มโหสถ ปราชญ์น้อยคู่แผ่นดิน EP.

1 ตอน หัวขโมยติดปีก
เป็นตอนที่เล่าถึงเจ้านกที่ชอบขโมยของจากตลาด ทำให้พ่อค้า แม่ค้าตามไล่จับนกหัวขโมย แต่ว่ากลับไปชนเข้ากับแก๊ง
ป่วนตลาด จนทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทขึ้น มโหสถจึงเข้ามาช่วยแก้ไข โดยให้แก๊งป่วนตลาดไปไล่จับนกหัวขโมย เพื่อแลกกับค่า
ชดใช้ แต่เป็นเพียงกลอุบาย เพราะในที่สุดมโหสถก็เป็นคนที่จับหัวขโมยได้ พวกแก๊งป่วนตลาดจึงไม่ได้อะไรเลย และขอรางวัลจาก
พ่อค้า แม่ค้าที่จับนกตัวนี้ได้ ด้วยการปล่อยนกตัวนี้และมโหสถจะนำไปเลี้ยงเอง โดยให้ชื่อว่า “สุวโปดก”และได้ให้เหตุผลการปล่อย
นกตัวนี้ว่า “เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร’’ นกเพียงผลัดหลงมาเท่านั้น

มโหสถ ปราชญ์น้อยคู่แผ่นดิน EP.2 ตอน ปริศนาหน้าวัว

เรือ่ งราวเกิดขึ้นทีต่ ลาดค้าสัตว์ มีชาย 2 คนทะเลาะกันเรื่องวัว โดยต่างฝ่ายต่างอ้างว่าวัวนั้นเป็นของตน มโหสถจึงเข้าไป
ช่วยแก้ไขปัญหา โดยถามชายทั้ง 2 ว่าวัวนั้นกินอะไรเป็นปกติ แล้วจึงนำหญ้าที่เป็นยาสมุนไพรแก้ท้องอืด ทีจ่ ะทำให้วัวสำรอก
ออกมาเมื่อกินเข้าไป จนวัวสำรอกออกมาเป็นอาหาร ชายที่ตอบว่าเป็นสะตอก็คือเจ้าของตัวจริงนั่นเอง เหตุการณ์นี้ มโหสถได้กล่าว
เตือนชายผู้โกหกและทุกคนว่า อย่าได้คิดขโมยของๆใคร และทุกคนควรระวังข้าวของของตนเอง

มโหสถ ปราชญ์น้อยคู่แผ่นดิน EP.3 ตอน เครื่องประดับหอม

ตอนนี้เป็นตอนที่อุวนั นะผู้ติดตามของมโหสถ รู้สึกน้อยใจที่ตนรูปลักษณ์ไม่ดีเหมือนอย่างมโหสถ จึงสวมรอยเป็นมโหสถ
โดยการนำเครื่องประดับของมหโสถมาสวมใส่ และเข้ามาแก้ปัญหาให้กับหญิงสาวทั้งสอง ที่กำลังทะเลาะกัน โดยอ้างว่าตนนั้นเป็น
ผู้ทำเครื่องประดับที่มโหสถใส่อยู่ แต่ว่าอุวันนะไม่สามารถหาได้ว่าหญิงวาวคนใดกล่าวเท็จ มโหสถเห็นอย่างนั้นจึงเข้ามาแก้ปัญหา
โดยนำน้ำเข้ามาเทใส่เครื่องประดับ ทำให้เครื่องประดับส่งกลิ่นมะลิ นั่นหมายความว่าหญิงสาวที่อ้างว่าเป็นกลิ่นหอมมะลินั้นเป็น
เจ้าของจริงๆ และอุวนั นะก็ยอมรับว่าตนไม่ใช่มโหสถ มโสถได้กล่าวเตือนและให้บทเรียนแก่หญิงสาวและอุวนั นะว่า ควรรอบคอบ
ระมัดระวัง และไม่ควรที่จะสวมรอยใคร

