Professional Documents
Culture Documents
ความกตัญญูกตเวที (ปรับแก้ล่าสุด)
ความกตัญญูกตเวที (ปรับแก้ล่าสุด)
ความกตตัญญญูกตเวททีตตอพตอแมตในฐานะเครรรื่องมรอปลญูกฝตังจรร ยธรรมแกตลญูก
ตามนตัยพระพพุทธศาสนา
(Filial Piety as a Tool to Cultivate Morality for the Young
according to Buddhism)1
โดย ดร.วร ทยา ศตักยาภร นตันทท์ 2
บทคตัดยตอ
บทความนนนี้ กลล่าวถถึงความกตตัญญญูกตเวทนตามทนพที่ ระพพุทธเจจ้าเคยตรตัสสอนเอาไวจ้ โดยเอกสารทนที่
ใชจ้อาจ้ งออิงสล่วนใหญล่จะเปป็ นเอกสารชตันนี้ ตจ้นของพระพพุทธศาสนาเถรวาท ความกตตัญญญูกตเวทนมาจากคคา
ภาษาบาลนคอคื “กตตัญญพุตา” และ “กตเวทอิตา” คคาแรกหมายถถึงรญูคจ้ พุณบพุรพการน หรคือผญูมจ้ อน พุปการคพุณแกล่เรา
สล่วนอนกคคาหมายถถึงการตอบแทนคพุณ ในกรณนของพล่อแมล่กบตั ลญูก การเขจ้าใจวล่า พล่อแมล่เปป็ นพรหม
บญูรพาจารยย์ และอาหพุไนยบพุคคล เรนยกวล่า กตตัญญพุตา สล่วนการแทนคพุณพล่อแมล่เรนยกวล่ากตเวทอิตา การปลญูก
ฝงตั ความกตตัญญญูกตเวทนแกล่ลกญู คคือ การทคาใหจ้ลกญู ไดจ้เขจ้าใจวล่าพล่อแมล่มคน พุณและหาทางแทนคพุณดจ้วยการเลนยนี้ ง
ดญูทล่านตอบแทน ฉะนตันนี้ ความกตตัญญญูกตเวทนไมล่ใชล่ความตจ้องการสล่วนตตัวของใคร แตล่เปป็ นการตระหนตักรญูจ้
ในคพุณธรรมของมนพุ ษยชาตอิ ลญูกทนมที่ คน วามกตตัญญญูกตเวทนไมล่เพนยงแตล่จะรญูคจ้ พุณและแทนคพุณพล่อแมล่เทล่านตันนี้ แตล่
จะมนบพุคลอิกภาพตล่อไปนนนี้เวลาปฏอิบตตั ตอิ ล่อพล่อแมล่ดวจ้ ย เชล่น มนสมตั มาคารวะ สพุภาพ อล่อนโยน เหป็นอกเหป็นใจ
เชคืที่อฟงตั รญูหจ้ นจ้าทนที่ และมนจตอิ อาสา เปป็ นตจ้น
คคาสคาคตัญ : กตตัญญพุตา, กตเวทอิตา, กตตัญญญูกตเวทอิตา, กตตัญญญูกตเวทน
Abstract
This article deals with the concept of filial piety as taught by the Buddha himself.
So, references have mainly focused on the Early Buddhist primary sources. Buddhism calls
filial piety “Kataññükataveditã”, the term which is derived from the Pali : “Kataññutã” –
knowledge of the done favour and “Kataveditã” – reciprocation for the done favour. In case
of parents and the young, to know that parents are the Brahma, the first teacher and the gift-
worthy is the knowledge of the done favour, while an attention on their welfare is
reciprocation for the done favour. To have the young be conscious of and committed to
virtues of the two terms with their parents is the Buddhist moral cultivation on filial piety for
the young. So, filial piety is not inspired by any personal needs but the moral awareness of
humanity. The young with filial piety do not only fulfil the above two virtues but bear
personalities of being polite, gentle, humble, sympathetic, obedient, dutiful, public-minded and
so on with their parents.
