You are on page 1of 10

บทที่12

การวัดอุณหภูมิ
1. การวัดอุณหภูมิ
อุณหภูมิของอากาศ (Air temperature) เปนตัววัดวาอากาศนั้นมีอุณหภูมิรอนหรือเย็นเพียงใด เปน
พารามิเตอรสภาพอากาศที่วัดไดบอยที่สุด โดยเฉพาะอยางยิ่ง อุณหภูมิอธิบายพลังงานจลนหรือพลังงานของ
การเคลื่อนที่ของกาซที่ประกอบกันเปนอากาศ เมื่อโมเลกุลของกาซเคลื่อนที่เร็วขึ้น อุณหภูมิของอากาศก็จะ
เพิ่มขึ้น
อุณหภูมิของอากาศเปนพารามิเตอรทางภูมิอากาศที่สําคัญที่สุดที่กําหนดความตองการในการทําความรอนหรือ
ความเย็นสํ าหรับ สถานที่ ที่กําหนด อยางไรก็ ตาม การแปรผัน ของอุณหภู มิสําหรั บสถานที่ห นึ่งๆ นั้ นไดรั บ
อิทธิพลจากพารามิเตอรทางภูมิอากาศอื่นๆ ไดแก ความเร็วลมและทิศทางนอกเหนือจากภูมิประเทศและความ
สูงของสถานที่นั้น
ความรูเรื่องอุณหภูมิของอากาศปกติเปนสิ่งที่จําเปนเนื่องจากเปนตัวแปรที่สําคัญที่สุดในสี่ตัวแปรที่กําหนด
ความสบายทางความรอน จําเปนตองมีคาอุณหภูมิที่สูงมากสําหรับการออกแบบโรงงานทําความรอนหรือทํา
ความเย็น แนวคิดเรื่องความสุดโตงคือความนาจะเปนและตองเลือกคาตามการใชงานเพื่อสรางขอมูล
ตองทราบคาเฉลี่ยดวยเชนกันเพื่อใหสามารถคาดการณการใชพลังงานได จําเปนตองทราบการแกวงรายวันเพื่อ
คํานวณสภาพอากาศรอนในรมสูงสุดโดยสัมพันธกับมวลความรอนของอาคารและรูปแบบการทําความรอนหรือ
ความเย็นเปนระยะ
1.2 ทําไมอุณหภูมิของอากาศจึงสําคัญ
อุณหภูมิของอากาศสงผลตอการเจริญเติบโตและการสืบพันธุของพืชและสัตว โดยอุณหภูมิที่อุนขึ้นจะ
สงเสริมการเจริญเติบโตทางชี วภาพ อุ ณหภูมิของอากาศยังสงผลตอพารามิเตอร สภาพอากาศอื่น ๆ เกือบ
ทั้งหมดดวย ตัวอยางเชน อุณหภูมิของอากาศสงผลตอ:
1) อัตราการระเหย
2) ความชื้นสัมพัทธ
3) ความเร็วลมและทิศทางลม
4) รูปแบบและประเภทของฝน เชน ฝนจะตก หิมะ หรือลูกเห็บ
1.3ผลของอุณหภูมิ
1. การระเหยของน้ําสูง = ระเหยเร็ว
การระเหยของน้ําต่ํา = ระเหยชา
2. การเกิดลม เกิดจากการเคลื่อนของอุณหภูมิสูงไปอุณหภูมิต่ํา
3. การคายน้ําขอพืชสูง = พืชคายน้ํามาก
การคายน้ําขอพืชต่ํา = พืชคายน้ํานอย
4. การระบายความรอนของมนุษยและสัตวสูง = ระบายความรอนมาก
การระบายความรอนของมนุษยและสัตวต่ํา = ระบายความรอนนอย

