Professional Documents
Culture Documents
วัตถุประสงค์
1. เพื่อหาค่าคงที่ของคาลอริมิเตอร์ (Kc)
2. เพื่อหาค่าเอนทาลปีของปฏิกิริยาสะเทิน ( ΔH neut )
ทฤษฎี
เทอร์โมเคมี (Thermochemistry) เกี่ย วข้อ งกั บ การถ่ า ยเทความร้อ นที่ เกิ ด ขึ้น จากปฏิ กิ ริย าเคมี
ปฏิกิริยาเคมีส่วนใหญ่ที่ทดลองในห้องปฏิบัติการจะกระทำที่ความดันคงที่ นั่นคือ ที่ความดันบรรยากาศ
การเปลี่ยนแปลงทางความร้อนของปฏิกิริยาเคมีทเี่ กี่ยวข้อง ภายใต้สภาวะนี้ คือการเปลี่ยนแปลงเอนทาลปี
ของปฏิกิริยา (Enthalpy change of reaction, ΔH ) โดยที่ ΔH คือผลต่างระหว่างเอนทาลปีของระบบที่
สภาวะสุดท้ายกับเอนทาลปีของระบบที่สภาวะเริ่มต้น ดังสมการ (1)
50 50 อุณหภูมกิ ่อนผสม
T = 39 - 49 = -10 C
40 อุณหภูมหิ ลังผสม 40
T = 39 - 30 = 9 C 30 อุณหภูมหิ ลังผสม
30 อุณหภูมกิ ่อนผสม
20 20
10 10
0 0
0 11 22 33 44 เวลา (นาที
5 ) 0 11 22 33 44 เวลา (นาที
5 )
รูปที่ 1 กราฟระหว่างอุณหภูมิกับเวลา
เครื่องแก้วและอุปกรณ์
1. เครื่องมือคาลอริมิเตอร์อย่างง่าย
2. บีกเกอร์ ขนาด 100 mL
3. กระบอกตวง ขนาด 50 mL
4. เทอร์โมมิเตอร์ (±0.1 C)
5. แท่งแก้วคน
6. นาฬิกาจับเวลา
สารเคมี
1. สารละลายกรดไฮโดรคลอริก (HCl) เข้มข้น 3.0 M
2. สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) เข้มข้น 3.0 M
วิธีการทดลอง
สร้างเครื่องมือคาลอริมิเตอร์อย่างง่าย ดังรูปที่ 2 โดยนำบีกเกอร์ขนาด 100 mL ใส่ในกล่องไม้
มีฝาปิดที่ทำด้วยไม้ที่เจาะรู 2 รู สำหรับเสียบเทอร์โมมิเตอร์และแท่งแก้วคน ถ้ารูที่เสียบเทอร์โมมิเตอร์และ
แท่งแก้วคนหลวม ให้พันด้วยกระดาษทิชชูให้แน่นพอดีกับรูท่เี จาะไว้
เทอร์โมมิเตอร์ แท่งแก้วคน
ฝาไม้
บีกเกอร์
รูปที่ 2 เครื่องมือคาลอริมิเตอร์แบบง่าย
กล่องไม้
ตอนที่ 1 หาค่าคงที่ของคาลอริมิเตอร์ ( KC )
(ข้อปฏิบัติ ให้นิสติ ใช้เทอร์โมมิเตอร์อันเดียวกันตลอดการทดลอง ทั้งตอนที่ 1 และ 2)
1. ตวงน้ำประปา ปริมาตร 15.0 mL ใส่ลงไปในบีกเกอร์ที่วางอยู่ในคาลอริมเิ ตอร์ วัดอุณหภูมิของน้ำ
(เรียกว่า น้ำเย็น) และบันทึกเป็น อุณหภูมนิ ้ำเย็นก่อนผสม
2. ตวงน้ำอุ่นอุณหภูมิประมาณ 60C ปริมาตร 15.0 mL ใส่ลงในบีกเกอร์ขนาด 100 mL อีกใบหนึ่ง
วัดอุณหภูมิของน้ำ (เรียกว่า น้ำอุ่น) และบันทึกเป็น อุณหภูมิน้ำอุ่นก่อนผสม (ก่อนที่จะตวงน้ำอุ่น
ให้ชะกระบอกตวงด้วยน้ำอุ่นก่อน 1 ครั้ง แล้วจึงตวงน้ำอุ่นและวัดอุณหภูมิทันที)