มโหสถ ปราชญ์น้อยคู่แผ่นดิน EP.4 ตอน ด้ายกลุ่ม

กามินทะ หนึง่ ในสี่พรามห์แห่งมิถิลา ได้ปลอมตัวเป็นยายขายด้ายกับหญิงสาวที่ขโมยด้ายของหญิงสาวจากหมู่บ้านพรม
จรรย์ มโหสถได้ใช้ปัญญาในการแก้ไขหาตัวคนผิด โดยการถามถึงวัสดุที่ใช้เป็นแกนในการม้วนด้ายว่าคืออะไร กามินทะตอบว่าเป็น
เหล็ก และมโหสถจึงรู้ได้ทันที ว่ายายคนนี้นั้นโกหก เพราะด้ายที่มโหสถถืออยู่นั้นน้ำหนักเบา หญิงสาวจากหมู่บ้านที่อ้างว่าถูกขโมย
ไปก็ตอบกลับทันทีว่าวัสดุนั้นเป็นกอป่า มิใช่เหล็ก เมื่อคลายเส้นด้ายออกก็รวู้ ่ายายคนนั้นโกหก และกามินทะก็ปรากฎตัว แสดงตน
ให้มโหสถเห็น

มโหสถ ปราชญ์น้อยคู่แผ่นดิน EP.5 ตอน ลูกใครหว่า

เรื่องราวของเด็กที่ถูกลักขโมยไป มโหสถจึงช่วยแก้ปัญหาเพื่อหาคำตอบว่าหญิงคนใดที่เป็นแม่เด็กจริงๆ และคนไหนคือ
ขโมยทีโ่ ขมยเด็กไป โดยใช้อุบายให้หญิงสาวทั้งสองดึงลูก แย่งลูกกัน หากใครได้ดงึ ลูกไปได้จะเป็นแม่ตัวจริง หลังจากที่แม่ตัวจริง
เห็นลูกร้องและกลัวลูกเจ็บจึงปล่อยตัวเด็ก ทำให้มโหสถรู้ว่าหญิงสาวคนนั้นคือแม่แท้ๆ เป็นอุบายทีแ่ สดงให้เห็นว่าแม่ที่แท้จริงจะรัก
และหวงแหนลูกของตนมาก

มโหสถ ปราชญ์น้อยคู่แผ่นดิน EP.6 ตอน ท่อนไม้พระราชา

พระราชาต้องการรู้ถึงปัญญาของมโหสถ จึงได้ให้คำถามแก่มโหสถว่า “ด้านไหนของท่อนไม้นี้คือ โคนและปลายกิ่ง”
มโหสถจึงแก้ปัญหาข้อนี้โดยการนำกิ่งไม้ไปลอยน้ำ และแสดงให้เห็นว่าด้านหนักคือโคน ด้านเบาคือปลาย และปฎิเสธที่จะรับรางวัล
จากพระราชา พร้อมให้เหตุผลว่า การรับเหรียญทองมานั้นถือว่าเป็นการพนันและเป็นสิ่งไม่ดี การทายปัญหาเชาว์กันนั้นควรถาม
เล่นกันสนุกก็เพียงพอแล้ว ถึงอย่างนั้นพระราชาก็ยังยืนยันจะให้รางวัลแก่มโหหสถอยู่ดี

มโหสถ ปราชญ์น้อยคู่แผ่นดิน EP.7 ตอน งู

ตอนนี้อาบังจากวังหลวงได้คิดแผนที่จะหักหน้ามโหสถ โดยนำงูไปทำการแสดงที่ตลาด และอุวันนะผู้ซุ่มซ่ามดันหกล้มใส่
จนทำให้งูหลุดหนีออกจาโถ และถูกกัด อาบังจึงเรียกค่าเสียหายและถามคำถามมโหสถเป็นการไถ่โทษแทนหากตอบคำถามนี้ได้ อา
บังมั่นใจว่ามโหสถจะไม่มีทางตอบได้แน่นอน โดยถามว่างูเทพที่ถืออยู่ คือตัวผู้หรือตัวเมีย ด้วยปัญญาของมโหสถที่สามารถอธิบาย
ได้ว่างูเป็นตัวผู้ จากลักษณะภายนอกของสัตว์ และรีบนำสมุนไพร เสลดพังพอนมาให้กับอุวันนะ และอาบังเองที่ถูกงูเทพกัด พร้อม
กล่าวว่าชื่อของตนนั้นคือมโหสถ หมายถึงผู้เกิดมาพร้อมมหาโอสถที่รักษาได้ทุกโรค และให้คำสอนไว้ว่า ให้ทุกข์แก่ท่านทุกนั้นถึงตัว
แสดงให้เห็นว่ามโหสถนั้นเป็นผู้ที่มีปัญญามาก