You are on page 1of 32

1

3D Printing

3D Printer คืออะไร
3D printer คือเครื่องจักรที่ใช้กระบวนการเติมเนื้อวัสดุ เพื่อ
ทำให้เกิดเป็ นรูปร่างที่สามารถจับต้องได้ตามที่ต้องการ โดยอาศัย
ข้อมูลในรูปแบบดิจิตอล ซึ่งการเติมเนื้อหรือพิมพ์วัสดุลงไปนัน
้ เรียก
ว่า Additive Process ซึ่งการพิมพ์นน
ั ้ จะค่อยเป็ นไปทีละ Layer
หรือทีละชัน้ ยกตัวอย่าง ถ้าเราต้องการสร้างตึกที่มีจำนวน 25 ชัน


เราก็ต้องเริ่มสร้ างจากฐานรากก่อน แล้วค่อยๆ ต่อเสาขึน้ ไปทีละชัน

ซึ่งก็เป็ นหลักการเดียวกับการพิมพ์งานของ เครื่องปริน
้ 3 มิติ

3D Printer ทำงานอย่างไร
เครื่องพิมพ์ 3 มิตินน
ั ้ ก่อนที่จะพิมพ์งานได้ ต้องมีข้อมูลในรูป
แบบของ Digital ซึ่งสามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์จำพวก CAD
(Computer Aided Design) ในการออกแบบ นอกจากจะใช้
คอมพิวเตอร์ในการออกแบบแล้ว ยังสามารถใช้ สแกนเนอร์ 3 มิติ
ในการเปลี่ยนวัตถุในโลกความจริงไปเป็ นไฟล์ดิจิตอล ที่สามารถนำ
ไปใช้งานกับ 3D printe

เมื่อได้โมเดลหรือชิ่นงานในรู ปของไฟล์ดิจิตอลแล้ว ก็จะนำ
ไฟล์นน
ั ้ ไปทำการ Slice หรือตัดเลเยอร์งานออกมาให้เป็ นแผ่นบางๆ
เพื่อที่จะให้ เครื่องพิมพ์ 3 มิติ พิมพ์แผ่นหรือชัน
้ บางๆ นัน
้ ทับต่อกัน
จนเกิดเป็ นวัตถุ 3 มิติขน
ึ ้ มา ถ้ายังนึกไม่ออก ลองนึกถึง ก้อน
ขนมปั งก้อนยาวๆ แล้วถูกหั่นเป็ นแผ่นบางๆ ซึ่งถ้าเราเอาแผ่นบางๆ
2

มาวางซ้อนกันแล้วทาแยม ลงระหว่างแผ่นขนมปั ง ก็จะทำให้เกิด


เป็ นขนมปั งก้อนยาว ก้อนเดียว ซึง่ ตัวแยมนัน
้ ก็เปรียบเสมือนกาว
ที่เอาไว้ยึดระว่างแผ่นขนมปั ง

เทคโนโลยี 3D Printer
เทคโนโลยีของเครื่องพิมพ์ 3 มิติ นัน
้ จะใช้หลักการเดียวกัน
คือตัดหรือ Slice งานเป็๋ นแผ่นบางๆ แล้วพิมพ์แผ่นนัน
้ ซ้อนทับกัน
ไปเรื่อยๆ ซึ่งข้อแตกต่างระหว่างเทคโนโลยีแต่ละตัวนัน
้ จะต่างกัน
ในส่วนของวัสดุที่ใช้พิมพ์ และกระบวนการในการพิมพ์ เทคโนโลยี
ของ 3D printer นัน
้ สามารถแบ่งออกมาได้ดังนี ้
1. Vat Photopolymerisation
2. Material Jetting
3. Binder Jetting
4. Material Extrusion
5. Powder Bed Fusion
6. Sheet Lamination
7. Directed Energy Depostion
8. Vat Photopolymerisation
3

เทคโนโลยีนี ้ เป็ นการใช้เรซิ่นที่มีความไวต่อแสง UV เทลงใน


ถาด แล้วใช้แสง UV ในการทำให้เรซิ่นแข็งตัว ซึ่งแหล่งของแสง UV
นัน
้ มาอาจจะมาจาก เลเซอร์หรือหลอดไฟ UV เทตโนโลยีถูกคิดค้น
โดย Charles Hull ในปี 1986 ซึง่ ถือว่าเป็ นบิดาแห่งวงการ 3D
Printer และยังคงเป็ นผู้ก่อตัง้ บริษัท 3D System ที่เป็ นบริษัทที่
ขาย เครื่องพิมพ์ 3 มิติ ในปั จจุบัน การทำงานของเทคโนโลยีนเี ้ รียก
ว่า SLA หรือ Stereolithography ?หลักการคือการฉายภาพวัตถุที่
ถูก Slice หรือตัดเป็ นแผ่นบางๆ ลงไปใเรซิ่นที่มีความไวต่อแสง UV
เรซิ่นจะแข็งตัว เป็ นภาพที่ถูกฉาย เมื่อแข็งตัว ถาดจะยกขึน
้ ตามค่า
ความละเอียดที่กำหนด แล้วเริ่มทำการฉายภาพในชัน
้ ตต่อไป ซึ่งตัว
เรซิ่นจะเชื่อมต่อกันไปเรี่อยๆ จนเกิดเป็ นวัตถู 3 มิติขน
ึ ้ ซึง่
เทคโนโลยีนี ้ ก็เหมือนกับการปั ้ นน้ำเป็ นตัว.

Material Jetting
เป็ นวิธีการพิมพ์เหมือนกับการพิมพ์เอกสาร โดยน้ำหมึกที่ใช้
ในการพิมพ์นน
ั ้ เป็ นน้ำหมึกที่มีส่วนผสมของพลาสติก ซึง่ หัวพิมพ์
นัน
้ จะคล้ายกับหัวพิมพ์ ของเครื่องพิมพ์กระดาษ ตัวน้ำหมึกนัน
้ จะ
ถูกทำให้แข็งตัวโดยหลอดไฟ UV ?ซึง่ ก่อนที่จะพิมพ์ในชัน
้ ต่อไป จะ
มีหลอด UV วิ่งผ่าน เพื่อให้หมึกแข็งตัวก่อน ที่จะพิมพ์ชน
ั ้ ต่อไป
4

Binder Jetting
เทคโนโลยีแบบนี ้ จะใช้วัสดุ 2 ชนิด ได้แก่ วัสดุที่เป็ นผง และ
อีกชนิดเป็ น ตัวเชื่อมผงที่เป็ นของเหลว โดยหลักการทำงานก็คือ จะ
มีตัวเกลี่ยผงแป้ งให้เป็ นแผ่นบางๆ หลังจากนัน
้ จะมีหัวพ่นที่จะพ่น
กาวลงไปบนผงแป้ ง เพื่อให้แป้ งเชื่อมติดกัน หลังจากนัน
้ ตัวถาดก็จะ
เลื่อนลงตามค่าความละเอียดที่ถูกกำหนดไว้ ตัวเกลี่ยแป้ งก็จะเข้ามา
เพิ่มเนื้อแป้ ง แล้วเกลี่ยให้ผงแป้ งเรียบเสมอกัน เพื่อเริ่มพิมพ์ในชัน

