Professional Documents
Culture Documents
9. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. การโอนส่ วนราชการเข้าด้วยกันถ้าไม่มีการกาหนดตาแหน่งหรื ออัตรากาลังของส่ วนราชการหรื อ
ลูกจ้างเพิ่มขึ้นให้ตราเป็ นพระราชกฤษฎีกา
ข. การเปลี่ยนชื่อส่ วนราชการที่มีฐานะเป็ นกรมให้ตราเป็ นพระราชกฤษฎีกา
ค. ให้สานักงานข้าราชการพลเรื อน และสานักงานพัฒนาระบบราชการมีหน้าที่การตรวจสอบดูแลมิ
ให้ส่วนราชการที่มีพระราชกฤษฎีกาให้รวมหรื อโอนเข้าด้วยกัน กาหนดตาแหน่งหรื ออัตรากาลังของ
ข้าราชการหรื อลูกจ้างเพิ่มจนกว่าจะครบสามปี นับแต่วนั ที่พระราชกฤษฎีกามีผลบังคับใช้
ง. ทุกข้อกล่าวถูกต้อง
14. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับการยุบเลิกกรม
ก. ตราเป็ นพระราชกฤษฎีกา
ข. ให้งบประมาณรายจ่ายที่เหลืออยูข่ องกรมนั้นตกเป็ นงบกลาง
ค. ทรัพย์สินอื่นของกรมนั้นให้โอนแก่ส่วนราชการอื่นตามที่กาหนดไว้ในกฏกระทรวง
ง. ข้อ ข.และข้อ ค.
23. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. นายกรัฐมนตรี มีอานาจสั่งให้ขา้ ราชการกรมสงเสริ มการปกครองท้องถิ่นมาปฏิบตั ิราชการสานัก
นายกรัฐมนตรี โดยให้ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม
ข. นายกรัฐมนตรี มีอานาจสั่งให้ขา้ ราชการกระทรวงมหาดไทย มาปฏิบตั ิราชการสานัก
นายกรัฐมนตรี โดยอัตราเงินเดือนไมขาดจากทางสังกัดเดิม
ค. แต่งตั้งอธิ บดีกรมทางหลวงชนบทไปดารงตาแหน่งอธิ บดีกรมการปกครองโดยอนุ มตั ิ
คณะรัฐมนตรี
ง. แต่งตั้งอธิ บดีกรมส่ งเสริ มการปกครองท้องถิ่น ไปดารงตาแหน่งอธิ บดีกรมการปกครอง โดยให้
รับเงินเดือนจากกรมการปกครอง
24. ระเบียบปฏิบตั ิราชการที่นายกรัฐมนตรี ได้วา่ งขึ้น เพื่อการบริ หารราชการแผ่นดิน เป็ นไปโดยรวดเร็ วและ
มีประสิ ทธิ ภาพตามระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน กาหนดให้มีผลใช้บงั คับเมื่อใด
ก. ประกาศในราชกิจจานุ เบกษาแล้ว
ข. มีผลบังคับใช้ตามวันที่ระบุไว้ในระเบียบ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
ค. มีผลบังคับใช้ทนั ทีที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลลงนามในคาสัง่
ง. เมื่อคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบแล้ว
28. ข้อใดมิใช้อานาจของปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
ก. รับผิดชอบควบคุมราชการประจาในสานักนายกรัฐมนตรี
ข. รับผิดชอบกาหนดแนวทางและแผนปฏิบตั ิราชการของสานักนายกรัฐมนตรี
ค. เป็ นผูบ้ งั คับบัญชาข้าราชการในสานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
ง. เป็ นผูบ้ งั คับบัญชาข้าราชการสู งสุ ดของส่ วนราชการในสานักนายกรัฐมนตรี ยกเว้นข้าราชการของ
สวนราชการซึ่ งหัวหน้าส่ วนราชการขึ้นตรงตอนายกรัฐมนตรี
37. ตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 หากกระทรวงใดมิได้จดั ให้มีกลุ่ม