Key-words : Kataññutã, Kataveditã, Kataññükataveditã, Filial piety, Buddhist filial piety
ความนคา
พระพพุทธศาสนามนหลตักคคาสอนพคืนนี้ ฐานทนสที่ าค คตัญเกนยที่ วกตับตตัวตนของมนพุ ษยย์ คคือ ขตันธย์ 5 ทนเที่ ปป็ น
องคย์ประกอบสคาคตัญของชนวตอิ มนพุ ษยย์ และมนพุษยย์ยดถึ มตันวล่
ที่ าเปป็ นตตัวตนของตน จนทคาใหจ้เกอิดความรญูสจ้ กถึ วล่า
ตั
เรา-เขา และของเรา-ของเขา ซถึงที่ เปป็ นทนมที่ าของปญหาทตังนี้ ตล่อตนเองและตล่อสตัมพตันธภาพระหวล่างเพคือที่ น
1
ตนพมอิ พย์ในวารสารมนพุษยศาสตรย์ ปนทที่น 21 ฉบตับทนที่ 2 กรกฎาคม-ธตันวาคม 2557
2
รองศาสตราจารยย์ ภาควอิชาปรตัชญาและศาสนา คณะมนพุษยศาสตรย์ มหาวอิทยาลตัยเกษตรศาสตรย์ .
2
มนพุ ษยย์ดวจ้ ยกตัน สล่วนผญูทจ้ เที่น ขจ้าใจและรญูเจ้ ทล่าทตันความจรอิงของขตันธย์ 5 นตันนี้ คล่อนขจ้างจะมนนจ้อย เพราะขตัดกตับ
ความเคยชอินของเราทนยที่ ดถึ ถคือวล่ามนตวตั ตนมาตตังนี้ แตล่เกอิด พระพพุทธศาสนาตระหนตักในความจรอิงนนนี้ดน และมอง
เหป็นวล่าปญตั หาของมนพุ ษยย์มอน ยล่างหลากหลาย และเปป็ นเรคืที่องเรล่งดล่วนทนตที่ อจ้ งแกจ้ไข จถึงมนชพุดจรอิยธรรมทนหที่ ลาก
หลายตามไปดจ้วย เพคือที่ ใหจ้คนเราทนชที่ อบยถึดถคือวล่ามนตวตั ตนเลคือกนคาไปใชจ้กบตั บรอิบทชนวตอิ ของตน โดยไมล่ตอจ้ ง
รอการตระหนตักรญูคจ้ วามจรอิงของชนวตอิ จนคลายความยถึดมตันในตตั ที่ วตนเสนยกล่อน เชล่น มนหลตักทอิศ 6 ศนล 5 ศนล
8 ฆราวาสธรรม 4 และ ทศพอิธราชธรรม 10 เปป็ นตจ้น ฉะนตันนี้ หากการยถึดถคือวล่ามนตวตั ตนเปรนยบเหมคือน
แกก๊สทนมที่ แน รงดตันสญูงเพราะเปป็ นทนมที่ าของโลภะ โทสะ และโมหะแลจ้ว จรอิยธรรมเหลล่านนนี้กคป็ อคื ตตัวการทนจที่ ะ
ควบคพุมใหจ้แกก๊สในถตังถญูกปลล่อยออกมาอยล่างเหมาะสม ไมล่สรจ้างความเสนยหาย แตล่กลตับจะใหจ้ประโยชนย์แกล่
เจจ้าของแทน
สตัมพตันธภาพระหวล่างพล่อแมล่และลญูกกป็เปป็ นอนกบรอิบทหนถึที่งของชนวตอิ ในสตังคมทนเที่ ปป็ นบล่อเกอิดของ
ความสพุขและความทพุกขย์ระหวล่างสมาชอิกในครอบครตัวไดจ้ ฉะนตันนี้ เพคือที่ ปจ้ องกตันและบรรเทาปญตั หาทนอที่ าจ
เกอิดขถึนนี้ อตันเนคืที่องมาจากการยถึดถคือวล่ามนตวตั ตน พระพพุทธศาสนาจถึงเสนอหลตักจรอิยธรรมชพุดหนถึที่งใหจ้สมาชอิกใน
ครอบครตัวนคาไปปฏอิบตตั อิ จรอิยธรรมชพุดนตันนี้ คคือ “กตตัญญญูกตเวทอิตา” 3 เพราะเชคืที่อวล่าหากครอบครตัวใดมน
