วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล
ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559
การศึกษาการตรวจติดตามระดับยา Vancomycin ในเลือด
: กรณีศึกษาโรงพยาบาลหัวหิน
บทคัดย่อ
จากข้อมูลการประเมินและติดตามการใช้
ยาต้านจุลชีพ ปี พ.ศ. 2560 ในหอผู้ป่วยอายุรกรรม
และหอผู้ ป่ ว ยศั ล ยกรรม ณ โรงพยาบาลหั ว หิ น
พบว่า Vancomycin เป็นรายการยาที่มีปัญหาการ
สั่งใช้ยา 3 อันดับแรก และเป็นยาที่ถูกกาหนดให้มี
การตรวจติดตามระดับยาในเลือดเพื่อกาหนดแบบ
แผนการให้ ย า Vancomycin ที่ เ หมาะสม เพื่ อ
ป้องกัน การเกิดอาการไม่พึงประสงค์ การวิจั ยนี้มี
วั ต ถุ ป ระสงค์ เ พื่ อ ศึ ก ษาปั ญ หาจากการได้ รั บ ยา
Vancomycin ใ น ผู้ ป่ ว ย ป ร ะ เ ภ ท ผู้ ป่ ว ย ใ น
โรงพยาบาลหัวหิน เป็นการศึกษาวิจัยแบบย้อนหลัง
เชิงพรรณนา ในผู้ป่วยที่พักรักษาตัว ณ หอผู้ป่วยใน
โรงพยาบาลหั ว หิ น ที่ ไ ด้ รั บ การรั ก ษาด้ ว ยยา
Vancomycin เก็บข้อมูลในช่วงเดือนมกราคม พ.ศ.
2559 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2560
จากผู้ ป่ ว ยทั้ ง หมด 49 คน ที่ ไ ด้ รั บ ยา
Vancomycin แบ่งเป็น ผู้ป่วยที่มีค่าการทางานของ
ไตปกติ จ านวน 17 คนและค่ า การท างานของไต
- 29 - Hua Hin Sook Jai Klai Kangwon Journal
ปฐมา โสภาช1 ,
วันดี สาเร็จ2 ,
ธนรัตน์ เวียงนนท์3
บกพร่องจานวน 32 คน ผลการศึกษา การตรวจ
ติ ด ตามระดั บ ยา Vancomycin ในเลื อ ด พบว่ า มี
ผู้ป่วยจานวน 11 คน (ร้อยละ 22.0) มีระดับยาใน
เลือดอยู่ในช่วงการรักษา และผู้ป่วยจานวน 21 คน
(ร้อยละ 43.0) มีระดับยาในเลือดอยู่ต่ากว่าช่วงการ
รักษา เมื่อวิเคราะห์ ปัญ หาด้า นการตรวจติ ด ตาม
ระดั บ ยา พบว่ า มี ผู้ ป่ ว ยจ านวน 9 คน ได้ รั บ การ
ตรวจติดตามระดับยาในเลือดในเวลาไม่เหมาะสม
ในจานวนผู้ป่วยที่ทาการตรวจวัดระดับยา 49 คน
แพทย์ให้การยอมรับและปรับขนาดยาตามระดับยา
ที่ตรวจวัดได้จานวน 42 คน (ร้อยละ 85.0) โดยสรุป
ควรมีการตรวจติดตามระดับยาในเลือดในผู้ป่วยที่
ได้รับยา Vancomycin ทุกราย โดยมีการกาหนด
ระบบการดาเนินงานและอธิบายขั้นตอนการตรวจ
ระดับยาแก่แพทย์ พยาบาลให้ชัดเจน
ค้ า ส้ า คั ญ : การตรวจวั ด ติ ด ตามระดั บ ยา, ยา
Vancomycin, ระดับยาต่้าสุดที่ได้ผลการรักษา,
ระดับยาในเลือด

ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559
The study of Vancomycin monitoring system in Hua Hin hospital
From data of antibiotic monitoring
year 2017 of medicine and surgery in-patient
department Hua Hin hospital found that
Vancomycin was the third drugs that
occurred problem in prescribing process and
needed therapeutic drug monitoring for
treatment efficacy and prevent adverse drug
reactions.To study types of problem which
occurred from therapeutic monitoring of
Vancomycin in in- patient Hua Hin hospital.