ภารกิจ และปริ มาณงานมาก จะสามารถมีรองปลัดกระทรวงได้กี่คน
ก. 1 ข. 2 คน
ค. 3 คน ง. 4 คน
38. ในกรณี ที่ไม่มีผดู ้ ารงตาแหน่งรัฐมนตรี วา่ การกระทรวงหรื อมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ให้
........................เป็ นผูร้ ักษาราชการแทน ถ้ามีรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงหลายคน ให้คณะรัฐมนตรี
มอบหมายให้รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงคนใดคนหนึ่งเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน ถ้าไม่_มีผดู ้ ารงตาแหน่ง
รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงหรื อมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ให้คณะรัฐมนตรี มอบหมายให้
.............................เป็ นผูร้ ักษาราชการแทน
ก. รัฐมนตรี ชวยว่าการกระทรวง/รัฐมนตรี คนใดคนหนึ่ง
ข. รัฐมนตรี คนใดคนหนึ่ง/รองนายกรัฐมนตรี คนใดคนหนึ่ง
ค. รัฐมนตรี ชวยว่าการกระทรวง/รัฐมนตรี ประจาสานักนายกรัฐมนตรี
ง.. รองนายกรัฐมนตรี /รัฐมนตรี คนใดคนหนึ่ง
49. ในกรณี ที่นายกรัฐมนตรี ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ให้รองนายกรัฐมนตรี เป็ นผูร้ ักษาราชการแทน ถ้ามีรอง
นายกรัฐมนตรี หลายคน ให้........................มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี คนใดคนหนึ่งเป็ นผูร้ ักษาราชการ
แทน ถ้าไม่มีผดู ้ ารงตาแหน่งรองนายกรัฐมนตรี หรื อมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ให้คณะรัฐมนตรี
มอบหมายให้รัฐมนตรี คนใดคนหนึ่งเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน
ก. นายกรัฐมนตรี ประชุมมอบหมาย ข. รองนายกรัฐมนตรี
ค. ขอความเห็นชอบคณะรัฐมนตรี ง. คณะรัฐมนตรี
56. ข้อใดไม่ใช่อานาจของนายอาเภอ
ก. บริ หารราชการตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนของทางราชการ ถ้ากฎหมายใดมิได้บญั ญัติวา่
การปฏิบตั ิตามกฎหมายนั้นเป็ นหน้าที่ของผูใ้ ดโดยเฉพาะ ให้เป็ นหน้าที่ของนายอาเภอที่จะต้องรักษาการให้
เป็ นไปตามกฎหมายนั้นด้วย
ข. บริ หารราชการตามที่คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม มอบหมายหรื อตามที่นายกรัฐมนตรี สั่ง
การในฐานะหัวหน้ารัฐบาล
ค. ควบคุมดูแลการบริ หารราชการส่ วนท้องถิ่นในอาเภอตามกฎหมาย
ง. บรรจุ แต่งตั้ง ให้บาเหน็จ และลงโทษข้าราชการส่ วนภูมิภาค
57.การจัดระเบียบบริ หารราชการส่ วนท้องถิ่น ดังนี้
(1)องค์การบริ หารส่ วนจังหวัด
(2)เทศบาล
(3) …………………….
(4)ราชการส่ วนท้องถิ่นอื่นตามที่มีกฎหมายกาหนด
ก. องค์การบริ หารส่ วนตาบล ข. สภานครเทศบาล
ค. เมืองพัทยา ง. สุ ขาภิบาล
55.ตอบ “ค.พระราชกฤษฎีกา ”
อธิบายตาม พระราชบัญญัติระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 8) พ.ศ.
