You are on page 1of 14

เข้าใจสเตนเลส ไม่ยากอย่างทีค

่ ด

สวัสดีครับผูท ้ ส
ี่ นใจสเตนเลส และกาลังคิดว่าจะใช้สเตนเลสทุกท่าน นับได้วา่ เป็ นความโชคดี สาหรับหลาย ๆ
คนทีต ่ ด
ิ ตามอ่านบทความของผมมาตลอด และหลายคนก็พยายามหาบทความนี้ มาสะสมเก็บไว้เพือ ่ ทีจ่ ะนาไปเพิม
่ พูนความรู ้
ใช้แก้ปญ ั หาต่าง ๆ รวมไปถึงใช้ในการอธิบายให้ลูกค้า ทีม่ าติดต่อสั่งงานกับเรา ได้มค
ี วามเข้าใจ ง่าย กระชับ
้ ตามมาในเวลาอันใกล้ หรือ สักระยะหนึ่ง ข้อดีก็คือจะได้ลดต้นทุน เพิม
อีกทัง้ เป็ นการลดปัญหาทีจ่ ะเกิดขึน ่ กาไร
และลดการขาดทุนจากการรูเ้ ท่าไม่ถงึ การณ์ น่ น ั เอง ผมต้องขอขอบคุณหลาย ๆ ท่านทีใ่ ห้การสนับสนุ น
ให้เกิดบทความในลักษณะนี้ ออกมา และหวังว่าหลาย ๆ ท่านทีต ่ อ
้ งการสะสมความรู ้ สามารถรวบรวมกันอีกครัง้
โดยไม่พลาดโอกาสอีกแล้ว

วันนี้ เราจะมาทาความเข้าใจ เกีย่ วกับสเตนเลสกันก่อน เรียกว่าเริม ่ รูก


้ น
ั ตัง้ แต่ชน
้ ั ประถมกันก่อน “สเตนเลส คืออะไร” ...........
สเตนเลส มีชือ ่ อีกอย่างหนึ่งว่า “เหล็กกล้าไร้สนิม” เป็ นธาตุผสมกันระหว่าง “เหล็ก” และ “โครเมีย่ ม” หลายคนเคยถามผมว่า
ธาตุสเตนเลสมีไหม เพราะเคยได้อา่ นจากเอกสารการค้าบางผลิตภัณฑ์ !!!! คาตอบคือไม่มค ี รับ
ไม่มีธาตุสเตนเลสอยูใ่ นตารางธาตุเลย ไม่เหมือนกับหลาย ๆธาตุ เช่น ธาตุทองแดง ธาตุเงิน ธาตุนิเกิล ฯลฯ ซึง่ เป็ นธาตุเดีย่ ว
ซึง่ จะนามาผสมกับธาตุอน ื่ ๆ ก็ได้ ในการปรับปรุงคุณภาพ เพือ ่ ประยุกต์กบั การนาไปใช้งาน ในลักษณะทีแ ่ ตกต่างกัน

จะเห็นได้วา่ “สเตนเลส” นัน


้ ทีก่ ล่าวมาข้างต้น มีเพียงแค่สองธาตุ คือ เหล็ก กับโครเมี่ยม เป็ นหลักก็สามารถบอกได้วา่
นั่นคือสเตนเลสแล้ว แต่จะมีตวั กาหนดว่า ถ้าเป็ นสเตนเลสได้นน ้ ั ปริมาณคาร์บอนทีผ่ สมอยู่ จะต้องน้อยว่า 0.1 %
และส่วนผสมของโครเมีย่ มจะต้องไม่น้อยกว่า 10.5% ครับ โดยหลายคนมีความเข้าใจทีไ่ ม่ถูกต้องว่า สเตนเลสจะต้องมีนิเกิล 8%
เสมอ ขอให้พวกเรามาติดตามอ่านบทความทีผ ่ มเขียนนี้ จะออกมาเป็ นรายสัปดาห์ ๆ ละฉบับ แล้วท่านจะเก่งกว่าใคร ๆ ทีต
่ กข่าวนี้
มีคาถามว่า ทาไมสเตนเลส ถึงป้ องกันสนิมได้ จะเป็ นอย่างไร กับอาการ “สเตนเลสตาย” ตายอย่างไร ทาไมถึงตาย

สเตนเลสเองเปรียบเสมือนกับคนอย่างเรา ๆ นี่เองครับ ถามว่าแล้วเหมือนกันตรงไหน คนเรานัน ้ ต้องการอากาศใช้ในการหายใจ


เพือ่ ดารงชีวต ิ ในอากาศจะประกอบด้วยก๊าซต่าง ๆ หลายชนิด แต่มีตวั หนึ่งคือ ”ก๊าซอ๊อกซิเจน” เป็ นตัวสาคัญทีส ่ ด

เพราะร่างกายมนุ ษย์เราต้องการมัน เพือ ่ ไปฟอกเม็ดเลือด เช่นเดียวกับสเตนเลส ก็ตอ ้ งการอ๊อกซิเจน
มาทาปฎิกริยากับโครเมีย่ มทีผ ่ สมอยูใ่ นเนื้ อสเตนเลส ทาให้เกิดฟิ มล์บาง ๆ ใส ๆ มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นครับ ซึง่ ทางโลหะวิทยา
จะเรียกฟิ มล์ตวั นี้ วา่ “Passive film” (พาสซิฟ ฟิ มล์) ซึง่ เป็ นตัวช่วยป้ องกันการกัดกร่อนของสเตนเลสนั่นเอง (สนิม)
้ โดยธรรมชาติ เมือ
ฟิ มล์นี้จะเกิดขึน ่ อากาศสัมผัสกับผิวของสเตนเลส โดยสเตนเลสทุกเกรด ไม่วา่ เกรดสูง หรือเกรดตา่
จะสร้างฟิ ลม์ได้ทง้ ั สิน้ ฟิ มล์นี้สามารถหลุดออกได้ เมือ ่ เกิดการกระแทก กระเทาะ ตัด เจียร แต่ก็จะสร้างขึน้ ใหม่เมือ ่ โดยอากาศอีกครัง้

ความแตกต่างระหว่างเหล็ก กับสเตนเลส เมือ


่ ทาปฎิกริยากับผิวโลหะทัง้ สองเป็ นอย่างไร ต่างกันตรงไหน ลองดูรูปด้านล่างครับ

เราจะเห็นได้วา่ เมือ
่ เหล็กทาปฎิกริยากับอ๊อกซิเจนในอากาศ จะทาให้เกิด สนิมสีแดง เรียกว่า “เฟอริคอ๊อคไซด์ “
ทาให้เหล็กเกิดการผุกร่อนชารุดเสียหาย การป้ องกันการผุกร่อนของเหล็ก คือ ทา-พ่นสี ชโลมน้ามัน จารบี รมดา ชุปโครเมีย่ ม ฯลฯ
นั่นแสดงให้เห็นว่าเหล็กนัน้ ไม่ชอบอากาศ หรืออ๊อกซิเจนครับ ฉบับหน้าเรามาดูตอ่ กันว่าแล้วสเตนเลสล่ะ เป็ นอย่างไร

เหล็กเป็ นสนิมได้เพราะเกิดการทาปฎิกริยาของอ๊อกซิเจนในอากาศ แม้กระทั่งนาเหล็กไปแช่ในน้าก็เป็ นสนิมได้


เพราะอย่าลืมว่าในน้าก็มีออ ๊ กซิเจนเหมือนกัน คราวนี้ สเตนเลสล่ะ เราต้องอย่าปิ ดกัน้ ไม่ให้ผวิ สเตนเลสขาดอ๊อกซิเจน
เพือ่ เขาจะได้สร้างฟิ มล์ป้องกันสนิม การทาน้ามัน พ่นสี ติดสติกเกอร์ ต้องหลีกเลีย่ งครับ แล้วถ้านาสเตนเลสไปแช่น้าล่ะ
เป็ นสนิมไหม คาตอบก็คือไม่เป็ นครับ เพราะอ๊อกซิเจนในน้าก็ทาปฎิกริยากับผิวสเตนเลสเช่นกัน
มิฉนัน
้ แล้วถังน้าสเตนเลสก็ขายกันไม่ได้แน่ นอน ยกเว้นอย่าน้าไปใช้กบั น้ากร่อย น้าเค็ม น้าเปรี้ยว เกิดสนิมแน่ นอน
แล้วผมจะเล่าให้ฟงั

โครเมีย่ มจะเป็ นตัวช่วยหลัก เพือ ่ ไม่ให้เกิดอ๊อกไซด์ (สนิม) ซึง่ สเตนเลสในตระกูล 400 (สเตนเลสทีม ่ ีเลข 4 นาหน้าโค๊ดทัง้ หมด)
ซึง่ ไม่มีธาตุนิเกิลผสมอยูเ่ ลย และทีใ่ ช้กน
ั อยู่ เช่น สเตนเลสเกรด 444, 430, 430Ti, 439, 409,409L, 420J1, 420J2 เป็ นต้น
ขอยกตัวอย่าง สเตนเลสเกรด 430 ซึง่ จะประกอบไปด้วย เหล็ก คาร์บอน และโครเมีย่ ม ที่ 17% ถ้าเราดูจากโค๊ดจะเขียนว่า 17-0
นั่นหมายความว่า มีโครเมีย่ มอยู่ 17% และนิเกิล 0% และเช่นเดียวกันถ้าเราเห็นโค๊ด 18-8, 18-9, 18-10 ถ้า 18-8 นั่นหมายความว่า
โครเมีย่ ม 18% และ นิเกิล 8% ครับ ซึง่ อยูใ่ นตระกูล 300 (สเตนเลสทีโ่ ค๊ดใช้เลข 3 ขึน้ ก่อนหน้าทัง้ หมด)

บางคนก็เลยคิดว่า ในเมือ่ โครเมีย่ มเป็ นตัวช่วยป้ องกันการเกิดสนิม ก็ใช้เหล็กชุบโครเมีย่ มดีกว่า ถูกกว่าสเตนเลสเยอะเชียว


ผมจะเปรียบเทียบให้เข้าใจอย่างง่าย ๆ ครับ หลายคนคงเคยทานไอศรีมวลิลาเคลือบช๊อคโกแล๊ต
เมือ
่ เรากัดเอาช๊อคโกแลตทีเ่ คลือบออกก็จะเห็นวลิลา เปรียบเสมือนเหล็กชุปโครเมีย่ ม
ถ้าโครเมีย่ มไม่กระเทาะออกก็จะไม่เห็นเนื้ อเหล็กนั่นเอง แต่ทเี่ ห็นเหล็กชุบโครเมีย่ มเป็ นสนิมนัน
้ เนื่องมาจากการเติมผิวเหล็ก
ก่อนนาไปชุปโครเมีย่ มสอาดไม่เพียงพอครับ

คราวนี้ เรามาเปรียบเทียบสเตนเลสกันบ้าง ผมจะเปรียบเสมือนน้าแตงโมปั่น ระหว่างเนื้ อแตงโมกับน้าแข็ง มาปั่นรวมกัน


เราไม่สามารถแยกเนื้ อแตงโมออกจากน้าแข็งได้เลย ทุกครัง้ ทีห
่ ยิบก็ตอ
้ งมีแตงโมและน้าแข็ง
ในสเตนเลสก็เหมือนกันโครเมีย่ มถูกผสมในเหล็ก ในขณะทีเ่ หล็กเป็ นของเหลว
โดยโครเมีย่ มจะผสมไปทั่วทุกอณู ของน้าเหล็กเลยครับ

จะเห็นได้วา่ ระหว่างเหล็กชุบโครเมีย่ ม กับสเตนเลสแตกต่างกันถึงแม้วา่ จะมีเหล็ก และโครงเมีย่ มเป็ นองค์ประกอบเหมือน ๆ กันครับ