We performed a retrospective descriptive
study in inpatient who received Vancomycin
from January 2016 toMarch 2017
There were 49 patients that
received Vancomycin which divided into
group normal renal function 17 patients and
abnormal kidney function 32 patients The
result of the efficacy of treatment by
assessment Vancomycin level. We found
that 11 patients (22.0%) had a Vancomycin
วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล
- 30 - Hua Hin Sook Jai Klai Kangwon Journal
Patama Sopach
Wandee Sumret
Thanarat Wiangnon
level in therapeutic range and 21 patients
( 43. 0% ) had Vancomycin level lower than
therapeutic range. The problems analysis of
therapeutic drug monitoring had some
patients ( 9 patients) was received
inappropriate collecting time of blood for
assessment Vancomycin level. There were
49 patients that received therapeutic drug
monitoring which the doctor acceptance, 42
patients ( 85. 0% ) were accepted from
doctor for adjustment dose of Vancomycin.
Therapeutic level monitoring was needed to
do in every patients who received
Vancomycin. Method and time of blood
collecting time were important issues that
doctors and nurses need to know.
Keyword : drug monitoring, Vancomycin,
trough concentration, serum
concentration

ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559
ความเป็นมาและความส้าคัญ :
Therapeutic Drug Monitoring
(TDM)1,2,3 หรือการติดตามตรวจวัดระดับ ยาเป็ น
ศาสตร์ของการใช้ข้อมูลทางเภสัชจลนศาสตร์มาใช้
ในการปรับขนาดยาให้เหมาะสม เนื่องจากผู้ป่วยแต่
ละรายอาจมี ร ะดั บ ยาที่ แ ตกต่ า งกั น ท าให้ ก าร
ตอบสนองของผู้ป่วยต่อยาที่ไม่เป็น ไปตามเป้าหมาย
โดยเฉพาะยาที่มีช่วงการรักษาแคบและมีแนวโน้ม
ว่ า จะมี ก ารเปลี่ ย นแปลงพารามิ เ ตอร์ ท างเภสั ช
จลนศาสตร์ได้ง่าย Vancomycin เป็นยาที่มี
ระดับยาในเลือดในผู้ป่วยมีความแตกต่างกัน ในแต่
ละบุคคลค่อนข้างมาก รวมทั้งการมีความสั มพัน ธ์
ระหว่างระดับยากับผลการรักษาและพิ ษของยา จึง
ควรมีการติดตามตรวจวัดระดับยา Vancomycinใน
เลือด4 อย่างไรก็ตามการกาหนดระดับยาที่เป็นช่วง
การรั ก ษามี ก ารปรั บ เปลี่ ย นให้ เ หมาะสมกั บ
สถานการณ์เชื้อดื้อยา โดยระดับยาต่าสุดต้องสูงกว่า
ค่า MIC เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการรักษา แต่ไม่
ควรสูงเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดพิษต่อไต
การใช้ข้อมูล ทางด้านระดับยาในเลื อดมา
ช่วยในการบริบาลผู้ป่วย จะทาให้ได้ผลการรั ก ษา
