Professional Documents
Culture Documents
1. บทนํา
อุณหภูมินับเปนพารามิเตอรพื้นฐานตัวหนึ่งที่ตองทําการวัดคา เพื่อนําไปใชประโยชนในprocess
control system ใหเปนไปตามตองการ
คําวา “อุณหภูมิ” (Temperature) และความรอน (Heat) มีความหมายใกลเคียงกันมาก แตอุณหภูมิ
จะหมายถึงระดับของความรอน (Degree of Heat) พูดงายๆคือ อุณหภูมิเปนตัวแทนของความรอนนั่นเอง สวน
ความรอนหมายถึง ปริมาณพลังงานความรอน (Quantity of Heat Energy)
1.1 Temperature Scale
มีหลาย Scale แตที่นิยมใชกันในงานอุตสาหกรรมมากที่สุดคือ เซลเซียส (พบมากที่สุด), ฟาเรนไฮต
(พบรองลงมา), เคลวิน (พบนอยมาก)
ความสัมพันธของ Scale ตาง ๆ เปนดังนี้
9 ความสัมพันธระหวาง Celsius and Fahrenheit
C = F – 32
5 9
9 ความสัมพันธระหวาง Celsius and Kelvin
K = C + 273.15
9 ความสัมพันธระหวาง Rankine and Fahrenheit
R = F + 459.69
9 ความสัมพันธระหวาง Reaumur กับ Fahrenheit
R′ = F – 32
80 180
การเขียนสัญลักษณที่ถูกตองเปนดังนี้
o
C , oF , oR , oR′ , K ( ไมตองมี o )
1.2 Zero Absolute Temperature
คือ อุณหภูมิ 0K หรือ –273.15 oC เปนจุด Ideal Point คือ ณ จุดนี้ จะไมมีพลังงานความรอนเหลืออยู
เลย และ electron จะหยุดโคจรรอบนิวเคลียสของสารนั้น ๆ ซึ่งในทางปฏิบัติไมสามารถกระทําได หรือ
ปรากฏการณนี้ไมมีในโลกแหงความเปนจริงนั่นเอง
1.3 Reference point Fundamental
โดยทั่วไปจะใชจุดเยือกแข็งและจุดเดือดของน้ํา โดยอุณหภูมิที่อยูในชวงนี้เรียกวา Fundamental
Interval คือ 0 – 100 oC นั่นเอง
1.4 International Practice Temperature Scale (IPTS)
IPTS ไดถูกกําหนดขึ้นเมื่อป ค.ศ.1927 และไดทําการ Revise เรื่อยมาจนกระทั่งครั้งลาสุดเมื่อป 1990
เพื่อใหทันสมัยขึ้นตามเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาตามลําดับ
IPTS เปนคา Fixed Point Temperature ที่กําหนดมา เพื่อใชเปนตัวเลขอางอิง สําหรับการปรับแตง
(Calibrate) เครื่องมือวัดอุณหภูมิ (Temperature Instrument) ซึ่งมีทั้งหมด 17 คา Fixed Point ดังตาราง
Fixed Points on the IPTS (1990 Definitions)
Fixed Point No. Substance State Temperature oC
1 He (Helium) Vapor -270.15 to – 268.15
a b
2 e-H2 (Hydrogen) Triple Point -259.3467
3 e-H2 (Hydrogen) Vapor -256.16
4 e-H2 (Hydrogen) Vapor -252.85
5 Ne (Neon) Triple Point -248.5939
6 O2 (Oxygen) Triple Point -218.7916
7 Ar (Argon) Triple Point -189.3442
8 Hg (Mercury) Triple Point -38.8344
9 H2O (Water) Triple Point 0.01
10 Ga (Gallium) Melting 27.7646
11 In (Indium) Freezing 156.5985
12 Sn (Tin) Freezing 231.928
13 Zn (Zinc) Freezing 419.527
14 Al (Aluminium) Freezing 660.323
15 Ag (Silver) Freezing 961.78
16 Au (Gold) Freezing 1064.18
17 Cu (Copper) Freezing 1084.62
a
e-H2: Hyhdrogen at the Equilibrium Concentration of Orhomolecular and Paramolecular Forms.
b
Triple Point: Temperaure at which he Solid, Liquid, and Vapor Phases are in Equilibrium.
ในการวัดอุณหภูมิมักอาศัยตัวแปรสัญญาณเชิงกลหรือ เชิงไฟฟาแบบตางเปลี่ยนคาอุณหภูมิเปนคา
แปรมูลฐาน อันไดแก การเปลี่ยนแปลงตําแหนง, ความดัน (หรือแรงหรือแรงปด) แรงดันไฟฟา (หรือ
กระแสไฟฟา), impedance แลวสงเขาเครื่องวัดทําการเปลี่ยนคาแปรมูลฐานดังกลาวเปน การเปลี่ยนแปลง
ตําแหนงขั้นสุดทาย เพื่อ indicator หรือ record หรือไปขับกลไกในเครื่องควบคุมตอไป
การเลือกใชเครื่องวัดอุณหภูมิแบบใดนั้น จะตองพิจารณาถึงความเหมาะสมกับงาน เนื้อที่วางและ
สภาพแวดลอมของจุดวัด ชวงอุณหภูมิที่ตองการวัด ความจําเปนของการวัดจากที่ไกล ความละเอียดแมนยําและ
ความวางใจได (Reliability) ของคาวัด ความทนทาน และความสะดวกในการใชและบํารุงรักษาตลอดจนราคา
เชิงเศรษฐกิจ เปนตน
ในวงการอุตสาหกรรมในปจจุบัน การวัดอุณหภูมิเชิงไฟฟา โดยใชthermocouple และความตานทาน
ไฟฟา เปนแบบที่ใชมากที่สุดคือมากวาครึ่งหนึ่งของการวัดอุณหภูมิทั้งหมด ทั้งนี้เปนเพราะตัววัดทั้งสองมีชวงวัด
อุณหภูมิที่เหมาะสม, มีความละเอียดแมนยําสูง, สามารถวัดจากที่ไกลได และสัญญาณที่สงออกเปน
สัญญาณไฟฟา ซึ่งสะดวกในการใชรวมกับเครื่องวัด เครื่องบันทึก หรือเครื่องควบคุมแบบไฟฟาได
สวนการวัดอุณหภูมิเชิงกล โดยใชตัววัดแบบกระเปาะบรรจุของเหลวนั้น ยังคงนิยมใชกันอยูมาก เพราะ
ตัววัดแบบนี้ไมตองอาศัยพลังขับดันอื่นมาชวย, แข็งแรงทนทาน, สะดวกในการใชและบํารุงรักษา
2. วิธีการวัดอุณหภูมิ (Method of Temperature Measurement) มี 2 แบบ คือ แบบสัมผัส (Contact
Meas.) และแบบไมสัมผัส (Non-Contact Meas.) ซึ่งมีวิธีการวัดได 4 ชนิด คือ
¾ Expansion Thermo Instrument เปนแบบ Contact Measurement
¾ Filled System Instrument เปนแบบ Contact Measurement
¾ Electrical Temperature Instrument เปนแบบ Contact Measurement
¾ Radiation Temperature Instrument (Pyrometer) เปนแบบ Non-Contact Measurement
¾ Other Type
2.1 Expansion Thero Instrument มี 3 สถานะ คือ
- Solid Expansion ไดแก Bimetallic Temperature Instrument
- Liquid Expansion ไดแก Liquid in Gas Temperature Instrument
- Liquid in Metal Temperature Instrument
- Gas Expansion ไดแก Gas Thermometer
ซึ่งจะกลาวถึงในรายละเอียดดังตอไปนี้
โครงสรางของ Thermometer ประกอบดวย
1. Meauring หรือ Bulb คือ กระเปาะสวนที่บรรจุของเหลวมีผนังบาง เพื่อใหความรอนถายเทไปยัง
ของเหลวในกระเปาะไดดี เปนสวนที่ใชวัดอุณหภูมิ
2. Stem คือ กานแทงยาวภายในเปนทอเล็ก ๆ (Capillary) ใหของเหลวขยายตัววิ่งเขาไป เมื่อไดรับ
อุณหภูมิ
3. Scale คือ ขีดแสดงวาอุณหภูมิที่ติดอยูบน Stem บอกคาอุณหภูมิโดยดูจากระดับของเหลวใน
Capillary
4. contraction Chamber เปนสวนขยายกวางใน Capillary มีไวปองกันไมใหของเหลวหดตัวเขาไปใน
กระเปาะ เมื่อวัดอุณหภูมิต่ําเกินไป (บางตัวไมมี)
5. Expansion Chamber เปนสวนขยายกวางของ Capillary ดานบนสุดของเทอรโมมิเตอร มีไวเพื่อ
ระบายความดันไอของกาซที่อยูดานบนของของเหลว เพื่อหลีกเลี่ยงไมใหเทอรโมมิเตอรเสียหาย เมื่อวัด
อุณหภูมิสูง ๆ
6. Immersion Ring มีเฉพาะเทอรโมมิเตอรแบบ Partial Immersion Thermometer เปนขีดบอกเพื่อให
จุมเทอรโมมิเตอร จนผิวของของเหลวอยูที่ขีดนี้ เพื่อวัดอุณหภูมิของของเหลว
2.1.1 Solid Expansion (Bimetallic Thermo Instrument)
ใชหลักการขยายตัวของวัสดุ เมื่อไดรับความรอนหรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปมีความสัมพันธดังนี้
ΔL = k LoΔT
ΔL = ความยาวที่เปลี่ยนแปลง
Lo = ความยาวเริ่มตน
ΔT = อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง
k = สัมประสิทธิ์ของการขยายตัว เนื่องจากอุณหภูมิของวัตถุ
หลักการขางตน จึงไดมีการนําแถบโลหะ 2 ชนิด ทีมีคา k ตางกันมาประกบเขาดวยกัน เมื่อไดรับความรอน การ
ขยายตัวที่แตกตางกัน ทําใหแถบโลหะเกิดการโคงงอขึ้นดังรูป
ที่มา Instrumentation for engineering measurement(second edition)
JAMES W. DALLY,WILLIAM F.RILEY,KENNETH G. McCONNELL
1993 , ISBN 0471-551-929
