You are on page 1of 77

การเกิดเมฆ

เกิด
เมฆ
เกิดจากไอน้ำที่
ลอยขึ น ั้
่ น
้ สูช
บรรยากาศและ
เย็นต ัวลงเนือ ่ งจาก
อุณหภูมต ิ ่ำกว่า
จุดน้ำค้าง (dew-
point) ไอน้ำจะ
กลน ่ ั ต ัวและรวมต ัว
ก ันเห็นเป็นก้อน
เมฆซงึ่ เกิดขึน
้ ใน
ธรรมชาติม ี 2 รูปร่าง
ลักษณะคือ เมฆก ้อน
และเมฆแผ่น
เมฆก ้อน “เมฆคิวมูลส ั ”
(Cumulus)
เมฆแผ่น “เมฆสเตรตัส”
คิวมูล ัส เซอร ัส สเตรต ัส

เซอโรคิว เซอโรส
มูล ัส เซอ เตรต ัส
โร
อ ัลโตคิว อ ัลโตส
มูล ัส อ ัลโต เตรต ัส

สเตรโตคิว สเตร สเตรต ัส


มูล ัส โต
คิวมูโลนิ นิมโบส
มบ ัส เตรต ัส
การแบ่งเมฆตามลำด ับความสูงและรูปร่าง

เมฆชน ั ้ สูง (6-12 กิโลเมตร) เราจะเติมคำว่า “เ


ซอโร” ซงึ่ แปลว่า “ชนสู ั้ ง” ไว ้ข ้างหน ้า เชน

เรียกเมฆก ้อนชน ั ้ สูงว่า
“เมฆเซอโรคิวมูล ัส”(Cirrocumulus)
เมฆแผ่นชน ั ้ สูงว่า “เมฆเซอโรสเตรต ัส”
(Cirrostratus)
เรียกชน ั ้ เมฆสูงทีม ่ รี ป
ู ร่างเหมือนขนนกว่า
“เมฆเซอร ัส” (Cirrus)
เมฆทีก ่ อ
่ ต ัวในแนวดิง่
(ระด ับความสูง 6-9
กิโลเมตร)
คิวมูล ัส (cumulus)
ม ีร ู ป ร ่ า งคล ้า ยก ้อ น
ส ำ ล ีห ร ือ กะหล่ำ
มก ั เก ิด ข ึ ้น ใน
ตอนสายหร ือ ตอน
บ ่ า ยของว น ั ท ี่
ท ้อ งฟ้ าแจ ่ ม ใส
อากาศแห ้ง และ
แดดจ ด ั
คิวมูล ัส (cumulus)
คิวมูล ัส (cumulus)
(6-12
กิโลเมตร)
เมฆสูงทีม
่ ี
รูปร่าง
เหมือน
ขนนก
“เมฆเซอ
ร ัส”
มีรป ้
ู ร่างเป็ นเสนคล ้ายขนนก
“เมฆเซอร ัส” (Cirrus)

ประกอบด ้วยผลึกน้ำแข็ง
“เมฆเซอร ัส” (Cirrus)
(6-12
กิโลเมตร)
เมฆก้อนชน ั้
สูง
“เมฆเซอโร
คิวมูล ัส”
(Cirrocumu
lus)
หรือคล้ายระลอกคลืน ี าว
่ มีสข
แสดงถึงอากาศดี ท้องฟ้า
แจ่มใส
“เมฆเซอโรคิวมูล ัส”(Cirrocumulus)
(6-12
กิโลเมตร)
เมฆ
แผ่นชน ั้
สูงว่า
“เมฆ
เซอโรส
เต
้ ะไม่บ ังแสงอาทิตย์
ชนิดนีจ
และแสงจ ันทร์ จึงทำให้
เห็นเป็น
ดวงอาทิตย์และดวงจ ันทร์
ทรงกลด
“เมฆเซอโรสเตรต ัส” (Cirrostratus)
เมฆชน ั ้ กลาง (2 - 6 กิโลเมตร)
เราจะเติมคำว่า “อ ัลโต” ซงึ่ แปล
ว่า
“ชน ั ้ กลาง” ไว ้ข ้างหน ้า เชน ่
เราเรียกเมฆก้อนชน ั ้ กลางว่า
“เมฆอ ัลโตคิวมูล ัส”
(Altocumulus)
และเรียกเมฆแผ่นชน ั ้ กลางว่า
ั้
เมฆชนกลาง
(2 - 6 กิโลเมตร)

