You are on page 1of 11

นิมิตพิศวง

เรื่อง กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่
เข็มทิศ เรียบเรียง

นิมิตเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2533 วันนี้เป็นวันสงกรานต์ มีประชาชนจากต่างถิ่นได้


แวะมาเยี่ยมไพศาล หลายราย จนกระทั่งใกล้พลบค่่า ผู้คนก็ค่อยๆ ทยอยกลับไป เมื่อเวลา 19.00 น. ผม (นาย
ไพศาล) ก็ได้รับประทาน อาหารเย็นร่วมกับ พ่อ , แม่ หลังจากรับประทานอาหารแล้วก็ได้พูดคุยประสาพ่อแม่
ลูก คุยกันได้สักพัก ผม (นายไพศาล) ก็รู้สึกง่วงเหงาอยากจะหลับนอน และรู้ตัว ว่าจะต้องท่าหน้าที่เหมือนเช่น
ทุกวัน จึงขออนุญาตพ่อและแม่เข้าห้องนอน ซึ่งเป็น เวลาประมาณ 21.00 น. เศษ พอล้มตัว ลงนอนก็ได้หลับ
สนิทไปเมื่อเวลาใดไม่ทราบ จึ งได้นิ มิตไป ในนิมิตนั้น ครูบาคันธาและพญาพิงคราชได้พาผมไปในลักษณะ
เช่นเดิม ท่านพาไปไปในลักษณะปลิวขึ้นไปโดยสภาพไร้น้่าหนัก และไร้จุดหมาย ปลายทาง ท่านทั้งสองได้พาไป
ไกลพอสมควร จึงได้มาลงในสถานที่แห่งหนึ่ง สถานที่ แห่งนั้นเป็นหัวถนน ถนนสายนี้มีความกว้างประมาณ 9
วา และที่หัวถนนมีต้นไม้ 2 ต้น ต้นไม้ 2 ต้นนี้สูงชะลูดตรง ลักษณะคล้ายต้นประดู่ มีดอกคล้ายดอกสลิด มี
กิ่งก้านสาขาคล้ ายต้นโพธิ์ ใบมีลั กษณะเหมือนใบมะขาม โดยเฉพาะดอกส่ งกลิ่ น หอมฟุ้งไปทั่ว หอมเย็น
เหมือนดอกพิกุลแห้ง ท่านครูบาคันธาและพญาพิงคราช ได้พาผมไปถนนสายนั้น ตัวผมก็ได้สังเกตเห็นว่า สอง
ข้างทางของถนนเป็นบ้าน เป็นสถานที่อยู่อาศัยมากมาย มองไปจนสุดสายตายังเห็นเป็นบ้านอยู่อาศัย บ้านแต่
ละหลังอยู่ห่างกันประมาณ 9 วา มีลักษณะทรงจตุรมุขขนาดย่อมและ ขนาดกลาง โดยฟากหนึ่งเป็นจตุรมุข
ขนาดย่อม อีกฟากหนึ่งเป็นจตุรมุขขนาดกลาง ท่านทั้งสองพาผมเดินผ่านหมู่บ้านนั้นไปเรื่อย ๆ จึงได้มาหยุด
หน้าบ้าน จตุรมุข ขนาดกลางหลังหนึ่ง ณ ที่นั้น ได้มีคนนั่งรออยู่แล้ว มีลักษณะเตรียมพร้อมและ รอคอยนั้น ๆ
เป็นผู้ชายอายุประมาณ 60 ปีเศษ หวีผมแสกกลาง มีลักษณะสูงใหญ่ เมื่อไปถึงท่านพญาพิงคราชได้พูดกับชาย
คนนั้นว่า “สูเจ้ามีเรื่องราวอะไรที่จะส่งข่าว ไปยังโลกมนุษย์ก็สั่งได้แล้ว”
ชายคนนั้นยกมือไหว้ แล้วพูดขึ้นว่า
