You are on page 1of 16

รายงาน เรื่อง

ประวัติความเป็ นมาของกีฬาวอลเลย์ บอล

จัดทำโดย

นายฐิติกานต์ วรวะลัย
ชั้นปี ที่ 1/1 เลขที่28
รหัสนักศึกษา 64161301028

เสนอ

อาจารย์ เพลินจิต กลีบจำปี

มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่ งชาติ วิทยาเขตอุดรธานี


คำนำ
รายงานเล่มนี้จดั ทำขึ้นเพื่อเป็ นส่ วนหนึ่งของวิชาทักษะและการสอนกีฬาวอลเลย์บอล ชั้นปี ที่ ๑ เพื่อให้
ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่ องหลักและวิธีการสอนกีฬาวอลเลย์บอล และได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็ นประโยชน์กบั
การเรี ยน
ผูจ้ ดั ทำหวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็ นประโยชน์กบั ผูอ้ ่าน หรื อนักเรี ยนนักศึกษาที่ก ำลังหาข้อมูลเรื่ องนี้ อยู่
หากมีขอ้ แนะนำหรื อข้อผิดพลาดประการใด ผูจ้ ดั ทำขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่น้ ี ดว้ ย

นายฐิติกานต์ วรวะลัย
ผูจ้ ดั ทำ
ประวัติความเป็ นมาของกีฬาวอลเลย์ บอล
กีฬาวอลเลย์บอล (Volleyball) นั้น ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1895 (พ.ศ.2438) โดย นายวิลเลียม จี. มอร์
แกน (William G. Morgan) ผูอ้ ำนวยการฝ่ ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. (Young Men's Christian
Association) ประเทศสหรัฐอเมริ กา ที่ตอ้ งการมีกีฬาสำหรับเล่นในช่วงฤดูหนาวแทนกีฬากลางแจ้ง เพื่อออก
กำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจยามหิมะตก
โดย นายวิลเลียม จี. มอร์แกน เกิดไอเดียในการพัฒนากีฬาวอลเลย์บอลขึ้น ขณะที่เขากำลังนัง่ ดูเทนนิส
และเลือกนำเอาตาข่ายกลางสนามของกีฬาเทนนิส มาเป็ นส่ วนประกอบในกีฬาที่เขาคิดค้น และเลือกใช้ยางใน
ของลูกบาสเก็ตบอล มาเป็ นลูกบอลที่ใช้ตีโต้ตอบกันไปมา แต่ยางในของลูกบาสเก็ตบอลกลับให้น ้ำหนักเบาจน
เกินไป จึงเปลี่ยนไปใช้ลูกบาสเก็ตบอลแทน ซึ่ งลูกบาสเก็ตบอลก็มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากจนเกินไปอีก เขา
จึงสัง่ ทำลูกบอลขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ ในขนาดเส้นรอบวง 25-27 นิ้ว และกำหนดน้ำหนักไว้ที่ 8-12 ออนซ์ จาก
นั้นจึงตั้งชื่อกีฬาชนิดนี้ วา่ มินโทเนตต์ (Mintonette)
ต่อมา ชื่อของ มินโทเนตต์ (Mintonette) ถูกเปลี่ยนเป็ น วอลเลย์บอล (Volleyball) หลังได้รับคำแนะนำจาก
ศาสตราจารย์ อัลเฟรด ที เฮลสเตด (Professor Alfred T. Helstead) ในงานประชุมสัมมนาผูน้ ำทางพลศึกษาที่
วิทยาลัยสปริ งฟิ ลด์ (Spring-field College) เมื่อปี ค.ศ.1896 (พ.ศ.2439) และกลายเป็ นกีฬายอดนิยมในหมู่
ประชาชนชาวอเมริ กนั จนแพร่ หลายออกไปทัว่ โลก รวมทั้งมีการปรับปรุ งและพัฒนาอยูเ่ ป็ นระยะ