เมฆอ ัล
โตคิวมูล ั
ส”
(Altocu
mulus)
รูปร่างคล ้ายขนสตั ว์ตรงกึง่ กลางจะมีส ี
เทา สว่ นขอบมีสขี าว มองดูคล ้ายคลืน ่
บนท ้องฟ้ าเมฆชนิดนีแ ้ สดงถึงอากาศดี
เมฆอ ัลโตคิวมูล ัส” (Altocumulus)
เมฆอ ัลโตคิวมูล ัส” (Altocumulus)
เมฆ อัลโตสเตรตัส (altostratus)
เป็นแผ่นหม่น
สเี ทา สฟ
ี ้ า แผ่
เป็นบริเวณ
กว้าง มองดู
เรียบเป็นปุย
อาจทำให้
เกิดฝนตก
เมฆ อัลโตสเตรตัส (altostratus)
เมฆชน ั ้ ต่ำ ระดับความสูงไม่
เกิน
2 กิโลเมตร
เราจะเติมคำว่า “สเตรโต”
ซงึ่ แปลว่า
“ชน ั ้ ต่ำ” ไว ้ข ้างหน ้า เชน ่
เราเรียกเมฆก้อนชน ั ้ ต่ำว่า
“เมฆสเตรโตคิวมูล ัส”
เมฆสเตรต ัส
(stratus)
มีล ักษณะ
เหมือน
หมอกแต่
อยูส่ ง
ู จาก
้ ดิน
พืน
เป็นชน ั้
เมฆสเตรต ัส (stratus)
เมฆสเตรโตคิว
มูล ัส
(Stratocumulus)
มีล ักษณะเป็น
แผ่นหรือเป็น
ก้อนปกคลุม
เกือบเต็มท้องฟ้า
แต่มรี ปู ร่างไม่

ชดเจน และนูน
ออกมาเป็นสน ั
เมือ่ รวมก ันจะ
เป็นแพคลืน ่ สว่ น
มากไม่มฝ ี น
เมฆสเตรโตคิวมูล ัส
(STRATOCUMULUS)
ในกรณีทเี่ ป็นเมฆฝน เรา
จะเพิม
่ คำว่า “นิมโบ”
หรือ “นิมบ ัส” ซงึ่ แปลว่า
“ฝน” เข้าไป เชน ่ เมฆ
ก้อนทีม่ ฝ
ี นตก “เมฆคิวมู
โลนิมบ ัส”
(Cumulonimbus)
เมฆนิมโบสเตรตัส (nimbostratus)
เป็ นเมฆชน ั ้ กลาง
สเี ทาดำ
ลักษณะเป็ น
แผ่น ชน ั ้ ฐานต่ำ
ใกล ้พืน
้ ดิน ไม่
เป็ นระเบียบ
คล ้ายผ ้าขีร้ วิ้
เมฆนิมโบสเตรตัส (nimbostratus)
เมฆคิวมูโลนิวบัส (cumulonimbus)
บ ัส
(cumulonimbus
)
เป็นเมฆทีม
่ ข
ี นาด
ใหญ่เป็นแผ่นหนาส ี
ดำ ประกอบด้วย
หยดน้ำจำนวนมาก
แสงแดดผ่านไม่ได้
ถ้าเมฆชนิดนีเ้ กิดใน
แนวดิง่ และสูงขึน้
ไปในท้องฟ้าแสดง
ว่าจะเกิดพายุ ฝน
ฟ้าคะนอง และลม
กรรโชกแรงตามมา
เมฆคิวมูโลนิมบัส (cumulonimbus)
หยาดน้ำฟ้า
การเกิดฝน
ปริมาณไอน้ำใน
อากาศสูงสุด
(สภาวะอิม่ ต ัว) เกิด
กระบวนการกลน ่ั
ต ัวเป็นหยดน้ำ ถ้า
หยดน้ำโตขึน ้ ก็
ตกลงมากลายเป็น
ฝน
หิมะ
ลูกเห็บ
หมอก (Fog)
หมอก เกิดจากไอน้ำ
เปลีย
่ นสถานะ
ควบแน่นเป็นหยดน้ำ
่ เดียวก ับ
เล็กๆ เชน
เมฆ เพียงแต่เมฆเกิด
จากการเปลีย ่ นแปลง
อุณหภูมเิ นือ
่ งจากการ
ยกต ัวของกลุม ่ อากาศ
แต่หมอกเกิดขึน ้ จาก
ความเย็นของพืน ้ ผิว
และลอยต ัวต่ำ
น้ำค้
น้ำค้าง คือ หยดน้ำที่
า ง
เกิดจากการกลน ่ ั ต ัว
ของ ไอน้ำ และเกาะ
อยูต่ ามพืน ้ ผิวของ
ใบไม้ใบหญ้า ว ัตถุ
หรือพืน ้ ดิน น้ำค้าง
ม ักเกิดในเวลากลาง
คืนเมือ่ อากาศ
เย็นจ ัด
ความแตกต่างระหว่างการเกิดเมฆและการ
เกิดหมอก
น้ำค้างแ
ข็ง

