วิชา EN413103 การวางแผนควบคุมการผลิต PRODUCTION PLANNING AND CONTROL

ปี การศึกษา 2562 ภาคการศึกษาที่ 2

ผูส้ อน อ.ทวี นาครัชตะอมร

Homework 5 (Solution)
ข้อที่ 1: จัดลำดับงำนโดยให้งำนที่มีเวลำในกำรผลิตน้อยที่สุดเข้ำสู่เครื่องจักรก่อน”Shortest
processing time rule (SPT)”
ลำดับงำนที่เหมำะสมคือ { a, c, f, g, h, b, e, i, d, j }

ข้อที่ 2: จัดลำดับงำนโดยให้งำนที่มีเวลำในกำรผลิตน้อยที่สุดแบบถ่วงนำหนักเข้ำสู่เครื่องจักรก่อน
”Weighted shortest processing time rule (WSPT)”
ลำดับงำนที่เหมำะสมคือ { h, b, e, i, a, g, c, f, j, d }

ข้อที่ 3: จัดลำดับงำนโดยให้งำนที่มีเวลำกำหนดส่งเร็วที่สุดเข้ำสู่ระบบก่อน “Earliest due date

(EDD)”
ลำดับงำนที่เหมำะสมคือ { f, g, d, h, a, c, i, j, e, b }

หน้าที่ 1
วิชา EN413103 การวางแผนควบคุมการผลิต PRODUCTION PLANNING AND CONTROL
ปี การศึกษา 2562 ภาคการศึกษาที่ 2
ผูส้ อน อ.ทวี นาครัชตะอมร

ข้อที่ 4: จัดลำดับงำนโดยใช้วิธี Hodgson’s algorithm

ลำดับงำนที่เหมำะสมคือ { f, h, a, c, i, e, b, j, d, g }
pj dj Cj Tj pj dj Cj Tj
f 1 1 1 0 f 1 1 1 0
g 2 2 3 1 d 4 4 5 1
d 4 4 7 3 h 2 6 7 1
h 2 6 9 3 a 1 7 8 1
a 1 7 10 3 c 1 8 9 1
c 1 8 11 3 i 3 8 12 4
i 3 8 14 6 j 4 11 16 5
j 4 11 18 7 e 3 13 19 6
e 3 13 21 8 b 3 18 22 4
b 3 18 24 6 g 2 2 24 22

pj dj Cj Tj pj dj Cj Tj
f 1 1 1 0 f 1 1 1 0
h 2 6 3 0 h 2 6 3 0
a 1 7 4 0 a 1 7 4 0
c 1 8 5 0 c 1 8 5 0
i 3 8 8 0 i 3 8 8 0
j 4 11 12 1 e 3 13 11 0
e 3 13 15 2 b 3 18 14 0
b 3 18 18 0 j 4 11 18 7
d 4 4 22 18 d 4 4 22 18
g 2 2 24 22 g 2 2 24 22

หน้าที่ 2
วิชา EN413103 การวางแผนควบคุมการผลิต PRODUCTION PLANNING AND CONTROL
ปี การศึกษา 2562 ภาคการศึกษาที่ 2
ผูส้ อน อ.ทวี นาครัชตะอมร

ข้อที่ 5: จัดลำดับงำนโดยใช้วิธี Hodgson’s algorithm ซึ่งพิจำรณำจำกค่ำนำหนัก wj

ลำดับงำนที่เหมำะสมคือ { g, h, a, i, e, b, j, c, d, f }
pj dj wj Cj Tj pj dj wj Cj Tj
f 1 1 1 1 0 g 2 2 4 2 0
g 2 2 4 3 1 d 4 4 1 6 2
d 4 4 1 7 3 h 2 6 6 8 2
h 2 6 6 9 3 a 1 7 2 9 2
a 1 7 2 10 3 c 1 8 1 10 2
c 1 8 1 11 3 i 3 8 7 13 5
i 3 8 7 14 6 j 4 11 2 17 6
j 4 11 2 18 7 e 3 13 7 20 7
e 3 13 7 21 8 b 3 18 8 23 5
b 3 18 8 24 6 f 1 1 1 24 23

pj dj wj Cj Tj pj dj wj Cj Tj
g 2 2 4 2 0 g 2 2 4 2 0
h 2 6 6 4 0 h 2 6 6 4 0
a 1 7 2 5 0 a 1 7 2 5 0
c 1 8 1 6 0 i 3 8 7 8 0
i 3 8 7 9 1 j 4 11 2 12 1
j 4 11 2 13 2 e 3 13 7 15 2
e 3 13 7 16 3 b 3 18 8 18 0
b 3 18 8 19 1 c 1 8 1 19 11
d 4 4 1 23 19 d 4 4 1 23 19
f 1 1 1 24 23 f 1 1 1 24 23

pj dj wj Cj Tj
g 2 2 4 2 0
h 2 6 6 4 0
a 1 7 2 5 0
i 3 8 7 8 0
e 3 13 7 11 0
b 3 18 8 14 0
j 4 11 2 18 7
c 1 8 1 19 11
d 4 4 1 23 19
f 1 1 1 24 23

