You are on page 1of 11

การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

การศึกษาพันธุศาสตรของเมนเดล เกรเกอร เมนเดล(Gregory Mendel) บาทหลวงชาวออสเตรียเกิด


เมื่อ พ.ศ. 2365 “ลักษณะที่ปรากฏในลูกเปนผลมาจาก การถายทอดหนวยที่ควบคุมลักษณะตาง ๆ ซึ่งไดจากพอ
แมโดยผานทางเซลลสืบพันธุ”
เมนเดลเลือกใชตนถั่วลันเตา (Pisum sativum) เพื่อศึกษาการถายทอดลัก ษณะ ทางพันธุกรรม โดยมี
เหตุผลหลายประการ ดังนี้ 1. ปลูกงาย อายุสั้น เจริญเติบโตเร็ว ใหผลดก 2. มีหลายพันธุ มีลักษณะแตกตางกัน
ชัดเจน สามารถคัดเลือกลักษณะที่ตองการไดงาย 3. ดอกถั่วลันเตาเปนดอกสมบูรณเพศ มีการผสมในดอกเดียวกัน
และสามารถควบคุม การทดลองใหผสมขามตนไดงาย
เมนเดลไดทําการทดลองผสมพันธุ ถั่วลันเตา ที่มีประวัติวามีตนสูงทุกรุนกับตนเตี้ยผลปรากฏวา รุนลูกหรือ
รุน F1 (first filial generation) เปนตนสูงทั้งหมด และ เมื่อเมนเดลนําเอาเมล็ดที่เกิดจากการผสมพันธุ ภายใน
ดอกเดียวกันของรุน F1 ไปเพาะเมล็ด ซึ่งเปนรุนหลานหรือรุน F2 (second filial generation) ปรากฏวามีตนสูง
มากกวาตนเตี้ยในอัตราสวน 3:1
ลักษณะตนสูงที่ปรากฏในทุกรุน เรียกวาลักษณะเดน (dominant) สวนลักษณะตนเตี้ยที่มีโ อกาส
ปรากฏในบางรุน เรียกวาลักษณะดอย (recessive) P -_aonÑN p=aOnV72 ,

inks Now

ppaoiw )
ppl does

Fy
Pp Pp

pp
pp
การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
หลักการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม 1. หนวยพันธุกรรม หรือ ยีน (gene) หมายถึง สิ่งที่ควบคุม
ลักษณะทางพันธุกรรม ของสิ่งมีชีวิต ซึ่งจะถายทอดจากพอแมไปยังรุนตอไปได ยีนอยูบนโครโมโซม มี ลักษณะ
เรียงกันเหมือนสรอยลูกปด ยีนแตละตัวจะควบคุมลักษณะตาง ๆ เพียงลักษณะเดียว ยีนมีองคประกอบที่สําคัญคือ
DNA ที่เกิดจากการตอกัน เปนเสนของโมเลกุลยอยที่เรียกวา นิวคลีโอไทด (nucleotide)
ยีนที่ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม มี 2 ชนิด คือ
1) ยีนเดน (dominant gene) คือยีนที่แสดงลักษณะนั้น ๆ ออกมาได แมมียีน นั้นเพียงยีนเดียว
2) ยีนดอย (recessive gene) คือยีนที่สามารถแสดงลักษณะใหปรากฏออกมาไดก็ตอเมื่อมียีนดอยทั้งสองยีนอยู
บนคูโครโมโซม

2. คูของยีน โครโมโซมของสิ่งมีชีวิตแตละชนิดมีลักษณะรูปรางเหมือนกันเปน คู ๆ ยีนที่อยูบนโครโมโซม