จรอิยธรรมชพุดนนนี้กจป็ ะเปป็ นครอบครตัวทนเที่ ขจ้มแขป็งและมนภมญู คอิ มพุจ้ กตันภายใน ดตังพระพพุทธพจนย์ทวที่น ล่า “การ
รรครู้ คุณ(กตตัญญคุตา) และการตอบแทนคคุณ(กตเวททิตา) เปป็ นคคุณธรรมพพพื้นฐานของคนดดี”4 (พระไตรปทิ ฎก
ภาษาไทย, เลล่มทดี ที่ 20, ขรู้อ 277) ฉะนตันนี้ ความกตตัญญญูกตเวทนจงถึ เปป็ นคพุณธรรมสคาคตัญอยล่างหนถึที่งทนทที่ พุกสตังคม
ตล่างมพุล่งหวตังใหจ้เกอิดขถึนนี้ ในจอิตใจของคน
ความสคาคตัญของพตอแมตตามหลตักพระพพุทธศาสนา
ไมล่เพนยงแตล่พระพพุทธศาสนาเทล่านตันนี้ ทนใที่ หจ้ความสคาคตัญตล่อพล่อแมล่ ศาสนาสคาคตัญของโลกตล่าง
ยกยล่องพล่อแมล่ทงตั นี้ สอินนี้ ศาสนาพราหมณย์ -ฮอินดญูสอนใหจ้ลกญู ปฏอิบตตั ตอิ ล่อพล่อแมล่เสมคือนหนถึที่งพระเจจ้า (Taittiriya
Upanishad 1.11.2) ศาสนายญูดาย-ครอิสตย์ สอนใหจ้ลกญู ยกยล่องพล่อแมล่ เพคือที่ จะไดจ้มอน ายพุยนคื ยาวในแผล่นดอินทนที่
พระเจจ้าทรงประทานใหจ้ (Exodus 20.12) ศาสนาออิสลามสอนใหจ้ทาค ดนตล่อบอิดามารดา เมคือที่ ทล่านคนใดคน
หนถึที่งหรคือทตังนี้ สองเขจ้าสญูล่วยตั ชราและอยญูกล่ บตั ลญูก กป็อยล่ากลล่าววล่า “อพุฟ” และอยล่าไดจ้ขเล่ญู ขป็ญพล่อแมล่และจงพญูดกตับ
ทล่านทตังนี้ สองดจ้วยถจ้อยคคาทนอที่ ล่อนโยน (อตัลกคุรอาน 17:23) และศาสนาซอิกซย์สอนวล่า เปป็ นบาปทนจที่ ะโตจ้เถนยงกตับ
พล่อผญูทจ้ เที่น ลนยนี้ งดญูลกญู มาจนเตอิบโต (Sri Guru Grantha Sahib, Sarang, Fourth Mehl, p.1200) ตตัวอยล่าง
เหลล่านนนี้แสดงวล่า การเคารพพล่อแมล่เปป็ นจรอิยธรรมพคืนนี้ ฐานของทพุกวตัฒนธรรม
กลล่าวเฉพาะพระพพุทธศาสนา การยกยล่องพล่อแมล่ปรากฏในพรหมสญูตรแหล่งอตังคพุตตรนอิกายวล่า
1.รญูรู้คณ
พุ (กตตัญญพุตา) : ลญูกควรรญูวจ้ ล่าพล่อแมล่เปป็ นพรหม เปป็ นบญูรพาจารยย์ เปป็ นอาหพุไนยบพุคคล มนอพุปการะมาก
บคารพุงเลนยนี้ งและแสดงโลกนนนี้แกล่บพุตร
2. แทนคพุณ (กตเวทอิตา) : ลญูกควรเอาใจใสล่ ดญูแล เลนยนี้ งดญู ปรนนอิบตตั อิ (บญูชา สตักการะ นมตัสการ)
3. ผลดทีจากการรญูรู้และแทนคพุณ : ขณะมนชวน ตอิ ไดจ้รบตั การสรรเสรอิญจากคนดน หลตังตายไปบตังเกอิดในสวรรคย์
รญูรู้อยตางไรครอการรญูรู้คณ
พุ พตอแมต (กตตัญญพุตา)
ลญูกจะแทนคพุณพตอแมตกตก็ ตอเมรรื่อรญูรู้วตาทตานมทีพระคพุณ ฉะนตันนั้ อตันดตับแรกพระพพุทธศาสนาจจึง