ค.ศ. 1928 ดร.จอร์จ เจ ฟิ เชอร์ (Dr. George J. Fisher) ได้ปรับปรุ งและเปลี่ยนแปลงกติกาการเล่น
วอลเลย์บอล เพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลในระดับทีมชาติ และได้ดผยแพร่ กีฬาวอลเลย์บอลจนได้รับ
สมญานามว่า บิดาแห่งกีฬาวอลเลย์บอล
ที่มา: https://hilight.kapook.com/view/71678
ประวัติวอลเลย์ บอลในประเทศไทย
วอลเลย์บอลได้แพร่ หลายเข้ามาในไทย ตั้งแต่เมื่อใดไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชดั เพียงแต่ทราบกันว่าใน
ระยะแรก ๆ เป็ นที่นิยมเล่นกันในหมู่ชาวจีนและชาวญวนมาก จนกระทัง่ มีการแข่งขันระหว่างคณะ ชุมชน
สโมสร และสมาคมขึ้น บางครั้งติดต่อแข่งขันกันไปในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉี ยงเหนือ และมีการแข่งขันชิง
ถ้วยทองคำทางภาคใต้
ปี พ.ศ. 2477 กรมพลศึกษาได้จดั พิมพ์กติกาวอลเลย์บอลขึ้น โดยอาจารย์นพคุณ พงษ์สุวรรณ เป็ นผูแ้ ปล
และท่านเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญในกีฬาวอลเลย์บอลเป็ นอย่างยิง่ จึงได้รับเชิญเป็ นผูบ้ รรยายเกี่ยวกับเทคนิควิธีการเล่น
ตลอดจนกติกาการแข่งขันวอลเลย์บอล แก่บรรดาครู พลศึกษาทัว่ ประเทศในโอกาสที่กระทรวงศึกษาได้เปิ ด
อบรมขึ้น
ใน ปี นี้เองกรมพลศึกษาได้จดั ให้มีการแข่งขันกีฬาประจำปี ขึ้น และบรรจุกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเข้าไว้ใน
รายการแข่งขันเป็ นครั้งแรก พร้อมทั้งในหลักสู ตรของโรงเรี ยนพลศึกษากลางได้ก ำหนดวิชาบังคับให้นกั เรี ยน
หญิงเรี ยนวิชาวอลเลย์บอลและเนตบอล สมัยนั้นมี น.อ.หลวงสุ ภชลาศัย ร.น. ดำรงตำแหน่งอธิ บดีกรมพลศึกษา
จนกระทัง่ ปี พ.ศ. 2500 ได้มีการจัดตั้ง “สมาคมวอลเลย์บอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย” (Amature
Volleyball Association of Thailand) โดยมีวตั ถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและเผยแพร่ กีฬาวอลเลย์บอลให้เจริ ญรุ ด
หน้า และดำเนินการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลในระบบ 6 คน มีหน่วยราชการอื่น ๆ จัดการแข่งขันประจำปี เช่น
กรมพลศึกษา กรมการคณะกรรมการกีฬามหาวิทยาลัย เทศบาลนครกรุ งเทพฯ สภากีฬาทหาร ตลอดจนการ
แข่งขันกีฬาเขตแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดแข่งขันทั้งประเภททีมชายและทีมหญิงประจำปี ทุกปี
ประวัติกฬ
ี าวอลเลย์ บอล และประวัติสหพันธ์ วอลเลย์ บอลนานาชาติ
ปี ค.ศ. 1895
นายวิลเลียม จี มอร์แกน (William G.Morgan) ได้คิดค้นเกมการเล่นวอลเลย์บอลขึ้น ที่สมาคม Y.M.C.A. ใน
เมืองโฮลโยค รัฐแมสซาชูเซตส์ (Holyoke, Massachusetts) ประเทศสหรัฐอเมริ กา โดยใช้ชื่อ มินโตเนต
(Mintonette)
ปี ค.ศ. 1896