ก็จะอยูเปนคูดวยเชนกัน โดยยีนที่ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมลักษณะเดียวกันจะอยูบนโครโมโซมที่ตําแหนง
เดียวกัน เซลลรางกายของสิ่งมีชีวติมีโครโมโซมที่ทําหนาที่ถายทอดขอมูลทางพันธุกรรมอยู 2 ชุด เขาคูกันเรียกวา
โครโมโซมคูเหมือ นหรือฮอมอโลกัส โครโมโซม (homologous chromosomes) ถาพิจ ารณาลัก ษณะทาง
พันธุกรรมลักษณะใดลักษณะหนึ่ง เชน ลักษณะสีตาจะพบวามียีน ที่ควบคุมลักษณะสีตาอยูบนโครโมโซมแทงหนึ่ ง
โครโมโซมคูเหมือนก็จะมียีนที่ควบคุมลักษณะสีตาดวยเชนกัน

 Homozygous Dominance: คูเดนแท เชน TT แสดงการถายทอดลักษณะตนสูงแทของตนถั่ว


 Homozygous Recessive: คูดอยแท เชน tt แสดงการถายทอดลักษณะตนเตี้ยแทของตนถั่ว
เฮเทอโรไซกัส (heterozygous) คือ ยีนคูตางกัน เปนการเขาคูของยีนเดนและยีนดอย เชน Aa
Homolog us chromosome


a Helles

Bonga
Info

p p p
p p
D
-
D
d d d-
- -
D
- -

homozygous dominance : DD
homozygous recessive
-

: old
Dd
-

heterozygous : .
แอลลีล (allele) คือ ยีนที่ควบคุมลักษณะเดียวกันแตตางรูปแบบกันแมจะอยูบนโครโมโซม คูเหมือนตรง
ตําแหนงเดียวกันเชน ลักษณะของติ่งหูจะมียีนควบคุม อยู 2 แบบ คือแอลลีลที่ควบคุมการมีติ่งหู (ใหสัญลักษณ
เปน B) และแอลลีลควบคุมการไมมีติ่งหู (ใหสัญลักษณเปน b)
จีโนไทป (Genotype) คือ รูปแบบของยีนที่ควบคุมฟโนไทปตาง ๆ มี 2 ประเภท คือพันธุแทและพันธทาง
ฟโนไทป (Phenotype) คือ ลักษณะที่แสดงออกของสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏออกมาใหเห็นไดดวยตา ขึ้นกับการขมของ
ยีน
ตัวอยาง
1) ลักษณะความสูงของตนถั่วลันเตา กําหนดให T = ยีนสูง (ลักษณะเดน) t = ยีนเตี้ย (ลักษณะดอย)
- จีโนไทปมีทั้งหมดกี่แบบ ตอบ 311W -ฟโนไทปมีทั้งหมดกี่แบบ ตอบ 2 " UU

"Ñ TT tt IWW
:
, f) ,
Ms : Tt

WWII ) )
① Niro.im/ey anti -


( (

วาดแผนผัง Parent TT ✗ tt
Parent Tt ✗ Tt
iwÑÑÑÑwfT ✗ t
F Tt
' Tt Tt Tt Tt of ) ) Fr TT Tt the
Phenotype I] I' Ii f) Phenol INU
E) Is f)

XY XX
2) ยีนหัวลานเปนยีนที่เพศมีผลตอการแสดงออก โดยเปนยีนเดนในเพศชาย แตเปนยีนดอยในเพศหญิง
7wlN
กําหนดให B = ยีนหัวลาน B’ = ผมปกติ
" '

- จีโนไทปมีทั้งหมดกี่แบบ ตอบ BB
>
1313,1313 -ฟโนไทปมีทั้งหมดกี่แบบ ตอบ www.wwihm
'

loin Blohsmrh B dow 211W .

' '
BB BB B'B

V10 5ns this wartime

bus wanna washout


nd , Bakunin '
D
° " loin
Tinson ,w;nI ,
*
3) ในแมลงหวี่มียีนควบคุมสีตาคือ R = สีแดง r = สีขาว โดยเปนยีนบนโครโมโซม X (โครโมโซมเพศ XX = หญิง
XY= ชาย) ถาผสมพันธุแมลงหวี่ตัวผูที่มีตาสีแดง กับแมลงหวี่ตัวเมียที่มีจีโนไทป XRXr
Mr จะไดลูกที่มีตาสีแดง:ขาว ใน
" r

