You are on page 1of 39

บทที่ 1

กำเนิดโลกและทะเล
Man and Sea 01255101
กำเนิดโลก (Birth of the Earth)
โลก เกิดเมื่อประมาณ 4.6 พันล้านปี มาแล้วพร้อมกับระบบสุริยะ (solar system) โดยเกิดจาก
การรวมตัวของกลุ่มก๊าซหรื อเนบิวล่า (Nebula) บริ เวณชายของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก

กาแล็กซีหรื อ “ดาราจักร” เป็ นกลุ่มของดาวฤกษ์นบั ล้านดวง


กับสสารระหว่างดาวอันประกอบด้วยแก๊ส ฝุ่ น และสสาร Nebula
มืด รวมอยูด่ ว้ ยกันด้วยแรงโน้มถ่วง
ดวงอาทิตย์เกิดขึ้นก่อนจากการรวมตัวของกลุ่มก๊าซและฝุ่ นละออง แล้วดวงอาทิตย์จึงดึงดูด
ให้กลุ่มก๊าซและฝุ่ นละอองที่อยูร่ อบ ๆ รวมตัวกันและมีความหนาแน่นมากขึ้นกลายเป็ นดาว
เคราะห์โคจรรอบดวงอาทิตย์
กำเนิดโลก (Birth of the earth)

เ ด การ แ ง อ ของ โลก


ไป
อ น ใบ
พวก เขา
ก โลหะ ลง
ริ
ข้
ชิ
กิ
บ่
ยู่
ระบบสุ ริยะ (solar system)

ท ง ยอ

3 ใน ระบบ
[ ณห
กอง
เ น
p

ชื่อของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ
อุ
ถั
วั
ป็

ทั่
ภู
มิ
กำเนิดโลก (Birth of the earth)
เป็ นการรวมตัวกันของธาตุและสารประกอบต่างๆทาให้เกิดการพอกตัวจนเกิด
พลังงานความร้อนเนื่องจากการชนกันของสาร จนโลกจึงเกิดการหดตัว
หลังจากมีการพอกตัว ทาให้อุณหภูมิโลกสู งมากขึ้น การสลายตัวของสาร
กัมมันตรังสี ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่ องเป็ นตัวช่วยเสริ มความร้อน
ช่วงแรกโลกเป็ นก้อนของเหลวร้อน ต่อมาถูกชนด้วยอุกกาบาตที่ทาให้เกิดธาตุ
ที่มีนาหนัก มีการจมตัวและลอยตัวของธาตุที่หนักและเบาเกิดการแยกชั้น จน
โลกเย็นตัวลงจึงได้เปลือกทวีปและเปลือกมหาสมุทร

ขนาดและตาแหน่งของโลกมีความเหมาะสมให้สิ่งมีชีวิตกาเนิ ดขึ้น เมื่อ


ประมาณ 3.8 พันล้านปี มาแล้ว
า แบบ
โลก ก เ น ไป เขา ไป ปะ
) เ า ไอ
กำเนิดทะเลและมหำสมุทร
1 →

โ พกวาบ วน ไป
ฝน ตก → → ระเหย → ตก ลง ยา

(Origin of Sea and Ocean) จน เ น ลง → เ ก มาหา


ส ทร
ctc .

