Professional Documents
Culture Documents
เข้าใจสเตนเลส ไม่ยากอย่างที่คิด
เข้าใจสเตนเลส ไม่ยากอย่างที่คิด
่ ด
ิ
สวัสดีครับผูท ้ ส
ี่ นใจสเตนเลส และกาลังคิดว่าจะใช้สเตนเลสทุกท่าน นับได้วา่ เป็ นความโชคดี สาหรับหลาย ๆ
คนทีต ่ ด
ิ ตามอ่านบทความของผมมาตลอด และหลายคนก็พยายามหาบทความนี้ มาสะสมเก็บไว้เพือ ่ ทีจ่ ะนาไปเพิม
่ พูนความรู ้
ใช้แก้ปญ ั หาต่าง ๆ รวมไปถึงใช้ในการอธิบายให้ลูกค้า ทีม่ าติดต่อสั่งงานกับเรา ได้มค
ี วามเข้าใจ ง่าย กระชับ
้ ตามมาในเวลาอันใกล้ หรือ สักระยะหนึ่ง ข้อดีก็คือจะได้ลดต้นทุน เพิม
อีกทัง้ เป็ นการลดปัญหาทีจ่ ะเกิดขึน ่ กาไร
และลดการขาดทุนจากการรูเ้ ท่าไม่ถงึ การณ์ น่ น ั เอง ผมต้องขอขอบคุณหลาย ๆ ท่านทีใ่ ห้การสนับสนุ น
ให้เกิดบทความในลักษณะนี้ ออกมา และหวังว่าหลาย ๆ ท่านทีต ่ อ
้ งการสะสมความรู ้ สามารถรวบรวมกันอีกครัง้
โดยไม่พลาดโอกาสอีกแล้ว
เราจะเห็นได้วา่ เมือ
่ เหล็กทาปฎิกริยากับอ๊อกซิเจนในอากาศ จะทาให้เกิด สนิมสีแดง เรียกว่า “เฟอริคอ๊อคไซด์ “
ทาให้เหล็กเกิดการผุกร่อนชารุดเสียหาย การป้ องกันการผุกร่อนของเหล็ก คือ ทา-พ่นสี ชโลมน้ามัน จารบี รมดา ชุปโครเมีย่ ม ฯลฯ
นั่นแสดงให้เห็นว่าเหล็กนัน้ ไม่ชอบอากาศ หรืออ๊อกซิเจนครับ ฉบับหน้าเรามาดูตอ่ กันว่าแล้วสเตนเลสล่ะ เป็ นอย่างไร
โครเมีย่ มจะเป็ นตัวช่วยหลัก เพือ ่ ไม่ให้เกิดอ๊อกไซด์ (สนิม) ซึง่ สเตนเลสในตระกูล 400 (สเตนเลสทีม ่ ีเลข 4 นาหน้าโค๊ดทัง้ หมด)
ซึง่ ไม่มีธาตุนิเกิลผสมอยูเ่ ลย และทีใ่ ช้กน
ั อยู่ เช่น สเตนเลสเกรด 444, 430, 430Ti, 439, 409,409L, 420J1, 420J2 เป็ นต้น
ขอยกตัวอย่าง สเตนเลสเกรด 430 ซึง่ จะประกอบไปด้วย เหล็ก คาร์บอน และโครเมีย่ ม ที่ 17% ถ้าเราดูจากโค๊ดจะเขียนว่า 17-0
นั่นหมายความว่า มีโครเมีย่ มอยู่ 17% และนิเกิล 0% และเช่นเดียวกันถ้าเราเห็นโค๊ด 18-8, 18-9, 18-10 ถ้า 18-8 นั่นหมายความว่า
โครเมีย่ ม 18% และ นิเกิล 8% ครับ ซึง่ อยูใ่ นตระกูล 300 (สเตนเลสทีโ่ ค๊ดใช้เลข 3 ขึน้ ก่อนหน้าทัง้ หมด)
คราวนี้ผมคิดว่าเพือ
่ น ๆ นัน
้ เข้าใจแล้วระหว่างเหล็ก กับสเตนเลสแตกต่างกันอย่างไร การเกิดสนิมเป็ นอย่างไร
ภาพด้านบนนัน ้ จะเป็ นภาพจริงลักษณะสนิมของสเตนเลสทีเ่ ป็ นแบบโพรงหนู ซึง่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนื อ
ภาควิชาเทคโนโลยีการกัดกร่อนได้ทาภาพตัดของจริงมาดูกน ั ครับ
ต่อไปนี้ เราจะมารูก
้ น
ั ว่าสเตนเลสนัน ้ ทีว่ า่ เป็ นโลหะผสมในกลุม
่ อัลลอยล์นน
้ ั มีเฉพาะธาตุเหล็ก กับธาตุโครเมีย่ มเท่านัน
้ หรือ
คาตอบคือไม่ใช่แต่ยงั จะมีธาตุอน ื่ ๆ อีกหลายชนิดทีจ่ ะเป็ นการเพิม ่ คุณสมบัตบ ิ างประการให้กบั สเตนเลสในแต่ละเกรดครับ
เราตามมาเพิม ่ ความรูด้ ว้ ยกันครับ
ต่อไปนี้ เราจะมารูก
้ น
ั ว่าสเตนเลสนัน ้ ทีว่ า่ เป็ นโลหะผสมในกลุม
่ อัลลอยล์นน
้ ั มีเฉพาะธาตุเหล็ก กับธาตุโครเมีย่ มเท่านัน
้ หรือ
