You are on page 1of 5

หนา้ ๑

เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๓๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓

ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง กาหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลีย่ นการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท
ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จงั หวัดนครราชสีมา

โดยที่เป็นการสมควรกาหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิด


หรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อประโยชน์แห่งการผังเมือง และ
การอานวยความสะดวกแก่การจราจร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอาศัยอานาจตามความใน
มาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยคาแนะนาของอธิบดีกรมโยธาธิการ
และผังเมืองออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี้
“อาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง” หมายความว่า อาคารที่ใช้เพื่อประโยชน์ในการ
ขายปลี ก หรื อ ขายส่ ง หรื อ ทั้ ง ขายปลี ก และขายส่ ง ซึ่ ง สิ น ค้ า อุ ป โภคและบริ โ ภคหลายประเภทที่ ใ ช้
ในชีวิต ประจาวัน แต่ไ ม่ห มายความรวมถึงตลาดตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข และอาคาร
ที่ มี กิ จ กรรมหลั ก เพื่ อ ใช้ ด าเนิ น การเพื่ อ ส่ ง เสริ ม หรื อ จ าหน่ า ยสิ น ค้ า ซึ่ ง เป็ น ผลิ ต ผลหรื อ ผลิ ต ภั ณ ฑ์
ของชุมชน
“ระดับพื้นดิน” หมายความว่า ระดับพื้นดินที่ก่อสร้างกรณีไม่มีการถมดิน หรือระดับพื้นดิน
ที่ก่อสร้างกรณีมีการถมดินที่ไม่สูงกว่าระดับถนนที่อยู่ใกล้ที่สุด หรือระดับถนนกรณีมีการถมดินสูงกว่า
ระดับถนนที่อยู่ใกล้ที่สุด
ข้อ ๒ การคานวณพื้นที่ใช้สอยอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง ให้คานวณเฉพาะ
พื้นที่อาคารที่ใช้ประโยชน์เพื่อประกอบกิจการพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง โดยไม่ต้องนาพื้นที่
เก็บสินค้า พื้นที่สานักงาน และพื้นที่ส่วนอื่นที่อยู่ภายในอาคารมารวมคานวณด้วย
ข้อ ๓ ก าหนดให้ ท้ อ งที่ จั ง หวั ด นครราชสี ม า ซึ่ ง มิ ใ ช่ พื้ น ที่ ต ามกฎกระทรวงดั ง ต่ อ ไปนี้
เป็นบริเวณห้ามก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง โดยห้ามบุคคลใดก่อสร้างอาคาร
พาณิ ช ยกรรมประเภทค้ า ปลี ก ค้ า ส่ ง ที่ มี พื้ น ที่ ใ ช้ ส อยอาคารรวมกั น เพื่ อ ประกอบกิ จ การในอาคาร
หลังเดียวกันหรือหลายหลังตั้งแต่ ๓๐๐ ตารางเมตรขึ้นไป เว้นแต่บริเวณการก่อ สร้างอาคารตามที่
กาหนดในข้อ ๔
(๑) กฎกระทรวงกาหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิด
หรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตาบลหลุมข้าว ตาบลลาคอหงษ์ ตาบลโนนสูง ตาบลเมืองปราสาท
ตาบลด่านคล้า และตาบลใหม่ อาเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๔๗
(๒) กฎกระทรวงกาหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิด
หรื อ บางประเภท ในพื้ น ที่ บ างส่ ว นในท้ อ งที่ ต าบลด่ า นช้ า ง ต าบลบั ว ใหญ่ ต าบลหนองแจ้ ง ใหญ่
ตาบลโนนทองหลาง และตาบลเสมาใหญ่ อาเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๔๗
