Professional Documents
Culture Documents
แกะเทป cell of immune system
แกะเทป cell of immune system
Monocyte
Macrophage phagocitic cells
Dendritic cells
B-cells * สราง antibody และมี immunoglobulin อยูที่cell surface เพื่อใชจับ antigen
Slide29,30 : เปนภาพที่แสดงการเกิด Antigen Presentation ของพวก Phagocytic cells
(ในที่นี้จะยกตัวอยางของ dendritic cell)
ถุง phagosome นี้ จะไปรวมกับ lysosome (ซึ่งมี enzyme เยอะแยะ) กลายเปนถุง phagolysosome
Enzyme ของ lysosme จะยอย bacteria เปนชิ้นๆ แลวจึงเอาชิ้น peptideที่เกิดขึ้น ไปรวมกับ MHCII
Lymphocyte
จดจํา antigenแบบจําเพาะ มีความสามารถจําแนก antigen ไดเปนอยางดี บอกไดวา นี่คือ self
หรือ non-self
มี memory **
ประมาน 109 ในคนปกติ
Slide33 : Classes of lymphocytes
B lymphocyte : เมื่อเจอ antigen จะถูกกระตุนและพัฒนาไปเปน plasma cell สราง antibody
Helper T lymphocyte : เมื่อถูกพวก antigen presenting cells (ที่มีการpresent peptide มากับ MHC II)
กระตุน helper T lymphocyte จะหลั่งสารน้ํา(cytokine) เพื่อ...
- กระตุนใหมีการเพิ่มจํานวน และพัฒนา B lymphocyte และ T lymphocyte ใหทํางานได
- กระตุน macrophage ที่ทํางานไมดี ใหทํางานไดดีขึ้น
- ไปทําใหเกิด inflammation
cytotoxic T lymphocyte : จะจดจําเซลลที่มีการติดเชื้อที่มี antigen อยูที่ surface โดย present antigen
รวมกับ MHC classI ...โดย cytotoxic T lymphocyte นี้ใช T cell receptor จับกับ MHC classI ที่มี antigen
อยู แลวหลั่งสารทําใหเซลลที่มีการติดเชือ
้ นี้แตก เชื้อก็จะตายดวย
NK cell : มี receptor เพื่อไปตรวจหาสิ่งแปลกปลอม(เชน เนื้องอก มะเร็ง หรือเซลลที่มี surface antigen ที่
ประหลาดตางจากเซลลปกติ)เมื่อพบเซลลผิดปกติ NK cellก็จะหลั่งสารทําใหเซลลนั้นแตก
Slide34 : Principle markers of lymphocytes
บน lymphocyte จะมี marker มากมาย แต…
Marker ที่จะบอกวาเปน NK cell คือ CD16
Marker ที่จะบอกวาเปน B lymphocyte คือ IgM , IgD
Marker ที่จะบอกวาเปน T lymphocyte คือ TcR (T cell Receptor) ซึ่งถาเปน
- T helper จะมี CD4 ดวย
- Cytotoxic T cell จะมี CD8 ดวย
Lymphocytes (ตอ)
B & T cells รูปรางเหมือนกัน ดูดวยกลองจุลทรรศนแยกกันไมออก ตองนําไปยอมเพื่อดู marker
ในสัตวปก B cells จะไป maturation ที่ bursa of Fabricious ในคนจะไปที่ bone marrow
(adult), liver (fetus)
ในขณะที่ T cells จะเคลื่อนที่ไปที่ตอมธัยมัส(thymus) เพื่อ maturation
ทั้ง T & B lymphocytes จะไหลเวียนอยูในกระแสเลือดและในเนื้อเยื่อตาง ๆ ในรางกาย
1. B lymphocyte
พบไดที่ตอมน้ําเหลือง,มาม
B cellsถูกกระตุนและพัฒนาไปเปน plasma cell สรางแอนติบอดี