2553
มาตรา 61 ในจังหวัดหนึ่งให้มีหน่วยราชการบริ หารรองจากจังหวัดเรี ยกว่าอาเภอ
การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนเขตอาเภอ ให้ตราเป็ นพระราชกฤษฎีกา
แนวข้อสอบพระราชบัญญัติระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน
1.ข้อใดเป็ นหลักการในการบริ หารราชการตาม พรบ. ระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไข
เพิม่ เติม
ก. เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
ข. เพื่อลดภารกิจและยุบเลิกหน่วยงานที่ไม่จาเป็ น
ค. เพื่อกระจายอานาจตัดสิ นใจ
ง. ข้อ ก. และ ข.
จ. ข้อ ก. , และ ค. ถูก
2.พ.ร.บ. ระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน พ.ศ 2534 ได้วางแนวทางการจัดสรรงบประมาณและการ บรรจุ
แต่งตั้งบุคคลเข้าดารงตาแหน่ง หรื อปฏิบตั ิหน้าที่ตาม พ.ร.บ. จะต้องเป็ นไปตามหลักการใด
ก. ความยุติธรรม
ข. ความเสมอภาค
ค. ความเท่าเทียมกัน
ง. ความมีประสิ ทธิภาพ
จ. ถูกทุกข้อ
3.การจัดระเบียบบริ หารราชการแผ่นดินมีรูปแบบใด
ก. กระทรวง ทบวง กรม
ข. จังหวัด อาเภอ
ค. จังหวัด อาเภอ กิ่งอาเภอ ตาบล หมู่บา้ น
ง. ส่ วนกลาง ส่ วนภูมิภาค ส่ วนท้องถิ่น
จ. ก และ ข
4.การกาหนดตาแหน่งและอัตราเงินเดือน ของส่ วนราชการต่าง ๆ ตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริ หาร ราชการ
แผ่นดิน พ.ศ. 2534 จะต้องคานึงถึง
ก. ภารกิจที่รับผิดชอบ
ข. ประสิ ทธิ ภาพของส่ วนราชการ
ค. คุณภาพและปริ มาณของส่ วนราชการนั้น ๆ
ง. ก และ ค
จ. ถูกทุกข้อ
7.โดยทัว่ ไปการจัดการจัดตั้ง การรวม การโอน กระทรวง ทบวง กรม จะต้องตราเป็ นกฎหมายใน ลาดับใด
ก. พระราชบัญญัติ
ข. พระราชกาหนด
ค. พระราชกฤษฎีกา
ง. กฎกระทรวง
จ. ระเบียบกระทรวง
8.ข้อใดผิด
ก. การโอนส่ วนราชการเข้าด้วยกันถ้าไม่มีการกาหนดตาแหน่งหรื ออัตรากาลังของส่ วน ราชการ
หรื อลูกจ้างเพิ่มขึ้นให้ตราเป็ นพระราชกฤษฎีกา
ข. ให้สานักงานข้าราชการพลเรื อน และสานักงานพัฒนาระบบราชการมีหน้าที่การ ตรวจสอบดูแล
มิให้ส่วนราชการที่มีพระราชกฤษฎีกาให้รวมหรื อโอนเข้าด้วยกัน กาหนดตาแหน่งหรื อ อัตรากาลังของ
ข้าราชการหรื อลูกจ้างเพิ่มจนกว่าจะครบสามปี นับแต่วนั ที่พระราชกฤษฎีกามีผล บังคับใช้
ค. การเปลี่ยนชื่อส่ วนราชการที่มีฐานะเป็ นกรมให้ตราเป็ นพระราชกฤษฎีกา ง. การยุบส่ วนราชการ
ที่มีฐานะเป็ นกระทรวงให้ตราเป็ นพระราชกฤษฎีกา
จ. ข้อ ข. และ ง.
9.หน่วยงานใดมีหน้าที่ในการตรวจสอบดูแล ส่ วนราชการที่จดั ตั้งขึ้นใหม่ มิให้มีการกาหนดตาแหน่ง หรื อ
อัตรากาลังของข้าราชการหรื อลูกจ้างเพิ่มขึ้นจนกว่าจะครบสามปี
ก. สานักงานพัฒนาระบบราชการ
ข. สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรื อน
ค. สานักงบประมาณ
ง. ข้อ ก. ข. และ ค.