หน้าที่ 3
วิชา EN413103 การวางแผนควบคุมการผลิต PRODUCTION PLANNING AND CONTROL
ปี การศึกษา 2562 ภาคการศึกษาที่ 2
ผูส้ อน อ.ทวี นาครัชตะอมร

ข้อที่ 6: จัดลำดับงำนที่มี rj ต่ำที่สุดให้เข้ำสู่ระบบก่อน

ลำดับงำนที่เหมมำะสมคือ { f, g, h, c, d, i, a, b, e, j }
Job j f g h c d i a b e j
rj 0 0 0 1 1 1 2 3 3 3
pj 1 2 2 1 4 3 1 3 3 4
Cj 1 3 5 6 10 13 14 17 20 24
Fj 1-0 3-0 5-0 6-1 10-1 13-1 14-2 17-3 20-3 24-3
=1 =3 =5 =5 =9 =12 =12 =14 =17 =21

System Completion Time (Cj) is the time when job j leaves the system.
Flow Time (Fj) is the amount of time starting when job j enters the system until
job j leaves the system.
𝟏+𝟑+𝟓+𝟓+𝟗+𝟏𝟐+𝟏𝟐+𝟏𝟒+𝟏𝟕+𝟐𝟏
𝑴𝒆𝒂𝒏 𝑭𝒍𝒐𝒘 𝑻𝒊𝒎𝒆 = = 𝟗. 𝟗 time units/job
𝟏𝟎

ข้อที่ 7: จัดลำดับงำนโดยใช้วิธีของ Johnson

ลำดับงำนที่เหมำะสมคือ { c, b, f, e, d, g, a, h }

หน้าที่ 4
วิชา EN413103 การวางแผนควบคุมการผลิต PRODUCTION PLANNING AND CONTROL
ปี การศึกษา 2562 ภาคการศึกษาที่ 2
ผูส้ อน อ.ทวี นาครัชตะอมร

ข้อที่ 8: จัดลำดับงำนโดยใช้วิธีของ Palmer

𝜋𝑎 = - (4 - 1)4 - (4 - 3)3 - (4 - 5)2 - (4 - 7)3 = - 3(4) - 1(3) + 1(2) + 3(3) = -4
𝜋𝑏 = - (4 - 1)5 - (4 - 3)5 - (4 - 5)3 - (4 - 7)4 = - 3(5) - 1(5) + 1(3) + 3(4) = -5
𝜋𝑐 = - (4 - 1)3 - (4 - 3)3 - (4 - 5)1 - (4 - 7)3 = - 3(3) - 1(3) + 1(1) + 3(3) = -2
𝜋𝑑 = - (4 - 1)6 - (4 - 3)2 - (4 - 5)2 - (4 - 7)4 = - 3(6) - 1(2) + 1(2) + 3(4) = -6
𝜋𝑒 = - (4 - 1)2 - (4 - 3)4 - (4 - 5)5 - (4 - 7)1 = - 3(2) - 1(4) + 1(5) + 3(1) = -2
ตัวเลือกที่ 1: ลำดับงำน { c, e, a, b, d } ได้ makespan เท่ำกับ 30 หน่วยเวลำ

ตัวเลือกที่ 2: ลำดับงำน { e, c, a, b, d } ได้ makespan เท่ำกับ 30 หน่วยเวลำ

ลำดับงำนที่เหมำะสมคือ { c, e, a, b, d } หรือ { e, c, a, b, d }

หน้าที่ 5
วิชา EN413103 การวางแผนควบคุมการผลิต PRODUCTION PLANNING AND CONTROL
ปี การศึกษา 2562 ภาคการศึกษาที่ 2
ผูส้ อน อ.ทวี นาครัชตะอมร

ข้อที่ 9: จัดลำดับงำนโดยใช้วิธีของ Gupta

−1 1 −1 1
𝜋𝑎 = =− 𝜋𝑏 = =−
min {4 + 3,3 + 2,2 + 3} 5 min {5 + 5,5 + 3,3 + 4} 7
𝑘=1,3 𝑘=1,3

−1 1 −1 1
𝜋𝑐 = =− 𝜋𝑑 = =−
min {3 + 3,3 + 1,1 + 3} 4 min {6 + 2,2 + 2,2 + 4} 4
𝑘=1,3 𝑘=1,3

