Professional Documents
Culture Documents
โดย รัตนอุบาสก - proverb สุภาษิตบิณฑบาต
โดย รัตนอุบาสก - proverb สุภาษิตบิณฑบาต
ระหว่างบิณฑบาต
000 จิรํ ติฎฺฐตุ สทฺธมฺโม ขอพระสัทธรรมจงสถิตสถาพรตลอดกาลนานเทอญ
000-01 อิทํ โข ปน ภิกฺขเว ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ชาติปิ ทุกฺขา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อริยสัจคือทุกข์มีอยู่ คือความเกิดก็เป็นทุกข์
000-02 ชราปิ ทุกฺขา พฺยาธีปิ ทุกฺขา มรณมฺปิ ทุกฺขํ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์, ความโศก ความรําไรรําพัน
000-03 โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาปิ ทุกขา ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ก็เป็นทุกข์
000-04 อปฺปิเยหิ สมฺปโยโค ทุกฺโข ปิเยหิ วิปฺปโยโค ทุกฺโข ความประสบกับสิงไม่เป็นทีรักทีพอใจก็เป็นทุกข์
000-05 ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ มีความปรารถนาสิงใดไม่ได้สงนั ิ ้น นันก็เป็นทุกข์
000-06 สงฺขิตฺเตน ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา ว่าโดยย่อ อุปาทานขันธ์ทั้งห้า เป็นตัวทุกข์
000-07 อิทํ โข ปน ภิกฺขเว ทุกฺขสมุทโย อริยสจฺจํ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อริยสัจคือเหตุให้เกิดทุกข์นี้มอี ยู่
000-08 ยายํ ตณฺหา โปโนพฺภวิกา นนฺทิราคสหคตา ตตฺร ตตฺราภินนฺทินี นี้คือตัณหา อันเป็นเครืองทําให้มกี ารเกิดอีก
000-09 อันประกอบอยู่ด้วยความกําหนัดด้วยอํานาจความเพลิน, เป็นเครืองให้เพลินอย่างยิงในอารมณ์น้นั
000-10 เสยฺยถีทํ กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา ได้แก่สงเหล่
ิ านี้คือ ตัณหาในกาม ในความมีความเป็น ในความไม่มีไม่เป็น
000-11 อิทํ โข ปน ภิกฺขเว ทุกฺขนิโรโธ อริยสจฺจํ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อริยสัจคือความดับไม่เหลือแห่งทุกข์นี้
000-12 โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ จาโค นี้คือความดับสนิทเพราะจางไป โดยไม่มีเหลือของตัณหานั้นนันเอง
000-13 ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย เป็นความสละคืน เป็นความปล่อย เป็นความทําไม่ให้มที ีอาศัยซึงตัณหานั้น
000-14 อิทํ โข ปน ภิกฺขเว ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ ดูกรฯ ก็อริยสัจคือข้อปฏิบัติททํี าสัตว์ให้ลุถึง
000-15 ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์นี้มอี ยู่
000-16 อยเมว อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค นี้คือข้อปฏิบัติเป็นหนทางอันประเสริฐ ประกอบด้วยองค์แปดประการ
000-17 เสยฺยถีทํ สมฺมทิฏฺฐิ ฯเปฯ สมฺมาสมาธิ ได้แก่สิงเหล่านี้คือ ความเห็นชอบ ฯเปฯ ความตั้งใจมันชอบ
000-18 .........................................................................................................
001 สมฺพุทฺโธ ทิปทํ เสฏฺโ€ พระสัมพุทธเจ้าประเสริฐสุดกว่าสัตว์ ๒ เท้า
001-2 อาชานีโย จตุปฺปทํ สัตว์อาชาไนยประเสริฐสุดกว่าสัตว์ ๔ เท้า
001-3 สุสฺสูสา เสฏฺ€า ภริยานํ ภรรยาทีปรนนิบัติดี ประเสริฐสุดกว่าภรรยาทั้งหลาย
001-4 โย จ ปุตฺตานมสฺสโวติ บุตรใดเป็นผู้เชือฟัง บุตรนั้นประเสริฐสุดกว่าบุตรทั้งหลาย.
002 ปุญฺญเมว โส สิกเฺ ขยฺย อายตคฺคํ สุขินฺทฺริยํ ทานญฺจ สมจริยญฺจ เมตฺตจิตฺตญฺจ ภาวเย
002-2 กุลบุตรผูใ้ คร่ประโยชน์ พึงศึกษาบุญนันแล อันให้ผลเลิศต่อไป ซึงมีสุขเป็นกําไร ขุ.อิติ.๒๕/๒๐๐/๑๗๓ ปุญญสูตร
002-3 คือ พึงเจริญทาน ๑ ความประพฤติเสมอ ๑ เมตตาจิต ๑ ขุ.อิติ.๒๕/๒๓๘/๒๐๕ ปุญญกิริยาวัตถุสูตร
002-3 เอเต ธมฺเม ภาวยิตฺวา ตโย สุขสมุทฺทเย อพฺยาปชฺฌํ สุขํ โลกํ ปณฺฑิโต อุปปชฺชติ
002-4 บัณฑิตครั้นเจริญธรรม ๓ ประการอันเป็นเหตุให้เกิดความสุขเหล่านี้แล้ว ย่อมเข้าถึงโลกอันไม่มีความเบียดเบียนฯ
003 ทสฺสนกาโม สีลวตํ สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉติ วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ ส เว สทฺโธติ วุจฺจติ องฺ.ติก.๒๐/๑๙๑
003-2 ผูใ้ ดใคร่เห็นผูม้ ีศีล ปรารถนาฟังพระสัทธรรม กําจัดมลทินคือความตระหนีได้ ผูน้ ั้แลท่านเรียกว่าผู้มีศรัทธา
004 โกโธ ทุมฺเมธโคจโร ความโกรธเป็นอารมณ์ของคนมีปัญญาทราม
005 น เต อหํ อานนฺท ตถา ปรกฺกมิสฺสามิ ยถา กุมฺภกาโร อามเก อามกมตฺเตฯ ม.อุ.๑๔/๓๕๖/๑๙๒ มหาสุญญตสูตร
005-2 นิคฺคยฺหนิคฺคยฺหาหํ อานนฺท วกฺขามิ ปวยฺหปวยฺหาหํ อานนฺท วกฺขามิ โย สาโร โส €สฺสตีติ ฯ
005-3 ดูกรอานนท์ เราจักไม่ประคับประคองพวกเธอ เหมือนช่างหม้อประคับประคองภาชนะดินดิบทียังดิบๆ อยู่
005-4 เราจักข่มแล้วๆ จึงบอก จักยกย่องแล้วๆ จึงบอก ผูใ้ ดมีแก่นสาร ผูน้ ั้นจักตั้งอยู่ ฯ
006 อหํ นาโคว สงฺคาเม จาปาโต ปติตํ สรํ อติวากฺยนฺติติกฺขิสฺสํ ทุสฺสีโล หิ พหุชฺชโน ฯ (ขุ.ธ.๒๕/๓๓/๔๐)
006-1 เราจักอดกลั้นถ้อยคําล่วงเกิน ดังช้างอดทนลูกศร ซึงตกไปจากแล่งในสงคราม, เพราะคนเป็นอันมาก เป็นผูท้ ุศีล,
006-2 ทนฺตํ นยนฺติ สมิตึ ทนฺตํ ราชาภิรูหติ ทนฺโต เสฏฺโ€ มนุสฺเสสุ โยติวากฺยนฺติติกฺขติ ฯ
006-3 ราชบุรุษทั้งหลาย ย่อมนําพาหนะทีฝึกแล้วไปสูท่ ีประชุม, พระราชาย่อมเสด็จขึ้นพาหนะทีฝึกแล้ว;
006-4 ในหมู่มนุษย์ผใู้ ดอดกลั้นถ้อยคําล่วงเกินได้, ผู้นั้นชือว่าฝึก (ตน) แล้ว เป็นผู้ประเสริฐสุด.