“กราบนมัสการท่านครูบา และพญาพิงคราช” พร้อมทั้งผมด้วย (นายไพศาล) ผมก็ยกมือไหว้ตอบ
ท่าน ชายคนนั้นจึงพูดขึ้นมาอีกว่า ตัวข้าพเจ้านี้ มีชื่อว่า “เซียงมี” ได้สิ้นบุญจากโลกมนุษย์แล้วเมื่อเดือน 12
ขึ้น 8 ค่่า พ.ศ. 2318 เมื่อสิ้นบุญจากโลกมนุษย์แล้ว ตัวข้าฯ ก็ได้ไปเสวยบุญกุศลที่ได้สร้างไว้ และ ได้รับบัญชา
จากโลกทั้งสามให้มาอยู่สถานวิมานแห่งนี้ ซึ่งสถานวิมานแห่งนี้ก็คือ กองบุญกุศลที่ตัวข้าพเจ้าได้สร้างสมเมื่อ
สมัยที่มีอยู่ในโลกมนุษย์ และ ได้เกิด อานิสงฆ์ในโลกนี้ ซึ่งปัจจุบันตัวข้าพเจ้าได้รับบัญชาจากโลกทั้งสาม คือให้
ดูแลเมือง ยโสธร ไม่ให้มีเภทภัยอันตราย ให้อยู่ด้วยกันด้วยความสามัคคีไม่ให้เป็นบ้านห่าง เมืองร้าง ท่านครูบา
คัน ธาและพญาพิ งคราชมาโปรด ข้า พเจ้ าก็มีค วามดีใจ เป็น อย่างมากที่จะได้สั่ ง เรื่องราวไปยัง โลกมนุษ ย์
เรื่องราวที่จะสั่งนั้นก็คือ เรื่อง พระธาตุกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ ซึ่งบางสิ่งบางอย่างโลกมนุษย์ก็ยังไม่รู้ เรื่องนี้ข้าฯ
ไม่ได้พูดไว้ ไม่ได้สั่งไว้ก็ไม่มีใครบอกได้แล้ว เพราะตัวข้าฯ (เซียงมี) จะต้อง ไปเกิดในโลกมนุษย์ในปี 2540 และ
ตัวข้าฯ ยังไม่หมดเชื้อเกิดและต้องเป็นไป ตามกฎแห่งกรรม ตามหลักในทางพระพุทธศาสนาที่วางไว้ บริเวณ
พระธาตุกล่อง ข้าวน้อยนั้น ก่อนนั้นกว้างยาวออกไปทั้งทางทิศเหนือจดทางใต้ ตะวันออกจด ตะวันตก ข้างละ
1 กิโลเมตร เป็นบริเวณที่ตั้งศาสนสถาน เจริญมาตั้งแต่ พ.ศ. 1378 - 1500 ก็มีการเสื่อมโทรมลงตั้งแต่นั้นมา
สถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่ของพวกขอม เดิมและชาวเมืองแถวนี้มีไม่กี่คน สถานที่แห่งนี้เป็นป่าดงขนาดใหญ่ ไม่มี
ใคร ย่างกรายเข้ามา จนถึงปี พ.ศ. 2200 ก็มีการพัฒนาแผ้วถางตัดต้นไม้ ลงไม่ให้เป็น ที่หวาดกลัวของมนุษย์
และบริเวณแห่งนี้ก็เป็นที่ตั้งศาสนสถาน
ในปี พ.ศ. 2295 ทางโลกมนุษย์ได้สร้างวิบากกรรม ลูกฆ่าแม่ (มาตุฆาต) โดยมิได้เจตนา กล่าวคือ มี
ครอบครัวหนึ่ง หัวหน้าครอบครัวชื่อ เชียงทอง ภรรยาชื่อ นางแว่น มีลูกด้วยกัน 5 คน เรียงตามล่าดับ ดังนี้
1. นายแม่น 2. นายหมู 3. นายเขียว 4. นางข้อง 5. นายหล้า ครอบครัวนี้มีอาชีพท่านา ในระหว่าง