หนา้ ๒
เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๓๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓
(๓) กฎกระทรวงกาหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิด
หรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตาบลโคกสูง ตาบลบ้านโพธิ์ ตาบลจอหอ ตาบลตลาด
ตาบลหมื่นไวย ตาบลพุดซา ตาบลบ้านเกาะ ตาบลหนองกระทุ่ม ตาบลหนองจะบก ตาบลในเมือง
ตาบลปรุใหญ่ ตาบลพะเนา ตาบลหัวทะเล ตาบลมะเริง ตาบลสีมุม ตาบลบ้านใหม่ ตาบลโพธิ์กลาง
ต าบลหนองไผ่ ล้ อ ม ต าบลหนองระเวี ย ง ต าบลโคกกรวด ต าบลหนองบั ว ศาลา ต าบลสุ ร นารี
อาเภอเมืองนครราชสีมา ตาบลขามทะเลสอ ตาบลโป่งแดง อาเภอขามทะเลสอ และตาบลกุดจิก
ตาบลนากลาง อาเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๔๗
ข้อ ๔ ภายในพื้นที่ดังต่อไปนี้ ห้ามบุคคลใดก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง
ตามที่กาหนดในวรรคสอง
(๑) ในท้องที่ตาบลแก้งสนามนาง อาเภอแก้งสนามนาง
(๒) ในท้องที่ตาบลโนนสาราญ อาเภอแก้งสนามนาง
(๓) ในท้องที่ตาบลบึงอ้อ อาเภอขามทะเลสอ
(๔) ในท้องที่ตาบลหนองสรวง อาเภอขามทะเลสอ
(๕) ในท้องที่ตาบลตะเคียน อาเภอด่านขุนทด
(๖) ในท้องที่ตาบลห้วยบง อาเภอด่านขุนทด
(๗) ในท้องที่ตาบลหินดาด อาเภอด่านขุนทด
(๘) ในท้องที่ตาบลขุนทอง อาเภอบัวใหญ่
(๙) ในท้องที่ตาบลโบสถ์ อาเภอพิมาย
(๑๐) ในท้องที่ตาบลกฤษณา อาเภอสีคิ้ว
(๑๑) ในท้องที่ตาบลวังโรงใหญ่ อาเภอสีคิ้ว
(๑๒) ในท้องที่ตาบลหนองบัวน้อย อาเภอสีคิ้ว
(๑๓) ในท้องที่ตาบลหนองตะไก้ อาเภอสูงเนิน
(๑๔) ในท้องที่ตาบลไทยเจริญ อาเภอหนองบุญมาก
(๑๕) ในท้องที่ตาบลบ้านใหม่ อาเภอหนองบุญมาก
(๑๖) ในท้องที่ตาบลหนองบุนนาก อาเภอหนองบุญมาก
ห้ามบุคคลใดก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง ดังต่อไปนี้
(๑) อาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งที่มีพื้นที่ใช้สอยอาคารรวมกั นเพื่อประกอบกิจการ
ในอาคารหลังเดียวกันหรือหลายหลังตั้งแต่ ๓๐๐ ตารางเมตร แต่ไม่เกิน ๑,๐๐๐ ตารางเมตร เว้นแต่
จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่กาหนด ดังต่อไปนี้
(ก) ที่ดินแปลงที่ตั้งอาคารต้องมีระยะห่างจากเขตเทศบาลไม่น้อยกว่า ๑๐ กิโลเมตร
หนา้ ๓
เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๓๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓
(ข) ที่ ดิ น แปลงที่ ตั้ ง อาคารต้ อ งอยู่ ติ ด ถนนสาธารณะที่ มี ช่ อ งทางจราจรไม่ น้ อ ยกว่ า
๔ ช่องทาง หรือมีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๒๐ เมตร และจะต้องบรรจบกับถนนสาธารณะที่มี
ขนาดเขตทางที่เท่ากัน หรือมากกว่า
(ค) แนวศูนย์กลางปากทางเข้าออกของรถยนต์ต้องอยู่ห่างจากทางร่วมทางแยกที่เป็น
ทางบรรจบกันของถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทางตั้งแต่ ๑๔ เมตรขึ้นไป ไม่น้อยกว่า ๑๐๐ เมตร
(ง) มีที่ว่างไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบของพื้นที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคาร และมีที่ว่างที่จัดให้
เป็นสวนหรือบริเวณปลูกต้นไม้ หรือการนันทนาการไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของที่ว่างดังกล่าว