006-5 วรมสฺสตรา ทนฺตา อาชานียา จ สินฺธวา กุ•ฺชรา จ มหานาคา อตฺตทนฺโต ตโต วรํ ฯ
006-6 ม้าอัสดรทีฝึกแล้วเป็นสัตว์ประเสริฐ, ม้าอาชาไนย ม้าสินธพทีฝึกแล้ว เป็นสัตว์ประเสริฐ,
006-7 พระยาช้างชาติกุญชรทีฝึกแล้ว ก็เป็นสัตว์ประเสริฐ, (แต่) ผูฝ้ ึกตนเองได้แล้ว ประเสริฐกว่านั้น."
………………………………………………………..
450810 มาตา มิตฺตํ สเก ฆเร สํ.ส.๑๕/๑๖๓/๔๓ มารดาเป็นมิตรในเรือนของตน (เพราะย่อมไม่ร้งเกียจบุตร)
450811 พลาติพลมิตฺถิโย สตรีมีกําลังยิงกว่ากําลังทั้งปวง
450812 ปุตฺตา วตฺถุ มนุสฺสานํ สํ.ส.๑๕/๑๖๕/๔๓ บุตรเป็นทีตั้งของมนุษย์ทั้งหลาย (เพราะปฏิบัติมารดาบิดายามแก่เฒ่า)
450812-2 ภริยา ปรมา สขา ภรรยาเป็นยอดสหาย (เพราะแม้ความลับ ก็ต้องบอกแก่ภรรยา)
450812-3 วุฏฺ€ึ ภูตา อุปชีวนฺติ เย ปาณา ป€วึ สิตาติ ฯ เหล่าสัตว์ทีอาศัยแผ่นดิน ย่อมอาศัยฝนเลี้ยงชีวิต
460226 อถ ปาปานิ กมฺมานิ กรํ พาโล น พุชฺฌติ คนพาลเวลาทําชัว หาสํานึกถึงผลของมันไม่
460226-2 เสหิ กมฺเมหิ ทุมฺเมโธ อคฺคิทฑฺโฒว ตปฺปติ คนทรามปัญญามักเดือดร้อน เพราะกรรมชัวของตัว
460226-3 เหมือนถูกไฟไหม้
460727 น มุณฺฑเกน สมโณ คนมิได้เป็นพระเพราะหัวโล้น
460814 ภีเตน ชายเต มติ ปัญญาย่อมเกิดขึ้นเพราะความกลัว
470310 ทุปฺปพฺพชฺชํ ทุรภิรมํ การบวชก็ยาก การยินดีก็ยาก
470310-2 ทุราวาสา ฆรา ทุกฺขา เรือนทีปกครองไม่ดี ให้เกิดทุกข์
470310-3 ทุกฺโข สมานสํวาโส การอยูร่ ่วมกับผู้เสมอกัน (ไม่เคารพยําเกรงกัน) เป็นทุกข์
470310-4 ทุกฺขานุปติตทฺธคู ผูเ้ ดินทางไกล(ในวัฏฏะ) ก็ถูกทุกข์ติดตาม
470310-5 ตสฺมา น จทฺธคู สิยา น จ ทุกฺขานุปติโต สิยา. เพราะฉะนั้นไม่พึงเป็นผูเ้ ดินทางไกล
470310-6 (ขุ.ธ.๒๕/๓๑/๓๘, ขุ.ธ.๔๓/๒๑๙/๑๗๖ มมร.) และไม่พึงเป็นผูอ้ ันทุกข์ติดตาม."
470311 กาลญฺญู สมยญฺญู จ ส ราชวสตึ วเส ผูร้ ู้กาล รู้สมัย พึงอยูใ่ นวงราชการได้ (วิฑูรบัณฑิต)
470618 ทุกฺขํ อนาโถ วิหรติ ผูไ้ ม่มีทีพึง(นาถกรณธรรม) ย่อมอยู่เป็นทุกข์
470903 ทิฏฺฐา มยา ภิกฺขเว ฉผสฺสายตนิก นาม นิรยา ดูกรฯ นรกชือว่าผัสสายตนิกะ๖ เราได้เห็นแล้ว
470903-2 ทิฏฺฐา มยา ภิกฺขเว ฉผสฺสายตนิก นาม สคฺคา ดูกรฯ สวรรค์ชือว่าผัสสายตนิกะ๖ ชั้น เราได้เห็นแล้ว
หน้า ๒
471020 ยถา พฺรหฺมา ตถา เอโก ยถา เทโว ตถา ทุเว อยูอ่ ย่างพรหมต้องอยูเ่ อกา อยูอ่ ย่างเทวดาต้องมีสหาย
471208 ปุตฺโต คีเว ธนํ ปาเท ภริยา หตฺเถ มีบุตรคล้องคอไว้ มีทรัพย์ผูกเท้าเอาไว้ มีภรรยาผูกมือเอาไว้
471208-2 (มีบตุ รห่วงหนึ่ งเกีย่ วพันคอ ทรัพย์ผูกบาทาคลอหน่ วงไว้ ภริยาเยี่องอย่างปอรึงรัดมือนา สามบ่วงนี้ ใครข้ามได้จงึ พ้นสงสาร)
471209 อโยเค ยุญฺชมตฺตานํ โยคสฺมิญฺจ อโยชนํ อตฺถํ หิตฺวา ปิยคฺคาหี ปิเหตตฺตานุโยคินํ
471209-2 พยายามในสิงทีไม่ควรพยายาม ไม่พยายามในสิงทีควรพยายาม
471209-3 ละเลยสิงทีเป็นประโยชน์ ต้องอยู่ในปิยารมณ์ คนเช่นนี้ก็ได้แต่ริษยาผู้ทพยายามช่
ี วยตัวเอง
480111 พหุ์ เว สรณํ ยนฺติ ปพฺพตานิ วนานิ จ อารามรุกฺขเจตฺยานิ มนุสฺสา ภยตชฺชิตา
480111-02 เนตํ โข สรณํ เขมํ เนตํ สรณมุตฺตมํ เนตํ สรณมาคมฺม สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจติ.
480111-03 มนุษย์เป็นอันมาก ถูกภัยคุกคามแล้ว ย่อมถึงภูเขา ป่า อาราม และรุกขเจดีย์วา่ เป็นทีพึง;
480111-04 สรณะนันแลไม่เกษม, สรณะนันไม่อุดม, เพราะบุคคลอาศัยสรณะนัน ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้.
480111-05 โย จ พุทฺธญฺจ ธมฺมญฺจ สงฺฆญฺจ สรณํ คโต จตฺตาริ อริยสจฺจานิ สมฺมปฺปญฺญาย ปสฺสติ
480111-06 ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ อริยญฺจฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ทุกฺขูปสมคามินํ
480111-07 เอตํ โข สรณํ เขมํ เอตํ สรณมุตฺตมํ เอตํ สรณมาคมฺม สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจติ.