ถัดไป ข้อดีของเทคโนโลยีนก
ี ้ ็คือ ไม่ต้องสร้างตัวรองรับ เพราะผง
แป้ งจะทำหน้าที่เป็ นตัวรองรับชิน
้ งานเอง ซึ่งเทคโนโลยี ได้ถูกนำไป
ใช้ในการพิมพ์ทราย ซึ่งสามารถพิมพ์เป็ นบล็อคทราย สำหรับเท
โลหะลงไปในแบบทรายได้เลย โดยไม่ต้องทำต้นแบบก่อน
5

Material Extrusion
เทคโนโลยีนถ
ี ้ ือว่าเป็ นเทคโนโลยี ที่ถูกนำมาใช้มากที่สุด
เพราะราคาที่จับต้องได้ ชื่อเรียกของเทคโนโลยีนเี ้ รียกว่า FDM
(Fuse Deposition Material) เทคโนโลยี 3D Printer ชนิดนี ้
ถือว่าเป็ นที่ร้จ
ู ักมากที่สุดกว่าว่าได้ เพราะเป็ น Open Source ที่
เหล่านักสร้าง สามารถนำไปสร้างเครื่องโดยไม่ติดลิขสิทธิ ์ โดย
เครื่องพิมพ์ 3 มิติแบบ FDM ที่เป็ นที่ร้จ
ู ักในตลาดมากที่สุดคือ
Makerbot หลักการทำงานของเทคโนโลยีนก
ี ้ ็คือ การฉีดเส้นวัสดุที่
มีความหนืด ออกมาจากหัวฉีดที่มีขนาดเล็ก ทับซ้อนกันไปเรื่อยๆ
จนเกิดเป็ นรูปวัตถุ 3 มิติขน
ึ ้ มา วัสดุที่นิยมใช้กับ เทคโนโลยีนค
ี ้ ือ
พลาสติกจำพวก Thermal Plastic เช่น ABS Nylon PLA PET
เป็ นต้น ซึ่งพลาสติกแต่ละชนิดจะให้คุณสมบัติของชิน
้ งานที่พิมพ์
แตกต่างกัน สำหรับเทคโนโลยีนี ้ จะกล่าวในบทความต่อไป เพราะ
เป็ นเทคโนโลยี ที่ทำให้ 3D printer นัน
้ เป็ นที่ร้จ
ู ักอย่างแพร่หลาย
ในปั จจุบัน อ่านบทความ FDM 3D Printer ทำงานอย่างไร
6

Power Bed Fusion


หลักการของเทคโนโลยีนค
ี ้ ือ ใข้วัสดุที่เป็ นผง แล้วใข้เลเซอร์ที่
มีกำลังสูงยิงลงไปบนวัสดุที่เป็ นผงให้เกิดการเชื่อมติดกันอย่าง
หลวมๆ ที่เรียกว่า Sinter ซึ่งเทคโนโลยีนม
ี ้ ีอีกชื่อ SLS หรือ
Selective Laser Sintering ซึง่ วิธีนส
ี ้ ามารถนำมาใช้ในการพิมพ์
วัสดุที่เป็ นโลหะ หรือพลาสติก ซึ่งพลาสติกที่นิยมใช้จะเป็ นจำพวก
Nylon ซึง่ มีความเหนียวและแข็งแรง การพิมพ์วิธีนจ
ี ้ ะคล้ายกับ
เทคโนโลยี Binding Jetting ซึ่งไม่จำเป็ นที่จะต้องสร้างตัวรองรับ
งานหรือ Support เหมือนกับเทคโนโลยีอ่ น
ื ๆ เพราะตัวผงวัสดุจะ
ทำหน้าที่เป็ นตัวรองรับชิน
้ งานเอง เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วจะต้องนำชิน

งานเข้าไปใส่ในตู้อบความร้อย เพื่อให้ชน
ั ้ ต่างๆ ทีพ
่ ิมพ์นน
ั ้ เชื่อมติด
กันได้
7

Sheet Lamination
เทคนิคนีเ้ ป็ นการขึน
้ รูปโดยการใช้วัสดุที่เป็ นแผ่นวางซ้อนกัน
ไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็ นชิน
้ งาน 3 มิติ เครื่องพิมพ์ 3 มิติ ที่ใช้วิธีนี ้
ได้แก่ Mcor ซึง่ วัสดุที่ใช้เป็ น Sheet หรือแผ่นนัน
้ เป็ นกระดาษ
ธรรมดา ซึง่ ผู้ใช้สามารถที่จะพิมพ์งานออกมาเป็ นสีได้ โดยเอา
กระดาษไปพิมพ์สีออกมาก่อน ซึ่ง Software จะคำนวนว่าจะพิมพ์
สีตรงไหน เมื่อเสร็จให้นำกระดาษที่พิมพ์เสร็จใส่เข้าเครื่องพิมพ์
เครื่องก็จะเริ่มดึงกระดาษเข้ามาทีละแผ่น แล้วใช้มีดตัดให้เป็ นรูป
ร่างตามชิน
้ งานที่ Slice แล้ว หลังจากนัน
้ ตัว เครื่องพิมพ์ 3 มิติ ก็จะ
เริ่มดึงกระดาษแผ่นต่อไป ผ่านระบบทากาว ของเครื่อง แล้วนำมา
แปะบนกระดาษที่ได้ตัดเอาไว้ก่อนหน้านี ้ กระบวนการก็จะวนแบบ
นีไ้ ปเรื่อยๆ จนได้ชน
ิ ้ งาน 3 มิติออกมา
8

Direct Energy Deposition


เทคโนโลยี เครื่องพิมพ์ 3 มิติแบบนี ้ นิยมใช้ในอุตสาหกรรม
ไฮเทค ซึ่งเป็ นเทคโนโลยี ที่มีความซับซ้อน หลักการก็คือ การพ่นผง
โลหะลงไปพร้อมกับใช้พลาสมาในการหลอมละลายโลหะ โดยที่หัว
พ่นก็จะเคลื่อนที่ไปตามรูปแบบงานที่ผ่านการ Slice ซึ่งผงโลหะที่ใช้
สามารถเป็ นโลหะที่มีความพิเศษเช่น ไททาเนียม เป็ นต้น
เทคโนโลยี เครื่องพิมพ์ 3 มิติแบบนีไ้ ด้มีการนำไปรวมกับเทคโนโยลี
การขึน
้ รูปแบบ Subtractive หรือการกัดเอาเนื้องานออก เพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพของงานที่ได้ออกมา โดยที่ หัวพิมพ์จะทำการพ่นวัสดุ
ลงเป็ นรูปร่าง แล้วเครื่องพิมพ์ จะเปลี่ยนเป็ นหัวกัด เพื่อนำมากัด
งานให้มีขนาดตามที่ต้องการ แล้วจึงกลับไปใช้หัวพ่น พิมพ์งานใน
ชัน
้ ต่อไป
9