ตามเป้าหมายได้เร็วขึ้นและยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิด
อาการไม่พึงประสงค์จากยาอีกด้วย จากข้อมูลการ
ประเมินและติดตามการใช้ยาต้านจุลชีพ ปี 2560
ในหอผู้ป่วยอายุรกรรมและหอผู้ป่วยศัลยกรรม ณ
โรงพยาบาลหั ว หิ น ปี 2560 พบว่า Vancomycin
เป็นรายการยาที่มีปัญหาการสั่งใช้ยา 3 อันดับแรก
และเป็นยาที่ถูกกาหนดให้มีการตรวจติดตามระดับ
วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล
- 31 - Hua Hin Sook Jai Klai Kangwon Journal
ยาในเลื อ ดเพื่ อ ก าหนดแบบแผนการให้ ย าที่
เหมาะสม โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่จากการใช้ยา
Vancomycin คื อ ผู้ ป่ ว ยมี ค่ า การท างานของไตที่
บกพร่องระหว่างที่ได้รับยา โรงพยาบาลหัวหินจึงได้
มีการจัดตั้งและดาเนินงานตรวจติดตามระดับยาใน
เลือดของยา Vancomycin เริ่มเปิดให้บริการเดือน
มกราคม 2559 จนถึ ง ปั จ จุ บั น และเริ่ ม ท าแบบ
บั น ทึ ก การใช้ ย า Vancomycin มาอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง
ข้อมูลที่ได้จากการบันทึกนี้ สามารถนามา พัฒนา
ง า น เ รื่ อ ง ก า ร ต ร ว จ ติ ด ต า ม ร ะ ดั บ ย า ใ ห้ มี
ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์การวิจัย :
เพื่อศึกษาปัญหาระดับยาไม่อยู่ในช่วงการ
รั ก ษาและปั ญ หาการตรวจติ ด ตามระดั บ ยา
Vancomycin ในเลือด
นิยามศัพท์ที่ใช้ในการวิจัย :
ปัญหาระดับยาไม่อยู่ใ นช่วงการรั กษา :
แบ่งเป็น
1. ระดับยาสูงกว่าช่วงการรักษา1 หมายถึง ระดับยา
Vancomycin ต่าสุด มีค่ามากกว่า 20 mg/L
2. ระดับยาต่ากว่าช่วงการรักษา 1 หมายถึง ระดับยา
Vancomycin ต่าสุด มีค่าน้อยกว่า 15 mg/L
ปั ญ ห า ก า ร ต ร ว จ ติ ด ต า ม ร ะ ดั บ ย า
Vancomycin ในเลื อ ด : หมายถึ ง ระบบงานหรือ
ขั้ น ตอนในการปฏิ บั ติ ก ารตรวจติ ด ตามระดั บ ยาใน
เลือด แบ่งเป็น
1. ปัญหาจากการวัดระดับยาไม่เหมาะสม
 วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล
ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 - 32 - Hua Hin Sook Jai Klai Kangwon Journal

2. ข้อจากัดในด้านการตรวจวัดระดับยา เวลา 1 มกราคม พ.ศ. 2559 ถึ ง 31 มี น าคม พ.ศ.

ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย : 2560
ช่ ว ยให้ ผู้ ป่ ว ยที่ ไ ด้ รั บ การรั ก ษาด้ ว ยยา
ผลการวิจัย :
Vancomycin ได้รับความปลอดภัยจากการใช้ยา ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ป่วยที่ได้รับการ
วิธีด้าเนินการวิจัย : รักษาด้วยยา Vancomycin
เป็นการศึกษาวิจัยแบบย้อนหลังเชิงพรรณนา ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยา Vancomycin มีทั้งสิ้น
(Retrospective descriptive study) ศึ ก ษาข้ อ มู ล 49 ราย เป็นเพศชาย 24 ราย ร้อยละ 48.97 มีอายุ