หลังจากที่ดาวเคราะห์โลกถือกาเนิด ช่วงแรกโลกเป็ นก้อนของเหลว


ร้อน บรรยากาศเต็มไปด้วย CO2 จนโลกเย็นตัวลง ไอน้ าในบรรยากาศที่เกิดจาก
การระเบิดของภูเขาไฟ ควบแน่นเป็ นหยดน้ า ก่อนตกมาเป็ นฝน
ในช่วงแรก ฝนตกมายังไม่ถึงพื้น เพราะโลกมีอุณหภูมิสูง ทาให้ระเหย
กลับกลายเป็ นไอน้ า ซึ่ งเกิดวงเวียนต่อเนื่องกัน 10 ล้านปี จนผิวโลกเย็นตัว
ระหว่างนั้นน้ าดูดซึ ม CO2 ในบรรยากาศทาให้ลดลง เมื่อมีน้ าฝนสะสมมากขึ้น
จนรวมตัวกลายเป็ นแม่น้ า ไหลจากที่สูงสู่ ที่ต่าเกิดเป็ นทะเลและมหาสมุทรขึ้น
นอกจากนี้ น้ าในมหาสมุทรยังมาจากน้ าที่ได้จากดาวหางที่พงุ่ ชนโลก
โอน
ซึ่ งเป็ นน้ าที่อยูใ่ นรู ปของน้ าแข็ง ไป แ น ฝน

ก นดา
มาจาก
→ เขา
จาก → ควบ หา ม ม →

ว ทาง
กกาบาต (า เ น แ ง ) →
50 % ของโลก
ลู
ม์ภู
ร่
นํ้
นํ้
ภู
อุ
ทํ้
ขิ
น่
ป็
ป็
ล็
ก่
ย็
งั้
น่
มุ
ทุ
า­
กำเนิดทะเลและมหำสมุทร
(Origin of Sea and Ocean)
กำเนิดชีวติ (Origin of Life)
แรกเริ่ มโลกยังร้อน เมื่อเย็นตัวลง อุณหภูมิจึงเหมาะสม การกาเนิด
ของชีวติ เริ่ มแรกเกิดจากการทาปฏิกิริยาของสารเคมีในทะเลกลายเป็ น
สารประกอบโปรตีน กรดอะมิโนและเอนไซม์ (สังเคราะห์จากสสารต่างๆ
เช่น C, H2, H2O, มีเทน แอมโมเนียและธาตุหายากในจักรวาล) เกิดขึ้นเมื่อ
3,600-3,400 ล้านปี ก่อน
สิ่ งมีชีวติ แรกเริ่ มอยูใ่ นมหาสมุทร อาศยพลังงานเคมีและความร้อน
จากภูเขาไฟใต้ทะเล ต่อมาวิวฒั นาการกลายเป็ นแพลงก์ตอนและสาหร่ าย ซึ่ง
สามารถสังเคราะห์แสงได้ ดึง CO2 ไปใช้เปลี่ยนเป็ น O2 ทาให้โลกมีโอโซน
(O3) ปกป้ องโลกจากแสงอาทิตย์ สิ่ งมีชีวติ ในทะเลขยายพันธุ์อพยพมาอยูบ่ น
บกบางส่ วนและวิวฒั นาการมาจนปั จจุบนั
12,757 km

โลกมีรูปทรงสัณฐานเกือบกลม
โดยเส้นผ่านศูนย์กลางของทรงกลม
จากขั้วโลกเหนือถึงขั้วโลกใต้ยาว

12,714 km
ประมาณ 12,714 กิโลเมตร และเส้น
ผ่านศูนย์กลางเส้นศูนย์สูตรยาว
ประมาณ 12,757 กิโลเมตร
จุ ด สู งสุ ด ข อง โ ลก อ ยู่ บริ เ ว ณ
เทือกเขำหิมำลัยทีย่ อดเขำเอเวอเรสต์
เอเวอเรส
ง ด
→ ยอด เขา
จุด ลึก สุ ด ของพื้น มหำสมุ ท รอยู่ ที่
ก ด → วง มา เ ยน า
ร่ องลึกมำเรียนำ
สุ
สู
ร่
สุ
ลึ
รี
ต์
ต ำ แ ห น่ ง ที่ ลึ ก ที่ สุ ด ใ น
มหำสมุ ท ร คื อ ต ำแหน่ ง ลึ ก ชำเลน
เจอร์ (Challenger Deep) ในร่ องลึก
มำเรี ยน่ ำ (Mariana Trench) โดย
ตำแหน่ งนีอ้ ยู่ลึกต่ำกว่ ำระดับน้ำทะเล
10,924 เมตร (35,840 ฟุต)

