสงค์จะตั้งเป็ นที่ให้พกั แรม โดยอาจ
ตั้งอยูใ่ นภูมิลาเนาของผูแ้ จ้งหรื อสถานที่อื่นก็ได้
3) แจ้งราคาห้องพัก
4) ระบุลกั ษณะที่พกั
5) ระบุสิทธิ ในที่ดินอันเป็ นที่ต้ งั ของที่พกั ว่า มีเอกสารสิ ทธิ์ หรื อไม่มีเอกสารสิ ทธิ์
6) แนบหลักฐานสาเนาทะเบียนบ้าน สาเนาบัตรประชาชน แผนที่ต้ งั ของสถานที่พกั
7) สถานที่ ยื่น แบบหนังสื อแจ้ง ในกรุ งเทพมหานคร ยื่น ณ ศูนย์บริ ก ารประชาชน
กรมการปกครอง ถนนนครสวรรค์ เขตดุ สิ ต ในจัง หวัด อื ่น ยื ่น ณ ที ่ ว ่า การอ าเภอท้อ งที่
ที่ ต้ งั สถานที่ พกั ที่ไม่เป็ นโรงแรม
เมื่อได้แจ้งการประกอบกิจการสถานที่พกั ที่ไม่เป็ นโรงแรมแล้วจะได้รับหนังสื อรับแจ้ง
สถานที่พกั ที่ไม่เป็ นโรงแรมตามกฎกระทรวงนี้ โดยแสดงว่า บุคคลตามชื่ อและสกุลที่ได้ยื่น แบบ
หนัง สื อ แจ้ง เป็ นผูไ้ ด้รั บ การยกเว้น ให้ ป ระกอบธุ ร กิ จ สถานที่ พ กั ที่ ไ ม่ เ ป็ นโรงแรม ตามข้อ 1
แห่ ง กฎกระทรวงก าหนดประเภทและหลั ก เกณฑ์ ก ารประกอบธุ ร กิ จ โรงแรม พ.ศ. 2551
ทั้ง นี้ กฎกระทรวงมิ ได้กาหนดหลักเกณฑ์หรื อมาตรฐานในการพิ จารณาประกอบหนังสื อรั บแจ้ง
แต่อย่างใดและขาดหลักเกณฑ์ทางกฎหมายเพื่อกาหนดมาตรการในการส่ ง เสริ มและกากับดู แล
เพื่ อ ประโยชน์ แ ก่ ผูใ้ ช้บ ริ ก ารต่ า งไปจากการประกอบธุ ร กิ จ โรงแรมซึ่ งถู ก ก าหนดหลัก เกณฑ์
และมาตรฐานในการกาหนดควบคุมและส่ งเสริ มการประกอบธุ รกิจไว้อย่างชัดเจน
28
แบบหนังสื อแจ้งสถานที่พกั ไม่เป็ นโรงแรมตามกฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจ
โรงแรม พ.ศ. 2551.
28
31
กฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551. ข้อ 4.
32
กฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551. ข้อ 5.
33
กฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551. ข้อ 6.
34
กฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551. ข้อ 7.
35
กฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551. ข้อ 8.
36
กฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551. ข้อ 9.
30
37
กฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551. ข้อ 10.
38
กฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551. ข้อ 18.
39
กฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551. ข้อ 19.
40
กฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551. ข้อ 20.
41
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่ อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการพิจารณาการขอใบอนุ ญาตและการออก
ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรม. (2552, 11 พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 126 (ตอนพิเศษ 164 ง),
หน้า 47.
31
หรื อ สถานที่ ประกอบธุ รกิ จโรงแรม (6) หนังสื อรั บรองการจัดท ารายงานการวิเคราะห์ ผลกระทบ
สิ่ งแวดล้อม (กรณี ตอ้ งจัดทารายงานฯ ตามกฎหมายว่าด้วยการส่ งเสริ มและรักษาคุณภาพสิ่ งแวดล้อม
แห่งชาติ) เป็ นต้น42
เมื่ อ นายทะเบี ย นได้รั บ ค าขอรั บ ใบอนุ ญ าตตามวรรคหนึ่ งแล้ว ให้ น ายทะเบี ย น
ตรวจสอบความถู ก ต้อง ครบถ้ว นของคาขอ หากปรากฏไม่ ถู ก ต้อ ง ครบถ้ว น ให้น ายทะเบี ย น
แจ้ง ผลการตรวจสอบให้ผขู ้ อรับใบอนุญาตทราบ แก้ไขภายในกาหนดระยะเวลา หากพ้นกาหนด
ผูข้ อฯ ไม่สามารถดาเนินการแก้ไขให้ถูกต้องให้นายทะเบียนคืนคาขอ แก่ผขู ้ อรับใบอนุญาต
กรณี ผขู้ อรับใบอนุญาตยืนยันความถูกต้องครบถ้วนของเอกสารแล้ว ให้นายทะเบียน
ดาเนินการต่อไป ซึ่งการยืน่ เอกสารตาม (4) และ (6) นั้น ผูข้ ออนุ ญาตประกอบธุ รกิจโรงแรมอาจยื่น
คาขอ ตามแบบที่ก ฎหมายว่า ด้ว ยการนั้น ก าหนดต่อ นายทะเบีย นพร้ อ มกับ การยื่น คาขอก็ไ ด้
กรณี เช่นนี้ให้นายทะเบียนส่ งแบบคาขอดังกล่าวพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องไปให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ
พิจารณาดาเนินการ และให้นายทะเบียนรอการพิจารณาออกใบอนุ ญาตประกอบธุ รกิจโรงแรมไว้ก่อน
จนกว่า จะได้รั บ ผลการพิ จ ารณาจากหน่ ว ยงานที่ รั บ ผิด ชอบและให้ ถื อว่า ค าขอรั บ ใบอนุ ญ าต
ตามกฎหมายอื ่ น ที ่ เ กี ่ ย วข้อ งกับ การประกอบธุ ร กิ จ โรงแรม เป็ นค าขอรั บ ใบอนุ ญ าต
ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
2) เมื่อนายทะเบียนได้รับเรื่ องการขออนุ ญาตฯ นายทะเบียนอาจแจ้งคณะกรรมการ
พิ จารณากลั่นกรองการดาเนิ นการตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 ไปดาเนิ นการตรวจ
โรงแรมตามหลัก เกณฑ์ที ่ก าหนดตามกฎหมายว่า ด้ว ยโรงแรม ให้เ สร็ จ สิ ้ น ภายในยี ่สิ บ วัน
นับ แต่วนั ได้รับคาขอ และให้รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องพร้อมเสนอความเห็นต่อนายทะเบีย น
โรงแรมเพื่อพิจารณาดาเนินการต่อไป43
3) ในกรณี ดงั ต่อไปนี้ให้นายทะเบียนพิจารณาไม่อนุญาตให้ประกอบธุ รกิจโรงแรม44
(1) กรณี ผูข้ อรั บใบอนุ ญาตประกอบธุ รกิ จโรงแรมขาดคุ ณสมบัติ หรื อมี ล ักษณะ
ต้องห้ามตามมาตรา 16
42
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่ อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการพิจารณาการขอใบอนุ ญาตและการออก
ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรม ข้อ 1.