ระดับยาในเลือดและปัญหาที่เกิดขึ้นจากเวชระเบียน 61-80 ปี ร้อยละ 48.97รักษาตัวยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤต
ในระหว่างที่ผู้ป่วยได้รับยา Vancomycin ของผู้ป่วย ฉุกเฉิน (ICU) 11 ราย ร้อยละ 22.45 มีการทางานของ
ที่มานอนรักษาตัวในหอผู้ป่วย จานวน 49 คน ในช่วง ไตบกพร่อง 32 ราย ร้อยละ 65.31 รายละเอียดแสดง
ดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 : ข้อมูลทั่วไปของผู้ป่วยจาแนกตามจานวนและร้อยละ
ข้อมูลทั่วไป จานวนผู้ป่วย (N = 49 คน) ร้อยละ
เพศ
ชาย 24 48.97
หญืง 25 51.02
อายุ
15 – 20 ปี 1 2.04
20 – 40 ปี 9 18.37
41 – 60 ปี 13 26.54
61 – 80 ปี 24 48.97
81 – 90 ปี 2 4.08
หอผู้ป่วย
หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤต (ICU) 11 22.45
หอผู้ป่วยอายุรกรรม 23 46.94
หอผู้ป่วยศัลยกรรม 15 30.6
การทางานของไต
ระยะที่ 1 (CrCl = > 90 ml/min/1.73 m2) 17 34.69
ระยะที่ 2 (CrCl = 60 - 89 ml/min/1.73 m2) 3 6.12
 วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล
ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559 - 33 - Hua Hin Sook Jai Klai Kangwon Journal

ระยะที่ 3a (CrCl = 45 - 59 ml/min/1.73 m2) - -

ระยะที่ 3b (CrCl = 30 – 44 ml/min/1.73 m2) 4 8.16
ระยะที่ 4 (CrCl = 15 - 29 ml/min/1.73 m2) 4 8.16
ระยะที่ 5 (CrCl = < 15 ml/min/1.73 m2) 18 36.73
ไตวายเฉียบพลัน 3 6.12
สรุปภาพรวม
ผู้ป่วยที่มีการทางานไตปกติ 17 34.69
ผู้ป่วยที่การทางานของไตบกพร่อง 32 65.31
ตอนที่ 2 ผลการศึกษาปัญหาจากการได้รับยา Vancomycin ของผู้ป่วย
จากการศึกษาพบว่าปัญหาที่พบในการศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
1. ปัญหาระดับยาไม่อยู่ในช่วงการรักษา พบว่ามีผู้ป่วยจานวน 11 คน (คิดเป็นร้อยละ 22.0) มีระดับยาใน
เลือดอยู่ในช่วงการรักษา และผู้ป่วยจานวน 21 คน (คิดเป็นร้อยละ 43.0) มีระดับยาในเลือดต่ากว่าช่วงการ
รักษา
2. ปัญหาการตรวจติดตามระดับ ยา Vancomycin ในเลือด พบว่ามีผู้ป่วยจานวน 9 คน ได้รับการตรวจ
ติดตามระดับยาในเลือดในเวลาไม่เหมาะสม แบ่งเป็น
2.1 ข้อจากัดในด้านการตรวจวัดระดับยาที่ทาได้เฉพาะวันพุธ จานวน 6 คน ร้อยละ 66.67
2.2 พยาบาลไม่ได้เจาะวัดระดับยาที่จุดต่าสุดของยา (trough level) หรือจุดสูงสุดของยา (peak level)
จานวน 3 คน ร้อยละ 33.33
รายละเอียดดังตารางที่ 2

ตารางที่ 2 : ผลการศึกษาปัญหาที่พบ
จานวนปัญหา ร้อยละ
ปัญหาด้านประสิทธิภาพการรักษา
ระดับยาสูงกว่าช่วงการรักษา (มากกว่า 20 mg/dL) 17 34.69
ระดับยาอยู่ในช่วงการรักษา (15 – 20 mg/dL) 11 22.45
ระดับยาต่ากว่าช่วงการรักษา (น้อยกว่า 15 mg/dL) 21 42.86
ปัญหาเชิงระบบ
ข้อจากัดในด้านการตรวจวัดระดับยาที่ทาได้เฉพาะวันพุธ 6 66.67