คาตอบคือไม่ใช่แต่ยงั จะมีธาตุอน ื่ ๆ อีกหลายชนิดทีจ่ ะเป็ นการเพิม ่ คุณสมบัตบ ิ างประการให้กบั สเตนเลสในแต่ละเกรดครับ
เราตามมาเพิม ่ ความรูด้ ว้ ยกันครับ
คาร์บอน (Carbon), C
โครเมีย่ ม (Chromium), Cr
โครเมีย่ มเป็ นส่วนผสมหลักในเนื้ อของสเตนเลส โดยจะผสมลงในน้าเหล็กและธาตุโครเมีย่ มนี้
จากทดลองและวิเคราะห์วจิ ยั ข้อมูลของ A J Sedriks ได้สรุปผลวิเคราะห์วา่ เมือ ่ เติมโครเมีย่ มลงไปในเนื้ อเหล็กอย่างน้อย 10.5 %
จะสามารถลดการสูญเสียน้าหนักของโลหะได้ นั่นหมายความว่าเหล็กกล้าผสมโครเมีย่ มนี้มค ี วามสามารถป้ องการการกัดกร่อนได้
(Resistance corrosion) ธาตุโครเมีย่ มนี้จะเป็ นตัวทีจ่ ะป้ องกันการกัดกร่อนได้ ซึง่ ในความเป็ นจริงแล้ว สเตนเลสหลายๆ
เกรดก็ไม่ได้ผสมธาตุโครเมีย่ มตามทฤษฏี คือ 10.5 % ส่วนมากจะผสมมากกว่านัน ้
แล้วแต่คุณสมบัตห ิ รือวัตถุประสงค์ของการใช้งานนั่นเอง
นิเกิล (Nikle),Ni
นิเกิลเป็ ธาตุอีกตัวหนึ่งทีใ่ ช้ผสมลงในเนื้ อสเตนเลสบางเกรด แต่ไม่ใช่ทง้ ั หมด สเตนเลสบางตระกูลก็ไม่ใช่นิเกิลเป็ นส่วนผสมเลย เช่น
ตระกูล 400 ซึง่ จะไม่มีธาตุตวั นี้ เป็ นส่วนประกอบอยู่ เหล็กกล้าผสมเมือ ่ เติมธาตุนิเกิลลงไป
ก็จะทาให้โครงสร้างภายในเป็ นออสเตนไนท์ ทีอ ่ ุณหภูมห ิ อ
้ ง ฟังแล้วช่างหรือผูอ
้ อกแบบหลายคนเริม ่ จะปวดหัวขึน ้ มา
พอจะอธิบายง่าย ๆ ว่า เมือ ่ เติมธาตุนิเกิลลงไปในสเตนเลสบางตระกูล ตัวอย่างเช่น ตระกูล 300 ก็จะทาให้สเตนเลสนัน ้
ไม่มีการตอบสนองกับการดูดของแรงแม่เหล็กนั่นเอง ขอยกบางกรณีของสเตนเลส เกรด 430 ขึน ้ มาให้มองเห็นภาพง่ายขึน ้
สเตนเลสตัวนี้จะไม่มีธาตุนิเกิลเป็ นส่วนประกอบเลย โดยจะมีการผสมระหว่างเหล็ก กับโครเมีย่ ม ประมาณ 17%
(ส่วนประกอบย่อยธาตุตวั อืน ่ ๆ จะไม่กล่าวถึงในทีน ่ ี้) สเตนเลสเกรดนี้จะมีปฏิกริ ยิ าตอบสนองกับแรงดูดของแม่เหล็ก
คล้ายกับเหล็กทั่วไป แต่เมือ ่ เราเติมธาตุนิเกิลผสมลงไป ตัวอย่างเช่น 8 % ก็จะทาให้สเตนเลสตัวนี้ เปลีย่ นจากตระกูล 400 เป็ นตระกูล
300 คือสเตนเลสเกรด 304 (มีโครเมีย่ ม 18 % และนิเกิล 8 %) ซึง่ เป็ นสเตนเลสทีแ ่ ม่เหล็กดูดไม่ตด ิ นั่นเอง
และถ้าเราแยกธาตุนิเกิลออกมา สเตนเลสตัวนี้ กจ็ ะมีปฏิกริ ยิ าต่อแรงดูดของแม่เหล็กทันที ยังมีอีกประการหนึ่งก็คือ
สเตนเลสทีเ่ ติมธาตุนิเกิลลงไปจะทาให้งา่ ยต่อการขึน ้ รูป เช่นการปั้มขึน ้ รูปภาชนะต่าง ๆ อ่างล้างจาน ฯลฯ เป็ นต้น
เพราะจะมีความสามารถในการยึดตัวสูง (Elongation) ส่วนการป้ องกันการกัดกร่อนนัน ้ ก็จะเป็ นตัวช่วยเพิม ้ บ้าง
่ ขึน
แมงกานิส (Manganese), Mn
ธาตุนี้เป็ นส่วนผสมของสเตนเลสทุกเกรด แต่จะเป็ นส่วนประกอบหลักหรือส่วนประกอบย่อยนัน ่ งหนึ่ง
้ คงเป็ นอีกเรือ
ธาตุแมงกานิสนี้จะมีคุณสมบัตบิ างประการมีม
่ ีความคล้ายคลึงกับธาตุนิเกิล ก็คือ เมื่อเติมธาตุแมงกานิสผสมลงไปในเหล็กกล้าผสม
ตัวอย่างเช่น 5 – 9 % ในตระกูล 200 จะทาให้สเตนเลสตัวนี้ แม่เหล็กดูดไม่ตด ิ เหมือนกับสเตนเลสทีเ่ ติมธาตุนิเกิลลงไปนั่นเอง