สนิมของเหล็กจะมีความพรุนลักษณะคล้ายกับฟองน้า การเกิดสนิมจะเกิดขึน ้ ทีช
่ น
้ ั แรกทีท
่ าปฎิกริยากับอ๊อกซิเจนในอากาศก่อน
แล้วจะกินลงไปเป็ นชัน ้ ๆ จนกระทั่งหมดเนื้ อเหล็ก ถ้าเราไม่หยุดยัง้ ไว้ น้าหนักของเหล็กจะเบาลงเรือ ่ ย ๆ และชัน ้ สนิมจะเป็ นแผ่น ๆ
เหมือนขนมชัน ้ ครับ ต่างกับสเตนเลส ถ้าหากเกิดสนิมขึน ้ เป็ นจุด ๆ วิธีการตรวจสอบว่าเป็ นสนิมระดับไหน ให้เพือ ่ นๆ
ใช้ปลายเล็บขูดไปทีต ่ วั สนิมให้หลุดออก และมองดู ณ.จุดทีส ้ นัน
่ นิมขึน ้ ว่ายังคงมีจุดรอยสนิมหรือไม่
ถ้าไม่มีแสดงว่าอาจจะเป็ นเศษเหล็ก ฝุ่ นเหล็กปลิวมาเกาะ ทาให้เศษเหล็กนัน ้ เป็ นสนิม
ซึง่ มาจากการถ่ายกระแสไฟฟ้ าสถิตย์ระหว่างสเตนเลส กับเศษเหล็กทาให้เกิดสนิมนั่นเอง เพราะฉะนัน ้ ใครทีม
่ ีประตู รัว้ สเตนเลส
อย่านาตะข่ายกรงไก่ไปมัดกัน ้ ไปให้น้องหมา น้องแมวเข้าออกจากบ้านเป็ นอันขาด
เพราะจะทาให้งานสเตนเลสของคุณเป็ นสนิมไปด้วย ควรใช้เป็ นตะข่ายแบบพลาสติกจะดีกว่าครับ
แต่ถา้ มีจุดดา ๆ หรือสีแดง ๆ เรียกว่าสนิมรูเข็ม แสดงว่าสนิมเริม ่ ก่อตัวทีผ
่ วิ สเตนเลส
และคราวนี้ ขน ึ้ อยูก
่ บั ว่าสนิมนัน ้ นานเท่าไร เพราะสนิมของสเตนเลสจะต่างกับเหล็กก็คือ จะเจาะลงแนวลึก
้ เกิดขึน
และจะเป็ นโพรงสนิมอยูภ ่ ายในเนื้ อสเตนเลส ลักษณะคล้ายกับโพรงหนู ตามรูปด้านล่าง

คราวนี้ผมคิดว่าเพือ
่ น ๆ นัน
้ เข้าใจแล้วระหว่างเหล็ก กับสเตนเลสแตกต่างกันอย่างไร การเกิดสนิมเป็ นอย่างไร
ภาพด้านบนนัน ้ จะเป็ นภาพจริงลักษณะสนิมของสเตนเลสทีเ่ ป็ นแบบโพรงหนู ซึง่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนื อ
ภาควิชาเทคโนโลยีการกัดกร่อนได้ทาภาพตัดของจริงมาดูกน ั ครับ

จากภาพด้านล่างนี้จะทาให้เพือ ้ ว่าสนิมเหล็กทีว่ า่ สนิมจะเป็ นชัน


่ น ๆ เข้าใจมากขึน ้ ๆ เพราะเวลาเราเคาะเหล็กทีเ่ ป็ นสนิม
จะเห็นว่าสนิมจะหลุดออกมาเป็ นแผ่น ๆ แต่สเตนเลสสนิมจะถูกเจาะเป็ นโพรง ตามรูปครับ

ต่อไปนี้ เราจะมารูก
้ น
ั ว่าสเตนเลสนัน ้ ทีว่ า่ เป็ นโลหะผสมในกลุม
่ อัลลอยล์นน
้ ั มีเฉพาะธาตุเหล็ก กับธาตุโครเมีย่ มเท่านัน
้ หรือ
คาตอบคือไม่ใช่แต่ยงั จะมีธาตุอน ื่ ๆ อีกหลายชนิดทีจ่ ะเป็ นการเพิม ่ คุณสมบัตบ ิ างประการให้กบั สเตนเลสในแต่ละเกรดครับ
เราตามมาเพิม ่ ความรูด้ ว้ ยกันครับ

ต่อไปนี้ เราจะมารูก
้ น
ั ว่าสเตนเลสนัน ้ ทีว่ า่ เป็ นโลหะผสมในกลุม
่ อัลลอยล์นน
้ ั มีเฉพาะธาตุเหล็ก กับธาตุโครเมีย่ มเท่านัน
้ หรือ
คาตอบคือไม่ใช่แต่ยงั จะมีธาตุอน ื่ ๆ อีกหลายชนิดทีจ่ ะเป็ นการเพิม ่ คุณสมบัตบ ิ างประการให้กบั สเตนเลสในแต่ละเกรดครับ
เราตามมาเพิม ่ ความรูด้ ว้ ยกันครับ
คาร์บอน (Carbon), C

จากข้อมูลทีไ่ ด้อา่ นผ่านมาข้างต้น จะเห็นได้วา่ คาร์บอน จะถูกผสมอยูใ่ นเนื้ อโลหะ ตัวอย่างเช่น


เหล็กมีสว่ นผสมของคาร์บอนอยูจ่ ะทาให้มีความแข็ง ยิง่ มีมากยิง่ แข็งมาก แต่จะมีความเปราะ ลองเปรียบเทียบกับ เพชรนะครับ
เพชรมีความแข็งมากทีส ่ ด
ุ ในกลุม่ วัสดุ แต่จะมีความเปราะ เมือ่ ตกกระแทกหรือร่วงหล่นลงพื้น ก็จะแตกหักได้งา่ ยนั่นเอง
ในตัวสเตนเลสเองจะมีการควบคุมปริมาณคาร์บอนอยู่ โดยทั่วไปจะไม่ให้เกิน 0.1 %
ในสเตนเลสทั่วไปหรือสามารถจะควบคุมให้ตา่ ลงเหลือเพียง 0.03% ซึง่ อยูใ่ นจาพวกทีม ่ ี L ต่อท้ายนั่นเอง
แต่วา่ สเตนเลสบางเกรดนัน ้ มีความประสงค์ตอ ้ งการใช้คุณสมบัตด ิ า้ นความแข็งมาใช้ ก็จะให้คาร์บอนทีผ ่ สมอยูม
่ ากกว่า 0.1%
อย่างเช่น ใบมีดโกน มีดหมอผ่าตัด มีดแมกไกเวอร์ ฯลฯ.

โครเมีย่ ม (Chromium), Cr
โครเมีย่ มเป็ นส่วนผสมหลักในเนื้ อของสเตนเลส โดยจะผสมลงในน้าเหล็กและธาตุโครเมีย่ มนี้
จากทดลองและวิเคราะห์วจิ ยั ข้อมูลของ A J Sedriks ได้สรุปผลวิเคราะห์วา่ เมือ ่ เติมโครเมีย่ มลงไปในเนื้ อเหล็กอย่างน้อย 10.5 %
จะสามารถลดการสูญเสียน้าหนักของโลหะได้ นั่นหมายความว่าเหล็กกล้าผสมโครเมีย่ มนี้มค ี วามสามารถป้ องการการกัดกร่อนได้
(Resistance corrosion) ธาตุโครเมีย่ มนี้จะเป็ นตัวทีจ่ ะป้ องกันการกัดกร่อนได้ ซึง่ ในความเป็ นจริงแล้ว สเตนเลสหลายๆ
เกรดก็ไม่ได้ผสมธาตุโครเมีย่ มตามทฤษฏี คือ 10.5 % ส่วนมากจะผสมมากกว่านัน ้
แล้วแต่คุณสมบัตห ิ รือวัตถุประสงค์ของการใช้งานนั่นเอง

นิเกิล (Nikle),Ni
นิเกิลเป็ ธาตุอีกตัวหนึ่งทีใ่ ช้ผสมลงในเนื้ อสเตนเลสบางเกรด แต่ไม่ใช่ทง้ ั หมด สเตนเลสบางตระกูลก็ไม่ใช่นิเกิลเป็ นส่วนผสมเลย เช่น
ตระกูล 400 ซึง่ จะไม่มีธาตุตวั นี้ เป็ นส่วนประกอบอยู่ เหล็กกล้าผสมเมือ ่ เติมธาตุนิเกิลลงไป
ก็จะทาให้โครงสร้างภายในเป็ นออสเตนไนท์ ทีอ ่ ุณหภูมห ิ อ
้ ง ฟังแล้วช่างหรือผูอ
้ อกแบบหลายคนเริม ่ จะปวดหัวขึน ้ มา
พอจะอธิบายง่าย ๆ ว่า เมือ ่ เติมธาตุนิเกิลลงไปในสเตนเลสบางตระกูล ตัวอย่างเช่น ตระกูล 300 ก็จะทาให้สเตนเลสนัน ้
ไม่มีการตอบสนองกับการดูดของแรงแม่เหล็กนั่นเอง ขอยกบางกรณีของสเตนเลส เกรด 430 ขึน ้ มาให้มองเห็นภาพง่ายขึน ้
สเตนเลสตัวนี้จะไม่มีธาตุนิเกิลเป็ นส่วนประกอบเลย โดยจะมีการผสมระหว่างเหล็ก กับโครเมีย่ ม ประมาณ 17%
(ส่วนประกอบย่อยธาตุตวั อืน ่ ๆ จะไม่กล่าวถึงในทีน ่ ี้) สเตนเลสเกรดนี้จะมีปฏิกริ ยิ าตอบสนองกับแรงดูดของแม่เหล็ก
คล้ายกับเหล็กทั่วไป แต่เมือ ่ เราเติมธาตุนิเกิลผสมลงไป ตัวอย่างเช่น 8 % ก็จะทาให้สเตนเลสตัวนี้ เปลีย่ นจากตระกูล 400 เป็ นตระกูล
300 คือสเตนเลสเกรด 304 (มีโครเมีย่ ม 18 % และนิเกิล 8 %) ซึง่ เป็ นสเตนเลสทีแ ่ ม่เหล็กดูดไม่ตด ิ นั่นเอง
และถ้าเราแยกธาตุนิเกิลออกมา สเตนเลสตัวนี้ กจ็ ะมีปฏิกริ ยิ าต่อแรงดูดของแม่เหล็กทันที ยังมีอีกประการหนึ่งก็คือ
สเตนเลสทีเ่ ติมธาตุนิเกิลลงไปจะทาให้งา่ ยต่อการขึน ้ รูป เช่นการปั้มขึน ้ รูปภาชนะต่าง ๆ อ่างล้างจาน ฯลฯ เป็ นต้น
เพราะจะมีความสามารถในการยึดตัวสูง (Elongation) ส่วนการป้ องกันการกัดกร่อนนัน ้ ก็จะเป็ นตัวช่วยเพิม ้ บ้าง
่ ขึน

แมงกานิส (Manganese), Mn
ธาตุนี้เป็ นส่วนผสมของสเตนเลสทุกเกรด แต่จะเป็ นส่วนประกอบหลักหรือส่วนประกอบย่อยนัน ่ งหนึ่ง
้ คงเป็ นอีกเรือ
ธาตุแมงกานิสนี้จะมีคุณสมบัตบิ างประการมีม
่ ีความคล้ายคลึงกับธาตุนิเกิล ก็คือ เมื่อเติมธาตุแมงกานิสผสมลงไปในเหล็กกล้าผสม
ตัวอย่างเช่น 5 – 9 % ในตระกูล 200 จะทาให้สเตนเลสตัวนี้ แม่เหล็กดูดไม่ตด ิ เหมือนกับสเตนเลสทีเ่ ติมธาตุนิเกิลลงไปนั่นเอง
แต่ธาตุแมงกานิสเมือ ่ ผสมเติมลงไปนัน้ จะทาให้สเตนเลสมีคา่ ความแข็งเพิม ้ และยากต่อการนามาขึน
่ ขึน ้ รูป
เพราะฉะนัน ้ สเตนเลสทีม ่ ีการผสมเติมธาตุแมงกานิสนัน ้ ก็จะต้องเติมธาตุนิเกิลลงไปด้วย เพือ ่ ทาให้สเตนทีใ่ ช้ธาตุแมงกานิส
เป็ นองค์ประกอบหลัก ลดค่าความแข็งลง เมือ ้ รูปก็จะไม่เกิดการแตกนั่นเอง ในความคิดของ กนก ไร้สนิม คิดว่า
่ นาไปปั้มขึน
สเตนเลสทีเ่ ติมธาตุแมงกานิสเป็ นองค์ประกอบหลักนัน ้ เพือ่ เพิม
่ คุณค่าทางใจมากกว่า เพราะว่า
เรามีความเชือ ่ กันว่าสเตนเลสทีไ่ ม่มีปฏิกริ ยิ าต่อแรงดูดของแม่เหล็กนัน ้ เป็ นสเตนเลสทีด ่ ี
(สมัยในอดีตคนญีป ่ ุ่ นได้นาสเตนเลสเข้ามาจาหน่ าย โดยไม่รวู ้ า่ จะทาให้คนไทยนัน ้ สามารถแยกระหว่างเหล็กทั่วไปและสเตนเลส
ซึง่ จะใช้วธิ ีทดสอบโดยนาแม่เหล็กมาเป็ นดัชนี ตวั ชี้วดั ว่า สเตนเลสต่างกับเหล็กอย่างไร และเราก็มค ี วามเชือ ่ กันมานานมาก ๆ
เรียกว่าเข้าไปอยูใ่ นสมองส่วนลึกของเราเลยล่ะ) ก็เลยทาให้หลาย ๆ คนไม่รวู ้ า่ จะอธิบายให้ผส ู้ นใจทีจ่ ะนาสเตนเลสไปใช้งาน
หรือลูกค้าฟังอย่างไร จุดเดียวทีจ่ ะง่ายทีส ่ ุด และมองเห็นก็คือ นาแม่เหล็กมาดูดนั่นเอง แต่ กนก ไร้สนิม มีความคิดเห็นว่า
เดีย๋ วนี้มน
ั ใช้ไม่ได้แล้ว เพราะสเตนเลสทีแ ่ ม่เหล็กดูดติด เดีย๋ วนี้ ก็มม
ี าก จึงยากทีจ่ ะเชือ
่ ใจได้วา่ โลหะทีม ่ องเห็นอยูข่ า้ งหน้า
ใช่สเตนเลสหรือไม่

