You are on page 1of 135

คณิตศาสตร์ ม.

5
เพิ่มเติม เทอม 1.
บทที่ 1. ฟั งก์ชันเอกซ์ โพเนนเชี นยล
และ ฟั งก์ชันลอการิทึม
< EXPO & LOG >
 เนื้อหาสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรขัน้ พื้นฐาน พุ ทธศักราช 2544
1. เลขยกกําลังที่มีเลขชี้ กาํ ลังเป็นจํานวนเต็ม
2. รากที่ n ในระบบจํานวนจริงและจํานวนจริงในรู ปกรณฑ์
3. เลขยกกําลังที่มีเลขชี้ กาํ ลังเป็นจํานวนตรรกยะ
4. ฟั งก์ชันเอกซ์โพเนนเชี ยล
5. ฟั งก์ชันลอการิทึม
6. การค่าลอการิทึม
7. การเปลี่ยนฐานลอการิทึม
8. สมการเอกซ์โพเนนเชี ยล และ สมการลอกการิทึม
9. การประยุ กต์ของฟั งก์ชันเอกซ์โพเนนเชี ยล และ ฟั งก์ชันลอการิทมึ

“ เอกสารชุ ดนี ้ P 1 ได้จัดทําขึน้ เพือ่ ให้น้องๆสามารถเรียนรู ้ และ พัฒนาตนเอง


นําความรู ้ทางคณิตศาสตร์ไปพัฒนาชี วิต และ เป็นเครื่องมือในการเรียนรู ้คณิตศาสตร์
ตลอดจนศาสตร์อื่นๆ ในระดับที่สู ง ขึน้ ไป ในส่วนของการนําไปจัดการเรียนการสอน
ผู ้สอนสามารถปรับลดหรือเพิ่มเนือ้ หาสาระ ตลอดจนความลึกซึ ้งได้ตามความเหมาะสม
ของนักเรียนแต่ละคน เพือ่ สนองต่อความต้องการของนักเรียน
ทีม่ ีความสามารถทางคณิตศาสตร์ทแี่ ตกต่างกัน ”

ขอความสําเร็จจงเป็นของน้องๆพีท่ ตี่ งั้ ใจเรียน

P1
“ ติวเลข ออนไลน์
สไตล์ Intania ”
*Intania < อินทาเนีย > เป็นชื่ อเรียกของนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จาก จุ ฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ที่มา : th.wikipedia.org

Concept การสอนของพี่หนึ่งเป็นอย่างไรบ้าง
1. ให้ความสําคัญกับนร.พื้นฐานอ่อน – ปานกลาง เป็ นหลัก ( นร.พื้นฐ่านดีอาจรู ้สกึ ว่าสอนช้า )
2. มีระบบการบ้านที่สอดคล้องกับทุกหัวข้อย่อย ( เป็นติวเตอร์หัวโบราณยังเน้นการบ้าน )
3. ใช้ภาษาพู ดทั่วๆไปในการอธิบายทฤษฎีตา่ งๆ ( เน้นความเข้าใจ ไม่ใช้ภาษานักคณิตศาสตร์ )
4. ไม่ใช่ เทพ !! เป็นติวเตอร์ธรรมดา
( จําไว้วา่ ความสําเร็จในการเรียนขึ้นอยู ่กบั ความตัง้ ใจเรียน มากกว่าตัวติวเตอร์ )

“ จุ ดเด่นการติวแบบอินทาเนียสไตล์ By P’1 ”

สอนละเอียด +++ มีท่นี ่ที ่เี ดียว !! !


ตรงตามหลักสูตรกระทรวงฯ คลิปเฉลยโจทย์ตงั้ แต่ยุคสมัย
ครบทุกบท
เวอร์ชันล่าสุด Ent , A-NET , PAT 1 และ 7 วิชาสามัญ
และ ทุกหัวข้อย่อย มากกว่า 2,000 ข้อ
จัดเป็นระบบทัง้ แยกตามบทเรียน และ แยกตามปี พ.ศ.

ขออภัยเน้นการบ้าน !!! มีรายงานการเข้าเรียน >_<<


ผู ้ปกครองหรือนร.สามารถตรวจสอบ
วิธีสอนของพี่หนึ่งอาจโบราณ
เวลาเรียนในทุกๆครัง้ ซึ่ งจะมีรายงาน
ที่ยังเน้นการบ้าน และ แบบฝึ กหัด
แจ้งรายละเอียดอย่างครบถ้วน
อย่างเป็ นระบบ นะครับ
แบบว่า... โปร่งใส ตรวจสอบได้
1

บทที่ 1. ฟั งก์ชันเอกซ์ โพเนนเชี นยล และ ฟั งก์ชันลอการิทึม


2
 เลขยกกําลังที่มีเลขชีก้ าํ ลังเป็ นจํานวนเต็ม
ถ้ า a , b เป็ นจํานวนจริ งที่ไม่เป็ น 0 และ m , n เป็ นจํานวนเต็มจะได้

(1) aman = am+n “ เลขยกกําลังคูณกัน ฐานเหมือนกัน เอาเลขชี ้กําลังมาบวกกัน ”


am
(2) = am–n “ เลขยกกําลังหารกัน ฐานเหมือนกัน เอาเลขชี ้กําลังมาลบกัน ”
an
1
(3) a–n = “ อยูบ่ นเป็ นลบ ตบลงล่างเป็ นบวก ”
an
(4) ( an )m = amn “ เลขชี ้กําลังคร่อมกันอยูเ่ อาเลขชี ้กําลังมาคูณกัน ( คร่อม – คูณ ) ”
(5) ( ab )n = anbn “ เลขชี ้กําลังแจกเข้ าผลคูณ , ผลหารได้ แต่แจกเข้ าผลบวก , ผลต่างไม่ได้ ”
n
a an
(6)   = ( a  b )n  an  bn
b bn
(7) a0 = 1 , a 0

Ex1. กําหนดให้ a , b  I+ จงทําให้ เป็ นผลสําเร็จและมีเลขชี ้กําลังเป็ นบวก


2
 32  9 4 
(1) 5
2  4 8 2 3
(2) 
 27 

 

(34 ) 3  (32 ) 4
(3) 327  417 (4)
315  34
3

10 3  4 2 2 3  35
(5) (6)
10 5  4 0 3 5  2 0

  
0
 0
0  4  4  4 4  4  4
 
0 1 2
1
(7)   10
    4
1
(8)  3  
 2
    4  4  30 

2
 8a 3b 2 c   7a 2 b 2   14a 2 c 3 
(9) (10)  15bc 4    5c 2 
     
 32a 5b 2 c 2 
     
4

1 3
 3a 2b   4

(11)  
 12ab 2     23a 2b 
   a b 

4 x 2  4 x 1  1
(12)
2 x 2  x 1

2
a2  b2
(13)  ab
( a  b) 2  1 1  2
  
a b
5

9  x4
(14)
3x 1  x

a 3  b 3
(15)
a 1  b 1
6

5  2 n  4  2 n1
(16)
2 n  2 n1

2  53n1  3  53n2  53n3


(17)
7  53n  4  53n1  3  53n2

 2 2 n  (2 2 n1 ) 2 n   4 2 n 2 n 
2

(18)  n3 3n3  


 2 2   3 
   
7
8

Ex2. ถ้ า a  0 และ an – a–n = 3 แล้ ว a2n + a –2n มีคา่ เท่าใด ( ตอบ 11 )

Ex3. ถ้ า a  0 และ an + a–n = 4 แล้ ว an – a– n มีคา่ เท่าใด ( ตอบ 12 , – 12 )


9

Ex4. ถ้ า a  0 และ an – a–n = 3 แล้ ว a2n – a– 2n มีคา่ เท่าใด ( ตอบ 117 , – 117 )

1 1
Ex5. ถ้ า a  0 และ a+ =5 แล้ ว a3 + 3 มีคา่ เท่าใด ( ตอบ 110 )
a a
10
Note.
11
12
 รากที่ n. ในระบบจํานวนจริง และ จํานวนจริงในรู ปกรณฑ์
บทนิยาม ให้ n เป็ นจํานวนเต็มบวกที่มากกว่า 1 โดยที่ a และ b เป็ นจํานวนจริง
b เป็ นรากที่ n ของ a ก็ตอ่ เมื่อ bn = a

ตัวอย่าง เช่น

Ex1. จงหาค่าของ

1. รากที่สองของ 9 คือ ................... ค่าหลักของรากที่สองของ 9 คือ ................