1.4 ความชื้นของอากาศ
ความชื้นของอากาศ คือ ปริมาณไอน้ําที่มีอยูในอากาศ ซึ่งเกิดจากการระเหยของน้ําจากแหลงน้ําตางๆ
บนพื้นโลก ในแตละวันการระเหยน้ําจะมี
ปริมาณแตกตางกัน จึงทําใหปริมาณไอน้ําที่มีอยูในอากาศมีความแตกตางกัน
อากาศมีความชื้นมาก คือ ปริมาณไอน้ําในอากาศมาก และถาอากาศรับปริมาณไอน้ําไมไหวมากเกินไป
ไมสามารถรับไอน้ําไดอีก เรียกวา อากาศอิ่มตัวดวยไอน้ํา
อากาศความชื้นนอยหรืออากาศแหง คือ ปริมาณไอน้ําในอากาศนอยและสามารถรับไอน้ําไดอีกมาก
จึงทําใหน้ําจากแหลงน้ําตางๆระเหยแหงได
ดี เสื้อผาที่ตากไวก็จะแหงเร็ว
การบอกความชื้นของอากาศบอกได 2 วิธี คือ
1. ความชื้นสัมบูรณ(A.H) คือ อัตราสวนระหวางมวลของไอน้ําตอปริมาณอากาศ
A.H = M/V
มีหนวยเปน g/mกําลัง3
2. ความชื้นสัมพัทธ (R.H) คือ ปริมาณไอน้ําที่มีอยูจริงในอากาศกับไอน้ําอิ่มตัวที่อุณหภูมิและปริมาณ
เดียวกัน
R.H = m/M x100เปอรเซ็นต
มีหนวยเปน เปอรเซ็นต
1.5 ความดันบรรยากาศ
เปนที่ทราบกันดีวาอากาศมีน้ําหนักจึงทําใหอากาศมีแรงดัน แรงดันของอากาศที่กดทับลงบนพื้นที่
หนึ่งๆเราเรียกวา ความดันอากาศ แตเนื่องจาก
อากาศเป น ส ว นหนึ่ ง ของบรรยากาศ ความดั น ที่ เ กิ ด ขึ้ น จึ ง ได เ รี ย กว า ความดั น บรรยากาศ ซึ่ ง ในทาง
อุตุนิยมวิทยาจะเรียกความดันบรรยากาศวา ความกดอากาศ
1. อุณหภูมิของอากาศ
อุณหภูมิสูง = ความกดอากาศต่ํา
อุณหภูมิต่ํา = ความกดอากาศสูง
2. ความชื้นในอากาศ
ความชื้นมาก = ความกดอากาศต่ํา
ความชื้นนอย = ความกดอากาศสูง
3.ระดับความสูงจากพื้นโลก
ความสูงมาก = ความกดอากาศต่ํา
ความสูงนอย = ความกดอากาศสูง

เครื่องมือวัดความดันอากาศ เรียกวา บารอมิเตอร


1. บารอมิเตอรปรอท คนพบโดยนักวิทยาศาสตรชาวอิตาเลียน ชื่อ ทรอริเชลลี เขาพบวา เมื่อเอาหลอดแกว
ปลายปดขางหนึ่งซึ่งยาวประมาณ 80 เซนติเมตร ภายในบรรจุปรอทจนเต็มไปคว่ําในอางปรอท ระดับปรอทใน
หลอดลดลงและรักษาระดับอยูที่ความสูง 760 มิลลิเมตรหรือ 76 เซนติเมตร ดังนั้นเขาจึงอธิบายบรรยากาศมี
ความดันเทากับความดันอันเกิดจากน้ําหนักปรอทและเราเรียกวา ความดันอากาศที่สามารถดันปรอทใน
หลอดแกวใหอยูสูง 760 มิลลิเมตร วาความดัน 1 บรรยากาศ
2.แอนิรอยดบารอมิเตอร มีลักษณะเปนตลับโลหะมีขนาดกะทัดรัดอานไดโดยตรงจากเข็มหนาปด
3.แอลติมิเตอร เปนเครื่องมือสําหรับวัดความสูง ดัดแปลงมาจากแอนิรอยดบารอมิเตอร ใชในเวลาโดดรม
4.บารอกราฟ คือ แอนิรอยดบารอมิเตอรที่ดัดแปลงมาบันทึกแบบกราฟตอเนื่องกัน a.ในทางอุตุนิยมวิทยา
เรี ย กความดั นอากาศว า ความกดอากาศ มีห นว ยเปน บารห รือ มิล ลิบาร b. บาร = 1000 มิลิบ าร c. 1
บรรยากาศ = 1013.25 มิลลิบาร
1.6 อุณหภูมิอากาศวัด
อุณหภูมิมักจะแสดงเปนองศาเซลเซียส ℃) หรือองศาฟาเรนไฮต (℉) อยางไรก็ตามหนวยอุณหภูมิ
SI ที่แทจริงของมันคือเคลวิน (K) ในระดับเคลวิน 0K เทากับ -273°C
วิธีทางวิทยาศาสตรเพิ่มเติมในการอธิบายอุณหภูมิอยูในหนวยสากลเคลวินมาตรฐาน 0 องศาเคลวินเรียกวา
ศูนยสัมบูรณ เปนอุณหภูมิที่เย็นที่สุดเทาที่จะเปนไปได และเปนจุดที่การเคลื่อนไหวของโมเลกุลทั้งหมดหยุดลง
มีคาประมาณเทากับ -273 องศาเซลเซียส
สูตรการแปลงคาอุณหภูมิ
9
℃ แปลงเปน ℉ = (℃) + 32
5
℃ แปลงเปน ˚𝐾𝐾 = ℃ + 273
9
℉ แปลงเปน ℃ = (℉ − 32)
5
5
℉ แปลงเปน ˚𝐾𝐾 = (℉ − 32) + 273
9
˚𝐾𝐾 แปลงเปน ℃ = ˚𝐾𝐾 − 273
9
˚𝐾𝐾 แปลงเปน ℉ = (˚𝐾𝐾 − 273) + 32
5