480111-08 ส่วนบุคคลใดถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นทีพึง ย่อมเห็นอริยสัจ ๔
480111-09 (คือ) ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความก้าวล่วงทุกข์ และมรรคมีองค์ ๘ อันประเสริฐ
480111-10 ซึงยังสัตว์ให้ถึงความสงบแห่งทุกข์ ด้วยปัญญาชอบ; สรณะนันแล ของบุคคลนั้นเกษม, สรณะนันอุดม,
480111-11 เพราะบุคคลอาศัยสรณะนัน ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้." ขุ.ธ.๒๕/๒๔/๒๘ ขุ.ธ.อ.๔๒ หน้า ๓๔๖
480214 มธุวา มญฺ ตี พาโล ยาว ปาปํ น ปจฺจติ ยทา จ ปจฺจตี ปาปํ อถ พาโล ทุกฺขํ นิคจฺฉติ ตลอดระยะ-
480214-2 เวลาทีบาปยังไม่ให้ผล คนพาลสําคัญบาปหวานปานน้ําผึ้ง เมือใดบาปให้ผล เมือนั้นเขาย่อมได้รับทุกข์
480308 โอวเทยฺยานุสาเสยฺย อสพฺภา จ นิวารเย พึงว่ากล่าวตักเตือนคนอืน และพึงกีดกันเขาจากความชัว
480308-2 สตํ หิ โส ปิโย โหติ อสตํ โหติ อปฺปิโย คนทีคอยสังสอนเช่นนี้ คนดีรัก แต่คนชัวเกลียด
480509 สทฺธาย ตรติ โอฆํ คนจะข้ามโอฆะ(ห้วงน้ํา)ได้ดว้ ยศรัทธา
480509-2 อปฺปมาเทน อณฺณวํ ข้ามอรรณพ(ห้วงน้ํา)ได้ ด้วยความไม่ประมาท
480509-3 วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
480509-4 ปญฺ าย ปริสุชฺฌติ คนย่อมบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา
480510 สทฺทหาโน อรหตํ ธมฺมํ นิพฺพานปตฺติยา สุสฺสูสํ ลภเต ปญฺญํ อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ
480510-2 บุคคลเชือธรรมของพระอรหันต์ทั้งหลาย เพือบรรลุนิพพาน
480510-3 เป็นผูไ้ ม่ประมาท มีปัญญาเป็นเครืองสอดส่อง ฟังอยูด่ ้วยดี ย่อมได้ปัญญา
480510-4 (สุสฺสูสํ ลภเต ปญฺญํ ฟังอยูด่ ้วยดี ย่อมได้ปัญญา)
480510-5 ปฏิรูปการี ธุรวา อุฏฺ€าตา วินฺทเต ธนํ บุคคลผูม้ ีธุระ กระทําสมควร มีความหมัน ย่อมหาทรัพย์ได้
480510-6 สจฺเจน กิตฺตึ ปปฺโปติ บุคคลย่อมได้ชือเสียงด้วยสัจจะ (บุคคลย่อมได้รับเกียรติ์เพราะวาจาสัตย์)
480510-7 ททํ มิตฺตานิ คนฺถติ ผูใ้ ห้ย่อมผูกมิตรไว้ได้
480521 น กมฺมุนา กิญฺจน โมฆมตฺถิ (ขุ.ชา.๒๗/๒๐๕๔/๓๕๘ จิตตสัมภูตชาดก) กรรมแม้จะเล็กน้อย ทีจะไม่ให้ผลเป็นไม่มี
480524 ยสฺมึ กตญฺญุตา นตฺถิ นิรตฺถา ตสฺส เสวนา ความกตัญญูไม่มีในคนใด การคบกับคนนั้นก็ไร้ประโยชน์
480525 สพฺพํ รฏฺฐํ โหติ ราชา จ โหติ ธมฺมิโก หากพระราชาเป็นผูท้ รงธรรม(ไม่ลุแก่อคติ๔)ปวงประชาก็เป็นสุข
480527 อาสวานํ ขยา สมโณ โหติ ชือว่า สมณะ ก็เพราะสิ้นอาสวะทั้งหลาย
480528 มนุสฺสภูตํ สมฺพุทฺธํ อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ..เทวาปิ นมสฺสนฺติ
480528-2 พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งทีเป็นมนุษย์ แต่ฝึกพระองค์แล้ว แม้เทพทั้งหลายก็น้อมนมัสการ
หน้า ๓
490615-3 เอตํ ทฺวิธา ปถํ ตฺวา ภวาย วิกวาย จ ตถตฺตานํ นิเวเสยฺย ยถา ภูริ ปวฑฺฒติ บัณฑิตรู้ทางสอง
490615-4 แพร่งแห่งความเจริญและความเสือมนี้แล้ว พึงตั้งตนไว้โดยอาการทีปัญญาเพียงดังแผ่นดินจะเจริญขึ้นเถิด
490618 (มคฺคานฏฺฐงฺคิโก เสฏฺโฐ (บรรดาทางทั้งหลาย ทางมีองค์๘ ประเสริฐสุด
490618-2 เอเสว มคฺโค นตฺถญฺโญ ทสฺสนสฺส วิสุทฺธิยา ทางนีเ้ ท่านั้นเพือความหมดจดแห่งทรรศนะ ทางอืนไม่มี
490618-3 เอตญฺหิ ตุมฺเห ปฏิปชฺชถ มารเสนปฺปมทฺทนํ ท่านทั้งหลายจงเดินทางนี้ ทีเป็นเครืองกําจัดกองทัพมาร
490618-4 เอตญฺหิ ตุมฺเห ปฏิปนฺนา ทุกขสฺสสนฺตํ กริสฺสถ) ท่านทั้งหลายเดินทางนี้แล้ว จักกระทําทีสุดแห่งทุกข์ได้ ดังนี)้
490619 มคฺคานฏฺฐงฺคิโก เสฏฺโฐ บรรดาทางทั้งหลาย ทางมีองค์๘ ประเสริฐสุด
490619-2 สจฺจานํ จตุโร ปทา บรรดาสัจจะทั้งหลาย บททั้ง๔ (อริยสัจ) ประเสริฐสุด
490619-3 วิราโค เสฏฺโฐ ธมฺมานํ บรรดาธรรมทั้งหลาย วิราคธรรมประเสริฐทีสุด
490619-4 ทิปทาญฺจ จกฺขุมา บรรดาสัตว์สองเท้าทั้งหลาย พระพุทธเจ้าผู้มีจักษุประเสริฐสุด
490620 อตฺตนา โจทยตฺตานํ จงเตือนตนด้วยตนเอง
490621 ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารี ขุ.ชา.๒๗/๒๒๘๓/๔๐๐ ธรรมย่อมรักษาผูป้ ระพฤติธรรม
490622 โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ สํ.ส.๑๕/๑๙๙/๕๐ ผูฆ้ ่าความโกรธได้ ย่อมอยู่เป็นสุข
490622-2 โกธํ ฆตฺวา น โสจติ ฆ่าความโกรธได้ จะไม่เศร้าโศก
490622-3 โกธสฺส วิสมูลสฺส มธุรคฺคสฺส เทวเต วธํ อริยา ปสํสนฺติ ตฺหิ ฆตฺวา น โสจตีติ ฯ
490622-4 แน่ะ เทวดา พระอริยเจ้าทั้งหลาย สรรเสริญการฆ่าความโกรธ ซึงมีรากเป็นพิษ มียอดหวาน
