Professional Documents
Culture Documents
ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์
“ศาสนาแห่ งความรั ก
ต่ อ พระเจ้ าและ มนุษยชาติ”
หลังจากนันพระเยซู
้ (ผู้เป็ นยิว)ได้ ออกเทศนาทัว่ ประเทศเพื่อประกาศ "ข่ าวดี"
อันเป็ นหนทางแห่งความรอดพ้ นจากบาปไปสูช่ ีวิตนิรันดร์ การประกาศศาสนาของพระ
เยซูนนไม่ั ้ ใช่เพื่อล้ มล้ างศาสนายูดาย แต่เป็ นการปฏิรูปศาสนาเดิมให้ มีความสมบูรณ์
ยิ่งขึ ้น โดยเน้ นความรักต่อพระเจ้ าและความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ในขณะนันได้ ้ มีผ้ สู นใจ
คาสอนของพระเยซู แต่ส่วนมากเป็ นชนชันชาวบ้ ้ าน ที่ยากจนและชาวประมง พระเยซู
ได้ คดั เลือกสาวกจากบุคคลเหล่านี ้ได้ ทงหมด ั้ 12 คน
สืบเนื่องมาจากคาสอนของพระเยซู
มีสว่ นทาให้ ผ้ นู าศาสนา ยูดาย ขุนนาง
และคน ร่ ารวยบังเกิดความไม่พอใจ
เพราะถูกตาหนิจงึ โกรธแค้ นคิดหาทาง
ทาร้ าย ด้ วยการจับตัวไปขึ ้นศาลของ
เจ้ าเมืองชาวโรมัน โดยยูดายรับอาสา
ชี ้ตัวพระเยซู เมื่อวันที่ผ้ นู าศาสนา ยู
ดายมาจับตัวพระเยซูไป สาวกทัง้ 11
คน ได้ รีบหลบหนีทิ ้งให้ พระเยซูถกู จับ
ไปลงโทษ โดยการตรึงกับไม้ กางเขน
จนถึงแก่ชีวิตในขณะที่มีอายุได้ 33 ปี
เท่านัน้ จึงใช้ เวลาประกาศศาสนา
เพียง 3 ปี
• ชาวคริ สต์เชื่อกันว่าหลังจากที่พระเยซูได้ สิ ้นไป 3 วันแล้ วได้ ฟืน้ คืนชี พอีกครัง้ สาวกทัง้ 11
คน พวกเขาได้ ทดสอบพระเยซูหลายครัง้ จนมัน่ ใจว่าการฟื น้ คืนชีพของพระเยซูนัน้ ไม่ใช่ เรื่ อง
หลอกลวงแต่เป็ นจริ ง ประกอบกับการเทศนาสัง่ สอนย ้าให้ สาวกทังหลายมี ้ ความเข้ าใจใน
พระคัม ภี ร์ พวกเขาทัง้ 11 คน ได้ ก ลับ ไปกรุ ง เยรู ซ าเล็ ม จึ ง ร่ ว มกัน อธิ ษ ฐานอย่ า ง
ขะมักเขม้ น นับแต่นนมาอั
ั ้ ครสาวกทัง้ 11 คน และ มัทธีอสั (Matthias) ซึง่ ได้ รับเลือกเข้ ามา
ในภายหลังรวมเป็ น 12 คน ได้ ช่วยกันเผยแพร่ ศาสนาอย่างมัน่ คงทาให้ มีผ้ เู ข้ ามาเป็ นสาวก
ของพระเจ้ ามากมาย แต่ในขณะเดียวกันการเผยแพร่ ศาสนามีความลาบากเป็ นอย่างมาก
เพราะถูกต่อต้ านอยู่เสมอจากพวกที่นบั ถือศาสนายูดาย
นักบุญเปโตร (Petro) ได้ รับการแต่ งตัง้ ให้ เป็ น หัวหน้ า
โดยนัยนีท้ ่ านจึงเป็ นผู้นาสูงสุดของศาสนาคริสต์ เป็ นคนแรก
นักบุญเปโตรได้ เผยแพร่ ศาสนาถึงกรุ งโรม และได้ เลือกกรุ งโรม