2. รากที่สองของ 169 คือ ................... ค่าหลักของรากที่สองของ 169 คือ ................

3. รากที่สองของ 196 คือ ................... ค่าหลักของรากที่สองของ 196 คือ ................

25 25
4. รากที่สองของ คือ ................... ค่าหลักของรากที่สองของ คือ ................
144 144

5. รากที่สองของ 7 คือ ................... ค่าหลักของรากที่สองของ 7 คือ .................

6. รากที่สองของ –10 คือ ................... ค่าหลักของรากที่สองของ –10 คือ ................

7. รากที่สองของ –1 คือ ................... ค่าหลักของรากที่สองของ –1 คือ ................

8. รากที่สามของ 8 คือ ................... ค่าหลักของรากที่สามของ 8 คือ ................


13

9. รากที่สามของ – 27 คือ ................... ค่าหลักของรากที่สามของ –27 คือ ................

10. รากที่สามของ –7 คือ ................... ค่าหลักของรากที่สามของ –7 คือ ................

11. รากที่สี่ของ 81 คือ ................... ค่าหลักของรากที่สี่ของ 81 คือ ................

12. รากที่สี่ของ –81 คือ ................... ค่าหลักของรากที่สี่ของ – 81 คือ ................

 SA – RUP
(1) รากคูข่ องจํานวนจริงบวกมี 2 ค่า ( มีทงั ้ บวก และ ลบ ) , ค่าหลักเอาค่า บวก
(2) รากคูข่ องจํานวนจริ งลบ ( ไม่มี ) , ค่าหลักก็ไม่มี
(3) รากคี่ของจํานวนจริ งบวกมี 1 ค่า ( เป็ นบวก ) ซึง่ มีคา่ เท่ากับค่าหลัก
(4) รากคี่ของจํานวนจริ งลบมี 1 ค่า ( เป็ นลบ ) ซึง่ มีคา่ เท่ากับค่าหลัก
14
Note.
15
16
 การบวก ลบ คูณ หาร จํานวนที่ตดิ กรณฑ์ และ คอนจูเกต
 การบวก และ ลบ
(1) พยายามจัดรูปจํานวนที่ติดกรณฑ์ให้ อยูใ่ นรูปอย่างง่าย
(2) นํา สปส. หน้ าจํานวนที่ติดกรณฑ์เดียวกัน ( อันดับที่ของกรณฑ์ และ ตัวเลขในกรณฑ์ เท่ากัน ) มาบวก ลบกันตามปกติ

 การคูณ และ หาร


(1) พยายามจัดรูปจํานวนที่ติดกรณฑ์ให้ อยูใ่ นรูปอย่างง่าย
(2) นํา สปส. หน้ าจํานวนที่ติดกรณฑ์ คูณ และ หาร กันตามปกติ
n a a
(3) กรณฑ์ที่คณ
ู หาร กัน ต้ องมีอนั ดับที่ของกรณฑ์เท่ากัน โดยใช้ สมบัติ n a n b = n ab , n
= n , ( b0 )
b b
 คอนจูเกต ( Conjugate ) คือ จํานวนที่มาคูณกับจํานวนที่กําหนดให้ เพื่อให้ ได้ รูปอย่างง่าย โดย
(1) คอนจูเกตของ a คือ a
(2) คอนจูเกตของ a b คือ a b
(3) คอนจูเกตของ 3 a 3 b คือ 3
a2  3 a 3 b  3 b 2

Ex1. จงทําให้ เป็ นรูปอย่างง่าย


1.1 2 32 + 8 – 6 2 1.2 3 + 243 – 2 27

1.3 3 16 –3 3  54 – 3 250


17

1.4 3 5 –7 3 40 – 3 3 625

4 108
1.5 3 6 2 24 1.6
3

23 4 33 6
1.7 3 3
1.8 2 3(2 2 –3 3 )
18

1.9 ( 7 – 5 )( 7 + 5 )

1.10 ( 5 + 3 )( 5 + 3 ) 1.11 ( 7 – 2 )( 7 – 2 )

2 6
1.12 1.13
3 1 5 2
19

2 7 3
1.14
7 3

3 2 3 2
1.15 +
3 2 3 2

2 3  1 1 4 3
1.16 +
3 1 2  3
20

2 3 1
1.17 9 +8 –36
3 2 6

5 2 1
1.18 6 –10 +20
2 5 10

6 3 6 3
Ex2. กําหนด x = และ y = ค่าของ x2 – 4xy + y2 เท่ากับจํานวนในข้ อใด
6 3 6 3
1. –2 2. – 4 3. 30 4. 34
21

Ex3. จงทําให้ สว่ นไม่ติดกรณฑ์


12 24
3.1 3.2
2 3 5 7 2 3

5 4
3.3 3 3.4 3
4  6 3 9
3 25  3 5  1
22
Note.
23
24
 เลขยกกําลังเมื่อเลขชีก้ าํ ลังเป็ นจํานวนตรรกยะ
1. เมื่อ a  R , n เป็ นจํานวนเต็มที่มากกว่า 1 และ a มีรากที่ n

a1/ n = n a

2. ให้ a  R , p , q เป็ นจํานวนเต็มที่ ( p,q ) = 1 , q  0 และ a1/ q  R โดยเมื่อ p  0 แล้ ว a  0

ap / q = ( a1/ q )p = ( aP )1/q
q p
ap / q = a

3. ถ้ า x เป็ นจํานวนจริงใดๆ และ n เป็ นจํานวนเต็มบวกที่  2 แล้ ว

n n x , n เป็ นจํานวนบวกคู่
x =
x , n เป็ นจํานวนบวกคี่

Ex1. จงทําให้ เป็ นรูปอย่างง่าย


3
1.1 a4 1.2 b12

4 3 36 3 8y 6
1.3 x 1.4
25

1.5 a 4b 6 1.6 4 16a12b 8

qn
 p 1 m 1
( x ) q  ( x ) n 
 
p y q  m yn pm
1.7

12
1.8 13  x 3 y 2 z  3 xyz  4 x 1y 2 z 3 
 
26
1
1 1 1
3
8
1.9 3( 5 ) – 4( 40 )+( 1600 ) –10  
3 3 6
 25 

( 2 ) 4n6  3(0.25)1n
Ex2. จงหาค่าของ 2 2n
5n10 5
(2 )  15(8 3 )
27
Note.
28
 การบ้ านชุดที่ 1. หมายเหตุสําหรับน้ องที่พื ้นฐานไม่ดี ให้ เริ่มทําจากข้ อ 43 – 47 ก่อนนะครับ 

1. จํานวนในข้ อใดไม่ เป็ นจํานวนจริง ( ตอบ 2 )


1. 12 2. 4  6 3. 3  81 4. 5 77

2. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
1
ก. ( a+b )0 = 1 ข. ( a+b )–n =
(a  b)n
1
n n an  b n
ค. a  b  n n เมื่อ a  0, b  0 ง. ถ้ า a n  b แล้ ว a = bn
ab
ข้ อความใดถูกต้ อง ( ตอบ 4 )
1. ก. และ ข. เท่านัน้ 2. ก. และ ค. เท่านัน้ 3. ข. และ ค. เท่านัน้ 4. ค. และ ง. เท่านัน้

3. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้ ข้ อใดไม่ เป็ นจริง เมื่อ x  0 และ m , n  I ( ตอบ 3 )


1 1 xm
1. m  n  x mn 2. n  x mn
x x x
1
3. xm + xn = xm+n 4. ( xm + xn )– 1 = m n
x x