วิธีการเลือกใช้เส้น Filament หรือเส้นพลาสติกสำหรับ


เครื่องพิมพ์ 3D Printer
หลายๆคนอาจคิดว่า เส้นพลาสติกที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ 3D
Printer จะมีแค่พลาสติก PLA และ ABS เท่านัน
้ ซึ่งความเป็ นจริงๆ
แล้ว ตอนนีพ
้ ลาสติกที่ใช้กับเครื่องปริน
้ 3 มิติ นัน
้ มีมากมายให้เลือก
ใช้หลายชนิดมาก ซึ่งพลาสติก หรือ Filament แต่ละประเภทก็จะ
ให้คณ
ุ สมบัติที่แตกต่างกัน ขึน
้ อยู่กับว่าโมเดลที่พิมพ์เสร็จ จะเอาไป
ใช้ทำอะไร การเลือกเส้นพลาสติกให้ถก
ู ประเภทกับงาน จะช่วยให้
ชิน
้ งานที่พิมพ์ออกมานัน
้ ทำได้ตามคุณสมบัติที่ต้องการ สำหรับ
บทความนี ้ ก็จะมาบอกเกี่ยวกับชนิดและประเภทของเส้นพลาสติก
ที่สามารถใช้กับเครื่องพิมพ์ 3D Printer รวมไปถึง Tip และ Trick
ในการใช้เส้น และการขัดแต่งผิว
ตารางการเลือกใช้เส้น Filament หรือเส้นพลาสติก สำหรับ 3D Print
12

1. เส้นพลาสติก PLA (Polylactic)

PLA ถือว่าเป็ นเส้นพลาสติกที่ถูกใช้งานมากที่สุด กับเครื่องปริ ้


น 3D Printer เส้นพลาสติก PLA เป็ นเส้นประเภท
Biodegradable ซึง่ ก็คือเส้นที่ทำมาจากพืช เช่น มันสำปะหลัง
หรือข้าวโพด เป็ นเส้นที่ไม่เป็ นภัยต่อสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถ
ย่อยสลายได้ (กระบวนการย่อยสลายจะเกิดก็ต่อเมื่อมีการฝั งดิน มี
ความชื้น ความร้อน เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าวางไว้เฉยๆ กระบวนการ
ย่อยสลายจะไม่เกิดขึน
้ ) 
เส้นพลาสติก PLA ที่มีความแข็งมาก และเป็ นพลาสติกที่
เหมาะกับพิมพ์งานที่มีขนาดใหญ่ เพราะตัวเส้น มีค่า Thermal
Expansion หรือ การหดตัวต่ำ ทำให้พิมพ์ง่าย เกาะฐานพิมพ์ดี
นอกจากพิมพ์ชน
ิ ้ งานขนาดใหญ่ได้แล้ว ยังเหมาะกับพิมพ์งานเล็กๆ
ที่มีรายละเอียดเยอะๆ 

PLA เป็ นเส้นพลาสติกชนิดเดียวที่เหมาะกับการพิมพ์งานที่มี


ความละเอียดหรือ Leyer Heigth ที่ 50 ไมครอน
ข้อดีของเส้นพลาสติก PLA
 พิมพ์ง่ายไม่หดตัว
 พิมพ์งานที่มีรายละเอียดเยอะๆได้ดี
13

 ปั ญหาน้อย เวลาพิมพ์งานชิน
้ ใหญ่
 งานพิมพ์มีความแข็ง ดัดงอไม่ได้
 ไม่มีกลิ่น หรือมีน้อยมากๆ เวลาพิมพ์งาน
 ราคาไม่แพง
 มีสีให้เลือกเยอะ
ข้อเสียของเส้นพลาสติก PLA
 งานพิมพ์เปราะและแตกง่าย ในส่วนที่แหลม และเป็ นมุม
 ทนอุณหภูมิได้ไม่มาก แค่ 60 องศาก็เริ่มเปลี่ยนรูป ไม่เหมาะ
วางในรถที่ตากแดด
 ยากต่อการขัดแต่ง เพราะความแข็งเนื้อพลาสติกมีความแข็ง
 ไม่เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องไปใช้งานข้างนอก เจอแดดและ
ฝน
ลักษณะงานที่เหมาะกับพิมพ์พลาสติก PLA
 ชิน
้ งานต้นแบบ
 ของเล่น
 ตัวการ์ตูน
 งานสถาปั ตยกรรม
Tips และ Tricks ในการใช้งานเส้นพลาสติก PLA
สำหรับการขัดแต่งชิน
้ งาน ที่พิมพ์จากพลาสติก PLA นัน
้ ควร
ใช้การขัดแบบเปี ยก หรือใช้กระดาษทรายน้ำ เพราะพลาสติก PLA
ทนอุณหภูมิได้ต่ำ ถ้าขัดแห้ง จะเกิดความร้อน และทำให้งานเสียรูป
และจะทำให้ขัดแต่งยากขึน
้ ในส่วนของการเชื่อมต่อชิน
้ งานให้ติด
กัน สามารถใช้กาวร้อน ในการเชื่อมต่อได้
 อุณหภูมิหัวฉีดสำหรับพิมพ์ PLA: 180 – 210 องศา
14

 อุณหภูมิฐานสำหรับพิมพ์: 50 – 60 องศา (ถ้าไม่มีฐาน


ทำความร้อนให้ใช้ Blue Tape แทนได้)
 ฐานพิมพ์: ก่อนจะทำการพิมพ์ควรแน่ใจว่าฐานสะอาด ไม่มี
คราบน้ำมัน ถ้ามีให้ใช้แอ-ลกฮอล์ที่ล้างแผล เช็ดที่ฐานก่อนพิมพ์
งานทุกครัง้

2. เส้นพลาสติก ABS / ASA

เส้นพลาสติก ABA และ ASA เรียกได้ว่าเป็ นพี่น้องกัน เพราะ


มีคุณสมบัติต่างกันไม่มาก แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการใช้งาน เส้นพลาสติก
ASA จะได้เปรียบกว่าเส้น ABS 
เส้นพลาสติก ASA จะมีคุณสมบัติที่ทนต่อรังสี UV ได้ดีกว่า
เส้น ABS และหดตัวน้อยกว่า ซึ่งทำให้เส้นพลาสติก ASA พิมพ์ง่าย
กว่าเส้นพลาสติก ABS ข้อดีที่เส้นพลาสติก ABS เหนือกว่าเส้น ASA
ก็คือ งานที่พิมพ์จากเส้นพลาสติก ABS สามารถใช้ ไอระเหยของอะ
ซิโตน ในการอบให้ชน
ิ ้ งานมันวาวได้ง่ายกว่าเส้น ASA
เส้นพลาสติก ASA ถือว่าเป็ นเส้นเอนกประสงค์ เพราะงานที่
พิมพ์จากเส้นพลาสติก ASA สามารถเอาไปทำอะไรได้หลากหลาย
เพราะทนต่อความร้อนได้สูงกว่าเส้นพลาสติก PLA และ
PET/PETG สามารถเอาไปตากแดดไว้กลางแจ้งได้ แต่ข้อเสียของ
เส้นพลาสิก ASA คือ พิมพ์งานชิน
้ ใหญ่ได้ไม่มากเท่ากับเส้นพลาสติก
15