แต่ธาตุแมงกานิสเมือ ่ ผสมเติมลงไปนัน้ จะทาให้สเตนเลสมีคา่ ความแข็งเพิม ้ และยากต่อการนามาขึน
่ ขึน ้ รูป
เพราะฉะนัน ้ สเตนเลสทีม ่ ีการผสมเติมธาตุแมงกานิสนัน ้ ก็จะต้องเติมธาตุนิเกิลลงไปด้วย เพือ ่ ทาให้สเตนทีใ่ ช้ธาตุแมงกานิส
เป็ นองค์ประกอบหลัก ลดค่าความแข็งลง เมือ ้ รูปก็จะไม่เกิดการแตกนั่นเอง ในความคิดของ กนก ไร้สนิม คิดว่า
่ นาไปปั้มขึน
สเตนเลสทีเ่ ติมธาตุแมงกานิสเป็ นองค์ประกอบหลักนัน ้ เพือ่ เพิม
่ คุณค่าทางใจมากกว่า เพราะว่า
เรามีความเชือ ่ กันว่าสเตนเลสทีไ่ ม่มีปฏิกริ ยิ าต่อแรงดูดของแม่เหล็กนัน ้ เป็ นสเตนเลสทีด ่ ี
(สมัยในอดีตคนญีป ่ ุ่ นได้นาสเตนเลสเข้ามาจาหน่ าย โดยไม่รวู ้ า่ จะทาให้คนไทยนัน ้ สามารถแยกระหว่างเหล็กทั่วไปและสเตนเลส
ซึง่ จะใช้วธิ ีทดสอบโดยนาแม่เหล็กมาเป็ นดัชนี ตวั ชี้วดั ว่า สเตนเลสต่างกับเหล็กอย่างไร และเราก็มค ี วามเชือ ่ กันมานานมาก ๆ
เรียกว่าเข้าไปอยูใ่ นสมองส่วนลึกของเราเลยล่ะ) ก็เลยทาให้หลาย ๆ คนไม่รวู ้ า่ จะอธิบายให้ผส ู้ นใจทีจ่ ะนาสเตนเลสไปใช้งาน
หรือลูกค้าฟังอย่างไร จุดเดียวทีจ่ ะง่ายทีส ่ ุด และมองเห็นก็คือ นาแม่เหล็กมาดูดนั่นเอง แต่ กนก ไร้สนิม มีความคิดเห็นว่า
เดีย๋ วนี้มน
ั ใช้ไม่ได้แล้ว เพราะสเตนเลสทีแ ่ ม่เหล็กดูดติด เดีย๋ วนี้ ก็มม
ี าก จึงยากทีจ่ ะเชือ
่ ใจได้วา่ โลหะทีม ่ องเห็นอยูข่ า้ งหน้า
ใช่สเตนเลสหรือไม่
โมลิเดนั่ม (Molybdenum), Mo
โมลิเดนั่มเป็ นธาตุ ๆ หนึ่งทีเ่ ป็ นส่วนประกอบของสเตนเลสบางเกรด หน้าทีข ่ องโมลิเดนั่ม
เมือ ่ ถูกผสมลงไปในเนื้ อของสเตนเลสจะช่วยทาให้ เพิม ่ ความต้านทานกัดกร่อนแบบรูเข็ม หลาย ๆ คนคงสงสัยว่า
การกัดกร่อนแบบรูเข็ม เป็ นอย่างไร ให้อา่ นไปเรือ ่ ย ๆ จนว่าว่าด้วยเรือ ่ งของการกัดกร่อนทีเ่ กิดกับสเตนเลส
คิดว่าคงจะเข้าใจไม่ยากนัก โมลิเดนั่มในสเตนเลสบางเกรด เช่น ตระกูล 300 คือ 316 และ 316L หรือ ตระกูล 400 เช่น 444
ซึง่ มีสว่ นประกอบของโมลิเดนั่ม ประมาณ 2 % สามารถป้ องกันและยับยัง้ การกัดกร่อนทีเ่ กิดจากพวกครอไรด์ได้ ครอไรด์อยูท ่ ไี่ หน
ถ้าตามธรรมชาติกค ็ ือ ตามชายทะเล ไอเค็มจากทะเล หรือถ้าไม่มาจากธรรมชาติ ก็จาพวกครอรีนทีผ ่ สมไว้ในน้าในสระว่ายน้านั่นเอง
ครอไรด์ จะมีสต ู รทางเคมี คือ “Cl” นั่นเอง เพราะฉะนั่นเราควรพิจารณาว่า
งานสเตนเลสของเราได้ถูกนาไปใช้ในสภาพแวคล้อมทีค ่ รอไรด์หรือไม่
ก่อนตัดสินใจเสนองานสเตนเลสกับลูกค้าเพราะเมือ ่ เกิดปัญหาขึน ้ มาลูกค้าเขาไม่สนใจว่าเกิดจากวัตถุดบ ิ หรือ อะไรก็ตาม
แต่ลูกค้าต้องการว่าจะไม่เป็ นสนิมเกิดขึน ้ ในระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 ปี ก็จะทาให้ชา่ งสเตนเลส หรือผูผ ้ ลิตเกิดปัญหาการเครม หรือ
ให้เปลีย่ นวัสดุตวั ใหม่แทน นั่นเป็ นค่าใช้จา่ ยทีส
่ ูงทีเ่ ดียว อีกทัง้ เสียชือ
่ เสียงทีไ่ ด้สะสมมาจากในอดีต เพราะรูเ้ ท่าไม่ถงึ การณ์