5 2 3

4. ผลสําเร็จของ 4 2  8 3  ( 32) 5 เท่ากับเท่าใด ( ตอบ 3 )
1. 0 2. 28 3. 30 4. 34

4 3 3

5 2 2
5. ค่าของ 32  36  4 เท่ากับเท่าใด ( ตอบ 3 )
1. 29 2. 42 3. 43 4. 45

2 2 3 5 9 2
9 3 4 4 4 3
6. ผลสําเร็จของ (16a b )  ( 27a b ) ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 4 )
1. 36a2b 2. 36ab2 3. 72a2b 4. 72ab2
29
30
2

( 27a 3b 9 )
3
7. ผลสําเร็จของ 1 ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 1 )
(16a 8b16 ) 4

9 2 9 2 2 2
1. b 2. 3. b 4.
2 2b 2 9 9b 2

8. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
3 2 2 3
4 3 6 3
ก. (3 ) = 7292
ข. (a ) = a 4
ค. ( 2 )  24

ข้ อความใดถูกต้ อง ( ตอบ 4 )
1. ก. และ ข. เท่านัน้ 2. ก. และ ค. เท่านัน้ 3. ข. และ ค. เท่านัน้ 4. ก. , ข. และ ค.

9. ข้ อต่อไปนี ้ข้ อใดไม่ ถกู ต้ อง ( กําหนดให้ ตวั แปรทุกตัวเป็ นจํานวนจริ งบวก ) ( ตอบ 3 )
1 1
2 2 2 2 1 1 1

(12ab ) (12ab )
1. = 12 2
2. x ( x 2
x ) =
2
1+x
ab 2
1 2 1

2c 1d 4 e 2 2c 2 e 3
3
3. [ x ( x 3
 x )] 2 = x2+2x+1
3
4. 
3 c  3 d  2 e 1 3 d 2

3
 1
 5 a b c   2 a  3 b 2 c 1 
2 2  4 6
2
10. รูปอย่างง่ายของ  4  2  2 6    3 2  2  ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 2 )
2 x y z   x y z 
32b 4 c10 32b 4 c 10 z 7 125y 125yz 7
1. 2. 3. 4.
125yz 7 125y 32b 4 c 10 z 7 32b 4 c10

2 1 2 1
3 3 3 3
11. ผลสําเร็จของ ( 2a  3a  1)(a  2a  5) ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 2 )
4 2 1 4 2
1
3 3 3 3 3 3
1. 2a  7a  15a  17a  5 2. 2a  a  15a  17a  5
4 2 1 4 2 1
3 3 3 3 3 3
3. 2a  7a  17a  15a  5 4. 2a  a  16a  15a  5
31
32
5 7 8 3
2 2 3 2 3
a b  3a b  a b 2
12. ผลสําเร็จของ 1 1 ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 1 )
3 2
a b
5 3 7 4 7
3 2 2 3 3 2 2 2 3
1. a b  3a b  a b 2
2. a b  3a b  a b
5 3 7 4 3 7
2 2 2
4. a b  3a b  a b 2
2 2
3 3 3 3
3. a b  3a b  a b 2 2

13. ผลสําเร็จของ (3 a  3 b )(3 a 2  3 ab  3 b 2 ) ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 4 )


1. a b 2. a  b 3. a – b 4. a + b

1
4 8

3 81 x
(9 1 )( 27)
3
14. กําหนด x = และ y = 3 ค่าของ ที่ได้ จากสมการที่กําหนดให้ เท่ากับเท่าใด ( ตอบ 2 )
2 y
27
1. 8 2. 9 3. 12 4. 15

15. ข้ อต่อไปนี ้ข้ อใดผิด ( ตอบ 4 )


3 n  2  7  3 n 1 1 1 1
1.  2. m n  1
20  3 n 3 1 x 1  x n m
2 1 1 2
a b a b 1 16 n  8 3  2 n 3 1
3. 2 2  4. n  5  12
a b ab 8  32 2

16. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้


ก. ค่าหลักของรากที่หกของ 729 คือ 3 และ – 3
ข. a 2  2ab  b 2 = a+b
ข้ อใดเป็ นจริง ( ตอบ 4 )
1. ข้ อ ก. ถูกต้ องเท่านัน้ 2. ข้ อ ข .ถูกต้ องเท่านัน้
3. ข้ อ ก. และ ข. ถูกต้ องทังสองข้
้ อ 4. ข้ อ ก. และ ข. ผิดทังสองข้
้ อ

17. ( 2 x  1  3 x  2 ) 2 มีคา่ ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 2 )


1. 11x – 17 – 6 2 x 2  5 x  2 2. 11x – 17 – 6 2 x 2  3 x  2
3. 11x – 19 – 6 2 x 2  5 x  2 4. 11x – 19 – 6 2 x 2  3 x  2
33
34

7 5
18. จํานวน ทําให้ อยูใ่ นรูปที่ตวั ส่วนไม่ติดกรณฑ์ได้ ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 4 )
7 5
27  7 5 44  4 5 44  14 5 54  14 5
1. 2. 3. 4.
12 22 44 44

6  4 2 6  4 2 2
19. ผลสําเร็จของ    เท่ากับเท่าใด ( ตอบ 2 )
22 2 2 2 2
1. 4 2. 8 3. 16 4. 32

20. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้


ก. a2  b2  a  b ข. ( x  1) 2 = x + 1
1
ค. 2 3 ง. 3 ab  5 ab  8 2ab
2 3
มีข้อความที่ถกู ต้ องกี่ข้อ ( ตอบ 1 )
1. 1 2. 2 3. 3 4. 4

21. กําหนด x = 3 5  17  3 5  17 ค่าของ x2 + x + 1 เท่ากับเท่าใด ( ตอบ 3 )


1. 5 2. 6 3. 7 4. 8

1 1
22. ถ้ า x = ,y= ค่าของ x2 – 2xy + y2 เท่ากับเท่าใด โดยที่ 2 = 1.41 , 3 = 1.73 ( ตอบ 1 )
3 2 3 2
1. 8 2. 6 3. 4 4. 2

5 2 52
23. กําหนด x = และ y = ค่าของ 2x2 – 14xy + 2y2 ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 3 )
52 5 2
1. 36 2. 298 3. 630 4. 666

1 1
24. ผลสําเร็จของ  เท่ากับเท่าใด ( ตอบ 3 )
1 2  3 3  2 1
6 2 6  2 1
1. 0 2. 1 3. 4.
2 2
35
36

4 6  2 3  21
25. จงหาค่าของ  ( ตอบ 2 )
2 3  7 3
94 3 94 3
1. 1 2. –1 3. 4.
3 3

6.98 0.3
26.  มีคา่ ใกล้ เคียงจํานวนใดมากที่สดุ ( ตอบ 2 )
0.11 0.009
1. 9 2. 10 3. 11.4 4. 12

27. สําหรับสับเซต A , B ใดๆ ของเซตของจํานวนจริง


นิยาม A+B = { (a,b)  a  A , b  B }
ถ้ า A = { x 3 x +2 = 5 }
1 1

และ B = { x x  x – 6 = 0 }
2 4

แล้ ว A+B คือเซตใดต่อไปนี ้ ( ตอบ 3 )


1. { ( 81,84 ) } 2. { ( 84,81 ) } 3. { ( 3,81 ) } 4. { ( 3,84 ) }

1
n 2n
 729  81  n
28. ค่าของ  n n  มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ ( Ent’39 คณิต ก. ) ( ตอบ 2 )
 27  243 
1
n n
1. 9 2. 27 3. 3 4. 3

1
 3 4n 3  3 4n 2  n
29. ค่าของ  2n 2  มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ ( Ent’41 คณิต ก. ) ( ตอบ 4 )
 ( 3 )( 4 ) 
1. 3 2. 5 3. 7 4. 9

30. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้


( 2)2 2n 3  ( 24)2 2(n1)
ก.  1 เมื่อ n เป็ นจํานวนนับ
(10)2 2n
ab  b b
ข.  เมื่อ a  0 , b  0 และ a  b
a  ab a
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูก ( Ent คณิต ก ปี 2532 ) ( ตอบ 3 )
1. ถูกเฉพาะข้ อ ก. 2. ถูกเฉพาะข้ อ ข. 3. ถูกทังข้
้ อ ก.และ ข้ อ ข. 4. ผิดทัง้ ก. และ ข้ อ ข.
37
38

x 1  y 1
31. ให้ R คือเซตของจํานวนจริง ถ้ า x , y  R , x  0, y  0 แล้ ว เป็ นจํานวนจริงเมื่อใด ( ตอบ 2 )
( x  y ) 1
1. x และ y มีเครื่ องหมายเหมือนกัน 2. x และ y มีเครื่ องหมายต่างกัน
3. x – y เป็ นบวก 4. x – y เป็ นลบ

3
32. ถ้ า a , b  R ซึง่ a  b และ 3( a +b ) = 10ab แล้ ว
+ 2 2  ab 
 
 ab 
ข้ อใดต่อไปนี ้ ( Ent คณิต กข ปี 2536 ) ( ตอบ 4 )
1. – 2 2. – 4 3. – 6 4. – 8

33. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้


x
ก.  xy 1 เมื่อ x และ y เป็ นจํานวนจริ งใดๆ
y
ข. ถ้ า x  0 และ y  0 แล้ ว n x  n y  n xy เมื่อ n เป็ นจํานวนเต็มใดๆ
ค. n x n = x เมื่อ x เป็ นจํานวนจริงใดๆ และ n เป็ นจํานวนเต็มใดๆ
ข้ อความใดไม่ ถกู ต้ อง ( ตอบ 4 )
1. ข้ อ ก. และ ข. เท่านัน้ 2. ข้ อ ก. และ ค. เท่านัน้ 3. ข้ อ ข. และ ค.เท่านัน้ 4. ข้ อ ก.,ข. และ ค.

34. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้


ก. (  4 )(  6 )  ( 2 2 )( 3 )
ข. ( 7  2 2 ) 2  9  2 14
4 32 x 3  4 8 x 5
ค. 4 2x
 2 x  2 x, x เป็ นจํานวนจริงใดๆ ที่มากกว่า 0
ข้ อใดต่อไปนี ้ผิด ( ตอบ 1 )
1. ข้ อ ก.และ ข.เท่านัน้ 2. ข้ อ ก.และ ค.เท่านัน้ 3. ข้ อ ข.และ ค.เท่านัน้ 4. ข้ อ ก.,ข.และ ค.

35. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้ว่าข้ อใดต่อไปนี ้ถูก ( Ent คณิต ก ปี 2533 ) ( ตอบ 1 )
ก. (3 6
a 9 ) 4 (6 3 a 9 ) 4  a 4
1 3 32 3
ข. 8  108  4 9 
3 2 3
1. ก. ถูก และ ข. ถูก 2. ก. ถูก และ ข. ผิด 3. ก. ผิด และ ข. ถูก 4. ก. ผิด และ ข. ผิด
39
40

5 2
36. มีคา่ เท่ากับจํานวนในข้ อใดต่อไปนี ้ ( Ent คณิต ก 2540 ) ( ตอบ 2 )
5 2
7  10 7  2 10 8  10 8  2 10
1. 2. 3. 4.
3 3 3 3

2 2 2 3
37. มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ ( Ent คณิต 2 มี.ค. 42 ) ( ตอบ 4 )
12  8  32
1.  5  2 6 2.  5  2 6 3. 5  2 6 4. 5  2 6

1 1 1 1
38. ค่าของ    ...  เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ ( Ent คณิต ก 41 ) ( ตอบ 3 )
1 2 2 3 3 4 8 9
1. 1 2. 2 3. 2 4. 3

39.  2  8  18  32 2 มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ ( O–NET’49 ) ( ตอบ 4 )


1. 60 2. 60 2 3. 100 2 4. 200

 32
5 26
40. 3  มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ ( O–NET’49 ) ( ตอบ 1 )
27 (64)3 / 2
13 5 3 19
1.  2.  3. 4.
24 6 2 24

2 1
3 2
8 (18)
41.4 144
 มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ ( O–NET’50 ) ( ตอบ 3 )
6
2 3
1. 2. 3. 2 4. 3
3 2

42. ( 1– 2 )2 ( 2+ 8 )2( 1+ 2 )3( 2– 8 )3 มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ ( O–NET’50 ) ( ตอบ 1 )


1. –32 2. –24 3. –32–16 2 4. –24–16 2
41
42

หมายเหตุ ข้ อ 43 – 47 มีเฉลยอยูห่ ลังข้ อ 5. ทําให้ เสร็จแล้ วค่อยไปดูเฉลยนะครับ 

43. จงทําให้ เป็ นผลสําเร็จ


2 1

(1) 27 3 (2) 16 4

3 2
(3) 25 2 (4) 83

2
1
 1 3 
(5)   (6) 64 2

 125 

(7) 2ab ab 


2 2 2
(8) a 5 7

b a 2b 7 c 0 

4 2
 1 3 2   1 
(9)  x y  (10)  2 3 
2   3a b 
43

2 3
 x 5 y 4   x 4 y 5 
(11) x 2 3 5
y x x 2 3 8
y z  (12)  2 2 
x y 
 3 7 
x y 
   

2
 a 4b 2 
(13)  3 
 c  (14) 18x 2

1 
y 3  x 6 y 
  2 

x 6 2 x 
3 2
 1 3 2 
(15)  x y  (16)
2  x 1

2
(17)  6 
 2 3  (18) 1 
b 2  b 5  12b 3  
 3a b  3 
44

(19) x y xy 
2 3 4 1
(20) a b a
3 7

2 5 0 1
b c
2 3
x y

1
 x 1 yz 2   x4  2
(21)  6 2 8 
y z x  (22)  6
 4y 
   

3
2  3 
 27a 3
3  a2 
(23)  6 
 b  (24)  2 
   3 
a 
45

2
1  2  1 
 b x
2 3
2  x3  y 2 
(25)  4 7 
b x  (26)  3  2 
   2  3 
y  x 

3
 4 1  2
 a3 b 2   x 2 y 3  3
(27)  2 3  (28)  4 3 
 8x y 
 3 2   
a b 

1
 1 
6 3
  2 3 2  
 x y z
 
(29)   
 1 12 

  x5 y 3 z 4  
  
  
46

 1 1
 2 1 1 2

(30)  x 3  y 3  x 3  x 3 y 3  y 3 
  
  

2
 12 1

(31) x  x2 
 
 

 1 1
 1 1
 1 1
 1 1

(32)  3 8  2 8  3 8  2 8  3 4  2 4  3 2  2 2 
    
    
47

1  1 1
 1
(33) 250  0.25 2   8 3  4 2 0.027 3
 
 