สอนใหรู้ลญูกรญูรู้จกตั บพุญคพุณของพตอแมตกตอน นตันรื่ ครอรญูรู้วตาพตอแมตเปก็ นพรหม เปก็ นบญูรพาจารยท์ และเปก็ นอา
หพุไนยบพุคคลของลญูก ซจึรื่งพระอรรถกถาจารยท์อธร บายความหมายของแตตละคคาไวรู้ โดยเรรรื่ มจากคคา
วตา “พรหม” กตอนดตังนทีนั้
จคา เ ดทิ ม แ ตล่ บคุ ต ร เ กทิ ด แ ลรู้ ว (ม า ร ด า บทิ ด า )ยล่ อ ม ใ หรู้ บคุ ต ร เ รดี ย น วล่ า จ ง
นตังที่ ...ยพน...เดทิน...นอน..เคดีพื้ยว...กทินอยล่างนดีพื้ คนนดีพื้ควรเรดียกวล่าพล่อ ...พดี.ที่ ..นรู้อง ควรทคาสทิงที่ นดีพื้
ไมล่ควรทคาสทิงที่ นดีพื้ ควรเขรู้าไปหาคนชพอที่ โนรู้ น คนชพอที่ โนรู้ นไมล่ควรเขรู้าไปหา (มโนรถปรรณดี,
เลล่มทดี ที่ 3, 2535:157)
(มารดาบทิดา) ยล่อมควรไดรู้ขารู้ วนคพื้าเปป็ นตรู้น ทดีบที่ คุตรจตัดมาเพพอที่ บคารคุง เพพอที่ ตรู้อนรตับ คพอเปป็ นผรรู้
เหมาะสมทดีจที่ ะรตับขรู้าวนคพื้า เปป็ นตรู้น (มโนรถปรรณดี, เลล่มทดี ที่ 3, 2535:158)
อาหพุไนยบพุคคล เปป็ นคพุณสมบตัตขอิ อจ้ หนถึที่งของพระอรอิยสงฆย์ดงตั รายละเอนยดในบทพรรณนาคพุณ
พระสงฆย์หรคือสตังฆคพุณ 9 ฉะนตันนี้ การทนพที่ ระพพุทธเจจ้าตรตัสวล่า พล่อแมล่เปป็ นอาหพุไนยบพุคคล แสดงวล่าทรง
เปรนยบพล่อแมล่วล่าสญูงสล่งเยนยที่ งพระวอิสพุทธอิเทพหรคือพระอรหตันตย์ขณ
น าสพ
โสณนตันทชาดกแหล่งขพุททกนอิกายพรรณนาถถึงอพุปการคพุณของแมล่ทมที่น ตน ล่อลญูกวล่า
ปพุตตสญูตรแหล่งอตังคพุตตรนอิกาย กป็ไดจ้กลล่าวไวจ้ในทคานองเดนยวกตันวล่า
6
ไมล่เพนยงแตล่ลกญู ทนเที่ ปป็ นฆราวาสเทล่านตันนี้ ทนคที่ วรแสดงความกตตัญญญูกตเวทนดวจ้ ยการเลนยนี้ งดญูพอล่ แมล่ แมจ้
เปป็ นพระภอิกษพุพระพพุทธเจจ้ายตังทรงอนพุ ญาตใหจ้เลนยนี้ งดญูพล่อแมล่ไดจ้ในกรณนทจที่น าค เปป็ น โดยถคือวล่า “การเลดีพื้ยงดรพล่อ
แมล่เปป็ นวงศยของบตัณฑทิต” (ชาตกตัฏฐกถา,เลล่มทดี ที่ 9,2535:174 ) เชล่น ในยามพล่อแมล่ขดตั สน เจป็บปวล่ ย หรคือ
ชราภาพ เปป็ นตจ้น ในพระวอินยตั ปอิ ฎกพระพพุทธเจจ้าทรงอนพุ ญาตใหจ้พระภอิกษพุรปญู หนถึที่งแบล่งปนตั ผจ้าทนคที่ นนคามา
ถวายใหจ้แกล่พอล่ แมล่ไดจ้ แตล่ตอจ้ งระวตังไมล่ใหจ้ศรตัทธาของทายกเสนยไป ดตังขจ้อความในจนวรขตันธกะวล่า
รวมความวล่า ทตังนี้ ศรตัทธา ศนล จาคะ และปญตั ญาจะเกอิดขถึนนี้ กป็ตล่อเมคืที่อผญูนจ้ นตั นี้ มนสมตั มาทอิฏฐอิคอคื เหป็น