ศาสตราจารย์อลั เฟรด ที ฮอลสเตด (Prof.Alfred T.Halstead) ได้เสนอให้เปลี่ยนชื่อจาก “มินโตเนต
(Mintonette)” เป็ น “วอลเลย์บอล (Volleyball)”
ปี ค.ศ. 1898
ประเทศแคนาดาได้พฒั นากีฬาวอลเลย์บอลเพื่อเป็ นกิจกรรมนันทนาการ (Recreation Activity)
ADVERTISEMENT
ปี ค.ศ. 1905
ศาสตราจารย์เจ ฮาวาร์ด โครเกอร์ (Prof J. Haward Crocher) ได้น ำกีฬาวอลเลย์บอลเข้าไปเผยแพร่ ในประเทศจีน
(China)
ปี ค.ศ. 1908
นายแฟรงกิน เอช บราวน์ (Franklin H.Brown) ได้น ำกีฬาวอลเลย์บอลเข้าไปเผยแพร่ ในประเทศญี่ปุ่น (Japan)
ประวัติวอลเลย์บอล ปี ค.ศ. 1910
นายเอลวูด๊ เอส บราวน์ Elwood S.Brown ช่วยจัดตั้งสมาคมวอลเลย์บอลในประเทศฟิ ลิปปิ นส์ (Philippines)
ปี ค.ศ. 1913
ได้มีการบรรจุกีฬาวอลเลย์บอลเข้าในการแข่งขันกีฬาภาคพื้นตะวันออกไกล (Far Eastern Games) ครั้งที่ 1 ณ
กรุ งมะนิลา ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ (Manila, Philippines)
ปี ค.ศ. 1918
ได้ก ำหนดให้ใช้ผเู้ ล่นข้างละ 6 คน
ปี ค.ศ. 1922
ได้ก ำหนดกติกาให้แต่ละทีมเล่นลูกได้ไม่เกิน 3 ครั้ง และได้มีการก่อตั้งสมาคมวอลเลย์บอลและบาสเกตบอลขึ้น
เป็ นครั้งแรกในประเทศเชคโกสโลวาเกีย
ปี ค.ศ. 1928
มีการก่อตั้งสมาคมวอลเลย์บอลขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริ กา มีการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงชนะเลิศแห่ง
ประเทศสหรัฐอเมริ กา ครั้งที่ 1 ที่ Brooklyn Central Y.M.C.A. (USA National Volleyball Championships)
ปี ค.ศ. 1933
ได้บรรจุกีฬาวอลเลย์บอลหญิงในการแข่งขันกีฬา Central American และ Caribbean Game ในกรุ งซาน ซิ ลวาด
อร์ (San Salvador) ประเทศเอลซัลวาดอร์ (El Salvador)
ปี ค.ศ. 1934
มีการจัดตั้งคณะกรรมการกีฬาวอลเลย์บอลนานาชาติเป็ นครั้งแรกภายใต้สหพันธ์แฮนด์บอล
ปี ค.ศ. 1946
ประเทศโปแลนด์ ฝรั่งเศส เชคโกสโลวาเกีย สหรัฐอเมริ กา สหภาพโซเวียตรัสเซี ยและโรมาเนีย ได้ร่วมกันก่อตั้ง
คณะกรรมการที่ด ำเนินการด้วยตนเองขึ้นครั้งแรก
การจัดตั้งสหพันธ์ วอลเลย์ บอลนานาชาติ
ปี ค.ศ. 1947
14 ประเทศ ได้ร่วมกันจัดตั้งสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (The Federation International De Volleyball :
FIVB) ขึ้นในกรุ งปารี ส ประเทศฝรั่งเศส และได้เลือกนายพอล ลิบอร์ด (Paul Libaud) เป็ นประธานสหพันธ์คน
แรก โดยมีประเทศที่ร่วมกันจัดตั้ง ประกอบด้วย สหรัฐอเมริ กา ฝรั่งเศส เชคโกสโลวาเกีย โปแลนด์ อียปิ ต์ อิตาลี
เนเธอแลนด์ เบลเยียม โปรตุเกส โรมาเนีย ตุรกี บราซิ ล อุรุกวัย ยูโกสลาเวีย (อิสราเอลและเลบานอนได้เข้าร่ วม
เป็ นสมาชิกในปี ค.ศ. 1949)

ปี ค.ศ. 1948