หรือไม่ศก ึ ษาถึงตัวสเตนเลสแต่ละตัวก่อนนั่นเอง
ไททาเนี่ยม (Titanium), Ti
ไนโอเบีย่ ม (Niobium), Nb
ทองแดง (Copper), Cu
ทองแดงจัดว่าเป็ นโลหะชนิดหนึ่ง ซึง่ สามารถนามาผสมลงในเนื้ อสเตนเลสได้
สามารถช่วยเพิม ่ ในเรือ
่ งของความต้านทานการกัดกร่อนต่อสเตนเลสด้วย
เพราะสเตนเลสบางตัวซึง่ เป็ นสเตนเลสชนิดใช้ภายในอาคาร หรือบริเวณทีป ่ ลอดมลภวะของสารเคมีตา่ ง ๆ
ซึง่ มีความสามารถป้ องกันการกัดกร่อนไม่ดี เมือ
่ นาทองแดงมาเป็ นส่วนผสมเข้าไป ทาให้สามารถนาออกมาใช้ภายนอกได้ดี
แต่ยกเว้นบริเวณทีม่ ีสภาวะแวคล้อมของครอไรด์ จะค่อนข้างบอบบางเลยทีเ่ ดียว
ทองแดงจะถูกผสมลงในสเตนเลสบางเกรดในตระกูล 200 เช่น 201Modifier, 204 Cu จากการอธิบายข้างต้นทัง้ หมด
เราคงจะพอตามทันและเข้าใจอย่างไม่ยากนัก ส่วนธาตุเป็ นองค์ประกอบอืน ่ ๆ นัน
้ เช่น ซิลก
ิ อน (Si), ไนโตรเจน (N) และอืน
่ ๆ
จะไม่ขอกล่าวถึง ทีก่ ล่าวมาทัง้ หมดเป็ นธาตุหลัก ๆ ทีเ่ ราจะต้องรูจ้ กั มันเสียก่อน เพราะอะไรครับ เพราะว่าในสเตนเลสแต่ละเกรด
แต่ละชนิดจะใช้ตวั อักษรเป็ นสัญญาลักษณ์ ต่อท้ายตัวเลขทีร่ ะบุมา ซึง่ เราจะได้ไม่งงว่า คือตัวอะไร และมีไว้ในสเตนเลสตัวนัน ้
เพือ
่ ประโยชน์ อะไรครับ
เราเริม
่ กันทีก
่ ลุม
่ แรกก่อน คือ
กลุม
่ เฟอริตริก (Ferritic)
้ รูปควรดูเปอร์เซ็นต์ยด
คาเตือน ถ้าต้องการใช้สเตนเลสเกรด 430 มาปั๊มขึน ื ตัว (elongation) ไม่ตา่ กว่า 24 %
แล้วสเตนเลสตระกูล 400 มีเฉพาะเกรด 430 หรือ คาตอบคือไม่ใช่ แต่จะมีอีกหลาย ๆ ตัวพอสังเขปดังนี้ เช่น เกรด 430Ti
(TI=ไททาเนี่ยม), 439, 409, 409L, 444 เป็ นต้น กลุม
่ ต่อไปคือ
กลุม
่ มาร์เทนซิตริก (Martensitic)
กลุม
่ นี้ เป็ นกลุม
่ ทีม
่ ป
ี ฎิกริยากับแม่เหล็กเหมือนกัน เช่นเดียวกับกลุม่ แรก ก็ยงั อยูใ่ นตระกูล 400
แต่จะต่างกันทีเ่ ปอร์เซ็นต์ของคาร์บอนทีผ ่ สมอยู่ โดยปกติแล้วตามข้อมูลทีแ ่ สดงไว้วา่ สเตนเลสจะต้องมีปริมาณคาร์บอนทีผ
่ สมอสยู่
น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.1% แต่กลุม ่ มาร์เทนซิตริกนี้ จะยกเว้น โดยทีป
่ ริมาณคาร์บอนจะมากกว่า 0.1% ครับ เพราะอะไรหรือ
เพราะสเตนเลสในกลุม ่ นี้ สามารถ ทาการอบ-ชุบได้ (Heat Treatment) ในขัน ้ ตอนของการชุบแข็ง (Hardening) ได้
สเตนเลสในกลุม
่ นี้ จะใช้ทาอะไรได้บา้ ง ตัวอย่างเช่น ใบมีดโกนหนวด, มีดหมอผ่าตัด, มีดแมกไกเวอร์ ฯลฯ ดังภาพที่ 10 ครับ
กลุม
่ ออสเตนเนตริก (Austennitic)
สเตสเลสในกลุม
่ นี้ จะเรียกว่าสเตนเลสตระกูล 300 คือสเตนเลสทีม
่ ค
ี ด
๊ ตัวเลข ทีข ึ้ ต้นด้วยเลข 3 เช่น 301, 302, 303, 303Se, 304,
่ น
304L, 304N, 304H, 305, 316, 316L, 308, 308L, 309, 310, 317, 317L, 321,329, 347 ฯลฯ
สเตนเลสในกลุม ่ จะเพิม
่ ธาตุนิเกิลผสมเข้ากับเหล็กด้วย ทาให้องค์ประกอบของสเตนเลสนี้มก ี ารเรียกกันว่า Nickel base
ซึง่ ตัวธาตุนิเกิลเมือ
่ ผสมอยูจ่ ะทาให้เกิดการเปลีย่ นแปลงของโครงสร้างภายใน
้ ก็คือสเตนเลสในกลุม