โดยที่ระยะการโคงงอขึ้นอยูกับ
1. ความแตกตางของคา k ยิ่งตางกันมาก การโคงงอจะมากขึ้นดวย
2. คา Lo หรือความยาวของแถบโลหะยิ่งยาวมาก การโคงงอก็มาก
3. ΔT หรือระดับอุณหภูมิ
4. ความหนาของแถบโลหะ
คาความไวในการวัด (Sensitivity) ขึ้นอยูกับคา k, Lo และความหนาของแถบโลหะ แถบโลหะที่นิยมใช
สวนมากจะเปน Invar (36% Ni + 64% Fe) ซึ่งมีคาและ Brass หรือโลหะผสมระหวาง Fe + Cr + Mn + Ni
ซึ่งมีคา k สูง
ไดมีการนําเทคนิคของการเพิ่มระยะการเคลื่อนที่ เชนเดียวกับการวัดความดันแบบ Bourdon Tube มา
ประยุกตใชกับการวัดอุณหภูมิ โดยมีรูปแบบที่คลาย ๆ กัน เชน
- แบบ Helix
- แบบ Spiral
เพื่อใหสามารถอานคาที่สวนแสดงผลไดงายขึ้น และเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น
ยานการใชงาน (Measuring Range) โดยทั่วไปอยูในชวง –75 ถึง 540oC
การใชงาน
ใชเปน Temperature Gauge นิยมใชงานโดยทั่วไป
ใชเปน Temperature Switch ซึ่งนิยมใชงานมากชนิดหนึ่ง
ขอดี
1. ราคาคอนขางถูก
2. แข็งแรง ทนทาน
3. ใชวัดอุณหภูมิใน Range ที่กวาง
4. ติดตั้งงาย บํารุงรักษางาย คาใชจางต่ํา
5. ใหคา Accuracy เปนที่นาพอใจ เมื่อเทียบกับราคา
ขอดอย
1. ติดตั้งไดเฉพาะ Field Mounting เทานั้น
2. การขนสงและการติดตั้งตองกระทําอยางระมัดระวัง ในเรื่องของการกระแทก เพราะอาจทําใหเกิด
Error ในการวัดได
3. ไมนิยมใชเปนอุปกรณวัดคาแบบอางอิง เนื่องจากมีคา Accuracy คอนขางต่ํา หรือมีความนาเชื่อถือต่ํา
นั่นเอง
2.1.2 Liquid in Glass Thermo Instrument
หรือที่รูจักกันโดยทั่วไปคือ Thermometor แบบแทงแกวนั่นเอง เปนเครื่องมือวัดอุณหภูมิที่นิยมใชกัน
อยางแพรหลาย เชน ในโรงงานอุตสาหกรรมในหองทดลอง ในโรงพยาบาล เปนตน
ยานการวัดขึ้นอยูกับของเหลวที่เติมลงไปใน Bulb แตโดยทั่วไปจะมี Measuring Rang อยูในชวง –120
ถึง 320oC ขึ้นอยูกับของเหลวที่ใชเติมและเทคนิคการออกแบบ เชน หากใชปรอทจะมีขอจํากัดในเรื่องของ
Freezing Point ที่ –39oC ดังนั้นจึงตองการใช Alcohol แทน เปนตน หรือในกรณีของการวัดที่อุณหภูมิสูง ๆ หาก
ใชปรอทที่มีโอกาสเกิดการระเหยได จึงตองใชการอัดดวยกาซไนโตรเจนที่ความดันประมาณ 30-300 psig ขึ้นอยู
กับอุณหภูมิที่ตองการวัด
อยางไรก็ตามหากอุณหภูมิเกิน 600oC จะไมนิยมใช Thermometer ชนิดนี้ เพราะความรอนจะทําให
กระเปาะแกวเสียหายหรือถายังไมเสียหายก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงปริมาณในสวนที่เปน Capillary Tube ทําให
การวัด Error ขึ้นได
ขอดี
1. ราคาถูก
2. โครงสรางแบบงาย
ขอดอย
1. แตกหักงาย
2. อานคาไดยาก จึงไมนิยมใชงานอุตสาหกรรม
3. ที่อุณหภูมิสูง ๆ ทําให Volume ของ Capillary เปลี่ยนแปลงเกิด Error ได
4. ไมสามารถใชงานแบบที่มีการขึ้นลง (Fluctuating Temperature) ของอุณหภูมิ
5. ใชเปน Indicator ไดเทานั้น
2.1.3 Liquid in Metal Thermo Instrument
เปน Thermometer ที่ถูกสรางขึ้นมาเพื่อแกไขขอดอยของ Liquid in Glass Thermometer โดยการใช
กระเปาะโลหะ (Steel Bulb) แทนแกว จึงจําเปนตองนําหลักการทํางานของ Bourdon มาประยุกตใชงานรวม
ดวย เพื่อใหสามารถมองเห็นสภาพการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิบน Scale ได เนื่องจากวา Steel Bulb ไม
สามารถผานใหเห็นปรอทหรือ Working Fluid ภายในได
โดยปกติจะใชปรอทบรรจุอยูภายใน Bulb แตเนื่องจากมีขอจํากัดเรื่องการวัดที่อุณหภูมิต่ํา ๆ จึงไดมี
การใช Fluid อื่น ๆ อีกเพื่อแกไขจุดดอยดังกลาว
Water Vapor
o
Temperature ( C) Saturation
Pressure (Pa)
0 609.9
5 870
10 1,225
15 1,701
20 2,333
25 3,130
30 4,234
Water Vapor
o
Temperature ( C) Saturation
Pressure (mmHg)
0 4.6
20 17.5
40 55.3
60 149
80 355
100 760
= 3,130 Pa
¾ ความหนาแนน (Density)
ของเหลว (Liquid) ถือวาเปน Incompressibility Fluid คือ อัดตัวไมได ดังนั้นคาความดันจะไม
มีผลตอคา Density ยกเวนที่ Pressure สูงมาก ๆ แต Density ของของเหลวจะเปลี่ยนแปลงตามคา
อุณหภูมิ
กาซ (Gas) ถือวาเปน Compressibility Fluid คือสามารถอัดตัวไดตามความดัน ดังนั้น ทั้งคา
อุณหภูมิและความดันจึงมีผลตอคา Instrument ที่ใชวัด Flow Rate สวนใหญแลวจะเปลี่ยนแปลงจาก
การวัดแบบ Volumetric ไปเปน Mass Flow Rate เสมอ โดยการชดเชยคา Density ตาม P และ T
อยางไรก็ตาม การวัด Flow พื้นฐานคือ การวัด Volume / Time
¾ ความหนืด (Viscosity)
ของเหลว คาความหนืดต่ําลง เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
กาซ คาความหนืดสูงขึ้น เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
Reynolde Number
RD = ρvd = inertia
η viscosity
เมื่อ Rd คือ Reynolds Number หรือดัชนีบอกสภาพการไหลของของไหล
ρ = Fluid Density
v = Fluid Velocity in Pipe
d = Pipe Diameter
η = Fluid Viscosity
ถา
Rd อยูในชวง 0 - 2000 สภาพการไหลเปนแบบ Laminar Flow
Rd อยูในชวง 2001 - 4000 สภาพการไหลเปนแบบ Transition Zone คือ มีการไหล 2 แบบ คือ
Laminar + Turbulent
Rd มากกวา 4001 สภาพการไหลเปนแบบ Turbulent Flow โดยสวนใหญจะเปนการไหลแบบนี้
ซึ่งเปนอุปสรรคตอการวัด Flow Rate
Typical Terminology
ที่มา Fundamentals of Flow Measurement , Joseph P. DeCarlo , The Foxboro Company ,
Massachusetts , Instrument Society of America 1984 , ISBN -087-664-6275
Flow Rate
Q = VA เปน Volumetric Flow Rate
M = ρAV เปน Mass Flow Rate
3.1 Stagnation Pressure
Total Energy = Potential Energy + Kinetic Energy
Stagnation Pressure = Static Pressure + Dynamic Pressure
PT = PS + ½ ρV2
4. Theory of Differential Pressure Flow Meter
ที่มา Fundamentals of Flow Measurement , Joseph P. DeCarlo , The Foxboro Company ,
Massachusetts , Instrument Society of America 1984 , ISBN -087-664-6275
ตามสมการ Bernoulli จะได
Total Energy 1 = Total Energy 2
P1 + ½ ρV2 + ρgH1 = P2+½ρV2+ρgH2 (1)
P1 + 1V12 + H1 = P2 + 1 x V22 + H2
ρg 2g ρg 2 g
P1 + V12 + H1 = P2 + V22 + H2
(2)
r 2g r 2g
เมื่อ r คือ น้ําหนักจําเพาะของของไหล มีคาเทากับ ρg
จากสมการ (1) H1 = H2 จะได
ΔP = P1 – P2 = ρ (V22 – V12)
(3)
2
จากกฎ Conservation of Mass
m′1 = m′2 = ρ V1 A1 = ρ V2 A2
และ Q1 = Q2 = A1 V1 = A2 V2
จะได V2 = A1 V1
A2
แทนคา V2 ใน (3) จะได
ΔP = ρV12 (A12 - 1)
2 A22
เมื่อ A1 = π D2
4
A2 = π d2
4
ΔP = ρV12 { D4 – 1}
(4)
2 d
ให B = d
D
จาก (4) จะได
V1 = √2ΔP x B2
(5)
ρ √1 – B4
ใหคา 1 = E
√1 – B 4
(7)
4
m′1a = ρA1 V1a
= ρ π2 CdD2E √2ΔP/ρ
4
ดังนั้น m′ACTUAL = π CdD2E √2ΔP/ρ
2
(8)
4
คา CdE เรียกวา Flow Coefficient ซึ่งขึ้นอยูกับคา Re และคา diameter ratio
Fe = CdE = Cd/ √1 – B4 = Cd / √1 – (D)4
(9)
d
V1a = B Fe √2ΔP
2
= (D) Fe √2ΔP
2
(10)
ρ d ρ
สมการ (7), (8) จะใชกับ Primary Element ที่เปน Orifice Plate, Nozzle, Venturi โดยมี
คา Cd ประมาณ 0.6, 0.75 จนถึง , 0.98 ตามลําดับ จะเห็นไดวา Venturi จะสูญเสียความดันนอยที่สุด
A.Energy Extractive Series
5. Primary Element ที่เปนแบบ Head Type ( Orifice
Plate , Venturi , Nozzle , Pitot Tube , Annubar ,