การแข่งขันวอลเลย์บอลชิงชนะเลิศแห่งทวีปยุโรป ครั้งที่ 1 ประเภทชาย ที่กรุ งโรม ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน
ปี ค.ศ. 1949
– จัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงชนะเลิศของโลกเป็ นครั้งแรก ณ กรุ งปราก (Prague) ประเทศเชคโกสโลวาเกีย
(Czechoslovakia)
– คณะกรรมการโอลิมปิ กสากล (International Olympic Committee-IOC) ได้ประกาศรับรองกีฬาชนิดนี้ แต่ยงั
อยูใ่ นฐานะกีฬาที่ไม่ได้มีการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิ ก (Non Olympic Sport)
– การแข่งขันชิงแชมป์ โลก ประเภททีมชาย (Men’S World Championships) ครั้งแรก ณ กรุ งปราก (Prague)
– การแข่งขันชิงแชมป์ ยุโรป (European Champions) ประเภททีมหญิงครั้งแรก ณ กรุ งปราก (Prague)
– มีการใช้ระบบการรุ ก 3 คน และมีการล้ำแดนของตัวเซตที่อยูแ่ ดนหลัง
ปี ค.ศ. 1951
อนุญาตให้มือสามารถล้ำเหนือตาข่ายได้ ภายใต้เงื่อนไขคือการสกัดกั้น
ปี ค.ศ. 1952
การแข่งขันชิงแชมป์ โลก ประเภททีมหญิง (Women’S World Championships) ครั้งแรก ณ กรุ งมอสโคว์
ประเทศรัสเซีย (Moscow, Russia)
ปี ค.ศ. 1955
– กีฬาวอลเลย์บอลได้ถูกบรรจุเข้าใน “แพนอเมริ กนั เกม ครั้งที่ 2” (The 2nd Pan American Games) ณ เมือง
เม็กซิ โกซิ ต้ ี (Mexico City)
– นายมาซาอิชิ นิชิกาว่า (Masaichi Nishikawa) นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศญี่ปุ่นได้จดั ตั้งสหพันธ์
วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย (Asian Volleyball Confederation : AVC) ขึ้น
ปี ค.ศ. 1956
จัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชาย-หญิงชิงแชมป์ โลกในเวลาเดียวกันเป็ นครั้งแรก ณ กรุ งปารี ส ประเทศฝรั่งเศส
(Paris, France) โดยมีทีมชาย 24 ทีม และ หญิง 17 ทีม
ปี ค.ศ. 1957
คณะกรรมการโอลิมปิ กสากล (IOC) ได้มีการประชุมที่เมืองโซเฟี ย ประเทศบัลแกเรี ย (Sofia, Bulgaria) และ
ยอมรับกีฬาวอลเลย์บอลเข้าเป็ นกีฬาชนิดหนึ่งในกีฬาโอลิมปิ ก และประกาศให้สหพันธ์วอลเลย์นานาชาติ
(FIVB) เป็ นองค์กรกีฬาสากลมีผลบังคับใช้ต้ งั แต่วนั ที่ 24 กันยายนเป็ นต้นไป
ปี ค.ศ. 1961
คณะกรรมการโอลิมปิ กสากล (IOC) และคณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิ ก (OCOG : Organising
Committee of The Olympic Game) แห่งประเทศญี่ปุ่น ได้บรรจุกีฬาวอลเลย์บอลเข้าเป็ นกีฬาชนิดหนึ่งในการ
แข่งขันกีฬาโอลิมปิ กที่จดั ขึ้นที่กรุ งโตเกียวด้วย
ปี ค.ศ. 1963
สหพันธ์วอลเลย์บอลยุโรป (The European Volleyball Confederation : CEV) ได้จดั ตั้งคณะกรรมการในโซน
ของยุโรป
ปี ค.ศ. 1964
– กีฬาวอลเลย์บอลชาย-หญิงได้ถูกบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิ กเป็ นครั้งแรกที่จดั ขึ้นที่กรุ งโตเกียว