43
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่ อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการพิจารณาการขอใบอนุ ญาตและการออก
ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรม ข้อ 3.
44
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่ อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการพิจารณาการขอใบอนุ ญาตและการออก
ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรม ข้อ 4.
32
45
พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522. (2560, 11 กุมภาพันธ์). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 134 ม 126 (ตอนที่ 18 ก),
หน้า 1.
33
46
สิ นิทธ์ บุญสิ ทธิ์. (2550). กฎหมายควบคุมอาคาร. นนทบุรี: สถาบันพระปกเกล้า. หน้า 27.
35
ให้ มี ที่ จอดรถไม่ น้ อยกว่ า 1 คัน และพื้ น ที่ ที่ ใ ช้ เ พื่ อ การพาณิ ช ยกรรม 40 ตารางเมตร ต้อ งมี ที่
จอดรถยนต์ไม่นอ้ ยกว่า 1 คัน
นอกจากนี้ กฎกระทรวงกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุ รกิ จโรงแรม
พ.ศ. 2551 ได้กาหนดไว้วา่ ข้อ 8 สถานที่จอดรถของโรงแรมที่อยูต่ ิดห้องพักต้องมีลกั ษณะมิดชิ ด
และต้องสามารถมองเห็นรถที่จอดอยูไ่ ด้ตลอดเวลา
จากบทบัญ ญัต ิข า้ งต้น พอสรุ ป ได้ว า่ มาตรการทางกฎหมายที ่ก าหนดให้ผู ้
ประกอบธุ รกิจที่พกั แรมจัดแบ่งพื้นที่ไว้สาหรับให้ผเู ้ ข้าพักใช้จอดรถนั้น เป็ นประโยชน์ต่อการรักษา
ความปลอดภัยในทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว เพราะจะทาให้นกั ท่องเที่ยวไม่ตอ้ งนารถไปจอดไกล ๆ
ตามริ มถนนหรื อที่ เปลี่ ยวอื่น ๆ ซึ่ งอาจเป็ นมูลเหตุจูงใจให้คนร้ายโจรกรรมรถยนต์ได้สาเร็ จและ
สะดวกมากขึ้น ซึ่ ง เมื่ อ พิจ ารณาถึ ง ขอบเขตการบัง คับ ใช้จ ะเห็ น ได้ว่า พระราชบัญ ญัติค วบคุ ม
อาคาร พ.ศ. 2522 ใช้บงั คับกับธุ รกิจที่พกั แรมทุกประเภท ส่ วนกฎกระทรวงกาหนดประเภทของ
อาคารที่ตอ้ งมีที่จอดรถและจานวนที่ จอดรถยนต์น้ นั เป็ นกฎเกณฑ์กาหนดรายละเอี ยดที่ ออกตาม
พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แต่ใช้คาว่า “โรงแรม” โดยไม่มีบทนิ ยามขอบเขตที่
ชัดเจนว่า ใช้บงั คับกับธุ รกิจที่ พกั แรมประเภทโรงแรมเท่า นั้นหรื อไม่ ส่ วนกฎกระทรวงกาหนด
ประเภทและหลักเกณฑ์ การประกอบธุ รกิจโรงแรม พ.ศ. 2551 ไม่ใช้บงั คับกับธุ รกิจที่พกั แรมอย่าง
อื่นที่ไม่ได้อยูใ่ นความหมายของโรงแรมตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547
3.1.5 กฎกระทรวงฉบับ ที่ 7 (พ.ศ. 2517) ออกตามความในพระราชบัญ ญัติค วบคุ ม
การก่อสร้ างอาคาร พ.ศ. 247947
โดยเหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ เกิดขึ้นเนื่ องจากพระราชบัญญัติควบคุม
การก่อสร้ างอาคาร พุทธศักราช 2479 ซึ่ งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิ วตั ิ ฉบับที่ 192
ลงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 กาหนดให้ เจ้าของอาคารบางประเภทที่ใช้ในบริ การสาธารณะ
เพื่อหาประโยชน์ ต้องจัดให้มีที่จอดรถยนต์สาหรับผูท้ ี่ใช้ประโยชน์จากอาคารนั้น และการกาหนด
ประเภทของอาคาร การก าหนดจ านวนพื้ น ที่ ที่ ต้อ งมี แ ละใช้เ ป็ นที่ จ อดรถยนต์ ที่ ก ลับ รถยนต์
และทางเข้าออกของรถยนต์ ให้กระทาโดยกฎกระทรวง48
ตามกฎกระทรวงฉบับ ที่ 7 พ.ศ. 2517) ออกตามความในพระราชบัญ ญัติ ค วบคุ ม
การก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2479 ซึ่งสรุ ปสาระสาคัญในส่ วนที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมได้ดงั นี้
47
กฎกระทรวงฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2517) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการก่ อสร้างอาคาร พ.ศ. 2479.
(2517, พฤษภาคม 21). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 91 (ตอนที่ 86), หน้า. 220.
48
หมายเหตุทา้ ยกฎกระทรวงฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2517) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร
พ.ศ. 2479
37
ข้อ 1 ในกฎกระทรวงนี้
(7) “โรงแรม” หมายความว่า อาคารหรื อส่ วนหนึ่ งส่ วนใดของอาคารที่ ใช้เป็ น
โรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
ข้อ 2 ให้ ก าหนดประเภทของอาคารซึ่ งต้อ งมี ที่ จ อดรถยนต์ ที่ ก ลับ รถยนต์แ ละ
ทางเข้าออกรถยนต์ ไว้ดงั ต่อไปนี้
(2) โรงแรมที่มีหอ้ งพักตั้งแต่ 30 ห้องขึ้นไป
(4) ภัตตาคารที่มีพ้นื ที่สาหรับตั้งโต๊ะอาคารตั้งแต่ 150 ตารางเมตรขึ้นไป
(6) สานักงานที่มีพ้นื ที่ต้ งั แต่ 300 ตารางเมตรขึ้นไป
(7) อาคารขนาดใหญ่
(8) ห้องโถงของโรงแรมตาม (2) ภัตตาคารตาม (4) หรื ออาคารขนาดใหญ่ตาม (7)
ข้อ 3 จานวนที่จอดรถยนต์ ต้องจัดให้มีตามกาหนดดังต่อไปนี้
(1) ในเขตกรุ ง เทพมหานคร เฉพาะในเขตเทศบาลนครหลวง ตามประกาศ
ของคณะปฏิวตั ิ ฉบับที่ 25 ลงวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2514
(ข) โรงแรม
โรงแรมที่มีห้องพักไม่เกิน 100 ห้อง ให้มีที่จอดรถยนต์ไม่นอ้ ยกว่า 10 คัน
สาหรับห้องพัก 30 ห้องแรก ส่ วนที่เกิน 30 ห้อง ให้คิดอัตรา 1 คันต่อ 5 ห้อง เศษของ 5 ห้อง ให้คิด
เป็ น 5 ห้อง
โรงแรมที่มีห้องพักเกิน 100 ห้อง ให้มีที่จอดรถยนต์ตามอัตราที่กาหนดใน
วรรคหนึ่ง สาหรับห้องพัก 100 ห้องแรก ส่ วนที่เกิน 100 ห้อง ให้คิดอัตรา 1 คันต่อ 10 ห้อง เศษของ
10 ห้อง ให้คิดเป็ น 10 ห้อง
(ช) ห้องโถงของโรงแรม ภัตตาคาร หรื ออาคารขนาดใหญ่ตามข้อ 2 (8) ให้มีที่
จอดรถยนต์ไม่นอ้ ยกว่า 1 คันต่อพื้นที่ห้องโถง 10 ตารางเมตร เศษของ 10 ตารางเมตร ให้คิดเป็ น
10 ตารางเมตร
(2) ในเขตเทศบาลทุ ก แห่ ง หรื อในเขตท้อ งที่ ที่ ไ ด้ มี พ ระราชกฤษฎี ก าให้ ใ ช้
พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พุทธศักราช 2479 ใช้บงั คับ
(ข) โรงแรม
โรงแรมที่ มี ห้ อ งพัก ไม่ เ กิ น 100 ห้ อ ง ให้ มี ที่ จ อดรถยนต์ไ ม่ น้อ ยกว่า 5 คัน
สาหรับห้องพัก 30 ห้องแรก ส่ วนที่เกิน 30 ห้อง ให้คิดอัตรา 1 คันต่อ 10 ห้อง เศษของ 10 ห้อง ให้
คิดเป็ น 10 ห้อง
38
51
กฎกระทรวงฉบับที่ 44 (พ.ศ. 2538) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522. (2538, 7 กุมภาพันธ์).
ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 112 (ตอนที่ 6 ก), หน้า. 25.
52
หมายเหตุทา้ ยกฎกระทรวงฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
41
55
กฎกระทรวงฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522. (2543, สิ งหาคม 7).
ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 117 (ตอนที่ 75 ก), หน้า. 16.
56
หมายเหตุ ท้ า ยกฎกระทรวงฉบั บ ที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบั ญ ญั ติ ค วบคุ ม อาคาร
พ.ศ. 2522
45
57
กฎกระทรวงฉบับ ที่ 64 (พ.ศ. 2555) ออกตามความในพระราชบัญ ญัติค วบคุ ม อาคาร พ.ศ. 2522. (25 55,
พฤศจิกายน 30). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 129 (ตอนที่ 112 ก), หน้า. 20.
58
หมายเหตุ ท้ า ยกฎกระทรวงฉบั บ ที่ 64 (พ.ศ. 2555) ออกตามความในพระราชบั ญ ญัติ ค วบคุ ม อาคาร
พ.ศ. 2522
46
ข้อ 4 ให้ย กเลิ ก ความใน (ข) ของ (1) ของข้อ 3 แห่ ง กฎกระทรวง ฉบับ ที่ 7 (พ.ศ.
2517) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุ มการก่อสร้ างอาคาร พุทธศักราช 2479 และให้ใช้
ความต่อไปนี้แทน
“(ข) โรงแรม ให้มีที่จอดรถยนต์ไม่นอ้ ยกว่า 1 คันต่อพื้นที่ห้องโถง 10 ตารางเมตร
เศษของ 10 ตารางเมตร ให้คิดเป็ น 10 ตารางเมตร และไม่น้อยกว่า 1 คันต่อพื้ นที่ ที่ใช้เพื่อกิ จการ
พาณิ ชยกรรม 20 ตารางเมตร เศษของ 20 ตารางเมตร ให้คิดเป็ น 20 ตารางเมตร”
ข้อ 6 ให้ย กเลิ ก ความใน (ข) ของ (2) ของข้อ 3 แห่ ง กฎกระทรวง ฉบับ ที่ 7 (พ.ศ.
2517) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุ มการก่อสร้ างอาคาร พุทธศักราช 2479 และให้ใช้
ความต่อไปนี้แทน
“(ข) โรงแรม ให้มีที่จอดรถยนต์ไม่น้อยกว่า 1 คันต่อพื้นที่ ห้องโถง 30 ตารางเมตร
เศษของ 30 ตารางเมตร ให้คิดเป็ น 30 ตารางเมตร และไม่น้อยกว่า 1 คันต่อพื้ นที่ ที่ใช้เพื่อกิ จการ
พาณิ ชยกรรม 40 ตารางเมตร เศษของ 40 ตารางเมตร ให้คิดเป็ น 40 ตารางเมตร”
3.1.11 กฎกระทรวงกาหนดลักษณะอาคารประเภทอืน่ ทีใ่ ช้ ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 255959
เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงกาหนดลักษณะอาคารประเภทอื่ นที่ใช้ประกอบ
ธุ รกิ จโรงแรม พ.ศ. 2559 คือ โดยที่มีการนาอาคารประเภทอื่นมาให้บ ริ ก ารที่พ กั แก่ป ระชาชน
เป็ นการทัว่ ไป ซึ่ งลักษณะและโครงสร้ างของอาคารที่ มีอยู่เดิ มไม่สอดคล้องกับอาคารที่ จะนามา
ประกอบธุ รกิ จโรงแรมตามที่กฎหมายว่าด้วยการควบคุ มอาคารกาหนด จึงทาให้อาคารดังกล่าว
ไม่ ส ามารถขอรั บ ใบอนุ ญ าตเพื่ อ ประกอบธุ ร กิ จ โรงแรมตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยโรงแรมได้
เพื่ อ ให้อ าคารที่ มี อยู่แ ล้ว ซึ่ ง ได้มี ก ารปรั บ ปรุ ง แก้ไ ขให้ มี ล ัก ษณะหรื อ มาตรฐานความปลอดภัย
ของอาคารตามที่ ก ฎหมายก าหนดสามารถขออนุ ญาตเปลี่ ย นการใช้อ าคารเพื่ อ ประกอบธุ ร กิ จ
โรงแรมได้60
ข้อ 1 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บงั คับได้มีกาหนดห้าปี
ข้อ 2 ในกรณี ที่กฎกระทรวงนี้ มิได้กาหนดเรื่ องใดไว้ ให้นาข้อกาหนดเรื่ องนั้นตาม
กฎกระทรวงอื่น ข้อบัญญัติทอ้ งถิ่ น หรื อประกาศของรัฐมนตรี ที่ออกตามพระราชบัญญัติควบคุ ม
อาคาร พ.ศ. 2522 ที่ใช้บงั คับเป็ นการทัว่ ไป มาใช้บงั คับแก่อาคารตามกฎกระทรวงนี้ โดยอนุ โลม
เว้นแต่ขอ้ กาหนดเกี่ยวกับบันไดหนีไฟให้ใช้บงั คับตามที่กาหนดในกฎกระทรวงนี้
59
กฎกระทรวงกาหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2559. (2559, สิ งหาคม 19).
ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 133 (ตอนที่ 72 ก), หน้า. 8.
60
เหตุผลท้ายกฎกระทรวงกาหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2559
47
61
กฎกระทรวงกาหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561. (2561, ตุลาคม 25).
ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 135 (ตอนที่ 85 ก),. หน้า. 1.