Weir , Flume )
5.1 Orifice Plate มี 4 รูปแบบ คือ
¾ Concentric Orifice เปนแบบที่นิยมใชงานมากที่สุด
¾ Eccentric Orifice
¾ Segmental Orifice
¾ Quadrant Edge Orifice
¾ Square Orifice
ที่มา EGAT DWG. NO. KBTP-1-CTM-C7001 REV.2 , Hitachi Ltd. Tokyo ,Japan 2002
การวัดระดับ
Level Measurement
1. บทนํา
การวัดระดับ เปนสิง่ สําคัญประการหนึง่ ในงานอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภท เนื่องจาก
คาของระดับจะสงผลกระทบตอพารามิเตอรอื่น ไดแก ความดันและอัตราการไหล เปนตน
สําหรับวิธีการวัดระดับมี 2 ลักษณะ คือ
A. การวัดระดับโดยตรง (Direct Level Measurement) สามารถวัดไดดวยวิธกี ารหลาย
รูปแบบ ดังนี้
1.1 Sight Glass (แบบใชกระจกมองระดับ)
1.2 Float Type (แบบลูกลอย)
1.3 Dip Stick (แบบจุม)
1.4 Hook Type
วิธีการวัดโดยตรงนี้เปนวิธีที่งาย ประหยัด มีความเชื่อถือได แตมีขอจํากัดบางประการดังที่จะกลาวใน
รายละเอียดตอไป
sight glass
ที่มา practical process instrumentation and control, The staff of chemical engineering,Mc Graw-hill
,ISBN:007-010-7122
sight glass 2 อันติดตอกัน
ที่มา หลักการและการใชงานเครื่องมือวัดอุตสาหกรรม โดย สมศักดิ์ กีรติวุฒิเศรษฐ ,
พิมพครั้งที่ 18 -2546 , ISBN 974-8325-148
การติดตั้งใชงานจริง
ขอดีของ Sight Glass
1. อานคาไดโดยตรง
2. สามารถออกแบบพิเศษใหสามารถทนความดันไดถึง 10,000 psi และทน
อุณหภูมิไดสูงถึง 750oF
3. วัสดุที่ใชทาํ Sight Glass สามารถออกแบบใหทนตอสภาพการกัดกรอนไดเปน
อยางดีเชนใชพลาสติก หรือแกว เปนตน
ขอจํากัดของ Sight Glass
1. การอานคาโดยตรงอาจไมสะดวก เชนกรณีที่ติดตั้งไวบนที่สงู หรือดานบนของถัง เปนตน
2. คาความแมนยํา (Accuracy) ขึ้นอยูกับความสะอาดของชองมอง,สภาพของของของไหล
เชนความใสและผูอาน ซึ่งควบคุมไดยาก
3. กรณีของเหลวมีสีใส ทําใหยากสําหรับการอานคา
4. ในสภาพที่มีอากาศหนาวจัด อาจทําใหของเหลวบริเวณ Sight Glass เกิดการแข็งตัว ใน
กรณีที่ Sight Glass ติดตั้งไวภายนอก
5. การกระเพื่อมของของเหลว ทําใหการอานคากระทําไดยาก
Sight glass มี 2 แบบ คือ
2.1.1 แบบหลอดแกว (Tubular Glass)
ใชติดตั้งโดยตรงกับภาชนะที่ตองการวัดระดับของของเหลวภายใน
ขอดี
1. ราคาถูก ติดตั้งงาย คาบํารุงรักษาต่ํา
2. สามารถอานคาไดโดยตรงทันที มีความนาเชื่อถือได
ขอจํากัด
1. ใชงานที่อุณหภูมิสูงไมได
2. ใชงานที่ความดันสูงไมได
3. แตกงาย ดังนัน้ จึงไมเหมาะกับระบบที่มีความสําคัญมาก ๆ หรือไมเหมาะกับการวัดระดับ
ของสารที่เปนอันตราย เชน กรดเขมขน หรือในบริเวณทีม่ ีอันตรายสูง
4. การมองระดับตองเขาไปอานคาใกล ๆ บางครั้งก็ยากแตการสังเกต (ในกรณีที่เปนสีใส) แต
สามารถแกไขโดยใชแถบสีสะทอนแสงติดไวดานหลังของหลอดแกวพรอม Scale และใช
เลนสนนู ทําเปนหลอดแกว ทําใหการอานคาไดงายขึน้
2.1.2 แบบแผนแกวเรียบ (Flat Glass) มี 2 แบบ คือ
2.1.2.1 แบบแผนแกวเรียบสะทอน (Flat Refection Glass) แบบนี้เหมาะสําหรับการวัด
ระดับของของเหลวที่มีสีใส, สะอาด, คาความหนืดต่ํา โดยสวนที่เปนของเหลวจะปรากฏเปน
ทึบแสง สวนทีเ่ ปนชองวางหรือเหนือระดับของเหลวจะปรากฏเปนลักษณะโปรงใสดังภาพ
แผนแกวจะทําจากวัสดุทมี่ คี าสัมประสิทธิ์การขยายตัวต่ํามาก ดังนั้น จึงสามารถใชงานใน
บริเวณที่มีความรอนได นอกจากนี้ยงั สามารถรับแรงกระทําไดดอี ีกดวย
สามารถออกแบบใหทนความดันไดสูงถึง 4000 psi และทนอุณหภูมิไดสูงถึง 400oC
sight glass แบบแผนแกวเรียบ การติดตัง้ โดยมีโลหะครอบปองกัน
2.1.2.2 แบบหลายชองมอง (Multi-port Sight Glass)
แบบนี้เหมาะสําหรับการวัดระดับของของเหลวที่อยูภายใตสภาวะความดันและอุณหภูมิ
สูง โดยเฉพาะ เชน Boiler Drum
หลักการวัดระดับของ Boiler Drum โดยใช Multiport Sight Glass ใชหลักการหักเหของ
แสงในน้าํ และไอน้ํา โดยกําหนดใหนา้ํ เปนสีเขียว ไอน้าํ เปนสีแดง
หลักการทํางาน
ตัว Gauge Body จะมีลักษณะเปนรูปสี่เหลี่ยมคางหมู โดยมี Glass Filter สีเขียวและสี
แดง ติดตั้งอยูด านขางในลักษณะที่ไมขนานกับตัว Gauge Body ดังรูป
ที่มา http://www.cesare-bonetti.it
ที่มา http://www.cesare-bonetti.it
การวัดระดับน้าํ ของ Boiler Drum หรือ Pressure Vessel อื่น ๆ เปนสิง่ ที่สาํ คัญมาก ทัง้ นี้
เนื่องจากอุณหภูมิและความดันภายในนัน้ สูงมาก จึงใชวิธีการวัดระดับแบบปกติไมได จําเปนตอง
มีเครื่องมือพิเศษ ดังที่กลาวติดตั้งไว นอกจากนี้ยังมี Level Transmitter อีก อยางนอย 2 ตัว ที่
ติดตั้งคอยตรวจจับระดับน้าํ และสงสัญญาณไปยังหองควบคุม เพื่อประมวลผลสั่งการตอไป
ระดับของน้ําใน Boiler Drum มีความสําคัญตอระบบการผลิตไอน้ําเปนอยางมาก ดัง
แสดงในภาพ
การติดตั้งใชงาน
ที่มา http://www.penberthy-online.com
http://www.yarway.com
การติดตั้งใชงานโดยมีครอบโลหะปองกัน
1. Introduction
ความดัน คือ แรงกระทําตอพื้นที่
P = F/A
F คือ แรงกระทําซึ่งอาจเกิดจากของแข็ง ของเหลว หรือกาซ ก็ได มีหนวยมาตรฐาน เปน Newton : N
A คือ พื้นที่หนาตัดที่ถูกแรงกระทํา มีหนวยมาตรฐานเปน ตารางเมตร
1.1 ความดันที่เกิดจากของเหลว (Liquid Pressure)
P = ρgh
2
เมื่อ P คือ ความดัน (N/m ) ซึ่งเปน Static Head
ρ คือ ความหนาแนนของของเหลว (kg/m3)
h คือ ความสูงของของเหลว (m)
g คือ แรงโนมถวงของโลก (m/s2)
สําหรับ Dynamic Head (Velocity Pressure) นั้นจะถูกกําหนดโดยสมการของ Bernoulli ซึ่งกลาวไว
ในเรื่องการวัดอัตราการไหล
ความดันแบบ Static จากของเหลวเปนรูปแบบที่จะพบเห็นมากที่สุดในระบบเครื่องมือวัดทาง
อุตสาหกรรม
Velocity Pressure = Total Pressure – Static Pressure
1.2 ความดันที่เกิดจากกาซ (Gas Pressure)
P = 1 nmv2
3
เมื่อ P คือ ความดัน (N/m2)
n คือ จํานวนโมเลกุลของกาซใน 1m3 (Number/m3)
v คือ ความเร็วเฉลี่ยของการเคลื่อนที่ของโมเลกุลกาซ (m/s)
m คือ มวลโมเลกุลของกาซ (kg)
ตัวอยาง เชน การวัดความดันของอากาศอัด (Compressed Air)
1.3 ประเภทของความดัน ( Types of Pressure ) มี 4 ประเภท คือ
• ความดันเกจ (Gauge Pressure)
• ความดันสัมบูรณ (Absolute pressure)
• ความดันแตกตาง (Differential Pressure)
• สภาวะสุญญากาศ (Vacuum Pressure)
*** เพื่อใหการเรียกชื่อเปนแบบสากล ควรเรียกเปนภาษาอังกฤษ ดีกวา เพราะสื่อ
ความหมายไดมากกวาการเรียกเปนภาษาไทย การแปลเปนไทยบางครั้งทําใหสูญเสีย
ความหมายได เชนคําวา superheated steam บางคนแปลวา ไอดง หรือไอน้ํายิ่งยวด หรือ
Yield point บางคนแปลวา จุดจํานน ซึ่งลวนแตทําใหเสียความหมายทั้งสิ้น รวมทั้งทําใหผูที่
ศึกษาไมรูความหมายที่แทจริงไปดวย จากประสบการณของผูเขียนเห็นวาการแปลนั้นไมได
สื่อความหมายไดเลย ดังนั้นไมตองแสดงความเกงที่จะพยายามแปลศัพทเทคนิคใดๆทัง้ สิ้น
ลองแปลคําวา softwareหรือ windows จะแปลวาอะไรที่สื่อความหมายได
ถึงแปลไดก็พูดกับใครไมรูเรื่อง
Type of pressure
ที่มา: Guide to the measurement of pressure and vacuum, The institute of measurement and control
,LONDON,ISBN: 090-445-729X ,Published 1998
ที่มา THEORY AND DESIGN FOR MECHANICAL MEASUREMENTS(THIRD EDITION)BY: RICHARD S. FIGLIOLA , DONALD E.