1 2 1 1
(34) 24 2 323 62 33
48

44. กําหนดให้ n เป็ นจํานวนเต็ม จงทําให้ เป็ นรูปอย่างง่าย

(1) a 2n 3 a 2n  5
 (2) 3x 
n 1 2

xn
a 3n 1 a n  3 x 2n 1 x 
n 3

1
3  2n  4  2n  2  33n 1  32 n 1  n
(3) (4)  2 n 1 n 1 
2n  2n 1 3 3 
49

45. จงทําให้ เป็ นผลสําเร็จ


(1) a  b  x  a  b  x (2)  3 2  3 2 

(3) 3 8  2  32 (4) 2  3 2

(5) a
3
 12 a 
4a
3
(6)  
5  2 2 5 1 
50

(7) 
3 5 10  2 5  (8) 2 
3 7 2 3 7 

46. จงทําให้ อยูใ่ นรู ปอย่างง่าย


(1) 50  32  18 (2) 53 4  23 32  3 108

(3) 3 2  32  4 64 (4) 3
81  3 375  3 192
51

(5) 4 x 3  16 x 5  x 7 (6) 2 a 4 x  3a 2 4 x  9a 4 x

1 1 5 x
(7) 3 147  3  11 (8) 2x  3 5x 
27 3 x 5

x 1 x  1 5 x2  1
(9) 3  2
x 1 x 1 x 1
52

47. จงทําให้ อยูใ่ นรู ปอย่างง่าย


3 1 3 1
(1) 
3 1 3 1

18 12
(2) 
3 2 3 2

(3)  
4 3 1 2  3

3 1 2 3
53

x2  y2  x x2  y2  y
(4) 
x2  y2  y x  x2  y2

7 5 7 5
(5) 
7 5 7 5

(6) 1  5   1  5 
2 2

4 5
54

เฉลย
1 1
ข้ อ 43. (1) 9 (2) (3) 125 (4) 4 (5)
2 25
1 2a 3 1 16 x 12 9a 4
(6) (7) (8) (9) (10)
8 b6 a7 y8 b6
z8 y6 a8 9x 4 8x 9
(11) (12) (13) (14) (15)
x5 x 17 b 4c6 y2 y6
1 5 a4 1 a5
(16) x (17) (18) 4 (19) (20)
4 4b 6 xy 4 b2
5
x 7y7 1 9a 2
(21) (22) (23) (24) a2 (25) bx 5
z4 2x 2y3 b4
x2 2 3 y4 z3
(26) 5 (27) ab (28) (29) (30) x–y
4x 4 x 19 y18
y2
(31) 4x (32) 1 (33) 0.3 (34) 96

ข้ อ 44. (1) a4 (2) 9 x 2n (3) 4 (4) 3

ข้ อ 45. (1) 2b x (2) 1 (3) 9 2 (4) 74 3


3
(5)  a (6) 12  5 5 (7) 152  2  (8) 5
3

ข้ อ 46. (1) 6 2 (2) 63 4 (3) 5 2 (4) 43 3


149 3
(5) x 2  4x  2x x (6) 5a 2 x (7)
9
4 5x (1  2 x ) x 2  1
(8)  (9)
5 x2 1

ข้ อ 47. (1) 4 (2) 65 3  2  (3) 1


2
(4) y (5)
7 5
(6) 1
 
x 11
55
56
Note.
57
58
 รากที่อนันต์
หลักการหารากที่อนันต์ ให้ ใช้ หลักการสมมติตวั แปร และ ตรวจคําตอบที่ได้ ทกุ ครัง้

 Tip!! ถ้ า k  0
k  k  k  k ...... = k
n n1 k
k  n k  n k  n k ..... =
1 4k  1
k  k  k  k  ...... =
2
1 4k  3
k  k  k  k  ...... =
2

Ex1. จงหาค่าของ 2 2 2 2 ........

Ex2. จงหาค่าของ 4 7  4 7  4 7 ......... 

Ex3. จงหาค่าของ 3  3  3  3  ......


59
60

Ex4. จงหาค่าของ 7  7  7  7  ...... ( ตอบ 3 )


61

Ex5. จงหาค่าของ 3  3  3  3  ...... ( ตอบ 2 )

1
Ex6. จงหาค่าของ 1  1
1 1
1
1  .....
62
 หลักการแก้ สมการรูท
ใช้ หลักการสมดุล ( Balancing ) ของตัวแปร ประกอบกับ การสมมติตวั แปร เข้ าช่วย และ ตรวจคําตอบที่ได้ ทกุ ครัง้

Ex1. จงหาค่า x จาก x 5 = 3 Ex2. จงหาค่า x จาก 1 2 x = –5

Ex3. จงหาค่า x จาก 3x  7 = x+1 Ex4. จงหาค่า x จาก x 4 + x – 4 = 0


63
64

 หลักการสมดุลตัวแปร ( Balancing )

Ex1. ถ้ า 2 x  1  3 x  2 = 4 x  3  5 x  4 แล้ ว 5 x  1 มีคา่ เท่ากับเท่าใด

Ex2. จงแก้ สมการ 8x  1 + 3x  5 = 7x  4 + 2x  2 ( ตอบ 3 )


65

Ex3. จงแก้ สมการ 6 x  13 – x7 – x2 = 0

Ex4. จงหาคําตอบของสมการ 4 x 2  7 x  15  x 2  3 x = x2  9 ( ตอบ 3 )


66
 หลักการเปลี่ยนตัวแปร ( ปตป. )

Ex1. จงหาเซตคําตอบของสมการ 2 x 2  2 x  3 + x2–2x = 6

Ex2. จงหาเซตคําตอบของสมการ 3x2 – 5x + 3 x 2  5 x  4 = 16 ( ตอบ –4/3 , 3 )


67

Ex3. จงแก้ สมการ 4 x 2  3 x  5 = 3x2 – 9x + 11

Ex4. จงหาคําตอบของสมการ x  2  2x  5  x  2  3 2x  5 = 7 2
68

Ex5. จงหาคําตอบของสมการ 5
( x  2)2  ( 2 x  3) – 2 5 x  1 = 3 ( ตอบ –2 , 242 )
69
70

 หลักการคอนจูเกต ( Conjugate )

x  7  1 x 1
Ex1. จงแก้ สมการ =
x  7  1 x 2

3  6x  x 2 x
Ex2. จงแก้ สมการ 2
= ( ตอบ 3/5 )
3  6x  x 3  x
71
72

 การหาค่ ารากที่สองของ x 2 y และ x2 y

 พิสูจน์ x2 y = a b

 SA – RUP x2 y = a b ก็ตอ่ เมื่อ ...................................................................................

x 2 y x2 y = ( a b ) รากที่สองของ x 2 y = ( a  b )

10+2 24

4+2 3

12+2 35

17+2 60

8 – 2 15

13 – 2 22

24 – 2 80
73
74

Ex1. รากที่สองของ 18 – 8 5 Ex2. รากที่สองของ 7+ 24

8 12
Ex3.  Ex4. 5  21
5 5

Ex5. 4  15 Ex6. 32  24
75

Ex7. จงหาค่า 3x  1  2 2x 2  3x  2

62 5
Ex8. ค่าของ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ ( ตอบ 2 )
2  14  6 5
3 5 3 5 32 5 2 3 5
1. 2. 3. 4.
2 2 2 2

1
1
Ex9. ให้ (9  6  10  4 6 ) 2  a  b เมื่อ a , b เป็ นจํานวนจริ งใดๆ ค่าของ ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 4 )
a b
6 1 6 1
1. 6  1 2. 6  1 3. 4.
5 5
76

10
Ex10. ให้ a , b เป็ นรากของสมการ (5  2 6 ) x  +1 = 0 แล้ ว ค่าของ ab ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 2 )
( 3  2 ) x
1. –2 2. –4 3. –8 4. –10
77

(5  2 6 ) 3 / 2  (5  2 6 ) 3 / 2
Ex11. ค่าของ เท่ากับข้ อใด ( ตอบ 1 )
6 3
1. 3 2. 8 3 3. 5 2 4. 6 15
78
 การหาค่ ารากที่สองของ ( a+b+c ) + 2 ab +2 ac +2 bc

Ex1. จงหาค่า 10  2 6  2 10  2 15 และ รากที่สองของ 10  2 6  2 10  2 15

Ex2. จงหาค่า 14  40  2 14  2 35 และ รากที่สองของ 14  40  2 14  2 35


79
80
 การบ้ านชุดที่ 2.