490622-5 เพราะฆ่าความโกรธนั้นเสียแล้วย่อมไม่เศร้าโศก ฯ
490623 ธโช รถสฺส ปฺาณํ สํ.ส.๑๕/๒๐๑/๕๐ ธงเป็นสง่าของรถ
490623-2 ธูโม ปฺาณมคฺคิโน ควันเป็นเครืองปรากฏของไฟ
490623-3 ราชา รฏฺ€สฺส ปฺาณํ พระราชาเป็นสง่าของแว่นแคว้น
490623-4 ภตฺตา ปฺาณมิตฺถิยาติ ฯ ภัสดาเป็นสง่าของสตรี
490623 สทฺธรี วิตฺตํ ปุริสสฺส เสฏฐํ ศรัทธาเป็นทรัพย์เครืองปลื้มใจทีประเสริฐทีสุดของคน สํ.ส.๑๕/๒๐๓/๕๑ เทวถาม
490623-2 ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ ธรรมทีประพฤติดีแล้ว นําความสุขมาให้ ขุ.สุ.๒๕/๓๑๑/๒๗๘ อาฬวกยักษ์ถาม
490623-3 สจฺจํ หเว สาธุตรํ รสานํ สัจจะเป็นรสเลิศกว่ารสทั้งหลาย
490623-4 ปญฺ าชีวึ ชีวิตมาหุ เสฏฐํ บัญฑิตกล่าวสรรเสริญบุคคลผู้มีชีวิตอยู่ดว้ ยปัญญาว่าเป็นชีวิตทีประเสริฐ
490624 วิชฺชา อุปฺปตตํ เสฏฺ€า บรรดาสิงทีงอกขึ้น ความรู้เป็นประเสริฐสุด สํ.ส.๑๕/๒๐๖/๕๑
490624-2 อวิชฺชา นิปตตํ วรา บรรดาสิงทีตกไป อวิชชาเป็นประเสริฐ
490624-3 สงฺโฆ ปวชฺชมานานํ บรรดาสัตว์ทีเดินด้วยเท้า พระสงฆ์เป็นผู้ประเสริฐ
490624-4 พุทฺโธ ปวทตํ วโรติ ฯ บรรดาชนผู้แถลงคารม พระพุทธเจ้าเป็นประเสริฐฯ (เพราะนําให้พน้ ทุกข์)
480625 ธมฺเม ฐิโต ปรโลกํ น ภาเย สํ.ส.๑๕/๒๐๘/๕๒ ตั้งอยูใ่ นธรรมแล้ว ไม่ต้องกลัวปรโลก
480626 ราโค อุปฺปโถ อกฺขาติ สํ.ส.๑๕/๑๗๓/๔๕ ราคะบัณฑิตกล่าวว่าเป็นทางผิด
480627 รูปํ ชีรติ มจฺจานํ นามโคตฺตํ น ชีรติ รูปของสัตว์ทั้งหลายย่อมทรุดโทรม นามและโคตรย่อมไม่ทรุดโทรม
480627-2 ราโค อุปฺปโถติ วุจฺจติ สํ.ส.๑๕/๒๑๐/๕๒ ราคะท่านเรียกว่าทางผิด
480627-3 โลโภ ธมฺมานํ ปริปนฺโถ วโย รตฺตินฺทิวกฺขโย ความโลภเป็นอันตรายของธรรม วัยสิ้นไปตามคืนและวัน
480627-4 อิตฺถี มลํ พฺรหฺมจริยสฺส เอตฺถายํ สชฺชเต ปชา หญิงเป็นมลทินของพรหมจรรย์ หมู่สัตว์นี้ย่อมข้องอยูใ่ นหญิงนี้
480627-5 ตโป จ พฺรหฺมจริยญฺจ ตํ สินานมโนทกํ ตบะและพรหมจรรย์ทั้งสองนั้นมิใช่น้ํา แต่เป็นเครืองชําระล้าง
480627-6 ฉ โลกสฺมิ ฉิทฺทานิ ยตฺถ จิตฺตํ น ติฏ€ฺ ติ ในโลกมีช่องอยู่ ๖ ช่องทีจิตไม่ตั้งอยูไ่ ด้
หน้า ๑๐
490708-2 จิตฺตํ คุตฺตํ สุขาวหํ จิตฺตํ รกฺเขถ เมธาวี จิตทีคุ้มครองแล้ว นําสุขมาให้ ผูม้ ีปัญญา พึงรักษาจิต
490709 กาเยน สํวโร สาธุ วาจาย สํวโร สาธุ มนสา สํวโร สาธุ
490709-2 ระมัดระวังกายเป็นความดี ระมัดระวังวาจาเป็นความดี ระมัดระวังใจเป็นความดี
490710 จ เช มตฺตาสุขํ ธีโร ผูฉ้ ลาดควรสละสุขเล็กน้อย เพือสุขยิงใหญ่ของส่วนรวม
490712 ยสฺส รตฺยา วิวสาเน อายุ อปฺปตรํ สิยา วันคืนเคลือนคล้อย อายุเหลือน้อยเข้าทุกที
490712-2 กิจฺจกโร สิยา นโร น จ มชฺเช ทุกคนควรทําหน้าทีของตน และไม่ควรประมาท
490713 ครหาว เสยฺโย วิญฺญูหิ ยญฺเจ พาลปฺปสํสนา วิญญูชนตําหนิ ยังดีกว่าคนพาลสรรเสริญ
490714 ปริภูโต มุทุ โหติ อติติกฺโข จ เวรวา อนุมชฺฌํ สมาจเร
490714-2 อ่อนไปก็ถูกดูหมิน แข็งไปก็มีเวรภัย พึงประพฤติให้พอดี
490720 อุชฺฌตฺติพลา พาลา นิชฺฌตฺติพลา ปณฺฑิตา
490720-2 คนโง่จ้องหาความผิดผู้อืน คนฉลาดพิจารณาความผิดของตน
490722 ธมฺมกาโม ภวํ โหติ ธมฺมเทสฺสี ปราภโว ผูใ้ คร่ธรรมเป็นผู้เจริญ ผู้ชังธรรมเป็นผู้เสือม
490722-2 ขุ.สุ.๒๕/๓๐๔/๒๖๗ ปราภวสูตร
490724 นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก
490728 ททมาโน ปิโย โหติ เทสฺโส จ โหติ อติยาจนาย ผูใ้ ห้ย่อมเป็นทีรัก ผูช้ อบขอย่อมเป็นทีเกลียดชัง
490728-2 ยาจโก อปฺปิโย โหติ ผูข้ อย่อมไม่เป็นทีรักของผูถ้ ูกขอ
490728-3 น เว ยาจนฺติ สปฺปญฺโญ ผูม้ ีปัญญาย่อมไม่ออกปากขอเลย
490729 จิตฺเต สงฺกิลิฏฺเฐ ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา เมือจิตเศร้าหมองแล้ว ทุคติเป็นอันหวังได้
490729-2 จิตฺเต อสงฺกิลิฏฺเฐ สุคติ ปาฏิกงฺขา เมือจิตไม่เศร้าหมองแล้ว สุคติเป็นอันหวังได้
490730 นตฺถิ กามา ปรํ ทุกฺขํ ทุกข์อืนยิงกว่ากามไม่มี
490731 อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุ์ ชีวิตคืออายุมีประมาณน้อย ถูกต้อนเข้าไปเรือยๆ(ดังสัตว์ถูกต้อนไปสู่ความตาย)
490731-2 ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา เมือบุคคลถูกชราต้อนเข้าไปแล้ว ย่อมไม่มีผปู้ ้องกัน
490731-3 เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน บุคคลเมือเห็นภัยนี้ในมรณะ (สํ.ส.๑๕/๘/๓ อุปเนยยสูตร)