บนผิวเซลลจะมี surface Ig ทําหนาที่เปน specific antigen receptors (IgM, IgD)
บน B cell จะมี MHC-II ทําหนาที่สําคัญในการรวมกระตุน T cell
การสรางแอนติบอดีของ B cell จะถูกกําหนดโดย DNA ที่อยูในเซลล
Slide37 : เปนภาพของสัตวปก ตองการบอกที่มาของชื่อ
- B cell จะพัฒนาที่ Bursa of Fabricius
- T cell จะพัฒนาที่ Thymus glands
Slide38 : เปนภาพ B lymphocyte ใหดู marker เยอะแยะที่อยูบนsurface เพื่อที่จะสราง antibody
ไดอยางจําเพาะตอ antigen (ของหนูและของคนก็ตางกัน )
Slide40 : การทํางานของ B cells
1. B cells จะตรวจหา antigen แลวจะไปจับกับ antigen ที่เจอ
2. จากนั้นจะไดรับสัญญาณจาก helper T cells
3. ทําให B cells ที่มีความจําเพาะตอ antigenนั้น พัฒนาใหมีขนาดใหญขึ้น(เพื่อจะสะสม
พลังงานในการสราง antibody และปลอย antibody ออกมา) เพิ่มจํานวนและเปลี่ยนแปลง
ไปเปน plasma cells และ memory cells **สิ่งสําคัญของ B cells และ T cells คือ มันมี
memory cell เก็บไว
4. plasma cells ก็จะสราง antibody ออกมาเพื่อไปจับ antigen
5. พอจับแลวจะ neutralize ดวยตัวมันเอง หรือ phagocytic cells จะยื่น pseudopodium มา
โอบ antigen ตัวนี้แลวเกิด opsonization จับกินเขาไป
6. memory cells จะเก็บขอมูลนี้ไว เวลามี antigen นี้เขามาอีก มันก็จะสามารถเพิ่มจํานวน
และพัฒนาไปเปน plasma cells ไดเร็วขึน
้ จะเปนภูมิคุมกันใหเราไดดีขึ้น
“ B cells เปรียบเสมือน โรงงานผลิตอาวุธ (the war factory) สามารถสราง antibody ใหเหมาะกับ
antigen ที่เขามาในรางกายของเรา ”
Slide42 : Maturation of B lymphocyte
จาก stem cell เกิดการเรียงgeneใหมก
ี ารสราง antibody ที่เหมาะสม โดย cloneที่1 สราง
antibodyที่1, cloneที่2 สรางantibodyที่2, cloneที่3 สรางantibodyที่3 ,...
ถาสมมติ มี antigen 2 เขามา clone2ก็จะตอบสนอง มีการพัฒนาเพิ่มจํานวนได plasma cells
เยอะแยะ และสราง antibody ออกมาเยอะแยะ และอีกสวนหนึ่งก็กลายเปนmemory cellsเก็บไว
การเกิดเชนนี้เรียกวา ‘Clonal expansion’ คือการเพิ่มจํานวนจาก clone ที่จําเพาะตอ antigen
โดยการเพิ่มจํานวนและพัฒนาของ B cells ตองอาศัยสารน้ํา(cytokine)จาก Helper T cells
Slide44 : กราฟแสดงการเกิด primary และ secondary immune response
primary immune response :: รางกายเรามี B cells อยู พอถูกกระตุนก็จะมีการสราง IgM (เปนสวน
นอยแตเกิดขึ้นกอน) , IgG (สรางเยอะแตจะสรางถัดออกมาในวันที่15)
*จุดที่สําคัญคือการมี memory cells
secondary immune response::เมื่อเวลาผานไปแลวเราไดรับ antigen ตัวเดิมเขามาอีก memory
cells ก็จะพัฒนาและเพิ่มจํานวนอยางรวดเร็ว ใชเวลาสั้นกวา primary immune response โดยจะสราง IgM
และ IgG (IgG จะถูกสรางออกมาเร็วขึ้นและปริมาณมากขึ้นกวาเดิมมากๆ)
Quiz : ทําไมเราตองฉีดวัคซีน??