จ. ข้อ ข. และ ค.
13.ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับการยุบเลิกกรม
ก. จัดทาเป็ นพระราชกฤษฎีกา
ข. ให้งบประมาณรายจ่ายที่เหลืออยูข่ องกรมนั้นตกเป็ นงบกลาง
ค. ทรัพย์สินอื่นของกรมนั้นให้โอนแก่ส่วนราชการอื่นตามที่กาหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา
ง. ข้าราชการหรื อลูกจ้างซึ่งต้องพ้นจากราชการเพราะเหตุยบุ ตาแหน่งให้ได้รับเงินชดเชย
จ. ข้อ ข. และ ค.
22.ข้อใดผิด
ก. นายกรัฐมนตรี มีอานาจสั่งให้ขา้ ราชการกรมการปกครองมาปฏิบตั ิราชการสานัก นายกรัฐมนตรี
โดยให้ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม
ข. นายกรัฐมนตรี มีอานาจสั่งให้ขา้ ราชการกระทรวงคมนาคม มาปฏิบตั ิราชการสานัก
นายกรัฐมนตรี โดยอัตราเงินเดือนไม่ขาดจากทางสังกัดเดิม
ค. แต่งตั้งรองอธิ บดีกรมส่ งเสริ มการปกครองท้องถิ่น ไปดารงตาแหน่งอธิบดีกรมการ ปกครอง โดย
ให้รับเงินเดือนจากกรมการปกครอง
ง. แต่งตั้งอธิ บดีกรมทางหลวงชนบทไปดารงตาแหน่งอธิ บดีกรมการปกครองโดยอนุมตั ิ
คณะรัฐมนตรี
จ. ไม่มีขอ้ ใดผิด
28.ตาแหน่งใดระเบียบบริ หารราชการแผ่นดินมิได้กาหนดไว้
ก. ผูช้ ่วยเลขาธิ การนายกรัฐมนตรี
ข. ผูช้ ่วยปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
ค. ผูช้ ่วยเลขาธิ การคณะรัฐมนตรี
ง. ผูช้ ่วยปลัดกระทรวง
จ. ข้อ ข. และ ง.
35.บุคคลที่มีหน้าที่ในการวางแผนและประสานกิจกรรมให้มีการใช้ทรัพยากรของส่ วนราชการต่าง ๆ ใน
กระทรวงร่ วมกัน เพื่อให้เกิดประสิ ทธิ ภาพ ตามมติและเป้ าหมายของกระทรวง ได้แก่
ก. รัฐมนตรี
ข. ปลัดกระทรวง
ค. หัวหน้ากลุ่มภารกิจ
ง. หัวหน้าส่ วนราชการระดับกรม
จ. ข้อ ข. ค. และ ง.
36.ตามพ.ร.บ. ระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 หากกระทรวงใดมิได้จดั ให้มี กลุ่ม
ภารกิจ และปริ มาณงานมาก จะสามารถมีรองปลัดกระทรวงได้กี่คน
ก. 1 คน ข. 2 คน ค. 3 คน ง. 4 คน
จ. เป็ นไปตามที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรื อนและคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ร่ วมกัน
อนุมตั ิ
37.กระทรวงใดมีการแบ่งกลุ่มภารกิจ
ก. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ข. กระทรวงพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนุษย์
ค. กระทรวงพลังงาน
ง. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร
จ. ไม่มีขอ้ ถูก
52.ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับการมอบอานาจ(ยกเลิกแล้ว)
ก. หัวหน้าส่ วนราชการจังหวัดมอบอานาจให้นายอาเภอ
ข. นายอาเภออาจมอบอานาจให้หวั หน้าส่ วนราชการประจาอาเภอ
ค. หัวหน้าส่ วนราชการจังหวัดมอบอานาจให้หวั หน้าส่ วนราชการประจากิ่งอาเภอ
ง. ผูว้ า่ ราชการจังหวัดมอบอานาจให้หวั หน้าส่ วนราชการประจากิ่งอาเภอ
จ. ข้อ ก. และ ง.