PLA เพราะมีค่าการหดตัวสูงกว่า นอกจากนัน


้ เส้นพลาสติกทัง้
ASA/ABS จะมีกลิ่นเหม็นตอนเวลาพิมพ์งาน ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึก
วิงเวียน ศรีษะ และเกิดอาการอาเจียนได้ ดังนัน
้ การพิมพ์เส้น
พลาสติก ทัง้ ABS และ ASA ควรอยู่ในห้องที่มีระบบระบายอากาศ
ที่ดี หรือไม่ก็ให้ใช้เครื่องที่เป็ นระบบปิ ด มีกรองกลิ่น และกรองฝุ ่น
ในตัวเครื่อง 

เส้นพลาสติก ABS/ASA พิมพ์ยาก ให้ระวังเรื่องการหดตัว ถ้า


พิมพ์ชน
ิ ้ งานขนาดใหญ่ ตัวเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ต้องมีฝาครอบ เพื่อ
รักษาอุณหภูมิของชิน
้ งานไม่ให้หดตัว
ข้อดีของเส้นพลาสติก ABS
 ชิน
้ งานพิมพ์ทนต่อแรงกระแทก และการเสียดสี
 ทนความร้อนได้สูง ไม่เสียรูปเวลาตากแดด หรือเอาไว้ในรถ
 เหมาะสำหรับพิมพ์ชน
ิ ้ งานที่ต้องใข้ภายนอก เจอแดด เจอ
ฝน 
 สามารถอบชิน
้ งานเพื่อลบรอยชิน
้ งานได้ด้วย ไอระเหยขอ
งอะซิโตน
 สามารถต่อชิน
้ งานให้ติดกันได้ด้วยกาวร้อน หรืออะซิโตน
ข้อเสียของเส้นพลาสติก ABS
 พิมพ์ยาก ชิน
้ งาดหลุดจากฐานพิมพ์ง่าย
 หดตัวง่าย ชิน
้ งานไม่ต่อกัน ไม่เหมาะกับพิมพ์งานที่มีขนาด
ใหญ่
 ไม่เหมาะกับพิมพ์งานที่มีรายละเอียดเยอะๆ 
 มีกลิ่นเหม็นเวลาพิมพ์
16

ลักษณะงานที่เหมาะกับพิมพ์พลาสติก ABS
 กล่องฝาครอบ หรือเคสใส่อุปกรณ์
 อุปกรณ์ที่ต้องตากแดด ตากฝน
 ทดแทนชิน
้ ส่วนพลาสติกที่เสียหาย
 ชิน
้ งานต้นแบบ ที่ต้องเอาไปทดสอบ

Tips และ Tricks ในการใช้งานเส้นพลาสติก ABS / ASA


การพิมพ์เส้นพลาสติก ABS/ASA จะง่ายขึน
้ เป็ น 10 เท่า ถ้า
สามารถพิมพ์ในตู้ หรือเครื่องที่เป็ นระบบปิ ด เพราะการพิมพ์ในตู้
หรือระบบที่ปิด จะช่วยรักษาอุณหภูมิความร้อน ทำให้งานที่พิมพ์ไม่
หดตัว และลดอาการเส้นแยกกันระหว่างชัน
้ หรือเส้นไม่ต่อกัน
สำหรับการต่อชิน
้ งานที่พิมพ์ด้วยเส้นพลาสติก ABS / ASA
สามารถทำได้ง่ายโดยใช้ อะซิโตน ซึ่งการต่อชิน
้ งาน ก็แค่ใช้แปรง
หรือพู่กันทา ในส่วนที่ต้องการต่อและกดชิน
้ งานทื่พิมพ์เข้าหากัน
นอกจากจะใช้ อะซิโตนในการต่อชิน
้ งาน ผู้ใช้ยังสามารถใช้ไอระเหย
ของอะซิโตนในการอบชิน
้ งานเพื่อลบรอย และยังทำให้ชน
ิ ้ งานมัน
วาว ได้อีกด้วย (การอบงานพิมพ์ด้วยอะซิโตน จำเป็ นต้องใส่
หน้ากาก ถุงมือและแว่นตา เพราะเป็ นกระบวนการทางเคมี ซึ่งเป็ น
อันตราย ถ้าไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน) 
สำหรับการขัดแต่งชิน
้ งานทีพ
่ ิมพ์จาก ABS/ASA จะทำได้ง่าย
กว่าเส้นพลาสติก PLA และ PETG สามารถขัดแห้งได้ เพราะ
พลาสติกสามารถทำความร้อนได้สูง
 อุณหภูมิหัวฉีดสำหรับพิมพ์ ABS/ASA: 230 – 250 องศา
17

 อุณหภูมิฐานสำหรับพิมพ์: 90- 110 องศา (งานพิมพ์ยิ่งใหญ่


ต้องใช้อุณหภูมิสูงขึน
้ )
 ฐานพิมพ์: ก่อนพิมพ์เส้นพลาสติก ABS/ASA นัน
้ จำเป็ นต้อง
ทำความสะอาดที่ฐาน โดยใช้แอลกฮอล์เช็ดที่แผ่นฟิ ลม์ PEI ก่อนทุก
ครัง้ สำหรับชิน
้ งานที่มีขนาดใหญ่ แนะนำให้ฉีดพ่น Hair Spray
หรือทากาวแท่ง UHU ลงบนฐานพิมพ์ก่อน ที่จะพิมพ์งาน

3. เส้นพลาสติก PET/PETG

สำหรับเส้นพลาสติกชนิดนี ้ ถ้าใครนึกไม่ออกให้นึกถึงขวดน้ำ
ดื่มใส ที่เราซื้อตามร้านสะดวกซื้อ เส้น PET/PETG นัน
้ เป็ นเส้นที่
เหมาะสำหรับพิมพ์งานที่เป็ นชิน
้ ส่วนงานวิศวกรรม งานที่เกี่ยวกับ
เครื่องมือ หรืองานที่ต้องการความเหนียว 
ถ้าเอาเส้นพลาสติก PET/PETG มาเทียบกับเส้นพลาสติก
PLA แล้ว เส้น PET/PETG มีความได้เปรียบในเรื่อง อุณหภูมิ ความ
เหนียว ซึ่ง PET/PETG จะมีความเหนียว แตกหักยาก และยังทน
ความร้อนได้สูงกว่าเส้นพลาสติก PLA 
ข้อดีอีกอย่างของการพิมพ์ด้วยเส้นพลาสติก PET/PETG คือ
สามารถพิมพ์งานชิน
้ ใหญ่ได้ โดยไม่หดตัว และพิมพ์ง่ายเหมือนกับ
การพิมพ์เส้น PLA แต่จะได้คณ
ุ สมบัติเชิงกล ที่ดีกว่าเส้น PLA ซึง่
ชิน
้ ส่วนของเครื่องพิมพ์ Original Prusa นัน
้ ทัง้ หมดที่เห็นเป็ นสีดำ
และสีส้ม ก็พิมพ์ด้วยพลาสติก PET/PETG
18