โมลิเดนั่ม (Molybdenum), Mo
โมลิเดนั่มเป็ นธาตุ ๆ หนึ่งทีเ่ ป็ นส่วนประกอบของสเตนเลสบางเกรด หน้าทีข ่ องโมลิเดนั่ม
เมือ ่ ถูกผสมลงไปในเนื้ อของสเตนเลสจะช่วยทาให้ เพิม ่ ความต้านทานกัดกร่อนแบบรูเข็ม หลาย ๆ คนคงสงสัยว่า
การกัดกร่อนแบบรูเข็ม เป็ นอย่างไร ให้อา่ นไปเรือ ่ ย ๆ จนว่าว่าด้วยเรือ ่ งของการกัดกร่อนทีเ่ กิดกับสเตนเลส
คิดว่าคงจะเข้าใจไม่ยากนัก โมลิเดนั่มในสเตนเลสบางเกรด เช่น ตระกูล 300 คือ 316 และ 316L หรือ ตระกูล 400 เช่น 444
ซึง่ มีสว่ นประกอบของโมลิเดนั่ม ประมาณ 2 % สามารถป้ องกันและยับยัง้ การกัดกร่อนทีเ่ กิดจากพวกครอไรด์ได้ ครอไรด์อยูท ่ ไี่ หน
ถ้าตามธรรมชาติกค ็ ือ ตามชายทะเล ไอเค็มจากทะเล หรือถ้าไม่มาจากธรรมชาติ ก็จาพวกครอรีนทีผ ่ สมไว้ในน้าในสระว่ายน้านั่นเอง
ครอไรด์ จะมีสต ู รทางเคมี คือ “Cl” นั่นเอง เพราะฉะนั่นเราควรพิจารณาว่า
งานสเตนเลสของเราได้ถูกนาไปใช้ในสภาพแวคล้อมทีค ่ รอไรด์หรือไม่
ก่อนตัดสินใจเสนองานสเตนเลสกับลูกค้าเพราะเมือ ่ เกิดปัญหาขึน ้ มาลูกค้าเขาไม่สนใจว่าเกิดจากวัตถุดบ ิ หรือ อะไรก็ตาม
แต่ลูกค้าต้องการว่าจะไม่เป็ นสนิมเกิดขึน ้ ในระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 ปี ก็จะทาให้ชา่ งสเตนเลส หรือผูผ ้ ลิตเกิดปัญหาการเครม หรือ
ให้เปลีย่ นวัสดุตวั ใหม่แทน นั่นเป็ นค่าใช้จา่ ยทีส
่ ูงทีเ่ ดียว อีกทัง้ เสียชือ
่ เสียงทีไ่ ด้สะสมมาจากในอดีต เพราะรูเ้ ท่าไม่ถงึ การณ์
หรือไม่ศก ึ ษาถึงตัวสเตนเลสแต่ละตัวก่อนนั่นเอง

ไททาเนี่ยม (Titanium), Ti

ไททาเนี่ยมเป็ นโลหะชนิดหนึ่งทีม ่ ีน้าหนักเบา แต่มค ี วามแข็งมากกว่าสเตนเลส โดยจะถูกนามาผสมกับโลหะตัวอืน ่ ๆ เช่นอลูมเิ นี่ยม


ทีน ่ าไปใช้ผลิตลาตัวเครือ ่ งบิน ซึง่ สามารถทนต่อแรงกดดันของบรรยากาศสูง
อีกทัง้ ทนทานทัง้ ความร้อนและความเย็นต่ากว่าศูนย์องศาได้ดี หรือนาไปทาท่อไททาเนี่ยมทีใ่ ช้ผลิตหลอดน้าของตัวคอนเดนเซอร์
ฮีทเอ็กเช็นเจอร์ (Condenser or heat exchanger) ในโรงงานไฟฟ้ านิวเครียร์ ในปัจจุบน ั
แต่ทาไม่ตอ ่ งนาไททาเนี่มมาเป็ นส่วนผสมในสเตนเลสบางตระกูล หรือบางเกรด เช่นตระกูล 400 ตัวอย่างเช่น เกรด 430Ti,
439,409 เป็ นต้น เพราะคุณสมบัตข ิ องไททาเนี่ยมจะสามารถช่วยในเรือ ่ งของการปรับปรุงเชือ ่ มของสเตนเลสได้ดี
เพราะว่าสเตนเลสตระกูล 400 นัน ้ จะมีปญ ั หาเรือ่ งของการเชือ่ ม เช่นสเตนเลสเกรด 430 เมือ่ นามาเชือ ่ ม จะเกิดโครเมีย่ มคาร์ไบด์
บริเวณรอยเชือ ่ มจากทาให้เกิดการแตก และสูญเสียโครเมีย่ มบริเวณรอยเชือ ่ ม ทาให้ลดคุณสมบัตค ิ วามต้านทานการกัดกร่อนลง
ซึง่ ไม่เป็ นผลดีกบั สเตนเลสเลย จึงได้มีการพัฒนาโดยผสมไททาเนี่นมลงไปในเนื้ อสเตนเลส
เพือ ่ เพิม
่ คุณสมบัตค ิ วามสามารถในการเชือ ่ ม โดยจะป้ องกันการเกิดโครเมีย่ มคารไบด์ ในบริเวณรอยเชือ ่ มนั่นเอง
นอกจากนัน ้ ไททาเนี่ยมอย่างทีก ่ ล่าวในตอนต้นว่า
มีความสามารถต่องานทีต ่ อ
้ งทนความร้อนทีส ่ ูงและมีความร้อนต่อเนื่องในขณะใช้งานของอุปกรณ์ บางชนิด เช่น สเตนเลส เกรด 409
หรือ 409L นัน ้ จะถูกนามาใช้ทาท่อเฮดเดอร์ ของเครือ ่ งยนต์ในปัจจุบนั บนท้องถนนทีว่ งิ่ กันมากมาย ราวกับมดดาบนลานปูน
ไททาเนี่ยมเป็ นโลหะทีม ่ ีราคาแพง เมือ ่ นาไปผสมกับโลหะอืน ้ ตัวอย่างง่าย ๆ และใกล้ตวั ทีส
่ ก็จะทาให้มรี าคาสูงขึน ่ ดุ ก็คือ
กรอบแว่นตาของเรา ทีไ่ ททาเนี่ยมผสมอยู่ จะเห็นได้วา่ มีน้าหนักเบากว่า กรอบโลหะทั่วไป และแพงกว่าอีกด้วย

ไนโอเบีย่ ม (Niobium), Nb

ไนโอเบีย่ มก็จะมีลกั ษณะทีค


่ ล้ายกับ ไททาเนี่ยมทีใ่ ช้ผสมลงในเนื้ อสเตนเลสบางเกรดเพือ
่ ช่วยในเรือ
่ งของการเชือ
่ มประสานสเตนเลส

ทองแดง (Copper), Cu
ทองแดงจัดว่าเป็ นโลหะชนิดหนึ่ง ซึง่ สามารถนามาผสมลงในเนื้ อสเตนเลสได้
สามารถช่วยเพิม ่ ในเรือ
่ งของความต้านทานการกัดกร่อนต่อสเตนเลสด้วย
เพราะสเตนเลสบางตัวซึง่ เป็ นสเตนเลสชนิดใช้ภายในอาคาร หรือบริเวณทีป ่ ลอดมลภวะของสารเคมีตา่ ง ๆ
ซึง่ มีความสามารถป้ องกันการกัดกร่อนไม่ดี เมือ
่ นาทองแดงมาเป็ นส่วนผสมเข้าไป ทาให้สามารถนาออกมาใช้ภายนอกได้ดี
แต่ยกเว้นบริเวณทีม่ ีสภาวะแวคล้อมของครอไรด์ จะค่อนข้างบอบบางเลยทีเ่ ดียว
ทองแดงจะถูกผสมลงในสเตนเลสบางเกรดในตระกูล 200 เช่น 201Modifier, 204 Cu จากการอธิบายข้างต้นทัง้ หมด
เราคงจะพอตามทันและเข้าใจอย่างไม่ยากนัก ส่วนธาตุเป็ นองค์ประกอบอืน ่ ๆ นัน
้ เช่น ซิลก
ิ อน (Si), ไนโตรเจน (N) และอืน
่ ๆ
จะไม่ขอกล่าวถึง ทีก่ ล่าวมาทัง้ หมดเป็ นธาตุหลัก ๆ ทีเ่ ราจะต้องรูจ้ กั มันเสียก่อน เพราะอะไรครับ เพราะว่าในสเตนเลสแต่ละเกรด
แต่ละชนิดจะใช้ตวั อักษรเป็ นสัญญาลักษณ์ ต่อท้ายตัวเลขทีร่ ะบุมา ซึง่ เราจะได้ไม่งงว่า คือตัวอะไร และมีไว้ในสเตนเลสตัวนัน ้
เพือ
่ ประโยชน์ อะไรครับ

คราวนี้ เรามาดูกนั ว่าสเตนเลสเขาแบ่งออกเป็ นกลุม


่ หลักใหญ่ ๆ อะไรบ้าง และกลุม
่ ใดบ้างนามาใช้ทาอะไร
กลุม
่ ใดบ้างทีส
่ ามารถเหมาะสาหรับการใช้งานในสิง่ แสคล้อมไหนกันครับ

เราเริม
่ กันทีก
่ ลุม
่ แรกก่อน คือ

กลุม
่ เฟอริตริก (Ferritic)