ผลทีเ่ กิดขึน ่ นี้จะไม่ตอบสนองกับปฎิกริยาแรงดูดของแม่เหล็ก เมือ ่ อยูใ่ นสภาพปกติ ต่อเมือ ่ มีการตัด การเชือ
่ ม
การเจียร การดัดโค้ง การแมทชีนนิ่ง แม้แต่การปั๊มขึน ้ รูป ซึง่ จะทาให้บริเวณทีเ่ กิดการกระทาดังกล่าว
เกิดปฎิกริยาตอบสนองกับแรงแม่เหล็กได้ แต่จะไม่แรงเท่ากับ เมือ ่ นาแม่เหล็กไปดูดกับสเตนเลสในตระกูล 400 ครับ
สเตนเลสในตระกูลนี้ไม่สามารถทาการ Heat Treatment ได้ครับ และสเตนเลสในตระกูลนี้จะใช้ในลักษณะทั่วไปอย่างแพร่หลาย
(General used) โดยมีเปอร์เซ็นต์ของคาร์บอนน้อยกว่า 0.1% และส่วนผสมของนิเกิลเข้าไปด้วย ขึน ้ อยูก
่ บั ว่าเป็ นสเตนเลสเกรดไหน
ดังตารางด้านล้างครับ
รูปที่ 11 รูปผลิตภัณฑ์ทผ
ี่ ลิตจากสเตนเลสในกลุม
่ ออสเตนนิตก
ิ ตระกูล 300
ถามว่าในเมือ
่ สเตนเลสตระกูล 300 มีราคาแพงมาก ทาไมจะต้องเป็ นสเตนเลสตระกูล 200
เท่านัน
้ หรือทีถ
่ ูกผลิตออกมาเป็ นสินค้าทดแทน ใช้สเตนเลสตระกูล 400 ไม่ได้หรือ คาตอบก็คือ สเตนเลสตระกูล 400 แม่เหล็กดูดติด
อีกทัง้ การนาไปขึน ้ รูปไม่ดีนกั เพราะไม่มีธาตุนิเกิลผสมอยูเ่ ลย ทาให้การขึน
้ รูปต่าง ๆ ทีม ่ ีความลึกไม่ได้มากนักจะแตกง่าย
อีกทัง้ การเชือ
่ มก็ไม่คอ ่ มแตกร้าว หรือเรียกว่า “ Hot Crack” ครับ ซึง่ สเตนเลสในตระกูล
่ ยดีนกั ทาให้เกิดการบิดงอ โก่งตัว รอยเชือ
200 สามารถแก้คาตอบเชิงลบของสเตนเลสตระกูล 400ได้หมด แต่ก็ไม่สามารถสูก ้ บั สเตนเลสตระกูล 300
ได้ในเรือ ่ งการต้านทานการกัดกร่อนบางสภาวะสิง่ แวคล้อม
เรามาเริม ่ ต้นกันทีส
่ เตนเลสตระกูล 300 ก่อนนะครับ เพราะอะไรหรือ สเตนเลสตระกูล 300
ถูกนาเข้ามาใช้ในประเทศไทยในสมัยแรก และในอตีดถ้าพูดถึงเรือ ่ งสเตนเลส ก็คงหนีไ ม่พน ้ สเตนเลสตระกูลนี้ เช่น สเตนเลสเกรด
304 ทีห ่ ลายคนรูจ้ กั ถ้าไปถามคนทีเ่ คยใช้สเตนเลสในอดีตมา เขาก็จะบอกกับเราว่า ใช้สเตนเลสต้องเกรด 304
เท่านัน
้ นะจึงจะเรียกว่าสเตนเลสแท้ แต่ในสมัยปัจจุบน ั นี้ กบั กลายเป็ นว่า สเตนเลสเข้ามามากมายหลายเกรด
้ อยูก
ขึน ่ บั ว่าจะเลือกใช้แบบไหน ไม่จาเป็ นว่าของไม่ดีจะไม่ทน แต่มน ้ อยูก
ั ขึน ่ บั ว่า ใช้สเตนเลสนัน้ ได้อย่างถูกทีถ
่ ูกทาง
และรูจ้ กั สเตนเลสทีใ่ ช้มากน้อยแค่ไหน นั่นล่ะจะเป็ นตัวกาหนดว่า คุณจะใช้สเตนเลสตัวนัน ้ ได้นานขนาดไหนครับ
อย่างทีก
่ ล่าวมาแล้วข้างต้นว่า สเตนเลสตระกูล 400 ถึงจะไม่มีธาตุนิเกิลผสมอยูเ่ ลย นั่นก็คือสเตนเลส ด้วยองค์ประกอบอยู่ 2
ประการคือ สเตนเลสจะต้องมีปริมาณคาร์บอน ทีผ ่ สมอยูน ่ ้อยกว่า 0.1 % และปริมาณโครเมีย่ มทีผ ่ สมอยูเ่ ช่นกัน อย่างน้อย 10.5 %
นั่นแหละครับ สเตนเลสในตระกูล 300 ก็เป็ นเช่นนัน ้ เหมือนกัน จะต่างกันตรงทีว่ า่
สเตนเลสตระกูลนี้ จะมีธาตุผสมอีกตัวหนึ่งเข้ามาเป็ นตัวบ่งชี้วา่ นี่คือสเตนเลสในกลุม ่ 300 นั่นก็คือธาตุนิเกิล ตามทฤษฎีได้ระบุไว้วา่
ปริมาณนิเกิลทีผ ่ สมอยูน
่ น
้ ั จะเท่ากับ 8 % เราก็เลยเห็นว่าหลาย ๆ สินค้าทีใ่ ช้สเตนเลสเกรดนี้ จะเขียนคาว่า 18/8 หรือ 18-8 บ้าง