−1 1
𝜋𝑒 = =−
min {2 + 4,4 + 5,5 + 1} 6
𝑘=1,3

ตัวเลือกที่ 1: ลำดับงำน { b, e, a, c, d } ได้ makespan เท่ำกับ 31 หน่วยเวลำ

ตัวเลือกที่ 2: ลำดับงำน { b, e, a, d, c } ได้ makespan เท่ำกับ 31 หน่วยเวลำ

ลำดับงำนที่เหมมำะสมคือ { b, e, a, c, d } หรือ { b, e, a, d, c }

หน้าที่ 6
วิชา EN413103 การวางแผนควบคุมการผลิต PRODUCTION PLANNING AND CONTROL
ปี การศึกษา 2562 ภาคการศึกษาที่ 2
ผูส้ อน อ.ทวี นาครัชตะอมร

ข้อที่ 10: จัดลำดับงำนโดยใช้วิธีของ CDS

คำตอบที่ 1 (𝛾 = 1) *พิจำรณำ เครื่องจักร 1 และเครื่องจักร 4
𝒋 𝑝1∗𝑗 𝑝2∗𝑗

a 4 3
b 5 4
c 3 3
d 6 4
e 2 1
จัดลำดับงำนโดยวิธีของ Johnson ลำดับงำนที่ได้คือ { c, d, b, a, e } ซึ่งมี Makespan = 30

คำตอบที่ 2 (𝛾 = 2) *พิจำรณำ เครื่องจักรเสมือน 1+2 และเครื่องจักรเสมือน 4+3

𝒋 𝑝1∗𝑗 𝑝2∗𝑗

a 7 5
b 10 7
c 6 4
d 8 6
e 6 6
จัดลำดับงำนโดยวิธีของ Johnson ลำดับงำนที่ได้คือ { e, b, d, a, c } ซึ่งมี Makespan = 29

หน้าที่ 7
วิชา EN413103 การวางแผนควบคุมการผลิต PRODUCTION PLANNING AND CONTROL
ปี การศึกษา 2562 ภาคการศึกษาที่ 2
ผูส้ อน อ.ทวี นาครัชตะอมร

คำตอบที่ 3 (𝛾 = 3) *พิจำรณำ เครื่องจักรเสมือน 1+2+3 และเครื่องจักรเสมือน 4-3-2

𝒋 𝑝1∗𝑗 𝑝2∗𝑗

a 9 8
b 13 12
c 7 7
d 10 8
e 11 10
จัดลำดับงำนโดยวิธีของ Johnson ลำดับงำนที่ได้คือ { c, b, e, d, a } ซึ่งมี Makespan = 31

คำตอบที่ 4 (𝛾 = 4) *พิจำรณำ เครื่องจักรเสมือน 1+2+3+4 และเครื่องจักรเสมือน 4+3+2+1

𝒋 𝑝1∗𝑗 𝑝2∗𝑗

a 12 12
b 17 17
c 10 10
d 14 14
e 12 12
จัดลำดับงำนโดยวิธีของ Johnson ลำดับงำนที่ได้คือ { c, a, e, d, b } ซึ่งมี Makespan = 32

ลำดับงำนที่เหมมำะสมคือ { e, b, d, a, c }

หน้าที่ 8
วิชา EN413103 การวางแผนควบคุมการผลิต PRODUCTION PLANNING AND CONTROL
ปี การศึกษา 2562 ภาคการศึกษาที่ 2
ผูส้ อน อ.ทวี นาครัชตะอมร

ข้อที่ 11: จัดลำดับงำนโดยใช้วิธีที่พัฒนำมำจำกวิธีของ Johnson โดยมีกำรจับกลุ่มเครื่องจักรดังนี

{ A } = { a, l } => เซ็ตของงำนที่ทำงำนบนเครื่องจักร M1 เท่ำนัน
{ B } = { c, f, i } => เซ็ตของงำนที่ทำงำนบนเครื่องจักร M2 เท่ำนัน
{ A B } = { j, e, b } => เซ็ตของงำนที่ทำงำนบนเครื่องจักร M1 แล้วตำมด้วย M2
{ B A } = { d, k, h, g } => เซ็ตของงำนที่ทำงำนบนเครื่องจักร M2 แล้วตำมด้วย M1

ลำดับงำนที่เหมำะสมบนเครื่องจักร M1 คือ { j, e, b, a, l, d, k, h, g }
ลำดับงำนที่เหมำะสมบนเครื่องจักร M2 คือ { d, k, h, g, c, f, i, j, e, b }

หน้าที่ 9