49
62
เหตุผลท้ายกฎกระทรวงกาหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561
63
ข้อ 4 แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกาหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2561
64
ข้อ 5 แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกาหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2561
50
สู ง จากระดับ พื้ น อาคารไม่ เ กิ น 1.50 เมตร ในที่ ม องเห็ น สามารถอ่ า นข้อ แนะน าการใช้ ไ ด้
และสามารถเข้าใช้สอยได้สะดวก
(2) อาคารที่ไม่ใช่อาคารตาม (1) ที่มีจานวนห้องพักในชั้นเดียวกันไม่เกิน 20 ห้อง
(ก) ช่องทางเดินในอาคารมีความกว้างไม่นอ้ ยกว่า 1.20 เมตร
(ข) หน่ วยน้ าหนักบรรทุกจรสาหรับอาคารให้เป็ นไปตามกฎกระทรวงที่ออก
ตามมาตรา 8 (2) และ (3) เว้นแต่หน่วยน้ าหนักบรรทุกจรของบันไดและช่องทางเดินที่เปลี่ยนการใช้
อาคารจากห้องแถวหรื อตึกแถว หน่วยน้ าหนักบรรทุกจรต้องไม่ต่ากว่า 200 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
(3) อาคารที่ไม่ใช่อาคารตาม (1) ที่มีจานวนห้องพักในชั้นเดียวกันเกินกว่า 20 ห้อง
(ก) ช่องทางเดินในอาคารมความกว้างไม่นอ้ ยกว่า 1.50 เมตร
(ข) หน่ วยน้ าหนักบรรทุกจรสาหรับอาคารให้เป็ นไปตามกฎกระทรวงที่ออก
ตามมาตรา 8 (2) และ (3) เว้นแต่หน่วยน้ าหนักบรรทุกจรของบันไดและช่องทางเดินที่เปลี่ยนการใช้
จากห้องแถวหรื อตึกแถว หน่วยน้ าหนักบรรทุกจรต้องไม่ต่ากว่า 200 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
(4) อาคารสามชั้นที่มีเสา คาน ตง พื้น บันได โครงหลังคา หรื อผนังของอาคารที่
ทาด้วยวัส ดุ ไ ม่ ท นไฟ ต้องติ ดตั้ง ระบบความปลอดภัย ด้านอัค คี ภยั เพิ่ ม เติ ม ทุ ก ชั้นตามที่ ก าหนด
ดังต่อไปนี้
(ก) ติดตั้งระบบสัญญาเตือนเพลิงไหม้ โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
1) อุปกรณ์ส่งสัญญาณเพื่อให้หนีไฟที่สามารถส่ งเสี ยงหรื อสัญญาณให้คนที่
อยูใ่ นอาคารได้ยนิ หรื อทราบอย่างทัว่ ถึง
2) อุปกรณ์แจ้งเหตุที่มีท้ งั ระบบแจ้งเหตุอตั โนมัติ และระบบแจ้งเหตุที่ใช้มือ
เพื่อให้อุปกรณ์ตาม 1) ทางาน
(ข) ติดตั้งระบบไฟส่ องสว่างสารองเพื่อให้มีแสงสว่างสามารถมองเห็ นช่ อง
ทางเดิ นได้ขณะเพลิ งไหม้ และมี ป้ายบอกชั้นและป้ ายบอกทางหนี ไฟที่ด้านในและด้านนอกของ
ประตูหนีไฟด้วยตัวอักษรที่สามารถมองเห็นได้ชดั เจนซึ่งต้องมีขนาดไม่เล็กกว่า 10 เซนติเมตร
(ค) ติ ดตั้ง เครื่ องดับ เพลิ ง แบบมื อถื อหนึ่ ง เครื่ องต่ อ พื้ น ที่ อ าคารไม่ เกิ น 200
ตารางเมตรทุกระยะไม่เกิน 30 เมตร แต่ไม่นอ้ ยกว่าชั้นละสองเครื่ อง
(5) อาคารตั้งแต่สี่ช้ นั ขึ้นไปต้องมี เสา คาน ตง พื้น บันได โครงหลังคา และผนัง
ของอาคารที่ทาด้วยวัสดุถาวรที่เป็ นวัสดุทนไฟ และต้องมีบนั ไดหนีไฟที่มีลกั ษณะ ดังต่อไปนี้
(ก) บันไดหนี ไฟที่ไม่ใช่ บนั ไดในแนวดิ่ งซึ่ งมีความเหมาะสมกับพื้นที่ของอาคาร
แต่ละชั้นเพื่อให้สามารถลาเลียงบุคคลทั้งหมดในอาคารออกนอกอาคารได้ภายในหนึ่งชัว่ โมง
51
65
พระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518. (2518, กุมภาพันธ์ 13). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 92 (ตอนที่ 33/ฉบับพิเศษ),
หน้า. 8.
66
เหตุผลท้ายพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518
52
67
พระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518. มาตรา 14 .
68
มาตรา 17 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการผังเมือง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558
53
3.1.14 คาสั่ งหัวหน้ าคณะรักษาความสงบแห่ งชาติ ที่ 6/2562 เรื่อง มาตรการส่ งเสริมและ
พัฒนามาตรฐานการประกอบธุรกิจโรงแรมบางประเภท69
เมื่ อ วัน ที่ 12 มิ ถุ น ายน 2562 ค าสั่ ง หัว หน้ า คณะรั ก ษาความสงบแห่ ง ชาติ ที่ 6/2562
เรื่ อง มาตรการส่ งเสริ มและพัฒนามาตรฐานการประกอบธุ รกิจโรงแรมบางประเภท มีผลบังคับใช้
เนื่ อ งจากปรากฏว่ า มี ผูน้ าอาคาร บ้า นเรื อ นที่ อ ยู่อ าศัย เปิ ดให้ บ ริ ก ารในรู ป แบบของโรงแรม
ตามแหล่ งท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อหารายได้ มีจานวนมากกว่าสองหมื่นแห่ งที่ยงั ไม่ได้รับอนุ ญาตให้
ด าเนิ น การได้โ ดยถู ก ต้อ งตามกฎหมาย เนื่ อ งจากไม่ เ ป็ นไปตามข้อ ก าหนดการใช้ ที่ ดิ น ตาม
กฎกระทรวงให้ใช้บงั คับผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง และข้อกาหนดเกี่ ยวกับการ
ประกอบธุ รกิ จโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ซึ่ งมีจานวนหลายพันแห่ งตามจังหวัดต่าง ๆ
มากกว่าห้าสิ บจังหวัด และยังมีที่ไม่ได้ดาเนิ นการให้เป็ นไปตามกฎกระทรวงตามกฎหมายว่าด้วย
การควบคุ ม อาคารอี ก หลายพัน แห่ ง จึ ง ให้โ อกาสด าเนิ น การเสี ย ให้ ถู ก ต้อ งภายในระยะเวลา
และตามเงื่ อนไขที่ กาหนด โดยมุ่งหมายให้เป็ นการส่ งเสริ มการประกอบอาชี พสุ จริ ตของชุ มชน
เพื่อให้เศรษฐกิ จมีความคล่องตัว เกิ ดการกระจายรายได้ เกิ ดการสร้ างงาน ขณะเดี ยวกันก็ลดความ
ขัดแย้งในชุ มชนและจัดให้กิจการที่อยู่นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีการ
บริ หารจัดการที่ดีและมีการตรวจสอบควบคุมโดยรัฐ ยกระดับมาตรฐานการประกอบการและสร้าง
ความปลอดภัยในชี วิตและทรัพย์สิน ผูร้ ั บบริ การเองก็ได้รับการบริ การที่มีคุณภาพและเป็ นธรรม
โดยมีสาระสาคัญดังนี้
1) ให้โรงแรมประเภท 1 (ให้บริ การเฉพาะห้องพัก) และโรงแรมประเภท 2 (ให้บริ การ
ห้อ งพัก และอาหารหรื อ สถานที่ ส าหรั บ บริ ก ารอาหารหรื อ สถานที่ ส าหรั บ ประกอบอาหาร )
ซึ่ งเป็ นอาคารที่มีอยู่ก่อนวันที่ 19 สิ งหาคม 2559 และมีลกั ษณะอาคารตามข้อ 3 แห่ งกฎกระทรวง
กาหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุ รกิ จโรงแรม พ.ศ. 2559 ได้รับยกเว้นการใช้บงั คับ
กฎกระทรวงให้ใช้บงั คับผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง และข้อบัญญัติทอ้ งถิ่นกาหนด
บริ เวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง รื้ อถอน เคลื่อนย้าย และใช้หรื อเปลี่ยนการใช้อาคารซึ่ งออกโดยอาศัย
อานาจตามความในมาตรา 8 (10) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
2) ให้ผูป้ ระกอบธุ รกิ จโรงแรมซึ่ งมี อาคารที่ มี ล ักษณะตามข้อ 3 แห่ ง กฎกระทรวง
ก าหนดลัก ษณะอาคารประเภทอื่ นที่ ใ ช้ป ระกอบธุ รกิ จโรงแรม พ.ศ. 2559 ซึ่ ง ใช้อาคารในการ
ประกอบธุ รกิจโรงแรมอยูใ่ นวันก่อนวันที่คาสั่งนี้ มีผลใช้บงั คับและอาคารนั้นมีลกั ษณะเป็ นการฝ่ า
69
คาสัง่ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 6/2562 เรื่ อง มาตรการส่งเสริ มและพัฒนามาตรฐานการประกอบ
ธุรกิจโรงแรมบางประเภท. (2562, มิถุนายน 12). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 136 (ตอนพิเศษ 151 ง), หน้า. 17.