เป็ นศูนย์ กลางการดาเนินงานของศาสนจักร ในบัน้ ปลายชีวติ ของ
ท่ านนัน้ ได้ ถูกพวกทหารโรมันจับทรมานและประหารชีวติ
ความเจริ ญของศาสนาคริ สต์ ไ ด้ มี ม า
ยาวนาน จนกระทัง่ ถึงยุคล่าอาณานิคมของพวก
จัก รวรรดิ์ นิ ย มชาวยุโ รปและอเมริ กัน ซึ่ง อยู่ใ น
ช่วงเวลาประมาณคริ สต์ศตวรรษที่ 15-16 ศาสนา
คริ สต์ได้ ถูกนาไปเผยแพร่ ในประเทศต่าง ๆ ที่ นัก
ล่าอาณานิคมเหล่านี ้ไปถึง ทาให้ คริ สต์ศาสนิกชน
มี ปริ มาณเพิ่มมากขึน้ ทัง้ ในทวีปยุโรป อาฟริ กา
อเมริ กา เอเชีย และออสเตรเลีย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยได้ มีนั ก
สอนศาสนาชาวโปรตุ เ กสและสเปนเข้ ามา
เผยแพร่ โดยเดินทางมาพร้ อมกับพวกทหารและ
พ่อค้ าของประเทศเหล่านัน้ ทาให้ มีคนไทยนับถือ
ศาสนาคริ สต์กระจัดกระจายไปทัว่ ประเทศ
สรุ ป
• ผู้ก่อตัง้ คือ พระเยซู แห่ งนาซาเรท
• มีฐานะเป็ นทัง้ ศาสดาพยากรณ์ และเทพบุตร
• มีพนื ้ ฐานมาจากศาสนายิว (พระเยซูได้ รับการสอนถึงพระบัญญัติ
อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนายูดา)
• เป็ นศาสนาเอกเทวนิยม พระเจ้ ามีพระนามว่ า ยะโฮวาห์
• คือมีพนื ้ ฐานความเชื่อว่ า
• มีเทพเจ้ าที่มีอานาจสูงสุด ที่มีอานาจเหนือธรรมชาติ
• ซึ่งมีช่ ือว่ า พระยะโฮวาห์ (GOD) โดยพระผู้เป็ นเจ้ านี ้
» จะเป็ นผู้ท่ ดี ลบันดาลให้ ทกุ สิ่งทุกอย่ างเป็ นไป
» คือเกิดขึน้ ตัง้ อยู่ เปลี่ยนแปลง และดับสลายไป.
มีผ้ ูนับถือมากที่สุดเพราะอิทธิพลจากการเมืองใน
อดีต
ได้ ช่ ือ Christ = Mesiah แปลว่ า ผู้ไถ่ บาป (พบกับ
จอห์ นผู้ล้างบาปเมื่ออายุ 30)
ทรงสอนศาสนาอยู่ได้ ๓ ปี ก็ถูกประหาร เพราะอ้ าง
ตนเองว่ าเป็ นบุตรของพระยะโฮวาห์ ผิดกฎศาสนายิว
คาสอนของศาสนาคริสต์ จะอยู่ในคัมภีร์ใหม่ ส่ วน
ใหญ่ เป็ นคาสอนในระดับศีลธรรม และการปฏิบัตใิ น
ชีวติ ประจาวัน โดยเน้ นไปที่ความเชื่อมั่นในพระเจ้ า คือ
เชื่อว่ าพระเจ้ ามีอยู่จริง และปฏิบัตติ ามที่พระจ้ าสั่งไว้ โดย
ผ่ านมาทางพระเยซู
กล่ าวโดยสรุ ป คาสอนของพระเยซูกค็ ือ "ปรัชญาแห่ ง
ความรัก" คือรักพระเจ้ า รักครอบครัว และรักเพื่อนมนุษย์ ทงั ้
ปวง โดยไม่ เลือกชนชัน้ และเชือ้ ชาติ รวมทัง้ การให้ อภัยไม่
โกรธเกลียดแม้ ผ้ ูท่ มี าทาร้ ายตนเอง.