นั่นหมายความว่า “ 18 ” นัน ้ ก็คือเปอร์เซ็นต์สว่ นผสมของโครเมีย่ ม และ “ 8 ” ก็คือเปอร์เซ็นต์สว่ นผสมของนิเกิลนั่นเอง
แต่ก็ใช่วา่ สเตนเลสตระกูลนัจ้ ะมีตวั นี้ ตวั เดียวซะทีไ่ หน ยังมีอกี หลาย ๆ ตัวมากมายพอจะยกตัวอย่างได้ พอสังเขปดัง นี้
301, 302, 303, 304, 304L, 308, 309, 316, 316L, 317, 321 เป็ นต้น
แต่เป็ นทีน
่ ่าสังเกตุวา่ ในกลุม
่ ทีย่ กตัวอย่างมาทัง้ หมดนัน ้ ต้นทัง้ นัน
้ จะเห็นได้วา่ ตัวเลขตัวหน้าสุดจะใช้เลข “ 3” ขึน ้
ในหลักสากลจึงเรียกสเตนเลสในกลุม ่ นี้วา่ สเตนเลสตระกูล 300 หรือซีรีย์ 300 ครับ เนื่องจากมีธาตุนิเกิลผสมอยูน ่ น
้ั
้ ้ ่
จะทาให้สเตนเลสตัวนี้ สามารถใช้กบั งานขึนรูปได้ดี ไม่วา่ การดัด การปั๊มขึนรูปเป็ นภาชนะชนิดต่างๆ ซึงมีผลมาจากค่า elongation
หรือระยะคืบตัวดี จึงสามารถนาไปป๊ มเป็ นสิง่ ของเครือ ่ งใช้มากมาย เช่นหม้อ การะมัง แก้วสเตนเลส เป็ นต้น
สเตนเลสตระกูล 300 นี้ ในสมัยก่อน ๆ นี้ สว่ นใหญ่มกั จะใช้แม่เหล็กมาดูด เพือ ่ เป็ นตัวทดสอบว่า “ใช่ หรือ ไม่ใช่ “
เพราะเราไม่รูว้ า่ จะนาอะไรมาตรวจสอบ นอกเสียจากส่งไปห้องทดสอบ โดยใช้เครือ ่ งมือ แต่ราคาค่าตรวจสอบก็แพงแสนแพง
ทาให้ไม่คม ุ้ ค่า เพราะฉนัน้ ก็เลยใช้แม่เหล้กดีกว่า หาง่าย ทดสอบง่าย รูผ ้ ลทันที ถ้าแม่เหล็กดูดไม่ตด ิ “ใช่เลย สเตนเลส 304”
แต่ถา้ ดูดติดก็สรุปว่า ไม่ใช่สเตนเลส แต่เป็ นเหล็ก ก็เลยทาให้รา้ นรับซื้อของเก่ารวยกันเป็ นแถวไปตาม ๆ กัน
คนรับซื้อของเก่าในสมัยผูเ้ ขียนยังเป็ นวัยรุน่ อยู่ จะใช้รถซาเล้งสามล้อถีบทัง้ นัน
้ และก็เริม่ พัฒนาขึน ้ มาเป็ นรถกระบะในปัจจุบน ั
สเตนเลสตระกูล 300 นี้ จะเป็ นทีย่ อมรับกันในวงการแพทย์ อาหารและยา ทั่วโลกจึงเรียกสเตนเลสว่าเป็ น Food Grade
(สเตนเลสทีใ่ ช้ทางานมีการสัมผัสกับอาหารการกิน) จึงไม่แปลกใจเลยว่า ภาชนะต่าง ๆ ทีม ่ ยี ห
ี่ อ
้ ดัง ๆ ไม่วา่ จะผลิตในประเทศ
หรือนาเข้ามาจึงมีราคาค่อนข้างจะแพง แต่จะต่างกันกับภาชนะทีน ่ าเข้ามาจากประเทศ จีน และอินเดีย เมือ ่ เที ยบขนาดและราคา
ทาไมจึงต่างกันเช่นนี้ ทัง้ ๆ ทีเ่ ป็ นสเตนเลสเหมือน ๆ กัน ถ้าเราสังเกตุวา่ อุปกรณ์ ภาชนะต่าง ๆ ในโรงพยาบาลนัน ้
จะใช้สเตนเลสเกรดนี้ทง้ ั นัน้
ถ้าทดสอบแบบเผิน ๆ แล้วจะรูส้ ก
ึ ว่าสเตนเลสตระกูล 300 นัน ้ จะไม่มีผลต่อการดูดติดของแม่เหล็กเลย บางคนนาแม่เหล็กก้อนโต
แรงดูดสูง ๆ มาทดสอบก็ดูดไม่ตด ิ ก็เลยมั่นใจว่า ต้องเป็ นสเตนเลสแท้ (บางคนเรียกว่า แท้ กับ ปลอม) แน่ นอน
แต่ในความเป็ นจริงนัน้ สเตนเลสตระกูลนี้ ถ้าเราลองตัด พับ ดัด ปั๊มขึน ้ รูป รวมไปถึงการเชือ ่ มต่อ เราจะเห็นได้วา่ จะมีแรงดูดติด
เมือ
่ นาแม่เหล็กมาทดสอบ แต่ก็มีอีกหลาย ๆ คนทดสอบมาแล้ว ก็บอกว่าไม่ตด ิ แน่นอน ผูเ้ ขียนก็ขอแนะนาให้ใช้แม่เหล็กตัวเล็ก ๆ
แรงดูดไม่มาก เบา ๆ ลองมาทดสอบดูวา่ ดูดติดหรือไม่ การทีใ่ ช้แม่เหล็กชิน ้ ใหญ่ ๆ มาดูด เพือ ่ ตรวจสอบว่าเป็ นสเตนเลสตระกูล