55
4) เมื่ อ เจ้า พนัก งานท้อ งถิ่ น ด าเนิ น การตรวจสอบตามข้อ 3) แล้ว ให้แ จ้ง ผลการ
ตรวจสอบต่อผูป้ ระกอบธุ รกิ จโรงแรม และนายทะเบี ย นตามกฎหมายว่า ด้วยโรงแรมทราบเป็ น
หนัง สื อ เพื่ อด าเนิ นการต่ อไป ทั้ง นี้ ให้ผูป้ ระกอบธุ รกิ จโรงแรมซึ่ งผ่านการตรวจสอบสามารถ
ประกอบกิจการโรงแรมต่อไปได้เช่นเดี ยวกับเจ้าของหรื อผูค้ รอบครองที่ดินซึ่ งได้ใช้ประโยชน์ที่ดินมา
ก่อนที่ผงั เมืองรวมจะใช้บงั คับในพื้นที่น้ นั ตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง และให้ได้รับยกเว้นโทษ
ทางอาญาสาหรับความผิดตามข้อ 2 ที่เกิ ดขึ้นก่อนวันที่ได้รับหนังสื อแจ้งผลการตรวจสอบจากเจ้า
พนักงานท้องถิ่น
70
ณัฐนันท์ หิ รัญรั ศมี สกุล. (2556). ปั ญหากฎหมายเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสถานที่พักที่ไม่ เป็ นโรงแรม.
วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขานิติศาสตร์, คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. หน้า 95.
57
71
ณัฐนันท์ หิ รัญรัศมีสกุล. อ้างแล้วเชิงอรรถที่ 70. หน้า 99-108.
59
ลัก ษณ์ อ ัก ษรซึ่ งบัญ ญัติ โ ดยกฎหมาย 2 ฉบับ คื อ The Innkeepers Act 1878 และ The Hotel
Proprietor Act 1956
(2.1) คู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง
ส าหรั บ คู่ สั ญญาที่ เ กี่ ย วข้อ งตาม HPA 1956 นั้น จะประกอบไปด้วยเจ้า ส านัก
โรงแรม (Proprietor Of A Hotel) และคนเดินทาง (Any Traveller) ซึ่ ง HPA 1956 นั้น มิได้ให้คา
จากัดความเอาไว้ว่าหมายถึ งอะไร ซึ่ งจะแตกต่างกับพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 ที่ ได้ให้
ความหมายเอาไว้ชดั เจน การทราบถึงบุคคลซึ่ งเป็ นคู่สัญญาและความหมายของบุคคลที่เป็ นคู่สัญญา
ย่อมมี ความส าคัญตามสัญญา เพื่อที่ จะได้รู้ถึ งสิ ทธิ หน้าที่และความรั บผิดที่ จะต้องปฏิ บตั ิ ต่อกัน
ดังต่อไปนี้
1. เจ้า สานัก โรงแรม (Proprietor of a Hotel) อาจจะไม่ใ ช่ตวั บุค คลเพีย งคน
เดียว จากคดี ที่เกิดขึ้นเจ้าสานักโรงแรมมักจะเป็ นบริ ษทั (Company) และจะจัดการหรื อดาเนิ นธุ รกิจ
โดยใช้ผจู้ ดั การ (Manager) ซึ่ งในกรณี น้ ี ถือว่าเจ้าสานักโรงแรม (Innkeeper) คือ ตัวบริ ษทั ไม่ใช่ ตวั
ผูจ้ ดั การที่เป็ นผูด้ าเนินธุ รกิจ (The Innkeeper is the Company, and not the Manager)
2. คนเดินทาง (Any Traveller) คนเดินทางในที่น้ ี ไม่จาเป็ นต้องเป็ นแขกอาศัย
(Guest) คาว่า “Guest” นั้นใช้อธิ บายถึงคนเดินทางที่ได้ทาข้อตกลงหรื อมีพนั ธกรณี กบั ทางโรงแรม
ในการใช้บริ การที่พกั ค้างแรมของโรงแรม (a traveler who has engaged sleeping accommodation
at the inn.) ฉะนั้น คนเดินทางจะกลายเป็ นแขกอาศัยได้ต่อเมื่อมีการใช้ที่พกั ค้างแรมตั้งแต่ 1 คืนขึ้น
ไป
(2.2) หน้าที่และความรับผิดของเจ้าสานักโรงแรม
หน้าที่และความรับผิดของเจ้าสานักโรงแรม (Proprietor of a Hotel) ต่อคนเดินทาง
(Traveller) ตามกฎหมายอังกฤษมีดงั ต่อไปนี้
1) หน้าที่จดั หาอาหารและเครื่ องดื่ม
การจัดหาอาหารและเครื่ องดื่ มให้กบั คนเดิ นทาง ไม่ใช่ หน้าที่ที่เจ้าสานักโรงแรม
จะต้องปฏิบตั ิตาม HPA 1956 แต่เป็ นหน้าที่ที่ถูกกาหนดขึ้นโดยกฎหมายคอมมอนลอว์ ซึ่ งกาหนดให้
เจ้าสานักโรงแรมต้องจัดหาอาหารและเครื่ องดื่ มตามสมควรให้แก่คนเดิ นทาง แต่อย่างไรก็ตาม
เจ้าสานักโรงแรมอาจจะปฏิ เสธการให้บริ การดังกล่าวได้หากได้มีเหตุผลอันสมควร ดังนั้น หน้าที่
ดังกล่าวจึงไม่ใช่หน้าที่โดยเด็ดขาด เจ้าสานักโรงแรมอาจปฏิเสธได้โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ท้ งั นี้
ทั้งนั้น หากเจ้าสานักโรงแรมปฏิเสธไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เจ้าสานักโรงแรมอาจจะถูกฟ้ องร้อง
ดาเนินคดีอาญาได้ และความผิดนี้ไม่ใช่ความผิดตามบทบัญญัติของ HPA 1956 แต่เป็ นความผิดตาม