กลุม ่ นี้จะเป็ นสเตนเลสทีม


่ ีปริมาณคาร์บอนน้อยกว่า 0.1 % และไม่มีนิเกิลผสมอยูเ่ ลย ทาให้กลุม ่ นี้ราคาถูก
และสามารถนามาผลิตผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง สเตนเลสในกลุม ่ นี้ ถา้ เราจะเรียกอย่างง่าย ๆ ว่า สเตนเลสตระกูล 400
ซึง่ สเตนเลสตระกูลนี้จะมีแรงปฎิกริยาต่อการดูดของแม่เหล็ก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านั่นไม่ใช่สเตนเลสนะครับ หลาย ๆ
คนคิดว่าสเตนเลสต้องแม่เหล็กดูดไม่ตด ิ ถ้าดูดติดนัน
้ เป็ นเหล็กธรรมดา
หรือบางคนอาจจะคิดว่าสเตนเลสนัน ้ มีสว่ นผสมของเหล็กเยอะ ประโยคหลังอาจจะดูใกล้เคียงครับ เพราะสเตนเลสอย่างทีเ่ รา
ติดตามอ่านอ่านมาตัง้ แต่ตน ้ เขาก็คือเหล็กครับ แต่ไม่ใช่เหล็กธรรมดาทั่วไปนั่นเอง หลาย ๆ
อย่างผลิตภัณฑ์ทเี่ ราใช้งานกันอยูจ่ ากสเตนเลสตระกูลนี้ คือ ช้อนทีใ่ ช้รบ ั ประทานอาหาร เช่นช้อนสัน ้ หรือช้อนแกงครับ
เราใช้กน ั มานานแสนนาน บางอันเรียกได้วา่ ตัง้ แต่สมัยคุณปู่ คุณย่าเลยเชียวเรายังไม่เคยเห็นสนิมทีเ่ กิดขัน ้ เลย เพราะอะไรครับ
ก็เพราะว่าสเตนเลสทุกเกรดต้องการการดูแล การทาความสะอาด เช่นเดียวกับช้อนทีก ่ ล่าวมานัน้ ทุกครัง้ เวลาทานอาหารเสร็จ
เราคงปฎิเสธไม่ได้วา่ เราไม่ลา้ งทาความสะอาดช้อนนัน ้ การล้างเป็ นการกาจัดคราบไขมันทีเ่ กาะอยูบ ่ นผิวของสเตนเลสออกไป
ทาให้ออ ๊ กซิเจนในอากาศสามารถทาปฎิกริยากับโครเมีย่ มในผิวสเตนเลส เพือ ่ สร้างฟิ มล์ป้องกันสนิมครับ แต่ถา้ เราไม่ลา้ งซิ
แน่ นอนอ๊อกซิเจนไม่สามารถผ่านชัน ้ ฟิ มล์ไขมันได้ การทาปฎิกริยาระหว่างอ๊อกซิเจนในอากาศกับ
ผิวของสเตนเลสย่อมไม่สามรถเกิดขึน ้ ได้ เกิดสนิมแน่ นอน แต่จะใช้ระยะเวลาประมาณ 4-6 เดือนก็สามารถสังเกตุสนิมได้ครับ
นอกจากนัน ้

สเตนเลสในตระกูลนี้ ก็ยงั สามารถนามาผลิตถังเครือ ่ งซักผ้าครับ เพราะราคาจะถูกกว่า ประหยัดกว่า ลดต้นทุนได้ดีกว่าครับ


ลองดูเครือ ่ งซักผ้าชนิดปั่นหน้า ไม่วา่ ยีห่ อ
้ ใด ๆ ลองดูครับ โดยถังเครือ ่ งซักผ้าทีเ่ ป็ นสเตนเลสนัน้ จะแยกออกเป็ นสองส่วน คือ
ส่วนทีเ่ ป็ นดรัม (คือส่วนทีเ่ จาะเป็ นรูเล็ก ๆ ) และส่วนทีเ่ ป็ นใบพัด (ส่วนด้านหลัง ปั๊มขึน ้ รูป) ตามภาพด้านล่าง

โดยทั่วไปถังเครือ ่ งซักผ้านี้ จะประกอบไปด้วยสเตนเลส 2 ตัวคือ ส่วนทีเ่ จาะเป็ นรูเล็ก ๆ และส่วนปั๊มใบพัดนู น


เพือ่ ใช้ในการกลับผ้าทีซ ่ กั เรามาดูวา่ สเตนเลสชนิดทีแ ่ ม่เหล็กดูดติดนัน้ จะอยูใ่ นส่วนทีเ่ จาะเป็ นรูเล็ก ๆ โดยจะใช้สเตนเลสเกรด 430
(17/0) หมายความว่า สเตนเลสตัวนัน ้ มีเปอร์เซ็นโครเมีย่ มทีผ ่ สมอยู่ 17% และมีเปอร์เซ็นต์นิเกิลผสมอยู่ 0 % ครับ
ส่วนในส่วนใบพัดนู น เขาจะใช้สเตนเลสเกรด 304 (18/8) หมายความถึงเปอร์เซ็นต์โครเมีย่ มอยูท ่ ี่ 18% และนิเกิลอยูท
่ ี่ 8% ครับ
นั่นก็ขนึ้ อยูก
่ บั ลักษณะการปั๊มขึน ้ รูป ยิง่ มีสว่ นทีป
่ ๊ม ้ รูปลึก
ั ขึน
หรือสูงเท่าไหร่เขาก็จะเลือกสเตนเลสทีม ่ ีสว่ นผสมของธาตุนิเกิลสูงขึน ้ ครับ เช่น 304D (18/9) และ 304DDQ (18/10) นั่นเอง
แล้วสเตนเลส 430 ไม่เป็ นสนิมหรือ นั่นเป็ นคาถามทีด ่ ีครับ สเตนเลสเกรด 430 จะมีคุณสมบัตท
ิ ด
ี่ ีหลายประการ
แต่ก็ไม่ใช่วา่ จะดีไปทัง้ หมดทุกอย่างย่อมมีจุดแข็งและจุดอ่อน

ข้อดีของสเตนเลส 430 คือ ราคาถูก สามารถนากลับมารีไซเคิลได้ ตรวจสอบง่ายโดยใช้แม่เหล็ก ทนต่อสภาพครอไลด์ดี ฯลฯ

ข้อเสียของสเตนเลส 430 คือ เนื่องจากแม่เหล็กดูดติดทาให้เกิดความไม่ม่น ั ใจว่าเป็ นสเตนเลส หรือเหล็กกันแน่


บางคนบอกแม่เหล็กดูดติดไม่ดี และก็ไม่ยอมรับกันเสียเลย การป๊ มขึน ้ รูปไม่ดี ไม่ลก ึ แต่กส ้ รูปได้ในความลึกทีจ่ ากัด
็ ามารถปั๊มขึน
การเชือ ่ ยดีนกั อีกจุดหนึ่งก็คือสเตนเลสเกรด 430 ไม่ตอ
่ มไม่คอ ้ งการสภาพน้าขังนาน ๆ ซึง่ จะทาให้เกิดสนิมชึน ้ ได้ ดังรูปที่ 8

้ รูปควรดูเปอร์เซ็นต์ยด
คาเตือน ถ้าต้องการใช้สเตนเลสเกรด 430 มาปั๊มขึน ื ตัว (elongation) ไม่ตา่ กว่า 24 %

ก็เลยมีหลายคนคิดว่า เอา! แล้วทาไม่เอาสเตนเลสเกรดนี้ มาใช้ทาเครือ


่ งซักผ้าทาไมกัน เพราะยังไงก็ตอ้ งมีน้า หรือหยดน้าเกาะอยูด
่ ี
ตรงนี้หลายคนคงจะลืมไปว่า ระบบของเครือ ่ งซักผ้านัน
้ ขบวนการสุดท้าย คือการปั่นหมาด นั่นคือสิง่ ทีส
่ ามารถตอบได้วา่
ไม่มีน้าเกาะเลยสักหยดบนถังสเตนเลสของเครือ ่ งซักผ้าเลยครับ แล้วถ้านาสเตนเลสเกรด 430 มาทาเป็ นใบพัดล่ะจะเป็ นอย่างไร
คาตอบให้ดจู ากรูปที่ 9 เลยครับ

แล้วสเตนเลสตระกูล 400 มีเฉพาะเกรด 430 หรือ คาตอบคือไม่ใช่ แต่จะมีอีกหลาย ๆ ตัวพอสังเขปดังนี้ เช่น เกรด 430Ti
(TI=ไททาเนี่ยม), 439, 409, 409L, 444 เป็ นต้น กลุม
่ ต่อไปคือ

กลุม
่ มาร์เทนซิตริก (Martensitic)

กลุม
่ นี้ เป็ นกลุม
่ ทีม
่ ป
ี ฎิกริยากับแม่เหล็กเหมือนกัน เช่นเดียวกับกลุม่ แรก ก็ยงั อยูใ่ นตระกูล 400
แต่จะต่างกันทีเ่ ปอร์เซ็นต์ของคาร์บอนทีผ ่ สมอยู่ โดยปกติแล้วตามข้อมูลทีแ ่ สดงไว้วา่ สเตนเลสจะต้องมีปริมาณคาร์บอนทีผ
่ สมอสยู่
น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.1% แต่กลุม ่ มาร์เทนซิตริกนี้ จะยกเว้น โดยทีป
่ ริมาณคาร์บอนจะมากกว่า 0.1% ครับ เพราะอะไรหรือ
เพราะสเตนเลสในกลุม ่ นี้ สามารถ ทาการอบ-ชุบได้ (Heat Treatment) ในขัน ้ ตอนของการชุบแข็ง (Hardening) ได้
สเตนเลสในกลุม
่ นี้ จะใช้ทาอะไรได้บา้ ง ตัวอย่างเช่น ใบมีดโกนหนวด, มีดหมอผ่าตัด, มีดแมกไกเวอร์ ฯลฯ ดังภาพที่ 10 ครับ

จะเห็นได้วา่ ผลิตภัณฑ์ทที่ าด้วยสเตนเลสเกรดนี้ จาเป็ นใช้นาคุณสมบัตด ิ า้ นความแข็งมาใช้งาน


เพราะฉนัน้ คาร์บอนทีผ่ สมอยูม ่ ากกว่า 0.1% ซึง่ จะเป็ นตัวช่วยในเรือ
่ งความแข็ง แต่ก็มขี อ
้ เสียเรือ
่ งของความเปราะในมุมกลับกันด้วย
และจะทาให้คุณสมบัตต ิ า้ นทานการกัดกร่อนก็ลดลงบ้างด้วย ตัวอย่างสเตนเลสในตระกู ลนี้ เช่น 410, 420J1, 420J2 เป็ นต้น

่ ต่อไปบ้าง อย่าพึง่ ไปงงนะครับ อ่านไว้ได้ความรูม


มาดูสเตนเลสกลุม ้
้ าก ๆ ในช่วงหลัง ๆ เราจะยิง่ เกิดความเข้าใจได้รวดเร็วขึน

กลุม
่ ออสเตนเนตริก (Austennitic)

สเตสเลสในกลุม
่ นี้ จะเรียกว่าสเตนเลสตระกูล 300 คือสเตนเลสทีม
่ ค
ี ด
๊ ตัวเลข ทีข ึ้ ต้นด้วยเลข 3 เช่น 301, 302, 303, 303Se, 304,
่ น
304L, 304N, 304H, 305, 316, 316L, 308, 308L, 309, 310, 317, 317L, 321,329, 347 ฯลฯ

สเตนเลสในกลุม ่ จะเพิม
่ ธาตุนิเกิลผสมเข้ากับเหล็กด้วย ทาให้องค์ประกอบของสเตนเลสนี้มก ี ารเรียกกันว่า Nickel base
ซึง่ ตัวธาตุนิเกิลเมือ
่ ผสมอยูจ่ ะทาให้เกิดการเปลีย่ นแปลงของโครงสร้างภายใน
้ ก็คือสเตนเลสในกลุม
ผลทีเ่ กิดขึน ่ นี้จะไม่ตอบสนองกับปฎิกริยาแรงดูดของแม่เหล็ก เมือ ่ อยูใ่ นสภาพปกติ ต่อเมือ ่ มีการตัด การเชือ
่ ม
การเจียร การดัดโค้ง การแมทชีนนิ่ง แม้แต่การปั๊มขึน ้ รูป ซึง่ จะทาให้บริเวณทีเ่ กิดการกระทาดังกล่าว
เกิดปฎิกริยาตอบสนองกับแรงแม่เหล็กได้ แต่จะไม่แรงเท่ากับ เมือ ่ นาแม่เหล็กไปดูดกับสเตนเลสในตระกูล 400 ครับ
สเตนเลสในตระกูลนี้ไม่สามารถทาการ Heat Treatment ได้ครับ และสเตนเลสในตระกูลนี้จะใช้ในลักษณะทั่วไปอย่างแพร่หลาย
(General used) โดยมีเปอร์เซ็นต์ของคาร์บอนน้อยกว่า 0.1% และส่วนผสมของนิเกิลเข้าไปด้วย ขึน ้ อยูก
่ บั ว่าเป็ นสเตนเลสเกรดไหน
ดังตารางด้านล้างครับ

จะเห็นได้วา่ ในสเตนเลสแต่ละเกรด มีทง้ ั ความเหมือน และความแตกต่าง ทัง้ นี้ ขน ึ้ อยูก ่ บั


การนาไปใช้งานในสภาพแวคล้อมทีม ่ ีความแตกต่างกัน แต่จุดสาคัญของสเตนเลสตระกูล 300 ในกลุม ่ นิเกิลเป็ นส่วนผสมนัน