อัตราสวนเทาใด ✗ ✗

" armor
Pcgenotype )
✗Y
R
% .mg ✗
"
xr
"
"
gamete × Y × × Xr
, " ,
ÑÑÑ
"
" "
"
F
, genotype ] ✗ ✗ ✗ y ✗ try

phenotype minor ] Mun ] MIMI mind

Johndrow Mum : omni 3 : 7

*
4) สามีภรรยาคูหนึ่งมีลูกตาบอดสีทั้งชายและหญิง แสดงวาลักษณะของสามีภรรยาคูนี้เปนอยางไร
mirror round
{ is i. ,I=VnÑ "W : II. ii
{ ginoifrfufnslwivwx
( Now ) ( Idw ) M ) : Ii .

'

✗ ✗ XX XY XY
✗ Y ✗ ✗ ×iY ✗ ✗ ✗
' i

}
}
mum
muon
xixixixi xiy ¥ × xixi YXIY
↓ ↓ I
} word
xixi xiy von
,
.

bunion
5) การผสมพันธุของผึ้งนางพญาและผึ้งตัวผู ไดลูกที่มีจีโนไทปดังนี้
iron runabout )Ñw8Ss

.
/
e.

เพศเมีย AABB AABb AaBB AaBb y เพศชาย AB Ab aB ab


ahi7aiwdvmswiwww.at two }f7)MU( 2h )
f. lwtnwvosngniwarvnu
จีโนไทปของนางพญาผึ้งเปนแบบใด Found'owÑUv0 ]
MINK ?
"

AqBb
"

AaBbABab MÑowpnoiwÑñwnmh
00am hahahah
mswswnhr !

6) ลักษณะคอสีดําในนกเขาถูกควบคุมโดยยีนดอยบนโครโมโซม Z ถาผสมนกเขาเพศเมียคอเหลืองกับนกเขาเพศผู
no ,
คอดํา จะไดลูกผสมอยางไร Nrf
ME'd )(
into ) zbw zBzB
B =

ÑICÑOE ) Zbw ✗ zBzb


b =

:/ nslwtvwn
2% # z 'wzBw
W
lira )lwÑVW ! 001ns "DÑmM,V7u,nÑ ) 21326 zbzb ZBW zbw
disown ✗ Y=8iw
units
; oil
do 1hr40 )
1,017
✗✗ end ] i.
/ :
?⃝
?⃝
?⃝
XY XX
7) โรคฮีโมฟเลียถูกควบคุมโดยยีนดอยบนโครโมโซม X การแตงงานแบบไหนที่ลูกชายทุกคนจะเปนโรคนี้แตลูกสาว
ÑO 1in
จะปกติทุกคน P Ey ✗
✗¥
H=Vnñ h -
Isn
EY EY EY
_

,
xhy

:X "Y 'wwsnDihnÑ✗"Y
Into now woman

Innis :X "X win ,wiwWnµWÑwba~ .

" " "


8ÑIw7nÑs✗h×hmñ≈nvwÑuM
Ñwlonatihihndx "y gnf.me
,w~×H✗h
,

8) หญิงผมปกติแตงงานกับชายหัวลาน มีลูก 2 คน คนแรกเปนชายผมปกติ คนที่สองเปนหญิงหัวลาน จีโนไทปของ


Ido Ñ "
พอและแมเปนแบบไหนตามลําดับ BB BB 1
B=Unñ
66 ✗
bin .in 60

Blohm'^B &
'

dow
loin
' ' BB BB bib → Bb
BB
g
[
BB B'B
.

mu ins ñnw wartime Bb Bb


his wwÑ wW^ñ
up , Bb 66
° "
Bakunin D
'

loin
BB Bb
ruins
Tinson ,wjnI ,
↓ nisunñ
1
9) หญิงผมไมลานแตงงานกับชายหัวลานมีลูกสาวหัวลาน โอกาสที่ลูกสาวและลูกชายหัวลานเปนไดอยางไร
Bb Bb
* win biñwnin 'B
Now
66 Bb BB Bb 66
BB Bb
5ns this wartime
no =
- -