(จ) มีอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมกันทุกชั้นของอาคารทุกหลังต่อพื้นที่ที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคาร
ไม่เกิน ๐.๘ ต่อ ๑
(ฉ) มีที่ว่างด้านหน้าของอาคารห่างจากริมเขตทางของถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า ๕๐ เมตร
โดยวัดระยะจากขอบนอกสุดของอาคารถึงริมเขตทางด้านที่ติดกับแปลงที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคาร
(ช) มีที่ว่างด้านข้างและด้านหลังของอาคารห่างจากเขตที่ดินของผู้อื่นหรือริมเขตทาง
ของถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า ๑๕ เมตร โดยวัดระยะจากขอบนอกสุดของอาคารถึงเขตที่ดินของผู้อื่น
หรือริมเขตทางด้านที่ติดกับแปลงที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคาร
(ซ) อาคารที่ มี ค วามสู ง เกิ น ๑๐ เมตร ต้ อ งมี ร ะยะห่ า งจากแนวเขตที่ ดิ น ซึ่ ง เป็ น
ที่ตั้งอาคารศูน ย์ราชการหลักของจังหวัด หรืออาเภอ ศาสนสถาน โบราณสถาน และสถานศึกษา
ไม่น้อยกว่า ๕๐๐ เมตร โดยวัดระยะจากขอบนอกสุดของอาคารถึงแนวเขตที่ดินของสถานที่ดังกล่าว
(ฌ) มีที่จอดรถยนต์ไม่น้อยกว่า ๑ คัน ต่อพื้นที่อาคาร ๒๐ ตารางเมตร เศษของ
๒๐ ตารางเมตร ให้คิดเป็น ๒๐ ตารางเมตร
(ญ) ที่พักมูลฝอยต้องมีระยะห่างจากเขตที่ดินของผู้อื่นหรือถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า
๑๐ เมตร และต้องมีระยะห่างจากสถานที่ประกอบอาหารและสถานที่เก็บอาหารไม่น้อยกว่า ๔ เมตร
แต่ ถ้ า ที่ พั ก มู ล ฝอยมี ข นาดความจุ เ กิ น ๓ ลู ก บาศก์ เ มตร ต้ อ งมี ร ะยะห่ า งจากสถานที่ ดั ง กล่ า ว
ไม่น้อยกว่า ๑๐ เมตร และสามารถขนย้ายมูลฝอยได้โดยสะดวก
(๒) อาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งที่มีพื้นที่ใช้สอยอาคารรวมกันเพื่อประกอบกิจการ
ในอาคารหลังเดียวกันหรือหลายหลังเกิน ๑,๐๐๐ ตารางเมตร เว้นแต่จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่กาหนด
ดังต่อไปนี้
(ก) ที่ดินแปลงที่ตั้งอาคารต้องมีระยะห่างจากเขตเทศบาลไม่น้อยกว่า ๑๕ กิโลเมตร
(ข) ที่ดินแปลงที่ตั้งอาคารต้องอยู่ติดถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๔๐ เมตร
(ค) แนวศูนย์กลางปากทางเข้าออกของรถยนต์ต้องอยู่ห่างจากทางร่วมทางแยกที่เป็นทาง
บรรจบกัน ของถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทางตั้งแต่ ๑๔ เมตรขึ้นไป ไม่น้อยกว่า ๕๐๐ เมตร
และมีทางคู่ขนานกับถนนสาธารณะเชื่อมต่อกับทางเข้าออกรถยนต์
หนา้ ๔
เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๓๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓
(ง) มีที่ว่างไม่น้อยกว่าร้อยละแปดสิบของพื้นที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคาร และมีที่ว่างที่จัดให้
เป็นสวน หรือบริเวณปลูกต้นไม้ หรือการนันทนาการไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของที่ว่างดังกล่าว
(จ) มีอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมกันทุกชั้นของอาคารทุกหลังต่อพื้นที่ที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคาร
ไม่เกิน ๐.๘ ต่อ ๑