ประเทศญี่ปุ่น (เหรี ยญทองหญิง ได้แก่ ทีมญี่ปุ่นเหรี ยญทองชาย ได้แก่ ทีมสหภาพโซเวียตรัสเซี ย)
– ได้มีการปรับปรุ งกติกาการสกัดกั้นใหม่ (อนุญาตให้มือทั้งสองลำ้ เหนือตาข่ายและอนุญาตให้ถูกลูกขณะสกัด
กั้นเกินกว่า 1 ครั้งได้)
แข่ งขันวอลเลย์ บอลเวิลด์ คพั ชายครั้งแรก
ปี ค.ศ. 1965
– การแข่งขันเวิลด์คพั ชาย ครั้งที่ 1 ณ กรุ งวอซอร์ ประเทศโปแลนด์ (Warsaw, Poland)
– มีการจัดตั้งคณะกรรมการในโซนแอฟริ กาขึ้น
ปี ค.ศ. 1966
Dr.Ruben Acosta ได้จดั ตั้งคณะกรรมการโซนอเมริ กากลางและโซนคาริ เบียนขึ้น
ปี ค.ศ. 1968
สหรัฐอเมริ กาและแคนาดาได้เข้าร่ วมโซนอเมริ กากลาง เพื่อจัดตั้งสหพันธ์วอลเลย์บอล แห่งทวีปอเมริ กาเหนือ
และอเมริ กากลาง (NORCECA) ตามข้อเสนอของ Dr.Ruben Acosta
ปี ค.ศ. 1971
ได้มีการจัดหลักสูตรผูฝ้ ึ กสอนระดับนานาชาติข้ึนครั้งแรก โดยสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศญี่ปุ่น ภายใต้การ
ดำเนินงานของ Mr.Yutaka Maeda และ Mr.Hiroshi Toyoda
ปี ค.ศ. 1972
สหพันธ์วอลเลย์บอลทั้ง 5 ทวีป ได้แก่ เอเชีย (AVC), แอฟริ กา (CEV), อเมริ กาใต้ (CSV), อเมริ กาเหนือและ
อเมริ กากลาง (NORCERA) ได้จดั ตั้งคณะกรรมการฝ่ ายแข่งขันกีฬาของแต่ละทวีปขึ้น โดยการรับรองโดย
สหพันธ์ของแต่ละทวีป
ปี ค.ศ. 1973
การแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์คพั หญิง ครั้งที่ 1 ที่ประเทศอุรุกวัย (Uruguay) ความเป็ นมาวอลเลย์บอล ประวัติ
วอลเลย์บอล
ปี ค.ศ. 1974
มีการถ่ายทอดสดเป็ นครั้งแรกในการแข่งขันวอลเลย์บอลชาย-หญิงชิงแชมป์ โลกจากประเทศเม็กซิ โกไปยัง
ประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ
ปี ค.ศ. 1975
– มีการจัดประชุมและส่ งเสริ มมินิวอลเลย์บอลขึ้นที่ประเทศสวีเดน
– มีการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงชนะเลิศแห่งทวีปแอฟริ กา ณ เมืองดากา ประเทศเซเนกัล (Dakar,
Senegal)
ปี ค.ศ. 1976
– Dr.Ruben Acosta ได้คิดค้นระบบการใช้ลูกบอล 3 ลูก และอนุญาตให้เล่นได้อีก 3 ครั้ง หลังการสกัดกั้นได้ถูก
นำมาใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิ กเกม ณ เมืองมอนทรี ออล ประเทศแคนาดา (Montreal, Canada)
– ความกว้างของตาข่ายถูกลดให้เหลือ 9 เมตร
ปี ค.ศ. 1977
การแข่งขันระดับเยาวชน (อายุต ำ่ กว่า 21 ปี ) ชาย-หญิง ชิงแชมป์ โลกจัดขึ้นเป็ นครั้งแรกที่ประเทศบราซิ ล
(Brazil)
ปี ค.ศ. 1980
กติกาของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ได้มีการพัฒนาขึ้นเป็ น 2 ภาษา ได้แก่ ภาษาฝรั่งเศสและภาษา
สเปนเป็ นครั้งแรก ตามผลจากการเสนอของประเทศเม็กซิ โก ในการประชุมใหญ่ที่กรุ งมอสโคว์และได้มีการ
รับรองเกี่ยวกับนักกีฬาอาชีพ