ชอบตามคลองธรรมกล่อนเทล่านตันนี้ บพุตรทนชที่ ล่วยใหจ้พอล่ แมล่มสน มตั มาทอิฏฐอินนี้น ทางพระพพุทธศาสนาเรนยกวล่า
อตอิชาตบพุตร หรคือบพุตรทนเที่ กอิดมามนคพุณธรรมสญูงกวล่าพล่อแมล่
พระพพุทธเจจ้าเองกป็ทรงกระทคาใหจ้เปป็ นแบบอยล่างของลญูกทนดที่ น กลล่าวคคือ เสดป็จไปทรงแสดงธรรม
โปรดพระพพุทธบอิดา พระพพุทธมารดา และพระประยญูรญาตอิใหจ้ตงตั นี้ อยญูใล่ นคพุณธรรมขตันนี้ สญูงกตันแทบทพุก
พระองคย์ในพรรษากาลทนที่ 7 และทนที่ 15 หลตังจากตรตัสรญูแจ้ ลจ้ว
การตอบแทนพล่อแมล่อกน อยล่างหนถึที่งทนลที่ กญู ควรทคาคคือ การทคาทตักษอิณาทานอพุทศอิ สล่วนกพุศลไปใหจ้พอล่
แมล่หลตังจากทนทที่ ล่านเสนยชนวตอิ ไปแลจ้ว ดตังพระพพุทธพจนย์ในตอิโรกพุฑฑกตัณฑสญูตรวล่า
ผลดทีของการเลทีนั้ยงดญูและผลเสทียของการไมตเลทีนั้ยงดญูพตอแมต
มนขอจ้ ทนนที่ ล่ าสตังเกตวล่า เมคืที่อพระพพุทธเจจ้าตรตัสถถึงผลของความกตตัญญญูกตเวทนตล่อพล่อแมล่จะตรตัส
เฉพาะแตล่ผลดน (อานอิสงสย์) เชล่นเดนยวกตับการผลของการไมล่มคน วามกตตัญญญูกตเวทน กป็จะตรตัสเฉพาะแตล่ผล
เสนย (โทษ) แสดงวล่าความกตตัญญญูกตเวทนตล่อพล่อแมล่ดวจ้ ยปญตั ญามนผลดนโดยสล่วนเดนยว สล่วนการไมล่กตตัญญญู
กตเวทนจะสล่งผลเสนยโดยสล่วนเดนยวเชล่นกตัน ทนจที่ ะกลล่าวตล่อไปนนนี้เปป็ นผลดนและผลเสนยตามทนปที่ รากฏในพระ
ไตรปอิ ฎก
ผลดที
ผลดนกคป็ อคื การเลนยนี้ งดญูพอล่ แมล่เปป็ นการสรจ้างแบบอยล่างทนดที่ ใน หจ้กบตั ลญูก หากยตังมนชวน ตอิ อยญูยล่ อล่ มไดจ้รบตั
การสรรเสรอิญจากผญูรจ้ ญูจ้ และหากตายไปยล่อมไปเกอิดในสวรรคย์
ในสาลอิเกทารชาดก ครตังนี้ พระพพุทธเจจ้าเสวยพระชาตอิเปป็ นพญานกแขกเตจ้า พระองคย์ไดจ้พา
บรอิวารไปกอินขจ้าวสาลนในไรล่ของโกสอิยพราหมณย์ ตล่อมาถญูกจตับไดจ้ ไดจ้ตอบคคาถามของพราหมณย์ทถที่น ามวล่า
ทคาไมไมล่กนอิ เสนยใหจ้อมอิที่ แตล่นที่นยงตั คาบกลตับไปดจ้วยวล่า
ธรรม 4 ประการนดีพื้คอพ อายคุ วรรณะ สคุขะ พละ ยล่อมเจรทิญแกล่ผมรรู้ ปดี กตทิกราบไหวรู้ ผรมรู้ ดี
ปกตทิอล่อนนรู้อมตล่อทล่านผรเรู้ จรทิญเปป็ นนทิตยย (พระไตรปทิ ฎกภาษาไทย, เลล่มทดี ที่ 25, ขรู้อ 18)
ผญูเจ้ จรอิญในทนนที่ นี้นหมายถถึงผญูแจ้ กล่กวล่า ซถึงที่ ยล่อมรวมเอาผญูเจ้ ปป็ นพล่อแมล่ดวจ้ ย
ผลเสทีย
ผลเสนยของการไมล่เลนยนี้ งดญูพล่อแมล่ยอล่ มตรงขจ้ามกตับผลดนดงตั กลล่าวแลจ้วขจ้างตจ้น กลล่าวคคือ อาจไมล่ไดจ้