ก่าลังอยู่ในช่วงจะเข้าพรรษาการท่านาใกล้ จะเสร็จดีแล้ว พี่น้องทุกคนจึงปล่อยให้ นายหล้า น้องชายคนเล็กไป
ดูแลแผ้วถางตามคันนาที่เป็นหญ้ารก นายหล้าได้ ท่าหน้าที่แผ้วถางหญ้า ตั้งแต่เช้าจนถึงกลางวัน นายหล้าได้
เฝ้ารอคอยผู้เป็นแม่และพี่ชายที่จะน่าอาหารมาส่งให้ แต่กว่าแม่จะมาถึง ก็ตะวันบ่ายมากแล้ว นายหล้าพอเห็น
แม่เอากล่องข้าวเล็กมา จึงถามแม่ไปว่า ท่าไมจึงมา ส่งข้าวช้า ผู้เป็นแม่เดินมาก็เหนื่อย จึงบอกว่า ที่มาส่งช้า
เพราะดูแลพ่อที่แก่แล้ว พี่ของเจ้าทุกคนพยายามแบ่งอาหารมาให้ นายหล้าเห็นข้าวที่ใส่มาในกล่องใบ เล็ก
กับข้าวก็ใส่ใบตองเล็กน้อย จึงเกิดความโมโห นึกว่าแม่ลักกินข้าวและกับข้าวที่ฝากมา ผู้เป็นแม่ก็เถียงไปว่า
ไม่ได้ท่าด้วยความโมโหหิว นายหล้าก็เอาไม้กระท่อมตีที่กกหู ทีเดียว แม่ก็ตายคาที่ เลือดออกทางหูและทางตา
แน่นิ่งไป เมื่อเห็นแม่แน่นิ่งไป นายหล้าก็ไม่ได้สนใจ มองดูที่กล่องข้าว เปิดกล่องข้าวและกับข้าวที่ห่อใบตอง มา
กินจนอิ่มจนจุกท้อง ก็ปรากฏว่า ข้าวและกับข้าวก็ยังไม่หมด จึงได้เก็บกล่องข้าวและ อาหารนี้ไว้ แล้วจึงหันมา
คุยกับแม่ซึ่งแน่นิ่งอยู่ จึงไปถึงแม่ลุกขึ้นมา ปรากฏว่าแม่ หมดลมหายใจไปแล้ว นายหล้ามีความกลัดกลุ้ มใจเป็น
อย่างมาก แล้วจึงน่าเรื่อง มาเล่าให้พี่น้องฟัง พี่น้องก็ดุด่าแสดงความเสียใจ เก็บศพแม่ไว้ และท่าบุญฌาปนกิจ
ใน 7 วัน อุทิศส่วนบุญกุศลไปทุกวันเป็นเวลาหนึ่งพรรษา ครอบครัวนี้ก็ไม่หาย เศร้าโศก จึงได้ น่าเรื่องนี้ไป
ปรึกษาพระเถระผู้รู้ธรรม ชื่อว่า สาธุเจ้าธรรมวุ ฒิ อยู่วัด อัมพวัน ป่ามะม่วง จังหวัดยโสธร ท่านสาธุเจ้าจึงให้
ค่าปรึกษาว่า “สมควรจะสร้างเจดีย์ เพื่อไถ่ถอนบาปกรรมที่ ท่าไว้กับแม่” นายหล้ามีความปีติยินดีเป็นอย่าง
มาก ได้ปรึกษา หารือกับพี่น้องแลเพื่อนบ้าน จัดสร้างพระเจดีย์ขึ้นในบริเวณวัดร้าง ที่เห็นปัจจุบัน โดยผู้ มีส่วน
ร่วมก่อสร้าง มีชื่อดังต่อไปนี้
1. นายเชียงทอง 2. นายแม่น 3. นายหมู
4. นายเขียว 5. นางข้อง 6. นายหล้า
7. นายพวง 8. นางเขียน 9. นายปิ้ง
10. นายชอน 11. นายบัว 12. นายจันทร์
13. นายทาบ 14. นายแท่น 15. นายเผือ
16. นายเผือ 17. นายลาด 18. นายนวล
19. นายก้อน 20. นายสิน 21. นายสิงห์