ปี ค.ศ. 1982
ได้มีการลดแรงดันลมของลูกบอลจาก 0.45 เป็ น 0.40 กิโลกรัม /ตารางเซนติเมตร
ปี ค.ศ. 1984
– Dr.Ruben Acosta ได้รับเลือกให้ข้ ึนเป็ นประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (2nd FIVB President) แทน
นาย Pual Libaud ผูก้ ่อตั้งสหพันธ์ฯ
– สำนักงานใหญ่ของสหพันธ์ฯ ได้ยา้ ยจากกรุ งปารี สไปยังเมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Lausame,
Switzerland)
ปี ค.ศ. 1985
– คณะกรรมการบริ หารสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติได้ให้การรับรอง 5 โครงการหลัก เพื่อพัฒนาวอลเลย์บอล
ของโลก ซึ่ งเสนอโดย Dr.Ruben Acosta และมีเจตนามุ่งหมายเพื่อยกระดับวอลเลย์บอลขึ้นสู่ ระดับกีฬาอาชีพ
– ได้มีการจัดการแข่งขัน World Gala เป็ นครั้งแรกที่กรุ งปั กกิ่งและเมืองเซี่ ยงไฮ้ โดยทีมหญิงของประเทศจีนพบ
กับทีมดาราของโลก การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดชิงแชมป์ โลกได้จดั เป็ นครั้ งแรกที่ประเทศบราซิ ล
ปี ค.ศ. 1990
การแข่งขัน วอลเลย์บอลเวิลด์ลีก (World League) ได้เริ่ มขึ้นเป็ นครั้งแรก มีการจัดการแข่งขันมากกว่า 20 เมือง
จาก 8 ประเทศ เข้าร่ วมแข่งขันเพื่อชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรี ญสหรัฐ
แข่ งขันวอลเลย์บอล (Beach Volleyball) ชายหาดครั้งแรก
ปี ค.ศ. 1992
สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ได้เริ่ มให้มีการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด (Beach Volleyball) World
Tour ขึ้นเป็ นครั้งแรก โดยมีการจัดการแข่งขันที่ญี่ปนุ่ เปอร์โตริ โก บราซิ ล อิตาลี และออสเตรเลีย
ปี ค.ศ. 1993
– สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติได้กลายเป็ นองค์กรกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีประเทศสมาชิกถึง 210
ประเทศ
– เริ่ มมีการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เวิลด์กรังปรี ซ์ (Women’S World Grand Prix) ขึ้นเป็ นครั้งแรกโดยมี 8
ประเทศ เข้าร่ วมการแข่งขันเพื่อชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรี ยญสหรัฐ
– คณะกรรมการโอลิมปิ กสากล (IOC) ได้มีการประชุมที่เมืองมอนเตการ์โล รัฐโมนาโก (Monte Carlo, Monaco)
ให้บรรจุวอลเลย์บอลชายหาด เข้าในกีฬาโอลิมปิ กเกม 1996 มีการแข่งขันทีมหญิง 16 คู่ ทีมชาย 24 คู่
ปี ค.ศ. 1994
– อนุญาตให้ลูกถูกส่ วนต่างๆ ของร่ างกายได้ทุกส่ วนรวมทั้งเท้า
– ได้มีการขยายเขตเสิ ร์ฟจนเต็มเขตพื้นที่ 9 เมตร
– ที่ประชุมใหญ่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติได้รับรองแผนการส่ งเสริ มวอลเลย์บอลปี 2001 ซึ่ งเสนอโดย