20
1. ถ้ า n  0 ค่าของ n n2 2n2 คือข้ อใด ( ตอบ 1 )
4 2
1 1 1 4
1. 2. n 3.  n 5 4.
4 2 2 n

2. ข้ อใดต่อไปนี ้เรี ยงจํานวนจากน้ อยไปมากได้ ถกู ต้ อง ( ตอบ 1 )


1. 2 , 3 3 , 4 5 2. 3 3 , 2 , 4 5 3. 4 5 , 3 3 , 2 4. 4 5 , 2 , 3 3

3. จงหาค่าของ 21/ 4 (1 21/ 2  23 / 4 )( 2 1/ 4  21/ 4  21/ 2 ) มีคา่ ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 3 )
1. 1 2. 2 3. 3 4. 4

1 1 1
4. ถ้ า x , y , z เป็ นจํานวนจริงซึง่ ไม่เท่ากับ 0 และ 32x = 4y = 6–2z แล้ ว   มีคา่ เท่ากับข้ อใด ( ตอบ 2 )
x y z
1
1. –1 2. 0 3. 4. 1
6

(104  324)( 224  324)(344  324)( 464  324)(584  324)


5. กําหนด A= 4
( 4  324)(164  324)( 284  324)( 404  324)(524  324)
ค่าของ A คํานวณได้ ตรงกับข้ อใดโดยใช้ [ ( x – y )2+y2 ][ (x + y )2 +y2 ] = x4+4y4 ( ตอบ 3 )
1. 1 2. 370 3. 373 4. 375

3 4 –1 3 x2
6. กําหนดให้ x=y z , y = 2p , z=8 p โดยที่ x : z = 4 : 1 จงหาค่า ( ตอบ 1 )
yz
1. 8 2. 12 3. 10 4. ไม่มีข้อใดถูก

7. จงหาคําตอบของสมการ 2 3 x  3 + 3 x  2 = 3 6 ( x  2)( x  3) ( ตอบ 1 )


190 109 119 180
1. 2. 3. 4.
63 63 63 63
81
82

5
3 4 x  4 y 2  4 x  4 y 2 
  x x จะได้ ผลลัพธ์ดงั ข้ อใด ( ตอบ 4 )
8. จงทําให้ เป็ นรูปอย่างง่าย x  3
 x  xy 
1. 2x 2. 2x2 3. 32x2 4. 32x

5
( x  y) 3  3 x 2  2 xy  y 2
9. ค่าของ 2 ตรงกับข้ อใดต่อไปนี ้ ( ตอบ 4 )
(x 2
 y 2 ) 3 ( x  y ) 1
1
1. ( x  y ) 2 2. x – y 3. ( x  y ) 2 4. x 2  y 2

y x
10. กําหนดให้  2  1 และ 5 x  y  5 x  y = 4 จงหาค่าของ x  y ( ตอบ 3 )
x y
1. 6 2. 5 3. 3 4. 2

x 1 x 1
11. ผลบวกของรากของสมการ   2 มีคา่ ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 2 )
x x 1 6
1. 1 2. –1 3. 2 4. – 2

x  x2 1 x  x2 1
12. ค่าของ x จากสมการ  = 123 ตรงกับข้ อใดต่อไปนี ้ ( ตอบ 1 )
x  x2 1 x  x2 1
5 5 5 5 6 5 6 5
1. , 2. , 3. 6 5 4. 5 5
2 2 2 2

x 1 x 7
13. กําหนดให้ = 2 ค่าของ x  x 2 คือข้ อใด ( ตอบ 3 )
x 1 x 7
1. 0 2. 12 3. 56 4. 240

14. ถ้ า x  2 – 7 = 0 แล้ ว 3 x  13  5 x  19 เท่ากับเท่าใด ( ตอบ 1 )


1. 2 2. 3 3. 4 4. 5
83
84

15. จงหาผลรวมคําตอบของสมการ 4 x  8 – 2 x  5 = 1 ( ตอบ 3 )


1. 1 2. 2 3. 3 4. 4

16. จงหาผลรวมคําตอบของสมการ 6 x  5 + 5 x  4 = 4 x  3 + 3 x  2 ( ตอบ 1 )


1. 1 2. 2 3. 3 4. 4

3x x 1
17. จงหาผลบวกรากของสมการ –2 = 1 ( ตอบ 4 )
x 1 3x
1. –1 2. –2 3. –3 4. –4

18. รากคําตอบของสมการ 4 x 2  3 x  10 – x 2  2 x = x 2  x  6 อยูใ่ นช่วงใด ( ตอบ 3 )


1. ( –3,–2 ] 2. ( –2,0 ] 3. ( 0,2 ] 4. 

19. จงหาเซตคําตอบของสมการ x 2  4 x  21  x 2  x  6 = 6 x 2  5 x  39 ( ตอบ 4 )


1. { – 5/3 , 2 , 3 } 2. { 2 , 3 } 3. { 2 } 4. { 3 }

2
3x 2  8x  1 8
20. เซตคําตอบของสมการ 7 x  =   x  ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 2 )
x  x 
1. { 2 , 3 , 5 } 2. { 5 } 3. { –1, 6 } 4. { –7/3 , 5 }

 3  5 2 x  4 x 2 2x
21. จากสมการ   = 3  5  มีผลบวกของรากของสมการคือข้ อใด ( ตอบ 2 )
 4 
1. – 4 2. 0 2. 2 4. 4
85
86

22. จากสมการ 4( 6+ 20 ) 2 x 5 – 5 +1 = 0 จงหาค่า 2x+5 เท่ากับเท่าใด ( ตอบ 2 )


1. 11.5 2. 9.5 3. 8.5 4. 7.5

23. ค่าของ 7  2 12  9  2 20 มีคา่ ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 4 )


1. 3  5 2. 5  3 3. 3  5 4. 4+ 3  5

3 3
(5  21) 2  (5  21) 2
24. จงหาค่าของ 3 3 ( ตอบ 1 )
(8   (8 
63 ) 2 63 ) 2
1. 8 / 17 2. 9 / 25 3. 16 / 27 4. 8 / 25

25. จงหาค่าของ 4
5  4 5  4 5 ...... ( ตอบ 3 )
1. 5 2. 5 3. 3 5 4. 4 5

26. จงหาค่าของ 6  3  35  2 96 – 3  3  3  3  ..... มีคา่ ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 1 )


1. 2 2. 2 3. 2 2 4. 4+ 2

27. 3 26  15 3 – 6  4 2 ทําให้ อยูใ่ นรูปผลสําเร็จได้ ตรงกับข้ อใด ( ต.อ. 51 ) ( ตอบ 2 )


1. 3 – 2 2. 3 + 2 3. 2 3 – 2 4. 2 3 + 2

2
28. จงหาค่าของ 24  2 84  2 35  2 60  ( ตอบ 2 )
7 5
1. 3 2. 2 3 3. 2 3 +2 7 4. 2 3 +2 7 +2 5
87
88
89
Note.
90
 ฟั งก์ ชันเอกซ์ โพเนนเชียล ( Exponential Function )
คือ ฟั งก์ ชันที่อยู่ในรูป f = { (x,y)  RR+ y = ax , a  0 , a  1 }

 ข้ อสังเกต
(1) Exponential Function เป็ นฟั งก์ชนั หนึง่ ต่อหนึง่ จาก R ไปยัง R+
(2) ถ้ า 0  a  1 แล้ ว Exponential Function จะเป็ นฟั งก์ชนั ลด
(3) ถ้ า a  1 แล้ ว Exponential Function จะเป็ นฟั งก์ชนั เพิ่ม
91

Ex1. ฟั งก์ชนั ที่กําหนดต่อไปนี ้เป็ นฟั งก์ชนั เพิ่ม หรื อ ฟั งก์ชนั ลด


1 3 x
1. y = x 2. y =  
5 2

3. y = 3–x 4. y =  x

5. y = 3 2 x 6. y = e–x

7. y = ( sin 1) x
92

8. y = ( cos4 )– x

9. y = ( tan70) x
93
Note.
94
 หลักการวาดกราฟฟั งก์ ชัน Exponential ในรูปแบบต่ างๆ
(1) จํารูปพื ้นฐานของ Exponential Function ทังในกรณี
้ ฟังก์ชนั เพิ่ม และ ฟั งก์ชนั ลดให้ ได้