22. นายโหมด 23. นายเพชร 24. นายม่วง
25. นายมา 26. นายหยอด 27. นายค่า
28. นายบ่อ 29. นายทั่ง 30. นายเข็ม
31. นายพร 32. นายทิน 33. นายหลาบ
34. นายตุ่น 35. นายพ่วง 36. เซียงอุ่น
37. เซียงเหลี่ยว 38. เซียงนาค 39. เซียงพู
40. เซียงทด 41. นายเถา 42. นางใบ
43. นางมี 44. นางน้อย 45. นางหยาด
46. นางแป้น 47. นางมา 48. นางจีบ
49. นางสม 50. นางฮัง 51. นางปูน
52. นางแต้ม 53. นางเพิ่ม 54. นางกลัด
55. นางแฝก 56. นางอูม
ในจ่านวน 56 คนนี้ แบ่งออกเป็น 7 กลุ่ม ๆ ละ 8 คน
กลุ่มที่ 1 ประกอบด้วย
1. นายเชียงทอง 2. นายแม่น 3. นายหมู
4. นายเขียว 5. นางข้อง 6. นายหล้า
7. นายพวง 8. นางเขียน
กลุ่มนี้มีหน้าที่ คอยแผ้วถางและปรับพื้นที่ให้เหมาะสม
กลุ่มที่ 2 ประกอบด้วย
1. นายบึง 2. นายชอน 3. นายบัว
4. นายจันทร์ 5. นายทาบ 6. นายแท่น
7. นายเผือ 8. นายคือ
กลุ่มนี้มีหน้าที่ ปั้นก้อนอิฐเพื่อใช้ในการก่อสร้าง
กลุ่มที่ 3 ประกอบด้วย
1. นายลาด 2. นายนวล 3. นายก้อน
4. นายสิน 5. นายสิงห์ 6. นายโหมด
7. นายเพชร 8. นายม่วง
กลุ่มนี้มีหน้าที่ ในการออกแบบการก่อสร้างพระเจดีย์
กลุ่มที่ 4 ประกอบด้วย
1. นายมา 2. นายหยอด 3. นายค่า
4. นายบ่อ 5. นายทั่ง 6. นายเข็ม
7. นายพร 8. นายทิน
กลุ่มนี้มีหน้าที่ ก่อสร้างพระเจดีย์
กลุ่มที่ 5 ประกอบด้วย
1. นายหลาบ 2. นายตุ่น 3. นายพ่วง
4. เซียงอุ่น 5. เซียงเหลียว 6. เซียงนาค
7. เซียงพู 8. เซียงทด
กลุ่มนี้มีหน้าที่ คอยดูแลและควบคุมการก่อสร้าง
กลุ่มที่ 6 ประกอบด้วย
1. นายเถา 2. นางใบ 3. นางมี
4. นางน้อย 5. นางหยาด 6. นางแป้น
7. นางมา 8. นางจีบ
คนกลุ่มนี้มีหน้าที่ หาเสบียงมาประกอบอาหาร
กลุ่มที่ 7 ประกอบด้วย
1. นางสม 2. นางฮัง 3. นางปูน
4. นางแต้ม 5. นางเพิ่ม 6. นางกลัด
7. นางแฝก 8. นางอูม
กลุ่มนี้มีหน้าที่ในการดูแล เก็บกวาด และท่าความสะอาด
ด้วยบุญกุศลที่ทั้ง 56 คน ได้ตั้งใจท่าด้วยความจริงใจ ทั้งกาย วาจา และสิ่งของ แล้วได้ ท่าบุญท่าทาน
อย่างเต็มที่ ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ด้วยการยึดศรัทธา เป็นใหญ่ บุญกุศลจึงบันดาลให้แต่ละคนไปเกิดตาม
แรงบุญ แรงกรรมของแต่ละคน รวมทั้งแรงอธิษฐานของแต่ละคน ดังนี้