53.ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับการมอบอานาจของผูว้ า่ ราชการจังหวัด
ก. การมอบอานาจต้องทาเป็ นหนังสื อ
ข. ถ้าอานาจที่ได้รับมอบมาจากผูอ้ ื่นผูว้ า่ ราชการจังหวัดจะมอบอานาจต่อมิได้เว้นแต่มอบ อานาจให้
รองผูว้ า่ ราชการจังหวัด
ค. ผูว้ า่ ราชการจังหวัดเมื่อรับมอบอานาจมาแล้วจะมอบอานาจให้แก่หวั หน้าส่ วนราชการ ประจา
จังหวัดต้องได้รับความเห็นชอบจากผูร้ ับมอบอานาจชั้นต้นก่อน
ง. ผูว้ า่ ราชการจังหวัดสามารถมอบอานาจให้หวั หน้าส่ วนราชการประจาอาเภอได้
จ. ไม่มีขอ้ ผิด
54.เมื่อรัฐมนตรี วา่ การกระทรวงมหาดไทย มอบอานาจให้ผวู ้ า่ ราชการจังหวัด ปฏิบตั ิราชการแทน แล้ว หาก
ผูว้ า่ ราชการจังหวัดมอบอานาจดังกล่าวให้ปลัดจังหวัดปฏิบตั ิราชการแทน จะต้องทา อย่างไร
ก. สามารถมอบอานาจได้ทนั ที
ข. มอบอานาจแล้วรายงานให้รัฐมนตรี วา่ การกระทรวงมหาดไทยทราบ
ค. ไม่สามารถมอบได้เพราะเป็ นอานาจเฉพาะตัว
ง. ขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรี วา่ การกระทรวงมหาดไทยก่อน เมื่อได้รับความเห็นชอบ แล้วจึง
สามารถทาการมอบอานาจได้
จ. ผิดทุกข้อ
55.ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับการมอบอานาจตามพระราชบัญญัติระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน(ฉบับที่ 7)
พ.ศ. 2550
ก. ผูม้ ีอานาจมอบอานาจให้ผดู้ ารงตาแหน่งอื่นได้เฉพาะในส่ วนราชการเดียวกันเว้นแต่มอบ อานาจ
ให้ผวู ้ า่ ราชการจังหวัด
ข. กาหนดหลักเกณฑ์มอบอานาจไว้ในพระราชกฤษฎีกา
ค. อานาจในการออกใบอนุญาตที่กฎหมายกาหนดไว้เป็ นการเฉพาะอาจมอบอานาจให้ เฉพาะ
ราชการซึ่ งเป็ นผูใ้ ต้บงั คับบัญชาและผูว้ า่ ราชการจังหวัดเท่านั้น
ง. วางหลักการสนับสนุนให้มีการมอบอานาจกว้างขวางขึ้นเพื่อเน้นการบริ การประชาชนให้ มีความ
สะดวกและรวดเร็ ว
จ. ผูม้ อบอานาจพิจารณาถึงการอานวยความสะดวกแก่ประชาชน ความรวดเร็ วในการ ปฏิบตั ิ
ราชการ การกระจายความรับผิดชอบตามสภาพตาแหน่ง
56.เมื่อมีการมอบอานาจในการปฏิบตั ิราชการแทนให้แก่บุคคลใดแล้วผูม้ อบอานาจนั้น ยังคงหน้าที่อย่างไร
ก. ยังคงมีอานาจอยูเ่ ช่นเดิมและแก้ไขการปฏิบตั ิราชการของผูร้ ับมอบอานาจได้
ข. มีหน้าที่กากับติดตามผลการปฏิบตั ิราชการของผูร้ ับมอบอานาจ
ค. มีอานาจแนะนาและแก้ไขการปฏิบตั ิราชการของผูร้ ับมอบอานาจได้
ง. ข้อ ข. และ ค. ถูก
จ. ก ข และ ค
57.การรักษาราชการแทนข้อใดถูก
ก. กรณี ที่นายกรัฐมนตรี ไม่อาจปฏิบตั ิราชการแทนได้และไม่มีผดู ้ ารงตาแหน่งรอง นายกรัฐมนตรี
ให้รัฐมนตรี ประจาสานักนายกรัฐมนตรี เป็ นผูร้ ักษาราชการแทน
ข. กรณี นายกรัฐมนตรี ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ให้คณะรัฐมนตรี มอบอานาจให้รัฐมนตรี คน ใดคน