มีความสามารถในการขึน ้ รูปได้ดีมาก เพราะธาตุนิเกลทีเ่ ป็ นส่วนผสมอยูน
่ น
้ ั จะทาให้คา่ การคืบ
หรือการยืดตัวสูงกว่าสเตนเลสในตระกูล 400 ทีก ่ ล่าวกันว่ามีสเตนเลสทีอ
่ ยูใ่ นกลุม ่ ทีม
่ ีความปลอดภัยด้านอาหารการกิน (food
grade) ก็ตอ้ งใช้สเตนเลสในตระกูล 300 นี้ครับ จะเห็นได้วา่ ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ จะใช้สเตนเลสเหล่านี้ กน ั ทัง้ หมด
รวมไปถึงอุปกรณ์ ทางการแพทย์อีกหลายชนิด

โดยทั่วไปสเตนเลสในกลุม ่ 300 สามารถทนต่อสภาพแวคล้อมทั่วไปได้ดี


จึงเป็ นทีน
่ ิยมกันมากมายทีจ่ ะนาสเตนเลสในกลุม ่ นี้มาประยุกต์ใช้ในงานต่าง ๆ ไม่วา่ งานใช้งานทีอ่ ยูภ
่ ายนอกหรือภายในก็ดี
แต่ในความคิดของ กนกไร้สนิม แล้ว ถ้านาสเตนเลสกลุม ่ 300 นี้ ใช้เฉพาะอยูภ
่ ายในนัน้ มันจะเป็ นความสูญเสียค่าใช้จา่ ยโดยใช่เหตุ
เปรียบเสมือน เราจะไปปากซอยหน้าหมูบ ่ า้ น ถ้าเราใช้สเตนเลสทีใ่ ช้งานสาหรับภายในอาคาร
ก็เหมือนเราขีจ่ กั ยานไปปากซอยหน้าหมูบ
่ า้ น แต่ถา้ ใช้สเตนเลสตระกูล 300 มาใช้ ก็เปรียบสเมือนเราจ้างรถบัส
มารับเราจากบ้านออกไปปากซอยหน้าหมูบ ่ า้ น โดยไปถึงเหมือนกันแต่จะต่างกันตรงทีค่ า่ ใช้จา่ ยทีส ้ นั่นเอง
่ ูงขึน

ในกรณี ทจี่ ะใช้สเตนเลสกับงานต่าง ๆ ทีม ่ ีสภาวะความเป็ นคลอไรด์สูง เช่นแถวนาเกลือ ชายทะเล


ในบริเวณแหล่งอุตสาหกรรมใช้สารคลอรีนเป็ นส่วนเสริมในงาน แม้กระทั่งอุปกรณ์ชน ิ้ ส่วนในเรือเดินทะเล เรือสาราญต่าง ๆ รัว้
ระเบียง ราวกันตก และประตูทท ี่ าด้วยสเตนเลสนัน ้ เราก็ควรเลือกให้ถูกต้อง
เพราะต้นทุนในการลงทุนกับงานสเตนเลสนัน ้ จะคุม้ ค่ากับอายุการใช้งานทีด่ ีกว่า ซึง่ สเตนเลสในตระกูล 300
ทีม
่ ีความสามารถต้านทานต่อการกัดกร่อนในสภาพดังกล่าวก็มีให้เลือกใช้ เช่น เกรด 316, 316L โดยจะมีธาตุทผ ี่ สมอยูค
่ ือ
ธาตุโมลิเดนั่ม 2% จะสามารถช่วยให้ลดปัญหาการผุกร่อนของสเตนเลสได้ แต่กจ็ ะขาดเสียไม่ได้เรือ ่ งการดูแลรักษาทีถ
่ ูกต้อง
ถึงคุณจะใช้สเตนเลสเกรดดีทส ี่ ด
ุ แพงทีส ่ ุด แจ๋วทีส
่ ุด แต่ไม่สนใจเรือ
่ งการดูแลรักษาทีถ ่ ูกต้องแล้วนัน

สเตนเลสทีว่ า่ ก็สามารถเกิดสนิมให้คุณได้เชยชมแน่ นอน จะเห็นได้วา่ สเตนเลสในกลุม ่ 300 หรือ ตระกูล 300
นัน้ จะเรียกได้วา่ ใช้ลกั ษณะ General Use นั่นหมายถึงคุณสามารถนามาทาอะไรก็ได้ท่วั ไป
แต่ตอ ้ งคานึงถึงเรียกต้นทุนค่าใช้จา่ ยในการลงทุนด้วย ลองมาดูตวั อย่างทีส ่ เตนเลสตระกูล 300 สามารถนามาใช้งานในปัจจุบน ั สัก 2-
3 อย่างกันครับ

รูปที่ 11 รูปผลิตภัณฑ์ทผ
ี่ ลิตจากสเตนเลสในกลุม
่ ออสเตนนิตก
ิ ตระกูล 300

นอกจากทีแ ่ สดงมานัน ้ ก็ยงั มีอีกมากมาย สามารถนาสเตนเลสในตระกูล 300 ไปประยุกต์ทาออกมาได้


จึงทาให้เป็ นทีน ่ ิยมกันอย่างมากในหลายสิบปี ทีผ ่ า่ นมา ซึง่ ขณะนัน้ คนไทยเราจะคุน ้ เคยกับสเตนเลสตระกูลนี้ อย่างมาก
เพราะจะมีการนาเข้ามาผลิตเป็ นงานต่าง ๆ เพียงเกรดเดียว นั่นก็คือ สเตนเลสเกรด 304 โดยมีการสร้างกุสโลบายต่อความคิด
และค่านิยมว่า “สเตนเลสไม่ใช่เหล็ก เพราะถ้าเป็ นเหล็กนัน ้ แม่เหล็กจะต้องดูด แต่สเตนเลสไม่ใช่เหล็กจึงดูดไม่ตด ิ ”
ในช่วงสมัยนัน ้ จึงใช้วธิ ีการทดสอบด้วยแม่เหล็กเป็ นหลัก เวลาไปซื้ อสเตนเลสตามร้านค้า อาแปะ อากง ก็เอาแม่เหล็กมาดูดให้ดวู า่ “
นี่ ๆ ลื้อเห็งมัย๊ สะแตงเลทแท้นะ แม่เรกลูดม่ายติก” และก็ขายในราคาแพงมาก ๆ เสียด้วย แต่ในปัจจุบน ั นี้ เนื่องจากในช่วง 4 -5
ปี ทีผ่ า่ นมาราคาของแร่ธาตุนิเกิลมีการปรับตัวสูงขึน ้ อย่างก้าวกระโดด โดยกลุม ่ นักลงทุนเก็งกาไร (Head fund) มีการคาดการณ์
การสั่งซื้อล่วงหน้า ทาให้เกิดการทากาไรอย่างมากมาย
ซึง่ เป็ นปัจจัยหลักทีท ่ าให้ราคาธาตุนิเกิลทีเ่ ป็ นส่วนผสมหลักในสเตนเลสตระกูล 300 สูงขึน ้ และก็สง่ ผลมายังสเตนเลสในกลุม ่ นี้
ทาให้ราคาปรับตัวสูงขึน ้ อย่างมาก เรียกว่า ซื้อสเตนเลสเก็บไว้สามารถทากาไรอย่างมหาศาลทีเดียวในช่วงเวลานัน ้
จึงทาให้มีการหันกลับมาผลิต และกลับมาใช้สเตนเลสในกลุม ่ ออสเตนนิตก
ิ เหมือนกันนั่นก็คือ สเตนเลสในตระกูล 200 หรือกลุม ่
200 เพราะอะไรครับ ก็เพราะว่าในกลุม ่ ประเทศเอเซียใต้
ได้รบ ั แนวความคิดในการใช้แม่เหล็กเป็ นตัวแยกสเตนเลสออกจากเหล็กจากผูท ้ น
ี่ าสเตนเลสเข้ามาในประเทศฝังลงรากลึกมาก
ไม่วา่ ในประเทศลาว เวียดนาม กัมพูชา พม่า ฯลฯ
นัน ้ เวลาไปหาซื้อสเตนเลสจากโรงงานยังคงเห็นลูกค้าถือแม่เหล็กไปเดินดูดทีส ่ เตนเลส เพือ ่ ใช้ในการตัดสินใจ เมือ ่ 6ปี ทีผา่ นมา
ผมได้ทางานกับบริษท ั สเตนเลสของฝรั่งเศษ ในเวียดนาม เวลาลูกค้าเข้ามาในโรงงานจะสังเกตุเห็นแม่เหล็กตัวโต ดูดแรงมาก ๆ
นามาใช้เป็ นตัวตัดสินใจว่าสเตนเลสนัน ้ ดี หรือไม่ดี

ถามว่าในเมือ
่ สเตนเลสตระกูล 300 มีราคาแพงมาก ทาไมจะต้องเป็ นสเตนเลสตระกูล 200
เท่านัน
้ หรือทีถ
่ ูกผลิตออกมาเป็ นสินค้าทดแทน ใช้สเตนเลสตระกูล 400 ไม่ได้หรือ คาตอบก็คือ สเตนเลสตระกูล 400 แม่เหล็กดูดติด
อีกทัง้ การนาไปขึน ้ รูปไม่ดีนกั เพราะไม่มีธาตุนิเกิลผสมอยูเ่ ลย ทาให้การขึน
้ รูปต่าง ๆ ทีม ่ ีความลึกไม่ได้มากนักจะแตกง่าย
อีกทัง้ การเชือ
่ มก็ไม่คอ ่ มแตกร้าว หรือเรียกว่า “ Hot Crack” ครับ ซึง่ สเตนเลสในตระกูล
่ ยดีนกั ทาให้เกิดการบิดงอ โก่งตัว รอยเชือ
200 สามารถแก้คาตอบเชิงลบของสเตนเลสตระกูล 400ได้หมด แต่ก็ไม่สามารถสูก ้ บั สเตนเลสตระกูล 300
ได้ในเรือ ่ งการต้านทานการกัดกร่อนบางสภาวะสิง่ แวคล้อม

เรามาดูความแตกต่างระหว่างสเตนเลสตระกูล 200 และตระกูล 300 ว่าเป็ นอย่างไร

เรามาเริม ่ ต้นกันทีส
่ เตนเลสตระกูล 300 ก่อนนะครับ เพราะอะไรหรือ สเตนเลสตระกูล 300
ถูกนาเข้ามาใช้ในประเทศไทยในสมัยแรก และในอตีดถ้าพูดถึงเรือ ่ งสเตนเลส ก็คงหนีไ ม่พน ้ สเตนเลสตระกูลนี้ เช่น สเตนเลสเกรด
304 ทีห ่ ลายคนรูจ้ กั ถ้าไปถามคนทีเ่ คยใช้สเตนเลสในอดีตมา เขาก็จะบอกกับเราว่า ใช้สเตนเลสต้องเกรด 304
เท่านัน
้ นะจึงจะเรียกว่าสเตนเลสแท้ แต่ในสมัยปัจจุบน ั นี้ กบั กลายเป็ นว่า สเตนเลสเข้ามามากมายหลายเกรด
้ อยูก
ขึน ่ บั ว่าจะเลือกใช้แบบไหน ไม่จาเป็ นว่าของไม่ดีจะไม่ทน แต่มน ้ อยูก
ั ขึน ่ บั ว่า ใช้สเตนเลสนัน้ ได้อย่างถูกทีถ
่ ูกทาง
และรูจ้ กั สเตนเลสทีใ่ ช้มากน้อยแค่ไหน นั่นล่ะจะเป็ นตัวกาหนดว่า คุณจะใช้สเตนเลสตัวนัน ้ ได้นานขนาดไหนครับ

สเตนเลสตระกูล 300 หรือสเตนเลสกลุม


่ 300 คืออะไร ?