อุปกรณการวัดอุณหภูมิ
มีเครื่องวัดเทอรโมมิเตอรหลากหลายรูปแบบ คุณควรทําความเขาใจเกี่ยวกับประเภทตางๆ และวิธี
เลือกเครื่องมือวัดนี่ที่เหมาะกับคุณที่ดีที่สุด
1. เครื่องวัดอุณหภูมิแบบโพรบ
เปนหนึ่งในชนิดที่พบบอยที่สุด ใหการอานอุณหภูมิของอาหาร ของเหลวและตัวอยางกึ่งแข็ง เครื่องวัด
แบบโพรบมีหลายประเภทสวนใหญใหการอานคาอุณหภูมิแบบดิจิตอลในทันที

เครื่องวัดอุณหภูมิแบบโพรบ
2. เครื่องวัดแบบอินฟราเรด
เครื่องวัดแบบอินฟราเรดเปนเครื่องวัดอีกชนิดหนึ่งสําหรับการวัดอุณหภูมิแบบไมสัมผัส ประมาณคา
อุณหภูมิจากรังสีความรอน (พลังงานอินฟราเรด) ที่ปลอยออกมาจากวัตถุที่กําลังวัด

เครื่องวัดแบบอินฟราเรด

3. เทอรโมคัปเปล (K-Type Thermocouple)


เครื่องวัดแบบเทอรโมคัปเปล K-Type เปนเทอรโมมิเตอรชนิดพิเศษและเฉพาะเจาะจงถูกออกแบบมา
สําหรับการวัดอุณหภูมิสูงมาก พบมากที่สุดในอุตสาหกรรมและหองปฏิบัติการ

เทอรโมคัปเปล (K-Type Thermocouple)


4. เครื่องบันทึกขอมูลอุณหภูมิ Data Logger
Data Logger เปนเครื่องบันทึกขอมูลอุณหภูมิชวยใหสามารถบันทึกการวัดอุณหภูมิแบบตอเนื่องได
โดยเมื่อเปดใชงานแลวเครื่องจะบันทึกอุณหภูมิตามชวงเวลาที่กําหนดไวเชนกําหนดใหบันทึกขอมูลทุกๆ 1
วินาที – 1ชั่วโมงเปนตน

เครื่องบันทึกขอมูลอุณหภูมิ Data Logger

5. เครื่องวัดอุณหภูมิแบบดิจิตอล (สําหรับงานในรมและกลางแจง)
เครื่องวัดประเภทนี้มีลักษณะเฉพาะเนื่องจากวิธีการบันทึกและแสดงขอมูล แตกตางจากอุปกรณอื่นๆ
โดยมี สองโพรบ โพรบเหลา นี้มีหลากหลายรูปแบบ หนาจอจะแสดงการอานทั้งสองอยางพรอมกันเพื่อให
สามารถเปรียบเทียบไดโดยตรง

เครื่องวัดอุณหภูมิแบบดิจิตอล (สําหรับงานในรมและกลางแจง)
6. เครื่องวัดแบบอะนาล็อก
เป น เทอร โ มมิ เ ตอร ป ระเภทที่ ถู ก ที่ สุ ด และเป น ที่ นิ ย ม เหมาะอย า งยิ่ ง สํ า หรั บ ใช ใ นบ า นหรื อ ใน
สภาพแวดล อมโดยไมจํ า เป น ตองมีความแมน ยํามากนัก ไดแกอุปกรณ Bi-Metal ซึ่งเหมาะสําหรับ การวัด
อุณหภูมิอาหารซึ่งใชสวนประกอบทางกลไก การแสดงภาพมักเปนหนาปดหรือตัวชี้แสดงคาอุณหภูมิ

เครื่องวัดแบบอะนาล็อก

7. กลองถายภาพความรอน (เทอรโมสแกน)
กลองถายภาพความรอนเปนเทอรโมมิเตอรชนิดหนึ่งที่ใชในการวัดอุณหภูมิโดยใชหลักการอินฟราเรด
โดยจะแสดงคาอุณหภูมิออกมาเปนภาพถายความรอน