490731-4 โลกามิสํ ปชเห สนฺติเปกฺโขติ ฯ พึงละอามิสในโลกเสีย มุ่งสันติเถิด ฯ (ผูเ้ พ่งสันติพึงละโลกามิสเสีย)
490801 อิจฺฉา หิ อนนฺตโคจรา ความอยากไม่มีขอบเขตจํากัด
490917 เสโล ยถา เอกฆโน วาเตน น สมีรติ ขุนเขาไม่สะเทือน เพราะแรงลม ฉันใด
490917-2 เอวํ นินฺทาปสํ สาธุ น สมิญฺชนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตก็ไม่หวันไหว เพราะนินทาหรือสรรเสริญ ฉันนั้น
490925 ตณฺหา ทุกฺขสฺส สมฺภวํ ความอยากเป็นแดนเกิดของความทุกข์
490926 ตณฺหา ทุติโย ปุริโส ทีฆมทฺธาน สํสรํ อิตฺถมฺภาวญฺญถาภาวํ สํสารํ นาติวตฺตติ
490926-2 ผูท้ ีมีตณ
ั หาเป็นเพือน ย่อมท่องเทียวไปสูภ่ พอืนๆ จากภพนี้สู่ภพโน้น
490926-3 แล้วไม่สามารถก้าวพ้นไปจากสังสารวัฏฏ์อันยืดยาวนาน เพราะเป็นผูม้ ีตัณหาเป็นเพือน
490926-4 เอตมาทีนวํ ตฺวา ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ วีตตโณฺห อนาทาโน สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเชติ ฯ
490926-5 ภิกษุผู้มีสติสัมปชัญญะรู้โทษนี้ และรู้ตัณหาเป็นทีเกิดแห่งทุกข์ พึงเป็นผูป้ ราศจากตัณหา
490926-6 ไม่ถือมัน ย่อมเว้นรอบ ฯ องฺ.จตุก.๒๑/๙/๙ (ตัณหาสูตร)
491003 ตุมฺเหหิ กิจฺจํ อาตปฺปํ อกฺขาตาโร ตถาคตา ความเพียรท่านทั้งหลายต้องทําเอง ตถาคตทั้งหลาย -
491003-2 ม.อุ.๑๔/๑๐๓/๖๖ ขุ.ม.๒๙/๓๗/๓๐ ขุ.จูฬ.๓๐/๒๑๙/๘๙ - เป็น(แต่)ผูบ้ อกเป็นผูช้ ี้ทางให้
491004 อิณาทานํ ทุกฺขํ โลเก การกู้หนี้เป็นทุกข์ในโลก
491005 ทุราวาสา ฆรา ทุกฺขา บ้านเรือนทีปกครองไม่ดี นําทุกข์มาให้
หน้า ๑๒
491006 สหสฺสํ อปิ เจ วาจา อนตฺถปทสญฺหิตา เอกํ อตฺถปทํ เสยฺโย ยํ สุตฺวา อุปสมฺมติ
491006-2 คําพูดทีเหลวงไหลไร้ประโยชน์ตั้งพันคํา ก็สู้คําพูดทีมีประโยชน์คําเดียวไม่ได้ เพราะฟังแล้วทําให้จิตใจสงบ
491008 อวิชฺชา ปรมํ มลํ ความไม่รู้ เป็นมลทินทีร้ายทีสุด
491128 โย สหสฺสํ สหสฺเสน สงฺคาเม มานุเส ชิเน ถึงจะรบชนะข้าศึกเป้นพันๆ ราย ก็ไม่นับเป็นยอดขุนพล
491128-2 เอกญฺจ เชยฺยมตฺตานํ ส เว สงฺคามชุตฺตโม แต่ผู้ทเอาชนะจิ
ี ตใจตน จึงเรียกยอดขุนพลแท้จริง
500919 น ชจฺจา วสโล โหติ น ชจฺจา โหติ พฺราหฺมโณ
500919-02 (ม.ม.๑๓/๗๐๗/๔๘๙) บุคคลจะชือว่าเป็นคนชัวเพราะชาติก็หาไม่ จะชือว่าเป็นพราหมณ์เพราะชาติก็หาไม่
500919-03 กมฺมุนา วสโล โหติ กมฺมุนา โหติ พฺราหฺมโณ
500919-04 ทีแท้ ชือว่าเป็นคนชัวเพราะกรรม ชือว่าเป็นพราหมณ์เพราะกรรม
500919-05 กสฺสโก กมฺมุนา โหติ สิปฺปิโก โหติ กมฺมุนา เป็นชาวนาเพราะกรรม เป็นศิลปินเพราะกรรม
500919-06 วานิชฺโช กมฺมุนา โหติ เปสฺสิโก โหติ กมฺมุนา เป็นพ่อค้าเพราะกรรม เป็นคนรับใช้เพราะกรรม
500919-07 โจโรปิ กมฺมุนา โหติ โยธาชีโวปิ กมฺมุนา แม้เป็นโจรก็เพราะกรรม แม้เป็นทหารก็เพราะกรรม
500919-08 ยาชโก กมฺมุนา โหติ ราชาปิ โหติ กมฺมุนา เป็นปุโรหิตเพราะกรรม แม้เป็นพระราชาก็เพราะกรรม
500919-09 เอวเมตํ ยถาภูตํ กมฺมํ ปสฺสนฺติ ปณฺฑิตา ปฏิจฺจสมุปฺปาททสา กมฺมวิปากโกวิทา
500919-10 บัณฑิตทั้งหลายมีปกติเห็นปฏิจจสมุปบาท ฉลาดในกรรมและวิบาก
500919-11 ย่อมเห็นกรรมนั้นแจ้งชัดตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า
500919-12 กมฺมุนา วตฺตติ โลโก กมฺมุนา วตฺตติ ปชา โลกย่อมเป็นไปเพราะกรรม หมู่สัตว์ย่อมเป็นไปเพราะกรรม
500919-13 กมฺมนิ พนฺธนา สตฺตา รถสฺสาณีว ยายโต สัตว์ทั้งหลายถูกผูกไว้ในกรรม -
500919-14 - เหมือนลิมสลักของรถทีกําลังแล่นไปฉะนั้น
501012 ทุกฺขเมว หิ สมฺโภติ ทุกฺขํ ติฏฺ ติ เวติ จ ทุกข์เท่านั้นเกิด ทุกข์เท่านั้นตั้งอยูแ่ ละดับไป
501012-2 นาญฺ ตฺร ทุกฺขา สมฺโภติ นาญฺ ตฺร ทุกฺขา นิรุชฺฌติ ทุกฺขสฺสนฺตกโร สิยา สํ.ส.๑๕/๕๕๔/๑๖๗ (วชิราสูตร)
501012-3 นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ เป็นคนพึงทําทุกข์ให้หมดไปให้ได้
501016 โย จ วสฺสสตํ ชีเว อปสฺสํ อุทยพฺพยํ บุคคลใดถึงจะมีอายุตลอดร้อยปี แต่ไม่เคย
501016-2 มองเห็นการเกิดขึ้นและการเสือมไป
501016-3 เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย ปสฺสโต อุทยพฺพยํ ชีวิตของคนทีเป็นอยู่แม้ขณะเดียว แต่มองเห็นการ
501016-4 เกิดขึ้นและดับไปนั้นประเสริฐกว่า
501019 โย จ วสฺสสตํ ชีเว อปสฺสํ อมตํ ปทํ ผูพ้ บทางอมตะ มีชีวิตอยู่วันเดียว
501019-2 เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย ปสฺสโต อมตํ ปทํ ประเสริฐกว่าชีวิตตั้งร้อยปี ของผูไ้ ม่พบ
501020 อภิตฺถเรถ กลฺยาเณ ปาปา จิตฺตํ นิวารเย พึงรีบเร่งกระทําความดี และป้องกันจิตจากความชัว