อย่างทีก
่ ล่าวมาแล้วข้างต้นว่า สเตนเลสตระกูล 400 ถึงจะไม่มีธาตุนิเกิลผสมอยูเ่ ลย นั่นก็คือสเตนเลส ด้วยองค์ประกอบอยู่ 2
ประการคือ สเตนเลสจะต้องมีปริมาณคาร์บอน ทีผ ่ สมอยูน ่ ้อยกว่า 0.1 % และปริมาณโครเมีย่ มทีผ ่ สมอยูเ่ ช่นกัน อย่างน้อย 10.5 %
นั่นแหละครับ สเตนเลสในตระกูล 300 ก็เป็ นเช่นนัน ้ เหมือนกัน จะต่างกันตรงทีว่ า่
สเตนเลสตระกูลนี้ จะมีธาตุผสมอีกตัวหนึ่งเข้ามาเป็ นตัวบ่งชี้วา่ นี่คือสเตนเลสในกลุม ่ 300 นั่นก็คือธาตุนิเกิล ตามทฤษฎีได้ระบุไว้วา่
ปริมาณนิเกิลทีผ ่ สมอยูน
่ น
้ ั จะเท่ากับ 8 % เราก็เลยเห็นว่าหลาย ๆ สินค้าทีใ่ ช้สเตนเลสเกรดนี้ จะเขียนคาว่า 18/8 หรือ 18-8 บ้าง
นั่นหมายความว่า “ 18 ” นัน ้ ก็คือเปอร์เซ็นต์สว่ นผสมของโครเมีย่ ม และ “ 8 ” ก็คือเปอร์เซ็นต์สว่ นผสมของนิเกิลนั่นเอง
แต่ก็ใช่วา่ สเตนเลสตระกูลนัจ้ ะมีตวั นี้ ตวั เดียวซะทีไ่ หน ยังมีอกี หลาย ๆ ตัวมากมายพอจะยกตัวอย่างได้ พอสังเขปดัง นี้

301, 302, 303, 304, 304L, 308, 309, 316, 316L, 317, 321 เป็ นต้น
แต่เป็ นทีน
่ ่าสังเกตุวา่ ในกลุม
่ ทีย่ กตัวอย่างมาทัง้ หมดนัน ้ ต้นทัง้ นัน
้ จะเห็นได้วา่ ตัวเลขตัวหน้าสุดจะใช้เลข “ 3” ขึน ้
ในหลักสากลจึงเรียกสเตนเลสในกลุม ่ นี้วา่ สเตนเลสตระกูล 300 หรือซีรีย์ 300 ครับ เนื่องจากมีธาตุนิเกิลผสมอยูน ่ น
้ั
้ ้ ่
จะทาให้สเตนเลสตัวนี้ สามารถใช้กบั งานขึนรูปได้ดี ไม่วา่ การดัด การปั๊มขึนรูปเป็ นภาชนะชนิดต่างๆ ซึงมีผลมาจากค่า elongation
หรือระยะคืบตัวดี จึงสามารถนาไปป๊ มเป็ นสิง่ ของเครือ ่ งใช้มากมาย เช่นหม้อ การะมัง แก้วสเตนเลส เป็ นต้น

สเตนเลสตระกูล 300 นี้ ในสมัยก่อน ๆ นี้ สว่ นใหญ่มกั จะใช้แม่เหล็กมาดูด เพือ ่ เป็ นตัวทดสอบว่า “ใช่ หรือ ไม่ใช่ “
เพราะเราไม่รูว้ า่ จะนาอะไรมาตรวจสอบ นอกเสียจากส่งไปห้องทดสอบ โดยใช้เครือ ่ งมือ แต่ราคาค่าตรวจสอบก็แพงแสนแพง
ทาให้ไม่คม ุ้ ค่า เพราะฉนัน้ ก็เลยใช้แม่เหล้กดีกว่า หาง่าย ทดสอบง่าย รูผ ้ ลทันที ถ้าแม่เหล็กดูดไม่ตด ิ “ใช่เลย สเตนเลส 304”
แต่ถา้ ดูดติดก็สรุปว่า ไม่ใช่สเตนเลส แต่เป็ นเหล็ก ก็เลยทาให้รา้ นรับซื้อของเก่ารวยกันเป็ นแถวไปตาม ๆ กัน
คนรับซื้อของเก่าในสมัยผูเ้ ขียนยังเป็ นวัยรุน่ อยู่ จะใช้รถซาเล้งสามล้อถีบทัง้ นัน
้ และก็เริม่ พัฒนาขึน ้ มาเป็ นรถกระบะในปัจจุบน ั
สเตนเลสตระกูล 300 นี้ จะเป็ นทีย่ อมรับกันในวงการแพทย์ อาหารและยา ทั่วโลกจึงเรียกสเตนเลสว่าเป็ น Food Grade
(สเตนเลสทีใ่ ช้ทางานมีการสัมผัสกับอาหารการกิน) จึงไม่แปลกใจเลยว่า ภาชนะต่าง ๆ ทีม ่ ยี ห
ี่ อ
้ ดัง ๆ ไม่วา่ จะผลิตในประเทศ
หรือนาเข้ามาจึงมีราคาค่อนข้างจะแพง แต่จะต่างกันกับภาชนะทีน ่ าเข้ามาจากประเทศ จีน และอินเดีย เมือ ่ เที ยบขนาดและราคา
ทาไมจึงต่างกันเช่นนี้ ทัง้ ๆ ทีเ่ ป็ นสเตนเลสเหมือน ๆ กัน ถ้าเราสังเกตุวา่ อุปกรณ์ ภาชนะต่าง ๆ ในโรงพยาบาลนัน ้
จะใช้สเตนเลสเกรดนี้ทง้ ั นัน้

ทาไมสเตนเลสตระกูลนี้จงึ แพง เป็ นเพราะอะไร?

สาเหตุทส ี่ เตนเลสตระกูลนี้ มรี าคาแพงว่า สเตนเลสตระกูล 400 นัน ้ เนื่องมาจากผลกระทบโดยตรงจากราคาธาตุนิเกิลเป็ นหลัก


ส่วนรองนัน ้ จะมาจากการเก็งกาไรของกลุม ่ การซื้อขายธาตุนิเกิลล่วงหน้า ก็เป็ นอีกปัจจัยหนึ่ง

ส่วนอีกตัวหนึงอาจจะเป็ นผลกระทบเหมือนกัน แต่น้อยมากก็คือ การขาดแคลนสินค้า และการกักตุน เพือ ่ เก็งกาไรนั่นเอง
ทาให้เมือ่ หลายปี ก่อน ในขณะทุกคนรูจ้ กั และคุน ้ เคยกับสเตนเลสตระกูลนี้ ต้องซื้อสเตนเลสนี้ ในราคาทีแ
่ พง ถึงขัน
้ ทีม
่ ค
ี นพูดว่า
“ซื้อท่อสเตนเลสเก็บไว้ ดีกว่าเก็บทองคาเสียอีก” เพราะราคาปรับตัวขึน ้ เป็ นรายวันเลยทีเดียว

สเตนเลสตระกูล 300 แม่เหล็กดูดไม่ตด


ิ จริงหรือ ?

ถ้าทดสอบแบบเผิน ๆ แล้วจะรูส้ ก
ึ ว่าสเตนเลสตระกูล 300 นัน ้ จะไม่มีผลต่อการดูดติดของแม่เหล็กเลย บางคนนาแม่เหล็กก้อนโต
แรงดูดสูง ๆ มาทดสอบก็ดูดไม่ตด ิ ก็เลยมั่นใจว่า ต้องเป็ นสเตนเลสแท้ (บางคนเรียกว่า แท้ กับ ปลอม) แน่ นอน
แต่ในความเป็ นจริงนัน้ สเตนเลสตระกูลนี้ ถ้าเราลองตัด พับ ดัด ปั๊มขึน ้ รูป รวมไปถึงการเชือ ่ มต่อ เราจะเห็นได้วา่ จะมีแรงดูดติด
เมือ
่ นาแม่เหล็กมาทดสอบ แต่ก็มีอีกหลาย ๆ คนทดสอบมาแล้ว ก็บอกว่าไม่ตด ิ แน่นอน ผูเ้ ขียนก็ขอแนะนาให้ใช้แม่เหล็กตัวเล็ก ๆ
แรงดูดไม่มาก เบา ๆ ลองมาทดสอบดูวา่ ดูดติดหรือไม่ การทีใ่ ช้แม่เหล็กชิน ้ ใหญ่ ๆ มาดูด เพือ ่ ตรวจสอบว่าเป็ นสเตนเลสตระกูล
300 นัน้ จะใช้ได้เพียงชี้บง่ และแยกเกรดระหว่างสเตนเลสทีม ่ ีผลต่อการดูดติดได้ดี เช่นในสเตนเลสตระกูล 400 ตัวอย่างเช่น เกรด
430, 439 , 409, 420 เป็ นต้น เพราะสเตนเลสในกลุม ่ เหล่านี้ จะไม่มีธาตุบางธาตุผสมอยู่ เช่น ในตระกูล 300 จะมีธาตุนิเกิล
ผสมอยูแ ่ ละในตระกูล 200 จะมีธาตุแมงกานิส ทีน ่ ามาผสมลงไปเพือ ่ ลดปริมาณของธาตุนิเกิลลงนั่นเอง

ในโรงพยาบาล ไม่วา่ จะเป็ นของภาครัฐหรือ ภาคเอกชน อุปกรณ์ ตา่ ง ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องกับงานการพยาบาลและรักษา
เช่นอุปกรณ์ เครือ
่ งมือต่าง ๆ ในห้องผ่าตัด โต๊ะ เตียงคนไข้ จาน ชาม กระป๋ อง ราวจับ ราวพยุง ตระกร้าใส่ผา้ ตลอดจนรถเข็นต่าง ๆ
จะใช้สเตนเลสตระกูล 300 เป็ นหลัก ด้วยเหตุผลทีว่ า่ มีความปลอดภัยทีส ่ ดุ และทนทาน ในโรงพยาบาลจะใช้น้ายาฆ่าเชื้อ
น้ายาทาความสะอาดพื้นต่าง ๆ ซึง่ จะมีผลต่อสเตนเลส ถ้าเป็ นสเตนเลสในตระกูลทีร่ อง ๆ ลงมาเช่นตระกูล 200 นัน ้
การใช้งานอาจจะใช้ได้ แต่ความคงทน ทนทานนัน ้ อาจจะเป็ นปัญหา ไม่วา่ ในเรือ ่ งของการใช้งาน และการบารุงรักษา
ถ้าเราไปโรงพยาบาลให้ลองสังเกตุทรี่ ถเข็น เตียงเข็น ตูส ้ เตนเลสทีม
่ ลี อ
้ สาหรับลากเคลือ่ นย้ายได้
้ จะเป็ นสนิมแล้ว ซึง่ ตัวโครงหลักยังดูสวยงามอยูเ่ ลย ในบางอุปกรณ์ ก็เลยต้องใช้ลอ
เราจะเห็นว่าเจ้าล้อนัน ้ แบบพลาสติก (PU หรือ PE)
เสียเลย เพราะจะได้ดูแล้วมีความเป็ รมาตราฐาน ในเรือ ่ งความสะอาดทีด ่ ี

ในโรงงานแปรรูปอาหาร เช่นโรงงานอาหารทะเล โรงงานผลิตนม และในสายงานผลิตยาแผนปัจจุบน ั นัน



ก็จาเป็ นต้องใช้สเตนเลสในตระกูล 300 นี้ แต่ก็ขนึ้ อยูก
่ บั ว่าความจาเป็ นทีจ่ ะต้องให้อาหารนัน
้ สัมผัสเป็ นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น
ในโรงงานอาหารทะเลสดแช่แข็ง หรืออาหารทะเลกระป๋ องสาเร็จรูป ซึง่ อาหารจาพวกนี้ ได้มาจากทะเล จึงมีความเค็ม
ซึง่ มีผลต้องการผุกร่อนกับสเตนเลสบางตัว เขาจึงเลือกทีจ่ ะใช้ สเตนเลสเกรด 316 หรือ 316L
เพือ ่ ทีจ่ ะให้สามารถทนทานต่อความเค็ม หรือเกลือทีต่ ดิ มากับอาหาร เพราะสเตนเลสเกรด 316 และ 316L นัน ้ จะมีธาตุทผ
ี่ สมอยูก
่ ็คือ
ธาตุโมลิเดนั่ม อยูป ่ ระมาณ 2% ซึง่ จะสามารถทนต่อสภาวะคลอไลด์ได้

แต่ถา้ เป็ นสารเคมีชนิดต่าง ๆ สเตนเลสตระกูล 300 ก็สามารถทีจ่ ะใช้ได้ แต่จะต้องแยกแยะออกไปนะครับว่า


ตัวใดบ้างทนต่อสารเคมีได้ โดยผมจะมีตาราง A แนบท้ายมาให้
ทาให้เราสามารถลดปัญหาและง่ายต่อการทีจ่ ะเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม

คราวนี้ลองมาดูความแตกต่างของสเตนเลสตระกูล 300 ทีเ่ ราสามารถพบเห็น และใช้งานอยูใ่ นปัจจุบน