ลาดับที่ ชื่อเดิม ชื่อปัจจุบัน ที่อยู่


1. นายเชียงทอง - ไปเกิดในประเทศ
สาธารณรัฐประชาชนจีน
2. นายแม่น ไปเกิดเป็นเทพฯ
3. นายหมู นายทรงศักดิ์ คุณอุดม
4. นายเขียว นายผดุงศักดิ์ ชัยอาสา
5. นางข้อง ชาตินี้เป็นผู้ชายชื่อ
นายเหรียญ สุขนอก
6. นายหล้า มนทอง (หรือกรงทอง)
ฟังไม่ชัด ศรีมงคล
7. นายพวง นายวิบูลย์ ตุลยายน
8. นางเขียน นายวัฒนา เพิ่มสิน
9. นายบึ่ง นายโยธิน เมธชนันท์
10. นายชอน นายเจริญ พรหมนิมิต
11. นายบัว นายชยานันท์ ศิลปะอนันต์
12. นายจันทร์ พิจิตร วงษ์จินดา
ตั้งแต่หมายเลข 3-12
ให้ ไ ปถามหรื อ พบคนใด
คนหนึ่งให้ถามก็จะรู้เอง
นายทาบ
13. นายเลิศ บรรเลงเสนาะ
นายแท่น
14. นายโสภณ ชวาลกูล
หมายเลข 13 – 14 ทั้ง
สองคนนี้รู้จักกัน
นายเผือ
15. ชาตินี้เป็นผู้หญิงชื่อ เรไร ศรีฐาน 100 บ้านน้่าอ้อม ต.ก้อวัง จ.ยโสธร
16. นายผือ ชาติ นี้ เ ป็ น ผู้ ห ญิ ง ชื่ อ นางอั ม พร 20/1 ถ.ชยางกูร ซอยร่ว มจิตร อ.
วรรณพิน เมือง จ.อุบลราชธานี

ลาดับที่ ชื่อเดิม ชื่อปัจจุบัน ที่อยู่


17. นายลาด ชาตินี้เป็นผู้หญิงชาตินี้เป็นผู้หญิง ชื่อ อยู่บริษัทเดินอากาศไทย
นิลุบล ฤกษ์ดี ถ.ชยางกูร อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
18. นายนวล นายเชื่อมศักดิ์ รักษาพันธุ์ 20 บ้านห้วยก้อม ต.สาเดียว
อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์
19. นายก้อน นายบุญเลิศ บ่ารุงทรัพย์ 2013/10 ถ.ประชาสงเคราะห์
เขตห้วยขวาง กทม.
20. นายสิน นายอารักษ์ ฟูตระกูล ส่านักงาน รพช. กทม.
21. นางสิงห์ เกิดชาตินี้เป็นผู้หญิง ชื่อ บุปผา ส่านักงานบริการโทรศัพท์
ชบาไพร จ.สุราษฎร์ธานี
22. นายโหมด นายศุภวัฒน์ คงสุวรรณ ธนาคารทหารไทย ฝ่ ายการตลาด
ปทุมวัน กทม.
23. นายเพชร นายสุรชัย เข็มพงศ์ธร 17/118 ซอยคริสจักร
ถ.จรัล สนิทวงศ์ เขตบางกอกใหญ่
กทม.
24. นายม่วง นายธีรกุล วัฒนากุล 15 ถ.สะแกง อ. เมือง จ.สงขลา
25. นายมา เป็นต่ารวจชื่อสมชาย ฟังต่อตระกูล สภอ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
26. นายหยอด นายอรรณพ เพียรชนะ 139 หมู่ 1 ต.หนองหลวง
อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
27. นายค่า ชาตินี้เป็นผู้หญิงชื่อ นางบัวลินา โรงเรียนบ้านกู่ ต.กู่ อ.ปรางค์กู่ จ.
ศรีสะเกษ
คชสิทธิ์
28. นายก่อ ชาตินี้เป็นผู้หญิงชื่อนางสังวาลย์ 329 ต.คลองกะแซง อ.เมื อ ง จ.
สุขโต เพชรบุรี

29. นายทั่ง นายปิยากร โมกขศักดิ์ 21-23 ถ.เทศบาลเมือง อ.เมือง จ.


ปราจีนบุรี
30. นายเข็ม นายวสันต์ เลิศธรรมเทวี
31. นายพร นางจันทร์สว่าง เลิศธรรมเทวี
32. นายทิน นายนิธิศักดิ์ ราชพัช
33. นายหลาบ นายทรงพล มะลิกุล
34. นายตุ่น นายบรรดาศักดิ์ บุญบันดาล
35. นายพ่วง นายบุญสอด วิเชียรสรรค์
36. เซียงอุ่น นายชัยรัตน์ มาประณีต