กฎหมายคอมมอนลอว์ ซึ่ งวัตถุ ประสงค์ของกฎหมายนั้นก็เพื่อบังคับให้โรงแรมทุกโรงแรมต้องมี
60
4) หน้าที่ของเจ้าสานักโรงแรมต่อทรัพย์สินของแขกอาศัย
เจ้า ส านัก โรงแรมมี หน้า ที่ ที่ จะต้องดู แลทรั พ ย์สิ นของแขกอาศัย และหน้า ที่ น้ ี เป็ น
หน้าที่ตอ้ งปฏิบตั ิต่อที่แขกอาศัย (Guest) เท่านั้น ไม่ใช่หน้าที่ที่ตอ้ งปฏิบตั ิกบั คนเดินทาง (Traveller)
ด้วยแขกอาศัยในที่น้ ีหมายถึง บุคคลที่ตกลงมีขอ้ ผูกพันกับทางโรงแรมว่าจะใช้ที่พกั อาศัยอย่างน้อย
หนึ่งคืน เจ้าสานักโรงแรมไม่จาต้องรับผิดในความสู ญหายหรื อบุบสลายต่อทรัพย์สินที่แขกอาศัยได้
นาเข้ามาในโรงแรม เว้นเสี ยแต่
1. ในเวลาที่ทรัพย์สินสู ญหายหรื อบุบสลายนั้น คนเดิ นทางได้ทาการตกลงผูกพัน
กับทางโรงแรมที่จะใช้บริ การที่พกั แรมแล้ว
2. ความสู ญหายหรื อบุ บสลายนั้นได้เกิ ดขึ้ นในระหว่างที่ คนเดิ นทางยังเป็ นแขก
อาศัยของทางโรงแรมอยู่ และยังมีสิทธิ ที่จะใช้ที่พกั แรมได้
ในการชดใช้ค่าสิ นไหมทดแทนต่อความเสี ยหายหรื อบุบสลายอันเกิดแก่ทรัพย์สินที่
นาเข้ามาในโรงแรม ความรั บผิดของเจ้าสานักโรงแรมต่อแขกอาศัยคนหนึ่ งคนใดก็ตามจะต้องไม่
เกิน 50 ปอนด์ต่อของหนึ่งชิ้นหรื อไม่เกิน 100 ปอนด์ต่อของทั้งหมด เว้นแต่
1. ทรัพย์สินนั้นได้ถูกขโมย สู ญหายหรื อเสี ยหายไปเพราะการไม่ปฏิบตั ิตามหน้าที่
ประมาทเลินเล่อหรื อกระทาโดยจงใจของเจ้าสานักหรื อของลูกจ้างของเขา หรื อ
2. ทรั พย์สินนั้นถู ก ฝากไว้ใ นตู เ้ ซฟหรื อฝากไว้อยู่ใ นความอารั ก ขาดู แลของเจ้า
สานักหรื อลูกจ้างที่มีอานาจหน้าที่รับผิดชอบในเรื่ องนี้ หรื อบุคคลที่ปรากฏเป็ นที่เข้าใจได้วา่ เป็ นผู้
มีอานาจหน้าที่น้ นั
3. ในเวลาหลัง จากที่ แขกอาศัย ได้มาถึ งโรงแรมแล้ว หากเขาต้องการที่ จะฝาก
ทรัพย์สินนั้น แต่ดว้ ยเพราะเจ้าสานักโรงแรมหรื อลูกจ้างปฏิ เสธที่จะรับฝากของนั้นไว้หรื อเพราะ
การไม่ปฏิบตั ิตามหน้าที่ของเจ้าสานักหรื อลูกจ้าง เป็ นเหตุให้ไม่อาจจะฝากของนั้นได้
ซึ่ งในกรณี ขา้ งต้น เจ้าสานักโรงแรมไม่สามารถจะอ้างใช้สิทธิ ในข้อความจากัดความ
รับผิดนั้นได้และจะต้องรับผิดชดใช้เต็มจานวน
กฎหมายยังกาหนดต่อไปอีกว่า เจ้าสานักโรงแรมไม่มีสิทธิ ที่จะได้รับความคุ ม้ ครอง
ตาม HPA 1956 Section 2(3) ดังกล่าวนี้ เว้นแต่ ในเวลาที่ทรัพย์สินดังกล่าวนั้นได้ถูกนาเข้ามาใน
โรงแรมได้มีการแสดงโดยเปิ ดเผยหรื อเป็ นที่สังเกตได้ง่าย ซึ่ งสาเนาประกาศตามที่ HPA 1956 ได้
กาหนดแบบไว้ ในสถานที่ที่แขกอาศัยสามารถมองเห็ นและอ่านได้อย่างชัดเจน เช่ น บริ เวณโต๊ะ
แผนกต้อนรับ หรื อประตูทางเข้าหลักของโรงแรม เป็ นต้น
5) หน้าที่ของเจ้าสานักโรงแรมต่อความปลอดภัยของแขกอาศัย
62
เจ้าสานักโรงแรมมีหน้าที่ ต้องให้การดูแลความปลอดภัยโดยสมควรแก่บุคคลที่เป็ น
แขกอาศัยไม่ให้ได้รับอันตรายหรื อบาดเจ็บอันเนื่ องมาจากความประมาทเลินเล่อของโรงแรมตลอด
ระยะเวลาที่บุคคลนั้นเป็ นแขกอาศัยอยู่ แต่ความรับผิดนี้ไม่ใช่ความรับผิดโดยเด็ดขาด แต่ถึงอย่างไร
ก็ตาม เจ้าสานักโรงแรมก็ยงั คงมีหน้าที่ที่จะต้องดูแล ตรวจตราบริ เวณโรงแรมให้มีความปลอดภัย
และใช้ความระมัดระวังอย่างวิญญูชนจะพึงปฏิบตั ิ
วัต ถุ ป ระสงค์ข องกฎหมายในกรณี น้ ี มุ่ ง ไปที่ ก ารให้ค วามคุ ้ม ครองกับ แขกอาศัย
กล่าวคือ แขกอาศัยเท่านั้นที่จะมี สิทธิ เรี ยกร้ องต่อเจ้าสานักโรงแรมในกรณี ดงั กล่ าวได้ ไม่รวมถึ ง
บุคคลอื่นที่เข้ามาในโรงแรมในฐานะที่เป็ นอาสาสมัคร ผูผ้ ่านมา แขกอาศัยส่ วนตัวของเจ้าสานัก
โรงแรมหรื อลูกจ้างด้วย
(2.3) สิ ทธิของสานักโรงแรม
ในกรณี ของเจ้าสานักโรงแรมได้ถูกกาหนดขึ้นโดย The Innkeepers Act 1878 ดังนี้
1) สิ ทธิ ของเจ้าของสานักโรงแรมในการยึดหน่วงทรัพย์ของแขกอาศัย
ตาม The Innkeepers Act 1878 เจ้าสานักโรงแรมมีสิทธิ ที่จะยึดหน่วงทรัพย์ของ
แขกอาศัยเพื่อเรี ยกเอาค่าตอบแทนในการจัดหาบริ การให้แก่ แขกอาศัย รวมถึ งการจาหน่ ายและ