ั ว่า มีขอ
้ สังเกตุ มีความเหมือน
ความแตกต่างกันตรงไหนบ้าง เช่น 304, 304L, 316, 316L

สเตนเลสเกรด 304 จะใช้ในงานได้ท่วั ไป ไม่วา่ งานตกแต่ง งานก่อสร้าง วัสดุอุปกรณ์ ในโรงงานอุตสาหกรรม


เครือ
่ งใช้ไม้สอยในครัวเรือน

สเตนเลสเกรด 304L จะใช้ในงานอุตสาหกรรมทีต ่ อ


้ งมีการเชือ
่ ม ประสานเช่นท่อแรงดัน ท่อส่งแก๊ส ท่อส่งน้ามัน โรงงานผลิตน้าตาล
ท่อคอนเด็นเซอร์ ฮีทเอ๊กซ์เชนเจอร์ และท่อลาเลียงต่าง ๆ ในงานปิ โตรเคมีคอล เพราะต้องการควบคุมงานเชือ ่ มให้มีคุณภาพ
ปราศจากรอยตามดตามรอยแนวเชือ ่ ม ทาให้รอยต่อเชื่อมแข็งแรง และมีความปลอดภัย เป็ นต้น

สเตนเลสเกรด 316 จะใช้ในงานผลิตอาหาร เช่นงานตกแต่งสถานี รถไฟฟ้ าใต้ดน


ิ โรงงานสัปปะรด โรงงานอาหารทะเล
โรงงานผลิตยาเวชภัณฑ์ โรงงานผลิตน้านมและอาหารเสริมต่าง ๆ

สเตนเลสเกรด 316L จะใช้ในงานทีต


่ อ
้ งมีการเชือ
่ มต่อ และมีความทนทานต่อสภาวะคลอไลด์ เช่นท่อส่งแก๊ส น้ามันใต้ทะเล เป็ นต้น

่ ล่าวมาข้างบน ซึง่ จะแบ่งซอยออกมาอีกมาก จะขอยกตัวอย่างมากสัก 1-2


ในสเตนเลสตระกูล 304 นี้ ยังมีอีกมากมาย ไม่เฉพาะทีก
เกรดดังนี้

สเตนเลส เกรด 301 ซึง่ เป็ นสเตนเลสในกลุม ่ ออสเตนนิตริกเช่นกัน สเตนเลสตัวเป็ นสเตนเลสทีม ่ ป


ี ริมาณธาตุนิเกิลผสมอยูใ่ นเนื้ อ
เมือ
่ คิดเป็ นเปอร์เซ็นต์จะอยูท ่ ี่ 6-8% ซึง่ เป็ นช่วงทีส
่ ามารถเติมส่วนผสมได้ ตา่ สุดที่ 6 % และสูงสุดไม่เกิน 8%
ส่วนความแตกต่างนัน ้ จะต้องสังเกตุกน ั ทีป ่ ริมาณส่วนผสมของธาตุคาร์บอน และธาตุแมงกานิส ซึง่ คาร์บอนจะอยูท ่ ี่ 0.15%
แมงกานิสจะอยูท ่ ี่ 2% นี่คือสาเหตุหนึ่งทีส ่ เตนเลสเกรดนี้ เมือ ้ รูป จะมีความแข็งมากกว่าสเตนเลสเกรด 304 และ 316
่ นาไปดัด ปั๊มขึน
นั่นเอง โรงงานทีผ ่ ลิตท่อสเตนเลสเกรด 301 นี้ จะเห็นได้วา่ ลูกโมลทีใ่ ช้จะมีการสึกหรอเร็วกว่าปกติ
ส่วนการนาไปพับก็จะยากกว่าสเตนเลสเกรด 304 ด้วย นอกจากนัน ้ สเตนเลสเกรด 301 ก็ยงั แบ่งแยกตามส่วนผสมอืน ่ อีก เช่น

เกรด 301L ก็จะลดปริมาณคาร์บอนลง จาก 0.15% ลงไปที่ 0.03 % นั่นเอง ซึง่ จะเป็ นตัวลดการแตกตัวของโครเมีย่ มคาร์ไบร์ รอบ ๆ
่ มซึง่ เป็ นปัญหาเรือ
แนวเชือ ่ งของการแตกร้าว (Crack) ของรอยเชือ่ ม อีกทัง้ เป็ นการลดรอยตามดตามแนวของรอยเชือ
่ มด้วย
บางท่านอาจจะพบเห็นอีกตัวหนึ่งในกลุม ่ สเตนเลส เกรด 301 ก็คือ
เกรด 301LN ความหมายก็คือ L เท่ากับ คาร์บอนต่า อยูท
่ ี่ 0.03% (0.3% Low carbon) ส่วน N
เท่ากับการเติมปริมาณก๊าซไนโตรเจนพิม ้ ปกติจะอยูท
่ ขึน ่ สี่ ูงสุด 10% โดยจะเพิม
่ เป็ นสูงสุด 20% และต่าสุด 10% นั่นเองครับ

ลองมาดูตารางการเปรียบเทียบทัง้ สองตัวกันว่ามีความเหมือนและความแตกต่างกันอย่างไร

Chemical Composition Specification (%)


Grade C Mn Si P S Cr Mo Ni N
เกรด C Mn Si P S Cr Mo Ni N
301 Min. - - - - - 16.0 - 6.0 -
ASTM A666 Max. 0.15 2.0 1.0 0.045 0.030 18.0 - 8.0 0.10
301L Min - - - - - 16.0 - 6.0 -
JIS G4305 Max. 0.03 2.0 1.0 0.045 0.030 18.0 - 8.0 0.20
301LN Min. - - - - - 16.5 - 6.0 0.10
EN 10088-2 Max. 0.03 2.0 1.0 0.045 0.015 18.5 - 8.0 0.20
****ทีม
่ า Atlas Specialty Metals (www.atlasmetals.co.au)

การเชือ ่ มสเตนเลสเกรด 301


ความสามารถในการเชือ ่ มสเตนเลสเกรดนี้ ถือว่าอยูใ่ นเกณฑ์ดี โดยการเชือ่ มให้ใช้มาตราฐานการเชือ
่ มโดยทั่ว ๆ ไป
ในการเติมลวดในรอยเชือ ่ มควรจะใช้ลวดป้ อนสเตนเลสเกรด 308L
และถ้าจะดีให้มีการอบรอยเชือ ่ มจะทาให้การป้ องกันการผุกร่อนทางานได้สูงสุด ยกเว้นแต่ตวั 301L และ 301LN
ไม่มีความจาเป็ นต้องอบรอยเชือ ่ มตัวต่อไปอยูใ่ นตระกูล 300 เช่นกันแต่จะมีความแตกต่างกันใน
ธาตุทผี่ สมเพือ
่ ประโยชน์ในการนาไปใช้งานในแต่ละลักษณะ ไปดูกน ั ครับ

สเตนเลสเกรด 321 จะเป็ นสเตนเลสในกลุม ่ ออสเตนเนติก เหมือนกันกับสเตนเลสเกรด 304 แต่จะมีการเติมธาตุไททาเนี่ยม (Ti)


ผสมลงไปในเนื้ อสเตนเลส ในปริมาณ 5 เท่า ของเปอร์เซ็นส่วนผสมของคาร์บอนทีผ ่ สมอยู่
เจ้าไททาเนี่ยมทีผ ่ สมอยูใ่ นสเตนเลสเกรดนี้ จะช่วยลด และช่วยป้ องกันการเกิด โคเมีย่ มคาร์ไบด์ ในช่วงขบวนการเชือ
่ ม
ซึง่ จะเกิดในช่วงอุณหภูมิ 800 -1500 º F หรือ 427 -816 º C โดยเฉพาะอัลลอยล์ นัน ้ จะมีการเปลีย่ นแปลงคุณสมบัติ
เมือ ่ อุณหภูมส ้
ิ งู ขึน

สเตนเลสเกรดนี้ ถูกผลิตขึน ้ มาเพือ


่ รองรับกับการป้ องกันทาปฏิกริ ยิ า หรือการผุกร่อน อย่างยอดเยีย่ ม
ผลิตภัณฑ์ทจี่ ะนาสเตนเลสเกรดนี้ ไปใช้ ประการแรกก็คือ อุปกรณ์ ทเี่ กีย่ วข้องกับการทางานอย่างต่อเนื่อง หรือถูกใช้กบั ผลิตภัณฑ์
่ างานเป็ นบางครัง้ บางคราวในช่วงอุณหภูมิ 800 – 1500 º F หรือ 427 – 816 º C ซึง่ เป็ นช่วงของการเกิดโครเมีย่ มคาร์ไบด์น่ น
ทีท ั เอง

อุปกรณ์ ทถ ี่ ูกนาไปใช้จะรวมไปถึงงานทีใ่ ช้มค


ี วามร้อนสูง ๆ ,เครือ
่ งยนต์ดีเซล , ระบบท่อไอเสียของรถยนต์ทท ี่ างานหนัก
(เครือ
่ งจักรกลหนัก) ,ผนังป้ องกันไฟ , กระบอกสูบ , ตัวบอดีข ้ องระบบหม้อน้าขนาดใหญ่ ,ชิน ้ ส่วนเครือ
่ งบิน แม้กระทั่งอุปกรณ์ หลาย
ๆ ชนิดของโรงกลั่นน้ามันเชื้อเพลิง
ลองมาดูสว่ นผสมของเจ้าสเตนเลสเกรด 321 กันบ้างว่าเป็ นอย่างไร
คาร์บอน 0.08 Max
แมงกานิส 2.0 Max
ฟอสฟอรัส 0.045 Max
ซัลเฟอร์ 0.030 Max
ซิลก
ิ อน 0.75 Max
โครเมีย่ ม 17.0 – 19.0
นิกเกิล 9.0 – 12.0
ไททาเนี่ยม 5 x (คาร์บอน + ไนโตรเจน) Min, 0.70 Max
ไนโตรเจน 0.10 Max

สเตนเลสเกรด 321 จะมีความสามารถอย่างเยีย่ มยอดมองเห็นได้จากงานเกีย่ วกับสารเคมีชีวภาพ,


งานเกีย่ วกับโรงงานสีสาหรับย้อมผ้า และยังสามารถรองรับงานทีเ่ กีย่ วข้องกับสารเคมีทไี่ ม่ใช่ชีวภาพ หลายๆ ตัวได้ดว้ ย
และสเตนเลสเกรดนี้ ยงั สามารถต้านทานกับเจ้ากรดไนตริกเป็ นอย่างดี และกรดซัลเฟอร์ทม ี่ ีการกัดกร่อนไม่รุนแรงมากนัก
อย่างอย่างหนึ่งทีต
่ อ
้ งระวังคือ สเตนเลสเกรดนี้ไม่สามารถชุบแข็งได้ ในขบวนการอบทางความร้อน

นั่นเป็ นรายละเอียดทีไ่ ด้นามาให้ทา่ นทีแ


่ สวงหาความรูไ้ ด้อา่ นกันไว้ครับ เผือ
่ จะมีประโยชน์ ตอ่ ไปในอนาคตข้าวหน้า
คราวนี้ เรามาดูสเตนเลสในกลุม
่ ต่อไป ทีเ่ รียกว่ากลุม
่ ดูแพ็ค (Duplex Stainless Steel)

สเตนเลสกลุม ่ ดูแพ็คนี้ ยังไม่สามารถผลิตขึน ้ ได้ในประเทศไทย แต่จะได้จากการนาเข้ามาเป็ นวัตถุดบ ิ บ้าง บ้างก็เป็ นแบบ Trun key
คือเรียกว่านาเข้ามาเป็ นชิน ้ งานหรือชิน
้ ส่วนของอุปกรณ์ เลย สเตนเลสเกรดนี้ในความเป็ นจริงแล้ว เป็ นการนาข้อดีตา่ ง ๆ
ในสเตนเลส 2 เกรด มารวมกัน เพือ ่ ให้สามารถใช้ได้กบั งานตามทีต ่ อ้ งการ กล่าวคือ เป็ นการผสมสเตนเลส 2 ตัว
โดยปริมาณการผสมอยูท ่ ี่ 50% ต่อ 50% ของสเตนเลสกลุม ่ เฟอร์รติ ริก และกลุม่ ออสเตนเนตริก ครับ
ส่วนการนาไปใช้งานส่วนใหญ่จะเป็ นในส่วนของงานโครงสร้างทีต ่ อ้ งการความแข็งแรง การต้านทานการผุกร่อน
ตัวอย่างเช่นโครงสร้างของฐานขุดเจาะน้ามันในทะเล ฯลฯ.