Ans : เพื่อกระตุนใหเรามี memory cells เก็บไวเลาที่มีเชื้อหรือสารพิษเขามา เราก็จะตอบสนองไดทันทวงที
2. T lymphocyte
Immature thymocytes จะไป differentiate ใน thymus
- เกิดการเรียงตัวของ antigen-specific T cell receptor (TCR) gene
- *เฉพาะ T cell ที่ไมจับ self peptide เทานั้น(คือรางกายจะมีการคัดเลือก ถาT cellตัวไหนจับกับ
antigen ของ self มันจะถูกทําลาย จึงจะไมมีการเกิด Autoimmune) จะมีการ maturation
เปน effector cell of cell-mediated immunity
ชวย B lymphocyte พัฒนาเปน plasma cells และสรางแอนติบอดี
ทําหนาที่ recognize แอนติเจนที่อยูบนผิวเซลล
ถูกจัดแบงเปนยอยเปน 2 ชนิด ไดแก
- T helper, TH มี marker คือ CD4+
- T cytotoxic, Tc, TCL มี marker คือ CD8+
•CD = cluster of differentiation, cluster designation
•บน T cell ก็อาจพบ markers บางชนิดที่ปรากฏบนเซลลอื่นได
เชน CD5 ที่พบบน B cell, CD7 ที่พบบน NK cell เปนตน
CD4+ (T helper, TH)
¾ ชวย antigen-stimulated subsets of B lymphocytes ใหมีการเพิม
่ จํานวนและพัฒนา
¾ มี CD4 molecule
¾ ชวย T lymphocytes ในกลไกการเกิด cell-mediated immune response
¾ recognize specific antigen + MHC II
แบงเปน TH1 & TH2
•TH1 หลั่ง IL-2, IFNg :
- **ชวยควบคุมกลไกของ cellular immunity (มีบทบาทในการทําลาย intracellular pyrogen )=
Cytotoxicity
- Local inflammation reactions
- ทําลาย intracellular pathogens
•TH2 หลั่ง IL-4, IL-5, IL-6 and IL-10 :
- ชวย B lymphocyte proliferation
- **ชวย B lymphocytes ในการผลิต antibody
- สราง antibody ตาน free-living microorganisms
“ Helper T cells เปนตัวสงสัญญาณเชื่อมโยงกับ Macrophage และ B cells ในการที่จะทํางาน ”
CD8+ (T cytotoxic, Tc):
¾ ทําใหเกิดการแตกสลายของเซลลที่มีการติดเชื้อ เชน แบคทีเรียหรือไวรัสที่อาศัยอยูในเซลล ,
เซลลมะเร็ง
¾ recognize specific antigen รวมกับ MHC I (MHC I จะปรากฏบนเซลลที่มีนิวเคลียส)
การทํางานของ T cytotoxic
::: Cytotoxic T cell มี TCR(T cell receptor) เพื่อที่จะไป recognize antigenที่จับกับ MHC I ของ
เซลลที่ติดไวรัส
เมื่อ TCRจับกับantigenที่มากับMHC I T cellsก็จะหลั่ง perforin ออกมาทําใหเกิดรูบนเซลลที่มี
การติดเชื้อ จากนั้นก็จะหลั่ง granzymes ซึ่งอยูในถุงของมัน เขาผานรูไปยอยสลายเซลลที่มีการ
ติดไวรัสนี้ ทําใหเซลลแตก
Slide51 : T lymphocyte มีการเกิด Clonal expansion เหมือนกับ B lymphocyte คือเวลาที่มี antigen มา
กระตุน มันก็จะพัฒนาไปเปน helper T cell , cytotoxic T cell , memory cell
3. Natural killer cell (NK cells)
~15% ของ blood lymphocytes ไมมี antigen receptor ที่พบใน T, B cells
หนาที่- 1stline of defence to infections(ตานการติดเชื้อ)
- **** recognize & kill certain tumor cells, virus infected cells โดยไมตองรูจักมากอน
- ไมตองการ prior stimulation
- NK cell ใช receptor detect MHC-I ที่อยูบน target cellsแลวสง dead signal via apoptotic
signals + perforins, granzymesand TNF-alpha ทําใหเซลลนั้นแตกสลาย แตถาเซลลนั้นเปน
เซลลปกติ มันจะมีตัวมายับยั้งไมใหทําลาย
- ทําลาย target cells ที่มี IgG จับอยู ดวย antibody-dependent cellular cytotoxicity (ADCC)
- Release IFNg, IL-1, GM-CSF เปนสารน้ําไปชวย macrophage ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมการ
ทํางานระบบภูมิคุมกัน
การทํางานของ NK cells
การ recognize วาเปนสิ่งแปลกปลอม โดยจะดูจาก MHC I บน target cell และมี activating receptor,
activating ligand ทํางานรวมกัน ถาเปนเซลลปกติ มันก็เจอ MHC I ที่ปกติไมมี antigenจับอยู activating
ligandจะเปนตัวยับยั้งไมใหทําลาย ถาเจอเซลลที่มีไวรัส หรือเซลลที่เปนเนื้องอก ซึ่งพบวา MHC I หายไปหรือ
มีantigen จับอยูกับ MHC I activating receptor, activating ligand จะตรวจเจอวาไมใชพวกของเรา แลวจะ
ทําใหเซลลนั้นตายไป
รณรงคทรงฟู!!
หลังจากทรงเอไดติดเทรนดไปแลว
นส.บิวก็ import ทรงฟู พรอมประกาศรณรงคอีกครั้ง!!