จัดการขายทอดตลาดซึ่ งสัมภาระหรื อสิ นค้าใด ๆ ที่ได้ยดึ หน่วงไว้หรื ออันได้ฝากไว้หรื อปล่อยทิ้งไว้
ในโรงแรมหรื ออาณาบริ เวณของโรงแรม กฎหมายได้กาหนดไว้ว่าการจาหน่ายหรื อขายทอดตลาด
ดังกล่าวจะกระทาได้ก็ต่อเมื่อสัมภาระหรื อสิ นค้านั้นได้ถูกปล่อยทิ้งไว้เป็ นเวลาล่วงเลยไปแล้วเป็ น
ระยะเวลา 6 สัปดาห์ และโดยปราศจากการชาระหนี้
กฎหมายยัง ได้ก าหนดต่ อ ไปอี ก ว่า อย่า งน้อย 1 เดื อนก่ อ นที่ จ ะท าการขาย
ดังกล่าว เจ้าสานักโรงแรมจะต้องลงโฆษณาในหนังสื อพิมพ์ทอ้ งถิ่นและหนังสื อพิมพ์ในประเทศอีก
ฉบับหนึ่งในพื้นที่ที่ทรัพย์สินหรื อสิ นค้านั้นได้ฝากหรื อปล่อยทิ้งไว้ และในโฆษณานั้นจะต้องบอก
ถึงเจตนาในการที่จะขายและข้อความบรรยายสั้น ๆ เกี่ ยวกับสิ นค้าหรื อทรัพย์สินนั้น พร้ อมทั้งชื่ อ
เจ้าของหรื อชื่อบุคคลผูไ้ ด้ฝากหรื อทิ้งของนั้นไว้
2) สิ ทธิของเจ้าของสานักโรงแรมในการปฏิเสธการให้บริ การ
เมื่อพิจารณาหน้าที่ของเจ้าสานักโรงแรมในการที่จะต้องจัดหาอาหาร เครื่ องดื่ม
และที่พกั ให้กบั คนเดิ นทางและแขกอาศัยแล้ว ในขณะเดี ยวกันก็ได้ทาให้เกิ ดสิ ทธิ แก่คนเดิ นทาง
ในการที่จะได้รับบริ การหรื อที่จะเรี ยกร้ องบริ การนั้น แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าสานักโรงแรมก็มีสิทธิ
ที่จะปฏิเสธการให้บริ การดังกล่าวได้ในบางกรณี ตามกฎหมายคอมมอนลอว์และ HPA 1956 Section
1(3) ซึ่ งได้ให้คาจากัดความของคาว่า “Inn” ไว้ และนัน่ คื อสิ่ งที่กาหนดขอบเขตหน้าที่ของเจ้าสานัก
โรงแรมที่มีต่อหรื อให้บริ การดังกล่าวแก่บุคคลอื่นที่ไม่ใช่คนเดินทาง
63
72
พัทธ์ ธีร า ศรี ประทักษ์. (2558). มาตรการทางกฎหมายเพื่อ ความปลอดภัย สุ ขอนามั ย และสิ่ งแวดล้ อ ม.
วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขานิติศาสตร์, คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. หน้า 110.
64
กระป๋ อง ขยะที่ มี พิ ษ หรื อเป็ นอันตราย จะต้องถู ก แยกไว้ใ นถัง ขยะแต่ ล ะประเภท โดยมี ฝ าปิ ด
อย่างมิดชิ ด (ระเบียบ ข้อ 5.2) นอกจากนี้ ระเบียบยังกาหนดห้ามมิให้เผาขยะที่เกิ ดจากการดาเนิ น
ธุ รกิ จที่พกั ในพื้นที่เปิ ดกว้างของรี สอร์ ท ดังนั้น จึงต้องมีเตาเผาขยะสาหรับจัดการกับขยะเหล่านั้น
และห้ามเผาวัตถุ ที่ป ล่ อยก๊ า ซพิษ ออกมาสู่ ช้ นั บรรยากาศ เช่ น พลาสติ ก แต่ จะต้องเก็ บ รวบรวม
และส่ งให้เขตพื้นที่ที่รัฐกาหนดให้เป็ นที่จดั การขยะประเภทนี้ (ระเบียบ ข้อ 5.3 และ 5.4)
สาหรับหลักการกาจัดสิ่ งปฏิ กูลจะต้องใช้วิธีที่เป็ นอันตรายต่อสิ่ งแวดล้อม
ให้น้อยที่ สุด โดยจะต้องไม่ติดตั้งระบบกาจัดขยะไว้ใกล้กบั แหล่ งอาหาร ที่อยู่อาศัยของสิ่ งมีชีวิต
และจะต้องตรวจสอบให้แน่ ใจว่าไม่มีรอยแยกหรื อรอยร้ าว กลิ่ นที่ไม่พึงประสงค์ หรื อสิ่ งรบกวน
อื่ นใด นอกจากนี้ ยังห้า มระบายสิ่ งปฏิ กูลที่ เป็ นของเหลวจากห้องน้ า ลงสู่ ผิวดิ น หรื อสู บไปทิ้ ง
ในหนองน้ า บึง หรื อทะเลสาบ (ระเบียบ ข้อ 7)
2) ด้านอนามัย
ห้า มมิ ใ ห้รีส อร์ ท ทากิ จกรรมใด ๆ ที่ จะก่ อให้เกิ ด การปนเปื้ อนต่อแหล่ ง กัก
เก็บ น้ า และห้า มนาน้ าบาดาลที่อยู่ใต้รีสอร์ ทมาใช้เป็ นน้ าอุปโภคหรื อบริ โภคสาหรับแขกผูม้ าพัก
หรื อพนักงาน (ระเบียบ ข้อ 6.5) ส่ วนน้ าดื่มจะต้องกักเก็บไว้อย่างปลอดภัย ด้วยวิธีที่ไม่ก่อให้เกิด
การปนเปื้ อน ซึ่ งคุ ณภาพของน้ า ดื่ ม จะต้องไม่ ต่ า กว่า ค่ า มาตรฐานที่ ก ฎหมายก าหนด (ระเบี ย บ
ข้อ 6.6)
3) ด้านบทลงโทษ
หากผูป้ ระกอบการด้านธุ รกิจที่พกั รี สอร์ ทหรื อเกสต์เฮาส์ ฝ่ าฝื นบทบัญญัติ
ตามระเบีย บว่า ด้วยการป้ องกันและอนุ รัก ษ์สิ่ ง แวดล้อมในอุ ต สาหกรรมการท่ อ งเที่ ย ว ย่อ มมี
ความผิดตามกฎหมาย และจะต้องระวางโทษปรับ ตั้งแต่ 1000.00 MVR แต่ไม่เกิน 10,000.00 MVR
ซึ่ งพิจารณาตามความรุ นแรงของการไม่ปฏิบตั ิตามระเบียบ และในกรณี ที่มีการไม่ปฏิบตั ิเกิดขึ้นซ้ า
อีก จะต้องระวางโทษตั้งแต่ 50,000.00 MVR แต่ไม่เกิน 100,000.00 MVR ซึ่ งกระทรงการท่องเที่ยว