ส่ วนคาสอนในระดับอภิปรั ชญานัน้ ถูกแต่ งขึน้ โดยสาว
กรุ่ นใหม่ ที่บวกเอาแนวคิดของนักปรัชญาเช่ นอริสโตเติล้ ของ
ในยุคนัน้ เข้ าไว้ จึงทาให้ ศาสนาคริสต์ มีความแข็งแกร่ งทางภูมิ
ปั ญญามาก.
บ่ อเกิดของศาสนาคริสต์
• ๑. ส่ วนหนึ่งมาจากพันธะสัญญาเก่ า (Old Testament)
• ๒. ส่ วนหนึ่งมาจากความสานึกของสาวกเกี่ยวกับพระเยซู
• ๓. ส่ วนหนึ่งมาจากวัฒนธรรมที่ได้ สัมผัส ตามกระแสแห่ ง
ประวัตศิ าสตร์
• ไม่ มีวัฒนธรรมคริสต์ ท่ ตี ายตัว เพราะพระเยซูมไิ ด้
ทรงกาหนดไว้ ชาวคริสต์ อยู่ท่ ไี หน ก็เป็ นคนของ
ถิ่นนัน้ และมีวัฒนธรรมตามท้ องถิ่นที่ตนสังกัด
• หลังจากพระเยซูเสด็จจากไป สานุศษิ ย์ ได้ ประชุม
ร่ วมกัน เริ่มออกทาการเผยแผ่ คาสอนของ
พระองค์ แยกตัวออกจากศาสนายิว และมาตัง้
ศาสนาคริสต์ ตามชื่อของพระคริสต์ แปลว่ า
พระผู้ช่วยให้ รอด คือ พระเยซู
• ในคริสต์ ศตวรรษที่ ๑ ได้ มีสาวก ๔ คน คือ
มัตธาย มาธาโก ลูกา และโยฮัน เขียนพระ
ประวัตแิ ละคาสอนของพระเยซูรวมเรียกว่ า
“พระกิตติคุณ” ต่ อมาเป็ น คัมภีร์ไบเบิล ฉบับ
พันธสัญญาใหม่
ลักษณะ
• มีความหวังในพระเมสซิอา
(ผู้จะมาไถ่ให้ คนยิวพ้ นจาก การถูกกดขี่ นาความหวังมาให้ )
• เมสซิอา = ผู้นาการเมืองและศาสนาหรือผู้นาประเทศ
• พระเยซู เป็ นผู้ให้ กาเนิดศาสนา
• เซนต์ ปอล เป็ นผู้ประดิษฐาน
• ศาสนาคริสต์ เดิมนัน้ สอนให้ ดาเนินตามแบบชาวยิว
- ต่ อมา St. ปี เตอร์ ประกาศว่ า คริสตชนที่เป็ นยิวก็ทา
แบบยิวต่ อไป คริสตชนที่เป็ นกรีกก็เป็ นคริสต์ แบบกรีก
หลักความเชื่อดัง้ เดิมของศาสนาคริสต์ (เครโค)
• ๑) ข้ าพเจ้ าเชื่อในพระเจ้ าองค์ เดียว พระบิดผู้ทรงสรรพานุภาพ
• ๒) เชื่อในพระเยซูคริสต์ เจ้ า พระบุตรแต่ พระองค์ เดียวของพระเป็ นเจ้ า
ทรงบังเกิดจากพระบิดา...เพราะเห็นแก่ เรามนุษย์ เพื่อช่ วยให้ รอด
พระองค์ จงึ เสด็จจากสวรรค์
• ๓) ข้ าพเจ้ าเชื่อในพระจิตเจ้ า ผู้ประทานชีวติ ทรงเนื่องมาจากพระบิดา
และพระบุตร พระองค์ ดารัสทางประกาศ
• ๔) ข้ าพเจ้ าเชื่อในประกาศศาสนจักร หนึ่งเดียว ศักดิ์สทิ ธิ์ คาทอลิก