รตับการเลนยนี้ งดญูตอบแทนจากลญูก เพราะไมล่เคยเหป็นตตัวอยล่างทนพที่ อล่ แมล่เคยทคามากล่อน นอกนตันนี้ กป็จะถญูกสตังคมตอิ
เตนยน มนอนตั ตจ้องสญูญเสนยทรตัพยย์สนอิ เมคืที่อตายไปยล่อมตกนรก พระพพุทธพจนย์ทกที่น ลล่าวถถึงผลเสนยการไมล่เลนยนี้ งดญู
พล่อแมล่มดน งตั นนนี้
บคุตรอตันมารดาบทิดาเลดีพื้ยงดรมาแลรู้วดรู้วยความยากลคาบากอยล่างนดีพื้ ไมล่บคารคุงมารดาบทิดา
บคุตรนตันพื้ ชพอที่ วล่าประพฤตทิผดทิ ในมารดา ยล่อมเขรู้าถพึงนรก บคุตรอตันบทิดาเลดีพื้ยงมาดรู้วยความ
ลคาบากอยล่างนดีพื้ ไมล่บคารคุงมารดาบทิดา บคุตรนตันพื้ ชพอที่ วล่าประพฤตทิผดทิ ในบทิดา ยล่อมเขรู้าถพึง
นรก เราไดรู้สดตับมาวล่า เพราะไมล่บคารคุงมารดา... เพราะไมล่บคารคุงบทิดา แมรู้ทรตัพยยทเดี ที่ กทิด
แกล่บคุตรทตังพื้ หลายผรรู้ ปรารถนาทรตัพยยยอล่ มฉทิบหาย หรพอบคุตรนตันพื้ ยล่อมเขรู้าถพึงความยาก
แครู้น (พระไตรปทิ ฎกภาษาไทย, เลล่มทดี ที่ 28, ขรู้อ 162)
บทสรพุป
การปลญูกฝงตั จรอิยธรรมเกนยที่ วกตับความกตตัญญญูกตเวทนตล่อพล่อแมล่แกล่ลกญู กป็คอคื การทคาใหจ้ลกญู เขจ้าใจวล่า
พล่อแมล่มคน พุณ กลล่าวคคือ เปป็ นพรหม เปป็ นบญูรพาจารยย์ และเปป็ นอาหพุไนยบพุคคลของลญูกและมนการตอบแทน
คพุณจากลญูกเกอิดขถึนนี้ เมคืที่อครบทตังนี้ 2 อยล่างจถึงจะตรงกตับคคาวล่ากตตัญญญูกตเวทน ลญูกทนมที่ คน วามกตตัญญญูกตเวทน จะ
มนบพุคลอิกภาพเหลล่านนนี้ยามปฏอิบตตั ตอิ ล่อพล่อแมล่คอคื อล่อนโยน เหป็นอกเหป็นใจ มนสมตั มาคารวะ สพุภาพ เชคืที่อฟงตั และมน
จอิตสาธารณะ เปป็ นตจ้น ทตังนี้ นนนี้เพราะการยถึดถคือในตตัวตนของลญูกทนมที่ าจากการยถึดถคือขตันธย์ 5 ไดจ้ถญูกกคาราบลง
ใหจ้อยญูล่ภายใตจ้การควบคพุมของกรอบจรอิยธรรม กลล่าวคคือ จอิตสคานถึกทนที่มคน วามกตตัญญญูกตเวทนแทน ตรงกตัน
ขจ้ามกตับ ลญูกทนที่ไมล่มนความกตตัญญญูกตเวทน จะมนบพุคลอิกภาพอนกแบบ เชล่น แขป็งกระดจ้าง ขาดสตัมมาคารวะ
กจ้าวรจ้าว ไมล่เชคืที่อฟงตั ลบหลญูล่ และดคืนี้อรตันนี้ เปป็ นตจ้น ทตังนี้ นนนี้เพราะการยถึดถคือในขตันธย์ 5 วล่ามนตวตั ตน ไดจ้ขวางกตันนี้
การงอกงามของคพุณคพุณธรรมทตังนี้ หลาย ซถึงที่ แนล่ นอนวล่ายล่อมหมายเอาความกตตัญญญูกตเวทนนนี้นดวจ้ ย
แนวคอิดเรคืที่องความกตตัญญญูกตเวทนในพระพพุทธศาสนาเกนยที่ วขจ้องกตับคน 2 ฝล่าย คคือ พล่อแมล่กบตั