หนึ่งเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน
ค. กรณี ที่นายกรัฐมนตรี ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้และมีรองนายกรัฐมนตรี หลายคนให้
นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี คนใดคนหนึ่งเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน
ง. กรณี ที่นายกรัฐมนตรี ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้และมีรองนายกรัฐมนตรี หลายคนได้ให้
คณะรัฐมนตรี มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี คนใดคนหนึ่งเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน
จ. กรณี ที่ไม่มีผดู ้ ารงตาแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีรองนายกรัฐมนตรี หลายคนได้ให้ คณะรัฐมนตรี
มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี คนใดคนหนึ่งเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน
58. ในกรณี ที่รัฐมนตรี วา่ การกระทรวงไม่อาจปฏิบตั ิราชการแทนได้...........ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. ให้รัฐมนตรี วา่ การกระทรวงแต่งตั้งรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงคนใดคนหนึ่งเป็ นผูร้ ักษา
ราชการแทน
ข. ถ้าไม่มีรัฐมนตรี วา่ การกระทรวงให้ปลัดกระทรวงเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน
ค. ถ้ามีรัฐมนตรี วา่ การกระทรวงหลายคนให้นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้รัฐมนตรี ช่วยว่าการ
กระทรวงคนใดคนหนึ่งเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน
ง. ถ้าไม่มีรัฐมนตรี วา่ การกระทรวงให้คณะรัฐมนตรี มอบหมายให้รัฐมนตรี คนใดคนหนึ่ งเป็ น
ผูร้ ักษาราชการแทน
จ. ข้อ ค. และ ง.
65.ข้อใดกล่าวเกี่ยวกับเรื่ องการรักษาราชการแทนถูกต้อง
ก. ผูร้ ักษาราชการแทนมีอานาจหน้าที่เช่นเดียวกับผูซ้ ่ ึ งตนแทน
ข. กรณี ที่ผดู้ ารงตาแหน่งใดมอบอานาจให้ผดู้ ารงตาแหน่งอื่นปฏิบตั ิราชการแทน ให้ผทู้ ี่ปฏิบตั ิ
ราชการแทนมีหน้าที่เช่นเดียวกับผูซ้ ่ ึ งมอบอานาจ
ค. กรณี ที่มีกฎหมายอื่นแต่งตั้งให้ผดู ้ ารงตาแหน่งเป็ นกรรมการหรื อให้มีอานาจหน้าที่อย่าง ใด
ผูร้ ักษาราชการแทนย่อมมีอานาจหน้าที่เป็ นกรรมการหรื อมีอานาจหน้าที่เช่นเดียวกับผูด้ ารง ตาแหน่งนั้น
ง. เฉพาะข้อ ก. และ ข. ถูก
จ. ข้อ ก. ถึง ค. ถูก
66."หัวหน้าคณะผูแ้ ทน" ตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับ
ที่ 5) 2545 โดยทัว่ ไปเป็ นข้าราชการสังกัดส่ วนราชการใด
ก. สานักนายกรัฐมนตรี ข. กระทรวงการต่างประเทศ