ลาดับที่ ชื่อเดิม ชื่อปัจจุบัน ที่อยู่


37. เซียงเลี่ยว นายมนไท ประมูลจักโต ตั้งแต่ล่าดับที่ 32-40 ตัวข้า
(เซียงมี) ไม่ขอบอกที่อยู่ ต่อไปภาย
หน้าจะได้รู้จักกันหลังจากเรื่องนี้ได้
เผยแพร่ไปแล้ว
38. เซียงนาค นายนิคม บุญณพันธ์ศรี
39. เซียงพู นายเถลิง ครามาค่า
40. เซียงทด นายชาติสง่า โมฟิชาติ
41. นายเถา นายเรืองชัย เกียรติอุบลไพบูลย์ จ.นครปฐม
42. นางใบ มีบุญมาก ได้เกิดเป็นผู้ชาย 73/25 ซอยพงศ์ ด่ า ริ ดอนเมื อ ง
นายปราโมทย์ โชติมงคล กทม.

43. นางมี นางสมพิศ ทรัพย์ศิริ บุคคลนี้ ตัว ข้า ฯ (เซี ยงมี) ไม่ขอบ
อกที่ อยู่ เ พราะเป็ น หน้า ที่ ของคน
อื่ น ที่ จ ะ บอกให้ ห ลั ง จากเรื่ อ งนี้
เผยแพร่ไปไม่นาน
44. นางน้อย มีบุญมากได้เกิดเป็นผู้ชายชื่อ พัฒน์ 2 4 / 1 2 ซ อ ย สั ง ข ฤ ก ษ์ เ ห นื อ
พงค์ สีเทียนอินทร์ ลาดพร้าว จตุจักร กทม.
45. นางหยาด นางครุเนตร วรสาร
46. นางแป้น มีบุญมากได้เกิดเป็นผู้ชายชื่อ โรงเรี ย นบ้ า นนาคู อ.เขาวง จ.
กาฬสินธุ์
นายวิชิต ภูสีฐาน
47. นางมา มีกรรมบางอย่างมาตัดรอนให้เกิด โรงเรี ย นบ้ า นหนองเที่ ย หรื อ นา
เป็นปลาทูอยู่ในทะเลอ่าวไทย สิ้นบุญ หนองเที่ย (ฟังไม่ชัด) อ.กุดชุม จ.
แล้ว จะได้เป็นมนุษย์ใน วันที่ 15 ยโสธร
พฤษภาคม 2538
48. นางจีบ มีกรรมบางอย่างมาตัดรอนให้ เกิด
เป็นสุนัขจิ้งจอกอยู่ใน ป่าดงพญาเย็น
49. นางสม มีบุญได้เกิดเป็นผู้ชาย ชื่อ นายสุวัฒน์ หมายเลข 49-50 ทั้ ง 2 คนนี้ ไ ด้
ทาสอดส่อง อ ธิ ษ ฐ า น ร่ ว ม กั น ใ น อ ดี ต ช า ติ
ปั จ จุ บั น อยู่ บ้ า นเลขที่ 186 บ้ า น
สามพร้ า ว อ.เมื อ ง จ.อุ ด รธานี
(ปัจจุบัน ได้อยู่ร่วมกัน)
50. นางฮัง นางบุญศรี ทาสอดส่อง

ลาดับที่ ชื่อเดิม ชื่อปัจจุบัน ที่อยู่


51. นางบุ่น มีบุญได้เกิดเป็นผู้ชาย ชื่อ ประยงค์ 129/5 บ้านสอยดาว ต.จันทึก อ.
ขันติพงค์ ปากช่อง จ.นครราชสีมา
52. นางแต้ม
53. นางเพิ่ม
54. นางกลัด เกิดมาชาตินี้มีบุญเป็นชาย ชื่อนาย 194/2 บ้านเหมืองนา ต.ทุ่งเสลี่ยม
สมชาย มงคลวงศ์ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย
55. นางแฝก เกิดมาชาตินี้มีบุญได้เกิดเป็นผู้ชายชื่อ 78/65 ถ.เทศบาล อ.ขลุ ง จ.
นายณรงค์ ไพบูลย์ จันทบุรี
56. นางอูม เกิดมาชาตินี้มีบุญเป็นผู้ชายชื่อ ชื่อท่านองนี้ ข้าฯ (นายไพศาล) ฟัง
ไม่ชัด ได้ไปเกิดอยู่ที่ฮ่องกง ตัวข้าฯ
นายหม่าชั้นเหว่ย
(เซี ย งมี ) ไม่ ข อบอก ที่ อ ยู่ เพราะ
ต่อ ไปเป็ น หน้ า ที่ข องคนอื่น ที่ จ ะ
บอกให้