เส้นพลาสติก PET/PETG เป็ นเส้นที่พิมพ์ง่ายเหมือน PLA ไม่หด


ตัว พิมพ์งานชิน
้ ใหญ่ได้ สามารถนำไปใช้แทนเส้นพลาสติก
ABS/ASA แถมไม่มีกลิ่นเวลาพิมพ์ 
ข้อดีของเส้นพลาสติก PET/PETG
 ทนอุณหภูมิได้สูงกว่าเส้น PLA 
 พิมพ์ง่าย ไม่หดตัว พิมพ์งานชิน
้ ใหญ่ได้
 มีความเหนียวและแข็งแรง
 ไม่มีกลิ่นเวลาพิมพ์
 งานที่พิมพ์เสร็จ จะมีผิวที่มีความมันวาว
 การเชื่อมต่อระหว่างชัน
้ หรือ Layer Bonding แข็งแรงมาก
ข้อเสียของเส้นพลาสติก PET/PETG
 ไม่เหมาะพิมพ์งานที่มีขนาดเล็ก 
 มีเส้นใยพลาสติก พาดไปมาระหว่างตัวงาน
 ไม่เหมาะสำหรับพิมพ์งานที่เป็ นคาน หรือสะพานยาวที่ไม่มี
ตัวรองรับหรือ Support
 ไม่สามารถใช้สารเคมีทำให้ผิวเรียบได้
 การต่อชิน
้ งานทำได้ยาก
 ตัวรองรับหรือ Support จะแกะยาก เพราะเส้นมีความ
เหนียว
ลักษณะงานที่เหมาะกับพิมพ์พลาสติก PET/PETG
 ชิน
้ งานที่ต้องการลักษณะเชิงกล เช่น เกียร์ เฟื อง ตัวยึดต่างๆ
 งานที่ต้องการพิมพ์ ไม่ให้น้ำรั่วออกมา เช่น ชาม หม้อ หรือ
แจกกันดอกไม้
19

 ชุดจับยึด จำพวก Jig และ Fixture 

Tips และ Tricks ในการใช้งานเส้นพลาสติก PET / PETG


เส้นพลาสติก PET/PETG นัน
้ จะไม่เหมือนกับเส้นพลาสติก
PLA และ ABS เพราะเป็ นเส้นที่มีความเหนียว ทำให้เกิดเส้นใย
พลาสติก ใยแมงมุม หรือ String พาดไประหว่างชิน
้ งานได้ง่าย ซึ่ง
วิธีการลดเส้นใย จำเป็ นต้องปรับค่าอุณหภูมิหรือ Retraction (ลอง
อ่านเพิ่มเติม) ซึ่งถ้าแก้ด้วยการปรับค่าแล้วไม่ได้ยังมีเส้นใยอยู่ ให้ใช้
ไดร์ร้อนเป่ า เพื่อละลายเส้นให้หายไป  
 อุณหภูมิหัวฉีดสำหรับพิมพ์ PET/PETG: 220 – 245 องศา
 อุณหภูมิฐานสำหรับพิมพ์: 70 – 80 องศา
 ฐานพิมพ์: เส้นพลาสติก PET/PETG นัน
้ จะยึดติดกับฐาน
พิมพ์ที่เคลือบแผ่นฟิ มล์ PEI ได้ดีมาก บางครัง้ ก็ดีเกินไป เพราะเวลา
พิมพ์เสร็จแล้วจะเอางานออก งานจะติดและดึงไม่ออก ถ้าใช้คัต
เตอร์หรือ เกรียงช่วยแงะเอางานออก อาจจะดึงแผ่น PEI ออกมา
ด้วย ดังนัน
้ ก่อนการพิมพ์เส้น PET/PETG นัน
้ ให้ฉีดสเปรย์หรือทา
กาวลงบนแผ่นฐานก่อน เพื่อป้ องกันไม่ให้เส้นพลาสติก PET/PETG
ติดกับฐานแน่นเกินไป 

4. เส้นพลาสติก TPU / FLEX


20

Flex เป็ นเส้นพลาสติกแบบนิ่ม คล้ายยาง สามารถดัดและบิด


งอได้ ส่วนใหญ่เส้น Flex จะเป็ นเส้นพลาสติกที่ทำจาก TPE หรือไม่
ก็ TPU ซึง่ เส้น Flex ที่ขายในตลาด จะมีให้ความนิ่มให้เลือกหลาย
ระดับ ซึ่งค่าความนิ่มนัน
้ เรียกว่า Shore A ยึ่งตัวเลขค่านีย
้ ิ่งต่ำ เส้น
ก็จะยิ่งนิ่มมาก ซึ่งเส้นที่นิ่มมาก ก็จะพิมพ์ยาก ส่วนใหญ่ที่เห็นใช้กับ
เครื่องพิมพ์ 3 มิติ จะมีความนิ่มอยู่ที่ 98 Shore A
การพิมพ์เส้น FLEX นัน
้ จะต้องอาศัยความชำนาญในการใช้
เครื่องพิมพ์ 3D Printer เพราะต้องมีการปรับแต่งในส่วนของตัว
ป้ อนเส้น ให้มีการบีบเส้น ที่พอดี ไม่แรงและไม่แข็งเกินไป เพราะถ้า
ตัง้ แรงกดไม่ดี จะทำให้เส้นนัน
้ ปลิน
้ ออกไปตามไปช่องว่าง ทำให้หัว
ฉีดไม่สามารถฉีดเส้นออกมาได้ 

การพิมพ์เส้น FLEX นัน


้ ควรใช้เครื่อง 3D Printer ที่มีชุดดันเส้น
แบบ Direct Drive จะทำให้พิมพ์ง่ายกว่าระบบ Bowden รวม
ไปถึงความเร็วในการพิมพ์จะต้องลดลงจากการพิมพ์เส้นปกติ
ข้อดีของเส้นพลาสติก FLEX
 มีความเหนียวและหยืดหยุ่น
 หดตัวน้อย
 การเชื่อมต่อระหว่างชัน
้ ดีมาก
 ทนต่อการขัดสี
ข้อเสียของเส้นพลาสติก FLEX
 ต้องปรับตัง้ มอเตอร์ดันเส้น ให้เหมาะสมกับความนิ่มของตัว
เส้น
 พิมพ์เร็วไม่ได้ ต้องพิมพ์ช้าๆ
21

 ราคาแพง
 เป็ นเส้นที่ดูดความชื้นง่าย ควรอบเส้นให้แห้งก่อนใช้งาน
ลักษณะงานที่เหมาะกับพิมพ์พลาสติก FLEX
 ส่วนใหญ่เส้น Flex จะใช้กับงานห่อหุ่ม เพื่อป้ องกันการ
กระแทก เช่น เคสโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป 
 ล้อรถวิทยุบังคับ
 แผ่นรองพื้นที่เท้า Insole และ Midsole
Tips และ Tricks ในการใช้งานเส้นพลาสติก FLEX
เส้นพลาสติก FLEX ยิ่งนิ่ม ยิ่งพิมพ์ยาก จำเป็ นต้องปรับแต่ง
ในส่วนของแรงบีบชุดดันเส้นให้ดี รวมไปถึงต้องดูเรื่องของความชื้น
เพราะเป็ นเส้นที่ดูดความชิน
้ ได้ไว้ หลังพิมพ์เสร็จ ควรเก็บเส้นใน
กล่องสุญญากาศ
 อุณหภูมิหัวฉีดสำหรับพิมพ์ FLEX: 230 – 260 องศา
 อุณหภูมิฐานสำหรับพิมพ์: 45 – 65 องศา
 ฐานพิมพ์: ก่อนพิมพ์เส้นพลาสติก Flex นัน
้ จำเป็ นต้อง
ทำความสะอาดที่ฐาน โดยใช้แอลกฮอล์เช็ดที่แผ่นฟิ ลม์ PEI ก่อนทุก
ครัง้ ซีง่ จะเหมือนกับการพิมพ์เส้น ABS/ASA สำหรับชิน
้ งานที่มี
ขนาดใหญ่ ไม่ควรพิมพ์ชน
ิ ้ งานตรงๆ ลงบนฟิ ลม์ PEI เพราะจะทำให้
แกะชิน
้ งานไม่ออก และทำให้ฟิลม์ PEI ฉีกขาดได้ ควรจะทากาว
UHU ลงบนฟิ ลม์ PEI ก่อนพิมพ์งาน