300 นัน้ จะใช้ได้เพียงชี้บง่ และแยกเกรดระหว่างสเตนเลสทีม ่ ีผลต่อการดูดติดได้ดี เช่นในสเตนเลสตระกูล 400 ตัวอย่างเช่น เกรด
430, 439 , 409, 420 เป็ นต้น เพราะสเตนเลสในกลุม ่ เหล่านี้ จะไม่มีธาตุบางธาตุผสมอยู่ เช่น ในตระกูล 300 จะมีธาตุนิเกิล
ผสมอยูแ ่ ละในตระกูล 200 จะมีธาตุแมงกานิส ทีน ่ ามาผสมลงไปเพือ ่ ลดปริมาณของธาตุนิเกิลลงนั่นเอง
ในโรงพยาบาล ไม่วา่ จะเป็ นของภาครัฐหรือ ภาคเอกชน อุปกรณ์ ตา่ ง ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องกับงานการพยาบาลและรักษา
เช่นอุปกรณ์ เครือ
่ งมือต่าง ๆ ในห้องผ่าตัด โต๊ะ เตียงคนไข้ จาน ชาม กระป๋ อง ราวจับ ราวพยุง ตระกร้าใส่ผา้ ตลอดจนรถเข็นต่าง ๆ
จะใช้สเตนเลสตระกูล 300 เป็ นหลัก ด้วยเหตุผลทีว่ า่ มีความปลอดภัยทีส ่ ดุ และทนทาน ในโรงพยาบาลจะใช้น้ายาฆ่าเชื้อ
น้ายาทาความสะอาดพื้นต่าง ๆ ซึง่ จะมีผลต่อสเตนเลส ถ้าเป็ นสเตนเลสในตระกูลทีร่ อง ๆ ลงมาเช่นตระกูล 200 นัน ้
การใช้งานอาจจะใช้ได้ แต่ความคงทน ทนทานนัน ้ อาจจะเป็ นปัญหา ไม่วา่ ในเรือ ่ งของการใช้งาน และการบารุงรักษา
ถ้าเราไปโรงพยาบาลให้ลองสังเกตุทรี่ ถเข็น เตียงเข็น ตูส ้ เตนเลสทีม
่ ลี อ
้ สาหรับลากเคลือ่ นย้ายได้
้ จะเป็ นสนิมแล้ว ซึง่ ตัวโครงหลักยังดูสวยงามอยูเ่ ลย ในบางอุปกรณ์ ก็เลยต้องใช้ลอ
เราจะเห็นว่าเจ้าล้อนัน ้ แบบพลาสติก (PU หรือ PE)
เสียเลย เพราะจะได้ดูแล้วมีความเป็ รมาตราฐาน ในเรือ ่ งความสะอาดทีด ่ ี
เกรด 301L ก็จะลดปริมาณคาร์บอนลง จาก 0.15% ลงไปที่ 0.03 % นั่นเอง ซึง่ จะเป็ นตัวลดการแตกตัวของโครเมีย่ มคาร์ไบร์ รอบ ๆ
่ มซึง่ เป็ นปัญหาเรือ
แนวเชือ ่ งของการแตกร้าว (Crack) ของรอยเชือ่ ม อีกทัง้ เป็ นการลดรอยตามดตามแนวของรอยเชือ
่ มด้วย
บางท่านอาจจะพบเห็นอีกตัวหนึ่งในกลุม ่ สเตนเลส เกรด 301 ก็คือ
เกรด 301LN ความหมายก็คือ L เท่ากับ คาร์บอนต่า อยูท
่ ี่ 0.03% (0.3% Low carbon) ส่วน N
เท่ากับการเติมปริมาณก๊าซไนโตรเจนพิม ้ ปกติจะอยูท
่ ขึน ่ สี่ ูงสุด 10% โดยจะเพิม
่ เป็ นสูงสุด 20% และต่าสุด 10% นั่นเองครับ
ลองมาดูตารางการเปรียบเทียบทัง้ สองตัวกันว่ามีความเหมือนและความแตกต่างกันอย่างไร
สเตนเลสกลุม ่ ดูแพ็คนี้ ยังไม่สามารถผลิตขึน ้ ได้ในประเทศไทย แต่จะได้จากการนาเข้ามาเป็ นวัตถุดบ ิ บ้าง บ้างก็เป็ นแบบ Trun key
คือเรียกว่านาเข้ามาเป็ นชิน ้ งานหรือชิน
้ ส่วนของอุปกรณ์ เลย สเตนเลสเกรดนี้ในความเป็ นจริงแล้ว เป็ นการนาข้อดีตา่ ง ๆ
ในสเตนเลส 2 เกรด มารวมกัน เพือ ่ ให้สามารถใช้ได้กบั งานตามทีต ่ อ้ งการ กล่าวคือ เป็ นการผสมสเตนเลส 2 ตัว
โดยปริมาณการผสมอยูท ่ ี่ 50% ต่อ 50% ของสเตนเลสกลุม ่ เฟอร์รติ ริก และกลุม่ ออสเตนเนตริก ครับ
ส่วนการนาไปใช้งานส่วนใหญ่จะเป็ นในส่วนของงานโครงสร้างทีต ่ อ้ งการความแข็งแรง การต้านทานการผุกร่อน
ตัวอย่างเช่นโครงสร้างของฐานขุดเจาะน้ามันในทะเล ฯลฯ.