ถ้ ำเอำเทือกเอเวอเรสต์ (Mount
Everest) ซึ่งเป็ นเทือกเขำทีส่ ู งทีส่ ุ ดใน
โลกไปวำงไว้ ในบริเวณนั้นก็จะถูกนำ้
ท่ วมสู งหลำยกิโลเมตรเลยทีเดียว คำ
ว่ ำตำแหน่ งลึกชำเลนเจอร์ น้ันได้ มำ
จำกชื่ อเรื อสำรวจชำเลนเจอร์ 2 ของส
หรำชอำณำจักร (British survey ship
Challenger II) ซึ่งสำรวจพบจุดลึกนี้
ในปี 1951
โครงสร้ ำงของโลก

• Crust : 4-60 km
• Mantle : 2885 km
• Outer core : 2270 km
• Inner core : 1216 km
1

โครงสร้ ำงของโลก
เปลือกโลก (crust)

i บอก ท ป
แอก มทร nโ


น โลก

เปลือกทวีป (Continental crust) เปลือกสมุทร (Oceanic crust)


• หินแกรนิต • หินบะซอลต์ ( หนา ก า

]
แก รบ ปะ บอล

• ควำมหนำเฉลีย่ 35 กิโลเมตร • ควำมหนำเฉลีย่ 5 กิโลเมตร


• ควำมหนำแน่ นน้ อยกว่ ำเปลือกสมุทร • ควำมหนำแน่ นมำกกว่ ำเปลือกทวีป
( 7
มู
ก์
ว่


วี
แผ่นเปลือกโลก (continental plate)
5
4

1
6

2
กำรเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก
แ ก า
เคลื่อนทีอ่ อกจำกกัน ( ก ออก มา )

• เกิดในบริเวณใต้ มหำสมุทรลึก
• เกิดกำรขยำยตัวของพืน้ ท้ องทะเล

เคลื่อนทีเ่ ข้ ำหำกัน
• เกิดกำรมุดตัวและโก่งตัวของแผ่นเปลือกโลก
• เกิดภูเขำไฟ หรื อแนวเทือกเขำ

เคลื่อนทีส่ วนทำงกัน
• เกิดรอยเลื่อนขนำดใหญ่
บุ
ป่
ม็
Plate Tectonics
The super continent Pangea
Laurasia

Panthalassa
Ocean
Tethys Sea

Gondwanaland

225 ล้านปีกอ่ น
ทวีปเลื่อน (Continental Drift)
650 million years in under 2 minutes
โลกเมื่อ 200 ล้านปี ก่อน

การแพร่ พนั ธุ์ของสัตว์ในอดีต


ห กฐาน อ

~ น ตะกอ ซ

-ซาก ต กด บรรพ
คื
ดึ
ดิ
ลั

สั
ว์
ซำกดึกดำบรรพ์ทพี่ บในอเมริกำใต้ และแอฟริกำ
เอเซีย

โลกในยุคปัจจุบนั
VDO-สรุ ปโลก (6)
• กำรแบ่ งอำยุโลกออกเป็ นช่ วงโดย
• กำรเปลีย่ นแปลงทำงธรณีวทิ ยำ
• ซำกดึกดำบรรพ์
• เหตุกำรณ์ อื่นๆ

• สะดวกในกำรอ้ำงอิงช่ วงเวลำ
โลกมีอำยุ 4,600 ล้ ำนปี
ประมาณ
700-600 Ma
700 าน อน

ง ตเ ด มา

( เซล เ บ )ว
มีชี
ยั
ปีก่
ล้
กิ
ก็
วิ
ล์
ประมาณ
600-500 Ma
ประมาณ
500-425 Ma
ประมาณ
425-330 Ma
ประมาณ
330-275 Ma
ประมาณ
275-150 Ma
ประมาณ
150-60 Ma
ประมาณ 60Ma
ถึงปัจจุบนั
VDO-สิ่ งมีชีวติ (7)

You might also like