(ฉ) มีที่ว่างด้านหน้าของอาคารห่างจากริมเขตทางของถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า ๗๕ เมตร
โดยวัดระยะจากขอบนอกสุดของอาคารถึงริมเขตทางด้านที่ติดกับแปลงที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคาร
(ช) มีที่ว่างด้านข้างและด้านหลังของอาคารห่างจากที่ดินของผู้อื่นหรือริมเขตทางของ
ถนนสาธารณะ ไม่น้อยกว่า ๒๐ เมตร โดยวัดระยะจากขอบนอกสุดของอาคารถึงเขตที่ดินของผู้อื่น
หรือริมเขตทางด้านที่ติดกับแปลงที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคาร
(ซ) อาคารที่มีความสูงเกิน ๑๐ เมตร ต้องมีระยะห่างจากแนวเขตที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้ง
อาคารศูนย์ราชการหลักของจังหวัดหรืออาเภอ ศาสนสถาน โบราณสถาน และสถานศึกษา ไม่น้อยกว่า
๕๐๐ เมตร โดยวัดระยะจากขอบนอกสุดของอาคารถึงแนวเขตที่ดินของสถานที่ดังกล่าว
(ฌ) มีที่จอดรถยนต์ไ ม่น้ อยกว่า ๑ คัน ต่อพื้นที่อาคาร ๒๐ ตารางเมตร สาหรับ
๑,๐๐๐ ตารางเมตรแรก ส่วนที่เกิน ๑,๐๐๐ ตารางเมตร ให้มีที่จอดรถยนต์ไม่น้อยกว่า ๑ คัน
ต่อพื้นที่อาคาร ๔๐ ตารางเมตร เศษของ ๔๐ ตารางเมตร ให้คิดเป็น ๔๐ ตารางเมตร
(ญ) ที่พักมูลฝอยต้องมีระยะห่างจากเขตที่ดินของผู้อื่นหรือถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า
๑๐ เมตร และต้องมีระยะห่างจากสถานที่ประกอบอาหารและสถานที่เก็บอาหารไม่น้อยกว่า ๔ เมตร
แต่ ถ้ า ที่ พั ก มู ล ฝอย มี ข นาดความจุ เ กิ น ๓ ลู ก บาศก์ เ มตร ต้ อ งมี ร ะยะห่ า งจากสถานที่ ดั ง กล่ า ว
ไม่น้อยกว่า ๑๐ เมตร และสามารถขนย้ายมูลฝอยได้โดยสะดวก
การวัด ความสูงของอาคารให้ วัด จากระดับพื้นดินถึงพื้นดาดฟ้า สาหรับอาคารทรงจั่วหรือ
ทรงปั้นหยาให้วัดจากระดับพื้นดินถึงยอดผนังของชั้นสูงสุด
ข้อ ๕ ภายในบริเวณพื้นที่ที่กาหนดตามข้อ ๓ และข้อ ๔ ห้ามบุคคลใดดัด แปลง หรือ
เปลี่ยนการใช้อาคารใด ๆ ให้เป็นอาคารชนิดหรือประเภทที่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กาหนดในข้อ ๓
และข้อ ๔
ข้อ ๖ อาคารที่มีอยู่แล้วในบริเวณพื้นที่ที่กาหนดตามข้อ ๓ และข้อ ๔ อยู่ในวันก่อนวันที่
ประกาศกระทรวงมหาดไทยนี้ใช้บังคับให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงมหาดไทยนี้
แต่ห้ามดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารดังกล่าวให้เป็นอาคารชนิดหรือประเภทที่มีลักษณะต้องห้าม
ตามที่กาหนดในข้อ ๓ และข้อ ๔
ข้อ ๗ อาคารที่ได้รับใบอนุ ญาตหรือใบรับแจ้งการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้
ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายเฉพาะว่าด้วยกิจการนั้นก่อน
วันที่ประกาศกระทรวงมหาดไทยนี้ใช้บังคับ และยังก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ไม่แล้วเสร็จ
หนา้ ๕
เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๓๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓
ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงมหาดไทยนี้ แต่จะขอเปลี่ยนแปลงการอนุญาต
หรือการแจ้งให้เป็นการขัดต่อประกาศกระทรวงมหาดไทยนี้ไม่ได้
ข้อ ๘ ประกาศกระทรวงมหาดไทยนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. ๒๕๖3


พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

You might also like