และสืบจากอัครสาวก
• ๖) ข้ าพเจ้ าเชื่อในการยกบาป ยอมรับว่ าพิธีล้างที่ยกบาปมีแต่ พธิ ีเดียว
• ๗) ข้ าพเจ้ าเชื่อในการคืนชีพของร่ างกาย
หลักความเชื่อต่ อมา
• เชื่อว่ า พระบิดา พระบุตร และพระจิต เป็ น ๓ บุคคล แต่ ละบุคคล
เป็ นพระเจ้ าสมบูรณ์ ในตนเองเสมอกัน ต่ อเนื่องมาจากกัน
• พระบิดาทาให้ บังเกิดพระบุตร และพระจิตเนื่องมาจากพระบิดา
และพระบุตร *** ทัง้ ๓ บุคคล รวมกันเป็ นหนึ่งเดียว เรี ยกว่ า
“ตรี เอกภาพ” (Trinity)
• ยกย่ องพระเยซูว่ามี ๒ สภาวะ คือ สภาวะพระเจ้ า และสภาวะ
มนุษย์
• ๓ วันหลังจากที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน ได้ ฟื้นคืนพระชนม์ พระองค์
ได้ เสด็จไปสู่สวรรค์ หลังจากได้ ประทับอยู่กับสาวกเป็ นเวลา ๔๐ วัน
พระผู้สร้ าง
1. พระบิดา
(God : the Father)
(พระยะโฮวา)
2. พระบุตร ผู้เสด็จเพื่อนาทาง
ผู้ไถ่ บาป (พระเยซู) 3.พระจิต
( Jesus, Son
(Holy Spirit)
ช่ วยเหลือมนุษย์
of God)
ไปสู่พระเจ้ า หรือ
เป็ นมัคคุเทศก์
พระบุตร
พระบิดา
• ชาวคริสต์ บางนิกาย ได้ ยกย่ อง
“พระนางมารี อา หรื อมาเรี ย” เป็ น
พระมารดาของพระเจ้ า หรื อ
“แม่ พระ”
• ก่ อนที่พระเยซูจะเสด็จสู่สวรรค์ ได้
ทรงสถาปนาพระนางให้ เป็ นแม่
พระของคริสต์ ศาสนิกชนทุกคน
และพระนางได้ ถูกยกขึน้ สวรรค์ ทงั ้
ร่ าง (Assumption)
• ทรงเป็ นคนกลางระหว่ างพระเจ้ า
กับคริสต์ ศาสนิกชน
• ชาวคริ สต์ เชื่อใน The last
judgment หรื อการพิพากษา
ครัง้ สุดท้ าย >> เชื่อว่ า เมื่อตาย
วิ ญ ญ า ณ แ ย ก จ า ก ร่ าง กา ย
ร่ างกายจะเน่ าเปื่ อย แต่ จะ
กลั บ ฟื ้ นคื น ขึ น้ ใหม่ ในวั น สิ น้
โลก แล้ วมารั บ วิญญาณ ส่ ว น
วิญญาณจะถูกพิพากษา ถ้ าทา
ดีจะได้ ไปอยู่ร่วมกับพระเจ้ าใน
สวรรค์ นิ รั น ดร และถ้ า ท าชั่ ว
จ ะ ถู ก พิ พ า ก ษ า ใ ห้ ล ง น ร ก
นิรันดรเช่ นเดียวกัน
พระเยซู คือ พระเมสิอาห์
• พระเยซูเป็ นนามเดิมของพระองค์ เมื่อชาวคริสต์ สานึกได้ ว่า