ค. กระทรวงกลาโหม ง. กระทรวงใดก็ได้ที่ได้รับแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรี
จ. กระทรวงพาณิ ชย์
67.กรณี ที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย จะมอบอานาจเรื่ องใดเรื่ องหนึ่งให้หวั หน้าคณะผูแ้ ทนในการ บริ หาร
ราชการ ใน ต่างประเทศ ตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ
ที่ 5) พ.ศ. 2545 จะต้องทาอย่างไร
ก. ทาหนังสื อให้คณะรัฐมนตรี ทราบ
ข. แจ้งเรื่ องมอบอานาจให้หวั หน้าคณะผูแ้ ทนทราบโดยตรง
ค. ขออนุมตั ิรัฐมนตรี วา่ การกระทรวงมหาดไทยก่อนที่จะทาการมอบอานาจ
ง. แจ้งเรื่ องการมอบอานาจดังกล่าวผ่านกระทรวงต่างประเทศ
จ. ไม่มีขอ้ ใดถูก
73. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับคณะกรรมการจังหวัด
ก. หัวหน้าส่ วนราชการประจาจังหวัดจากกระทรวงต่างๆกระทรวงละหนึ่งคนเป็ นกรมการจังหวัด
ข. ถ้ากระทรวงใดมีหวั หน้าส่ วนราชการประจาจังหวัดมากกว่าหนึ่งคนให้ผวู ้ า่ ราชการ จังหวัด
มอบหมายให้หวั หน้าส่ วนราชการจังหวัดคนหนึ่งเป็ นผูแ้ ทนในคณะกรรมการจังหวัด
ค. ผูว้ า่ ราชการจังหวัดเห็นสมควรจะแต่งตั้งให้หวั หน้าส่ วนราชการประจาจังหวัดซึ่งปฏิบตั ิ หน้าที่
ในราชการ ส่ วนภูมิภาคคนหนึ่งหรื อหลายคนเป็ นกรมการจังหวัดเพิ่มขึ้นเฉพาะการปฏิบตั ิ หน้าที่ดา้ นใดด้าน
หนึ่งก็ได้
ง. มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาจังหวัด
จ. ข และ ง กล่าวผิด
74.ข้อใดเป็ นอานาจหน้าที่ของคณะกรรมการจังหวัด
ก. ให้ความเห็นชอบในการจัดทาแผนพัฒนาจังหวัด
ข. ทาหน้าที่เป็ นที่ปรึ กษาของผูว้ า่ ราชการจังหวัด
ค. ปฏิบตั ิหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายหรื อมติของคณะรัฐมนตรี กาหนด
ง. ถูกเฉพาะข้อ ข. และ ค.
จ. ก ข และ ค
75.หัวหน้าสานักงานจังหวัดมีตาแหน่งใดในคณะกรมการจังหวัด
ก. เลขานุการ
ข. กรมการจังหวัด
ค. เป็ นตามที่ผวู ้ า่ ราชการจังหวัดมอบหมาย
ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก
จ. ถูกทุกข้อ
76.ใครเป็ นประธานกรมการจังหวัด
ก. ผูว้ า่ ราชการจังหวัด
ข. รองผูว้ า่ ราชการจังหวัดที่ผวู ้ า่ ราชการมอบหมาย
ค. ปลัดจังหวัด
ง. นายกองค์การบริ หารส่ วนจังหวัด
จ. ผิดทุกข้อ
77. กรณี ที่กระทรวงใดมีหวั หน้าส่ วนราชการประจาจังหวัดซึ่ งกรมต่าง ๆ ในกระทรวงนั้นส่ งมา ประจาอยู่
จังหวัด มากกว่าหนึ่งคน ใครเป็ นผูม้ ีอานาจกาหนดให้หวั หน้าส่ วนราชการคนหนึ่งเป็ น ผูแ้ ทนของกระทรวง
ในคณะกรมการจังหวัด
ก. ปลัดกระทรวง
ข. ผูว้ า่ ราชการจังหวัด
ค. รัฐมนตรี เจ้ากระทรวง
ง. หัวหน้าส่ วนราชการตกลงกันเอง
จ. ผิดทุกข้อ
78.ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับการบริ หารราชการจังหวัด