(2) เทียบสมการที่โจทย์ให้ มา กับ สมการมาตรฐาน y–k = ax–h


(3) เลื่อนแกน y ไปยังเส้ นตรง x = h และ เลื่อนแกน x ไปยังเส้ นตรง y = k
(4) ถ้ าหน้ า a ติดลบ ( ไม่ใช่ a ติดลบนะจ๊ ะ ) ให้ พลิกความสูงของกราฟจาก + เป็ นลบ หรื อ จาก – เป็ นบวก

Ex1. จงวาดกราฟตามสมการที่กําหนดให้ ตอ่ ไปนี ้


(1) y = 2x–2 (2) y = 2x + 3

(3) y = 3x+3– 2 (4) y = 3x–1+ 4


95

(5) y = –2x+1–3

x2 x 2
(6) y =  1 3 (7) y =  1 1
   
2 3

(8) y = 2x
96

(9) y = 2x

x
(10) y =  1
 
2

(11) y = 2x


97
Note.
98
 การแก้ สมการ Exponential
รู ปแบบที่ 1. สมการที่มี 2 พจน์
(1) ถ้ า am = an แล้ ว m = n  “ ถ้าฐานเท่ากัน เลขชีก้ ําลังก็ตอ้ งเท่ากัน ”  “ ใช้เมื อ่ ฐานเท่ากัน ”
(2) ถ้ า am = bn แล้ ว m = n = 0  “ ถ้าฐานไม่เท่ากัน เลขชี ก้ ําลังต้องเป็ น 0 ”  “ ใช้เมื อ่ ฐานไม่เท่ากัน ”
(3) ถ้ า am = bn และ m  n  0  “ ถ้าฐานไม่เท่ากัน และเลขชีก้ ําลังไม่เป็ น 0”  “ ต้อง take log ”

9x x+3 (0.2) x 1/ 2


Ex1. 8(2 ) = 64 Ex2. = 5(0.04)x – 1
5

2x – 3  2  x
Ex3. 0.125( 4 )=  
 8 
99

Ex4. 10x – 5x–12x–2 = 950 Ex5. 3x – 5 = 710 – 2x

Ex6. 188 – 4x = (54 2 )3 x 2


100

Ex7. 5x+1+5x+2 = 3775 – 5x–1

Ex8. 2x+2x+1+2x+2+2x+3 = 60

2 4 x 
2 x  =
2
Ex9. ค่าของ x ที่สอดคล้ องกับสมการ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ ( O–NET’49 ) ( ตอบ 3 )
44
1. 2 2. 3 3. 4 4. 5
101

3 3 x 16
Ex10. ถ้ า  3   = แล้ ว x มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ ( O–NET’50 ) ( ตอบ 1 )
 8 81
4 2 1 1
1.  2.  3.  4.
9 9 9 9

Ex11. ถ้ า 8x – 8( x+1 ) + 8( x+2 ) = 228 แล้ ว x มีค่าเท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้ ( O–NET ’50 ) ( ตอบ 2 )
1 2 4 5
1. 2. 3. 4.
3 3 3 3
102
Note.
103
104
รู ปแบบที่ 2. สมการที่มี 3 พจน์
(1) ทําให้ ขวามือเป็ น 0 โดยการย้ ายไปลบกับด้ าน ซ้ ายมือ
(2) จัดรูปให้ เลขชี ้กําลังพจน์กลางเป็ นครึ่งหนึง่ ของพจน์หน้ า ( อาจใช้ เทคนิคการเปลี่ยนตัวแปร ( ปตป. ) เข้ าช่วย )
(3) ใช้ หลักการแยกแฟกเตอร์ ในการหาคําตอบ

Ex1. 42 x = 22 x 1  8

Ex2. 72x + 47x – 5 = 0

Ex3. 3 2 x  3  55 = 28(3 x  2)
105
1
x
Ex4. 4 2  4 = 9  2x

Ex5. 3 2 x 1  3 x = 3x 3  9

2x+1 x–0.5
Ex6. 2 – 172 +4 = 0
106

x 2 4 x 2 4
Ex7. 2x  6  5( 2 ) x  2 

Ex8. 6(6 x  6  x )  37
107

x x
 3    2   13
Ex9.    
2 3 6

Ex10. (6  3 2 x )  (13  6 x )  (6  2 2 x )  0
108
Note.
109
110
รูปแบบที่ 3. สมการที่มีมากกว่ า 3 พจน์  ใช้ หลักการจับคู่ดงึ ตัวร่วมประกอบกับการแยกแฟกเตอร์

2 2
2 x 1
Ex1. 3x  3x  9 x 1  27 = 0

Ex2. ผลบวกของคําตอบของสมการ 12x – 2( 3x ) – 9(4x ) +18 = 0 มีคา่ เท่ากับเท่าใด ( Ent’48 มี.ค ) ( ตอบ 2.5 )
111
Note.
112

 การแก้ อสมการ Exponential ใช้ หลักการ f เพิ่ม , f ลด เข้ าช่วย กล่าวคือ

f เพิ่ม ( a  1 ) f ลด ( 0  a  1 )
ถ้ า a  an แล้ ว m  n
m
ถ้ า am  an แล้ ว m  n
ถ้ า am  an แล้ ว m  n ถ้ า am  an แล้ ว m  n

“ เครื ่องหมายเดิ ม ” “ เครื ่องหมายเปลีย่ น ”

Ex1. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้ว่าข้ อใดถูกต้ องบ้ าง


4 5
1.  5 2  5 3 2.  a    a  ;a  0
   
 1 a   1 a 

4 5 1 1
 1   1 
3.     4. cos 1 2  cos 1 3
 3  3
113

5. (sin 1) 3  (sin 1) 2

1 1
6. cos ec1 2  cos ec1 3

7. (tan 46) 2  (tan 46) 5


114

a a
8.  2 1a   3  1a , a  0

9. (tan 70) e  (tan 70) 

10. ( 2) 3  ( 3) 2
115
116

Ex1. จงแก้ อสมการต่อไปนี ้


(1)  0.04 
5 x  x 2 8  625

2
x  2 x 8 x 12
(2)  1   1
   
2 4

x (1x )
(3) 2 
9
 
3 4
117
2
x
(4) (sin1) x  (sin1) x 4

 1  x2
(5)    81
 3

(6) 5 3x+2  7 3x+2


118

(7) 2x+2–2x+3–2x+4  5x+1–5x+2

(8) 22x – 2x+1– 8  0

(9) 22x – 62x + 8  0


119
2
(10) x 2x  x x , x  0
120

(11) 8 x  18 x  ( 2  27 x )  0
121
Note.
122
 การบ้ านชุดที่ 3.

2
1. กําหนดให้ ( 13  12 ) x 2 x 4 = 13 + 12 ข้ อใดเป็ นค่าของ x2–2x+1 ( ตอบ 3 )
1. – 1 2. 3 3. 4 4. 5

2. จงพิจารณาข้ อความต่อไปนี ้ ( ตอบ 2 )


 a  5  a  3
ก. ถ้ า a  0 จะได้    
 a  1  a  1
7 5
 a2  1  a2  1
ข. ถ้ า a  0 จะได้  2    2 
 a   a 
1. ถูกเฉพาะข้ อ ก. 2. ถูกเฉพาะข้ อ ข. 3. ถูกทัง้ 2 ข้ อ 4. ผิดทัง้ 2 ข้ อ

3. จงหาค่าสัมบูรณ์ของผลบวกของรากของสมการ 4  311/ 2 x  31/ x  27 ( ตอบ 1 )


1. 3/4 2. 4/5 3. 2/3 4. 1/2

4. จงหาผลบวกของค่าสัมบูรณ์ของรากของสมการต่อไปนี ้ 6x + 3x+1 – 3(2x ) = 9 ( ตอบ 4 )


1. 4 2. 2 3. 0 4. 1

5. จงพิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
1
ก. ถ้ า 3 4 x 2  9 2 x 1  81x  89 แล้ ว x =
2
3x x 1 2
ข. ถ้ า 4  8  6  0 แล้ ว x = , ข้ อใดสรุปถูกต้ อง ( ตอบ 1 )
3 3
1. ถูกเฉพาะข้ อ ก. 2. ถูกเฉพาะข้ อ ข. 3. ถูกทัง้ 2 ข้ อ 4. ผิดทัง้ 2 ข้ อ