501020-2 ทนฺธํ หิ กรโต ปุญฺญํ ปาปสฺมึ รมตี มโน เพราะเมือทําความดีช้าไป ใจจะกลับยินดีในความชัว
501021 สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺฐิติกา สัตว์ทั้งหลายมีชีวิตอยู่ดว้ ยอาหาร
501022 สพฺพโลเก อนภิรตสญฺ า พึงกําหนดหมายในโลกทั้งปวงว่าไม่ควรแก่การยินดีชอบใจ
501022-2 สพฺพสงฺขาเรสุ อนิฏฺฐสญฺ า พึงกําหนดหมายในสังขารทั้งปวงว่าไม่ควรแก่การตั้งความปรารถนาใดๆ
501118 โกธาภิภูโต กุสลํ ชหาติ ผูถ้ ูกความโกรธครอบงํา ย่อมละกุศลเสีย นัย.ขุ.ชา.ทสก.๒๗/๒๘๖
501203 ขตฺติโย เสฏฺโ ชเนตสฺมึ เยโคตฺตตปฏิสาริโน กษัตริย์ เป็นผูป้ ระเสริฐสุด ในหมู่ชนผู้ระลึกถึงโคตร
501203-2 วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโ เทวมานุเส ผูท้ ีถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ -
501203-3 - เป็นผูป้ ระเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
501205 อนตฺเถ น ยุโต สิยา ไม่ควรทําในสิงทีไม่เป็นประโยชน์
หน้า ๑๓
501207 ยถา ทณฺเฑน โคปาโล คาโว ปาเชติ โคจรํ ความแก่และความตาย ไล่ตอ้ นอายุสตั ว์ทั้งหลายไป
501207-2 เอวํ ชรา จ มจฺจุ จ อายุ์ ปาเชนฺติ ปาณินํ เหมือนเด็กเลี้ยงโคถือท่อนไม้ คอยไล่ต้อนฝูงโคไปสูท่ ีหากิน
501208 โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส มํ ปสฺสติ ผูใ้ ดเห็นธรรม ผูน้ ั้นชือว่าย่อมเห็นเรา สํ.ข. ๑๗/๒๑๖/๑๑๗
501208-2 โย มํ ปสฺสติ โส ธมฺมํ ปสฺสติ ผูใ้ ดเห็นเรา ผู้นั้นชือว่าย่อมเห็นธรรม ขุ.ธ.อ.๔๓[๒๖๒] หน้า๓๙๒
501218 ทินฺนํ โหติ สุนีภตํ ทานทีให้แล้ว จะน้อยหรือมากก็ตาม ได้ชือว่าเป็นการเสียสละทีดีแล้ว
501219 ททโต ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ บุญย่อมเจริญแก่ผ้ใู ห้
501220 น นิยฺยโม ตายติ อปฺปปญฺญํ ความเพียร ป้องกันผูป้ ราศจากปัญญาไม่ได้
501220-2 (ความเพียรพยายามอย่างเดียว ย่อมไม่อาจรักษาผู้มีปญั ญาน้อยได้เลย)
501221 สตญฺจ คนฺโธ ปฏิวาตเมติ กลินของคนดี ย่อมหอมหวนทวนลมไปได้
501222 ขโณ โว มา อุปจฺจคา อย่าปล่อยให้โอากาสผ่านไปเสียเปล่า
501223 อุทกํ หิ นยนฺติ เนตฺติกา อุสุการา นมยนฺติ เตชนํ ชาวนา ไขน้ําเข้านา ช่างศร ดัดลูกศร -
501223-2 ทารุ์ นมยนฺติ ตจฺฉกา อตฺตานํ ทมยนฺติ สุพฺพตา - ช่างไม้ ถากไม้ คนดี ฝึกตนเอง
501224 ปมาโท มจฺจุโน ปทํ ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย
501224-2 อปฺปมาโท อมตํ ปทํ ความไม่ประมาทเป็นทางไม่ตาย
501224-3 อปฺปมตฺตา น มียนฺติ ผูไ้ ม่ประมาท ย่อมไม่ตาย
501224-4 เย ปมตฺตา ยถา มตา ผูท้ ีประมาทถึงจะมีชีวิตอยู่ ก็เหมือนตายแล้ว
501226 จเช ธนํ องฺควรสฺส เหตุ องฺคํ จเช ชีวิตํ รกฺขมาโน องฺคํ ธนํ ชีวิตญฺจาปิ สพฺพํ จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต
501226-2 ขุ.ชา.๒๘/๓๘๒/๙๙ พึงสละทรัพย์เพือรักษาอวัยวะ พึงสละอวัยวะเพือรักษาชีวิต เมือระลึกถึงธรรม พึงสละอวัยวะ
501226-3 ทรัพย์และแม้ชีวิตทุกอย่าง(เมือระลึกถึงความถูกต้อง ก็พึงสละทั้งทรัพย์อวัยวะชีวิตหมดสิ้นเพือรักษาธรรมไว้)
501228 มตฺตญฺญุตา สทา สาธุ ความรู้จักประมาณ สําเร็จประโยชน์ในกาลทุกเมือ
501228 หิรีนิเสโธ ปุริโส โกจิ โลกสฺมิ วิชฺชติ ผูห้ ักห้ามใจไม่ทําชัวเพราะละอายบาป หาได้น้อยนัก -
501228-2 โย นิทฺทํ อปโพเธติ อสฺโส ภทฺโร กสามิว - ในโลกนี้ คนเช่นนี้ยอ่ มปลุกตัวเองจากหลับอยูเ่ สมอ
501228-3 - เหมือนม้าดีระวังตัวเองให้พ้นแส้
501230 สุโข พุทธานํ อุปฺปาโท ความเกิดขึ้นแห่งท่านผู้รู้ทั้งหลายเป็นเหตุนําสุขมา
501230-2 สุขา สทฺธมฺม เทสนา การแสดงธรรมของสัตบุรุษเป็นเหตุนําสุขมา
501230-3 สุขา สงฺฆสฺส สามตฺคี ความพร้อมเพรียงของหมู่เป็นหตุนําสุขมา
501230-4 สมคฺคานํ ตโป สุโข ความเพียรของชนผู้พร้อมเพรียงกันเป็นหตุนําสุขมา
501918 น ชจฺจา โหติ พฺราหฺมโณ กมฺมุนา โหติ พฺราหฺมโณ คนเรามิได้ดเี พราะชาติกําเนิด -
501918-2 - แต่ประเสริฐเพราะการกระทํา
510102 มา ชาตึ ปุจฺฉ จรณญฺจ ปจฺฉ อย่าถามถึงชาติกําเนิด จงถามถึงความประพฤติ
510104 สพฺเพสํ สหิโต โหติ คนดี (ย่อม)บําเพ็ญประโยชน์แก่ปวงชน
510105 ปญฺ า สุตวินิจฺฉินี ปัญญาเป็นเครืองวินิจฉัยสิงทีได้เล่าเรียน
510106 นตฺถานนฺท ตถาคตสฺส ธมฺเมสุ อาจริยมุฏฐิ ดูก่อนอานนท์ .. กํามือแห่งอาจารย์ -
510106-2 - ในธรรมทั้งหลายย่อมไม่มีแก่ตถาคต