ลญูก เปป็ นเรคืที่องของความสคานถึก ไมล่ใชล่การเรนยกรจ้องจากอนกฝาล่ ย ลญูกจะมนความกตตัญญญูกตเวทนตล่อพล่อแมล่กตป็ ล่อ
เมคืที่อเกอิดความสคา นถึ กวล่า พล่อแมล่มคน พุณจรอิงและตนควรจะแทนคพุณ ฉะนตันนี้ เมคืที่อ ใดกป็ตามทนที่กลล่าวถถึงความ
กตตัญญญูกตเวทนทลที่น กญู ควรมน จถึงยล่อมหมายเอาตตัวคพุณธรรมทนบที่ พุรพการน กลล่าวคคือพล่อแมล่มตน ล่อลญูกดจ้วย
จากทนกที่ ลล่าวมาทตังนี้ หมดโดยลคาดตับ กรอบของการปลญูกฝงตั จรอิยธรรมขจ้อกตตัญญญูกตเวทนตล่อพล่อแมล่
ของลญูกตามนตัยพระพพุทธศาสนาเปป็ นดตังนนนี้
บพุคคล คคือเปป็ นผญูเจ้ หมาะสมทนจที่ ะรตับสอิงที่ ของทนลที่ กญู นคามามอบใหจ้ เชล่นเดนยวกตับพระอรอิยเจจ้าเปป็ นผญูสจ้ มควรแกล่
ไทยทานทนทที่ ายกนคามาถวาย
ฉะนตันนี้ สาระสคาคตัญจรอิง ๆ ของการกลล่าววล่าถถึงคพุณธรรมของพล่อแมล่ขาจ้ งตจ้นนนนี้กคป็ อคื การเปป็ น
ตตัวอยล่างทนดที่ ตน ล่อลญูก เขจ้าทคานอง “กลล่าวอยล่างใด ทคาอยล่างนตันพื้ (และ) ทคาอยล่างใด กลล่าวอยล่างนตันพื้ ” (พระ
ไตรปทิ ฎกภาษาไทย, เลล่มทดี ที่ 30, ขรู้อ 480) หากพล่อแมล่มคน พุณธรรมเปป็ นตตัวอยล่างทนดที่ กน ล่อน การจะหวตังใหจ้ลกญู
มองเหป็นความดนแลจ้วแสดงความกตตัญญญูกตเวทนตอบกป็คงเปป็ นเรคืที่องไมล่ยาก เพราะเมคืที่อมองเหป็นคพุณกป็ยอล่ มจะ
มองเหป็นความจคาเปป็ นทนจที่ ะแทนคพุณดจ้วย การรญูคจ้ พุณและการแทนคพุณจะมาจากความรตักและความผญูกพตัน
ระหวล่างกตันซถึงที่ พล่อแมล่ไดจ้แสดงใหจ้ดเญู ปป็ นตตัวอยล่างกล่อน ไมล่ใชล่เกอิดจากการเรนยกรจ้องใหจ้ฝ าล่ ยใดฝาล่ ยหนถึที่งทคาแกล่
ตน นตันคคืที่ อการเหป็นแกล่ตวตั ไมล่ใชล่ความรตัก
4. ความกตตัญญญูกตเวทนในพระพพุทธศาสนาไมล่ไดจ้เปป็ นแบบ “ประกาศอิต” (dogmatism) คคือ
ลญูกมนหนจ้าทนตที่ อจ้ งกจ้มหนจ้ากจ้มตารญูคจ้ พุณและแทนคพุณพล่อแมล่สถานเดนยว แตล่การกลล่าววล่าการตอบแทนคพุณอตัน
ยอิงที่ ยวดคคือการชล่วยเปลนยที่ นจอิตใจพล่อแมล่ใหจ้เปป็ นสตัมมาทอิฏฐอิ และการทนพที่ ระอรรถกถาจารยย์อธอิบายหนจ้าทนขที่ อง
ลญูกตามหลตักทอิศ 6 ขจ้อ “ดคารงศยวงศยสกคุล” วล่า การดคารงวงศย์สกพุลทนดที่ คน อคื การทคาวงศย์สกพุลทนไที่ มล่มศน ลน ธรรมใหจ้มน
ศนลธรรม (สคุมงตั คลวทิลาสทินดี,เลล่มทดี ที่ 3, 2535: 228 ) ขจ้อนนนี้แสดงวล่าการแสดงความกตตัญญญูกตเวทนตล่อพล่อแมล่