BEASLEY, ISBN 047-135-0834
อธิบายเพิ่มเติม
1. ณ จุดความดันบรรยากาศหรือ Standard Atmospheric Pressure จะพบวาเข็มของ Pressure
Gauge จะชี้ที่เลขศูนย หมายความวา ความดันเกจมีคาเปนศูนย ณ ที่บรรยากาศปกติ
2. Perfect Vacuum หรือเรียกอีกอยางหนึ่งวา Zero Absolute (จุดศูนยความดันสัมบูรณ) มีคา Pabs=0
หรืออยูในสภาวะสูญญากาศสมบูรณนั่นเอง
Pabs = Patm + Pg ที่ Pabs = 0 Pg = -Patm หมายความวา Pressure gauge จะชี้คาที่ -
101325 kPa โดยประมาณ
1.3.1 ความดันเกจ (Gauge Pressure)
เปนคาที่ใชในงานอุตสาหกรรมโดย Gauge Pressure มีคาเปนศูนยที่ความดันบรรยากาศ
สัญลักษณที่ใช คือ Pg หนวยวัดที่ใชจะมีตัวอักษร g กํากับอยู เชน Barg, Psig เปนตน
1.3.2 ความดันสัมบูรณ (Absolute Pressure)
สัญลักษณที่ใช คือ Pa หรือ Pabs
หนวยวัดที่ใชจะมีอักษร abs หรือ a กํากับอยู เชน bar(abs), Psia เปนตน
ความดันสัมบูรณมีคา เทากับ 101.325 kPa ที่ความดันบรรยากาศ (1atm) คาความดันสัมบูรณจะใช
สําหรับในการคํานวณทาง Thermodynamic เปนสวนใหญ เชน การหา Boiler Efficiency เปนตน
1.3.3 ความดันแตกตาง (Differential Pressure)
สัญลักษณที่ใช คือ ΔP หนวยวัดที่ใชมักมีอักษร d , D กํากับอยู เชน Psid เปนตน
1.3.4 สภาวะสุญญากาศ (Vacuum Pressure)
สัญลักษณที่ใชไมปรากฏแนชัด แตสวนมากจะใชเครื่องหมายลบกํากับหนาตัวเลข นอกจากนี้ยังใช
abs หรือ Pabs ไดดว ยแตอาจเกิดความสับสนไดงาย วิธีที่ดีที่สุดคือ ควรกําหนดเปนคาตัวเลขติดลบ เชน P = -
10 Psig
หนวยวัดที่ใชโดยทั่วไปจะมีอักษร Vac กํากับอยู เชน 750 mmHg vac เปนตน
การกําหนดในรูปแบบของ Pabs เชน 50 kPa (abs) หมายถึง อยูในสภาวะ Vacuum เทากับ 50 -
101.325 = - 50.325 Kpa หรือ 50.325 kPaVac จะเห็นวา การกําหนดในรูปแบบ Pabs อาจสรางความสับสน
ใหแกผูใชงานไดงาย จากประสบการณของผูเขียนพบวาการเรียกแบบมีเครื่องหมายลบ( - ) สามารถสื่อ
ความหมายไดดีกวา
หมายเหตุ : จุดศูนยของความดันเกจหรือสภาวะบรรยากาศ จะมีคาแตกตางประมาณ 5% แตในทาง
ปฏิบัติถือวามีคาเทากัน ( average atmospheric pressure )
ระดับของสภาวะ Vacuum
¾ ระดับต่ํา (Low level) คือ อยูในชวง –25 จนถึง –736 mmHg
¾ ระดับกลาง (Medium Level) อยูในชวง 1 จนถึง –10-3 torr หรือ –759 mmHg จนถึง
–759.999 mmHg
¾ ระดับสูง (High Level) อยูในชวง 10-3 จนถึง 10-7 torr หรือ –759.999 mmHg จนถึง –759.9999999
mmHg
¾ ระดับสูงพิเศษ (Extreme high Level) อยูในชวง 10-7 torr ลงไป
1 torr มีคาเทากับ 1 mmHg สวนมากใชกับระบบที่เปน Vacuum 1 บรรยากาศ ( 1 atm ) = 760
torr
U-Tube Manometer
ที่มา: INDUSTRIAL INSTRUMENTATION AND CONTROL(SECOND EDITION) , SK SINGH , ISBN 007-048-290X , McGraw-Hill
รูปที่ 1 รูปที่2
จากรูป P1 – P2 = ρgh2 (1 + a) = ΔP
A
เนื่องจาก a < A มาก ดังนั้น a จึงมีคาใกลศูนย ในทางปฏิบัติจะใหเทากับศูนย
A
ดังนั้น ΔP = ρgh2
ในกรณีที่ P2 = ความดันบรรยากาศ
P1 = ρgh2
2.1.3 Inclined Manometer or Slant Manometer
P2 – P1 = ρgh
H = L sine
คุณลักษณะที่สําคัญ
• สามารถใชวัดความดันคาต่ํา ๆ ไดดี ตั้งแต 0.254 mm H2O จนถึง 102.1334 mm H2O หรือ 10 mbar
• มีความไวตอบสนองในการวัดสูงกวาแบบทอตรง โดยความไวขึ้นอยูกับการปรับมุมของ Scale ซึ่งทําให
ระยะ L เปลี่ยนไปหากมุมลดลง จึงทําให ΔL มีคาเพิ่มขึ้น ดังนั้น ΔL/ΔP ซึ่งคือคา Sensitivity มีคา
เพิ่มขึ้น
• โดยทั่วไปมุม O จะเทากับ 10 องศา กรณีเปนแบบ Fixed Type หรือชนิดที่สามารถปรับมุมได
2.1.4 Micro Manometer
ที่มา: INDUSTRIAL INSTRUMENTATION AND CONTROL( SECOND EDITION ), SK SINGH , ISBN 007-048-290X ,
McGraw-Hill
คุณลักษณะที่สําคัญ
• สามารถใชวัดความดันที่มีคาต่ํามาก ๆ ไดดีกวา Inclined Manometer
• ใช Micrometer ในการอานคาการเปลี่ยนแปลงของระดับของของเหลว ซึ่งทําใหทราบความดันนั่นเอง
2.1.5 Error in Manometer
เกิดจากปจจัยที่สําคัญ 3 ประการ คือ
1. Capillary Size Effect ผลจากขนาดของ Tube ที่มีขนาดเล็กกวา 10 mm จะทําใหการวัดและอานคา
ผิดพลาดไดงาย อยางไรก็ตามในกรณีที่ตอทั้ง 2 ดานของมาโนมิเตอรเขากับจุดวัดความดัน ปญหานี้
จะไมหมดไป
2. Temperature Changed Effect
• อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปจะสงผลตอคาความหนาแนนของของเหลว จึงทําใหเกิด Error ขึ้น
เชน หากอุณหภูมิสูงขึ้นจะทําใหความหนาแนนของของเหลวลดลงและเกิดการขยายตัวของ
Fluid ทําใหการอานคามากกวาความเปนจริงได
• ผลของอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง ทําใหไมเหมาะสําหรับมาโนมิเตอรที่ใช Working Fluid เปน
แบบ mixer Fluid หรือสารผสมตาง ๆ เพราะสารเหลานี้ทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลง Specific
Weight ไดจากการผสมกัน ดังนั้นจึงยากที่จะคํานวณคาชดเชยความผิดพลาดได (Error
Compensation) ในทางปฏิบัติจึงไมคอยนิยมใช Working Fluid แบบ Mixed Type
เนื่องจากตองการหลีกเลี่ยงปญหาดังกลาว ขางตน
• ผลของแรงตึงผิวของ Working Fluid (Meniscus Effect) โดยที่หาก Working Fluid เปน
ปรอทซึ่งมีคาแรงตึงผิวสูง จะทําใหปรอทไมเกาะติดผิวของ Tube และไมทําให Tube เปยก
ดังนั้น จึงเกิดเปนลักษณะโคงนูนขึ้นคลายเลนสนูน การอานคาที่ถูกตองคืออานคาของจุดที่
อยูตรงกลางของ Tube
• หาก Working Fluid เปนน้ําซึ่งมีคาแรงตึงผิวต่ํา โดยน้ําจะทําใหผิวของ Tube เปยกและ
เกาะติดที่ผิวของ Tube ดังนั้นจึงเกิดเปนลักษณะโคงเวาคลายเลนสเวน การอานคาที่ถูกตอง
ก็เชนเดียวกับกรณีของปรอท
สําหรับ Working Fluid ที่เปนแบบ Mixed Type นั้นจะไมทราบรูปแบบที่แนนอน แตหลักการอานคา
นั้นจะเหมือนกับน้ําและปรอท
2.1.6 Working Fluid for Manometer
ที่นิยมใชคือ น้ํา, ปรอท, Red Oil ซึ่งมีลักษณะที่สําคัญตางกันตามความตองการใชงาน กลาวคือ
กรณีใชน้ํา
1. ใชไดดีกับ Manometer ที่ตองการวัดความดันของอากาศ
2. ความยาวของ Tube มีคาจํากัดดังนั้นการอานคาความดันจึงตองอยูในชวงแคบ ๆ โดยปกติไมควรเกิน
2000 mmAg
3. หากอยูในสภาวะอากาศที่หนาวเย็น จะตองผสมหรือใชสาร Anti Freeze แทนน้ําและหากอยูในสภาวะ
อากาศรอนที่จะทําใหเกิดการระเหยของน้ําจะตองผสมหรือใชสาร Kerosene แทนน้ํา
กรณีใชปรอท
1. ใชในกรณีที่ตองการอานคาความดันที่สูงขึ้น เนื่องจากหากใชน้ําแลวจะตองสราง Tube ใหมีขนาดยาว
มาก ๆ ซึ่งไมสะดวกในการอานคา โดยจะทําใหความยาวของ Tube ลดลง 13.6 เทา
2. ใชไดดีในกรณีของการวัด Pressure ที่มี Fluid เปนพวกไอน้ํา หรือจําพวกที่ใชกับน้ําไมไดเพราะจะเกิด
ปญหาเรื่องการผสมกันของ Fluid ที่ตองการวัด Pressure กับ Working Fluid ใน Manometer
กรณี Red Oil
1. ใชในกรณีที่ตองการอานในระยะไกล เหมาะสําหรับระบบที่เปนพื้นที่อันตรายเชน สารเคมี, สารเกิดพิษ
อื่น ๆ เปนตน
2. ผลของอุณหภูมิจะทําใหการอานคาผิดพลาดไดมากที่สุด
สรุป ขอดี ขอดอยของ Manometer ชนิดตาง ๆ
ขอดี (Advantage)