5. เส้นพลาสติก CPE (Co-Polyester)


22

CPE ย่อมาจาก ”โคโพลีเอสเตอร์” เป็ นเส้นพลาสติกที่ถูก


พัฒนาต่อยอดมาจากเส้น PETG เพื่อเพิ่มคุณสมบัติ ให้พิมพ์ง่าย
และให้คุณสมบัติเชิงกลที่มากกว่าเส้น PETG สามารถนำชิน
้ งานที่
พิมพ์จากเส้น CPE ไปใช้งานได้จริง เส้นพลาสติก CPE นัน
้ ก็เหมือน
กับเส้น PETG คือไม่หดตัว และไม่มีกลิ่นเวลาพิมพ์งาน เลเยอร์ที่
พิมพ์จะติดกันแน่น ไม่แยกออกจากกัน งานที่พิมพ์จากเส้น CPE
สามารถทนสารเคมีได้
สำหรับเส้น CPE นัน
้ จะมีช่ อ
ื เรียกเป็ นอย่างอื่น แล้วแต่ผู้ผลิต
จะตัง้ เช่น บริษัท Colorfabb ผู้ผลิตเส้นพลาสติกของเนเธอร์แลนด์
ก็จะมีเส้นพลาสติก CPE จำหน่าย แต่จะใช้ช่ อ
ื ว่า nGen และก็ XT

เส้นพลาสติก CPE จะมีความมันวาว เหนียว สามารถบิดงอได้


แต่เวลาพิมพ์จะมีเส้นใยพลาสติก พาดไปมา เหมือนเส้นใย
แมงมุม แต่เป็ นเส้นที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าเส้น PET/PETG
เพราะมีการเติมสารปรุงแต่งให้ดีขน
ึ้
ข้อดีของเส้นพลาสติก CPE
 มีความแข็งแรงทนต่อแรงกระแทกได้ดี
 เหมาะสำหรับพิมพ์ชน
ิ ้ งานวิศวกรรม
 การเชื่อมต่อระหว่างชัน
้ ดีมาก
ข้อเสียของเส้นพลาสติก CPE
23

 เชื่อมชิน
้ งานให้ติดกันยาก
 ขัดแต่งชิน
้ งานยาก 
 ต้องเก็บในถุงกันความชื้น เมื่อไม่ได้ใช้งาน
ลักษณะงานที่เหมาะกับพิมพ์พลาสติก CPE
 งานวิศวกรรม จำพวกกล่องใส่อุปกรณ์ ที่ต้องโดนน้ำมัน โดน
สารเคมี
 เฟื อง ชิน
้ ส่วนกลไก 
 ชิน
้ ส่วนจำพวกชุดจับหรือ Jig และ Fixture

Tips และ Tricks ในการใช้งานเส้นพลาสติก CPE


 อุณหภูมิหัวฉีดสำหรับพิมพ์ CPE: 255 – 275 องศา
 อุณหภูมิฐานสำหรับพิมพ์: 70 – 90 องศา
 ฐานพิมพ์: ก่อนพิมพ์เส้นพลาสติก CPE นัน
้ จำเป็ นต้อง
ทำความสะอาดที่ฐาน โดยใช้แอลกฮอล์เช็ดที่แผ่นฟิ ลม์ PEI ก่อนทุก
ครัง้ ซีง่ จะเหมือนกับการพิมพ์เส้น ABS/ASA สำหรับชิน
้ งานที่มี
ขนาดใหญ่ 

6. เส้นพลาสติก ไนลอน (Nylon)

ไนลอน หรือ Polymide ชื่อย่อ PA ถือว่าเป็ นสุดยอดเส้น


พลาสติกสำหรับพิมพ์ชน
ิ ้ งานที่ต้องการความแข็งแรง ความเหนียว
24

และทนความร้อน เหมาะสำหรับพิมพ์ชน
ิ ้ ส่วนเครื่องกล หรือชิน
้ งาน
ทางวิศวกรรม 
ไนลอนเป็ นเส้นพลาสติกที่พิมพ์ยาก เพราะตัวไนลอนนัน
้ ดูด
ความชื้นจากในอากาศได้เร็วมาก เวลาชื้น จะมีฟองอากาศระเบิด
ออกมาที่หัวฉีด ทำให้พิมพ์งานไม่ได้ ซึ่งการพิมพ์ไนลอนนัน
้ ควรจะ
ต้องอบเส้นให้คลายความชื้นออกมาก่อน รวมถึงระหว่างพิมพ์ ก็
ต้องเก็บในกล่องที่กันความชื้น ไนลอนที่แห้งจะให้ผิวชิน
้ งานที่เรียบ
และมีความมันวาว 
สำหรับเส้นไนลอน นัน
้ ยังมีการแบ่งเกรดออกไปอีก แล้วแต่
คุณสมบัติที่ต้องการ เช่น Nylon PA6 / Nylon  PA12 นอกจาก
นัน
้ ยังมีการนำเอาผงคาร์บอนไฟเบอร์ หรือใยแก้ว ผสมลงไปในเส้น
ไนลอน เพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้กับเส้นมากขึน

เส้นพลาสติก ไนลอน ถูกใช้มานานในงานวิศวกรรม ที่ต้องการ


ความแข็งแรง คงทน เหนียว และทนความร้อน ซึ่ง ไนลอน
สามารถตอบโจทย์ได้ทงั ้ หมด การพิมพ์เส้นไนลอน นัน
้ ไม่ยาก ถ้า
เส้นไม่ช้น
ื จะพิมพ์ง่ายมาก 
ข้อดีของเส้นพลาสติก Nylon
 เหมาะสำหรับพิมพ์ชน
ิ ้ ส่วนเครื่องกล
 ทนต่อสารเคมี
 หยืดหยุ่นแต่แข็งแรง ไม่หักหรือแตก เวลาบิดงอ 
 รับแรงกระแทกได้ดี 
ข้อเสียของเส้นพลาสติก Nylon
 ต้องเก็บรักษาเส้นในที่แห้ง ไม่ให้มีความชื้น
25

 พิมพ์ยากมาก ถ้าเส้นมีความชื้น
 งานพิมพ์อาจหดตัว ต้องพิมพ์ในเครื่องที่มีตู้ครอบ
ลักษณะงานที่เหมาะกับพิมพ์พลาสติก Nylon
 น็อต สกรู
 เฟื องและเกียร์
 ชิน
้ ส่วนเครื่องจักร