พระเยซู คือ พระเมสิอาห์ จึงได้ ถวายสมญานามต่ อท้ ายให้ ว่าคริสต์
ซึ่งมาจากศัพท์ ภาษากรี กว่ า “Christos” แปลว่ า “เมสิอาห์ ”
เรี ยกตนเองว่ า “คริสเตียน” แปลว่ า “ผู้เป็ นบริวารของพระเมสิอาห์ ”
• ชาวยิวมีความหวังในองค์ เมสิอาห์ เมื่อพระเยซูมาเกิดและทาความ
ดีเป็ นที่ประจักษ์ ชาวยิวส่ วนหนึ่งจึงปลงใจว่ า พระเยซูนีเ้ องคือองค์
เมสิอาห์ ที่พระเจ้ าส่ งลงมาเพื่อช่ วยปลดเปลือ้ งความทุกข์
• “คริสต์ หรื อ ไครสต์ ” หมายถึงพระวิญญาณของพระเจ้ า ซึ่งมาสถิต
ในร่ างของพระเยซู เพราะเป็ นผู้บริสุทธิ์
การเผยแพร่ ศาสนาคริสต์
• ผู้เป็ นกาลังสาคัญในการเผยแพร่ ศาสนาคริสต์ คือ เซนต์ ปอล >>
หลังพระเยซูสนิ ้ พระชนม์ ไปแล้ ว ๑๕ ปี
• **พระเยซูเป็ นผู้ให้ กาเนิดศาสนาคริสต์ แต่ เซนต์ ปอลเป็ นผู้
ประดิษฐานศาสนาคริสต์ ให้ ม่ ันคง โดยได้ ประกาศศาสนาคริสต์ ท่ ี
กรุ งโรม
• เมื่อพระเยซูสนิ ้ พระชนม์ ราวปี คศ. ๓๐ นักบุญเปโตร หรื อ เซนต์ ปี
เตอร์ ได้ ปฏิบัตติ นเป็ นหัวหน้ าสาวก ได้ เรี ยกประชุมสังคายนาครั ง้
แรกของคริสต์ ศาสนา
• สังฆราชที่กรุ งโรมได้ รับการยกย่ องว่ าเป็ นผู้สืบตาแหน่ งจากนักบุญ
เปรโตในตาแหน่ งสันตะปาปา เป็ นประมุขของศาสนจักร
การเผยแพร่ ศาสนาคริสต์ (ต่ อ)
• ปี ค.ศ. ๓๑๓ จักรพรรดิคอนสแตนติน ทรงอุปถัมภ์ คริสต์ ศาสนา
มอบหมายอานาจทางอาณาจักรให้ สันตะปาปาปกครองกรุ งโรม และ
เป็ นประมุขของพระศาสนจักร
• พระเจ้ าคอนสแตนติน ได้ ย้ายราชธานีไปตัง้ ในดินแดนกรี ก ให้ ช่ ือว่ า
“คอนสแตนติโนเปิ ล” หรื อ “กรุ งโรมตะวันออก” กรุ งโรมเดิม เรี ยกว่ า
“กรุ งโรมตะวันตก” ซึ่งเป็ นศูนย์ กลางของศาสนาคริสต์ สืบมา ต่ อมา
เรี ยกนิกายโรมันคาธอลิก
• ฝ่ ายศาสนาคริสต์ ในกรุ งคอนสแตนติโนเปิ ล ถือว่ าตนมีฐานะเท่ าเทียม
กับสานักในกรุ งโรมเดิม จึงแยกเป็ นนิกาย “กรี ก ออร์ ธอดอกซ์ ”
กาเนิดและวิวฒ
ั นาการของนิกาย
ที่สาคัญในศาสนาคริ สต์
จักรพรรดิคอนสแตนตินที1่
www.philosophychicchic.com
สนุกกับการเรี ยนรู้ ปรั ชญาและศาสนาแบบชิคๆ เคียงคู่รอยยิม้