1. มีโครงสรางอยางงาย ทําใหประหยัดคาบํารุงรักษา และมีอายุการใชงานที่ยาวนาน
2. High Accuracy
3. High Sensitivity
4. เหมาะสําหรับการวัด Pressure ที่มีคาต่ํา ๆ ไดดี รวมทั้งสามารถวัด Vacuum Pressure และ
Differential Pressure คาต่ํา ๆ ไดดีอีกดวย
5. สามารถเลือกใช Working Fluid ไดหลายชนิดขึ้นอยูลักษณะของการ Application
6. มีราคาถูก
ขอดอย (Disadvantage)
1. มีขนาดใหญ
2. เคลื่อนยายลําบาก เพราะอาจเกิดการหักไดงาย
3. การติดตั้งตองทําการ Levelling หรือ Set ระดับใหถูกตอง มิฉะนั้นจะอานคาผิดพลาด
4. อาจเกิดการกลั่นตัวของ Fluid ในระบบที่ตองการวัด แลวสะสมใน Manometer
5. ปญหาการระเหย การแข็งตัวของ Working Fluid อาจเกิดขึ้นไดหากเลือกใช Fluid ไมเหมาะสม
6. ไมมี Over Range Protection
7. ใชวัดความดันยานต่ํา ๆ เทานั้น
8. มีขอจํากัดเรื่องความสูง/ความยาวของ Scale หากสูงจะอานคาลําบาก และติดตั้งยาก
9. Fluid ของระบบที่ตองการวัด Pressure ตองเหมาะสมกับ Working Fluid ใน Manometer มิฉะนั้นอาจ
เกิดการ Mix เปนเนื้อเดียวกันไดหรืออาจเกิดปฏิกิริยา ทําใหเกิดความเสียหายได
2.2 Elastic Pressure Transducer / Device
Elastic Element เปนชิ้นสวนสําคัญของ เครื่องมือวัดความดันประเภทนี้ ชิ้นสวนนี้จะเปลี่ยนรูปราง
(Deformation) เมื่อไดรับความดัน ซึ่งการ Deform นี้จะถูกแปลงเปนการวัดในรูปแบบของสัญญาณทางไฟฟา
หรือทางกล ทําใหสามารถแสดงคาความดันบน Scale ของเครื่องมือวัดได
Elastic Element มีหลายลักษณะ ไดแก
- Bourdon Tube
- Bellows
- Diaphragm
- Capsule
5.3 Precision
เปนความสามารถของตัว Sensor ที่จะแสดงคาในการวัดที่ใกลเคียงหรือเทากันทุกครั้ง เมื่อถูกนําไปวัด
คาตัวเดิมในสภาวะเดิมในแตละครั้ง ซึ่งคาที่ไดจะเทากับหรือใกลเคียงกับคาจริงหรือไมก็ได หากใกลเคียงกับคา
จริงก็เรียกวา accuracy ไดดวย
โดยปกติ sensor ที่ดีจะมีคา accuracy and precision อยูใกลเคียงกับคาที่แทจริงเสมอ
ICEBERGE
ที่มา เอกสารประกอบการอบรม หลักสูตร advance control (PID Control) กองศูนยฝกอบรมแมเมาะ การไฟฟาฝายผลิตแหงประเทศ
ไทย , 14-6-48
จาก Iceberge จะเห็นวา Maintenance cost เปนสวนลางที่จมอยูในน้ํา ซึ่งหมายความวา เปนปจจัย
ที่ควบคุมไดยากและบางครั้งก็ไมสามารถคาดการณหรือประมาณการณไดเลย ดังนั้นการมี monitoring ที่ดีจึง
เปนทางเลือกที่ดีประการหนึ่งที่จะสามารถลด cost ในสวนนี้ได
2. ระบบการวัดแบบตอเนื่อง (Continuous Monitoring System)
ระบบเฝาติดตามการทํางานของเครื่องจักร เพื่อให Machineสามารถทํางานไดตามเปาหมายการผลิต
มีอายุการใชงานยืนยาว ตลอดจนลดคาใชจายในการบํารุงรักษา ดังนั้นการออกแบบและการนําเขาใชงาน
อุปกรณวัดตองใหมีความเหมาะสมเปนไปตามจุดประสงค โดยตองคํานึงถึงระบบการวัดและลักษณะการวัด
การทํางานของเครื่องจักรตามสภาวะตาง ๆ เชน การทํางานในชวง Transient State การทํางานสภาวะคงที่
(Steady State) คุณสมบัติของเครื่องจักร (Characteristics That Fully Define Mechanical Condition) เปนตน
3. การจําแนกกลุมของเครื่องจักร ( Machine Classification )
ในระบบการผลิตตาง ๆ ไมวาขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ ลวนจําเปนตองมีระบบการจําแนกกลุม เพื่อให
สามารถตรวจวัด และติดตามการทํางานในสวนตาง ๆ ตามความเหมาะสมและสอดคลองตามหลักวิศวกรรม
เนื่องจากระบบ Monitoring เปนระบบซึ่งใชตรวจวัดและชวยในการวิเคราะหการทํางานและความเสียหายของ
เครื่องจักร การจําแนกกลุมของเครื่องจักรจึงถูกประเมินโดยความสําคัญของเครื่องจักรในขบวนการผลิตนั้น ๆ
โดยแบงเปน 3 กลุม ดังนี้
3.1 เครื่องจักรที่มีความสําคัญตอขบวนการผลิตมากที่สุด (Critical Machines)
ตัวอยางเครื่องจักรในขบวนการผลิตไฟฟาและอุตสาหกรรมบางประเภท เชน เครื่องกังหันไอน้ํา(Steam
turbine) , เครื่องกําเนิดไฟฟา (Generator) เปนตน เมื่อเครื่องจักรเหลานี้เกิดการชํารุดเสียหายจากการใชงาน
อาจกอใหเกิดผลกระทบรายแรง เชน
o ทําใหขบวนการผลิตตองหยุดชะงักธุรกิจเสียหาย เสียโอกาสในการผลิต
o ใชเวลา แรงงาน และคาใชจายคอนขางมากในการตรวจสอบและแกไข
o มีคาใชจายสูงในการสํารองเครื่องจักร (Spare Part) หรือใชเวลานานในการจัดหา โดยปกติเครื่องจักร
เหลานี้ มักมีราคาแพง รวมทั้งอาจตองใชเวลาในการผลิตขึ้นมาเปนพิเศษ (Made to Order)
o ทําใหเกิดอันตรายตอ Machine อื่น ๆและ ผูปฏิบัติงาน
3.2 เครื่องจักรที่มีความสําคัญอันดับรอง (Essential Machines)
เชน Boiler Feed Pumps , Air Compressors , Condensate Pump เปนตน กลุมนี้ถาเกิดการชํารุด
เสียหาย (Failure) แลวทําใหเกิดผลกระทบตอขบวนการดังนี้
ทําใหขบวนการผลิตหยุดชั่วคราว หรือลดกําลังการผลิตลง
ใชเวลาไมมากและคาใชจายไมสูงนักในการตรวจสอบแกไข
เครื่องจักรเหลานี้สามารถจัดหา Spare Part ไวไดหรือมีอุปกรณไวสํารองพรอมใชงานไดทันที (Stand
By) หมายความวา machine นี้มักจะมีการติดตั้งไวมากกวา 1 ตัว เมื่อตัวใดตัวหนึ่งหยุดเดินเครื่องก็มี
อีกตัวที่ stand by อยูเดินเครื่องทํางานตอไดทันที
3.3 เครื่องจักรทั่ว ๆ ไป (General Purpose Machines)
เชน ปมหรือมอเตอรขนาดเล็ก, พัดลมขนาดตาง ๆ รวมไปจนถึง Turbine Pump ทั่วไป ถาเกิดการ
ชํารุดเสียหาย (Failure) แลวทําใหเกิดผลกระทบดังนี้
• ไมมีผลกระทบตอกําลังการผลิตของสวนใหญ
• สูญเสียระบบการสนับสนุน (Backup) บางสวนหรือทั้งหมด
• ทําใหคาความเชื่อมั่นตอการผลิตลดลง (Reliability ลดลง)
• ใชเวลาในการตรวจสอบแกไขนอย สามารถทําไดทันที
• ระบบการตรวจสอบไมยุงยาก จัดหาอุปกรณไดงาย มีอะไหลใชงานไดทันที
• เครื่องจักรเหลานี้สามารถสํารองอุปกรณไวไดทุกชิ้นสวน เนื่องจากราคาไมแพง ดังนั้นจึงสามารถแกไข
หรือเปลี่ยนใหมไดทั้งชุด
ความตองการขอมูลเพื่อใชในขบวนการติดตามการทํางาน (monitoring) ของเครื่องจักรกลุมตาง ๆ
4. ระบบแสดงผลของ MMS
MMS ตองทํางานอยางตอเนื่องตามการใชงานของเครื่องจักร และมีการแสดงผลในรูปแบบตาง ๆ
เพื่อใหงายในการวิเคราะห สามารถตรวจสอบขอมูลยอนหลังได ที่สําคัญตองแสดงผลอยางถูกตองตลอดเวลา
การเลือกใชระบบตรวจสอบติดตามการทํางานของเครื่องจักรและการกําหนดจุดวัดเปนสิ่งที่สําคัญ
ตองเปนไปตามหลักการที่ถูกตอง หรือสามารถพิสูจนไดในทางวิศวกรรมวาเหมาะสม
การเลือกใชตองคํานึงถึงสิ่งตาง ๆ เหลานี้ เชน
- เปนไปตามหลักวิศวกรรมและมีมาตรฐานรองรับ
- เหมาะสมหรือลงตัวพอดีกับเครื่องจักรที่ออกแบบไวและติดตั้งไดงาย
- มีประวัติการใชงานมาแลวในอุตสาหกรรมตาง ๆ และเปนที่ยอมรับ เชน ยี่หอ Bently Nevada เปน
ยี่หอที่มีความนาเชื่อถือและเปนที่ยอมรับกันมากรายหนึ่ง
- มีการบริหารหลังการขายที่ดีทั้งทางดานวิศวกรรมและดานอื่น ๆ
- ราคาเหมาะสมกับคุณสมบัติและคุณภาพ
- Low Cost Maintenance
- มีความถูกตองแมนยําสูง และทนตอสภาวะสิ่งแวดลอมไดดี
- ราคาโดยรวมทั้งระบบไมสูงจนเกินไป
- มีอายุการใชงานยาวนาน โดยคา Accuracy ยังอยูในเกณฑที่ยอมรับได
- มีความทนทาน
5. ตําแหนงที่ตองการวัดและแสดงผล
