ภูมิประเทศที่เกิดจากกระบวนการของลม

ลม ถือว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของเปลือกโลก ก่อให้เกิดภูมิประเทศลักษณะ
ต่างๆ โดยแบ่งออกเป็น 2 กระบวนการที่เกิดจากลม ได้แก่
1. การกร่อนโดยลม เช่น เสาหินหรือเขาโดด ที่เกิดจากการพัดกราดของลม แอ่งทะเลทรายทีถ่ ูกลมพัดพาทำ
ให้มีลักษณะพื้นผิวเป็นหลุมเป็นบ่อ
2. การทับถมโดยลม เช่น เนินทราย (sand dune) เกิดจากการทับถมของตะกอนทรายที่ลมพัดพามา เป็น
ลักษณะมีขนาดโตเป็นเนินทรายหรือ สันทรายเตี้ยๆ และมักเกิดขึ้นในบริเวณที่มีสิ่งกีดขวางทิศทางลม จึง
กั้นทรายที่ถูกลมพัดหอบมาเอาไว้ และตกลงมาทับถมกันเป็นกองโตปกคลุมสิ่งกีดขวางนั้นจนมิด ด้านของ
เนินที่อยู่ทางต้นลมจะมีลักษณะลาด ส่วนด้านที่อยู่ทางปลายลมจะชัน อีกตัวอย่างของภูมิประเทศที่เกิด
จากการทับถม คือ ดินลมหอบ (loess) ที่เกิดจากการทับถมของตะกอนทรายแป้งที่ลมพัดพามา ส่วน
ใหญ่ถูกพัดพามาจากทะเลทราย หรือพื้นที่แห้งแล้ง

เนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นทะเลทราย เป็นพื้นที่ที่แห้งแล้ง ปริมาณน้ำน้อย ในเวลากลางวันจะอบอุ่นไป

จนถึงร้อนมากเนื่องจากไม่มีต้นไม้ขึ้น ช่วงกลางคืนจะมีอากาศที่หนาวเย็น จึงเป็นบริเวณที่ไม่เหมาะกับการ
ดำรงชีวิต แต่ปัจจุบันก็จะเห็นว่ามีหมู่บ้านที่สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่ภูมิประเทศทะเลทรายได้ รวมไปถึงสัตว์
สิ่งมีชีวิตด้วย เช่น ผู้คนจะใช้อูฐในการเดินทางหรือขนย้ายสิ่งของ เพราะอูฐจะมีโครงสร้างที่ปรับให้เข้ากับ
สิ่งแวดล้อม มีขนตายาวป้องกันฝุ่น ปัสสาวะน้อยเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ ส่วนพืชจะมีรากยาวเพื่อชอนไชสู่แหล่ง
น้ำใต้ดิน มนุษย์ที่สามารถใช้ชีวิตในภูมิประเทศทะเลทรายได้นั้นต้องเจอกับปัญหาหลักคือขาดน้ำ วิธีแก้ปัญหาคือ
กักเก็บน้ำจากแหล่งน้ำเช่นแม่น้ำสายหลักที่มีอยู่ในพื้นที่เพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภค
อีกปัญหาทีส่ ำคัญคือ พายุทะเลทราย เป็นตัวการที่ทำลายผลผลิตและพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้าน
ทำให้เกิดการพังทลายของดิน ขัดขวางการไหลของลำน้ำ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำในแม่น้ำและลำธาร รวมไปถึง
การขัดขวางวิสัยทัศน์และการคมนาคม โดยวิธีแก้ปัญหานั้นเป็นไปได้ยากทำได้เพียงป้องกันตัวเองและเอาชีวิตรอด
ได้แก่ ใส่หน้ากากบนจมูกและปาก ป้องกันไม่ให้ผงทรายหรือฝุ่นเข้าตา หาที่กำบังที่เป็นสถานที่ปิดเพื่อป้องกัน
สิ่งของที่พัดไปกับสายลม