ก. ปลัดจังหวัดเป็ นผูร้ ักษาราชการแทนผูว้ า่ ราชการจังหวัดรองจากผูว้ า่ ราชการจังหวัด
ข. ผูว้ า่ ราชการจังหวัดเป็ นหัวหน้าบังคับบัญชาบรรดาข้าราชการฝ่ ายบริ หาร
ค. การเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดให้ตราเป็ นพระราชบัญญัติ
ง. จะให้มีผชู ้ ่วยผูว้ า่ ราชการจังหวัดเป็ นผูช้ ่วยผูส้ ั่งการและปฏิบตั ิราชการแทนผูว้ า่ ราชการจังหวัดก็ได้
จ. ฐานะของปลัดจังหวัดตามกฎหมายเป็ นผูท้ าหน้าที่เป็ นผูช้ ่วยเหลือ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดมิใช่ผชู ้ ่วยสั่ง
79.กรณี ที่ผวู ้ า่ ราชการจังหวัดไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ หากมีรองผูว้ า่ ราชการจังหวัด อยู่ 2 คน ใคร เป็ นผูม้ ี
อานาจแต่งตั้งรองผูว้ า่ ราชการจังหวัดคนใดคนหนึ่งเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน
ก. รัฐมนตรี วา่ การกระทรวงมหาดไทย ข. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ค. ผูว้ า่ ราชการจังหวัด
ง. ผูว้ า่ ราชการจังหวัดแต่งตั้งโดยขอความเห็นชอบจากปลัดกระทรวงมหาดไทย
จ. ไม่มีใครแต่งตั้งเป็ นโดยตาแหน่งโดยรองผูว้ า่ ราชการจังหวัดที่มีความอาวุโสตามระเบียบ แบบ
แผนของทางราชการ
80.ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริ หารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ผูว้ า่ ราชการจังหวัดมีอานาจ กี่ขอ้
ก. 8 ข. 9 ค. 10 ง. 11 จ. 12
81.ข้อใดไม่ใช่อานาจหน้าที่ของผูว้ า่ ราชการจังหวัด
ก. ยับยั้งการกระทาใด ๆ ของข้าราชการพลเรื อนในมหาวิทยาลัยไว้ชวั่ คราว แล้วรายงาน
กระทรวงศึกษาธิการ
ข. ประสานงานและร่ วมมือกับข้าราชการทหารในการพัฒนาจังหวัด
ค. เสนอขอจัดตั้งงบประมาณจังหวัดและรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบ
ง. กากับการปฏิบตั ิหน้าที่ของพนักงานองค์กรรัฐบาลหรื อรัฐวิสาหกิจ
จ. ควบคุมการบริ หารราชการส่ วนท้องถิ่นตามกฎหมาย
7.สานักนายกรัฐมนตรี มีฐานะเป็ น
ก. กระทรวง ข. ทบวง
ค. กรม ง. มูลนิธิ
ตอบ ก. กระทรวง
8.ข้อใดมีฐานะเป็ นนิติบุคคล
ก. สานักนายกรัฐมนตรี ข. ทบวง
ค. กรม ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
9.การจัดตั้ง การรวมหรื อ การโอน สานักนายกรัฐมนตรี ให้ออกเป็ นกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ ข. พระราชกฤษฎีกา
ค. กฎกระทรวง ง. ประกาศสานักนายกรัฐมนตรี
ตอบ ก. พระราชบัญญัติ
14.การยุบส่ วนราชการ ของ สานักนายกรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง หรื อกรม ให้ออกเป็ นกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ ข. พระราชกฤษฎีกา
ค. กฎกระทรวง ง. พระราชกาหนด
ตอบ ข. พระราชกฤษฎีกา