สิ่งที่สําคัญตองคํานึงถึงคือ จุดวัดหรือจุดติดตั้ง Sensor จะตองไดรับการออกแบบใหถูกตองเหมาะสม
เพื่อใหผลการวัดมีความแมนยําและเปนไปตามที่ตองการ สวนประกอบที่สําคัญอีกประการหนึ่งคือ อุปกรณที่
เกี่ยวของทั้งหมด ดังนั้นตองเลือกใหเหมาะสม ดังรายการตอไปนี้
- Sensor และ Transducers ตองเลือกใชชนิดที่เหมาะสม โดยพิจารณาปจจัยในขอ 4 ขางตน
- Monitoring System
- Location of Monitor
- Signal Processing สามารถใชรวมกับระบบอื่น ๆ ไดหรือไม
6. Parameter for MMS
ในระบบนี้ไดแบงอุปกรณการตรวจวัดตามลักษณะของเครื่องจักรและการทํางานของมันตามจุดตาง ๆ
ถาเปนเครื่องกังหันไอน้ําและเครื่องกําเนิดไฟฟา( Steam turbine and generator ) โดยทั่วไปผูออกแบบได
กําหนดใหมีจุดวัดตาง ๆ ที่เกี่ยวของ ดังนี้
6.1 Temperature Monitor
Sensor ที่ใชโดยมากเปน RTD, Thermocouple โดยติดตั้งไวตามจุดตาง ๆ ที่สําคัญของเครื่องจักร
ไดแก
- Thrust Bearing Temperature
- Bearing Metal Temperature
- Bearing Drain Temperature
- Drive End and Non Drive End Bearing Temperature
- Casing Temperature เชน Turbine Casing Temperature
- Steam Temperature or Fluid Temperature
- Exhaust Temperature (กรณีเปน Steam Turbine)
- Generator Stator Temperature (เปนกรณีโรงงานผลิตไฟฟา)
- Generator Winding Temperature (เปนกรณีโรงงานผลิตไฟฟา)
- Etc.
6.2 Rotor Speed Monitor
เปนการวัดคาความเร็วรอบของเครื่องจักรในสภาวะตาง ๆ ของการเดินเครื่อง โดยใช Sensor ประเภท
ตาง ๆ เชน
- Proximity Sensor ใชติดตั้งแบบถาวร
- Magnetic Sensor ใชติดตั้งแบบถาวร
- Infrared Sensor ใชวัดคาเปนครั้งคราว เพื่อตรวจวิเคราะหสภาพการทํางานเบื้องตน ในกรณีที่ไมมี
Sensor ติดตั้งแบบถาวร
ที่มา Operation manual 330525, velometor piezo-velocity sensor , BENTLY NEVADA ,USA
ที่มา The practical vibration primer ,Jackson Charles , Gulf publishing company Texas USA , 1979 , ISBN:087-2018911
6.8 Vibration Monitor
โดยปกติเครื่องจักรทุกชนิดที่ Operate อยูจะเกิดคาการสั่นสะเทือนอยูคาหนึ่ง ๆ เสมอ เรียกไดวาเปน
อาการปกติของ Machine นั่นเอง แตคาการสั่นสะเทือนนี้ตองอยูในคาที่ยอมรับได โดยไมเปนอันตรายตอ
เครื่องจักร ผูปฏิบัติงานและขบวนการผลิต
การวัด Vibration เปนสิ่งจําเปนอยางยิ่งและเปน Monitor ที่สําคัญมากประการหนึ่ง เนื่องจากสามารถ
นําคานี้ไป Analysis สภาพการทํางานของ Machine ไดอยางดียิ่ง (วิศวกรหรือชางเทคนิค ควรศึกษาเรื่อง
Vibration ใหเกิดความเขาใจอยางถองแทอีกครั้ง จากตําราอื่น ๆ เนื่องจากมีความสําคัญในอันดับตนๆ )
โดยปกติจุดวัด Vibration ที่ดีจะอยูบริเวณ Bearing เนื่องจากสามารถแสดงผลของ Vibration ไดดี
ที่สุด เพราะเปนการวัดจากตนกําเนิดที่แทจริง
การวัด Vibration มี 3 วิธีที่สําคัญคือ
- Displacement Measurement
- Velocity Measurement
- Acceleration Measurement
โดยแตละวิธีนั้นมีความเหมาะสมในการใชงานแตกตางกันไป ดังนี้
9 ลักษณะของเครื่องจักร เชน Vertical Pump, Boiler Feed Pump , Steam Turbine , Fan , Motor
เปนตน ซึ่งเครื่องจักรแตละชนิดมี Ccharacteristics แตกตางกันไป
9 ขนาดของเครื่องจักร หมายถึง ขนาดกําลังขับเคลื่อนเพลา เครื่องจักรขนาดใหญนั้นมีลักษณะ
Vibration ที่แตกตางกันไป
9 ประเภทของเครื่องจักร
9 อื่น ๆ เชน ความเร็วรอบการหมุน
การพิจารณาเลือกใชวิธีการแบบใดใหเหมาะสม จึงเปนสิ่งสําคัญ มิฉะนั้นทําใหการวัดคาผิดพลาดหรือ
เกิด Deviate ขึ้นได
ตัวอยางการประยุกตใชงาน Vibration Sensor กับ Steam Turbine ในโรงงานผลิตกระแสไฟฟาเปน
ดังนี้
¾ Casing Vibration Monitor ใชการวัดเชิงความเร็ว : Velocity หรือความเรง : Acceleration
¾ Shaft Vibration Monitor ใชการวัดเชิงระยะทาง : Displacement โดยเปน Sensor แบบ
proximity sensor ที่ใชหลักการของ Eddy Current
6.9 Sound Monitor
การวัดระดับความดังของเสียงที่เกิดจากการทํางานของเครื่องจักร มีวัตถุประสงคเพื่อตองการทราบ
ความผิดปกติของการทํางาน ในกรณีที่อาจเกิดการเสียดสีของชิ้นสวนเครื่องจักรตามจุดตาง ๆ ได แตในปจจุบัน
ไมพบการติดตั้ง Sensor วัดระดับความดังของเสียงแบบถาวรใหกับ Machine แตอาจจะใชวิธีการวัดเปนครั้ง
คราว เชน กรณีเริ่มตนของการเดินเครื่อง ( commissioning period )เปนตน สําหรับอุปกรณที่ใชวัดเรียกวา
Sound Level Meter มีลักษณะเปน Portable คลาย ๆ กับ Multi Meter
sound pressure level
ที่มา Random vibration in perspective ,Wayne Tustin and Robert Mercado , Tustin Institute of Technology , Santa Barbara , California,
1984 ,ISBN-0918247004
ที่มา The practical vibration primer ,Jackson Charles , Gulf publishing company Texas USA , 1979 , ISBN:087-2018911
โดยปกติหากเครื่องจักรมีปญหา มักจะสงเสียงดังผิดปกติออกมาดวยเสมอ โดยมีความสัมพันธกันดัง
กราฟ IFD ( Incipient Failure Detection or high frequency monitoring method ) อยางไรก็ตามการ
วิเคราะหนั้นกระทําไดคอนขางยาก จึงไมนิยมใช แตก็สามารถใชเปนดัชนีตัวหนึ่งไดเนื่องจากวาระดับความดัง
ของเสียงนั้นเปนตัวแทนคา vibration intensity or power ratio ดังตารางขางตน
Control Value
Basic Introduction
ในขบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมทั้งหลาย โดยเฉพาะขบวนการผลิตขนาดใหญและซับซอนนั้นมักใช
ระบบการควบคุมแบบอัตโนมัติเขามาใชงานเพื่อใหขบานการผลิตเปนไปอยางตอเนื่อง มีประสิทธิภาพดี สิ่ง
สําคัญประการหนึ่งในระบบที่ขาดไมได คือ อุปกรณขับเคลื่อน หรือ final drive ที่จะกลาวในที่นี้คือ control
valve ซึ่งเปนอุปกรณหนึ่งในหลายๆอยางที่อยูในกลุมของ final drive ทั้งนี้เนื่องจากวา control valve เปน
อุปกรณที่สําคัญมากประการหนึ่งของระบบการผลิต หรือเรียกวามี priority อันดับตนๆนั่นเอง
การศึกษาเพื่อใหเกิดความเขาใจจะนําไปสูการใชงานที่ปลอดภัยตอระบบ และผูปฏิบัติงาน ตลอดจนทําให
ขบวนการผลิตมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดตามตองการ รวมทั้งเกิดความประหยัดอันเหมาะกับยุคสมัย
ที่พลังงานนับวันจะขาดแคลนขึ้นทุกวัน
กอนที่จะเขาสูเนื้อหาของ Control valve ควรทําความรูจักและเขาใจในเบื้องตนเกี่ยวกับเรื่อง Process
Control Terminology กอน เพื่อจะทําใหสามารถเขาใจเนื้อหาในสวนตอๆไปไดเปนอยางดี โดยจะกลาวใน
ลักษณะสรุปสั้นๆ และจะเขาสูรายละเอียดในสวนตอๆไปอีกครั้ง กรณีเชนนี้ก็เชนเดียวกับการศึกษาวิชา
คณิตศาสตรที่ตองทําความเขาใจในนิยามใหถองแทเสียกอนจึงจะศึกษาในสวนตอๆไปไดโดยเกิดการติดขัด
นอยที่สุด
ทั้งนี้ขอแนะนําใหติดตามอานจนจบตอนสุดทายจะทําใหทานไดประโยชนมากที่สุด
Note : final drive = final control element = final element
1. Process Control Terminology
1.1 Capacity คือ Flow Rate ของการไหลของของไหลที่ผาน Control Value ภายใตสภาวะหนึ่ง ๆ