Tips และ Tricks ในการใช้งานเส้นพลาสติก Nylon


เส้นพลาสติก Nylon จะดูดความชื้นได้เร็วกว่าเส้นพลาสติก
แบบอื่นๆ ดังนัน
้ เวลาใช้เส้นไนลอนพิมพ์งาน จำเป็ นต้องเอาเส้นใส่
ในกล่องสุญญากาศ และดึงเส้นผ่านท่อมาใส่ที่เครื่องพิมพ์ จะช่วย
ป้ องกันไม่ให้เส้นชื้น ระหว่างพิมพ์งาน
 อุณหภูมิหัวฉีดสำหรับพิมพ์ Nylon: 255 – 275 องศา
 อุณหภูมิฐานสำหรับพิมพ์: 100 – 110 องศา
 ฐานพิมพ์: ก่อนพิมพ์เส้นไนลอน ให้ทากาว UHU ลงบนฐาน
พิมพ์ก่อน เพื่อป้ องก้นไม่ให้ฐานของชิน
้ งานที่พิมพ์หด หรือยกตัวขึน

มา

7. เส้นพลาสติก Composite
26

ความหมายของคำว่า Composite คือการผสมวัสดุบางสิ่ง ที่


ไม่ใช่สารเคมีเพื่อเติมแต่งให้เส้นดีขน
ึ ้ แต่เป็ นการผสมวัสดุที่เป็ นผง
เพื่อทำให้เส้นพลาสติกมีความหลากหลายมากขึน
้ เช่น ผงไม้, ผง
โลหะ, ผงคาร์บอน, ผงเรืองแสง ซึ่งการผสมผง เหล่านี ้ จะทำให้ชน
ิ้
งานที่พิมพ์ขน
ึ ้ มา มีความเป็ นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึน
้ เช่นเอา
ไนลอน ผสมกับผงคาร์บอน ก็จะได้ความแข็งมากขึน
้ ไนลอน
สามารถงอได้ แต่พอผสมผงคาร์บอนเข้าไป ทำให้งอได้น้อยลง แต่
จะได้ความแข็งแรงมากขึน
้ กว่าตอนไม่ผสมหรือจะเอาเส้นพลาสติก
ไปผสมกับผงโลหะ อย่างทองแดง ก็จะทำให้ชน
ิ ้ งานพิมพ์ออกมามี
น้ำหนักเหมือนโลหะ แถมยังสามารถขัดขึน
้ เงาได้อีกด้วย หรือถ้า
เอางานไปจุ่มสารเคมี เพื่อกัดโลหะทองแดง ก็จะได้ผิวชิน
้ งานที่เป็ น
สนิมเขียว ทำให้ดูเหมือนรูปปั ้ นเก่าๆ มากขึน

การพิมพ์เส้น Composite นัน
้ จำเป็ นต้องระวังเรื่องการสึก
ของหัวฉีด เพราะเส้นที่มีส่วนผสมของผงเหล่านี ้ จะทำให้เส้นกลาย
เป็ นกระดาษทราย ซึ่งจะไปขัดและขยายรูของหัวฉีด ทำให้หัวฉีดสึก
เร็วขึน
้ ดังนัน
้ ถ้าจะพิมพ์เส้น Composite แนะนำให้ใช้หัวฉีดที่เป็ น
โลหะชุบแข็ง หรือไม่กห
็ ัวฉีดที่มีการเคลือบสาร เพื่อเพิ่มความแข็ง
แรง และกดการสึกกร่อน อย่างหัวฉีด NozzleX ของ E3D
27

เส้นพลาสติก แบบ Composite ถ้าจะให้ดี ความใช้หัวพิมพ์ที่มีรู


ขนาด 0.6 มิล เพื่อป้ องกันไม่ให้หัวฉีดตัน เพราะส่วนผสมของผง
ที่ใส่ลงไปในเส้น อาจจะมีขนาดใหญ่ ดังนัน
้ การใช้รูหัวพิมพ์ที่
ใหญ่ จะช่วยลดอาการหัวฉีดตัน จากการพิมพ์เส้น Composite
ได้
ข้อดีของเส้นพลาสติก Composite
 งานพิมพ์สวยหลังจากการขัดแต่ง
 หดตัวน้อย
 ได้ชน
ิ ้ งานทีมีคณ
ุ สมบัติดีขน
ึ้
ข้อเสียของเส้นพลาสติก Composite
 ต้องใช้หัวพิมพ์ชุบแข็ง 
 ใช้ขนาดรูหัวฉีดอย่างน้อย 0.5 มิลขึน
้ ไป
 เส้นมีราคาแพงกว่าเส้นทั่วไป
ลักษณะงานที่เหมาะกับพิมพ์พลาสติก Composite
 น็อต สกรู
 เฟื องและเกียร์
 ชิน
้ ส่วนเครื่องจักร 
 ของประดับและตกแต่ง

Tips และ Tricks ในการใช้งานเส้นพลาสติก Composite


สำหรับการขัดแต่งเส้น Composite ที่มีส่วนผสมโลหะ ควร
เริ่มด้วยการขัดกระดาษทรายเบอร์หยาบก่อน แล้วค่อยๆไล่เบอร์จน
ไปถึงกระดาษทรายเบอร์ 1500 ส่วนทางต้องการขัดชิน
้ งานให้ขน
ึ้
28

เงา ก็สามารถใช้แปรงทองเหลือง ร่วมกับน้ำยาขัดเงา ในการถูให้ชน


ิ้
งานมีความมันวาว
 อุณหภูมิหัวฉีดสำหรับพิมพ์  Compostie: ชึน
้ อยู่กับชนิดเส้น
ที่ใช้
 อุณหภูมิฐานสำหรับพิมพ์: ชึน
้ อยู่กับชนิดเส้นที่ใช้
 ฐานพิมพ์: ก่อนพิมพ์เส้น Composite ให้ทากาว UHU ลง
บนฐานพิมพ์ก่อน เพื่อป้ องก้นไม่ให้ฐานของชิน
้ งานที่พิมพ์หด หรือ
ยกตัวขึน
้ มา

8. เส้นพลาสติก HIPS

HIPS เป็ นเส้นพลาสติกที่ส่วนใหญ่นำมาใช้สร้างเป็ น Support


หรือตัวรองรับให้กับเส้นพลาสติก ASA/ABS ซึ่งเส้นพลาสติก HIPS
สามารถละลายได้ใน Limonesol หรือกรดน้ำส้ม 
นอกจากจะใช้สร้างเป็ นตัว Support แล้ว ยังสามารถนำเส้น
HIPS มาใช้พิมพ์งานก็ได้ ซึ่งข้อดีของเส้น HIPS คือผิวชิน
้ งานจะมี
ความเรียบ และผิวที่พิมพ์จะมีความด้านไม่เงา เหมาะสำหรับพิมพ์
ชิน
้ งานต้นแบบที่ต้องการความสวยงาม เหมือนชิน
้ งานจริง ให้ความ
รู้สึกเหมือนงานจากเครื่องฉีดพลาสติก
29