" wanna washout


%
"
"
Now
Boromir D
'

loin
|omdÑÑwÑÑw= 3-4=75-1 .

www.wjnf ,

fomSÑnIWÑw=1= 25% Bxb


✗B×B ✗

10) ลักษณะลายขนไกเปนยีนเดนบนโครโมโซม X ตัวเมียขนลายมีจีโนไทปเปน XBXB หรือ XBXb ตัวผูขนลายมีจี


BY ✗
โนไทปเปน XBY จบอกจีโนไทปและฟโนไทปของลูกไกที่จะเกิด
NO 116 '
ÑO 11N
P
✗ By ✗ BxB p
✗ BY ✗ 13×6

F
,
'

✗ 3×13
"
✗ ×
'

By ✗ By F
,
ÉÉ ¥ ¥4

Phenotype G) www.oiwzodiufvwoiwzphenotyeotndvvwowainfvwnnu
'

y
-

a
= 50T . = got .
e

กฎของเมนเดล
กฎขอที่ 1 กฎแหงการแยก (Law of Segregation) ในสาระสําคัญของกฎ
ยีนที่อยูเปนคูกันจะแยกออกจากกันอยางอิสระ จากเซลลรางกาย (2n) > เซลลสืบพันธุ (n)
กฎขอที่ 2 กฎแหงการรวมกลุมโดยอิสระ (Law of Independent Assortment) สาระสําคัญของกฎ
ยีนที่อยูเปนคูกันเมื่อแยกออกจากกันแลว แตละยีนจะไปกับยีนอื่นใดก็ไดอยางอิสระ นั่นคือ เซลลสืบพันธุ
จะมีการรวมกลุมของหนวยพันธุกรรมของลักษณะตาง ๆ โดยการรวมกลุมที่เปนไปอยางอิสระ จึงทําใหสามารถ
ทํานายผลที่เกิดขึ้นในรุนลูกรุนหลานได

Bb Tt
qAa
, ,

n = จํานวนคูของ heterozygous gene


2h
ตัวอยาง ใชถั่วลันเตารุนพอแมทีม่ ีจีโนไทปเหมือนกันเปน AaBbCC จะสรางเซลลสืบพันธุได กี่แบบ ลูกที่ไดมีจีโน
ไทปและฟโนไทปกี่ชนิด
I >
2h

2h = 22 = 4 OWN

AABGCC ✗ AABGCC

ABC ✗ Abc

3h 3×3=9 ND
,n=2
=

2h A- 2 = 4 11W .

our
cellar
{
now
;

/ *
1. พันธุกรรม (Heredity) หมายถึงขอใด

ก. สิ่งที่ไดรับการถายทอดจากคนทีร่ ูจัก

ข. สิ่งที่ไดรับจากการถายทอดมาจากบรรพบุรุษ หรือจากรุนสูรุน

ค. สิ่งที่ไดรับการถายทอดจากบรรพบุรุษเพียงรุนเดียว

ง. ความผิดปกติของรางกาย

2. ขอใดไมเปนลักษณะที่ถายทอดทางพันธุกรรม

ก. ถนัดมือขวา ข. ลักยิ้ม

ค. แผลเปน ง. ตาสองชั้น

3. ลักษณะในขอใดเกิดจากการถายทอดทางพันธุกรรม

ก. ตี๋ใหญเปนโจรเหมือนพอ ข. สมใจมีลักยิ้มเหมือนแม

ค. แดงชอบทานไกทอดเหมือนพอ ง. สมศรีและแมปวยเปนโรคกระเพาะ

4. ลักษณะใดเปนความแปรผันแบบตอเนื่อง

ก. มีติ่งหู ข. หอลิ้นได

ค. คิ้วหาง ง. ความสูง

5. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับโครโมโซม

ก. ออโทโซมทุกคูจะมีขนาดเทากัน ข. ในเซลลรางกายจะมีโครโมโซม 46 แทง

ค. โครโมโซมแตละคูจะมีจํานวนยีนตางกัน ง. เซลลไขหรืออสุจิจะมีโครโมโซม 23 แทง


Homozygous
Heterozygous
A /
A / /
A
/ Ago Ñ7ÑodÑonB lluutlomozygus ✗
1121
A 11W Heterozy .