ส่วนผู้เป็นแม่ของนายหล้า ชื่อ นางแว่น เกิดมาชาตินี้เป็นชายชื่อ นายจ่าย ศรีมงคล อยู่บ้านเลขที่ 100


ถนนส่งศรี ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี
เออนี่นะไพศาล เซียงมีพูดขึ้น ในระหว่างการด่าเนินงานก่อสร้างนั้น หมู่คนทั้ง 56 คน ได้มีความตั้งอก
ตั้งใจท่างานพร้อมด้วยกาย วาจา ใจ โดยเอาศรัทธา เป็นหลักมั่น และไม่พูดถึงสิ่งที่ไม่เป็นมงคลในระหว่างการ
ก่อสร้าง แต่การก่อสร้าง ครั้งนั้นได้มีมารผจญอยู่นิดหนึ่ง คือ มีพรานล่าสัตว์คนหนึ่ง ได้ล่าสัตว์มาถึงบริเวณ ที่
ก่อสร้างพระเจดีย์กล่องข้าวน้อย โดยไล่ยิงกระต่ายและหมูป่า หมู่คนที่เห็นก็ได้ ทักท้วงไม่ให้ท่า แต่พรานคนนั้น
มีจิตใจทีอ่ ่ามหิต ถูกความโลภเข้าครอบง่า จึงได้ล่าสัตว์ตัวนั้น โดยยิงธนูเข้าใส่สัตว์ทั้งสองจนถึงแก่ความตายลง
พรานคนนั้น มีชื่อว่า “พรานปาน” เป็นคนบ้านหนองตุน ปัจจุบันโลกมนุษย์เรียกว่า “บ้านเกิด”
ด้วยบาปกรรมนั้น พรานปานได้เกิดเป็นมนุษย์แต่ต้องสิ้นบุญก่อนอายุขัยตลอดเวลาซึ่งปัจจุบันพราน
ปานได้เกิดเป็นมนุษย์ชื่อว่า “นายสมนึก ทับไกว” มีบุญกรรม เป็นอย่างไรให้ไปถามที่นางชนะ หรือนายสุชาติ
ทับไกว อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 7 ต.อ่าแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร
เซียงมี พูดเสร็จใบหน้าท่านเศร้าหมองเล็กน้อย ต่อมาก็ยิ้มขึ้นนิดหนึ่ง แล้วพูดว่า การก่อสร้างพระ
เจดีย์กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่นี้ ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน 56 วัน ก็แล้วเสร็จ วัน ท่าการก่อสร้าง ตั้งแต่ เดือน 10
ขึ้น 9 ค่่า พ.ศ. 2295 นับจากนั้น 1 เดือน 56 วัน จึงเสร็จตามที่ว่าไว้ เมื่อสร้างพระธาตุเจดีย์เสร็จแล้ว จึงได้มี
การท่าบุญฉลองสมโภชน์ครั้งใหญ่ในคราวนั้น ซึ่งเป็นวันออกพรรษาฉลอง เป็นเวลา 9 วัน บุคคลทั้ง 56 คน ได้
นิมนต์พระสงฆ์ที่เคร่งครัดในศีลาจริยวัตร มาท่าบุญถวายให้เป็นพุทธบูชาและเป็นการไถ่ถอนบาปกรรมที่ได้ ท่า
กับแม่ โดยความ ไม่ได้ตั้งใจหรือเจตนา
พระสงฆ์ที่เคร่งครัดได้นิมนต์มาทั้งหมด 11 รูป มีชื่อดังนี้
1. ท่านสาธุเจ้าธรรมวุฒิ
2.ท่านเถรเจ้าคันทาจาโร
3. ท่านเถรเจ้าอุตโม
4. ท่านเถรเจ้าทิสโร
5. ท่านสาธุเจ้าอุตโม
6. ท่านเถรเจ้ากตปุญโญ
7. ท่านเถรเจ้าเรวโต
8. ท่านเถรเจ้านิมมโล
9. ท่านสาธุเจ้าพุท ธิญาโณ
10. ท่านเถรเจ้าอินทโชโต
11.ท่านเถรเจ้าธรรมเสโน
พระสงฆ์ทั้ง 11 รูปนี้ล้วนเป็นพระธุดงค์มาทั้งนั้น โดยทั้ง 11 รูป นี้เป็นสหธรรมมิตรกัน เมื่อ ท่าบุญ
เสร็จ หมู่คนทั้ง 56 คน ได้อธิษฐานจิตกันไว้ ขอให้ได้ไปเกิดร่วมกัน ให้ได้ไปพบกันทุกภพทุกชาติ ขอให้ได้ไป
เกิดที่มั่งมีศรีสุข มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ ขอให้ไปเกิดที่ต่างบ้านต่างเมือง ด้วยแรงบุญที่เขาได้ ท่ากันไว้ซึ่งพร้อม
ด้วย กาย วาจา ใจ และสิ่งของ ตลอดจนถึงพระสงฆ์ก็เป็นพระที่ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ จึงได้ส่งผลให้เขาได้ไป
เกิดตามแรงที่เขาปรารถนาไว้ได้เป็นส่วนมาก ตามที่ข้า (เซียงมี) ได้บอกไว้นั่นแหละ
เซียงมีได้พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะเสียงดังลั่นอีกครั้งหนึ่ง แล้วพูดขึ้นมาอีกว่า พระสงฆ์ทั้ง 11 รูป ที่ได้
นิมนต์มา ปัจจุบันก็ได้ไปเกิดเป็นมนุษย์และยังเป็นพระอยู่ มีบางองค์ก็ได้หมดเชื้อเกิดไปแล้ว ตัวข้าง (เซียงมี) ก็
ขอบอกไว้ให้ดังนี้นะ