3. เทน้ำอุ่นในข้อ 2 ลงไปผสมกับน้ำเย็นในคาลอริมิเตอร์ เริ่มจับเวลาทันทีขณะเทผสม ปิดฝาไม้ให้สนิท
ค่อย ๆ คนสารละลาย เริ่มอ่านอุณหภูมคิ รั้งที่ 1 เมือ่ ครบ 30 วินาทีแรก และอ่านทุก ๆ 30 วินาที
เป็นเวลา 5 นาที (ต้องปิดฝาคาลอริมิเตอร์ให้แน่นตลอดการทดลองเพื่อป้องกันการสูญเสียความ
ร้อนออกจากคาลอริมิเตอร์)
4. ทำการทดลองซ้ำข้อ 1-3 อีกครั้ง และบันทึกเป็นข้อมูลการทดลองครั้งที่ 2
5. นำข้อมูลการทดลองครั้งที่ 1 และ 2 มาเขียนกราฟระหว่างอุณหภูมิ (T หน่วย C) ของน้ำที่ผสมใน
คาลอริมิเตอร์ กับเวลา (t) ในหน่วยวินาที (s) แล้วลากต่อเส้นกราฟให้ไปตัดแกน y ที่เวลา 0 วินาที
ซึ่งจุดนีก้ ็คือ อุณหภูมิน้ำหลังผสม นำค่าที่ได้ไปใช้ในการคำนวณหาความร้อนที่เปลีย่ นแปลงของ
น้ำอุ่น (Q น้ำอุ่น) และความร้อนที่เปลี่ยนแปลงของน้ำเย็น (Q น้ำเย็น) โดยใช้สมการ Q = m C ΔT และ
คำนวณหาค่าคงที่ของคาลอริมิเตอร์ ( K C ) ของครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งวิธีคำนวณได้แสดงดังในตัวอย่าง
ข้างล่าง แล้วหาค่าเฉลี่ยของ K C จากการทดลองทั้งสองครั้ง
ตัวอย่างการคำนวณ หาค่าคงที่ของคาลอริมิเตอร์ ( K C )
อุณหภูมิของน้ำเย็นก่อนผสม = 30.0C
อุณหภูมิของน้ำอุ่นก่อนผสม = 48.5C
อุณหภูมหิ ลังผสม (อ่านจากกราฟ) = 39.0C
น้ำหนักของน้ำ; m = ปริมาตรของน้ำ ความหนาแน่นของน้ำ = (15.0 mL) (1.0 g/mL) = 15.0 g
ความร้อนที่เปลี่ยนแปลงของน้ำอุน่ ;
Qน้ำอุ่น = m c ΔT = (15.0 g) (1.0 cal/gC) (39.0 – 48.5)C
= -142.5 cal (ค่าเป็นลบแสดงว่าน้ำอุ่นคายความร้อน)
ความร้อนที่เปลี่ยนแปลงของน้ำเย็น;
Qน้ำเย็น = m c ΔT = (15.0 g) (1.0 cal/gC) (39.0 – 30.0)C
= +135.0 cal (ค่าเป็นบวกแสดงว่าน้ำเย็นได้รับความร้อน)
ตัวอย่างการคำนวณ หา ΔH neut
จากกราฟ ΔT = Tหลังผสม – Tก่อนผสม = 7.0 C
ปริมาตรทัง้ หมดของสารละลาย = 30.0 mL
ความหนาแน่นของสารละลาย = 1.06 g/mL
ความร้อนจำเพาะของสารละลาย = 0.96 cal/gC
ค่าคงที่ของคาลอริมิเตอร์ = 0.83 cal/C
ความร้อนที่เปลี่ยนแปลงของคาลอริมเิ ตอร์; Q C = K C ΔT = (0.83 cal/C) (7.0C) = +5.83 cal
ความร้อนของสารละลาย; Qสารละลาย = m c ΔT = ( V ) c ΔT
= (1.06 g/mL) (30.0 mL) (0.96 cal/gC) (7.0 C)
= +213.69 cal
= Qneut
ΔH neut
จานวนโมลของ H2O ที่ เ กิดขึนในปฏิ
้ กิรยา
ิ
-219.52 cal
= 0.045 mol
= – 4878.2 cal/mol –4.9 kcal/mol