สเตนเลสตระกูล ดูเพล็กซ์ จะสังเกตุงา่ ย ๆ โดยการดูโค๊ดตัวอักษรจะเป็ นตัวเลข 4 ตัว เช่น 2205 เป็ นต้น
ปริมาณธาตุโครเมีย่ มทีผ
่ สมอยูใ่ นสเตนเลสกลุม
่ นี้ จะอยูป
่ ระมาณ 20-25% และปริมาณส่วนผสมของธาตุนิเกิล จะอยูท
่ ี่ 4-7%
ตัวอย่างเช่น
Duplex 2205 คาร์บอน 0.03 % โมลิเดนั่ม 3%
โครเมีย่ ม 22% ไนโตรเจน 0.15%
นิเกิล 5% เป็ นต้น
สเตนเลสตระกูล พรีซพ
ิ เิ ตชันฮาร์ดเดนนิ่ง (Precipitation Hardening Stainless Steel)
Precipitation Hardening Stainless Steels นี้จะมีสว่ นผสมของโครเมียม-นิกเกิล เป็ นหลัก และมีธาตุอน ื่ ๆผสมอยูด ่ ว้ ย เช่น
อะลูมเิ นี ยม ทองแดง ไทเทเนี ยม และไนโอเบียม เป็ นกลุม ่ ซึง่ สามารถนามา บ่มแข็ง( precipitation hardening) ได้
หลังจากการบ่มแข็งแล้ว จะทาให้เหล็กมีโครงสร้างหลักเป็ น martensite โดยจะมีการการตกผลึก (precipitation)
ของสารประกอบระหว่างโลหะในเนื้ อเหล็กซึง่ เกิดขึน ้ ในระหว่างการบ่มแข็ง คุณสมบัตเิ ด่นของเหล็กกลุม ่ นี้ คือ
ถ้าเผาให้อุณหภูมส ้ เหล็กจะไม่แข็ง แต่เหนียวมาก ทาให้สามารถแปรรูปทางกลได้งา่ ย เหมาะสาหรับใช้ทาแกนปั๊ม หัววาล์ว
ิ ูงขึน
และส่วนประกอบของท่าอากาศยานในส่วนของตัวเครือ ่ งกังหันเจ๊ท (Jet turbine) สเตนเลสกลุม่ นี้จะมีคุณสมบัตพ ิ ร้อม ทัง้
fabricability, strength, heat treatment, และ corrosion resistance เหนื อกว่าเหล็กทัง้ 3 ประเภทหลักใหญ่ๆทีก ่ ล่าวมาแล้ว
โดยจะมีความแข็งแรงสูงมากและเป็ นกลุม ่ ทีม
่ ีความแข็งแรงสูงทีส ่ ุดในบรรดา สเตนเลสด้วยกัน
ประโยคทีก ่ ล่าวมานัน
้ จะทาให้ทา่ นผูอ
้ า่ นและติดตาม ได้เกิดดวามเข้าใจ และกลายเป็ นผูร้ ู ้ จนกระทั่งเป็ นผูเ้ ชีย่ วชาญด้านสเตนเลส
ระดับมือพระกาฬทีเดียวครับ ในหัวเรือ ่ งต่อไปนัน
้ เราจะมาทาความรูจ้ กั กับสนิมของสเตนเลส หรือการผุกร่อนของสเตนเลสกับว่า
มีกแ
ี่ บบ ในแต่ละแบบจะสังเกตอย่างไร เกิดขึน ้ จากอย่างไร เกิดจากใคร จะป้ องกันไม่ให้เกิด หรือถ้าเกิดแล้วเกิดน้อยสุดได้อย่างไร
วิธีการแก้ไขปัญหาการกัดกร่อนชนิดแกลวานิค
1. หลีกเลีย่ งการใช้ น๊อต สกรูเหล็กในการขัน ยึด ดึง งานสเตนเลส
2. ห้ามใช้ใบเจียรงานเหล็กมาใช้กบั งานสเตนเลส
3. อย่าวางชิน ้ งานสเตนเลสในบริเวณพื้นทีท ่ ม
ี่ ีการทางานของเหล็ก เช่นการตัด การเจียร การเจาะต่างๆ
4. ถ้ามีความจาเป็ นตัวใช้ น๊อต สกรูเหล็กร่วมกับสเตนเลส ควรจะมีแผ่นกัน ้ ไม่ให้สว่ นทีเ่ ป็ นเหล็กสัมผัสกับสเตนเลส