จะสงวนสิ ทธิ์ เพิกถอนใบอนุญาตนั้นก็ได้ (ระเบียบ ข้อ 8.1)
3.2.3 สาธารณรัฐสิ งคโปร์ (Republic of Singapore)
ปัจจุบนั สาธารณรัฐสิ งคโปร์ถือเป็ นหนึ่งในประเทศที่มีความเจริ ญสู งสุ ดในแถวหน้าของโลก
ขึ้ น ชื่ อ ว่า เป็ นหนึ่ ง ในประเทศที่ มี คุ ณ ภาพชี วิ ต สู ง มี ค วามหลากหลายของเชื้ อ ชาติ แ ละศาสนา
เป็ นเมืองท่องเที่ยวสาคัญ เมืองท่าและเมื องเศรษฐกิ จการค้าหลักในแถบเอเชี ย และที่ โดดเด่นอีก
อย่างหนึ่ ง คื อ สาธารณรัฐสิ งคโปร์ เป็ นเมื องที่ ข้ ึนชื่ อด้านการท่องเที่ยวที่ติดอันดับโลกประเทศหนึ่ ง
เนื่องจากสาธารณรัฐสิ งคโปร์ สามารถเที่ยวได้ตลอดปี มีอากาศใกล้เคียงกับประเทศไทย ในด้านโรงแรม
และที่ พกั ในสาธารณรัฐสิ งคโปร์ มีบริ การที่ พกั หลากหลายตั้งแต่ที่พกั ราคาประหยัดที่มกั กระจาย
66
อยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวในเขตลิ ตเติ้ลอินเดีย (Little India) ไชน่ าทาวน์ บูกิส (Bugis) คลาร์ ก คีย ์
(Clarke Quay) อีสต์ โคสต์ (East Coast) ถัดมาเป็ นที่พกั ระดับกลาง บูทีคโฮเต็ล (Boutique Hotel)
ในแถบแม่น้ าสิ งคโปร์ และไชน่าทาวน์ ไปจนถึงโรงแรม รี สอร์ ท หรู หรา 5 ดาวที่กระจุกกันอยูบ่ ริ เวณ
ริ มอ่าวมาริ น่าและถนนออชาร์ ด (Orchard Road)
สาธารณรัฐสิ งคโปร์ มีรัฐบัญญัติโรงแรม ค.ศ. 1954 (Hotel Act 1954)73 ซึ่ งแก้ไขเพิ่มเติม
เมื่อ ค.ศ. 1999 เป็ นบทบัญญัติที่กาหนดมาตรการเพื่อควบคุม กากับและดูแลการประกอบธุ รกิจที่พกั
แรมต่าง ๆ โดยกฎหมายฉบับนี้จะประกอบไปด้วยเรื่ อง
1) นิยามคาว่า “โรงแรม”
ความหมายของคาว่า “โรงแรม” ตามรัฐบัญญัติโรงแรม ค.ศ. 1954 หมายถึง บ้านพัก
อาศัยพร้อมอาหาร บ้านพัก เกสเฮาส์ และอาคารหรื อสถานที่อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ ที่พกั สาธารณะ ซึ่ งประกอบ
ไปด้วย ห้อ งพัก ให้ค นเข้า พัก อาศัย ได้ไ ม่น อ้ ยกว่า 4 ห้อ ง หรื อ ห้อ งที ่ถ ูก กั้น ขึ้ น เป็ นที ่พ กั พิง
หรื อ อยู อ่ าศัย โดยมีว ตั ถุ ป ระสงค์เ พื ่อ การให้เ ช่ า หรื อ เสี ย ค่า ตอบแทน โดยเจ้า ของบ้า นเอง
ผูค้ รอบครอง ผูเ้ ช่ า(ผูใ้ ห้เช่าช่วง) หรื อผูจ้ ดั การที่พกั เป็ นผูใ้ ห้บริ การอานวยความสะดวกในที่พกั แรม
2) กาหนดให้คาว่า “ผูจ้ ดั การโรงแรม” หมายถึง บุคคลใด ๆ ซึ่ งเป็ นผูถ้ ือใบอนุญาตให้
บริ ห ารจัด การโรงแรมนั้น โดยต้อ งได้รั บ อนุ ญาตตามรั ฐ บัญ ญัติ น้ ี รวมทั้ง หลัก เกณฑ์ ก ารออก
ใบอนุญาตผูจ้ ดั การโรงแรม (Licensing of managers)
3) การแต่งตั้งคณะกรรมการออกใบอนุญาตโรงแรม (Hotel Licensing Board)
4) การออกใบอนุ ญ าตประกอบกิ จ การโรงแรม โดยที ่ก าหนดเงื ่ อ นไขเพื ่อ ใช้
ประกอบในการพิ จารณาออกใบอนุ ญาตประกอบกิ จการโรงแรมนั้น รั ฐบัญ ญัติห้า มมิ ใ ห้ออก
ใบอนุญาตประกอบกิ จการโรงแรม เว้นแต่จะเป็ นที่พึงพอใจแก่คณะกรรมการกากับดูแลทะเบียน
โรงแรม ในด้า นที ่เ ป็ นสถานที ่พ กั ที ่ไ ม่ไ ด้ถ ูก ใช้ใ ห้เ ป็ นบ้า นที ่ข ดั ต่อ ความสงบเรี ย บร้ อ ย
และสถานที่พ กั แรมที่ไ ด้รับ การจดทะเบี ยนมี ก ารเปลี่ ยนโครงสร้ างอาคารให้เป็ นโรงแรมแล้ว
รวมถึงมีการจัดเตรี ยมอาหารที่เหมาะสมและถูกสุ ขลักษณะ
5) การพักและการเพิกถอนใบอนุญาตและใบรับรองการจดทะเบียนโรงแรม
6) อานาจในการเข้าค้นและตรวจสอบ (Power of entry and inspection)
7) บทลงโทษ (Penalties)
แต่ ส าหรั บการประกอบธุ รกิ จสถานที่ พ กั ที่ ไม่ เป็ นโรงแรม ในสาธารณรั ฐสิ งคโปร์
รั ฐบัญญัติ โ รงแรม ค.ศ. 1954 (Hotel Act 1954) ไม่ ไ ด้ เ ข้า ไปควบคุ ม แต่ อ ย่ า งใด เนื่ อ งจาก
73
พัทธ์ธีรา ศรี ประทักษ์. อ้างแล้ว เชิงอรรถที่ 72. หน้า 121.
67
การประกอบธุ รกิ จสถานที่ พกั ที่ ไม่เป็ นโรงแรมที่ มีห้องพักไม่เกิ น 4 ห้อง มิ ได้อยู่ในบทนิ ยาม
ของการประกอบธุ รกิจโรงแรมแต่อย่างใด 74
74
ณัฐนันท์ หิ รัญรัศมีสกุล. อ้างแล้วเชิงอรรถที่ 70. หน้า 123.