1.2 Controller คือ อุปกรณที่ทําหนาที่ในการประมวลผล โดยรับขอมูลหรือ Input จากตัวแปรที่
ตองการควบคุมหรือตัวแปรที่วัดคา (Controlled Variable or Measured Variable) จากนั้นจึงทํา
การประมวลผลตามรูปแบบการควบคุม (Control Regulatory) ที่ตองการ แลวสง Output Signal
(ผลที่ไดจากการประมวลผล) ไปยัง Final Control Element ในที่นี้คือ Control Value
1.3 Closed Loop Control เปนวงจรควบคุมแบบปด โดยนําเอาคาของสถานะจาก Final
Control Element กลับเขามาเปรียบเทียบกับคา Set Point เพื่อตรวจสอบวายังมีสถานะตางจากคา
เปาหมาย (Set Point) หรือไม ที่ยังมีคา Error หรือคา SP-PV ตัว Controller ก็จะสั่งการตอไป
จนกวาจะไดคาสถานะของ Final Element ที่ตองการโดยมีคา Error เปนศูนยนั่นเอง Controller ก็
จะหยุดสั่งการ Closed Loop ในบางครั้งก็เรียกวา Control Loop คือ Loop ที่เราสนใจเปนพิเศษ
หรือที่เราตองการควบคุม
1.4 Control Range เปนยานการเคลื่อนที่ของ Stem Value หรือระยะทางการเคลื่อนที่ของ stem
valve บางทีอาจเรียกวา valve travel or rated travel
1.5 Dead Band or Dead Zone
ชวงที่ sensor หรือ control valve ไมตอบสนองตอการเปลี่ยนแปลง(input ที่เปลียนแปลง) ซึ่ง
เกิดจากธรรมชาติของตัวอุปกรณเอง เกิดขึ้นไดทั้ง instrument และ control valve แตสวนมากจะใชกับ
instrument and control system มากกวา
จากรูปดานลางอธิบายไดดังนี้
สมมุตวาระบบนี้เปนการทํางานของ air compressor มีคา set point to start at 7.5 bar , stop at 8.0 bar
ในตอนเริ่มตน air compressor ก็จะอัดอากาศเพื่อสรางความดันขึ้นมาจนถึง 8 bar จากนั้น pressure switch
ก็สั่งตัดการทํางานของ air comp. แตเนื่องจากระบบมี time lag จึงพบวาเกิดการ over shoot ขึ้นเล็กนอย
หลังจากนั้นเมื่อความดันในระบบคอยๆลดลงจนกระทั่งถึง 7.5 bar ซึ่งเปนจุดที่ compressor ตองstart ขึ้นมา
แตเนื่องจากวา pressure switch ที่ใชงานนี้มี dead band คอนขางมาก(อุปกรณคุณภาพต่ํา) ทําใหไมสามารถ
ตอบสนองตอ input ที่เปลี่ยนแปลงได และair compressor ก็ไมสามารถทํางานไดตามที่ตองการ เนื่องจาก
switch ไมเปลี่ยนสถานะ จนกระทั่งความดันลดลงเรื่อยๆ ไปจนถึง 7.0bar จากนั้น air compressor จึงstart
ขึ้นมา จะเห็นไดวา dead band ที่เกิดขึ้นนี้นั้นทําใหเราไมสามารถควบคุมระบบไดตามตองการ
วิธีการแกไขคือ เปลี่ยน pressure switch ที่มีคา dead band ต่ําๆมาใชงาน หรือ ติดตั้ง pressure switch 2
ตัว คือ ทําหนาที่สั่ง start , stop แยกอิสระตอกัน
ที่มา Control valve handbook , third edition , FISHER Controls international LLC,USA
1.8 Open Loop Control เปนวงจรควบคุมแบบเปด โดยไมมีการนําเอาคาของสถานะจาก Final
Control Element กลับเขามาเปรียบเทียบกับคา Set Point เพื่อตรวจสอบวายังมีคา Error หรือคา
SP-PV เกิดขึ้นหรือไม เชน การเปดประตูระบายน้ําคือเมื่อสั่งใหเปดประตู motor ก็ทํางาน
จนกระทั่งเปดจนสุด โดยไมมีการตรวจสอบตําแหนงของบานประตูวาอยูตําแหนงใด คือไมมี sensor
ตรวจจับการเคลื่อนที่ในตําแหนงตางๆนั่นเอง
การทํางานในลักษณะนี้ไมนิยมใชงานแบบ automatic และสวนมากไมคอยพบในระบบ automatic
process control
1.9 Process Variable ไดแก pressure , temperature , flow rate , level , conductivity , p H
, vibration เปนตน
1.10 Process หรือขบวนการ ไดแกขบวนการกลั่นน้ํามัน ขบวนการผลิตไฟฟา ขบวนการระบาย
ความรอน เปนตน
1.11 Relay เปนอุปกรณที่ทําหนาที่คลายกับ Power Amplifier คือการขยายสัญญาณลม(pneumatic
signal)ใหมีขนาดใหญขึ้น เพื่อไปขับ Value Actuator คําในความหมายนี้จะใชกับ control valve
โดยเฉพาะ
ที่มา Control valve handbook , third edition , FISHER Controls international LLC,USA
1.12 Resolution คือ คาความละเอียดของ Display device หรือสวนแสดงผล ที่สามารถแสดงคาใน
ลักษณะคานอยๆได หมายความวาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงคาเพียงเล็กนอย ก็สามารถแสดงคานั้นๆ
ได เชน pressure gauge ที่ใชวัดคาความดันที่มี scale แบบเข็ม สมมุตวา 1 ชองของ scale มีคา
เทากับ 0.5 psi ก็หมายความวาหากการเปลี่ยนแปลงความดันมีคานอยกวา 0.5 psi ก็ไมสามารถ
อานคาไดอยางถูกตอง แตสามารถจะประมาณคาได แตถาแสดงผลเปนแบบ digital ที่มีการกําหนด
หลักของตัวเลขไวเชน 2 หลัก คือ x.xx หากคาที่เปลี่ยนแปลงอยูที่ 0.00x ก็ไมสามารถแสดงคาให
ปรากฏ คือเครื่องวัดจะไมรับรูคาที่เปลี่ยนแปลงไดเลย ซึ่งตางกับแบบเข็มหรือ analog ที่สามารถ
ประมาณคาที่เปลี่ยนแปลงนั้นไดเพียงแตไมถูกตองเทานั้นเอง
1.13 Response Time หรือที่มักเรียกวา Time Constant
เปนเวลาในการตอบสนองของ process ของตัว Sensor เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงคาของ input. โดยปกติ
Response Time มักถูกใชวัดในรูปของ Time Constant คาหนึ่งๆ
Time Constant หมายถึง การเปลี่ยนแปลงคาของ Output ที่เปลี่ยนแปลงตามเวลาขึ้นกับคา input โดย
คิดเมื่อ Output เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจนถึง 63.2% ของ Output ที่เปลี่ยนแปลงทั้งหมด ตามรูป
ที่มา Control valve handbook , third edition , FISHER Controls international LLC,USA
Push Down to Open Construction ลักษณะของ Value Actuator จะเปนแบบ Direct
Actuator สวน Value Plug จะเปนแบบ Reverse ดังรูป เมื่อมีแรงดันลมเขาดานบน Diaphragm
Chamber ตัว Value Stem จะเคลื่อนที่ลง ทําให Value เปดให Fluid ไหลผานไปได
reverse plug direct actuator
ที่มา Control valve handbook , third edition , FISHER Controls international LLC,USA
1.32 Rangeability คือ คา Maximum Range/Minimum Range เชน 100/1 หมายความวา Control
Value ยังคงความสามารถในการควบคุมการไหลไดดีแมกระทั่ง Flow Rate เพิ่มขึ้นเปน 100 เทาของ
คา Minimum Controllable Flow Rate คือ ปกติควบคุม Flow Rate ที่ 1 m3/hr แตอาจใชงานไดที่
100 m3/hr ไดโดยคา Capacity, Pressure Drop หรือ Performance ยังคงเดิม สวนมากคา
Rangeability มักจะใชกับ Instrument หรืออุปกรณการวัดคุมมากกวา ซึ่งเรียกวา การบีบ-ขยาย
span เชน pressure transmitter ที่มีคา rangeability 50/1 หมายความวา สามารถ calibrate ให
มียานการวัดที่ 0 -1 bar หรือ 0- 50 bar ก็ได ในกรณีที่มีการบีบ span มากๆก็เกิดคา error หรือ
accuracy ไดเชนกันทั้งนี้ตองพิจารณาดวยวาอยูในยานที่ยอมรับไดหรือไม
1.33 Rated Flow Coefficient เปนคา Cv ที่ Value อยูในตําแหนง Rated Flow Rate
1.34 Rated Travel คือ ระยะการเคลื่อนที่ของ Travel จากตําแหนงปดสุดไปยังตําแหนง Rated Full
Open หรือตําแหนงเปดสูงสุดที่ Flow Rate ที่ตองการ
1.35 Seat Leakage ปริมาณการรั่วของ Fluid ผาน Value เมื่ออยูในตําแหนงปดสุด ในสภาวะ
Temperature and Differential Pressure ที่กําหนด ในทางปฏิบัติคือไมสามารถทําให valve ปดกั้น
การไหลได 100% จะตองมีการรั่วคาหนึ่งที่อยูในคาที่สามารถยอมรับได ดังตาราง