Dr.Ruben Acosta เพื่อพัฒนาทักษะการบริ หารจัดการของสมาคมวอลเลย์บอลแต่ละประเทศให้สามารถจัดการ
แข่งขันวอลเลย์บอลอาชีพขึ้นรวมทั้งวอลเลย์บอลชายหาดด้วย
ปี ค.ศ. 1995
ครบรอบ 100 ปี สำหรับกีฬาวอลเลย์บอล จัดให้มีการเฉลิมฉลอง 100 วัน ในทัว่ โลกโดยผูเ้ กี่ยวข้องกับกีฬา
วอลเลย์บอล
ปี ค.ศ. 1996
กีฬาวอลเลย์บอลชายหาดได้ถูกบรรจุเข้าในรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิ กเป็ นครั้งแรก ณ เมืองแอตแลนตา รัฐ
จอร์เจีย (Atlanta, Jeorgia)
ประวัติวอลเลย์บอล ปี ค.ศ. 1997
– มีการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดชิงแชมป์ โลก (ทั้งประเภททีมชายและทีมหญิง) เป็ นครั้งแรก ณ เมือง
ลอสแองเจลิส (Los Angeles, USA) ประเทศสหรัฐอเมริ กา โดยมีเงินรางวัลในแต่ละประเภท 600,000 เหรี ยญ
สหรัฐ
– การแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์ลีกครั้งที่ 8 ได้เพิ่มเงินรางวัลเป็ น 8 ล้านเหรี ยญสหรัฐ
ปี ค.ศ. 1998
การประชุม FIVB World Congress ครั้งที่ 26 มีการประกาศใช้ระบบการนับคะแนนแบบ “Rally Point” และมี
การยอมรับอย่างเป็ นทางการให้มีการเล่นโดยใช้ตวั รับอิสระ (The Libero Player) ในการแข่งขันชิงแชมป์ โลกที่
กรุ งโตเกียว (Tokyo)
ปี ค.ศ. 1999
ทีมหญิงจากประเทศคิวบา (Cuba) ได้รับตำแหน่งชนะเลิศเป็ นครั้งที่ 4 ในการแข่งขันรายการ FIVB World Cup
และทีมชายจากประเทศรัสเซียได้รับตำแหน่งชนะเลิศเป็ นครั้งแรก
วิวฒ
ั นาการวอลเลย์ บอล (Volleyball) ปี ค.ศ 2000 – ปัจจุบัน
ปี ค.ศ. 2000
– การแข่งขันกีฬาโอลิมปิ กเกมที่เมืองซิดนีย ์ ประเทศออสเตรเลีย มีการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด ประเภทชาย
24 คู่ หญิง 24 คู่ วอลเลย์บอลในร่ มประเภทชาย 12 ทีม หญิง 12 ทีม และสาธารณรัฐคิรินาส (Kiribati) ได้เข้าร่ วม
เป็ นสมาชิกลำดับที่ 218
– ระบบการนับคะแนนแบบ Rally Point ถูกนำไปใช้กบั การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด
– มีการยอมรับกติกาการเสิ ร์ฟบอลสามารถถูกตาข่ายได้
– การเฉลิมฉลองให้กบั ผูเ้ ล่นที่ดีที่สุดแห่งศตวรรษ (Best Players of Century) ได้แก่ Karch Kiraly จาก
สหรัฐอเมริ กา Lorenzo Bernardi จากอิตาลี และ Regla Torres จากเจ้าของแชมป์ โอลิมปิ ก 3 สมัยอย่างคิวบา
ปี ค.ศ. 2002
– มีการประชุมใหญ่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ครั้งที่ 28 ณ กรุ งบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา
(Buenos, Aires, Argentina) ได้มีการกำหนดความสู งของผูเ้ ข้าแข่งขัน ชาย 185 เซนติเมตรขึ้นไป หญิง 175
เซนติเมตรขึ้นไป
– ประเทศเยอรมนี (Germany) เป็ นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์ โลก โดยมีทีมเข้าร่ วม 24 ทีม