พยาบาลไม่ได้เจาะตามเวลาที่แพทย์สั่ง 3 33.33

ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559
ในจานวนผู้ป่วยที่ทาการตรวจวัดระดับยา
49 คน แพทย์ให้การยอมรับและปรับขนาดยาตาม
ระดับยาที่ตรวจวัดได้จานวน 42 คน (คิดเป็นร้อยละ
85) และ ไม่ปรับตามระดับยาที่ตรวจวัดได้จานวน 7
คน (คิดเป็นร้อยละ 15)
อภิปรายผลการวิจัย :
จากการศึ ก ษานี้ พ บว่ า ผู้ ป่ ว ยที่ ไ ด้ รั บ การ
รักษาด้วยยา Vancomycin 49 คน มีผู้ป่วยจานวน
11 คนที่มีระดับยาในเลือดอยู่ในช่วงการรักษา ซึ่ง
ผู้ ป่ ว ยส่ ว นใหญ่ ที่ อ ยู่ ใ นกลุ่ ม นี้ เป็ น ผู้ ป่ ว ยที่ มี อ ายุ
ระหว่าง 21-30 ปี ไม่มีโรคประจาตัว และมีค่าการ
ทางานของไตปกติ ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีระดับยาต่ากว่า
ช่วงการรักษา ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะ
สุดท้ายที่ได้รับการบาบัดทดแทนไต(การฟอกเลือด
ด้ ว ยเครื่ อ งไตเที ย ม, การล้ า งไตทางช่ อ งท้ อ ง) ซึ่ ง
ไม่ได้มีการตรวจวัดระดับยาในเลือดหลังจากได้รับ
ยา 24 ชั่วโมงในครั้งที่หนึ่ง สอดคล้องกับการศึกษา
เภสั ช จลนศาสตร์ และการตรวจติดตามระดั บ ยา
Vancomycin ในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย 5
ผลการศึกษาพบว่า ที่เวลา 24 ชั่วโมงแรกหลังจาก
ได้รับยาในครั้งที่หนึ่ง มีผู้ป่วยถึงร้อยละ 52.85 ที่มี
ระดับยาในซีรั่มต่ากว่า 15 มิลลิกรัม/ลิตร และ ร้อย
ละ 16.26 มีระดับยาในซีรั่มต่ากว่า 10 มิลลิกรัม/
ลิตร ซึ่งต่ากว่าระดับความเข้มข้นต่าสุดในการรักษา
ที่แนะนาโดยทั่วไป (10-15 หรือ 15-20 มิลลิกรัม/
ลิ ต ร ) จึ ง ค ว ร มี ก า ร ต ร ว จ ติ ด ต า ม ร ะ ดั บ ย า
Vancomycin ในซีรั่ม ใน 24 ชั่วโมงแรกหลังจากที่
ได้รับยา เพื่อกาหนดแบบแผนการให้ยาที่เหมาะสม
ตามระดับยาที่วัดได้ในผู้ป่วยแต่ละรายต่อไป ส่วน
วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล
- 34 - Hua Hin Sook Jai Klai Kangwon Journal
ผู้ ป่ว ยกลุ่ มสุ ดท้ายที่มีระดับยาในเลือดสู งกว่าช่วง
การรักษา ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะที่
3- 4 มี อ า ยุ ม า ก ก ว่ า 60 ปี แ ล ะ มี ค่ า serum
creatinine น้อยกว่า 1 mg/dL สาหรับปัญหาเชิง
ระบบที่ พ บจากการศึ ก ษาในครั้ ง นี้ พ บว่ า ร้ อ ยละ
66.67 เป็ น ข้ อ จ ากั ด ของการตรวจวั ด ระดั บ ยาใน
เลือดที่เปิดทาการ 1 วันต่อสัปดาห์(วันพุธ) ส่งผลให้
ผู้ป่วยบางรายที่ได้รับยาหลังวันพุธและได้รับยาไม่ถึง
7 วัน ไม่สามารถทาการตรวจวัดระดับยาในเลือดได้
หรือผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุ ดท้ายที่จาเป็น ต้ อง
ได้รับการตรวจวัดระดับยาหลังได้ยาครั้งแรกไปแล้ว
24 ชั่วโมง และผู้ป่วยบางรายได้รับยายังไม่ถึงระดับ