แม่คะ
นิง้
เหมย
ขาบ
เครือ
่ งมือว ัดปริมาณน้ำฝน
เครือ
่ งมือว ัดปริมาณน้ำฝนแบบทรง
กระบอก เครือ
่ งมือว ัดปริมาณน้ำฝนแบบบ ันทึก
พายุดเี ปรสชน ั
 (Depression) ความเร็วลม
ใกล ้ศูนย์กลางสูงสุด (63
กิโลเมตร/ชวั่ โมง) เป็ นพายุ
หมุนเขตร ้อนในระยะเริม ่ ก่อ
ตัวหรือกำลังอ่อนกำลังลง[1]
พายุโซนร้อน (Tropical
Storm) ความเร็วลมใกล ้
ศูนย์กลางสูงสุด (63-117
กิโลเมตร/ชวั่ โมง) เป็ นพายุ
หมุนเขตร ้อนทีม ่ ก
ี ำลังแรง
กว่าดีเปรสชน ั [2]
พายุหมุนเขต
ทอร์นาโดสว่ นใหญ่เกิดใน
สหรัฐอเมริกา
• พายุเฮอร์รเิ คน (Hurricane) เป็ นชอ
ื่ เรียก
พายุหมุนทีเ่ กิดบริเวณทิศตะวันตกของ
มหาสมุทรแอตแลนติก เชน ่ บริเวณฟลอริดา
สหรัฐอเมริกา อ่าวเม็กซโิ ก ทะเลแคริบเบียน
• พายุไต้ฝ่ น ื่ พายุหมุนที่
ุ (Typhoon) เป็ นชอ
เกิดทางทิศตะวันตกของมหาสมุทรแปซฟ ิ ิก
เหนือ เชน่ บริเวณทะเลจีนใต ้ อ่าวไทย อ่าว
ตังเกีย
๋ ประเทศญีป่ น
ุ่
พายุวล ื่ พายุทเี่ กิดบริเวณ
ิ ลี-วิลลี (Willy-Willy) เป็ นชอ
ทะเลติมอร์และทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ออสเตรเลีย (บริเวณทะเลเมติเตอร์เรเนียนและหมูเ่ กาะ
ต่างๆ)
พายุไซโคลน (Cyclone) เป็ นชอื่ พายุหมุนทีเ่ กิด
ในมหาสมุทรอินเดีย เหนือ เชน ่ บริเวณอ่าว
เบงกอล ทะเลอาหรับ
พายุบาเกียว (Baguio) เป็ นชอ ื่ พายุ
ิ ปิ นส ์
หมุนทีเ่ กิดในหมูเ่ กาะฟิ ลป
อะนิโมมิเตอร์ = วัด
ความเร็วลม
ศรลม wind vane=
ทิศทางลม
บารอมิเตอร์ = วัดความดัน
อากาศ
แอลติมเิ ตอร์ = วัดความ
สูง
ไฮโกรมิเตอร์ = วัด
ความชนื้

You might also like