สเตนเลสตระกูล ดูเพล็กซ์ จะสังเกตุงา่ ย ๆ โดยการดูโค๊ดตัวอักษรจะเป็ นตัวเลข 4 ตัว เช่น 2205 เป็ นต้น
ปริมาณธาตุโครเมีย่ มทีผ
่ สมอยูใ่ นสเตนเลสกลุม
่ นี้ จะอยูป
่ ระมาณ 20-25% และปริมาณส่วนผสมของธาตุนิเกิล จะอยูท
่ ี่ 4-7%
ตัวอย่างเช่น
Duplex 2205 คาร์บอน 0.03 % โมลิเดนั่ม 3%
โครเมีย่ ม 22% ไนโตรเจน 0.15%
นิเกิล 5% เป็ นต้น

สเตนเลสตระกูล พรีซพ
ิ เิ ตชันฮาร์ดเดนนิ่ง (Precipitation Hardening Stainless Steel)

สเตนเลสกลุม ่ นี้จะใช้วธิ ีการตกผลึกด้วยความร้อน เพือ ่ ทีจ่ ะทาให้สามารถปรับปรุงเรือ


่ ง ความแข็งแรง (Strength) และ ความเหนียว
(Ductility) สเตนเลส ในกลุม ่ หรือตระกูลนี้ สังเกตง่าย ๆ จากโค๊ดตัวอักษรทีเ่ ขียนไว้จะลงท้ายด้วยคาว่า PH นั่นหมายถึง P =
Precipitation , H= Hardening นั่นเอง เช่น 15-5 PH, 17-4 PH (S17400) , 17-7 PH, PH13-9 Mo หรือถ้าใช้เป็ นแบบ AISI
้ ต้นด้วยเลข 6 เช่น Aisi 630 เป็ นต้น
ก็จะขึน

Precipitation Hardening Stainless Steels นี้จะมีสว่ นผสมของโครเมียม-นิกเกิล เป็ นหลัก และมีธาตุอน ื่ ๆผสมอยูด ่ ว้ ย เช่น
อะลูมเิ นี ยม ทองแดง ไทเทเนี ยม และไนโอเบียม เป็ นกลุม ่ ซึง่ สามารถนามา บ่มแข็ง( precipitation hardening) ได้
หลังจากการบ่มแข็งแล้ว จะทาให้เหล็กมีโครงสร้างหลักเป็ น martensite โดยจะมีการการตกผลึก (precipitation)
ของสารประกอบระหว่างโลหะในเนื้ อเหล็กซึง่ เกิดขึน ้ ในระหว่างการบ่มแข็ง คุณสมบัตเิ ด่นของเหล็กกลุม ่ นี้ คือ
ถ้าเผาให้อุณหภูมส ้ เหล็กจะไม่แข็ง แต่เหนียวมาก ทาให้สามารถแปรรูปทางกลได้งา่ ย เหมาะสาหรับใช้ทาแกนปั๊ม หัววาล์ว
ิ ูงขึน
และส่วนประกอบของท่าอากาศยานในส่วนของตัวเครือ ่ งกังหันเจ๊ท (Jet turbine) สเตนเลสกลุม่ นี้จะมีคุณสมบัตพ ิ ร้อม ทัง้
fabricability, strength, heat treatment, และ corrosion resistance เหนื อกว่าเหล็กทัง้ 3 ประเภทหลักใหญ่ๆทีก ่ ล่าวมาแล้ว
โดยจะมีความแข็งแรงสูงมากและเป็ นกลุม ่ ทีม
่ ีความแข็งแรงสูงทีส ่ ุดในบรรดา สเตนเลสด้วยกัน

ถึงตอนนี้ ผมคิดว่าทุกคนทีอ ่ า่ นข้อมูลทัง้ หมดมา ก็จะเข้าใจว่าสเตนเลสนัน ้ มาจากไหน ป้ องกันสนิมได้อย่างไร


รวมไปถึงชนิดของเกรดสเตนเลสแต่ละตัว เพือ ่ ทีจ่ ะใช้งานตามความต้องการ โดยคานึงถึงราคาและ สิง่ แวคล้อมทีจ่ ะนาไปใช้งาน
ไม่จาเป็ นเลยว่าสเตนเลสทีแ ่ พงทีส ่ ุดจะใช้งานได้นานทีส ่ ด
ุ ทนทีส ่ ุด สวยทีส
่ ด ้ อยูก
ุ แต่จะขึน ่ บั ว่า
จะใช้อย่างไรทีจ่ ะคุม
้ ค่าและประหยัดทีส ่ ุดในงานนัน ้ ๆ กับสเตนเลสเกรดทีเ่ หมาะสมทีส ่ ด
ุ ทาให้การใช้งานยาวนาน
รวมไปถึงการดูแลรักษาสเตนเลส ทีจ่ ะไม่เป็ นภาระกับกับผูท ้ เี่ ป็ นเจ้าของผลิตภัณฑ์นน ้ั

และสิง่ ทีส่ าคัญก็คือ


“สเตนเลสก็เป็ นสนิมได้ ถ้าไม่เข้าใจ ใช้ไม่เป็ น”
“สเตนเลสแม่เหล็กดูดติดก็ไม่ใช่ไม่ดีสเมอไป”
“ถ้าเป็ นสเตนเลสแล้วไม่มข ี องปลอม ของเทียม เพียงแต่จะเป็ นเกรดไหนของสเตนเลส”
“สเตนเลสเกรดต่าก็ไม่ใช่ ไม่ดเี สมอไป ขึน ้ อยูก่ บั ว่านาไปใช้ถก
ู ต้องหรือไม่ รูจ้ กั เขาแค่ไหน”
“ช่างสเตนเลสทุกคน ก็ไม่ใช่เข้าใจสเตนเลสทัง้ หมด ก่อนทีจ่ ะสั่งงานสเตนเลส ต้องศึกษาหาข้อมูลก่อน เพือ ้ ”
่ ลดปัญหาทีจ่ ะเกิดขึน
“สเตนเลสไม่ใช่ โลหะทีไ่ ม่ตอ ้ งการดูแลรักษา แต่ควรมั่นดูแลทาความสะอาด เพือ ่ จะได้ใช้งานได้คมุ้ ค่า กับเงินทีเ่ สียไป”
“การเชือ ่ ในการแนะนาเกีย่ วกับสเตนเลส ต้องมั่นใจว่าเขาเข้าใจในสเตนเลสจริง ๆ “
“สเตนเลสเกิดสนิมได้ มาจาก 3 กรณี คือ เกิดจากตัวสเตนเลสเอง , เกิดจากขบวนการผลิตชิน ้ งาน (ช่าง) และ เกิดจากผูใ้ ช้
ไม่เข้าใจสเตนเลสเพียงพอ”

ประโยคทีก ่ ล่าวมานัน
้ จะทาให้ทา่ นผูอ
้ า่ นและติดตาม ได้เกิดดวามเข้าใจ และกลายเป็ นผูร้ ู ้ จนกระทั่งเป็ นผูเ้ ชีย่ วชาญด้านสเตนเลส
ระดับมือพระกาฬทีเดียวครับ ในหัวเรือ ่ งต่อไปนัน
้ เราจะมาทาความรูจ้ กั กับสนิมของสเตนเลส หรือการผุกร่อนของสเตนเลสกับว่า
มีกแ
ี่ บบ ในแต่ละแบบจะสังเกตอย่างไร เกิดขึน ้ จากอย่างไร เกิดจากใคร จะป้ องกันไม่ให้เกิด หรือถ้าเกิดแล้วเกิดน้อยสุดได้อย่างไร

ส่วนที่ 2 “การผุกร่อนของสเตนเลส (Stainless steel corrosion)


การเกิดการกัดกร่อนของสเตนเลสนัน ้ ถ้าจะแยกออกมาใหญ่ ๆ แล้วสามารถแบ่งออกมาเป็ นของแบบ คือ
1. การกัดกร่อนแบบทั่ว ๆ ไป (General stainless steel corrosion)
้ ตลอดทั่วผิวหน้า (Uniform attack) การกัดกร่อนแบบนี้ มีอน
เป็ นการกัดกร่อนทีเ่ กิดขึน ั ตรายน้อยเพราะว่าสามารถวัด
และทานายการกัดกร่อนทีจ่ ะเกิดขึน ้ ล่วงหน้าได้
การกัดกร่อนแบบนี้จะเกิดขึน ้ กับสเตนเลสในสิง่ ทีแ ่ วดล้อมทีม
่ ผ
ี ลต่อการกัดกร่อนในอัตราทีต ่ า่ มาก
2. การกัดกร่อนแบบเฉพาะ (Specific stainless steel corrosion)
• การกัดกร่อนเนื่องจากความต่างศักย์ไฟฟ้ า (Galvanic corrosion = แกลวานิค คลอโรชั่น))
เป็ นการกัดกร่อนทีเ่ กิดจากโลหะ 2 ชนิดทีม ่ ศ
ี กั ย์ทางไฟฟ้ าแตกต่างกันมาอยูต ่ ด
ิ กัน คือระหว่างเหล็กกับสเตนเลส
ซึง่ สเตนเลสจะมีศกั ย์ไฟฟ้ าสถิตทีส
่ ูงกว่าเหล็ก จะส่งผลทาให้เหล็กนัน ้ เกิดการกัดกร่อน หรือสนิมขึน ้ เร็วกว่าปกติ ตัวอย่างเช่น
ถ้าคุณมีราวตากผ้าทีเ่ ป็ นสเตนเลส แล้วคุณนาไม้แขวนเสื้อทีเ่ ป็ นเหล็กมาแขวน ก็จะส่งผลให้ไม้แขวนเสื้อเกิดสนิมขึน ้
หรือโครงสเตนเลสทีย่ ด ึ ตามรถกระบะ และมีการยึดด้วยโบลท์ระหว่างสเตนเลสกับตัวรถ จะเห็นว่าจะเกิดสนิมขึน ้ ตามรูปที่ 14

นอกเหนื อจากการยึดด้วยโบลท์ น๊อตทีเ่ ป็ นเหล็กแล้ว กรณีทต ี่ อ


้ งมีการเชือ่ มต่อโดยการเชือ ่ มอย่างถาวรระหว่างเหล็กกับสเตนเลสนัน

สามารถทาได้แต่ตอ ้ งป้ อกันกัลป์วานิค คลอโรชั่นไว้กอ
่ น โดยการใช้ล วดเชือ ่ มสเตนเลส เกรด 309 เชือ ่ มลงบนผิวเหล็กแบบ
“ทาเนย” (battering) เสียก่อน คือการเปลีย่ นคุณสมบัตข ิ องผิวเหล็กทีจ่ ะใช้สเตนเลสเชือ ่ มต่อ ให้เป็ นสเตนเลสอ่อน ๆ เสียก่อน
เปรียบเสมือนน้าจืดในแม่น้าพบกับน้าเค็มในทะเล จะมีน้ากร่อยเป็ นตัวทีอ ่ ยูร่ ะหว่างกลาง
ซึง่ จะช่วยลดปัญหาการกัดกร่อนแบบกัลป์วานิค หรือไฟฟ้ าสถิตย์ให้มีปณ ั หาน้อยลง

รูปที่ 14 การกัดกร่อนแบบการถ่ายเทศักย์ไฟฟ้ าสถิตย์ หรือแกลวานิล

วิธีการแก้ไขปัญหาการกัดกร่อนชนิดแกลวานิค
1. หลีกเลีย่ งการใช้ น๊อต สกรูเหล็กในการขัน ยึด ดึง งานสเตนเลส
2. ห้ามใช้ใบเจียรงานเหล็กมาใช้กบั งานสเตนเลส
3. อย่าวางชิน ้ งานสเตนเลสในบริเวณพื้นทีท ่ ม
ี่ ีการทางานของเหล็ก เช่นการตัด การเจียร การเจาะต่างๆ
4. ถ้ามีความจาเป็ นตัวใช้ น๊อต สกรูเหล็กร่วมกับสเตนเลส ควรจะมีแผ่นกัน ้ ไม่ให้สว่ นทีเ่ ป็ นเหล็กสัมผัสกับสเตนเลส

You might also like