ลาดับที่ ชื่อเดิม ชื่อปัจจุบัน ที่อยู่


1. ท่านสาธุเจ้าธรรมวุฒิ ท่านเถรเจ้าทัศนัย ฐิตศิริ วัดอัมพวัน อ.เมืองจ.ยโสธร
2, ท่านเถรเจ้าคันทาจาโร ท่านเถรเจ้ากงโฆษโก วัดอุฒาจารย์ อ.พรรณานิคม
จ.สกลนคร
3. ท่านเถรเจ้าอุตโม เถรเจ้า วัดศรีวิชัยวนาราม อ.เมือง จ. เลย
4. ท่านเถรเจ้าทิสโร ท่านเถรเจ้าสารคุณาภรณ์ วัดบูรพา อ.เมือง จ.ยโสธร
5. ท่านเถรเจ้าอุตโม ท่านเถรเจ้าเสาร์ วัดอุทยาราม อ.มหาชนะชัย
จ.ยโสธร
6. ท่านเถรเจ้ากตปุญโญ สิ้นบุญหมดเชื้อเกิดไปแล้ว
7. ท่านเถรเจ้าเรวโต สิ้นบุญหมดเชื้อเกิดไปแล้ว
8. ท่านเถรเจ้านิมโล สิ้นบุญหมดเชื้อเกิดไปแล้ว
9. ท่านเถรเจ้าพุทธิญาโณ ท่านเถรเจ้าเทพ นันโท วัดกลาง อ.เมือง จ.สุรินทร์

ลาดับที่ ชื่อเดิม ชื่อปัจจุบัน ที่อยู่


10. ท่านเถรเจ้าอินทโชโต ท่านเถรเจ้าชาลี โชติธรรมโน วัดกลางรัตนบุรี จังหวัดไหน
ให้ไปถามท่านเถรเจ้าเทพนันโท
ท่านจะบอกให้
11, ท่านเถรเจ้าธรรมเสโน เถรเจ้าอ้วน ติสโส สิ้นบุญจากโลกมนุษย์ไปแล้ว
อยู่วัดไหนให้ไปถามหมู่คนใน โลก
มนุษย์จะรู้จักดี

You might also like