แข่งขันในเมื่อต่างๆ ถึง 8 เมือง
– ประเทศอาร์เจตินา (Argentina) เป็ นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชายชิงแชมป์ โลก โดยมีทีมเข้าร่ วม 24
ทีม แข่งขันในเมืองต่างๆ ถึง 6 เมือง
ปี ค.ศ. 2004
– การแข่งขันกีฬาโอลิมปิ กเกมที่กรุ งเอเธนส์ ประเทศกรี ซ (Athens, Greece) มีการแข่งขันวอลเลย์บอลในร่ ม
ประเภททีมชาย จำนวน 12 ทีม ประเภททีมหญิงจำนวน 12 ทีม และวอลเลย์บอลชายหาดจำนวน 24 ทีม หญิง
จำนวน 24 ทีม
– ทีมชนะเลิศวอลเลย์บอลประเภทชาย ได้แก่ บราซิ ล และประเภทหญิง ได้แก่ ประเทศจีน
ปี ค.ศ. 2006
การแข่งขัน FIVB Volleyball World Championship ทีมชนะเลิศประเภทชาย ได้แก่ บราซิ ล และประเภทหญิง
ได้แก่ รัสเซี ย
ปี ค.ศ. 2007
การแข่งขัน FIVB World Cup ทีมชนะเลิศประเภทชาย ได้แก่ บราซิ ล และ ประเภทหญิง ได้แก่ อิตาลี
ปี ค.ศ. 2008
การแข่งขันโอลิมปิ กที่ประเทศจีน ทีมชนะเลิศประเภทชาย ได้แก่ สหรัฐอเมริ กา และประเภทหญิง ได้แก่ บราซิ ล
ปี ค.ศ. 2009
– การแข่งขันรายการ FIVB Club World Championship ประเภททีมชายได้น ำกลับมาลงในปฏิทินการแข่งขัน
ระดับนานาชาติอีกครั้ง หลังจากที่มีการแข่งขันล่าสุ ดในปี 1992
ปี ค.ศ. 2010
– กีฬาวอลเลย์บอลประสบความสำเร็ จครั้งยิง่ ใหญ่ กับการเริ่ มฤดูกาลแข่งขันกีฬาโอลิมปิ กเยาวชน ณ ประเทศ
สิ งคโปร์
– การแข่งขันรายการ FIVB Club World Championship ประเภททีมหญิงได้น ำกลับมาลงในปฏิทินการแข่งขัน
อีกครั้ง หลังจากที่มีการแข่งขันครั้งแรกในปี 1994 หลังจากที่ประเภททีมชายประสบความสำเร็ จในการแข่งขัน
เมื่อปี ก่อนหน้านี้
– การแข่งขันเพื่อชิงถ้วยรางวัล Continental Cup ถูกกำหนดขึ้นครั้งแรกในการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด ที่จะ
จัดขึ้นในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิ ก 2012 ณ กรุ งลอนดอน (London, England)
ปี ค.ศ. 2011
– ระบบการนับแต้มแบบใหม่ได้มีการนำไปใช้กนั อย่างแพร่ หลายในการแข่งขัน โดยได้รับการยืนยันโดยผู ้
บริ หารของ FIVB ในการแข่งขันที่มีการชนะที่ 3 ต่อ 0 หรื อ 3 ต่อ 1 โดยผูช้ นะจะได้ 3 แต้ม และผูแ้ พ้จะได้ 0
เช่นกันกับการชนะแต้ม 3 ต่อ 2 ซึ่ งจะหมายถึง ผูช้ นะได้ 2 แต้ม และผูแ้ พ้ได้ 1 แต้ม ในกรณี ที่แต้มเสมอกันจะ
นับคะแนนเป็ นแบบ Set Ratio ซึ่ งจะต่างจากการนับคะแนนแบบ Point Ratio ในอดีตที่ผา่ นมา
ปี ค.ศ. 2012
– มีการปรับปรุ งแก้ไขเรื่ องเครื่ องแบบของผูเ้ ล่นฝ่ ายหญิงโดยมีทางเลือกให้ 3 ทาง คือ ผูเ้ ล่นสามารถสวมปลอก
หุม้ หัวเข่าความยาวอย่างมากที่สุด 3 เซนติเมตร ไว้เหนือเข่าหรื อใส่ แบบครึ่ งตัวหรื อใส่ แบบเต็มตัว โดยให้ข้ ึนอยู่
กับการเคารพในกฎและหรื อความเชื่อของแต่ละศาสนา

You might also like