ที่มา Control valve handbook , third edition , FISHER Controls international LLC,USA
1.36 Vena Contracta เปนตําแหนงของ Maximum Fluid Velocity และ Minimum Pressure
ดังรูป
ที่มา Control valve handbook , third edition , FISHER Controls international LLC,USA
1.37 Calibration Curve คาความสัมพันธของ Input กับ Output ดังกราฟ
ที่มา Control valve handbook , third edition , FISHER Controls international LLC,USA
1.38 Calibration Cycle
คือ การบันทึกคาความสัมพันธของ Input กับ Output จาก 0 ไป 100% และจาก 100 กลับไป 0%
เพื่อเก็บเปนขอมูลเบื้องตนไวสําหรับการวิเคราะหปญหาในอนาคต เชนการตรวจสอบ drift ที่เกิดขึ้น
ที่มา Control valve handbook , third edition , FISHER Controls international LLC,USA
1.39 Hunting คือสภาวะของการเกิด Oscillation ของสัญญาณควบคุม ทําใหตัว Final Element ไม
สามารถเขาสูคา Set Point ไดใน Control Value สวนมากเกิดจาก Control Signal จาก Positioner
ที่มีปญหาไมคงตัว (unstable signal) ทําใหไมสามารถควบคุม PV ไดตามที่ตองการ ลักษณะ
อาการนี้อาจเกิดจากการรบกวนของ วิทยุรับสงก็ได หรือจากอุปกรณที่กําเนิดคลื่นวิทยุกําลังสูงตางๆ
อาการเชนนี้จะทําให stem valve เกิดการขยับตัวตลอดเวลา เพื่อที่วิ่งเขาหา set point แตก็ไม
สามารถเขาหาได จึงเกิดการขยับไปมาตลอดเวลา ในลักษณะนี้สงผลเสียโดยตรงตอ mechanical
equipment ไดแก packing , positioner mechanism , actuator เปนตน ที่จะเกิดการสึกหรอเร็ว
กวาปกติ รวมทั้ง เกิด process deviation คือเกิดการเบี่ยงเบนของการผลิตหรือคุณภาพผลิตผล เชน
กรณีที่เกิดขึ้นกับ fuel oil flow control valve หรือวาลวควบคุม flow rate ของน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใช
ในการเผาไหม ก็จะทําใหคาอุณภูมิเผาไหมไมคงที่ หากเปนระบบการผลิตไอน้ําก็จะทําใหไดคา
pressure and temperature ของไอน้ํามีคา ไมคงที่ สงผลกระทบตอการทํางานของอุปกรณอื่นๆ
อีกมากทําใหระบบเกิดการปนปวนได ดังรูป
1.40 Instrument Pressure คือ Output Pressure จากController (I/P) เพื่อใชสั่งการ Control
Value ให Action ตามตองการ
ที่มา Control valve handbook ,3rd edition , FISHER Controls international LLC,USA
มิใชครั้งที่ 1 วัดได P = 10.0 bar
ครั้งที่ 2 วัดได P = 11.5 bar
ครั้งที่ 3 วัดได P = 9.0 bar
โดยสภาวะตาง ๆ ณ เวลานั้น ๆ (ที่ทําการวัดคา) ยังเหมือนเดิม คือ ที่อุณหภูมิ 80 oC, Flow Rate 50
m3/hr อยางนี้เรียกวามี Repeatibility ไมดี
คาRepeatibility ในอีกความหมายหนึ่งคือ ความสามารถของ Instrument ที่วัดคาและได Output
ออกมา โดยคา Input ที่ปอนยังคงเดิมภายใตสภาวะ Operating Condition เดิมในชวงเวลาสั้น ๆ
ชวงหนึ่ง เชน ใช Multimeter วัดคา Voltage ของแหลงจายแรงดัน (Ideal Power Supply) ตองวัด
คาไดคาเดิมทุกครั้งภายใตเงื่อนไขเดิม เชน วัดได 10.0 VDC จํานวน 10 ครั้ง เปนตน ในชวงเวลาสั้น
ๆ
1.46 Reproducibility เปนคาความสามารถของ Instrument ในการวัดคาและให Output ออกมาคา
เดิมตามคา Input ที่ปอนเขาไป ภายใตเงื่อนไข Operating Condition เดิม แตชวงเวลาเปนการวัด
คาในชวง 1 เดือน 3 เดือน หรือ 1 ป เชน วันนี้วัดคาได 100 bar อีก 3 เดือน ก็ควรจะวัดคาได 100
bar ดวย ภายใต Operating Condition เดียวกัน Instrument ที่ดี ควรมีคา Reproducibility ที่ดี
ดวย
1.47 Drift มีความหมายใกลเคียงกับ Reproducibility มากหรืออาจเรียกวาเปนคํา ๆ เดียวกันก็ได
Instrument ที่ดี ไมควรเกิดคา Drift ในชวงเวลาสั้น ๆ หรือใชงานไปไมกี่เดือน คา Drift มี 2 ลักษณะ
คือ
- Point Drift โดยการกําหนด Operating Condition เดิมแลวดูคา Output ที่วัดไดวาเปลี่ยนแปลงไปจาก
คาเดิมเทาไร โดยใหคา Input Signal คงที่
- Calibration Drift เปนการนําตัว Instrument มาทําการ Calibrate ใหม โดยการเปรียบเทียบผลที่ไดกับ
Calibration Report หรือ Calibration Curve เดิม วามีความแตกตางกันเทาไรในทุก ๆ คาที่ทําการ
Calibrate เชน
คาเดิมที่ calibrate ครั้งแรก
Input (%) 0.0 25.0 50.0 75.0 100.0
Output ( volt ) 5.0 10.0 15.0 20.0 25.0
คาใหมที่ผานการใชงาน
มาแลวระยะหนึ่ง 1 ป
Input (%) 0.0 25.0 50.0 75.0 100.0
Output ( volt ) 4.5 10.4 14.5 19.5 24.3
จากตัวอยาง จะเห็นวามีคา Drift เกิดขึ้นประมาณ 0.5 ในทุก ๆ คา เปนตน โดยปกติคา Drift ของอุปกรณจะบอก
เปน % Output Span จากตัวเลข จะไดคา drift =0.5x100 / 20 =2.5% of output span
1.48 Static Error เปนคา Error จากการวัดที่เงื่อนไขเดิม แตเกิดความแตกตางขึ้นเล็กนอย
1.49 True Value (คาที่แทจริง , คาจริง)
True Value = Instrument Readout (คาที่อานไดจากเครื่องมือวัด) – Static Error
1.50 Sensitivity เปนคาอัตราสวนระหวาง Change of Output/Change of Input ในสภาวะ Steady
State Condition
1.51 Dynamic Characteristic เกิดขึ้นจาก 3 ลักษณะ คือ
- Step Change การเปลี่ยนแปลง Input แบบทันทีทันใด
- Linear Change การเปลี่ยนแปลงคา Input ในลักษณะคอย ๆ เพิ่มหรือลด หรือเรียกวา ramp signal
- Sinusoidal การเปลี่ยนแปลงคา Input ในลักษณะเปน Sine Wave
ลักษณะของ Change เหลานี้ทําใหเกิด Dynamic Error, Lag, Speed of Response, Fidelity, Etc.
1.52 Dynamic Error เปนคา Error ที่เกิดจากสภาวะของ Dynamic Characteristic ทั้ง 3 แบบ
1.53 Lag or time lag เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง input ขึ้น โดยธรรมชาติของอุปกรณ จะไม
สามารถตอบสนองไดในทันทีทันใด จึงเกิด Time Lag ขึ้นเสมอ
1.54 Speed of Response คือ ความสามารถของ Instrument ในการตอบสนองการเปลี่ยนแปลง
คา Input ยิ่งมี Speed สูงยิ่งดี แสดงวาสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของ Input ไดเร็วมาก
1.55 Precision Error เปนคา Error จากสภาพ Conformity ของตัวอุปกรณวัด เชน ตัว Resistor มี
คา R = 1.592 Mega Ohm มี Error 154 Ohm ตัว Multimeter ที่นํามาวัดคาและอานโดยคน
(สมมติวาไมมี Error ที่คนอานคา) คาที่แสดงจากเข็มวัด อานไดที่ประมาณ 1.5 Mega Ohm ทั้ง ๆ
ที่คาจริงนั้นอยูที่ 1.592 +154 Mega Ohm คาที่อานไดจาก Scale นี้เรียกวา Precision Error คือ
เปนคา Error ที่เกิดจากขีดจํากัดของ Scale Reading ของเครื่องมือวัด
1.56 Zero Error เปนคา Error ของเครื่องมือวัดในชวงคา Input ต่ํา ๆ มักกําหนดคาเปน % Of Ideal
Span
1.57 Zero Offset หมายถึง ในสภาวะปกติที่ยังไมมี Input ใหกับ Instrument ตัว Indicator ควรแสดง
คาที่ศูนย แตหากคาที่อานไดไมเปนศูนยนั่นคือ การเกิด Zero Offset ตองทําการปรับแตงหรือ
Calibrate ให Indicator แสดงคาที่ศูนยใหไดและตองบันทึกคาไว หากปรับ Zero ไมไดจริง ๆ
ยกตัวอยางใหเห็นชัดเจนคือ กรณีของ Pressure Gauge หากนํามาวางไวในบรรยากาศปกติ เข็มชี้
คาหรือ Pointer Indicator ควรชี้คาที่ “0”