,
.
.

13 113113,11310 minor ? 113113


1^-10
×
0 top
1^-113 1131° 1AM 11310
AB 1^-113
6. ในเซลลของคน “ออโตโซม” หมายถึงโครโมโซมคูทีเ่ ทาใด

ก. 1 ข. 23

ค. 1-22 ง. 1-23

7. โครโมโซมมีองคประกอบเปนสารประเภทใด

ก. ไขมันและโปรตีน

ข. กรดนิวคลีอิกและไขมัน

ค. กรดนิวคลีอิกและโปรตีน

ง. กรดนิวคลีอิก ไขมัน และโปรตีน

8. โอกาสทีจ่ ะไดลูกสาวมีคาเทากับเทาใด

ก. 25% ข. 50%

ค. 75 % ง. 100%

9. เมนเดลไดศึกษาเรื่องราวของพันธุกรรม โดยคนพบหลักเกณฑในขอใด

ก. สิ่งมีชีวิตถายทอดลักษณะตางๆ ไปสูรุนหนึง่

ข. เมื่อมีการปฏิสนธิ ทั้งยีนและโครโมโซมจะถูกถายทอดไปสูลูกพรอมๆ กัน

ค. โครโมโซมจะแยกกันอยูอยางอิสระ เมื่อมีการปฏิสนธิจะมีการรวมกันของโครโมโซมอีกครั้งหนึ่ง

ง. ยีนที่อยูเปนคูๆ ในสิ่งมีชีวิตจะแยกออกจากกันอยางอิสระเมือ่ มีการสรางเซลลสืบพันธุ และจะกลับมา


รวมกันอีกครั้งเมื่อมีการปฏิสนธิ
10. ลักษณะในขอใดนาจะนําโดยยีนดอย

ก. พบลักษณะนั้นๆ ในทุกรุน

ข. พบลักษณะนั้นๆ บางชั่วรุน

ค. คนสวนมากมีลกั ษณะนั้นๆ อยูแลว

ง. ไมมีลักษณะใดๆ ที่นําโดยยีนดอย

11. โรคกลุมใดเกิดจากความผิดปกติของออโทโซม

ก. ตาบอดสี ข. ดาวนซินโดรม

ค. ไคลนเฟลเตอรซินโดรม ง. เทอรเนอรซินโดรม

12. ขอใด ไม ตรงกับขอเท็จจริง

ก. โรคทางพันธุกรรมในมนุษยสวนใหญรักษาได

ข. ปจจุบันมนุษยสามารถตัดตอยีนเพื่อผลิตฮอรโมนอินซูลินได

ค. โรคทางพันธุกรรมในมนุษยบางครัง้ พบวาไมแสดงอาการใหเห็น

ง. ลักษณะที่คนสวนใหญมีหรือแสดงออกคือลักษณะทีถ่ ูกควบคุมโดยยีนเดน

13. ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับเทคนิคพันธุวิศวกรรม

ก. เปนการนํายีนของสิง่ มีชีวิตชนิดเดียวกันมาตอกัน

ข. เปนการนํายีนของสิ่งมีชีวิตตางชนิดมาตอกัน

ค. เปนการตัดยีนที่ไมดีทงิ้ ไป

ง. เปนการเพิม่ จํานวนยีนใหมีมากขึ้นตามที่ตองการ
14. ขอใดประโยชนจากเทคโนโลยีชีวภาพ

ก. การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช ข. การโคลนนิง่

ค. พืช GMOs ง. ถูกทุกขอ

15. ทําไมจึงตองมีการคัดเลือกพันธุ

ก. เพื่อปรับปรุงพันธพืชและสัตว

ข. เพื่อปรับปรุงใหไดสายพันธุใหม

ค. ถูกทั้ง ก และ ข

ง. ไมมีขอถูก

You might also like