steady state จึงไม่สามารถส่งตรวจในวันพุธได้ อีก
ร้อยละ 33.33 เป็นปัญหาที่เกิดจากการกาหนดเวลา
ที่ใช้เจาะวัดระดับยาในเลือดที่ไม่ถูกต้องจึงส่งผลให้
การแปลผลระดับยาในเลือดไม่ถูกต้อง
ข้อเสนอแนะที่ได้จากการวิจัย :
1. ควรมีการเพิ่มวันทาการเจาะวัดระดับยาใน
เลื อดจาก 1 วันต่อสั ปดาห์ เป็น 2 วันต่อสั ป ดาห์
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วย
2. ควรมี ก ารให้ ค วามรู้ แ ก่ บุ ค ลากรทาง
การแพทย์ เ กี่ยวกั บ การตรวจวั ดระดั บยาในเลื อ ด
โดยเน้ น ย้ าถึ ง ความส าคั ญ ของเวลาที่ ใ ช้ เ จาะวั ด
ระดับยาในเลือด
3. ในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ได้รับ
การบาบัดทดแทนไต ควรทาการตรวจวัดระดับยา
หลังได้รับยาครั้งที่ 1 ไปแล้ว 24 ชั่วโมง
4. ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังทุกระยะควรได้รับการ
ตรวจติดตามระดับยาในเลือดทุกค

ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2559
เอกสารอ้างอิง
1. อาภรณี ไชยาค า. การประยุ ก ต์ เ ภสั ช
จลนศาสตร์ในการติดตามตรวจวัดระดับยาในเลือด.
ใน: อาภรณี ไชยาคา, เด่นพงศ์ พัฒนเศรษฐานนท์ ,
ศิริลักษณ์ ใจซื่อ. การประยุกต์เภสัชจลนศาสตร์ทาง
คลินิก. พิมพ์ครั้งที่ 1. ขอนแก่น:โรงพิมพ์คลังนานา
วิทยา;2556. หน้า 1-20
2. Therapeutic Monitoring of
Vancomycin in Adult Patients: A Consensus
Review of the American Society of Health-
System Pharmacists, the Infectious Diseases
Society of America, and the Society of
Infectious Diseases Pharmacists. ASHP
Therapeutic Position Statements.
3. อาภรณี ไชยาค า. Therapeutic Drug
Monitoring for Dosage Optimization. ใน วิ ชั ย
สันติมาลีวรกุล, ชาญกิจ พุฒิเลอพงศ์, นิรันดร์ จ่าง
วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล
- 35 - Hua Hin Sook Jai Klai Kangwon Journal
คง, ปรีชา มนทกานติกุล. คู่มือเภสัชกร : การใช้ยา
ต้านจุลชีพอย่างเหมาะสม. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ
: บริษัทประชาชน;2556. หน้า 321-35.
4. เชิ ด ชั ย สุ น ทรภาส. การติ ด ตามตรวจวัด
ระดับยา Vancomycin. ใน: อาภรณี ไชยาคา, เด่น
พงศ์ พั ฒ นเศรษฐานนท์ , ศิ ริ ลั ก ษณ์ ใจซื่ อ . การ
ประยุกต์เภสัชจลนศาสตร์ทางคลินิก. พิมพ์ครั้งที่ 1.
ขอนแก่ น :โรงพิ ม พ์ ค ลั ง นานาวิ ท ยา;2556. หน้ า
232-54.
5. ธีรพล บุตรพรม และคณะ. การศึกษาเภสัช
จลนศาสตร์ และการตรวจติ ด ตามระดั บ ยา
Vancomycin ในผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุดท้าย.
6. Ye ZK, Chen YL, Chen K, et al.
Therapeutic drug monitoring of Vancomycin:
a guideline of the Division of Therapeutic
Drug Monitoring, Chinese Pharmacological
Society. 2016