510107 สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย ธรรมทั้งปวง ไม่ควรยึดมันถือมัน
510109 สุขํ วต ตสฺส น โหติ กิญฺจิ ผูไ้ ม่มีอะไรให้กังวล เป็นความสุขจริงหนอ
510113 นตฺถิ ราคสโม อคฺคิ ไม่มีไฟใดเสมอด้วยราคะ
510113-2 นตฺถิ โทสสโม กลิ ไม่มีโทษใดเสมอด้วยโทสะ
หน้า ๑๔
510206-2 - สิงนั้นก็มีการดับไปเป็นธรรมดา
510530 นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ ความรักเสมอด้วยตนเองไม่มี
510530-2 นตฺถิ ธญฺญสมํ ธนํ ทรัพย์เสมอด้วยข้าวเปลือกไม่มี
510530-3 นตฺถิ ปญฺญา สมาอาภา แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี
510530-4 วุฏฺฐิ เว ปรมา สราติ ฝนจัดเป็นแหล่งน้ําอันยอดเยียม
510531 ปญฺญุตฺตรา สพฺเพ ธมฺมา ธรรมทั้งหลายทั้งปวง มีปญั ญาเป็นยอดยิง
510601 ปญฺ าย ติตฺตีนํ เสฏฺฐํ อิมด้วยปัญญา ประเสริฐกว่าความอิมทั้งหลาย
510603 อสนฺโต นิรยํ ยนฺติ สนฺโต สคฺคปรายนา คนชัวย่อมไปสูน่ รก คนดีย่อมมีสวรรค์เป็นทีไปในเบื้องหน้า
510607 สีลํ ยาว ชรา สาธุ (สํ.ส.๑๕/๑๕๙/๔๒) ศีลให้ประโยชน์จนกระทังแก่ชรา
510607-2 สทฺธา สาธุ ปติฏฺฐิตา ศรัทธาทีมันคงแล้ว ยังประโยชน์ให้สําเร็จ
510607-3 ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นแก้วอันประเสริฐของคน
510607-4 ปุญฺญํ โจเรหิ ทูหรํ บุญโจรนําไปไม่ได้
510613 สตญฺจ ธมฺโม น ชรํ อเปติ ธรรมะของคนดี ไม่มีล้าสมัย
510616 สีลํ โลเก อนุตฺตรํ ศีลเป็นสิงยอดเยียมทีสุดในโลก
510617 อทสฺสเนน พาลานํ นิจฺจเมว สุขี สิยา การไม่พบเห็นคนพาล เป็นความสุขเสมอ
510619 สุขสฺเสตํ ภิกฺขเว อธิวจนํ ฯเปฯ ยทิทํ ปุญฺ านิ คําว่า บุญ นี้ เป็นชือของความสุข ขุ.อิติ.๒๕/๒๐๐/๑๗๓ ปุญญสูตร
510620 ยถา วาริวโห ปูโร วเห รุกฺเข ปกูลเช เอวํ ชราย มรเณน วุยฺหนฺเต สพฺพปาณิโน
510620-2 (ขุ.ชา.) ห้วงน้ําทีเต็มฝั่ง พึงพัดต้นไม้ซงเกิ
ึ ดทีตลิงไป ฉันใด
510620-3 สัตว์ทีมีชีวิตทั้งปวง ย่อมถูกความแก่และความตายพัดไป ฉันนั้น
510624 กลฺยาณํ วต โภ สกฺขิ อตฺตานํ อติมญฺ สิ ท่านก็สามารถทําดีได้ ไฉนจึงดูถูกตนเองเล่า
510625 สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ ผูม้ ีสุข จิตย่อมเป็นสมาธิ
510627 ปาปานิ ปริวชฺชเย พึงละเว้นบาปทั้งหลาย
510714 สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ เมือจิตตั้งมันเป็นสมาธิย่อมเกิดปัญญา(รู้ความจริง)
510716 อปฺปมาทรตา โหถ ท่านทั้งหลายจงเป็นผูย้ ินดีในความไม่ประมาท
510717 ยงฺกิญฺจิ สิถิลํ กมฺมํ น ตํ โหติ มหปฺผลํ การงานอะไรๆ ทีย่อหย่อน ย่อมไม่มีผลมาก
510719 ขนฺติ หิตสุขาวหา ความอดทน นํามาซึงประโยชน์สุข
510720 สทฺธา ทุติยา ปุริสสฺส โหติ (สํ.ส.๑๕/๑๗๕/๓๕.๕๒) ศรัทธาเป็นมิตรคู่ใจคน(ผู้ไปสวรรค์และนิพพาน)
510720-2 ปญญา เจนํ ปสาสติ ปัญญาย่อมปกครอง (แนะนํา) คนนั้น
510720-3 นิพฺพานาภิรโต มจฺโจ สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจติ บุคคลผูย้ ินดีในนิพพาน จึงพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้
510721 ปุญฺ านิ ปรโลกสฺมึ ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ สํ.ส.๑๕/๒๘๓ บุญทั้งหลายเป็นทีพึงของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า
510723 น เว อนตฺถกุสเลน อตฺถจริยา สุขาวหา คนไม่รู้จักประโยชน์ แม้ทําสิงใดก็ไม่มีความสุข
510724 ทิฏฺเฐ ทิฏฺฐมตฺตํ ภวิสฺสติ เมือเห็นก็เป็นเพียงแต่เห็น
510725 สมุฏฺฐาเปติ อตฺตานํ อณุ์ อคฺคีว สนฺธมํ ตั้งตัวให้ได้ เหมือนก่อไฟจากเชื้อนิดเดียว
510726 ธมฺโม กุโลกปตนา ตทธาริธารี พระธรรมทรงผูป้ ฏิบัติธรรมไว้ให้พน้ จากการตกไปในโลกอันชัวช้าเลวทราม
510727 ปญฺ าย อตฺถํ ชานาติ ด้วยปัญญา จึงจะรู้ว่าอะไรเป็นประโยชน์
510728 ปณฺฑิตา โสกนุทา ภวนฺติ บัณฑิตช่วยปัดเป่าทุกข์โศกความเศร้าของปวงชน
510729 เทวา น อิสสฺ นฺติ ปุริสปรกฺกมสฺส ความเพียรของคนไม่ลดละ ถึงเทวดาก็กีดกั้นไม่ได้
510801 เสยฺโย อมิตฺโต เมธาวี ยญฺเจ พาลานุกมฺปโก มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป็นพาล
หน้า ๑๖
511110 อานาปานสฺสติ ยสฺส อปริปุณณา อภาวิตา กาโยปิ อิญฺชิโต โหติ จิตฺตมฺปิ โหติ อิญฺชิตํ
511110-2 ผูใ้ ดไม่เจริญอานาปานสติ กายและจิตของผูน้ ั้นย่อมหวันไหวดิ้นรน
511111 ยถา วาริวหา ปูรา ปริปุเรนฺติ สาครํ ห้วงน้ําทีเต็ม ย่อมยังสาครให้เต็มได้ฉันใด
511111-2 เอวเมว อิโต ทินฺนํ เปตานํ อุปกปฺปติ ทานทีให้แต่โลกนี้ ย่อมสําเร็จแก่ผ้ลู ะไปแล้วฉันนั้น ขุ.ขุ.