6. ค่าของ x จากสมการ 3 x  3 x 1  3 x  2  3  5 x  5 x 1  5 x 1 อยูใ่ นเซตข้ อใด ( ตอบ 2 )


1. { –1,2, –2,3/2 } 2. { 1,–1, 2,3/2 } 3. { –1,2,3,–3 } 4. { 2,3/2,3,5/2 }

7. กําหนด 2 4 x 1  9 4 x 1  256 x 1  625 x ถ้ า y = 10000x แล้ ว y มีคา่ เท่ากับข้ อใด ( ตอบ 1 )


1. 2,500 2. 3,000 3. 3,500 4. 4,000
123
124

8. กําหนด 6( 25 x )  11(23 x )  3(2 x )  25 x 1 ถ้ า y = 25( 3–x ) แล้ ว y มีคา่ เท่ากับข้ อใด ( ตอบ 2 )
1. 80 2. 100 3. 110 4. 120

9. ถ้ า (m4  8m2  16)2 x 1  (m  2)8 x (m  2)8 แล้ ว x เท่ากับเท่าใด ( ตอบ 1 )


1. –1 2. 3/4 3. 1 4. –5/4

2 x  10 9
10. คําตอบของสมการ  x  2 อยูใ่ นเซตใด ( ตอบ 2 )
4 2
1. { –1, 2, 4 } 2. { 2, 3, 4 } 3. { 1, 8, 9 } 4. { 2, 4, 5 }

1 1
11. จากสมการ 6x n
2 x
 8 = 0 ถ้ าค่าหนึง่ ของ x มีคา่ เป็ น 64 เท่าของอีกค่าหนึง่
n แล้ ว
จงหาค่าของ n เมื่อ n เป็ นจํานวนเต็มบวก ( ตอบ 4 )
1. 1/2 2. 1/4 3. 2 4. 3

12. ค่าสัมบูรณ์ของผลต่างของทุกคําตอบของสมการ
x 2  x 2 ) x 2  x 2
3 (1  9  [3  ] = 28 มีคา่ เท่าใด ( ตอบ 2 )
1. 2.5 2. 5 3. 7.5 4. 10

1 1
 2 x 1 x   x 2 
 2  9 2  32  2 
2
13. ให้ A = { x  3  27   } ผลบวกสมาชิกทังหมดของ
้ A เท่ากับเท่าใด ( ตอบ 1 )
1. 4 2. 8 3. 16 4. 32

14. จงหาค่า x จากสมการ 4 1+x + 4 1–x = 10 ( ตอบ 1 )


1. 1/2 , –1/2 2. 1/4 , –1/4 3. 1 , 2 4. 1 , 4

1 x 2  6 x 12
15. ถ้ า  a,b  เซตคําตอบของ    9x–12 ค่า a+b ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 1 )
3
1. 4 2. –4 3. –8 4. 8
125
126
2
16. ถ้ า a  1 แล้ วเซตคําตอบ ( a x ) 2x – 7  a 2–7x ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 1 )
1 1
1. ( –, )( 1,2 ) 2. ( –,1 )( 1,2 ) 3. ( 1,2 ) 4.  ,2 
2 2 

17. เซตคําตอบ 23x–1 6x255x–1  75x ตรงกับข้ อใด ( ตอบ 3 )


1 1 1 1
1. ( –, ] 2. [ , ) 3. [ , ) 4. ( –, ]
2 2 4 4

18. ถ้ า U = { x R2x+2 –10 6 } เป็ นเอกภพสัมพัทธ์แล้ วข้ อใดต่อไปนี ้เป็ นจริง ( ตอบ 3 )
1 x  x  1 x   x  1 x   x  1 x 
1. x[ 3 =   ]
x
2. x 3     3. x 3     4. x 3     2
3  3   3   3 

2 2
x 1 2 x 1
19. ถ้ าคําตอบของอสมการ (sec1)8 x  (sec1)2 x คือ ( –,a )( b, ) จงหาค่าของ 3a+2b ( ตอบ 3 )
1. 0 2. 1 3. –1 4. 2

2
20. ถ้ าคําตอบของอสมการ ( x  1) x  ( x  1) x เมื่อ x  –1 คือ ( a, ) จงหาค่า a ( ตอบ 2 )
1. 0 2. 1 3. –1 4. 2

21. คําตอบของสมการ ( 2x )x = 4( 1– x) คือข้ อใดต่อไปนี ้ ( Ent’41 เลข 2 ) ( ตอบ 1 )


3
1.  1 3 2.  1 2 3.  1 4. ไม่มีคําตอบที่เป็ นจํานวนจริง
2

x 2  2x 2
22. ให้ A  { x  R 3  3 x  1  9 x  1  27  0} ผลบวกกําลังสองของสมาชิกทังหมดของ
้ A เท่ากับเท่าใด
( Ent’39 ) ( ตอบ 4.25 )

2
x 3
23. เซตคําตอบของสมการ ( x )  x เป็ นสับเซตของเซตในข้ อใดต่อไปนี ้ ( Ent’39 ) ( ตอบ 1 )
1. [ 0,3 ] 2. [ 2,4 ] 3. [ –3,–2 ][ 2,3 ] 4. [ –2,–1 ][ 1,2 ]
127
128

24. ให้ R  เป็ นเซตของจํานวนจริ งบวก และ A  {x 2 2 x  2 x 1  2 3  0}


B  {x 2 x  2  x  2  1}
ข้ อใดถูกต้ อง ( Ent’40 ) ( ตอบ 1 )
1. A  B 2. B  A 3. AB = 4. AB = R 

 2
x (1 x )
9 
25. ถ้ า A   x  R     แล้ วเซต B เป็ นช่วงในข้ อใดต่อไปนี ้ ที่ทําให้ B  A   ( Ent’41 ) ( ตอบ 1 )
 3 4 
1. ( –2,–1 ) 2. ( –1,0 ) 3. ( 0,1 ) 4. ( 1,2 )

A  { x R 5 3 3   2553
2x x 1/ 2 
26. กําหนดให้ }
ผลบวกของสมาชิกทังหมดของ
้ A มีคา่ เท่ากับข้ อใด ( Ent’42 ต.ค. ) ( ตอบ 1 )

27. ถ้ า x เป็ นรากของสมการ 2 3 x 1  6 x  25 5 x 1  75 x แล้ ว x มีคา่ เท่ากับเท่าใด ( Ent’43 มี.ค. ) ( ตอบ 1/4 )

 2 x 
x 2 ( x 3)  
28. เซตคําตอบของอสมการ 2  8 3  เป็ นสับเซตของเซตในข้ อใด ( Ent’44 มี.ค.) ( ตอบ 4 )
1. ( 1, ) 2. ( –2,100 ) 3. ( –10,10 ) 4. ( –,2 )

29. เซตคําตอบของสมการ 4  3 2 x  9  2 2 x = 13  6 x เป็ นสับเซตในข้ อใดต่อไปนี ้ ( Ent’44 ต.ค.) ( ตอบ 3 )


1. [ –4,0 ] 2. [ –3,1 ] 3. [ –2,2 ] 4. [ 1,3 ]

2 1
30. เซตคําตอบของอสมการ 4( 2 x  4 x  5) )  คือเซตในข้ อใดต่อไปนี ้ ( O–NET ’50 ) ( ตอบ 4 )
32
5 5 5 1 15
1.  ,  2.  ,1 3.  ,1 4.  , 
 2 2   2   2   2 2 
129
130
Note.
131
Note.
132

31. จงวาดกราฟตามสมการที่กําหนดให้ ตอ่ ไปนี ้


(1) y = 2x–1+3 (2) y–2 = 2x+1

x
(3) y =  1  +1 (4) y = 2 –x
 
2
133
Note.

You might also like