ตจ้องใชจ้ปญตั ญารล่วมดจ้วย
5. ความกตตัญญญูกตเวทน สามารถขยายไปสญูล่เรคืที่องอคืที่นๆ ไดจ้ พระพพุทธศาสนาเรนยกผญูมจ้ อน พุปการ-
คพุณกล่อนทนเที่ ราควรรญูคจ้ พุณและแทนคพุณวล่า “บพุรพการน” ฉะนตันนี้ หากพอิจารณาจากสอิงที่ รอบตตัวเราตตังนี้ แตล่เกอิดมากป็
จะเหป็นวล่า บพุรพการนของเราไมล่ไดจ้มเน พนยงพล่อแมล่เทล่านตันนี้ แตล่มคน รญูอาจารยย์ ญาตอิพนที่น จ้อง มอิตรสหาย เพคือที่ นรล่วม
งาน คนอคืที่น ๆ รวมทตังนี้ สตัตวย์ สอิงที่ ของและสถานทนอที่ กน ดจ้วย ขพุททกนอิกายกลล่าววล่า เราควรรญูคจ้ พุณแมจ้กระทตังที่
ตจ้นไมจ้ดวจ้ ย ดตังนนนี้
บคุคคลอาศตัยนตังนอนทดี
ที่ รที่ ล่มเงาของตรู้นไมรู้ใด ไมล่ควรหตักรานกทิงที่ ของตรู้นไมรู้นนตั พื้ เพราะการ
ประทคุษรรู้ายมทิตรเปป็ นความเลวทราม (พระไตรปทิ ฎกภาษาไทย, เลล่มทดี ที่ 26, ขรู้อ 106)
สล่วนการสอนใหจ้กตตัญญญูกตเวทนแมจ้ตล่อสตัตวย์ มนรายละเอนยดตาม “อรรถกถาสนลวนาคชาดก” แหล่ง
ขพุททกนอิกาย (ชาตกตัฏฐกถา,เลล่มทดี ที่ 2, 2535 :144-149) ทนตที่ คาหนอิคนเนรคพุณตล่อชจ้างทนเที่ คยชล่วยเหลคือเขาใหจ้
พจ้นจากการหลงปาล่ วล่าเปป็ นคนอกตตัญญญู
ฉะนตันนี้ จากการสอนใหจ้รคญูจ้ พุณบพุรพการน เราสามารถนคาหลตักกตตัญญญูกตเวทนมาปรตับใชจ้และชล่วย
แกจ้ไขปญตั หาใหจ้กบตั สตังคมปจตั จพุบนตั ไดจ้ เชล่น เมคืที่อทราบวล่าสอิงที่ แวดลจ้อมมนคพุณแกล่เรา กป็ไมล่ควรจะเบนยดเบนยน
และทคาลายสอิงที่ แวดลจ้อม หรคือนคามาสล่งเสรอิมคล่านอิยมการเลนยนี้ งดญูพอล่ แมล่แทนการพถึงที่ พาสวตัสดอิการจากรตัฐฝ าล่ ย
เดนยว เพคือที่ บรรเทาปญตั หาสตังคมผญูสจ้ งญู อายพุทนที่น บตั วตันจะเปป็ นภาระของสตังคมมากขถึนนี้ เปป็ นตจ้น
บรรณานพุกรม
ภาษาไทย
ชาตกตัฏฐกถา (อรรถกถาชาดก) ฉบตับสยามรตัฐ. เลล่มทนที่ 2,9. 2535. กรพุงเทพมหานคร:โรงพอิมพย์
มหามกพุฏราชวอิทยาลตัย.
อิ าณโรจนย์ . 2556. “ปจตั จตัยทนมที่ ผน ลตล่อการเขจ้าวตัดของเยาวชนในเขตอคาเภอเมคือง
พงศย์ธนภตัทร นอิธญ
จตังหวตัดสมพุทรปราการ”, วร ทยานรพนธท์ศาสนศาสตรดพุษฎทีบณ ตั ฑร ต สาขาพพุทธศาสนท์
ศจึกษา. ศาลายา : บตัณฑอิตวอิทยาลตัย มหาวอิทยาลตัยมกพุฏราชวอิทยาลตัย.
พระมหาคตัมภทีรอท์ ลตั กพุรอาน พรรู้อมคคาแปลภาษาไทย. ม.ป.ป. กรพุงเทพมหานคร: สมาคม
นตักเรนยนเกล่าอาหรตับ.
13