511112 ยญฺหิ กยิรา ตญฺหิ วเท ยํ น กยิรา น ตํ วเท บุคคลทําสิงใด ควรพูดสิงนั้น ไม่ทําสิงใด ไม่ควรพูดสิงนั้น
511112-2 อกฺโรนฺตํ ภาสมานํ ปริชานนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตย่อมกําหนดรู้ คนทีไม่ทําได้แต่พูด ขุ.เถร.
511113 อติสีตํ อติอุณฺหํ อติสายมิทํ อหุ ประโยชน์ทั้งหลายย่อมล่วงเลยผูท้ อดทิ้งการงาน
511113-2 อิติ วิสฺสฏฺฐกมฺมนฺเต อตฺถา อจฺเจนฺติ มาณเว ด้วยอ้างว่าหนาวนัก ร้อนนัก เย็นเสียแล้ว
511115 โยนิโส วิจิเน ธมฺมา (สํ.ส.๑๕/๑๔๗/๓๘ องฺ.สตฺต.๒๓/๓/๓) พึงวินิจฉัยธรรม (พิจารณาเรืองราว) โดยรอบคอบ
511115-2 ปญฺ ายตฺถํ วิปสฺสติ ย่อมเห็นอรรถแห่งธรรมชัดด้วยปัญญา (แล้วจะรู้ความหมายได้ด้วยปัญญา)
511116 สพฺพตฺถ สฺวุโต ลชฺชี รกฺขิโตติ ปกุจฺจติ ผูส้ ํารวมระวังในทีทั้งปวง มีความละอายต่อบาป ชือว่ารักตน
511118 พหุมฺปิ รตฺโต ภาเสยฺย ทุฏฺโฐปิ พหุ ภาสยิ คนมีความกําหนัดมักพูดมาก คนโกรธแล้วมักพูดมาก
511118-2 ขุ.ชา.๒๗/๑๗๐๔/๓๐๓
511119 อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ บัณฑิตทั้งหลาย สรรเสริญความไม่ประมาท
511122 โย จ คาถา สตํ ภาเส อนตฺถปทสญฺหิตา บทกวีบรรยายธรรมบทเดียว ทีทําให้ผ้ฟู ังได้รับความสงบ
511122-2 เอกํ ธมฺมปทํ เสยฺโย ยํ สุตฺวา อุปสมฺมติ ประเสริฐกว่าบทกวีทีท่องจําได้ตั้งร้อยโศลก
511122-3 แต่ไม่มีประโยชน์แม้แต่บทเดียว
511123 ยถาปิ รุจิรํ ปุปฺผํ วณฺณวนฺตํ อคนฺธกํ ดอกไม้มีสงี ามแต่ไม่มีกลินหอมแม้ฉันใด
511123-2 เอวํ สุภาสิตา วาจา อผลา โหติ อกุพฺพโต วาจาสุภาษิตก็ฉันนั้น ย่อมไม่มีผลแก่ผ้ไู ม่ทําอยู่ก็ฉันนั้น
511124 ยถาปิ รุจิรํ ปุปฺผํ วณฺณวนฺตํ สคนฺธกํ (ส่วน) ดอกไม้มีสงี ามพร้อมด้วยมีกลินหอมแม้ฉันใด
511124-2 เอวํ สุภาสิตา วาจา สผลา โหติ สุกุพฺพโต วาจาสุภาษิตก็ฉันนั้น ย่อมมีผลแก่ผู้ทําดีอยู่ก็ฉันนั้น
511127 เผณปิณฑูปมํ รูปํ รูปอุปมาด้วยฟองน้ํา เผณปิณฑสูตร ๑๗/๒๔๒-๗/๓๑๖
511127-02 (รูปธรรมทั้งหลายเป้นดังฟองอากาศบนผิวน้ํา ไม่เทียงแท้แน่นอน)
511127-03 เวทนา ปุพฺพุฬปู มา เวทนาอุปมาด้วยต่อมน้ํา(หยดน้ํา)ในยามฝนตก
511127-04 (เวทนาความรู้สึกสุขทุกข์เป็นดังหยดน้ําท่ามกลางสายฝน ย่อมมีความแตกทําลายไปอย่างรวดเร็ว)
511127-05 มรีจิกูปมา สญฺ า สัญญาอุปมาด้วยพยับแดด
511127-06 (สัญญาความทรงจําเปรียบด้วยไอแดด หลอกให้หลงเข้าใจผิด เป็นดังภาพลวงตา)
511127-07 สงฺขารา กทลูปมา สังขารอุปมาด้วยต้นกล้วย
511127-08 (สังขารความนึกคิดปรุงแต่งเปรียบดังต้นกล้วย ไม่มีแก่นสารสาระทีแท้จริง)
511127-09 มายูปมญฺจ วิญฺ านํ วิญญาณอุปมาด้วยมายากล
511127-10 (วิญญาณการรับรู้เกิดดับรวดเร็ว ยึดถือไม่ได้ เป็นดังมายากล)
511203 กาเมหิ โลกมฺหิ น อตฺถิ ติตฺติ ความอิมในกามไม่มีในโลก
511204 เยน ชาเตน นนฺทนฺติ อมิตฺตา ทุกฺขเมสิโน ผูย้ ินดีให้ความโกรธเกิดขึ้น ชือว่าเป็นศัตรู หาทุกข์ใส่ตัวเอง
511205 ทุลฺลโภ ปริสาชญฺโ บุรุษอาชาไนย(นักปราชญ์/พระสัมมาสัมพุทธเจ้า)หาได้ยากยิง
511206 โย จ รกฺขติ อตฺตานํ รกฺขิโต ตสฺส พาหิโร ผูใ้ ดรักษาตนได้ ภายนอกของผูน้ ั้นก็เป็นอันได้รับการรักษาด้วย
511212 ตถตฺตานํ นิเวเสยฺย ยถา ภูริ ปวฑฺฒติ ปัญญาจะเจริญโดยประการใด พึงตั้งตนไว้โดยประการนั้น
511214 โย หิ ปสฺสติ สทฺธมฺมํ โส มํ ปสฺสติ ปณฺฑิโต ผูใ้ ดเห็นพระสัทธรรม ผูน้ ั้นชือว่าเป็นบัณฑิต ย่อมเห็นเรา
511215 ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ หิมวนฺโตว ปพฺพโต คนดีย่อมปรากฏเห็นแต่ไกล เหมือนภูเขาหิมพานต์
หน้า ๒๑
หน้า ๒๔