เส้นพลาสติก HIPS จะมีลักษณะคล้ายเส้น ASA / ABS แต่พิมพ์


ง่ายกว่า สามารถพิมพ์ชน
ิ ้ งานขนาดใหญ่ได้ โดยไม่หดตัว ผิวงาน
พิมพ์จะมีความด้าน ไม่เงาเหมือนเส้น PETG แต่ทนความร้อนได้
ใกล้เคียงกัน 
ข้อดีของเส้นพลาสติก HIPS
 ละลายได้ในกรดน้ำส้ม เหมาะสำหรับพิมพ์เป็ น Support
ของเส้น ABS
 ผิวงานที่พิมพ์มค
ี วามเรียบและลื่น
 เบากว่า ABS
ข้อเสียของเส้นพลาสติก HIPS
 พิมพ์ยากกว่า PLA แต่ง่ายกว่า ABS
 หดตัวถ้าพิมพ์ชน
ิ ้ ขนาดใหญ่ ต้องมีตู้ครอบ
 มีกลิ่นเวลาพิมพ์
ลักษณะงานที่เหมาะกับพิมพ์พลาสติก HIPS
 พิมพ์เป็ นตัวรองรับหรือ Support ให้กับชิน
้ งานที่เป็ น
ABS/ASA
 กล่องใส่อุปกรณ์อิเลกทรอนิคส์
 ชิน
้ งานที่ต้องการความเหมือนจริง ที่คล้ายกับงานฉีด
พลาสติก

Tips และ Tricks ในการใช้งานเส้นพลาสติก HIPS


 อุณหภูมิหัวฉีดสำหรับพิมพ์ HIPS: 230-240 องศา
 อุณหภูมิฐานสำหรับพิมพ์: 95-105 องศา
30

 ฐานพิมพ์: ก่อนพิมพ์เส้นพลาสติก HIPS นัน


้ จำเป็ นต้อง
ทำความสะอาดที่ฐาน โดยใช้แอลกฮอล์เช็ดแล้วใช้กาว UHU หรือส
เปรย์ฉีดผม พ่นลงไปบนฐานก่อนพิมพ์งาน ถ้าเป็ นชิน
้ งานที่มีขนาด
ใหญ่ แนะนำให้ใช้ ABS Glue ทาลงบนฐานก่อนพิมพ์งาน

9. เส้นพลาสติก PVA

PVA หรือที่หลายๆคนรู้จักว่าเป็ นเส้นสำหรับการฉีด Support


หรือตัวรองรับ ซึงข้อดีของเส้น PVA นัน
้ ก็คือ สามารถละลายในน้ำ
ได้ ซึ่งข้อดีตรงนี ้ ทำให้สามารถพิมพ์ชน
ิ ้ งานที่มีความยากและซับ
ซ้อนได้ สำหรับการใช้เส้น Filament แบบ PVA นัน
้ ส่วนใหญ่จะใช้
กับเครื่องพิมพ์ 3D Printer ที่มี 2 หัวฉีดขึน
้ ไป
การพิมพ์เส้นพลาสติก PVA นัน
้ จะต้องใช้อุปกรณ์เข้ามาช่วย
ในการเก็บไม่ให้เส้นโดนอากาศ เพราะเส้นพลาสติก PVA นัน

สามารถดูดความชิน
้ ได้ไวมาก คล้ายๆกันกับเส้น Nylon ซึง่ ถ้ามี
ความชื้นในเส้นมาก ก็จะทำให้หัวฉีดตันได้
31

การใช้เส้น PVA ในการพิมพ์ Support จำเป็ นต้องเอาเส้นใส่ใว้


ในกล่องกันอากาศ หรือกล่องสุญญากาศ เสมอ และถ้าจะให้ดี ก็
ควรอบเส้นไล่ความชื้น ก่อนใช้งานทุกครัง้ อบที่อุณหภูมิ 60-70
องศา เป็ นเวลา 6-8 ชั่วโมง จะทำให้พิมพ์ง่าย หัวฉีดไม่ตัน
ข้อดีของเส้นพลาสติก HIPS
 ละลายในน้ำได้
 เอามาพิมพ์ Support ทำให้พิมพ์ชน
ิ ้ งานที่มีความซับซ้อนได้
ดี
ข้อเสียของเส้นพลาสติก HIPS
 พิมพ์ยาก ถ้าเส้นชื้น หัวฉีดตันได้ง่าย
 ราคาแพง 
 ต้องเก็บรักษาในกล่องกันความชื้นอยู่ตลอด
ลักษณะงานที่เหมาะกับพิมพ์พลาสติก HIPS
 พิมพ์เป็ นตัวรองรับหรือ Support ให้กับชิน
้ งาน

Tips และ Tricks ในการใช้งานเส้นพลาสติก HIPS


 อุณหภูมิหัวฉีดสำหรับพิมพ์ HIPS: 190-210 องศา
 อุณหภูมิฐานสำหรับพิมพ์: 45-60 องศา
 ฐานพิมพ์: พลาสติก PVA นัน
้ คือกาว ดังนัน
้ ตัวช่วยให้เส้น
PVA ยึดติดกับฐาน ก็คือการใช้กาวแท่ง UHU ทาลงบนฐานก่อน
พิมพ์งาน จะช่วยให้เส้นยึดติดกับฐานพิมพ์ได้ดี

สรุปการเลือกใช้เส้น Filament หรือเส้นพลาสติกสำหรับ


เครื่องพิมพ์ 3D Printer
32

สำหรับการเลือกใช้เส้นพลาสติก หรือ 3D Filament นัน



จำเป็ นต้องเลือกให้ตรงกับ จุดประสงค์ที่จะเอาชิน
้ งานไปใช้ เพราะ
ถ้าเลือกผิด ก็จะทำให้ได้ชน
ิ ้ งานที่พิมพ์ ไม่ตรงตามคุณสมบัติ
นอกจากการเลือกเส้นพลาสติกแล้ว เรายังต้องดูในส่วนของ
เครื่องพิมพ์ 3 มิติที่เรามีด้วยว่า สามารถพิมพ์พลาสติกชนิดนัน
้ ได้
ไหม เพราะ 3D Printer บางรุ่น อาจจะไม่มีฐานทำความร้อนมาให้
ก็จะทำให้พิมพ์พลาติกจำพวก ABS / PETG / NYLON ไม่ได้
แต่ถ้ามีฐานทำความร้อน ก็ต้องมาดูด้วยว่างานที่พิมพ์มีขนาด
ใหญ่มากหรือไม่ ถ้าใหญ่มาก ก็อาจจะต้องทำตัวครอบเครื่อง เพราะ
พลาสติกบางชนิด มีการหดตัวที่สูง ทำให้ชน
ิ ้ งานพิมพ์ หลุดออกจาก
ฐานขณะพิมพ์ได้ หรือไม่ก็มีรอยแตกหรือรอยแยก ระหว่างชัน
้ อีก
ข้อแนะนำ คือ การพิมพ์พลาสติกจำพวก ABS / ASA / NYLON /
HIPS นัน
้ จำเป็ นจะต้องตัง้ เครื่องในห้องที่มีระบบการระบายอากาศ
ที่ดี เพราะพลาสติกจำพวกนี ้ จะปล่อยฝุ ่นละอองขนาดเล็ก รวมถึง
กลิ่น ซึ่งบางคนอาจจะแพ้ และมีอาการ วิงเวียน ศรีษะหรืออาเจียน
ได้ ดังนัน
้ การใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ พิมพ์ Filament จำพวกนี ้ อาจ
จะต้องทำตู้ครอบ หรืออาจจะเอาเครื่องกรองอากาศมาวางไว้

You might also like