กลองถายภาพความรอน (เทอรโมสแกน)
ตัวอยางการทดรอง
1. นําน้ําแข็งใสในอางน้ําเย็นบนโตะทดรอง (ใสแตนอย)
2. ประกอบอุปกรณการวัดทั้งหมดในอางน้ําเย็น เปดตัวกวนน้ํา เพื่อใหเกิดการหมุนวนกระจายในน้ํา
ใหอางมีอุณหภูมิเทากัน
3. บันทึกคาที่อานไดจากอุปกรณแตละตัว
4. ใสน้ําแข็งเติมลงในอางน้ําเย็นอีก แลวทําการทําตามขอ 2 และ 3 อีกครั้ง
5. นําน้ํารอนใสในอาง
6. ประกอบอุปกรณเชนเดียวกับขอ 2
7. ใหความรอนเปดสวิตซจายไฟใหกับเตาแผนความรอน จายไฟเขาที่ระนอยใหน้ําคอยๆ รอน
8. บันทึกคาที่อานไดจากอุปกรณแตละตัว การบันทึกคาจากอุปกรณแตละตัว (ควรบันทึกทุก 1-5
นาที)

ภาพตัวอยางการทดรอง
1. จังหวัดนานอุณหภูมิ 77 องศาฟาเรนไฮต 5.เทอรโมมิเตอรวัดไขมีขีดบอกอุณหภูมิอยู
ถาใชหนวยเปนเซลเซียสจะเปนอุณหภูมิเทาใด ระหวางชวงใด
ก.5 องศาเซลเซียส ก. 30 - 50℃ ข. 35 - 42℃
ข.25 องศาเซลเซียส ค. 37 - 50℃ง. 0 - 100℃
ค.40 องศาเซลเซียส 6. บนอากาศบนภูเขามีอุณหภูมิ 2 ℃ คิดเปน
ง.77 องศาเซลเซียส ˚𝐊𝐊 เทากับเทาไร
2. เทอรโมมิเตอรชนิดเซลเซียส วัดอุณหภูมิของ ก. 273 ข. 279
สารพบวา เปลี่ยนแปลงจากเดิม 20 องศา ถาใช ค. 275 ง. 299
เทอรโมมิเตอรชนิดเคลวินจะเปลี่ยนแปลงเทาใด 7. เครื่องมือวัดอุณหภูมิรางกายแบบใดที่นิยมใช
ก. 0 ในปจจุบัน
ข. 10 ก แบบอมใตลิ้น ข. แบบแผนแปะ
ค. 20 ค. แบบอินฟาเรด ง. แบบเทอรโมมิเตอร
ง. 293 8. การพาความรอนเกิดในตัวกลางตามสถานะ
3.พลังงานความรอนเดินทางจากดวงอาทิตย ตามขอใด
มาถึงโลก โดยกระบวนการใด ก.ของแข็ง ของเหลว ข. ของเหลว แกส
ก. ความรอนถูกแผรังสีผานอากาศ ค. ของแข็ง แกส ง. โลหะแกส
ข. ความรอนเดินทางผานลม 9. วัสดุใดเปนฉนวนความรอน
ค. ความรอนถูกนําผานโมเลกุลอากาศ ก. เหล็ก ข. พลาสติก
ง. การพาความรอนผานกระแสอากาศ ค. ทองแดง ง. อลูมิเนียม
4. ขอใดใชวัดอุณหภูมิของอากาศ 10. อุณหภูมิหมายถึงขอใด
ก. เทอรโมมิเตอร ก. ปริมาณความรอนในวัตถุ
ข. แอนนิมอมิเตอร ข. ความจุความรอนในวัตถุ
ค. บารอมิเตอร ค. ระดับความรอนในวัตถุ
ง. ไฮโกรมิเตอร ง. ขนาดความรอนในวัตถุ
1. รถยนตคนหนึ่งวิ่งดวยความเร็ว 112 km/h แลวพุงชนรถจักยานยนตที่จอดอยูกับที่ เมื่อหมอน้ํารถยนต
คันที่ชนจักยานยนตมีอุณหภูมิอยูที่ 355 ˚K จงหาอุณหภูมเิ ปน ℃
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

2. อุณหภูมิอากาศประเทศไทยอยูที่ 33℃ เมื่อเวลา 13 : 33 นาฬิกา จงหาอุณหภูมิเปน ℉


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3. ที่ประเทศญี่ปุนตอนนี้มีพายุหิมะถลมหนักเปนระยะเวลามากกวา 2 วัน มีอุณหภูมิอยูที่ -36 ℃ อยาก


ทราบถาเปนอุณหภูมิ ˚K วามีคาเทาไร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

4. อุณหภูมิตูแชเย็นมีอุณหภูมิอยูที่ 27 ℉ อยากทราบถาเปนอุณหภูมิ ˚K วามีคาเทาไร


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

5. รถจักยานยนตคันหนึ่งวิ่งดวยความเร็ว 197 mi/h มีการเสียดสีของพื้นผิวยางกับพื้นถนนมีอุณหภูมิอยู


ที่ 291.33 ˚K จงหาอุณหภูมิยางใหเปน ℉
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

You might also like